อยากให้รัก ตอนที่ 6 คนบนฟ้า (ต่อจากตอนที่แล้ว)52 29/7/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: อยากให้รัก ตอนที่ 6 คนบนฟ้า (ต่อจากตอนที่แล้ว)52 29/7/55  (อ่าน 527140 ครั้ง)

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
เท่าที่เราอ่านก็เข้าใจนะคะ ก้อ่านรู้เรื่องเหอะๆ ถึงมันจะไม่สมจริงไปบ้างแต่ก็สนุกมากมาย เป็นกำลังใจให้นะคะ

แล้วรีบกำจัดอีพวกชู้เสียทีเห็นทีไรแล้วอยากจะพุ่งเข้าจบไปตบเสียเอง ไม่ว่าจะปีไหน ชาตไหน พวกหน้าด้านนนี้ก็ยังหน้าด้านเหมือนๆเดิม  น่าตบจริงๆ ทั้งหญิงทั้งชาย

van

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามารอติดตามคุณพี่ทรี&น้องโฟมและลูก ๆ ค่ะ
เป็นกำัลังใจให้นักเขียนนะคะ.... :L2: +1 ค่ะ

humanculus

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าเปรียบเทียบกับภาพยนต์  ผมว่าไม่ต่างกันเท่าไร่  ดูบางทีเรายังหาข้อสรุปแนวเรื่องหรือไม่เข้าใจได้เลย  แล้วมานั่งบ่นว่า   ทำเรื่องไม่ดี อันนั้นไม่ดี  อันนี้ไม่ได้   


มุมมองของความคิดมันอยู่ที่ใจ   เข้าจายม่ายยยยยยยยย


เพราะฉะนั้น  สู้ต่อไป ทาเคชิ  เอาใจช่วยครับ  ติดตามมาตั้งนาน  ชอบนายเอกที่ไม่อ่อนแอ่ ไม่หน่อมแน่มจนเกินเหตุ เชียร์เสมอทุกตัวที่อ่านมา

สู้ๆๆๆๆ

mixmix

  • บุคคลทั่วไป
ไม่เป็นไรคะ  ยินดีเสมอ...  เราก็ก้าวไปพร้อม ๆ กันนี้แหละคะ  ก็ดีเหมือนกันคะ อะไรที่ไม่เข้าใจก็บอกจะได้ไปปรับปรุง หรือว่าอธิบาย  แอบเจ้านายแต่งนิยายในที่ทำงาน มันก็เลยออกแนวที่ว่า "อ่านเองเข้าใจเอง  คนข้างหลังอ่านไม่เข้าใจ"   ตอนนี้ก็เลยจะ  "คิดใหม่ ทำใหม่"  เอาให้โปร่งใส  กระจ่าง  ไปเลย

ค่า เอาแบบนั้นก็ได้แล้วแต่ไรท์จะสะดวก แล้วจะรออ่านนะคะ
นี่ไม่ได้กดดันอะไรน๊า ชิวๆ รอได้ๆ 55+

ออฟไลน์ iGiG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ส่วนตัวตั้งแต่อ่านเรื่องนี้มาเราไม่งงนะคะ เพียงแต่คาดไม่ถึงมากกว่า

ซึ่งความคาดไม่ถึง เดาทางเนื้อเรื่องไม่ถูก และสำนวนนี่แหละเป็นเสน่ห์ที่ทำให้เราติดเรื่องนี้

ก็เลยแอบไม่อยากให้คุณแตนเปลี่ยนแปลงอะไรมากหรือยึดความเป็นวิทยาศาสตร์มากไป อยากให้เขียนไปตามพลังจินตนาการเหมือนเดิมมากกว่า

แต่ไม่ว่าจะยังไงก็จะรออ่านและเป็นกำลังใจให้เสมอค่า ฮู่เร่ ^^

ออฟไลน์ *4_m3*

  • ~เธอคือของขวัญจากฟ้าไกล คือคำตอบของหัวใจ~
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-1
ส่วนตัวแล้วน้องชอบจินตนาการของพี่แตนนะคะ
เป็นอะไรที่คาดไม่ถึงแล้วก็น่าติดตามดี
เป็นกำลังใจให้นะคะ  :L2:

สำหรับตอนนี้ บอกคำเดียว สะใจ!!!!  :m11:
น้องเย็นชากะน้องตาหวาน น่าร้ากกกกก

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อตอนบ่ายแวบจากกองข้อสอบมาอ่านเพื่อพักสมอง โดยยังไม่ได้เมนท์
แต่เห็นเมนท์ที่ตามมาแล้ว ขอแสดงความเห็นในฐานะคนอ่านนะคะ

โดยรวม อ่านแล้วเข้าใจเรื่องนี้ค่ะ แม้จะมีจุดที่งงๆบ้าง แต่ก็งงในเรื่องของสิ่งแปลกใหม่ ไม่เป็นไปตามสมัยปัจจุบัน
บางอย่างก็ล้ำไปแล้ว แต่ก็เป็นไปตามที่ผู้เขียนบอก คือ ก้าวไปข้างหน้า เป็นเรื่องอีกพันปี อ่านแล้วก็ฮาดี

แต่สำหรับตัวตนของโฟม เราก็เข้าใจ ตามนี้ว่า โฟมมีตัวตนเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งในปี 2553 ดังนั้น โฟมไม่มีทางมีอายุยืนยาวถึงปี 3553 ได้อย่างแน่นอน
เมื่อโฟมหายจากปี 2553 มาสู่ปี 3553 ก็เหมือนกับเป็นการข้ามมิติแห่งกาลเวลามา
ดังนั้นตัวตนของโฟมในปี 2553 จะหายไป ในขณะที่ตัวตนของโฟมในปี 3553 ก็จะไม่ซ้ำซ้อนกับใคร
และเมื่อตายายพาโฟมไปอยู่ในปี 3558 ก็เท่ากับ พาตัวโฟมจากปี 3553 ให้หายไปนั่นเอง
(พอดีช่วงนี้ได้ดูละคร หัวใจรักข้ามภพทางช่อง 3 ที่พระเอก นางเอก คู่หมั้นนางเอก สามารถข้ามกาลเวลาผ่านการชักดาบออกจากฝักได้ เลยเข้าใจแจ่มแจ้ง)
แต่เรื่องที่น้องรบ น้องปราชญ์โตแล้วในปี 3558 นั้น ก็เป็นเงื่อนไขที่ผู้เขียนสามารถกำหนดได้ เพราะเป็นการช่วยเหลือของตายาย
ผู้เขียนก็สามารถจินตนาการได้ว่า พอโฟมย้ายเวลามาอยู่อนาคต ก็ควรจะคลอดแล้ว หรือยังควรจะอุ้มท้องต่อไป

โดยสรุป เข้าใจเรื่องนะคะ

ตอนนี้น้องรบ น้องปราชญ์น่ารักดี คนหนึ่ีงเหมือนพ่อ อีกคนก็เหมือนแม่

บวก 1 แต้ม เป็นกำลังใจให้ รออ่านต่อไปค่ะ  :L2:


ออฟไลน์ Cupcake

  • @--##-หนูน้ำตาล-##--@
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
เอางี่ดีกว่านะ... แตนลบตอนนี้ออกก่อนดีกว่า แล้วเราค่อยมาว่ากันใหม่เนอะ   ผิดที่แตนไม่อธิบายให้มาก ๆ เองคะ

ขอโทษด้วยนะคะ
เอาตามที่คุณแตนเห็นว่าดีเถอะค่ะ ก็ลองกลับไปเรียบเรียงคำดูก็ได้ แล้วเนื้อหาถ้าอยากให้ออกมาเป็นแบบที่อธิบายไว้ก็โอเคนี่คะ นิยายของเราเราจะจินตนาการยังไงก็ได้  เป็นกำลังใจนะคะ
สู้ๆๆ ยังมีคนอยากอ่านต่อน้าอย่าลืม

ออฟไลน์ ณ ที่เดิม™

  • มากกว่าชีวิต...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
เป็นกำลังใจให้ขอรับ
ยังไงก็จะรออ่าน   :กอด1:

รอตอนต่อไปโลดขอรับ :a9:

ออฟไลน์ P★RiTŸ

  • he's mine
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1281
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-5
เค้ารอน้าาาาาา :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
ถ้าข้ามจากปี 3553  แล้ว  ตัวตนของโฟมในปี 3558  ละจะเป็นยังไง?
ตอบคะ  เหมือนเดิม....ถ้าโฟมหายมาในปี 3558  ก็แสดงว่าตัวตนปี 3553  ไม่มีตัวตนแล้ว  แต่โฟมกลับมีตัวตนในปี 3558 แทน  ส่วนตัวที่ควรจะอยู่ปี 3558  อีกคนก็ไม่มีคะ  เพราะโฟมมีตัวยืนแค่ตัวเดียว  โฟมต้องสร้างอนาคตมาเอง  ไม่ได้มีอนาคตที่ควรจะเป็นไปตามพรหมลิขิตเวลาเหมือนคนอื่น  โฟมต้องสร้างอนาคตของตัวเอง  แค่โฟมมีชีวิตเหมือนคนทั่วไปเฉย ๆ แค่นั้นเอง

