นักศึกษาฝึกงานทั้งสิบคน หลังจากเข้าพบฝ่ายบุคคลและได้ถูกแบ่งกันออกไปทำงานยังแผนกต่างๆ แล้ว แผนกวิศวะมีเด็กฝึกงานทั้งหมด 3 คน หนึ่งในนั้นมาจากเชียงใหม่
" นายอยู่แถวไหนน่ะ แล้วนึกยังไงมาฝึกงานกรุงเทพคนเดียว? " จุนเจือถามเพื่อนร่วมแผนก การมาฝึกงานต่างจังหวัดคนเดียวนี่ต้องอาศัยความกล้ามากเลยทีเดียว
"หออยู่แถวสะพานควายโน่น...ส่วนที่มาฝึกงานแถวนี้ก็...อืม ก็แค่อยากอยู่ห่างบ้านบ้าง เรียนโน่นโตที่โน่น อยู่โน่นตลอดมันไม่ได้เห็นอะไรกันพอดี อีกอย่าง อกหักมาหมาดๆ" หนุ่มเชียงใหม่ว่าพลางหัวเราะออกมาเบาๆ
"เอ้อ เราชื่อเก่ง...นายชื่ออะไร" ก่อนจะแนะนำตัวเองพร้อมถามชื่อ “เพื่อนใหม่” เสร็จสรรพ
" เราจุนเจือ .. เรือกจุน หรือ เจือก็ได้ .. ส่วนไอ้นี่ " นักศึกษาหนุ่มหน้าสวยตบเข้าที่หลังเพื่อนอย่างแรง เมื่ออีกคนไม่ได้สนใจอะไรนอกจากเล่นเฟซบุคผ่านไอโฟนของตัวเอง
" โอ๊ย สาด! " เสียงอุทานดังลั่นพลางคลำที่หลังตนเองป้อยๆ เสียงนั่นทำเอาคนฟังสะดุ้งเล็กน้อย
.....เสียงดังเป็นบ้าเลยวุ้ย...... "ชื่อ สาด? "
" ตลกละๆ .. " เขาขมวดคิ้ว ก่อนจะแนะนำตัว ไม่วายแยกเขี้ยวใส่จุนเจือ
" บาสโว๊ย .. ทำงานด้วยกันอีกนาน ไม่ต้องพูดสุภาพกะกูก็ได้ "
"โอเค งั้นจะไม่พูดสุภาพกับแกก็ได้...เอาเป็นว่า นี่ บาส กะ เจือ ใช่ป่ะ " เก่งพยักหน้ารับรู้
"มีไรก็ช่วยกันละกัน..." เก่งยิ้มก่อนจะหันไปถามจุนเจือ "แล้วนายนึกไงมาทำที่นี่อ่ะ"
" ก็บริษัทพี่เขยอะ.. " จุนเจือตอบกลับมาง่ายๆ ก่อนจะเหลือบสายตาเห็นพี่ๆเลขาที่มองมาทางพวกเขาอย่างตื่นเต้น ใบหน้าสวยคมหันไปกระซิบเพื่อนสนิททันที
" เมื่อเช้าสายนะมึง .. เมื่อคืนเล่นหนักรึไงวะ? "
เก่งมองตามสายตานั้นไปยังกลุ่มพนักงานสาวๆ แล้วก็เห็นสาวๆทำท่าซุบซิบกรี๊ดกร๊าด....ก่อนจะหันกลับมามองจุนเจืออย่างอึ้งๆ...
....จงใจอ่อยงั้นเหรอ?.... " เล่นห่าอะไร .. แม่ง เอกไล่กูกลับไปนอนบ้านตั้งแต่สองทุ่ม " ชายหนุ่มร่างสูงโวยวายใส่เพื่อนก่อนจะดันหน้าสวยๆออกไปห่างๆ ถึงจะไม่ได้แรงอะไรนัก แต่จุนเจือก็ถลาไปหาเก่งเสียเลย
" สาดนี่ ทำร้ายกู .. เห็นไหม ชนไอ้เก่งเลย " ร่างสูงเพรียวชนกับอกล่ำสันของเพื่อนคนใหม่ แต่แทนที่จะผละออกห่างกลับซบลงกับไหล่เพื่อนใหม่เสียแบบนั้น
"เฮ่ย เป็นไรมากป่ะ ...." เก่งพยุงไหล่เพื่อนให้ยืนดีๆ แต่แล้วก็เห็นแววตาของจุนเจือที่มองไปทางสาวๆอีกครั้ง สองแขนแกร่งนึกอยากจะปล่อยแต่ก็ไม่ทันการสาวๆพากันกระซิบกระซาบกรี๊ดกร๊าดไปแล้ว
+++++++++++++++++
"กรี๊ดอะไรกัน...." ทินกฤตที่นึกเป็นห่วงน้องเมีย เดินออกมาเห็นพวกเลขาต่างกรี๊ดกร๊าด ก็เลยหยุดทักก่อนจะเงยหน้ามาเห็นน้องภรรยาหน้าสวยกำลังซบอยู่กับเพื่อนเด็กฝึกงานด้วยกัน
"ทำอะไรกันน่ะ...." ทินกฤตส่งเสียออกไปไม่ได้รู้ตัวเลยว่า น้ำเสียงที่เปล่งออกไปนั้นแข็งขนาดไหน
" เปล่าครับพี่..เอ๊ย คุณเทียน..เอ๊ย คุณทินกฤต..เอ๊ย "จุนเจือค่อยๆขยับออกจากเก่งอย่างอ้อยอิ่ง ดวงตาคมนั้นช้อนมองหน้าที่ไม่ค่อยพอใจของพี่เขยอย่างไม่เกรงกลัวอะไรเลย จนบาสรู้สึกได้ถึงบรรยากาศมาคุ ต้องเตือนออกมา
" มากไปละมึง เรียกคุณทินกฤตถูกแล้ว "
"เรียกอะไรก็ตามใจเถอะ อย่าให้มันลามมาถึง ไอ้เทียน อะไรเทือกนั้นก็แล้วกัน...จุนเจือ...มาฝึกงานน่ะ ทำตัวดีๆหน่อย ไม่ได้มาเล่นนะ อย่าคิดว่าเป็นบริษัทพี่เขยแล้วจะทำอะไรก็ได้ เข้าใจไหม "ทินกฤตเอ่ยเตือนท่าทีของเด็กหนุ่ม
"เราน่ะ...ชื่อบาสใช่ไหม ที่ว่ามาจากที่เดียวกันน่ะ ดูแลเพื่อนด้วย...ทุกคนเลยนะ ดูแลกันด้วยเห็นใครทำอะไรไม่ดี ไม่เหมาะก็เตือนๆกันนะ ไม่ใช่ว่าจะพากันนอกลู่นอกทาง มาทำงานก็ทำงานให้ดีๆ "
" เอ่อ..ครับ " ท่าทางเคร่งขรึมของเจ้านาย ช่างต่างจากที่จุนเจือเล่าให้ฟังเสียลิบลับ ทำเอาเขาต้องหันไปทางเพื่อนเป็นเชิงถาม
..ไหนว่าชิลๆ ไงมึง?..น้องภรรยาของเจ้าของบริษัทยักไหล่อย่างไม่สนใจที่จะตอบคำถามนั้น ในตอนนี้เขาเริ่มสนุกที่จะได้แกล้งเพื่อนคนใหม่นี่ต่างหากล่ะ..
"ครับ ขอโทษครับ คุณทินกฤต" เก่งยกมือไหว้ พลางก้มหัวให้กับเจ้านาย
"อืม ไม่เป็นไรหรอก...เอ่อ...คุณศักดิ์ชัยครับ...ยังไงฝากเด็กๆด้วยก็แล้วกันนะครับ" ว่าพลางทินกฤตก็หันไปฝากฝังเด็กฝึกงานให้กับผู้จัดการฝ่ายที่เดินมาพอดี
"เคี่ยวให้ข้นเลยนะครับ" ดวงตาของทินกฤตเหล่มองจุนเจืออย่างหมายหัว เขารู้ว่าหมอนี่น่าจะต้องหาเรื่องมาป่วนให้ปวดหัวได้แน่ๆ
"ครับ บอส...ไม่ต้องห่วงนะครับ...เอาเด็กฝึกงาน เดี๋ยวตามพี่มานะ จะพาไปเจอพี่ๆเขาจะได้แนะนำช่วยงานกันได้...." ว่าพลางก็เดินนำไป โดยมีเก่งที่กระตือรือร้นว่าจะมาทำงานเดินนำไปคนแรก
ส่วนจุนเจือก็เบ้ปากอย่างกับท่าทางของพี่เขย .. ทินกฤตน่ะ แค่เห็นหน้าครั้งแรกเขาก็ไม่ถูกชะตาด้วยแล้ว .. ยิ่งมาทำท่าทางแบบนี้อีก ..
" เป็นอะไรของมึงน่ะ?..ไหนว่างานชิลไง? "บาสขมวดคิ้วต่อว่าเพื่อนก่อนจะเดินตามเก่งไปทันที ส่วนน้องเขยเจ้าของบริษัทก็ต้องเดินตามไปอย่างช่วยไม่ได้ อีกคน
++++++++++++++++
การเข้ามาฝึกงานครั้งนี้ของจุนเจือกับเพื่อนทำให้ ศักดิ์ชัย หนุ่มตี๋ใส่แว่น ผู้เป็นหัวหน้าแผนกวัยสามสิบปลายๆ ท่าทางนอบน้อมคนนั้นรู้ว่าไม่ควรจะสั่งการงานอะไรที่ยากและมากเกินไปนัก จึงทำให้ทั้งสามคนมีเวลามากพอที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ
เด็กหนุ่มจากเชียงใหม่คนนั้น เป็นคนกระตือรือร้นในการทำงานมาก เมื่อทำงานของตัวเองเสร็จแล้วก็มักจะติดสอยห้อยตามไปช่วยงานเขาเสมอ ผิดกับเด็กหนุ่มอีกสองคนที่มักจะมีความสุขกับโลกส่วนตัวกันคนละแบบ
เริ่มจาก เด็กหนุ่มที่ได้เกรดเฉลี่ยมากกว่าคนอื่น อย่างบาส ที่เป็นคนทำงานที่ให้ไปได้อย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะมีเวลาว่างพอที่จะใช้คอมพิวเตอร์ของบริษัทในเรื่องส่วนตัว อย่างการโหลดอะไรบางอย่าง
ส่วนคนที่ได้ชื่อว่าเป็น "น้องเขย"ของเจ้านาย อย่างจุนเจือ เด็กหนุ่มหน้าสวยคนนั้น ก็กลับเป็นคนที่ทำงานแบบสบายๆ ทำไป ส่องกระจกไป เปิดเวปไซต์ไปด้วย .. หากไม่ถึงเวลาใกล้ส่งงานก็จะไม่เร่งมือทำ
"น้องบาส...ทำอะไรคะ" เสียงสาวออฟฟิศรุ่นพี่ในแผนกหันเก้าอี้กลับมาถาม เพราะเห็นเพื่อนที่นั่งฝั่งตรงข้ามคอยชะเง้อชะแง้มองไปด้านหลังเธออยู่เรื่อย หันกลับมาเห็นเด็กหนุ่มนักศึกษาฝึกงานคนนี้กำลังยกกองแผ่นดีวีดีออกมาจากกระเป๋า
" พอดี..เซฟงานนิดหน่อยน่ะครับ พี่หวาน " บาสยิ้มหวานให้พี่สาวในแผนก ทั้งๆที่ "งานที่จะเซฟ" ไม่ได้นิดหน่อยตามที่บอก และมันก็ไม่ใช่งานเสียด้วย
"เยอะนะนั่น...." สาวเจ้าของชื่อพิจารณาจำนวนแผ่นพวกนั้นก็รู้สึกตะหงิดๆ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป
"อ้อ แล้วรายงานที่พี่ส่งไปให้เมื่อเช้าเสร็จรึยังคะ.... ขอให้พี่ด้วยนะ"
" อ้อ เสร็จแล้วครับๆ " มือแกร่งนั้นหยิบรายงานที่ว่านั่นส่งคืนให้พี่สาวในแผนก ถึงจะทำในเวลาไม่นาน แต่ก็ทำออกมาอย่างเรียบร้อย ถูกต้องทุกประการ
"ขอบใจจ้า..." หวานว่าพลางยิ้มให้กับบาส ตั้งแค่มีหนุ่มๆสามคนนี่เข้าออฟฟิศมาดูออฟฟิศจะมีสีสันขึ้นมาไม่น้อย และที่ทำให้อมยิ้มได้ในหลายๆรอบก็คงจะหนีไม่พ้น จุนเจือกับบาสนี่ล่ะที่ทำให้เธอและเพื่อนๆมีเรื่องเม้าท์กันยาว
" เฮ้ย ไอ้บาส มึงว่า .. กุเอาแบบนี้ดีปะ .. " จู่ๆจุนเจือที่อยู่ด้านข้างๆก็ดึงแขนเสื้อของเพื่อนให้หันไปดูภาพที่หน้าจอของตัวเอง
พาลเอาหวานต้องหันตามไปมองอย่างช่วยไม่ได้
.......อะไรล่ะนั่น.....
สาวเจ้าคิดพลางขมวดคิ้วกับสิ่งที่เห็น หวานส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย
....เด็กฝึกงาน ซนกันได้ทุกรุ่นซิ่น่า....
คิดพลางยกหูโทรศัพท์กดต่อสายเข้าไปหานุชที่หน้าห้องประธานทันที
" เยอะไปๆ .. ขืนมึงเอาแบบนั้น กูก็จำมึงไม่ได้พอดี แล้วอีกอย่าง ตัดชุดฟูฟ่องขนาดนี้ พี่เจนจะไหวเหรอวะ?..มีหวังหามรุ่งหามค่ำไม่ได้นอน แล้วมึงก็โดนพี่อลิสบ่นอีก "
บาสร่ายยาวถึงความเห็นของเขาและปัญหาที่จะตามมา ก่อนจะหันไปเริ่มทำการเขียนแผ่นดีวีดีข้อมูลจากเครื่องที่ใช้ทำงาน
++++++++++++++++++
"สรุปว่าไอ้คนนึงก็ไรท์แผ่นหนัง ละคร ขาย กับอีกคนก็นั่งดูรูปแฟชั่นไม่พอโพสต์ท่าตามอีกต่างหากตลอดเวลางาน?" เสียงของทินกฤตดังขึ้นเหมือนไม่ค่อยอยากจะเชื่อตาตัวเองเท่าไร หลังจากที่ได้ยินเรื่องนี้จากเลขาของตัวเอง
"ค่ะ...ก็ทางแผนกเขาบอกกันมาแบบนั้น....มีแบบนี้ด้วยนะคะ" ว่าพลางก็ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้กับเจ้านาย ชายหนุ่มรับมาพลางกวาดสายตาช้าๆ
...ขายแผ่นละคร เกาหลี ญี่ปุ่น...การ์ตูน...ราคาย่อมเยา ติดต่อบาส...สุดหล่อ...
คิ้วของร่างสูงขมวดเข้าหากันแน่น พลางปล่อยกระดาษแผ่นนั้นลงกันโต๊ะรู้สึกวิงเวียนขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
"เดี๋ยวผมจัดการเอง.... เรียกจุนเจือเข้ามาหาผมหน่อยก็แล้วกัน"
เลขาสาวทำหน้าที่ของตนด้วยการกดโทรศัพท์ไปที่แผนกที่จุนเจือทำงานอยู่ก่อนจะเรียกให้เขามาหาทินกฤตที่ห้องทำงาน
ปลายนิ้วของทินกฤตเคาะลงกับโต๊ะอย่างชั่งใจระหว่างรอให้ "น้องเมีย" เข้ามาหาที่ห้อง
....พวกเด็กบ้า...เข้ามาทำงานไม่ทันไร ....
....ทำเรื่องปวดหัวให้กูอีกแล้ว....++++++++++++
เพียงไม่นาน เลขาสาวก็โทรศัพท์เข้ามารายงานว่าจุนเจือได้มาถึงที่หน้าห้องแล้ว ชายหนุ่มจึงอนุญาตให้น้องเมียคนนี้เข้ามาในห้องได้ โดยไม่ให้ใครรบกวน
" มีอะไรฮะ พี่เทียน .. เนี่ยผมกำลังทำงานนะ ยุ่งมากเลย " ทันทีที่ประตูห้องทำงานของทินกฤตถูกปิดลง นักศึกษาฝึกงานเส้นใหญ่คนนี้ก็ชิงพูดขึ้นมาก่อนเลย
"งาน?...ทำงานจริงๆเหรอ เจือ " ทินกฤตเอ่ยถามพลางวางแฟ้มเอกสารที่กำลังอ่านอยู่ลงกับโต๊ะ
" เฮ้อออ ก็งานน่ะซี่..ผมนะงานยุ่งจะตายไป " เจ้าของร่างสูงเพรียวตอบพลางเคาะนิ้วกับโต๊ะทำงานของทินกฤต ริมฝีปากบางยิ้มยียวนไม่น้อย
" ผมรู้นะ ว่าพี่เทียนเป็นห่วงผม .. แต่ไม่เป็นไรหรอกน่า สบายมากเลย "
"แล้วเพื่อนเราล่ะ ชื่ออะไรนะ บาสอะไรนั่น ได้ข่าวว่าถึงขนาดไรท์แผ่นขายในที่ทำงาน "ทินกฤตพยายามอย่างยิ่งที่ไม่สนใจรอยยิ้มหวานของจุนเจือ ว่าพลางก็ยื่นแผ่นโฆษณาของอีกฝ่ายให้ จุนเจือดู
"นี่พวกเรามาฝึกงานหรืออะไรกันแน่...หะ?..."
ใบหน้าสวยเอียงคอเล็กน้อยก่อนจะดึงเอากระดาษใบปลิวของบาสไปอ่าน คิ้วเรียวขมวดราวกับไม่เคยเห็น
" โห..ไอ้บาส แรงนะมึงเนี่ยยย .. " ก่อนจะเงยหน้าจากกระดาษใบนั้นแล้วสบตากับพี่เขยของตน แต่ก็ไม่วายกวนประสาท
" ผมไม่รู้มาก่อนเลยนะเนี่ย..แย่มากเลยเนอะ~ "
"พี่ไม่เชื่อว่าเราจะไม่รู้กันมาก่อน...เอาเป็นว่าเราไปเตือนเพื่อนเราดีๆ...ไม่อย่างนั้นพี่จะตัดเงินเดือนเรากับเพื่อนเรา "ทินกฤตเหลือบตามองคนที่ยืนแทบจะค้ำหัวเขาอยู่
" อ้าววววว แล้วผมไปเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ มันทำผิดพี่ก็หักเงินมันคนเดียวดี่ "เด็กหนุ่มโวยวาย คิ้วเรียวขมวดอย่างไม่พอใจ
"เราเป็นคนพาเพื่อนเรามา..."ริมฝีปากของชายหนุ่มหยักยิ้ม
" มันก็เหมือนคนค้ำประกันนั่นล่ะน้า...เข้าใจใช่ไหม เอาเป็นว่า ถ้าเราไม่ไปเตือนเจ้าบาสเพื่อนเราอีก...พี่จะหักเงินเราเข้าใจ?" ว่าพลางประสานนิ้วมือเข้าหากันพลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ผู้บริหารของตัวเอง
" ไม่เห็นจะเกี่ยวเลย! .. ขี้เกียจฟังๆ ไปดีกว่าๆ " จุนเจือโวยวายอีกรอบก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานของทินกฤตไป นับวันเขายิ่งจะหงุดหงิดและหมั่นไส้หมอนี่มากขึ้นเรื่อยๆ
"เจือ! ..." เสียงทินกฤตเรียกจุนเจือเอาไว้แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ท่าทางของจุนเจือที่ฉุนเฉียวใส่เขานั้นทำให้ชายหนุ่มไม่พอใจอยู่เหมือนกัน...เขาแทบอยากจะยกหูโทรศัพท์ไปบอกเจนสุดา ให้มาลากคอน้องชายเหลือขอคนนี้ของเธอกลับบ้าน
....โธ่เอ้ย นี่ถ้าไม่ติดว่าแม่ยายขอไว้.....
....ไอ้เด็กนี้โดนไล่ออกไปนานแล้ว.....
....ทนไว้เทียน...ทนไว้....เห็นแก่หน้าสวยๆนั่น....
....เอ็นดูหน้ามันก็ยังดีวะ..... คิดได้แบบนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึก ยุบหนอพองหนอ ทินกฤตพยายามท่องไว้ นึกถึงแค่สิ่งเดียวที่พอจะถูกใจอยู่บ้าง คือหน้าตาของจุนเจือที่ตรงสเปคเขาแทบจะทุกกระเบียด....
+++++++++++++
talk: ขอโทษที่หายไปนานนะคะ..ไรเตอร์ป่วยตั้งแต่วันแรกที่โพสต์ เลยทิ้งระยะไปบ้างนะคะ ยังไงก็ขอให้ดูแลสุขภาพกันนะคะ อากาศหนาวขึ้นแล้วนะ
ปล.มีใครจำเพื่อนฝึกงานจากเชียงใหม่คนนี้ได้บ้างคะ?