สวัสดีปีใหม่อีกรอบนะครับ
ขอให้สุขสมหวังกันทั้งปีนะครับ
เริ่มต้นปีด้วยงานมากมาย
ยังไงขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามอยู่นะครับ
ถึงแม้ว่าพักหลังจะนานๆลงที
ขอโทษ แล้วขอบคุณจริงๆนะครับ
จะเป็นกำลังใจให้ลงเรื่องต่อไป
ขอบคุณครับ
โทษที..ทำไงได้กูรักมึงไปแล้ว
ตอนที่ 63 ทำไมถึงไม่ลืม
“กูรักมึงนะ” มันก้มลงมากระซิบที่ข้างกูผม
“กูก็รักมึงนะ ขอบคุณนะ” ความรู้สึกที่ถ่ายทอดลงมาให้ผม
“เอาออกไปดิ” มันยังคงค้างคาเอาไว้อยู่
“ต่ออีกรอบละกัน”
“นี้มันห้องแม่นะ พอได้แล้ว แค่นี้ก็เกินไปแล้ว” มันไม่ฟังแต่ขยับเข้าออกอีกครั้ง
“อือ พะพอเหอะ” เสียงตะกุกตะกัก ที่พูดไม่ปกติร้องห้ามออกจากปากผม
“อีกรอบนะ” เสียงออดอ้อน พร้อมร่างกายที่ขยับเข้าออกจากร่างกายผม นำให้อารมณ์ของผมพุ่งพล่านอีกรอบ
“อือออ อ่า” ผมร้องออกมาด้วยอารมณ์ที่พุ่งสูงอีกครั้ง กิจกรรมรักดำเนินไปตามทางของมัน จนเสร็จสิ้นกันไป เสร็จผมก็เอาผ้าปูที่นอนแม่ไปซักพร้อมปูให้ใหม่ บอกแม่ว่าอยากให้แม่นอนที่นอนใหม่สบายๆ
“แม่ตุลย์กลับแล้วนะ เดี๋ยวมาใหม่” ผมเดินไปลาแม่ มองมองหน้าผมกับไอ้โชว์สลับกันแล้วยิ้มๆ
“กลับแล้วนะครับแม่” ไอ้โชว์ หันไปลาแม่ผม
“จ้า ขับรถดีดีละลูก ไงฝากดูแลตุลย์ด้วย ตัวคนเดียว” มีอะไรแฝงป่าวเนี่ยะแม่
“ครับ เต็มใจครับ ตะดูแลอย่างดีเลยครับ” ไอ้นี้ก็เล่นไปกับแม่
“แม่ตุลย์ไปแล้วนะ” ผมเข้าไปกอดแม่แล้วหอมแก้มไปสองฟอดใหญ่
“เห็นไหมแม่มึงฝากมึงไว้กับกูแล้ว” ตอนนี้อยู่บนรถกันสองคน
“เหอะๆๆ กูดูแลตัวเองได้ไม่ต้องมาดูแลกูหรอก”
“หรอ” มันพูดเสียงสูง
“อือ”
“ได้ไงเล่า มึงเป็นแฟนกูนะ”
“แล้วไง กูโตแล้ว” ผมยังเถียงไม่เลิก ไม่รู้สิทำไมชอบเถียงกับมัน เพราะยังไงผมก็ต้องชนะ
“จ้า พ่อคนเก่ง ดูแลตัวเองดีดีล่ะ” เห็นไหมมันก็ต้องยอมแพ้ผม
“เอ่อ พวกไอ้เจ๋งบอกยัง ว่าพรุ่งนี้นัดปาร์ตี้” ไอ้โชว์พูดขึ้น
“ไม่เห็นรู้เรื่องเลย ที่ไหน ใครไปบ้าง”
“มันบอกไม่อยากไปร้านให้ไปที่หอของข้าว”
“ใครไปบ้างอ่ะ ห้องก็ไม่ได้ใหญ่อึดอัดตายห่า”
“มันบอกดาดฟ้าหอมันบรรยากาศดี” อืมดีจริงๆครับ ผมเคยไปนั่งคุยเล่นกับไอ้ข้าวบ่อยๆ
“อืม ก็ดี ใครมาบ้างอ่ะ”
“ก็พวกเดิมแหละ ไอ้คิว ไอ้พจน์ ไอ้พอสกับมิกซ์ มาด้วยมั้ง ไม่รู้ไอ้กายจะมาป่าว”
“โอโหครบทีมเลย เนื่องในโอกาสอะไรเนี้ยะ”
“โอกาสอยากแดกมั้ง” สักพักผมกับมันก็มาถึงหอ แต่มันมาส่งมันก็รีบไป มันบอกต้องไปเอาของให้แม่ อะไรว่ะ มาถึงก็ทิ้งกันเลยมันบอกจะกลับมาดึกๆ นี่เพิ่งสิบเอ็ดโมงเอง ผมเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นแล้วก็เห็นมิสคอลขึ้นหลายสาย หลายวันนี้ผมไม่ได้แตะโทรศัพท์เลยครับ เบอร์โทรศัพท์ที่ไม่คุ้นตา แล้วก็มีข้อความฝากเอาไว้ครับ ผมจึงเปิดขึ้นอ่าน
“ถ้ายังไงช่วยโทรกลับด้วยนะครับ” อ้าวเป็นผู้ชายด้วย ใครว่ะ” ผมจึงโทรกลับไปเบอร์นั้นทันดี
“สวัสดีครับ ตุลย์ครับ” ผมรีบบอกเมื่อปลายสายรับ
“อ่อครับ ผมซันครับ” ปลายสายรีบแนะนำตัว
“เอ่อ มีอะไรกลับผมรึป่าวครับ” ผมรีบถามเหตุผล
“คือผมอยากคุยกับคุณครับ ออกมาคุยกันได้มั้ยครับ” เอะแปลกๆ จะมาไม้ไหนเนี้ยะ
“เรื่องอะไรครับ สำคัญรึป่าว คุยโทรศัพท์ไม่ได้หรอ” ผมต่อรอง
“คือผมอยากคุยกับคุณตรงๆมากกว่าครับ”
“ที่ไหน” ผมถามไป
“ร้าน...หน้ามหา’ลัยครับ ตอนนี้ได้มั้ยครับ” ผมพอจะรู้จักครับ เป็นร้านกาแฟตรงข้ามกับมอ
“โอเค แล้วเจอกัน” ผมเห็นว่ามันเป็นที่ที่ไม่น่าจะมีอะไรเลยตอบตกลงไป แล้วคงใช้เวลาไม่นาน
“ครับ ขอบคุณครับ” ผมก็ออกไปตามนัดหมายทันดี ไปถึงก็ไม่มีใครเลยสั่งกาแฟรอ สักสิบนาทีก็มีเด็กหน้าตาดีคนหนึ่งเดินเข้ามา ท่าทางยังเรียนมอปลายอยู่ดูจากทรงผม ดวงตากลมโต คิ้วเข้ม ผิวขาว หน้าตาน่ารัก ความสูงที่พอพอกับผม พูดได้ว่าดูดีเลยทีเดียว เด็กคนนั้นเดินตรงมาถามผม
“พี่ตุลย์รึป่าวครับ ผมซันครับ” อ่อนี้เองหรอเจ้าของปลายสายที่คุยกับผม แล้วนัดผมมาที่นี่ ซันเดินไปสั่งน้ำแล้วลงมานั่งตรงข้ามผม
“เรียนอยู่ไหนเนี่ยะ” ผมยังไม่อย่กเครียด เพราะเห็นน้องดูหน้าตาเครียดๆเลยชวนคุยก่อน
“อ่อ โรงเรียน... อยู่มอหกแล้วครับ” เป็นโรงเรียนสาธิตในมหา’ลัยนี่แหละครับ
“อ่อ แล้วไงมีไรจะคุย” ผมถามเรื่องที่อีกฝ่ายนัดออกมา
“อ่อครับ เรื่องพี่โป้งอ่ะครับ”
“โป้ง” ผมทำเสียงสูง สงสัยอยู่ลึกลึก ทำไมเด็กคนนี้เกี่ยวข้องกับไอ้โป้ง
“คือผมเป็นแฟนพี่โป้งอะครับ” ประโยคถัดมาทำให้ผมกระจ่าง ในปัญหาที่ผมสงสัยอยู่
“ครับ ผมเห็นพี่โป้งมารอแถวมหา’ลัยบ่อยๆ ตอนแรกผมก็ไม่รู้ว่ามารอใคร นานเข้าผมก็เลยเข้าไปทักพี่เค้าทำให้ผมได้รู้จัก แล้วเลยบอกชอบพี่เค้าไป” น้องซันเริ่มเล่าที่มาที่ไปเพราะคงเห็นว่าผมสงสัย น้องคนนี้นี่เอง ที่โป้งเคยบอก
“ผมกับพี่โป้งเริ่มคบกัน ผมรักพี่เค้ามาก เค้าก็คงรักผม แต่ผมไม่รู้ทำไมเหมือนมีเส้นบางๆ หรืออะไรบางอย่างที่ทำให้รู้สึกว่าพี่โป้งยังไม่ได้รักผมจริงๆ พี่โป้งยังลืมใครคนนึงไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าใคร”
“อ้าว แล้วทำไมถึงมาปรึกษาพี่” ผมถามอย่างสงสัย
“ก็พี่โป้งเคยบอกว่ามีเพื่อนสนิทอยู่ที่มหา’ลัยนี้ชื่อพี่ตุลย์ ผมก็เลยไปหาเบอร์มา”
“อ่อ เป็นงี้นี่เอง” ผมพูดพยายามไม่ให้น้องเครียด
“พี่ตุลย์พอจะรู้ไหมครับ ว่าคนๆนั้น คนที่พีโป้งยังไม่ลืมคือใคร” ไอ้น้องซันถามตรงประเด็น แล้วจะเป็นการเข้าข้างตังเองไปไหมถ้าผมจะบอกว่าคนคนนั้น คนที่ไอ้โป้งยังไม่ลืมคือผม
“เอ่อๆ” ผมไม่รู้จะตอบยังไง
“รู้รึเปล่าครับ แล้วพี่จะช่วยผมได้รึป่าวครับ ผมรักพี่เค้ามาก แล้วอยากจะใช้ความรักของผมลืมๆคนๆนั้นให้ได้” น้ำเสียงแล้วแววตาอันมุ่งมันของน้องซันทำให้ผมเห็นถึงความตั้งใจ
“อืม จะเอาไงล่ะ พี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แล้วนี้โป้งล่ะ”
“พี่โป้งอยู่ที่ห้องผม ผมบอกว่าจะออกมาซื้อของ คือผมอยู่หอแถวนี้ครับ”
“งั้นหรอ พี่ว่าซันรีบกลับก่อนเถอะ ออกมานานแล้วนะเดี๋ยวโป้งเป็นห่วง”
“ไม่หรอกครับ พี่โป้งเค้าไม่ได้เป็นห่วงผมขนาดนั้นหรอก ผมยังไม่รู้เลยว่าเค้ารักผมจริงรึป่าว ผมอยู่ในฐานะอะไรยังไม่รู้เลย” ผมเห็นน้องซันน้ำตาคลอๆ แต่ก็ไม่ได้ร้องออกมา
“ซันใจเย็นก่อนนะ เดี๋ยวพี่ช่วยซันเอง” ผมบอกไปเพื่อปลอบน้องก่อนทั้งที่ไม่รู้ว่าจะช่วยน้องยังไง ไอ้โป้ง ทำไมนะ ทำไมมีคนที่น่ารักเค้ารักมึงขนาดนี้ ทำไมมึงไม่รักเค้า ทำไมมึงเลือกที่จะไม่ลืม ผมแยกกับน้องซันแค่นั้น แล้วรับปากว่าจะช่วยน้องซัน จะบ่ายโมงแล้วเลยรู้สึกหิว เลยหาอะไรกินแถวนั้นก่อน ผมเลยได้โอกาสโทรหาไอ้โป้ง
“หวัดดีนายโป้ง เป็นไง” ผมทักทายปลายสาย
“ไงมีไร คิดถึงล่ะสิ”
“อยู่ไหน” ผมแกล้งถาม ทั้งที่รู้อยู่แล้ว
“อ่อ อยู่หอเพื่อนแถวมอตุลย์แหละ” โป้งไม่ได้โกหกอะไร แต่บอกว่าอยู่หอเพื่อน
“อยู่แถวมอเหมือนกันนั่งกินข้าวคนเดียวออกมาหาหน่อยสิ” ผมพูดออกไป
“จริงดิ อยู่ตรงไหนจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ” ผมไม่รู้ว่าน้องซันจะอยู่ข้างๆ หรือได้ยินรึป่าว
“พูดเล่นไม่เป็นไรหรอก จะกลับแล้ว”
“ไหงงั้นอ่ะ”
“หน่า จะไปหาเพื่อนต่อ ไว้เจอกัน” ผมวางสายไปโดยไม่ได้ฟังคำตอบของอีกฝ่าย ผมก็นั่งกินข้าวต่อแล้วคิดว่าจะเข้าไปหาไอ้ข้าวหรือกลับห้องเลย คิดไปคิดมากลับห้องไปนอนดีกว่า ผมกลับห้องมาร้อนๆเลยอาบน้ำแล้วก็งีบหลับไป ตื่นมาก็เย็นแล้ว ฟ้าเริ่มมืดแล้ว แต่ยังไม่อยากลุกจากที่นอนขี้เกียจ
“ก๊อกๆๆๆๆ” คงกลับมาแล้วแหละ ผมเลยรีบไปเปิดประตู
“โป้ง” ผมตกใจ แล้วเอ่ยชื่อคนที่อยู่หน้าประตู
“มะมีอะไร”
“มาหาไม่ได้รึไง”
“อ่อ ได้ๆๆ” ยอมรับว่าตกใจ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
“ขอเข้าไปหน่อยดิ” ผมหลีกทางให้มันเดินเข้าไป
“มาอยู่ด้วยกันแล้วหรอ”
“อืม” ผมตอบไป เพราะรู้ว่าคำถามหมายถึงอะไร
“รักกันดีนะ” ผมไม่รู้ว่าโป้งต้องการอะไร
“ก็เรื่อยๆ แล้วโป้งอ่ะ ยังไม่พาแฟนมาให้ดูเลย ไหนบอกว่าอยู่มอเดียวกะเรา”
“เอาะอ่อ ไว้เดี๋ยวคงได้เจอ” โป้งนั่งลงบนเก้าอี้ ผมนั่งคุยกับโป้งสักพัก
“กลับก่อนดีกว่าเดี๋ยวแฟนตุลย์มาเจอ” ผมก็ได้แต่ภาวนาอย่าได้เจอเลย ผมเดินไปส่งโป้งหน้าห้อง โป้งกลับไปแค่แป็บเดียวไอ้โชวืก็กลับมา โชคดีเป็นบ้า
“มันมาทำไม” คำถามแรกที่มันถามผมหลังจากเข้าห้อง
“ใคร” ไม่บอกก็รู้ว่ามันคงสวนทางกัน ซวยชิบเป๋งเลย
“อย่าทำเป็นไม่รู้ไม่เป็นเลย ทำไม มาทำไม”
“ก็เพื่อนกัน มาหากันไม่ได่หรอว่ะ”
“ไม่จำเป็นต้องมาถึงห้องหนิ”
“โชว์อย่าหาเรื่องดิ บอกว่าไม่มีอะไรก็ไม่มีดิ” ผมยังใจเย็น
“ทำไม เผลอแป็บเดียวไม่ได้เลยใช่ไหม”
“นี่จะฟังกันได้ไหม ถ้าไม่มีเหตุผลก็กลับไปก่อนไป” ผมไล่ให้มันไปสงบสติอารมณ์ แล้วเดินเข้าห้องนอนแล้วล๊อคทันที
“ตุลย์เปิดประตู” มันทุบประตูห้องนอน
“ทำไมต้องใช้อารมณ์”
“เปิดประตู แล้วมาคุยให้รู้เรื่อง ทำไม เมื่อกี้ทำอะไรกันล่ะ บอกแล้วใช่ไหมอย่ายุ่งกับมันอีก”
“ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ช่วยกลับไปก่อนเลย ไม่อยากคุยด้วย”
“เฮ้ยย กูบอกให้เปิดไงว่ะ” อารมณ์ของมันคงเพิ่มากขึ้น มันโว้ยวายเสียงดัง
“กลับไป” ผมพยายามใจเย็นแล้วตอบกลับไป ไม่อยากให้ใช้อารมณ์ร้อนคุยกัน ผมรู้ว่ามันอารมณ์ร้อนแค่ไหน เลยพยายามใจเย็นให้มากที่สุด เพราะผมก็เป็นคนหนึ่งที่ใจร้อน
“มึงทำยังงี้กับกูใช่ไหมตุลย์”
“โชว์ขอร้องช่วยใจเย็นแล้วฟังกันก่อน”
“แล้วมึงจะเปิดไหม กูนับหนึ่งถึงสาม หนึ่ง” ผมเปิดประตูออกไปเผชิญหน้ากับมัน
“มึงจะเอาไง มึงไม่ไปกูไปเองก็ได้ เพราะถ้าคุยตอนนี้มึงก็ไม่ฟัง กูบอกให้มึงไปสงบอารมณ์ก่อนทำไมไม่ฟังกูบ้างทำไม” ผมชักจะโมโหเหมือนกัน ความอดทนผมก็มีขีดจำกัด
*************************************
To Be Continued