ชายหนุ่มร่างสูงยิ้ม ก่อนจะก้มลงจูบที่ริมฝีปากนั้นเบาๆ แสงไฟในศาลาไม่ได้สว่างอะไรนักซ้ำยังห่างจากตัวบ้าน ทำให้กล้าที่จะทำแบบนั้น
+++++++++++++
การมาถึงของลูกชายและ ชายหนุ่มร่างสูงจากกรุงเทพทำให้ผู้เป็นแม่ที่ใจไม่อยู่กับละครโทรทัศน์มาได้ซักพักใหญ่ ต้องถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะหันไปหาสามีของตน
"พ่อ...เดี๋ยวอย่าเพิ่งไปนอนนะ ลูกเขาคงมีอะไรอยากจะคุยด้วย "
" มาคุยอะไรดึกดื่นล่ะ เจ้านั่น.. "
ผู้เป็นพ่อหันไปถามภรรยาของตน และคำตอบของคำถามนั้นก็เดินขึ้นบันไดมาทั้งคู่ คือ ก้องภพที่เดินนำหน้าลูกชายของตนขึ้นมา
"คุณน้าครับ...สวัสดีครับ ขอโทษนะครับที่มาเสียดึก"
ชายหนุ่มยกมือขึ้นไหว้นอบน้อม ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่บนพื้น
" มาเที่ยวงานลอยกระทงรึคุณก้อง สนุกไหมล่ะ? "ชายวัยกลางคนถาม แล้วขมวดคิ้ว
" นั่งข้างบนซี่คุณ ไปนั่งอะไรตรงนั้นเล่า "เขาว่าพลางขยับไปดึงคนที่นั่งพื้นขึ้นมา
"ไม่เป็นไรครับ ผมขอนั่งที่พื้นนี่ดีกว่า...อีกอย่างผมมีเรื่องอยากจะมากราบเรียนคุณน้า...ทั้งสองด้วยตัวเองน่ะครับ"
ดวงตาคมสบตาของพ่อของจิ๊บนิ่ง ไม่มีท่าทีลังเล ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังเสียจนอีกฝ่ายต้องหยุดฟัง
แล้วขยับกลับขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้เช่นเดิม
ดวงตาของผู้เป็นพ่อหันไปมองหน้าลูกชายที่นั่งอยู่ข้างๆก้องภพ จิ๊บมองพื้นไม้ตรงหน้า ไม่กล้าสบตาเขาเลย
นั่นคงเกี่ยวกับลูกชายตัวดีคนนี้เป็นแน่
"ผมกับจิ๊บ...เรารักกันครับ" ก้องภพเลือกที่จะพูดออกไปตรงๆ
คำพูดนั้นทำเอาชายวัยกลางคนต้องอ้าปากค้าง
"
ทั้งผมกับจิ๊บจริงจังครับ...พวกเราผ่านเรื่องแย่ๆมาก็มาก แต่ก็เรื่องดีๆอีกมากที่ผ่านมาด้วยกัน...ผม...ในฐานะที่โตกว่าเลยอาสา มากราบคุณน้า เพื่อที่จะเรียนให้ทราบ และอยากจะขออนุญาตให้พวกเราสองคนได้คบกันครับ"
" จิ๊บ...ที่คุณก้องเขาพูดจริงเหรอลูก? "ผู้เป็นพ่อที่ฟังแล้วเงียบไปพักหนึ่งก็ถามลูกชายขึ้นมา
ทำเอาเด็กหนุ่มต้องเงยหน้าขึ้นมา ดวงตากลมโตหันไปมองทางมารดา ก่อนจะหันมาตอบคำถามของบิดา
" ครับพ่อ..พี่เขาพูดเรื่องจริง..พวกผมคบกันจริงๆครับ "คำยืนยันของลูกชายทำเอาผู้เป็นพ่อต้องนั่งกุมขมับแล้วถอนหายใจ .. ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นเลย..
