“มาร์คัสมากินข้าวได้แล้ว วันนี้เลิกฝึกก่อนเถอะ” นาซีซัสตะโกนเรียกมาร์คัสจากอีกห้องหนึ่ง
มาร์คัสกำลังนั่งสมาธิฝึกวิชาจากหนังสือธาตุทั้งหก
แสงหลากสีผุดขึ้นจากสิ่งของรอบ ๆ ตัวเขาราวกับแสงของหิ่งห้อยนับร้อยตัว
มาร์คัสวาดมือเป็นวงกลมอยู่เบื้องหน้าตนเอง แสงหลากสีถูกดูดมาหมุนวนอยู่ระหว่างสองฝ่ามือ
มาร์คัสค่อยดูดซึมซับแสงนั้นเข้าไปในใจกลางฝ่ามืออย่างช้า ๆ จนแสงหายหมดไป
เขาลืมตาขึ้นช้า ๆ หลังจากผสานพลังทั้งหมดเข้าไปในตัวแล้ว
“ข้ากำลังไป..” มาร์คัสตะโกนบอกหลังจากผึกเสร็จ
นาซีซัสรับหน้าที่ทำอาหารเพราะว่าหลังจากวิชาของเขาไม่สามารถเร่งฝึกได้
แต่ด้วยความอัจฉริยะที่มีอยู่ในตัวเขาสามารถสำเร็จไปแล้วถึงหนึ่งในสามส่วนด้วยกัน
ภายในถ้ำมีลำธารไหลผ่าน มีปลาหลงเข้ามามากมาย
นาซีซัสกับมาร์คัสเลยได้อาศัยปลาในลำธารเลี้ยงตนเมื่อยามหิว
“ผ่านอีกขั้นแล้วใช่ไหมแบบนี้” นาซีซัสทุกเมื่อเห็นมาร์คัสเดินเข้ามาพร้อมด้วยสีหน้าเปร่งปรั่ง
“อืม.. เหลืออีกสองขั้นก็จะสำเร็จแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะเมื่อไหร่เพราะว่าที่นี้มีธาตุลมน้อยมาก” มาร์คัสบอกพร้อมกับนั่งลงตรงหน้านาซีซัส
“เดี๋ยวข้าคิดก่อนนะ มีที่หนึ่งเป็นเหมือนช่องระบายอากาศ มีลมผ่านเข้ามาได้ง่าย เดี๋ยวข้าจะพาท่านไป”
นาซีซัสบอกเพราะเขาเป็นคนที่สำรวจภายในถ้ำมากที่สุด
มาร์คัสส่วนมากต้องใช้สามาธิกับการฝึกวิชาเลยไม่ค่อยได้ไปไหน
“ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ว่าแต่เจ้าเถอะฝึกไปถึงไหนแล้ว”
“ท่านไม่ต้องห่วงข้าหรอก เดี๋ยวข้าแสดงอะไรให้ดูแล้วกัน”
นาซีซัสลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบพัดออกมาร่ายรำอย่างอ่อนช้อยและสวยงาม
เส้นผมสีเงินพลิ้วไหวตามท่วงท่ารับกับพัดสีเงินเงาวาว
แต่ท่าทางเหล่านั้นกลับแฝงไว้ด้วยพลังอย่างมหาศาล
มาร์คัสเองยังลอบชื่นชมไม่ได้ แต่ด้วยความเป็นนักสู้เมื่อเห็นแบบนี้แล้วก็อยากลองประมือดู
แล้วอีกอย่างเขาอยากรู้ว่านาซีซัสจะพัฒนาไปมากขนาดไหนแล้วอีกด้วย
“ฮึบ!!”
ร่างของมาร์คัสหายไปจากที่นั่งราวกับสายลม
เพียงพริบตาก็มาอยู่ตรงหน้านาซีซัสที่กำลังร่ายรำเพลงพัดอยู่
นาซีซัสเห็นก็เข้าใจจุดประสงค์ของฝ่ายตรงข้ามทันที
เขาไม่ได้หยุดการร่ายรำแต่กลับโจมตีไปพร้อมกันในคราเดียว
พัดสีเงินพุ่งเข้าใส่ช่วงลำตัวของมาร์คัสราวกับสายฟ้า
มาร์คัสยิ้มออกมาเมื่อเห็นแบบนั้นหาได้เกรงกลัวไม่
เขายกฝ่ามือขึ้นมาผนึกพลังลงไปเกิดออร่าสีม่วงห่อหุ้มมือไว้ทันที
กิ๊ง!!