บอกตรงๆนะ ไอเข้าใจที่คนเขียนเขียน เพราะสรุปก็คือโฟมหนีพี่ทรีให้พี่ทรีสำนึกสักทีก็เท่านั้น แต่ที่ไอไม่เข้าใจก็คือจุดข้ามเวลาก็เท่านั้นแหละ มีคนอ่านบางคนบอกว่านี่มันนิยายแฟนตาซี จะเอาสมจริงอะไรนักหนา มันก็ต้องมีงงบ้าง คืออยากให้อ่านเอาสนุกๆ แต่ไอคงจะผิดที่อ่านทฤษฎีแนววิทยาศาสตร์มามากไปหน่อย(พอดีไอสนใจในเรื่องทำนองนี้ แต่ก็ไม่ได้รู้จนเก่งอะไรหรอกนะ) แล้วก็ลืมไปว่าทฤษฎีแต่ละคนไม่เหมือนกัน บอกตรงๆไอไม่เข้าใจในจุดนี้ ไอมองว่าเป็นไปไม่ได้จริงๆ ในความคิดไอ ถึงโฟมจะข้ามเวลามา แต่ก็คือมามีชีวิตอยู่ในช่วงเวลานี้แล้ว ซึ่งก็คือมาสร้างตัวตนต่อในที่นี้แล้ว(ปี3553) แปลว่ามีอนาคตต่อในช่วงเวลานี้แล้ว เรื่องของเรื่องคือคุณบอกว่าโฟมต้องสร้างอนาคตเอง ใช่! ก็มาจนให้ความรู้กับคนที่นี่ จนมีลูกเป็นตัวเป็นตนด้วยซ้ำ ซึ่งแปลว่าโฟมมามีอนาคตต่อที่นี่แล้ว ตัวตนของโฟมก็จะกลายมามีที่นี่แทน แต่การที่คุณบอกว่าโฟมไม่มีตัวตน ทั้งๆที่มีลูกเป็นตัวเป็นตน บอกตรงๆนะคิดได้อย่างเดียวคือโฟมตาย หรือจากไปไหนสักที่ไม่ว่าจะเป็น5ปีต่อจากนี้ หรืออดีตเมื่อพันปีก่อน ซึ่งเป็นตอนคลอดลูกแล้วจะตอนไหนก็เหอะแต่ที่แน่ๆก่อนจะถึงปี3558 ตัวตนของโฟมในเวลานั้นถึงไม่มี ซึ่งการที่คุณบอกว่าโฟมไม่มีตัวตน แบบนี้ก็คิดได้อย่างเดียวคือเป็นอมตะน่ะสิ ซึ่งมันไม่ใช่ ก็อย่างที่บอก ไอคงอ่านทฤษฎีมามากเกินไป จะว่าไอไงก็ได้แต่ความคิดไอมันไม่หลุดจริงๆ ถึงคุณบางคนจะบอกนี่มันแฟนตาซีจะเอาความสมจริงอะไรนักหนา แต่ถึงจะแฟนตาซี มันก็ต้องมีจุดที่สมจริงบ้างเพื่อให้จินตนาการ ไม่งั้นคุณก็ต้องอธิบายมากหน่อย ซึ่งถ้าคุณเคยอ่านนิยายแนวแฟนตาซีหลายๆเรื่องเช่นHarry Potterก็คงจะรู้ว่าคนเขียนเขาอธิบายมากแค่ไหน และมีความสมจริงในตัวขนาดไหน ซึ่งโลกเวทมนตร์นั้นเสมือนเป็นอีกโลกหนึ่งเลยก็ว่าได้ นิยายเรื่องนั้นถึงได้ประสบความสำเร็จในการครองใจคนขนาดนั้นไง

Akad3ar

  • บุคคลทั่วไป
เราจะรอแล้วกัน

แบบว่าอยากอ่านมากมาย

ออฟไลน์ อิสระ

  • ถ้า add ให้กอด,ถ้า give five ให้จุ๊บ,ถ้า ment ให้เบอร์ คิคิ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-8
    • https://www.facebook.com/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-1433707443445407/?modal=admin_todo_tour
ถ้าข้ามจากปี 3553  แล้ว  ตัวตนของโฟมในปี 3558  ละจะเป็นยังไง?
ตอบคะ  เหมือนเดิม....ถ้าโฟมหายมาในปี 3558  ก็แสดงว่าตัวตนปี 3553  ไม่มีตัวตนแล้ว  แต่โฟมกลับมีตัวตนในปี 3558 แทน  ส่วนตัวที่ควรจะอยู่ปี 3558  อีกคนก็ไม่มีคะ  เพราะโฟมมีตัวยืนแค่ตัวเดียว  โฟมต้องสร้างอนาคตมาเอง  ไม่ได้มีอนาคตที่ควรจะเป็นไปตามพรหมลิขิตเวลาเหมือนคนอื่น  โฟมต้องสร้างอนาคตของตัวเอง  แค่โฟมมีชีวิตเหมือนคนทั่วไปเฉย ๆ แค่นั้นเอง

บอกตรงๆนะ ไอเข้าใจที่คนเขียนเขียน เพราะสรุปก็คือโฟมหนีพี่ทรีให้พี่ทรีสำนึกสักทีก็เท่านั้น แต่ที่ไอไม่เข้าใจก็คือจุดข้ามเวลาก็เท่านั้นแหละ มีคนอ่านบางคนบอกว่านี่มันนิยายแฟนตาซี จะเอาสมจริงอะไรนักหนา มันก็ต้องมีงงบ้าง คืออยากให้อ่านเอาสนุกๆ แต่ไอคงจะผิดที่อ่านทฤษฎีแนววิทยาศาสตร์มามากไปหน่อย(พอดีไอสนใจในเรื่องทำนองนี้ แต่ก็ไม่ได้รู้จนเก่งอะไรหรอกนะ) แล้วก็ลืมไปว่าทฤษฎีแต่ละคนไม่เหมือนกัน บอกตรงๆไอไม่เข้าใจในจุดนี้ ไอมองว่าเป็นไปไม่ได้จริงๆ ในความคิดไอ ถึงโฟมจะข้ามเวลามา แต่ก็คือมามีชีวิตอยู่ในช่วงเวลานี้แล้ว ซึ่งก็คือมาสร้างตัวตนต่อในที่นี้แล้ว(ปี3553) แปลว่ามีอนาคตต่อในช่วงเวลานี้แล้ว เรื่องของเรื่องคือคุณบอกว่าโฟมต้องสร้างอนาคตเอง ใช่! ก็มาจนให้ความรู้กับคนที่นี่ จนมีลูกเป็นตัวเป็นตนด้วยซ้ำ ซึ่งแปลว่าโฟมมามีอนาคตต่อที่นี่แล้ว ตัวตนของโฟมก็จะกลายมามีที่นี่แทน แต่การที่คุณบอกว่าโฟมไม่มีตัวตน ทั้งๆที่มีลูกเป็นตัวเป็นตน บอกตรงๆนะคิดได้อย่างเดียวคือโฟมตาย หรือจากไปไหนสักที่ไม่ว่าจะเป็น5ปีต่อจากนี้ หรืออดีตเมื่อพันปีก่อน ซึ่งเป็นตอนคลอดลูกแล้วจะตอนไหนก็เหอะแต่ที่แน่ๆก่อนจะถึงปี3558 ตัวตนของโฟมในเวลานั้นถึงไม่มี ซึ่งการที่คุณบอกว่าโฟมไม่มีตัวตน แบบนี้ก็คิดได้อย่างเดียวคือเป็นอมตะน่ะสิ ซึ่งมันไม่ใช่ ก็อย่างที่บอก ไอคงอ่านทฤษฎีมามากเกินไป จะว่าไอไงก็ได้แต่ความคิดไอมันไม่หลุดจริงๆ ถึงคุณบางคนจะบอกนี่มันแฟนตาซีจะเอาความสมจริงอะไรนักหนา แต่ถึงจะแฟนตาซี มันก็ต้องมีจุดที่สมจริงบ้างเพื่อให้จินตนาการ ไม่งั้นคุณก็ต้องอธิบายมากหน่อย ซึ่งถ้าคุณเคยอ่านนิยายแนวแฟนตาซีหลายๆเรื่องเช่นHarry Potterก็คงจะรู้ว่าคนเขียนเขาอธิบายมากแค่ไหน และมีความสมจริงในตัวขนาดไหน ซึ่งโลกเวทมนตร์นั้นเสมือนเป็นอีกโลกหนึ่งเลยก็ว่าได้ นิยายเรื่องนั้นถึงได้ประสบความสำเร็จในการครองใจคนขนาดนั้นไง

ไม่เห็นจะงงเลย  ก็คิดให้มันง่ายๆสิ
โฟมถูกลักพาตัวจากจังหวัดหนึ่งไปจังหวัดหนึ่ง
สมมุตินะ จากกทม.ไปเชียงราย  ที่เชียงรายโฟมก็ต้องไม่มีทั้งประวัติหรือเคยมีตัวตนอะไร
เหมือนย้ายมาโดยไม่ย้ายทะเบียนบ้าน ไม่มีบัตรประชาชน (ก็โดนลักพาตัวนี้เนอะ)
ถ้าโฟมต้องการมีตัวตนอยู่ก็ต้องทำบัตรใหม่ ทะเบียนใหม่
เป็นคนใหม่ ชื่อใหม่ (ซึ่งแม้แต่สมัยนี้ของเราก็ทำปลอมกันให้เกลื่อน ง่ายมากๆแค่เสียตังค์ไม่กี่หมื่น)
โฟมก็มีตัวตนมีหลักฐานการมีอยู่เหมือนในสมัยของพี่ทรี
แน่นอนว่าที่กทม.โฟมก็เหมือนคนที่หายตัวไปเฉยๆแต่มีหลักฐานยืนยันการมีตัวตนเหมือนเดิม
แล้วพอโฟมมีปัญหาที่เชียงรายคือทะเลาะกับสามีแถมมีลูกติดท้อง
อยากกลับบ้านแต่กลับไม่ได้ด้วยสาเหตุอะไรก็ตามก็หนีขึ้นเหนือไปอีกข้ามไปฝั่งพม่าเลย
แน่นอนที่นั้นโฟมเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายต้องไม่มีหลักฐานหรือประวัติใดๆแน่และเวลาที่โฟมหนี
โฟมเกิดลูกพอดีและระยะเวลานั้นลูกโตแล้ว มันก็ไม่แปลกเพราะมันเป็นคนละสถานที่คนล่ะเวลา
ซึ่งทั้งที่กทม.เชียงรายหรือพม่า โฟมล้วนมีตัวตนอยู่จริงทั้งสิ้น ไม่มีใครมาแทนและเรื่องราวต่างๆที่โฟมเคยดำเนินชีวิตอยู่
ก็ไม่ได้หายไปไหน แค่หายตัวไปเฉยๆเท่านั้น และไม่ได้เป็นอมตะก็คนธรรมดานี่แหละ
ถ้าโฟมคิดจะกลับไปอยู่กทม.หรือเชียงราย ก็แค่ไปดำเนินชีวิตตามปรกติต่อไป
แต่การจะเลือกดำเนินอนาคตในช่วงไหนตัวแปรสำคัญก็คือลูก
ถ้ากลับเชียงรายแน่นอนว่าโฟมต้องพาลูกกลับมาด้วย
แต่ถ้ากลับกทม.ก็ต้องยอมทิ้งลูกไว้ที่เชียงรายเพราะที่กทม.ลูกของโฟมไม่เคยมีตัวตนอยู่เลยหรือยังไม่เกิดนั้นเอง
(เหมือนระครอะไรสักเรื่องที่พี่หมิวนำแสดงเมื่อไม่นานมานี้
ก็ไปสร้างครอบครัวในยุคโบราณ แต่พาลูกกลับมาในยุคปัจจุบันไม่ได้)
หรือถ้าจะให้ดำเนินเรื่องไปแบบไม่คิดอะไรมากโฟมจะพาลูกมากทม.ด้วยก็ได้
ก็เหมือนเก็บลูกคนอื่นมาเลี้ยงแล้วสร้างหลักฐานใหม่(เหมือนหนังฝรั่งบางเรื่องที่ย้อนไปย้อนมาก็ไม่เห็นมันเป็นอะไร
เพียงแต่สถานการณ์รอบตัวอาจเปลี่ยนไปบ้างมีการเลื่อมล้ำของเวลาบ้าง เหมือนหนักฝรั่งที่ไม่นานมานี้ จำชื่อไม่ได้ ที่พระเอกผลุบๆโผล่ๆมาหานางเอกในแต่ละช่วงของอายุ ก็ไม่เห็นพระเอกมันจะแก่ มีแต่นางเองที่โตขึ้นทุกวัน...อย่างพอกลับมาในโลกของทรีพี่ทรีอาจจะแก่ไปสักสองสามปีไรเงี่ย)
มันไม่ใช่เวทมนตร์อะไรเลย ซึ่งเรื่องแนวนี้ทั้งไทยทั้งเทศทั้งจีนทำกันเกลื่อน
แต่ที่ต้องคำนึงถึงมากๆคือการเลื่อมล้ำของเวลา
แต่ตัวตนของทุกคนในเรื่องก็ยังคงดำเนินในช่วงของมันเอง(อย่างเรื่องบ่วงบรรจถอน((ไม่รู้เขียนถูกหรือเปล่าถ้าผิดก็ขออภัยเน้อ))ที่มาช่าเคยแสดงไว้ นั้นนางเองก็ไปอยู่กับพระเอกในอดีตแต่ตัวนางเองในปัจจุบันก็คือหายไปหรือในเรื่องก็ให้เหมือนตายในกองไฟไปจากปัจจุบันนั้นเอง)
ส่วนเรื่องที่โฟมมาหาพี่ทรีในความฝัน ไรเตอร์สื่อความหมายไม่ชัดเจนหรือเปล่า?
ถ้าโฟมก็ฝันเหมือนกันมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
การอ่านเรื่องแนววิทยาศาสตร์จริงอยู่ว่าเราต้องคำนึงถึงทฤษฎีอยู่บ้าง
แต่เราก็ต้องยอมรับว่าทฤษฎีเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ทุกอย่างรอการพิสูจน์
แม้แต่ตำราหรือข้อมูลของเราที่เรียนอยู่ทุกวันมันก็มีวันเปลี่ยนแปลงได้
พอมีคนค้นพบอะไรใหม่อีกทฤษฎีก็เปลี่ยน
ไม่มีอะไรแน่นอนตายตัวหรอกในโลกนี้นอกจากธรรมชาติ
แต่คนเรารู้จักธรรมชาติดีแค่ไหนกันล่ะ?
มีเรื่องอีกมากมายที่เรายังมองไม่เห็นสัมผัสไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มีอยู่จริง
ทุกอย่างเป็นไปได้เสมอในจักรวาลนี้   อยู่ที่เราจะได้รู้ได้เห็นมันเมื่อไหร่เท่านั้นเอง
ดีใจที่เรื่องของไรเตอร์ได้รับการติชมและท้วงติง อาจเป็นเพราะไรเตอร์ยังบอกความหมายที่ต้องการจะสื่อได้ไม่ชัดเจนพอ  หลวงวิจิตรวาทการได้เคยเขียนแนะนำผู้สนใจการเขียนให้เป็นข้อคิดไว้ว่า
   “ ข้อที่นักเขียนควรจำใส่ใจคือความชัดเจนและความไพเราะ  นักเขียนที่ดีคือนักเขียนที่สามารถแสดงความคิดของตนให้คนอื่นเข้าใจได้ตรงตามที่ตัวคิดและต้องคำนึงอยู่เสมอว่าหลักไวยากรณ์เป็นสิ่งสำคัญ การเขียนถูกต้องตามไวยากรณ์ย่อมช่วยให้เรื่องราวที่เราต้องการจะสื่อชัดเจนยิ่งขึ้น  ความไพเราะนั้นมาเป็นอันดับสอง หัดเขียนให้ชัดเจนเสียก่อน ส่วนความไพเราะจะมีขึ้นในภายหลังเอง"(เก็บใว้คิดนะ)
แม้ก็สมัครเล่นได้แค่นี้ก็เก่งแล้ว  ฝึกฝนต่อไป :a2: :ped149:
ส่วนเพื่อนรีดเดอร์ก็อยากให้อ่านอย่างมีความสุข  ดีแล้วที่มาถกเถียงกันให้หายคาใจเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นด้วย
เห็นมั้ยใครว่าบอร์นี้ไร้สาระ จะเอาสาระน่ะเมื่อไหร่ก็ได้ พวกเราสามารถอยู่แล้วแม่นบ่?
แต่แค่อยากเข้ามาเอาสนุกเอาศึ้งเอาเศร้าเขย่าอารมณ์เท่านั้นเอง
อย่าเครียดนะอย่าเครียด

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ชอบที่คุณ ไอ ตั้งข้อสงสัย และที่คุณ nara มาช่วยขยายความค่ะ ^ ^

ถกกันบ้างก็ดูเป็นสีสันดี ให้ประโยชน์ทั้งผู้เขียนที่อาจจะไปปรับบางส่วนที่ยังไม่เคลียร์ให้กระจ่างมากขึ้น และผู้อ่านที่อาจจะยังไม่เข้าใจ พออ่านโพสต์ที่ช่วยอธิบายก็จะได้เข้าใจมากขึ้น win-win นะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
มันไม่ใช่เวทมนตร์อยู่แล้ว ไอแค่เปรียบถึงJ.K.ที่เขียนHarryก็เท่านั้น แค่จะบอกว่าเค้าเขียนมาจากจินตนาการล้วนๆแฟนตาซีอยู่แล้ว แต่ในความเป็นแฟนตาซีนั้นมีความสมจริงอยู่ด้วยและก็เพราะนักเขียนเขาอธิบายอย่างแทบทำให้เห็นภาพจินตนาการได้เลย ไอไม่ได้หมายความว่าต้องขนาดนั้น แค่ต้องการสื่อว่าการเขียนแนวแฟนตาซีจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเขียนให้ชัดเจน

ไอก็เข้าใจนะคะว่าคุณnaraต้องการจะสื่อว่าอะไรและอย่าให้ไอคิดมาก แต่ก็อย่างที่ไอบอกไปรีก่อนว่าไอคงจะผิดที่ดันคิดมากนี่แหละ

เรื่องหนังฝรั่งนั้นเทียบกันไม่ได้ ซึ่งเรื่องนั้นพระเอกเข้าขั้นที่เรียกได้ว่าเป็นอมตะ แต่โฟมไม่(ใช่ไหม?)

เรื่องโฟมถูกลักพาตัวไปต่างจังหวัดนี่ บอกตรงๆว่าจะเปรียบเทียบกันได้ไง ในเมื่อมันคนละเวลา ไม่ใช่แค่คนละสถานที่ เรื่องไม่มีประวัติหรืออะไรมันแหงอยู่แล้วเพราะงั้นส่วนนี้เป็นอันเข้าใจไอเลยไม่เอ่ยถึง แต่ที่ไอออกมาถามเพราะคุณคนเขียน เขียนให้โฟมข้ามเวลาไปอีก5ปีใช่ไหม(1000ปีแรกที่ข้ามมาก่อนนี่ไม่ต้องไปคิดถึงแล้ว) ทีนี้ เรื่องของเรื่องคือคุณคนเขียนเขียนทั้งโฟมสามารถข้ามไปอยู่ได้ แต่โฟมตอนนั้นกลับไม่มีตัวตน ทั้งๆที่มามีอนาคตที่นี่แล้ว และโฟมที่คนเขียนเขียนก็ข้ามไปทั้งๆที่ท้องแฟ๊บ ถ้าเป็นตัวโฟมจริงๆ ถึงจะข้ามไปก็ต้องเอาท้องไปด้วยสิ ที่ตอนแรกไม่พูดถึงเพราะไอก็จินตนาการซะว่าคุณตายายคงเทพมากขนาดเสกเด็กไว้ระหว่างมิติได้ ที่พยายามก็คือแจงถามว่าทำไมโฟมอีก5ปีข้างหน้าถึงไม่มีตัวตน ทั้งๆที่เอาตัวเองมาอยู่ในมาต่ออนาคตที่นั้นแล้ว ก็เหมือนเรื่องบ่วงฯนั้นแหละที่ไอพยายามสื่อ เพราะโฟมมาต่ออนาคตที่เรียกว่าอีกมิติหนึ่งแล้วไง(อีก1000ปีข้างหน้า) เหมือนมาช่าที่เลือกกลับอดีต เพราะงั้นตัวตนมิติก่อนหน้าก็หาย(อันนี้มันก็แหง) แล้วก็มาต่ออนาคตต่อไปในอดีต (พอเข้าใจที่ไอสื่อไหม?) เพราะโฟมไม่ได้เป็นอมตะข้ามเวลาได้โดยไม่แก่เลยหรือเป็นอะไรเลยเหมือนพระเอกหนังเรื่องนั้นไง ถึงได้ไม่มีตัวตนไปมาระหว่างนั้น แต่เพราะมามีอนาคตต่ออีก1000ปีข้างหน้านี่แหละ เพราะงั้นถ้างั้นก็ควรจะมีโฟมในอีก5ปีต่อมาด้วย นอกจากโฟมไม่ได้อยู่ถึงก็เท่านั้น แล้วยังมีโฟมไปเข้าฝันพี่ทรีอีก มันงงจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจว่าหรือจับผิดอะไร ไอข้องใจจริงๆ บางอย่างมันก็จินตนาการคิดไปเองได้(ทั้งๆที่คุณนักเขียนไม่ได้อธิบายอะไรเลยก็เหอะ) แต่บางอย่างมันก็ไม่ - -" บางคนอาจไม่พอใจไอที่มาบ่นถามอะไรอยู่ได้ แต่ในเมื่อคนมันสงสัยก็แค่ถามเท่านั้น ถ้าไม่เข้าหูก็อย่าใส่ใจไอละกัน ขอโทษด้วย

ออฟไลน์ P★RiTŸ

  • he's mine
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1281
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-5

ออฟไลน์ Nabee

  • 너만 사랑해~♥
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-3
เมื่อตอนบ่ายแวบจากกองข้อสอบมาอ่านเพื่อพักสมอง โดยยังไม่ได้เมนท์
แต่เห็นเมนท์ที่ตามมาแล้ว ขอแสดงความเห็นในฐานะคนอ่านนะคะ

โดยรวม อ่านแล้วเข้าใจเรื่องนี้ค่ะ แม้จะมีจุดที่งงๆบ้าง แต่ก็งงในเรื่องของสิ่งแปลกใหม่ ไม่เป็นไปตามสมัยปัจจุบัน
บางอย่างก็ล้ำไปแล้ว แต่ก็เป็นไปตามที่ผู้เขียนบอก คือ ก้าวไปข้างหน้า เป็นเรื่องอีกพันปี อ่านแล้วก็ฮาดี

แต่สำหรับตัวตนของโฟม เราก็เข้าใจ ตามนี้ว่า โฟมมีตัวตนเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งในปี 2553 ดังนั้น โฟมไม่มีทางมีอายุยืนยาวถึงปี 3553 ได้อย่างแน่นอน
เมื่อโฟมหายจากปี 2553 มาสู่ปี 3553 ก็เหมือนกับเป็นการข้ามมิติแห่งกาลเวลามา
ดังนั้นตัวตนของโฟมในปี 2553 จะหายไป ในขณะที่ตัวตนของโฟมในปี 3553 ก็จะไม่ซ้ำซ้อนกับใคร
และเมื่อตายายพาโฟมไปอยู่ในปี 3558 ก็เท่ากับ พาตัวโฟมจากปี 3553 ให้หายไปนั่นเอง
(พอดีช่วงนี้ได้ดูละคร หัวใจรักข้ามภพทางช่อง 3 ที่พระเอก นางเอก คู่หมั้นนางเอก สามารถข้ามกาลเวลาผ่านการชักดาบออกจากฝักได้ เลยเข้าใจแจ่มแจ้ง)
แต่เรื่องที่น้องรบ น้องปราชญ์โตแล้วในปี 3558 นั้น ก็เป็นเงื่อนไขที่ผู้เขียนสามารถกำหนดได้ เพราะเป็นการช่วยเหลือของตายาย
ผู้เขียนก็สามารถจินตนาการได้ว่า พอโฟมย้ายเวลามาอยู่อนาคต ก็ควรจะคลอดแล้ว หรือยังควรจะอุ้มท้องต่อไป

โดยสรุป เข้าใจเรื่องนะคะ

ตอนนี้น้องรบ น้องปราชญ์น่ารักดี คนหนึ่ีงเหมือนพ่อ อีกคนก็เหมือนแม่

บวก 1 แต้ม เป็นกำลังใจให้ รออ่านต่อไปค่ะ  :L2:




+1 ให้กับเม้นท์นี้นะฮะ...เค้าก็เข้าใจตามนี้เหมือนกัน >///////<

พูดยังไงดีหล่ะ...โดยร่วมแล้วเค้าเข้าใจในเนื้อเรื่องนะ...ไม่งง และ ไม่สับสนใด ๆ ทั้งสิ้น

และคิดว่า...นิยายเรื่องนี้ออกแล้วแฟนตาซีเหนือจินตนาการ (ของคนทั่วไป)...มันเป็นอะไรที่คนอ่านคาดเดาไม่ได้

สนุกที่ต้องคอยมานั่งลุ้นว่า เหตุการณ์ต่อไปมันจะเกิดอะไรขึ้น...น้องโฟมจะทำอย่างไรกับปัญหาต่าง ๆ...ในที่ ๆ ตัวเองไม่เคยรู้จักมาก่อน

ความจริงแล้วตัวเองจะเป็นคนที่ไม่ค่อยอ่านนิยายแฟนตาซีสักเท่าไหร่...(ยกเว้นนิยายที่ออกมาเป็นรวมเล่ม ตามแผงหนังสือ หรือหนังสือของนักเขียนที่มีชื่อเสียง)

แต่ต้องยอมรับว่า...การที่ได้มาอ่านเรื่องนี้ ค่อนข้างทำให้เปลี่ยนแนวคิดของตัวเองได้ค่อนข้างดีทีเดียว...โดยเฉพาะแฟนตาซีแนวข้ามมิติแบบนี้



เค้าว่านะ...ถ้าเลือกแล้วที่จะอ่านนิยายแฟนตาซี...สิ่งหนึ่งที่จะต้องทำใจนั่นก็คือ...อย่ายึดติด...ไม่ได้หมายความว่า ไม่ต้องหาสาระจากเนื้อเรื่องที่อ่านนะ

แต่เค้าหมายถึง...เราจะต้องยอมรับในจินตานาการของผู้แต่ง...ที่สำคัญ...อย่าเอาบทประพันธ์มาเปรียบเทียบกันเลย...เพราะนักเขียนแต่ละคน ล้วนมีจินตนาการที่

แตกต่างกันอยู่แล้ว...วิธีการนำเสนอ และสิ่งที่ต้องการสื่อสารก็ต่างกันด้วย...แค่ทำใจยอมรับว่ามันคือนิยาย และมันคือสิ่งที่ใช้ทำให้เราผ่อนคลาย ให้ความบันเทิง

ถ้าจะเอาให้มันสมจริง...เค้าว่าก็น่าจะไปอ่านพวกเรื่องเล่ามากกว่า...แต่เมื่อเลือกที่จะอ่านแฟนตาซีแล้ว...ก็ต้องยอมรับ ณ จุดนี้อ่ะนะ...เพราะแฟนตาซีบางเรื่อง

เค้าอ่านแล้วยังงงกว่านี้อีก...เหตุการณ์ซ้อนทับกันซะจนวุ่นวายไปหมด...แต่ถ้าคนเค้าชอบ เค้าก็อ่าน ก็ชื่นชมกันไปตามที่เค้าเห็นสมควร...มันไม่มีใครถูกใครผิด

ในเรื่องของความรู้สึกร่วมกับนิยาย หรือเรื่องราวเหตุการณ์ในเรื่องนั้น ๆ หรอกนะฮะ...



+1 เป็นกำลังใจให้ทั้งไรท์เตอร์...และคุณไอด้วยนะฮะ >//////<


พีเอส ,, ในความรู้สึกของเค้านะ...เค้าว่าคุณแตนไม่จำเป็นต้องรีไรท์ก็ได้นะฮะ...ถ้าอ่านแล้วทำความเข้าใจมาตั้งแต่ต้น...

เค้าว่านิยายเรื่องนี้มันไม่มีเหตุการณ์ที่ทำให้งง และไม่มีจุดสับสนเลยนะ...แต่ถ้าคุณแตนจะรีไรท์ใหม่...เค้าก็ยินดีตามอ่านเหมือนเดิมฮับป๋ม ^^~*

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
หยุด......................




ความคิดใครความคิดมัน


ความคิดแต่ละคนเราห้ามไม่ได้หรอกค่ะ


ไอ ก็มีความคิดในแบบของไอ


แตนก็มีความคิดในแบบของแตน


ต่างคนต่างความคิด


ความคิดเห็นอาจไม่ตรงกัน


แต่ทุกคนก็อย่าลืมนะค่ะ


ว่าจุดมุ่งหมายหลักของนิยาย


ก็คือ


ความเพลิดเพลินไงค่ะ


เท่านี้คงจะเพียงพอแล้วล่ะค่ะ


ใจเย็น ๆ กันนะคะ


ความเพลิดเพลินค่ะ ความเพลิดเพลิน






sa~waii

  • บุคคลทั่วไป
เอ่ม

ทำไมสะหวายไม่งงเลยหว่า หรือเราคิดชั้นเดียวเกินไป ฮ่าๆๆๆๆๆ

คือสะหวานคิดแค่ว่า โฟมไป 3553 ก็ไปเลย อีคนก็หายไปจบข่าว เป็นไงคิดชั้นเดียวสุดๆ ฮ่าๆๆ

ลูกออกมาได้ ก็ออกมาเลย อลังการรรรรรรรรรร จบข่าว

ไม่คิดมากเพราะคิดไม่ออก ฮ่าๆๆๆ  อ่านเอามันเพราะคนเขียนเขียนเอามัน เราก็ตามนั้น

สะหวายอ่านเอาความบันเทิงจริงๆ ชีวิตจริงมันดราม่า เครียด ป๊อด ปอดแหก พออยู่แล้ว พออ่านนิยายสะหวายเลย

คิดมากไม่เป็นเลย เขียนมาไงเข้าใจตามนั้นโลดดดดดดดดดดดดดดดดด

ไม่ได้อ่านทมยันตีต้องมานั่งตีความ

ขำขำค่ะ ขำขำ อย่างน้องแตนก็ทำให้ไทยเป็นมหาอำนาจได้ละกัน สุโก้ยสุดแระ ฮ่าๆๆๆๆ

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
^
^
^
เห็นด้วยกับคุณPEENAT1972
ต่างคนต่างมีความคิดเห็นที่แตกต่าง  อาจมีประเด็นที่เกิดขึ้นเวลาอ่าน ประมาณ what where when why how ...???


