ตอนที่1
ซวยจริงๆผมตื่นสายซะได้ ตอนนี้ก็บ่ายโมงกว่าแล้วซึ่งผมมีเรียนบ่ายพอดี แต่ตอนนี้กำลังสตาร์ทรถออกจากหอ เพราะเรื่องเมื่อคืนแท้ๆทำให้ผมนอนไม่หลับ จนต้องมาตื่นสายเอาแบบนี้
ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับผลักประตูเข้าไป ห้องเรียนในวันนี้เป็นวิชาบรรยายแถมประตูที่เข้าได้มีแค่ประตูเดียวคือประตูหน้าห้องอีก เกรงใจอาจารย์ชะมัด
“ครึ่งชั่วโมงมาสายมากนะคะ วันนี้อาจารย์จะให้งานนิสิตทำงานกลุ่มท้ายคาบแล้วกัน”
ผมหันไปมองหน้าอาจารย์ที่ออกกฎขึ้นมาใหม่ดื้อๆแบบนี้ เล่นเอาทั้งห้องถึงกับร้องโอดครวญกันเป็นแถว
“ขอโทษครับๆ”ผมพูดเสียงเบาออกไปพร้อมกับก้มตัวเดินเข้าไปประจำที่นั่งหลังห้อง
“ไอ้เพลิน ไอ้เลว ทำไมมึงไม่โดดไปเลยวะ”
กูก็คิดงั้น ผมไม่ได้ตอบออกไป เดี๋ยวอาจารย์ทำโทษที่คุยกันอีก
ผมอดไม่ได้ที่จะสอดส่องสายตาหาตัวต้นเหตุที่ทำให้ผมตื่นสายจนไปเจอเข้ากับเยี่ยมที่นั่งอยู่หน้าห้องด้านซ้ายกับผู้หญิงหนึ่งคนที่ดูดูแล้วไม่ใช่เพื่อนในกลุ่มของเขา
“มึงดูไอ้เยี่ยมดิ” ต่อ เพื่อนตัวอ้วนของผมที่เป็นประเภทที่คอยแขวะกลุ่มของดาวเดือนชี้ให้ผมดูเยี่ยม “โคตรหน้าม่ออะ พอมีน้องเข้ามาเรียนด้วยตามอ่อยเลย”
ผมส่ายหัว
“กูอยากเท่แบบนั้นบ้าง ฮ่าๆ”โจ้พูดขึ้น ส่วนมันก็เป็นพวกที่ปลื้มกลุ่มดาวเดือนไงละ ชมออกนอกหน้าขนาดนี้
ผมไม่สนใจ มองดูเยี่ยมแล้วภาพเมื่อคืนลอยมาจนต้องส่ายหัวสลัดทิ้งไป จนมาถึงช่วงท้ายคาบที่อาจารย์ปล่อยให้ทำงานกลุ่ม โดยอาจารย์จะให้เราวิเคราะห์วิจารณ์งานประติมากรรมโดยเขียนบรรยายเกี่ยวกับรูปปั้นที่เราได้รับมา10บรรทัด ห้ามขาดห้ามเกิน โดยกลุ่มของผมคือรูปปั้น The Thinker หรือชื่อภาษาไทยคือ คนครุ่นคิด สร้างโดย โอกุสต์ รอแด็ง ประติมากรชาวฝรั่งเศส สำหรับรูปปั้นนี้ค่อนข้างจะเหมือนผมในเหตุการณ์เมื่อคืน ผมอาจจะทำมันได้ดี
“ขออยู่ด้วยคนดิ”
ผมเงยหน้ามองดูบุคคลมาใหม่ มันคือเยี่ยมนั่นเอง
“ได้ดิ”โจ้ตอบแบบไม่ลังเล เล่นเอาเพื่อนผมที่เหลือถึงกับทำสายตาใส่มัน
เยี่ยมยิ้มตอบรับแล้วเดินมาหาผมที่นั่งอยู่ไกลๆจากคนอื่นๆ ซึ่งตอนนี้เรายืนเป็นครึ่งวงกลมกำลังเริ่มทำงาน
“เย็นนี้กลับด้วย”ผมคิ้วขมวดมองมันว่ามาไม้ไหน ยังอุตส่าห์เข้ามาทัก มาขอกลับด้วยนี่นะ
“ให้ไปส่ง”ผมถามอย่างงงๆ
“กลับหอมึง”
เก็ทเลย
ผมเลยพยักหน้าเออออไปจนทำงานกลุ่มเสร็จ เยี่ยมก็ขอตัวบอกจะไปเจอกันที่หน้าห้องเพราะมันจะเข้าไปทักเพื่อนมัน ทันทีที่มันก้าวเท้าออกจากกลุ่มไป เพื่อนจอมเผือกของผมก็เข้ามารุมทันที
“ทำไมมันกลับกับมึงอะ”ต่อถามอย่างรวดเร็ว
“สงสัยมันมายืมจอยเกมกูมั้ง ไม่รู้ว่ะ” ผมก็โกหกไปมั่วๆ ไม่รู้เหมือนกันโว้ย
“น้ำหอมเยี่ยมโคตรหอมเลยอะ ฟินเวอร์”โจ้ออกอาการเกินหน้าเกินตา มันเข้าข่ายบ้ากลุ่มของเยี่ยมเป็นพิเศษ “เพลินกูขอไปหอมึงด้วยได้ปะ”
“แล้วแต่เหอะ”ผมตอบมันไปแบบรำคาญนิดหน่อย
ไม่เข้าใจเยี่ยมมันเหมือนกันว่ามันจะกลับกับผมทำไม หรือมันต้องการคุยกับผมเรื่องเมื่อคืน คงจะขอโทษละมั้ง
“ดูดิ แลกไลน์กันละ โคตรไว เยี่ยมจริงๆ”ต่อพยักเพยิดหน้าให้ผมมองดูเยี่ยมกำลังคุยกับน้องผู้หญิงที่นั่งข้างกัน ในมือของทั้งคู่กำลังถือโทรศัพท์ คงจะแลกไลน์กันจริงๆนั่นแหละ แล้วไหนเยี่ยมบอกว่าจะไปหาเพื่อน ไอนี่มันหน้าม่อจริงๆ
“เออโจ้ เยี่ยมมันเรียนชายล้วนปะวะ”
ผมถามเมื่อนึกขึ้นได้ว่าบางที การที่มันชักว่าวให้ผมอาจจะติดนิสัยมาจากตอนเรียนโรงเรียนชายล้วน มันอาจจะมีรสนิยมเพื่อนช่วยเพื่อน เพราะดูจากที่มันม่อสาวแล้วมันคงไม่ได้เป็นเกย์หรอก
“ใช่ๆ ทำไมหรอ”
ถ้าเป็นแบบนั้นผมก็พอสบายใจอยู่บ้าง
เมื่อเดินออกจากห้อง เยี่ยมก็ยืนรอผมอยู่ก่อนแล้ว แต่ผมไม่ได้เข้าไปทักอะไรเพียงแต่เดินกับเพื่อนเพื่อจะลงบันได แต่ก็ถูกขัดด้วยผู้ชายร่างสูงเข้ามาจับกระเป๋าผมไว้สะก่อน
“ลงลิฟต์”
ฮะ ผมยังงงๆอยู่ก็ถูกมันดึงให้เดินกลับไปที่ทางเดิน
“ไปด้วยๆ”
ประตูลิฟต์กำลังจะปิดก็มีโจ้เดินเข้ามา มันยิ้มตาหยีออกอาการดีใจ
“คืนนี้ไปแดกเหล้าปะเยี่ยม”ปอนด์เดือนปีสี่คณะผมพูดคุยกับเพื่อน ทำให้ผมสังเกตได้ว่า คนในลิฟต์เป็นเพื่อนๆของเยี่ยมทั้งนั้น
“ไปดิ เออ เดี๋ยวเอามันไปด้วยดิ”จู่ๆเยี่ยมก็ชี้มาที่ผม
“ไม่ไป”ผมตอบเสียงเรียบกับไป
“ไปด้วยกันดิเพลิน อยากลองแดกเหล้ากับคนดังเหมือนกัน พาเพลินไปเรียกเรทติ้งสักหน่อย เผื่อจะได้หิ้วดาวกลับมาสักคน ฮ่าๆ”
แล้วเพื่อนๆรวมถึงเยี่ยมก็ขำกันสนุกสนาน ผมโคตรจะอึดอัดได้แต่เงียบ รู้สึกถูกพวกมันพูดถึงผมคุยกันสนุกปากต่อหน้ากันแบบนี้ก็คงไม่ไหวเหมือนกัน ผมจัดได้ว่าก็หน้าตาดีระดับนึงเพียงแต่น้อยกว่ากลุ่มดาวเดือน เรื่องของเรื่องแฟนเก่าคนล่าสุดของผมเขาเป็นดาวคณะวิทยาศาสตร์ เรื่องนั้นทำให้ทุกคนในคณะช็อคกันไปเป็นแถบๆเมื่อคนเงียบๆอย่างผมกลับมีแฟนเป็นดาวซะงั้น แต่ที่ตกใจกว่าคือเป็นผมที่เป็นฝ่ายบอกเลิกนั่นแหละ
“แล้วมึงเอาไงไอ้โจ้”ผมหันไปถามเพื่อนหลังออกมาจากลิฟต์ จะไปกับกูจริงๆหรอไง
“วันหลังได้ปะ กูมีธุระกับเพลินอะ” เยี่ยมมันตัดบทส่งยิ้มหล่อไปให้โจ้แล้วดึงกระเป๋าผมออกมานอกตึก
“นำไปที่รถสิ”มันออกคำสั่ง ผมเดินไปที่รถโดยที่มันเดินตามผมมาติดๆ
“กินข้าวก่อนนะ หิว ไปร้านRose cafe อะ”
มึงนี่ก็สั่งจังเลย แล้วทำไมกูต้องทำตามคำสั่งมันด้วยเนี่ย
มาถึงร้านขณะรออาหารที่สั่ง เยี่ยมมันก็เอาแต่คุยโทรศัพท์กับสาวของมันคุยสะหวานหยดย้อยไม่สนใจผมสักนิด จนมันวางสายตอนอาหารเสิร์ฟ
“เรื่องเมื่อคืนมึงติดใจอะไรรึป่าว”
หือ คิดจะพูดก็พูดหรอ
ผมหน้าร้อนขึ้นมาวูบนึงแต่ก็เก็บอาการได้อยู่
“มึงเป็นเกย์เหรอวะ”
หลุดปากถามจนได้
“ไม่ได้เป็น”มันตอบหน้าตาย
“แล้วมึงทำแบบนี้กับผู้ชาย?”
“ป่าว”
เอ้า
“แล้วทำไม...”
