ช่วยด้วย! ผมได้แฟน***ไอ้เด็กช่างยนต์ By ที...60 ฟ้าหลังฝน หน้า 143 (01/28/61)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ช่วยด้วย! ผมได้แฟน***ไอ้เด็กช่างยนต์ By ที...60 ฟ้าหลังฝน หน้า 143 (01/28/61)  (อ่าน 1290711 ครั้ง)

iten

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
 :a5: ตอบจบนี่มัน ไม่ไหวจริงๆ แต่ก็รักคนเขียนนะคะ :กอด1:

ออฟไลน์ LEO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-3
ช่วยด้วย ผมได้แฟนเหี้ย ไอ้เด็กช่างยนต์ 57...ตามกรรมสินะ
   มาดูคอมเม้นกันอีกครั้ง จากทั้งหมด 172 คอมเม้น(ถึงเม้น3271) เท่าที่อ่านดูก็พอรู้แล้วล่ะ แต่จะทำตัวเลขออกมาให้เจ็บใจเล็กๆแล้วกัน ฮ่าๆ ยังยืนอยู่ข้างกายไอ้ที 6.97%ก็โอเคครับ (ไม่0.00 ก็ดีแล้วล่ะสำหรับไอ้ที...น่าสงสารไหมล่ะ) กลางๆ ไม่เอนเอียง 1.75% เศร้า อึ้ง มึน บรรยายไม่ถูก 3.49 % และแล้ว ไอ้ปอก็ได้รับการเลือกตั้งเข้าสู่สภา 78.49% (ไม่ใช่การเมือง) เอาเป็นว่าร้อยละ78.49 อยากให้โอกาสปอ เห็นใจ ก็ไม่เป็นไรครับไอ้ปอรู้มันคงดีใจมีคนรอให้โอกาสมันมากมาย ส่วน 9.30%  คอมเม้นว่ารอ และรอ และก็รอ
Comment
Pentoh  นักวิเคราะห์เลยนะเนี้ย ไม่ได้บอกว่าชอบเฉยๆ แยกประเด็นทั้งเรื่อง ทั้งที ทั้งปอ ขอบคุณนะคร๊าบบบ
teeporfc ผู้ชายมันก็มีเล็กมีน้อยบ้างแหละ (อิอิ) เข้าข้างพี่ปอหน่อยแระกัน
...ไม่หน่อยล่ะมั้งแบบนี้ เข้าข้างกันเต็มๆ หุหุ ว่าแต่ use mane ที่ใช้ เล่นซะพี่คิดเข้าข้างตัวเองว่ามีคนเป็นแฟนคลับจนเอาไปตั้งชื่อ เห่อๆถึงแม้จะบังเอิญ พี่ก็คิดเข้าข้างตัวเองอยู่ดี ฮ่าๆ
bebe ปล. เป็นแฟนคลับคุณทีคนเดียว
... สั้นๆแต่ได้ใจความจริงเชียว ขอบคุณคร๊าบบบบ
AAigoo คนดีๆๆอย่างพี่น่าจะเจอแต่ความสุข ไม่อยากให้มีความทุกข์อีกแล้ว
...ยาก ดี มี จน ก็มีความสุข ความทุกข์ปนๆกันไปครับ ขอเลือกความสุขมากกว่าความทุกข์ก็พอครับ พี่ก็ไม่อยากกลับไปเป็นทุกข์แบบเดิมๆอีกแล้วล่ะครับ ถ้าจะมีทุกข์ขอมีทุกข์เรื่องใหม่ล่ะกันเนอะ
Yamakuchi ไม่รู้ว่าพี่ทีจะได้อ่านหรือเปล่า
...ได้อ่านครับ ทุกเม้นเลย น้องคนนี้เขียนยาวมาก และดีมากเลยนะ ว่าแต่อดีตพี่ไม่ได้เจ็บปวดขนาดนั้นซะหน่อย ฮ่าๆๆ แต่ก่อนพี่อาจจะทุกข์กายแต่มันสุขใจนะ ตอนนี้สุขกายแต่ใจยังกลับเป็นทุกข์ เมื่อหนีความทุกข์ไม่ได้ก็ขอพยายามพบพาลน้อยที่สุดล่ะกันครับ (ไม่นานกระผมคงออกผนวช)
IamMarkFollowMeตามอ่านเรื่องพี่ทีจากเว็บนึงท่ีต้องเสียตังเข้า ก็ยอมเสียตังติดตามอ่านมาตลอด
... หว้า!! แย่จังนะ จริงๆผมเขียนเรื่องผมอยากให้คนอื่นรับรู้ ไม่เคยคิดที่จะมีผลประโยชน์ใดๆเลย พอจะรู้เหมือนกันที่มีคนเข้ามาอ่านแล้วนำไปลงที่อื่นหลายเวป บางครั้งก็บอกว่าเป็นเรื่องของตัวเอง ผมก็ไม่ติดใจ น้อยใจอะไรหรอก แต่การเข้าถึงเนื้อหาหากต้องแลกด้วยอะไรสักอย่างหนิ ผมว่ามันมากเกินไปนะ ถึงแม้จะเป็นเงินในเกมส์ มันก็เหมือนการเอาเปรียบอยู่ดี ลองทบทวนดูใหม่แล้วกันครับคนที่เอาไปลง...ขอบคุณน้องนะที่มาติดตามถึงในนี้เลย
dragonnine การตัดสินใจ ขึ้นอยู่กับคุณทีครับ คุณทีเป็นคนมีเหตุผล แต่หัวใจก็ต้องอยู่เหนือเหตุผลครับ
...ผมก็เคยคิดเหมือนกันว่าผมเหตุผลมากเกินไปหรือป่าว ในอดีตจึงเห็นผมยกโทษให้ง่ายมาก มาครั้งนี้ผมเลยอยากจะลองเชื่อเหตุผลผมดูบ้าง โดยตัดความรู้สึกออกไป ผิดว่าผิด ถูกว่าถูก ดูสิต่อไปจะเป็นยังไง ถ้ามันเลวร้ายกว่าอดีตผมก็คงยอมรับมันเพราะผมได้ลองทำเอง
และขอบคุณทุกๆคอมเม้นครับ ผมอ่านหมดเลย แอบปริ้นเอาไปอ่านแหนะ จริงๆอยากเรียกชื่อมากกว่า user name อีกนะ ไม่สะดวกเป็นนามแฝงก็ได้ครับ เช่น ตอนนี้รู้แล้ว มีฟ้าลั่น(konruk-2007) พี่พี(peerapong) น้องต้องสุดหล่อ(tongkung) ohv’นิว  ประมาณนี้ บอกครั้งเดียวก็ได้ครับผมจะพยายามจำให้ตรงกับuser nameที่ใช้ไม่ต้องบอกทุกครั้งที่เม้น  เข้าเรื่องดีกว่าเนอะ
...
“ติ้ง ติ่ง ติง ตะดิดิ่งติงติ๋ง ๆ ๆ” (ฮ่าๆ พยายามทำเสียงโนเกียล่ะกัน) เสียงโทรศัพท์รุ่น 2700  ไอ้ที ดังขึ้น ไม่รู้น้องๆจะรู้จักกันป่าว รุ่นนี้มีดีที่หน้าจอสี ถ่ายภาพออกมาเบลอๆหน่อย จะได้ดูดี ฮ่าๆ มันเก่า เยิ้นมากแล้วล่ะ  แต่ใช้ได้ดีเชียว คงทน ถาวร (ปอมึงโทรมาเหรอวะ) เห็นเบอร์แปลกๆมา  หลอนเป็นไอ้ปอไปหมดล่ะ ก็น่าสงสัยอ่ะดิ โทรมาช่วงเที่ยงพักพอดี คิดอยู่นานว่าจะรับไหมจนเสียงนั้นสิ้นสุดลง  ผมเดินไปล้างมือแล้วลงไปกินข้าวโรงอาหาร คิดทุกขณะย่างก้าว ว่าถ้าเป็นไอ้ปอแล้วจะเริ่มต้นคุยยังไง กินเสร็จกลับมาที่เดิม ผมนั่งหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะโทรกลับเบอร์แปลกนั้น
   “สวัสดีครับ” ผมกล่าวพยายามเป็นปกติ
   “หวัดดีที กันเองนะเว้ย เปลี่ยนเบอร์ใหม่นะ เลยโทรมาบอก” (กำ กูอุส่าห์คิดตั้งนานว่าจะเอายังไง)