บางทีการแต่งนิยายที่สนุกขึ้นมา มีคนสนใจ มีประเด็น ปมที่แตกต่างจากเรื่องปกติๆ ที่เราอ่านๆ กัน
อาจมีการเรียงลำดับที่งงบ้าง
ก็ปล่อยๆ ใจ ไปบ้างดีกว่า  สนุกกับเนื้อเรื่อง  ดูการเติบโตของนักเขียน
ให้โอกาสเขาใช้จินตนาการไปเรื่อยๆ 

ปล.อ่านแล้วไม่งงหรอกคะเรื่องนี้  บางเรื่องออกจะสับสนยิ่งกว่านี้อีก :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ พี่วันเสาร์

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +282/-3
เค้าอ่านแล้วเข้าใจนะไม่งงด้วย
สนุกมากเลยชอบโฟมมาก
แต่เกลียดอิตาพี่ทรีที่กิ๊กเยอะ :angry2:
ตัดสินใจได้ไม่เด็ดขาด
ตอนนี้สมน้ำหน้าอิพี่ทรีมันมากๆเลย
ที่โฟมพาลูกหนีไปอยู่ที่อื่น
แอบหวังว่าอิพี่ทรีมันคงจะคิดได้นะครั้งนี้
+1 เป็นกำลังใจให้คะ :กอด1:

ออฟไลน์ อิสระ

  • ถ้า add ให้กอด,ถ้า give five ให้จุ๊บ,ถ้า ment ให้เบอร์ คิคิ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-8
    • https://www.facebook.com/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-1433707443445407/?modal=admin_todo_tour
เราใช้คำแรงหรือสื่อความหมายอะไรผิดไปหรือเปล่าหว่า? :m28:
เราไม่ได้เปรียบเทียบผลงานของใครน๊า แค่ยกตัวอย่างเฉยๆ
ไม่ได้ใส่อารมณ์เลยนะ      :m29:
ไม่ได้ไม่พอใจอะไรเลย เพียงแต่เข้ามาแสดงความคิดเห็นเฉยๆ
ทุกคนต่างมีดีเป็นของตนเอง แค่อย่างจะบอกว่าทุกอย่างเป็นไปได้ในจิตนาการ
และเราอ่านแล้วไม่งงน่ะ  บางครั้งก็เอาไปจิ้นต่อเองก็มี
มีสาระเฉพาะบางอารมณ์แต่รั่วอย่างบ่อยเลย
และยอมรับในเรื่องราวถึงสงสัยก็ยังไม่ถามเพราะเรื่องยังไม่จบ
บางอย่างอาจต้องรอลุ้นรอเฉลยเอาตอนจบก็ได้ (นี่ความคิดส่วนตัวน๊า)
แต่ถ้าอ่านหนังสือเองที่บ้านเวลาสงสัยมันไม่รู้จะไปถามใคร
ไม่เหมือนการโพสขึ้นบอร์ดที่รู้ฟีดแบคทันที และแสดงความคิดเห็นส่วนตัวกันได้
ซึ่งมันเป็นผลดีต่อไรเตอร์มากกกกก
เรียกว่าเป็นเรื่องธรรมดานะ
แต่ก็อย่างที่เคยๆ บางทีคนพูดพูดอย่างคนฟังอ่านแปลไปอีกอย่างก็ได้
เข้าใจคร้าบบบบบ
ก็ขอโทษด้วยถ้ามีใครขัดเคือง เอาเป็นว่าถือเป็นข้อความหนึ่งเอาไว้แขวนบอร์ดเล่นก็แล้วกันเนาะ
เพิ่มหน้ากระทู้ดีด้วย
ตอนนี้ถ้าไรเตอร์เข้ามาอ่านไม่ใจสั่นไปหลายรอบแล้วเหรอเนี่ย

Master PP.

  • บุคคลทั่วไป
ไม่งงครับ เรื่องสนุก อ่านแล้วคิดตามได้ไม่ยาก สำหรับคนที่คิดอะไรแบบพอประมาณและมีเหตุผล
ส่วนตัว ชอบคำอธิบายของ  nara555  ครับผม เปลี่ยบเทียบได้ดีฮะ (ผมเองก็ชอบเปลียบเทียบอะไรแบบนั่น)
อ่านโพสทั้งหลายทั้งแหล่แล้ว ชักปวดหัว เอาง่ายๆดีกว่าครับ
ขอให้นิยาย ได้ออกมาในแบบที่เป็นตัวของตัวเอง อย่างที่ผู้เขียนตั้งใจให้มันเป็น
ผมเอง เข้ามาอ่านนิยายหลายๆเรื่องในเล้านี้ เพราะ ในแต่ระเรื่อง แต่ระคนเขียน มันมีเสน่ของตัวเองในแบบของมัน

ปล. ขอบคุณคนเขียน ที่เขียนเรื่องสนุกๆ แปลกใหม่ แหวกแนว มาให้ผมอ่านครับ
ปล.2 เนมอธิบายง่ายๆตามที่เข้าใจให้ไม๊
-เอาแก้วมา 3 ใบ แทนปีทั้ง3ปีในเรื่อง (เขียนปีพศ.ติดเลยหมดเรื่อง)
-เทน้ำใส่แก้วใบที่1(แทนปี2553)ให้น้ำแทนตัวโฟม จะเห็นว่า ใบที่2(ปี3553) กับใบที่3(ปี3558)ว่าง
-เอามือหยิบแก้วใบที่1(ปี2553) คิดซะว่าตรูนี่แหละ ตากับยาย กำลังเทน้ำ(ย้ายโฟม) เทน้ำแม่งลงไปในใบที่2(ปี3553)   เห็นยังว่า แกวใบที่1(ปี2553) ไม่มีน้ำ(ไม่มีโฟม)อยู่แล้ว ใบที่3(ปี3558)เช่นกัน เพราะยังไม่ได้เท ทั้งนี้ในใบที่1(2553) มีหยดน้ำเกาะอยุ่บ้าง แทนได้ว่า คนๆนี้เคยอยุ่ที่นี่มาก่อน แต่ตอนนี้ตัวไม่อยุ่แล้ว
-เอามือหยิบแก้วใบที่2(ปี3553) ตรูจะเป็นยายกับตาอีกและ เทน้ำลงแก้วใบที่3(ปี3558) โอ้วน้ำเปลี่ยไปอยุ่ในแก้วใบที่3(ปี3558)แล้ว เหลือเพียงหยดน้ำเล็ๆไว้ในใบที่1(ปี2553)และใบที่2(ปี3553) ให้เราได้รู้ว่า มันเคยมีน้ำอยู่ในแก้วทั้ง2ใบ แต่ตอนนี้มันไปอยุ่ในอีกใบแล้ว
น้ำปริมาณแก้วเดียว จะให้อยุ่ในแก้ว3ใบในปริมาณเท่าเดิมที่เคยมี เป็นไปได้เหรอ ในเมื่อเราใช้มือเทมันลงไปในแก้วอีกใบ และอีกใบแล้ว ถ้าผลสุดท้ายแล้วสามารถมีได้โอ้ว กรุรวยและ เอาไปออกงานวัดดีกว่า :z2:

ปล.3 ขอเป็นอีก1เสียง ในการขอให้คนแต่ง เอาเรื่องมาลงตามปกติ ตามที่ตั้งใจไว้ อย่าเอาไปแก้เลยครับ เนมเข้าใจเหมือนที่หลายๆคนเข้าใจ ว่านี่คือนิยาย ที่เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิง ด้วยความตั้งใจดีของคนเขียน เนมเคารพต่องานเขียนของคนเขียนทุกท่านครับ(ไม่อยากให้เป็นประเด็นที่อาจทำให้นิยายมีปัญหา พอเถอะ อยากอ่านนิยาย)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-10-2010 23:22:17 โดย Master PP. »

mixmix

  • บุคคลทั่วไป
ขอออกความเห็นอีกซักรอบแล้วกันค่ะ

โดนส่วนตัวสำหรับเรา เราคิดว่าเรื่องนี้ก็ไม่งงอะไรนะ หรืออาจเป็นเพราะเราเป็นคนไม่คิดมากก็ได้
นิยาย บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องอิงความจริงหรือหลักการอะไรนัก เพราะสำหรับเรา
เราคิดว่า นิยาย ก็เป็นเพียงเรื่องที่สร้างขึ้นตามจิตนาการของคนเขียนแต่ล่ะคนจะคิดขึ้น
เราอ่านนิยายเพราะเราอยากพักจากโลกของความจริงเพื่อมาหา ความสนุก ความสร้างสรรค์ต่างๆ ตามแต่จิตนาการของไรท์
อยากอ่านเพื่อที่จะพักและผ่อนคลาย ไม่ใช่ต้องมานั่งคิดอะไรให้ปวดหัวมากขึ้นไปอีก
แต่ก็นั่นแหละคะ พอดีเราเป็นชิวๆไม่คิดอะไรมาก แต่ก็เพราะไม่ใช่เป็นคนไม่คิดอะไรนะ
แต่เพียงไม่รู้จะคิดไปทำไม ในเมื่อเรามานั่งอ่าน นิยาย กัน ไม่ได้อ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบนี่เนอะ 55+
เอาเป็นต่างคนต่างความคิดนั่นแหละคะ ยังไงเราก็ไม่อยากให้ความคิดเห็นของเราไปกดดันอะไรไรท์เตอร์
ไม่อยากให้ไรท์เตอร์ต้องคิดมากถึงขั้นต้องเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องตามใจคนอ่าน
เรามาเพื่ออ่านเรื่องที่ไรท์จิตนาการและเขียนออกมา ไม่ว่าจะแปลกประหลาดยังไง
มันก็แล้วแต่คนจะคิดหรือจิตนาการกันนี่เนอะ
แล้วอีกอย่างเพราะเราค่อนข้างชอบอ่าน นิยายแนวแฟนตาซี
สำหรับเรา เราคิดว่าเสน์หของเรื่องแนวนี้คือ เรื่องเหนือการคาดหมาย ยิ่งหลุดโลกเท่าไหร่ก็ยิ่งสนุก
แฟนตาซีก็คือ เรื่องเหนือความคาดหมายไม่ใช่เหรอคะ เป็นเรื่องที่อาจพิสูจน์ได้และไม่ได้
เพราะนี่ไม่ใช่เรื่อง แนววิทยาศาสตร์ หรือ อิงวิทยาศาสตร์นี่นา
อ่านเอา สนุก และ ไม่ต้องคิดมากกันดีกว่า ท่องไว้ค่ะ ชิวๆ 555+

