สุขสันต์วันสงกรานต์จ้า
กลับมาต่อให้แล้วนะ อย่าเพิ่งจุดธูปเรียก 555
__________________________________________
ตอนที่ 11
“พูดรู้เรื่องอย่างนี้ค่อยน่ารักหน่อย”สิ่งแรกที่เขาทำเมื่อเข้ามาในห้องคือถอดรองเท้าแล้วกระโดดขึ้นไปนอนเอาแขนหนุนศีรษะบนเตียงของผมหน้าตาเฉย
“ยอร์ช นั่นมันเตียงผมนะ ลงมาเลย”ผมบอกเขาโมโหๆ ถือวิสาสะจริงๆ ไอ้บ้านี่
“ภามมานั่งนี่”เขาลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิบนเตียงแล้วตบที่ว่างข้างๆ ตัวดังปุๆ ไม่ได้สนใจที่ผมพูดเลย
“อะไร”ผมหรี่ตาอย่างไม่ไว้ใจ จะมาไม้ไหนอีกเนี่ย
“บอกให้มาก็มาเหอะ หรือจะให้ไปลากมา ฮะ?”เขาเริ่มเอาแต่ใจอีกแล้ว ถ้าแค่คุยเฉยๆ คงไม่เป็นอะไรมั้ง ผมเดินไปใกล้เขาแต่เลือกที่จะนั่งลงบนเก้าอี้ของโต๊ะคอมข้างเตียงแทน ให้นั่งข้างๆ เขาบนเตียงมันเสี่ยงเกินไป ได้ยินเขาจิ๊จ๊ะอย่างไม่คนไม่ได้ดั่งใจแต่ก็ยอมคุยโดยดี
“พี่มีของมาให้ภามแหละ”เขาพูดยิ้มๆ ท่าทางตื่นเต้นเหมือนเด็กๆ
“ไม่เอา”ตอบแบบไม่ต้องคิดเลยครับ เหอะๆ
“ไม่เอาก็ต้องเอา อะไรที่พี่ให้ภามต้องรับ ไม่งั้นพี่โกรธ”
“คุณจะโกรธก็โกรธไปสิ โกรธแล้วทำอะไรได้หล่ะฮึ”
“ภามก็รู้แล้วนี่ว่าเวลาพี่โกรธพี่ทำอะไรภามได้บ้าง หึหึ”เขายิ้มอย่างมีเลศนัย ไอ้บ้า ไอ้ยอร์ชผีบ้ากาม
“แล้วไหน มีอะไรจะให้”เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ชวนอึดอัดผมเลยเปลี่ยนเรื่องไปซะเฉยๆ
“นี่”เขาหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงเล็กๆ ออกมาแล้วเปิดฝาออกเผยให้เห็นแหวนคู่ที่อยู่ข้างใน อะไรของเขาเนี่ย
“ยื่นมือซ้ายมา”เขาสั่ง
“ทำไม ไม่เอา ผมไม่อยากได้ของๆ คุณ”
“ถามหรือว่าอยากได้หรือเปล่า บอกให้ยื่นมือมาก็ยื่นมาสิ”
“คุณไม่คิดจะถามผมบ้างเลยหรือไงว่าผมเต็มใจจะให้มีแหวนของคุณอยู่บนนิ้วผมหรือเปล่า แล้วผมก็ไม่รู้ด้วยว่าคุณเอามันมาให้ผมทำไม”
“ฮึ่ย! เรื่องมากจังวะ”เขาสบถออกมาตามนิสัยแล้วฉวยมือซ้ายของผมไปสวมแหวนลงที่นิ้วนางอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ห้ามถอดนะ”เขาบอกเสียงเข้ม ผมก้มลงมองแหวนในมือ มันเป็นแหวนทองคำขาวเกลี้ยงสะท้อนแสงวิบวับแสบตา ตัวเรือนสลักเป็นคำว่า BHAMYORCH แค่เห็นผมก็อยากจะถอดทิ้งด้วยความหมั่นไส้แล้ว
“สวยดี ถ้าเอาไปขายคงได้หลายตัง แต่มันมีชื่อคุณอยู่บนนี้ด้วย ผมไม่อยากเก็บมันไว้กับตัวหรอก”ผมบอกเขาแล้วทำท่าจะถอดแหวนออก แต่เขาจับข้อมือทั้งสองข้างของผมไว้แน่น
“อย่าดื้อสิภาม เนี่ย พี่ยอมเป็นช้างเท้าหลังให้เลยนะ ไม่เห็นรึไง”เขาบุ้ยใบ้ไปที่ชื่อของผมกับเขาที่สลักไว้บนตัวแหวน แอบขำกับความคิดเล็กคิดน้อยของเขา แต่ผมไม่อยากได้มันจริงๆ ถ้าเขาจะให้อะไรผมสืบเนื่องมาจากสถานการณ์ที่มันดีกว่านี้ผมคงจะยอมรับมัน
“ผมไม่อยากได้ของๆ คุณแม้แต่ชิ้นเดียว เอากลับไปเถอะนะ”ผมบอกเขาดีๆ ตอนนี้ผมไม่โกรธเขาแล้ว แต่เป็นอารมณ์ไม่ไว้ใจมากกว่า เขาได้ยินแค่นั้นก็ทำหน้าโกรธเหมือนผมไปฆ่าหมาของเขาตาย เขาเหวี่ยงผมจากเก้าอี้ไปนอนบนเตียงแล้วขึ้นคร่อมตัวผมไว้ มือก็ยังจับแขนผมเอาไว้แน่น
“พี่ให้ใส่เพื่อเวลาใครเห็นจะได้รู้ว่าภามมีเจ้าของแล้ว มันจะได้ไม่มารุ่มร่าม พี่หวง!”ผมที่ยังตกใจกับสิ่งที่เขาทำเมื่อครู่พยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ
“เอ่อ ผมไม่ได้เป็นอะไรกับคุณนี่ คุณปล่อยผมก่อนแล้วมาคุยกันดีๆ นะ นะ...ยอร์ช”
“ไม่เอา ภามต้องบอกพี่ก่อนว่าจะไม่ถอด พี่ให้ภามถอดได้แค่ตอนอาบน้ำแค่นั้น นอกนั้นถ้าพี่เห็นว่าภามไม่ใส่หล่ะก็...พี่ไม่รับประกันนะ ว่าพี่จะห้ามใจไม่ให้ตัวเองทำแบบนั้นกับภามได้แค่ไหน”เขาพูดประกายตาวาววับ
“ว่าไง”เขายังถามย้ำเมื่อเห็นผมเงียบ มือซ้ายของเขาปล่อยมือผมออกข้างหนึ่งแล้วเปลี่ยนมาช้อนศีรษะผมให้ยกขึ้นแทน หน้าของเขาก็ก้มเข้ามาเรื่อย แววตาหื่นกามอย่างเห็นได้ชัด
“หยุดเลย อย่าเอาหน้าเข้ามาใกล้นะ”ผมใช้มือข้างที่ว่างดันหน้าขาวๆ ของเขาไว้ไม่ให้มันเข้ามาใกล้มากกว่านี้ นายยอร์ชยังคงใช้แรงควายที่มีโน้มหน้าตัวเองเข้ามาจนแก้มที่โดนผมดันไว้บุ๋มเข้าไป
“เออ ก็ได้!”ผมตอบอย่างจำใจเมื่อรู้ดีว่าสู้แรงไอ้บ้านี่ไม่ได้ เอาไว้กลับคำทีหลังคงไม่สาย
“อย่าคิดว่าจะตอบส่งๆ นะ อย่าลืมว่าพี่พูดจริงทำจริง”เขาว่าแล้วปล่อยผมให้เป็นอิสระแล้วกลิ้งตัวไปนอนอารมณ์ดีอยู่ที่เตียงข้างๆ อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่ายจริงๆ นายคนนี้
“ภาม หิวแล้วไปกินข้าวกัน”นายยอร์ชที่ถือวิสาสะเปิดทีวีในห้องผมนอนดูมาตั้งแต่เมื่อครู่เอ่ย
“ไม่เอา ขี้เกียจออก คุณจะไปก็ไปสิ กินแล้วกลับไปเลยนะไม่ต้องขึ้นมาแล้ว”
“เรื่องอะไรจะไปให้โง่หล่ะ เชอะ”เขาทำปากยื่นหน้างอ น่ารักตายหล่ะ
“นี่ไม่คิดจะกลับจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย”ผมละความสนใจจากจอคอมไปถามเขาเซ็งๆ
“ไม่ลงข้างล่างงั้นต้มมาม่าให้กินละกันนะ”นั่นไง ไอ้นิสัยอย่างนี้น่ะชอบนัก ถามอะไรไม่ตอบ ชอบพูดไปคนละเรื่อง
“อยากกินก็ทำเอง”ผมหันกลับไปสนใจเว็บที่เปิดดูค้างไว้ต่อ
“นะครับ”เฮ้ย! มาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เขากอดคอผมจากข้างหลังเฉยเลย
“ออกไปห่างๆ เลยนะยอร์ช”ผมว่าหน่ายๆ พอได้ทีหล่ะเริ่มลามปามตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ
“อะไรกัน ผัวหิวข้าวเมียก็ต้องทำให้กินสิ มัวแต่สนใจคอมได้ไง”
“ประสาทแล้วคุณ พูดแบบนี้อีกคุณเจ็บตัวแน่”
“คราวที่แล้วยังไม่เอาคืนเลยนะ ไอ้น้ำเต้าหู้กู้โลกของภามน่ะ ใจร้าย ทำร้ายผัวตัวเองได้ลงคอ มันร้อนนะรู้ไหม”เขายังคงไม่คลายอ้อมแขนออกไปจนผมรู้สึกอึดอัด
“จะทำไม่ทำฮึ?”เริ่มฮึดฮัดอีกแล้วครับพอไม่ได้ดั่งใจ เออ เอาก็เอา ถือว่าเลี้ยงพวกจรจัดไปแล้วกัน
“ถ้าจะกินก็ปล่อย ไม่งั้นไม่ต้องกิน”เขาปล่อยผมอย่างว่าง่ายแล้วไปนั่งมองผมหยิบโน่นทำนี่
“เอาสองห่อนะ ห่อเดียวไม่อิ่ม”แหมโว้ย มีสั่งอีก
ในไม่ช้านายยอร์ชก็ได้กินมาม่าสมใจตบท้ายไปด้วยโอวัลตินอีกแก้วที่ผมชงเผื่อไว้ให้เผื่อเขาไม่อิ่ม อิ่มแล้วจะได้ไปๆ ซะที
“อิ่มจัง”เขาลูบพุงยิ้มๆ เมื่อทุกอย่างหมด
“อิ่มแล้วก็กลับไปได้แล้ว ใจดีจะล้างจานให้”ผมรีบไล่เขาทันที อย่าอยู่ให้นานกว่านี้เลย
“เรื่องอะไร?”เขาทำหน้ากวนโมโหแล้วกระโดดขึ้นเตียงนอนดูทีวีสบายใจเฉิบ เออเอากับมันสิ
“ยอร์ช! กลับไป”ผมไล่เขาอย่างไม่เกรงใจแล้ว
“ไม่เอา”
“กลับไปเดี๋ยวนี้เลย”
“ไม่”
“เอ๊ะ! คุณนี่”
“ไปอาบน้ำไปภาม น้ำเย็นเดี๋ยวจะไม่สบาย”เขาชี้มือไปที่ประตูห้องน้ำ ตาก็ยังดูรายการทีวีไปเรื่อย อะไรวะ นี่ไม่สนใจผมเลยหรือเนี่ย
ผมฮึดฮัดขัดใจอยู่สักครู่ก็ต้องเข้าไปอาบน้ำเพราะไม่รู้จะทำอะไรต่อ อยู่ในห้องน้ำคนเดียวก็คงจะดีกว่าอยู่ตรงนี้กับนายยอร์ชสองคนแหละน่า
“ภาม นี่อะไร?”นายยอร์ชที่นอนอืดอยู่บนเตียงค่อยๆ กระดึ๊บมาหาผมที่นั่งทำงานอยู่บนโต๊ะพับที่พื้นข้างเตียงแล้วชี้มาที่กล่องสี ไล่กี่รอบๆ ก็ยังหน้าด้านไม่ยอมไป จนสุดท้ายผมเบื่อที่จะพูดแดกดันเขาแล้ว
“นี่เรียกว่าสีพาสเทล เอาไว้ทำแบ็คกราวน์หรือไม่ก็บริเวณที่เป็นสีอ่อนๆ”ผมอธิบาย
“หรอ แล้วมันใช้ยังไงอะ แบบนี้หรือ?”เขาหยิบสีแท่งหนึ่งในกล่องแล้วขีดๆ ลงบนกระดาษที่เห็นว่าผมไม่ใช้แล้ว ผมตีมือเขาดังเผียะเขาก็ปล่อยสีร่วงทันที
“บ้าเหรอ ใครเขาใช้กันอย่างนั้น”
“เมียจ๋าทำร้ายผัวอีกแล้วนะ”ดูมันทำหน้าเข้าสิ อยากซัดให้จริงๆ
“หุบปากไปเลย ถ้าอยากรู้ก็ดูนี่”
ผมหยิบสีแท่งที่เขาเอามาขีดเมื่อครู่มาขูดด้วยคัตเตอร์ลงในถาดกระดาษแล้วผสมแป้งเด็กลงไป พอเข้ากันดีก็เอาสำลีมาจุ่มๆ กองสีแล้วปาดลงบนกระดาษ
“โห! สวยจัง”นายยอร์ชนอนตบมือแปะๆ อยู่บนเตียง นี่เขาอยู่ปีสี่หรือผมกันแน่เนี่ย
“แล้วนี่หล่ะอะไร?”
“ดินสอชอล์กขาว”
“แล้วนี่อะ?”
“ปากกามิลค์กี้"
“แล้วนี่หล่ะ?....”ฯลฯ
หลังจากความใจดีของผมในครั้งแรกก็นำพาความซวยให้ผมในอีกหลายชั่วโมงถัดมา พอผมทำท่ารำคาญไม่ยอมตอบหมอนั่นก็นอนดิ้นงอแงเป็นเด็ก เออ! เอาเข้าไป!
“ภามมีผ้าเช็ดตัวไหม? พี่จะอาบน้ำ”เขาถามหลังจากที่กวนผมมานานพอสมควรแล้ว
“ไม่มี ถ้าจะอาบก็กลับไปอาบที่ห้องตัวเองโน่น”ที่จริงน่ะมีครับ แต่เพื่อหาทางให้เขากลับไปผมเลยบอกไปว่าไม่มี
“ไม่เป็นไร ของภามพี่ก็ใช้ได้ ผัวเมียกันไม่มีปัญหา”เขาว่าแล้วก็ลุกออกไปที่ระเบียงหยิบผ้าขนหนูสีขาวที่ยังชื้นๆ ของผมพาดบ่าเข้ามาหน้าตาเฉย ยังไม่ทันที่ผมจะทักท้วงนายนี่ก็ถอดเสื้อยืดของตัวเองออก ตามมาด้วยกางเกงยีนส์ที่ใส่มา
“เฮ้ย! จะถอดก็ไปถอดในห้องน้ำสิ”ไม่ได้อายเลยไอ้บ้านี่ คนอายกลับเป็นผมแทน
“ทำไมหล่ะ ภามก็เคยเห็นแล้วนี่”ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาเหลือแค่กางเกงในสีขาวตัวเดียวแล้วครับ ผมไม่อยากจะเห็นยอร์ชน้อยจึงต้องหันหน้าไปทางอื่นอย่างเสียไม่ได้
“ฮ่าๆๆๆๆ มีความสุข”เขาหัวเราะอารมณ์ดีแล้วก็หายเข้าห้องน้ำไป สนุกที่ได้แกล้งผมหล่ะสิ ไอ้บ้า!
To be continue
_____________________________________________________
หลายคนๆคงเสียใจล่ะสิที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แหม ปล้ำหลายๆครั้งเดี๋ยวหนูภามเค้าก็ช้ำตายพอดี 5555
ตอนนี้กำลังคิดตอน Special Thanks อยู่นะคะ
แต่เพราะไอ้คุณดราฟมันไม่ยอมแต่ง เราก็เลยต้องช่วยแต่งให้ เดี๋ยวต้องส่งไปให้มันตรวจทานก่อน
ยังไงก็ขอบพระคุณทุกๆคอมเม้นนะจ้ะ
ขอให้สนุกสุขสันต์วันสงกรานจ้า