“เหรอ เออๆ เป็นไงล่ะ....” คุยกันตามประสาเพื่อนที่ไม่ได้คุยกันมานาน (หน้าแตกกับตัวเองเล็กน้อย)
   สองอาทิตย์ผ่านไปแล้ว  หลังจากไอ้ปอกับป่านมาหาที่กรุงเทพ จากนั้นก็ขาดการติดต่อไม่ได้พูดคุยกันอีกเลย สงสัยไอ้ปอก็อยู่ในระยะทำใจมั้ง ไม่ติดต่อกันล่ะ  ดีแล้วช่วงนี้ ต่างฝ่ายต่างต้องทำใจ
   ช่วงวันแม่หยุดหลายวัน ผมกลับบ้านวันเสาร์ ไม่ลืมที่จะหยิบโทรศัพท์มาคืนไอ้ปอ ว่าจะแอบไปฝากไว้กับแป้ง  ผมเปลี่ยนที่ขึ้นรถ มาขึ้นรถตู้ที่อนุสาวรีย์ ปกติก็ไปขึ้นรถทัวร์ที่เอกมัย เพราะเกรงว่าจะมีคนมารอที่ลงรถที่เดิม (ระแวงไปเองป่าวไม่รู้) ระหว่างที่ผมนั่งรอขึ้นรถ มีตาคนนึงเดินมาหาผม
   “เล็กจัง” พลางมองมาที่ผมตั้งแต่เอวจรดเท้า (เหวอออออ ไรๆตา ไรเล็กพูดให้ดีๆนะ)
   “ไรเล็กเหรอครับตา”
   “หุ่นพ่อหนุ่มนะสิ” พลางมาบีบแขน และจับขาผม
   “เหรอครับ” ก็ไม่รู้จะพูดอะไร ตกใจเล็กน้อย
   “กินเยอะๆกว่านี้นะ เนื้อหนุ่มน้อยไปหน่อย อย่าโกรธตานะ  นี่ถ้ามีกล้ามกว่านี้หน่อย หนุ่มจะดูดีมากเลย ตาเห็นยิ้มบ่อยๆ แบบนี้ล่ะสาวๆชอบเลย” (ดูดีเพราะยิ้ม อืมมมนะ ฮ่าๆหน้าตาดูไม่ได้เลยเหรอตา)
   “ไม่หรอกครับ” (ผมไม่ชอบสาวๆอ่ะ)
   “เชื่อตาสิ  อายุเท่าไหร่แล้วล่ะ”
   “ยี่สิบห้าครับ”
   “อืมมม อย่าเพิ่งไปมีเลยนะ เมียน่ะ (ไม่มีอยู่แล้วครับ) หนุ่มยังไปได้อีกไกล ดูแล้วน่าจะเรียนสูง ตั้งใจเรียนไปก่อนนะ ทำงานเป็นใหญ่เป็นโตเลือกที่จะเอาได้เลย มีผู้หญิงดีๆให้เราเลือกอีกเยอะ”
   “ครับ” ผมก็ตอบเบาๆเลี่ยงๆไป (ก็ไม่ได้อยากมีเมียหนิ)
   “ตาอยู่อีกไม่นานหรอก ตอนนี้ก็ 90 ล่ะ อยู่อีกปี สองปีแค่นั้นแหละ ตาอยู่นานล่ะ เห็นกรุงเทพตั้งแต่ยังไม่มีอะไร ตามาซื้อที่ตรงนั้นแล้วปลูกอาคารไว้ให้ลูกให้หลาน(พลางชี้ให้ดู เป็นอาคารพาณิชย์)  ตาซื้อไว้ จ่ายเงินจนเกษียรพอดี” คุยไปนานจนรู้ว่าตาเคยเป็นทหาร แล้วรู้สึกว่าหลานชายจะมีปัญหาครอบครัว เมียหลานหอบลูก(เหลน)ไปด้วย แกคิดถึงเหลน คงอยากจะมีเพื่อนคุยบ้าง อยากบอกเล่าให้คนอื่นรู้อยากปรับทุกข์นั้นเอง ผมก็ชวนคุยใหญ่เลยทีนี้  จนรถจะออกอยู่แล้ว(จริงๆออกไปแล้วรอบนึง แต่ผมไปเปลี่ยนเที่ยว อยากให้ตาระบายออกมา (อยากฟังด้วย หุหุ)) กระนั้นก็ยังไม่หมดแต่ผมต้องไปแล้วล่ะ ไม่งั้นรถตู้มันจะด่าผมแล้ว ผมบอกลาตาแล้ววันหลังผมกลับผมจะมาคุยกะตาใหม่นะ
   ด้วยความที่ขึ้นรถช้าทำให้ผมได้นั่งแถวหลังสุด ข้างในสุด และรู้สึกว่าคนข้างหลังจะตัวใหญ่กันด้วย (โอ้ยยยยย) ผมต้องเบียดเสียดนั่งตัวหดในนั้นชั่วโมงกว่า
   การมาโดยรถตู้ครั้งนั้นมันสอนผมว่าต่อไปอย่ามาอีกกกกกกกกกกก ขับรถเร็วมากๆๆ น่ากลัว แถมคนขับด่าโวกเวกโวยวายกับผู้โดยสารอีก ผมรับไม่ได้เชียวล่ะ (อาจจะโดนแจ๊คพล๊อค รถที่นิสัยไม่ดีมั้ง...ก็คงไม่เหมารวมเค้าหรอก) กลับรถทัวร์ดีกว่าต่อไป ถึงจะเสี่ยงเจอใครบางคนที่จุดหมายปลายทาง อย่างน้อยก็รู้ว่าจะถึงที่หมายอย่างปลอดภัยมากกว่านี้
   กลับถึงบ้านทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า พี่ผมก็มาตั้งแต่เมื่อวานเย็น พ่อก็หยุด นานๆครั้งเหมือนกันนะที่ผมจะได้อยู่พร้อมกัน (ติดที่ผมนี่แหละเป็นส่วนใหญ่)
   “พี่ พี่ซื้อไรให้พ่อแม่น่ะ” ผมแอบถามพี่สาว
   “พี่เอารูปเราสี่คนไปอัดภาพใหญ่”
   “เหรอ ว้าวววว อยากดูครับ รูปไหนเอ่ย” ผมแซว
   “พี่ให้เค้าห่อแล้วสิ รึทีจะดู แล้วห่อให้พี่ใหม่นะจ๊ะ”
   “ไม่เอาอ่ะ ผมไม่มีศิลปะด้านการห่อกระดาษเพื่อความสวยงาม ฮ่าๆ”
   “แล้วที ละ แอบถามพี่แล้วตัวเองได้อะไรมา” 
   “ผมยังไม่ได้ซื้อเลยพี่ ยังไม่มีเวลาไปเดินซื้อเลย”
   “ไม่เป็นไรหรอก รวมกับพี่ก็ได้ ชิ้นเดียวกันนี่แหละ”
   “ไม่หรอกครับ เดี๋ยวผมจะออกไปหาซื้อล่ะ”
   ที่บ้านผมพ่อแม่จะไม่รับของที่มีมูลค่าเลย เกรงใจลูกซะ จะรับก็ของเล็กน้อยๆ ของใช้ ของกิน ประมาณนั้น
   ผมยังไม่รู้เลยจะซื้ออะไร ผมขับรถไปเซ็นทรัล เดินวนจนหาทางออกไม่เจอ (ฮ่าๆ ไม่ค่อยได้มาเท่าไหร่)ก็ยังไม่ได้อะไรอยู่ดี (เลือกซื้อยากจริงๆ...ไปแถวบางแสนก็ได้วะ ไปหาเปลือกหอยประดิษฐ์สวยๆ) ผมไปที่บางแสน (วันนี้เป็นวันที่เราว่างที่สุดในรอบปีแล้วหนิหว่า โสดสนิทด้วย ต้องทำเพื่อตัวเองบ้างล่ะ) ก่อนถึงบางแสนผมเลี้ยวรถ เดินเล่นห้างแหลมทองก่อน (อยู่คนเดียวก็สบายใจดี)
   (เริ่มต้นกินก่อนเลยยยยย) เที่ยงแล้วด้วย ผมเดินหาร้านกิน กินคนเดียวก็แปลกๆเหมือนกันนะ ผมเดินเข้าร้านเคเอฟซี เลือกทำเลที่ดีที่สุด เพราะมาคนเดียวไม่อยากให้ใครเห็น (อายเป็นด้วย) เล็งเห็นมุมโต๊ะขนาดเล็กปกติน่าจะนั่งสองคนพอดี แต่มีคนนั่งอยู่ ผมยืนวนเวียนอยู่หน้าร้านรอสักพัก เห็นเค้าลุกออก(คงไม่มาแล้วมั้ง...คิดเอง) ผมรีบเดินตัวปลิวเข้าไปเลย เฮ่อๆ ได้ที่ล่ะ ผมสั่งนั่งก้มหน้าก้มตากิน
   หลังจากอิ่มท้องแล้ว ก็เดินออกมาไปดูโปรแกรมหนังต่อชั้น4 spider man มันน่าจะเป็นเรื่องที่อยากดูที่สุดแล้วล่ะในบรรดานี้ ปกติผมชอบแนวออกธรรมชาติ สัตว์ป่าซะมากกว่า (เพื่อนกันน่ะ) อันนี้พอดีมาเจอโปรแกรมนี้ ดูก็ดูอย่างน้อยก็มีแมงมุมล่ะวะ ผมนั่งแถวกลาง ที่นั่งโล่งมาก คนก็ประมาณยี่สิบนี่แหละ
   “5555” ถึงฉากหัวเราะ ผมก็ขำเบาๆ
   “55 ตลกจริงๆ” เสียงดังมาจากข้างหลังพูดเบาๆ เสียงคุ้นมาก แต่คงไม่ใช่ อะไรจะโลกกลมขนาดนั้น แต่ผมก็ไม่ได้เหลียวหลังหรอก แอบเก็บความสงสัยไว้..... ในที่สุด
   “มาดูคนเดียวเหรอ” เสียงพูดพร้อมมือแตะไหล่ผม
   “เอะ อะ..” พูดไม่ออกสิ ระยะประชิดพร้อมทั้งลุกล้ำมาซะขนาดนี้
   “บังเอิญจังเลยนะ มาเจอกันที่นี้” เจ้าของเสียงพูดขึ้น....ไอ้ปอ
   “อ่ะ อืมมม ไม่น่าเชื่อ” ผมยังพูดอ้ำอึ้ง พร้อมทั้งพยักหน้า
   “ไปนั่งข้างๆได้ป่าว ไม่ได้ดูหนังด้วยกันมานานแล้ว” ผมยังไม่ได้พูดอะไร มันก็ลุกพรวดพลาดจากข้างหลังผมมานั่งข้างๆผม (คนดูข้างหลังก็ไม่ด่ามันหน่อยเนอะ)...ทำไมใจมันเต้นถี่ขึ้นวะ ตื่นเต้น ตกใจรึประหลาดใจกันแน่
   “เห็นมานั่งดูนานแล้ว เห็นมึงหัวเราะ มัน...หื้ออออ(ไอ้ปอหายใจเข้าลึกๆแล้วถอนหายใจ) ...มันบอกไม่ถูกวะ เหมือนลืมกูแล้วจริงๆ”
   “.?????....”ผมเงียบ ตายังมองไปที่หนัง
   “ยิ่งเห็นมึงมีความสุขที่อยู่คนเดียว กูก็ยิ่งปวดใจ มึงว่ากูควรทำไงดี” มันถามผมเบาๆ
   “จะเข้ามาดูหนังรึเข้ามาคุยกัน” สติผมก็ไม่ได้อยู่ที่หนังหรอก อื้อๆอึงๆอยู่กับตัวเอง
   ไอ้ปอลุกพรวดออกไป ยิ่งเพิ่มความงงให้ผม (พูดแทงใจดำมันเกินไปรึป่าววะเนี้ย  แต่ก่อนพูดแรงกว่านี้ไม่เห็นมีอาการอะไร โกรธกูเหรอ แล้วคิดว่ากูจะง้อเหรอ ไปเลย) ว่าจะลุกออกไปแล้วล่ะ ไม่อยากดูละ แต่เสียดายตังค์ต้องทนดูต่อไป
   สักพักก็มีคนข้างๆมาพร้อมกับยื่นแก้วน้ำเป๊ปซี่กับป๊อปคอนมาให้ผม  ผมมองเล็กน้อย
   “เอาดิ กว่ามันจะจบเรื่องอีกนานนะ กลัวจะคอแห้ง” ไอ้ปอพูด (กูใช้ตาดูไม่ได้ใช้ปากดูถึงจะคอแห้ง)
   “อืมม ขอบใจแต่ไม่เป็นไร”
   “เห้ยที กินเป็นเพื่อนหน่อยดิ กินไม่หมด”
   “แล้วซื้อมาเยอะทำไม”
   “ก็ซื้อมาเผื่อไง...เอาเร็วๆ ถือเอาดิ คนอื่นเค้ามองมาแล้ว คุยกันเสียงดัง” (เห้ยยยยย กวนประสาทกูทำไมวะ วันนี้วันพักผ่อนกูนะ) ผมรับเอาของจากไอ้ปอ กลัวเสียน้ำใจผมเลยหยิบป๊อปคอนกินนิดหน่อย(ดีนะที่ยังเห็นเป็นเพื่อนอยู่หน่อยนึง)
   “อร่อยไหม” มันหันหน้ามาถามผม พร้อมกับยิ้มเห็นฟัน ผมมองเหล่มัน (มึงเงียบซะทีได้ไหมมมม)
   “โทษครับ” มันพยักหน้าแล้วกลับไปเอนตัวที่เบาะตัวเอง (มารยาทก็พอรู้จัก แต่มักไม่อยากทำ) เงียบไปสักพัก
   “โทรไปหลายครั้ง ไม่รับสายเลย” มันพูดเปรยๆออกมา (เหรอออออ ไม่รู้อ่ะ )
   “กูผิด” ผมพูดสั้นๆ
   “ป่าวมึงไม่ผิด กูผิดเองที่โทรไปช่วงที่มึงยุ่ง” (แหมะพูดได้ดี รู้จักพลิกมาโทษตัวเอง แต่กูก็เฉยๆ)
   “เข้าใจอย่างงั้นเหรอ” ผมยิ้มที่มุมปากมองหน้ามันเล็กน้อย (ไม่คิดว่ากูไม่อยากรับสายมึงบ้างเหรอ)
   “เออดิ ก็เที่ยงกว่าแล้วมึงยังไม่ออกมากินข้าว กูก็โทรเข้าไป มึงไม่รับ สักพักก็เห็นคนไข้เดินออกมา กูก็รู้แล้วแหละว่ามึงงานยุ่งจริงๆ แต่ยังไงก็อย่าลืมกินข้าวนะ”
   “หืออออ เห็นเหรอ”  ( แสดงว่ามึงเฝ้ากูตลอดเลยเหรอ) มิน่าละผมเคยเห็นเบอร์แถวๆโรงบาลโทรเข้าหลายครั้ง ผมโทรกลับ กลับไม่มีคนรับ สงสัยโทรตู้มา
   “อืมมม” มันยักคิ้ว
   “มึงว่างมากนักเหรอถึงได้ตามกู ครั้งนี้กูว่าก็คงไม่ใช่บังเอิญหรอก” ผมเริ่มโกรธ สีหน้าบึ้ง
   “เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งโกรธดิ ไม่อยากให้โกรธกูไปมากกว่านี้แล้ว กูไปหามึงวันอาทิตย์เท่านั้นนะ อู่ปิด ไม่ได้โดดงานไป อีกอย่างก็ไม่ได้เอาป่านไปด้วย เพราะมึงไม่ให้ไป ไม่ได้เข้าไปกวนมึงด้วย แค่อยากมองอยู่ห่างๆบ้าง วันหยุดมันทนไม่ไหวที่จะอยู่บ้านเฉยๆ....อยู่คนเดียว....ขอแค่เห็นหน้าบ้างแค่นั้น ยังจะไม่ได้เชียวหรือ”
   “ว่างก็พักผ่อน ดูแลตัวเองดิ รับผิดชอบตัวเอง ต้องรู้จักดูแลตัวเองแล้วนะต่อไป” ผมเริ่มคลายสีหน้าลง (ก็เห็นมันทำหน้าเสียเลยอ่ะ)
   “อยากดูแลคนอื่นมากกว่า ให้ดูแลป่ะละ”(กูเริ่มจะคลายอารมณ์ มึงก็เริ่มแทะโลมกูอีกละ)
   “ดูแลตัวเองให้รอดก่อนเถอะ”
   “แสดงว่าถ้ากูดูแลตัวเองรอด กูก็ดูแลมึงได้ดิ” มันยิ้มๆ (กิ้งก่าจริงๆนะมึงไอ้ปอ เมื่อกี้ยังตีหน้าเศร้า)
   “ความหมายกู เป็นแบบนั้นเหรอ”
   “อ่ะ ไม่ต้องตอบ ให้กูคิดไปเองดีกว่า กูไม่อยากเจ็บกับคำพูดมึง” มันรีบสกัดคำพูดผม
   “ทำไมรู้ว่ากูอยู่นี้” ผมถาม
   “ถ้าบอกบังเอิญมึงคงไม่เชื่อ ต่อไปนี้กูจะพูดความจริงกับมึงตลอด ไม่โกหกแล้ว กูตามมึงมาจากที่บ้าน กูไปดักมึง คิดแล้วว่ามึงต้องกลับบ้าน ไม่เมื่อวานก็วันนี้”
   “กูเห็นมึงเป็นคนที่พูดความจริงตลอด มึงไม่เคยโกหกกู มึงแค่พูดออกมาไม่หมด อันไหนที่อยากปิด  มึงแค่ไม่อยากพูดเท่านั้น” (ไอ้ที มึงจะพูดเรื่องเดิมทำไมวะ เดี๋ยวมันก็หาว่าประชดอีก)
   “ไม่แล้วๆ พูดหมดทุกอย่าง” มันรีบปฏิเสธ
   “ตามดักกู อืมมม กรรมทันตาเห็นจริงๆ ครั้งหนึ่งกูก็ทำแบบนี้ กูไม่ชอบให้ใครมาแอบดู แต่กูก็เคยทำแบบนี้มาก่อน เสมอกันแล้วนะ หมดกรรมต่อกันซะที”
   “ขอโทษ ต่อไปกูจะไม่ทำอีก...” มันกำลังจะพูดต่อ ผมหยิบป๊อปคอนเข้าปากมัน
   “ซื้อตั๋วมาดูหนัง ไม่ได้เข้ามาคุยกัน”
   “มันเป็นป๊อปคอนที่อร่อยที่สุด มีมึงป้อนให้กิน” มันพูด ผมชำเลืองมองมัน “ขอโทษ”
   เจอมันครั้งนี้มีดีอย่างเดียวกล่าวคำว่า ขอโทษ บ่อยขึ้น แรกๆหนิ คำนี้ไม่หลุดออกจากปากไอ้ปอหรอก ขอโทษ ขอบคุณ พูดยากเชียว จะสำนึกพูดได้ก็ตอนที่ตัวเองผิด ...ดูจบผมเดินออกมา ไอ้ปอมันก็เหมือนเหาฉลามแหละ เทียวเดินอยู่ข้างๆ
   “ไปไหนต่อกันดี” ไอ้ปอพูด
   “หือออ” ( พูดซะเหมือนจะไปด้วยกัน)
   “ก็ขอไปด้วยไง” มันบอกผม
   “มายังไง”
   “มึงว่ารองเท้าคู่นั้นสวยป่าววะ อันที่มึงซื้อให้ชาติที่แล้วมันขาดแล้ว ไปเลือกให้กูหน่อยดิ” ตามเคยผมเชื่อว่ามันเอารถมาเพราะมันตามผมมา แต่มันไม่อยากบอกเลยเปลี่ยนเรื่อง เท่านี้นิสัยเดิมก็ยังไม่เปลี่ยน
   “เอาเรื่องจริง” ผมทำเสียงดุ
   “จริง ขาดแล้วๆ .. .(ผมเบือนหน้าหนี)... แหะๆ เอารถมาแต่อยากไปด้วย ขอไปด้วยดิ”
   “เรามาคนละทางกันแล้วล่ะปอ มายังไงก็ไปยังงั้น” ผมพูด ไอ้ปอเศร้าลงเห็นได้ชัด (ต่างคนต่างไม่สร้างความหวังให้กันละกันเถอะนะปอ)
   “ไม่เป็นไร กูไม่ว่าอะไรมึงหรอก แค่กูได้นั่งดูหนังข้างๆมึงมันก็ดีแล้วล่ะ มันดีกว่าสองอาทิตย์ที่ผ่านมาที่กูเฝ้าแต่เพ้อไปคนเดียว ไปหาก็ได้แค่แอบมอง โอกาสคุยยังไม่มีเลย ไม่ได้ยินเสียง วันนี้กูได้คุยกับมึง ได้อยู่ใกล้มึง ถึงแม้มันจะเป็นเวลาสั้นๆ มันก็น่าจะดีแล้ว...สำหรับกู”
   “นี่กูไม่ใช่บุคคลสำคัญของประเทศขนาดนั้นที่จะเข้าถึงตัวได้ยาก ...เอาล่ะ ไหนอยากได้รองเท้าไปดูก็ได้ไป” ผมตัดบทไป ไม่อยากให้บรรยากาศมันเศร้าไปกว่านี้
“ไม่เอาหรอก”
“เออ ไม่เอาก็ไม่เป็นไร ไปดูเฉยๆ กูอยากจะได้เหมือนกัน” แปลกใจตัวเองเหมือนกัน เวลามันงอนๆรึมีอารมณ์เศร้าจริงๆ(ไม่นับที่แกล้งเศร้า) ผมอยากจะเปลี่ยนสถานการณ์นั้น อยากทำให้มันหายเศร้า อยากเห็นมันมีความสุข  ให้มันไปเอะอะโวยวายแล้วโดนตีนเค้ามา มันยังจะดีกว่าแบบนี้เลย  ผมเผลอไปคว้ามือมันแล้วดึงไปที่ร้าน มาคิดได้ระหว่างทางเพราะมันจับมือผมแน่นขึ้น ผมก็ทำเฉยๆ เหมือนไม่คิดอะไร
“เอาคู่นี้ไหม ดูก็สวยดีนะ เท่ห์ดี” ผมถาม
“ไม่เอาหรอกมันเลอะง่าย ไม่ได้อยู่ในตึก ที่ไม่ได้เหยียบดินนะเว้ย” (ประชดกูเหรอ กูไม่ได้ง้อมึงนะ กูไม่จำเป็นต้องมาซื้อเป็นเพื่อนมึงเลยนะเว้ย)
“เออๆ งั้นก็เลือกดูเองล่ะกัน กูก็จะเลือกของกู”
“ไม่เอา เลือกให้หน่อย”
“เลือกไปก็ไม่ถูกใจมึง แล้วจะให้กูเลือกทำไมล่ะ”
“ถูกใจทั้งคนเลือกและรองเท้าแหละ แต่อยากให้มึงเลือกของตัวเองก่อน เดี๋ยวของกูเอายังไงก็ได้” (แทะโลมทีเผลอกูอีกแล้วววว)
“เออ ตามใจ” ผมก็เลือกของผม จนได้รอจ่ายตั้งที่เคาว์เตอร์ สักพักมันก็ยังไม่มา มาเลยเดินไปถาม
“ได้ยัง เลือกไรหนักหนา รอจ่ายตังค์อยู่” ผมบอก
“เค้าไปค้นให้อยู่ มันไม่มีโชว์แล้ว”
“มันวิเศษขนาดไหนวะ ถึงขั้นต้องไปค้น แล้วทำไมไม่เอาที่มันมีโชว์ไว้ล่ะ” ผมเชิงบ่น
“เออน๊า  เป๊ปเดียวเค้าบอกว่ามันมีอยู่” ผมเดินไปรอที่เดิม (มารู้ทีหลัง มันเอาแบบเหมือนผมเด๊ะ ไซต์ใหญ่ขึ้นหน่อย)
ไม่ทันไรมันก็เดินพร้อมกล่องตามมาติดๆ
“ไม่ต้อง กูซื้อให้เอง” มันบอกผม (ถ้าจำไม่ผิดตอนต้นๆโน้น ผมเล่าเรื่องซื้อรองเท้าให้มัน มีคอมเม้นบอกว่า ซื้อรองเท้าให้แฟนระวังเลิกกัน ต้องแก้ด้วยให้ตังค์มั้ง เหรียญบาทก็ได้ ถึงวันนี้เลิกกันจริงด้วย ฮ่าๆเพราะไม่ได้ให้ตังค์เหรียญตอนนั้นมั้งเนอะ)
“กูบอกว่ากูจะซื้อให้” ผมยื่นตังค์ให้พนักงาน ผมซื้อรองเท้าออกแนวสปอร์ตหน่อย เพราะจะกีฬาสีอีกแล้ว คราวนี้ผมจะเล่นแบดมินตัน หลังจากปีที่แล้วไม่ได้เล่น เพราะมัวแต่ไปซ้อมเชียร์ลีดเดอร์อะไรก็ไม่รู้ ผมนักกีฬาแบดฯคณะเก่านะ แต่ไม่ได้เล่นมานานนนนมากแล้ว ไม่รู้จะเล่นเป็นป่าว ต้องหาเวลาไปซ้อมล่ะ
“เอาล่ะ ทางใครทางมันแล้วนะทีนี้” ผมพูด หลังเดินออกจากร้าน
“ไม่รู้จะไปไหน”
“กลับบ้าน ไปพักผ่อนซะ”
“อืมม ก็คงจะขี่รถเล่นๆ แล้วกลับบ้านแหละ”
“อืมม งั้นไปนะ” ผมเดินออกไปลานจอดรถ แล้วไปหาซื้อโมบายเปลือกหอย ผมเฝ้ามองดูกระจก ดูไอ้ปอจะตามมารึป่าว (ไม่เห็นมี...อืมมมม ก็ดี)
...

ออฟไลน์ LEO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-3
กลับถึงบ้าน ผมอาบน้ำเสร็จ พี่มาชวนไปไหว้แม่ข้างล่างพอดี
“แล้วปอล่ะ พี่มายังไม่เห็นปอเลย”
“ไม่เป็นไรครับ เราไปไหว้ก่อนเถอะ ไม่รู้ปอจะมาป่าว” ผมพูดทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่มา
“โทรไปบอกก่อนสิที เดี๋ยวปอน้อยใจนะ”
“ครับ” ผมพูดพร้อมกับหอบของขวัญลงไปด้วย แต่ก็ไม่ได้โทร
 พี่และผมไหว้พ่อ และแม่เสร็จ แม่เป็นคนแกะของขวัญพี่ พ่อแกะของขวัญผม ของขวัญผมก็ธรรมดาแหละ แต่ของขวัญพี่ผมก็ตกใจเล็กน้อย เพราะเป็นรูปครอบครัวขนาดใหญ่ สมาชิกนึงในนั้นมันมีรูปไอ้ปอด้วย ภาพนี้ผมจำได้ถ่ายกันช่วงสงกรานต์ มีทั้งหมดห้าคนเลย แม่บอกชอบภาพนี้เพราะมีลูกๆครบสามคน(รวมไอ้ปอด้วย)และเป็นอีกวันที่แม่มีความสุข
“เอ๊ะวันนี้ปอไปไหน ยังไม่ได้มาบ้านเลยนะ ทีโทรถามปอหน่อยสิลูก เย็นนี้แม่ว่าจะไปกินข้าวนอกบ้านกัน”
“คระ ครับ” ผมตอบ
ระหว่างนั้นแม่พูดเรื่องไอ้ปอด้วยความห่วงใย แม่เห็นไอ้ปอเป็นเหมือนสมาชิกในบ้านเราจริงๆ ผมหยิบโทรศัพท์เดินออกมาหน้าบ้านคนเดียว แต่ก็ยังคงได้ยินเสียงแม่ พ่อ กับพี่คุยกันอยู่บ้าน
“ปอเหมือนลูกคนเล็ก...” แม่พูดเรื่องปอต่างๆนานาให้พี่ฟัง  ได้ยินพอรู้บ้างว่า ทุกวันนี้ปกติไอ้ปอก็ยังมาบ้านผมทุกวัน บางครั้งก็ไปนอนกับพ่อแม่ผมด้วย เหมือนลูกคนเล็กพ่อแม่ไปซะแล้ว “ปอจะเข้าไปทำความสะอาดห้องที ทุกวันศุกร์ เพราะคิดว่าที จะมาเสาร์ อาทิตย์ ปอบอกว่าที จะได้อยู่สบาย” ผมได้ยินแม่เล่าประโยคนี้แล้วมันจุกๆยังไงบอกไม่รู้ (ทำไม เพราะอะไร ปอ  ทำไมมึงทำเหมือนยังรักกูอยู่ แต่หลายครั้งมึงก็ทำลายหัวใจกู ตกลงเราคิดกันยังไง) ผมมึนงง ทำตัวทำใจไม่ถูก   
ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงเดินออกมาก็ใช่ว่าจะมาโทร เพราะโทรศัพท์มันยังอยู่กับผมอยู่เลย  เดินออกมาคิดว่าจะเอาไงต่อ  ผมกดโทรศัพท์โทรไปหาแป้ง รอสายอยู่นาน ระหว่างรอสายก็คิดคำพูดว่าจะแอบๆถามว่าไอ้ปอไปไหน
“หวัดดีครับแป้ง พี่ที เองนะ”
“....” เงียบ
“ครับแป้ง ได้ยินพี่ไหม” ผมทวนซ้ำ
“ว่าจะโทรหาพอดี” อ้าวววววววววไอ้ปอ โทรไปเจอตอ
“เออ...เออ..”
“จะเอออีกนานไหม” มันสอดขึ้น
“ไม่นาน จะคุยกับแป้ง” แก้ตัวไปก่อนล่ะกัน
“แป้งไม่อยู่ คุยกะกูนี่แหละ  ปกติโทรมาหาแป้งบ่อยป่าว ทำไมแป้งมันไม่บอกกู”
“ไม่ๆ เพิ่งโทร”
“กูอยากไปไหว้แม่ กูไปได้ไหม” (ตรงประเด็นกูไม่ต้องถามให้เสียฟอร์ม)
“...มาตอนไหนล่ะ”
“มึงจะได้ไม่อยู่ใช่ป่าวล่ะ”
“ทำไมเหรอ อยากให้เป็นแบบนั้นเหรอ”
“ป่าวไม่ได้อยาก แต่กลัวไปแล้ว มึงจะไม่คุยกับกู กูก็คงทำตัวไม่ถูก”
“ก็..ก็แล้วแต่”
“งั้นไปนะ” (ขอซะยังกะกูเป็นเจ้าที่) ผมก็วางสายเลย เดินไปบอกแม่ว่าปอคงจะมา
ก็คุยกันเล่นๆไป สักพักก็เห็นไอ้ปอมา พร้อมพวงมาลัยกับช่อดอกไม้ มันเอาพวงมาลัยไปไหว้พ่อแม่ผม  ช่อกุหลาบช่อเล็กๆมันเดินเอามาให้พี่ผม และอีกช่อเดินมานั่งข้างๆผมแล้วเอาให้ผม ผมก็อึ้งๆไม่รู้จะพูดยังไง ทุกคนในบ้านก็ให้พรมันหมด
“ลูกชายคนนี้ ทำให้แม่แปลกใจได้ตลอดเลย” แม่ผมพูดพร้อมกับทุกคนหัวเราะ ไอ้ปอก็ยิ้มๆ ทุกคนก็คุยกัน ผมก็ขอตัวไปข้างบน
“วันหยุดก็ไปพักผ่อนกันเถอะลูก ต่างคนต่างเหนื่อยกับงานกับเรียน” พ่อผมพูด ก็มีผมคนเดียวนี่แหละที่ขึ้นมา ผมมาตั้งหลัก
“อึดอัดเหรอ วันหลังไม่มาก็ได้นะ” ไอ้ปอมันเดินตามผมมาเมื่อไหร่เนี้ย
“ป่าวหรอก มาเก็บของออกจากระเป๋าน่ะ มาเมื่อเช้าก็รีบไปซื้อของ”
“ให้ช่วยไหม”
“ไม่ต้องหรอก ไปคุยกับพ่อแม่เหอะ”
“อยากพามึงไปไหว้แม่กูจัง” เห้ยยย ร้อยปีทีหนไม่เห็นกะคิดได้ แต่ก่อนที่ผมรู้จักกับไอ้ปอใหม่ๆ วันพ่อ วันแม่  ผมไหว้พ่อแม่มันยังงงๆอยู่เลย มันบอกว่าโตแล้วยังไหว้แบบนี้กันอีกเหรอ แล้วผมก็ขู่เข็นให้มันกลับไปไหว้ที่บ้านตัวเอง มันก็ไปอยู่ปีนึง ไหว้แบบยกมือไหว้หลายเมตร ซึ่งแม่มันก็ยังอึ้งๆเหมือนกัน มาครั้งนี้เป็นเรื่องเป็นราวอยากไปไหว้เป็นจริงเป็นจัง  เอาไงดีล่ะ จะไปก็ยังไงๆเราก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว จะปฏิเสธก็เหมือนเห็นแก่ตัวที่โทรให้มันมาฝ่ายเดียว และมันก็มาไหว้ที่บ้านผมทุกปีด้วยจนมันชินกับบ้านผมไปแล้ว ลำบากในการตัดสินใจมากๆ แต่ก็เอาเหอะ ไปก็ไป
“มึงไปก่อนแล้วกันเดี๋ยวกูตามไป”
“เห้ย ได้ไงล่ะ ไปพร้อมกันดิ”
“ทำไมต้องไปพร้อมกัน”
“กูอาย มีมึงไป  แม่กูยังเห็นมึงเป็นคนดีหน่อย”
“เอากูไปบังหน้า”
“ไม่ใช่ ไปไหว้ด้วยกัน ไม่ได้เอาไปบังใคร”
วันนั้นผมก็เลยไปบ้านไอ้ปอ ช่วงที่ออกมามันบอกว่ารถมันล้อรั่ว ก็เลยได้มากับผม อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น ผมว่ามันต้องเจาะเองแน่เลยไม่งั้นก็ปล่อยลมออก กลับไปค่อยไปเคลียร์ ผมไหว้แม่ไอ้ปอ
“แม่ฝากปอด้วยนะที  ปอมันดื้อมากๆ แม่ยอมรับ เพื่อนมันแต่ละคนเละเทะกันทั้งนั้น แม่ดีใจมากที่ปอยังพอมีเพื่อนแบบที แม่ฝากหน่อย ฉุดปอขึ้นหน่อยนะลูก ดูแลซึ่งกันและกัน แม่ก็ไม่ได้เตรียมอะไรให้ไม่รู้ที จะมา”   
“ไม่เป็นไรครับแม่” ผมได้แต่ยิ้ม (ทำไมดูเหมือนอวยพรงานมงคลจัง...รึเราคิดไปเอง)
“ยังไงแม่ แต่ก่อนเลวร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ”
“โห้ปอ อย่าให้แม่พูดเลย แต่ละคืนพ่อแม่นอนไม่หลับกัน ดึกๆดื่นๆก็ไม่กลับบ้าน กลับมาแต่ละครั้ง เมาเหมือนหมา ชกต่อยกันประจำ แม่ถึงขึ้นทำใจเลยนะที  ว่ายังไงก็คงได้ไปงานศพลูกก่อนแน่ๆ แม่จะเบาใจหน่อยก็ที่พอจะมีเพื่อนแบบที นี่แหละ ปอจะไปค้างคืน จะไปไหนยังไงก็แล้วแต่ ถ้าอยู่กับที แม่ก็ไม่ห่วงล่ะ แต่จะเกรงใจบ้านโน้นเชียว ปอไปวุ่นบ้านที มากไหมลูก”   
“ก็วัยรุ่นนะแม่ จะให้อยู่กับบ้านตลอดไม่ได้หรอก”
“ปอพูดแบบนี้ไม่ดีมั้ง” ผมเอ็ดไอ้ปอ 
“แม่ละอยาก อยากให้ที เป็นผู้หญิง แม่จะไปขอเลยล่ะ” (อ๊ากกกกกก ไม่นะแม่) ไอ้ปอมันยิ้ม
“อ้อไม่หรอกครับแม่ เดี๋ยวปอคงเจอคนดีๆ เหมาะกับปอล่ะครับ...(ผมมองมาหาไอ้ปอ) ผมก็เห็นปอทำตัวดีขึ้น สักวันคงเจอคนดีๆแน่”
“ลองไปขอดูสิแม่ เผื่อบ้านเค้ายอมยกให้” ไอ้ปอยิ้มๆ
“ทำเป็นพูดเล่นนะ ใครเค้าจะเอาแกละปอ...เป็นเพื่อนกัน อย่าทิ้งกันก็พอ ปอเอ้ยยย มีเพื่อนดีๆสักคนให้แม่หน่อย เพื่อนไหนที่ไม่ดีไม่ต้องคบก็ได้นะ”
“ไม่ลองก็ไม่รู้” ไอ้ปอพูด ผมเริ่มทนมันลวนลามทางวาจาไม่ได้ล่ะ ผมเลยคุยกะแม่และขอตัวออกมา มันก็รีบตามผมมา
“ไม่คิดมาก่อน แม่หวังจะให้เราแต่งงานกันนะ” (ตามมาตอกย้ำกูทำไม)
“แม่สมมติ ไม่ใช่เรื่องจริง”
“ก็ไม่แน่เผื่อกูบอกไปตรงๆว่าชอบมึงจริงๆ ถ้าแม่กูไปขอมึงจริงล่ะ มึงจะว่าไง”
“ไอ้ปอ กูว่ากูคุยกะมึงเข้าใจแล้วนะ”
“กูสมมติ มึงก็เอะอะไปได้”
“......” ผมไม่มีไรจะพูดล่ะ
“แม่ก็พูดซะ รึแม่คิดไปแล้ววะ ว่าเราไม่ได้เป็นเพื่อนกัน” มันยังพยายามพูดอีก
“ถามจริงมึงบอกแม่มึงว่าไง ทำไมแม่ถึงพูดแบบนี้ เหมือน...(พูดไม่ออก)”
“ป่าวๆ ไม่ได้บอก ไม่ได้เตรียมกันนะเว้ย แม่ยังไม่รู้ ถ้าแม่รู้ ถ้ากูเตรียมกันจริงๆ กูคงให้แม่กูไปคุยกะแม่มึงแล้วล่ะ จะให้มึงมาทำไมล่ะ”
“ช่างเหอะ กูไม่คิดไรแล้วล่ะ”
“ไม่คิดได้ไง แม่บอกว่าไม่ให้มึงทิ้งกู  มึงก็รับปากแล้วไม่ใช่เหรอ” (เอ้ยยยย เอาจนได้ ไม่น่ามาเลยกู)

หลังจากนั้นในตอนเย็นแม่ก็พาไปเลี้ยงกินข้าวนอกบ้าน (แทนที่จะพาแม่ไปเลี้ยงเนอะ) ไอ้ปอก็ไปด้วย พ่อขับ แม่นั่งคู่ ข้างหลังก็จะเป็นพี่เตย ผมและไอ้ปอ มันก็ไม่คับแคบนะ แต่ไอ้ปอมันจะเบียดมาทางผมตลอดเลย แขนติดกันมันทำให้รู้สึกน่ะ แบบผิวหนังติดกันแล้วมัน... (จะอธิบายไงดี) แล้วมันรู้สึกว่าผิวหนังไอ้ปอมันเต้นๆ (เออประมาณนั้นแหละ) แบบนี้มันคิดอะไรอยู่ รึมันหื่นใส่ผมเหรอ กินเสร็จกลับมาดึกเหมือนกัน มันก็ขอนอนโซฟาข้างล่าง
“แล้วพ่อแม่ พี่จะคิดยังไง” ผมถามมัน
“คิดยังไง หมายถึงอะไร” (สมองกลวงเฉียบพลันอีกล่ะ)
“ปกติมึงนอนที่ไหน แล้วตอนนี้ทำไมไปนอนโซฟา ถ้ามีคนถามมึงจะตอบเค้าว่ายังไง”
“ก็ไม่รู้ ทำอะไรไม่ถูกแล้ว ไม่กล้าทำอะไร เหมือนมันจะผิดไปหมด”
“มีให้เลือก กลับไปนอนบ้านตัวเอง กับ....นอนพื้น บนห้อง”  กลัวทุกคนรู้ว่าทะเลาะกัน
“ขึ้นไปได้ใช่ไหม” (กูคิดว่ากูถามมึงนะ ไม่ใช่ให้มึงถามตอบกลับ)
“ได้ แต่นอนพื้น”
“ได้ๆ พื้นก็พื้น ไม่มีปัญหา” มันอมยิ้ม
ผมก็ขึ้นไปอาบน้ำ ใส่เสื้อผ้ามาตั้งแต่ในห้องน้ำโน้นแหละ เดี๋ยวมันมอง  ผมนอนอ่านหนังสือบนที่นอน มันก็เข้าไปอาบ มันก็นุ่งผ้าเช็ดตัว เข้าออกเหมือนเดิม(ไม่เกรงใจสายตากูเลยเนอะ...อ่ะๆอย่าเข้าใจผิดนะ ไม่ได้อ่านกินมันหรอกนะ)  มันใส่เสื้อผ้า ปะแป้งแล้วล้มตัวนอนพื้นข้างๆเตียง
“ขอหมอนหน่อยดิ” ผมก็โยนให้มัน มันหยิบไปหนุน
“ขออ่านนะ” มันหยิบหนังสือของผมไปอ่าน โดยที่ผมยังไม่อนุญาต แต่ผมก็ไม่พูดไร ยิ่งสาวความกับมันมากยิ่งยืด
“ไม่รู้เรื่อง อ่านกันยังไงวะ” (พลาดแล้วกู ไม่น่าให้มันมานอนตรงนี้เลยยยย มึงน่าจะไปนอนข้างล่างเนอะ) มันเอามาวางไว้ที่เดิม กลับไปนอนเล่นกระดิกหาง เอ้ยขา
“ยังไม่ง่วงเหรอ” (มึงพูดคนเดียวเลยนะปอ)  ผมเดินไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าให้มัน
“เอาไปซะ ของมึง”
“เอามาทำไม กูไม่ใช้แล้ว”
“กูรู้ว่ามึงเอาไว้กับกูทำไม กูถามมึงหน่อย ถ้ามึงจะโทรหากู มึงจะทำยังไง”
“โทรตู้ดิ โทรศัพท์ไอ้แป้งรึใครก็ได้”
“นั้นแหละกูก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ถ้ามึงจะโทรหาใครสักคน มึงก็มีช่องทางเยอะแยะที่จะโทรหาเค้าคนนั้น ไม่จำเป็นต้องเอาโทรศัพท์ไว้กับกู เพื่อต้องการแสดงให้กูเชื่อว่า มึงไม่ได้ติดต่อใคร”
“ไม่ๆก็ไม่ได้ติดต่อใครเลยจริงๆนอกจากมึง แล้วก็อยากยืนยันด้วยว่าคนไหนที่จะโทรหากูก็โทรไม่ได้ด้วย เพราะกูไม่ได้ใช้โทรศัพท์แล้ว เชื่อกูดิ”
“กูก็ว่ากูมีเหตุผลนะ กูคงไม่ตัดสินใจใคร เพราะติดต่อทางโทรศัพท์รึเห็นเบอร์ในเครื่องหรอก ถ้ากูเชื่อใจใครสักคน ต่อให้นั่งติดกันกูก็เชื่อว่าไม่มีไร แต่ถ้าเริ่มไม่เชื่อใจ ไม่ไว้ใจใคร ต่อให้อยู่คนละขั้วโลก ก็ยังไม่เชื่อใจอยู่ดี...เข้าใจนะ ไม่ได้ตัดสินเพราะโทรศัพท์ เอาไปใช้ให้มันเป็นประโยชน์ ต่อไป คิด พูด ทำ ให้น่าไว้ใจ” พูดเสร็จผมก็วางไว้ข้างๆมันนั้นแหละ แล้วเดินไปหยิบที่นอนปิกนิคบนหลังตู้เสื้อผ้าให้มัน ปิดไฟนอน
“มีหลายเรื่องอยากจะเล่าให้ฟัง ที่ผ่านมาที่ไม่ได้คุยกันเลย กูก็จะเก็บเรื่องต่างๆไว้ และคิดว่าถ้าเจอมึง ถ้ามีโอกาสกูจะเล่าให้มึงฟัง เหมือนเมื่อก่อน....มันมีทั้งเรื่องตลก เรื่องงาน  เรื่องที่มึงฟังแล้วเสี่ยงต่อการโดนด่า ก็มี” มันพูดพร้อมกับปูที่นอน
“.....” ผมเงียบ มันผงกหัวขึ้นมาดูผม คงเห็นผมนอนลืมตาในความมืดสลัวๆอยู่มั้ง
“ไม่ต้องตอบกูก็ได้ กูแค่อยากเล่า มึงก็คิดว่ากูเล่านิทานให้มึงฟังก็ได้” เหมือนเดิมครับ เหมือนสมัยโน่นนนน ที่มันชอบเอาเรื่องแต่ละวันของมันมาบอกผม ถ้าผมไม่ลืมซะก่อนครั้งหน้าคงเอามาเขียนให้อ่าน (แต่ไม่ค่อยมีไรหรอก เรื่องไร้สาระน่ะ) ผมก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง จนเผลอหลับไป นี่แหละประสบการณ์หยุดวันแม่ ซึ่งตลอดระยะเวลาจากวันนั้นถึงวันนี้ผมยังไม่ได้กลับบ้านอีกเลย(ต้นตุลาคมล่ะ) ว่าจะกลับเดือนหน้าโน้นแหละครับ ส่วนไอ้ปอส่วนใหญ่จะส่งข้อความมาซะมากกว่า ถ้ายาวๆก็จะเขียนเมล์(แต่มันพิมพ์คอมฯไม่ถนัด)  ส่วนเจ้าป่านผมก็ไม่ได้เจอมาหลายเดือนล่ะ อ้อ จะได้ยินเสียงแจ่วๆหน่อยก็ตอนที่ไอ้ปอโทรมาแล้วบอกว่าป่านจะคุยด้วยสองสามครั้งนี่แหละ คุยกะป่านเสร็จผมก็วางเลย (ก็บอกว่าป่านอยากคุยหนิ) นี่แหละชีวิตปัจจุบันที่สุด ณ ตอนนี้แล้ว ลงรายละเอียดมากเดี๋ยวยาว เอาเป็นว่าค่อยต่อตอนหน้าล่ะกัน ก่อนปีใหม่ (ชัวร์มั้งครับ...ม่ะอยากให้คำสัญญากลัวทำไม่ได้  แต่ก็มีบางตอนนะแค่อาทิตย์สองอาทิตย์ก็ลงตอนใหม่น่ะ อนาคตไม่แน่นอนครับ)

jatfighting

  • บุคคลทั่วไป
พี่ปอสู้ๆ เอาชนะใจพี่ทีให้ได้นะ
ปล.ตอนนี้พี่ทีสดใสขึ้นมากๆเลย  ดีใจที่เห็นพี่ทีเป็นห่วงพี่ปอ >//< ขอให้กลับมาคืนดีไวๆนะครับ

ออฟไลน์ MIkz_hotaru

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-4
อ่านไปจุกไป
พอถึงบางฉาก น้ำตาก็ไหลโดยไม่รู้ตัว
คงเพราะพี่ทีสื่อสารได้ดีมากสินะ อารมณ์ถึงออกมากับตัวอักษรขนาดนี้

ปอเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวพี่ทีไปแล้วจริงๆ
จะปิดว่าเลิกกันได้อีกนานแค่ไหนนะ
ในเมื่อทุกมุมของบ้านพี่ มองไปทางไหนก็เจอปอ

ใจนึงเห็นใจพี่ที ที่อยากตัดยังไงก็ตัดไม่ขาด
แต่อีกใจก็ลุ้นไอ้ปอให้ทำตัวดีๆอย่างนี้ตลอดไป
คงมีสักวันที่พี่ทีจะให้อภัย

รอวันนั้นนะคะ  :กอด1:

ชอบประโยคนี้ของไอ้ปอ

“มีหลายเรื่องอยากจะเล่าให้ฟัง ที่ผ่านมาที่ไม่ได้คุยกันเลย กูก็จะเก็บเรื่องต่างๆไว้ และคิดว่าถ้าเจอมึง ถ้ามีโอกาสกูจะเล่าให้มึงฟัง เหมือนเมื่อก่อน....มันมีทั้งเรื่องตลก เรื่องงาน  เรื่องที่มึงฟังแล้วเสี่ยงต่อการโดนด่า ก็มี”

มันเศร้าๆยังไงไม่รู้ มีเรื่องราวมากมายที่อยากบอก แต่บอกไม่ได้ ต้องเก็บไว้เผื่อวันนึงเขาจะกลับมา

obab

  • บุคคลทั่วไป

mamaNUT

  • บุคคลทั่วไป
 :give2: :give2: :give2:


มาแล้ว ๆๆๆๆๆๆๆ

หายคิดถึงไป หลายกิโล....


:give2: :give2:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
เม้นต์ไว้ก่อน กำลังจะอ่าน

-------------------------------------------

edit:

ไม่เชื่อปอ ไม่เห็นใจใดๆทั้งสิ้น ใครจะสงสารก็สงสารไป, 3 รอบนี่ตามหลักศาสนาพุทธ คือ ตัดสินได้เลย ไม่ต้องรอลงอาญา ครับ

จริงอยู่ มันเป็นที่อาชีพของที ทำให้ต้องอยู่ไกลกัน, แต่จะว่าทีผิดก็ไม่ใช่ เพราะตอนมีทีอยู่ใกล้ๆ ปอก็ทำอย่างนี้

ตอนหน้ากลับไปบ้าน มันก็คงมีคนใหม่แอบๆ คบไม่ได้แล้ว เด็กสร้างบ้านมากๆ ไม่รู้จักสำนึก

ถ้าทียอมอีก แต่นั้นไป ทีจะกลายเป็นคนผิดเองทุกประตู... ผิดที่ไม่รู้จักจำ

เว้นแต่มันจะเข้าทางผู้ใหญ่... ซึ่งถ้ามันไม่จริงใจจริงๆ...

มันก็คงไม่กล้า! เหมือนตอนนี้ไง!

มันยังไม่เคยบอกแม่เลย!

ถึงบอกจริงๆ ...

ระยะทางหล่ะ ?

ของขึ้น!!!

ของขึ้น!

="=
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-10-2012 06:55:42 โดย ดำดีสีไม่ตก »

sp_infinity

  • บุคคลทั่วไป
คำพูดแรกที่อยากตะโกนบอกคือ..

"ทำตัวให้สมกับที่แอบเชียร์แบบนี้สิปอ!!! คนเชียร์จะได้ไม่ผิดหวัง!!!"

คิดถึงคุณทีค่ะ เชื่อว่าคนดีๆอย่างคุณทีต้องเจอแต่สิ่งดีๆ(มากกว่าสิ่งร้ายๆ) ต่อจากนี้ไป~

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






namtarn11

  • บุคคลทั่วไป
คงไม่หวังจะเชียร์แล้วล่ะ คงยากที่ทีจะกลับมาจริงๆ

ออฟไลน์ pp4

  • คนที่ 'ชอบ' ไม่ได้แปลว่าคือคนที่ 'ใช่'
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-6

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ไก่ได้พลอย
หุหุ

ตอนมีเค้าอยู่กลับไม่ดูแลรักษาไว้ให้ดี
มาตอนนี้พอไม่มีเค้าแล้ว กลับอยากจะขอดูแลซะงั้น

หนังจีนกำลังภายใน ใช้บ่อยอ่ะ "มิเห็นโลงศพ มิหลั่งน้ำตา"
ไม่รู้ว่าจะเห็นใจ หรือสมน้ำหน้าดี

คิดถึงนะ..ที
น้องคิดดีทำดี อยู่เสมอ
จุ๊บๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ไม่รู้ว่าควรใช้หัวใจหรือสมองในการตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำอะไรกันแน่ในกรณีนี้
แต่เหตุการณ์ที่ผ่าน ๆ มามันก็ยังทำให้เชื่อใจ มั่นใจไม่ได้เต็มที่อยู่ดี
อยากบอกว่า  ทีควรให้โอกาสตัวเองกับอิสระและคนอื่นเพื่อเริ่มต้นใหม่  ในขณะเดียวกันให้โอกาสปอด้วย
แต่แบบเพื่อน  แค่เพื่อนจริง ๆ หากทีไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจนักนะ
แล้วดูปอไปนาน ๆ ยาว ๆ  หากถึงวันหนึ่งที่ปอได้แสดงให้เห็นแล้วว่าทีคือคนสุดท้ายที่ปอเลือก
คนอื่น ๆ ไม่มีอะไรในกอไผ่จริงก็ขึน้อยู่กับทีแล้วล่ะว่าจะเอายังงัย
จะบอกว่าสงสารปอก็สงสาร  แต่ก็อย่างที่ว่ามันก็แค่ด้านเดียวที่รับรู้จากที
ส่วนของปอในแต่ละวันเจอใคร พูดอะไร ทำอะไร  เราไม่รู้ด้วย
ก็ระแวงน่ะนะ  ทำกันถึงขนาดนั้น  ยาวนานกันเป็นปี  มันก็ยังหลอน ๆ อยู่
เอาเถอะ  ชีวิตเรา  เราเลือกเอง  ทำในสิ่งที่คิดว่าตัวเองมีความสุขที่สุดแล้วกันค่ะ  เชียร์

เพิ่มเติม .. แอบมีน้ำตาซึมตอนที่แม่พูดว่าปอมาทำความสะอาดห้องให้ทีทุกวันศุกร์
ด้วยความหวังว่าเสาร์-อาทิตย์ทีจะกลับมาและได้พักผ่อนให้สบาย ๆ
ใจเราอ่อนยวบไปเลย  รู้สึกว่าความแข็งหายไปเกือบครึ่ง  เฮ้ออออ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-10-2012 08:33:13 โดย iforgive »

ออฟไลน์ luv_khun

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ก็ให้มันเป็นไปตามบุญพา วาสนาส่ง แล้วกัน

คิดถึงทีนะ   รักษาตัว หัวใจ และสุขภาพด้วยนะ :กอด1:

ออฟไลน์ Kfc_Pizza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1

ออฟไลน์ gambee

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ไม่เห็นที่เล่าว่าปอเห็นรูปครอบครัวที่พี่เตยให้เป็นของขวัญแม่รึป่าว
คงดีใจมากสินะได้การยอมรับจากครอบครัวที่รัก?
ทุกสิ่งเป็นไปตามกรรมถ้าปอทำตัวดีก็ให้โอกาสปอเถอะน๊าน๊าน๊า
ถ้าไม่ดีก็ตัดหางปล่อยวัดไปได้เลยคนอ่านทำใจล่ะ
ถ้าข้างหน้ามีโอกาสได้คบกันอีกรอบคิดว่าครอบครัวคงไม่ใช่ปัญหาแล้ว
ดูแต่ละคนเป็นที่รักของครอบครัวกันและกัน
ทีรักษาสุขภาพด้วยนะอย่าลืมอัพร่างกายจะได้หล่อเหลาเอาการเหมือนคุณตาบอก
เจอกันครั้งหน้าให้นายปออึ้งไปเลยคิคิ :L2:

tongkung

  • บุคคลทั่วไป
หายงอลกันไวๆ นะคาฟฟฟฟ.....

.....พี่ที  พี่ที  ฝากบอกพี่ปอว่าสู้ๆ นะคับ :impress2:

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7
 o13พี่ปอสู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  เอาใจพี่ทีกลับมาให้ได้ๆๆๆๆๆๆ    พี่ทีอย่าใจแข็งนักสิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ snoopy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
อ่านแล้ว น้ำตามันไหลอ่ะ. สงสารปอ
เราเชื่อว่า. คนที่มันจะเปนคู่กัน. ให้หนีกันยังไงมันก็หนีกันไม่ได้หรอก
 ยิ่งหนีใจตัวเอง ยิ่งยาก

ปล ดูจริงจังมากกกกก 55  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 951
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0
เอาใจช่วยปอแบบสุดๆๆเลยสู้ๆๆนะปอผิดแล้วก็ต้องแก้ไขปรับปรุงตัวเอง

ให้ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมาซักวันโอกาสดีๆก็จะมาหาเราเองถึงตอนนี้ทุกอย่างจะยัง

ไม่เหมือนเดิมแต่ก็ถือว่ายังได้พูดคุยได้ใกล้ชิดดีกว่าที่จะไม่สามารถกลับมามองหน้ากันได้เลย

ออฟไลน์ barbie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ยิ่งหนีหัวใจตัวเอง ยิ่งเหนื่อยนะ
คนเราไม่มีใครดีเลิศไปซะทุกอย่าง ปอก็คนๆหนึ่ง
มีพลาดบ่อย(แต่ก็บ่อยไปนะตัวแสบเอ๋ย) แต่การให้อภัยเป็นสิ่งที่ดีนะ
แต่ตอนนี้ก็ถือซะว่าสั่งสอนไอ้ตัวแสบมันล่ะกัน ให้ได้สำนึก แต่ถ้าคำตอบที่อยู่ในใจทีคือยังรักปออยู่
ก็ลองให้อภัยลูกหมาตัวโตๆมันอีกสักทีแล้วกันนะ สงสารมัน อิอิ

Coolsipie

  • บุคคลทั่วไป
อ่านเรื่องของพี่ทีกับพี่ปอมานานแล้ว ไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย บางครั้งเสียงหัวใจของเรามันอาจจะเบา จนไม่ได้ยินเสียงของมันที่กำลังร้องบอกก็ได้นะครับ

ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2544
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
ผมอ่านเรื่องนี้แล้วเกิดๆาวะเศร้าซึมอย่างหนัก :laugh:

ทำไมผมไม่เข้มแข็งแบบพี่ทีบ้าง สักนิดก็ยังดี จะได้มีค่ามากกว่านี้

อ่านตอนนี้แล้วเห็นตัวเองแบ่งอยู่ในฝั่งพี่ทีส่วยนึงและพี่ปออีกส่วนนึง

ส่วนที่เหมือนพี่ทีคือมีเรื่องแบบนี้ทำนองเดียวกัน

และที่เหมือนพี่ปอคือผมเองก็ต้องเป็นฝ่ายตามเหมือนคนบ้า

ทั้งบ้าทั้งโง่ที่ตามทั้งๆที่รู้ว่าอาจไม่มีหวัง เพียงแค่เพราะอยากจะรั้งเค้าไว้

สักนาทีก็ได้ ช่างโง่ดีแท้ ไม่รู้ศักดิ์คืออะไรอยู่ที่ไหน ไม่รู้อะไรทั้งนั้น

สุดท้ายแล้วคนโง่ๆอย่างผมก็ไม่ได้อะไรกลับคืนมานอกจากความเจ็บปวดเสียใจ

พี่ทีครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากขอร้องให้พี่ลองให้โอกาศพี่ปอดู

ผมรู้ว่าโดนทำลายความรู้สึกมันเจ็บปวด แต่อีกคนที่ตามทั้งๆที่คนรัก

ตามแบบไร้ความหวังมันเจ็บปวดทรมานมากๆเลยครับ แต่ละวินาทีมันผ่านไปอย่างยากลำบาก

ถ้าพี่ยังพอหลงเหลือความรู้สึกดีๆอยู่บ้างก็เลือกรักษารักนี้ไว้เถอะครับ

สุดท้ายผมขอโทษที่มาพร่ำเพ้อบ้าๆบอๆครับ และหวังว่าจะได้ฟังข่าวดีนะครับ :L2:

ออฟไลน์ beery25

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-0
จะยังไงดี แต่เห็นทีมีความสุขขึ้นก็โอเคล่ะ

Sabaijai

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าเกิดมาคู่กันก็คงไม่คลาดแคล้วจากกันหรอกนะ จริงๆก็อยากให้กลับมาดูแลกันและกันเหมือนเดิม
แต่ก็เข้าใจความเจ็บช้ำที่ทีได้รับ. อิฉันทำใจเชียร์ไม่ถูกเลยค้าาาา!!!!

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
 ดีใจที่น้องทีเข้ามาเล่าเรื่องให้รู้ความเป็นไปอีก(คนอยากรู้เรื่องของชาวบ้าน)
อย่าใจอ่อนง่ายๆนะน้องที ง้อนิดหน่อยแล้วใจอ่อนยอมปอ จะทำให้ปอยิ่งเหลิง
 ไม่เห็นคุณค่าของน้องที เอาใจช่่วย เป็นกำลังใจให้น้องที เข้มแข็งเข้าไว้ ท่องไว้ว่า
อย่าหูเบาเชื่อ(ปอ)ง่ายๆ

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
ไม่รู้จะว่ายังไงดี แต่พี่ทีก็ใจแข็งดีนะ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7
อ่านตอนนี้รู้สึกสงสารปอมาก  แต่ไม่อยากจะเชียร์   เพราะสงสัยจังว่าถ้ารักหมอทีซะขนาดนี้แล้ว ทำไมลับหลังหมอที ปอต้องมีกิ๊ก ซึ่งเป็นทั้งผู้หญิงและผู้ชาย....อยากให้ปอช่วยตอบหน่อยค่ะ....เป็นกำลังใจให้หมอทีค่ะ..... :L1: :L1: :L1:

ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
ความเจ็บปวดจากความรักเป็นอะไรที่เจ็บและจำจนยากที่จะลืมได้

แต่การให้อภัยก็ทำให้เราปล่อยวางความเจ็บปวดที่ได้รับมาได้เช่นกัน

บอกตรงๆว่าเห็นใจทั้งพี่ปอและพี่ที แต่ก็อยากให้พี่ทีให้โอกาสพี่ปออีกสักครั้ง

อาจจะดูเข้าข้างพี่ปอไปหน่อย เพราะตัวเองก็รู้ว่าการที่เรารักใครสักคนแล้วเราก็ไม่อยากเสียเค้าไป

แม้เค้าอาจจะไม่มีความรู้สึกรักเหลือให้เราแล้วก็ตาม 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด