ผมออกมาจากห้องน้ำอีกครั้งหนึ่งผมก็เห็นว่าไอ้เฟคมันหลับไปแล้ว สงสัยมันจะเหนื่อยอย่างที่มันบอกกับผมจริงๆ ตอนที่มันหลับมันก็ดูดีเหมือนกันนะเนี๊ยผมเพิ่งสังเกตเห็นเหมือนกัน ผมเดินเข้าไปมองมันใกล้ๆ ก่อนที่ผมจะเอานิ้วจิ้มๆ ที่แก้มของมัน
“ฮั่นแน่..มาแกล้งอะไรพี่ มานี่เลยบีม”
ผมแค่จิ้มนิ้วลงไปครั้งแรกไอ้เฟคมันก็ลืมตาขึ้นมาทำเอาผมตกใจแต่ผมก็หนีมันไม่ทัน ผมเลยถูกมันรวบตัวไปอยู่ในอ้อมกอดของมัน
“ปล่อยนะพี่เฟค พี่จะหลับก็หลับไปซิผมจะลงหาข้างล่าง”
“ไม่เอา เดี๋ยวพี่ปล่อยบีม บีมก็มาแกล้งพี่อีกซิ นอนเป็นเพื่อนกันก่อนซิ รู้หรือเปล่าว่าพอพี่ไม่ได้นอนกอดบีมแล้ว พี่นอนไม่ค่อยหลับเลย นะครับ นอนเป็นเพื่อนพี่นะ”
“ก็ได้นอนอย่างเดี๋ยวนะห้ามทำอย่างอื่น”
“สัญญาครับว่านอนเฉยๆ ไม่ทำอย่างอื่น ตอนนี้พี่ไม่มีแรงเหลือแล้วล่ะจะทำอะไรบีมได้ไง แต่ถ้าบีมทำให้พี่ล่ะก็ศุ้ตายครับ”
“นอนไปเลย..ไม่ต้องมาหื่นใส่เลย”
“ครับ...”
แล้วไอ้เฟคมันก็นิ่งไป สักพักผมก็ได้ยินเสียงไอ้เฟคมันกรนออกมาเบาๆ มันคงหลับไปแล้วจริงๆ ผมจึงค่อยๆ แกะมือของมันออก แล้วผมก็ลุกออกจากเตียงแล้วเดินลงไปข้างล่าง เพื่อไปรดน้ำต้นไม้ให้พ่อแล้วจะโทรหาพี่กิจด้วยว่าเป็นอะไรหรือเปล่า
พอรดน้ำต้นไม้เสร็จผมก็โทรหาพี่กิจทันที่ แต่พี่กิจดันปิดเรื่องเสียอีกสงสัยจะทำงานหรือไม่ก็เข้าประชุมแน่ๆ เลย โทรไปหาหมวดก้องก็ได้
“นี่หมวดก้อง หมวดเห็นพี่กิจหรือเปล่าว่าไปไหน ทำไมปิดเครื่องไม่ยอมรับสายผม”
ผมถามหมวดก้องทันที่ ที่เขารับสายตอนนี้ผมสนิทกับหมดวก้องจนพูดกันห้วนๆ ได้แล้วครับ แล้วหมวดก้องก็แก่กว่าผมไม่กี่เดือนเอง
“โดนท่านเรียกเข้าไปพบเมื่อกี้นี่เอง นี่ผมคงโดนเป็นรายต่อไป เห็นตอนท่านมาเห็นหน้าไม่ค่อยดีเท่าไร พวกผมโดนแน่เลยผมก็เพิ่งรู้ว่าท่านหวงลูกชายขนาดนี้ถ้าพี่กิจเล่าให้ฟังก่อนผมคงพาคุณไปส่งที่บ้านตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”
“เหรอหมวด ได้ข่าวว่าเมาเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”
“ใครบอกว่าผมเมา....เอ๊ย..ผมไปก่อนนะพี่กิจออกมาแล้วเดี๋ยวผมจะบอกให้พี่กิจโทรไปหาแล้ว ถึงเวลาของผมแล้ว”
“โชดดีนะหมวดถ้าหมวดรอดออกมาห้องพ่อผมได้เย็นนี้ผมจะเลี้ยงเหล้าอีกเอาป่าว”
“ไม่แล้วล่ะ ผมไปก่อนนะ”
แล้วหมวดกิจก็วางสายไป เพียงครู่เดียวพี่กิจก็โทรเข้ามาหาผม
“ว่าไง..โทรมาตามผลงานหรือไง”
“โถ...เปล่าสักหน่อยพี่กิจผมโทรมาเช็กดูว่ารอดหรือเปล่าอ่ะ”
“ไม่ต้องมาพูดเลย ดีนะท่านอารมณ์ดีเลยโดนบ่นไปนิดหน่อยผิดปกติ”
“ก็ดีแล้วที่โดนนิดหน่อย ไม่งั้นผมคงรู้สึกผิดแน่ๆ ที่ทำให้พี่เดือดร้อน แล้วเย็นนี้ว่างหรือเปล่าผมเลี้ยงเหล้า”
“ว่างซิ....แต่เอาจริงเหรอ พี่จะไม่โดนเล่นเหรอว่ะ”
“เออ....น่าครั้งนี้มีแบคล์ดีไม่ต้องกลัวเจอกันที่เดิมสองทุ่มนะพี่”
“ได้ๆ ชวนหมวดกิจไปด้วยเปล่า”
“ฝากพี่บอกให้ผมด้วยแล้วกัน”
หลังจากนัดแน่ะกันเสร็จเรียบร้อยแล้วผมก็คุยเล่นกับพี่กิจอีกสักพักก่อนที่จะวางสายไปเพราะว่าพี่กิจต้องออกไปทำงานนอกสถานที่ พี่กิจถึงยอมเลิกลาไป มันทำให้ผมนึกถึงสมัยก่อนที่ผมเคยอยู่ที่นี้ก่อนที่จะย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพ ก็มีพี่กิจนี่แหละที่คอยเป็นเพื่อนคอยให้คำปรึกษากับผมตลอด และพี่กิจเองก็รู้ด้วยว่าผมเป็นอย่างไง ดังนั้นพี่กิจเลยลากเอาหมวดก้องมาด้วยนั้นเอง และผมก็รู้ว่าพี่กิจต้องการอะไร แต่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก สำหรับผมกับหมวดก้อง เพราะตอนนี้หัวใจของผมมันยกให้คนใจร้ายที่นอนหลับอยู่ในห้องผมไปหมดแล้ว
หลังจากที่วางสายจากพี่กิจไปแล้ว ผมเองก็ไม่รู้จะทำอะไรเหมือนกัน จะออกไปข้างนอกก็กลัวว่าไอ้เฟคมันตื่นขึ้นมาไม่เห็นก็จะเป็นเรื่องขึ้นมาอีก จะไปปลุกแล้วบอกมันก็ไม่กล้า ผมเลยมานั่งดูโทรทัศน์ หน้าของผมจ้องดูแต่ใจกลับคิดไปถึงเรื่องของไอ้เฟคตั้งแต่เป็นเด็ก แต่มันก็ลางเลือนไปหมดแล้ว ผมจำได้แต่เพียงว่ามันเป็นใครเท่านั้นจากคำบอกเล่าของพ่อเมื่อเช้า
“ทำอะไรอยู่ครับ”
เสียงไอ้เฟคดังมาจากด้านหลังของผม ผมจึงหันหน้ากับไปมอง ก็เห็นว่าไอ้เฟคยืนยิ้มพิงกับประตูทางเข้าอยู่ เสื้อกับกางเกงที่มันใส่ก็ดูตลกมาก ขนาดผมไปเอาเสื้อผ้าของพี่ชายผมมาให้มันใส่ มันยังดูเล็กไปหมดเลยสำหรับมัน
“มองอะไร...พี่ก็เขินเป็นเหมือนกันนะ มองอยู่ได้”
เมื่อผมไม่ตอบมัน แต่มองมันนิ่งๆ ไอ้เฟคมันก็พูดออกมา แล้วมันก็เดินเข้ามาหาผมแล้วก็ก้มตัวลงกอดผมจากด้านหลังโดยมีโซฟากั้นเอาไว้
“เปล่า...เสียหน่อย อย่ามาเข้าข้างตังเอง”
“เหรอ พี่เห็นบีมมองขนาดนั้นก็นึกว่ามองพี่ ว๊า...”
ไอ้เฟคมันทำหน้าเสียดายได้กวนมากๆ มันรู้ทันนั้นแหละว่าผมเองก็เขินเหมือนกัน มันปล่อยผม แล้วมันก็เดินอ้อมมานั่งแล้วมันก็ล้มตัวนอนบนตักของผม ทำให้ตอนนี้ตาต่อตาของเราก็ประสานกันและมันก็เหมือนมีมนต์สะกดทำให้ผมค่อยก้มหน้าต่ำลงมาตามแรงดึงของไอ้เฟค จนหน้าของเราชิดกันแล้วมันก็จูบกับผม รสจูบของมันเร้าร้อนและรุนแรงเหมือนเดิม ผมกับไอ้เฟคจูบกันอยู่อย่างนั้นจากตอนเริ่มต้นเหมือนจะเป็นแค่การหยอกเอินกันเท่านั้น แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าไอ้เฟคมันรุกเร้าผมมากขึ้น
ไอ้เฟคถอนปากออกจากปากของผมแล้วมันก็ลุกขึ้น แล้วมันก็ประกบปากของมันกับผมอีกรอบ มือของมันก็ล้วงเข้าไปในเสื้อของผมเพื่อลูบบริเวณหน้าท้องของผมมืออีกข้างก็พยายามปลดกระดุมเสื้อของผม
“พี่เฟคพอก่อนที่นี่ห้องรับแขกเดี๋ยวมีใครมาเห็นเข้า”
ผมดึงสติของตัวเองกลับมาพร้อมกับเอามือของผมจับมือของไอ้เฟคที่กำลังปลดกระดุมเสื้อเม็ดสุดท้ายของผม ผมเริ่มรู้สึกว่านี่ไม่ใช้เป็นการหยอกเล่นเหมือนตอนแรกแล้ว นี่มันคงเอาจริง แต่ผมต้องห้ามใจตัวเองเอาไว้ ขืนผมทำอะไรกับไอ้เฟคแล้วมีใครสักคนเข้ามาเจอเข้า เรื่องมันคงจบไม่สวยเป็นแน่
“ทำไมล่ะครับ ไม่มีใครมาเห็นหรอก ไม่สงสารพี่บ้างเหรอครับดูซิ มันแข็งจนปวดไปหมดแล้ว ไม่ได้ปลดปล่อยมาตั้งหลายวัน”
ไอ้เฟคมันไม่พูดเปล่า มันยังจับมือของผมให้ไปจับน้องชายของมันที่ตอนนี้พร้อมรบอย่างเต็มที่ และมันก็ไม่ได้ใส่กางเกงในด้วยทำให้ไม่ยากเลยที่จะสัมผัสน้องชายของมัน
“ไม่เอาพี่เฟค..ถ้ามีคนมาเห็นผมก็แย่ซิ ถ้าพี่อยากมากขนาดนั้นพี่ก็ไปเอาออกเองซิ”
“อูย...บีมอย่าขยับมือซิพี่เสียว....ทำไมบีมใจร้ายกับพี่จังเลยครับ”
มันร้องออกมาตอนจังหวะที่ผมกำลังจะดึงมือกลับ
“งั้นเอาอย่างนี้ดีกว่า บีมกลัวใครกลับมาเห็นใช้หรือเปล่า..งอิ๊บ..”
“เอ๊ย...”
ผมร้องออกมาด้วยความตกใจที่อยู่ดีๆ ไอ้เฟคมันก็ลุกขึ้นแล้วอุ้มผมขึ้น แล้วพาผมเดินขึ้นบันไดกลับไปที่ห้อง ผมเข้าใจความหมายที่มันพูดแล้วว่ามันจะทำอย่างไง มันพาผมเข้ามาในห้องแล้ววางผมไว้บนเตียงก่อนที่มันจะล้มตัวตามขึ้นมาค่อมอยู่บนตัวของผม แล้วมันก็ส่งปากของมันมาบดขยี้กับปากของผม แล้วผมก็เดินไปตามเกมส์ที่ไอ้เฟคมันต้องการ
หลังจากที่ผมมีอะไรกับมันแล้ว ผมก็นอนหมดแรงอยู่อย่างนั้น มันยังรู้สึกเจ็บๆ อยู่เลย ไอ้เฟคมันก็ใส่ผมไม่ยั้งให้สมกับที่มันอดมาหลายวัน
“เป็นไงบ้างบีม จังเจ็บอยู่หรือเปล่า”
มันมากอดผมแล้วก็ถาม ผมหันหน้าไปมองมัน มันยิ้มประจบผม มันรู้ว่ามันผิดเพราะผมบอกว่าเจ็บ มันก็ไม่ฟัง
“เจ็บซิ มาโดนบ้างเอาหรือเปล่าล่ะ ผมบอกให้หยุดก่อนก็ไม่ฟังต่อไป ไม่ต้องเลยนะให้อดให้ตายเลย”
ผมหันหน้ากลับมาซบกับหมอนเหมือนเดิมไอ้เฟคมันก็ยังพูดอะไรไม่รู้อยู่ข้างหูของผม แต่ตอนนั้นผมไม่สนใจแล้วว่ามันพูดว่าอะไร เมื่อไอ้เฟคมันเห็นว่าผมไม่ตอบโต้กับมัน มันก็เอามือมาบีบจมูกของผม เพื่อทำให้ผมมีปฎิกิริยากับมัน เมื่อมันเอามือมาบีบที่จมูกของผม ผมจึงหายใจไม่ออก ผมเลยดิ้นแล้วลุกขึ้นนั่ง
“เล่นอะไรเนี๊บพี่เฟค”
“ก็บีมงอนพี่อ่ะ พี่พูดด้วยก็ไม่พูดกับพี่”
“เนี๊ยนะวิธีง้อคนของพี่”
มันยิ้มให้ผม ดูมันจะไม่สำนึกเลยว่ามันทำผิด แถมมันยังขยับตัวมาหาผมพร้อมกับเอามือโอบที่เอวของผม แล้วมันก็ซบหน้าลงกับที่นอน ผมเลยทุบเข้าที่กลางหลังของมันไปครั้งหนึ่ง มันก็แกล้งทำอ้อนผมอีกหาว่าผมใจร้ายกับมันที่ไปทุบมัน ผมส่ายหน้าให้กลับความเจ้าเหล์ของมันจริงๆ ผมจึงจับมือของมันที่กอดที่เอวของผมออกแล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำ
ผมค่อยๆ ถู ค่อยๆ ล้างตามเนื้อตัวของผมตอนที่ผมไปส่องกระจกผมก็เห็นรอยเป็นจ้ำๆ ตามเนื้อตัวผมไปหมดไม่รู้ว่าไอ้เฟคมันถึงชอบทำร่องรอยต่างๆ เอาไว้กับตัวผมนักก็ไม่รู้ แล้วอีกอย่างมันไปทำไว้ตอนไหนก็ไม่รู้ผมก็ยังไม่รู้เลย
ผมอาบน้ำเสร็จ ก็ออกมาจากห้องน้ำ ไอ้เฟคมันก็ยังนอนอยู่ท่าเดิม จนผมต้องไล่ให้มันไปอาบน้ำก่อน ถ้าอยากจะนอนต่อค่อยกลับมานอน ไอ้เฟคก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำตามที่ผมบอก เมื่อไอ้เฟคหายเข้าไปในห้องน้ำแล้วผมก็รีบแต่งตัวแล้วเดินไปหาอะไรกินเล่น ก่อนที่จะไปหาที่นอนบ้าง
ผมเดินไปนอนที่แปลหลังบ้าน ตรงนี้ต้นไม้เยอะ ทำให้ลมพัดแล้วเย็นมาก ผมนอนเล่นอยู่สักพักไอ้เฟคมันก็ตามมา
“หนีมาอยู่นี้เอง มาให้พี่นอนด้วย”
ว่าแล้วไอ้เฟคมันก็เดินแล้วขึ้นมานอนเบียดกับผมบนแปล
“โอ๊ย...พี่เฟค มันอึดอัด ลงไปเลย แล้วอย่างนี้ผมจะนอนได้ไงล่ะ”
“ไม่ลง แล้วถ้าพี่ลงไปแล้วพี่จะไปนอนที่ไหนล่ะแปลก็มีอันเดียว นอนด้วยกันนี่แหละเบียดกันก็อุ่นดี มายื่นขามาพี่เกาขาให้จะได้นอนสบายบีมชอบไม่ใช้เหรอ”
เมื่อไล่อย่างไงมันก็ไม่ยอมไปแน่ๆ ผมจึงยื่นขาไปให้ไอ้เฟคมันเกาให้ผม ไอ้เฟคมันก็รู้ใจผมเหมือนกันว่าผมชอบอะไร แถมมือมันก็เบาดี มันเกาให้ผมที่ไร ผมหลับเร็วมากและครั้งนี้ก็เหมือนกัน