“อืม ไม่หนักครับ ” อืมคงหมายถึงหนักมั้งครับเพราะมันเดินมาไกลแล้ว อันหลังมันคงเริ่มโกหกแล้วว่าไม่หนัก
ผมบอกให้มันปล่อยผมลง แล้วเราสองคนก็เดินเข้าห้องพัก คุยกันว่าเดี๋ยวอาบน้ำเสร็จะออกมาหาไรกิน
ตรงร้านอาหารริมทะเลเพราะมองเห็นป้ายแล้วน่ากินอยู่หลายร้านเหมือนกัน
แต่ต้องเข้าไปอาบน้ำก่อนครับ
และเดียวค่อยออกมาเช็คเรดติ้งว่าของผมกับไอ้ลุงใครดีกว่ากัน555
ว่าไงครับคนอ่าน สนใจอยากร่วมเช็คเรดติ้งบ้างไหม
ตามมาเลยครับที่เสม็ด จะรอนะ5555
ตอนที่ 49
ช่วงเย็นเราแต่งตัวกันแบบสบายๆ แล้วออกมาทานข้าวเย็นตามร้านที่ผมและไอ้ลุงเล็งไว้ตอนเย็น
อาหารโอเคครับอร่อย อย่างอื่นก็ดีมีมาให้มองเป็นคู่ๆหรือเป็นหมู่แน่ๆคืนนี้555
ผมกับไอ้ลุงทานเสร็จก็เดินเล่นตามชายหาดไปเรื่อย ตามแต่ว่ามันจะเดินไปได้แค่ไหน
ตามแสงไฟจะส่องทาง
เวลานี้สามทุ่มเห็นจะได้ครับ ตามชายหาดมีแสงไฟสว่างเป็นช่วง ๆ สลับกับความมืดตามโขดหิน
ส่วนที่มืดจะเป็นที่ตั้งของบังกะโลซะส่วนใหญ่
เราสองคนยังสนุกกับการเดินสำรวจบริเวณแถวนั้น
ระหว่างทาง มีคนเดินผ่านไปมา ตลอดครับ อย่างน้อยเราก็มั่นใจได้ในความปอดภัย
ที่บอกว่าปลอดภัยนี้คือจากโจรนะครับ

แต่สิ่งที่เราได้รับจากคนที่เดินสวนไปมาคือเสียงทำปากเหมือนนกชนิดหนึ่งครับ
สงสัยนกชนิดนี้ออกหากินเฉพาะตอนกลางคืนแน่ๆ
แต่ก็อุ่นใจครับ อย่างน้อยก็พวกเดียวกันคงไม่ทำอะไร นอกจากชิงรักหักสวาท…บนหาดทราย55
บ้างก็นั่งตามโขดหินเป็นคู่ๆ ดูแล้วอย่างทำบ้างจัง
เดี๋ยวชวนไอ้ลุงดีกว่า โขดไหนดีหว่าที่ยังไม่ใครจองนะ55
ไหนจะนั่ง หรือนอน นี่เหรอครับที่เขาเรียกว่าเกาะเสม็ด มาแล้วคงเสร็จกันจริงๆ
ผมมองออกไปทะเลเห็นแสงไฟจากเรือประมงเล็ก ๆออกหาปลาตอนกลางคืน
เป็นสีสันตอนกลางคืนของทะเล
บ้างก็มีแสงไฟสีแดงที่ค่อยลอยออกไปไกลเรื่อยๆ ผมไม่แน่ใจว่านั่นเป็นโคม
หรืออะไรสักอย่างเพราะถ้านั้นเป็นดาวแล้วสีคงไม่แดงสดขนาดนี้
เดินมาได้สักพัก ผมก็เห็นเด็กฝรั่งสาม สี่คนกำลังจุดไฟเล่นอะไรบางอย่างกันอย่างสนุกสนาน
พอเดินเข้าไปใกล้ ๆ จึงรู้ว่าเขากำลังปล่อยโคมกัน
แสงสีแดงๆที่ผมเห็นนั้นมันคือไฟสว่างจากโคมนั้นเอง
เราสองคนถามเด็กฝรั่งพวกนั้นว่าไปซื้อมาจากไหน
ไอ้ลุงจึงเดินไปซื้อตามที่เด็กฝรั่งพวกนั้นบอกครับ
ลักษณะของโคมเขาทำกันง่ายๆครับด้วยพลาสติกบาง ๆ
ผมเป็นคนจุดไฟตรงส่วนกลาง ส่วนไอ้ลุงเป็นคนดึงส่วนปลายของโคมให้มันเป็นโพงคล้ายกับเป่าลมใส่ลูกโป่ง ในลักษณะคว่ำลง
เมื่อควันจากไฟที่เราจุดค่อย ๆ รวมตัวกันที่พลาสติกที่ไอ้ลุงจับไว้ โคมจะค่อยๆออกไปตามแรงลมออกสู่ทะเล
แล้วเสียงปรบมือจากเด็กฝรั่งกลุ่มนั้นก็มีทุกครั้งตามโคมที่ปล่อยออกไป
เมื่อเวลาดึกเข้า ผมกับไอ้ลุงชวนกันเดินกลับ ออกมาไกลเดี๋ยวจะกลับลำบากเพราะว่ามืดมาก สองข้างทางผู้คนเริ่มน้อยลงละครับ
แสงไฟจากไฟฉายส่องลงไปในน้ำบนท่าเทียบเรือเล็กๆ ทำให้ผมและไอ้ลุงสงสัยว่านั้นเขาทำอะไรกัน
เราสองคนเดินออกไปตามทางเดินที่ยื่นเข้าไปในทะเล เห็น หนุ่มสาว สองคู่กำลีงหย่อนเบ็ดลงไปในทะเลครับ
แล้วส่องไฟไปยังเหยื่อที่เกี่ยวอยู่ปลายเบ็ดนั้น
ผมมองตามแสงไฟที่ส่องไปยังทะเล เห็นปลาหมึกกำลังลอยเล่นแสงไฟอย่างสนุกสนาน
ไม่รู้เลยว่าภัยจะมาถึงตัวเอง ช่างน่าสงสารจริงเชียว55

ไม่นานเมื่อมันมาเล่นแสงไฟหลายๆตัวแล้ว มันก็ถูกช้อนขึ้นมาด้วยตาข่ายอันใหญ่ๆกลมๆ ขอบเป็นเหล็ก
ผมและไอ้ลุงดูด้วยความสนใจ อยากทำบ้าง แต่ไม่รู้จะไปหาอุปกรณ์เหมือนเขามาจากไหนครับ
เลยเดินกลับที่พักด้วยความเสียดาย
เสียงดนตรีเปิดให้ผมได้ยินดังมาแต่ไกลครับ
โดยไอ้ลุงจับมือผมเดิมช้าๆ ไปด้วยกันตามโขดหิน 
ผมไม่แน่ใจว่าเขามีอะไรกัน สองข้างทางผู้คนที่เคยนั่งเป็นคู่ก็หายไป โขดหิน ผืนทราย
ตอนนี้ว่างเปล่า
เราสองคนสาวเท้าไปบนทรายที่ละเยีอด แต่เดินลำบากครับเพราะทรายมันละเอียดทำไห้ผมเดินช้ากว่าไอ้ลุงครับ
บ่อยครั้งที่ไอ้ลุงต้องรอผม และหันมาถามตลอดทางว่าไหวไหม
อยากตอบจังครับทำไมจะไม่ไหวละที่รัก ถ้าข้างกายมีนายเดิมร่วมทาง แหวะ555
เสียงเพลงนั้นชัดขึ้นเรื่อยๆขณะที่สี่ขา ผมกับไอ้ลุง55 ( ไม่ใช่หมานะ ) ก็พยายามที่จะเดินให้เร็วขึ้น
เรากลับมาหาดที่เราเล่นน้ำอีกครั้งครับ เห็นแล้วแทบอยากจะบอกว่า โอ้ว อ่า อู้