เช่นเคย ความเห็นเราเป็นที่ไม่พอใจของใครก็ของอภัยด้วยค่า แค่อยากออกความเห็นบ้าง ในฐานะนักอ่านคนหนึ่ง  :sad4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-10-2010 23:16:33 โดย ♥WonnaBwithKoy♥ »

pupper

  • บุคคลทั่วไป
นิยาย ก็คือ เรื่องที่แต่งขึ้นมามีทั้งจากเรื่องจริง เรื่องแต่ง หรือเรื่องเกินจินตนาการ
ก็สุดแล้วแต่ที่ผู้แต่งจะคิดแล้วถ่ายทอดจากสมอง กลั่นกรองลงมาเป็นตัวอักษรเป็น
เรื่องเป็นราวให้ได้อ่าน  "เพื่อที่จะสร้างความจรรโลงใจให้กับผู้อ่าน" ไม่ใช่การอ่าน
ที่จะต้องเทียบกับความเป็นจริงเชิงทฤษฎี ในเมื่อนิยายไม่ใช่ตำราวิชาการ การอ่าน
เพื่อที่จะสร้างความสุข ผ่อนคลายความเครียด การผิดพลาดบางอย่างบางทีก็ต้อง
ปล่อยผ่านไปบ้าง บางครั้งการผิดพลาดอาจเกิดจากการพิมพ์ตกหล่นก็เป็นไปได้
แล้วผู้แต่งก็ได้ชี้แจงแถลงไขแล้วว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเหนือจินตนาการ ก็ต้องเข้าใจ
ว่ามีความเป็นไปที่คาดไม่ถึง และไม่มีอยู่จริงอยู่แล้วกับความเป็นจริงที่เราเห็น
อ่านเพื่อความสุข เพื่อจรรโลงใจ อย่าอ่านเพื่อจับผิด เพราะว่ามันเป็นนินายที่มี
ความเหนือจินตนาการ ก็ต้องทำใจที่จะยอมรับ แล้วการอ่านนิยายไม่ใช่เพียงแค่
อ่านผ่านๆ แต่ต้องอ่านที่จะเข้าใจในเนื่อเรื่องโดยการอ่านให้ละเอียดก่อน

ปล. สุดท้ายแล้วความคิดของใครก็แตกต่างกันออก คนแต่ละคนคิดไม่เหมือนกัน
แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับความเห็นของคนส่วนรวม
และขอเป็นกำลังใจให้ผู้แต่ง
ขอให้ถ่ายถอดเรื่องราวต่อไปได้อย่างสนุกสนาน เป็นกำลังใจให้ครับ ^^

 :L2: :กอด1: :L2:

min_min

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าคุนไอเขาฉลาดเหมือน นักวิทยาศาสตร์คนไหนไม่รู้ซักคน เค้าคงจะเข้าใจคำว่า  

แฟนตาซี + อภินิหาร + จินตนาการ  

ซึ่งมันอาจจะมีจริงหรือไม่มีจริง อาจจะเกิดขึ้นได้จริงหรืออาจจะไม่มีทางเกิดขึ้นเลยก้อได้

ขอร้องช่วยอย่ามาขัดขวางจินตนาการของคนอ่านคนอื่นได้ไหม

นิยายไม่ใช่หนังสือตรรกกะ  จะเอาจริงเอาจังอะไรขนาดนั้น

จริงจังไปไหมคุณ  หวานหวาน ไม่ขอขีดเส้นใต้นะ  

ปล.เป็นกำลังใจให้คนเขียนต่อไป

ปล.2 ขออภัยถ้ามันจะไปกระทบใครโดยตรง เพราะตั้งใจ แต่ก้อนะ

เขียนขออภัยมาแล้ว จะให้ไม่ให้ก้อช่าง เขียนตามความรู้สึก





ออฟไลน์ aeyja55

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
เห็นด้วยกับคุณ PEENAT1972 ค่ะ ว่าจุดประสงค์ของการอ่านนิยาย คือ ความเพลิดเพลิน คลายเครียด
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ให้มีความเห็นขัดแย้งกันนะคะ เพียงแต่ว่า แสดงความคิดเห็นแต่พอควร
และอย่าถึงกับทำให้นักเขียนต้องเครียดเลยนะ เพราะอย่าลืมว่า เค้าอุตส่าห์เสียสละเวลาพักผ่อน
มาแต่งนิยาย และแบ่งปันให้เราทุกคนได้อ่านคลายเครียด กันนะคะ

ออฟไลน์ acorntan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +566/-34
มาแล้วคะ  ตอนที่  20   มาแบบครบ 100%  

ไม่รู้ยังมีคำผิดอยู่รึเปล่า  เดี่ยวขอกลับไปอ่านรีก่อน ๆ หน่อยนะคะ

ขอให้อ่านอย่างมีความสุขนะคะ :L1:
....

ผมพยักหน้าแล้วหันไปมองทัศนียภาพด้านนอก  พี่ซองขึ้นบนทางประมาณทางด่วนแล้วไปทางนอกชานเมือง  ผมที่แอบงีบไปเกือบห้าชั่วโมงรู้สึกตัวตื่นเมื่อรู้สึกว่าร่างกายตัวเองมันขึ้น ๆ ลง ๆ แปลก ๆ

   “ตื่นแล้วหรอ...”  ผมลืมตาขึ้นก็เจอกับพี่หล่อใจดีคนนั้น  อ้อ..พี่แซน  เค้าชื่อพี่แซน

   “ขอโทษฮะ....ผมเดินเองได้”  ผมดิ้นเล็กน้อยเป็นสัญญาณให้พี่แกปล่อยผมลงจากที่สูงนี้เสียทีแต่พี่แซนแกกลับกระชับแขนแล้วพาผมเดินต่อ  ผมไม่กล้าจะเอามือไปคล้องคอพี่เค้าก็เลยทำหยิ่งกอดอดเสียเลย

   “ผมเดินเองได้ฮะ”

   “พี่ก็เดินเองได้”  รู้ครับว่าพี่เดินได้ผมไม่เถียง..แต่กรุณาปล่อยสุภาพบุรุษมีครรภ์อย่างผมลงก่อนได้ไหมครับ

   “พี่ก็ปล่อยผมสิ”  ผมจ้องหน้าพี่แซนแบบงง ๆ นะครับไม่ได้แบบหาเรื่อง คือ  จะอุ้มผมทำม๊าย..

   “ไม่อยากปล่อย... อยากปล่อยเมื่อไรจะปล่อยเอง”

   “ตามใจ!”  ฉุนกึกครับท่าน...กวนตีนใช่ได้เลยเห็นหน้าตาเป็นพระเอกใจดี  แต่เห็นทีของเปลี่ยนทัศนคติใหม่ว่าหล่อกวนตีนดีกว่า

   ผมถูกเอามาปล่อยที่วัด  เอ๊ย!  มาปล่อยในห้องรับแขกครับในนั้นกำลังมีพี่ซองที่เดินถือถ้วยกาแฟอยู่  พี่แซนวางผมลงบนโซฟาช้า ๆ แล้วค่อย ๆ ผ่อนแผ่นหลังของผมให้เอนไปตามพนักพิง  บริการดียิ่งกว่ากรุงศรีออโต้อีกครับ..คิดไปแล้วก็คิดถึงไอ้ผัวชาติแมวของผมมาตะหงิด ๆ

   “โฟม  โฟม”   ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่ซองที่ยื่นถ้วยโกโก้ให้ผม  กลิ่นมันหอมมากเลยครับผมจิบทีตาโตอร่อยมาก  หรือว่าผมหิวก็ไม่รู้

   “หิวไหมโฟม...เดี่ยวให้ซองทำอาหารให้”  ผมหันไปมองพี่แซนที่ออกมาจากประตูไม่ไกลมากนัก  พร้อมกับขนมปังชิ้นเล็ก ๆ ทาเนยแล้วอบ...จนผมคิดถึงขนมปังกระเทียมบ้านเรานะครับ ถุงละ 5 บาทกรอบอร่อย

   “ก็หิวครับ...เดี่ยวผมไปช่วยพี่ซองนะครับ  โอ๊ย!”  ผมที่รีบลุกอยู่ ๆ ก็รู้สึกเจ็บจี๊ดมาตรงขาซ้าย ตะคิวรับประทานครับ  โอ้ย โอ้ย...  

   “นั่งก่อน! นั่งก่อน!  พี่แซนโฟมเป็นตระคิว”  พี่ซองเข้ามาประคองผม  ส่วนพี่แซนรีบมาจับขาผม  แถมถอดรองเท้ากับถุงเท้าผมให้ด้วย  มือเย็น ๆ จับแล้วกดขาผมอย่างถูกวิธีผมมองพี่แซนอย่างหวาด ๆ ก็ดูพี่แกสิครับคิ้มขมวดเลยจะแดกตรีนผมแทนข้าวเสียละมั่ง

   “เป็นไงดีขึ้นไหม”  ผมพยักหน้าไปมาแล้วค่อย ๆ เอนตัวนอนราบกับโซฟา  ท้องมันทั้งเหนื่อยทั้งลำบากเลยนะครับ  เวลาที่มีใครสักคนมาทำดีแบบนี้แล้วทำให้ผมผมรู้สึกดีขึ้นมาก  พี่แซนก็ยังคงนวดเท้าให้ผมอยู่

   “พี่แซนพอแล้วฮะ”  ผมดึงเท้าของผมออกจากตักพี่แซน  แต่ก็ถูกมือของพี่เค้าจับไว้แน่น..อย่างจั๊กจี๋ผมก็แล้วกันไม่งั้นพ่อยันหงายท้องเลย

   “ไม่เป็นไร..นวดต่ออีกสักหน่อยก็ได้”  พี่แซนเงยหน้ามามองผมแล้วยิ้มใหม่  พอผมไม่พูดพี่เค้าก็นวดเท้าให้ผมต่อ

   “พี่แซนนี้ใครได้เป็นแฟนสบายเลยนะฮะ”

   “ใครจะมาสนใจคนสันโดษแบบพี่กัน...ชอบอยู่กับดินกับทราย”

   “ไม่หรอกฮะ..ขนาดโฟมเป็นผู้ชายยังรู้สึกว่าถ้าได้คนรักแบบพี่คงไม่มีวันเสียใจแน่”

   “แต่พี่ขี้หึงนะ”

   “เหมือนพี่ทรีเลย  ขี้หึงมาก...แต่ต่างกันตรงที่พี่แซนไม่เจ้าชู้”

   “ใช่...พี่คงมีอะไรคล้าย ๆ ทรีมากรวมถึงรสนิยมด้วย”

   “หรอฮะ..แล้วพี่แซนไม่คิดจะมีครอบครัวมั่งหรอฮะ”

   “เมื่อกี้ไม่คิด..แต่ตอนนี้เริ่มคิดแล้ว”

   “เอ...แสดงว่าพี่แซนต้องเจอคนถูกใจแล้วใช่ไหมฮะ”

   “ใช่...”

