ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0“เห้ย เป็นอะไรอ่ะเนี่ย พึ่งจะซื้อมาแท้ๆ” ผมบ่นกับตัวเองพร้อมกับสายตาจ้องมองไปยังโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่ที่พึ่งจะซื้อมาได้ไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ อยู่ดีๆเป็นอะไรของมันก็ไม่รู้เปิดเครื่องไม่ติดซะงั้น
“ฮัลโหลไก่ แกไปดูให้หน่อยดิว่าร้านพี่เจงเปิดหรือป่าว” ผมโทรหาเพื่อนที่บ้านมันอยู่ใกล้ๆกับร้านซ่อมคอมที่ผมเป็นลูกค้า
“ไม่เปิดหว่ะเห็นมีป้ายปิดไว้หน้าร้านว่าหยุดสองวัน” ไอ้ไก่บอก
“เออ ขอบใจ” ผมบอกก่อนจะวางสาย
“แล้วจะเอาไปซ่อมร้านไหนดีหว่ะเนี่ย เครื่องยิ่งแพงๆอยู่” บ่นพลางคิดหาร้านแต่คิดไงก็คิดไม่ออก
ผมจึงให้วิธีง่าย ๆ คือขี่หาไปเรื่อยๆ ร้านไหนเข้าตาดูมาตรฐานหน่อยก็เอาร้านนั้นแหละ
“พี่ครับผมเอาเครื่องมาซ่อม” ผมบอกพร้อมเอายกกระเป๋าให้กับพี่สาวคนนั้น
“อาการมันเป็นยังไงเหรอค่ะ”
“มันเปิดไม่ติดอ่ะครับ ไม่รู้ว่าเป็นอะไร” ผมตอบพลางเกาหัว
“อืม แต่ตอนนี้ช่างไม่อยู่นะค่ะ กว่าจะกลับก็คงเย็นๆ น้องรีบใช้เครื่องหรือป่าวหล่ะค่ะ”
“ก็รีบนิดหน่อยครับ ถ้าได้วันนี้จะเป็นการดีมากเลย” ผมตอบพร้อมยิ้มหวานๆให้พี่สาวไปหนึ่งที
“งั้นเด๋วพี่โทรเร่งช่างให้เลยดีไหม”
“ดีครับ” จากนั้นพี่สาวก็กดโทรศัพท์คุยกันประมาณสักสองสามนาทีก็หันมาบอกกับผมว่า เครื่องคงเสร็จประมาณสามทุ่มยังไงก็ให้โทรมาถามอีกที แล้วพี่เขาก็จดใบรับซ่อมสินค้ายื่นให้กับผม
“ขอบคุณครับ แล้วร้านพี่ปิดตอนไหนเหรอครับ”
“ก็ประมาณสามทุ่มนั่นแหละค่ะ อย่ามาช้าหล่ะเด๋วช่างนอนหลับไปก่อนพอดี”
“ครับ” ผมบอกก่อนที่จะขี่รถกลับห้อง
“น่าเบื่อจัง ไม่มีไรทำเลย” ผมบ่นกับตัวเองไม่มีคอมเล่นมันเหงาๆยังไงพิกล คิดอะไรไปเพลินๆ จนหลับไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ มารู้สึกตัวก็ตอนที่โทรศัพท์มีสายเข้านั้นแหละ
“ฮาลโหลลล” ผมรับสายด้วยน้ำเสียงครางยาน
“เอ่อ ใช้คุณยศภัทรหรือป่าวครับ” ปลายสายถามกลับมาด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยมั่นใจ
“ใช่ครับ แล้วคุณเป็นใคร ไปเอาเบอร์ผมมาจากไหน แล้วโทรมามีอะไร” ผมถามเป็นชุด เพราะปกติผมไม่ค่อยไปแจกเบอร์เครื่องนี้ให้กับใครที่ไหน
“ผมโทรมาจากร้านคอมที่คุณเอามาซ่อมไว้ คือคอมของคุณแบตมันจะหมด แล้วผมก็ยังลงโปรแกรมไม่เสร็จ ยังไงรบกวนช่วยเอาอแดปเตอร์มาให้ที่ร้านได้ไหมครับ” คนถามน้ำเสียงเหมือนเกรงใจเล็กน้อย
“ได้ครับ” ผมตอบพลางพลิกตัวแหงนมองนาฬิกา ตอนนั้นก็เกือบจะสามทุ่มแล้ว อากาศข้างนอกก็เหมือนฝนจะตก ตกลงนี่มันฤดูหนาวหรือฤดูฝนกันแน่เนี่ย
“ไม่ถึง สิบห้านาที ผมก็มาถึงที่หน้าร้าน ตอนนี้ร้านปิดไฟแล้วก็เก็บป้ายต่างๆ เข้าร้านเรียบร้อยแล้ว มีเพียงดวงไฟในร้านที่ยังเปิดอยู่ไม่กี่ดวง
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” เสียงของผมเคาะที่กระจก เพราะว่าประตูมันล็อคเลยผลักเข้าไปไม่ได้ ยืนรออยู่สักพักก็ไม่เห็นมีใครมาเปิดผมเลยโทรกลับไปที่เบอร์เดิม
“คุณ ผมมารออยู่หน้าร้านต้องนานแล้วทำไมไม่ออกมาเปิดประตูอ่ะ” ผมบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย
“ขอโทษครับ พอดีผมกำลัง เอ่อ....อ” ปลายสายเงียบไปผมเลยเป็นฝ่ายพูดเสียเอง
“งั้นก็มาเปิดได้แล้ว ฝนข้างนอกจะตกอยู่แล้วผมไม่อยากเปียก” พูดจบผมก็กดสายทิ้งทันที ไม่ถึงหนึ่งนาทีก็มีผู้ชายอายุราวๆ 23-24 วิ่งมาเปิดประตูให้ผม ซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่ได้สังเกตอะไรมากมายหรอก เพราะกำลังอารมณ์เสีย
“อ่ะนี่” ผมพูดพลางยื่นอแดปเตอร์ไปให้
“ครับ” ชายคนนั้นรับไว้แล้วก็เดินไปนั่งที่โต๊ะจัดการเสียบปลั๊กชาร์ต
“แล้วอีกนานไหมอ่ะ กว่ามันจะเสร็จ” ผมถามโดยที่ไม่ได้สนใจคนถูกถาม เพราะสายตาจ้องมองไปที่คอม แล้วก็พวกอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในร้าน
“ถ้าไม่มีอ่ะไรผิดพลาดน่าจะไม่เกินครึ่งชั่วโมงครับ”
“อืม งั้นผมรอเอาเลยดีกว่า” ผมตอบพลางเดินไปนั่งเก้าอี้ที่วางอยู่ข้างๆกับโต๊ะที่เขานั่ง
“ทำไมถึงซื้อรุ่นนี้อ่ะครับ” คนถามๆ แบบไม่มองหน้าผมเช่นกัน
“ก็มันสวย บาง แล้วก็เบา”
“แต่ผมว่ามันแพงไปหน่อยนะ ของยี่ห้ออื่นที่สวยๆบางๆเบาๆ แต่ถูกกว่ามีตั้งเยอะ”
“รีบซ่อมไปเหอะ เด๋วฝนตกผมกลับไม่ได้” ผมพูดพลางหันหน้าไปทางอื่น
“กลับไม่ได้ก็นอนค้างที่นี่เลย” คนที่พูดทำเป็นเรื่องสนุก แต่คนฟังกลับไม่ได้คิดอย่างงั้น
“นี่นาย” ผมกำลังจะหันหน้าไปว่าสักหน่อย แต่เผอิญ วุ๊บ วุ๊บ !!! ไฟทั้งร้านเกิดดับขึ้นมาสงสัยเป็นเพราะลมแรงเลยทำให้ไฟดับ
“เห้ย ไฟดับ” ผมพูด หันไปดูอีกทีคนที่นั่งข้างๆ ก็หายไปไหนไม่รู้ ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาส่องให้ความสว่าง ไม่นานก็มีแสงเทียนค่อยๆ ส่องสว่างเข้ามาใกล้
“ผมไปหยิบเทียนมา” เขาบอกพลางปักเทียนลงบนมุมของโต๊ะ
“แล้วไฟมันจะพอลงโปรแกรมจนเสร็จเลยไหม” ผมถาม ด้วยอาการณ์เป็นกังวล
“น่าจะพอนะ” ผมเห็นว่าดูๆไปอีตาคนนี้ก็ไม่ได้ดูเลวร้ายอะไร จึงอยากจะทำความรู้จักไว้เผื่อเวลาโน๊ตบุ๊คผมมีปัญหาอะไร จะได้โทรมาถามได้
“แล้วคุณชื่ออ่ะไร” ผมถาม แต่คนถูกถามหันมามองผมด้วยสีหน้าสงสัย
“พี่ชื่อ ตูน” เขาตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
“อืม ผมชื่อ ภัทร”
“พี่มีเบอร์ไหม” เป็นผมที่เริ่มคำถามอีกครั้ง
“มีครับ เบอร์ 089-919xxxx”
“อ่าว ไม่ถามหน่อยเหรอว่าผมขอไปทำไม”
“อืมก็นายขอ พี่ก็เลยให้” พี่ตูนตอบ
“แปลกคน” ผมบ่นกับตัวเอง แต่เสียงก็ดังพอให้คนข้างๆได้ยิน
“เสร็จแล้วครับ” พี่ตูนบอกพร้อมกับเก็บทุกอย่างลงกระเป๋า
ซู่ ซู่ !!!!!! อยู่ดีๆ ฝนเจ้ากรรมก็ตกลงมาอย่างแรงแถมยังมีลมกรรโชกอีก สงสัยคงกลับไม่ได้แล้วแน่ๆ เลย ผมคิดกับตัวเอง
“คงกลับไม่ได้แล้วสินะ”
ผมไม่ได้ตอบแต่พยักหน้าแทน อะไรมันช่างลงตัวขนาดนี้ ฝนตกหนักแถมยังไฟดับอีก
“อืม ไปนอนรอให้ผมหยุดตกที่หลังร้านก่อนก็ได้นะ” อยู่ดีๆ พี่ตูนก็พูดขึ้นมาทำเอาผมงงอยู่เล็กน้อย หลังจากที่ผมคาดคะเนว่าฝนคงจะไม่หยุดตกง่ายๆ ผมเลย(ยอม) เดินตามพี่ตูนเข้าไปที่หลังร้าน
“นั่งนี่ก่อน เด๋วพี่ไปเอาน้ำมาให้” ข้างหลังร้านถูกจัดไว้เหมือนกับห้องนอนมีโซฟายาวหนึ่งตัว มีเตียงนอน แล้วก็มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบทุกอย่าง ดูๆแล้วเหมือนบ้านมากกว่า
“พี่นอนที่นี่เหรอ” ผมถามพลางหยิบแก้วน้ำมาดื่ม
“ใช่ครับ”
“พี่ไม่ใช่คนที่นี่เหรอ”
“คนที่นี่แหละครับ เกิดที่นี่แล้วก็อยู่ที่นี่”
“อ่าวแล้วทำไมไม่อยู่บ้านอ่ะ หรือว่าเจ้านายให้นอนเฝ้าร้าน” พอสิ้นคำถาม พี่ตูนก็หัวเราะออกมา ทำให้ผมงงเป็นครั้งที่สอง
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก จริงๆแล้วนี่มันร้านของพี่ต่างหาก” พี่ตูนตอบแบบยิ้มๆ สงสัยยังขำไม่เลิก
“แล้วทำไมพี่สาวคนนั้นเรียกพี่ว่าช่างอ่ะ”
“ก็มีพี่คนเดียวหนิครับที่เป็นช่างของที่นี่ ส่วนผู้หญิงคนนั้นอ่ะพี่สาวพี่เอง”
“อ่าวเหรอ”
“เมื่อไหร่ฝนจะหยุดตกสักที ง่วงนอนจะแย่แล้ว”
“ก็นอนไปก่อนก็ได้ เด๋วฝนหยุดแล้วพี่เรียกเอง” ผมได้แต่พยักหน้า แล้วจึงค่อยๆ หลับตาลง
มารู้สึกตัวอีกทีที่ตัวเองรู้สึกว่าอากาศมันเย็นๆ ผมค่อยๆลืมตาขึ้นทุกอย่างในห้องยังมืดสนิท แต่ได้ยินเหมือนเสียงเครื่องปรับอากาศทำงาน สงสัยไฟคงมาแล้ว
“ตื่นแล้วเหรอครับ” เสียงพี่ตูนพูดกระซิบที่ข้างหูผม
“เห้ย” ผมสะดุ้งสุดตัว เท่าที่จำได้ผมนั่งบนโซฟา แล้วทำไมตอนนี้มานอนอยู่บนเตียงได้แถมยังมีใครที่ไหนก็ไม่รู้มานอนอยู่ใกล้ๆ อีก
“พี่เห็นเราหลับเลยอุ้มมาที่เตียง แต่สาบานได้นะพี่ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้นจริงๆ” พี่ตูนรีบบอกก่อนที่ผมจะโวยวายไปมากกว่านี้ ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่หันมาหยิบโทรศัพท์เพื่อดูเวลาแทน ตอนนั้นประมาณห้าทุ่มกว่าๆ เสียงฝนข้างนอกยังคงดังอยู่แต่ไม่เท่าตอนแรก
“ถ้าไม่กลัวพี่ทำอะไร นอนที่นี่ต่อก็ได้นะ เด๋วเช้าค่อยกลับ ขืนนายกลับไปตอนนี้ยังไงก็เปียก แล้วไหนจะโน๊ตบุ๊คอีก” พี่ตูนพูดอธิบาย
“โอเค งั้นผมขอนอนต่อแล้วกัน แต่พี่ห้ามทำไรผมนะ”
“ไม่ทำไรหรอก ถ้านายไม่ยอม”
“เห้อ” ผมได้แต่ถอนหายใจ แล้วก็ล้มตัวลงนอนอีกรอบ
...
ดึกแล้วง่วงนอนไว้มาพิมพ์ต่อวันพรุ่งนี้นะคร้าฟ
*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
ทิพย์โมบอร์ดนิยาย