เสื้อกาวน์เก่าๆกับเราสองคน
ตอนที่ 86
สวัสดี....นครพนมสายวันๆหนึ่งหลังจากที่ผมช่วยย่าตำหมากเป็นที่เรียบร้อย ก็ออกมานั่งเล่นกันที่แคร่หน้าบ้านใต้ต้นมะปราง
วันนี้อาหารว่างตอนสายๆของผมเป็นข้าวโพดต้มสดๆจากฝีมือป้าของติ๊บ
ผมกับย่านั่งอยู่ใต้ต้นมะปรางส่วนติ๊บกำลังช่วยป้าจัดข้าวโพดต้มใส่ถุงเตรียมไปขายในตลาด
เสียงรถมอเตอร์ไซด์ที่มาหาติ๊บบ่อยมาจอดอยู่หน้าบ้านก่อนที่ปุ๋มเพื่อนสาวคนสนิทของติ๊บจะจอดมอเตอร์ไซด์ไว้ไม่ห่างจากผมและย่าเท่าใดนัก
'' ป้าขา แวะมาซื้อข้าวโพดค่ะ มีที่ยังไม่ต้มมั้ยค่ะแม่จะเอาไปทำบุญพรุ่งนี้ ''เสียงปุ๋มพูดกึ่งตะโกนดังไปจนถึงหลังบ้าน
'' มีเยอะเลย ให้แม่มาเลือกเอาซิอยากได้เท่าไหร่ละ ''
'' แม่ไม่ว่างค่ะให้หนูมาซื้อเอง เอาสองร้อยได้เท่าไหร่ก็เท่านั้นน่ะป้าใส่ตะกร้าไว้ให้ด้วยตอนเย็นๆหนูลอดรั้วมาเอา '' เสียงปุ๋มตะโกนกลับไป
'' ว่าแต่พี่ไม้ค่ะ ไอ้ติ๊บมันไปไหนแล้วละ ''
'' ก็ช่วยป้าอยู่หลังบ้านนั่นแหละจ๊ะ เดินไปหลังบ้านก็เจอ ''
ผมบอกก่อนเดินนำปุ๋มไปหลังบ้าน
'' ติ๊บๆ วันพรุ่งนี้ไปในเมืองกันมั้ย ชั้นขอแม่แล้วแต่แม่บอกว่าให้มาชวนแกเพราะพ่อกับแม่ไม่ไปวะปีนี้ ''
'' ไปในเมืองทำไมเหรอ '' ติ๊บเงยหน้าจากการบรรจุข้าวโพดลงถุงมามองหน้าเพื่อนคนสนิท
'' อ้าว ก็วันพรุ่งนี้สิบห้าค่ำเดือนสิบเอ็ด เซื่อในสิ่งที่เฮ็ด เฮ็ดในสิ่งที่เซื่อ ''
'' อ้อ แกจะไปพ่นลูกไฟว่างั้น ''
'' ไอ้บ้า ชั้นมาชวนแกไปดูไหลเรือไฟต่างหากยะ ''
'' อีกอย่าง มีเรื่องมารบกวนแกด้วยแหละ ''
'' รบกวนอะไรอ่ะว่ามา ''
'' พอดีว่าความสวยกระจ่างใสของเพื่อนเนี่ย ไปเข้าตาพี่เลี้ยงนางงามเค้าจะส่งชั้นขึ้นประกวดคืนพรุ่งนี้ แกไปเป็นเพื่อนชั้นด้วยน่ะ ''
'' แล้วแกตกลงกะเค้าว่าอะไรยังไงละ ''
'' ก็เขาออกให้หมดทุกสิ่งอย่าง พรุ่งนี้ไปแต่งที่ร้านเสริมสวย คุณแอ้ เที่ยงตรง ''
'' อืม สะดวกมั้ยพี่ไม้ '' ติ๊บเงยหน้าขึ้นมามองผมเป็นเชิงแสดงความคิดเห็น
'' ก็ได้นะเห็นเขาบอกว่ามานครพนมก็ต้องไปดูไหลเรือไฟ ไปไหว้พระธาตุพนม เดี๋ยวเขาจะบอกว่ามาไม่ถึงเอา ''
'' ขอบคุณค่ะพี่ไม้น่ารักที่สุดเลย '' ปุ๋มหันมาขอบคุณผม
'' แล้วก็เรื่องรบกวนอีกเรื่อง ''
'' มีอะไรอีกละเนี่ยยยย ''
'' อาจารย์สมเกียรติฝากมาบอกแกด้วยว่าพรุ่งนี้เตรียมไปรำบูชาพระธรตุพนมให้ด้วย พอดีอาจารย์รู้ว่าแกกลับมาเลยอยากได้แกไปรำ ''
'' หา….ชั้นนี่นะ ไม่ได้รำมาสองปีแล้วน่ะ จะให้ไปรำเนี่ยน่ะ ''
'' ก็อาจารย์บอกว่าอย่างงั้น พรุ่งนี้เช้านัดกับอาจารย์แล้วด้วย ''
'' แกนะแก รับปากอาจารย์ไม่ปรึกษาชั้นเลยเชียว ''
'' โอเคตกลงตามนี้นะ ตอนเย็นแวะมาใหม่ ''
ปุ๋มเอ่ยก่อนวิ่งกลับไปสตาร์ทรถมอเตอร์ไซด์ ออกไปจากหน้าบ้านเรียบร้อยแล้ว
มาถึงตอนนี้ติ๊บเล่าให้ผมฟังว่า
เนื่องจากปุ๋มเป็นคนที่สูง สวย หุ่นดี โพรไฟล์เริ่ดจึงเดินสายประกวดนางงามมาตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมแล้ว
ช่วงที่ไปเรียนมหาวิทยาลัยก็เดินสายประกวดนางงามในกรุงเทพมาตลอด
ผมก็เลยเข้าใจว่าน้องปุ๋มคนนี้ถ้าแต่งหน้าแต่งตาขึ้นมาคงไม่ธรรมดาแน่ๆ
วันพรุ่งนี้เป็นวันพระใหญ่ที่ชาวนครพนมถือเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกวันหนึ่ง
ในตอนเช้าชาวบ้านจะทำอาหารไปถวยพระทำบุญตักบาตร
ช่วงสายๆก็ไปบูชาพระธาตุพนมมีการรำบูชาองค์พระธาตุพนมจากชาวพื้นเมืองเผ่าต่างๆ
ก่อนตกเย็นจะเป็นการร่วมประเพณีไหลเรือไฟ
ที่บ้านของติ๊บตอนนี้ก็เตรียมใบตอง เตรียมข้าวโพด น้ำตาลไว้ทำขนมไปทำบุญที่วัดในวันพรุ่งนี้เรียบร้อยแล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้นผมกับติ๊บตื่นมาช่วยป้าทำกับข้าวแต่เช้า ส่วนย่าก็จีบหมากพลูไปถวายพระเช่นกัน
ในตอนเช้าประชาชนอยู่เต็มวัดไปหมด
และผมก็เห็นภาพเดิมๆที่ทำให้ผมยิ้มได้ตลอดเวลาคือการที่ติ๊บไหว้ทักทายผู้คนที่มาที่วัดอย่างไม่ถือตัว
และร่วมกินข้าวเช้ากับชาวบ้านสักพักจึงให้ผมขับรถพาไปยังโรงเรียนเก่าซึ่งตอนนี้อาจารย์
น้องๆ และคนที่ติ๊บรู้จักคนอื่นๆกำลังแต่งหน้าแต่งตัวกันเรียบร้อยก่อนจะขึ้นรถมุ่งหน้าสู่องค์พระธาตุพนมต่อไป
แต่ติ๊บกับผมแยกไปต่างหากไม่ได้นั่งรถโรงเรียนไปกับเขาด้วย
ติ๊บเลยชวนอาจารย์ที่เคยสอนติ๊บมานั่งรถไปกับตนเองด้วย
มาถึงตอนนี้อาจารย์เล่าให้ผมฟังว่าวมัยที่เรียนมัธยมติ๊บเป็นนักกิจกรรมของโรงเรียน และติ๊บเป็นคนที่รำสวยมาก
จึงขอให้ติ๊บมาช่วยงานนี้อีกครั้งหนึ่ง
ส่วนที่ว่าไม่ได้ซ้อมมาก่อนนั้นเพราะอาจารย์บอกว่ามันซึมอยู่ในสายเลือดของคนไทญ้อทุกคนอยู่เรียบร้อยแล้ว
สายๆผมก็นำรถเข้าจอดหน้าวัดพระธาตุพนมก่อนอาจารย์จะจัดการแต่งหน้าแต่งองค์ทรงเครื่องให้ลูกศิษย์บนรถของผมระหว่างที่รอรถโรงเรียนเดินทางมาถึงวัดพระธาตุพนม จนตอนนี้ติ๊บออกมาในชุดพื้นเมืองน่ารักทีเดียวเชียว ก่อนเดินออกไปร่วมกับน้องๆและเพื่อนรำบูชาองค์พระธาตุพนมอย่างสวยงามในตอนเช้า
'' เป็นไงพี่ไม้ อึ้งเลยซิเห็นติ๊บมันรำแล้วอะ '' น้องปุ๋มที่ตอนนี้แต่งตัวสวยพริ้งเอ่ยแซวผมขึ้นขณะก้าวเข้ามาในรถ
'' ก็น่ารักดีคับ ผมตอบยิ้มๆ ''
'' แล้วนี่ปุ๋มต้องแต่งตัวใหม่หรือเปล่าหรือใช้ชุดนี้ประกวดเลย '' ผมถามน้องปุ๋มที่นั่งอยู่ด้านหลัง
'' ต้องไปแต่งหน้าเลือกชุดที่ร้านในเมืองใหม่ค่ะ ร้านประจำ ''
ปุ๋มเล่าให้ผมฟังว่าเธอแต่งหน้าขึ้นประกวดที่ร้านนี้ประจำและร้านเสริมสวยร้านนี้ก็เป็นที่ขึ้นชื่อในจังหวัดนครพนมทีเดียว
ผมมาส่งปุ๋มในช่วงสายๆของวันก่อนปุ๋มจะแต่งตัวแต่งหน้าทำผมและบอกผมว่าจะเสร็จเรียบร้อยในตอนเย็นๆ
ระหว่างรอปุ๋มแต่งตัวผมเอ่ยถามติ๊บขึ้นมาว่า
'' แล้วเราจะไปรอปุ๋มกันที่ไหนกลับบ้านก่อนมั้ย ''
ติ๊บหันมามองหน้าผมยิ้มๆ ก่อนชวนผม
'' เราไปดูปราสาทผึ้งเมืองสกลกันมั้ย ไม่ไกลเท่าไหร่ ''
ผมยิ้มรับคำก่อนมุ่งหน้าสู่จังหวัดสกลนคร ที่วันนี้มีการแห่ปราสาทผึ้งที่สวยงามมาก
ดูเหมือนเป็นงานเทียนพรรษาของจังหวัดอุบลเลยแฮะ
แต่มันเหมือนถูกย่อส่วนลงมาและเน้นไปที่การทำให้เป็นรูปปราสาท
รูปวัดมากกว่าเทียนพรรษาของเมืองอุบลเท่านั้นเอง
ผมตะเวรเที่ยวจนรอบเมืองสกลและถ่ายรูปปราสาทผึ้งเมืองสกลจนหนำใจ
ตกบ่ายจึงมุ่งหน้ากลับสู่จังหวัดนครพนม
ผมมาถึงตัวเมืองในช่วงบ่ายๆติ๊บพาผมแวะเข้าร้านก๋วยจั๊บยวนแสนอร่อย ยังติดใจผมมาจนถึงทุกวันนี้เลย
ก่อนแวะไปดูน้องปุ๋มที่อยู่ที่ร้านเสริมสวย
ตอนนี้คุณหมอหน้าตาสดใสดูเป็นสาวมั่นคล่องแคล่ว รูปร่างสูงโปร่งหน้าตาทันสมัยที่ผมเคยเห็นมาเมื่อหลายวันก่อน
ตอนนี้เธออยู่ในชุดไทยสวยสง่า ดูเรียบร้อยน่ารักเป็นคนละคนกับเมื่อเช้าเลยทีเดียว จนผมแทบจะจำไม่ได้ถ้าเติ๊บไม่เดินเข้าไปทักซะก่อน
'' สวยแล้วเพื่อน แล้วหิวอะไรป่าว เดี๋ยวไปซื้อมาให้ ''
'' ไม่ต้องแล้วละกินมาเรียบร้อยแล้วพี่เขาจัดการให้หมดเลย ''
ตกตอนพลบค่ำผมและติ๊บมายืนอยู่ที่เขื่อนริมแม่น้ำโขงของจังหวัดนครพนม
ที่สวยงามไปจนสุดลูกหูลูกตาและฝั่งตรงข้ามเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่เห็นภูเขาเป็นฉากหลัง
สวยงามจริงๆ ตอนนี้ผมมองไปยังใบหน้าของเจ้าตัวเล็กที่ดูมีเลือดมีเนื้อกว่าเมื่อคราวไม่สบายขึ้นเยอะ
พลบค่ำเรือไฟจากหน่วยงานต่างๆเริ่มค่อยๆทยอยปล่อยออกมาผ่านสายตาเราไปทีละลำๆ
เป็นภาพที่สวยงามจนผมไม่รู้จะบอกได้ยังไง
ต่อให้เป็นภาพถ่ายก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกับภาพจริงเนื่องจากสีของไฟและประกายไฟระหว่างของจริงกับที่เราเห็นในภาพนี่เทียบกันไม่ได้เลยทีเดียว
ต้องไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้งนะครับแล้วจะรู้ว่าสวยขนาดไหน
ก่อนที่เรือไฟจากอำเภอต่างๆจะเริ่มทยอยปล่อยออกมา
บนเวทีกลางตอนนี้เป็นการรำพื้นเมืองจากเผ่าต่างๆของคนในจังหวัดนครพนม และที่ผมชื่นชอบในความสวยงามนั้นคงหนี
ไม่พ้น การรำผู้ไท เป็นแน่อ่อนช้อย งดงาม และสนุกสนานจริงๆคับขอชมเชยก่อนจะตัดด้วยการประกวดนางงามอินโดจีนที่
น้องปุ๋มขึ้นประกวดด้วย ผมกับติ๊บยืนปรบมือให้น้องปุ๋มที่นำนำตัวอย่างฉะฉานเสร็จสิ้นลงก่อนติ๊บจะเดินเอาน้ำไปให้กำลังใจ
เพื่อนรัก
'' งานนี้ต่อให้ฉันสวยกว่านี้อีกร้อยเท่า ก็ไม่มีทางได้ถ้วยติ๊บเขาล็อคตำแหน่งมาเรียบร้อยแล้ว''
ปุ๋มบอกเพื่อนรักอย่างหน้าเซ็งๆ
'' เอาน่าทำใจ ไหนๆก็มาประกวดแล้วยิ้มสวยๆให้มันเสร็จไปซะ ถือว่าแกเอาให้สวยค้านสายตาคนที่จะได้ตำแหน่งไปเลยดิ '' ติ๊บบอกเพื่อน
และดูท่าจะเป็นผล
เมื่อน้องปุ๋มขึ้นไปเดินหน้าสวยโดดเด่น ตอบคำถามฉลาดฉะฉาน
ในขณะที่คนที่เป็นตัวเก็งที่ปุ๋มบอกว่าจะได้ตำแหน่งเป็นนางงามจาก อบจ.นครพนม
ซึ่งผลออกมาก็ค้านสายตาประชนจริงๆ แต่ทำไงได้เรื่องเส้นสายไม่ว่าจะอยู่ในวงการไหนก็มีกันแทบทั้งสิ้น ทำใจ
หลังจากประกวดเรียบร้อยเราสามคนก็เดินมาดูเรือไฟจากอำเภอต่างๆที่ส่งเข้าประกวดที่ไหลมาตามน้ำโขงอย่างสวยงาม
พระจันทร์เต็มดวงในวันขึ้นสิบห้าค่ำ เดือนสิบเอ็ด สวยงดงามและเป็นประสบการณ์ที่ผมจะจำไม่ลืมเลยทีเดียว
เพราะมันสวยเกินคำบรรยายจริงๆครับ