   “ใคร/ใครฮะ”  ผมกับพี่ซองผสานเสียงกัน  ทั้ง ๆ ที่พี่ซองนั่งเงียบฟังมาตลอด

   “ก็โฟมไง...”  เวรกรรม  งอนงอกออกเป็นเขาวัวเขาควาย  เขาใหญ่เลยละครับที่นี้  ผมกับพี่ซองสบตากันโดยไม่ได้นัดกันก่อน  แล้วก็ถอนหายใจออก..เฮ้อ


   ‘ไม่!  เค้าจะเอาพ่อแซน’

   ‘ไม่ได้นะ....ต้องเป็นพ่อทรีสิ’

   เสียงเอะอะโวยวายของเด็ก ๆ ทำให้ผมกระพริบตาตื่น  แล้วผมก็เห็นภาพน้องซ้ายที่กำลังน้ำตาปริมจะหยดกำลังยืนดึงเสื้อน้องขวาอยู่  ทะเลาะอะไรกันอีกแล้วละครับ อย่าริอาจเป็นเด็กมีปัญาตั้งแต่อยู่ในท้องเชียว!

   ‘ตื่นแล้วหรอหลาน...’  

   “ตาจ๋า..ยายจ๋า”  ผมโผเข้ากอดตากับยายด้วยความดีใจแล้ว... ไม่ได้เห็นหน้าเหี่ยว ๆ เอ๊ย! หน้าอันแสนอบอุ่นมาตั้งนาน

   ‘ฮื้อ!!!  แง้ๆๆๆๆๆ  เค้าจะเอาพ่อทรี  ฮึก... คะ  คนเดียว’  น้องซ้ายตาหวานกำลังร้องไห้กอดน้องขวาที่ยังคงยืนหน้านิ่งเหมือนพ่อมันไม่มีผิดกอดปลอบน้องซ้ายอยู่  ผมผละออกจากอกยาน ๆ ของยายหันไปมองสองลิงของผม..ก็เค้าลูกผมนี้จะไม่สนใจก็แปลกแล้ว

   ‘ไหนว่าเกลียดพ่อทรีแล้วไง  เราก็ให้แม่มีพ่อใหม่เลยไง’  นั้นไง!  ผัวยังไม่ทันตายลูกก็สนับสนุนให้มีพ่อให้แล้ว  แต่พ่อดี ๆ แบบพี่แซนก็น่าสนใจนะ

   ‘เค้าเป็นเด็กนะพูดอะไรทำไมต้องถือสาด้วย แง้ๆๆๆๆๆ’  ผมมองน้องขวากำลังปลอบน้องซ้ายอยู่เนื่อง ๆ ก็หันมามองตากับยายเสียหน่อย

   “ตากับยายไปไหนมา...โฟมคิดถึงมากนะ”  ผมกอดยายแน่น  ยายก็ลูบหัวผมไปมา..ผมรู้สึกว่าท่านสองคนเป็นญาติที่เหลืออยู่จริง ๆ  ยายนะยายจะรู้ไหมว่าทำให้ผมได้เป็นชายที่เหนือชายแล้ว ยังให้ผัวเลวแถมมาด้วยอีก

   ‘ตากับยายก็ไปธุระของโฟมนั้นแหละ  โฟม..ถ้าหลานไม่สบายใจหลานไปอยู่กับตากับยายไหม’  ผมเงยหน้ามองยายที่พูดกับผมแปลก ๆ ผมยังไม่ตายจะไปอยู่กับยายได้ยังไง

   “ยายจะให้โฟมฆ่าตัวตายหรอยาย”

   ‘ไม่ใช่...ยายกับตาเตรียมที่ที่หนึ่งเอาไว้แล้ว  ถ้าโฟมไม่สบายใจตากับยายก็อยากให้โฟมอยู่ที่นั้น’  อยู่ที่นั้น...แล้วมันอยู่ที่ไหนละครับ  ศาลพระภูมิหรอ ว๊ากกกกกกก บ้าไปแล้ว!!

   “ยายจะให้โฟมไปอยู่ไหน  โฟมไม่อยู่ศาลพระภูมินะกลัวเป็นมะเร็งปอด”  ขณะที่ผมพูดเสียงของของซ้ายก็ดังเป็นระยะ  มองไปก็แอบขำผมเห็นน้องซ้ายกอดน้องขวาแล้วก็โดดไปมา  ปากก็แหกแปดหลอดส่วนน้องขวายกนิ้วอุดหูแล้วก็หน้านิ่งเหมือนเดิม

   ‘ตากับยายมีอยู่สองทางเลือก  ทางแรกตากับยายจะให้โฟมกลับไปที่เดิมที่โฟมเคยมา’  ที่เดิม...หมายถึงปี 2553 นะหรอ

   “ผมยังท้องอยู่เลยกลับไปไม่ได้นะยาย”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-10-2010 23:46:43 โดย acorntan »

ออฟไลน์ aeyja55

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
จิ้มน้องแตน ขอบคุณมากนะคะ

อ่านเรื่องนี้แล้วมีความสุข ยิ้ม หัวเราะได้ทุกตอนเลย

ออฟไลน์ acorntan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +566/-34
‘ตากับยายไม่ได้หมายถึงแบบนั้น  ถ้าโฟมจะกลับไปเพื่อทบทวนความรู้สึกตัวเองตากับยายก็อยากให้หนูกลับไปที่ ๆ หลานเคยอยู่  กลับไปคิดดูดี ๆ ว่าอยากอยู่ที่ไหนมากกว่ากัน  ส่วนเรื่องลูกในท้องตากับยายจะรับเลี้ยงจนกว่าโฟมจะสบายใจ’  ผมนะนิ่งไปแล้วครับตั้งแต่บอกว่าจะให้ผมกลับไปที่เดิม...  ผมกลัวว่าผมจะเสียลูกไป  แต่ก็อยากกลับไปหาพ่อกับแม่เท่า ๆ กัน

   “แล้วถ้าโฟมไม่อยากกลับมาที่นี้อีกละครับ”

   ‘มันก็เป็นสิทธิของหลาน...ตากับยายคงห้ามอะไรไม่ได้  ส่วนเรื่องลูกตากับยายจะส่งให้พ่อมันเลี้ยงเอง’  ออเนอะ...ขนาดตอนผมมาตากับยายยังพามาได้  แล้วจะให้พ่อมันเลี้ยงลูกเองก็คงไม่ยากแต่มันติดอยู่ที่ผมนี้แหละ

   “หนูไม่อยากห่างจากลูก”  ผมมองดูลูกชายหน้านิ่งกับหน้าหวานสองคนอย่างแสนรัก  แหม๋.....วลีชวนอ้วกแต่ว่าผมรักลูกของผมจริง ๆ นะ

   ‘งั้นตามีทางเลือกที่สองให้  ตากับยายจะพาเจ้ามาอยู่ในที่ ๆ หนึ่ง  รับรองความปลอดภัยหายห่วง  ถ้าพร้อมเมื่อไรก็กลับมาหาผัวเอ็งได้ทุกเมื่อ’   ตาเล่นผัวเลยหรอ  ผมก็ผู้ชายนะตา  เขิน...  เอาไงดีหว่า  ผมก็อยากพักเหมือนกัน...แต่ถ้าผมไปใคร ๆ จะห่วงผมหรือเปล่า ไม่! ไม่!!  ไม่!!!  ช่างหัวมัน...มันยังไม่ห่วงผมเลย

   “หนูจะไปอยู่กับตากับยาย”

   ‘เอางั้นก็ดี....งั้นเราไปกันเลยนะ’  ผมพยักหน้ารับแล้วเรียกลูกชายของผมให้มาใกล้ ๆ

   “ตาจ๋า...อย่างน้อยก่อนไปโฟมขอไปบอกเค้าก่อนได้ไหม”  ผมพูดกับตาแต่สายตากลับจ้อมมองลูกชายตัวน้อยของผม  ตอนนี้ผมอยู่เพื่อลูกเท่านั้นผมก้าวเดินไปหาสองหน่อของผมตาซ้ายกับตาขวาชะงักนิดหน่อยแล้วก็โผ่เข้าอ้อมกอดของผมอย่างแรง

   “ว่าไงลูก...อยู่ในท้องสบายดีไหม” ผมหอมแก้มน้องซ้ายที่ยื่นมาให้อย่างเต็มใจ  ส่วนน้องขวาผมไม่กล้าออกตัวแรงกลัวลูกโกรธ  ผมเลยยิ้มให้ก่อนสุดท้ายลูกขวาก็มาหอมแก้มผมเอง  แหม๋...น่าจะมีประโยคต่อ  ชื่นใจไหมคะแม่...เหมือนในโฆษณา  แม่จะตอบอย่างเต็มรักเลย

   ‘แม่จ๋า.....หนูอยากอยู่กับพ่อทรี’  ผมผละออกจากร่างของลูกทั้งสองคนของผม  มองน้องซ้ายตาโต

   ‘แต่หนูอยากอยู่กับพ่อแซน’  อ่าวเฮ้ย!.....  ลูกจะใจง่ายไปรึเปล่า  พ่อแซนพึ่งจะเจอแม่วันนี้เองนะตาขวา

   ‘ไม่ๆๆๆๆๆๆ  ยังไงเค้าก็รักพ่อทรีคนเดียว’  ผมหันไปมองด้านซ้ายที่ลูกชายหน้าหวานโผเข้ากอดคอผมแน่น  ลูก...แม่หายใจไม่ออก  แอ๊ก!

   ‘แม่จ๋า...แต่พ่อทรีชอบหาแม่ให้หนูเยอะนะ’  น้องขวาจับหน้าของผมให้หันไปหาเค้า  ออ...ลูกคือแม่ยังไม่ได้พูดเลยสักคำ

   ‘อย่านะ!  ปล่อยหน้าแม่เลย!  แม่หันมาหาหนูซิ!’   อ๊าก.... ขี้หูจะแตก 

   ‘แม่ไม่รักหนูหรอ...’  น้องขวาทำดร่ามาใส่ผม.. โอ๋ลูกเอ้ย  ผมกำลังจะคว้าตาขวามากอดแต่..

   ‘ไม่!!!!!!!!!!!!!!!  แม่รักหนูมากกว่า’  ตาซ้ายกอดคอผมกระโดดกระทืบเท้าแบบเอาแต่ใจ  แม่คอจะหลุดแล้วลูกเอ๊ย... ขวา..ช่วย...แม่..ด้วย

   “นี้หยุดทั้งสองคนนั้นแหละ  เราไม่จำเป็นต้องมีพ่อก็ได้นี้ลูก”  ผมแกะแขนเล็ก ๆ ของตาซ้ายออกจากคอ

   ‘จำเป็น/จำเป็น!!!!’  ออ...ผมคงไม่สามารถให้ความมั่นคงต่อลูกได้ใช่ไหมครับถึงได้ตอบแบบไม่คิดแบบนี้  ใช่ซี่!!

