ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
------------------------------------------------
------------------------------------------------
ก่อร่าง • สร้างตัว
เสียงหอบหายใจสะท้อนก้องภายในห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้า มันเป็นสิ่งเดียวที่ผมพอจะได้ยินนอกเหนือจากเสียงดังหวี่ ๆ ข้างหู แผ่นกระเบื้องสีขาวล้วนเคยเป็นสีขาว กลิ่นอับชื้นก็ยังอับชื้นอยู่ทุกวัน อ่างล้างหน้ายังตั้งอยู่ทางซ้ายตรงนั้น ฝักบัวอาบน้ำอยู่สูงขึ้นไปเหนือหัว และเพียงแค่เงยหน้ามอง ราวกับว่าของเหลวจะทะลักลงมาเหมือนน้ำหลาก
ผมพ่นลมหายใจใส่สายน้ำที่ไม่มีอยู่จริงในอากาศ พยายามสงบร่างสั่นเทาของตัวเองเอาไว้แล้วจึงก้มลงมองความผิดแผกในวันนี้ ผมค่อย ๆ โน้มตัวลงเพื่อหยิบโกยเอาบางสิ่งบางอย่างบนพื้นไปใส่ในกระเป๋ากระสอบแบบกันน้ำขนาดสูงเท่าต้นขา ตากลมโตของผมแดงก่ำจนกลัวว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของเศษชิ้นตรงหน้า
รอยหักของกระดูกหน้าแข้งคล้ายจะส่งรูปยิ้มมาให้ในตอนที่ผมยัดมันลงไปเป็นชิ้นสุดท้าย สิ่งเดียวที่ไม่ได้ถูกใส่ลงไปมีเพียงมีดปลายแหลมที่ไม่ได้คมไปกว่าการใช้หั่นสันนอกหมู มันนองท่ามกลางของเหลวสีแดงเข้ม กลิ่นคาวคละคลุ้งอบอวล และถ้าย้อนกลับไปเมื่อสองชั่วโมงก่อน ผมคงจะอาเจียนออกมาได้ เหงื่อกาฬทำให้ขมับเปียกชื้น ผมที่เคยเป็นเส้นเล็กละเอียดก็จับตัวเป็นก้อน มันหยดลงไปในกระเป๋าระหว่างถูกรูดซิปปิด เส้นผมสีน้ำตาลเหนียวเปรอะยังคงวับแวมอยู่ระหว่างมือที่ไม่มีแขน แล้วก็สันเนื้อที่คิดว่าคงเป็นช่วงเอว ผมถอนหายใจพรูหลังจากปิดมันลงได้
กระเป๋ากระสอบน้ำหนักห้าสิบแปดกิโลกรัมถูกลากไปยังประตู จากนั้นผมจึงย้อนกลับมาที่พื้นลาดต่ำภายใต้ฝักบัวอาบน้ำทรงกว้าง ก่อนจะก้มตัวเปิดก๊อกน้ำด้านล่างให้พัดเอาสีแดงหมุนลงสู่ท่อระบายน้ำ มือหยิบมีดยาวสองคืบนั้นล้างผ่านน้ำอย่างลวก ๆ แล้วมันก็ส่งเสียง
แกร๊งเมื่อถูกวางไว้ในอ่างล้างหน้าเวลาต่อมา
ผมใช้ดวงตาสีดำมองดูห้องพักสไตล์โมเดิร์นของตัวเอง พัก
มันไว้ตรงกลางห้องแล้วเดินไปหยิบเอากระเป๋าสีน้ำตาลบนเตียงมาสะพายเฉียงกับตัว หลังออกมา ผมล็อกประตูห้อง ปิดดูอีกครั้งในแน่ใจว่าจะไม่มีใครสามารถเปิดเข้าไปได้ง่าย ๆ จากนั้นก็เหนื่อยต่อกับการลากกระเป๋าใบใหญ่ไปตามทางเดิน
ผมยืนอยู่กับมันในลิฟท์สองต่อสอง เสียงกรอบแกรบของถุงพลาสติกที่ผมรองไว้ด้านในกระเป๋ามันชวนให้หงุดหงิดนิดหน่อย ผมทั้งร้อนใจ กังวล แล้วก็พยายามปั้นสีหน้าวิตกจริตของตัวเองให้เป็นปกติให้ได้เมื่อลิฟท์เปิดยังชั้นล่างสุดของอพาร์ทเมนต์
“...!”
ผมสะดุ้งเล็กน้อยในตอนที่ยามรักษาความปลอดภัยทำท่าจะเข้ามาจับกระเป๋า เขาดูงุนงงกับสีหน้าตื่น ๆ ของผม ปากแห้งผากนั้นขยับว่า “ท่าจะหนัก ให้ลุงช่วยดีกว่า”
“ไม่เป็นไรครับ” ผมรีบตอบ “รถผมอยู่ตรงนั้นเอง”
ได้ยินอย่างนั้น ลุงยามที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีก็ค่อย ๆ ยอมถอยออกไป เขายืนเท้าสะเอวมองผมยกกระเป๋าใหญ่ไปทางรถที่จอดเยื้องออกไปยี่สิบเมตร มันไกลเชียวล่ะ ถ้าสิ่งที่คุณยกอยู่มันมีน้ำหนักตั้งห้าสิบแปดกิโลกรัม แตเมื่อผมพอจะวางใจลงได้ เสียงทุ้มของคนที่ยืนมองก็ดังขึ้นอีก
“ท่าจะหนักนะนั่น จะย้ายออกเรอะ”
เลิกสอดรู้สอดเห็นได้แล้ว ผมสบถในใจ
“จะเอากลับบ้านน่ะครับ พวกของที่ไม่ใช้แล้ว”
ผมยิ้ม ปิดฝากระโปรงท้ายรถจนเกิดเสียง
กึง แล้วก็รีบอ้อมตัวไปขึ้นนั่งบนรถทันทีเพื่อไม่ให้ถูกถามอะไรมากไปกว่านี้อีก อย่างน้อยก็ถือว่าโชคเข้าข้างผมที่อพาร์ทเมนต์นี้มันห่วยแตกถึงขนาดที่ว่ามีกล้องวงจรปิดติดประดับไว้เพื่อขู่โจรกระจอกเท่านั้น คนที่นี่รู้กันดีว่ามันพังและไม่ได้ถูกซ่อมมาเป็นปี ๆ แล้ว
ผมสูดลมหายใจลึก เพ่งมองกำแพงข้างหน้า ก่อนจะหักเลี้ยวรถออกตามทางแคบ ๆ ด้านข้างเพื่อออกจากบริเวณที่นี่ นาฬิกาดิจิตอลบนรถบอกเวลาว่าตอนนี้ราวสี่ทุ่มครึ่ง มันดึกพอให้ผมมั่นใจว่าสถานที่ที่ผมกำลังจะไป คงไม่มีใครอยู่เพื่อเป็นพยานได้แล้ว
เสียงตุบจากด้านหลังเวลาที่รถกระแทกตอนขึ้นเนินนั้นคล้ายกับจะทุบเอาหัวใจผมไปด้วย ผมสั่งตัวเองให้หายใจช้า ๆ ชัด ๆ สงบสติอารมณ์เอาไว้ให้ได้ จนในที่สุด รถเก๋งที่พ่อซื้อให้เมื่อปีที่แล้วก็พาผมมาถึงผาสูงที่ไกลจากจุดชมวิวพอสมควร นอกจากพวกโจรดักปล้นแล้ว ก็คงไม่มีใครคิดขึ้นมาที่นี่เวลานี้อีก ขอบคุณข่าวเลวร้ายของเมือง ที่ทำให้เขาชมวิวลูกนี้กลายเป็นจุดอันตรายหลังจากแสงไฟปิดลงในช่วงหัวค่ำ
มองไปรอบ ๆ ให้แน่ใจแล้วจึงจัดการเปิดท้ายรถขึ้น กระเป๋าเอนล้มมาทางผมเมื่อได้เอาสิ่งที่มันพิงอยู่ก่อนหน้านี้ออก เขาคงไม่อยากกอดผมเป็นครั้งสุดท้ายหรอก เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องสยองขวัญสุดพิสดารในหนังสือขายดีเล่มไหน ผมประคองมันขึ้นให้พ้นตัวรถ จากนั้นจึงสูดลมหายใจเพื่อเรียกแรงที่มีอยู่ในการพามันวางลงกับพื้นหินให้นิ่มที่สุด
จากสายวิชาชีพที่ผมเรียนอยู่ทำให้ผมฉลาดพอที่จะรู้ว่าควรเสียเวลาเพิ่มอีกสองสามนาทีเพื่อหาหินหลาย ๆ ก้อนมาใส่ถ่วงกระเป๋าเอาไว้ ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูหนาว รอไม่เกินยี่สิบสี่ชั่วโมง ปฏิกิริยาทางเคมีและก๊าซคงจะพามันลอยขึ้นมาให้ถูกพบเห็นได้ง่าย ๆ แน่
ผมแทบจะอาเจียนออกมาเมื่อต้องรูดซิปกระเป๋าเปิดอีกครั้ง ก้มลงหยิบหินที่หามาได้วางใส่เข้าไปอย่างลวก ๆ ทั้งกดทับ กระแทก เสียง
กร๊อบแกร๊บของกระดูกดังตอกย้ำความโหดร้ายราวประวิงขอ ผมรู้ว่าอย่างไรเขาก็คงไม่เจ็บไปกว่าเดิม จึงกลั้นใจทำทุกอย่างเพื่อจะยัดหินลงไปอีกหลายก้อน และฝืนปิดซิปอีกครั้งจนได้
ตอนนี้กระเป๋าหนักจนยกไม่ไหว แต่ผมก็ดังทุรังยกมันขึ้นวางบนเท้าข้างหนึ่งเพื่อให้แรงส่งนั้นช่วยพยุงมันไปถึงริมผาได้โดยไม่ถูกหินขูดจนขาดไปเสียก่อน เสียงคลื่นทะเลทางด้านล่างกระทบโขดหิน มันทำให้ความรู้สึกผมเชี่ยวกราด ผมก่นด่าตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นจึงใช้แรงที่มีพยายามเหวี่ยงกระเป๋านี้ไปให้พ้นแนวหินโสโครก เป้าหมายของผมคือต้องให้มันลงไปอยู่ใต้น้ำ และถ้าผมทำไม่ได้ เรื่องนี้คงจะยุ่งยากน่าดู
นี่เกือบเป็นการพาตัวเองลงไปอยู่เป็นเพื่อนเขา ลมหายใจผมกระตุกวูบในตอนที่เกือบจะเสียหลักปล่อยตัวไปตามแรงส่ง กระเป๋าใบนั้นหนักกว่าผมมาก และผมก็ใจชื้นขึ้นมานิดหน่อยที่เห็นว่ามันไม่ได้คาอยู่ตรงหินโสโครกที่มองเห็นได้ก้อนไหน ข้างล่างนั้นดำมืด และสิ่งที่เด่นชัดขึ้นมาก็มีแค่สีขาวของฟองทะเล
ทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว ผมลากร่างไร้เรี่ยวแรงนี้กลับไปที่รถ ทุบมือและโขกศีรษะเข้ากับพวงมาลัยหลายครั้ง แน่นอนผมรู้สึกเจ็บ แต่มันรุนแรงน้อยกว่าสิ่งที่บั่นทอนจิตใจตอนนี้หลายเท่า ผมเหยียบคันเร่งและออกจากสถานที่ทำลายหลักฐานนี้ทั้งน้ำตาคลอเบ้า จนสุดท้ายก็ทนไม่ไหว ถึงได้ต้องเบี่ยงรถจอดข้างถนนใหญ่ใกล้เขาลูกนั้นเพื่อประโคมความรู้สึกผิดใส่ตัวเอง ผมร้องไห้ โกรธเคือง และมองไม่เห็นแสงสว่างใดเลยจากกระทำในครั้งนี้
“ฉันขอโทษ...”
