Hidden word
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Hidden word  (อ่าน 40393 ครั้ง)

ออฟไลน์ ||||Crazy_Y||||

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 724
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +441/-2
Hidden word
« เมื่อ09-02-2010 20:56:54 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



----------------------------------------------------------------------------------------------------




ภาพของสายฝนที่วิ่งแข่งกันลงมายังพื้นโลก  เป็นภาพปกติที่เห็นกันจนชินตาของเดือนมิถุนายน 
เย็นวันนี้ก็เช่นกัน ..
ผมที่ตอนนั้นเรียนอยู่ในชั้น ม.2 นั่งเอามือเท้าคางอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อน  สายตามองฝ่าสายฝนไปที่สนามบาสที่อยู่ตรงหน้า
ณ ที่นั้น ร่างสูงโปร่งของใครคนหนึ่งกำลังเล่นบาสอยู่ท่ามกลางหยาดฝนที่โปรยปรายลงมาไม่ขาดระยะ  เสื้อนักเรียนสีขาวที่ปล่อยชายหลุดลุ่ยเปียกแนบไปกับแผงอกแกร่งและหน้าท้องแบนราบ  สองเท้าวิ่งย่ำน้ำฝนที่นองอยู่บนพื้นคอนกรีตอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้เกรงว่ารองเท้านักเรียนสีน้ำตาลคู่นั้นจะเปียกชุ่มไปถึงไหนต่อไหน  มือใหญ่ประคองลูกบาสให้กระเด้งไปตามจังหวะการวิ่ง  พอไปถึงหน้าห่วงบาส ร่างนั้นก็หยุดวิ่งและกระโดดขึ้นชูตด้วยความคล่องแคล่ว

ฟึ่บ ...

เสียงลูกบาสลอดลงห่วงคงดังอย่างนี้ ถ้าไม่มีเสียงเม็ดฝนมากลบ  คนชู้ตทำท่าดีใจ ก่อนจะคว้าลูกบาสแล้วเลี้ยงไปอีกฝั่งของสนาม
ผมหันกลับมาที่โต๊ะม้าหินอ่อนตรงหน้า  กลับสู่หนังสือเล่มหนาที่เปิดอ้าอยู่  แต่หลังจากไล่สายตาใต้กรอบแว่นผ่านไปตามตัวหนังสือภาษาอังกฤษที่เรียงเป็นพืดได้ไม่นานก็ต้องหยุดชะงักเพราะแรงกระทบของบางสิ่งบางอย่างที่กระทบมาที่ม้าหินอ่อนตัวที่ผมนั่งอยู่ พร้อมกับหยดน้ำที่กระเซ็นเปียกเป็นวงที่กางเกงและเสื้อนักเรียนสีขาว  เสียงพื้นรองเท้ากระทบน้ำใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนในที่สุดผมก็ได้ยินเสียงหอบหายใจของร่างที่เข้ามาใกล้
"ขอโทษนะ .. เอ่อ .. น้อง .. เปียกมากรึเปล่า"
"ไม่เป็นไรครับ"
เสียงที่ยังไม่แตกหนุ่มดีนักกล่าวตอบไป พลางหยิบผ้าเช็ดหน้าที่พับอย่างเรียบร้อยในกระเป๋าเสื้อมาเช็ดเอาหยดน้ำออกจากหนังสือเล่มหนา  ร่างสูงมองท่าทางนั้นแล้วก็ก้าวขึ้นนั่งบนโต๊ะม้าหินอ่อนฝั่งตรงข้าม
"โห .. นี่เพิ่ง ม.2 เอง อ่านแคมพ์เบลล์แล้วเหรอ"
คนตัวโตถามขึ้นเมื่อมองเห็นเลข  ๒ ที่ปักอยู่ที่อกเสื้อเพื่อบ่งบอกชั้นปี และเห็นว่าหนังสือที่คนตรงหน้าอ่านเป็นหนังสือ text ภาษาอังกฤษของวิชาชีววิทยา
"ก็ อ่านเรื่อย ๆ น่ะครับ พอดีมีเวลาว่าง .. แต่ตรงนี้อ่านยังไงก็จำไม่ได้ซักที"
"ไหนดูซิ"
ร่างโปร่งกระโดดลงจากโต๊ะไปยืนอยู่ทางด้านหลังของผมโดยพยายามระมัดระวังไม่ให้หยดน้ำที่เกาะพราวไปทั้งตัวหยดไปโดนคนตรงหน้า  แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังรู้สึกได้ถึงไอเย็นที่ลอยมากระทบผิว
"อ๋อ ..  Division พืชเนี่ยเหรอ  มานี่มา"
เขาหยิบเอาปากกาที่วางอยู่บนโต๊ะไปขีด ๆ เขียน ๆ ใส่กระดาษเปล่าที่วางอยู่ใต้หนังสือเล่มนั้นชั่วครู่ ก่อนจะยื่นมาให้  ผมยื่นมือไปรับกระดาษแผ่นนั้นมา  แต่ก่อนที่จะทันได้พิจารณาอะไร เสียงแตรรถก็ดังขึ้น
"อ๊ะ แม่มาแล้ว .. เอ่อ ... พี่โอ ... กลับด้วยกันมั้ยครับ"
"หืม ? รู้จักพี่ด้วยเหรอ"
ผมไม่ได้ตอบอะไร  เพียงส่งยิ้มกว้างให้
""ไม่เป็นไรหรอก บ้านพี่อยู่แถวนี้เอง"
ได้ยินอย่างนั้น  ผมก็พยักหน้าน้อย ๆ แล้วก็รีบเก็บหนังสือเล่มหนาและของที่วางอยู่บนโต๊ะเข้ากระเป๋า โดยไม่ลืมที่จะสอดกระดาษแผ่นนั้นไว้ในแฟ้มงานของตัวเอง
"ไปนะครับ"
กล่าวร่ำลาเพียงเท่านั้น  ก่อนจะวิ่งฝ่าฝนไปที่รถอย่างรวดเร็ว

"รอนานมั้ยเจ"
เสียงผู้เป็นแม่ที่กำลังขับรถอยู่เอ่ยถามขึ้น
"ไม่นานหรอกครับ  อ่านหนังสือไปด้วย"
"อืม .. แล้วเมื่อกี๊เพื่อนรึเปล่า ทำไมไม่ชวนกลับด้วยกัน ให้แม่ไปส่งก็ได้เค้าจะได้ไม่เปียก"
ผมปลดกระเป๋าเป้ออกจากกลางหลัง  แล้วดึงเอากระดาษแผ่นนั้นออกมาจากแฟ้ม
"ไม่ใช่เพื่อนครับ  รุ่นพี่ .. พี่โอไงแม่  ที่เรียนเก่ง ๆ น่ะ"
ผู้เป็นแม่ไม่ได้ตอบอะไร เพียงพยักหน้าน้อย ๆ ผมกลับมาพิจารณาแผ่นกระดาษในมือ
บนกระดาษที่มีหยดน้ำเปียกเป็นวง ๆ มีตัวอักษรภาษาอังกฤษและประโยคยาว ๆ หนึ่งประโยคที่พอเอาอักษรตัวแรกของแต่ละคำในประโยคออกมาดู ก็จะพบว่ามันคืออักษรตัวแรกของแต่ละ division ที่เขาพยายามใช้เวลาจำตั้งนาน  แต่พี่โอกลับใช้ทริกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แค่ท่องประโยคนี้ได้ก็จำเนื้อหาในส่วนนี้ได้แม่น
ผมมองเข้าไปในกระจกมองข้าง  เห็นริมฝีปากตัวเองอมยิ้มน้อย ๆ สองมือบรรจงเก็บกระดาษแผ่นนั้นเข้าในแฟ้มอย่างทะนุถนอม

-----------------------------------------------------------------

สี่ปีต่อมา
"เอ้า ว่าไงเจ ติดด้วยเหรอเนี่ยเรา"
เสียงตะโกนฝ่ากลุ่มคนที่เดินสวนกันไปมาหน้าห้องประชุมที่จะทำการปฐมนิเทศนักศึกษาชั้นปี 1 ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย K ทำให้ผมหันขวับไปทางต้นเสียงทันที
"พี่โอ !! มาด้วยเหรอครับ"
"มาเป็นผู้ช่วยน่ะ เผื่อรุ่นน้องมีปัญหาอะไร  ของเราเรียบร้อยดีใช่มั้ยล่ะ"
พูดพลางมือใหญ่ก็ทาบลงมาบนศีรษะทุย ๆ
"เอ่อ .. ครับ .. แต่ว่ายังงง ๆ อยู่เรื่องลงทะเบียน"
"อืม เอาเบอร์พี่ไว้ละกัน  มีอะไรก็โทรมาถามนะ  เดี๋ยวจะถึงเวลาเข้าห้องประชุมแล้ว ไปเตรียมตัวเถอะ"
ว่าพลางหาเศษกระดาษแถวนั้นมาแล้วจดตัวเลข 10  หลักลงไป  ก่อนจะดันผมเข้าไปในห้องประชุม

ผมกับพี่โอเริ่มสนิทกันมากขึ้นในช่วง ม.ปลาย   หลังจากที่ได้เป็นตัวแทนไปแข่งขันทางวิชาการของโรงเรียนด้วยกันบ่อยครั้ง  บางครั้งไปแข่งขันที่ต่างจังหวัดก็ต้องไปนอนค้างด้วยกัน  หรือตอนที่สอบติดค่ายโอลิมปิกวิชาการทั้งคู่ต้องเข้าค่ายด้วยกันหลายสัปดาห์ก็ทำให้เราทั้งสองคนสนิทกันมากขึ้น
พี่โอเป็นเหมือนไอดอลของผม  เพราะพี่โอทั้งเรียนเก่ง  เล่นกีฬาก็เก่ง  เป็นที่รักของทั้งอาจารย์และน้อง ๆ เนื่องจากพี่โอไม่ใช่คนหวงความรู้ กลับชอบสอนใคร ๆ ไปทั่วเมื่อรุ่นน้องหรือเพื่อนมีปัญหา  ที่โรงเรียนเก่าของผม  แทบจะไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของโอชิษฐ์  ตรีนวกุล  เพราะชื่อของพี่โอเป็นชื่อที่ถูกประกาศคุณความดีที่หน้าเสาธงอยู่บ่อย ๆ  แทบจะทุกอาทิตย์เลยก็ว่าได้
ผมอยากเป็นได้อย่างพี่โอบ้าง

ตอนนี้ .. ก็คงเข้าใกล้ไปอีกขั้นแล้วล่ะ

-----------------------------------------------------------------------

"เฮ้ย เจ  เย็นนี้พี่โรงเรียนนัดเลี้ยงนะ"
เพื่อนร่วมโรงเรียนที่สอบติดคณะเดียวกันเดินมาบอกผมหลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ  ผมพยักหน้ารับคำไป
หกโมงเย็น  ทุกคนพร้อมกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใกล้ ๆ กับมหาวิทยาลัย  ทันทีที่ไปถึง  ดวงตากลมโตก็สอดส่ายหาบุคคลที่คุ้นเคย แต่ก็หาไม่เจอ
"อ้าว น้องเจ มาแล้วเหรอ นั่งเลย ๆ ตรงไหนก็ได้"
พี่สา  รุ่นพี่ที่เจรู้จักเดินมาทักพลางชี้ไปที่เก้าอี้ที่ยังว่างอยู่
"ครับ  เอ่อ .. พี่สา ... พี่โอไม่มาเหรอครับ"
"อืม มันบอกว่าจะมาอยู่นะ  แหม .. อะไรกัน  แอบปิ๊งไอ้โอหรอกเหรอเนี่ย"
พี่สาทำหน้ากรุ้มกริ่ม  ผมละล่ำละลักปฏิเสธ หน้าแดงแป๊ด
"มะ..ไม่ใช่นะครับ !"
ทันใดก็รู้สึกถึงสัมผัสอุ่น ๆ ที่ไหล่ซ้าย
"เฮ้ย ! สาก็ .. อย่าไปแกล้งน้องมันดิ"
"พี่โอ !"
"อื้ม ป่ะ ไปหาที่นั่งกันเถอะ เลือกทำเลดี ๆ จะได้ไม่มีใครแย่งกิน"
พูดพลางดึงมือผมไปนั่งที่เก้าอี้ที่ยังว่างอยู่ 
"อ้าว ทำไมหน้าแดงงั้นล่ะ  ไม่สบายรึเปล่าเรา"
พี่โอหันมาถามทันทีที่เราทั้งสองคนหาที่นั่งได้  แล้วก็ได้เห็นริ้วแดง ๆ ที่แก้มขาวทั้งสองข้าง  ผมส่ายหน้าปฏิเสธเป็นการใหญ่
"เออ งั้นก็ดีแล้ว กินกันเหอะ"

------------------------------------------

"พี่โอ .. กินน่ะรอ ๆ กันบ้างก็ได้"
ร่างเล็กปรามเมื่อเห็นคนข้าง ๆ ตักนั่นตักนี่ใส่ปากยังไม่หยุดเลยตั้งแต่พนักงานเริ่มเอากับข้าวมาเสิร์ฟ
"ไม่ได้นะ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง"
"เจว่าจะเดินไม่ไหวมากกว่านะเนี่ย"
พี่โอได้ยินก็ยิ้มตาหยี
"เราแหละกินให้มันเยอะ ๆ หน่อย  นี่แทบไม่โตขึ้นจากตอนเจอกันครั้งแรกเลยนะเนี่ย"
ร่างเล็กได้ยินก็หันไปค้อน
"ทำยังกะจำได้แหละว่าครั้งแรกเจอกันเมื่อไหร่"
"จำได้สิ .. ตอนปิดเทอมหน้าร้อน .."
"มั่วแล้ว"
คนตัวเล็กพูดเซ็ง ๆ  พี่โอยิ้มเขิน ๆ แล้วก็ตักปลาราดพริกมาใส่ในจานให้เป็นการไถ่โทษ
"พี่คิดอยู่แล้วว่าเจต้องสอบได้"
"เหรอ .. ทำไมล่ะฮะ"
"ก็เราน่ะออกจะเก่ง"
"ไม่หรอก พี่โอต่างหากที่เก่ง .. อืม .. ตอนแรกก็คิดว่าจะไม่ติดแล้วแหละ ตอนสอบสัมภาษณ์เครียดมาก ๆเลย"
"เหรอ โดนถามว่าไงมั่งล่ะ"
ร่างเล็กขมวดคิ้วหนาภายใต้กรอบแว่นพลางนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในห้องสอบสัมภาษณ์
"ก็ให้แนะนำตัวทั่ว ๆ ไป แล้วก็ถามว่าทำไมถึงอยากเรียนหมอ"
"แล้วตอบว่า"
"ก็บอกว่า อยากรักษาคน อยากช่วยเหลือคนอื่น แล้วก็คนที่ตัวเองรัก"
"อ้าว ก็ดีแล้วไง"
"อาจารย์ถามต่อสิว่า .. ถ้าเราเกิดช่วยเหลือคนที่เราอยากช่วยไม่ได้เราจะทำยังไง"
"อืม .. เรื่องแบบนี้มันก็ขึ้นอยู่กับดวงแต่ละคนด้วยล่ะเนอะ ... โดนถามแค่นี้อ่ะเด็ก ๆ พี่นะโดนถามว่า .. พ่อคุณมีเมียน้อยรึเปล่า"
พี่โอเอนตัวลงพิงพนักท่าทางสบาย ๆ
"หา! .. แล้วพี่ตอบว่า"
"ก็บอกว่าไม่มีน่ะสิ"
"แล้ว ?"
"แล้วเค้าก็ถามว่า คุณแน่ใจได้ยังไงว่าไม่มี"
"..."
"พี่เลยตอบว่า  แล้วอาจารย์แน่ใจได้ยังไงว่าแฟนอาจารย์ไม่ได้มีชู้"
"โห .. แล้วเป็นไงอ่ะทีนี้"
"ก็ได้สอบสัมภาษณ์ซ้ำน่ะสิ  จริง ๆ มันก็ไม่มีอะไรหรอกนะ เค้าแค่อยากทดสอบ EQ เราเฉย ๆ ว่าเวลาเราเจอเรื่องกดดัน เรื่องเครียด ๆ หรือเรื่องที่น่าโมโหเนี่ยเรา handle มันได้ดีแค่ไหน"
"โห แต่แบบนี้มันไม่แรงไปเหรอฮะ"
พี่โอยักไหล่
"คิดมากน่า ..  เราก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร  ไม่เห็นต้องไปโกรธเค้าเลย  เป็นหมอน่ะ มันยากตรงที่เราทำงานกับคน ในฐานะที่เราแบกเอาความคาดหวังของเค้าและคนรอบข้างของเค้าไว้ด้วย  บางเรื่องเราก็รู้นะว่าความจริงมันเป็นยังไง แต่เราก็ทำอะไรกับมันไม่ได้"
พี่โอยิ้มให้ผมและเล่าให้ฟังถึงประโยคที่นักเรียนแพทย์ทุกคนต้องได้ฟังคือ "ไม่มีอะไร 100% ใน Medicine"  และเล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ที่ญาติคนไข้ฟ้องหมอทั้ง ๆ ที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นหมอทุกคนก้รู้ว่ามันมีโอกาสที่สามารถเกิดขึ้นได้  แต่หมอก็ต้องยอมรับผิดและตกเป็นจำเลยของสังคมอยู่ดี
"เป็นหมอน่ะ ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ต้องมาก่อนรู้มั้ย  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราอย่าลืมว่าเราอยู่ในฐานะอะไร ต้องทำอะไร อย่าเอาอารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผล  รู้รึเปล่า"
ในใจผมตอนนั้น เหมือนกับรอบ ๆ ตัวพี่โอมีออร่าอะไรซักอย่างเปล่งประกายอยู่รอบ ๆ

มันไม่แปลกเลย  ที่ใครหลาย ๆ คนจะชอบพี่โอ
เพราะพี่โอมีความคิดความอ่านที่เป็นผู้ใหญ่  มีอะไรหลาย ๆ อย่างที่ทำให้คนที่คุยด้วยรู้สึกอบอุ่นใจ
มันไม่แปลกเลย ..
ที่ผมจะชอบพี่โอ ..

ไม่แปลกเลย ..


--------------------------------
คุยกันก่อน

เรื่องนี้จริง ๆ แล้วตั้งใจจะให้เป็นเรื่องสั้นค่ะ
แต่เขียนไปเขียนมามันก็ดันยาวซะได้
เพราะงั้นเลยเปลี่ยนเป็นเรื่องสั้นขนาดยาวละกัน 55 (งง ๆ เนอะ)

เรื่องนี้มีพื้นฐานจากเรื่องจริงค่ะ ..
เอาเป็นว่า ตัวละครและฉากหลายฉากมีอยู่จริง  ^_^

ถ้าใครเจออะไรติดขัดหรือพิมพ์ผิดตรงไหนแจ้งด้วยนะคะ >_<
ขอบคุณค่า

ปล . จะโดนด่าม้ายยย เรื่องเก่ายังไม่จบ (พี่น้องท้องชนกัน) ก็มาเริ่มเรื่องใหม่ซะแล้ว 55
ถ้าอยากอ่านเรื่องจบแล้วก็เชิญที่นี่ได้ค่ะ มีสองเรื่องแล้วนะ ^_^
สุดที่รัก
ฤดูร้อน/ฝน/คนเหงา

ตอนที่สองค่ะ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13475.msg789660#msg789660


*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-07-2018 22:05:41 โดย ||||Crazy_Y|||| »

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
Re: [เรื่องสั้น ... มั้ย] Hidden word
«ตอบ #1 เมื่อ09-02-2010 21:09:55 »

 :z13:
จิ้มที่รัก
+1 ต้อนรับเรื่องใหม่เรื่องกลับยังไม่ทันจบ เหอะๆ 555+
เรื่องนี้สนุกดีอะ อ่านแล้วอบอุ่นดี
ไม่รู้คุณพี่โอจะไปมีใจให้คุณน้องเจมันบ้างไหมนั่นมีแอบ บอกว่ารู้แล้วว่าเจต้องติด หึหึ
ความรักครั้งนี้จะเป็นเช่นไร ไม่มีใครรู้ทิศทาง หวังแค่คงไม่เศร้านะตัวเองเค้าขอเลย  :o12:
แล้วจะรออ่านต่อ
นิว(รักตัวเสมอจุ๊บๆ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-02-2010 22:03:52 โดย [N]€ẃÿ{k}uñĢ »

กระต่ายชมจันทร์

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น ... มั้ย] Hidden word
«ตอบ #2 เมื่อ09-02-2010 21:32:49 »

ทายซิใครเอ่ย~ ตามพี่โอกับพี่เจมาค่ะ เจอฉากจิ้นอีกเมื่อไหร่ก็มาอัพเดทเลยนะคะ><

แวะมาทักทายค่ะพี่เคร หนูก็เล่นเล้า ยูสในนี้ก็ต่ายนะงิ(อย่าสับสนกับบอร์ดปีใหม่ล่ะคะ 55+)


mecon

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น ... มั้ย] Hidden word
«ตอบ #3 เมื่อ09-02-2010 22:03:59 »

พูดเรื่องการแบกความหวังของคนรอบข้างในฐานะหมอได้เห็นภาพมากๆคะ
"คิดมากน่า ..  เราก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร  ไม่เห็นต้องไปโกรธเค้าเลย  เป็นหมอน่ะ
มันยากตรงที่เราทำงานกับคน ในฐานะที่เราแบกเอาความคาดหวังของเค้าและคนรอบข้างของเค้าไว้ด้วย 
บางเรื่องเราก็รู้นะว่าความจริงมันเป็นยังไง แต่เราก็ทำอะไรกับมันไม่ได้"

>> o13 o13
น้องเจได้มาอยู่ใกล้ๆพี่โอแล้วนะว่าแต่พี่โอคิดกับน้องแค่น้องรร.แค่นั้นรึป่าวนะ อิอิ
+1 คะ

ออฟไลน์ Vesi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +204/-3
Re: [เรื่องสั้น ... มั้ย] Hidden word
«ตอบ #4 เมื่อ09-02-2010 22:09:15 »

หุๆๆๆ คนอะไร perfect man จริงๆ

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น ... มั้ย] Hidden word
«ตอบ #5 เมื่อ09-02-2010 22:22:34 »

รับเรื่องใหม่ครับ   :mc4:

daizodiac

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น ... มั้ย] Hidden word
«ตอบ #6 เมื่อ09-02-2010 22:27:01 »

แน๊ะ ,,พี่โอดูเป็นคนดี เริ่ด เพอร์เฟ็คมากเลย
อย่างนี้ต้องติดตาม : ))

chae

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น ... มั้ย] Hidden word
«ตอบ #7 เมื่อ09-02-2010 22:41:37 »

พี่โอมีความคิดที่สุดยอดมากๆเลยจริงๆนะ

ว่าที่ตอบกลับอาจารย์เขาไปแบบนั้น พี่กลัวว่ามันจะผ่านใช่ไหมค่ะ :serius2:

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น ... มั้ย] Hidden word
«ตอบ #8 เมื่อ09-02-2010 23:00:44 »

ต้อนรับเรื่องใหม่จ้า  :L2:

เป็นเรื่องสั้น(ขนาดยาว)ที่น่าอ่านจริงๆ
แค่ตอนแรกก็ชวนติดตามต่อมากๆ
เพราะตัวละครมีบุคลิกน่าสนใจทั้งโอ และเจเลย

บวก 1 แต้มเป็นกำลังใจจ้า

ออฟไลน์ ZomZaa^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-0
Re: [เรื่องสั้น ... มั้ย] Hidden word
«ตอบ #9 เมื่อ09-02-2010 23:03:31 »

เรื่องน่ารักดีคับ

เป็นกำลังใจให้นะคับ

 :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น ... มั้ย] Hidden word
« ตอบ #9 เมื่อ: 09-02-2010 23:03:31 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
Re: [เรื่องสั้น ... มั้ย] Hidden word
«ตอบ #10 เมื่อ09-02-2010 23:05:38 »

ต้อนรับเรื่องใหม่ด้วยค่ะ  :L2:

พี่โอดู perfect จริงๆ

OhJa

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น ... มั้ย] Hidden word
«ตอบ #11 เมื่อ10-02-2010 00:45:11 »

ชอบจังเลยอ่ะ
รอลุ้นรักของน้องเจกับพี่โอนะคะ

+1 ให้กำลังใจคนแต่ง :L2:

jedi2543

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น ... มั้ย] Hidden word
«ตอบ #12 เมื่อ10-02-2010 01:25:36 »

เรื่องน่ารักดีค่ะ มาต่อไวๆ นะคะ

jokirito

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น ... มั้ย] Hidden word
«ตอบ #13 เมื่อ10-02-2010 01:37:43 »

 :mc4:  วู้ววววว

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: [เรื่องสั้น ... มั้ย] Hidden word
«ตอบ #14 เมื่อ10-02-2010 02:22:09 »

พี่โอน้องเจ

อร๊ายยย ๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
Re: [เรื่องสั้น ... มั้ย] Hidden word
«ตอบ #15 เมื่อ10-02-2010 08:27:35 »

 :mc4:  ว้าว!!!

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
Re: [เรื่องสั้น ... มั้ย] Hidden word
«ตอบ #16 เมื่อ10-02-2010 08:36:56 »

มาตามอ่านเรื่องใหม่ค่ะ  :L2:


ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
Re: [เรื่องสั้น ... มั้ย] Hidden word
«ตอบ #17 เมื่อ11-02-2010 01:28:54 »

ูู^
^
^
 :กอด1:



เขียนเป็นเรื่องยาวเลยสิคะ
ท่าทางจะมีอะไรให้ติดตามอีกเยอะ
 :L2:

ออฟไลน์ ||||Crazy_Y||||

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 724
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +441/-2
Re: [เรื่องสั้น ... มั้ย] Hidden word
«ตอบ #18 เมื่อ13-02-2010 12:23:34 »

ต่อนะคะ ^_^


เวลาห้าปี ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ผมกลายเป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 6 หรือ Extern ส่วนพี่โอเรียนต่อภาควิชาศัลยศาสตร์  (หรือที่เรารู้จักกันว่าหมอศัลย์น่ะแหละค่ะ---คนเขียน)
ความสัมพันธ์ของผมกับพี่โอก็พัฒนาขึ้นเป็นลำดับขั้น  จากแค่รุ่นพี่รุ่นน้องในโรงเรียนเดียวกัน  พี่โอก็ได้ติวหนังสือให้ผมบ่อยขึ้น เราไปเที่ยวกันบ้าง กินข้าวด้วยกันบ้าง เวลาผมไปเที่ยวหรืองานเทศกาลสำคัญ ๆ ต่าง ๆ ผมก็ไม่ลืมที่จะซื้อของฝากหรือของขวัญมาให้พี่โอ
เราสนิทกันจนปรึกษากันได้แทบทุกเรื่อง
แต่มีเรื่องเดียวที่ผมไม่เคยจะปรึกษากับพี่โอเลย
เรื่องหัวใจ ..

