❤️:::: ลูกพลับสีหม่น(Mpreg)::::❤️#12 ความรู้สึกของคนเป็นพ่อ [Up : 19-12-2022]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤️:::: ลูกพลับสีหม่น(Mpreg)::::❤️#12 ความรู้สึกของคนเป็นพ่อ [Up : 19-12-2022]  (อ่าน 5807 ครั้ง)

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
= 10 =

ต้องหาทางเอาชนะ



“ค่ำ ๆ มืด ๆ เอ็งจะไปไหนพลับ”

“ไปหาพี่โตครับป้า กะว่าจะเอาข้าวเย็นไปฝาก”

“อ้อ ถ้างั้นก็เดินระวังล่ะเดี๋ยวจะหกล้มเอา”

“ครับป้า”

สนทนากับป้าปิ่นแล้วลูกพลับก็เดินถือปิ่นโตมุ่งหน้าไปบ้านหลังติดกัน ในช่วงค่ำมืดอากาศเย็นสบายกำลังดี แถมวันนี้พระจันทร์ยังเต็มดวงอีกด้วย เห็นแล้วก็ทำให้ใบหน้าหวานมีรอยยิ้มประดับ ตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ไม่มีวันไหนที่เขาไม่รู้สึกมีความสุข อยากจะให้มันเป็นอย่างนี้ตลอดไป

มาถึงหน้าประตูแล้วร่างเล็กก็คิดอะไรสนุก ๆ นั่นคือการเข้าไปหาอีกฝ่ายโดยไม่ให้รู้ตัว ประจวบเหมาะที่ประตูไม่ได้ล็อก ลูกพลับยิ้มพลางแง้มประตูอย่างช้า ๆ ส่องสายตามองเข้าไปด้านในก็พบเพียงความว่างเปล่า เจ้าตัวขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความสงสัย แทรกตัวเข้าไปอย่างระแวดระวังก่อนจะทำการปิดประตูอย่างเบาเสียงที่สุด เป็นครั้งแรกที่ได้เข้ามาในบ้านหลังนี้และก็ได้รู้ว่ามันรกมาก แต่ก็ไม่ได้แปลกใจนักเพราะเป็นบ้านของหนุ่มโสดนี่นา เขาเดินไปวางปิ่นโตไว้บนโต๊ะหน้าทีวีก่อนจะได้ยินเสียงเจ้าของบ้านดังจากด้านหลัง

“เออ ๆ เดี๋ยวกูเข้าไปหาพวกมึงละกัน อยากดื่มจะแย่แล้วว่ะ”

แทนไทคุยสายกับเพื่อนในสภาพเปลือยกายล่อนจ้อนเพราะเพิ่งจะอาบน้ำมา เมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ก็เบิกตาโพลงด้วยความตกใจ เอามือข้างหนึ่งมากุมที่กลางกายอย่างลนลาน ตัดสายเพื่อนแล้วหันหลังกลับทันที

“เฮ้ย! พี่โต”

เมื่อเห็นว่าเขายืนหันหลังในสภาพเปลือยเปล่าก็รีบปิดเปลือกตาหันหลังให้เช่นเดียวกัน หัวใจเต้นตึกเพราะรูปร่างของโตนั้นช่างกำยำล่ำสันเหลือเกิน ด้วยความตกใจจึงไม่ได้นึกเอะใจอะไร

“ทำไมจะเข้ามาไม่บอกก่อนล่ะ”

“เอ่อ ผมขอโทษครับ ผมตั้งใจจะเอาข้าวเย็นมาฝากพี่โต ผมวางไว้บนโต๊แล้วนะครับ งั้นผมกลับก่อน”

“อย่าเพิ่งสิ เดี๋ยวพี่เข้าไปใส่เสื้อผ้าก่อนละกัน เดี๋ยวออกมาคุยด้วย”

“ก็ได้ครับ”

แทนไทรีบเดินเข้าไปในห้องนอนโดยเร็ว เมื่ออยู่ในห้องเพียงลำพังแล้วก็ทิ้งตัวลงบนเตียง พรูลมออกมาเบา ๆ อย่างรู้สึกโล่งใจ เรื่องอายไม่ได้อายหรอกเพราะเขาและลูกพลับเคยนอนร่วมเตียงกันหลายครั้ง แต่กลัวความลับจะแตกน่ะสิ หน้าก็ไม่ได้พันผ้าเอาไว้ด้วย โชคดีที่ลูกพลับไม่เห็นไม่งั้นคงจะโกรธมากแน่ ๆ

แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินลากขาออกมาจากห้อง เดินตรงมานั่งลงบนเก้าอี้ข้างแขกผู้มาเยือน ลูกพลับเงยขึ้นมองแวบหนึ่งแล้วหลบตาเพราะยังนึกถึงเรื่องเมื่อครู่

“ขอโทษนะที่ทำให้ตกใจ”

“ผมต่างหากที่ต้องขอโทษที่เข้ามาโดยพลการ เมื่อครู่พี่โตคุยสายกับใครเหรอครับ”

“อ๋อ เพื่อนน่ะ เพื่อนสมัยเรียนประถม มันชวนไปเที่ยวบ้านมัน”

“ออครับ นี่ปิ่นโตผมทำมาเผื่อ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”

“เดี๋ยวสิ”

แทนไทรีบรั้งข้อมือน้อย ๆ ไว้ให้อยู่บนเก้าอี้ตัวเดิม ลูกพลับเงยขึ้นสบตาก่อนเปลี่ยนมามองที่มือของตนเอง แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร ยังคงจับข้อมือเอาไว้แน่นเหมือนเดิม รอยยิ้มที่อ่อนโยนฉายขึ้นบนใบหน้าอันอัปลักษณ์ ทว่ามันทำให้คนที่เห็นใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก

“ขอบใจนะที่ไม่รังเกียจคนอย่างพี่”

“ทำไมผมต้องรังเกียจพี่ด้วยล่ะครับ”

“ก็พี่พิการและอัปลักษณ์อย่างนี้ไง”

“ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ผมเคยบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้มองคนที่ภายนอก”

“พี่โคตรดีใจเลยที่ได้รู้จักกับลูกพลับ ทำไมผู้ชายคนนั้นมันถึงได้มองข้ามคนดี ๆ อย่างนี้ไปได้นะ จะว่าอะไรไหมหากพี่จะขอจีบลูกพลับ”

“พี่โตพูดจริงหรือครับ” แม้จะรู้สึกอึ้งไม่น้อยแต่ก็ยังคงตีสีหน้าเป็นปกติ โตไม่ได้เลวร้ายอะไร แถมยังเป็นผู้ชายที่นิสัยดีคอยช่วยเหลือต่าง ๆ นานา ถึงจะเป็นหนุ่มที่มีใบหน้าอัปลักษณ์และพิการนั่นไม่เป็นอุปสรรคหากเขาจะมอบโอกาสให้

“พี่พูดจริง ๆ พี่อยากดูแลลูกพลับ”

“ผมว่าเราเป็นพี่น้องกันไปก่อนดีกว่าไหมครับ ตอนนี้ผมกำลังท้องอยู่ รอให้ผมคลอดลูกไปสักระยะแล้วค่อยว่ากันนะ ถ้าพี่รอได้ผมก็พร้อมจะให้โอกาสพี่”

“พี่รอได้ นานแค่ไหนก็จะรอ แต่พี่ขออย่างหนึ่งได้ไหม”

“ว่ามาสิครับ ถ้าผมให้ได้ผมก็จะให้”

“ถ้าวันหนึ่งพี่ทำผิดกับลูกพลับอย่างไม่น่าให้อภัย ถึงจะโกรธจะเกลียดกันมากแค่ไหน ต่อให้ลูกพลับจะไม่เอาพี่แล้ว แต่ขอให้พี่ได้ดูแลลูกของเราต่อไปได้ไหม ขอให้พี่ได้อยู่ใกล้ ๆ ลูก ได้กอดลูกได้ไหม” เขารู้ว่าหากวันหนึ่งความลับเกิดแดงขึ้นมา ลูกพลับจะต้องโกรธมากแน่ ๆ และจะต้องกีดกันเขากับลูกอย่างที่เคยลั่นวาจาเอาไว้ เขาไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นเลย อย่างน้อยได้มาอยู่ใกล้ลูกได้ดูแลลูกบ้างก็ยังดี

“ได้สิครับ แต่ผมคิดว่าคงไม่มีวันนั้นหรอกก็พี่โตออกจะนิสัยดีขนาดนี้ แต่ผมรู้สึกแปลก ๆ อย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้ยินพี่บอกว่าลูกของเรา ผมรู้สึกว่าพี่คือพ่อของลูกจริง ๆ ผมรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ นะครับ”

“ก็พี่เป็นพ่อของลูกจริง ๆ ไง นับจากนี้พี่จะดูแลลูกพลับและลูกของเราเองนะ”

“พูดแล้วก็ต้องทำให้ได้นะ”

“แน่นอนครับ ถ้าลูกพลับให้พี่ได้รับสิทธิ์นั้นพี่ก็จะทำให้ดีที่สุด”

“ผมเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาป้าปิ่นแล้ว ป้าเหมือนไม่เห็นด้วยที่เรา...”

“ไม่เป็นไรสักวันป้าปิ่นจะเข้าใจเราเอง พี่ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”

“ถามอะไรครับ ดูเหมือนพี่โตจะจริงน่าดู” ลูกพลับคลี่ยิ้มน้อย ๆ เมื่อเห็นสีหน้าที่จริงจังของอีกฝ่ายผ่านแววตาคมคู่นั้น

“ลูกพลับรู้สึกดีกับพี่เพราะความสงสารหรือเปล่า”

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ”

“แล้วกับพ่อของลูกล่ะเคยรักเขาบ้างไหม”

“ไม่มีทางครับ ผมไม่มีวันรักคนอย่างนั้น หากจะให้เลือกยังไงก็เป็นพี่โตอยู่แล้ว คนที่จะดูแลปกป้องผมได้ก็มีเพียงพี่โตคนเดียวเท่านั้น”

“ได้ยินอย่างนี้พี่ก็ดีใจแล้วล่ะ วันนี้ทำอะไรมาให้พี่กินบ้าง ขอเปิดดูหน่อยนะ”

เมื่อได้รับคำตอบที่ชัดเจนแล้วก็ยิ้มอย่างพอใจ เขาไม่สนใจแล้วว่าลูกพลับจะเกลียดตัวตนที่แท้จริงมากแค่ไหน ขอแค่ได้ทำคะแนนในรูปลักษณ์ของโตไปเรื่อย ๆ สักวันลูกพลับจะเข้าใจในสิ่งที่เขาทำ เจ้าตัวเชื่อว่ามันจะต้องเป็นอย่างนั้น



เช้าวันต่อมา...

เสียงรถยนต์ดังมาจากข้างบ้าน ทำให้คนที่เพิ่งจะตื่นนอนต้องเดินไปที่หน้าต่างเพื่อใช้กล้องส่องทางไกลสังเกตการณ์เหมือนเช่นทุกวัน พบว่าตอนนี้มีรถยนต์สีขาวคันหนึ่งจอดอยู่ลานหน้าบ้านเรือนไทย ชายหนุ่มสามคนทยอยลงมาจากรถ เขาไม่รู้จักคนพวกนั้นแม้แต่คนเดียว เข้าใจว่าคงเป็นเพื่อนลูกพลับ ทว่าพอได้เห็นใบหน้าหนึ่งในนั้นชัด ๆ ก็รู้สึกคุ้นเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ภาพที่เกิดขึ้นในโรงแรมฉายขึ้นในหัวทำให้แทนไทกำหมัดแน่น ไอ้คนนั้นมันคือผู้ชายที่เคยเจอในโรงแรมกับลูกพลับนั่นเอง

“นี่มึงกล้ามาหยามกูถึงที่นี่เลยเหรอวะ มึงได้เจอกูแน่”

ด้วยความโมโหจึงลืมตัวว่าตอนนี้ยังไม่ได้พันผ้าที่ใบหน้า เดินดุ่ม ๆ ตรงไปยังประตู เมื่อนึกขึ้นได้ก็ชะงักฝีเท้าแล้วเดินวกกลับเข้ามาทำการใช้ผ้าพันรอบใบหน้าเหมือนเช่นทุกวัน แต่ด้วยความเร่งรีบทำให้เขาไม่สามารถทำมันสำเร็จสักที จึงเกิดความหงุดหงิด

“เชี่ยเอ๊ย! ทำไมวันนี้มันพันยากนักวะ หรือจะไปแม่งทั้งอย่างนี้ให้รู้แล้วรู้รอด ให้มันรู้ไปเลยว่าอย่ามายุ่งกับเมียกู”

แทนไทคลุ้มคลั่งราวกับคนเสียสติ โยนผ้าพันหน้าทิ้งไปอย่างไม่ไยดี นั่งหายใจฟึดฟัดอย่างรู้สึกหงุดหงิด รู้สึกทรมานเจียนจะขาดใจเมื่อคิดว่าตอนนี้ไอ้คนนั้นคงจะยิ้มและหัวเราะไปพร้อมกับลูกพลับ มาหากันถึงที่คงหวังจะง้อให้ลูกพลับกลับไปคบด้วยสินะ เขาไม่มีทางยอมให้มันเป็นอย่างนั้นเด็ดขาด เมื่อนึกขึ้นได้จึงรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นกดโทรหา

“ฮัลโหล มึงอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่กับใคร”

(ผมอยู่บ้านกับป้าปิ่น โทรมาทำไมมิทราบ)

“ไม่จริงมึงไม่ได้อยู่กับป้าปิ่นแค่สองคน มีคนอื่นอยู่ด้วยใช่ไหม ถ้ามีห้ามมึงเข้าใกล้มันเด็ดขาด ไม่งั้นกูจัดการมึงแน่”

(คุณรู้ได้ยังไงว่าผมอยู่กับใครบ้าง คุณนั่นล่ะอยู่ที่ไหนกันแน่) ตอนนี้ลูกพลับเองก็เริ่มไม่แน่ใจแล้ว อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้โทรมาในวันที่ฮ่องเต้และกายรวมถึงเจตน์มาที่บ้าน เขาไม่สามารถคิดอย่างอื่นได้นอกเสียจากว่าแทนไทรู้ที่อยู่เขาแล้ว และตอนนี้ก็น่าจะอยู่แถวบ้านด้วย

“เอ่อ...มึงไม่ต้องรู้หรอกว่ากูอยู่ที่ไหน แต่ขอเตือนไว้ว่าห้ามอยู่ใกล้ ห้ามใจอ่อนให้มัน ห้ามทำตัวสนิทสนมกับมันเป็นอันขาด”

(แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาสั่งผม ในเมื่อคุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าเฮียเจตน์เป็นพ่อของลูกในท้องผม คุณอยู่แถวนี้ใช่ไหมบอกผมมา ผมจะได้ออกไปหาคุณตอนนี้ เราจะได้เจรจาสงบศึกกันวันนี้ให้มันจบ ผมอยากรู้ว่าคุณต้องการอะไรกันแน่)

“นั่นลูกกูไม่ใช่ลูกมัน มึงท้องกับกู! ได้ยินไหมว่ามึงท้องกับกู!”

(มาเรียกร้องอะไรตอนนี้มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะครับ เพราะพ่อของลูกผมก็คือเฮียเจตน์ ความจริงนี้มันไม่มีทางปฏิเสธได้ ถ้าไม่มีสาระก็แค่นี้นะครับ)

“กูจะไปจัดการพี่สาวมึง”

(ผมนึกอยู่แล้วว่าคุณจะต้องเอาเรื่องนี้มาขู่ แต่ขอโทษด้วยผมได้โทรไปกำชับพี่ดาวให้ระวังตัวแล้ว แถมยังบอกเรื่องนี้กับคุณไททันทราบแล้วด้วย ตอนนี้คุณคือคนเลวในสายตาทุกคนแล้วสมน้ำหน้า ถ้าคิดว่าตัวเองยังเป็นคนอยู่ก็เลิกใช้วิธีสกปรกข่มขู่ผมซะ แล้วกลับไปใช้ชีวิตเสเพลของคุณต่อ ผมไม่มีอะไรจะพูดแล้ว แค่นี้นะ ไปตายที่ไหนก็ไป)

แทนไทอึ้งพูดอะไรไม่ออก หูแทบชาเมื่อได้ยินคำด่าจากปลายสาย สงสัยวันนี้ลูกพลับจะโกรธหนักจริง ๆ ใส่มาเป็นชุดและไม่ได้กลัวคำขู่แล้ว เขาคงไม่มีทางเอาไอ้เด็กนั่นอยู่แน่แล้ว มีเพียงโตเท่านั้นที่ลูกพลับไว้วางใจ เขาจะต้องเข้าไปขัดขวางไอ้นั่นไม่ให้มายุ่งกับเมีย

ข้ามมารั้วบ้านอีกหลัง ในตอนนี้แขกทั้งสามได้มาเยือนที่บ้านเรือนไทยเป็นครั้งแรก ฮ่องเต้และกายคือแขกที่ได้รับเชิญ ทว่าเจตน์คือคนเดียวที่เป็นส่วนเกินของวันนี้ ลูกพลับแทบไม่มองหน้า ไม่ทักทาย ไม่ยิ้มแย้มให้เหมือนแต่ก่อนเพราะยังโกรธเรื่องวันนั้นอยู่ เขาต่อว่าเพื่อนรักเล็กน้อยที่ยอมให้เจตน์ตามมาด้วย แต่ก็ไม่ได้จริงจังถึงขนาดนั้น

ฮ่องเต้เล่าให้ฟังว่าเจตน์ตั้งใจจะมาขอโทษอีกครั้ง และอยากจะมาขอรับผิดชอบโดยการรับเป็นพ่อของลูกในท้อง เพราะรู้ว่าคนที่เป็นพ่อแท้ ๆ อย่างแทนไทไม่รับผิดชอบ เพื่อเป็นการไถ่โทษสิ่งที่เคยทำกับลูกพลับไว้ในวันนั้น ทั้งสองจึงออกมายืนสนทนากันอยู่ที่ข้างบ้าน และแน่นอนว่าแทนไทที่อยู่บ้านอีกหลังถือโอกาสนี้ส่องกล้องมองมาสังเกตการณ์ด้วย

“ผมไม่นึกว่าเฮียจะกล้ามาถึงที่นี่ ผมคิดว่าเราไม่ควรจะต้องได้เจอหน้ากันอีก” ลูกพลับยืนกอดอกหันหลังให้ ไม่แม้จะมองหน้าหรือให้ความสนใจอีกฝ่ายเลย

เจตน์รู้ตัวว่ามาเร็วเกินไป แต่หากไม่มาเขาเองก็คงจะอกแตกตายที่ไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้มาอธิบายความรู้สึกให้ลูกพลับฟังว่าเขาสำนึกผิดแล้ว ช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาเองก็เจ็บปวดไม่น้อยไปกว่ากัน กรรมได้ตามสนองเขาแล้ว

“เฮียขอโทษนะครับน้องพลับ เฮียผิดไปแล้ว ให้โอกาสเฮียได้มาหาน้องพลับอีกได้ไหม เฮียอยากจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เคยทำผิดพลาดเอาไว้จริง ๆ”

“เฮียไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบเพราะเราไม่ได้มีอะไรกัน ผมยังไม่พร้อมจะเจอหน้าเฮียในช่วงเวลานี้ ปล่อยให้ผมอยู่ในพื้นที่ของตัวเองสักระยะเถอะครับ ผมขอร้อง ผมยังไม่พร้อมจะเจอหน้าใครทั้งนั้น ผมกำลังมีความสุขมากไม่อยากจะให้อดีตมาทำลายความสุขนี้ไปอีกครั้ง”

“เฮียคิดเอาไว้แล้วว่าน้องพลับคงไม่มีทางยกโทษให้ แต่อยากให้รู้ว่าเฮียเองก็ไม่มีความสุขเลย วันๆ เอาแต่คิดถึงน้องพลับตลอดเวลา หัวใจดวงนี้มันเจ็บปวดมากนะครับ ขอแค่ได้มาเยี่ยมบ้างก็ไม่ได้เหรอ นะครับน้องพลับเฮียสำนึกผิดแล้วจริง ๆ ไม่ว่าน้องพลับจะคิดกับเฮียยังไง ไม่ว่าจะสมหวังไหม แต่เฮียก็อยากจะเป็นพี่ชายที่ช่วยเหลือน้องชายคนนี้ตลอดไป” ว่าแล้วเจตน์ก็ทิ้งตัวนั่งคุกเข่าลง ก้มหน้าสำนึกผิดอย่างสุดซึ้ง ยังไงวันนี้เขาจะต้องทำให้ลูกพลับยอมใจอ่อนให้ได้

“เฮียเจตน์ ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลย”

“ไม่ลุกจนกว่าน้องพลับจะยอมให้เฮียมาเยี่ยมบ้าง เฮียขอแค่นี้จริง ๆ นะ”

“เฮ้อ! ทำไมถึงได้ดื้อด้านขนาดนี้นะ ถึงผมจะยอมแต่ยังไงก็ไม่มีทางรัก เฮียจะรับได้ไหมล่ะ”

“เฮียยอมทุกอย่างขอแค่ได้มา ขอแค่ได้เห็นว่าน้องพลับมีความสุข”

“ถ้าอย่างนั้นก็แล้วแต่เฮีย จะมาก็มาแต่ห้ามบ่อยเด็ดขาด”

“เย้! น้องพลับใจดีสุด ๆ เลย”

เมื่อได้สิ่งที่ต้องการก็ยิ้มกว้าง ลุกขึ้นโผเข้ากอดคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างลืมตัว คนที่แอบดูอยู่อย่างแทนไทได้แต่กำหมัดแน่นด้วยความโมโห อยากจะเข้าไปกระชากคอเสื้อเจตน์มาต่อยให้หายอยาก บังอาจมากอดเมียเขาได้อย่างไรกัน

“เฮียปล่อย!”

“โทษทีเฮียดีใจไปหน่อย อย่าโกรธเฮียเลยนะ”

“ถ้านานกว่านี้จะโกรธแน่ ได้สิ่งที่ต้องการแล้วก็รีบกลับไปซะ”

“จะกลับยังไงล่ะในเมื่อมารถคันเดียวกับฮ่องเต้และกาย เฮียไม่เดินกลับหรอกนะ”

“งั้นผมจะเข้าไปบอกให้สองคนนั้นพากลับเดี๋ยวนี้ล่ะ ไม่ต้องกินแล้วข้าวเย็นทำโทษในข้อหาชักศึกเข้าบ้าน”

ลูกพลับทำหน้างอใส่อีกฝ่ายแล้วเดินนำหน้าเข้าไปในบ้าน เจตน์ยิ้มแล้วรีบเดินตามหลังไปอย่างอารมณ์ดีผิดจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง ขอแค่ได้รับอนุญาตให้มาที่นี่เขาก็พอใจแล้ว ถึงอย่างไรก็จะทำให้ลูกพลับยอมใจอ่อนให้ได้ น้ำหยดลงหินทุกวันมันยังกร่อนนับประสาอะไรกับใจคนเล่า ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก

อีกฟากหนึ่ง แทนไทได้แต่เดินวนไปมาภายในบ้าน โกรธจนแทบจะเป็นบ้าที่เห็นเจตน์สวมกอดลูกพลับต่อหน้าต่อตา เขากลัวเหลือเกินว่าลูกพลับจะยอมใจอ่อนไปคบกันไอ้นั่น หากเป็นอย่างนั้นความหวังที่จะได้เป็นพ่อของลูกก็ต้องพังทลายลงอย่างแน่นอน ระหว่างผู้ชายอัปลักษณ์และพิการอย่างโตกับหนุ่มไฮโซที่หล่อและมีเสน่ห์ กล้ามเป็นมัด ๆ อย่างนั้นมันช่างแตกต่างกันอย่างชัดเจน ถึงลูกพลับจะเคยบอกว่าไม่ได้มองคนที่ภายนอกแต่เขาก็ไม่ไว้ใจอยู่ดี จะต้องหาทางเอาชนะไอ้นั่นให้ได้

ออฟไลน์ HamsteR

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ทำกับน้องไว้เสียขนาดนั้น ... เป็นเรานะ ไม่เอาหรอก ถึงจะเป็นพ่อของลูกก็เถอะ  :m16:

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
= 11 =

สารภาพความจริง



ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาแทนไทได้ตัดสินใจดีแล้วที่จะสารภาพความจริงกับลูกพลับ เขาไม่อยากจะปล่อยให้เวลามันล่วงผ่านเลยไป พร้อมกับการโกหกที่ไม่มีวันจบสิ้นหากอยู่ในคราบของโต จะต้องทำให้ลูกพลับยอมรับในตัวตนที่แท้จริงให้ได้ ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป

เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้แทนไทได้นัดหมายให้ลูกพลับมาหาที่บ้านในช่วงค่ำ บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะบอก เมื่อรู้อย่างนั้นลูกพลับก็รู้สึกตื่นเต้นตามไม่น้อย หลังจากรับประทานอาหารเย็นแล้วเจ้าตัวก็รีบอาบน้ำอาบท่า ปะแป้งหอม ๆ แต่งตัวออกมาจากบ้านอย่างอารมณ์ดี ไม่วายที่จะแวะทักทายเจ้าโชคดีที่ตอนนี้เริ่มเดินได้เกือบปกติแล้ว

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

เคาะประตูบ้านแล้วก็ยืนยิ้มรอ ทว่าเสียงเรียกของผู้เป็นเจ้าของบ้านกลับอยู่ทางฝั่งข้างบ้านเสียอย่างนั้น แทนไทยืนยิ้มให้พร้อมกวักมือเรียก ตรงนั้นมีเตียงไม้ไผ่ตั้งอยู่ด้วย เมื่อเดินเข้าไปถึงแล้วก็ยืนเผชิญหน้าพลางส่งยิ้มให้กัน แม้อาจจะมองเห็นไม่ชัดเจนนักแต่ก็รู้ว่าเป็นรอยยิ้มที่จริงใจ

“ทำไมวันนี้ออกมาข้างนอกล่ะครับ”

“พี่อยากให้มันเป็นวันพิเศษของเราน่ะ มานั่งก่อนสิ”

คนพูดคว้ามือเรียวให้เดินมาหย่อนก้นนั่งลงบนเตียงไม้ไผ่ ส่วนแทนไทยังคงยืนอยู่ อีกฝ่ายมองด้วยสีหน้าฉงนแล้วเอ่ยปากถาม

“ทำไมพี่โตไม่นั่งล่ะครับ”

“พี่จะเข้าไปเอาของข้างในก่อนเดี๋ยวออกมานะ” เขาวางมือบนกลางกระหม่อมยีผมเล่นเบา ๆ พลางส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาให้แล้วเดินเข้าไปในบ้าน

ลูกพลับนั่งประสานมืออยู่บนเตียงรออย่างใจจดใจจ่อ ท่ามกลางความเงียบงันทำให้ได้ยินเสียงจักจั่นประสานร้องอย่างถนัดหู เงยขึ้นไปบนท้องฟ้าก็เห็นหมู่ดาวพร้อมใจกันเปล่งแสงระยิบระยับ อากาศก็กำลังเย็นสบายดี บรรยากาศเช่นนี้ทำให้เจ้าตัวอดคิดไม่ได้ว่าเขาอาจจะสารภาพรัก หรือไม่ก็สร้างเซอร์ไพรซ์ยิ่งกว่านั้น คิด ๆ ดูแล้วก็น่าเหลือเชื่อที่เขาและโตย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ในเวลาไล่เลี่ยกัน ได้รู้จักกันและรู้สึกพิเศษต่อกัน มันอาจจะเป็นพรหมลิขิตก็เป็นได้

“เฮ้ย!”

ลูกพลับต้องอุทานออกมาเมื่อจู่ ๆ สนามหญ้าและพุ่มไม้รอบตัวมีไฟเปล่งแสงระยิบระยับขึ้น เขามองไปรอบตัวก็เห็นแทนไทเดินยิ้มเข้ามาหาแล้วนั่งลงข้างกัน รอยยิ้มนั้นยังคงฉายอยู่ตลอดเวลา ทำเอาคนที่กำลังจ้องมองหัวใจอ่อนไหวจนรู้สึกประหม่า ยิ่งนานวันยิ่งหลงใหลในความเป็นธรรมชาติของโต เขาไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน น่าจะเจอกันให้เร็วกว่านี้เพราะอยากจะให้โตเป็นพ่อของลูกจริง ๆ

“ผมไม่นึกเลยว่าพี่โตจะทำเรื่องอย่างนี้ได้ด้วย”

“เซอร์ไพรซ์ล่ะสิ พี่มีเรื่องจะเซอร์ไพรซ์กว่านี้อีกนะ”

“กว่านี้อีกเหรอครับ ผมชักอยากจะรู้ซะแล้วสิ”

“พี่คิดว่าลูกพลับน่าจะรู้แล้วว่าพี่คิดยังไง พี่รักลูกพลับมากนะครับ ลูกพลับเป็นคนจิตใจดีมากรู้ตัวไหม ดีจนคนอย่างพี่ไม่คู่ควรเลยด้วยซ้ำ เราทำให้พี่ได้รู้ว่าการที่จะรักใครคนหนึ่งนั้นมันไม่ต้องมีเหตุผลใด ๆ มาอธิบายมากมายหรอก ขอแค่มีความรู้สึกดีด้วย อยู่ใกล้แล้วมีความสุข แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว”

“วันนี้พี่โตพูดเก่งผิดปกตินะครับ จะเซอร์ไพรซ์อะไรผมเหรอเนี่ย” หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตักเมื่อเขาเขยิบก้นเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น ก่อนที่มือเรียวจะถูกคว้าไปกุมเอาไว้

“พี่ไม่อยากให้มือของลูกพลับต้องหยาบกร้านไปมากกว่านี้แล้ว พี่อยากจะถนอมมันไว้เพื่อให้พี่สัมผัสเท่านั้นรู้ไหม”

“ไปเอาคำพูดเลี่ยน ๆ พวกนี้มาจากไหนเนี่ย ดูไม่เหมือนพี่โตเลย” คนพูดเงยขึ้นสบตาพลางส่งรอยยิ้มบาง ๆ ให้

“มันออกมาจากใจพี่ ไม่ได้จำมาจากไหนสักหน่อย พี่อยากให้ลูกพลับรู้ว่าพี่รักเรามาก ไม่ว่าพี่จะเป็นใครมาจากไหนแต่ในหัวใจดวงนี้มีเพียงดวงเดียว และก็มีเพียงลูกพลับจับจองอยู่ทั้งสี่ห้องหัวใจ จะไม่มีวันมอบให้ใครอย่างแน่นอน”

“ผมรู้แล้วน่า”

“พี่มีของจะให้”

“อะไรเหรอครับ”

“หลับตาก่อนสิ”

เมื่ออีกฝ่ายยอมหลับตาแล้ว แทนไทก็ล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง มันคือสร้อยคอที่มีรูปฟันเฟืองห้อยอยู่ตรงกลาง เขาเคยได้รับมาจากรุ่นพี่เมื่อครั้งเป็นนักศึกษาปีหนึ่ง เรียนมาจนถึงปีสี่แล้วยังไม่เคยคิดจะมอบมันให้ใคร เพราะยังไม่รู้สึกรักใครอย่างจริงจัง แต่บัดนี้ลูกพลับทำให้เขายอมแพ้ ยอมมอบหัวใจให้ด้วยความดี ช่วงเวลาที่ผ่านมาลูกพลับได้ลบล้างอคติในใจเขาออกไปจนหมด และกลายเป็นแทนไทคนใหม่ที่มองความรักเป็นเรื่องสำคัญ และควรจะจริงจังเมื่อคิดว่าเจอคนที่ใช่

เขาสวมสร้อยคอเส้นนั้นคล้องคอให้คนที่นั่งตรงหน้า ก่อนจะโน้มเข้าไปจุมพิตที่กลางหน้าผากนุ่ม ยิ่งใกล้ถึงวินาทีสำคัญหัวใจยิ่งเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ มันสั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ลูกพลับจะมีปฏิกิริยาอย่างไรนะหากได้รู้ว่าโตและแทนไทคือคนเดียวกัน

“ลืมตาได้แล้ว”

เสียงที่ดังอยู่ข้างใบหูทำให้รู้สึกขนลุกชันไปทั้งตัว เลือกตาสวยเปิดขึ้นช้า ๆ ก่อนจะเห็นรอยยิ้มของแทนไทอยู่ตรงหน้าแล้ว มือน้อย ๆ กุมที่จี้ฟันเฟืองแล้วก้มลงมอง คิ้วเรียวขมวดเมื่อเห็นสิ่งนี้ เขารู้ทันทีว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของเหล่านักศึกษาวิศวะนี่นา แล้วโตไปมีเกียร์ของวิศวะได้อย่างไรกัน

“นี่มันเกียร์ของเด็กวิศวะนี่ครับ”

“ถูกต้อง”

“ผมไม่ยักรู้มาก่อนว่าพี่โตเคยเรียนคณะนี้ด้วย”

ได้ยินอย่างนั้นแทนไทก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่เพื่อเรียกความกล้า “พี่ขอโทษกับสิ่งที่ผ่านมา พี่โกหกลูกพลับมาโดยตลอด จริง ๆ แล้วพี่กำลังเรียนวิศวะปีสี่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกับลูกพลับ”

“พี่โตกำลังล้อเล่นใช่ไหมครับ” เอ่ยถามทั้งที่สีหน้าไม่สู้ดีนัก รอยยิ้มบนใบหน้าเลือนหายไปตั้งแต่ได้ยินคำว่าขอโทษแล้ว

“พี่ไม่ได้โกหก จริง ๆ แล้วพี่ไม่ได้พิการ ไม่ได้อัปลักษณ์อะไรทั้งนั้น ที่ทำเพราะอยากจะอยู่ใกล้ลูกพลับ” แทนไทกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเคลือ เป็นครั้งแรกที่เขากำลังจะร้องไห้ต่อหน้าคนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัว ดวงตาคมเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำใสและในที่สุดมันก็หยดแหมะลงมา เอื้อมมือขึ้นไปคลายผ้าพันรอบใบหน้าออกอย่างช้า ๆ จนเผยให้เห็นใบหน้าจริงที่ซ่อนอยู่

“คะ คุณแทนไท ไม่จริง! มันไม่ใช่เรื่องจริง”

“กูขอโทษที่โกหกมึงมาตลอด แต่กูรักมึงจริง ๆ นะ”

เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!

คนที่ร้องไห้หนักกว่าคงเป็นลูกพลับ เจ้าตัวง้างมือฟาดที่ใบหน้าหล่อสุดแรงถึงสองครั้งติด ถลึงตามองชายหนุ่มจอมลวงโลกอย่างโกรธแค้น หันหลังให้เพื่อจะเดินออกไปจากตรงนั้น ทว่าแทนไทได้รั้งตัวเอาไว้ด้วยวงแขนแกร่ง สวมกอดจากด้านหลังไม่ยอมให้ไปไหน

“ขอโทษที่ทำให้รู้สึกไม่ดี อย่าไปเลยนะ” คนพูดซบหน้าใบหน้าลงที่แผ่นหลัง มีเสียงสะอื้นให้ดังให้ได้ยิน ลูกพลับอึ้งเล็กน้อยไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะร้องไห้เป็นด้วย หรือว่านี่คือการเล่นละครตบตาเพื่อเรียกคะแนนสงสารเท่านั้น

“ปล่อย! ปล่อยผมเดี๋ยวนี้เลย แค่นี้ยังทำร้ายผมไม่พออีกเหรอ ลงทุนตามมาถึงที่นี่คุณต้องการอะไรกันแน่ ต้องการอะไรจากชีวิตผม ฮือ ๆ”

“กูไม่ได้ต้องการทำร้าย แต่อยากปกป้อง อยากดูแลในฐานะผัวเมีย มึงเป็นเมียกูแล้วนะ แถมยังท้องลูกของเราอีกด้วย จะไม่ให้ตามมาดูแลได้ยังไง เชื่อกูเถอะนะ ตอนนี้กูสำนึกผิดทุกอย่างแล้ว หลังจากนี้กูจะไม่ทำให้มึงเจ็บปวดอีกแล้ว”

“ทุกอย่างมันจบตั้งแต่คุณไม่รับผิดชอบลูกในท้องผมแล้ว คุณมันเป็นผู้ชายเห็นแก่ตัว ได้ผมมาเพราะความเลวยังไม่พอ ยังคิดจะครอบครองผมด้วยวิธีสกปรกอย่างนี้อีก ไม่มีวันซะหรอก ถึงยังไงคุณก็ไม่มีทางได้สิ่งที่ต้องการ” คนพูดพยายามแกะมือหนาออกทว่าแทนไทไม่ยอม เขาพลิกร่างเล็กให้หันมาเผชิญหน้ากันอย่างทุลักทุเลจนสำเร็จ พยายามสวมกอดทั้งที่อีกฝ่ายออกแรงขัดขืนดิ้นรน จนในที่สุดก็มิอาจสู้แรงคนตัวโตกว่า ร้องไห้เสียใจภายในวงแขนแกร่ง แต่ถึงกระนั้นกำปั้นน้อย ๆ ยังคงทุบที่ต้นแขนอยู่เนือง ๆ

