ขอบคุณสำหรับคำแนะนำจากพี่ๆ น้องๆ ป้าๆ ลุงๆ นะครับ
บทส่งท้าย 2 มาแล้วครับ แล้วก็คงต้องจบเลยอ่ะ ฉากเอ็กซ์เขียนไม่เป็นคร้าบบบ (มันสยิว) จินตนาการกันเอาเองนะ กัณต์พาชาลีไปกระท่อมกลางสวนแล้วอุ้มลงมาจากรถแล้วไงต่อ ก็ นึกภาพเองก็แล้วกัน
หวังว่าคงไม่ค้างแล้วนะครับ อิ อิ ส่วนปมอื่นๆ ก็ทิ้งมันไว้ยังงั้นล่ะ (
พูดแบบนี้น่าเตะเนาะ)
เรื่องนี้ผู้เขียนเครียดมากมาย ขอพักไปหาเงินเลี้ยงลูกก่อนนะครับ เด็กคนนี้มันกินเยอะจริงๆ คิดดู ไปกินก๋วยเตี๋ยวด้วยกัน เสียเงินไปหนึ่งร้อยบาทถ้วน สองคน สี่ชาม เด็กวัยรุ่นนี่กินเยอะจริงๆ ให้ตายสิ เอาลูกเขามาเลี้ยง เอาเมี่ยงเขามาอมก็แบบนี้ล่ะ เฮ้อ ว่าแล้วก็ขอฝากหนังสือนิยาย คดีรัก ภาค 1 ไว้ในอ้อมใจของทุกท่านด้วยนะครับ ใครมีเพื่อนก็ช่วยโฆษณาให้หน่อยนะ แบบว่าหนังสือมันยังเหลืออีกเยอะ ไม่น่าพิมพ์เองผับผ่าสิ
บทส่งท้าย 2
กัณต์จอดรถหน้ากระท่อมกลางสวนของคนที่เขารู้จักซึ่งอนุญาตให้เขาใช้เป็นสถานที่ 'สอบสวนผู้ต้องหา' เขารู้จักคนในพื้นที่หลายคน ชาลีไม่รู้ว่าตัวเอง 'หนี' กรุงเทพฯ มาอยู่ในจังหวัดที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี
...เขารอเวลานี้มานาน เขารอจนชาลี 'เย็น' ลง แล้วถึงได้ตามมา...
ชาลีนั่งเงียบมาตลอดทาง กัณต์ค่อนข้างแปลกใจ ตอนแรกเขานึกว่านายแพทย์จอมพยศจะโวยวายที่โดนเขาบังคับพามายังกระท่อมกลางสวนที่อยู่ติดกับชายแดนไทย-พม่า
...หรือว่าชาลีรอเวลาที่จะกลายเป็นพายุพัดกระหน่ำให้พังพินาศ ก่อนพายุครั้งใหญ่ ทุกอย่างมักจะเงียบสงบ...
...แต่วันนี้เป็นไงเป็นกัน...
“เอาล่ะ มาถึงนี่แล้ว คุณจะเอายังไงก็ว่ามา หรือจะต้องรอให้ฝนตกซะก่อน" ชาลีหันมาพูดเสียงเย็นกับกัณต์ มือเปิดประตูรถออกไปให้ลมเย็นโชยเข้ามา แต่ตัวเองยังนั่งกอดอกอยู่บนเบาะในรถ
“คุณก็รู้ว่าผมจะเอายังไง"
“ผมขี้เกียจเดา พูดมาเถอะ ไหนๆ คุณก็ใช้วิธีโบราณๆ เหมือนครั้งติดฝนในรถที่สุพรรณบุรี อยากจะพูดอะไรก็พูด แต่อย่าให้ถึงกับลากผมเข้าไปในกระท่อมแล้วล่ามโซ่เหมือนหนังเรื่องจำเลยรัก"
“ชาลี เมื่อไหร่คุณจะอ่อนให้ผมซักที" กัณต์ถอนหายใจ "ผมอุตส่าห์ตามมาจนถึงขนาดนี้"
“ผมไม่ได้เกลียดอะไรคุณนี่"
“บอกมาสิว่ารักผม" กัณต์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ "คุณได้ยินผมบอกรักไปแล้ว คุณรอผมพูดคำนั้นอยู่ ผมพูดให้คุณได้ยินแล้วไงครับ คราวนี้ตาคุณพูดบ้าง"
“คิดว่าบรรยากาศแบบนี้จะทำให้ทุกอย่างเรียบร้อยยังงั้นหรือ" ชาลีประชด "รอให้พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินหน่อยดีไหมหมวด แล้วค่อยไปน่ังอยู่ริมแม่น้ำตรงโน้น แล้วเราค่อยจับมือบอกรักกัน"
...พอกันที จะพูดกันดีๆ ไม่ได้หรือยังไง อยากได้บรรยากาศโรแมนติกนักใช่ไหม ได้เลย กัณต์จะจัดให้...
กัณต์ลงจากรถ เดินอ้อมมาอีกด้านของรถ สอดแขนเข้าไปโอบเอวของชาลี แล้วดึงตัวลงจากรถ ชาลีผลักอกของกัณต์สุดแรง แต่ร่างหนาบึกบึนของนายตำรวจหนุ่มไม่สะเทือนเพราะเตรียมตัวรับอยู่แล้ว
“ผมจะแสดงหนังเรื่องจำเลยรักให้ดู" กัณต์พูดด้วยน้ำเสียงคุกคาม
“สารวัตรกัณต์ อย่านะ...” ชาลีห้าม
“ทำไมคุณจะจงเกลียดจงชังผมนัก นาวินก็ชอบผม น้องคุณชอบผมก็แสดงว่าเราน่าจะไปกันได้ ผมช่วยคุณดูแลน้อง มีแฟนแบบนี้ไม่ดีหรือไง"
“คุณจะทำอะไร...”
“ผมจะแสดงบทรัก" กัณต์ตอบเสียงเข้ม "ให้คุณรู้อย่างไม่ต้องสงสัยต่อไปอีกว่าผมรักคุณ"
“อย่ามาทำอะไรบ้าๆ" ชาลีชกเข้าที่อกของกัณต์
“อย่าใช้กำลังนะครับ ผมขอเตือนไว้ก่อน"
“ทำไม" ชาลีเอียงหน้าท้าทาย "คุณจะทำอะไรผม"
“ก็ไม่แน่...”
“ปล่อยนะกัณต์" ชาลีพยายามเบี่ยงตัวหนี "อย่ามาเล่นอะไรเป็นเด็กๆ"
“ผมทำถึงขนาดนี้ คุณยังจะว่าเด็กอยู่อีกหรือ ไม่เห็นความเป็นผู้ใหญ่ของผมหรือไง" กัณต์ตอบ เบียดร่างกายท่อนล่างเข้ากับชาลี จงใจให้อีกฝ่ายรู้ว่า 'อารมณ์' ของเขากำลังพุ่งพล่าน และเขานั้น 'ไม่ใช่เด็ก'
“พอเถอะ พูดกันดีๆ ขอกันดีๆ ก็ได้ ไม่ต้องมาใช้กำลัง คุณจะทำที่ไหน ที่นี่ หรือในกระท่อม" ชาลีพูดเสียงเย็นชา "หรือในรถ"
กัณต์อึ้ง รู้สึกฉุนกึกทันที่เมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่าย ชาลีเบ้ปากแล้วผลักกัณต์เบาๆ คราวนี้ นายตำรวจหนุ่มลดแขนลง ปล่อยให้ชาลีเป็นอิสระจากการถูกโอบกอด
“ในน้ำที่ลำธารดีไหม" กัณต์เค้นเสียงออกมาจากลำคอ จ้องหน้าของชาลี ตาลุกวาว "คุณคิดว่าที่ผมต้องการคุณเพราะแบบนี้อย่างเดียวงั้นหรือ"
“จำไม่ได้หรือครับหมวด...”
“สารวัตร" กัณต์กระแทกเสียง
“คุณเป็นคนท้าให้ผมลองเอง จำไม่ได้หรือ ไม่ลองจะรู้ได้ยังไง ตกลงรู้ผลแพ้ชนะหรือยังครับ ใครเป็นคนพ่ายเสน่ห์ใคร...” ชาลีจ้องหน้านายตำรวจเช่นกัน
“ยัง"
“อยากชนะมากหรือไง...”
“ใครบอก ผมก็พูดไปแล้วว่าผมยอมแพ้ ผมติดใจคุณ" กัณต์เสียงอ่อนลง "ผมอยากทำอีก ครั้งแล้ว ครั้งเล่า แต่ไม่ใช่เพราะความอยากธรรมดาๆ นะชาลี เพราะ...”
“รัก...” ชาลีแทรก มองตาของกัณต์อย่างค้นหา "คุณรักผมจริงๆ หรือกัณต์ คุณก็รู้ว่าผมเป็นยังไง"
“ทำไมคุณต้องเป็นแบบที่คุณพยายามบอกว่าตัวเองเป็นล่ะ มันมีอะไรอยู่อีกหรือชาลี คุณยังมีข้อข้องใจอะไรอยู่อีก...” เสียงของกัณต์อ้อนวอน "จะให้ผมพิสูจน์อะไร พิสูจน์ยังไง นานเท่าไหร่"
“เราจะไปกันได้หรือครับ...” ชาลีพูดเสียงแผ่ว
“ผมช่วยคุณดูแลนาวินได้ก็แล้วกัน" กัณต์ยื่นหน้าเข้ามาจนเกือบชิดใบหน้าขาวสะอาดของชาลี "ผมจะอยู่เคียงข้างคุณ เราจะเติมเต็มให้กันและกัน ผมอยากช่วยคุณดูแลน้อง ถ้าการดูแลน้องเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคุณตอนนี้"
“อีกหน่อยนาวินก็จะเรียนจบ สอบเข้ามหาวิทยาลัย เขาก็จะจากผมไป คุณก็ไม่ต้องมาช่วยผมดูแลน้อง...”
“แน่ใจหรือว่าอยากทำอย่างนั้น คุณลองคิดดูสิ รูปร่างหน้าตาอย่างนาวิน ไกลหูไกลตาคุณไปเรียนที่อื่น อยู่หอพัก จะรอดปากเหยี่ยวปากกาไปได้ยังไง ทั้งเหยี่ยวตัวผู้ กาตัวเมีย ผมท้าได้เลยว่าไม่เกินต้อนรับน้องใหม่เสร็จหรอก นาวินก็จะต้องถูกย่ำยี เพราะฉะนั้นคุณต้องการคนที่แข็งแกร่งคอยช่วยกัน คุณไปส่งน้องที่มหาวิทยาลัย ผมไปรับกลับ ต้องคอยช่วยกันกำกับดูแล" กัณต์เสียงพร่า ยื่นจมูกโด่งคมสัมผัสกับจมูกของคนที่อยู่ตรงหน้า มือสอดเข้าไปแตะสีข้างของชาลีแล้วลูบไล้เบาๆ พูดเสียงอ่อนโยนว่า "ลืมซะเถอะ ชาลี ปล่อยมันไป ผมขอร้อง"
“แล้ว...”
“คุณรู้ไหม นาวินยิงปืนแม่นมาก ไม่น่าเชื่อ สอนไม่กี่ครั้ง เรียนรู้ได้เร็วจริงๆ ผมว่าให้เขาเป็นตำรวจ รับรองรุ่งแน่ๆ เห็นไหมล่ะ มีผมคุณก็มีคนช่วยดูน้อง"
“ไม่ได้ ผมไม่ให้น้องเป็นตำรวจ" ชาลีส่ายหน้า
“ผมรู้ว่าคุณไม่ชอบตำรวจ"
“นาวินต้องเป็นวิศวกร พี่ชายเขาอยากให้เป็นวิศวกร"
“ผมจะช่วยสอน" กัณต์แตะริมฝีปากลงบนแก้มของชาลี ลมหายใจร้อนผ่าวทำให้คนที่ได้รับการสัมผัสถึงกับสั่นสะท้าน
“ตำรวจจะสอนให้เป็นวิศวกรได้ยังไง คนละอาชีพ มันแตกต่างกัน"
“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ เพื่อคุณ ผมทำได้ ผมจะพยายาม" กัณต์พูดอย่างอ่อนโยน "แต่คุณต้องเชื่อใจผม"
“คุณตามใจเด็ก จะทำให้เด็กเสียคน คุณแอบพาเขาไปยิงปืน นี่คงกำลังจะสอนให้ขับรถ คุณกำลังจะแย่งนาวินไป"
“ผมช่วยแบ่งเบาภาระคุณต่างหาก คุณห้ามไม่ได้หรอก อีกหน่อยเขาก็จะโตเป็นผู้ใหญ่ คุณต้องปล่อยวาง อะไรก็ต้องเปลี่ยนไป นาวินต้องการอีกคนที่จะมาช่วยเขา เด็กต้องมีทั้งพ่อและ...โอ๊ย"
กัณต์แกล้งทำตัวงอเพราะโดนต่อยเข้าที่ท้อง แต่จากนั้นก็หัวเราะเบาๆ วงแขนแข็งแรงกอดรัดชาลีแน่น "เห็นไหมล่ะ อะไรที่มันขาดอยู่ คุณต้องเติมให้เต็ม ไม่มีผม คุณจะดูแลน้องให้มีความสุขเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ได้ยังไง ใครจะคอยปกป้องน้องคุณจากพวกอันธพาล ผมเป็นตำรวจ ผมมีปืน ผมดูแลปกป้องคุณกับน้องได้ ไม่ดีหรือครับ มีบอดี้การ์ดคอยดูแล ทั้งร่างกาย ทั้งหัวใจ...”
“แต่คุณต้องสัญญา" ชาลีเสียงอู้อี้ หายใจหอบกระชั้น สัมผัสของกัณต์เริ่มหนักหน่วงมากขึ้น "คุณต้อง... ต้องเลิก... ติด... สินบน... น้อง... ผม...”
“ครับ สัญญา ยอมทุกอย่าง แต่คุณต้องสัญญาด้วย ว่าจะเลิกเอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้าง ผมถามนาวินแล้ว นาวินอยากกลับกรุงเทพฯ คุณรักน้อง ต้องดูแลน้องไม่ใช่หรือ ถ้าน้องอยากกลับ คุณก็ต้องตามใจ ไม่งั้นจะเรียกว่ารักน้องได้ยังไง" กัณต์เสียงแตกพร่า แทบจะทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
...เขาอยากจะหยุดคุย อยากจะทำอย่างอื่น ที่ไม่ต้องใช้คำพูด...
...อย่างอื่น ที่มีแต่เสียงหายใจหอบกระเส่า และเสียงครางเพราะมีความสุข...
“รักน้อง ต้องตามใจน้องนะครับ ชาลี"
“ฮื่อ...”
“รักไหมครับ ตกลงนะครับ"
“อือ...”
“รักหรือเปล่า"
“รัก...”
.. จบ...
เรื่องหน้า เบื่อตำรวจกันหรือยังครับ รักวุ่นๆ ของตำรวจจอมกวน ชื่อ หมวดเรียว
หรือใครชอบสืบสวนสอบสวน ฆาตรกรรมซ่อมเงื่อน บู๊ล้างผลาญ แนวสายลับ
หรือใครชอบเรื่องผู้ชายเจ้าชู้แย่งกันไล่จีบคุณชายจอมหยิ่ง
หรือใครชอบเรื่องแนว Sci-Fi วิทยาศาสตร์ เสียดสี แดกดัน ตลกเจ็บๆ?
หรือเศร้าเคล้าน้ำตา
หรือรักโรแมนติกซึ้งๆ (ไม่รู้มีปัญญาเขียนแนวนี้ได้หรือเปล่าอ่ะ)
พอดีว่าจับปากกาขีดๆ เขียนๆ โครงเรื่องเอาไว้หลายเรื่อง (เพราะพักหลังๆ ชักฟุ้งซ่าน) ถ้าสนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จะได้หยิบมาเขียนต่อให้จบ
ขอบคุณครับที่ติดตามอ่านมาตลอด ขอบคุณจริงๆ นะ
Katawoot: คนที่เลิกเจ้าชู้