ผมพูดกับเขา ผู้ซึ่งอยู่ใต้ผืนน้ำ
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
เขาจะกำลังหนาวหรือเปล่า เรื่องนี้ผมไม่รู้
-
ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเพราะเสียงนาฬิกาปลุก สมาร์ทโฟนขึ้นเวลาเป็นเจ็ดโมงเช้าของอีกวัน ผมปิดมัน ตั้งใจว่าจะไม่ไปเรียน แต่ก็ทำได้แค่ฝังตัวเองอยู่บนเตียงและข่มตาหลับอีกครั้งไม่สำเร็จ
ผมอยู่อย่างนั้นหลายชั่วโมง เสียงคลื่นทะเลยังเด่นชัดอยู่ภายในหัวเหมือนนาฬิกาปลุกที่ปิดไม่ได้ แขนและร่างกายยังล้าจากการแบกสิ่งที่หนักเกินตัวเมื่อคืนนี้ ผมไม่สนแม้แต่จะลุกไปหยิบยาแก้ปวดมากิน พอสิบเอ็ดโมง โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นอีกครั้งอย่างกับตั้งเวลา
( ทำไมมึงถึงไม่มาเรียนวะ )
เสียงของเพื่อนร่วมเอกโวยมาตั้งแต่กดรับ ผมยังฝังหน้าลงกับหมอน ส่งเสียงอู้อี้กลับไปทั้งที่รู้ว่ายังไงมันก็ฟังไม่ออก “ไม่เสือก”
( นี่มึงยังไม่ตื่นเหรอ? ไอ้เวรนี่ พรุ่งนี้มีเทสย่อย มึงรู้ยัง --
รพีร์ ๆ ฝากส่งชีทด้วยดิ! )
“...!”ผมดีดตัวลุกขึ้นทันที หัวใจเต้นโครมครามเหมือนจะหลุดออกมาจากอก
“นัท”
( เอ้อ กูพูดถึงไหนแล้วนะ -- )
“เมื่อกี้มึงพูดกับใคร” ผมถามเสียงสั่น แล้วพอมันย้ำชื่อนั้นขึ้นมาอีกครั้ง ผมก็ห้ามตัวเองไม่ให้กดตัดสายไม่ได้ มือยกขึ้นขยุ้มผมแรง ๆ แล้วลูบหน้าลูบตาอีกหลายครั้ง ผมคิดว่าผมควรจะตื่น ทั้งดูวันที่ เปิดโทรทัศน์ทิ้งไว้ แล้วก็กลัวเหลือเกินว่ามันจะมีข่าวการพบศพใดก็ตามในเมืองนี้
เป็นไปไม่ได้ ผมตบหน้าตัวเองให้ตื่นจากฝันไปทีหนึ่ง
-
ผมเปื่อยอยู่บนโซฟาจนถึงบ่ายสาม ถึงจะอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว แต่ก็ไม่ได้รู้สึกหิวจนอยากพาตัวเองออกไปจากห้องนี้สักเท่าไร มีดอันนั้นยังวางอยู่บนชั้นวางจานในครัว ผมคิดว่าการล้างด้วยแอลกอฮอล์คงช่วยอะไรไม่ได้ คิดแม้แกระทั่งว่าควรจะเอามันทิ้งไปในกระเป๋าเมื่อคืนนี้ด้วย ซึ่งผมโง่จริง ๆ นั่นแหละที่มาคิดได้เอาวันนี้
ที่นัทพูดน่ะมันเหลวไหลทั้งเพ แต่ผมก็โง่ซ้ำสองที่ทนฟังเรื่องบ้า ๆ แบบนี้ไม่ได้จนกดตัดสายทิ้งไปทั้งอย่างนั้น ต่อให้เป็นเรื่องของเวทมนต์ แต่ผมก็ไม่เชื่อว่าเขาจะมีทางไปอยู่ที่นั่นได้ ทั้งที่เมื่อคืนนี้ผมเป็นคน
หั่นและเอาเขาไปทิ้งเองกับมือ
ก๊อก ก๊อก“...!”
ผมสะดุ้งเฮือกอีกรอบ ใจมันคิดแต่ว่าพอเปิดประตูออกไปแล้ว มือสองข้างจะถูกใส่กุญแจมือแล้วต้องเดินผ่านแสงแฟลช มีภาพตัวเองฉายไปบนหน้าจอทีวีทุกช่อง ถูกทุกสายตาตราหน้าว่าเป็นฆาตกรโหด นอนอยู่บนแท่นประหาร และเห็นเข็มฉีดยากำลังเลื่อนเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ
ถึงอย่างนั้นผมก็ลุกพาตัวเองไปที่ประตู มือขวาค่อย ๆ วางทาบลงไปบนเนื้อไม้แล้วเพ่งสายตาผ่านรูตาแมวเล็ก ๆ ประตูห้องฝั่งตรงข้ามและทางเดินบิดเบี้ยวเหมือนอยู่ในเลนส์ฟิชอายส์ ผมเกลียดมัน แล้วข้างนอกก็ไม่มีเจ้าของเสียงเคาะเลยสักคน
ผมแคลงใจในข้อจำกัดของตาแมว มันมองเห็นข้าง ๆ ไม่ได้ แล้วความหวาดระแวงในใจผมจึงสั่งให้ใจกล้าเปิดประตูออกไปเช็กดู อย่างน้อยก็มั่นใจได้อย่างหนึ่งว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งผมกลัวที่สุด
และทันทีที่เปิดมันออก ร่างของใครคนหนึ่งก็กระโจนออกมาจากฝั่งซ้ายมือ
“...!”ผมถอยกรูดจนล้มลงก้นจ้ำเบ้ากับพื้น บนขมับและแผ่นหลังเต็มไปด้วยเหงื่อซึ่งขับออกจากร่างกายร้อนระอุ ใจผมเต้นไม่เป็นส่ำ ขนลุกชูชันจนเหมือนว่าเจ้าของใบหน้าแลบลิ้นปลิ้นตาและเสื้อสเวทเตอร์สีเทานั้นกำลังแหวกอกอย่างผีในหนัง แต่เปล่าเลย มันน่ากลัวกว่านั้นหลายร้อยเท่า!
รพีร์หุบลิ้นและสีหน้าทะเล้น ๆ ของเขาลงเมื่อเห็นว่าผมไม่หัวเราะตามไปด้วย ยิ่งเขาย่างเข้ามาใกล้ ผมก็ยิ่งขยับตัวถอยไปข้างหลังจนปัดเอาข้าวของบนโต๊ะตกลงมาระเนระนาด และพอหยัดตัวลุกขึ้นได้ ผมก็ยิ่งเห็นสีหน้าแปลกใจของเขาได้อย่างชัดเจน
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น?”
เขาพูดชื่อผม จัดการปิดประตูห้องให้เรียบร้อยก่อนจะรีบวางของบนโต๊ะรับแขกแล้วถลาเข้ามาหา ผมถอยหนีเขาอีกก้าว ทว่ามือเล็กนั้นก็จับแขนของผมเอาไว้
“เป็นอะไรไป” นั่นเป็นคำที่ผมควรจะถาม “ไม่สบายเหรอ”
เขาเอามืออังหน้าผากผม เป็นห่วงเป็นใยเหมือนตอนก่อนที่ผมจะใช้มีดในครัวแทงเขาไม่มีผิด นี่มันเป็นไปไม่ได้ มันไม่มีทางเกิดขึ้นไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ของของเขายังอยู่ในตู้เสื้อผ้าผม ทั้งสมุดเลคเชอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือแม้แต่นาฬิกาข้อมือที่ผมเป็นคนซื้อให้เขาเองกับมือ ผมอยากจะคิดว่าตัวเองฝัน แต่เมื่อวานหรือตอนนี้กันล่ะ
ผมเป็นได้แค่ไอ้งั่งที่ให้เขาพูดอะไรอีกมากมายในขณะเอามือลูบหน้าลูบคอผมไปด้วย รพีร์บ่นเรื่องที่ผมไม่สบาย ไม่ยอมไปเรียน แต่ไม่พูดถึงเรื่องเมื่อวานเลยสักคำเดียว เสื้อผ้าที่เขาใส่ก็เป็นชุดใหม่ เขาไปเรียนตามปกติ และเพื่อนเองก็คงได้เห็นอย่างที่ผมเห็น
ผมกลั้นใจจับข้อมือของเขาเอาไว้ รพีร์ดูงุนงงนิดหน่อย หากแต่ดวงตานั้นก็เบิกโพลงขึ้นทันทีที่ผมดันร่างของเขาถอยไปจนล้มลงกับโซฟา
ที่ข้อมือของรพีร์ไม่มีนาฬิกาเรือนนั้น
ผมขึ้นไปคร่อมบนตัวเขา จ้องมองใบหน้าเดียวกับในกระเป๋าใต้ทะเลอันนั้น ดวงตาลึกโหลของผมอาจจะทำให้เขากลัว รพีร์ตื่นตกใจ ผมสาบานได้ว่ามันน้อยกว่าที่ผมหวาดกลัวเขาแน่นอน
ผมไม่พูดอะไร ถอดเสื้อสเวทเตอร์เขาแล้วดึงมันออกไปพ้นจากหัว ในเมื่อรพีร์ไม่มีนาฬิกาเรือนนั้น ผมก็คิดว่าภายใต้เสื้อผ้าเขาอาจจะมีอะไรผิดปกติอีกก็ได้ รพีร์ไม่ได้ยื้อยุดที่ผมถอดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขา ทั้งกระชากจนมันหลุดออก แล้วก็เห็นเพียงแค่แผ่นเนื้อขาวเนียนที่ไม่มีแม้แต่รอยแทงแรกซึ่งผมทำเอาไว้
“...”
ผมแค่นหัวเราะ สมเพชตัวเองที่กำลังทำอะไรบ้า ๆ ก็ถ้าบนตัวเขามีรอยแทง รอยหั่น หรือสารพัดสิ่งที่ผมทำไว้ แล้วจะมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง
รพีร์คงคิดว่าความรุนแรงนี้เป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับเรา เขาหัวเราะตอบราวกับว่าเข้าใจดี จากนั้นจึงรั้งร่างผมลงไปใกล้ เรามีความสุขกับความเร้าใจแบบนี้เสมอ เริ่มต้นจากความสัมพันธ์หลบ ๆ ซ่อน ๆ เซ็กส์ แล้วก็เป็นแค่เพื่อนร่วมเอกในสายตาคนอื่น แทบทุกส่วนในห้องนี้ผ่านร่างกายของเขา เราทั้งเกลือกกลิ้ง หัวเราะ และพอใจถ้าคิดอะไรใหม่ ๆ ขึ้นได้ อย่างเช่นว่าเขาอยากลองเซ็กส์ระหว่างอาบน้ำหรือในตู้เสื้อผ้า
เขาจะชอบถ้าผมแสดงด้านดิบเถื่อนในการเล่นสนุกของเรา จนกระทั่งเมื่อวานที่ผมถูกควบคุมโดยโทสะ เพราะเขากราดด่าหลังจากรู้ว่าผมคิดอะไรใหม่ ๆ ไม่ได้แล้ว
ใช่ ผมขอเลิก แต่รพีร์ไม่ยอม
การหลบซ่อนเริ่มไม่สนุกอีกต่อไป ผมอยากคบผู้หญิงอย่างเปิดเผย กลัวว่าเราจะถลำลึกกับความสัมพันธ์ครั้งนี้เกินไปจนกลายเป็นความหมกมุ่น ลุ่มหลง ผมยังอยากมีขาอีกข้างที่เหยียบอยู่บนโลกแห่งความจริง อยากให้เราเป็นแค่ของชั่วครั้งชั่วคราว แล้วก็ทนไม่ได้ที่รพีร์บอกว่าผม
คิดผิด‘นายมันบ้าไปแล้ว!’“เป็นอะไรไป”
ผมรั้งตัวเองไว้ไม่ให้เขาจูบ ผละออกมาจากโซฟา มองร่างของเขาที่กำลังลุกขึ้น รพีร์ชั่งใจว่าควรจะติดกระดุมเสื้อก่อนหรือเปล่า
-
(มีต่อ)