เพิ่งแต่งเสร็จสด ๆ ร้อน ๆ ว่าจะแปะให้อ่านพรุ่งนี้
คิดดูอีกที แปะเลยแล้วกัน นักอ่านจะได้ต่อเนื่อง... - -+
ใกล้จบแล้วนะจ๊ะ เจอกันตอนหน้า คงจะเป็นฉากหวาน ๆ แบบเต็มสูบของคู่พระ-นาย คู่หลัก
ส่วนคู่รอง ๆ ............ กำลังคิดอยู่ว่า จะใส่รวมหรือแยกเป็นตอนพิเศษดี
----------------------------------
คุณตำรวจยอดรัก
==============
27
กานต์กลืนน้ำลายลงคอเมื่อนายดำพาตนเองเข้ามาที่บ้าน บ้านของนายดำเป็นบ้านไม้เดี่ยวสองชั้น มีพื้นที่ ราว 40 -50 ตารางวา เจ้าตัวมีรถกระบะ 1 คัน มอเตอร์ไซด์อีก 1 คัน ดูไปแล้วก็ถือว่ามีฐานะพอควร ซึ่งกานต์ก็ไม่แปลกใจ เพราะอีกฝ่ายจัดอยู่ในแบล็กลิสต์ของตำรวจเกี่ยวกับคดีค้ายาเสพติดอยู่แล้วด้วย
“เป็นไงจ๊ะ น้องกานดา บ้านพี่ดำน่าอยู่ไหม?”
นายดำหันมาถามคนที่ตนพามาด้วย พร้อมกับแสยะยิ้มหื่นอย่างที่กานต์เห็นแล้วขนลุกซู่
“น่าอยู่ดีพี่ แบบนี้ให้มาอยู่ถาวรก็เอานะ”
คนฟังหัวเราะลั่นชอบใจ แล้วโอบกอดซุกไซ้ร่างที่เฝ้าปัดป้องเอียงอาย ซึ่งดูเหมือนจะทำไปด้วยจริตมารยา แต่ที่จริงเกิดมาจากความรังเกียจเต็มที่
“อยากอยู่ก็มาสิ พี่อยู่คนเดียวนะเนี่ย มงเมียก็ไม่มี”
“เอ๋? อย่างพี่ดำน่ะเหรอจะอยู่คนเดียว โกหกมั้ง?”
กานต์แกล้งทำเป็นถามอย่างสงสัย อีกฝ่ายหน้าขรึมลงไป แล้วจึงบอกต่อ
“เมื่อก่อนก็มีเพื่อนซี้อยู่ด้วยกัน แต่มันโดนตำรวจยิงตายไปแล้ว ก็เลยต้องอยู่คนเดียว...”
กานต์ชะงักกึก กลืนน้ำลายลงคอ แล้วอุบอิบบอก
“ขอโทษด้วยพี่ ที่ทำให้พี่คิดถึงเรื่องไม่ดี”
“ไม่เป็นไร ๆ เรื่องมันผ่านมาแล้ว และพี่ก็แก้แค้นสำเร็จแล้วด้วย พี่เก็บไอ้ตำรวจที่มันยิงเพื่อนพี่ไปแล้ว กลางวันแสก ๆ ต่อหน้าต่อตาชาวบ้าน หึ! ป่านนี้ไอ้พวกตำรวจคนอื่นคงเต้นผางเป็นเจ้าเข้ากันไปแล้วล่ะ!”
นายดำกลับมาหัวเราะร่วน แต่ทำเอาคนข้าง ๆ ชะงักกึก แล้วรีบเปลี่ยนท่าทีเป็นเสแสร้งแกล้งชมคนข้างกาย
“โห! พี่ดำเก่งจัง ทำได้ไง แล้วตำรวจเขายอมปล่อยให้พี่ยิงง่าย ๆ ได้ไงล่ะนั่น”
คนถูกยกยอยิ้มกว้าง แล้วโอบเอวกานต์ไปนั่งตักของตนที่โซฟาห้องรับแขกชั้นล่างแถวนั้น
“ไม่ยอมก็ต้องยอม ก็พี่แบกอาวุธสงครามไปจัดการพวกมันนี่ โดนยิงกราดแบบนั้น ยังไงมันก็ต้องถูกซักนัดล่ะ!”