จากที่ผมไม่เคยกล้าที่จะยอมรับความรู้สึกของตัวเองว่าคิดยังไงกับพี่โอ  จนในที่สุด ผมคิดว่าการที่ผมปฏิเสธมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงความรู้สึกที่ผมมีต่อพี่โอเลย  ผมเลยต้องยอมรับ
สำหรับผมแล้ว พี่โอเป็น "คนสำคัญ"
แต่สำหรับพี่โอแล้วผมเป็นอะไรนั้น .. ผมไม่เคยรู้เลย
พี่โอยังคง popular ทั้งในหมู่เพื่อน รุ่นน้อง หรือแม้แต่อาจารย์  มีรุ่นน้องมากมายที่ชื่นชมและปลื้มพี่โอ  แม้ผมจะไม่เคยเห็นพี่โอไปไหนกับใครหรือได้ข่าวว่าพี่โอเป็นแฟนกับใครจริงจัง  แต่ประสบการณ์การเรียนแพทย์มาห้าปีสอนผมว่า
"อะไรที่เรามองไม่เห็น ไม่ได้แปลว่ามันไม่มีอยู่"

------------------------------------------------------

"เจ  ไปกินเหล้ากันมั้ยคืนนี้"
พี่โอเอ่ยชวนผมตอนที่เราเดินสวนกันที่ทางเดิน  
"คราวนี้เนื่องในโอกาสอะไรอีกล่ะ"
"เนื่องในโอกาสวันเกิด .. อยากจะกินไง"
พี่โอหัวเราะ ยิ้มจนตาหยี  ผมส่ายหน้า
"เพลา ๆ มั่งนะ  ตัวเองเป็นหมอแท้ ๆ ยังกินไม่บันยะบันยังเลย"
"น่า .. ก็ถึงต้องเอาเจไปคุมไง"
"ตลอดอ่ะ"
ผมบ่น  แต่ก็ตกลงยอมไปกับพี่โออยู่ดี

ผมไม่ชอบกินเหล้า  ผมไม่ชอบบรรยากาศร้านเหล้า
ผมแค่ .. ชอบไปนั่งเป็นเพื่อนพี่โอ
เพราะเวลากินเหล้า พี่โอจะพูดเรื่องตัวเองให้ฟังเยอะแยะไปหมด  จนผมรู้สึกว่าคงไม่มีเวลาไหนแล้วที่ผมจะได้รู้จักพี่โอดีไปกว่าตอนที่เรากินเหล้าด้วยกัน

"เป็นไงมั่งเรา ตอนนี้อยู่ med ใช่มั้ย"
พี่โอถามถึง ward ที่ผมอยู่ในตอนนี้  พยักหน้าตอบรับไปว่าอยู่แผนกอายุรกรรม
"เหนื่อยมากเลยพี่  case chronic ทั้งนั้น เห็นแล้วหดหู่ วันก่อนก็ arrest ไปสอง" (หมายถึงเป็นผู้ป่วยเรื้อรัง  เมื่อวันก่อนก็หัวใจหยุดเต้นไปสองราย)
"งี้แหละ med .. นี่แหละชีวิตคน เกิดแก่เจ็บตายมันเรื่องธรรมดา"
"แหม  พูดธรรมะเลยนะ ตรงหน้านี่แก้วเหล้าชัด ๆ"
"มันไม่เกี่ยวกันนี่นา  เออ แล้วเราเลือกได้รึยังว่าจะต่ออะไร รึว่าจะไปใช้ทุนก่อน"
พี่โอถามถึงทางเลือกหลังเรียนจบ  ผมชั่งใจอยู่นานก่อนจะตอบไป
"เจว่า ... เจจะเรียนศัลย์"
พี่โอชะงักไปเมื่อได้ยินคำตอบของผม
"ทำไม ? ชอบเหรอ"
"อืม .. เจเห็นพี่โอเรียนก็ดูมีความสุขดีนี่"
"ไม่ใช่พี่เรียนดิ เราเองก็เคยผ่านศัลย์  ชอบมั้ยล่ะ พี่ว่าเจดูเหมือนหมอ Med มากกว่านะ  รึไม่ทำไมไม่ไปเรียนอะไรสบาย ๆ อย่างดมยารึเอ็กซเรย์  อย่างเจน่ะไม่เหมาะจะเรียนอะไรหนัก ๆ แบบนี้หรอก"
"เจชอบ"
ผมบอก  พยายามทำสีหน้าให้มั่นคงที่สุด  แต่พี่โอกลับทำหน้าลำบากใจ
"เจ .. พี่พูดตรง ๆ กับเจได้มั้ย"
"ครับ"
"พี่รู้ ว่าเจปลื้มพี่ .. เจเอาพี่เป็นตัวอย่าง .. จะเถียงรึเปล่า"
ผมส่ายหน้า  ไม่มีอะไรที่ผมต้องเถียง  ใจจริงผมก็แอบตกใจที่พี่โอกล้าพูดตรง ๆ แบบนี้
"แต่ถึงตรงนี้ ต่อไปมันจะเป็นอนาคตของเจแล้วนะ เป็นสิ่งที่เจต้องอยู่กับมันไปตลอดชีวิต พี่อยากให้เจเลือกด้วยตัวของเจเอง ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับเจ"
ผมเงียบไปเมื่อได้ยินคำพูดของพี่โอ  ผมเองในตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรเป็นพิเศษ  เลยอยากที่จะเรียนศัลย์ เพราะอย่างน้อยก็ยังคงมีพี่โอที่ยังคอยให้คำแนะนำต่าง ๆ กับผมได้  ผมเข้าใจที่พี่โอไม่อยากให้ผมเรียน  เพราะการเรียนศัลย์ก็เป็นอีกสาขาหนึ่งที่หนักมาก ทั้งยังต้องมีการทำหัตถการต่าง ๆ ที่ต้องใช้ความตั้งใจในการฝึกฝน และก็เป็นสาขาอันดับต้น ๆ ที่มีการฟ้องร้องบ่อย ๆ  คนที่ไม่ได้ชอบจริง ๆ ก็คงจะอยู่กับมันลำบาก
แต่ผมเชื่อว่า ถ้ามีพี่โออยู่  ไม่ว่ายังไงผมก็คงผ่านมันไปได้
"เจแน่ใจแล้ว  เจเลือกแล้ว เจไม่เสียใจทีหลังหรอก"
พี่โอเงียบไปซักพัก
"จริงดิ ?"
"อืม"
พอผมพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น  คิ้วที่ขมวดเป็นปมของพี่โอก็ค่อย ๆ คลายออก
"โอเค งั้นมาฉลองกันเหอะ  เดี๋ยวพี่จะไปโปรโมตเจให้อาจารย์ฟังด้วย"
"อื้ม"
ผมยิ้มให้พี่โอ  แล้วก็ได้รับรอยยิ้มตอบกลับมา เป็นรอยยิ้มที่สดใสที่สุด

ถ้ามีพี่โอ  ผมก็คงผ่านมันไปได้
ผมไม่ได้คิดเลยว่า .. ถ้าพี่โอไม่อยู่ข้างผม  ผมจะทำยังไง

---------------------------------------------------------------------

ผมได้เรียนต่อภาควิชาศัลยศาสตร์อย่างที่ผมหวังเอาไว้  แต่ดูเหมือนคนที่ดีใจที่สุดจะเป็นพี่โอ
"เฮ้ย เจ ทำได้แล้ว ดีใจมั้ย"
พี่โอเอามือมายีหัวผมเล่น  เรามานั่งเล่นกันอยู่ที่สวนสาธารณะในมหาวิทยาลัย
"ผมยุ่งหมดแล้ว...  ดูพี่ดีใจกว่าเจอีกนะเนี่ย"
พี่โอหัวเราะ
"ก็เห็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วนี่นา  เจทำได้ก็เหมือนพี่ทำได้น่ะแหละ"
ผมมองไปที่บึงตรงกลางสวนสาธารณะ  
"นั่นสินะ  ไม่มีพี่โอ เจคงไม่มีวันนี้หรอก"
ผมเห็นจากหางตาว่าพี่โอก็หันหน้ามามองผม  ดวงตาเรียวนั้นจ้องนิ่งอยู่ที่ใบหน้าของผม
"เจ ..."
"ครับ"
ผมหันไปมองพี่โอ  ใบหน้าที่เห็นจนชินตา แม้ยามหลับตายังสามารถนึกได้ออก  ใบหน้านั้นอยู่ห่างผมเพียงไม่กี่คืบ
"พี่ .."

I want nobody nobody but you ...

เสียงโทรศัพท์ของพี่โอดังขึ้น  เราทั้งสองผละออกจากกันอย่างรวดเร็ว  ใจผมเต้นระส่ำ
พี่โอรับโทรศัพท์ ตอบรับสองสามคำแล้วแล้วก็กดวาง
"มีเคสเข้าน่ะ วันนี้พี่อยู่เวรด้วย เราคงต้องกลับแล้วแหละ"
ผมพยักหน้า แล้วเราสองคนก็เดินกลับไปที่รถของพี่โอพร้อมกัน
พี่โอทำท่าเหมือนจะพูดอะไรซักอย่าง แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา
ไม่เป็นไรหรอก ... ถ้ามันเป็นคำที่ผมควรจะได้ฟัง  ...
ซักวัน  ผมก็คงต้องได้ฟังมันแน่ ๆ

---------------------------------------------

ภาควิชาศัลยศาสตร์ต้องใช้เวลาเรียนทั้งหมด 4 ปี
ตอนนี้ผมอยู่ชั้นปีที่ 1 หรือที่เรียกว่า resident 1 (เรียกสั้น ๆ ว่าเดนท์ 1) ส่วนพี่โอเองก็เป็นเดนท์ 2
"เฮ้ย เจ  ดูบอร์ดยัง อาจารย์จัดตาราง rotate แล้วนะ"
ตาราง rotate หมายถึงตารางที่จัดเวียนกันว่าใครจะได้อยู่สายไหน
พี่โอวางจานข้างลงฝั่งตรงข้ามของผม  
"เป็นไงมั่งฮะ"
"ทายสิ"
เห็นใบหน้ากรุ้มกริ่มแบบนั้นของพี่โอ  ผมก็ไม่ต้องทายแล้ว เราต้องได้อยู่สายเดียวกันแน่ ๆ
การอยู่สายเดียวกันหมายถึงการที่จะได้ราวน์ด้วยกัน รับคนไข้ด้วยกันทุกเคส ได้เข้าผ่าด้วยกันบ้าง หรือบางทีก็อาจได้อยู่เวรด้วยกัน  
"จริงง่ะ"
"อื้ม"
"ดีจัง มีอะไรเจจะได้ consult พี่ให้หมดเลย" (consult = ปรึกษา)
"นี่ .. ไม่ต้องเลย  มีอะไรพี่จะได้ให้เจผ่าหมดเลยต่างหาก จะได้ไม่ต้องผ่าเอง"
"ขี้เกียจอ่ะ จะฟ้องอาจารย์"
"ฟ้องไปเลย เดี๋ยวพี่ฟ้องมั่งว่าเดนท์ 1 ไม่อยากเรียนรู้"
ผมมองหน้าพี่โอแล้วก็ยิ้มกว้าง  พี่โอเองก็หัวเราะตอบ  
ในตอนนั้น เสียงหัวเราะของเราสองคนดูเหมือนจะกลายเป็นเสียงเดียวกัน ...

-------------------------------------------------------------------

"เฮ้ยโอ  เคสนี้เอาเจไปเข้าด้วยสิ  เคสมันหายากน่ะ น้องจะได้ฝึกผ่าด้วย"
อาจารย์อาวุโสท่านหนึ่งเดินมาหาพี่โอในตอนเช้าเพื่อเปลี่ยนตารางการผ่า  โดยที่เดิมจะเป็นอาจารย์เข้าผ่ากับพี่โอ แต่อาจารย์คงเห็นว่าเป็นเคสที่หายากเลยอยากให้ผมเข้าไปฝึกเรียนรู้กับพี่โอด้วย
"ครับ"
ตอบรับไปก็หันมาทำหน้ากรุ้มกริ่มกับผมไปด้วย  ผมกล่าวขอบคุณอาจารย์แล้วก็หันไปค้อนพี่โอ  .. ไม่ได้กลัวอาจารย์เห็นเล้ยยย

"ขอม้าเตี้ยทางนี้ด้วยครับ"
พี่โอเน้นเสียงคำว่า "เตี้ย" ทันที่ที่ผมเดินเข้าไปประจำที่ที่ข้างตัวพี่โอ
ผมหันไปค้อนให้วงใหญ่ก่อนที่พี่โอจะร้องโอ๊ยเบา ๆ เพราะเท้าตัวเองโดนเท้าเล็ก ๆ ของคนข้างตัวเหยียบเข้าให้
"อย่าให้สูงมั่งนะ"
ผมพูดเสียงอาฆาต
"โหย กลัวจั๊ง"
พี่โอหัวเราะร่า
"เจเป็นมือ 1 แล้วกัน .. ไม่ต้องกลัวนะ พี่ cover อยู่นี่แหละ"
พี่โอให้ผมเป็นมือหลักในการผ่า ส่วนพี่โอจะคอยเป็นผู้ช่วยและคอยให้คำแนะนำอยู่ข้าง ๆ

"ถนัดมั้ยเจ เออ งั้นแหละ clamp artery ไว้ก่อน" (หนีบเส้นเลือดแดงไว้ก่อน กันเลือดไหล)
พี่โอคอยบอกผมเป็นระยะ ๆ
"กว้างอีกได้มั้ยพี่ เจไม่ถนัด"
ผมร้องขอให้พี่โอช่วยถ่างปากแผลออกอีก  
"ขอ Richardson ครับ"
พี่โอหันไปขอเครื่องมือจากพี่พยาบาลผู้ช่วย  ก่อนจะเอื้อมมือไปด้านหลังผมแล้วก็ดึงเครื่องมือถ่างปากแผลให้กว้าง
"พี่โอ .."
ผมกระซิบเบา ๆ  ก็สภาพตอนนี้มันเหมือนกับผมโดนพี่โอกอดอยู่เลยนี่นา
"หืม .. ก็บอกจะเอากว้างอีกไม่ใช่เหรอ  ก็ต้องงี้แหละ"
พี่โอตอบกลับเหมือนไม่รู้สึกอะไร  แต่ใบหน้ากรุ้มกริ่มนั้นมองหน้าผมอยู่  
"เอาเครื่องมา monitor heart rate surgeon ด้วยดีมั้ย เดี๋ยว shock แล้วจะลำบาก" (เอาเครื่องมาจับอัตราการเต้นหัวใจของหมอผ่าตัดด้วยดีมั้ย)
ผมมองค้อนให้หนึ่งที ก่อนจะกลับไปผ่าต่อ  
แม้แอร์ในห้องผ่าตัดจะเย็นแค่ไหน  แม้จะอยู่ภายใต้สภานการณ์อันตึงเครียด  แม้เสื้อผ้าที่กั้นพวกเราสองคนอยู่จะหนาแสนหนา  แต่
พี่โอกลับทำให้ผมใจเต้นอย่างประหลาด

--------------------------------

การผ่าตัดเคสนั้นสำเร็จได้ด้วยดี  ก่อนจะเริ่มเคสใหม่  ผมกับพี่โอต้องไปล้างมือและเปลี่ยนชุดอีกรอบ  ผมเปลี่ยนชุดเสร็จก่อนเลยมาคุมน้อง ๆ ปี 4 ใส่สายสวนปัสสาวะให้คนไข้
"ได้มั้ยน้อง ระวัง cont นะ" (contaminate = ปนเปื้อนเชื้อ)
ผมเตือน  รุ่นน้องพยักหน้า  แต่หลังลองสองสามครั้งก็ยังใส่ไม่ได้ซักที  ผมเลยขอไฟฉายมาส่องนำทาง
"อื้อ เห็นมั้ย .. ใส่เข้าไปลึก ๆ เลย ไม่ต้องกลัวเค้าเจ็บ"
ผมบอกเพราะตอนนี้วางยาสลบคนไข้ไปเรียบร้อยแล้ว  แต่พอหันมาด้านหลังก็เห็นพี่โอยืนจ้องหน้าผมอยู่
"ใส่เข้าไปลึก ๆ เลย .. ไม่ต้องกลัวเค้าเจ็บ"
พี่โอทวนประโยคของผม
"พี่โอ !!!"
ผมร้องขึ้น .. คิดไปได้นะคนเรา
พี่โอหัวเราะ
"เอ้า ใส่เสร็จรึยัง ผ่าวันนี้นะน้องไม่ใช่พรุ่งนี้"
พี่โอเร่งน้องจนน้องใส่สำเร็จ

ผมไม่รู้ว่าพี่โอคิดอะไรรึเปล่า
แต่ผมสิ .. ทั้ง ๆที่แอร์เย็นเฉียบขนาดนั้น กลับรู้สึกร้อน ๆ ที่หน้าอย่างบอกไม่ถูก

----------------------------------------------------------------------------

พี่โอเคยบอกผมว่า  ความรับผิดชอบเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ผมเพิ่งได้พิสูจน์มันเมื่อตอนที่ผมเป็น resident 2
เช้าวันนั้นผมกำลังราวน์อยู่  เป็นวันที่แปลกมากเพราะปกติพี่โอจะมาเช้ากว่าผมเสมอ แต่วันนั้นพี่โอกลับมาสายกว่า แถมพอมาก็กลับพูดน้อยผิดปกติ  บรรยากาศในการราวน์เลยค่อนข้างตึงเครียด
หลังจากราวน์ไปได้สองชั่วโมง  อาจารย์ท่านหนึ่งจึงเดินมาหาพี่โอ
"โอ .. กลับบ้านเถอะ  ไปจัดการอะไรให้เรียบร้อยก่อนค่อยมาก็ได้"
"ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมขอราวน์ให้เสร็จก่อนแล้วกัน"
"ไม่ต้องหรอก  เจมันราวน์แทนได้อยู่  ไปจัดการเรื่องที่บ้านเถอะ"
อาจารย์วางมือที่ไหล่ของพี่โอ  พี่โอหลับตานิ่ง  ถอนหายใจลึก ๆ ก่อนจะกล่าวขอบคุณอาจารย์
"เจ พี่ฝากด้วยนะ"
พี่โอหันมาพูดกับผมก่อนขอตัวกลับ
พอพี่โอกลับไป อาจารย์เลยหันมาพูดกับผมบ้าง
"ฝากหน่อยแล้วกันนะเจ  พอดีพี่ชายของโอเค้าเสียน่ะ  พ่อเค้าบอกให้อยู่จัดงานศพก่อน รายนั้นก็รั้นบอกว่าขอมาราวน์ pre-op ก่อน"   (การราวน์ก่อนการผ่าตัด เพื่อดูว่าสภาพของคนไข้พร้อมที่จะผ่าตัดรึเปล่า)
"ยังไงวันนี้โอคงไม่ได้กลับมา  อาจต้อง off บางเคสนะ"
ผมพยักหน้ารับคำ  แต่ในใจกลับว้าวุ่นไปด้วยเรื่องของพี่โอ

นี่เหรอ ที่พี่โอบอกว่าความรับผิดชอบมันสำคัญนักหนา
พี่โอทำได้ดีเยี่ยม ในเรื่องความรับผิดชอบในหน้าที่ของความเป็นหมอ
แต่พี่โอลืมไปรึเปล่า ว่าพี่โอไม่ได้สวมบทบาทหมอเพียงอย่างเดียว  พี่โอยังเป็นน้องชาย และเป็นลูกชายของครอบครัว  
ผมเคยรู้มาว่า บ้านพี่โอมีลูกชายสองคน  คือพี่โอ และพี่เอ พี่ชายของพี่โอ  ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวที่สนิทกันมาก  จนประมาณ
ช่วงที่ผมอยู่ ม.6 แม่พี่โอก็เสียไปด้วยโรคมะเร็ง  พี่เอและพี่โอต้องคอยปลอบใจพ่อที่ก็มีอายุมากแล้วไม่ให้คิดมาก
นี่พี่เอเสียไปอีกคน ...เจไม่อยากคิดเลยว่าพ่อพี่โอจะรู้สึกยังไง

เย็นวันนั้นผมโทรไปหาพี่โอ
"เจเหรอ  ขอโทษนะวันนี้เลยยุ่งเลย"
"บ้าเหรอ พี่จะขอโทษเจทำไม  ตอนนี้พี่อยู่ไหนเนี่ย"
"อยู่ที่บ้าน .."
เสียงพี่โอดูเหนื่อย ๆ ล้า ๆ
"เดี๋ยวเจไปหานะ"
ยังไม่ทันที่พี่โอจะได้ตอบปฏิเสธ  ผมก็ชิงวางสายก่อนแล้วขับรถไปที่บ้านพี่โอทันที  พอไปถึงก็เห็นที่บ้านพี่โอเงียบสงัดมาก
"พี่เอล่ะครับ"
"อยู่ที่วัดน่ะ พี่มาเอาของเดี๋ยวก็กลับไปที่วัดอีก"
"แล้วคุณลุงเป็นยังไงมั่ง"
พี่โอส่ายหน้า เหม่อมองไปไปไกล ๆ
"พี่ให้ ativan (ยานอนหลับ) ไปแล้ว หลับอยู่ข้างบนแน่ะ"
เราสองคนต่างคนต่างเงียบ  พี่โอก็เงียบ ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร มันเป็นภาวะที่อึดอัดมาก ที่ทั้ง ๆ ที่เราอยากทำอะไรเพื่อเขาแต่กลับทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง
"พี่โอ .."
ผมวางมือที่หน้าขาของพี่โอ  พี่โอตัวค่อนข้างจะเย็นเพราะนั่งตากอากาศนอกบ้านมาพักใหญ่ ๆ แล้ว
"เฮ้ย พี่โอเค ไม่เป็นไร"
แม้จะเสียงสั่นขนาดนั้น แต่พี่โอก็ยังพูดคำโกหกออกมา
"พี่โอ .. ร้องเถอะนะ  พี่ไม่ต้องเข้มแข็งแล้วก็ได้  ทำอะไรที่พี่อยากทำเถอะ .. แล้วพี่ค่อยไปเข้มแข้งให้คนอื่น ๆ เห็น  แต่อยู่กับเจพี่ไม่ต้องฝืนนะ"
ผมพูดไปน้ำตาก็ไหลไป
ผมรู้ว่าพี่โอต้องฝืนแค่ไหน  เพราะต้องเป็นหลักให้กับคนอื่น ๆ ถ้าพี่โอทำท่าเสียใจเพียงคนเดียวคนอื่น ๆ ที่เหลือคงใจเสียไปด้วย
พี่โอเริ่มจะสะอื้นเบา ๆ ก่อนจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็เอนหน้าลงมาซบกับไหล่ผม
มันเป็นภาพที่ดูไม่สมดุลเลย  ที่พี่โอที่ตัวสูงกว่าผมตั้งเป็น 10 เซนต์กลับมานั่งร้องไห้ซบผมอย่างนี้
แต่แม้แต่คนที่เข้มแข็งที่สุดก็ยังต้องมีวันที่อ่อนแอ
"ร้องเถอะพี่ .. ร้องให้พอ .. เจอยู่ตรงนี้แหละ ไม่ไปไหนแล้ว"



(ยังไม่จบนะคะ)
--------------------------------------------------

จากคนเขียน

สวัสดีค่ะ
ตอนนี้ก็เริ่มมีศัพท์เทคนิคเพิ่มขึ้น ใครที่ไม่เข้าใจก็ต้องขอโทษด้วย แต่ก็พยายามอธิบายไว้แล้ว ^_^
ว่าแต่ .. ไม่มีใครสะดุดหูกับชื่อจริงพี่โอเลยเหรอ 55 เค้าตั้งใจเลือกนะเนี่ยชื่อเนี้ยย
เป็นชื่อรุ่นพี่ที่ รร เก่าค่ะ ตอนนั้นยังงง ๆ ว่ามีคนชื่อนี้ด้วยเหรอ .. แต่พอเห็นในตำราตั้งชื่อก็ .. เออนะ .. ใช้ได้ ๆ
เหลืออีกตอนรึสองตอนนี่ล่ะค่ะก็จะจบแล้ว ^_^
ยังไงช่วยติดตามด้วยนะคะ ขอบคุณมาก ๆ ทุกท่านเลย >_<
สงสัยอะไรถามได้นะคะ ..
ส่วนใครที่อ่านแล้ว .. เฮ้ยย คุ้น ๆ เหมือนคนที่เรารู้จัก ...
เงียบไว้นะคะ เงียบว้ายยยยยย จะทายก็ทายมาใน pm แล้วกันเน้อออออ ^_^


นิว :: รักเหมือนกัน จุ๊บ ๆ >_<

กระต่ายชมจันทร์ :: หวัดดีจ้าาา เคยอ่านแล้วก็อุบไว้ก่อนนะ ^_^

mecon :: พูดเรื่องการแบกความหวังของคนรอบข้างในฐานะหมอได้เห็นภาพมากๆคะ >> นั่นสิคะ สงสัยเป็นความกดดันส่วนตัว 555

Vesi :: หุๆๆๆ คนอะไร perfect man จริงๆ >> นั่นสิเนอะ >_< แต่สำหรับเราพี่เจน่ารักกว่าพี่โอเยอะเลยนะคะ หุหุ

chae :: ว่าที่ตอบกลับอาจารย์เขาไปแบบนั้น พี่กลัวว่ามันจะผ่านใช่ไหมค่ะ >> แต่ก็ผ่านจริง ๆ นะเออ -_-

namtaan :: เป็นเรื่องสั้น(ขนาดยาว)ที่น่าอ่านจริงๆ
แค่ตอนแรกก็ชวนติดตามต่อมากๆ
เพราะตัวละครมีบุคลิกน่าสนใจทั้งโอ และเจเลย
>> ขอบคุณมากค่ะ ^_^


jannie :: พี่โอดู perfect จริงๆ >> ^_^ เป็น ผช ในฝันของหลาย ๆ คนเลยล่ะค่ะ


jedi2543 :: เรื่องน่ารักดีค่ะ มาต่อไวๆ นะคะ >>> มาแย้ว ๆ

@BUA@ :: เขียนเป็นเรื่องยาวเลยสิคะ
ท่าทางจะมีอะไรให้ติดตามอีกเยอะ
>> ตอนแรกก็คิดเหมือนกันค่ะ แต่เวลามันจำกัด .. เดี๋ยวรอรีไรท์แล้วกันเนอะ ^_^

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
+1 จัดไปสนุกเหมือนเคย อ่านแล้วแบบแอบลุ้นตามดี
ไว้ว่างๆจะเข้ามาอ่านอีก
นิว(ยิ้มเหนื่อยๆ)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Vesi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +204/-3
คิดไปคิดมาก็พี่โอเป็นคนที่น่าสงสารเหมือนกันนะ
เพราะเป็นคนที่ต้องคอยแบกรับความคาดหวังของคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะจากวิชาชีพหรือจากคุณลักษณะของเจ้าตัวเอง

OhJa

  • บุคคลทั่วไป
ตกลงพี่โอคิดกับเจยังไงกันแน่
ความสัมพันธ์ยาวนานแต่ก็ดูไม่คืบหน้าอะไรเลย
เหมือนเจยังหวังอะไรที่มันเลื่อนลอยยังงั้นแหล่ะ สงสารเจแฮะ :serius2:

jedi2543

  • บุคคลทั่วไป
สงสารพี่โอ แต่รู้สึกเหมือนว่าวันหนึ่งสองคนนี้ต้องจากกันยังไงไม่รู้

มันเป็นบรรยากาศที่แฝงความเศร้าน่ะค่ะ แต่ชอบนะคะเรื่องนี้

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
เรื่องแอบเศร้าๆยังไงไม่รู้ เอาใจช่วยคุณหมอสองคนค่ะ  :L2:

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
มา + พ.แพร ดีใจที่ได้อ่านฟิคอีก อิอิ สั้นยาว จัดมาเลย

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
พี่โออยากจะพูดอะไรกับน้องเจกันนะ
ลุ้นจริงๆ
แต่ที่ลุ้นกว่าคือ จะมีวันที่น้องเจไม่มีพี่โออยู่ข้างๆด้วยหรือเปล่านี่

บวกอีก 1 แต้ม ขอบคุณนะคะ

benxine

  • บุคคลทั่วไป
อยากรู้จริงๆ ไอ้คำที่ซ่อนอยู่ นี้คือคำว่าอะไร !!

มาต่อไวๆนะคร๊าบบ

 :L2:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ทำไมอ่านแล้วรู้สึกเหมือนว่าจะเส้า !!
มันจะไม่เส้าใช่ป่ะหว่า

ออฟไลน์ ||||Crazy_Y||||

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 724
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +441/-2
หลังจากวันนั้นสามวันก็เป็นวันเผา  ผมไปร่วมงานด้วย และได้เจอพี่ดาว แฟนพี่เอในงาน  ผมมองพี่ดาวก็รู้ว่าคงผ่านการร้องไห้มามากมาย    ผมเคยได้ยินจากพี่โอว่าพี่เอกับพี่ดาววางแผนจะแต่งงานกันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าหลังจากคบกันมาถึงแปดปี
แต่สุดท้าย ...
เป็นผมคงทนไม่ได้แน่ ๆ ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับผม
"เจ มานานรึยัง"
พี่โอเดินมาทักผม  สีหน้าดูดีกว่าวันนั้นที่ผมเจอมาก
"ยังครับ  พี่โอเคมั้ย"
พี่เจพยักหน้า 
"โอเคแล้ว ขอบใจมาก ๆ นะ แล้วได้หวัดดีพ่อยัง"
"ยังเลยครับ"
พี่โอได้ยินดังนั้นเลยพาผมไปสวัสดีคุณพ่อของพี่โอ
คุณพ่อของพี่โออายุราว ๆ หกสิบปี  ท่านดูเลื่อนลอย แม้แต่ตอนที่ผมไปไหว้ท่านยังไม่ค่อยจะสนใจด้วยซ้ำ
พี่โอพาผมไปสวัสดีคุณพ่อเสร็จเราก็เดินออกมาคุยกัน
"พี่ว่าจะบวชซักอาทิตย์นึง .. เจอาจหนักหน่อยนะ ช่วงนี้เคสเยอะอ่ะดิ"
"ไม่เป็นไรพี่ บวชเถอะ เจไหว"
พี่โอถอนหายใจ  แล้วทำท่าเหมือนจะพูดอะไรซักอย่างแต่ก็ยังคงอ้ำอึ้งอยู่
จนในที่สุดพี่โอคงตัดสินใจได้
"เจ"
"ครับ"
ผมตั้งใจฟัง  สิ่งที่พี่โอจะบอกในเวลานี้คงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ แน่นอน

"พ่ออยากให้พี่แต่งงาน .."

....

ผมเดาไม่ผิดเลย มันเป็นสิ่งที่สำคัญจริง ๆ
เป็นสิ่งที่พี่เจควรจะทำในฐานะลูกชายคนเดียวที่เหลืออยู่ คือการทำให้ผู้เป็นพ่อสบายใจ
แต่ทำไมผมกลับ ...

"อืม  ก็ .. ดีแล้วแหละพี่  พ่อพี่จะได้สบายใจด้วยเนอะ"
"เจ .."
"พี่โอไปรับแขกเหอะ  แขกมาเยอะแล้วนะ"
ผมตัดบท ก่อนจะเดินไปอีกทางหนึ่ง
ในใจมันอึ้ง ๆ หน่วง ๆ ยังไงไม่รู้  มันบรรยายไม่ถูก เหมือนมันจะตื้อ ๆ ไปหมด
พี่โอจะต้องแต่งงาน ..

นั่นสินะ  มันก็เป็นอีกหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบใช่มั้ยล่ะ ..
นั่นสินะ มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว
--------------------------------------------------------------------
ช่วงที่พี่โอบวชอยู่  ก็เป็นช่วงที่ผมต้องย้ายสายไปอยู่สายอื่นพอดี 
หลังจากนั้นทั้งผมและพี่โอก็แทบจะไม่ได้คุยกันอีก  ถ้าต้องคุยกันเรื่องงานผมก็จะรีบพูดรีบรวบรัดให้เสร็จ  หลังจากนั้นหลายต่อหลายครั้งที่พี่โอทำท่าเหมือนอยากพูดอะไรกับผมแต่ผมก็ไม่เคยเปิดโอกาสให้พี่โอได้พูด

จนเวลาผ่านไปสามปี
ผมเรียนใกล้จะจบแล้ว  พี่โอเองก็จบเป็นอาจารย์แล้ว ผมกับพี่โอได้เวียนมาอยู่สายเดียวกันอีกเป็นบางครั้ง แต่เป็นการอยู่สายเดียวกันที่บรรยากาศอึมครึมมาก  เวลาราวน์พี่โอก็แยกไปราวน์กับรุ่นน้องคนอื่น  เวลาผ่าก็จัดไม่ให้ได้ผ่าห้องเดียวกัน  ผมกับพี่โอแทบจะไม่คุยกัน จนอาจารย์ต้องเรียกเราทั้งสองไปคุยว่ามีปัญหาอะไรกันหรือไม่
แน่นอน เราทั้งสองปฏิเสธ
เพราะเราทั้งสองคนต่างก็รู้ว่า มันไม่ใช่ปัญหาที่จะพูดให้คนอื่นฟังได้

พี่โอมีแฟนแล้ว  เธอเป็นรุ่นน้องของผมหนึ่งปี ชื่อเล็ก  เธอเป็นผู้หญิงอ่อนหวาน บอบบาง  เป็นแฟนที่แสนดี  บางครั้งที่พี่โออยู่เวรเล็กก็ซื้อข้าวมาฝาก บางครั้งก็นั่งกินข้าวด้วยกัน ทำให้ผมที่นั่งอยู่ในห้องต้องหาเรื่องออกมานอกห้องพักแพทย์เกือบทุกครั้ง
ผมได้ยินคนอื่น ๆ เล่ากันว่าพี่โอเป็นแฟนที่ดีมาก เป็นสุภาพบุรุษ เทคแคร์เล็กเป็นอย่างดี
มันก็ดีแล้วสินะ ..
ยังไงมันก็คงต้องเป็นแบบนั้นแหละ

ทุกครั้งที่เห็นพี่โออยู่กับเล็ก ในใจผมมันรู้สึกแปลบ ๆ ราวกับมีเข็มนับพันเล่มทิ่มแทงจากข้างใน
แต่ผมทำอะไรกับมันไม่ได้  ทำอะไรไม่ได้เลย
------------------------------------------------------------------
ในที่สุด ผมก็เรียนจบ
อาจารย์จัดงานเลี้ยงฉลองให้เรา  น่าบังเอิญที่มันเป็นที่เดียวกับผับที่ผมกับพี่โอเคยชอบมาดื่มด้วยกันบ่อย ๆ ในสมัยก่อน
เราดื่มกินกันจนดึกดื่น  อาจารย์ที่อาวุโสก็เริ่มกลับทีละคนสองคน  สุดท้ายก็เหลือแต่รุ่นพี่และเพื่อน ๆ รุ่นเดียวกัน
จนถึงเวลาที่ผับปิด ก็เหลือเพียงไม่กี่คน
"เจ .. พี่รบกวนหน่อยสิ"
พี่ชัย รุ่นพี่คนหนึ่งเดินมาหาผม
"ครับ"
"พี่ฝากไปส่งไอ้โอหน่อยสิ เมาเละแบบนี้ขับรถไม่ได้หรอก"
พี่ชัยบุ้ยใบ้ไปที่โต๊ะตัวหนึ่งที่มีพี่โอนอนฟุบอยู่บนนั้น
"พี่จะไปส่งไอ้เอ๋กับไอ้ยะน่ะ มันคนละทางกับหอไอ้โอเลย"
ผมไม่ได้คิดนานเพราะเกรงใจรุ่นพี่
"อ๋อ ได้ครับพี่"
"ขอโทษนะที่ต้องรบกวนเรา  พี่รู้ว่าเราไม่ค่อยถูกกัน"
"ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ ไม่เป็นไรครับพี่ชัย  พี่ไปส่งพี่ยะกับพี่เอ๋เถอะ ไม่ต้องห่วงทางนี้"
"ฝากด้วยแล้วกันนะ"
พี่ชัยพูดแล้วก็เดินไปหิ้วปีกพี่เอ๋กับพี่ยะไปที่รถ  ทิ้งผมไว้กับพี่โอเพียงสองคน

กว่าผมจะลากพี่โอขึ้นมาบนหอได้ก็เรียกว่าทุลักทุเลกันเลยทีเดียว  ด้วยส่วนสูงของพี่โอที่มากกว่าผม  น้ำหนักที่มากกว่าและความเมาจนไม่รู้สึกตัวของพี่โอทำให้คนที่แบกรับภาระทั้งหมดกลายเป็นผม
หลังทุ่มพี่โอลงบนเตียงเสร็จ  ผมก็เหนื่อยจนต้องนั่งพักบนเตียงด้วย  พอหายเหนื่อยผมถึงมีเวลาหันไปพิจารณาคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ
พี่โอยังคงเป็นเหมือนเดิม  เป็นเหมือนพี่โอคนเดิมที่ผมเคยรู้จัก  สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมก็มีแค่เรื่องระหว่างเรา
"เฮ้อ"
ผมถอนหายใจ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองต้องกลับเสียที
แต่ก่อนที่ผมจะเดินออกไปจากห้อง  ก็ได้ยินเสียงแหบเครือของพี่โอที่ดังขึ้น
"เจ .."
ผมว่าผมคงหูฝาด
"เจ .."
ผมหันไปมองร่างที่อยู่บนเตียง  สองมือปัดป่ายสะเปะสะปะไปทั่ว

ไม่หรอก ..
ผมไม่ควรเดินกลับไป
มันไม่ใช่ที่ของผมแล้ว
"เจ .."

"พี่รักเจ"

....
น้ำตาผมไหลออกมาไม่หยุด  ผมอธิบายไม่ได้เหมือนกันว่ามันไหลออกมาเพราะอะไร
ผมได้ฟังประโยคนั้น .. ประโยคที่ผมอยากฟังมาตลอด
แต่มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยในตอนนี้  มันไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย ..

ผมเดินกลับไปที่เตียง  นั่งลงที่ขอบเตียงก่อนมองพี่โอที่ยังคงนอนอยู่อย่างนั้น แต่ตาเรียว ๆ สองข้างพยายามปรือปรอยขึ้นมามองผม
"พี่รักเจ"
พี่โอย้ำอีกครั้ง  ผมส่ายหน้า
"พี่อย่าพูดเลย  พอเถอะ  มันไม่มีประโยชน์อะไรแล้วล่ะตอนนี้ .. อย่าทำให้เจรู้สึกผิดเลยนะ"
ผมพูดไปสะอื้นไป
พี่โอป่ายมือไปมาจนมาโดนมือผม  แล้วพี่โอก็กำมันไว้อย่างนั้น
"พี่รักเจ"
พี่โอพูดซ้ำอีกครั้งเหมือนกลัวผมไม่ได้ยิน

ผมได้ยินแล้ว .. ได้ยินมันบาดลงไปถึงหัวใจแล้ว
แต่มัน ..

ผมล้มตัวลงนอนสะอื้นเบา ๆ อยู่ข้างตัวพี่โอ 
ถ้าเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นเมื่อสามปีที่แล้ว  ถ้าสถานการณ์มันไม่ต้องเป็นอย่างนี้  ผมคงจะมีความสุขกว่านี้นับพันนับหมื่นเท่า
คำรักที่ควรจะทำให้คนเรามีความสุขกลับทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดอย่างที่สุด 

"เจก็รักพี่"

ผมพูดคำนั้น ... ในใจ
--------------------------------------------------------------------
"พี่โอคะ ..เปิดประตูหน่อย  พี่โอ"
เสียงเรียกที่หน้าห้องทำให้ผมตื่นขึ้นมาอย่างงุนงง ก่อนจะเหลือบไปเห็นนาฬิกาบนผนังที่บอกเวลาเที่ยงตรง
ตายล่ะ .. ผมไม่ได้ไปราวน์
เสียงเคาะประตูที่หน้าห้องยังคงดังอย่างต่อเนื่อง  จนในที่สุดก็ได้ยินเสียงไขกุญแจพร้อม ๆ กับประตูที่เปิดออกโดยที่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัว
"พี่โอคะ  วันนี้ทำไมไม่ไปราวน์เช้า .. แล้วเล็กโทรหาตั้งหลายรอบพี่ก็ ..."
หญิงสาวที่เพิ่งก้าวเข้ามาในห้องหยุดชะงักกลางประโยคเมื่อเห็นว่าภายในห้องไม่ได้มีแค่พี่โอคนเดียว 
กลับมีผม  ที่อยู่ข้าง ๆ พี่โอ .. ที่สำคัญ  อยู่ในอ้อมกอดของพี่โอ
"พี่เจ"
เล็กครางขึ้นเบา ๆ
"สะ .. สวัสดีเล็ก"
ผมไม่รู้ว่าควรทำหน้ายังไง  เลยได้แต่แกะมือพี่โอออก  เจ้าตัวยังไม่ตื่นคงเพราะเมื่อคืนดื่มไปเยอะ
"พี่เจ .. มา .. ทำอะไร"
เสียงของเล็กแผ่วเบา  ดวงตากลมโตมองสำรวจทั้งผมและพี่โออย่างสังเกตสังกา
"พี่มาส่งพี่โอเมื่อคืนนี้แล้วก็เลย .. ง่วง .. ก็เลยขอนอนที่ .."
"พี่กับพี่โอมีอะไรกันน่ะ"
เสียงของเล็กดังขึ้น
"เปล่านะเล็ก มันไม่มีอะไรจริง ๆ"
เล็กยังคงจ้องพวกผมสองคนอยู่  ใบหน้าบรรยายไม่ถูกว่าคิดอะไรอยู่บ้าง
"พี่เจชอบพี่โอใช่มั้ยคะ"
เล็กถามผมตรง ๆ ผมได้ยินคำถามก็ถึงกับอึ้งไป
ผมไม่เคยถามตัวเอง  ว่าผมชอบพี่โอรึเปล่า

ไม่เคยต้องถาม เพราะคำตอบที่มีชัดเจนมาหลายปีแล้ว

"..."
ผมไม่ได้ตอบอะไรไป  แต่เล็กก็คงรู้ได้จากท่าทางของผม
"พี่เจ .. เลิกยุ่งกับเราเถอะ  พี่โอเป็นแฟนเล็กนะ  เค้าไม่ได้เป็นอย่างพี่หรอก"
สิ่งที่เล็กพูด มันทำให้ผมหวนนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืน
แต่ผมพูดอะไรไม่ได้เลย  ผมเถียงเล็กไม่ได้เลย
ไม่ว่าเราสองคนจะรู้สึกยังไง  ไม่ว่าพี่โอจะชอบผมรึไม่  มันไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย
ผมนึกถึงคำพูดที่พี่โอเคยบอกผมเมื่อหลายปีที่แล้ว
"บางเรื่องเราก็รู้นะว่าความจริงมันเป็นยังไง แต่เราก็ทำอะไรกับมันไม่ได้"
ใช่ .. เราทำอะไรกับมันไม่ได้จริง ๆ

------------------------------------------------------

อีกตอนก็จบแล้วล่ะค่ะ ^_^ :-[

ปล นิวเป็นไรอ่ะที่ร๊ากก เหนื่อยไรเหรอ ?

speedboy

  • บุคคลทั่วไป
เอ้าเครียดกันเข้าไป  เหนื่อยเนอะ

เอาใจช่วยนะคร้าบ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด