สามปีตามสัญญากำลังจะหมดลงในไม่ช้า จากครั้งสุดท้ายที่ทินกฤตไปหาจุนเจือที่ญี่ปุ่นก็ได้ตกลงกันแล้วว่าหากหมดสัญญาขอให้กลับเมืองไทยมาอยู่กับเขาเสียที เพราะท่าทีที่อ่อนลงมากของพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายนั้น แม้จะไม่ยอมรับแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อลูกทั้งสองคนก็ไม่ได้ทำอะไรเสื่อมเสีย จุนเจือเองก็เป็นนายแบบที่ประสบความสำเร็จและกำลังจะกลับมาทำงานนี้ต่อที่เมืองไทย ส่วนทินกฤตเองก็สร้างกำไรให้แก่ธุรกิจของครอบครัวทุกปี
--- RRR---
เสียงโทรศัพท์จากเลขาดังขึ้นขณะที่ประธานบริษัทกำลังเก็บของ วันนี้เขาต้องออกจากบริษัทแต่หัววันเนื่องจากเป็นวันที่รอคอยมานานมากแล้ว
...เที่ยวบินลงหนึ่งทุ่ม ต้องรีบเผ่นแล้วเรา....ทินกฤตคิดในใจก่อนจะเหลือบมองรูปภาพหน้าจอบนคอมพิวเตอร์ของตน มันเป็นรูปถ่ายของเขาคู่กับจุนเจือในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และที่ด้านหลังนั้น เห็นวิวของดอกซากุระสีชมพูอ่อนบานสะพรั่งไปทั่วเมืองโอซาก้า แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ที่ดังก็ขัดจังหวะ
"มีอะไรเหรอ นุช...." ชายหนุ่มเปิดสปีคเกอร์
"คุณทินกฤตคะ มีคนมาสมัครงานค่ะ " หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงหวานเช่นทุกครั้ง
"อะไรจะมาเอาตอนนี้...ไว้วันหลังได้ไหม ผมรีบ วางเอกสารไว้ก็ได้" ทินกฤตว่าท่าทางเหมือนลนลานว่าเขาลืมเซ็นต์เอกสารอะไรหรือเปล่า
"แต่..น้องเค้ามารอที่หน้าห้องแล้วนะคะ " เธออึกอัก
"นุช...ผมไม่ใช่ฝ่ายบุคคลนะ ให้เขาไปวางเอกสารที่ฝ่ายบุคคลซิ่....." แต่ยังไม่ทันที่ทินกฤตจะได้พูดจบประตูห้องถูกผลักเข้ามาอย่างแรง
++++++++++++
"นี่พูดกันไม่รู้เรื่องใช่ไหม คนบอกว่ารีบเนี่ย จะหิวเงินไปไหน งานมันไม่หนีไปไหนหรอก ถ้าเหมาะสมกับตำแหน่ง กับวุฒิก็จะจัดให้!" ทินกฤตตวาดเสียงดัง
"ตำแหน่งอะไรล่ะครับ?...ผมจบวิศวกรก็จริง แต่ตั้งแต่จบมาก็ไม่ได้ทำงานที่เกี่ยวข้องเลย " ช่วงขาเรียวภายใต้กางเกงยีนส์พอดีตัวนั้นเดินเข้ามาในห้องที่ปูพรมอย่างดี ด้วยจังหวะการก้าวที่งามสง่า ประตูห้องที่ถูกเปิดออกอย่างแรงเมื่อครูเด้งกลับจนมันปิดด้วยตัวเอง
น้ำเสียงที่ได้ยินทำให้คนที่กำลังอารมณ์เสียต้องหยุด ประธานบริษัทนั่งลงกับเก้าอี้ตัวใหญ่ เอนหลังผิงพนักกว้างปลายนิ้วเรียวประสานเข้าหากันบนพื้นผิวเรียบของโต๊ะทำงาน
"ตอนนี้ที่บริษัทมีตำแหน่งว่างตำแหน่งเดียว....สนใจหรือเปล่า?"ดวงตาคมพิจารณาผู้มาสมัครงาน ริมฝีปากได้รูปนั้นยิ้มน้อยๆ
เจ้าของเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเดินไปอยู่หน้าโต๊ะประธานบริษัท มือเรียวทั้งสองข้างเท้าโต๊ะแล้วโน้นตัวลงมองคนที่นั่งเก้าอี้อย่างไม่สนใจอาวุโสใดๆ กลิ่นน้ำหอมสดชื่นกรุนออกมาจากซอกคอขาวเนียนนั้น
"เงินเดือนมันไม่เยอะนะ...ก็แค่เดือนละ 1440000 บาท ตกวันละ 48000 บาท ชั่วโมงละ 2000 บาท … นาทีละ 33.33 บาท คิดง่ายๆก็100 ละ 3นาที โอเคไหม?” ชายหนุ่มยักคิ้วพลางมองหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง
" เอ๊ะ?..ทำไมเยอะจังล่ะครับ ท่านประธานยังไม่เห็นโพรไฟล์ของผมเลยนะ " ใบหน้าสวยนั้นเอียงคอพลางทำหน้าสงสัยเล็กๆก่อนจะยิ้ม แล้วถาม
" ว่าแต่..ตำแหน่งอะไรล่ะครับ..เงินก็เยอะ จะมีวันหยุดไหม สวัสดิการดีรึเปล่า..แล้วถ้าเกษียณ.. "
ทินกฤตยกมือเชิงบอกให้อีกฝ่ายหยุดถาม
"
ตำแหน่ง...ประธานกรรมการบริหารหัวใจและชีวิตของผมเอง คุณจะเอาไหม ถ้าไม่เอา ประตูอยู่ทางด้านหลัง คุณก็เคยออกไปแล้วนี่ รีบตอบมา .. ผมจะรีบไปรับเมียผม" ประธานหนุ่มทำท่าเหมือนจะไม่พอใจ แต่ริมฝีปากกลับแย้มยิ้มน้อยๆ
"แต่คุณคงต้องคิดดีๆหน่อยนะครับ...ตำแหน่งนี้เป็นงานทั้งชีวิต ไม่มีวันหยุด ไม่มีลากิจ ไม่มีลาป่วย จะรับไหม? งานหนักนะ จะทำไหม?"
"แล้วที่ผมทดลองงานมา..สามปี คุณประเมินให้ผ่านไหมล่ะครับ? ถ้ายังไม่ผ่านจะให้ผมฝึกงานอีกก็ได้นะ ให้ผมทำงานแล้วเอาเงินเดือนไปเป็นค่าไฟ...100ละ 3นาทีจูบนั่นไง" ผู้สมัครงานคนนั้นยิ้มสวยให้อีกฝ่าย ข้อนิ้วนางข้างซ้ายประดับด้วยแหวนทองคำขาวโดดเด่นด้วยเพชรเม็ดงามเรียงกันห้าเม็ด ก่อนจะหยิบใบสมัครออกมาจากกระเป๋าแล้ววางตรงหน้าอีกฝ่าย กระดาษใบนั้น มีเพียงชื่อ สกุล และตำแหน่งที่ต้องการสมัครเพียงเท่านั้น
- ผู้บริหารชีวิตและหัวใจของประธานบริษัท -
"ผ่านตั้งแต่ยังไม่ถามแล้วล่ะ" ประธานหนุ่มว่าพลางดึงคอเสื้อของคนตรงหน้าลงมาเล็กน้อยเพื่อประทับริมฝีปากจูบอย่างอ่อนโยน หากแต่แฝงไปด้วยความรักที่เปี่ยมล้น
"กลับมาแล้วเหรอ...เจือ" ทินกฤตเอ่ยถามเมื่อละริมฝีปากออกห่าง ปลายนิ้วสัมผัสผิวแก้มเนียนของคนรัก เขาไม่ได้สัมผัสใบหน้านี้ใกล้ๆมาเกือบเดือนได้แล้ว
"กลับมาแล้วครับ..เซอร์ไพรซ์ไหม ฮะฮะ? " มือเรียวเองก็แตะแก้มประธานบริษัทอย่างแสนรักเช่นกัน
"อืมมมม ...ก็พอจะคิดไว้บ้าง" ทั้งที่ใจเต้นแรงจนแทบจะกระโดดออกมานอกอก แต่ทินกฤตยังคงทำปากแข็ง
"อะราย..เดี๋ยวนี้หัดโกหก
เมียเหรอ? " จุนเจือย้อนทันควันเลยทีเดียว ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วเดินอ้อมโต๊ะไปยังหน้าเก้าอี้ประธานบริษัท
" ตำแหน่งนี้นะ..เจือคงจะต้องเหนื่อยกับการจัดการ
คนแผนเยอะอย่างพี่ไปทั้งชีวิตแน่ๆเลย "
"เรานี่ไม่รู้อะไร...."ทินกฤตกุมมือของอีกฝ่ายเอาไว้
"แผนพี่หมดไปตั้งแต่รักเราแล้ว"
"เจือเองก็หมดท่าตั้งแต่รักพี่เหมือนกัน "จุนเจือนั่งลงบนตักกว้างที่ยังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวโตนั้น ก่อนจะจูบริมฝีปากได้รูปนั้นอย่างแผ่วเบาซ้ำๆ
" รักนะครับ..คิดถึงมากๆด้วย.. "
ทินกฤตไม่ตอบกลับยกมือโอบร่างของอีกฝ่ายเข้าหา ให้เด็กหนุ่มซบหน้าลงมา ร่างสูงหลับตาลง
ในใจถามคำถามเดิมๆว่ามันผิดไหมที่จะมีความรักให้กับคนๆนี้
...คำตอบนั้นแน่ชัดมากว่าสามปีแล้ว...
ไม่เลย มันไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย...มันคือโชคชะตาของพวกเขาต่างหาก...
---จบบริบูรณ์---
talk : มาถึงตอนนี้แล้วจนได้ค่ะ อาจจะดูสั้นๆไปหน่อย แต่าสำหรับพวกเขาตอนนี้แล้ว ถือเป็นการเริ่มต้นอีกครั้งค่ะ ทั้งสองคนอาจจะต้องเผชิญปัญหากันต่อไป ทั้งครอบครัวและสังคม แต่ขอให้เชื่อในความเข้มแข็งของพวกเขาเถอะค่ะ
ต้องขอขอบคุณผู้ิ่านทุกท่านที่ให้การสนับสนุนซีรี่ส์นี้มาโดยตลอดค่ะ ทั้งที่อ่านเป็นบางเรื่อง และขอขอบคุณจริงๆสำหรับผู้อ่านที่เป็นกำลังใจให้คนเขียนทั้งสองคนมาโดยตลอดตั้งแต่ซีรี่ส์ที่ 1 จนถึง ซีรี่ส์ที่ 5 ..... ด้วยช่วงเวลาเขียนที่ยาวนานกว่าสามปีของเราทั้งสองคน และช่วงเวลาการโพสต์หนึ่งปีกว่าๆนี้ ได้รับกำลังใจจากผู้อ่านทุกท่าน มาโดยตลอด ต้องขอขอบคุณมากค่ะ
ส่วนโปรเจคภาคพิเศษตามคะแนนโหวดตัวละครนั้น กำลังทำอยู่นะคะ คงเป็นตอนสั้นๆ ซึ่งจะโพสต์อีกครั้งในกระทู้นี้ล่ะค่ะ
และสุดท้าย ขอฝาก เรื่องใหม่ด้วยนะคะูู^^ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=28274.0
kuruma
26/08/11[/color]