   “เอาน่า....  อย่าพึ่งคิดเรื่องใครจะมาเป็นพ่อดีกว่า  เอางี่...เราไปเที่ยวกับแม่กันนะ”

   ‘หนูรักแม่...หนูจะไป’  ซึ้งครับท่าน....คนเป็นแม่เวลาลูกบอกรักมันให้ความรู้สึกแบบนี้นี่เอง  ผมลูบผมหยิกเป็นลอนของตาซ้ายไปมา  ตาหวานเหมือนลูกกวาดเลยครับ..เฮ้อ!  อนาคตจะมีเมียไหมหน้อลูกคนนี้

   ‘แต่แม่เอาพ่อทรีไปด้วยนะ’  อะเด๊ะ!!  เอาไปทำไมละลูก  ชมไม่ทันไรจะเอาพ่อเลวมาอีกแล้วหรอลูก

   “เราจะไปเที่ยวกันสามคนนะ  ไปพักผ่อนตอนนี้พ่อทรีไม่ว่างเอาไว้พ่อทรีว่างเราค่อยชวนพ่อมมาแล้วกันเนอะ”  ผมลูบเจ้าตัวน้อยสองคน  ได้โปรดเถอะลูก  เข้าใจแม่หน่อย

   ‘พ่อแซนว่าง...แม่ให้พ่อแซนไปนะ’  อะเด๊ะอีกครั้ง  ลูกจะให้พ่อแซนมาทำไมลูกเอ้ย...เอามาให้ปวดหัวอีก

   “ไม่ให้ใครไปทั้งนั้น...  แม่บอกเป็นครั้งสุดท้ายเราจะไปกันแค่ เรา-สาม-คน”

   ‘โถ่/โถ่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!’  หึ!  เราเป็นแม่คนแล้วต้องรู้จักเลี้ยงลูกให้ถูกใช่ไหมครับ  เพราะฉะนั้นอย่าไปแคร์เสียบ่นงุมงัมนั้นเด็กขาด  มิฉะนั้น!! ผมเองแหละจะใจอ่อน


   “พี่ฮะ....”  ผมปล่อยมือน้องขวาแล้วเขย่าร่างอันนิ่งสนิทจากการหลับใหลให้ตื่นขึ้น  กูจะไปแล้วน้า..มึงจะไม่ลืมตามามองกูหน่อยหรอ

   “โฟม...กลับมาแล้วหรอ  นั้นลูกเรารึเปล่า”  ผมยิ้มให้กับไอ้คนที่อยากได้ลูก  แต่ไม่ยักอยากได้แม่แบบผม  ผมรู้สึกจุกในอกไปหมดเวลามองหน้ามันกับตาขวา  เหมือนกันเกินไปแล้วนะ...

   “ใช่ฮะ..ลูกเราเอง  พี่ไม่ต้องเป็นห่วงโฟมนะ”  ผมพูดแค่นั้นแล้วก็หันหลังจากมาโดยที่ไม่หันไปมองคนด้านหลังอีก

   กู๊ดมอร์นิ่งครับทุกคน  กระผมยอด ด ด ด ด   ชายนายโฟมมาแล้วครับ....  ตอนนี้พวกเรา 5  คนอันมีสารประกอบที่ชื่อว่า  ตา  ยาย  ผม  และลูกชายคูณสองครับ   เมื่อคืนผมไปหาไอ้พี่ทรีมา..ผมจูงลูกทั้งสองคนไปหาแล้วบอกว่าไม่ต้องห่วง  แล้วผมก็ก้ามข้ามผ่านมิติมายังที่นี้  มาเร็ว!  เคลิ้มเร็ว!   อนุมัติเร็ว!    ผมไม่รู้ว่าผมมาที่นี้ได้ยังไงหรอกครับ  เอาเป็นว่าแค่ตากับยายจูงมือตาซ้ายกับตาขวาคนละข้างโดยมีผมยืนอยู่ตรงกลาง  พอผมก้าวเท้ามาผมก็มาอยู่ที่บ้านนี้แล้ว  และที่แปลกกว่านั้นคือ....

   “โฟม!  โฟม!  ตารบวิ่งไปโน้นแล้ว”  คือ  ลูก ๆ สองหน่อของผมยังคงซนอย่างกะลิง  ไม่ได้กลับมานอนสงบนิ่งในท้องผมเหมือนเดิม  ผมที่อยู่ในครัวรีบวิ่งออกจากห้องครัว  มองไปยังหน้าประตูระเบียง  อ้อ...สงสัยหรอครับว่าน้องรบนี้คือ น้องซ้าย หรือว่าน้องขวา  น้องรบ  หรือว่า น้องนักรบ คุณตาตั้งให้แทนชื่อน้องขวา  เด็กชายเย็นชา  ว๊ากกกลูก....  อย่าปีนเก้าอี้!!

   “รบมาหาม๊าลูก..อย่างวิ่ง!”  ผมวิ่งไปคว้าตารบเข้ามาในวงแขน  อุ้มเจ้าตัวหนักไว้แน่น..ลูกเอ้ย!  ทำแม่ใจหายหมดตกลงไปเละแหง๋ม ๆ

   “แม่! รบ ตู้ตาย!!!”  อะเด๊ะ!  อะไรคือตู้ตายหว่า  แปลกใจใช่ไหมครับที่ตารบพูดไม่ชัด  ตอนที่อยู่ในความฝันทำไมพูดชัดจังเลย  ผมก็ยังงง ๆ อยู่  เหมือนกันผมมองน้องรบที่ชูก้านกล้วยที่คุณตาทำให้แถมยิ้มแป้นอีก  น่ารักจริง ๆ ลูกเอ๊ย...
   “อะไรลูก  ตู้-ตาย  ตู้มันตายได้ด้วยหรอไงครับ”  ผมอุ้มเจ้าตัวน้อยที่ถือก้านกลัวเหมือนดาบแสนคมในมือ  แถมจ้องหน้าผมเหมือนผมพูดอะไรผิด 

   “รบตู้ตายฮับ”  เอาโว้ย... ตู้ตายก็ตู้ตาย  แต่ใครฆ่าตู้กันหว่า...

   “รบแล้วน้องไปไหน”  ผมอุ้มน้องรบในวงแขนเดินออกไปยังระเบียงด้านนอก  กวาดตามองตาปราชญ์หรือน้องซ้ายที่ผมเรียก ๆ อยู่นั้นแหละครับ  คนนี้หลานรักยายเค้า...

   “น้องตู้กับรบ”  ขอขมวดคิ้วอีกครั้งครับ  ตู้?  กับ รบ? ว๊ากกกกก

   “ปราชญ์มาหาแม่เร็ว  อยู่ไหนลูก โมะ ๆ ๆ   กู้.....กุก กุก”  เรียกหาลูกเหมือนเรียกไก่ยังไงอย่างงั้นครับ ส่วนน้องรบก็ยังคงถูกผมอุ้มอยู่

 “ย่า!!!!  ปาดตู้ตาย”    ผมหันไปมองเสียงจากด้านหลังที่โผล่ออกมาจากพุ่มต้นเชอรี่  น้องปราชญ์วิ่งเข้ามาหาผม  ส่วนตารบก็ดิ้นดุ๊กดิ๊กให้ผมปล่อย

“แม่...ลบลง”  ผมปล่อยตารบแล้วดูเจ้าสองคนพี่น้องเอาก้านกล้วยฟัน ๆ ยิง  ๆ  กัน  ร้องส่งเสีย จ๊าก ๆ  ย๊าก ๆ  ของเค้าไป  ผมจึงเริ่มเข้าใจแล้วครับว่า  ไอ้ตู้ตาย  มันน่าจะเป็นศัพท์วัยรุ่นสมัยนี้  ที่หมายถึง สู้ตาย!

“รบ ปราช์มากินข้าวดีกว่าเร็ว”  ผมเดินไปหาสองศรีพี่น้องที่กระโดดหลบก้านกล้วยกันแบบนั้น  เหนื่อยครับแสบตั้งแต่ในท้องยันนอกท้อง

“แม่หม่ำข้าว...ปาดท้องร้องแล้ว  พี่ลบ..ปาดหิวข้าว”  น้องปาดตาหวานวิ่งเข้าไปกอดพี่ชายที่ยังคงถือก้านกล้วยอยู่นิ่ง  ท่าทางตารบคงยังอยากเล่นต่อ

“ปากกิงก่องเลย... ลบไม่หิว” 

“รบมากินก่อนนะลูก  ลูกต้องกินนะตอนนี้หนูออกมาจากท้องแม่ชั่วคราวหนูไม่กินหนูไม่มีแรงเล่นนะลูก”  ผมย่อตัวคุยกับตารบที่ยืนบึ้งแสดงสีหน้าไม่พอใจชัดเจน !  สำเนาถูกต้องของพ่อมันมาเต็มๆ!!

“ฮึก..ฮื้อๆ  น้องปาดหิวข้าว”  อะนั้น...ร้องไห้ไปแล้วครับท่าน  แล้วตารบนี้มันเหมือนใครกันครับ

“รบ.......”  ผมหันไปมองเจ้าพี่ตัวแสบที่ทำน้องร้องไห้เรื่องไร้สาระ  แต่เจ้าตัวน้องก็เหมือนกันมันจะแยกกันกินก็ไม่ได้ครับ  คนหนึ่งกินอีกคนก็ต้องกินด้วย

“พี่โลบ... แง้ๆ”  ผมลุกขึ้นมองน้องปาดกอดพี่ชายของเค้าแน่น  เอาสิครับ..ถ้านิสัยเหมือนพ่อมาไม้นี้ตารบยอมแน่ ๆ

“ไปกิงข้าวได้แล้ว..”  นั้นไง... ผมยกแขนขึ้นกอดอกแล้วมองลูกชายแสนซนของผมจูงมือกันเข้าไปในบ้าน  บ้านหลังนี้สร้างขึ้นกลางป่ากลางเขาครับ  มีทะเลสาบ  มีภูเขา  มีต้นไม่ใหญ่  แต่ไม่มีใครอีกคน...ที่ผมพึ่งรู้ใจตัวเอง

“แม๊!!! ปาด-หิว-ก๊าว”

“ครับ ๆ แม่ไปแล้ว”

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด