Can't Stop
ตอนที่1
ธารรู้ตัวเองดีว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่นั้นเป็นเรื่องที่ผิด
แต่ชายหนุ่มไม่สามารถที่จะหยุดคิดถึงร่างกายเนียนนุ่มและทรวดทรงองค์เอวของอีกฝ่ายได้จริงๆ
ร่างสูงใหญ่ของธารานั่งลงบนชักโครกในห้องอาบน้ำที่มืดสลัว สายรัดเสื้อคลุมอาบน้ำถูกปลดออกก่อนชายหนุ่มจะใช้มือข้างถนัดจับเอาแท่งกลางลำตัวที่กำลังร้อนระอุขึ้นมาบรรจงลูบพลางเกลี่ยไปมาราวกับปลอบใจ
กลิ่นหอมอ่อนๆ จากร่างบอบบางของเด็กฝึกงานคนใหม่ยังติดจมูกไม่จางหาย แต่เขารู้ว่าความจริงแล้วมันก็แค่การทึกทักของเขาเอง ใบหน้าหวานใสดูน่ารักน่าชัง ดวงตากลมโตที่เปล่งประกายความสดใส พวงแก้มอิ่มน่ามันเขี้ยว ริมฝีปากสีระเรื่อ เอวคอดที่รับกับสะโพกกลมและก้นแน่นๆ ที่อยู่ภายใต้กางเกงสแลคสีดำ รวมถึงความนุ่มลื่นของผิวกายที่เคยสัมผัสจากการพยายามสร้างเรื่องบังเอิญของเขา
ทุกๆ อย่างที่เป็นมีนากำลังทำให้ธารเป็นไอ้บ้าโรคจิต
ริมฝีปากของชายหนุ่มห่อกลม พ่นเอาลมหายใจร้อนๆ ออกมา หัวสมองของเขากำลังจินตนาการถึงร่างเปลือยเปล่าของอีกฝ่ายที่นอนบิดสะโพกพลิ้วบนเตียงหนานุ่ม ดวงตากลมคู่สวยสีน้ำตาลเข้มฉ่ำวาวด้วยแรงอารมณ์อย่างเชิญชวน ริมฝีปากอิ่มน่าขบกำลังอ้าออกรับเอาแท่งร้อนๆ ของเขาเข้าไปเสียมิดด้าม
ฝ่ามือหนาเร่งจังหวะในการช่วยจัดการสิ่งร้อนๆ ในมือให้รวดเร็วขึ้นเมื่อรู้สึกใกล้ถึงจุดหมาย คนหล่อเหลาประจำบริษัทรู้สึกเสียวซ่านกับกิจกรรมในครั้งนี้แทบขาดใจ
เช้าวันรุ่งขึ้นบรรยากาศในที่ทำงานยังเป็นเหมือนปกติ แถมดูเหมือนจะคึกคักกว่าทุกวันอีกด้วย นั่นคงเป็นเพราะเด็กใหม่ที่พึ่งเข้ามา
ช่วงเห่อน้องใหม่ก็แบบนี้
มีนาค่อนข้างที่จะสดใส พูดคุยเก่ง เลยทำให้เข้ากับพวกรุ่นพี่ได้ไม่ยาก แต่คนที่อยู่มานานกว่าจนได้ตำแหน่งหัวหน้าย่อมรู้ดีว่าภายใต้บรรยากาศที่เป็นมิตรนั้นมีอะไรอีกเยอะที่ต้องระมัดระวัง
เหล่าลูกน้องที่เห็นร่างสูงใหญ่ของคุณธาราเดินเข้ามาต่างส่งเสียงทักทายไม่ขาดสาย ใบหน้าหล่อสไตล์ดิบเถื่อนแต่มีมาดยังคงเป็นที่นิยมของออฟฟิศไม่เปลี่ยนแปลง ทว่าคนที่อยู่ภายในสายตาคมกริบของธารในเวลานี้มีเพียงเด็กใหม่ที่ส่งยิ้มหวานทักทายเขาเท่านั้น
“คุณมีนา กลางวันนี้ออกไปพบลูกค้ากับผมด้วยนะ”
เห็นทีว่าความพยายามที่ผ่านมาเกือบ 3ปีของเขาคงต้องพังลงอย่างไม่เป็นท่าเพราะมีนาเข้าแล้วจริงๆ
