สวัสดีคร้าบ ใกล้ปีใหม่แล้ว หลายๆคนคงเตรียมกลับบ้านไปหาคนที่เรารัก หลายๆคนที่อยู่กับครอบครัวก็จะได้มีเวลาอยู่ร่วมกัน เป็นเทศกาลแห่งความสุขของโลกเลยนะครับ
ไว้เรามานับถอยลังสิ้นปีด้วยกันเนอะ
นานๆมาต่อทีก็คงต้องบอกข่าวคราวกันบ้าง อาการของแม่ดีขึ้นเรื่อยๆครับ เป็นคนแก่จริงๆซะแล้วแม่ผม บทจะดีก็ดีขึ้น แต่หมอบอกว่าเป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้ดีขึ้นจนแปลกไป ... ปีใหม่ได้ยินข่าวนี้ก็พอแล้ว ^^
ว่าแล้วก็มาต่อกันดีกว่า ตอนนี้ขอบอกเลยว่า
ตอนที่ 62 - ลาก่อนปีหนึ่ง ช่วงที่ 1
“ พี่เป้เว้ย! มาได้ไงอะ ” ตอนแรกกะเอาไว้ว่าจะส่งมันกลับเลย แต่มันงอแงขอมาดูที่หลับที่นอน ผมเลยพามันกลับมาที่คอนโดด้วย
“ ไอนุพามาดิ พวกมึงอยู่กันกี่คน ” มันหันไปถามไอกี ที่ตอนนี้เพิ่งคืนดีกับไอต้าอีกรอบ ซึ่งความจริงมันทำสงครามประสาทกับทุกคน ผมเองก็เพิ่งหายโกรธมันเหมือนกัน (ติดตามได้ในเรื่องของไอสองกีตาร์)
“ สามคนพี่ แล้วมาทำอะไรเหรอ ”
“ ว่าจะไปเดินเล่นในมหาวิทยาลัยของพวกมึงแหละ แต่ไอนุมันไม่พาเที่ยว ” ไม่พูดถึงผมสักประโยคคงจะดีอะ
“ ไม่เห็นมีอะไรน่าเที่ยวเลยพี่ ต้องไปเดินดูผักผลไม้ตอนค่ำๆนู่น คนเยอะ ของกินถูก ”
“ ไอกี ! ” มันสะดุ้งหันมามองหน้าผม กระพริบตาปริบๆ
“ ไหนว่าไม่มีที่เดินไง ... ไม่อยากเดินกับกูขนาดนั้นเลย ” เอาเข้าไป ทำไมต้องมาอยู่กับไอเด็กสองคนนี้ด้วยเนี่ย
“ กูกลัวมึงจะเบื่อ มันไม่มีอะไรน่าสนจริงๆ ” ผมพยายามอธิบายให้มันฟัง
“ ไม่ได้อยากดูของเว้ย แค่จะเดินกับมึง ”
“ แค่กก !~!! ” ไอกีสำลักน้ำครับ พูดจาน่าตีปากนะ ดีที่ไอต้ากับพี่บอลไม่อยู่
“ แต่มึงไม่ว่างกูกลับก็ได้ ”
“ เออๆ เดี๋ยว ” มันหันกลับมาหาผม ไอเป้นี่ ผมจะพามันไปไหนดีล่ะ อ่อ ...