มาร์คัสใช่มือปัดพัดออกไปอย่างง่ายดาย แต่เหมือนนาซีซัสจะรู้อยู่แล้ว
พัดที่อีกมือหมุนวนเข้าโจมตีที่ศีรษะแทนทันที แถมคราวนี้รวดเร็วและรุนแรงกว่าการโจมตีเมื่อครู่
“นี่เจ้าใช้แผนหลอกข้าหรือ” มาร์คัสพูดพร้อมกับทะยานตัวหลับไปข้างหลัง
“ใครใช้ให้ท่านประมาทเองล่ะ ระวังจะเจ็บตัวไม่รู้ด้วยนะ” นาซีซัสเตือนพร้อมกับลงมือโจมตีอย่างต่อเนื่อง
เพียงพริบตาทั้งสองคนปะมือกันไปไม่ต่ำกว่าสามร้อยท่า
มาร์คัสแปลกใจกับท่าร่างของนาซีซัสที่เป็นท่าเดิมแต่สามารถแปรเปลี่ยนได้ตลอดเวลา
แถมพลังเนกิสยังเพิ่มขึ้นอย่างมากและใช้ออกมได้อย่างคล่องแคล่วไม่เหมือนเมื่อก่อน
นี่ถ้าเขาไม่มีวาสนาสำเร็จพลังย้อนวัยคืนร่างตำแหน่งราชันย์อาจเปลี่ยนมือก็เป็นได้
เมื่อคิดแบบนั้นเห็นทีต้องลองแสดงฝีมือที่แท้จริงสู้กับนาซีซัสสักครั้งดู
“ต่อไปข้าจะเอาจริงแล้วนะ เจ้าก็อย่าออมมือเด็ดขาดล่ะ” มาร์คัสเตือนเพราะเขากลัวพลาดทำนาซีซัดบาดเจ็บ
“ก็ย่อมได้แต่เราย้ายไปห้องเหล็กไหลกันเถอะ ไม่งั้นที่นี่คงได้พังแน่นอน” นาซีซัสเสนอก่อนทะยานร่างร่วงหน้าไปอย่างรวดเร็ว
ห้องเหล็กไหล
ห้องนี้เป็นห้องกว้างขนาดใหญ่กว่าสนามฟุตบอลสามเท่า
ผนังทั้งสี่ด้านเป็นแร่เหล็กกล้ายากที่จะทำลายลงได้ทั้งสองคนเลยตั้งชื่อให้ว่าห้องเหล็กไหล
นาซีซัสเข้ามายืนรอมาร์คัสอยู่ที่กลางห้องอย่างตื่นเต้น เพราะเขาไม่เคยคิดว่าจะได้ประมือกับมาร์คัสอย่างจริงจัง
“ห้ามออมมือเด็ดขาด” มาร์คัสเตือนก่อนที่จะเร่งพลังของตนเอง
นาซีซัสเองก็เช่นกันออร่าสีเทาพวยพุ่งออกจากร่างสร้างความกดดันให้ฝ่ายตรงข้าม
มาร์คัสเองไม่คิดว่าพลังของนาซีซัสจะเพิ่มมากขึ้นขนาดนี้
ตัวเขาเองก็แผ่พุ่งออร่าสีม่วงอ่อนเข้าต้าน ตอนนี้ออร่าสีม่วงกับสีเทากำลังปะทะกันอยู่กลางห้อง
แต่ถ้าเทียบกันที่พลังเนกิสนาซีซัสเริ่มจะเสียเปรียบ เพราะมาร์คัสมีพลังธาตุเข้ามาช่วยเสริม
นาซีซัสเลยต้องเปลี่ยนมาใช้ท่าร่างในการโจมตีแทน
ฟ้าว!! ฟ้าว!!
