ในที่สุดก็ได้หนังสือทั้ง 5 เล่มมาไว้ในครอบครอง กว่าจะได้ครบเนี่ย เหนื่อยไม่ใช่เล่น
เพิ่้งขับรถกลับมาจากตจว. เกือบ 200 โล เลยเลยไปเซ็นทรัล แม่ก็โทรตามยิกเลย ว่าเมื่อไหร่จะกลับ เด๋วจะออกไปกินข้าวนอกบ้านกัน หลังจากนั้น เป็นปฏิบัติการโทรยิก ทุก 5-10 นาทีจะมีเสียงตามสายว่า อยู่ไหนแล้ว จะออกจากเซ็นทรัลหรือยัง สงสัยแม่จะหิว โทรถี่เกินพิกัด ขอโต้ดค้าบแม่ ก้อผมอยากได้หนังสือนี่
ตอนแรกไป SE-ED ได้ "เซ็งเป็ด" ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 มา
ตอนไปถามพนักงานว่ามีมั้ย พนักงานบอกว่า น่าจะยังมี วันก่อนยังเห็นอยู่ แล้วก็ไปหยิบมาให้ 1 เล่ม เยินสุดๆ เหมือนผ่านการอ่านมาหลายครั้ง เลยถามไปว่ามีเล่มใหม่ไหม เค้าเลยพาไปเลือกที่ชั้น ปรากฎว่า มีเหลือแค่สองเล่ม อีกเล่มเยินกว่าอีก กรู่วาแล้วว่าทำไมมานหยิบเล่มเยินมาให้กรู ปกติผมจะพิถีพิถันในการเลือกหนังสือมาก หน้าปกห้ามยับ สันห้ามฉีก
แต่ครั้งนี้ คิดว่าซื้อเลยละกัน เพราะถ้าเสียเวลาเดินไปร้านอื่นแล้วไม่มี กลับมาอาจจะโดนสุนัขคาบไปบริโภคแล้วก็เป็นได้ (เป็นปรากฏการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเองมาแล้ว มากกว่า 1 ครั้ง) นอกจาก "เซ็งเป็ด" แล้ว ยังได้ "เมื่อผมเป็นผี" และ "เพราะ..รัก" มาอีก 2 เล่ม หลังจากจ่ายตังค์เสร็จก็มานั่งนับ เอ๊ะ

มันยังไม่ครบนี่หว่า หายไปไหนเล่มนึงฟะ (เรื่อง "ลาก่อนที่รัก...diary ถึงเซ็งเป็ด" นั้น ได้มาก่อนหน้านี้แล้ว ประมาณว่าซื้อทันทีหลังอ่าน กรูทู้ "กรูไม่ช่ายเกย์...จะจีบทำม้ายยยยยยยยยยยยยยย" จบ)
เดินกลับเข้าไปถามเค้าก็บอกว่าตอนนี้ "Lost & Found รักแท้อยู่ที่ไหน" หมด เราก็เดินคอตกออกจากร้าน แล้วตะเกียกตะกายขึ้นบันไดเลื่อน (หุหุหุ พูดซะ ดูลำบาก) ไปอีกชั้นหนึ่งเพื่อไปร้าน B2S เดินหาตั้งนานก็หาไม่เจอ เลยไปถามพนักงาน พนักงานกดดูในคอมพ์ แกร็กๆๆๆๆ เราก็สังเกตว่า โห ใช้ inventory หน้าจอเหมือน MS-DOS เลย โบราณโคตร ปรากฏว่ายังมีเหลือคับ ดีใจมั่กๆ แทบจะตีปีก (แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าตรูม่ายช่ายนก) ก็เดินตามพนักงานไปที่ชั้น พนักงานก้มๆเงยๆอยู่พักหนึ่งก่อนจะดึงหนังสือออกมายื่นใ้ห้ พร้อมทั้งบอกว่า "หน้าปกยับไปนิดนะคะ พอดีหนังสือมันค่อยข้างเก่า" (สงสัยพนักงานจะจำได้กับความจู้จี้กับการเลือกหนังสือของเรา B2S สาขานี้ยิ่งมาเดินบ่อยๆอยู่) เราก็ยิ้มให้แล้วตอบกลับไปว่า "ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากนะครับ" พร้อมยิ้มให้หนึ่งที สไตล์พระเอกหนัง (คิดไปเองทั้งนั้น 555)
ในที่สุดก็ได้มาครบทุกเล่มแล้ว จะพยายามอ่านให้จบภายในเร็ววันนี้ครับ
หลังจากพล่ามมาเยอะ เข้าประเด็นเลยดีกว่า
ขอบคุณสำหรบทุก reply นะครับ
โดยเฉพาะน้องนพ gobngo มีการขอกอดเราด้วย เขินมั่กๆ

อ่ะ กอดตอบทีนึงก็ได้
ตอนนี้ไม่ค่อยเหงาแล้วครับ กลับมาอยู่บ้าน มีคุณแม่คอยเอาใจ ถามตลอดว่าจะกินอะไรไหม ดูทีวีด้วยกันไหม สงสัยที่ผมเหงาๆบ่อยๆเนี่ย น่าจะได้ ยีนส์เหงา (สารพันธุกรรม ม่ายช่ายกางเกง) มาจากแม่แน่ๆเลย ท่าทางแม่จะขี้เหงาน่าดู ชอบให้อยู่ด้วย
พี่ Phot คับ ผมว่า การเลือกคบใครเป็นคนพิเศษ มันเหมือนกับการเลือกหนังสือมากกว่าครับ หนังสือที่น่าซื้อทุกเล่มหน้าปกสวยงาม แต่เราจะยังไม่รู้ว่าหนังสือเล่มนั้น ดีหรือไม่ดี สนุกหรือไม่สนุก จนกว่าเราจะได้อ่านมัน หนังสือบางเล่มอาจจะมีหน้าปกไม่ดึงดูดตา จืดชืด แต่บางครั้ง เนื่อเรื่องข้างในมันสนุกสนาน ลึกซึ้ง กินใจเรามากกว่า หนังสือที่มีหน้าปกสวยงามอีก
ทฤษฎีความรัก ... เพื่อนเหมือนหนังสือ อย่าตัดสินที่หน้าปก ควรอ่านก่อนที่จะเลือกคบด้วย
ปล.ตอนนี้ "เมื่อผมเป็นผี" ไปอยู่กับแม่เรียบร้อยแล้ว แม่คงเห็นว่าผมนั่งอ่านไม่ยอมวาง พออ่านจบปุ๊บ แม่ยึดเลย แม่อ่านไปได้ซักพัก ถามว่า เซ็งเป็ด เนี่ยเขียนหนังสือหลายเล่มเหรอ เขียนดีนะเนี่ย (อาจเป็นเพราะแม่ชอบอ่านหนังสือธรรมะ แล้ว "เมื่อผมเป็นผี" มีเกี่ยวกับเรื่องกรรม ก็เลยเข้าทางแม่) มีเล่มอื่นอีกไหม ตอนนี้เอบคิดว่า ถ้าตรูเอา "เซ็งเป็ด" ให้แม่อ่าน แล้วตรูจะถูกด่ากรือเปล่า