ขออภัยนะคะ ที่หายหน้าหายตาไปหลายวัน...
ป่วยค่ะ ป่วยจริงๆ หยุดงานตั้งแต่วันจันทร์แล้วค่ะ...
ไปให้หมอฉีดยามาสองครั้งแล้ว...
หมอบอกว่าเป็นคออักเสบ ติดเชื้อ เจ็บคอมาก พูดกับใครไม่ได้เลย ไข้ขึ้นสูง...
วันนี้ค่อยยังชั่วขึ้นแล้วไม่มีไข้ เลยลุกขึ้นมาต่อนิยายดีกว่านั่งเฉยๆ ค่ะ
ขอบคุณหลายๆ คนนะคะที่แวะเข้ามาอ่านและเม้นท์ให้ ขอบคุณทุกๆ กำลังใจด้วยค่ะ
ส่วนที่เคยสัญญาไว้ว่าจะมาต่อตอนพิเศษน้องเซย์ พี่แชมป์ให้ ไม่ลืมนะคะ...
เดี๋ยวจะต่อให้แน่นอนค่ะ
ปล.โดดตอบเม้นท์อีกแล้วนะตัวเอง แหะๆ แต่เค้าอ่านเม้นท์ทุกๆ เม้นท์ของทุกๆ คน และหลายๆ รอบด้วยค่ะ
ชอบอ่านเม้นท์ค่า ขอบคุณนะคะ ++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 42 “กลัว”
‘ก็อยากให้รู้ว่านับตั้งแต่วันนั้น ทุกวินาทีของฉัน บอกกับฉันว่าโลกนี้มีเธออยู่ เพราะฉันไม่เคยรู้สึก อะไรมากมายเท่านี้ ก็อยากให้รู้แม้จะอยู่ห่างไกล ถึงแม้จะอยู่ตรงไหน ถ้าโลกนี้นั้นมีแค่ใครสักคนหนึ่ง ให้คิดถึงกันทุกวัน จะทำให้หมดคำถามตลอดไป’“คร๊าบบบบบ เซย์พูดคร๊าบบบบบ ฮ๊าววววววว!!!!”
“เซย์ครับ พี่เลิฟเองนะ ขอโทษนะที่ต้องโทรมาปลุกแต่เช้า”
“อ้าววววว ดีครับพี่เลิฟ คิดถึงจังเลยยยยยยย!!! พี่เลิฟมีไรให้เซย์ช่วยเปล่าโทรมาแต่เช้าเลย” ไอ้ลูกหมามันก็ฉลาดเนอะ รู้ได้ไงว่ามีเรื่องให้ช่วย
“เออ...เซย์อยู่บ้านรึเปล่า พี่เข้าไปหาได้ไหม” ประเด็นคือ จะหาที่หลบภัย และหลบใจครับ
“หืออออออออ!!! พี่เลิฟมีอะไรรึเปล่า ทะเลาะกะพี่เซฟเหรอ” อ๊ากกกกก ไอ้แชมป์มันเลี้ยงแกด้วยอะไรวะไอ้ลูกหมา เพ็ดดีกรี หรือว่ากระดูกไก่วะ ทำไมมันฉลาดจริงๆ
“แล้วไปหาได้ไหมล่ะ พี่ถามเซย์ก่อนนะ ไม่ได้ให้เซย์มาย้อนถามพี่นะเว้ย” ต้องดุมันซะหน่อย เดี๋ยวมันจับไต๋ได้มากกว่านี้ นี่ขนาดมันงัวเงียอยู่นะเนี่ย สงสัยไอ้แชมป์มันฝึกมาดี
“โอ๋ๆ มาได้ดิฮะ สำหรับพี่เลิฟ ยังไง อะไร ก็ได้ทั้งนั้นแหละ”
“ดี งั้นลงมาเปิดประตูบ้านเดี๋ยวนี้เลย” สิ้นเสียงของผม ก็ได้ยินเสียงร้อง หา!!!! ดังลั่น แถมแอบเสียงหลงด้วยนะ เสียชื่อลูกศิษย์ครูเลิฟหมด ต่อจากเสียงอุทานดังลั่น ก็ตามมาด้วยเสียง ตุ๊บ!! และเสียง โอ๊ยยย!! ตามมาเป็นลำดับ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าไอ้เด็กนี่มันสะดุ้ง ตกใจ จนเผลอพลิกตกเตียงแน่นอน
ไม่นานนักร่างเล็กคุ้นตาในสภาพที่...เอ่อ...แหม อยากให้เหล่าแฟนคลับ แล้วก็แฟนมันมาเห็นสภาพนี้จริงๆ นิยามได้คำเดียวจริงๆ ฮะ ‘ยับทั้งตัว’ หน้ายับ เสื้อผ้ายับ มันเดินโยกไปเย่มา เหมือนคนเมา แต่ลักษณะนี้คงเมาขี้ตาผสมขี้ฟันแน่นอน อ้าวนั่นๆ เดินน่ะ ลืมตาด้วยสิวะ...เออ เอ็งเก่งเว้ยเดินแบบหลับๆ ตาบ้าง หรี่ๆ ตาบ้าง ก็มาถึงจุดหมายได้ สงสัยมันจะฉี่สร้างกลิ่นของตัวเองไว้ตามทาง เวลาเดินก็ใช้จมูกดมๆ เอาไม่ต้องลืมตามองทางก็รู้ว่าต้องไปทางไหน...
“ขับรถเข้ามาเลยฮะ โอก้าซักกะโอโต้ซังไม่อยู่บ้าน เอารถเข้ามาจอดในโรงรถก็ได้ฮะ” ไอ้น้องเซย์มันตะโกนโบกรถแบบงัวเงียๆ ให้ผมอยู่หน้าบ้านครับ
“ไปฮะ เข้าบ้านกัน” ไอ้เจ้าบ้านที่ดีก็กึ่งลากกึ่งจูงผมเข้าบ้าน
เข้าไปถึงไอ้ลูกหมามันก็จัดแจงให้ผมนั่งที่ห้องรับแขก ก่อนที่ตัวมันเองจะผลุบหายเข้าไปทำเสียงขลุกขลักอยู่ในครัว แล้วซักพักมันก็เดินออกมาพร้อมกาแฟ น้ำส้ม นมสด ขนมปังปิ้ง กับแยมสารพัดชนิด
“พี่เลิฟทานก่อนๆ เซย์ว่ามาเช้าขนาดนี้คงไม่มีเวลาหาอะไรทานมาแน่นอน” จริงครับ ใครจะไปหาอะไรกินทัน รีบหนีมาซะขนาดนี้...แต่อารมณ์นี้ใครจะไปกินอะไรลงวะเนี่ย
“พี่ขอกาแฟอย่างเดียวแล้วกันนะ” สิ้นประโยคผม ไอ้หมาน้อยมันก็โซ้ยน้ำส้ม นมสด และขนมปังปิ้งแทน...เอ่อ ว่าแต่ฟันน่ะแปรงแล้วเหรอไงวะ
“เอ่อ...พี่เลิฟ พี่เลิฟจะไม่เล่าให้เซย์ฟังซักนิดเหรอ...ว่าเกิดอะไรขึ้นฮะ” ไอ้เด็กขี้เสือก!!! เหอะๆ เล่าให้มันฟังก็ได้วะ อย่างน้อยก็ถือว่าหาคนระบาย
“โหยยยยยยย!!! นอกใจชัวร์ๆ เป็นเซย์นะไม่หนีหรอก ต้องตามไปจับให้ได้คาหนังคาเขา” รู้งี้กูไม่น่าเล่าให้มึงฟังเลยไอ้น้องเซย์ นอกจากจะไม่สบายใจขึ้น ยังบั่นทอนกำลังใจกูอีก
“แต่เค้าบอกว่าเป็นเพื่อนกันนะ” ยังแอบแก้ตัวให้พี่เซฟนิดนึง
“อืม...ก็จริงนะ หรือว่าพี่เลิฟจะคิดมากไปเองหว่า” อ้าวไอ้เด็กนี่ ตกลงจะเอาไงกันแน่วะ กูตามอารมณ์มึงไม่ทันจริงๆ
“แต่มันน้อยใจอะ เสียใจ งอน โมโห โกรธ เข้าใจอารมณ์พี่ปะ คือแบบ...โว้ยยย ไม่รู้อะ เราเคยเป็นคนสำคัญของเขาไง อยู่ดีๆ เขาก็มาให้ความสำคัญคนอื่นมากกว่า ไอ้ที่โมโหแล้วโกรธน่ะ พี่หมายถึงตัวเองนะ ไม่ได้โกรธหรือโมโหพี่เซฟ...โกรธที่ตัวเองทำตัวงี่เง่าที่มามัวคิดมากน้อยใจ บางทีพี่เค้าคงอยากมีเวลาเป็นของตัวเองบ้าง แล้วที่พี่เค้าต้องไปเพราะเพื่อนเค้าคงจะมีปัญหาจริงๆ พี่ดันคิดเอาแต่ใจ ไม่อยากให้เค้าไป...เซ็งตัวเอง ฮือออ ฮึก”
พอได้ระบาย แล้วมันก็เลยอยากร้องไห้ด้วยครับ ความอึดอัด อัดอั้น ที่ไม่เคยถูกปล่อยออกมาให้ใครได้รับรู้ พอได้ออกมาแล้วมันก็เลยออกมาพร้อมกับน้ำตาด้วย เฮ้ออออ!!! อ่อนแอจังเลยครับ
“โอ๋ๆ พี่เลิฟ...มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้นะ เซย์เข้าใจอารมณ์นี้นะ เซย์ก็เคยเป็น ตอนที่ไอ้พี่แชมป์มันทำตัวลับๆ ล่อๆ น่ะ เซย์ก็อึดอัด กังวล น้อยใจ เสียใจ ผลสุดท้าย เราก็ตีโพยตีพายไปเอง...เอางี้ดีกว่า ไหนๆ ก็ถือซะว่าพี่เลิฟน้อยใจไปแล้ว เราก็ลองงอนดูดิพี่ ให้พี่เซฟมันมาง้อซะให้เข็ด ตั้งแต่ที่เคยคบกันมานี่ พี่เลิฟเคยงอนพี่เซฟมันบ้างเปล่าเหอะ...ลองงอนดูบ้างก็ดีนะพี่...โอ๊ย!!! เจ็บนะ”
เหอะๆๆ ไอ้เสียงโอ๊ยนั่นน่ะ ไม่ได้เกิดจากน้ำมือผมนะครับ มันมาจากน้ำมือของแฟนไอ้หมาน้อยมันเองครับ...
“หนีมาอยู่นี่เองนะแก...แล้วไอ้ตัวนี้เนี่ย แนะนำอะไรเค้าหะ!!! เดี๋ยวถ้าเค้าเกิดทะเลาะกันไปใหญ่โตจะทำไงล่ะ” เหอะๆ มึงจัดการมันซะเลยก็ดี ตั้งแต่มานี่มันยังไม่หยุดพูดให้กูเลิกสับสนเลยให้ตายเหอะ น้ำตากูเลยพานหยุดไหลเลย
“แล้วมึงรู้ได้ไงว่ากูหนีมาอยู่นี่” พักหลังๆ ผมก็มักจะพูดกูมึงกับไอ้แชมป์มันนะครับ ถึงแม้บางทีมันก็จะมีหลุดๆ มาบ้าง แต่ส่วนใหญ่มันจะแกๆ เราๆ ฉันๆ กับผมซะมากกว่า
“ก็แฟนแกน่ะ มันโทรมาจิกตั้งแต่เช้าแล้ว ถามว่าแกอยู่กับฉันรึเปล่า แล้วก็ถามว่าเช้านี้แกมีเรียนอะไร ขาดได้ไหม นู่นนี่นั่น พอวางสายจากแฟนแกเสร็จ ฉันก็เลยรีบโทรหาไอ้โรส ไอ้โรสก็บอกว่า โดนแฟนแกโทรจิกไปแล้วเรียบร้อยเหมือนกัน...ส่วนฉันก็ต้องมารับไอ้ตัวน้อยนี่ไปเรียนตามปกติ ไม่ได้คิดว่าจะเจอแกที่นี่นะเนี่ย พี่เซฟมันก็คงคิดไม่ถึงเหมือนกันว่าแกจะมาหลบที่นี่ สรุปว่าเกิดอะไรขึ้นวะ”
ตั้งแต่มึงมีแฟนเด็กนี่มึงขี้บ๊น ขี้บ่นเนอะแชมป์...พักหายใจก่อนไหม เดี๋ยวจะตายซะก่อนได้ไปงานรับปริญญาแฟนนะมึง
“ก็...ไม่มีไร...น้อยใจ...นิดหน่อย” ผมตอบได้แค่นั้น ไอ้หมาน้อยมันก็จัดการเล่าให้แฟนมันฟังจนหมดใส่หมดพุง มีการใส่ไข่ ป้ายสีลงไปนิดหน่อยจนต้องกระแอมขัดจังหวะไปหลายที...
“หนีไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาหรอกว่ะ...จริงๆ นะ ถ้างอน ถ้าน้อยใจ ก็ไปบอกเขาตรงๆ เหอะ บางทีการไม่พูดอะไรแบบนี้ อีกฝ่ายก็ไม่สามารถรู้ได้หรอกว่าเราคิดอะไรอยู่”
“ก็ไม่ได้กะจะหนีหรอก...แต่ยังไม่อยากเจอตอนนี้ไง ขอแวะมาหาที่ทำใจก่อน กลัวเจอเค้าแล้วร้องไห้อะ...บางทีกูก็รู้สึกว่าทำไมกูมันอ่อนแอจังเลยวะ กูไม่เคยเป็นแบบนี้กับใคร ทำไมกูอยู่กับเค้าแล้วกูกลายเป็นคนที่อยากจะเรียกร้องนู่นนี่ตลอดเวลา กูกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่กูก็ไม่อยากแสดงออกให้เค้าเห็น ให้เค้ารู้ เพราะกูกลัวเขามองกูไม่ดี...เฮ้ออออ เบื่อตัวเองจังเลยว่ะ”
“เพราะแกรักเค้ามากไง...รักมากก็คิดมาก กลัวต่างๆ นานา ไปสารพัด กูก็เป็น ไอ้ตัวนี้ก็เป็น ใครๆ ที่มีความรัก ก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้นแหละ มันอยู่ที่ว่าแกจะปรับตัวให้มีความสุข หรือว่าทุกข์ไปกับสิ่งที่มันยังไม่เกิดล่ะ...ไปคุยกันซะเถอะ...ก็เอาเป็นว่า ถ้าอยากงอน ก็งอนพอเป็นพิธี เอาให้พอรู้ว่าเรายังเป็นที่รักอยู่ดีไหมล่ะ จะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย”
มีแฟนเด็กนี่มันทำให้คนเราโตขึ้นทั้งความคิด และสติปัญญาจริงๆ นะเนี่ย รู้งี้หาแฟนเด็กบ้างดีกว่าเว้ยกู มีแฟนแก่กว่าแล้วทำให้เราเด็กลงๆ จริงๆ เฮ้อออออ...เอาวะ เอาเป็นว่าตอนนี้ไปเรียนก่อนดีกว่า...งอนซักวันสองวันก็คงดีเนอะ
.
.
.
.
.
.
.
แล้วก็ตามคาดการไว้ครับ ผมเดินมาจนถึงคณะพี่เซฟมันก็มานั่งรออยู่ตรงโต๊ะประจำของกลุ่มผม โดยมีไอ้น๊อตกับไอ้ตาลถูกคุมไว้เป็นตัวประกัน หน้าพี่เซฟเครียดมากเลยฮะ เอาล่ะอย่าพึ่งใจอ่อนนะไอ้เลิฟ งอนซะบ้าง เราก็มีหัวใจเหมือนกันนะเว้ย...
“เลิฟ...ไปไหนมาครับพี่บอกจะไปรับ ทำไมไม่รอพี่ล่ะ ออกมาก่อนทำไม แล้วทำไมพึ่งมาถึง พี่โทรไปหาใครก็ไม่มีใครรู้ว่าเลิฟไปไหน สองคนนี้ก็ไม่รู้ แชมป์ก็ไม่รู้ น้องโรส หรือพี่คิวก็ไม่รู้ พี่จะเป็นบ้าตายอยู่แล้วนะ” ยังไม่ทันที่ผมจะเดินถึงโต๊ะดี พี่เซฟหันมาเห็นผม ก็รีบลุกขึ้นเดินมาหาดึงมือผมเข้าไปกุมไว้แน่นเหมือนกลัวผมจะหายไปอีก น้ำเสียง สีหน้าแววตาที่เป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด เกือบทำให้ผมใจอ่อน แต่ไม่ครับ ครั้งนี้ไม่เด็ดขาด
“ไปหาโจ๊กกินมาน่ะก็เลยรีบออก ก็เลิฟไม่คิดว่าพี่เซฟจะกลับมารับนี่ฮะ เห็นบอกว่าเพื่อนป่วย ก็น่าจะอยู่เป็นเพื่อนๆ นะ ไม่เห็นต้องลำบากกลับมารับเลิฟเลย” ผมก็พูดเรียบๆ เรื่อยๆ พยายามจ้องตาพี่เซฟไว้ครับ ไม่งั้นเค้าจะหาว่าเรากลัว
“พี่บอกแล้วว่าพี่จะมารับพี่ก็ต้องมาสิครับ...แล้วสำหรับเลิฟ ไม่เคยมีคำว่าลำบาก พี่เต็มใจ ทุกอย่างที่พี่ทำ คือความต้องการของพี่ และพี่เต็มใจจริงๆ...งอนพี่เหรอครับ หืม” ตอนนี้พี่เซฟยกมือขึ้นมาลูบแก้มผมเบาๆ ครับ สีหน้าพี่เค้าอ่อนโยนมาก เฮ้ออออ ผมจะแพ้ก็ตอนนี้แหละ แต่...เอ๊ะ ผมว่าผมเห็นตัวช่วยแล้วนะ...
“พี่เต้!!!” เหยื่อผมเองครับ ทุกคนคงจำพี่เต้ได้ พี่เต้รุ่นพี่โรงเรียนเก่าผม ที่คอยตามจีบผมแบบทีเล่นทีจริงอยู่ตั้งแต่สมัยมัธยม จนมาเป็นคู่แข่งทางวิชาการกับพี่เซฟแกครับ บ้านพี่เต้เป็นตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่ายช็อคโกแล๊ตและคุกกี้รายใหญ่จากต่างประเทศ เวลามีขนมอะไรมาใหม่ๆ พี่เต้ก็จะชอบเอามาฝากผม สงสัยวันนี้จะมีตัวใหม่มาให้ลอง เห็นถือมาเต็มถุงเลยครับ
ผมรีบสะบัดมือจากพี่เซฟ แล้วเดินไปดักพี่เต้ไว้ครับ...
“พี่เต้ ช่วยเลิฟหน่อยนะ ถ้าเลิฟพูดไรออกไปก็อือๆ ออๆ ตามแล้วกันนะ” ผมรีบไปกระซิบกระซาบพี่เต้อย่างเร็วครับ เพราะพี่เซฟมันเดินตามมาถึงตัวแล้วครับ อ๊ะ!!! ผมโดนไอ้พี่เซฟลากกลับไปอย่างแรงเลยครับ
“มึงมาทำไม...” พี่เซฟหันไปตะคอกใส่พี่เต้ทันทีที่ลากผมติดมือกลับมาได้
“ก็....”
“ก็พี่เต้เค้าลืมเอาขนมให้เลิฟเมื่อเช้าน่ะ อุตส่าห์พาไปกินโจ๊กแล้ว ขนมไว้ก่อนก็ได้ เลิฟจะอ้วนเป็นหมูอยู่แล้วเนี่ยพี่เต้” พี่เต้ทำหน้างงๆ แว๊บนึง แต่ด้วยความฉลาดแกมกะล่อนของพี่แกเลยทำให้ยิ้มรับมุขผมได้ทัน
“นี่อย่าบอกว่าเมื่อเช้าไปกับมันมานะ...” พี่เซฟบีบข้อมือผมแรงขึ้นอีกตามอารมณ์โมโหของพี่เค้าครับ
“งั้นไม่ต้องไปบอกมันหรอกครับน้องเลิฟ ให้เรารู้กันสองคนก็พอเนอะ...แล้วมึงน่ะ ปล่อยแขนน้องเค้าเถอะจะบีบให้เลือดไม่ไหลเวียนเลยไหม น้องมันเจ็บนะเว้ย” เออ จริงครับ เจ็บจะตายอยู่แล้วเนี่ย ผมพยายามบิดข้อมือออกจากมือพี่เซฟ แต่ก็ไม่หลุดฮะ แรงควายจริงๆ เลย
“อย่าเสือก นี่แฟนกู กูบอกมึงกี่ครั้งแล้วไอ้เต้ ว่ามึงจะไปเจ้าชู้กับใครมันก็เรื่องของมึง แต่มึงเลิกยุ่งกับแฟนกูซักที”
“โอ๊ยยยยย...จะเถียงกันอีกนานไหมเนี่ย เลิฟเจ็บนะพี่เซฟปล่อยมือเลิฟซักที เลิฟจะไปเรียน...แล้วก็ถ้าจะทะเลาะกันก็ตามสบาย พี่เต้ขอบคุณสำหรับขนมนะฮะ” พอผมโอ๊ย แล้วบอกว่าเจ็บมือ พี่เซฟก็รีบปล่อยทันที ทำหน้าตาตกใจที่ผมร้องออกมาซะเสียงดัง ผมก็เลยใช้ช่วงชุลมุน รีบเดินไปคว้าถุงขนมจากพี่เต้ แล้วก็ปล่อยให้สองเสือเค้าแง่งๆ ใส่กันไป ผมไม่ยุ่งด้วยแล้ว ประสาทจะกิน อุตส่าห์จะมางอนให้ง้อซะหน่อย ดันมาหาเรื่องทะเลาะกับคนอื่นซะนี่ รีบวิ่งไปลากไอ้น๊อตกับไอ้ตาลให้รีบขึ้นตึกไปเรียนดีกว่าครับ
ผมปิดมือถือไว้จนกว่าจะเรียนเสร็จ เพราะผมรู้ดีว่าถ้าเปิดไว้ sms. ที่เข้ามาคงจะทำให้ผมไม่เป็นอันเรียนแน่ๆ ฮะ...แล้วก็เป็นไปดังคาด พอเรียนเสร็จ ผมเปิดโทรศัพท์ขึ้นมา sms. เด้งเข้ามาสามสิบกว่าข้อความ ทั้งข้อความที่บอกว่าสายเรียกเข้าไม่ได้รับอีกสามสิบกว่าสาย แล้วพอเปิดเครื่องปุ๊บ สายเรียกเข้าก็ดังปั๊บเลย...เฮ้อออ คนเรานะ รู้ทั้งรู้ว่าเค้าไม่เปิด ก็ยังพยายามโทรมาอีก...ผมขี้เกียจเปิดอ่านครับ และไม่อยากรับด้วย เพราะกะไว้แล้วว่ายังไงก็ต้องเจอคนส่งรออยู่ที่รถแน่ๆ
แล้วก็จริงครับ...แหม!!! ซื้อหวยไม่ถูกแบบนี้นะฮะ ไม่งั้นรวยเละ...เพราะเจ้าของสายเรียกเข้าที่ทำให้โทรศัพท์ผมยังสั่นไม่หยุดอยู่ตอนนี้ ยืนขมวดคิ้วกดโทรศัพท์แบบเอาเป็นเอาตายอยู่ข้างรถผมครับ สงสัยจะมุ่งมั่นมากจนลืมสังเกตว่าผมเดินมาหยุดยืนดูอยู่ไม่ห่าง...
“ถอยด้วย เลิฟจะกลับแล้ว” ก็พี่เซฟมันยืนพิงประตูฝั่งคนขับอยู่นี่ฮะ
“เลิฟ...ทำไมไม่รับโทรศัพท์พี่ครับ...แล้วงอนอะไรพี่ ทำไมต้องประชดพี่ด้วย ไปกับไอ้เต้มันทำไม”
“เลิฟไม่ได้ประชด...แล้วที่เลิฟไปกับพี่เต้ เลิฟก็แค่เห็นเค้าเป็นพี่ชายคนหนึ่ง เลิฟไปคุยกับพี่เค้าเรื่องงานครบรอบของโรงเรียนเก่า เลิฟเองก็มีเพื่อนของเลิฟ มีเรื่องที่เลิฟจะต้องทำเหมือนกัน เหมือนกับที่พี่เซฟมีเพื่อนต้องคอยไปดูแลไง” ก็ไม่ได้อยากจะประชด แต่มันก็อดไม่ได้จริงๆ นะ
“เรื่องนี้จริงๆ ด้วยที่ทำให้เลิฟงอนพี่...ก็พี่บอกแล้วว่าเป็นเพื่อน เพื่อนก็คือเพื่อน แล้วพี่ก็บอกเลิฟแล้วว่าพี่จะพาเลิฟไปรู้จัก ทำไมเลิฟไม่เชื่อใจพี่ล่ะ ทำไมต้องมาทำประชดพี่แบบนี้ด้วย”
“แล้วพี่เคยบอกอะไรมากไปกว่าพี่ต้องไปหาเพื่อนรึเปล่าล่ะ...อยู่ดีๆ พี่ก็หายไป บอกแค่ว่าไปกับเพื่อน แล้วจะให้เลิฟคิดยังไง คนที่มันคอยน่ะมันก็คิดอะไรไปได้ต่างๆ นาๆ นั่นแหละ พี่ไม่มาเป็นเลิฟพี่ไม่รู้หรอก อยู่ดีๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งมารับโทรศัพท์แฟนเรา พอเราถามอะไร ก็บอกแค่ว่าเพื่อน ไม่ได้ขยายความมากกว่านี้ ไม่ได้อธิบายอะไรที่ทำให้กระจ่างไปมากกว่าเดิมเลย...แล้วเลิฟจะไม่มีสิทธิ์คิดมากเลยหรือไง หะ!!!”
“พี่ขอโทษนะครับ ที่ทำให้เลิฟโมโห” พี่เซฟค่อยๆ เอื้อมมือมาจับมือผมไว้ครับ ตอนนี้น้ำตาผมมันก็จะไหลอีกแล้ว เฮ้อออ เซ็งตัวเองจังเว้ย เอะอะก็ร้องไห้ๆ
“เลิฟไม่ได้โมโห แต่เลิฟน้อยใจ ฮือ...ฮือออ พี่เซฟเข้าใจไหมว่าเลิฟน้อยใจ ทำไมล่ะ ฮึก...ฮือ ทำไมถึงเล่าให้เลิฟฟังไม่ได้ว่าอะไรมันเป็นอะไร ฮือออออ...พี่คิดว่าเลิฟจะพูดไม่รู้เรื่องหรือไง แค่พี่อธิบายเลิฟก็พร้อมจะเข้าใจพี่อยู่แล้ว ฮึก...ฮือออ แต่นี่พี่เล่นไม่พูดอะไรเลย บอกแค่เป็นเพื่อนๆ แล้วจะให้เลิฟคิดยังไง ฮืออออ...พี่เองก็ทำตัวมีพิรุธ ฮึก...ไม่ใช่เลิฟไม่เชื่อใจพี่...แต่ ฮืออออ...ความเชื่อใจ ไม่ได้ห้ามความคิดได้หรอกนะ”
ผมไม่รู้จะทำยังไงดี ยืนร้องไห้ให้พี่เซฟดึงเข้าไปกอด ผมก็ไม่ได้ดิ้นหนีอะไร ตอนนี้มันไม่มีแรง แค่อยากร้องไห้ มันอึดอัดมานานครับ...
“คนดี นิ่งซะนะครับ พี่ขอโทษนะ” พี่เซฟกอดผมแล้วโยนตัวเบาๆ ยิ่งทำให้น้ำตาไหลเข้าไปใหญ่
“ฮือออ...อยู่ดีๆ แฟนตัวเอง ก็หายไปกลางดึก...ฮึก ฮือออ บอกว่าจะไปหาเพื่อน เพื่อนคนไหนยังไงอีก เลิฟก็ไม่รู้ ฮืออออ เลิฟไม่เคยรู้อะไรทั้งนั้น ฮึกกก...เลิฟกลัว...เข้าใจไหมว่าเลิฟกลัว...พี่เซฟไม่ได้ชอบผู้ชายตั้งแต่แรก ฮืออ...เลิฟกลัววันหนึ่ง พี่เซฟจะรู้ตัวเองว่า...พี่ไม่ได้ต้องการแบบนี้ ฮึกกก ฮือออ เลิฟกลัวเสียพี่ เลิฟกลัวพี่เซฟเข้าใจไหม!!!”
“โอ๋ๆๆ พี่ผิดเองครับที่ทำให้เลิฟของพี่คิดมากแบบนี้ พี่ขอโทษนะ คนเก่งไหนเงยหน้าขึ้นมาหน่อยซิ...เลิฟครับ ฟังพี่นะ...เรื่องของเรามันไม่ได้เกิดจากความผิดพลาด ความบังเอิญ หรืออะไรทั้งสิ้น แต่มันเป็นเพราะการตัดสินใจของพี่ และมันเป็นเพราะพี่รักเลิฟ ไม่ว่าเมื่อก่อนพี่จะคบผู้หญิงหรืออะไรมาก่อน แต่ตอนนี้คนที่พี่รัก และคบด้วยคือเลิฟ มั่นใจในตัวเองหน่อยสิครับ นะ...”
“ส่วนเรื่องเพื่อนพี่ ที่พี่ไม่ยอมบอกเลิฟ เพราะพี่กลัวว่าเราจะคิดมากกว่าเดิม คือ...เพื่อนพี่คนนี้ เค้า...เป็นแฟนเก่าพี่ เดี๋ยวพี่จะพาเลิฟไปหาเค้านะครับ...แต่พี่สัญญาได้ว่าพี่ไม่มีอะไรกับเค้าแล้วจริงๆ และพี่ก็เป็นห่วงเค้าแค่เพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น ปะขึ้นรถกัน เดี๋ยวพี่จะเล่าให้ฟังนะ”
ผมก็ใจง่ายอีกแล้วฮะ...ทุกคนอย่าว่าผมเลยนะ เพราะผมก็ยังมึนๆ เบลอๆ อยู่เลย...พี่เซฟก็เอื้อมมือมาดึงกุญแจรถไปจากผม จูงมือผมเดินอ้อมเปิดประตู่ฝั่งข้างคนขับ จับผมยัดลงไปนั่งคาดเข็มขัดให้เรียบร้อย ก่อนจะก้มลงหอมแก้มผมอีกสองที แล้วก็รีบเดินไปฝั่งคนขับ สตาร์ทเครื่องแล้วถึงค่อยๆ เล่าเรื่องราวของ ‘แฟนเก่า’ พี่เค้าให้ผมได้ฟัง
ฟังพี่เค้าไป ผมก็แอบเห็นใจ และสงสารพี่อุ๊นะครับ...ผมรู้สึกแย่จังเลยที่ดันทำตัวงี่เง่าใส่พี่เซฟ ทั้งๆ ที่พี่อุ๊เองก็ต้องการความช่วยเหลือมากขนาดนี้...
ตอนนี้น้ำตาผมหยุดไหลไปแล้วครับ...พี่เซฟเล่าจบแล้ว เรื่องของพี่อุ๊...ผมสงสารพี่อุ๊ แต่ประโยคสุดท้ายที่พี่เซฟบอกผม ว่าพี่อุ๊ เคยเป็นผู้หญิงคนแรกที่พี่เค้ามีอะไรด้วย และพี่เค้าก็เคยรักพี่อุ๊มาก...ถึงน้ำตาจะไม่ได้ไหลออกมาจากดวงตา แต่ในหัวใจผมกำลังเหมือนมีน้ำปริ่มๆ ออกมายังไงไม่รู้ฮะ ...นี่แหละน้า อยากรู้ความจริง พอรู้ความจริง ก็มานั่งทุกข์ใจซะเอง
ตอนนี้ในใจลึกๆ ของผม มันกลับมีเสี้ยนเล็กๆ ที่เรียกว่า ‘ความกลัว’ คอยตำอยู่แปรบๆ คนเห็นแก่ตัวอย่างผมเกิดกลัวว่าพี่เซฟจะไปให้ความสำคัญคนอื่นมากกว่าผม กลัวว่าเค้าจะไม่รักผมเหมือนเดิม ผมกลัวจังเลยครับ อยู่ดีๆ ก็กลัว แล้วไหนจะเรื่องที่บ้านของพี่เค้าอีก เรื่องนี้ก็ยังไม่เคลียร์เลย...เฮ้อออ!!!
แต่อย่างน้อย ตอนนี้ ผมก็ได้รู้ความจริงจากปากพี่เค้าแล้ว...
และพี่เซฟก็บอกว่าพี่เค้ารักผม...
ผมควรจะเชื่อใจคนที่ผมรัก และผมควรจะไว้ใจและให้เกียรติเค้าให้มากกว่านี้...
เลิฟรักพี่นะครับ อย่ารักเลิฟน้อยลงไปกว่าเดิมเลยนะ...
***เพลงนี้มันเข้ากับอารมณ์ของน้องเลิฟตอนนี้มากๆ เลยค่ะ แนะนำให้เปิดฟังไปด้วยจะช่วยเพิ่มอรรถรสนะคะนั่งคอย ให้เเธอส่งเสียงมา
น้ำตา ก็แทบจะไหลริน
เมื่อไร ที่ฉันจะได้ยิน
เสียงของเธอที่โทรเข้ามา
ฉันนั่งคอยนับวันเวลา
ยิ่งนาน ยิ่งทำให้น้อยใจ
คิดไป ไกลกันจนเกินจะกลับมา
กลัวเธอจะไม่รักเหมือนวันเก่า
กลัวเราจะห่างเหินเพราะเวลา
กลัวเธอจะไปเห็นใครมีค่า มากกว่า
จนลืมคิดถึงกัน
นั่งมอง นั่งเปิดดูรูปเธอ
เห็นเธอ น้ำตายิ่งไหลริน
เมื่อไร ที่ฉันจะได้ยิน
เสียงของเธอที่โทรเข้ามา
ฉันนั่งคอยนับวันเวลา
ยิ่งนาน ยิ่งทำให้น้อยใจ
คิดไป ไกลจนเกินจะกลับมา
กลัวเธอจะไม่รักเหมือนวันเก่า
กลัวเราจะห่างเหินเพราะเวลา
กลัวเธอจะไปเห็นใครมีค่า มากกว่า
จนลืมคิดถึงกัน
ตอนนี้ เธอจะคิดถึงตัวฉันบ้างรึเปล่า
ตอนนี้ ใจเธอมีใครคนอื่นใช่รึเปล่า
กลัวเธอจะไม่รักเหมือนวันเก่า
กลัวเราจะห่างเหินเพราะเวลา
กลัวเธอจะไปเห็นใครมีค่า มากกว่า
จนลืมคิดถึงกัน
http://www.youtube.com/v/o5i5QP-FArU&hl=en_US&fs=1