บ่ายวันอาทิตย์ที่มีแต่อากาศที่ร้อนระอุ ผิดกับตอนกลางคืนที่มีแต่ความหนาวเหน็บ จิ๊บกลับออกมาจากมหาวิทยาลัยด้วยมอเตอร์ไซค์คันกลางเก่ากลางใหม่หลังจากที่ต้องกลับเข้าไปทำรายงานกลุ่ม โทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้นหลายครั้งโดยที่ปลาสายคือ คนรักคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นประธานหอพักในมหาวิทยาลัย แต่เด็กหนุ่มก็เลือกที่จะไม่รับโทรศัพท์
+++++++++++++
หลังจากที่กลับมาถึงบ้านไร่ของตน จิ๊บจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วขับมอเตอร์ไซค์ไปยังบ้านผู้ใหญ่บ้านเพื่อทำการไว้ครู และซ้อมครั้งสุดท้ายก่อนแสดง รวมถึงแต่งตัวแต่งหน้าให้เรียบร้อย วันนี้บ้านของผู้ใหญ่บ้านคึกคักเป็นอย่างมาก ฝ่ายขบวนแห่ประทงลองเครื่องเสียงกับเครื่องปั่นไฟตั้งแต่เช้า ยิ่งได้น้ำเมามาช่วยก็ยิ่งทำให้สนุกสนานกันเข้าไปใหญ่ ส่วนฝ่ายแม่บ้านและสาวประเภทสองทั้งในและนอกหมู่บ้านต่างก็ช่วยกันจัดกลีบกระทงใหญ่ขนาดเมตรครึ่ง และตกแต่งไฟประดับอย่างสวยงาม
ภายในบ้านไม้สูงชั้นครึ่ง ยกไต้ถุนสูงนั้น น้องนิ่มเด็กสาววัย18ที่เป็นหลานสาวของู้ใหญ่บ้านกำลังถูกจับแต่งตัวเป็นนางนพมาศด้วยชุดพื้นเมืองล้านนา หล่อนหันมามองจิ๊บอย่างเขินอายแล้วยกมือไหว้
" พี่จิ๊บ สวัสดีค่ะ " เสียงเล็กๆเอ่ยทักแล้วยิ้มอย่างอายๆ
" สวัสคีครับ "
จิ๊บรับไว้แล้วเดินเข้าไปหา ทำเอาสาวประเภทสองที่กำลังแต่งหน้าให้น้องต้องหันมามองเป็นตาเดียว
ส่วนคนที่มาใหม่เมื่อถูกมองแบบนั้นเลยยกมือไหว้แก้เขิน
" สวัสดีครับพี่ "เขาว่าแล้วหันมาพูดกับนางนพมาศของหมู่บ้าน
" ปีนี้พยายามเต็มที่นะครับ น้องนิ่ม เดี๋ยวพี่ไปหาพ่อหลวงก่อนนะ "
ว่าแล้วก็ขอตัวไปยังห้องพระอีกด้าน เพื่อเตรียมไหว้ครู พร้อมๆกับคนที่ต้องแสดงในคืนนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นขบวนกลอง หรือการแสดงฟ้อนต่างๆ
+++++++++++++
เสียงมอเตอร์ไซค์ที่ปรับแต่งเครื่องมาเสียแรงของหนุ่มวิศวะ วิ่งเข้ามาจอดตรงลานกว้างหน้าบ้านของพ่อหลวง หมวกกันน็อคถอดออกพร้อมกับใบหน้าของคนขับที่หันซ้ายขวาสอดส่ายสายตา มองหาคนรักของตัวเอง
"จิ๊บ...." เก่งร้องเรียกคนรักพลางกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปหา กลางหลังมีเป้ใบใหญ่ท่าทางจะหนักอยู่ไม่น้อยสะพายอยู่
" อ้าว..พี่เก่ง? "จิ๊บทำเหมือนแปลกใจเป็นอย่างมากที่เก่งมาอยู่ที่นี่ ท่าทางของคนรักที่มาหาเขาอย่างเร่งรีบนั้น ดึงความสนใจของใครได้หลายคน
" มาได้ยังไงครับเนี่ย? "
"ขับรถมาน่ะ..."เก่งยิ้มทั้งๆที่ยังหอบอยู่น้อยๆ ดวงตาของชายหนุ่มมองหน้าที่ดูแปลกตาไปของคนรัก
"แต่งหน้าด้วยเหรอ..." มือหยาบยกขึ้นแตะปลายคางของคนตรงหน้าเบาๆ
"วันนี้แฟนพี่หล่อขนาดนี้จะเสร็จสาวไหนไหมเนี่ย เลยมาเช็คดู "
" อะ.. " ใบหน้าสวยขยับออกจากมือของอีกฝ่ายเล็กน้อย
" คนมองอยู่นะครับ " ดวงตาคู่สอยไม่กล้าสวยตาอีกฝ่ายตรงๆ
เก่งขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ
"อ่ะ...ขอโทษที..แล้วนี่เดี๋ยวค่อยเคลื่อนขบวนกันออกไปใช่ไหม...พี่จะได้ไปรอถ่ายรูปตรงนั้น นี่วันนี้พกอุปกรณ์มาเต็มเลย เพื่อนมันใช้ให้ไปถ่ายรูปนางนพมาศ "
" เคลื่อนขบวนประมาณหกโมงอะพี่ .. หมู่บ้านจิ๊บนี่ขบวนที่ห้าก็คงประมาณทุ่มนึง..เดี๋ยวพี่ไปหาข้าวกินที่ตลาดนัดก่อนแล้วค่อยมาก็ได้ "
เด็กหนุ่มชี้ไปที่ด้านหน้าของหมู่บ้าน ซึ่งใกล้ถนนสายหลัก วันอาทิตย์แบบนี้มีตลาดนัดที่มีของอร่อยมากมายเลยทีเดียว
"อืม แล้วเดี๋ยวพี่จะไปรอก็แล้วกันนะ..."เก่งว่า แต่ก็คว้าขอมือของอีกฝ่ายเอาไว้
"นี่ จิ๊บ...ซ้อมหนักเหรอ"
" ครับ? "ดวงตากลมโตมองหน้าคนรักอย่างแปลกใจ
"เห็นไม่ค่อยรับโทรศัพท์พี่เลย ช่วงนี้หอก็ไม่ได้กลับ เป็นห่วงน่ะ ซ้อมหนักเหรอครับ"
" ก็..ช่วงนี้ต้องทำรายงานกลุ่ม แล้วก็..ซ้อมหนักน่ะครับ " คำพูดแสดงความเป็นห่วงนั้นทำให้จิ๊บรู้สึกผิด ได้แต่เอออตามที่อีกฝ่ายว่า ก่อนจะดึงมือตนเองออกช้าๆ
" งั้น..เดี๋ยวเจอกันใกล้ๆ ลานจัดงานนะครับ "
"เหรอ...โอเค งั้นเดี๋ยวเจอกันนะ" เก่งยกมือขึ้นลูบผมของอีกฝ่ายเบาๆ แล้วเดินกลับไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของตตัวเอง ท่าทางของจิ๊บทำให้อดจะรู้สึกแปลกๆไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ได้อยากจะถามอะไรไปมากกว่านี้
+++++++++++++
หลังจากผละจากเก่งได้แล้ว จิ๊บก็ต้องไปแต่งตัว แต่เมื่อพบว่าชุดที่ให้แต่งสำหรับการฟ้อนดาบคืออะไร เจ้าตัวก็ถึงกับอ้าปากค้าง
" ใส่แค่เนี้ย? "
นี่คือคำแรกที่เขาอุทานออกมา แล้วก็เดินตึงตังไปหาพ่อหลวง เพื่อขอเปลี่ยนชุด แต่คำตอบที่ได้รับก็ทำเอาเด็กหนุ่มถึงกับหน้าหงายว่า
" เอาน่า ทำเพื่อหมู่บ้านนะลูกนะ .. "
+++++++++++++
ขบวนแห่กระทงใหญ่ของหมู่ที่ห้า ประกอบไปด้วยป้ายหมู่บ้านที่มีเด็กสาวๆในหมู่บ้านแต่งตัวด้วยชุดผ้าฝ้าย ตามมาด้วยขบวนป้ายผ้ารณรงค์อนุรักษ์วัฒนธรรมล้านนาและชุดการแสดงล้านนาที่พ่อหลวงเป็นคนลงมือฝึกซ้อมและเกณฑ์ลูกศิษย์มาแสดงเกือบทั้งหมู่บ้าน นำโดยนักแสดงฟ้อนดาบอย่างจิ๊บที่สวมผ้ายกจีบสีแดงเหน็บเอวเพียงตัวเดียว ส่วนศีรษะก็โพกด้วยผ้าสีขาวสลับกับสีแดง เผยให้เห็นกล้ามเนื้ออกพองามที่ขาวเนียนโดดเด่นแม้ในความมืด ที่แขนทั้งสองข้างมีผ้ามัดอยู่ เด็กหนุ่มเดินตามป้ายฝ้าด้านหน้าด้วยเท้าเปล่า มือท้งสองข้างถือดาบล้านนาเอาไว้มั่น
ตามมาด้วยกลุ่มของชาวบ้านที่แต่งตัวตามกลุ่มสังกัด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแม่บ้าน ที่สวมเล็บสีทอง เตรียมฟ้อนเล็บ จึงตามมาด้วยขบวนรถแห่ประทงใหญ่ที่มีน้องนิ่มคนสวยนั่งอยู่ในกระทง และเด็กผู้หญิงตัวเล็กสามคนที่แต่งตัวเป็นหนูน้อยนพมาศ ถือกระทงใบเล็ก คอยโบกมือไปตลอดทาง ฝ่ายนางนพมาศ ก็ยิ้มหวาน โบกมือทักทายสลับกับยกมือไหว้เจ้าหน้าที่ที่เป็นฝ่ายจัดงานที่มาเตรียมความพร้อมก่อนเคลื่อนขบวน ทุกคนดูแช่มชื่น
ฟ้าเริ่มมืด เสียงเพลงแบบล้านนาดังเรื่อยลอยมาตามลม ผู้คนรอบด้านที่เข้ามาดู ขบวนเริ่มเบียดตัวเข้ามากันเพิ่มมากขึ้น
ก้องภพเองก็เป็นคนหนึ่งที่เบียดเสียดตัวเองเข้าไป ดวงตาคมก็พยายามสอดส่ายสายตามองหา ชื่อของหมู่บ้านของจิ๊บ หวังจะเดินเข้าไปหาเจ้าตัวให้ได้ก่อนที่ จะเริ่มเคลื่นขบวน
"จิ๊บ..." ก้องภพเดินเข้าไปหาเด็กหนุ่มที่รับหน้าที่ฟ้อนดาบในคืนนี้ โดยที่ไม่ได้ ระแวงระวังต่อสายตาของใครต่อใครเลย มือแกร่งฉวยแขนของเด็กหนุ่มเอาไว้
" พี่ก้อง? "
เสียงนุ่มเรียกชื่อของชายหนุ่มอย่างตกใจ ไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะเดินเข้ามากลางขบวนแบบนี้
ทำเอาชาวบ้านในขบวนและรอบข้างต่างก็ต้องหันมามองชายหนุ่มที่มาใหม่อย่างแปลกใจ ตามมาด้วยเสียงซุบซิบของหญิงสาวหลายๆคนที่ชื่ชมในความหล่อเหลาของชายหนุ่มที่มาใหม่คนนี้
"เอ่อ...." เพราะเสียงและสายตาของคนรอบข้างนั่นเองที่ทำให้ก้องภพรู้สึกตัว
"ขอเวลาให้พี่ซักสองสามนาทีได้ไหม...ไม่นานหรอก" ถึงปากจะถามแต่ก็ไม่ได้รอคำตอบมือแกร่งดึงเด็กหนุ่มให้เดินหลบฉากออกมายังข้างทางทันที
" แม่ครับ..ฝากดาบก่อนเน้อครับ " มือที่ดึงเขาออกไปทำให้เด็กหนุ่มรีบฝากดาบที่ใช้แสดงคู่นั้นไว้ในมือของแม่บ้านอยู่อยู่ด้านหลัง ก่อนจะตามอีกฝ่ายออกไป
+++++++++++++
ก้องภพพาอีกฝ่ายเดินออกห่างจากขบวน เดินมาหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ที่ยืนต้นอยู่ที่ข้างทาง มีความมืดพรางกายของสองคนเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ดวงตาคมสบตาของเด็กหนุ่มนิ่ง
" มี..มีอะไรครับ? "
สายตาที่มองมาทำเอาออรถนันท์ต้องหันหน้าไปอีกทาง รู้สึกร้อนไปทั้งหน้าทั้งๆที่อากาศกำลังหนาวเย็น
"เดี๋ยวจะไปฟ้อนแล้วใช่ไหม..." มือแกร่งแตะใบหน้าของเด็กหนุ่มเบาๆ
"เดี๋ยวพี่จะรอดูนะครับ"
" อื้ม.. "ใบหน้าสวยพยักหน้าแรงๆ รับรู้ แต่ก็ไม่วายบ่น
" แค่นี้เอง.ไม่เห็นต้องลากออกมาเลย "
"ใครว่าแค่นี้เอง...." ก้องภพยิ้ม มือแกร่งดันร่างของอีกฝ่ายชิดกับต้นไม้ใหญ่ ที่อยู่ด้านหลัง อาศัยเงาไม้อำพราง ปลายจมูกโด่งไล้ บนผิวนวลข้างแก้มของเด็กหนุ่มแผ่วเบา
"เห็นจิ๊บแบบนี้....อยากจะพาจิ๊บกลับไปกับพี่เสียเดี๋ยวนี้เลย" ร่างสูงกระซิบเสียงเบาที่ข้างหู
"ก็มันเป็นชุด..ฟ้อน "เด็กหนุ่มเถียงเบาๆ
"งั้นต้องชมคนเอามาให้ใส่ซิ่นะ..." มือแกร่งไม่วายซุกซนไล้ยั่วบนอกเปลีอยของอีกฝ่าย
" ไม่ได้นะพี่ก้อง! "มือซุกซนนั่นโดนตีอย่างแรง ร่างบางดันอกหนาๆของชายหนุ่มภายในเสื้อแจคเก็ตยีนส์ออกทันที
"
จิ๊บไหว้ครูแล้ว .. อย่าทำแบบนี้ "เขาพูดจริงจัง ไม่มีวี่แววส่ากำลังเล่นอยู่แม้แต่น้อย
"ล้อเล่นหรอกนะ..." ก้องภพยิ้มกับท่าทางของอีกฝ่าย "ไป...พี่พากลับไปส่งนะ" มือแกร่งยื่นให้อีกฝ่ายจับ "ไม่เล่นแล้ว"
" ไม่เอา..คนเยอะแยะ เดี๋ยวจิ๊บกลับเอง "นักรำดาบหนุ่มส่ายหน้าไปมา ก่อนจะสูดลมหายใจลึก
" จะได้ทำสมาธิด้วย "ว่าแล้วก็เดินกลับเข้าไปในขบวน
+++++++++++++
แต่เมื่อกลับเข้าไปในขบวนก็ต้องตกใจอีกรอบเมื่อ เห็นว่าดาบที่จะใช้แสดงคู่นั้นอยู่ในมือใคร
" พี่เก่ง? ""จิ๊บไปเข้าห้องน้ำมาเหรอ...เห็นป้าเขาว่าอยู่ๆก็พรวดพราดออกไป...เดี๋ยวไม่ทันขบวนนะ" เก่งยิ้มพลางส่งดาบให้กับอีกฝ่าย
"พอดีป้าเขาก็จะไปเข้าห้องน้ำเหมือนกันน่ะ "
" เอ้อ..ใช่ๆ จิ๊บไปห้องน้ำมา " จิ๊บต้องเออออไปกับอีกฝ่าย แต่คำพูดนั้นก็ทำเอาป้ากลุ่มแม่บ้านต้องหันมามองเด็กหนุ่ม ลูกเจ้าของไร่นันทิยากันอีกรอบ
...เด็กผู้ชายสมัยนี้เป็นแบบนี้กันไปหมดรึนี่...แถมยังตั้งสองคนอีก...คนฟ้อนดาบต้องหันไปยิ้มให้ป้าๆอย่างเสียไม่ได้ แล้วเอาดาบจากมืออีกฝ่ายมา
" พี่เก่งไปรอถ่ายรูปตรงโน้นนะ .. เดี๋ยวขอจิ๊บทำสมาธิก่อน ขบวนจะออกแล้วอะ "
"ครับๆ...เดี๋ยวจะรอถ่ายรูปนะ" ว่าพลางก็ยกกล้องโชว์ให้อีกฝ่ายดู แล้วโบกมือก่อนจะเดินจากไป
แต่ถึงจะบอกไปแบบนั้น พอเอาตัวเองออกมาจากแนวขบงนได้แล้วเก่งก็หันเลนส์กลับมาคอยกดชัตเตอร์ถ่ายภาพของเด็กหนุ่มทีเผลอไปเรื่อย โดยทำทีเป็นถ่ายภาพของนางนพมาศและริ้วขบวนไปด้วยในคราเดียว
+++++++++++++
ขบวนกระทงใหญ่ของหมู่ห้าเริ่มเคลื่อนไปยังบริเวณจัดงานซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณสองกิโลเมตร ระหว่างนั้น เสียงสปอร์ตบรรยายขบวนกระทงประกอบเพลงล้านนาดังขึ้นเรื่อยๆ ช่วงขาเรียวของช่างห้อนดาบเดินไปข้างหน้าพลางทำสมาธิไปด้วย จนกระทั่ง ถึงบริเวณเวทีตัดสินที่มีคณะกรรมการนั่งอยู่
สปอร์ตบรรยายขบวนถูกปิดลง เปลี่ยนเป็นเสียงขบวนกลองที่ดังเป็นจังหวะสำหรับการฟ้อนดาบของจิ๊บ
เด็กหนุ่มหลับตาลงทำสมาธิก่อนจะร่ายรำไปตามจังหวะกลองด้วยความคล่องแคล่ว
หูทั้งสองข้างได้ยินเสียงชัตเตอร์ดังขึ้นรัวๆ แต่ถ้าเทียบกับเสียงกลองแล้ว มันเบากว่ามากนัก
แม้ในปากจะรู้สึกได้ถึงรสเค็มๆ ที่ชวนอาเจียน แต่ดูเหมือนการไหว้ครูเมื่อตอนบ่ายจะช่วยให้เขามีสมาธิกับสิ่งที่ทำได้มาก
จังหวะกลองที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้จังหวะการแว่งดาบเร็วขึ้นอีก เด็กหนุ่มนำดาบพาดกันเป็นรูปกากบาทก่อนจะเยียดแขนออกไปแล้วพ่นของเหลวรสเค็มที่อยู่ในปากออกไป
ก้องภพเองที่ยืนดูอยู่ห่างๆก็ได้แต่ยิมไปกับลีลาการร่ายรำที่อ่อนช้อยแต่แฝงไปด้วยพละกำลังในแบบของคนหนุ่ม
ร่างขาวที่มีกล้ามเนื้ออยู่พองามนั้นยิ่งชวนมองมากขึ้นเมื่ออยู่ท่ามกลางแสงไฟ หากเขาไม่คิดเช่นนั้นแล้วคงไม่เดินด่มเข้าไปหาอีกฝ่ายแบบนั้น
จากละอองน้ำรสเค็ม เมื่อพ่นใส่เปลงไฟเล็กๆก็กลายเป็นเปลวไฟขนาดใหญ่
---ฟู่---เสียงของ
ไฟที่ดังขึ้นมาเรียกเสียงกรี๊ดเล็กๆและเสียงฮือฮาได้จากคนรอบข้างไปทั่ว
เปลวไฟที่พวยพุ่งออกมาทำเอาคนที่ยืนดูอยู่ถึงกับสะดุ้ง หวาดเสียวเหลือเกินว่าการแสงที่ผาดโผนแบบนี้นจะเกิดการผิดพลาดหรือเปล่า โชคดีที่ลมยังเป็นใจไม่พัดสวนกลับเข้ามา ทำให้ยีงเสียงฮือฮา อื้ออึงอยู่ไม่น้อย
ก้องภพถึงกับยกมือขึ้นปาดเหงื่อเม็ดเล็กที่อยู่ๆก็ผุดขึ้นมาที่หน้าผากอย่างโล่งอก
"โอย...จะทำพี่หัวใจจะวายไปถึงไหนจิ๊บ..." +++++++++++++
การแสดงนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น เสียงกลองจบลงตามมาด้วยเสียงปรบมือให้กับการแสดงที่หวาดเสียวที่สุดของวันนี้จากนักรำดาบเด็กหนุ่มหน้าตาดี ลูกชายเจ้าของไร่นันทิยา
ขบวนสิ้นสุดลงที่ด้านหลังเวทีประกวดนางนพมาศ
เด็กหนุ่มยกมือไหว้ขอบคุณทุกคนที่อยู่ในขบวนก่อนจะเดินแยกตัวออกมา
"จิ๊บ...งั้นเดี๋ยวกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเลยนะ" เสียงช่างแต่งหน้าที่คอยเดินตามขบวนคนนึงร้องบอกเด็กหนุ่ม
" ดีๆ หนาวจะแย่แล้วครับพี่ "เด็กหนุ่มยกมือกอดแผ่นอกเปลือยของตัวเอง
"จะกลับเหรอ...เดี๋ยวให้พี่ไปส่งไหม" เสียงก้องภพดังขึ้นจากด้านหลัง พร้อมกับเสื้อแจ็คเก็ตยีนส์ที่คลุมลงบนไหล่ของเด็กหนุ่ม
เสียงกับความอบอุ่นของเสื้อที่คลุมมา ทำให้เด็กหนุ่มต้องหันไปมอง เป็นก้องภพที่มาหาเขานี่เอง
" เอ่อ พี่เอ เดี๋ยวจิ๊บกลับเองครับ พี่ไปก่อนเลย "เด็กหนุ่มบอกกับช่างแต่งหน้าแล้วยิ้มให้
"จ้า..."เสียงช่างแต่งหน้าว่าพลางอมยิ้ม ก่อนจะเดินไปอีกทาง
"งั้นกลับกับพี่นะ" ก้องภพว่าพลางยิ้มให้กับอีกฝ่าย
มือแกร่งจับมือของอีกฝ่ายให้เดินตามไปยังที่ที่ตัวเองจอดรถทิ้งเอาไว้
"จิ๊บ" แต่เสียงเรียกก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
...แย่แล้ว..เด็กหนุ่มหลับตาปี๋ เขารู้ได้ทันทีว่านี่คือเสียงใคร
"จะไปไหนเหรอ...." เก่งเดินเข้ามาใกล้ทั้งสองคน ดวงตาคมเข้มนั้นสบตาของคนที่ยืนอยู่ข้างๆคนรักของตัวเองนิ่ง ราวกับจะถามว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
" พี่เก่ง .. นี่พี่ก้อง..ครับ "จิ๊บจำเป็นต้องแนะนำให้ทั้งสองคนรู้จักกันอย่างช่วยไม่ได้
เก่งยกมือไหว้อีกฝ่ายด้วยเห็นว่าดูจะมีอาวุโสมากกว่า แต่ดวงตานั้นยังมองหน้าของร่างสูงนั้นสลับกับมือแกร่งที่จับมือของจิ๊บเอาไว้
"จิ๊บจะกลับบ้านไม่ใช่เหรอ ไปเดี๋ยวพี่ไปส่ง"
" พี่เก่ง..พี่ก้องครับ .. เดี๋ยวเราไปเจอกันที่บ้านจิ๊บดีไหม .. พี่สองคนตามจิ๊บไปนะ เดี๋ยวจิ๊บว่า จิ๊บกลับเองดีกว่า "
เมื่อเห็นว่าเรื่องคนไม่จบง่ายๆ เขาสามคนคงต้องเคลียร์กันอีกยาว เด็กหนุ่มจึงเสนอหนทางให้ เพราะดูท่า เก่งกับก้องภพจะไม่ยอมกันเลย
" นะครับ .. เดี๋ยวเจอกัน "
พูดจบก็เดินกลับไปเพียงคนเดียว มือเรียวกระชับเสื้อแจคเก็ตของชายหนุ่มไว้แล้วขอซ้อนมอเตอร์ไซค์ของคนในหมู่บ้านเพื่อกลับไปที่ไร่
ก้องภพมองตามร่างนั้นไปพลางยิ้ม ก่อนจะหันมามองหน้าของเก่งเหมือนนึกขึ้นได้ ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ
"งั้นก็เอาตามนั้นก็แล้วกันนะ..".
"อืม..."เก่งรับคำด้วยใบหน้าเรียบเฉยก่อนจะเดินไปอีกทาง
+++++++++++++
รีดเดอร์คะ ... เรามาร่วมสนุกกันดีกว่าค่ะ บรรยากาศวันนี้ จะใช้เพลงอะไรประกอบดีคะเนี่ย .. เราสามคนมากมาย 55+ 