หัวข้อ: ลองมารวบรวมประสบการณ์ "ผู้ชายหยอดหวานให้กันและมิตรภาพกับความทรงจำ"ดีมั้ย

[abcd]

และย้อนหลังไปหาเพื่อนคนหนึ่ง ชื่อไอ้อู เป็นคนที่ตัวสูงกว่าผม ส่วนผมน่ะ มาตรฐานนะ...ก็ อาจต้องหักลบจากมาตรฐานสักหน่อย

ในวันที่พวกเราประชุมกันอย่างคร่ำเคร่ง ต่างฝ่ายต่างแยกกันประชุม ผมกับอูอยู่คนละกลุ่ม
มีช่วงหนึ่งผมแว๊บออกมาเข้าห้องน้ำ และก็คลายเครียดด้วย พอดีเจออูที่ออกมาเหมือนกัน
นึกยังไงไม่รู้ ผมเดินเข้าหามันพร้อมกับอ้าแขนและเรียกชื่อมันแต่ไกล
และมันเองก็ตอบสนองผมอย่างดี ด้วยการอ้าแขนรอรับผมไว้ และก็...หมับ
ผมกอดมัน มันกอดผม คืออยากบอกว่าผมไม่ค่อยได้กอดใครแบบนี้ ปกติก็แค่คนในครอบครัว
ครั้งนี้ผมกอดเพื่อนผมอยู่ เรากอดกันนิ่งสักพัก มันทำให้ผมรู้ว่า การกอดกันมันอบอุ่นมากเลย
ก็รู้สึกดีครับ จากที่เครียดๆเซ็งๆ เออ...ดีขึ้นเยอะ แล้วเราก็คลายอ้อมกอด และยืนคุยกันเล็กน้อย
ก่อนจะแยกย้ายไปทำหน้าที่ใครหน้าที่มัน...(คิดถึงมันอ่ะ)

จากคุณ : บาปนะ -

[abcd]

ไม่ได้เล่ามาหลายวันล่ะ ทักทายกันก่อน ยินดีต้อนรับเจ้าของกระทู้ คุณโอปอ กลับเข้ากระทู้นะครับ สาว Y ทุกคนด้วยนา แล้วฝาแฝด K Potter ไปไหนล่ะ สงสัยเดินขาถ่างอยู่ มาเล่าไม่ไหวแล้ว กร๊ากกกก

ต่อๆ คืนนึงออนเอ็มเจอเพื่อนตัวดีเหมือนเดิม

มัน: พรุ่งนี้เช้าไปหาที่บ้านนะ
ผม: มาไมว่ะ คิดในใจนะครับ เพราะมันไม่ได้มาบ่อยๆนอกจากธุระ อีกอย่าง บ้านมัน กะบ้านผมไกลกันมาก คนละฟากของมหาลัยเลย ก็เลยงงๆ แต่ด้วยความเป็นเพื่อนที่ดีก็เลย
ผม: มาดิ ใครห้ามว่ะ
มัน: ที่บ้านมีไรกินมั่ง
ผม: nothing (อยู่บ้านคนเดียวครับ ถ้าซื้อของเข้าบ้านถึงจะมีกิน ถ้าไม่มีเนี่ย แค่น้ำเปล่ายังหากินไม่ได้เลย ง่ะ)
ผม: ซื้อหนมมาเผื่อด้วยล่ะ แล้วตกลงจะมาทำไม (อดใจไม่ไหวต้องถาม)
มัน:.......... ไม่ตอบครับ เปลี่ยนเรื่องคุยเฉยเลย กรำ ไม่บอกก็ไม่เซ้าซี้ล่ะ
ตื่นเช้ามาอีกวัน แปดโมงกว่าก็มาถึงล่ะ
มาถึงปุ๊บ โชว์เค๊กมาก้อนหนึ่ง(เล็กๆ) กับเนสวิต้า 2 ถุง
มัน: รู้ว่าชอบกินเค้ก เมื่อวานแม่ซื้อมาเลยเอามาฝาก
แล้วมันก็จัดการหาช้อน เสียบกาน้ำร้อน แล้วก็ชงเนสวิต้าให้เรียบร้อย

ผมได้แต่มอง(ไม่ได้ทำไรเลย รอกินอย่างเดียว)ด้วยสายตางงๆ อะไรของมันเนี๊ยยย

ชิมเค๊กปุ๊บ ":-)โครตหวาน กินคนเดียวเหอะนะ ไม่กินแล้ว" ผมก็บ่น
มันหน้าซีดลงเลย "งั้นเก็บไว้กินในตู้เย็นนะ" ,มันบอก
"ไม่เอา หวานขนาดนั้น กินไม่ลงหรอก ทิ้งๆไปเหอะ" กรำ มาดูตัวเองตอนนี้ ช่างไม่รักษาน้ำใจมันเล๊ยย

ก็กินขนมไป ดูทีวีไป "ตกลงมาไมเนี่ย" ยังค้างคาครับ
มันบอกว่า "มาส่งน้อง แล้วไม่รู้ไปไหน" อ๋อ เข้าใจล่ะ บอกตั้งนานก็จบแล้ว

กินเสร็จก็จะเข้ามหาลัย มันก็ชวน "ป่ะ ไปรถเรานี่แหละ เดี๋ยวตอนเย็นมาส่ง" ตกลงจะมารับกรูใช่มั้ยเนี่ย

"มันไกลนะโว้ย ย้อนไปย้อนมาทำไม"

"เหอะน่า เต็มใจ" มันยืนยัน ผมก็รับสนองดิ ดีออกมีคนรับส่ง 555 เอิ๊กๆ

จากคุณ : หมึกตะนอย -

[abcd]

อิ่มจัง อ๋อ มีคนจุดธูปให้แล้วนี่เอง

ไหนๆก็มาแล้วหาเรื่องมาเล่าให้อ่านกันเล่นๆบ้างดีกว่า

หลังจากวันที่ผมกอดกับไอ้อูแล้ว ผมก็รู้สึก ว้าว กอดมันแล้วรู้สึกดีอย่างนี้ ต้องเอาอีก
แหะๆ ผมก็ตามไปโอบเอว กอดไหล่ให้มันไปเลย แต่เอ...จำได้ว่าไอ้โน๊ตก็อยู่ด้วยนี่หว่า
มันไปไหนของมันน้อ...ช่างมัน ตามไอ้อูก่อน ชอบๆ อุ่นดี ตอนสุดท้ายนะ ไปน้ำตกกัน
ผมก็ตามๆๆๆ หุๆ แล้วมันก็ไปนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่ริมน้ำ โอ๊ะ ไม่ได้ๆ ต้องเข้าประชิดตอนมันอยู่คนเดียว
ผมก็ตามไปนั่งยองๆข้างๆมัน และโอบมันไว้ กึ๋ยๆ มันก็นิ่งๆ ไม่พูดไม่จา เล่นโทรศัพท์อย่างเดียว
จนมีเสียงรุ่นพี่แซวมา "กิ้วๆ มานี่ได้แฟนไปด้วยเหรอเป้" ผมก็หันไปยิ้มๆ และก็ปล่อยมือออก หึๆ ก็พอแล้วนี่

ตอนจะลาจากกันสุดท้าย พี่ๆก็แซวอีก "เป้ทิ้งแฟนไว้ได้ไง ไม่ห่วงบ้างเหรอ" เหอๆ ผมน่ะไม่มีหรอกที่จะอายม้วน
แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

สุดท้ายเราก็แยกกัน แต่หลังจากนั้นเราก็ยังมีโอกาสได้เจอกันอยู่นะครับ (คิดถึงนะเว้ยยยยย)

จากคุณ : บาปนะ

[abcd]

เย้ เย้ เย้ มาเป็นสมาชิกใหม่  (แต่หน้าโครตเก่า) หวังว่าคงมีอมยิ้มกะเค้านะครับ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับทุกคน   แต่ผมไม่ทำง่ะ  ใครจะทำไม 

บอกแล้วว่าดื้อ     หุหุ

เอาเป็นว่า มันไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิดหรอกครับ เอาไว้จะทะยอยๆเล่านะครับ เผื่อจะปะติดปะต่อเป็นเรื่องเป็นราวได้

พอทุกคนรู้ความจริง  อาจจะไม่คิดอย่างนี้ก็ได้

เอ๊า ไหนๆก็เข้ามาล่ะ รำลึกความหลังนิดหน่อยก่อน

ตอนนั้นผมทะเลาะกับมันนานเลยล่ะ ผมก็พยายามห่างๆมันไป  ประกอบกับการที่เราใกล้จบกันแล้วงานเลยยุ่งมากๆ

วันนั้นรุ่นพี่ชวนตีเทนนิส แต่ผมไม่รู้ว่ามันไปด้วย ก็ไปอึ้งที่สนามรอบนึง

ขากลับมันอาสามาส่งผม แวะทานข้าวกันก่อน ก็เงียบๆกันทั้งคู่  (ทิฐิตัวเดียวเลยทีเดียว)

พอจะถึงตึก(รถจอดอยู่ที่ห้องแลป) ก็เลยตัดสินใจพูดซะให้มันรู้เรื่องไปเลย "อยากคุยมั้ย"

มันก็เลี้ยวรถเลย มันพาไปที่อ่างน้ำของมหาลัย(ทางเหนือ) ที่สุดฮิตของหนุ่มสาวมาจีบกัน

แต่ตอนนั้นมันดึกแล้ว มืดสนิท มีแต่คนแทงปลาง่ะ เห็นแล้วก็สะดุ้งเลย   เพราะตอนปีใหม่ ผมกับมันซื้อปลามาปล่อยที่นี่ตั้งหลายตัว  กรำ --"

อากาศเย็นๆ  ลมอ่อยๆ  น่าจะสบายใจนะครับ ที่ได้คุยกะมันสองคน แต่ไม่ใช่เลย มันวุ่นวายใจยังงัยไม่รู้

นั่งลงที่ขอนไม้ มันก็เป็นฝ่ายพูดๆๆๆๆ

"ขอโทษ"  คำนี้มันพูดจนนับครั้งไม่ถ้วน

"แค่คำพูดมันไม่มีความหมายเท่าการกระทำหรอกนะ มิวขอโทษ แต่ไหนละการกระทำที่บอกว่ามิวอยากขอโทษ "ผมบอก

"จะให้ทำไงอีก ง้อจนไม่รู้จะทำไงแล้ว ทำยังงัยหมึกก็ไม่เคยหันมามองบ้าง"

มันก็พูดๆๆๆๆๆไปเรื่อยๆ  ผมก็ได้แต่ฟัง คิดในใจ "กรูว่ากรูน่าจะเป็นฝ่ายเครียด  มันกลับเครียดกว่าว่ะ 55"

สักพักผมก็ทนไม่ไหว  โพล่งออกไป

"ปวดฉี่"

จากคุณ : หมึกตะนอย (หมึกตะนอย)

[abcd]

ฮะฮ่า มันทำหน้าอึ้ง ก็กรูปวดนี่ใครจะห้ามได้  ก็เลยหนีไปฉี่แป๊บหนึ่ง   ห้องน้ำน่ากลัวโครตต มืดฉุดๆ ยืนฉี่นี่ขาสั่นผับๆเลย

กลับมา เห็นมันนอนบนพื้นหญ้า เอามือก่ายหน้าผากอยู่  กรำ เครียดขนาดนั้นเลยเหรอว่ะ

เอาว่ะ เป็นไงเป็นกัน  เหมือนเดิมก็เหมือนเดิม  ก็เลยบอกว่า พรุ่งนี้ดูหนังกันนะ (มันชวนตอนกินข้าว)

แล้วก็บอกว่า กลับเหอะ ดึกแล้ว  มันทำหน้างงๆเดินกลับมาที่รถ

กะลังจะเปิดประตู มันพูดมาคำนึงแทงใจเหลือเกิน

"ที่หมึกทำอย่างนี้ ไม่พูดไม่คุย หนีหน้ามิวอย่างนี้เพราะหมึกกลัวใช่มั้ยล่ะ"

"หมึกกลัวที่จะเจ็บอีกใช่มั้ยล่ะ"

จี๊ดดดด (ตรงประเด็นอย่างแรง)  "เออสิ  มันไม่ได้เจ็บแค่แป๊บๆนี่  มันเจ็บเป็นเดือนๆ ทั้งเจ็บทั้งเหนื่อย"

"คราวนี้ล่ะ  มันจะเจ็บอีกมั้ย  เพราะถ้าเจ็บอีก ก็ให้มันจบๆวันนี้ไปเลยดีกว่า"

มันมายืนพิงรถข้างๆเราเมื่อไหร่ไม่รู้ "มิวไม่รู้หรอก"  โหไม่ให้กำลังใจกันเลย

"การที่เราคบกัน เป็นเพื่อนกัน มันต้องมีอีกแน่ แต่มิวสัญญามิวจะไม่ทำให้หมึกต้องเจ็บกับเรื่องเดิมๆอีก"

"วันนึง อาจเป็นหมึกก็ได้ที่ทำให้มิวต้องเจ็บ อีกหลายเท่า"

........................................

ผมเงียบ จริงของมันนะ

มันก็เลยเอามือมาขยี้ๆหัว จับโยกๆ  ตอนแรกๆก็ฝืนตัว ทำคอแข็งๆ

แล้วมันก็กดหัวผมไปซบที่ไหล่มัน

"เพื่อน...........รัก"  มันพูดขึ้นมา


อยากหยุดเวลาเอาไว้ตรงนี้จริงๆ  แต่ความจริงมันไม่เป็นอย่างนั้น

จากคุณ : หมึกตะนอย

[abcd]

ขอกลับมาเล่าส่งท้ายนะครับเรื่องหยอด เพราะต่อไปคงไม่ได้หยอดแล้วครับ แต่ยังไงจะติดตามเรื่องราวของเพื่อนๆเรื่อยๆนะครับ

วันพฤหัสที่ผ่านมาผมต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ปรากฏว่า เพื่อนสุดแสบคนเดิมก็โทรมาหาระหว่างเดินทาง

เค้า... อยู่ไหนวะ
ผม... อยู่บนรถ จะไปจันทบุรี มีไรป่าว
เค้า...อ๋อ จะถามเรื่องงาน (แล้วเค้าก็ถามๆมาเรื่อยๆ)
ผม... พอแล้ว แบตจะหมด ไม่อยากคุยแล้ว เหนื่อย อยากนอน
เค้า... แหม กลัวเด็กโทรมาอะดิ
ผม... เออ ทำไมละ
เค้า... เหรอ งั้นแค่นี้แหละ
ผม... หึงหรือไง ที่บอกว่ามีเด็ก
เค้า... ป่าวนี่นา
ผม... แหม ทำเป็นน้อยใจ เดี๋ยวปั๊ด บิดหัวนมเลยนี่
เค้า... ทะลึ่ง แบบวันนั้นอีกแล้วนะ มองมาแทบทะลุเสื้อเลยนะ
ผม... แหม ก็เล่นใส่เสื้อซะบาง ว่าแต่สีชมพูป่าว
เค้า... จะบ้าเหรอ ไม่เคยสังเกตุชัดเจนหวะ ฮ่าๆๆๆๆ
ผม... งั้นเดี๋ยวกลับไปจะขอดูนะ
เค้า... ไม่เอา กลัวอะ
ผม... ไม่ต้องกลัวหรอกน่า ไม่บอกใครหรอก เหอๆ
เค้า... ไม่อาว
ผม... เออๆ ตามใจ ไปก่อนนะ ขี้เกียจคุย หวัดดีนะ
เค้า ... บายครับ

เฮ้อ!!! บทสนทนาที่ผ่านมาก็คงมีเพียงเท่านี้ครับ และไม่แน่ใจว่าจะมีอีกต่อไปหรือเปล่า

ขอบคุณทุกท่านที่อ่านเรื่องของผมนะครับ ยังไงก็ดูแลสุขภาพด้วยครับ ช่วงนี้สภาพอากาศแปรปรวนอย่างแรง

ไปละคร้าบบบบบ แล้วจะแวะมาเยี่ยมครับพ้ม

จากคุณ : โอปอครับพ้ม (justopor)

[abcd]

ทักทายคุณโอปอ จะไม่ได้หยอดอีกแล้วหรือครับ น่าเสียดายเนอะ เรื่องคุณโอปอสนุกมากๆเลยครับ


ส่วนผมวันนี้ไม่มีอะไรมากมาย แค่จะเชื่อมต่อเหตุการณ์ที่เคยเล่าให้เข้ากัน

คงยังจำได้ใช่มั้ยครับกับตอนที่ไอ้โน๊ตมันว่าผมไปกับชู้ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
ผมไปดูหนังกับไอ้อูครับ แบบหนังโรแมนติกคอมแมดี้ และก็ซ้อนมอ'ไซต์มันไป
บรรยากาศดี๊ดี แถมวันต่อมายังไปนั่งดริ๊งค์ที่ร้านนมพร้อมกับจั่วไพ่กันที่ห้องมันด้วย
นั่นล่ะไอ้โน๊ตเลยหาว่าผมไปกะชู้... ซึ่งช่วงนั้นเป็นหลังจากที่ผมไปเจอไอ้จิมที่ฝึกงาน
และที่ผมได้เดินทางไปด้วยก็เพราะไอ้โน๊ตมันโทรมาชวนแกมขืนใจระหว่างที่ผมฝึกงานนั่นล่ะ

แหะๆ แค่เอาเหตุการณ์มาเชื่อมโยงกันก็พอเนอะ วันนี้ ส่วนคุณตะแน๋ว เอาจริงอ่ะ หวาย อายจัง
แต่...ถ้ามันทำให้คนอื่นมีความสุขเวลาอ่าน ก็ได้เลยครับ เต็มใจ 

จากคุณ : บาปนะ

[ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น]

เสร็จยังหวา ท่าทางเอ็มร้อยเมื่อคืนยังไม่หมดฤทธิ์ 
ฟิตจิงๆ
เด่วตามอ่านนะครับ
น่าสนใจมากเลย

รอไม่ไหวแล้วขอปาดก่อน คิกคิก

[abcd]

 
ปาดตามบายเรยเพ่!!!  เพราะมานหมดแหล่วววววไม่มีใครเล่าต่อแล้ว เฮ้อ.....บลูเล่าจิ มีคนเค้ารอฟังอยู่เยอะน้า...

[ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น]

อิอิ เกิดมาไม่หล่อ ไม่มีคนมาหยอดเลยหง่ะ 
แถมไม่เคยหยอดใครหง่ะ   
เจียมเนื้อเจียมตัว 

[abcd]

ฮิ้ว...ววว......อย่าน่า....บลูอย่า.......เห็นๆกันอยู่ เมื่อวานก็เห็นหยอด 

[ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น]

ไหนๆๆ ไม่เค้ยไม่เคย 
ผมหง่ะเรียบร้อย   
เหมือนไข่ในหิน   
เอิ้กๆ

[abcd]

   เออ...เออ...เชื่อๆ

[caneton]

เหอะๆๆๆๆๆสุดยอด 

[sun]

  หยอดอะไรกันรือ โฮ่ะๆ 

ตามไปอ่านแต่ในพันติ๊ป ...อ่าเพิ่งรู้เนาะ...

...... ที่นี่เขามีหยอดกันล่วย คิคิ 


...............สงสัยจัง ตะแน๋ว ล่ะ ไม่คิดจะหยอดมั่งรึ 

.............. รวมพลังก่าบลู ช่วยกานหยอดจิ เอิ้กๆ  จะ รออ่าน 

[hippoworld]

มะระว่างนะ มาหยอดมะระมั่งดิ่

[abcd]

ที่ว่าว่างเนี่ย............... ว่างทั้งตัวและหัวใจป่ะ 

[hippoworld]

ว่างงาน กร๊ากกกก

[abcd]

กะลังอยากหาคนช่วยทำงานอยู่พอดี........ช่วยหน่อยจิ 

[ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น]

แอบมาดูคนหยอดหวานกัน เอิ้กๆ 

[sun]

ชาวบอร์ดเราก้อมีหยอด กันด้วยรึเนี่ย คิคิ 

บลูเหยิบๆ .... แอบดูด้วยดิ   

[Junrai_Hyper™]

ของผมก็มีน่ะ แต่เขิลลลอะ เอาเป็นว่า

ผมไปบ้านมันเพื่อติวหนังสือกัน เที่ยงแล้วหิวข้าว หน้าที่ก็ต้องเป็นผมทำ เพราะมันทามรายม่ายเปง เปงแต่แ - ก อย่างเดียว

"พูห์ทามราย" มันถาม ก็เห็นอยู่ว่าเจียวไข่

"ไข่เจียวหมูสับใส่หอมใหญ่ ของโปรดเมิงงัย"

"...(ชื่อมัน) ขอหอมหน่อยดิ" สาบานได้ ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไร คิดแต่ขอหอมมันอย่างเดียว

"พูห์ว่าไรน่ะ" มันถาม "ขอหอมหน่อย" ผมตอบมัน

"อืมม หันหน้ามาจิ" มันบอก

ผมก็หันหน้าไป... จมูกผมชนแก้มใสๆ ของมันอะ

"เฮ้ย ทำบร้าไรอะ เมิงมาตั้งแต่เมื่อไหร่อะ"

"ก็เมิงขอหอมอะ กรูก้ให้หอมแล้วงัย" มันตอบหน้าตายมั้กม้ากครับท่านผู้ชม

"ไอ้บร้า" ผมด่ามันแค่นั้นแหละครับ แต่มีความรู้สึกว่าหน้าผมมันร้อนไปถึงหูเลยครับ

มารู้ตอนหลัง มันบอกว่า หน้าผมแดงเป็นลูกตำลึงสุกเลยครับ

แค่นี้แหละครับ

คริคริ

[มูมู่น้อย]

จึ๋ยยย  หวานซ้า  อ่านแล้วหัวใจจะ Y ตาม  ทำไมผู้ชายเค้าหยอดกันได้หวานปานนี้น้อ...  แล้วจมูกผมก็ชนกับแก้มใส ๆ ของมันพอดี ... โอวววว
ช่วยกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  ทนไม่ด้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย อิจฉา ตบะแตกซ่าน  555 บ้าไปแร้ว 

อืม พูดถึงเหตุการณ์นี้ทำให้นึกถึงเหตุการณ์นึงเหมือนกันแฮะ  อิอิ 

[abcd]

เล่ามาเรยจ้ะน้องสาว อย่าเก็บไว้ให้บูด 

[abcd]

ครั้งหนึ่งผมก็เที่ยวกลางคืนกับเพื่อนๆ จริงๆง่ะ เพื่อนพวกผู้หญิงเค้าจะเที่ยวกัน แต่กลัวไม่ปลอดภัย เลย  เอาผู้ชายไปเป็นไม้กันหมา ก็เลยลากผมกับเพื่อนอีกคนหนึ่งไป ชื่อไอ่อู๊ดละกัน หนึ่งในกลุ่มผู้หญิงก็มีแฟนไอ่อู๊ดไปด้วย

ไปก็ไม่มีไร กินๆ เต้นๆ กลุ่มผมก็เป็นที่สนใจพอสมควร เพราะเพื่อนผมผู้หญิง 5- 6 คน สวยๆทั้งนั้น
มันก็ต้องมีผู้ชายโต๊ะข้างๆมาจีบอยู่แล้วล่ะ

ตอนแรกมีคนนึงมาจีบแฟนไอ่อู๊ด เค้าก็เข้ามาคุย ชนแก้ว  น่าสงสารเนอะ ผู้หญิงตั้งเยอะดันจีบคนมีแฟน แถมไม่ใช่คนที่สวยที่สุดนะ สักพักคงรู้ว่าไม่ได้กินชัวร์ เพราะเริ่มรู้ว่าที่ๆมันจีบอยู่ง่ะมากะแฟน  ก็เลยเปลี่ยนเป้าหมาย

เอิ๊กๆ ทายถูกครับ      มันมาเกาะแกะผมแทน

มันก็แนะนำตัวว่าชื่อไร (อันนี้จำไม่ได้แล้ว) เรียนที่ไหน รู้สึกว่าเป็นเด็กเทคโน แก่กว่าพวกผมปีนึง

ก็คุยไปเรื่อย แต่ผมสนใจการรับน้องของเด็กเทคโนมากกว่า ผมก็ถามๆๆ  พี่แกก็เล่าหมดเลยนะ อุบาทว์ๆ ลามกๆ เล่าหมด  “น้องสนใจมั้ย ปีนี้ไปรับกับพี่ป่ะ”  “อ้าวพี่ ผมไปผมไม่ต้องโดนรับเหรอ  ถ้าผมโดนจับแก้ผ้าทำไงล่ะ”  “ไม่เป็นไรก็มากับพี่ไง” ยังคะยั้นคะยอ ผมก็ไม่เอาดีกว่า กลัว

มีตอนนึงพี่เค้าถาม

“น้องเป็นเกย์ป่าวครับ”
“เฮ้ย ป่าวพี่”  ผมปฎิเสธ  “แล้วพี่ล่ะ” ผมถามกลับ เพราะตอนนั้นเนี่ย มือพี่แกเริ่มมาอยู่ที่เอวผมล่ะ บางทีเกาะไหล่ กอดคอ เกาะเอว  แต่ก็ไม่แสดงอาการขั้นลวนลามนะ เหมือนกับเพื่อนกอดคอเพื่อนอย่างนั้นง่ะ  เพราะถ้ามันลวนลามผมคงหนีไปนานแล้วล่ะ

ก็เข้าใจอะนะว่ามันเมา  “พี่ก็ป่าว ชายแท้ครับ” มันปฎิเสธ
เฮ้อ เสียดาย   มะช่าย   เฮ้อ โล่งไป  ตะหาก  เอิ๊กๆ
“แต่พี่ว่าน้องหล่อดีนะ” กรำ ไหนบอกไม่ใช่เกย์ง่ะ

สรุปว่ามันมาคุยกะผมทั้งคืน
ก่อนกลับมันเมามากๆ เพื่อนมันลากกลับ
“เฮ้ยไอ่.....(ชื่อพี่เค้า) ไหนมรึงบอกจะมาจีบสาวไม่ใช่เหรอว่ะ ” เพื่อนพี่เค้าทัก
“กรูก็คุยเฉยๆ น้องเค้าคุยหนุกดี”  พี่แกบอก
แล้วพี่แกก็กลับไป    อ่าอย่าคิดนะครับว่ามันจะได้เบอร์ผมไป ผมไม่ให้หรอก

เช้าวันต่อมา ได้เรื่องเลย
ผมตกเป็นข่าวทันที  “ผู้หญิงสาวๆสวยๆไปตั้งหลายคน ไม่มีใครมาจีบ ไอ่หมึกได้อยู่คนเดียว” กรำ --"

จากคุณ : sm7 (หมึกตะนอย)

[abcd]

เอาเวลาอ่านหนังสือมาหาทุกท่านครับ ว้า...ไม่มีอะไรเล่า แบบหยอดหวานๆไม่มีแล้วอ่ะ เอาหยอดขำๆแทนก็แล้วกัน


บางอันก็มุขโบราณแต่ก็ผมชอบอ่ะ จะเล่า ใครจะทำไม(เจ้าของกระทู้นะเฟ้ย)

เริ่มจากไอ้เอ็มตอนนั้นผมยืนอยู่คนเดียว พอดีเอ็มผ่านมาเห็นผมมันยิ้มพร้อมกับก้มลงหยิบอะไรบางอย่างที่พื้นใกล้ๆตัว
ผมมองไม่ชัดหรอกว่าเป็นอะไร รู้สึกจะเป็นท่อนไม้ ออกสีดำๆหน่อย

“เอามั้ย” เอ็มถามผมหน้าตายิ้มกริ่ม ผมไม่ทันสังเกตดีนัก ก็ส่ายหน้า
“ไม่เอา” อยากได้อย่างอื่นมากกว่า

มันยิ้มอย่างมีชัย ทิ้งไม้ท่อนนั้น “ที่แท้เป็นคนไม่เอาถ่าน” มันหัวเราะแล้วเดินหนีไป ผมมองดูไม้ที่มันหยิบ
เป็นถ่านจุดไฟสีดำนั่นเอง ผมล่ะไม่อยากจะพูด ขำก็ขำ อายก็อายตามเดินมันไปเพื่อแก้เขิน มานึกตอนนี้ก็ทำให้อมยิ้มได้เหมือนกัน

จากคุณ : บาปนะ

[abcd]

เพลงรักอลวน(Canon in my Heart) ~การเดินทางของใจ(สะพายย่ามตามหารัก) –THE BLUE DANUBE by Strauss

ชีวิตคือการเดินทาง ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่านะ แต่ที่ผมรู้คือชีวิตช่วงนี้ของผมต้องเดินทาง การฝึกงานที่แสนสนุกของผมก็ทำให้ผมกิ๊กคนได้หลายคนเชียว(จริงอ่ะ)
หลังจากนั้นผมก็กลับบ้านเกิดสักพัก ขอพักผ่อนหน่อยนะ ก่อนที่จะไม่ได้พัก และแล้วคืนหนึ่งก็มีเบอร์ไม่ได้รับสายขึ้นมาหาผม พอดูว่าใครบังอาจมิสคอลมานะ ผมก็อึ้งปนดีใจ

ก็เอ็มน่ะสิครับ เราไม่ได้ติดต่อกันเป็นเดือน ผมก็ถามสารทุกข์สุกดิบทั่วไป เอ็มเล่าถึงเรื่องการทำงานพิเศษ ผมก็เห็นว่าดีนะ
จะได้ไม่ว่างอยู่เฉยๆ แต่ถ้าอย่างงั้นเราก็ไม่ได้เจอกันที่ต่างจังหวัดอ่ะดิ ก็มีการประชุมย่อย ที่ต้องไปต่างจังหวัด แต่เอ็มไม่ว่างซะแล้ว
อดสวีตเลยเรา

ผมขอเล่าเรื่องฝึกงานนิดนึงละกัน ก็เริ่มต้นเตรียมตัวกับการเดินทางไปฝึกงาน มาที่แรกกันก่อน
ที่นี่ ทำให้ผมพบกับความประทับใจไม่รู้ลืม กับการได้เจอเพื่อนใหม่ที่มาจากต่างมหาวิทยาลัย แต่ละคนดูดี น่ารัก นิสัยดี เป็นผู้หญิงซะมาก
ก็ดี ผมชอบคุยกับผู้หญิงอยู่แล้ว แต่มีนายคนหนึ่ง ขอบอกว่าหน้าตามันเถื่อน ถ่อยและดูสถุลพิกล
แต่ที่จริงมันน่ารักนะ ชอบแกล้งชอบอำ แถมคืนก่อนผมจะกลับผมก็ไปเล่นที่ห้องเพื่อน มันก็มาเล่นด้วย พอตอนนอนดูทีวีมันก็มานอนกอดผม
บอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไม่ได้กอดเป้แล้ว วุ๊ย ฟังแล้วสยิวพิลึก ดูมันเป็นคนบ้าๆ แต่ผมว่ามันก็ดูเท่ดีนะ


หลังจากนั้นมาที่ที่สองก็ไม่มีอะไร ไม่มีคนน่าสนใจแต่ได้ความรู้เพียบ และที่สุดท้าย ได้กิ๊กใหม่ครับ
เป็นเด็กน้อยมอสี่ หุๆ หลอกเด็กอีกแล้ว คือน้องเค้าชอบมาคุยกับผม ก็รู้สึกดี และคืนหนึ่งผมกับเอ็มก็ได้โทรคุยกัน
ผมแซวมันหนักมาก ทั้งเรื่องอ้วน หน้าแก่ ขอบอก มันจริงๆ

“เดี๋ยวต่อยเลย” มันกรอกเสียงมาตามสายโทรศัพท์ ดูมันพูดกับรุ่นพี่เถอะ
“ก็ปากหมาอย่างนี้ไงถึงไม่มีแฟน” มันว่าตัวเองครับ ผมก็เลยลองชวนมันมาเล่นๆ มันก็บอกว่าไม่ไปหาหรอก
ติดงาน ถ้ามาผมจะให้มันนอนที่ไหนล่ะ แต่ถ้ามาก็ดี คิดถึง และมีช่วงหนึ่งผมก็หนีงานไปหาเพื่อนที่ฝึกงานเก่า
อยู่กันเกือบครบ ไอ้เถื่อนมันตัดผมด้วย แต่มันก็ไม่ค่อยคุยกับผมเลย

แต่มีช่วงหนึ่งผมเอากล้องมาด้วยก็เลยขอถ่ายรูปเพื่อนๆ ตอนแรกก็ธรรมดา สุดท้ายเป็นรูปผมกับท่านเถื่อนถ่อย(อย่าว่ากันนะเว้ย)
มันก็ถ่ายได้น่าคิดมาก เพื่อนผมมาเห็นก็ถามผมว่าคู่ขาเหรอ นึกแล้วขำ ก็เรานั่งโอบไหล่โอบเอวกันอยู่บนเตียงนอน หน้าก็ชิดกันมาก
แต่รูปที่ล้างออกมามันดูดีนะ เพื่อนมาเห็นก็บอกว่าดูเท่ หล่อดี ก็แน่อยู่แล้ว กิ๊กผมซะอย่าง(?!)


ที่จริงระหว่างที่ผมเดินทางไปสามจังหวัดในการฝึกงาน ก็มีที่เชียงใหม่ที่มันส์อีกที่ การเดินทางครั้งนี้ผมไม่รู้จะนั่งกับใคร
ก็ที่จริงอยากนั่งกับน้องโน๊ตน่ะนะ พอขึ้นรถก็เลยทำเป็นพูดว่า

“จะนั่งกับใครดีล่ะเนี่ย”
ไอ้น้องโน๊ตก็ตอบตามคาด “มานั่งกับชั้นนี่” คือมันพูดกับผมนะจะไม่เรียกผมว่าพี่ ดูลามปามมะ

ระหว่างทางก็เคลิ้มบ้าง นั่งคุยกันบ้าง โน๊ตมันก็ชวนผมคุยเรื่อยล่ะ เวลานอนบางทีก็มาพิงซบไหล่ผม
ด้วยความตั้งใจด้วยนะ แบบมันตั้งใจเอาหัวมาวางบนไหล่ผมและก็จัดแขนผมให้มันนอนสบายๆ ดูเอาล่ะกัน

ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ก็ยาวนานและก็เหนื่อยพอสมควร กว่าจะถึงก็ค่ำ ผมก็โทรหาเพื่อนผมที่รักกันมาก
คือผมรู้สึกดีที่เคยกอดมันน่ะครับ แบบอุ่นดี จนตอนนั้นมีคนแซวว่าผมเป็นแฟนมัน และตอนจะแยกกันกลับก็มีแต่คนแซวผมว่าทิ้งแฟนเหรอ เดี๋ยวมันก็เหงาแย่
เอาล่ะกลับมาที่ปัจจุบันกันต่อ
พอถึงที่พัก ที่จริงผมง่วงนะ แต่ดันตกลงกับเพื่อนไว้แล้วว่าจะไปดูหนังด้วย แล้วมันก็เลี้ยงหนังผม
แต่ขอบอกว่าเป็นหนังโรแมนติกคอมเมดี้ ชนิดที่ว่าพอผมบอกกับคนอื่นว่าไปดูหนังกับใครแล้วเรื่องอะไร ทุกคนทำหน้าทำตาแบบว่า
เฮ้ย พวกมรึงเป็นอะไรกันวะ ถึงไปดูหนังรักกัน


แต่ที่จริงเราก็ไม่ได้ไปดูกันสองคนนะ แต่ใจจริงผมก็อยากให้แค่สองคนเหมือนกัน
แบบโรแมนติกดี พอกลับมาที่พักโน๊ตมันก็แซวผม

“นี่ ดูนะออกไปดูหนังกับชู้สองคน” มันพูดต่อหน้าคนอื่น
ผมก็อธิบายไปว่าไม่ใช่ แต่ก็สนุกดีทำให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าเรากิ๊กกัน

วันต่อมาผมก็ออกไปหากินกับเพื่อนผมอีก ที่จริงไปหาเที่ยวฮะ แล้วก็ไปกินนม สุดท้ายก็ไปเล่นไพ่ฆ่าเวลาที่ห้องมัน
ก็เด็กๆยังไม่กลับจากคาราโอเกะนี่ ที่จริงผมก็อยากไปกับน้องอยู่ อ้อ พอดีมีคนหนึ่ง เป็นหัวหน้าของทางฝ่ายต้อนรับน่ะครับ
หล่อดีครับ ตัวเตี้ยไปนิด แต่หน้าตาดีครับ ตาหวานๆ ปากได้รูป จมูกโด่งสันฯลฯ(มันจะเว่อร์ไปมั้ง)

สุดท้ายผมก็กลับหอมานอนก่อนเด็กๆ ก็ผ่านไปอีกวัน สุดท้ายก็กลับกันซะที เพื่อนผมมันก็มาส่ง
ที่จริงผมอยากโผเข้าไปกอดลามันแบบที่เคยทำแต่อายสายตาเด็กๆครับ ก็เลยแค่ Give me five กันแค่นั้น
โอบไหล่กันเล็กน้อยพอเป็นพิธี


พอจบจากช่วงนี้เราก็ไปเที่ยวกันล่ะ ผมล่ะต้องตามโน๊ตไปตลอดเลย ก็มันลากผมไปนี่ ยังมีอีกนะที่มันแซวผมเรื่องเดิม

“มัวแต่ไปกับชู้ ไม่สนใจน้องนุ่ง” ผมก็สวนกลับสิ
“ชู้อะไร คนมันยังไม่มีแฟน แบบนี้เค้าจะเรียกว่าชู้ได้ยังไง” มันก็ทำท่าชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
ก็ประมาณว่าชั้นไง มีชั้นอยู่ไงประมาณนี้ คิดว่าเหมือนหยอกเล่น แต่แมร่งทำหน้าจริงจังว่ะ

ขากลับเราก็สวีตสุดๆ จับมือถือแขน ควงกันไปตามที่ต่างๆ นอนพิงกัน แบบว่าถ้ามันไม่มีแฟนนะคนอื่นต้องคิดว่าผมเป็นแฟนกับโน๊ตแน่เลย
ผมก็ชอบนะที่มันทำอย่างนี้ ได้อารมณ์ดีเหมือนกัน(รมณ์’ไรวะ)

ในส่วนที่ยิ่งรู้สึกดีก็คือตอนใกล้จะถึงที่หมาย เราก็นั่งคุยกัน แบบเล่นๆ แต่อยู่ๆ มันก็พูดขึ้น “หลังจากนี้คงไม่ค่อยเจอกันแล้วสินะ”
พูดมาแบบนี้ผมยังอยู่ในอารมณ์เล่นหัวอยู่ก็หยอกมันกลับ แต่มันขึงขังใหญ่เลย “เอ้า ฟังสิ นี่จริงจังนะ”
ผมก็เลยจริงจังก็ได้ มันจับมือผมไว้


“เนี่ย จากนี้เราคงไม่ค่อยเจอกันแล้ว คุณก็ต้องวุ่นกับวิชาเรียนคุณ ผมก็ต้องวุ่นของผม เวลาจะเจอกันก็ไม่ค่อยมี
หลังจากที่เราร่วมหัวจมท้ายมาด้วยกันเป็นเวลากว่าสองปีนี่ อยากให้จดจำเวลานี้เอาไว้
เพราะไม่รู้ว่าจะมีวันไหนที่เราจะได้เดินทางด้วยกันแบบนี้อีก ได้ทำกิจกรรมร่วมกันอีก”
ผมตั้งใจฟังเลยนะ ไม่นึกเลยว่าเด็กขี้เล่น เอาแต่เฮฮาบ้าๆบอๆอย่างโน๊ตจะคิดสิ่งต่างๆได้ขนาดนี้
พอมานั่งฟังแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าตลอดวันเวลาที่ผมได้รู้จักกับน้องโน๊ต โน๊ตเองก็รู้สึกดีกับผมมากมายเหมือนกัน

“บางทีที่ผมทำอะไรลงไปหลายๆอย่าง ถ้าทำแล้วมันดูเหมือนไม่ดี ไม่เคารพ ไม่เชื่อฟังละลาบละล้วงล่วงเกินไปนี่
ก็ขอกราบขอโทษ ณ ตรงนี้เลยก็แล้วกัน” ว่าแล้วโน๊ตก็กราบลงบนไหล่ผม
ในสถานการณ์แบบนั้นคำพูดใดๆผมไม่สามารถเอามาอธิบายได้เลย ผมไม่มีน้องชาย ไม่เคยคิดอยากจะมี
อยากมีแต่พี่ชายทั้งๆที่จริงก็มีอยู่แล้ว เคยพอใจกับความเป็นลูกคนเล็ก แต่วันนี้
การมีน้องชายสักคนบนโลกใบนี้ มันก็ดีเหมือนกันนะ ผมเอามือจับมือโน๊ตที่กราบลงมาแล้วบอกกับโน๊ตไปว่า

“ตลอดมานายเป็นน้องที่น่ารัก เป็นเด็กดี พี่ไม่เคยโกรธนายหรอก” มันเป็นความรู้สึกที่จริงใจต่อกันอย่างมากเลยนะครับ
แทบไม่ได้พูดอะไรกันต่อมาก มีเพียงความเงียบระยะหนึ่ง ซึ่งมันทำให้ผมซึมซับความรู้สึกดีๆได้อย่างเต็มที่
แต่...พอมาคิดดูนี่ ไอ้โน๊ตมันก็พูดดังพอสมควรนะ อย่างนี้พวกที่นั่งอยู่ใกล้ก็ได้ยินหมดสิ
ผมล่ะเขินตายเลย(อายเป็นด้วย) แต่ผมก็โอบโน๊ตเอาไว้ มันเป็นความผูกพันแบบพี่น้องต่างสายเลือดที่รักกัน
ผมรักมันเหมือนน้องคนหนึ่งเลย ถึงแม้จะไม่จัดอยู่ในน้องรักหมายเลขใดๆ แต่โน๊ตเป็นน้องที่พิเศษ
เพราะเราเหมือนกันหลายอย่าง และรู้สึกแบบเดียวกันแน่ๆ ว่ายังไงเราก็รักกันแบบบริสุทธิ์ใจยังกับพี่น้องแท้ๆเลยล่ะ

แหะๆ จบตอนแล้วครับ ไปล่ะนะ

จากคุณ : บาปนะ

[sun]

ผู้ชายนี่เขาหยอดคำหวานกันน่ารักจังเลย

ไหนจะเรื่องหอม ...เหอๆมุขนี้ใช้ได้ผลตลอกจริงๆ
เรื่องของ คุณ บาป ทั้งเรื่องของหมึกตะนอย
น่ารักกันจังเลยเนาะ ....
แล้วม่าไหร่เราจะมีผะชายมาหยอดหวานๆก่าเราแบบนี้มั่งมั๊ยน่อ 

[Junrai_Hyper™]

มาหยอดหวานให้ซันครับ 

ระวังเปงเบาหวานะคับ

คริคริ

[hippoworld]

เหย หมั่นใส้ ไปหวานกันไกลๆเลยไป

(เอ๊ะ ตามเข้ามาอ่านเองนี่หว่า)