บรรยากาศในรถกับเจ้าของใบหน้าหวานใสไม่ได้เป็นไปอย่างที่ธารคาดเอาไว้ คนพูดเก่งในออฟฟิศกลับกลายเป็นคนเงียบได้อย่างสุดขั้ว มีเพียงสายตาเท่านั้นที่ยังคงเปล่งประกายพลังเอาไว้
บทสนทนาของพวกเขาทั้งคู่มีไม่มาก เริ่มด้วยการบรีฟงานให้เข้าใจตรงกันและจบด้วยผลสรุป
“มีอะไรจะถามผมหรือเปล่า”
เพราะทุกอย่างมันเงียบจนเกินไป คนอายุมากกว่าจึงได้ลองเชิงเอ่ยปากถามขึ้นมา
เด็กใหม่หันหน้ามามองเขาที่ขับรถอยู่ หางตาของธารแอบเห็นว่าอีกฝ่ายเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะหันกลับไปมองถนนเช่นเดียวกับตนเองเหมือนเดิม
ให้ตายสิ
ต่อให้มองไม่ชัด แต่เขาก็มั่นใจว่าสีหน้าเมื่อกี้ของมีนมันชวนตีมากจริงๆ
“เฉพาะเรื่องงานหรือเปล่าครับ”
ชายหนุ่มเดาะลิ้นกับกระพุ้งแก้มเบาๆ นึกชมน้ำเสียงกับการเว้นจังหวะพูดของอีกฝ่ายไม่น้อย นอกจากนี้ธารยังได้รู้เพิ่มอีกด้วยว่าคนด้านข้างมีชั้นเชิงที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน
แบบนี้ เขาเรียกว่าให้ท่าหรือเปล่านะ?
“ล้อเล่นน่ะครับ เห็นหัวหน้าดูไม่ค่อยพูด”
“แล้ว”
“ก็แปลกใจนิดหน่อย” ใครๆ ก็มักบอกเขาแบบนั้นเสมอ เพราะการทำงานอยู่ฝ่ายขายส่วนใหญ่ก็มีแต่คนพูดคุยเก่งจนบางครั้งอาจเรียกได้ว่าพูดมาก สำหรับธารแล้วการพูดมากไม่มีประโยชน์ หากไม่ใช่เวลาในการทำงานชายหนุ่มก็จัดเป็นเพียงพวกพูดน้อยและมักเป็นฝ่ายรับฟังที่ดีมากกว่า
“พวกเพื่อนๆ ผมบอกว่าหัวหน้าพวกเขาพูดเยอะ แต่คุณดูไม่ใช่”
อ้ออ
ธารครางรับในลำคอ
“พูดเก่งกับพูดมากไม่เหมือนกันหรอกนะ” ชายหนุ่มเว้นจังหวะไปแอบหันไปมองใบหน้าอีกฝ่ายชั่วครู่ก่อนจะหันกลับ
การเจรจางานเป็นไปอย่างเรียบร้อยด้วยความเป็นมืออาชีพและการชักจูงของคุณหัวหน้าแผนก ถ้าจะให้พูดง่ายๆ คืองานนี้บริษัทได้เงินเข้าเพราะฝีมือการขายของธาร มีนยอมรับว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา รูปร่าง หรือตำแหน่งหน้าที่การงาน ทั้งหมดนี้ยังไม่นับรวมกับเสน่ห์การต่อรองที่เจ้าตัวมี
เด็กใหม่อย่างเขาได้รู้แล้วว่าการพูดเก่งที่เจ้าตัวว่า ไม่ใช่เรื่องโกหก
ธาราได้พิสูจน์ให้เห็นกับตาแล้วว่าแม้แต่ลูกค้าที่ทุกคนในแผนกต่างส่ายหน้าไม่ขอรับมือด้วยถูกคุณหัวหน้าจัดการได้อย่างง่ายดาย
“จะบ่ายสองแล้ว ไปทานข้าวกันก่อนแล้วผมจะไปส่งคุณที่พัก”
ไม่ทันได้ตอบรับหรือปฏิเสธ รถยนต์ประจำตำแหน่งของคุณธาราก็แล่นออกไปยังอีกเส้นทางที่ไม่ใช่ทางกลับบริษัทเสียแล้ว
ช่วงนี้ในแผนกฝ่ายขายกำลังเกิดข่าวลือหนาหูขึ้น เหตุเพราะหัวหน้าแผนกรูปหล่ออย่างคุณธารได้โผล่ตัวเข้ามาในออฟฟิศบ่อยจนผิดปกติอย่างที่ไม่เคยปรากฏเป็นมาก่อน แถมยังหนีบเอาน้องใหม่อย่างมีนออกไปพบลูกค้าด้วยเกือบทุกครั้ง
ความจริงการที่พวกฝ่ายขายไม่อยู่ติดออฟฟิศนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติ บางครั้งพนักงานบางคนก็หายตัวไปไม่เข้าออฟฟิศราวกับลาออกไปแล้วด้วยซ้ำ ยิ่งกับคนที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าอย่างธารด้วยแล้ว อย่าว่าแต่เข้างานห้าวันต่อสัปดาห์เลย บางทีคุณธารก็หายตัวไปติดกัน3-4วันหรือมากหน่อยก็เป็นอาทิตย์ ส่วนช่วงเวลาที่งานไม่เยอะมากเจ้าตัวก็แค่เข้ามาตรวจดูความเรียบร้อยแล้วออกไป ไม่มีหรอกที่จะอยู่ติดห้องทำงานตั้งแต่เช้าจรดเย็นแบบนี้
นี่มันแปลกเกินไปแล้ว แต่ทุกคนก็สลัดความคิดแปลกๆ เกี่ยวกับความสนิทสนมของคุณหัวหน้ากับเด็กใหม่ทิ้งไป เพราะได้ข่าวล่าสุดว่าแฟนสาวคนสวยของธารได้ถูกส่งตัวไปดูงานที่ต่างประเทศ
มันคงไม่มีอะไรมาก ช่วงนี้หัวหน้าคนดังอาจจะเหงาๆ เบื่อๆ ที่ต้องอยู่ห่างจากหวานใจ
ดังนั้นหัวข้อเรื่องสนทนาจึงเปลี่ยนมาเป็นนินทาเรื่องความเปลี่ยวของคุณธารแทน พวกที่จ้องเลียแข้งเลียขาหน่อยก็ออกคิดไอเดียว่าจะชวนคุณหัวหน้าไปชนแก้วหรือเที่ยวที่ไหนดีในยามว่าง หรือพวกสาวๆ ที่เห็นโอกาสไร้ก้างบวกกับรอคอยอยากสอยคุณหัวหน้ามานานต่างก็ผลัดกันหมุนเวียนเคาะประตูห้องผู้จัดการแผนกไม่ขาดสาย ยอมถูกสายตาคมกริบคู่นั้นจ้องมองอย่างดุๆ หรือด่าแบบนุ่มนวลแต่เจ็บลึกไปถึงข้างในเมื่อแสร้งเข้าไปถามคำถามที่ไร้สาระเพื่อหวังว่าจะได้อ่อยอีกฝ่ายในที่ส่วนตัว
สุดท้ายก็แห้วไปตามระเบียบ
“น้องมีนกลางวันนี้ไปทานข้าวกับพวกพี่ไหม มีร้านเด็ดจะแนะนำ” ใบหน้าหวานใสที่ก้มดูเอกสารในแฟ้มเงยขึ้นมองคนชวนก่อนจะส่ายหน้ายิ้มๆ ให้เป็นการปฏิเสธ “ต้องออกไปข้างนอกอีกแล้วหรอน้องมีน”
“ใช่ครับ ลูกค้าเมื่อวานยังไม่พอใจเท่าไหร่ วันนี้เลยต้องไปอีกรอบ”
“งั้นก็สู้ๆ แล้วกันนะคะ”
“ครับพี่” พอคนถูกชวนไม่ว่างพวกหล่อนก็หันไปส่งสายตาแสดงความเสียดายกัน
ในแผนกนี้ถ้าตัดคุณหัวหน้าแผนกออกไป ตัวเลือกที่น่าสนใจก็เหลือแค่มีนาเท่านั้น ไม่ใช่ว่าพวกผู้ชายที่เหลือไม่หล่อ แต่เพราะทุกคนต่างก็มีแฟนหมดแล้ว ที่เล็งว่าน่าจะยังว่างก็คงเป็นน้องใหม่ประจำฝ่ายขายนี่แหละ
“มีนา เก็บของเรียบร้อยหรือยัง” เสียงของธารดังขึ้น เจ้าตัวเดินออกมาจากห้องทำงานตั้งแต่ได้ยินประโยคเชิญชวนทานข้าวกลางวันของผู้หญิงในแผนกตั้งแต่แรก
แต่เขาอยากฟังว่าเจ้าของหน้าใสๆ แบบนั้นจะโกหกหาเหตุผลอะไรบอกไป
ซึ่งนับว่าไม่เลวเลยทีเดียวกับข้ออ้างลูกค้าที่ว่า
ใบหน้าหวานของน้องใหม่หันมองคุณหัวหน้าที่ยืนรออยู่ก่อนจะรีบเก็บของแล้วยืนขึ้นเดินตามอีกคนไป โดยไม่ลืมที่จะก้มหัวบอกลาพวกพนักงานรุ่นพี่คนอื่น
“นี่ ความจริงน้องมีนก็ดูน่ารักดีเหมือนกันนะ” หล่อนพูดเมื่อมองร่างสองร่างของคุณหัวหน้ากับเด็กใหม่ที่เดินตีคู่กันออกไปจากแผนก ก่อนจะว่าต่อ “ยิ่งเดินกับคุณธารแบบนี้ยิ่งเห็นชัดเลย แกว่าไหม”
“มั้ง ไม่รู้สิ รู้แค่เขาสูงเหมือนกัน”
“แถมช่วงนี้ยังไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยอีก หรือว่า...คุณธารจะใช้น้องมีนเป็นไม้กันหมา”
“คงใช่แหละ โอ๊ยย เซ็งชะมัด” ได้แต่บ่นกันออกมากับข้อสันนิษฐานที่ว่า
โดยที่ไม่รู้เลยสักนิดว่าร่างสองร่างที่หายไปไม่ได้ออกไปพบลูกค้าอย่างที่คิด
คอนโดส่วนตัวของคุณหัวหน้าดูจะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุดในบรรดาตัวเลือกทั้งหมด ธารรู้ว่ามีนารู้ว่าเขารู้สึกกับอีกฝ่ายเช่นไร และเขาเองก็รู้เหมือนกันว่าภายใต้ใบหน้าหวานและการโต้ตอบที่แฝงนัยยะของอีกฝ่ายก็มีอะไรหลบซ่อนอยู่
พวกเขาเล่นลิ้นกันมามากพอแล้ว ถึงเวลาสักทีที่ทุกอย่างควรเริ่มขึ้น
“ย้ายมาอยู่ที่นี่กับผมไหมครับ” ประโยคคำถามแต่ดวงตาคู่คมของชายหนุ่มกำลังบอกว่ามันคือประโยคคำสั่งแกมบอกเล่า และอาจจะผสมการขอร้องเข้าไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงในตอนท้าย
คนถูกถามระบายยิ้มบางเบา ก่อนจะเปิดปากพูดบ้าง “พึ่งรู้ว่าธุระที่คุณธารบอกคือเรื่องนี้”
“แค่ 3เดือน” ก่อนที่ญาดาแฟนสาวของเขาจะกลับมา
“แล้วทำไมผมถึงต้องย้ายมาอยู่ที่นี่กับหัวหน้าด้วยล่ะครับ” เด็กหนุ่มถามเสียงเนิบนาบเหมือนไม่รู้เหตุผล
“เพราะผมสนใจคุณ แล้วเราก็มีเวลาที่จะอยู่ด้วยกันแบบนี้แค่ 3เดือนก่อนที่แฟนผมจะกลับมาจากต่างประเทศ ผมสนใจคุณ อยากอยู่ใกล้ชิดคุณ โอเคจะด่าว่าผมเห็นแก่ตัวก็ได้ ผมยอมรับ” ไหล่หนายกขึ้นเหมือนไม่แคร์ แล้วพูดต่อ “แต่มีน คุณรู้อะไรมั้ย? ที่ผมกล้าพูดแบบนี้ก็เพราะแววตาของคุณมันฟ้องว่าคุณเองก็คิดไม่ต่างกับผมนักหรอก” ยิ่งพูดใบหน้าของเขาก็ยิ่งเคลื่อนเข้าใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น