แทนไทไม่ยอมพูดอะไรได้แต่สะอื้นไห้ กอดร่างเล็กไว้ราวกับกลัวว่าจะไม่มีโอกาสเช่นนี้อีกแล้ว บรรยากาศภายในสวนที่ควรจะโรแมนติกกลับกลายเป็นตรงกันข้าม เสียงสะอื้นไห้จากคนทั้งสองกลบเสียงจักจั่นไปหมดแล้ว แสงไฟกะพริบรอบตัวยังคงทำหน้าที่ของมัน แต่มิอาจจรรโลงจิตใจของคนที่เพิ่งได้รับความเจ็บปวดให้ทุเลาเบาบางลงได้ เขาหวังกับชายหนุ่มที่ชื่อโตเอาไว้มากมายนัก อยากจะให้เป็นพ่อของลูก อยากให้มาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่แล้วความฝันก็พังทลายลงไปในชั่วพริบตาจากคำสารภาพของแทนไท

“มึงเคยสัญญาเอาไว้แล้วว่าจะยอมให้อยู่ข้าง ๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มึงจำได้ไหม”

“ไม่! ผมไม่เคยนับว่ามันเป็นสัญญา เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากคำโกหกของคุณทุกอย่าง จึงถือว่าเป็นโมฆะ จากที่เคยเกลียดผมจะยิ่งเกลียดมากขึ้น คุณจะไม่มีวันได้รับน้ำใจอะไรจากผมเด็ดขาด”

“กูจะทำทุกทางเพื่อให้เราได้อยู่พร้อมหน้ากันพ่อแม่ลูก กูจะทำให้ได้”

“ชาติหน้าตอนบ่าย ๆ เถอะ”

ในเมื่อเขาไม่ยอมปล่อยลูกพลับจึงตัดสินใจอ้าปากกัดบ่าหนาของแทนไทอย่างสุดแรงเกิด ทว่าร่างหนายังคงยืนนิ่งไม่สะทกสะท้าน แม้เจ็บปวดมากแค่ไหนก็จะยอมทนเพื่อให้ได้กอดคนคนนี้ไปนาน ๆ เมื่อกัดเขาสมใจอยากแล้วแต่ก็ยังไม่ถูกปลดปล่อยจากพันธนาการ จึงทำได้เพียงร้องไห้อยู่อย่างนั้นและหมดสติไปในที่สุด

“ลูกพลับ! ลูกพลับฟื้นขึ้นมาสิ”

ด้วยความร้อนใจจึงอุ้มร่างเล็กรีบเดินข้ามรั้วบ้านไปอย่างเร่งรีบ ตะโกนเรียกปิ่นวดีเสียงดังจนอีกฝ่ายตกอกตกใจ รีบวางมือจากการล้างจานวิ่งแจ้นออกมาส่องสายตามองหาเจ้าของเสียง เมื่อรู้ว่าเป็นใครก็ยิ่งตกใจกว่าเดิม

“คุณแทนไท มาได้ยังไงกันคะ”

“อย่าเพิ่งถามเลยครับ ป้าช่วยหายาหอมมาให้ลูกพลับก่อนเร็ว”

“ค่ะ ๆ”

แม้จะยังคงงุนงงทว่าปิ่นวดีรีบทำตามอย่างว่าง่ายเพราะเป็นห่วงหลานชาย ส่วนแทนไทอุ้มเจ้าตัวเล็กไปวางราบบนเสื่อ หาหมอนมาให้หนุน นำพัดไม้ไผ่สานมาพัดเพื่อระบายอากาศให้ พลางชะเง้อมองหาปิ่นวดีว่าจะมาเมื่อไหร่

“มาแล้วค่ะ”

“ขอบคุณครับป้า”

รับยาหอมมาแล้วก็นำไปจ่อที่ปลายจมูกเพื่อให้คนที่เพิ่งหมดสติฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง สีหน้าแทนไทเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอยู่ตลอดเวลา แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเป็นห่วงลูกพลับมากแค่ไหน คนที่นั่งมองอยู่อีกฝั่งอย่างปิ่นวดีทำได้เพียงสังเกตมอง พลางคิดในใจว่าแทนไทมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน ก่อนหน้านี้ลูกพลับบอกว่าจะไปหาโตที่บ้านหรือว่า...

“อย่าบอกนะว่าคุณแทนไทกับนายโตเป็นคนเดียวกัน”

“เอ่อ...ใช่ครับป้าปิ่น ผมขอโทษที่โกหกมาโดยตลอด ที่ทำอย่างนั้นเพราะผมอยากจะมาดูแลลูกพลับกับลูก”

“แล้วทำไมไม่มาดี ๆ ทำไมจะต้องมาหลอกลูกพลับมันด้วยคะ รู้ไหมว่ามันรักนายโตไปแล้ว ยิ่งมารู้ทีหลังว่านายโตเป็นคนเดียวกับคนที่เคยย่ำยีและปัดความรับผิดชอบอย่างนี้ มันเป็นอะไรที่เจ็บปวดมาก ที่ลูกพลับหมดสติไปอย่างนี้คงเป็นเพราะรู้ความจริงใช่ไหมคะ”

“ใช่ครับ ผมสารภาพความจริงกับลูกพลับเพราะไม่อยากโกหกอีกต่อไปแล้ว จากนี้ไปผมจะเข้าหาลูกพลับด้วยตัวตนที่แท้จริง ไม่ว่าผลจะเป็นยังไงผมก็จะยอมรับมัน”

“แล้วทำไมเพิ่งจะมาคิดได้ตอนนี้ละคะ หากยอมรับตั้งแต่แรกเรื่องก็คงไม่เป็นอย่างนี้”

“ผมผิดไปแล้วครับ ตอนนั้นผมเข้าใจว่าลูกพลับไม่ได้มีแค่ผม เพราะผมเห็นลูกพลับที่โรงแรมกับไอ้ผู้ชายที่มาวันนั้น ผมคิดไปเองว่าสองคนนั้นอาจจะมีอะไรมาก่อนหน้าผม เลยทำให้ยังไม่กล้าที่จะยอมรับ” คนพูดก้มหน้าเศร้าลงมองใบหน้าหวานของลูกพลับ หากเขามั่นใจในตัวเด็กคนนี้บ้างก็คงไม่ต้องเกิดเรื่องอย่างนี้ ป่านนี้ลูกพลับอาจจะยอมใจอ่อนบ้าง การปลอมตัวมาเป็นนายโตอาจจะได้อยู่ใกล้ ได้หัวใจของลูกพลับ ทว่ามันคงทำให้โกรธเกลียดเขามากยิ่งขึ้น แต่มาถึงขั้นนี้แล้วจะไม่มีทางยอมแพ้จนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง

“แล้วตอนนี้จะเอายังไงต่อคะ ลูกพลับมันคงไม่ยอมใจอ่อนง่าย ๆ หรอก มันรักนายโตมากซะขนาดนั้นแล้ว พอได้เกลียดคงจะเกลียดมาก”

“ผมจะพยายามให้ถึงที่สุดครับ อย่างน้อยหากลูกพลับไม่ยอมใจอ่อนให้ผม แต่ขอได้ดูแลใกล้ ๆ ได้เห็นหน้าทุกวันก็ดีใจแล้ว ถึงยังไงผมก็ไม่มีทางทิ้งลูกกับเมียผมหรอกครับป้า”

“หากคุณแทนไทคิดได้อย่างนี้จริง ๆ ป้าก็ดีใจค่ะ จริง ๆ แล้วป้าก็ไม่อยากให้มันเอาผู้ชายคนอื่นมาเป็นพ่อของลูก หากคุณและไอ้พลับสามารถปรับความเข้าใจกันได้ก็เป็นเรื่องดีสำหรับเด็ก แต่มันก็สุดแล้วแต่ไอ้พลับมัน”

“แค่ป้าปิ่นเข้าใจผมก็ดีใจแล้วครับ อย่างน้อยผมก็วางใจไปได้อีกเปลาะหนึ่ง จากนี้ผมจะช่วยเหลืองานทุกอย่างเองนะครับ จะไม่ให้ลูกพลับต้องทำงานหนักเหมือนแต่ก่อน”

“มันจะยอมเหรอคะ”

“ไม่ยอมผมก็จะตื๊อครับจนกว่าจะยอม”

“ขอให้คุณแทนไทโชคดีค่ะ แต่ป้าว่าคงยากน่าดู หากมีอะไรให้ป้าช่วยก็บอกนะคะป้ายินดี อย่างน้อยก็ทำเพื่อหลาน”

“ขอบคุณนะครับป้างั้นคืนนี้ผมขอค้างที่นี่ดูแลลูกพลับได้ไหม”

“ได้ค่ะ แต่ถ้ามันตื่นขึ้นมาแล้วเห็นหน้าคุณ ป้าว่าบ้านคงแตกแน่ ยังไงก็ระวังตัวบ้างก็ดีนะคะ”

“ผมจะระวังตัวครับป้า ขอบคุณอีกครั้งนะครับ” ว่าพลางยกมือไหว้สตรีสูงวัยอย่างนอบน้อม ผิดจากแทนไทคนเดิมที่เคยเห็นมา

“คุณแทนไทเปลี่ยนไปมากเลยนะคะตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ในวันนั้น”