กานต์ลอบกำมือแน่น พอเห็นบทสนทนามาถึงตรงนี้ เขาก็รีบตะล่อมเข้าเรื่องทันที
“โห! พี่มีอาวุธสงครามด้วยเหรอ เป็นเอเยนต์หรือเปล่า? ผัวผมมันอยากได้จะตาย แต่ก็ไม่รู้จะติดต่อซื้อขายผ่านใคร มันบอกของพวกนี้ทำเงินได้ดีพอ ๆ กับยาบ้าเลยน่ะพี่ แล้วหลัง ๆ ขายยามันก็เสี่ยงมากด้วย”
นายดำมองคนบนตักแล้วหรี่ตานิด ๆ แต่ก็ไม่แปลกใจอะไรมากนัก เพราะรู้ว่าพวกชายหนุ่มที่มาขายตัวแบบนี้ มักจะมีสามีที่ทำตัวเป็นแมงดาคอยเกาะกินอยู่อีกทอดหนึ่งอยู่แล้ว
“พี่ไม่ได้ขายหรอก ได้มาจากเขาอีกทอด ...แต่ก็สนใจธุรกิจพวกนี้อยู่บ้าง กะว่าพอเรื่องยิงตำรวจซาสักพัก พี่จะเริ่มเคลื่อนย้ายของ ถึงตอนนั้น ถ้าผัวน้องกานดายังสนใจ ก็ให้มาคุยกับพี่ ...แล้วถ้าผัวน้องอยากได้ส่วนลด ให้ส่งตัวน้องกานดาเป็นส่วนลดก็ได้”
พอบอกจบประโยคนายดำก็เริ่มซุกไซ้ซอกคอของอีกฝ่ายอย่างหื่นกระหาย กานต์หลุดครางเบา ๆ อย่างจั๊กจี๊ และนั่นก็ยิ่งทำให้ อีกฝ่ายเริ่มจะทนไม่ไหว ถอดเสื้อของตนออก แล้วจับร่างของผู้หมวดหนุ่มผลักนอนราบลงไปกับโซฟาตัวยาว
“ดะ...เดี๋ยวพี่ดำ จะทำทั้งแบบนี้เลยเหรอ ผมตัวเหนียวไปทั้งตัว ยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะ เดี๋ยวก็เหม็นกันพอดี”
กานต์พยายามหลีกเลี่ยง แต่อีกฝ่ายเริ่มหน้ามืดไปแล้ว ทั้งสูดดม ทั้งจูบ ซุกไซ้ไปทั่วร่างที่ชวนมองนั่น
“ใครว่าเหม็น น้องกานดาออกจะหอมไปทั้งตัวแบบนี้ ...พูดก็พูดเถอะ พี่อิจฉาผัวน้องจริง ๆ ได้ผู้ชายอย่างน้องไปเป็นเมีย ...ว่าไง ถ้าเบื่อผัว อยากเปลี่ยนผัวใหม่เป็นพี่ บอกพี่ได้ทุกเมื่อนะ พี่จัดการให้น้องได้สบายมาก...”
กานต์พยายามดันร่างกายของดำออกห่าง แต่ดูเหมือนว่าเรี่ยวแรงของเขาจะสู้อีกฝ่ายเอาไม่ได้เสียเลย แถมเมื่อครู่เกือบจะได้ข้อมูลเรื่องอาวุธสงครามอยู่แล้ว แต่ก็ดันถูกพาออกนอกเรื่องเสียได้
“ยะ...อยากลองจังเลย...”
ผู้หมวดหนุ่มตัดสินใจข่มความอาย แล้วบอกออกไปด้วยใบหน้าแดงก่ำ
“อยากลองอะไรหรือน้องกานดา?”
นายดำเงยหน้ามามองคนพูดอย่างสงสัย กานต์นั้นพยายามข่มความอาย แล้วพูดออกไปเสียงสั่น
“กะ...ก็ พอคุยถึงอาวุธสงครามเมื่อครู่ ...ผมก็ดันไปนึกถึงพวกลูกกระสุนใหญ่ ๆ ...แบบว่า ...เลยคิดว่า มันจะใส่ลงไปใน...ช่องนั้น...ง่า...ของผมได้ไหมนะ”
นายดำนิ่งอึ้ง เงียบไปนาน จนกานต์ชักใจเสีย กลัวจะถูกจับผิดได้ ทว่าผิดคาด เพราะอีกฝ่ายระเบิดเสียงหัวเราะลั่นด้วยความถูกใจแทน
“ฮ่า ๆ ๆ สวรรค์โปรดไอ้ดำแท้ ๆ ได้มาเจอคนวิปริตเหมือนกันแล้วโว้ย! น้องกานดาล่ะก็ ชอบเล่นซาดิสต์แบบนั้นก็ไม่บอกพี่... มา ๆ เดี๋ยวพี่จัดให้ รับรองเลยว่าน้องจะต้องเสียวถึงใจแน่นอน!”
กานต์แสร้งยิ้มหวานรับ ทั้งที่แทบจะทนไม่ไหวอยู่รอมร่อ เขาอยากวิ่งหนีออกไปเสียเดี๋ยวนี้ แล้วให้พวกข้างนอกจู่โจม แต่นั่นมันจะทำให้แผนการที่อุตสาห์ลงทุนเปลืองทั้งแรง ทั้งตัว เสียเปล่าในทันที
กานต์ถูกร่างสูงบึกบึนของนายดำดึงข้อมือเดินนำไปที่มุมตู้โชว์ของห้องรับแขกแล้วจึงบอกอีกฝ่ายให้ช่วยเขาเลื่อนตู้
“นั่นล่ะ ผลักมาเบา ๆ แบบนั้นล่ะ”
กานต์ขยับตู้อย่างไม่ต้องใช้แรงมาก เพราะส่วนใหญ่ดำจะจัดการแทนเสียมากกว่า แต่พอเขาเห็นดำถลกผืนเสื่อน้ำมันที่ลองตู้ออก ผู้หมวดหนุ่มก็ต้องนิ่งอึ้ง เมื่อเห็นสลักประตูสำหรับดึง บนพื้นไม้ด้านล่าง
“ห้องใต้ดิน...หรือครับพี่”
กานต์พึมพำอย่างตกใจ ...มิน่าล่ะพวกก้องภพถึงหาของในบ้านหลังนี้ไม่เจอสักที
“อื้อ สุดยอดใช่ไหมล่ะ เมื่อก่อนก็เอาไว้พักยา แต่เดี๋ยวนี้เอาไว้เก็บเจ้าพวกนี้แทน”
นายดำบอกอย่างไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเป็นสายตำรวจ ซึ่งก็ถือว่าเป็นโชคดีของกานต์ในข้อนี้ แต่อีกฝ่ายคงจะคาดไม่ถึงแน่นอนว่า จะมีตำรวจกล้าลงทุนปลอมตัวมาอย่างที่กานต์เป็นอยู่
ดำเปิดประตูห้องใต้ดิน แล้วจึงค่อย ๆ ไต่บันไดไม้ลงไป ก่อนจะเรียกกานต์ที่ยืนอยู่ให้ลงตามมา กานต์นั้นลังเลนิดหน่อย แล้วจึงตัดสินใจตามลงไปติด ๆ เพื่อที่จะลงไปให้เห็นหลักฐาน แล้วจึงจะเรียกเพื่อน ๆ ที่อยู่ข้างนอกมาจัดการเสียที
เสียงสับคัทเอาท์เดินไฟ พร้อมกับไฟห้องใต้ดินที่เปิดสว่างให้เห็นอาวุธสงครามมากมาย ที่ทำให้ตำรวจอย่างกานต์ต้องนิ่วหน้า
“หามาได้เยอะขนาดนี้เชียวหรือ...”
“อื้อ นายเขามาฝากพักของ แล้วก็ให้ยืมใช้ตามสบายน่ะ ...อ้อ นี่ไง ที่น้องกานดาอยากได้”
นายดำก้มลงหยิบกระสุนขนาดใหญ่อันละประมาณฟิมล์ถ่ายรูป กานต์กลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะหัวเราะแห้ง ๆ
“มันไม่ใหญ่ไปหรือพี่...ผมกลัวจะรับไม่ไหว”
“ไม่ ๆ คราวก่อนที่พี่พาเด็กมาจากร้าน พี่ยังใส่กระบอกไฟฉายเข้าไปได้ทั้งอันเลย แค่นี้จิ๊บ ๆ”
ชายร่างใหญ่บอกแล้วหัวเราะอย่างชอบใจ แต่คนฟังชักจะไม่สนุกด้วยแล้ว ขืนไม่รีบลงมือ มีหวังคงถูกทำวิตถารก่อนแน่
“พี่ดำ...ถ่ายคลิปเก็บไว้ดูได้ไหมครับ”
ดำชะงัก พลางกลืนน้ำลายลงคออย่างชักถูกใจคนตรงหน้ามากขึ้น
“ได้ ๆ แต่อย่าให้โดนของพวกนี้เข้าไปมากนักล่ะ ถ้าริมโน้นน่ะโอเคเลย”
ดำชี้มุมว่างในห้อง กานต์เดินอ้อยอิ่งแล้วอาศัยจังหวะที่หยิบมือถือ ยิงเบอร์หาก้องภพทันที ก่อนจะรีบเปลี่ยนฟังก์ชันกลับมาเป็นการถ่ายภาพเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
“หามุมไม่ค่อยได้เลยแฮะ...”
กานต์ทำเป็นบ่นแล้วลีลาหามุมถ่ายภาพ จนดำชักเริ่มทนไม่ไหว
“หาไม่ได้ก็วางมันไว้แถวนี้เดี๋ยวก็เห็นเองนั่นล่ะ ถ้าถ่ายไม่ดี ก็ทำกันใหม่ถ่ายใหม่ก็สิ้นเรื่อง!”
ดำหยิบมือถือของกานต์ไปวางไว้มุมหนึ่งแล้วเดินเข้ามาหาอีกฝ่ายที่ยืนกลืนน้ำลายเอื๊อกลงคอ อย่างรอลุ้นว่าเพื่อนจะเข้ามาก่อน หรือเขาจะถูกอีกฝ่ายทำวิตถารเสียก่อน
“ไม่ต้องห่วงนะน้องกานดา ครั้งแรกแบบนี้ พี่จะไม่รุนแรงกับน้องมากนักหรอก”
ดำบอกพลางปาดน้ำลายที่เริ่มสอ เขาดันร่างของกานต์ชิดผนัง ก่อนที่ผู้หมวดหนุ่มจะสะดุ้งเฮือก เมื่อมือที่ถูกอีกฝ่ายรวบเหนือหัว สัมผัสกับเหล็กเย็น ๆ แล้วได้ยินเสียงกริ๊กตามมา
“กะ...กุญแจมือ”
กานต์อุทานด้วยความตกใจ เมื่อมือทั้งสองถูกพันธนาการ ด้วยกุญแจล่ามโซ่ แขวนผนัง ด้านดำนั้นถอยออกมามองเรือนร่างกำยำสมชายนั้นอย่างหื่นกระหาย ก่อนจะค่อย ๆ ฉีกกระชากเสื้อของกานต์ออกจนเผยให้เห็นแผ่นอกอันเย้ายวนใจนั่นเต็มตา
“หุ่นดีจริง ๆ น้องกานดาของพี่...ขอพี่ชิมรสน้องก่อนนะ ...เดี๋ยวพี่จะสนองความต้องการของน้องอย่างเต็มที่เลยทีเดียว”
“อ่ะ! เดี๋ยว หยุดนะ...ยะ...อื๊อ...”
กานต์พยายามจะตะโกนห้ามแต่ก็ต้องยั้งตัวเองสุดฤทธิ์ สภาพแบบนี้ขืนเปิดเผยตัวไปมีหวังโดนฆ่าทิ้งหมกห้องใต้ดินแน่ จึงจำต้องอดทนเล่นละครไปตามบท จนกว่าก้องภพและตำรวจคนอื่นจะตามมาช่วยเขาไว้ได้
“พี่ดำ ...อึ๊ก! อย่าแรงนักสิ...ผมเจ็บ...”
กานต์ครางพร้อมกัดริมฝีปากแน่น เมื่อถูกขบกัดยอดอกแรง ๆ จนเป็นรอยห้อเลือด
“หึ ๆ แค่นี้เจ็บแล้วรึ ...แล้วจะทนมากกว่านี้ได้ยังไงกันล่ะน้องกานดา...”
“กะ...ก็ ตอนนี้ผมยังไม่มีอารมณ์...อึ๊ก...พี่ก็อย่าพึ่งรุนแรง...นักสิ”
นายดำพยักหน้าอย่างรับรู้ แล้วจึงปลดซิบกางเกงยีนส์ตัวจิ๋วของอีกฝ่ายดึงออก ทำเอากานต์สะดุ้งเฮือก เหลือบมองประตูด้านบนที่ก็ยังไม่มีใครตามเข้ามาสักที แล้วก็ต้องเม้มปากแน่นอย่างชั่งใจว่าจะทำอะไรต่อไปดี
“มามะ...พี่จะปลุกอารมณ์น้องกานดาเอง”
กานต์กำมือแน่น จนเล็บจิกไปในเนื้ออย่างพยามข่มกลั้นอารมณ์รังเกียจ น้ำตาไหลซึมคลอเบ้าตา เมื่อแก่นกายของตนถูกริมฝีปากของชายอื่นสัมผัส
“หวานจริง ๆ ทั้งหอม ทั้งหวาน...น่ากินไปทั้งตัว”
เสียงครางแหบพร่าหื่นกระหายของร่างใหญ่ที่วนเล้าโลมเลียอยู่เบื้องล่างของผู้หมวดหนุ่มสักพัก ก่อนที่เจ้าตัวจะค่อย ๆ เอากระสุนมาอมในปากให้มีน้ำลายช่วยหล่อลื่น แล้วค่อย ๆ ใช้นิ้วเบิกช่องทางด้านหลังของร่างที่ถูกพันธนาการอยู่อย่างช้า ๆ จนเจ้าของร่างสะดุ้งเฮือก
“พะ...พี่ดำ ทำอะไรน่ะ”
กานต์ถามอย่างตกใจ ซึ่งก็ได้ยินเพียงเสียงหัวเราะเบา ๆ ตอบกลับมา
“เดี๋ยวก็รู้...”
“อะ...อึก!”
ผู้หมวดหนุ่มแอ่นกายด้วยความเจ็บ มือทั้งสองกำจิกเนื้อแน่น น้ำตาไหลพราก เมื่อถูกสิ่งแปลกปลอมดันเข้าไปในร่างกายอย่างช้า ๆ
“มะ...ไม่ ...เอาออกไปนะ...”
กานต์พึมพำพร้อมกับน้ำตา แต่คนทำตอนนี้กำลังตกอยู่ในอารมณ์ใคร่ จนไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเจ็บหรือไม่
“ยัง ๆ เพิ่งจะเข้าไปแค่ส่วนหัวกระสุนเอง... น้องกานดาไม่ใช่รึ ที่บอกว่าอยากให้เข้าไปทั้งอันน่ะ”
นายดำบอกแล้วค่อย ๆ ดันกระสุนปืนขนาดใหญ่เข้าไปช้า ๆ กานต์สะดุ้งเฮือกด้วยความเจ็บปวด แล้วจึงหลุดร้องครางหาชื่อใครบางคนอย่างลืมตัว
“เควิน! เควิน! ช่วยด้วย...ช่วยด้วย!”
“หือ? ใครเควิน ...ผัวน้องกานดาหรือ ...เวลาแบบนี้อย่าเรียกชื่อผัวให้เสียอารมณ์สิ ถ้าจะเรียกก็เรียกชื่อพี่ดำรู้ไหม!”
นายดำบอกอย่างหงุดหงิดแล้วจึงดันกระสุนเข้าไปอีกแรง ๆ จนกานต์กรีดร้องออกมาดังลั่น ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ร่างสูงใหญ่อุทานด้วยความตกใจ เมื่อไหล่ถูกกระชากโดยแรงเหวี่ยงออกไปให้ห่างจากร่างตรงหน้า
เสียงโครมคราม ที่ดังขึ้น ทำให้ร่างที่เจ็บเจียนตายและเกือบจะสลบไป ปรือตาขึ้นมาดู แล้วก็พบกับแผ่นหลังที่คุ้นเคย กำลังถือปืนจ้องไปเตรียมจะยิงชายอีกคนที่ถูกเหวี่ยงไปก่อนหน้านั้น และแม้ไม่เห็นสีหน้า แต่กานต์ก็สัมผัสได้ถึงรังสีความโกรธและจิตสังหารจากอีกฝ่ายเต็มเปี่ยม
“เควิน...อย่าฆ่านะ...อย่าฆ่า...ขอร้อง...”
เสียงแผ่วอ่อนแรงของคนรักทำให้เควินชะงักกึก เขาสบถอย่างหงุดหงิด แล้วจึงเดินเข้าไปหาร่างสูงใหญ่ที่กำลังสะบัดศีรษะอย่างมึนงง ก่อนจะร้องโอ้ยลั่น เมื่อถูกด้านปืนกระแทกที่ศีรษะจนสลบไปทันที
“กานต์...เป็นไงบ้าง...โธ่โว้ย!”
เควินเห็นสภาพของคนรักก็ต้องสบถอย่างเจ็บใจที่ตัวเองเข้ามาช่วยช้าเกินไป เขาเฝ้าอดทนตลอดเวลาที่กานต์หายไปในบ้านกับนายดำ และเมื่อได้รับโทรศัพท์จากอาชวินที่ได้รับแจ้งจากก้องภพ เขาที่อยู่ใกล้ที่สุดก็เป็นฝ่ายบุกเข้าไปก่อน แต่ถึงกระนั้นคนรักของเขาก็ถูกทำร้ายจิตใจไปบ้างแล้วอยู่ดี
ชายหนุ่มลูกครึ่งค่อย ๆ ดึงกระสุนที่คับคาช่องทางเบื้องล่างของคนรักออกช้า ๆ กานต์ผวาเฮือกทั้งร่าง แล้วทิ้งตัวหอบโยนอย่างปวดร้าว เควินตัดสินใจยิงโซ่ที่แขวนกับกุญแจมือทั้งสองออกอย่างแม่นยำ แล้วถอดเสื้อสูทของตนให้อีกฝ่ายสวมใส่ปิดบังเรือนร่างเปลือยเปล่านั่นเอาไว้ พร้อมกับประคองกอดอย่างอ่อนโยนและห่วงหารักใคร่
“ไม่เป็นไรแล้วนะกานต์ มันจบลงแล้ว...ไม่เป็นไรแล้วนะ”
คำพูดอ่อนโยนปลอบโยนทำให้กานต์อยากจะร้องไห้อีกครั้ง เขาซุกซบกับอกกว้างของคนรัก แล้วพึมพำตอบด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้น
“ฉันกลัว...เควิน...กลัวมาก ...กลัวนายจะไม่มาช่วย ...กลัวว่าถ้าถูกทำเรื่องแบบนั้นโดยคนอื่น...ฉันกลัวนายจะรังเกียจ ...จะทิ้งฉันไป....ฮึก...”
“ไม่มีทางกานต์ ไม่มีทางที่ฉันจะทิ้งนาย...ไม่มีทาง”
เควินปลอบโยนคนรักให้หายตกใจ แล้วเหลือบไปเห็นมือถือของคนรักที่วางอยู่ และกำลังถ่ายคลิปค้างไว้อยู่
“ลบมันทิ้งไปให้หมดเลยนะเควิน...ฉันไม่อยากนึกถึงมันอีก”
กานต์บอกพึมพำ ซึ่งอีกฝ่ายก็เต็มใจและทำตามอย่างว่าง่าย เพราะขืนได้ดูฉากก่อนหน้านั้นเต็มตา มีหวังเขาคงจะฆ่านายดำทิ้งแทนที่จะส่งให้กับตำรวจดำเนินคดีแน่
“นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ พวกเราล้อมไว้หมดแล้ว อย่าคิดสู้...อ้าว?”
ก้องภพที่ฉายไฟเข้ามาในห้องใต้ดินที่ไฟสลัว อุทานด้วยความแปลกใจที่เห็นคนร้ายนอนสลบไปแล้ว ส่วนกานต์ก็กำลังยืนกอดกับเควินในสภาพที่หมิ่นเหม่
“ง่า เรียบร้อยแล้วเหรอ?”
“เออ! มาช้าชะมัด เกือบจะแย่แล้วรู้ไหม!”
กานต์บ่นอุบใส่เพื่อน แล้วใช้แขนปาดน้ำตาของตนให้แห้ง พร้อมกับฝืนยิ้ม
“ได้หลักฐานแล้วว่ะ ที่เหลือก็แค่คาดคั้นให้หมอนี่คลายความลับมาว่า ใครกันที่เป็นคนฝากของพวกนี้ไว้กับมัน”
“เรื่องนั้นขอเป็นหน้าที่ของพวกผมเองได้ไหม ...โทนี่เองคงอยากมีส่วนร่วมเต็มแก่แล้ว พวกคุณขอไว้แค่หมอนี่ใช่ไหม ...แต่ตัวใหญ่กว่านี้ ผมอยากจัดการกันเองมากกว่า ...จะได้ไม่ต้องให้ไปเสี่ยงกันอีก”
ท้ายประโยคเควินก้มลงมองคนรักของตน ที่มีสีหน้าแดงระเรื่อ เห็นดังนั้นก้องภพจึงถอนหายใจ แล้วพยักหน้ายอมรับอย่างว่าง่าย
“ก็ได้ ยังไงเรื่องมันรวดเร็วได้ขนาดนี้ก็เพราะพวกคุณมีส่วนช่วย งั้นผมขอแค่คดียิงตำรวจนี่ล่ะ ส่วนเรื่องอาวุธสงคราม ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง หลังจากจัดการตามใจแล้ว ผมขอหลักฐานที่เหลือด้วยนะครับ”
เควินยิ้มให้ก้องภพที่เจรจารู้เรื่องกันง่าย ๆ ไม่ค่อยดื้อด้านผิดกับคนรักของตน
“แบบนั้นมันจะดีหรือวะก้อง...โอ๊ย!”
กานต์อุทานด้วยความเจ็บเมื่อบ่าของตนถูกเควินจงใจบีบแรง ๆ เข้าให้
“ถ้าอย่างนั้นผมพาคนรักของผมกลับก่อนนะครับ มีอะไรค่อยติดต่อมาอีกทีแล้วกัน”
“ตามสบายครับ ขอบใจนะกานต์ ไว้จะไปเลี้ยงเหล้าทีหลังน่ะ”
ก้องภพบอกพร้อมกับให้ทีมตำรวจของตนลงมาเก็บหลักฐานและติดต่อไปทางสน.ของเขา เพื่อจัดการเรื่องคดีในลำดับต่อไป ส่วนกานต์นั้นจัดแจงใส่กางเกงยีนส์ตัวจิ๋วของตนให้เรียบร้อย แล้วห่มเสื้อสูทของเควินปิดเนื้อตัวอย่างมิดชิด ก่อนจะก้มหน้าก้มตาหลบหน้านายตำรวจบางคน ที่พอ ๆจะรู้จักหน้าคร่าตากันอยู่บ้าง ปีนขึ้นจากห้องใต้ดินออกไปข้างนอกอย่างเร่งรีบ โดยมีเควินคอยเดินตามไปไม่ห่างนัก
---TBC---