ผมพามันมาเดินตรงตลาดนัดอีกฝากหนึ่งของมหาวิทยาลัย ส่วนมากจะมีพวกเสื้อผ้า แผ่นหนัง เพลง แล้วก็ของกินเล็กๆน้อยๆ
“ ไรเนี่ย กูมาออกบ่อย ” เซงเลยผม พามาแล้วมันก็ยังเรื่องมาก
“ เออ งั้นก็กลับเลยไป ทางใครทางมัน ”
“ หึ กูบอกแล้วไงว่าจะเดินกับมึง ”
“ ถามจริงๆเหอะ ทำไมต้องมาเดินกับกู สาวๆมหาวิทยาลัยของมึงสวยๆเยอะแยะ ไม่ไปคั่วมาเดินสักคน ใครเขาเคยมาเดินตลาดกับผู้ชาย ” ผมสงสัยมากครับ เลยถามซะยาว
“ แถมผู้ชายที่เดินก็เป็นเกย์ ชอบเสียบกับผู้ชายเนอะ ”
“ ไอนี่ มึงด่าคนอื่นเป็นชีวิตจิตใจหรือไง ”
“ ไม่อะ เฉพาะคนที่กูสนิทเท่านั้นแหละ ... ไม่สนิทด่าไปเขาก็เข้าใจผิดเปล่าๆ ” เออเนอะ ผมว่ามันละเอียดดีนะครับ
“ เฮ้ย เดี๋ยวนะๆ ” มันวิ่งไปนั่งคุกเข่าตรงร้านหนังสือ เท่าที่ดูแล้วเป็นของเก่าๆที่เขายกมาขาย มันควานๆหาเปิดอ่านอย่างเร็ว ท่าทางกระตือรือร้นมาก มันทำอะไรของมัน
“ ไอเป้ มึงทำอะไรน่ะ ”
“ ไรวะ มึงไม่ได้สะสมการ์ตูนเก่าๆใช่ไหมล่ะ ” มันหันมาถามผม แล้วก็กลับไปสนใจกองหนังนั่นต่อ ใบหน้ามันตอนนี้ยิ้มสดใส ดูมีความสุข ... ผมรู้สึกอยากยิ้มกับมันจังเลย
“ เจอจริงๆด้วยว่ะ ฮ่าๆ ... พี่ๆบอกว่าถ้ามีเล่มนี้มาให้เก็บไว้ไง ” หืม มันรู้จักเจ้าของร้านเลยเหรอ
“ เอ้า โทษทีหนุ่ม เอาไปเลยสิ ” เอาไปเลยนี่หมายความว่าให้ฟรีๆหรือปล่าว
“ ได้ไงพี่ ของซื้อของขายนะ ” เจ้าของร้านเขาคงเบื่อเสียงของมันอะครับ เลยรับเงินเอาไว้ มันลุกขึ้นช้าๆ เอาหนังสือเล่มนั้นใส่กระเป๋า
“ ชอบสะสมการ์ตูนเหรอ ”
“ ไม่ชอบจะซื้อไว้เช็ดน้ำลายหรือไง … เออ! ที่พักกูอยู่ตรงข้ามเนี่ย ไปนั่งเล่นก่อนไหม” อยากตบปากมันจริงๆนะเนี่ย ฮึ่มมม หือ ที่พักมันอยู่ตรงข้าม ?
“ ว่าไงนะ มึงอยู่ตรงข้าม แสดงว่ามึงกูมาบ่อยสิวะ ”
“ โอ้ว ฉลาดจัง ไว้จะให้ขนมกินนะ ” มันลูบหัวผมป่อยๆ ผมประมาทมันไปนะเนี่ย ไอนี่ท่าทางเหมือนเด็กไม่รู้ประสา จริงๆมันก็ปกติเหมือนคนทั่วๆไป มันพาผมเดินข้ามสะพานเพื่อเข้าไปยังที่พักของมัน
“ ค่าเช่าเดือนเท่าไรวะ ”
“ แม่กูซื้อให้ ” รวยซะด้วยแฮะ
“ อยู่กี่คนอะ ห้องนอนตั้งสองห้อง ห้องโถงอีกหนึ่ง ” คล้ายๆคอนโดที่ผมพักอยู่ครับ แต่ดูจะหรูหรากว่า
“ อยู่คนเดียว ” ฟังน้ำเสียงมันพูดแล้ว ผมเข้าใจความเหงาลึกๆของมันนะครับ ตอนที่อยู่คนเดียวหลังพ่อเสีย ผมต้องทนอยู่กับมันเหมือนกัน
“ ไหนที่บอกว่าสะสมการ์ตูนอะ ” มันถอดเสื้อเชิ้ตออก เหลือแต่เสื้อกล้ามรัดรูป มันคงจะมีคนมาแอบชอบเยอะแน่เลย
“ มึงนี่ชอบมองตอนกูถอดเสื้อจังวะ คิดว่ากูเขินไม่เป็นหรือไง ” คงจะเผลอมองนานไปหน่อย
“ ไม่อยากให้มองแล้ว มามาถอดตรงนี้ทำไม รู้อยู่นี่ว่ากูเป็นอะไร ” ผมเริ่มกล้ายอมรับตัวเองมากขึ้นครับ
“ เออ ลืมไปว่ามึงเป็นเกย์ ” หึหึหึ ปกติคนอื่นพูดก็ไม่ค่อยคันนะครับ แต่พอมันพูดทำไมคันยิกๆ
“ มาดิ ห้องนี้ ” ผมเดินตามมันไป พอมันเปิดประตูให้เข้าไป ... โอ้
“ มึงสะสมเข้าไปได้ยังไงวะ ” ผมอึ้งของจริงเลยครับ ในห้องนั้นพื้นที่ประมาณสี่คูณห้าเมตร มีทางออกสู่ระเบียง ห้องน้ำในตัว ... เต็มไปด้วยหนังสืออะไรไม่รู้มากมาย ผนังมีตู้หนังสือขนาดใหญ่ติดเต็มพื้นที่ มีโต๊ะเล็กๆไว้สำหรับอ่านหนังสือหนึ่งชุด
“ เป็นไงบ้าง ”
“ ของมึงทั้งหมดนี่เลยเหรอ ” ผมเริ่มเดินสำรวจในห้อง มีหนังสือหลายประเภทจัดหมวดไว้อย่างเรียบร้อย แต่ที่ผมแปลกใจคือส่วนใหญ่เป็นหนังสือวิชาการ !
“ แน่ใจว่าไม่ได้ซื้อมาประดับ ” มันหัวเราะผม
“ กูเรียนกฎหมายนะเว้ย ” อันนี้สิน่าตกใจของแท้แน่นอน
“ ไม่ ... น่า เชื่อ ” ผมหันไอส่ายหน้าให้มันอย่างจริงใจ ผมมองไอเป้ไปเป็นนักกฎหมายไม่ออกจริงๆ ท่าทางมันเหมือนนักเลงก็คล้าย เป็นเด็กเรียนก็อาจจะได้ มันมีอะไรให้ผมแปลกใจเรื่อยเลย
“ ... รับโทรศัพท์เดี๋ยว ” มันกำลังจะพูดอะไรสักอย่าง แต่มีคนโทรเข้ามาเสียก่อน ... พี่บอลเองครับ
“ สวัสดีครับพี่บอล ” ไอเป้หน้าบูดเป็นตูดเรียบร้อย
“ ครับ นุทำอะไรอยู่เหรอ ”
“ มาเที่ยวคอนโดไอเป้ครับ ”
“ ... ไปทำไม ” อาการน่าเป็นห่วง เสียงขุ่นซะแล้ว
“ ก็พอดี ... ” เอาไงดี ถ้าบอกตามตรง พี่บอลแอบงอนผมแน่ๆ
“ เฮ้ย ไอเป้ ! ” มันคว้าโทรศัพท์ของผมไป
“ มันมาเล่นเป็นเพื่อนกู มึงจะอะไรนักหนา ... มันเป็นแฟนไม่ใช่ทาสรักของมึง ... เออ ... แน่จริงมึงมาให้ถูกดิ ” ผมช็อกครับ มันพูดอะไรใส่พี่บอลบ้างเนี่ย
“ เอาโทรศัพท์กูมา ”
“ มึงจะยอมอะไรนักหนาวะ ทำไมพอห้าโมงมึงต้องกลับบ้านทำกับข้าวให้มันหรือไง ”
“ บอกว่าเอามา ! ”
“ พอกินข้าวเสร็จ ก็ไปเอากันในห้อง ... มึงทำกันแค่นั้นใช่ไหม ” ผมเหลืออดกับมันแล้วครับ ผมสวนหมัดใส่มันตรงๆ มือถือของผมกระเด็กตกลงบนพื้น
“ คิดว่ามึงสู้กูได้เหรอ ห๊ะ ! ” ไอเป้จับไหล่ผมกดลงบนโซฟา ผมเตะต้นขาของมัน สีหน้าไอเป้เปลี่ยนจนผมเริ่มรู้สึกกลัว มันคว้าคอผมไว้ แล้วลงมือบีบอย่างแรง ... ท่าทางมันไม่ได้เล่นๆกับผม ผมสัมผัสได้เลย มันเสียสติแล้วแน่ๆ
“ กูต้องได้มึง กูไม่ให้มึงเป็นของใคร ”
“ อ่อก ! … ไอ ~ เอ้ ” ผมรู้สึกเหมือนกำลังกลั้นหายใจ แต่พยายามแค่ไหนผมก็หายใจไม่ออก น้ำตากับน้ำมูกไหลออกมา ... มันจะฆ่าผม
“ นุ ! ” ทันใดนั้น ตอนที่ผมกลัวสุดขีด ... มันปล่อยมือ
“ แค่ก ! … โอยย แฮ่ก ๆ ” ไอเป้ขยับหนีไปยืนห่างจากผม ผมหายใจเอาอากาศเข้าปอด สักพักผมก็หันไปมองดูมัน ... ไอเป้กำลังมองดูมือสองข้าง เหมือนมันไม่เชื่อว่ามันทำอะไรอยู่
“ ไอสัด ! … มึงเป็นห่าอะไร ” ผมสุดทนจริงๆครับ ผมโกรธจนอยากจะเข้าไปกระโดดเตะมัน แต่ก็กลัวว่ามันจะคลั่งมาฆ่าผมอีกรอบ
“ นุ มึงรีบๆไปซะ เร็วๆนะ ” มันวิ่งเข้าไปในอีกห้อง เสียงรื้อค้นดังออกมา มันแปลกๆนะ ผมค่อยๆแอบมองเข้าไปในห้อง เห็นมันเอาเชือกมามัดแขนตัวเอง แล้วก็มัดขาเอาไว้
“ หึหึ ฮ่าๆๆ … โอ้ย !! กูสะใจ ฮ่าๆ ” ผมตะลึงกับภาพที่เห็น ไอเป้มันดิ้นไปดิ้นมา อาการมันคล้าย ... คล้ายกับ ... คนติดยา !
“ ไอเป้ มึงตั้งสติหน่อย ไอเป้ !!! ” มันเหมือนจะเคยเป็นแบบนี้มาก่อน มันถึงรู้ว่าต้องทำอะไร
ผมขึ้นคล่อมตัวของมัน แล้วเอาหมอนกดหัวของมันไว้ กันมันเอาหัวไปกระแทกหัวเตียงอีก
“ อุ๊ ... อ่อกกก อ้วกก !~!!!! ” ผมกดเอาไว้ครู่หนึ่ง ไอเป้ก็พลิกตัวอ้วกออกมา ... หน้าตามันเริ่มสงบลง
“ นุ ... ” มันมองผม ดวงตาของมันหรี่ เสียงหายใจช้าลง ... ผมรีบลุกจากตัวมัน
“ ไอเป้ มึงเป็นไงบ้าง ”
“ กู เหนื่อย ... กู ... ไม่ไหว ... แล้วว่ะ ” มันกระเด้งตัวอ้วกออกมาอีก ตามันแข็งค้างไปแล้ว เท้าของมันเย็นจัด เหงื่อแตกเต็มหลังไปหมด ... อาการแบบนี้ ผมเคยเห็นมาก่อน ... ไม่นะเว้ย
“ ไอเป้ !!!!! ”