" พ่อครับ จิ๊บขอโทษ "ท่าทางแบบนั้นทำให้ลูกชายคนเดียวของบ้านคลานไปกราบที่ตักของบิดา น้ำเสียงสั่นอย่างช่วยไม่ได้
"พ่อจ๊ะ..." คุณนันทิยาขยับเข้าไปใกล้สามีสองมือประคองร่างนั้นเอาไว้
" แม่..พ่อไม่เป็นไรๆ "
เขารีบบอกกับภรรยาแล้วสูดลมหายใจลึก
" แล้วคุณจะทำยังไง..คุณก้องภพ "เขาตัดสินใจถามอีกฝ่ายอย่างลูกผู้ชาย
"ผมในตอนนี้...อาจจะยังมาดูและจิ๊บที่นี่ไม่ได้ และน้องเองก็ยังเรียนอยู่ แต่ก็ผมก็ตั้งใจว่าจะมาทำธุรกิจที่นี่ อาจจะเป็นแกลลอรี่เล็กๆ เป็นร้านกาแฟแบบที่จิ๊บเขาอยากทำ แล้วก็สวนดอกไม้ เปิดเป็นโฮมสเตย์เสียที่นีเลย แต่ทั้งหมดนี้ถ้าหากคุณน้าจะอนุญาต และรู้สึกสะดวกใจ ผมก็อยากจะขอซื้อที่ดินแปลงที่คุณน้าผู้หญิงให้น้องพาผมไปดูเมื่อวันก่อนน่ะครับ...
ส่วนเรื่องราคาค่างวดผมก็อยากจะขอให้คุณน้าทั้งสองเป็นคนกำหนดให้
นะครับ" " ผมเข้าใจนะคุณก้องภพ ว่า คุณร่ำรวยขนาดไหน .. แต่นั่นมันจะแทนที่หลานให้ผมได้หรือยังไง? "หัวใจของพ่อที่กำลังเจ็บปวดถาม โดยที่ไม่ต้องการคำตอบ สิ่งนั่นราวกับเขารำพันกับตัวเองมากกว่า
และสิ่งทีได้ยินก็ทำให้เด็กหนุ่มต้องร้องไห้ออกมาอย่างช่วยไม่ได้
"พ่อ... "
"มันเป็นเรื่องที่ตัวผมเอง...ก็หาอะไรมาแทนให้พ่อกับแม่ของผมเองได้เหมือนกันครับ" ก้องภพเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เขาเคยเห็นภาพแบบนี้มาก่อน
"สิ่งที่ผม...พอจะทำให้พ่อแม่ของผมเองได้ คือการที่พยายามอย่างมากที่สุด ที่จะไม่ต้องนำเรื่องอื่นใดมาให้เขาได้อับอายอีก พยายามที่จะเป็นลูกที่ดี ที่จะทดแทนบุญคุณ ช่วยเหลือในทุกๆอย่าง ที่เขายังพอจะกรุณาให้ผมได้ช่วยเขาบ้าง...พวกเราไม่ได้ชอบที่จะต้องมาเป็นแบบนี้ แต่เมื่อเป็นแล้วเราก็อยากจะทำหน้าที่อื่นๆให้ไม่บกพร่องในส่วนที่เราขาดไป"
คำพูดของก้องภพทำให้บิดาของจิ๊บต้องมองหน้าคนรักของลูกชายอย่างเต็มตา
ในตอนนี้ เขาเห็นสีหน้า แววตาที่จริงจังของอีกฝ่าย
" เอาล่ะ..ผมเข้าใจแล้ว "มือแกร่งนั้นลูบหลังลูกชายที่กำลังร้องไห้อยู่เบาๆ
" พ่อบอกว่าเป็นลูกผู้ชายต้องเข้มแข็ง อย่าร้องไห้ไง เงียบซะจิ๊บ อายพี่เขา "" พ่อ... "เด็กหนุ่มพยายามหยุดตัวเอง มือเรียวยกขึ้นปาดน้ำตา
"ดีแล้วนะจิ๊บ....แม่ภูมิใจนะ ที่จิ๊บกับคุณก้องกล้าที่จะมาพูดด้วยตัวเองแบบนี้" ผู้เป็นแม่ยื่นมือไปหาเด็กหน่ม
"ร้องไห้ตลอดไม่ยอมโตเลยนะเรา"
ผู้เป็นพ่อพยุงลูกชายขึ้นแล้วดันให้ไปหาก้องภพเบาๆ เด็กหนุ่มสะอื้นกับสิ่งที่ผู้เป็นพ่อทำกับเขา
" คุณก้อง..ผมฝากลูกด้วยนะ ""ผมจะดูแลจิ๊บเองครับคุณน้า" ก้องภพว่าพลางก้มลงกราบทั้งสองสามีอย่างนอบน้อม
" แม่..ไปเอากล่องของพ่อในตู้มาให้พ่อหน่อย "
ผู้เป็นพ่อหันไปบอกกับภรรยา
"กล่อง?...อ้อ..จ้ะ พ่อ" ผู้เป็นภรรยารับคำดวยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินหายไปในห้องด้านในครู่หนึ่งก็เดินกลับออกมาพร้อมกับกล่องไม้ขนาดกำลังเหมาะมือ
" นี่นะ คุณก้อง รับไปสิ " พระเครื่องชื่อดังของเชียงใหม่เลี่ยมทองใส่กล่องกำมะหยี่อย่างดีถูกยื่นให้ชายหนุ่ม
"เอ๊ะ?...."ก้องภพอุทานออกมาเบาๆ แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายขยับมือเข้ามาใกล้ทำให้ต้องคลานเข่าเข้าไปรับมา
"ขอบคุณครับ" เมื่อเห็นว่าในกล่องนั้นเป็นพระเลี่ยมทองก้องภพยกมือไหว้อีกฝ่าย
" เอาไว้คุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุขนะคุณ ""ขอบคุณครับ คุณน้า..."ก้องภพยิ้มให้กับอีกฝ่าย เขาได้รับคำตอบจากครอบครัวของจิ๊บแล้ว ร่างสูงให้ไปมองหน้าเปื่อนคราบน้ำตาของเด็ก มือแกร่งยื่นมือไปป้ายคราบน้ำตานั้นออก
"เลิกร้องได้แล้ว...คุณพ่อกับคุณแม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงไง"
" ก็กำลัง..พยายามอยู่นี่ไง "จิ๊บตอบ พยายามหยุดร้องได้ มือเรียวปาดน้ำตาออกเหมือนเด็กๆ
" เอาล่ะ..งั้นเราไปนอนกันเถอะ เนอะแม่ ดึกแล้ว " ท่าทางของลูกชายกับคนรัก ยังทำใมห้รู้สึกชินไม่ได้นัก ผู้เป็นพ่อลุกขึ้นจากเก้าอี้ไม้สักที่นั่งอยู่ เขาอยากได้เวลาทำใจซักคืนก็ยังดี
"ถ้าอย่างนั้น ผม...ก็ลาคุณน้าทั้งสองเลยนะครับ..." ชายหนุ่มว่าพลางขยับลุก
" เดี๋ยวจิ๊บเดินไปส่ง "เด็กหนุ่มว่าแล้วเดินตามอีกฝ่ายออกมาติดๆ
+++++++++++++
"เห...วันนี้ใจดีเดินมาส่งด้วย?" ก้องภพแซวเด็กหนุ่มที่เดินมาส่งเขาที่รถ
" ก็เดินมาส่งแขกไง..เรื่องธรรมดาออก "ช่วงขาเรียวหยุดที่หน้ารถสีขาวที่อีกฝ่ายเช่ามาจากตัวเมือง
"แขกอะไร..."ก้องภพยิ้มพลางดึงมือของอีกฝ่ายให้ขยับเข้ามาใกล้
"คุณพ่อเพิ่งรับพี่เป็นเขยเมื่อกี้" คำพูดของคนรักทำเอาจิ๊บต้องหน้าแดง
" เรียกพ่อเลยนะ .. เขยอะไรกันเล่า! "
"ก็มาขอลูกเขาเป็นเมียแล้วนี่น้า..." ก้องภพยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปากที่กำลังจะโวยวายของอีกฝ่าย
"เดี๋ยวเขาก็ได้วิ่งมาดูกันหมดบ้านหรอก"
มือเรียวดันอกอีกฝ่ายเบาๆ
" ใครเป็นเมียพี่! "ใบหน้าสวยแดงก่ำไปถึงหู
"แล้วไม่ใช่เหรอ" ก้องภพยิ้ม ร่างสูงพิงประตูรถเอาไว้อยู่อย่างนั้น
"ไว้พรุ่งนี้พี่มารับไปส่งที่มหาลัยนะ...แล้วพี่จะกลับเลย" ท้ายเสียงนั้นแผ่วเบา ไม่อยากจะจากอีกฝ่ายไปซักเท่าไร
" กลับ? "จิ๊บทวนคำพูดอีกฝ่ายเสียงแผ่ว
" จะกลับกรุงเทพแล้วเหรอครับ? "
"อื้ม...อาจจะต้องกลับไปก่อนน่ะ ทิ้งเจ้าเคนไว้ที่โรงพยาบาลสัตว์มาหลายวันละ...อาจจะต้องกลับไปดูหน้าคร่าตามันหน่อย...เนี่ยกลับมาจากอเมริกายังไม่ทันได้ให้ข้าวให้น้ำมันเลยนะ เอามันไปฝากไว้ที่โรงบาลอีกละ..กลับไปเจอเจ้าเคนงอนพี่ก็ไม่รู้จะหามุกไหนมาง้อมันเหมือนกัน...อีกอย่าง จะกลับไปเตรียมสินสอดมาหมั้นเราน่ะซิ่" ก้องภพพูดทีเล่นทีจริง พลางยื่นมืออกไปหาอีกฝ่าย
จิ๊บจับมือข้างนั้นแล้วบีบเบาๆ
" งั้นก็..รีบๆกลับมานะ "เสียงนั้นเหมือนจะอ้อนอยู่ในที
"มาซิ่..." ก้องภพบีบมืออีกฝ่ายตอบ ออกแรงดึงมือนั้นเล็กน้อยเป็นสัญญาณให้อีกฝ่ายรู้
เด็กหนุ่มขยับเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนอีกฝ่ายอย่างว่าง่าย เขาหลับตาลงสูดกลิ่นน้ำหอมกลิ่นเดิมที่ติดตัวอีกฝ่ายเอาไว้
ก้องภพกอดอีกฝ่ายเอาไว้ในอ้อมแขน ปลายจมูกโด่งฝังลงบนเส้นผมนิ่มที่ยังคงกลิ่นแชมพู
"พี่รักจิ๊บนะ....จะไม่ทำให้จิ๊บเสียใจอีกแล้ว...อย่าหนีพี่ไปไหนอีกเลยนะ"
" ครับ .. จิ๊บก็รักพี่ จะไม่ไปไหนแล้ว.. "มือเรียวทั้งสองกอดตอบอีกฝ่ายแล้วหลับตาลง
ในอกนี้อบอุ่นจริงๆ ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บของชนบทในเชียงใหม่แบบนี้ เพราะมีความรักถึงได้ไม่รู้สึกหนาวเลยแม้แต่น้อย
+++++++++++++
เช้าวันต่อมาก้องภพแวะมารับเด็กหนุ่มในตอนเช้า พร้อมกับเข้าไปพบกับพ่อและแม่ของจิ๊บ โดยบอกว่าจะขอลากลับกรุงเทพไปทำธุระ ซักสองสามวันแล้วจะกลับมาพร้อมกับเอกสาร และเงินที่จะนำมาซื้อที่ดิน
และชายหนุ่มก็ทำอย่างที่ให้สัญญาเอาไว้จริงๆ
+++++++++++++
ก้องภพเดินทางไปๆกลับๆ กรุงเทพเชียงใหม่อยู่เรื่อยๆ เป็นเวลาหลายปีนับจากนั้น และทุกครั้งก็จะได้พ่อของจิ๊บเป็นคนช่วยให้คำปรึกษาในการดูแลที่ดินผืนนั้นที่ก้องภพพยายามจะพัฒนาให้เป็นโฮมสเตย์เล็กๆ ที่มีทั้งสวนดอกไม้และแกลลอรี่สำหรับทำงานของตัวเอง และร้านกาแฟของจิ๊บ
ครั้งนี้ก็เช่นกัน ชายหนุ่มยืนมองช่างก่อสร้างกำลังทำงานอย่างขมักเขม้นภายใต้แสงแดด แต่ยังมีลมเย็นของปลายฤดูหนาวที่ยังไม่พัดผ่านไป
มือแกร่งที่มีสายสิญจน์ผูกอยู่ที่ข้อมือนั้นยกมือขึ้นป้องตาให้พ้นจากแสงแดด เมื่อมองยอดหลังคาที่เป็นรูปร่างไปตามที่เขาออกแบบเอาไว้ ริมฝีปากได้รูปนั้นหยักยิ้มกับภาพที่วาดเอาไว้ที่กำลังก่อร่างสร้างขึ้นอย่างช้าเป็นขั้นเป็นตอน
"แบบนี้ก็รอต้นไม้โตอีกนิด... ประชาสัมพันธ์อีกหน่อยก็เปิดได้แล้วล่ะนะ..."
ความเย็นของเครื่องดื่มใส่แก้วพลาสติกกระทบกับผิวแก้ม ถูกยื่นด้วยมือเรียวของอีกคนที่ผูกสายสินจน์เช่นเดียวกัน
" คาปูชิโน่ ไม่หวานได้แล้วครับ "
บัณฑิตคนใหม่เดินมาจากด้านหลัง ใบหน้าสวยระบายด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้เขากำลังเปิดมุมกาแฟเล็กๆหน้าไร่ เพื่อรอให้ที่ตรงนี้เป็นรูปเป็นร่าง
"ขอบคุณครับ..." ก้องภพยิ้มพลางรับแก้วกาแฟนั้นมาไว้ในมือ ในขณะที่มือที่ว่างอีกข้างก็โอบไหล่ของจิ๊บเอาไว้หลวมๆ
"ที่ตรงนั้นยังพอมีเหลือ จิ๊บอยากให้พี่ปลูกดอกไม้อะไรข้างๆเรือนใหญ่หรือเปล่า ลีลาวดีเป็นไง"
ก้องภพว่าพลางชี้ไปทางบริเวณที่อยู่ใกล้กับระเบียงไม้เล็กๆที่ยื่นออกมาจากเรือนใหญ่ที่ปลูกเป็นเรือนทรงแบบล้านนา
" อะไรก็ได้ครับ..แล้วแต่เจ้าของกิจการเนอะ.. "
ดวงตากลมโตยังคงสดใสไม่เปลี่ยน จะเปลี่ยนไปก้แค่ในบางครั้งก็สามารถมองหลายสิ่งได้มุมมองของผู้ใหญ่แล้วก็แค่นั้น
จิ๊บสบตาอีกฝ่าย
" ว่าแต่..ทำไมพี่ถึงชอบดอกลีลาวดีล่ะครับ? ""
รูปที่โพสต์ในเล้า..พี่ก็วาดจิ๊บทับกับดอกไม้นี่ "
ชายหนุ่มร่างเพรียวโอบเอวอีกฝ่ายเอาไว้ แล้วเงยหน้าสบตา คำพูดนั้นทำให้ก้องภพหันมามองหน้าของอีกฝ่ายตาโต
“นี่แสดงว่าเห็นรูปที่โพสต์นั่นตั้งนานแล้วซิ่....
ความจริงก็ใจอ่อนกับพี่ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วใช่ไหมล่ะ” ก้องภพเอ่ยอย่างรู้ทันแต่ก็โดนอีกฝ่ายตีเข้าที่อกเสียงดัง รูปภาพทั้งหมดที่เขาเคยโพสต์ให้ดูเฉพาะในอินเตอร์เน็ตตอนนี้คงกำลังเดินทางใกล้จะมาถึงเชียงใหม่เต็มที เขาตั้งใจว่าจะเอาเอาเข้าไปไว้ในกระท่อมเล็กๆพวกนี้ทุกหลัง...อยากจะอวดรูปที่เขาวาดด้วยความรักให้ใครต่อใครได้เห็นกันให้ทั่ว
"อืม...นั่นซิ่นะ..."ก้องภพยิ้มให้กับอีกฝ่ายมือที่เกาะกุมไหล่บางนั้นเลื่อนมาแตะที่ผิวแก้มของจิ๊บทั้งๆที่ยังโอบอีกฝ่ายเอาไว้แบบนั้
"จำได้ไหม...ตอนที่เราไปอยุธยาด้วยกัน...ไม่ซิ่..ที่ไปทัศนศึกษากับที่มหาลัยน่ะ" ก้องภพเท้าความย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่เขายังรู้สึกก้ำกึ่งอยู่ระหว่างความพึงพอใจที่จะได้เฝ้ามอง กับความอยากจะเข้ามาทำความรู้จักเพื่อที่จะได้อยู่ร่วมกันตลอดไป ระหว่างตัวเขากับอีกฝ่าย
" ที่พี่ ไซโคให้จิ๊บไป ใช่ปะ? " จิ๊บยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยเมื่อนึกถึงตอนนั้น ก้องภพอยู่ในฐานะอาจารย์ ส่วนเขาก้เป็นนักเรียนที่ไม่เคยเรียนวิชานั้นเลย
"เปล่า ไซโคซักหน่อย" ก้องภพหัวเราะออกมาเบาๆ
"
ก็ถ้าวันนั้น ดอกลีลาวดีนั่น ไม่ตกลงมาใส่หัวพี่...พี่ก็คงไม่เข้าใจตัวเอง...ว่าพี่อยากจะปกป้องจิ๊บ ให้เหมือนกับดอกไม้นั่น...เราน่ะ เป็นดอกไม้ของพี่นะรู้รึเปล่า เคยรู้ไหมเนี่ย" ปลายนิ้วของศิลปินหนุ่มแตะเบาๆที่ปลายจมูกของเด็กหนุ่ม
" ดอกไม้ที่พี่ทอดกินน่ะเหรอ? "
แม้ก้องภพจะชอบหยอดคำพูดหวานซึ้ง แต่คนอย่างจิ๊บก็ไม่ชินเสียที ต้องเฉไฉไปทำเป็นเรื่องตลกเสียเรื่อยเลย
"อร่อยด้วยนะ" ปลายลิ้นแลบออกมาพร้อมสายตาที่มองมาอย่างมีความหมาย ก้องภพคว้ามืออีกฝ่าย เอาไว้ทันที
"ทำหน้าแบบนี้เดี๋ยวพาเข้าเมืองเลย..." " ใครจะไปกับพี่? จิ๊บจะกลับบ้านแล้ว "คนตัวเล็กกว่าเถียงอีกฝ่ายไม่เลิก แถมด้วยคำพูดติดปาก
แล้วถอยออกมา ทำท่าจะกลับไปจริงๆ
" ก็แล้วถ้าจิ๊บกลับบ้านแล้ว
พี่จะกอดจื๊บยังไงล่ะ "ศิลปินหนุ่มหันมามองหน้าของคนรัก สายตาเอาจริงตามคำพูด
" บ้า! พี่พูดอะไรของพี่น่ะ ไม่อายคนงานเค้ารึไง? " จิ๊บโวยวายใส่ เสียงดัง
ก่อนจะยกมือขึ้นปิดปาก ทำตาโตเมื่อรู้ตัวว่าพูดเสียงดังเกินไปแล้ว
" แสดงว่ารู้แล้วสิ ว่าพี่หมายความว่ายังไง " ก้องภพกระซิบ ก่อนจะดึงแขนบางๆนั้นไปที่รถเอสยูวีคันใหญ่สีดำไป แล้วขับออกไปทันที ไม่สนใจเสียงโวยวายในรถแม้แต่น้อย
ตรงข้าม เขากลับหัวเราะกับท่าทางแบบนั้นของดอกไม้ขาวีนของตนเองอย่างมีความสุข...
จบบริบูรณ์
รีดเดอร์คะ ...
ขอบคุณมากค่ะที่มอบความรักและเอ็นดูให้น้องจิ๊บมาตลอด .. และให้ความเมตตากรุณาแก่พี่ก้อง(บ้าง) ตลอดเวลาที่โพสต์เรื่องแรกของ Series นี้ ไรเตอร์มีความสุขมากค่ะ ..

kuruma & p.k.a.
ปล. เรียน Moderator คะ .. อีกไม่นานไรเตอร์จะโพสต์ เรื่องที่ 2 ของ Series นี้ต่อในกระทู้นี้เลยนะคะ ขอความกรุณาไม่ต้องย้ายไปตรงที่"นิยายที่โพสต์จบแล้ว" นะคะ โปรดติดตาม
หอมกลิ่นกาแฟ Series>>2nd Story:รักเจือกลิ่นเงิน
ได้ที่นี่เร็วๆนี้ค่ะ