“นั่นเป็นเพราะลูกพลับครับ ผมได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างเมื่อตอนได้ใกล้ชิดกับลูกพลับ เด็กคนนี้จิตใจดีมากจนผมรู้สึกผิด ไม่มองคนที่ภายนอก มีเมตตากับทุกคนรวมถึงสัตว์อย่างไอ้โชคดีอีกด้วย คนอย่างนี้เหมาะแล้วที่จะเป็นแม่ของลูกผมครับ เพราะงั้นผมจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เราได้มาอยู่พร้อมหน้าเป็นครอบครัวกัน”

“ป้าดีใจที่เห็นคุณแทนไปเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ขอให้โชคดีนะคะ”

“ขอบคุณครับป้า”

“ถ้าอย่างนั้นป้าขอตัวไปล้างจานในครัวต่อก่อนละกัน คุณแทนไทพามันเข้าไปนอนในห้องก็ได้นะคะ ตรงนี้ยุงมันเยอะ”

“ครับป้าปิ่น”

ปิ่นวดียิ้มให้แล้วลุกขึ้นเดินไป เมื่ออยู่กับลูกพลับเพียงลำพังแล้วแทนไทจึงเอื้อมมือไปเกลี่ยไรผมออก เพื่อให้เห็นดวงหน้าหวานเรียวรูปไข่ได้ถนัดตา ความน่ารักและไร้เดียงสาของเด็กคนนี้ถูกเขาทำให้แปดเปื้อนในคืนนั้นจนต้องหมดอนาคตในชั่วพริบตา เขาพยายามจะทำทุกอย่างเพื่อไถ่โทษกับสิ่งที่ทำเลวไว้ จะทำให้ลูกพลับได้มีชีวิตที่ดีและมีอนาคตที่สดใสดังเดิมให้ได้

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
= 12 =

ความรู้สึกของคนเป็นพ่อ


ไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไหร่แต่เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้งก็พบใครบางคนนอนขดตัวอยู่บนพื้นข้างเตียง คนที่อยู่ในอาการงัวเงียรีบดีดตัวลุกขึ้น มองไปรอบห้องเพื่อหาสิ่งของที่พอจะขับไล่ผู้ชายคนนี้ออกไปจากห้องได้ ต่อให้ตามง้อด้วยวิธีไหนเขาจะไม่มีวันยอมยกโทษให้คนขี้โกหกหลอกลวงเด็ดขาด

ขวดน้ำดื่มที่วางอยู่บนโต๊ะถูกหยิบไปด้วยมือน้อย ๆ ผู้เป็นเจ้าของห้อง ลูกพลับเปิดฝาแล้วยิ้มมุมปาก เทมันลงตรงใบหน้าของแขกไม่ได้รับเชิญ

“แค่ก ๆ อะไรวะเนี่ย!”

“รีบออกไปจากห้องผมเดี๋ยวนี้”

“ลูกพลับ! ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ เป็นยังไงบ้าง”

“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องทำเป็นห่วงผมหรอก ออกไปจากห้องก่อนที่ผมจะใช้วิธีรุนแรงมากกว่านี้”

“ได้ ๆ จะออกไปเดี๋ยวนี้ล่ะ แค่เห็นมึงด่ากูได้ก็ดีใจแล้วล่ะ”

แม้จะโดนมองด้วยสายตาไม่เป็นมิตรแต่แทนไทก็ยังยิ้มได้ เห็นลูกพลับไม่เป็นอะไรก็ดีใจแล้ว เช้าวันนี้เป็นเช้าที่ไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนเมื่อก่อน เพราะได้เป็นตัวของตัวเอง โดนด่ายังดีกว่าถูกรักด้วยตัวตนอื่น นี่คือสิ่งที่เขาควรจะทำตั้งแต่แรก ไม่ใช่เข้ามาด้วยวิธีการโกหกแบบนั้น

“อ้วกกก”

“ลูกพลับเป็นอะไร”

“ไม่ต้องเข้ามาใกล้ ออกไปเลย”

แม้จะอยู่ในอาการไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ แต่ลูกพลับก็ปัดมือไล่เขาให้ออกไป ทว่าแทนไทไม่ยอมหรอก เห็นเมียไม่สบายอย่างนี้ใครจะออกไปได้ลงคอล่ะ รีบพุ่งตัวเข้าไปพยุงร่างเล็ก แม้จะโดนอีกฝ่ายผลักให้ออกห่างแต่ไม่ละความพยายาม

“เดี๋ยวกูจะช่วยพยุงออกไปข้างนอก อยู่ในห้องมันอุดอู้ อากาศไม่ถ่ายเท”

“ไม่ต้อง อ้วกก”

กำลังจะอาเจียนออกมาเต็มทีแล้ว จึงรีบวิ่งออกมาจากห้องตรงไปยังห้องน้ำ สำรอกเอาของเหลวในท้องออกมาทั้งที่เช้านี้ยังไม่ได้กินอะไรเลย ป้าปิ่นเห็นอย่างนั้นก็ตกอกตกใจยกใหญ่ รีบวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น

“พลับเอ็งเป็นอะไร!”

“อาเจียนครับป้าปิ่น สงสัยจะแพ้ท้อง” แทนไทเป็นฝ่ายตอบเสียเอง

“ท้องมาเป็นเดือนแต่ไม่ยักจะแพ้ท้อง เช้านี้กลับแพ้ท้องซะอย่างนั้น”

“บอกเขากลับบ้านไปเดี๋ยวนี้ครับป้าผมไม่อยากเห็นหน้า”

“มึงเป็นอย่างนี้จะให้กูกลับได้ยังไงกัน มึงหายดีแล้วกูสัญญาว่าจะกลับทันที”

“ผมไม่เป็นอะไรแล้ว กลับไปสิ” คนพูดยืนประจันหน้ากับแทนไทอย่างไม่ลดละ

“แน่นะ ดูหน้ายังซีดอยู่เลย ไปหาหมอดีกว่าไหม”

“ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของผม รีบกลับไปซะ”

“ก็ได้ ๆ ดูแลตัวเองให้ดีล่ะกูเป็นห่วง”

“เก็บคำว่าเป็นห่วงของคุณกลับไปด้วยเลย ผมไม่ต้องการ”

แทนไททำได้เพียงมองด้วยสายตาที่เป็นห่วง ทว่าลูกพลับหันหน้าหนีไปอีกทาง เขาจึงหันมาเอ่ยกับปิ่นวดี

“ผมกลับก่อนนะครับป้าปิ่น ฝากดูแลลูกพลับด้วย”

“ได้ค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วง”

แทนไทกลับไปแล้วสองป้าหลานจึงเดินออกมานั่งที่ระเบียง ปิ่นวดีนำน้ำมาให้หลานชายพร้อมกับยาหอม หวังว่าจะทำให้อาการดีขึ้นมาบ้าง

“เรื่องเมื่อคืนเป็นมายังไงครับป้า ทำไมเขาได้มานอนในห้องผม”

“เมื่อคืนคุณแทนไทอุ้มเอ็งมาจากบ้านโน้น เลยให้พาเข้าไปในห้อง จากนั้นเขาก็ขอเป็นคนดูแลเอ็งป้าเลยอนุญาต”

“ป้าจะอนุญาตทำไม จำไม่ได้เหรอว่าเขาทำอะไรผมไว้บ้าง นี่ป้าอยู่ข้างใครกันแน่”

“ก็อยู่ข้างเอ็งน่ะสิ ที่ยอมเพราะเห็นว่าเขาเป็นห่วงเอ็งจริง ๆ ไม่งั้นคงไม่ยอมย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วยหรอก แถมยังคอยช่วยเหลือต่าง ๆ นานา”

“เขาทำเพราะอยากจะแกล้งผมน่ะสิ นับจากนี้ผมจะไม่ยอมให้เขาข้ามมาบ้านเราเด็ดขาด”

“แล้วจะห้ามได้ยังไงล่ะ ในเมื่อกำแพงบ้านก็เตี้ยซะขนาดนั้น”

“ผมจะติดป้ายห้ามเข้ามา ถ้ากล้าเข้ามาเหยียบแม้แต่ก้าวเดียวผมจะแจ้งตำรวจมาจัดการ”

“เฮ้อ! แล้วแต่เอ็งละกันป้าไม่ยุ่งหรอก แล้วเป็นยังไงบ้างดีขึ้นหรือยัง เริ่มมีอาการแพ้ท้องอย่างนี้แล้วคงจะทำงานไม่ไหวแน่ ๆ ช่วงนี้ป้าว่าปิดร้านไปก่อนไหม ยังไงเอ็งก็ไปส่งไม่ได้หรอก”

“ผมไหวครับป้า”

“ไม่ได้หรอก ป้าไม่ยอมให้เอ็งขับรถอีกแน่ เงินทองเราก็พอมีใช้อยู่ไม่จำเป็นจะต้องดิ้นรนอะไรหรอก”

“ไม่ได้หรอกครับป้า อีกหน่อยผมก็จะคลอดลูกแล้ว ผมไม่อยากเป็นภาระใคร อยากจะใช้เงินเก็บของตัวเองจะสบายใจกว่า”

“ทางโน้นเขาจะจ่ายให้ หลานทั้งคนเขาไม่ทิ้งขว้างหรอก”

“ผมจะไม่รับความหวังดีจากบ้านโน้นแล้ว ผมจะยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง คนอื่นท้องใกล้คลอดยังทำงานถมเถไป ทำไมผมจะทำอย่างนั้นไม่ได้”

“ก็แล้วแต่เอ็งละกัน ถ้างั้นป้าไปทำกับข้าวก่อน ไปอาบน้ำอาบท่าจะได้รู้สึกสดชื่นขึ้น”

“ครับป้า”

เมื่อนั่งอยู่เพียงลำพังก็หวนให้นึกถึงเรื่องเมื่อคืนอีกครั้ง จู่ ๆ น้ำตามันก็ไหลบ่าลงมา เจ็บเหลือเกินกับการถูกหลอกครั้งใหญ่ในชีวิต ถูกแทนไทต้มซะจนเปื่อยไม่มีชิ้นดี เผลอมอบหัวใจให้นายโตคนนั้นไปแล้ว แต่เมื่อรู้ว่าทั้งสองคือคนเดียวกันแทบล้มทั้งยืน โกรธก็โกรธอยู่หรอก ทว่าจะให้เกลียดมันทำไม่ได้แล้ว ความรักที่มอบให้โตมันยังคงอยู่ในใจดวงน้อยนี้ ทำไมนะคนที่เคยไร้หัวใจอย่างแทนไท พอมาแสร้งทำเป็นดีกลับคว้าหัวใจของเขาไปได้เร็วอย่างนี้

*-*-*-*-*-*-*

หลังจากวันนั้นก็มีป้ายขนาดใหญ่มาติดเอาไว้ตรงรั้วบ้าน มีใจความว่าห้ามคนที่ชื่อแทนไทข้ามเขตมาโดยเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่คนอย่างแทนไทมีหรือจะกลัว เดินข้ามรั้วมาอย่างไม่เกรงกลัวใด ๆ แถมมาพร้อมกับอาหารบำรุงร่างกายสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์จำนวนมาก วางไว้บนเตียงไม้ไผ่หน้าเรือนไทย ก่อนจะทักทายเจ้าโชคดีที่รีบวิ่งแจ้นเข้ามาหา กระดิกหางยิก ๆ อย่างรู้งาน เพราะคิดว่าผู้ชายคนนี้มีของกินมาให้เหมือนเช่นทุกวัน

“ว่าไงเจ้าโชคดี วันนี้เจ้านายของเอ็งอารมณ์ดีไหมวะ”

จะว่าไม่กลัวก็ไม่ใช่ ช่วงหลังมานี้ปิ่นวดีบอกว่าลูกพลับอารมณ์แปรปรวนบ่อย ๆ วีนเหวี่ยงอารมณ์เสียเก่งเป็นที่หนึ่ง แม้กระทั่งบางครั้งยังหงุดหงิดใส่ผู้เป็นป้าด้วยอีกต่างหาก ได้ยินอย่างนั้นเขาจึงทำใจมาบ้างแล้วว่าจะต้องเจอกับอะไร

“อ้าวคุณแทนไท ยังกล้ามาอีกเหรอคะ ไม่กลัวว่าไอ้พลับมันจะไล่ตะเพิดหรอกหรือ”

“กลัวคงไม่มาครับ ผมไม่ยอมแพ้หรอก จะต้องเอาชนะใจหลานชายป้าปิ่นให้ได้”

ในระหว่างทั้งสองกำลังสนทนากันอยู่นั้นก็มีเสียงบุคคลที่สามดังแทรกเข้ามา

“ป้าปิ่นครับ เห็นกุญแจรถมอไซค์ไหม”

ยังไม่ทันที่ปิ่นวดีจะตอบกลับไป ลูกพลับก็ต้องชะงักฝีเท้า ยืนจ้องมองแขกไม่ได้รับเชิญตาขวาง ทำเป็นเมินราวกับอีกฝ่ายไม่มีตัวตน เดินเข้ามาใกล้ผู้เป็นป้า

“เอ็งลืมเสียบไว้ที่รถหรือเปล่าลองไปหาดู แล้วจะไปไหนล่ะ”

“ผมอยากกินส้มตำเผ็ด ๆ น่ะครับป้า ว่าจะขับออกไปซื้อในหมู่บ้าน”

“อ้อ งั้นก็ขับรถดี ๆ ล่ะ”

“ครับ อ้อ แล้วก็อย่าลืมไล่หมูไล่หมาแถวนี้กลับไปด้วยนะ เห็นแล้วผมอยากจะอ้วก”

“เดี๋ยวกูไปซื้อให้ดีกว่า” คนที่ยืนเป็นส่วนเกินรีบอาสาด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม

ลูกพลับหรี่ตามองแวบหนึ่งแล้วเดินผ่านหน้าไปอย่างไม่สนใจ แต่มีหรือที่แทนไทจะยอม รีบเดินตามหลังไปจนถึงรถที่จอดอยู่ ลูกพลับรีบคร่อมรถเตรียมจะสตาร์ตเครื่อง แต่แล้วก็มีใครบางคนมานั่งซ้อนหลัง

“เอ๊ะ! ลงไปเดี๋ยวนี้เลย”

“ไม่ลง กูไปด้วย”

“มันจะมากไปแล้วนะ คุณไม่มีสิทธิ์แม้จะย่างกรายเข้ามาบ้านหลังนี้ ผมไม่โทรเรียกตำรวจก็เป็นบุญของคุณมากแล้ว ลงไป! ก่อนที่ผมจะโมโหไปมากกว่านี้”

“มึงนั่นล่ะลงไป เดี๋ยวกูจะไปซื้อมาให้เอง”

“ไม่ลง! นี่มันรถผม และผมก็ไม่ต้องการความหวังดีจากคุณด้วย”

“งั้นก็ไปด้วยกัน”

แทนไทกักร่างเล็กเอาไว้ด้วยวงแขนแกร่งซึ่งกำลังจับแฮนด์รถ เขยิบก้นเข้าไปอีกเล็กน้อยเพื่อให้ถนัดในการขับ คนที่นั่งอยู่ด้านหน้าพยายามดิ้นรนขยับตัวแรง ๆ จนรถโอนเอนไปมาจวนจะล้ม จนคนที่นั่งซ้อนหลังต้องส่งเสียงดุก่อนจะเจ็บตัวกันเสียก่อน

“หยุดได้แล้วเดี๋ยวก็ล้มกันพอดี”

“ล้มก็ดีจะได้แท้ง คุณจะได้เลิกมายุ่งวุ่นวายกับผม” ความโกรธทำให้ลูกพลับเผลอหลุดปากพูดสิ่งไม่ควร พอตั้งสติได้ก็รู้สึกผิดในใจ เขาไม่ควรพูดแช่งลูกตัวเองอย่างนี้

“ทำไมพูดอย่างนี้! รู้ไหมว่าตัวเองกำลังแช่งลูก” แทนไทกล่าวเสียงดุไม่ผิดแปลกจากใบหน้าที่เข้มขรึม จ้องมองคนที่อยู่ในอ้อมแขนอย่างเอาเรื่อง

“ผมไม่ได้แช่งแค่อยากจะประชดคุณ ถ้าไม่อยากให้ผมพูดก็ลงไปซะ”

“ไม่”

พูดแค่นั้นก็สตาร์ตเครื่องทันที เข้าเกียร์แล้วขับออกไปจากหน้าบ้าน บังคับรถให้แล่นตามถนนลูกรังสายเล็ก ๆ เพื่อมุ่งหน้าไปยังที่เจริญกว่า ในระหว่างทางไม่มีใครกล่าวคำใด ต่างฝ่ายต่างก็มีโทสะเกิดขึ้นในใจ แต่ดูเหมือนว่าคนที่แสดงออกชัดเจนกว่าเป็นแทนไท เขาโมโหที่ลูกพลับพูดราวกับอยากจะให้ลูกในท้องตายไป เพื่อไม่ให้เขาได้เข้ามายุ่งวุ่นวายในชีวิตอีก หารู้ไม่ว่าถึงไม่มีลูกก็จะเข้ามาปั่นป่วนชีวิตคนคนนี้อยู่ดีนั่นล่ะ

“ทำไมต้องมายุ่งวุ่นวายกับผมอีก”

“ก็อยากยุ่งจะทำไม ผัวจะยุ่งกับชีวิตเมียตัวเองมันผิดด้วยเหรอ”

“ผมไม่ใช่เมียคุณและจะไม่มีวันเป็น”

“ถึงมึงจะไม่ใช่เมียกูแต่กูก็เป็นผัวมึงนะ ตอนนี้กูกำลังโกรธที่มึงพูดเรื่องแท้ง มึงต้องง้อกู”

ได้ยินอย่างนั้นลูกพลับก็แค่นยิ้มออกมาด้วยความเหลืออด มีสิทธิ์อะไรมาสั่ง มีสิทธิ์อะไรมาอ้างว่าเป็นผัว ทำอย่างกับตัวเองสำคัญอย่างนั้นล่ะ

“คิดว่าตัวเองเป็นใครที่ผมจะต้องง้อ จอดข้างหน้านี้ล่ะถึงแล้ว”

“กูไม่อยากให้กินเลย ถ้ามึงท้องเสียขึ้นมาล่ะจะทำยังไง ไม่สงสารลูกบ้างเหรอ”

“ลูกผมไม่ต้องมายุ่ง ถ้าไม่จอดผมจะกระโดดลงคอยดู”

“เออ ๆ จอดก็จอด”

ในที่สุดแทนไทก็ต้องเลี้ยวจอดข้างทาง ร้านส้มตำไก่ย่างร้านนี้เป็นร้านโปรดที่ลูกพลับเพิ่งจะตีซี้กับเจ้าของได้ไม่นาน ซึ่งเป็นคนมหาสารคามแท้ ๆ เมนูจึงเป็นสูตรอีสานดั้งเดิม รสชาติจัดจ้านถูกปากแซ่บอีหลี

“อ้าวหนูพลับ วันนี้เอาอะไรดีจ๊ะ”

“เอาตำป่าเผ็ด ๆ เลยนะครับป้าแป๋ว”

“จัดไปจ้า ช่วงหลังมานี้กินเผ็ดขึ้นเยอะเลยนะ”

“ช่วงนี้ผมเจริญอาหารน่ะครับป้า งั้นผมไปเลือกไก่ย่างก่อนนะครับ”

กำลังจะเดินไปยังเตาไก่ย่างที่ตั้งอยู่หน้าร้าน ก็ได้ยินแทนไทส่งเสียงเอ่ยกับแม่ค้า

“ป้าครับ เอาไม่ต้องเผ็ดมากนะครับ”

“สั่งใหม่หรือครกเดียวกันจ๊ะ”

“ครกเดียวกันครับ”

“เอ๊ะคุณ! จะมายุ่งวุ่นวายทำไม ไปยืนรอที่รถโน่น” ลูกพลับถลึงตามองพลางชี้มือไปยังรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่

“ก็นายกำลังทะ...”

“หยุด!” ลูกพลับต้องชี้หน้าขู่เอาไว้เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองตั้งท้อง ผู้ชายตั้งท้องมันไม่ได้มีบ่อยนักหรอก กลัวว่าคนอื่นจะตื่นตกใจและเอาเรื่องของเขาไปพูดกลายเป็นเรื่อง Talk of the town

“ช่วงนี้มึงต้องดูแลสุขภาพให้มาก ๆ อย่ากินอาหารรสจัดและต้องกินของที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพรู้ไหม” ว่าแล้วก็หันไปสั่งแม่ค้าอีกที “เอาตามที่ผมสั่งครับป้า ช่วงนี้แฟนผมท้องไม่ค่อยดี ไม่อยากให้กินเผ็ดมากครับ”

“อ้อ ป้าเข้าใจแล้วจ้า ที่แท้ก็เป็นแฟนหนูพลับนั่นเอง ว่าจะถามตั้งแต่เดินเข้ามาด้วยกันแล้ว”

“ไม่ใช่แฟนสักหน่อยครับป้าแค่คนเคยรู้จัก” คนพูดทำหน้างองุ้มจ้องหน้าแทนไทอย่างคาดโทษ เดินตรงไปยังเตาไก่ย่างที่ตอนนี้ถูกย่างเอาไว้จำนวนหนึ่งแล้ว

แทนไทยิ้มให้ป้าเจ้าของร้านแล้วเดินตามไปยืนซ้อนหลัง มองภาพที่ลูกพลับกำลังจับไม้ไก่ย่างพลิกไปมาตัดสินใจว่าจะเลือกไม้ไหนดี เห็นร่างเล็กเลือกไก่ย่างที่มีบางส่วนไหม้เกรียมก็รีบจับมือน้อย ๆ เอาไว้ทันที

“อย่าเอาไม้นั้นเห็นไหมว่ามันไหม้ มันไม่ดีต่อสุขภาพ แล้วมันก็เยิ้มขนาดนี้กินเข้าไปได้ยังไง เอาเนื้อ ๆ สิ”

ลูกพลับถอนหายใจ เงยขึ้นมองหน้าเขาด้วยความหงุดหงิด แต่ดูเหมือนว่าสายตาของแทนไทสนใจเพียงไก่ย่างเท่านั้น

“ไอ้นั่นก็ไม่ดีไอ้นี่ก็ไม่ได้ สรุปคือจะไม่ให้ผมกินอะไรเลยเหรอ ชีวิตผม ปากผม ท้องผม จะกินอะไรทำไมคุณต้องมาเสือกด้วย แค่ให้มาด้วยก็อึดอัดจะแย่แล้ว อย่ามาสร้างปัญหาให้ได้ป่ะ”

“ไม่ได้! ทุกอย่างต้องผ่านกูหมด มึงกับลูกจะต้องได้รับแต่สิ่งดี ๆ เท่านั้น เข้าใจนะ”

“ผมไม่สำนึกบุญคุณหรอกนะ ไม่ต้องมาทำเป็นดีด้วยหรอก ชาตินี้ทั้งชาติไม่มีทางญาติดีด้วย”

“กูรู้ว่ามึงปากกับใจไม่ตรงกัน มึงบอกรักกูเองจำไม่ได้เหรอ แต่ก่อนก็เคยพูดจากันดี ๆ นี่นาแล้วทำไมตอนนี้จะทำอย่างนั้นไม่ได้” คนพูดแสดงสีหน้ายียวนกวนประสาท แล้วคว้าเอาไก่ย่างสองไม้ที่คิดว่าดีที่สุดแล้วตรงไปให้แม่ค้าใส่ถุงให้

ลูกพลับเดินตามหลังไปติด ๆ พยายามจะหาเรื่องให้ได้ เขาไม่มีทางยอมหรอก ก็ตอนนั้นแทนไทปลอมตัวเป็นนายโตผู้น่าสงสารและมีน้ำใจเป็นที่หนึ่ง ใครได้อยู่ใกล้ก็ต้องหวั่นไหวกันทั้งนั้นล่ะ

“ก็ตอนนี้คุณไม่ใช่พี่โต”

“ไม่ใช่ได้ยังไงกันก็คนเดียวกัน”

“แต่มันไม่ใช่ไง คุณหลอกผมยังจะกล้าเอาพี่โตมาอ้าง”

“แล้วพี่โตของมึงคือกูไหมล่ะ”

“ก็ใช่ แต่นิสัยไม่เหมือนกัน”

“ถ้างั้นกูจะเปลี่ยนนิสัยให้เป็นเหมือนพี่โตของมึงโอเคไหม มึงจะได้มองกูดีขึ้นบ้าง”

“ไม่จำเป็น พี่โตไม่มีตัวตนตั้งแต่แรกแล้ว ต่อให้คุณทำดีแทบตายผมก็ไม่มองคุณดีหรอก”

“เอ่อ...ทั้งหมดร้อยยี่สิบบาทจ้ะหนูพลับ อย่าหาว่าป้าสอนเลยนะ เป็นแฟนกันก็อย่าใช้อารมณ์ให้มากนักเลย ค่อยพูดค่อยจากันก็ได้ เดี่ยวมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมานะ”

“ผมเกลียดเขาครับป้า เกลียดที่สุดในโลก อ่ะนี่เงินไม่ต้องทอนนะครับ”

ลูกพลับยื่นเงินให้กับป้าเจ้าของร้านแล้วคว้าเอาถุงส้มตำไก่ย่างและข้าวเหนียวร้อน ๆ ติดมือเดินออกไปจากร้านด้วยสีหน้างองุ้ม เดินดุ่ม ๆ มุ่งหน้ากลับบ้าน

“อ้าว! จะเดินไปทำไมล่ะ” แทนไทตะโกนตามหลังไป

“รีบตามไปง้อแฟนเถอะพ่อหนุ่ม งอนอย่างนี้สงสัยคืนนี้ได้นอนนอกห้องแน่ ๆ สู้ ๆ นะป้าเอาใจช่วย”

“ขอบคุณครับป้า งั้นผมกลับแล้วนะครับ”

“จ้า คุยกันดี ๆ ล่ะ”

แทนไทรีบสตาร์ทเครื่องแล้วขับช้า ๆ ตามหลังไปจนถึงตัวแล้ว แต่ถึงกระนั้นลูกพลับยังไม่ยอมหยุดเดิน แทนไทจึงทำได้เพียงขับรถไปอย่างช้า ๆ พร้อมกับพยายามเกลี้ยกล่อม

“มึงขึ้นรถเร็ว เดี๋ยวก็ได้เป็นลมเป็นแล้งกันพอดี แดดยิ่งร้อน ๆ อยู่ด้วย”

“ไม่ขึ้น”

“แล้วจะเดินไปอย่างนี้น่ะเหรอ มันไกลนะเว้ย”

“ไกลก็เรื่องของผมคุณจะไปไหนก็ไป”

“มึงโกรธอะไรกูนักหนาวะแค่อยากเลือกสิ่งดี ๆ ให้เท่านั้นเอง”

“สิ่งดี ๆ ของผมคือการไม่มีคุณ”

“เฮ้อ! งั้นมึงขับกลับก็ได้เดี๋ยวกูเดินเอง” ได้ยินอย่างนั้นลูกพลับก็หยุดฝีเท้าแล้วหันมาทำหน้ายักษ์ใส่

“ถ้างั้นก็ลงมาสิผมจะขับกลับไปเอง”

“เออ ๆ ลงก็ลง เพื่อเมียกูทำได้ทุกอย่างอยู่แล้วล่ะ” คนพูดรีบจอดรถแล้วลงมายืนอยู่ข้าง ๆ

ส่วนลูกพลับก็รีบเอาของไปวางไว้หน้าตะแกรงรถแล้วขับกลับบ้านไปทันที แทนไทได้แต่ยืนมองตามหลัง ส่ายหน้าเบา ๆ เขาเข้าใจแล้วว่าอารมณ์แปรปรวนของคนท้องมันเป็นอย่างไร รอยยิ้มที่ฉายบนใบหน้าหล่อ บ่งบอกว่าเขามีความสุขกับการได้อยู่ใกล้เด็กคนนี้มากแค่ไหน ถึงจะไม่ได้รับน้ำใจแต่ขอให้ได้ดูแลก็พอใจแล้ว

...นี่คือความรู้สึกของคนที่กำลังจะเป็นพ่อคนสินะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด