อยากไปด้วยจังงงงงงง ,,
จาไปขัดคอเขาทำมาย (ไปกับผู้เขียนดีกว่า จะพาซิ่งมอเตอร์ไซด์ไปกินปลาช่อนเผาเกลือที่สวนอาหารริมทุ่งแล้วไปส่งถึงบ้าน)
ในที่สุดเรื่องนี้ก็จบอย่างแฮ้ปปี้เอ็นดิ้งแบบสุดๆ ซะที
ต่อ
...เสร็จธีรดนย์ เห็นสายตาลังเลของวิธวินท์แล้วคราวนี้พ่อลิงน้อยต้องใจอ่อนไปทานข้าวกับเขาแน่ อ้อนต่ออีกซักหน่อย แค่นี้ก็เรียบร้อย...
วิธวินท์หันไปมองคนทำท่าเก้ๆ กังๆ ขณะที่นั่งลงยนเก้าอี้ไม้ตัวเตี้ยๆ หน้ารถเข็นขายก๋วยเตี๋ยวเป็ดริมท่าน้ำ เมื่อวานเขายอมไปทานอาหารฝรั่งเศสกับธีรดนย์ที่ร้านหรู วันนี้ธีรดนย์จึงมาทานก๋วยเตี๋ยวรสเด็ดกับเขา
“สะอาดหรือเปล่านี่วิธวินท์ ดูท่าทาง เอ่อ...” ธีรดนย์หันไปมองรอบๆ ทำหน้าผะอืดผะอม
“คุณอยากกินเองนะ" วิธวินท์ยักไหล่ เบือนหน้าออกไปมองด้านข้าง แอบทำหน้าขำๆ ธีรดนย์แต่งตัวเนี๊ยบ แม้จะถอดเสื้อสูทและเน็คไททิ้งไว้ในรถ แต่ชายหนุ่มรูปหล่อที่ภูมิใจในรูปลักษณ์ของตัวเองนักหนาก็ดูไม่ค่อยเข้ากับสถานที่รับประทานอาหารเย็น
“เฮ่ย รองเท้าเปื้อน" ธีรดนย์ก้มหน้าลงมองรองเท้าตัวเอง "เมื่อกี้ผมเห็นแมลงสาบด้วยล่ะ"
“เจ้านี้อร่อย" วิธวินท์อวดสรรพคุณ "ขายมาสามสิบกว่าปีแล้ว"
“ขอให้อร่อยจริงเถอะ ถ้าไม่อร่อยล่ะน่าดู"
“ถ้าไม่อยากกินก็ไปนั่งคอยในรถก็ได้นะครับ" วิธวินท์พูด
“อยากสิ" ธีรดนย์ทำตาค้อนๆ "ขี้งอนจังเลย"
“ลองกินอะไรแบบนี้บ้าง จะได้มีภูมิต้านทานเชื้อโรค"
“ทานเสร็จแล้ว ไปนอน เอ๊ย นั่งคุยกันที่คอนโดคุณนะ" ธีรดนย์เปลี่ยนเรื่อง อมยิ้มให้วิธวินท์
“เมื่อวานผมไม่ได้ไปคอนโดคุณ ไม่เห็นต้องทำเป็น แบบว่าถ้อยทีถ้อยอาศัยกันนี่นา" วิธวินท์ท้วง เน้นเสียงเมื่ออ้างอิงถึงคำพูดที่ธีรดนย์เคยพูด
“บ้านผมไม่เรียกว่าคอนโด" ธีรดนย์เอียงหน้า มองวิธวินท์ด้วยหางตา แล้วทำเสียงภูมิใจ "เขาเรียกว่าเพนท์เฮาส์"
“อ๋อ บ้านที่ทาสี" วิธวินท์พยักหน้า ทำเป็นเข้าใจ
“ผิด เพนท์เฮาส์ ไม่ใช่เพนท์เฮาส์" ธีรดนย์พยายามออกเสียงคำสองคำให้ต่างกัน ก่อนจะถอนหายใจแล้วยิ้มขำๆ
“ก็ไม่เห็นมันต่างกัน" วิธวินท์ยักไหล่ "บ้านใครก็ทาสีทั้งนั้นล่ะ
“ผมอยากเห็นว่าคุณอยู่ยังไง ทำไมชอบไปนอนออฟฟิสให้คุณอาหน้าจืดดุอยู่บ่อยๆ" ธีรดนย์ทำเสียงอ่อนโยน
“อายุธไม่ได้ดุ"
“ไล่ก็ได้เอ๊า"
“ไม่ได้ไล่" วิธวินท์เถียง "แค่บอกให้กลับไปนอนบ้าน"
“กวนจริงๆ เลย" ธีรดนย์เบ้ปาก แล้วหันไปมองเด็กสาวซึ่งเดินเข้ามาถามว่าเขากับวิธวินท์จะสั่งเครื่องดื่มอะไร
“ขอไวน์แดง ชาโตว์ เลอบลัว" ธีรดนย์ตอบ
“แฟนต้าน้ำแดงกับโค้ก" วิธวินท์พูดแทรกขึ้นมาแล้วเบ้ปากใส่ธีรดนย์ "ที่นี่รถเข็นข้างทางนะครับ ไม่มีเครื่องดื่มหรูๆ แบบนั้นหรอก"
“ไม่เข้าใจอารมณ์ขันของผมหรือไง เห็นหน้าเด็กคนเมื่อกี้หรือเปล่า เอ๋อไปเลยล่ะ" ธีรดนย์หัวเราะชอบใจ
“ตลกจัง" วิธวินท์ชมด้วยใบหน้าและน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“วิธวินท์" ธีรดนย์เรียกอีกฝ่ายด้วยเสีียงอ่อนโยน "ผมอยากทานข้าวเย็นกับคุณทุกวัน แบบที่ชวนกันไปดีๆ ไม่ต้องให้ขับรถไล่ตาม แต่ก็ไม่ใช่นั่งริมถนนหน้ารถเข็นก๋วยเตี๋ยวแบบนี้ทุกวันนะ นานครั้งๆ น่ะได้ แต่ว่า...”
“ผมก็ไปกินในร้านอาหารหรูๆ ทุกวันไม่ได้เหมือนกัน" วิธวินท์พูดสวนขึ้นมา
“ผมจ่ายเอง ผมมีเงินจ่าย" ธีรดนย์ตอบ
“รู้แล้วว่ารวย" วิธวินท์ส่ายหน้าให้คนรวย "แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น"
“ประเด็นคืออะไรล่ะ" ธีรดนย์เลิกคิ้ว "ประเด็นคือคุณพยายามเลี่ยงผมใช่ไหม แต่ประเด็นของผมก็คือเรื่องการทานอาหารด้วยกัน บางทีเราไปทานในร้านหรู บางทีเราไปทานร้านธรรมดา ทานในห้าง หรือรถเข็นข้างถนนแบบนี้ ซื้อใส่ถุงไปทานที่บ้าน ใส่ตะกร้าไปทานปิกนิก ทำอาหารกันเอง เข้าใจไหมวิธวินท์ ที่ผมกำลังสื่อสารกับคุณอยู่นี่ เข้าใจผมหรือเปล่า"
“คุณทำอาหารเป็นหรือไง" วิธวินท์เอียงหน้าถาม เลิกคิ้วข้างเดียว
“เลิกคิ้วข้างเดียวเป็นด้วยหรือวิธวินท์ ไม่เคยเห็นทำมาก่อนเลย" ธีรดนย์ยิ้มกว้าง "ไหนทำให้ดูอีกทีซิ น่ารัก"
“คุณธีรดนย์" วิธวินท์ขมวดคิ้ว เรียกอีกฝ่านเสียงเข้ม "คุณนี่จริงๆ เลย"
“ผมทำอาหารไม่เป็นหรอก แต่ถ้าอยากทานอาหารฝีมือผม ก็จะไปหัดทำซักสองสามอย่าง ผมรู้จักโรงเรียนทำอาหารฝรั่งเศส ค่าเรียนไม่กี่หมื่นหรอก ผมจะไปลงเรียนซักเดือนเพื่อมาทำให้คุณทาน ไม่เห็นหรือว่าผมเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อคุณขนาดไหน ขอชีวิตบางส่วนของคุณให้ผมบ้างสิ จะมัวแต่สร้างกำแพงกั้นผมอยู่ทำไม คุณยังกลัวอะไรอยู่อีกวิธวินท์"
วิธวินท์อึ้ง ไม่นึกว่าจู่ๆ ธีรดนย์จะทำหน้าและเสียงจริงจังขึ้นมา
...สร้างกำแพงและกลัวยังงั้นหรือ จริงหรือเปล่า เขากลัวที่จะมีความสัมพันธ์กับธีรดนย์แบบคนรักใช่ไหม...
...แน่ล่ะ ประวัติธีรดนย์โชกโชนแบบนี้ ใครไม่กลัวก็บ้าแล้ว...
...แต่ธีรดนย์เปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นแทบจะเป็นคนละคนกับตอนที่เขาเจอครั้งแรกๆ ยกเว้นเรื่องหลงตัวเอง ขี้โอ่ จะเอาอะไรให้ได้ดังใจ และเจ้าเล่ห์ ที่ยังคงเหมือนเดิม...
ก๋วยเตี๋ยวสองชามวางลงตรงหน้า กลิ่นหอมฉุย ธีรดนย์ยังคงเอียงหน้ามองวิธวินท์อยู่ไม่วางตา วิศวกรหนุ่มหน้าขาวเอื้อมมือไปหยิบช้อนและตะเกียบส่งให้ธีรดนย์ แต่ฝ่ายนั้นกลับไม่รับไป
“วิธวินท์ เราสองคนไม่ใช่คนแปลกหน้ากันแล้วนะ" ธีรดนย์เสียงอ่อนโยน หยิบช้อนและตะเกียบจากกล่องที่อยู่ด้านขวามือของตัวเองส่งให้วิธวินท์ "คุณเข้ามาในชีวิตผม ซึ่งผมเต็มใจและดีใจมาก และผมอยากเข้าไปในชีวิตคุณบ้าง"
“กินเถอะครับ เดี๋ยวจะเย็น" วิธวินท์รับช้อนและตะเกียบจากธีรดนย์ ขณะที่อีกฝ่ายก็รับสิ่งเดียวกันไปจากมือของเขา
“กินเสร็จแล้วไปนั่งคุยกันนะ" ธีรดนย์พูดเบาๆ ก้มหน้ามองชามก๋วยเตี๋ยวของตัวเอง ไม่กี่วินาทีวิธวินท์ก็ได้ยินเสียงอุทานขึ้นมาว่า "ร้อนฉิบหาย ไหนบอกว่าเดี๋ยวเย็น"
“ขอเดินย่อยอาหารก่อน แถวนี้ลมเย็นดี"
“บ้านผมก็แอร์เย็น เพนท์เฮาส์เลยนะวิธวินท์ เพนท์เฮาส์ที่หมายถึงชั้นบนสุดของตึก แล้วตึกนี้ก็สูง 77 ชั้น เดินออกจากระเบียงห้องนอนก็เป็นสระว่ายน้ำลอยฟ้าเชียวล่ะ ลมเย็นยิ่งกว่าข้างถนนเสียอีก" ธีรดนย์ 'อวด' ที่พักของตัวเองอีกครั้ง "มีทีวีแอลอีดีจอยักษ์ด้วย ขนาด 52 นิ้ว เครื่องเสียงนากาชิม่าซุปเปอร์ดิจิตอลเซอร์ราวด์ ชอบดูทีวีไม่ใช่หรือ ดูดีวีดีก็ชัด แผ่นบลูเรย์ทั้งนั้น จะดูจากฮาร์ทดิสค์เอ็ชดีเอ็มไอก็ได้"
“หอพักผมก็มีพัดลม ทีวีก็มี เคเบิ้ลก็มีตั้งสามสิบกว่าช่อง ฟรีอีกต่างหาก อยากดูหนังเรื่องอะไร โทรไปให้เขาเปิดให้ดูก็ได้"
“มีฝักบัวกับน้ำอุ่นให้อาบหรือเปล่่าล่ะ" ธีรนดนย์ถาม
“ขอน้ำปลาหน่อยครับ" วิธวินท์เลิกเถียงกับธีรดนย์เรื่อง 'สิ่งอำนวยความสะดวก' ที่บ้าน ชี้นิ้วไปที่ขวดน้ำปลาซึ่งตั้งอยู่ทางด้านขวามือของ 'คนรวย'
“อย่าใส่เค็มนักนะ" ธีรดนย์เตือนพลางหยิบขวดน้ำปลาส่งให้คนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะถามขึ้นมาว่า "เมื่อไหร่ไวน์แดงของผมจะมาซักที"
“เขาคงไปหาซื้อหรือไม่ก็กำลังหมักอยู่มั๊ง" วิธวินท์ยักไหล่
“นั่นไงล่ะ ถ้าไปทานร้านอาหารฝรั่งเศสป่านนี้ก็ได้ไวน์แดงแล้วล่ะ จะให้มีคนยืนเล่นไวโอลินให้ฟังยังได้เลย" ธีรดนย์แกล้งทำเสียงเบื่อหน่ายแล้วหันหน้าไปอมยิ้มให้คนที่นั่งทำหน้านิ่งอยู่ข้างๆ มือซ้ายวางลงบนต้นขาของวิธวินท์ ลูบเบาๆ แล้วชักมือกลับ
จากนัั้นทั้งสองหนุ่มต่างทานอาหารของตัวเองเงียบๆ จนเกี๋ยวเตี๋ยวเกือบจะหมดชาม ธีรดนย์จึงพูดขึ้นมาเบาๆ โดยไม่หันหน้าไปมองวิธวินท์ว่า
“วิธวินท์ คืนนี้ขอไปนอนด้วยหน่อยนะ นอนคนเดียวไม่หลับ"
“ร้อนนะครับ แอร์ไม่ค่อยเย็น" วิธวินท์ตอบ หลังจากนิ่งไปครู่ใหญ่
“ไหนบอกว่ามีพัดลม" ธีรดนย์หัวเราะหึๆ ในลำคอ ตามองชามก๋วยเตี๋ยวของตัวเอง มือพยายามเขี่ยผักออก
“พัดลมเสีย"
“โกหก"
“บ้านคุณแอร์เย็นไม่ใช่หรือ"
Imagine me and you, I do
I think about you day and night, it's only right
To think about the guy you love and hold him tight
So happy together
If I should call you up, invest a dime
And you say you belong to me and ease my mind
Imagine how the world could be, so very fine
So happy together
I can't see me lovin' nobody but you
For all my life
When you're with me, baby the skies'll be blue
For all my life
Me and you and you and me
No matter how they toss the dice, it has to be
The only one for me is you, and you for me
So happy together
*****THE REALLY END*****