โดยไม่ทันให้มีนาได้ตั้งรับทัน ริมฝีปากหนาก็กดทาบทับกับกลีบปากบางสีระเรื่อน่าสัมผัสของพนักงานฝึกหัดทันที ก่อนจะกดเพิ่มน้ำหนักให้มากขึ้นเมื่อมีนไม่ให้ความร่วมมือ คนมากประสบการณ์ใช้ฟันขบกัดริมฝีปากล่างของอีกฝ่ายจนมีนาต้องยอมเปิดปากออกให้ลิ้นร้อนของธารรุกล้ำเข้ามาในโพรงปาก รสจูบเร่าร้อนที่อีกฝ่ายมอบให้ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกตัวอ่อน ใบหน้าหวานแดงซ่านเมื่อถูกปล่อยให้เป็นอิสระ แต่ถึงอย่างนั้นริมฝีปากและใบหน้าของธารก็ยังคลอเคลียแถวพวงแก้มและซอกคออย่างไม่ไปไหน
“คุณธาร อ่ะ พอก่อน” เสียงทุ้มร้องขึ้นก่อนจะครางด้วยความตกใจเมื่อถูกอีกฝ่ายดูดเข้าที่ลำคอ ไม่ใช่ว่าไม่เคยเรื่องอย่างว่ามาก่อน แต่ความใจร้อนและอาการหื่นกระหายของอีกฝ่ายกำลังทำให้มีนตกใจ
“คุณ!” แขนสองข้างยกขึ้นผลักร่างสูงใหญ่จนล้มลง ก่อนจะใช้มือลูบผมและบริเวณแถมซอกคอให้เรียบร้อย ดวงตาคู่สวยปรายตามองหน้าของคุณหัวหน้าที่กำลังมองมาด้วยแววตานิ่งสนิท
ร่างโปร่งบางเดินหันหลังให้กับธารที่กำลังลุกขึ้นยืนจากพื้น มีนใช้สายตาสำรวจพื้นที่ทั้งหมดก่อนจะพบว่าข้าวของทั้งหมดในห้องไม่มีชิ้นไหนที่สื่อถึงแฟนสาวของอีกฝ่าย และหวังว่าภายในห้องนอนและห้องน้ำก็คงไม่มีเหมือนกัน
“แฟนคุณไม่ได้อยู่ด้วยกันเหรอครับ” มันเป็นอะไรที่ประหลาดอยู่ไม่น้อยสำหรับคำถามหลังจากเหตุการณ์เร่าร้อนเมื่อครู่
คนถูกถามไม่ยอมตอบ แต่กลับก้าวเท้าตรงเข้าไปเปิดประตูที่คาดว่าเป็นห้องนอนออกกว้างแล้วบุ้ยปากเป็นเชิงให้อีกฝ่ายเข้ามาสำรวจเอาเอง
เพียงเท่านี้ก็รู้ได้ว่าคอนโดแห่งนี้มีธาราอาศัยแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น
มีนาอมยิ้มออกมาเมื่อเห็นท่าทางของคนตัวโตกว่าแบบนั้น เขารู้ว่าอีกฝ่ายกำลังไม่พอใจที่เมื่อครู่โดนผลักออกจนล้ม ดังนั้นเพื่อเป็นการขอโทษ คนอ่อนกว่าจึงเดินเข้าไปหาอีกร่างสูงใหญ่ใกล้ๆ ก่อนยกแขนทั้งสองข้างขึ้นโอบรอบคอแกร่งแล้วออกแรงรั้งใบหน้าของอีกฝ่ายให้แนบชิด เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยถ้อยคำกระซิบแล้วบดเบียดกลีบปากเข้ากับริมฝีปากของธารแผ่วเบา
“ถ้าคุณอยู่คนเดียวแบบนี้...ก็ได้ครับ ผมตกลง”
To Be Con.
เรื่องที่ 3 แล้วที่ลองเอามาลง หวังว่าจะมีคนชอบกันนะคะ