ขอโทษที่ให้รอนะ
ช่วงใกล้สอบงานเยอะ
เคลียร์งาน
พอกหางเอาไว้เยอะ 555
ไปอ่านกันนะ
โทษที..ทำไงได้กูรักมึงไปแล้ว
ตอนที่ 74 เลิกกันเถอะ
“อ๋อ พี่โป้งอ่ะหรอครับ ก็ดีขึ้นมากแล้วครับ เอาเป็นว่าอย่าว่าอะไรผมเลยนะ เค้าคงลืมพี่ได้แล้วแหละครับ” ไอ้น้องซันพูดดูเกรงใจ
“จะว่าไรล่ะ ก็ดีแล้ว ฝากดูแลมันด้วย แล้วถ้ามันทำไรซันบอกพี่เดี๋ยวพี่จัดการให้”
“จัดการยังไง” เสียงคุ้นๆ ดังมาจากข้างหลัง
“เฮ้ยย!! โป้ง” ไอ้โป้ง ระยะหลังมานี้ไม่ค่อยได้เจอมันเลย มันดูสดใสขึ้นเยอะ ปกติเลยดีกว่า
“ยังไงจะจัดการยังไง” มันยังถาม
“ไม่รู้ คงไม่ได้จัดการ เพราะมึงคงไม่กล้าทำไรน้องซันหรอก น้องเค้าโคตรรักมึงเลยนะเว้ย” ผมว่าไปนั้น
“หรอออ รู้จริงนะ” มันถามแล้วยืนหน้ามาหาผม
“เออ รู้แล้วกัน เห็นมึงมีความสุขแบบนี้กูก็สบายใจว่ะ” ผมบอกมัน
“อืม ขอบใจที่ทำให้กูคิดได้ และรักคนที่เค้ารักกู ขอบใจนะเพื่อน”
“ไม่เป็นไร มึงมีความสุขกูก็มีความสุข”
“อืม แล้วมาคนเดียวหรอ”
“ป่าวๆ มากับเพื่อนๆ อ่า ให้มันเดินไปก่อน พอดีเจอกับน้องซันก่อน”
“อ่อ กับมันยังดีใช่ไหม” ผมรู้ว่ามันหมายถึงผมกับไอ้โชว์
“อืม ก็ดีอ่า เหมือนเดิม เอ่ออ โป้ง งั้นกูไปก่อนนะ เพื่อนโทรตามแล้ว” ผมตัดบทเพราะไอ้ข้าวโทรตามแล้ว
“อืมๆ แล้วเจอกันนะ” แล้วเราก็แยกย้ายกัน ผมก็ไปเจอไอ้พวกนั้นตามนัด หาอะไรกินตามประสาเพื่อนๆ ไม่ได้ทำอะไรด้วยกันแค่สี่คนมานาน เพราะต่างคนมักพ่วงแฟนตลอด 555
“กินเยอะๆ เลยไอ้ข้าว ไอ้เชี่ยเจ๋งเลี้ยงไม่ดีเลย เพื่อนกูผอมชิบ” ไอ้พจน์ว่าให้ไอ้เจ๋ง ป่านนี้มันคงจามแล้ว นินทาขนาดนี้ 55
“เออ กูกินเองได้ ไม่ต้องให้มันเลี้ยงกูหรอก” ไอ้ข้าวว่า ก็สนุกสนานกันไป จากนั้นก็ไปเดินช้อปปิ้งกันอีกนิดหน่อย ขอบคุณและดีใจที่ได้พวกมึงมาเป็นเพื่อนกูนะ รักพวกมึง
………………………………………………………………..
“ตุลย์ บอกมาว่านี่หมายความว่ายังไง” มันปาภาพผมกับผู้ชายคนหนึ่ง กินข้าว เดินห้างกันสองต่อสอง ใส่ผม ถ้าผมจำไม่ผิด ถ้าจำไม่ผิดคนคนนั้นคือน้องรหัสผมตอนผมพาไปเลี้ยง น้องดราฟนั้นเอง น้องดราฟเป็นเด็กน่ารัก แต่ตัวสูงใหญ่กว่าผม หน้าตาก็ถือได้ว่าเป็นเด็กหน้าตาดีคนหนึ่ง ออกแนวเถื่อนๆ ดิบๆ 555 พูดได้ว่าเดินกับผมแล้วเหมือนผมเป็นน้องชายมันยังไงยังงั้น
“อ่อ พาน้องรหัสไปเลี้ยงอ่า” ผมตอบไปตามจริง แล้วขำในความหึงไม่เข้าเรื่องของไอ้โชว์ แต่มันยังมีสีหน้าที่ดูโกรธไม่จาง
“หรอ น้องรหัสหรอ ออเซาะขนาดนั้นใช่น้องรหัสหรอ” มันพูดจาประชดประชัน
“แล้วมึงไปเอาภาพพวกนี้มาจากไหน กูบอกว่าน้องก็น้องดิว่ะ” ผมพยายามใจเย็นและอธิบายให้ฟัง
“เอามาจากไหนก็เรื่องของกู กูรู้แค่ว่าทุกครั้งที่มึงทำอะไรมึงจะบอกกู มึงไม่เคยปิดบังกู แต่ในภาพมึงไม่เคยบอกกู ถ้ากูไม่เห็นเองกูก็คงไม่รู้หรอกตุลย์” มันพูดหน้าตาโกรธมาก มันไม่ฟังที่ผมพยายามอธิบายเลย
“โอ้ยยย ทำไมมึงไม่เชื่อว่ะ ว่าดราฟมันคือน้องรหัสกู โทรไปถามเพื่อนๆ กูก็ได้” ผมก็อธิบายตามความจริง
“เอ่อน้องรหัสก็น้องรหัส มึงจะไปนอนกัน กินกัน หรือทำอะไรกัน ลับหลังกูก็เรื่องของมึง” มันพูดแล้วเดินหันหลังให้ผมจะเดินออกไป ผมคว้ามือมันเอาไว้
“อย่าหันหลังให้กู ถ้ามึงยังเข้าใจผิด คุยกันก่อน”
“มึงจะให้กูคุยเชี่ยอะไรอีก สัสสมึงก็เป็นงี้แหละตุลย์ มึงมีกูคนเดียวไม่ได้หรอก” ผมชักจะโกรธในความไม่เข้าใจอะไรแบบนี้ของมันแล้ว แล้วไม่รู้เมื่อไหร่ที่มือผมตบไปบนหน้ามัน พร้อมกับน้ำตาที่มันเอ่อล้นขอบตาออกมา
“เหอะๆ เออกูมันเชี่ย กูมันเลว ถ้างั้นก็ไม่ต้องมายุ่งกับกู เลิกกันไปเลย” คำพูดที่ผ่านความโกรธ ไม่ได้ผ่านกระบวนการคิดออกจากปากผมไป
“มึงต้องการให้เป็นงั้นมานานแล้วแหละ เพื่อที่มึงจะได้ไปอยู่กับมันไง” โอ้ยย กูจะบ้าตาย ไม่เข้าใจเชี่ยอะไรเลย
“โชว์ ฟังกูดีดีนะ กูจะเชี่ย กูจะเลวยังไง กูก็มีมึงคนเดียว ไม่เคยคิดนอกใจ มึงจะคิดไงก็เรื่องของมึง” ผมเดินหันหลังให้มันบ้าง เบื่อและท้อในความไม่เข้าใจอะไรของมันแบบนี้ ไร้เหตุผลชะมัด มันเงียบไม่พูดอะไร
“เลิกกันเหอะ” ผมไม่รู้ว่าอะไรทำให้ผมพูดมันออกไป จิตนำสึก หรือส่วนไหนของสมองสั่งให้ผมพูดออกไป ทุกสิ่งทุกอย่าง ความไร้เหตุผลของไอ้โชว์ที่มันสะสมมาเรื่อยๆ อยู่ในใจ มันไมพูดอะไร แต่เดินออกไปจากห้องผมเลย น้ำตาของผมไหลอาบแก้ม ภาพความสุขของผมกับมันลอยเข้ามาในหัวผม ผมยังจำได้ดี แต่วันนี้ทำไมถึงเป็นแบบนี้ มันคงมาถึงทางตันแล้วสินะ นี้ใช่ไหมที่คนเราที่เค้าว่าจะเลิกกันก็แค่ช่วงเวลานิดเดียวเท่านั้น ผมหยิบแผ่นซีดีที่ทำให้ผมเริ่มมีความรู้สึกดีดีให้กับผู้ชายคนนี้
“เธอเป็นมากกว่ารัก
เพราะเธอนั้นคือครึ่งชีวิต
ฉันใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อตามหา
และรอคอยเธอมาแสนนาน
และสุดท้ายก็เจอว่าเธอคือทุกอย่าง
ที่เติมเต็มหัวใจ
จากนี้ทุกลมหายใจฉันคือเธอ” เพลงและภาพความทรงจำสะท้อนดวงตาผม มันจบแล้วใช่ไหม วันนี้ผมทำลายมันใช่ไหม
“ตุลย์กูขอโทษกับสิ่งต่างๆ ที่กูได้ทำกับมึงไว้ กูรู้ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ดี กูมันเห็นแก่ตัว กูก็ไม่รู้ว่าทำไมกูถึงต้องทำเรื่องเลวๆกับมึง กูรู้แค่ว่ากูต้องการมึง กูอยากได้มึงมาเป็นของกูคนเดียว กูไม่รู้หรอกนะว่าสิ่งที่กูทำมันจะทำให้มึงเจ็บปวดขนาดไหน แต่กูเจ็บปวดมากกว่า เพราะสิ่งที่กูได้รับจากมึงมีแต่ความเกลียดชัง จะต้องให้กูทำอย่างไรมึงถึงจะรักกูบ้าง กูทนแค่ไหนที่ต้องคอยฟังคำเกลียดชังจากปากคนที่กูรัก ตุลย์กูขอโทษ ขอโอกาสให้กูได้รัก และขอเพียงแค่ความรักสักนิดมอบคืนกลับมา ตุลย์กูรักมึง” ถ้อยคำในซีดีที่ผมเปิดไหลเวียนเข้าหูผม ทำไม ทำไมต้องเป็นแบบนี้ ผมทนไม่ได้ ผมทิ้งมันไม่ได้ พูดได้แค่นั้นผมก็รีบวิ่งไปหามันเลยครับ
“โชว์ๆๆๆ มึงอยู่ไหน ป้าจิตโชว์อยู่ไหน” ผมพูดไปร้องไห้ไป ป้าจิตก็ทำหน้า งง
“เอ่อ คุณโชว์ออกไปเมื่อกี้อะค่ะ” ป้าจิตตอบ
“ไปไหนป้า โชว์ไปไหน บอกผมหน่อย” ป้าไม่รู้ มาถึงก็ขับรถออกไปเลย ท่าทางเร่งรีบ ผมรีบโทรศัพท์หามัน แต่มันก็มันไม่รับ สักพักมันก็ปิดเครื่องไป โชว์มึงหนีกูทำไม มันถึงคราวที่กูจะต้องวิ่งตามมึงแล้วใช่ไหม มึงกลับมาหากูได้ไหม ผมโทรหาตามเพื่อนๆ ของมันก็ไม่มีใครรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน โชว์มึงอยู่ที่ไหน ผมเข่าอ่อน ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อไปดี นี้มันเรื่องเลวร้ายเลยใช่ไหม ผมไม่น่าพูดคำว่าเลิกออกไปเลย ไม่น่าเลย ผมผิดเองที่พูดโดยไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของมัน โชว์กลับมาเถอะนะ กูขอร้อง กูขอโทษ กูรักมึง กรรมตามทันผมแล้ว ภาพวันที่ผมผลักไสไล่ส่ง ด่าทอมัน หนีมันย้อนเข้ามาในหัวผม กว่าจะมีกันและกันได้ แต่วันนี้มันหนีผมไปแล้ว
“ฮัลโหล โชว์ๆ อยู่ .........” มันรับสายผมเพราะผมเอาเบอร์บ้านมันโทรไป แต่พอมันได้ยินเสียงผมมันก็ตัดสายไป มันหนีผมไปแล้วจริงๆ
...................................................................................
เกือบอาทิตย์ที่ผมไม่ได้เจอ ไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้พูดจา กับมัน ผมจะทำยังไงดี มันหนีผมไปอยู่ที่ไหน ไม่ยอมมาเรียน
“พี่กาย บอกผมเหอะนะ โชว์อยู่ไหน” ผมพยายามเอาคำตอบจากพี่กาย ผมรู้ว่าพี่กายต้องรู้
“พี่ไม่รู้ พี่ก็ติดต่อมันไม่ได้” พี่กายตอบกลับมาแต่ผมรู้ว่ายังไงพี่กายก็ต้องรู้ว่าไอ้โชว์อยู่ไหนแน่นอน
“ได้ในเมื่อพี่ไม่บอกผม พี่อยากให้ผมตายทั้งเป็นก็เรื่องของพี่ ผมจะตามหามันเอง ต่อให้เป็นตายยังไงผมก็จะไป” ผมบอกแล้วเดินจากมา
“เดี๋ยว โชว์มันกำลังจะไปเรียนเมืองนอก พี่รู้แค่นี้” พี่กายพูดออกมา
“อะไรนะ ทำไม ทำไมต้องหนีกันขนาดนี้ด้วย” ผมถึงกับเข่าอ่อน ร่างกายเหมือนไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว มันจะหนีผมไปแล้วจริงๆ
“ตอนนี้มันอยู่ไหน มันอยู่ไหน ฮือๆๆๆ” ผมร้องไห้พร้อมเขย่าพี่กายเอาคำตอบ สติผมดับวูบไป
“ตุลย์ๆๆ เป็นไงบ้าง” ผมตื่นขึ้นมา พร้อมกับเพื่อนๆ ที่อยู่กับผม ตอนนี้รู้สึกว่าเป็นห้องใครสักคนในเพื่อนผมนี้แหละครับ
“พี่ตุลย์ เป็นไงบ้างครับ” น้องวินครับ ผมโผเข้ากอดนิ้งวิน
“วิน โชว์มันทิ้งพี่ไปแล้ว ฮือๆๆ” ผมร้องไห้กอดน้องชายผมเอาไว้ น้องวินก็ลูบหลังปลอบประโลมผม ผมต้องหามันให้เจอให้ได้
“สวัสดีครับ คุณป้า” ผมไปหามันที่บ้านอีกครั้ง
“อ้าว สวัสดีลูก พี่โชว์ไม่อยู่ลูก” แม่ไอ้โชว์พอจะรู้ว่าผมกับไอ้โชว์เป็นอะไรกัน เพราะผมก็เทียวไปเทียวมาที่บ้านมันบ่อย
“อืมครับ โชว์จะไปเมืองนอกหรอครับ” ผมถามไป
“แม่ไม่เห็นรู้เลย นี่ก็บอกแม่ว่าไปค่าย อาทิตย์หนึ่งแล้ว แล้วตุลย์ไม่ได้ไปด้วยหรอลูก” แม่ไอ้โชว์พูดท่าทางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ครับ ขอบคุณครับ” ไอ้บ้านี่หนีไปไหนว่ะ สาสส มันไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะ โอ้ยยจะไปหามันที่ไหน มึงไปอยู่ไหนเนี้ยะ
“พี่ตุลย์ เป็นไงบ้างครับ เจอไหม” น้องวินถามผม
“ไม่เจอพี่จะทำไงดีว่ะเนี้ยะ” ไอ้น้องรามก็อยู่กับน้องวินได้ตลอดจริงๆ
“พี่ตุลย์ เคยไปไหนกับเค้าบ่อยๆ ไหมครับ ที่ๆ ไปด้วยกันบ่อยๆ อ่าครับ” ไอ้น้องวินถาม
“ใช่ โชว์ต้องอยู่ที่นั้นแน่ๆ ใช่ ขอบใจมากนะวิน” ผมรู้แล้วว่ามันอยู่ที่ไหน
“เดี๋ยวๆ พี่โชว์จะไปไหน ไปยังไง” ไอ้น้องวินถาม
“ที่นั้นไง สวนผึ้ง” ผมบอกที่หมายไป ไอ้น้องวินเคยไปที่นั้นแล้วครับ
“แล้วพี่โชว์จะไปยังไงครับ” ไอ้น้องวินถาม ผมก็ไม่รู้จะไปยังไงเหมือนกัน
“เอ่อ พี่ครับเดี๋ยวผมไปส่งก็ได้นะครับ” ไอ้น้องรามพูดขึ้น
“เอ่ออ”
“เอาเถอะหน่าพี่ตุลย์ พี่โชว์รอพี่อยู่ที่นั้นแน่นอน” ไอ้น้องวินจูงมือผมไปขึ้นรถน้องรามเลย
“เดี๋ยววินหนังหน้าเถอะ พี่นั่งหลังเอง ยังไงขอบใจด้วยนะ” ผมบอก เพราะเกรงใจน้องๆ
“ไปเลยรามเดี๋ยวกูบอกทางเอง” ไอ้น้องวินสั่งน้องราม ไอ้น้องรามก็ทำหน้าที่เป็นสารถีที่ดี
“วิน รามพี่ขอบใจมากนะที่อยู่ข้างพี่ และคอยช่วยพี่” ผมไม่อยากรบกวนเพื่อน ผมพยายามตามหามันเงียบๆ แต่น้องวินก็คอยถามไถ่และอยู่ข้างผมตลอด
“ไม่เป็นไรครับ สำหรับพี่ชายคนนี้ผมทำให้ได้ทุกอย่างเลยละครับ ผมรักพี่ตุลย์มากนะครับ พี่ตุลย์เป็นพี่ที่ผมรักมากที่สุดเลยรู้มั้ย” ผมรู้สึกขอบใจน้องวิน และรู้สึกมีความสุขมากที่อย่างน้อยก็มีคนอยู่ข้างผมเวลาที่ผมมีความทุกข์ใจ
“พี่ก็รักวินนะ ขอบใจที่อยู่ข้างพี่ ขอบใจจริงๆ”
“ครับ ขอให้เจอพี่โชว์นะ และหวังว่าพี่กับพี่โชว์จะเข้าใจกัน”
“พี่ก็หวังให้เป็นเช่นนั้น” เรานั่งรถมาถึงจุดหมายเวลาสามชั่วโมงกว่า
“นั้นไงๆ รถพี่โชว์ พี่โชว์อยู่ที่นี้จริงๆ ด้วยพี่ตุลย์” ไอ้น้องวินบอก
“วิน ราม พี่ขอบใจมากนะ พี่ขอโทษกลับไปก่อนนะ” ผมบอกมัน ไม่อยากให้มันมาเห็นเราสองคนทะเลาะกัน
“ผมรอพี่ก็ได้หนิครับ” ไอ้น้องวินบอก
“เอาเถอะหน่า ทำตามที่พี่บอก เดี๋ยวพี่จัดการเอง”
“เอางั้นหรอครับ งั้น พี่ตุลย์ดูแลตัวเองด้วยนะครับ มีอะไรโทรหาผม ผมรออยู่ที่บ้านละกัน” มันบอกผม ว่ามันจะไปรอผมที่บ้าน บ้านมันในเมืองแหละครับ รถน้องวินคอยๆ ลับตาไป ผมก็ค่อยๆ ก้าวเข้าไปในบ้าน โชว์กูมาหามึงแล้ว
“โชว์ๆๆ มึงอยู่ที่นี่ใช่ไหม โชว์ได้ยินกูมั้ย” ผมเรียกและเดินตามหามัน จนไปถึงหลังบ้าน
“เฮ้ยย!! โชว์” สภาพคากองขวดเหล้าเลยครับ ไม่รู้ทำไมมันต้องเหมือนในละครก็ไม่รู้ ที่เลิกกับแฟนต้องเมา ต้องกินเหล้าทำไมผมไม่เข้าใจ กินแล้วช่วยอะไรได้
“โชว์ๆๆ ลุกๆๆ ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้” มันค่อยๆ ลืมตาแล้วลุกขึ้นมา พอเห็นผมมันก็ถอยแล้วสะบัดตัวออกจากผม
“มึงมาที่นี้ทำไม มึงยังไม่พอใจใช่ไหม ทำไม ทำไม” มันพูดแล้วหันไปอีกทางไม่มองหน้าผม ผมรู้สึกว่ามันเมามาก กินเหล้าคละคลุ้ง กองขวดเหล้าเต็มพื้นอีกหลายใบ
“โชว์ กูขอโทษ กูรักมึงนะ”
“รักหรอๆ รักแล้วบอกเลิกกันง่ายๆ ขนาดนั้นเลยหรอ คำว่ารักของกูมันคงเป็นเรื่องเล่นๆ ของมึงสินะ ใช่สิกูทำมึงไว้เยอะ กูมันเลวตั้งแต่ต้น สมแล้วแหละที่กูเป็นแบบนี้ มึงกลับไปเหอะ กลับไปใช่ชีวิตปกติที่มึงควรจะเป็นเถอะ อย่ามาทุกข์ทรมานใจกับกูเลย” มันพูดไม่ยอมมองผมตั้งแต่ผมเข้ามา มันคงหมดรักผมแล้วจริงๆ
“โชว์ทำไมมึงพูดอย่างงี้อ่ะ มึงพูดแบบนี้มึงไม่รักกูแล้วใช่ไหม” ผมพูดผมเสียใจในสิ่งที่ได้ยินมาก
“กูบอกให้กลับไป”
“ไม่ จนกว่ามึงจะยอมคุยกับกูดีดี”
“กู บอก ให้ กลับ ไป” มันพูดเน้นคำ น้ำเสียงดูโกรธ
“ไม่ กูบอกว่าไม่ไง”
“เอางั้นใช่ไหม มึงจะหาว่ากูใจร้ายไม่ได้นะ”
**********************************************************
โปรดติดตามตอนต่อไป