พัดสีเงินถูกลอบใช้ออกมาจากด้านหลังอย่างลับ ๆ
“ราหูอมจันทร์”
พัดทั้งสองอันลอยไปบังหน้าของมาร์คัสไว้ นาซีซัสคลายพลังที่สู้กับมาร์คัสออกพร้อมกับหายตัวไปจากตรงนั้น
มาร์คัสใช้พลังผลักให้พัดกระเด็นออกเพื่อจะได้มองเห็นรอบข้างได้แต่มองหานาซีซัสไม่เห็นแล้ว
“เทพมารแยกร่าง” หลังจากได้ยินเสียงร่างของนาซีซัสก็กระจายอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของห้อง
“คิดหรือว่าข้าไม่รู้ว่าคนไหน” มาร์คัสกระโดดขึ้นไปหาร่างที่อยู่บนหัวตัวเองทันที
เขาหมุนตัวต่อยหมัดออกไป แถบริ้วหมัดนับร้อยพุ่งออกมาล้อมรอบร่างเงานั้นทันที
ตอนนี้การปล่อยแถบริ้วพลังเป็นเรื่องปกติของทั้งสองคนไปแล้ว
“ท่านเก่งมาก อสุระจำแรง” นาซีซัสเปลี่ยนท่าทันที
ท่าอสุระจำแรงถูกใช่ออกมาทั้งเป็นการตั้งรับ และเป็นการโจมตีไปในตัว
ริ้วพลังจากฝ่ามือของนาซีซัสรวมตัวกันเป็นรูปเทพบุตรถือดาบขนาดยักษ์พุ่งเข้าใส่มาร์คัส
ถึงรูปร่างจะดูสวยงามแต่พลังที่ตามมารุนแรงไม่ต่างจากพลังของเจ้าอสูรเลยทีเดียว
ตูม!!
พลังทั้งสองปะทะกันกลางอากาศ ร่างของนาซีซัสกระเด็นไปชนผนังด้านบน
มาร์คัสเห็นแบบนั้นรีบร่ายท่าร่างวิหกเล่นลมแบบพิสดารเข้าไปช้อนร่างเล็กนั้นไว้
“เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า” มาร์คัสถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเขาโอบกอดร่างของนาซีซัสไว้แล้ว
“ข้าไม่เป็นอะไรหรอก ท่านเป็นห่วงมากเกินไปแล้ว” นาซีซัสหน้าร้อนผ่าวเมื่อตกอยู่ในอ้อมออกของมาร์คัส
ร่างของทั้งสองคนร่วงลงสู่พื้นอย่างช้า ๆ มาร์คัสจ้องมองหน้านาซีซัสที่อยู่ห่างไปไม่กี่นิ้ว
สายตาของทั้งสองประสานกัน สร้างความอบอุ่นให้กับทั้งสองคนอย่างมาก
จนกระทั้งลงมายืนอยู่บนพื้นมาร์คัสก็ยังคงโอบกอดร่างของนาซีซัสไม่ได้ปล่อย
ทั้งสองต่างสื่อความหมายกันโดยใช้สายตาเป็นทางเชื่อม
ตุบ ตุบ ตุบ!!
เสียงหัวใจที่เต้นแรงขึ้นของนาซีซัสที่เกิดจากความตื่นเต้น
หน้าเริ่มร้อนผ่าวมากขึ้นเรื่อย ๆ คงจะร้อนยิ่งกว่าการโดนพลังย้อนกลับเวลาฝึกวิชามาก
เพราะมันทำให้หน้าเขาแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
มาร์คัสเองก็แทบไม่ต่างกันเพียงแต่เขาใช้วิชาสะกดใจไว้ทำให้อาการต่าง ๆ แสดงออกมาได้น้อยมาก
ยิ่งสายตาทั้งสองผสานกันนานมากขึ้นเท่าไหร่ หน้าของทั้งสองคนก็ใกล้กันยิ่งขึ้นเท่านั้น
หน้าของทั้งสองขยับมาใกล้กันจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นของกันและกัน ปลายจมูกสัมผัสกันเล็กน้อย
“ไปกินข้าวกันดีกว่าข้าหิวแล้ว” นาซีซัสโผล่งพูดขึ้นมา ทำเอามาร์คัสสะดุ้งเล็กน้อย
“นั่นสิ ป่านนี้คงเย็นหมดแล้วล่ะ” มาร์คัสรีบพูดแก้เขิน
เขาปล่อยตัวนาซีซัสให้ยืนด้วยตัวเอง ก่อนที่นาซีซัสจะหันหลังเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
เพราะเขากลัวว่ามาร์คัสจะสังเกตเรื่องหน้าที่เป็นสีแดงกล่ำของเขาได้ในตอนนี้
มาร์คัสเองก็ยืนสงบจิตใจอยู่สักครู่ เพราะเมื่อกี้หัวใจของเขาก็เต้นแรงไม่เป็นจังหวะเหมือนกัน
*************
โปรดติดตามตอนต่อไป