ยังไม่ทันได้ถามต่อ เยี่ยมก็ขัดสะก่อน
“พอแล้ว ไม่ได้เป็นแล้วกัน และไม่ได้ทำแบบนี้กับใคร เมื่อคืนกูแค่เงี่ยน แต่มึงเสือกไร้น้ำใจไง”
ความผิดกูหรอ
“อะอืมๆ”
ผมตอบไปอย่างโล่งอก ผมคงจะคิดมากไปในเมื่อมันก็ไม่ได้มีเจตนาอะไรไม่ดี ก็แค่เงี่ยนเท่านั้น มันก็ยังทำตัวปกติหน้าด้านหน้าทนพูดออกมาไม่อายปาก เราก็ยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมก็โอเคแล้วแหละ ถือสะว่าเรื่องเมื่อคืนผมหน้ามืดตามัวแล้วกัน
“แต่มันก็เสียวใช่ไหมละ”
พรวด! ข้าวแทบพุ่ง ผมหยิบทิชชู่มาเช็ดปากที่เผลอตกใจกับคำถามของมัน
“อย่ามากวนตีน”
“กูรู้มึงชอบ”มันยิ้ม จนผมเขินยิ่งแววตาข้างในมันยิ่งเจ้าเล่ห์ด้วยแล้ว “หลับตาพริ้มเชียวนะ แน่ล่ะ ฝีมือกูดี”
“พูดเพื่ออะไร อยากทำให้กูอีกใช่มั้ย”ผมบ่นมัน ไม่เลิกพูดถึงอีก
“ก็เผื่อมึงจะทำให้กูบ้าง กูก็อยากรู้ว่ามึงจะเด็ดขนาดไหน”
มันยิ้มมุมปาก สบตาผมที่นัยน์ตาเป็นประกายชวนขนลุก
“ฝันเถอะ”
หลังจากกินข้าวเสร็จผมก็แยกย้ายกับมัน มันบอกจะอยู่ต่อคุยกับพี่ที่ร้าน ผมก็รู้สึกดีไม่ได้ติดใจอะไรไม่อยากอยู่กับมันนานๆ แถมอยากกลับห้องแล้วด้วย จะกลับไปนอนต่อเล่นเกมทำงานจิปาถะของตัวเองไป
ตึ้ง ตึง ตึ้ง ตึ้ง
จนเวลาล่วงเลยไปจนถึงตีหนึ่งผมกำลังจะเข้านอนเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น และเมื่อเห็นหน้าจอโทรศัพท์ว่าเป็นใครโทรมาผมใจเต้นตึกตักทันที
‘เยี่ยม’
เวรล่ะ จะโทรมาทำไมอีกเนี่ย กูอุตส่าห์ลืมเรื่องที่มึงทำกูไว้แล้วนะ ยังจะตามมาหลอกหลอน
“ฮัลโหล”
“เพลิน”
“อะไร”ผมตอบมันไป ซึ่งมันเงียบอยู่นานแต่เสียงจากโทรศัพท์ที่แทรกเข้ามาวุ่นวายพอสมควร เหมือนกับมันพึ่งเลิกปาร์ตี้กัน ใช่สิ วันนี้กลุ่มพวกมันไปกินเหล้ากันนี่นา
“เดี๋ยวไปนอนด้วย”
หาาา
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
ใจผมเต้นแรงระดับสิบแล้วครับ
“ไม่ต้องมา”
“ทำไมอะ”มันตอบเสียงงุ้งงิ้งออดอ้อนอีกแล้ว “กูเมาละ”
“กูนอนแล้ว”
“อืมๆ งกอีกแล้ว”
แล้วมันก็ตัดสายไป ผมละโล่งอกโล่งใจ นี่ถ้ามันมากลัวเหตุการณ์จะซ้ำรอยน่ะสิไม่ว่า ผมกลายเป็นคนขี้กลัวไอ้เยี่ยมตั้งแต่ตอนไหน แต่ที่ผมกลัวคือกลัวว่าตัวเองจะปล่อยให้กามอารมณ์เข้าครอบงำมากกว่า
ผมก็ยิ่งเป็นผู้ชายเจ้าอารมณ์สะด้วย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ผมหลับไป แต่ก็ต้องตื่นมาด้วยเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นมา ชักถี่แล้วด้วย ผมมองนาฬิกาเป็นเวลาตีสามกว่าๆแล้ว ใครจะมาดึกมาดื่นอะไรป่านนี้นะ ผมลากสังขารตัวเองลุกขึ้นไปที่หน้าประตูก่อนจะเปิดออกมา
เจอเข้ากับผู้ชายร่างสูงกว่าผม ใบหน้าบ่งบอกถึงอาการเมาได้อย่างชัดเจน ใบหน้าสีแดงระเรื่อ ริมฝีปากสีแดงจัด นัยน์ตาหวานเยิ้ม โดยมีแขนข้างนึงเท้ากับพนังห้องเพื่อพยุงตัว
“คิดถึงกูมั้ย”
เยี่ยมส่งยิ้มบางๆ ก่อนจะพุ่งเข้ามาที่ตัวผมจนผมรับน้ำหนักแทบไม่ไหว ความง่วงยังคงเกาะกินตัวเองอยู่แต่ก็ยังพอมีสติเอื้อมมือไปปิดประตูได้ แต่คนตัวหนักตรงหน้าผมนี่สิ
ฟึ่บ
เห้ย มันกอด ผมรู้สึกขนลุกตั้งแต่เท้าขึ้นมายันหัวที่โดนผู้ชายด้วยกันแถมเป็นเพื่อนกันอีกมากอดแบบนี้
“เยี่ยม”ผมเรียกสติมัน ดันมันออก ซึ่งมันก็ขยับออกตามแรงผลักแต่เสือกหันมาสบตาผมหยาดเยิ้ม ก่อนจะโน้มหน้าลงมาใกล้
หะเห้ย
“กูเงี่ยนว่ะ”
เสียงกระซิบแหบพล่าข้างหูทำเอาผมหูอื้อตาลายไปหมดลมหายใจแผ่วที่พัดผ่านใบหูผมไปเล่นเอาความรู้สึกขนลุกขนชันขึ้นมา ภาพเมื่อคืนเข้ามาในหัวตอกย้ำและซ้ำเติมถึงรสสวาทที่ผมไม่อาจจะลืมได้
ตุบ
ผมโดนมันผลักล้มลงบนเตียงและถูกคร่อมด้วยสองแขนแกร่ง ยอมรับว่าใจผมเต้นระรัว มีแต่ความอยากรู้อยากลองไปหมด
เยี่ยมสบตาเจ้าเล่ห์กับผมใช้มือหนาจับใบหน้าผมไว้โดยนิ้วโป้งไล้เกรี่ยริมฝีปากผมไปมาก่อนจะโน้มหน้าลงมาใกล้จนรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆและกลิ่นบุหรี่ไฟฟ้ารสมิ้นต์หอมๆ
เปรี๊ยะ
เหมือนไฟฟ้าช็อตทำเอาผมชาไปทั้งหน้าเมื่อริมฝีปากร้อนประทับเข้ากับริมฝีปากผมแผ่วเบา ผมหลับตาพยายามเม้มริมฝีปากหนีแต่ก็ถูกมือหนาจับใบหน้าไว้แน่นหันหนีไปไหนไม่ได้ จากความโสดที่เกาะกินจนลืมรสชาติหอมหวานจากการจูบไปแล้วว่าเป็นยังไง ตอนนี้มันกลับมาอีกครั้งเหมือนจูบแรกไม่มีผิด ก็ใช่สิ จูบแรกกับผู้ชาย
“อ้าสิ”
คำพูดกำกวมชวนสยิวผมเอาผมร้อนวูบวาบ คิดถึงภาพตอนตัวเองออกปากสั่งผู้หญิงที่เคยมีอะไรด้วย แต่ความหมายของคนตรงหน้าแล้วหมายถึงอ้าริมฝีปากเพื่อรับการจูบที่ร้อนแรงขึ้นไป แน่นอนผมทำตาม ผมเปิดปากตัวเองด้วยความอยากรู้อยากลอง ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้ายิ้มมุมปากจูบซับผมอีกหนึ่งครั้งก่อนจะกดริฝีปากหนักเข้ามาจนผมเผลอกำแขนเสื้อมันไว้แน่น
ลิ้นหวานจังวะ
ในใจผมคิดพร้อมกับสมองตัวเองถูกปลดปล่อยไปตามอารมณ์ตรงหน้ารับรู้รสสัมผัสของลิ้นหวานที่เข้ามารุกล้ำภายในหยอกล้อกับลิ้นของผมอย่างไม่ลดละ
ไม่มีใครยอมกัน
ผมผลักมันออก ตามด้วยคร่อมตัวมันคืนกดจูบหนักคืนไปและเป็นฝ่ายลุกล้ำมันบ้าง
เราจูบกันนานมาก กลิ่นเบียร์กลิ่นบุหรี่กลิ่นน้ำหอมของมันหอมหวานไปหมด ผมชอบ ชอบจนอยากกลืนกินมันไปทั้งตัว
ผมถอนริมฝีปากกดจูบลงไปที่ซอกคอหอมของคนใต้ร่าง ผิวขาวละเอียด ขาวกว่าผมอีก ลองไล้ลิ้นชิมชวนยิ่งปราถนา
“อือ อือ”เสียงครางออกมายิ่งทำให้ผมเพลิดเพลินอดไม่ได้ที่จะฝังเขี้ยวลงไป
น่ารัก
ใบหน้าไอ้เยี่ยมมันหล่อ น่ารักไปหมดจริงๆ
“อย่าพึ่งหลงกูสิ”เยี่ยมหัวเราะ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มร้ายกาจผลักผมลงให้ผมอยู่ใต้ร่างมันอีกครั้ง “แบบนี้สิถึงจะเหมาะ”
ผมเสียววูบเมื่อมือร้อนๆของมันลากผ่านลำตัวเปลือยด้านข้างของผมลงไป ใช่ ผมนอนอยู่หอคนเดียวผมใส่แค่บ็อกเซอร์เท่านั้น
หมับ
“อือ”ผมครางออกมาทันทีที่มันล้วงเข้าไปจับน้องชายของผมพร้อมกับนิ้วโป้งที่ไล้วน
“น้ำออกแล้ว”ไม่ต้องมาพูดด
เฮือก
ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อไอ้เยี่ยมโน้มตัวลงมาใช้ริมฝีปากบางของมันดูดดุนเข้ากับหัวนมของผมที่แข็งเป็นไต ทำเอาผมดิ้น ความรู้สึกนี้ผมแทบจะลืมมันไปแล้ว ความเสียวแล่นขึ้นมาที่สมอง เสียงน้ำเจ๊าะแจ๊ะ น้ำลายของมันดังขึ้นเรื่อยๆกับน้ำหนักลิ้นที่มันละเลงที่นมของผม
“เสียวชิบ”ผมร้อง ขยุ้มเส้นผมนุ่มไว้แน่น
“ไม่ไหวแล้ว”
เยี่ยมร้องบอกถอดกางเกงบ็อกเซอร์ผมทิ้ง กวาดนิ้วจากน้ำกามผมเข้ามาถูลูบไล้บริเวณก้นจนผมเสียววูบวาบ
“จะทำอะไรวะ”
คำถามโคตรโง่เผลอหลุดออกจากปาก ผมก้มมองดูเห็นมันถอดกางเกงยีนส์มันเองออกไปแล้วเหลือแค่บ็อกเซอร์เป้าตุงๆ
“จะช่วย?”มันยิ้ม จับมือผมไปช่วยถอดบ็อกเซอร์มันออก ผมก็ดันๆออกไปสะงั้น จนเสื้อผ้าหลุดออกจนหมด ผมแอบกลืนน้ำลายถึงความใหญ่โตของน้องชายเยี่ยม แถมความขาวสีชมพูเข้มๆอีก นีละน้าคนขาวไอ้หนูยังขาวเลย
“มึงจะทำให้กูมั้ย”เยี่ยมเอ่ยปากถาม ในขณะที่มันเอาแต่จูบหน้าจูบตาผมแต่มือยังคงทำหน้าที่ช่วยน้องชายผมอยู่ โคตรเสียว
“บังคับปะ”
“ก็ผลัดกันมั่งดิ”มันบอกล้มตัวลงนอนด้านข้างและดึงแขนผมให้ลุกขึ้นนั่งทับหน้าขามัน “จับดู”
ผมกลืนน้ำลาย ลองจับดูที่น้องชายมันลูบขึ้นลงและลองใช้นิ้วโป้งบ้าง น้ำมันไหลออกมาทีละนิดซึ่งผมก็ใช้น้ำที่ออกมาเอามาถูวนที่หัวของมันจนมันเลื่อม
“ทำสิ”มันพูดเสียงแหบกดไหล่ผมลง จนตัวผมโน้มลงข้างล่าง ไม่พอกดหัวผมอีก ทำให้หน้าผมอยู่ระดับเดียวกับน้องชายมัน
เดี๋ยว
อื้อ
สัดเอ้ย กดลงมาได้ แก้มผมแตะเข้าที่น้องชายมันเต็มๆ แต่เยี่ยมก็ยังคงดันหน้าผมลงจนผมต้องอ้าปากกลืนกินน้องชายของมัน ก่อนจะดูดอมใช้ลิ้นเลียเหมือนไอติม
ครั้งแรกก็ไม่เลวเว้ย
“ซี๊ด มึงโคตรเด็ด” เยี่ยมร้องครางเสียงดังขยุ้มผมผมออกน้ำหนักตามจังหวะขึ้นลง “เอาเลยนะ”
มันไม่พูดพร่ำทำเพลงดึงตัวผมขึ้นแล้วผลักลงอีกครั้งก่อนจะตามมาคร่อมแล้วจูบดูดดุนหัวนมผมจนเสียววาบ และมืออีกข้างของมันก็ดันขาผมแยกออกจากกัน ผมหน้ามืดตาลายกับความเสียวบริเวณหัวนมและน้องชายที่มันใช้มือให้ จนแทบจะลืมไปว่าตอนนี้มีสิ่งแปลกปลอมพยายามถูที่ประตูหลังผมอยู่
“เพลิน กูขอนะ”
เยี่ยมโน้มตัวมาจูบปากผมอย่างดูดดื่ม จนผมเสียวไปหมด พร้อมกับแรงกดที่เข้ามาทางช่องด้านหลังที่มีน้ำกามของผมและมันแฉะรออยู่แล้ว
“มึง โอ้ย”ผมร้องห้าม ส่ายหัวให้หลุดจากริมฝีปากก็ต้องตาเหลือกกับความเจ็บที่แทรกเข้ามา “ไอ้เยี่ยมเอาออกไป”ผมผลักดันมันออก เจ็บจนน้ำตาจะไหลแต่มือสองข้างมันจับเอวผมไว้แน่นและพยายามแทรกน้องชายมันเข้ามาจนได้
เฮือก
ผมร้องเมื่อมันเข้ามาจนสุด เยี่ยมเข้ามาจูบปลอบประโลม ไซร้คลอผมไปมา
“โคตรแน่นเลยแม่งเอ้ย”
เสียงตะโกนของมันดังข้างหูผมก่อนที่มันจะขยับเข้าออกช้าๆ ผมเจ็บแสบประตูหลังมากจนเอื้อมมือเพื่อไปบรรเทาโดยการปลุกปั่นเจ้าหนูตัวเองเผื่อจะมีความเสียวขึ้นมาบ้าง แต่ก็ถูกมือเยี่ยมปัดออกแล้วทำให้พร้อมกับมันเข้ามาดูดดุนหัวนมผมเพิ่มเติม
เออ
ค่อยยังชั่ว
ผมเริ่มผ่อนคลายหลับตารับชะตากรรมตัวเองที่ปล่อยตัวปล่อยใจมาถึงขนาดนี้แล้ว แรงเสียดสีจากช่องทางหลัง แรงดูดที่หัวนม รวมถึงรสสัมผัสชักขึ้นลงของน้องชายทำเอาผมไม่รู้จะเสียวตรงไหน มันรวมๆกันได้เสียวมาก เสียงครางของผมกับเยี่ยมดังระงมท่ามกลางความมืดของห้องที่มีแค่เสียงไฟจากระเบียงเล็ดลอดเข้ามาทำให้โคตรจะโรแมนติก
ผมยอมรับว่าผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆที่ยอมให้มันทำแบบนี้ แต่ผมกลับชอบ กลับเสียวร่วมด้วยไปกับมัน ความอยากรู้อยากลองมันเป็นเหตให้มาถึงจุดนี้ เยี่ยมหมุนตัวผมให้โก่งโค้งเปลี่ยนเป็นท่าหมา ซึ่งมันทำได้ดีตอนเปลี่ยนท่าไม่มีหลุดแยกออกจากกัน มันตามมาจูบซัพหลังผมอย่างอ่อนโยนไปหมด แต่แรงที่กระแทกกระทั้นเข้ามาไม่มีลดละ
“มึง…”ผมส่งเสียงออกมาเมื่อความเสียวจากด้านหน้าและด้านหลังเริ่มจะประทุก่อตัวขึ้นแล้ว “เร็วอีกหน่อย”
ผมสั่งออกไป เยี่ยมขยับมือและเอวเร็วขึ้น จนสมองผมแทบจะระเบิดกับความเสียวที่ได้รับ
“พร้อมกัน”
เสียงครางของมันสั่งผม ทำให้ผมยิ่งปลุกเร้าระดมความเสียวตัวเองขึ้นไปอีก
“โอ้ย มึง ใกล้ละ”ผมร้องเสียงดัง โยกสะโพกรับมันอย่างไม่ลดละ
จนในที่สุด
ผมก็ร้องหวีดและปลดปล่อยน้ำออกมาเกร็งตัวกระตุกและรับรู้ในเสี้ยววินาทีต่อมามีน้ำไหลทะลักเข้ามาที่ช่องทางด้านหลังผมเต็มไปหมด
เราเสร็จพร้อมกันจริงด้วย
ไอ้ชิบหายยยย
ตอนนี้ผมนอนหมดแรงนอนซบผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเพื่อนอยู่ โดยขยับก็ไม่ได้เจ็บสะโพกไปหมดได้แต่ปล่อยให้มันนอนกอดผมอยู่แบบนี้
จุ้บ
เยี่ยมเข้ามาจูบหน้าผากผมหลายครั้งได้ทุกทีที่มันขยับตัว แต่ตัวมันเหมือนจะหลับๆบ้างแล้ว แต่ผมนี่สิ ตายังหลับไม่ลงเลย
ผมไม่คิดว่าเรื่องพวกนี้มันจะเกิดขึ้นกับผมด้วยซ้ำ แต่อารมณ์มันพาไปจนเตลิดมาถึงขั้นนี้ได้ยังไงก็ไม่รู้ ความคิดมากของผมพุ่งเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง ยิ่งกว่าตอนที่มันแค่ชักว่าวให้ผมสะอีก แต่นี่เราถึงชั้นมีอะไรกันแล้ว
นี่กูมีอะไรกับเพื่อนตัวเองหรอวะเนี่ย
โอ้ยยยย
และหลังจากความคิดมากถาโถมผมก็เหนื่อยและหลับไป ยังไงสะไอ้เยี่ยมมันยังหลับได้ผมก็หลับได้เหมือนกัน พรุ่งนี้ค่อยว่าอีกที
กริ๊ง กริ๊ง
เสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือที่ผมตั้งไว้ดังขึ้น ผมสลึมสะลือตื่นแต่ถูกอ้อมแขนหนากอดกระชับไว้จากทางด้านหลัง นั่นแหละ ผมถึงสะดุ้ง
“ไอ้เยี่ยม”
ภาพเมื่อคืนผุดขึ้นมาเป็นฉากๆ ผมลุกขึ้นนั่งก็เจ็บเข้าที่สะโพกทันที เออกูไม่ได้ฝันไป แถมน้ำอะไรของมันก็ยังอยู่เหนียวเหนอะไปหมด อึดอัดจริงโว้ย
“อือ มานี่”มันยังไม่ตื่น ดึงเอวผมไปกอดแนบแผ่นหลังเปลือยเปล่าเข้ามา ตัวผมกับมันไม่ได้ใส่อะไรกันทั้งคู่และน้อยชายที่แข็งตัวของมันก็แนบมากับก้นผมด้วย ขนลุกโว้ยย
ผมพยายามหลุดจากการเกาะกุมของมันไปปิดเสียงนาฬิกาปลุกหยิบโทรศัพท์มาดู สิบเอ็ดโมงแล้ว มีเรียนบ่ายทั้งผมกับมัน
“มีเรียน”ผมเขย่าแขนมัน “ตื่นก่อนไอ้สัด เมื่อคืนทำอะไรกูเนี่ยไอ้เวร”ผมหลุดด่าออกมาเป็นตุ้ดเป็นแต๋ว เมื่อนึกถึงก็ยิ่งหน้าร้อนผ่าว
“กูโดด มึงไปเหอะ”
มันบอกก็หมุนตัวกลับหันหลังหนีให้ผม ผมก็ไม่สนใจ ลุกขึ้นเดินรู้สึกขัดๆ เจ็บตูดจริงๆ ตอนเสียวมันก็เสียวอยู่หรอก ไหงตอนนี้มันเจ็บๆจังวะ ผมหยิบผ้าเช็ดตัวไปอาบน้ำ ผมไม่ใช่พวกโดดเรียนง่ายๆอยู่แล้ว ผมจึงต้องฝืนตัวเองทั้งง่วง ทั้งเหนื่อย เข้าอาบน้ำชำระร่างกายเตรียมตัวไปเรียนปล่อยให้ไอ้เยี่ยมนอนหลับไป
เดี๋ยวกลับมาค่อยมาเคลียร์แล้วกัน
“สงสัยพวกมันจะเมากันเมื่อคืนอะ มาแค่กานต์เอง”โจ้พูดขึ้นตอนเรียน เมื่อเห็นกลุ่มของเยี่ยมไม่มีใครมา มีแค่กานต์ที่นั่งเรียนหน้าห้องคนเดียว
“แล้วตอนสี่โมง มึงเข้าไปดูงานปะวะ เห็นอาจารย์เขาเขียนวิจารณ์ยับให้พวกเซคเช้าแล้วกูหลอนเลย กูจะโดนอะไรบ้างเนี่ย ไหนจะต้องเอาที่โดนแก้ไปเล่าให้แกฟังอีก”
“เข้าสิ เออลืมเลย”ผมนึกขึ้นได้ว่ามีงานที่ห้องปั้นที่พวกผมทำงานส่งอาจารย์ไว้ วันนี้ตอนสี่โมงครึ่งหลังจากเรียนคาบนี้เสร็จ อาจารย์ได้นัดพวกผมรายงานความคืบหน้าของงานปั้นที่ผมทำไว้พาร์ทแรก ทำให้ผมนึกถึงเยี่ยมที่นอนอยู่ คิดว่ามันจะต้องนอนยาวจนลืมแน่ๆ อาจารย์ยิ่งให้เข้าพบเฉพาะเวลาที่เขากำหนดสะด้วย
ผมโน้มตัวลงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเยี่ยม
“อื้อ”
เออ มันรับด้วยแฮะ
“เยี่ยม เย็นนี้สี่โมงมึงต้องมารายงานงานปั้นอาจารย์นะ ลืมป่าว”
“เออ กูตื่นละ เดี๋ยวกูไปเรียน ยืมชุดมึงก่อนนะ”
“ได้ๆ”
ผมวางสาย หันกลับมาก็เจอเพื่อนจ้องอยู่ก่อน
ฟึ่บ แน่ะ เอาโทรศัพท์กูไปอีก
ดีนะกูปิดหน้าจอแล้ว
“โทรหาใคร เห็นแวปๆ เยี่ยมหรอ”
ตาดีจริงๆนะไอ้โจ้
“อืม เมื่อวานมันบอกให้กูเตือนมัน กูพึ่งนึกออกจากพวกมึงเลยโทร”ผมก็เล่ามั่วๆอีกแล้ว
“เพื่อนรักมึงนี่เนอะ เห็นมันไม่มาเรียนเลยโทรบอกด้วย”
ไอ้เปรม เพื่อนอีกคนของผมคู่หูไอ้ต้นเลย บางทีผมก็ไม่ได้อยากสนิทกับกลุ่มเยี่ยมมากเพราะเพื่อนตัวเองคอยแขวะนี่แหละ กลุ่มใครเป็นเหมือนกันบ้างครับ ฮ่าๆ เพราะบางทีกลุ่มดาวเดือนมันจะชอบเข้ามาทักผมเพราะเห็นว่าผมเองก็หล่อใช้ได้ อย่างชวนไปกินเหล้าอะไรทำนองนั้น ซึ่งผมไม่เคยไปเลยอย่างที่บอกไปแต่ต้น
“เปรม!”โดนโจ้ตีไหล่ไปที
“มึงก็อีกคน ย้ายกลุ่มไปดิ ดูดิ้พวกมันจะรับมึงมั้ย เลิกอวยได้แล้วกูเห็นแล้วโคตรรำคาญ”
“เดือดเกินไปละมึง”ผมห้ามไว้ “เพื่อนรักกูก็มีแค่มึงเนี่ย”ผมเลยต้องยอมันบ้าง ซึ่งมันก็ยิ้มพอใจ ไอ้นี่โรคจิต
ผ่านไปเหลือครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของคาบนี้ บุคคลที่ผมโทรปลุกก็ปรากฎตัวขึ้นมาเข้าไปนั่งคู่กับกานต์เพื่อนมันโชคดีที่คาบนี้อาจารย์ยังพอใจดีมันเลยไม่โดนว่าอะไร แต่ไม่นานอาจารย์สอนจบซึ่งเลิกเรียนก่อนเวลา พวกผมเลยลุกขึ้นจะไปนั่งเล่นแถวห้องปั้นเพื่อไปเตรียมกับงานที่จะถึง
ผมเดินไปที่หน้าห้อง ซึ่งเยี่ยมก็หันหลังมองมาที่ผมอยู่ก่อนแล้ว
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
ผมใจเต้นระรัวกับสายตามันที่เอาแต่จ้องจนเดินสวนกันมันก็ไม่พูดทักอะไร ไม่ได้เข้ามาหาเพียงแค่มองเท่านั้น ซึ่งผมก็ผิดหวังเล็กน้อย แต่ผมก็เข้าใจได้เรื่องแบบนั้นแล้วผมก็ไม่กล้าทักมันหรอกไม่รู้สิมันเขินๆอายๆอะ
“เยี่ยมมองมึงอยู่ได้เพลิน”โจ้กระซิบบอกผม ขณะที่เดินออกมาจากห้องเรียนผมมองกลับเข้าไปเยี่ยมก็ยังมองผมอยู่ อะไรของมันวะ
ผมไม่สนใจเดินไปที่ห้องปั้นกับเพื่อนๆ งานปั้นที่ผมทำไว้เป็นรูปหัวใจซึ่งโดนอาจารย์ยำสะเละเลยว่าหัวใจของผมไม่เรียล แหงล่ะ ผมไม่ได้เรียนอะนาโตมีมานี่ครับ แต่ก็มีลิ้นหัวใจมีเส้นเลือดอะไรแล้วนะเฟ้ย ยังดีที่พาร์ทนี้แค่ทำให้เขาดูยังไม่ลงสี และยังไม่ต้องเล่ารายละเอียดมากทำให้ผมไม่ซีเรียสกับงาน ผมเลยเดินออกมาจากห้องปั้นนั่งลงที่ม้าหินอ่อน สายตาเหลือบไปเห็นกลุ่มผู้ชายและผู้หญิงหนึ่งคนคือกลุ่มของเยี่ยมกำลังเข้าไปในห้อง ซึ่งผมก็มองตามดู ก็เห็นว่าเยี่ยมยืนมองผมไม่เข้าไปในห้องสักที ผมเลยทำหน้าสงสัยไปให้ว่ามีอะไร แต่เยี่ยมก็มองเมินไป
ผมค่อนข้างจะสงสัยแล้วนะ
หลังจากนั้นมันก็ไม่ได้มองมาทางผมอีกจนถึงตอนเลิกรายงานความก้าวหน้ากับอาจารย์ ผมก็แยกย้ายกลับกับเพื่อนแล้วก็กลับหอตัวเอง ในหัวก็คิดถึงเรื่องของเยี่ยมนะ ขนาดตอนที่อยู่ใกล้กันผมก็หันไปมองมันกะว่าจะยิ้มให้ มันก็ไม่ได้มองที่ผม แล้วตอนแรกก็มามอง อะไรของมัน
ร่างกายผมตอนนี้ก็เหมือนจะเข้าสู่โหมดปกติดีแล้ว มีเจ็บสะโพกบ้างนิดหน่อย ยังดีที่รอยจูบรอยฟันยังมีอยู่ในร่มผ้าไม่โผล่ออกมาให้เห็น
เสื้อผ้าชุดเก่าของเยี่ยมไม่ได้อยู่ที่ห้องผมแถมชุดนิสิตผมก็ไม่ได้หายไป สงสัยมันจะกลับไปเปลี่ยนชุดที่ห้องมันละมั้ง ผมกลับมาอาบน้ำอาบท่ากินข้าวเรียบร้อยก็นอนหลับเนื่องจากความเพลีย
ตกดึกผมก็ท่องโลกอินเตอร์เน็ตตามปกติทำงานอะไรของตัวเองไปเรื่อย แต่เรื่องของเยี่ยมยังเข้ามาวนเวียนคือมันไม่ทักมาคุยกับผมเลย ขนาดตอนที่มันชักว่าวให้ผมมันยังมาคุยกับผมบ้าง แต่นี่ถึงขั้นที่เรามีอะไรกันมันกลับเงียบหายไป ไอ้ผมก็ไม่รู้จะทักมันไปทำไม จะทักว่า
เรื่องเมื่อคืนที่มึงได้กูมึงจำได้มั้ยงี้หรอ
คนเมานะเฟ้ย ไม่ได้ความจำเสื่อม
แล้วมึงจะไม่พูดอะไรหน่อยหรอมึงจะปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ ทำเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นวันนี้ที่มึงเมินกูคืออะไรเดี๋ยวนะ ทำไมมีแต่คำถามที่ผมเอาแต่เป็นฝ่ายเรียกร้องแบบนั้นล่ะ
แต่เห้ย ผมโดนกระทำนะ ผมโดนตุ๋ย ตุ๋ยแล้วโดนทิ้งแบบนี้น่ะเหรอ แต่เราสองคนก็ไม่ได้เป็นอะไรกันไง ก็แค่อารมณ์มันพาไปทั้งคู่ โอเค ใจร่มๆไว้เพลิน ช่างมันเถอะ ช่างมันเถอะ
ผมเลื่อนฟีดในเฟสบุ้กไปเรื่อยๆก็สะดุดกับโพสนึงที่ทำเอาผมใจเต้นตึกตัก ใจมันหวิวๆแปลกๆ
โดยเป็นโพสของปอนด์เดือนคณะของผมโพสรูปภาพกลุ่มไปเที่ยวร้านเหล้า โดยที่ด้านหลังของภาพเป็นรูปไอ้เยี่ยมกำลังโอบกอดเอวผู้หญิงคนนึงอยู่ทั้งคู่สบตากันไม่ได้มองกล้องเลย โดยคำบรรยายใต้ภาพคือ
‘ข้างหลังสวีทอะไรกันวะ เยี่ยมจริงๆ’
มิน่าล่ะ มันถึงไม่ได้ทักผมมา เพราะมันไปกินเหล้านี่เอง
ปล่อยวางเถอะกู แค่เสียรู้ให้เพื่อนแค่นั้น
ตอนนั้นมันก็เสียวดีนิ ไม่มีอะไรเสียหายสักหน่อย
ผมปลอบใจตัวเอง
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มีใครได้กลิ่นตุๆไหมครับ