คนที่เดินสวนกับเราระหว่างทาง คนที่นั่งอยู่บนโขดหิน คงจะมาร่วมกันที่นี่แน่ๆครับ
เราเดินแทรกเข้าไปยังคนเหล่านั้น สิ่งที่เราเห็นชัดเจนขึ้นครับ
มันเป็นผับริมชายทะเลนั่นเอง นึกว่าเป็นร้านอาหารเสียอีกครับ ตอนนี้เพลงกำลังสนุกสนาน
เริ่มมีคนโยกตัวเบาๆตามแล้วครับ แต่ยังไม่มาก ส่วนมากจะยืนคุยกัน บ้างก็นั่งดื่ม
ตามโต๊ะเล็ก ๆ ที่เขาตั้งไว้กับหาดทรายริมทะเล
เป็นคู่บ้างกลุ่มบ้าง
ไอ้ลุงค่อย ๆ จูงมือผมฝ่าผู้คนไปอย่างช้าๆ ยังไม่รู้เลยครับว่าเราจะไปไหนกันดี ขอให้เดินไว้ก่อน
ห้องพักคงเป็นที่แรกที่เราคิดได้ครับ
เรากลับมาในห้องอีกครั้ง เพราะไม่คิดว่าจะมาเจอคนเยอะขนาดนี้
ก็อย่างที่ผมบอกละครับ ช่วงนี้เป็นช่วงสอบเสร็จและวันหยุดงานเสาร์อาทิตย์
คนจึงออกต่างจังหวัดมาผักผ่อนเป็นธรรมดาอย่างที่เห็นครับ
อันนี้ผมไม่รู้ครับไอ้ลุงเป็นคนจัดการ ทั้งที่พัก ทั้งวันเดินทาง
ไอ้ลุงเปิดทีวีหลังจากที่มันนั่งลงบนเตียงนอน 
ส่วนผมเข้าไปล้างเท้าในห้องน้ำ เพราะรู้สึกอึดอัด และแสบถ้ามีอะไรติดที่เท้า
กลับออกมาอีกที มันยังเลือกช่องไม่ได้ครับว่าจะดูช่องไหนดี
ผมนั่งลงข้างๆมันมือที่ไม่ได้จับลีโมทของไอ้ลุงมันเอื้อมมากอดผมจากด้านหลัง
สายตามันยังจ้องที่จอทีวีตามเดิม ครับ
เวลาผ่านไปช้าๆ ดึกขึ้นเรื่อยๆ เสียงดนตรีลอยผ่านอากาศมาให้เราสองคนได้ยิน
ผมเอ็นคอไปหนุนที่ไหล่ไอ้ลุงตามองที่ทีวี
“ง่วงหรือยัง”
ผมขยับหัวไปมาบอกให้มันรู้ว่าผมยังไม่ง่วง
“ยังไม่อยากนอนเลย หาไรทำกันไหม” ผมเสนอไอเดีย
“ทำไรดีครับ”
“ไปหาไรดื่มหน่อยไหม” พูดพรางมองที่หน้าไอ้ลุง เพื่อฟังคำตอบ
มันยิ้มให้ผม
เราสองคนจึงเดินจูงมือกันมายังผับริมชายหาดอีกครั้ง
เดินออกมาแล้วแทบตกใจตายครับ ชายหาดก็ว่ากว้างแล้ว แถบไม่มีทียืนเลย
ตัดสินใจกลับห้องก็ไม่ได้ละครับ555 เพราะบรรยากาศมันม่วนชื้นโฮแซวมากครับ
ทุกคนถือขวดเล็กๆอยู่ในมือ บ้างก็ถือถังน้ำพลาสติกเล็ก ๆมีหลอดหลายๆอัน
ผมและไอ้ลุงแทรกตัวไปยังริมชายหาด เสียงคลื่นแทบไม่ได้ยินครับ
เพราะเสียงดนตรีมันเล่าร้อนกว่าเสียงคลื่นแล้วครับ 
หลายๆคนจับคู่กัน หลายคู่กอดกัน และหลายกลุ่มเต้นกันอย่างสนุกสนาน
ยังกะยกซอยสองมาตั้งไว้ที่เสม็ดยังไงยังงั้นเลยครับ
ผมเดินตามแรงมือไอ้ลุงที่มันจูงผม แทรกตัวตามช่องว่างที่สามารถเดินได้ครับ
ตอนนี้เราได้ที่ว่างพอที่จะยืนแล้ว
“ยืน ตรงนี้นะครับปอร์ รอตรงนี้นะครับ เดี๋ยวผมไปซื้อเครื่องดื่มมาให้”
มันพูดแล้วก็เดินแทรกคนแถวนั้นออกไปเลยครับ ไม่สนใจว่าผมอยากไปด้วยหรือเปล่า
ทิ้งผมให้ยืนอยู่เพียงคนเดียว ไม่ห่วงสวัสดิภาพของคนอื่นบ้างเลยว่าผมจะไปกัดเขาไหม555
“สวัสดีครับ” ผมมองตามเสียงทักนั้น งานเข้าอีกแล้วกรู
ไม่ทักเขาก่อน เขาก็มาทุกกรูอยู่ดี ทางที่ดีแบบนี้ชวนขึ้นห้องเลยดีไหม55
“มาคนเดียวเหรอครับ” แปลกจังทำไมคนเราก่อนเข้ามาทักต้องแกล้งโง่กันทุกครั้ง
มันก็เห็นอยู่ว่ากรูมากับคนอีกคน ยังจะถามอีก หรือว่ามันเป็นคำที่ต้องเอ่ยก่อนเพื่อเป็นการแก้เขิล
ประโยคอื่นจึงจะตามมา
“เปล่าครับ มาสองคน” ผมตอบ แล้วยิ้มให้เพื่อนร่วมโลกอีกคนครับ
“ดิ่มหน่อยไหมครับ”…………. ไหนละน้ำส้ม ฉันนางเอกนะมคิดในใจ5555
ผมยังยิ้มให้เขาต่อ มาแล้วครับพลาสติกที่เป็นถังเล็ก ๆ มีหลอดหลาย ๆ อัน ตอนนี้มันจ่ออยู่ที่ปากผมแล้วครับ
ผมจะทำไงได้ละ กินคนที่มันยื่นให้เลยดีไหม555
ผมรับถังที่เขายกมาให้แล้วดูดไปนิดหน่อยครับเพื่อนเป็นการักษาน้ำใจที่เขามีให้
หน้าตาเขาก็ได้อยู่ครับ ถือว่าดีเลยที่เดียว แต่ที่ผมไม่ชอบคือพวกมีกล้ามครับ
มันทำให้ผมรู้สึกว่า เขาคนนั้น กำลังชวนผมกลับคืนสู่ธรรมชาติยังไงก็ไม่รู้55
เพราะส่วนมากเขาจะมีแต่วิวัฒนาการมาเป็นคน
แต่พวกนี้อยากกลับไปเป็นคิงคอง555555555555555555
ไม่นานไอ้ลุงก็มาครับถือขวดอะไรสักอย่างที่ไม่ใช้เบียร์
นอกจากของที่มันติดมือมาด้วย ก็มีคนที่พยายามทำตัวให้คุ้นเคยครับ
เพื่อนร่วมโลกนั่นเอง ตามติดจริงๆ
“สวัสดีครับ เจอกันอีกแล้วนะปอร์” ผมว่ามันพยายามมากกว่าครับที่จะเจอกัน

“คนเยอะเป็นร้อย อังเอิญอีกแล้วครับ”
“นั้นสิ บังเอิญอีกแล้วนะครับ” มันพูดพร้อมกับยกขวดเบียร์ในมือมันดื่ม
“ปอร์ครับ”ไอ้ลุงพูดขึ้น พร้อมส่งขวดในมือให้ผม
ผมรับไว้ในมือแล้วก็ยกดื่มบ้าง หวานดี รสอ่อนๆ เสียงดนตรียังคงกระตุ้นอารมย์ของ
ผมและไอ้ลุง ยกดิ่มตามคำขอจากคนรอบข้าง รวมทั้งเพื่อนร่วมโลกนั้นด้วย
เครื่องดื่มในมือจึงหมดลงอย่างง่ายดาย เหลือไว้เพียงขวดเปล่า
ผมลากไอ้ลุงเดินซื้อเครื่องดื่มด้วยกัน ปล่อยให้เพื่อนร่วมโลกทั้งสองได้คุยกันให้หนำใจครับ
หลังจากซื้อเสร็จก็ไปหาที่อื่นยืนกัน โชคดีครับที่พอมีที่ว่างมันก็ไกลจากที่เดิมพอควรครับ
โยกตามจังหวะเพลง อย่างสนุกสนาน ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับใครครับ
มีแต่ใครๆที่อยากเข้ามายุ่งเกียวกับไอ้ลุงของผม555
ดีเจเรื่มลดจังหวะความเร็วของเพลงลงหลังจากที่ปล่อยมาอย่างเต็มที่
ไอ้ลุงเอื้อมมือมากอดผมไว้ สองมือกันประสานกันที่หลังผม ถือขวดเครื่องดื่ม
ผมทำตามมันบ้าง มันมองตาผมและผมก็มองตามันบ้าง ไม่แค่ร์สายตาของคนรอบข้างแต่อย่างใด
ทำให้บรรยากาศน่าเต้นรำมากแค่ไหน ณะเวลานี้ แสงไฟจากดวงดาวและพระจันทร์
เสียงคลื่นที่ซัดเข้าฝั่งให้ได้ยินตลอดเวลา เหมือนเป็นดนตรีที่ธรรมชาติบรรเลง
ผู้คนที่กำลังจับคู่เต้นรำอย่างสนุกสนาน
และที่สำคัญการได้อยู่ในอ้อมกอดของคนที่รักเรา มันมีความสูขมากแค่ไหน
ผมมองคนที่อยู่ในอ้อมกอดผมอีกครั้ง เหมือนกำลังถูกมันต์สะกด
*********-*********
“ปอร์ครับฟังผมนะ” เสียงรถที่วิ่งผ่านไปมาจากข้างหลังยังลอยเข้ามาหาเราไม่หยุด
“สองเดือนที่ผมไม่ได้พูดคุยกับคุณเลย มันทรมานแค่ไหน

ผมเจ็บปวดทุกครั้งที่เจอหน้าคุณแล้วคุณทำเป็นไม่รู้จักผม
คุณรู้ไหมผมแวะเวียนไปหาคุณทุกวันที่ร้าน แต่คุณไม่เห็นหรอก หรือคุณมองแล้วทำเป็นไม่รู้
ผมไปเกาะขอบประตูบ้านคุณ เห็นไฟยังเปิดอยู่ทางหน้าต่าง แต่ผมเข้าไปหาคุณไม่ได้ เพราะข้อตกลงของเรา
ผมรู้ว่าผมเป็นคนที่ไม่ดีในสายตาคุณ
แต่วันนี้ผมพร้อมแล้วที่จะเล่าทุกเรื่องให้คุณฟัง
ผมกับนนท์ เราเคยรักกันมาก่อน ตั้งแต่สมัยกางเกงน้ำเงินขาสั้น และเราจะเข้าเรียนมหาลัยด้วยกันครับ
ตอนนั้นเขาคือคนที่ใช่สำหรับผม และเราวางแผนที่จะไปเรียนต่างประเทศด้วยกันและใช้ชีวิตอยู่ที่นั้น.”
ผมยังคงนั่งอยู่บนเวสป้า โน้มหัวไปพิงที่ไหล่มันคอยฟังเรื่องต่างๆที่มันเล่า
มองออกไปยังแม่น้ำสายยาวนั่นแสงไฟจากพลุยังส่องสว่างมาให้เห็นตามริมฝั่ง เฉลิมฉลองปีใหม่
“แต่พอเขาเริ่มทำงานทุกอย่างก็เปลี่ยนไป คนเริ่มเข้ามาในชีวิตเขา จากที่เราเคยมีเวลาให้กัน
กลายเป็นว่าผมต้องวิ่งตามเขาเพียงฝ่ายเดียวโดยที่เขาเหมือนพยายามหนีห่างผมไปเรื่อยๆ”
เสียงเศร้าจากคนที่นั่งอยู่ข้างผม
“แต่พอเวลาที่ผมเริ่มถอยออกมาทุกครั้ง เขาจะกลับเข้ามาหาผมเสมอ และมันจะเป็นอยู่แบบนี้ตลอดเวลา”
เสียงรถข้างหลังเรายังแทรกเข้ามา และผมยังฟังมันอย่างตั้งใจภายใต้อ้อมกอดมัน
หลายครั้งที่มันต้องเจ็บปวดจากการแอบไปมีใคร หลายครั้งที่ไอ้ลุงต้องตามง้อทั้งที่มันไม่ผิดคิดนอกใจเลยแม้แต่ครั้งเดียว
แต่สิ่งที่ไอ้ลุงได้รับกลับมาคือเสียใจครั้งแล้วครั้งเล่า คำง่ายๆที่ไอ้นนท์ชอบใช้คือ เขามาชอบนนท์เอง
นนท์ขอโทษ เรามาเริ่มต้นใหม่ได้ไหม สุดท้ายคนที่ใจอ่อนทุกครั้งคือไอ้ลุง นี่คือสิ่งที่มันเล่า
“ปอร์ครับ วันนี้ผมอยากบอกปอร์นะ ผมเป็นคนใหม่แล้ว ผมได้เคลียร์สิ่งที่ผมค้างคากับนน์แล้ว ตอนนี้ ปอร์คือคนที่ใช่ที่สุดแล้วสำหรับผม
ผมไม่ได้มองหรือเลือกคบคนที่หน้าตา หรือฐานะ ชาติตระกูล นะครับ ผมอยากให้ปอร์รับรู้
ปอร์จำครั้งแรกๆที่เราเจอกันไหม ตอนนั้นผมทำนิสัยไม่ดีกับคุณเพราะผมไม่รู้จะเข้าหาคุณยังไง
ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมทำไปแบบนั้นได้ยังไง
แต่พอผมได้รู้จักคุณไปนานๆ ผมรู้แล้วว่าคุณเป็นคนที่ผมมองหา.”
เวลาค่อยๆเดิน
“สองเดือนที่ผ่านมา ผมถามตัวเองทุกวัน จะกลับไปเจอเหตุการณ์ซ้ำ ๆ แบบเดิม หรือเปล่า
คำตอบคือไม่แล้ว เพราะตอนนี้ผมได้เจอใครคนใหม่
คนที่เขาพร้อมจะรอผมและให้โอกาสผมเปลี่ยนตัวเอง เพราะผมรู้ถึงความรู้สึกนั้นแล้วความรู้สึกที่ผมเคยให้กับนนท์
และวันนี้ปอร์เป็นคนให้โอกาศนั่นแล้ว ขอบคุณนะครับ ที่รัก ช่วยผมด้วยนะ
ช่วยผมให้ได้รักคุณมากจนหมดหัวใจที่ผมมี ผมสัญญา ว่าผมจะไม่เป็นอย่างที่ผ่านมาอีกแล้ว ผมรักปอร์นะ”
**************-**************
http://www.youtube.com/watch?v=CR3hg452VGc&feature=related
(เปิดฟังไปพร้อมกับอ่านนะครับ เพลงประมาณนนี้ละครับเท่าที่จำได้)
ผมจ้องมองหน้ามันอยู่อย่างงั้น หลังจากสิ่งที่มันพูดไปในคืนปีใหม่ผุดขึ้นมาให้หัวผม
และผมไม่แน่ใจหรอกว่าสิ่งที่ผมกลับมาคบกับมัน
และให้โอกาสมันอีกครั้งเป็นสิ่งที่ถูกสำหรับมัน หรือผิดสำหรับผม
แต่วันนี้ผมพร้อมครับ ที่จะเดินไปกับมัน ยอมรับในสิ่งที่มันเป็น คือคนขี้เกรงใจ ปากหนัก หล่อ55
และช่วยมันให้หลุดออกมาจากสิ่งที่มันต้องเผชิญอยู่กับความรู้สึกที่ถูกทิ้งตลอดเวลาอยู่อย่างนั้น
ถึงแม้ว่าวันนี้ผมจะตัดสินใจผิดพลาด แต่อย่างน้อยผมก็ได้เรียนรู้ที่จะรักใครคนนึงอย่างสุดหัวใจที่ผมมี
ถึงคำตอบในวันข้างหน้าที่ผมจะได้รับ จะเป็นยังไง วันนี้ผมยังตอบไม่ได้
และไม่คิดที่จะตอบเพราะมันยังมาไม่ถึง หลายคนบอกว่ารักครั้งแรกลืมยาก ผมเชื่อนะครับ
เพราะไอ้ลุงคือรักครั้งแรกของผมและไม่คิดจะลืมถ้าเราต้องเลิกกัน
ถึงตอนแรกมันอาจจะเจ็บปวด แต่ตอนหลัง มันจะมีค่าให้ผมได้จดจำ และยิ้มทุกครั้งที่ผมคิดถึงมัน
คุณอาจจะบอกว่ารักแท้ ไม่ได้มาจากรักครั้งแรกเสมอไป
แต่ผมกลับเชื่อว่ารักแท้มาจากใครบางคนที่เขาเห็นรักแท้ในตัวเรา ถึงจะมาจากรักครั้งใหม่ก็ตาม
มันก้มลงมาจูบผมท่ามกลางสายตาคนนับร้อยอย่างไม่แคร์ใครเลยครับ
ผมตอบรับรอยจูบนั้นอย่างไม่คิดที่จะปฏิเสธเช่นกัน
ริมฝีปากเราบดเบียดกันอย่างหนักหน่วงแต่อ่อนโยน ท่ามกลางเพลงรักจังหวะช้าๆ บนริมทะเลแห่งนั้น
“ขอบคุณสววรค์ที่ส่งเกย์มาบนโลกใบนี้”
“อิจฉาโว้ย”
“ฉลอง มาจูบกันหน่อย”
“วู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงจากคนรอบข้างที่แทรกผ่านเพลงซึ้ง ๆ ลอยมา
และผมไม่ใช่คู่เดียวที่ทำแบบนี้ 
แล้วสายฝนแห่งความชุ่มช่ำก็ตกลงมาจากบนท้องฟ้าที่มีดาวอยู่เต็ม
เหมือนจะบอกนี้คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของชีวิต
ผมและไอ้ลุงแหงนหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้า หยดน้ำฝน ตกลกระทบนใบหน้าเรา
ไอ้ลุงมันดึงมือผมวิ่งแทรกจากผู้คนบนหาดทรายนั่น
เหลือไว้แค่คนที่ยังสนุกกับสายฝนที่โปรยลงมา 
ส่วนผมกับไอ้ลุงจะไปยังที่ไหนนั้น ตอนหน้าจะมาเล่าครับ ตอนนี้ยาวมากเป็นพิเศษนะครับ
ยังไงช่วยเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ
ปล.รักนะยื้มตังค์5555