Article 23
ดูจากสภาพผมแล้ว ไม่ควรเสนอหน้าเอาสภาพอันยับเยินไปโรงเรียนเป็นอย่างยิ่ง ผมเปิดประตูห้องน้ำออกไปหลังจากที่จัดการกับตัวเองเสร็จ รู้สึกเหมือนมึนหัวยังไงก็ไม่รู้แถมรู้สึกปวดแก้มอีกต่างหากด้วย ไอ้พี่เต้มันเลยมาอุ้มผมไปที่เตียง
“วันนี้ไม่ต้องไปโรงเรียนหรอก เดี๋ยวกรูไปลาให้”ไอ้พี่เต้มันบอกผมแล้วไปหยิบยาแก้อักเสบ กับยาแก้ปวดมาให้ผมกิน แล้วไปอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียน ทิ้งโดดเดี่ยวผู้หล่อเหลาอย่างผมให้นอนแห้งอยู่บนเตียง
ผมหลับไปแล้วตื่นมาอีกทีก็ตอนบ่ายๆ ผมรู้สึกเหม็นตัวเองขึ้นมาตะหงิดๆ เลยไปอาบน้ำและยึดเสื้อผ้าไอ้พี่เต้มาใส่เป็นหลัก (ไม่มีเปนของตัวเอง เเละยังเจ็บอยู่...เเต่น้อยกว่าเดิม) แก้มผมที่บวมก็ยุบแล้วเหลือแค่รอยแดงๆ แต่ไอ้รอยจูบเจ้าปัญหาที่ยังคงอยู่เหมือนเดิม ผมไม่รู้จะทำอะไรเลยไปนั่งเล่นเกมส์ จนไอ้พี่เต้กลับมาจากโรงเรียน
“ดีขึ้นแล้วเหรอ”ไอ้พี่เต้วางกระเป๋าแล้วถามผม
“อืม...”เฮ้ย! ผมมัวแต่เล่นเกมส์อย่างเมามัน เลยไม่ได้สนใจไอ้พี่เต้ที่คว้าผมไปกอด
“ยั่วกันแบบนี้ อยากโดนรึไง”ไอ้พี่เต้มันพูดแล้วทำหน้าหื่นๆ
ยั่ว???...ใครยั่ว ที่ไหน ไม่มี ผมไปยั่วมันตรงไหน เอ๊ะ! หรือว่า
“O/////O หื่น”ผมว่าแล้วผลักไอ้พี่เต้ให้ออกไปห่างๆ
ไอ้พี่เต้นี่มันช่างสังเกตจริงๆ ผมลืมไปเลยว่าตัวผมมีแต่เสื้อนอนของไอ้พี่เต้ตัวเดียว ส่วนท่อนล่างไม่ใส่ เพราะ(-////-มีเหตุผลก็แล้วกันน่า...ใส่ท่อนล่างแล้วมัน...เจ็บ) โชคดีที่เสื้อไอ้พี่เต้มันยาวอะไรต่อมิอะไรเลยไม่โผล่ออกไปให้ผมได้อับอาย
“เจ็บมากเหรอ”ไอ้พี่เต้มันถามผม และยิ้มอย่างกวนๆ (แต่มือไปต้องจับขากรูก็ได้)
“เจ็บดิ ลองมั่งป่ะ”ผมปัดมือปลาหมึกของไอ้พี่เต้ออกไป
“เอาดิถ้ากดกรูได้นะ”ไอ้พี่เต้มันยิ้มเยาะผม
มันท้าผมอ่ะ ไอ้คนเลว ผมจะไปกดมันได้ยังไง ตัวมันอย่างกับหมีควายส่วนผมตัวนิดเดียว แค่คิดก็ผิดแล้วTToTT ผมเลิกเล่นเกมและไปอาบน้ำดีหน่อยที่ไอ้พี่เต้มันไปเอาเสื้อผ้ามาให้ผม พอออกไปก็เจอไอ้พี่เต้กำลังเปลือยท่อนบนอวดหุ่นให้ผมอิจฉาเล่น เดี๋ยวจะไปแอบสักลายแมลงสาปเต้นอะโกโก้บนตัวมัน ดูสิจะกล้าโชว์มั้ย(พาล) เดี๋ยวเจอหุ่นเราเข้าไปแล้วจะหนาว ซิกแพ็คที่ไม่มี และหุ่นที่ผอมแห้งบ่งบอกว่าเราไม่เล่นกีฬาอะไรนอกจากปั่นแปะ และป็อกเด้ง(นั่นกีฬาเหรอ???) 555 พอไอ้พี่เต้มันอาบน้ำเสร็จมันก็ลงไปเอาข้าวมาให้ผมกิน (คุณชายดีๆนี่เองกรู)
“นี่...การบ้านและงานของวันนี้”พอกินข้าวเสร็จไอ้พี่เต้มันก็เอางานออกมาให้ผมทำแต่ไม่รู้เรื่องเลย งงเต็ก
“พี่เต้...สอนหน่อยดิ”ผมที่นั่งงงอยู่บนเตียง ก็ต้องหาตัวช่วยโดยการให้ไอ้พี่เต้มันสอนนี่แหละดีที่สุด
“อ๋อ ตรงนี้ก็ทำแบบนี้ &&&&%%%###@@@”
โอ้! มาเป็นฉากๆ เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างแต่ก็พอทำได้ และไม่นานผมก็ทำเสร็จ แต่ไอ้พี่เต้มันกำลังทำรายงานอยู่ผมเลยไม่อยากกวน ผมเลยไปเอาโน๊ตบุ๊คของไอ้พี่เต้มาเล่นและลองเข้าไปในเวบบอร์ดของโรงเรียน ก็ไปเจอบอร์ดนึงชื่อบอร์ดประมาณว่า บอร์ดฝากข้อความถึงคนที่ชอบ(ดูไร้สาระเหมาะกับกรูดี ต้องเปิดดูหน่อยแล้ว) ผมก็ไปเจอข้อความที่เกี่ยวกับผมอยู่กลางๆกับท้ายๆ อาทิเช่น
“ชอบน้องมีน ม.5/2ครับ จากพาย”อ่า...พี่แกชอบผมเหรอเนี่ย -__-???
“มีนไอ้เต้เผลอแล้วเราเจอกัน จากพี่แทน”เพื่อนไอ้พี่เต้นี่หว่า สงสัยล้อเล่นมั้ง
“มีนเลิกกับพี่เต้เหอะ จากบาส”ร้าวฉานคืนงานของมันรึไงเนี่ย
“ชอบคู่น้องมีนกับน้องเต้จังเลย”
และอะไรไร้สาระอีกมามาย โอ้ มาย ลอร์ด โรงเรียนนี้ผู้ชายแท้ไปไหนกันหมด ผู้หญิงก็ดันมาสนับสนุนให้ผู้ชายรักกันซะงั้น ผมเซ็งบวกแซดอย่างแรงเลยปิดโน๊ตบุ๊คแล้วนอนนิ่งๆเเล้วหันไปส่งสายตาอาฆาตแค้นให้ไอ้พี่เต้
“ง่วงรึยัง”ไอ้พี่เต้มันเงินหน้าจากรายงานมาถาม ผมเปลี่ยนสีหน้าแทบไม่ทัน
“ยังไม่ง่วง”ผมตอบแบบเนื่อยๆ อยากกลิ้งๆๆไปมา แต่ก็ดันทำไม่ได้เพราะมันยังเจ็บอยู่ ไม่ได้ดั่งใจเลย
“เบื่อเหรอ”ไอ้พี่เต้มันเก็บรายงายแล้วเดินมาหาผม
“ก็ไม่เชอ...อื้อ”ผมกำลังจะบอกว่า ‘ก็ไม่เชิง’ แต่ไม่ได้ขอให้มันจูบผมเลยนะ (จูบกรูทำไมเนี่ย)
“ยั่วว่ะ”(กรูไปยั่วมันอีกและ ยั่วได้ตลอด แต่...กรูยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ)
“เดี๋ยวจะทำอะไร...ไม่เอานะผมยังเจ็บอยู่”ผมดันไอ้พี่เต้มันไว้ ก่อนที่มันจะทำอะไรที่มากกว่านี้
“หอมจัง”(TToTTฟังกรูจังเลย)นอกจากมันจะไม่ฟังผมแล้ว ยังจูบตรงคอผมด้วย
“รอยเก่ายังไม่หายเลยนะ”ผมบอกเสียงอ่อยๆ(ไม่ใช่อ่อยแบบยั่วนะ)
“หืม...มีรอยตรงไหนบ้างนะ”ไอ้พี่เต้มันทำท่าว่าจะถอดเสื้อผ้าผม สำรวจรอยที่มันทำไว้(ไอ้หื่น)
“เดี๋ยวๆ...”แงม๊าจ๋าช่วยป๋มด้วย ผมไม่อยากนั่งร้องเพลงพี่อ็อฟ ปองศักดิ์อีกแล้ว ผมทำหน้าหงอยๆเหมือนลูกหมาหลงทางเผื่อมันจะเห็นใจ พร้อมกระพริบตาปิ๊งๆแถมอีกสองเซ็ต
“หึ...”ไอ้พี่เต้มันหัวเราะ แล้วจุ๊บหน้าผากผม(นี่กรูรอดแล้วใช่มั้ย)และเปลี่ยนเป็นนอนกอดผมแทน อย่างน้อยมันก็ดีกว่าถูกกดอ่ะนะ
“พี่เต้...”
“อะไร”
“เปล่า”
“กวนรึไง...เดี๋ยวเหอะ...เดี๋ยวจะโดน”ไอ้พี่เต้มันเขกหัวผมเบาๆ ก่อนจะลุกปิดไฟ แล้วก็มานอนต่อ
ตอนเช้าผมก็โทรหาม๊าก่อนจะออกไปโรงเรียน เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่โทรไปส่งข่าวมั่ง ม๊าก็บอกผมว่าไม่ต้องรีบกลับก็ได้(เอ๊ะ! ยังไง) ผมเลยงอนวางสายไป
“ไอ้มีนมรึงเอาชุดสมัยป๊ามรึงเป็นวัยรุ่นมาใส่เหรอวะ”ไอ้เพลย์ครับไม่เจอกันหลายวัยแต่มันก็ยังเลี้ยงหมาไว้เหมือนเดิม
“แป๊ะมรึงดิ”ผมด่ามันกลับครับ ใครจะยอมแต่ความจริงแล้วมันก็เป็นแบบที่ไอ้เพลย์พูดจริงๆแหละครับเพราะผมใส่ชุดนักเรียนของไอ้พี่เต้มา มันก็เลยใหญ่กว่าตัวไปมาก
“ไอ้มีนแล้วทำไมมรึงเดินแปลกๆแบบนั้นวะ”ไอ้วี ไอ้เพื่อนช่างสังเกต
“กรูตกบันไดว่ะ”
“ซุ่มซ่ามว่ะ”ไอ้วีพูด
“แล้วนี่รอยอะไรวะ”ไอ้บอยมรึงจะช่างสังเกตไปถึงไหน ไอ้บอยมันชี้รอยที่คอผม ไอ้เพลย์กับไอ้วีดูท่าแล้วก็คงจะสงสัยเหมือนกัน
“ไม่รู้ดิรอยที่ กรูเผลอเกามั้ง”ผมทำหน้าเหมือนไม่สนใจเท่าไหร่ แล้วดึงเสื้อขึ้นมาปิดรอยไว้ พวกไอ้เพลย์ก็ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรมาก
จนสองอาทิตย์ผ่านไปนั่นแหละครับรอยพวกนี้ถึงได้จางหายไป(แล้วตกลงมันหายช้าหรือหายเร็วใครรู้ช่วยบอกที) สองอาทิตย์ที่ผ่านผมาไอ้พี่เต้มันมาอยู่กับผมแทบจะตลอดเวลาเลย แต่อาทิตย์ที่สามมันก็หายๆไป บอกว่ามีธุระ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะยังไงผมก็เชื่อใจมัน
ตอนเย็นวันศุกร์ คาบสุดท้ายอาจารย์สั่งงานแล้วให้ส่งภายในวันนี้ นี่มันคาบสุดท้ายแล้วนะ พวกผมเลยปั่นงานกันจนมือแทบหงิก
“มีนไปถ่ายเอกสารให้หน่อยสิ”
ผมที่ทำงานเสร็จเป็นคนแรก โดนใช้ให้ไปถ่ายเอกสาร ผมลงไปร้านถ่ายเอกสารข้างล่างแต่ก็ดันปิดไปแล้ว ผมเลยต้องเดินที่ร้านตรงข้ามกับอีกโรงเรียนนึง ไม่ไกลมาก ขณะที่ผมยืนรอเอกสารอยู่ร้านข้างๆก็เป็นร้านค้า ผมก็เห็นเด็กโรงเรียนไอ้พี่เอฟนั่งอยู่เต็มเลยครับ แถมยังคุยกันเสียงดังอีก แต่พวกนั้นไม่เห็นผมหรอกครับ พอผมได้เอกสารผมก็รีบกลับโรงเรียนทันที แต่ยังไม่ทันไปไหนไกลก็โดนไอ้พวกที่ยังอยู่ตรงร้านข้างๆมันแซวครับ
“หน้าตาแบบนี้ตุ๊ดชัว”หมามันเห่าครับ ผมก็ไม่ได้สนใจ
“เฮ้ย! แม่งหยิ่งว่ะ มาใกล้มาพี่จะยัดเยียดความเป็นสามีให้”มันคงหมายถึงใครไปไม่ได้นอกจากผมเพราะตอนนั้นยังไม่มีใครเดินผ่าน ผมตัวสั่นด้วยความโกรธ ขันติๆๆๆ ขันแตกแล้ว
“ก็อย่างว่าอ่ะนะหมามันมีปากก็ได้แค่เห่า แล้วกรูก็จะทำเป็นไม่เห็นหมาที่มันเห่าอยู่ก็แล้วกัน”ผมพูดลอยๆ
“มรึงด่าใครวะไอ้หน้าอ่อน”
“อย่าร้อนตัวสิ กรูก็แค่ด่าหมา...หรือว่า”ผมพูดให้พวกมันละไว้ในฐานที่มันเข้าใจ
“มรึงโดนแน่”พวกมันลุกมาล้อมผมไว้ ตอนนี้เริ่มมีไทยมุงมาให้ความสนใจแล้วครับ
“คิดว่ากรูจะกลัวพวกมรึงรึไงวะแน่จริงก็อย่าหมาหมู่ดิ”
“เดี๋ยวกรูจัดการไอ้เปี๊ยกนี่เอง”ไอ้คนหัวตั้งๆ หน้าหล่อๆ ตัวสูงเหมือนเสาไฟฟ้าลุกมา ทำให้ไอ้พวกลูกกระจ๊อกทั้งหลายถอยกันเป็นแถวเลยครับ
“ตัวแค่นี้ แต่ปากดีๆจริงๆนะ”มันพูดแล้วลูบปากผม
“ก็คนของมรึงเห่าก่อนนี่หว่า”ผมพูดอย่างโมโห แล้วปัดมือมันออก
“ไอ้...”ไอ้พวกนั้นทำท่าจะเข้ามาซัดผม แต่ไอ้หัวตั้งมันยกมือห้ามไว้ซะก่อน
“ไม่มีอะไรหรอกครับ เค้าแค่โกรธที่ผมแอบไปมีกิ๊กน่ะครับเลยอาละวาด”ไอ้หัวตั้งมันบอกกับคนที่มุง แล้วจับแขนผมไว้ ผมเลยกระทืบเท้ามันแล้ว เตะลูกชายมันจนหน้าเขียว
“อย่ามรึงสูญพันธุ์ไปซะได้ก็ดี”ผมแลบลิ้นใส่มันก่อนจะถีบไอ้พวกลูกกระจ๊อก ไปให้พ้นทาง
“มรึงตายแน่”ไอ้หัวตั้งมันชี้หน้าอาฆาตผม ส่วนไอ้พวกลูกกะจ๊อกก็วิ่งไล่ผม ผมเลยส่งนิ้วกลางเป็นการทิ้งท้าย แล้วโกยเถอะพวกเรา วิ่งเข้าโรงเรียนไป
ตอนนี้ผมในสภาพหัวฟู เสื้อยับ และหลุดลุ่ยวิ่งเข้าไปยืนหอบแฮ่กๆในห้องส่วนพวกเพื่อนผมมันก็มองผมกันตาเขียวเลยครับ แต่พอพวกมันเห็นสภาพผมพวกมันก็ทำหน้าสงสารผมแทน
“ไอ้มีนนี่ไปโดนใครรุมโทรมมาวะ”ไอ้เพลย์มันทักผมได้น่าเอาบาทาฟาดหน้ามากเลยครับ
“กวนกรูเเละไอ้เพลย...ก็กรูนะXx%%%###@@@@&&&&$$$$”
ผมเล่าให้มันฟังกันทีเดียวนี่แหละครับ พวกมันนั่งอ้าปากค้างกับวีรกรรมป่วนโลกของผม
“ไอ้มีนคนที่ผมตั้งๆคนนี้รึเปล่าวะ”มิ้นชูรูปผู้ชายหัวตั้งๆ คนนึงขึ้นมา
“เออ! คนนั้นแหละรู้จักด้วยเหรอ”
“ระ...รู้สิ...พี่เพ้นสุดโหดของโรงเรียนXXX”มิ้นพูดแล้วยิ้มอย่างไว้อาลัยให้ผม
“ไอ้มีนอยากได้อะไร เดี๋ยวกรูเผาไปให้”ไอ้เพลย์มันช่างรักผมจริงๆ
“กรูอยากได้มรึง...อย่าลืมเผาตัวเองไปให้กรูล่ะ”
“เย้ย ไม่เอา”ไอ้เพลย์มันแกล้งวิ่งหนีผม ผมก็ไล่เตะมันจริงๆสิครับ
หลังจากที่เอางานไปส่งหมดแล้วผมกับพวกไอ้เพลย์ตกลงกันว่าจะไปกินแม็คกัน พวกผมก็เฮฮาปาร์ตี้ไปตามปกติ แต่สิ่งที่ผิดปกติกำลังเดินอยู่ข้างนอก ไอ้พี่เต้เดินอยู่กับพวกพี่เกมส์ แต่มันคงจะดีกว่านี้ถ้ามันไม่ได้ควงแขนกับพี่เมย์แฟนเก่ามันแล้วกำลังสวีทกันเต็มที่ ความรู้สึกแรกที่เข้ามาก็คือความชาไปทั้งใจ ผมรู้สึกสับสน เเต่ไม่ว่าจะยังไงวินาทีนี้ ผมก็ยังคงเลือกที่จะเชื่อไอ้พี่เต้อย่างสุดหัวใจ เเต่ผมก็เป็นมนุษย์คนนึง ผมเลยเลือกที่จะทดสอบความเชื่อใจที่ผมมี
“เพลย์ยืมโทรศัพท์หน่อย”ไอ้เพลย์ส่งโทรศัพท์ให้ผมโดยที่ไม่ได้พูดอะไร ผมต่อสายถึงไอ้พี่เต้ที่อยู่ใกล้แค่นี้ แต่ทำไมก็ไม่รู้ผมถึงรู้สึกว่ามันถึงได้ไกลจน ผมไม่กล้าที่จะเอื้อมมือไปหา
“เออว่าไง”
“นี่มีนนะ”ผมพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น
“อยู่กับเพลย์เหรอ”
“อื้อ...มารับผมได้มั้ย...ผม...”
“คือ...กรูทำธุระอยู่...เดี๋ยว...”
“งั้น...ไม่เป็นไร”ผมตัดบท
นี่สินะธุระที่โกหกผมมาทั้งอาทิตย์ ผมคืนโทรศัพท์ไอ้เพลย์ และแค่นยิ้มอย่างสมเพชตัวเอง ก่อนจะออกไปจากร้านแม็คพวกไอ้เพลย์ก็ไม่ตามไปเพราะผมบอกว่าอยากอยู่คนเดียว และเดินไปเรื่อยๆและกำลังจะไปขึ้นรถเมย์กลับบ้าน แต่ก็เจอไอ้พี่เพ้นซะก่อน
“เจอตัวก็ดีแล้ว...ปล่อยให้กรูตามหาตั้งนาน”ไอ้พี่เพ้นดึงแขนผม ผมไม่มีแรงแม้แต่จะกลั้นน้ำตาตัวเองเลยปล่อยตัวเองไปตามแรงกระชาก รู้สึกอ่อนเเอจนเเทบจะหมดเเรง
“พาผมกลับบ้านที”ไอ้พี่เพ้นมันก็ดูงงๆ ผมร้องไห้และขอร้องมันไปด้วย
“เป็นอะไรไป เมื่อเย็นยังซ่าส์อยู่เลย”เสียงมันอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
“ขอร้อง...ช่วยพาผมกลับบ้านที”ไอ้พี่เพ้นมันเห็นผมร้องไห้หนักกว่าเก่าเลยกอดปลอบผม และให้ผมบอกทางกลับบ้าน ก่อนจะไปส่งผมที่บ้าน
น่าเเปลก
คนที่ผมทำร้าย...กลับดีกับผมขนาดนี้
แต่คนที่ผมที่ทำดีด้วย...กลับทำร้ายผมขนาดนี้
ผมคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ลมเย็นๆที่พัดมาทำให้ผมหนาวก็จริง แต่คงไม่หนาวเท่ากับหัวใจผมในตอนนี้
“ขอบคุณ”เมื่อถึงบ้าน ก่อนจะลงจากรถผมก็ไม่ลืมขอบคุณไอ้พี่เพ้น
“มรึงไม่เหมาะกับน้ำตาเลย”ไอ้พี่เพ้นมันพูดโดยไม่มองหน้าผม ก่อนจะขี่รถออกไป
...
“ลูกมีนวันนี้กลับช้าจัง”ม๊าทำหน้าหงิกรอผมอยู่ตรงประตูบ้าน
“ผมทำงานส่งตอนเย็นแล้วก็ไปกินแม๊คกับไอ้เพลย์มาครับ”ผมเข้าไปกอดม๊าแล้วแค่นยิ้มแห้งๆกลบเกลื่อนความเศร้าที่อยู่ในใจ
“จ๊ะ ไปอาบน้ำได้แล้วไป”
“ครับ”
ผมขึ้นมาบนห้อง และออกมานั่งสูดอากาศอยู่ตรงระเบียง ความเศร้าก็เข้ามาวนเวียนรอบๆตัวผมอีกครั้ง ตลกจริงๆวันนี้มีหลายอารมณ์จริงๆ ถ้ามีคนขับรถผ่านแล้วมองขึ้นมาเค้าคงเห็นคนบ้าที่นั่งหัวเราะทั้งน้ำตาเเน่ๆ ทั้งโง่ทั้งบ้าจริงๆ
บ้า...ที่รัก
บ้า...ที่เชื่อว่าเป็นคนที่ถูกรัก
บ้า...ที่เชื่อใจ
บ้า...ที่เศร้าขนาดนี้
.
.
.
.
.
.
.
.
หรือว่าเรื่องของเราจะจบลงแค่นี้...
หรือว่าทั้งหมดที่ทำร่วมกันมาจะกลายเป็นแค่ความทรงจำ...
หรือว่า...ผม...จะไม่สามารถรักพี่เต้ได้อีกแล้ว
หรือว่า...ผม...ไม่ดีพอ
หรือว่า...ผม...ควรจะปล่อยทุกอย่างไป
ผมถามตัวเองเป็นพันครั้งว่า”ทำไม” มันเป็นความคิดที่วนเวียนไปมาแต่ไม่คำตอบ การไขว่คว้าความจริงอย่างไร้จุดหมายมันช่างเจ็บปวดจริงๆ
ผมคงเด็กเกินไปที่จะคิดอะไรได้ลึกซึ้งกว่าที่เป็น...แต่ทำไมไม่รู้ ในใจลึกๆของผม อยากจะฟังความจริงจากปากของพี่เต้
แต่ผม...คงต้องใช้เวลาในการสร้างกำแพงเพื่อกำบังหัวใจ...
กำแพงที่แข็งแกร่งพอที่จะไม่พังทลาย...ยามที่น้ำซัดสาดเข้ามาอย่างรุนแรง
กำแพง...ที่จะปกป้องผมจากความจริงได้
ผมหลุบตาลงเพื่อซ่อนความอ่อนแอทั้งหมดไว้
วันนี้ผมเหนื่อยเกิน เกินกว่าจนสมองเเละหัวใจรับไว้ทัน เรื่องในวันนี้มันมีมากมายเหลือเกินมีทั้งจุดเริ่มต้นเเละจุดจบ
เเละผมก็คงต้องทำใจ
ถ้า...พี่เต้เหนี่อยจนต้องโกหกผมว่าติดธุระทั้งที่ไปกับคนอื่น...
ถ้า...เป็นเเบบนั้น
ผมก็จะปล่อยมือจากพี่เต้ไป...
และตัดสินใจว่า
พรุ่งนี้มันต้องจบ ไม่ว่าความจริงจะเป็นยังไงก็ตาม
....
สปอยตอนต่อไป มันจะเป็นเหมือนการเล่นละครฉากสุดท้าย
มันอาจจะเศร้า...เเละไม่รู้ว่าจะดำเนินไปยังไง
เเต่หากตอนจบของมัน....ได้ถูกกำหนดไว้เเล้ว
....
รัก :L1:ทุกคนเช่นเคย มีสูขก็ต้องมีเศร้า นี่เเหละชีวิต