เอาประสบการณ์ การรวมเล่มหนังสือโดยไม่ได้ตรวจสอบให้รอบคอบมาแบ่งปันค่ะ
สืบเนื่องมาจากประมาณปีที่แล้ว เรานามปากกา west ได้เขียนนิยายเรื่อง Friend's brother, brother's friend หรือ เมื่อเพื่อนสงสัยว่าพี่ชาย... และมีสนพ.มาติดต่อ แรกๆก็คุยกันดีทางเมล มีการแจ้งชัดเจนว่าใครเป็นบก.ผู้ดูแลเรื่องของเรา west ส่งต้นฉบับไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ
กระทั่งช่วงต้นปีที่นิยายจบ มีการเซ็นสัญญาเกิดขึ้น ซึ่งมีพันธะผูกพันธ์
นาน 6 ปี west เชื่อว่า คนเขียน หลายๆท่านแรกเริ่มเดิมทีการเขียนนี่แค่ได้อ่านคอมเมนต์ก็ดีใจแล้ว พอมีคนสนใจอยากรวบรวมผลงานมาทำเป็นเล่ม ก็ดีใจกว่า เรื่องของทางธุรกิจอะไรไม่ได้อยู่ในหัวเลยเพราะเชื่อว่าเราน่าจะทำด้วยใจรักเหมือนๆกัน จะไม่มีการเอาเปรียบซึ่งกันและกัน จะซื่อสัตย์ โปร่งใสและเป็นมิตรไมตรีกันอย่างดีเยี่ยม ดังนั้น จึงยินยอมพร้อมพรรคสมัครใจเซ็นสัญญาผ่านอีเมล โดยอาศัยวิธีแสกนโดยไม่ต้องนัดเจอกันเพราะความสะดวกของทั้งสองฝ่าย
สิ่งที่แปลกไปจากวันเซ็นสัญญาเกิดขึ้นเมื่อทางเล้าตั้งกฏว่า
ผู้ใดก็ตามที่จะทำการรวมเล่มเพื่อการค้าขายนิยายในบอร์ดต้องมีไอดี เราก็เลยไปขอทาง บก.ของสำนักพิมพ์ดังกล่าว ซึ่งคำตอบที่ได้รับคือให้ลบข้อความในโพสว่ารวมเล่มออกไปเพราะไม่ได้ทำไอดี เราก็ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย...
แล้วทำไมไม่ทำล่ะ??แต่เราก็เป็นแค่คนเขียนไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทางสำนักพิมพ์เลยตัดสินใจไม่วุ่นวาย จนหนึ่งสัปดาห์ก่อนหนังสือปิดจอง เห็นทางสำนักพิมพ์เงียบไปเลยติดต่อไปถามว่าขั้นตอนของหนังสือถึงไหนแล้ว กว่าจะได้รับเมลติดต่อจากทางบก.มา ก็เลยเวลาปิดจองไปแล้ว ซึ่งก็คือวันที่
2 พฤษภาคม 2556 ว่า
"หนังสืออยู่ในขั้นตอนของโรงพิมพ์ค่ะ ขอโทษนะคะที่ตอบช้า ก่อนหน้านี้เมลโดนบล็อค " หืมม?? เมลโดนบลอค ได้แต่คิดแล้วก็สงสัยอีกรอบค่ะ เป็นคนเขียนนิยายเรื่องนี้ค่ะแต่
ไม่เคยเห็นตัวอย่างหนังสือ ไม่เคยเห็นของแถม รูปที่ใส่ลงไปในเล่มก็เห็นไม่ครบ คือรับรู้ข้อมูลต่างๆของหนังสือตัวเองได้เทียบเท่ากับทางลูกค้า
กระทั่งมีการขายเป็นเซ็ท และมีการยกเลิกเซ็ทก็ไม่รู้เรื่องใดๆทั้งสิ้น ไม่ทราบว่าแจ้งมาแล้วเราไม่ได้รับหรือเขาไม่ได้แจ้งมา ซึ่งถ้าเราก็มีช่องทางมากมายให้ติดต่อนะ ไม่ได้หายไปไหนหรือหาตัวยาก
หลังจากปิดจองไปแล้วก็ไม่ทราบยอดต้องคอยเมลไปถาม ไปจี้ แล้วก็ถามไปแบบอ้อมๆว่า แล้วน้องจะส่งค่าต้นฉบับมายังไงเหรอคะ ยังไม่มีเลขบัญชีพี่เลยด้วยซ้ำก็โดนนอยด์ๆใส่
วันที่ 16 พฤษภาคม 2556 ได้เมลแจ้งมาว่า FBBF มีการตีพิมพ์แบบออฟเซ็ท และเลื่อนส่งหนังสือให้ลูกค้าไปเป็นวันที่ 10 มิถุนายน เพราะนิยายอีกที่มีกำหนดส่งพร้อมกันต้องทำบางอย่างเกี่ยวกับปกเลยได้รับหนังสือเลท แต่ตัวเราจะได้ก่อนลูกค้า เพราะFBBF มาวันที่ 20 กว่าๆ วันที่ 18 พฤษภาคม 2556 ได้เมลแจ้งจากทางสำนักพิมพ์เรื่องยอดจองและค่าต้นฉบับ และยอดพิมพ์รอบแรกเป็นจำนวน 500 เล่มทางเราก็รอค่ะ เขาบอกจะได้วันที่ 20 กว่า รอไปเถอะค่ะ จนวันที่ 3 มิถุนายน 2556 ก็เมลไปถามอีกว่าส่งหนังสือมารึยังหนอ เดี๋ยวจะออกตจว.ไม่มีคนรับพัสดุให้ ยังไงถ้าส่งมาแล้วขอเลขพัสดุหน่อยเถอะ หรือจะส่งมาพร้อมลูกค้าวันที่ 10 มิถุนายน พร้อมลูกค้า ก็บอก คือคนรอก็ร้อนใจ มีอะไรช่วยบอกทีไม่ใช่หายต๋อมไปเลยแบบนี้ ก็ไม่ตอบเมลค่ะ แล้วบังเอิ๊ญญญ เราก็ไปรู้มาว่าทางสำนักพิมพ์ตอบเมลนักเขียนอีกคนที่บอกว่าจะไม่รวมเล่มกับที่นี่แล้วนะ
!!?!??
ความคิดตอนนั้นคือ ทำไมตอบเมลคนที่ส่งผลกระทบในทางลบของตัวเองได้ แต่ไม่แคร์เลยว่าทางเราก็มีความจำเป็นต้องรู้นะว่าหนังสือส่งมาหรือยัง? หรือตีกลับไปแล้ว
คนไม่มีข้อมูลมันฟุ้งซ่านค่ะ
ก็เลยไปโพสหน้าเพจ ไม่ถึง 12 ชั่วโมง ทุกโพสบนเพจสำนักพิมพ์ถูกซ่อนไม่ให้คนนอกเห็น
สงสัยมั้ยคะว่าทำไมมีเวลาตอบเมลบางคน ทำไมมีเวลาซ่อนโพส แต่ไม่มีเวลามาตอบเราสั้นๆว่า
'อ้อ หนังสือยังไม่ได้ค่ะคุณนักเขียน รอหน่อยนะคะ จะได้วันที่ บลาๆๆ' ก็ว่าไป
เราเลยแท็กลิงค์จากเพจเราไปเพจสำนักพิมพ์ วันเดียวกันเลยค่ะ สำนักพิมพ์ว่างมาตอบเมลได้ทันที!
"สำหรับเรื่องหนังสือคุณ west จะได้รับก่อนผู้ซื้อค่ะ คือวันที่ 28 พฤษภาคม แต่โรงพิมพ์ขอเลื่อนส่งหนังสือเป็นวันเสาร์ที่จะถึงนี้ ทำให้ทางสำนักพิมพ์ต้องเลื่อนการส่งหนังสือให้คุณ west ออกไปอีก หากส่งไปแล้วจะแจ้งรหัสพัสดุให้ทราบค่ะ
เนื่องจากสนพ.เพิ่งเคยร่วมงานกับโรงพิมพ์ที่พิมพ์หนังสือคุณ west เป็นครั้งแรก ทำให้มีปัญหาติดขัดค่อนข้างมาก และกำหนดการส่งหนังสือมาให้ทางสำนักพิมพ์ช้ากว่าที่เคยนัดกันไว้เยอะมาก สำนักพิมพ์ทำได้แค่รอหนังสือ รอมานานมากแล้ว แต่ก็คงต้องรอต่อไป เพราะเราก็จ่ายมัดจำส่วนนึงไปแล้ว ทางสำนักพิมพ์ต้องขออภัยคุณ west ด้วยนะคะ ไม่คิดว่าโรงพิมพ์จะเลทมากขนาดนี้
สำนักพิมพ์จะส่งอีเมลแจ้งข่าวไปให้ผู้ซื้อทราบว่าต้องมีการเลื่อนส่งหนังสืออีก แต่จะเลื่อนไปไม่เกิน 10 วันค่ะ (20 มิถุนายน) หนังสือเสร็จวันเสาร์ จัดส่งมาทางโกดังวันจันทร์ ใช้เวลาขนส่ง 5 วัน หนังสือมาถึงประมาณวันที่ 15 มิถุนายน ทีมงานจะเร่งแพ็คและรีบไปส่งค่ะ" ถามว่าโกรธมั้ย โกรธค่ะ... รู้ว่าเลื่อนแล้วทำไมไม่แจ้ง มีอะไรไม่เคยบอกเลย ถ้าไม่ว่างจะตอบเมลขนาดนั้น ก็ขอเบอร์โทรศัพท์คู่สัญญาที่เป็นคนลงชื่อในสัญญา และ/หรือ คนที่สามารถให้คำตอบเวลาที่เราถามอะไรหรือควรรู้อะไรได้
นี่ผู้เขียนนะคะ เราควรมีสิทธิ์รู้กระบวนการทำงานของนิยายตัวเองไม่ใช่หรือ ซึ่งเงียบเหมือนเคยค่ะ เราเลยไปที่สำนักงานเขตเพื่อเอาชื่อคู่สัญญาไปตรวจสอบว่าเธอมีตัวตนจริงหรือเปล่า
ซึ่ง นางXX XXX ไม่มีชื่อในสารระบบทะเบียนราษฏร์ ปรี๊ดเลยค่ะ ตอนเซ็นสัญญา เราเซ็นด้วยความไว้ใจ ใช้ชื่อจริง นามสกุลจริง ที่อยู่จริง แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคืออะไร..?? พอติดต่อทางสำนักพิมพ์ไปว่าขอเลขบัตรประชาชน13หลักมายืนยันหน่อยค่ะว่าเธอคนนั้นมีตัวตนจริง พร้อมทั้งเลขทะเบียนพาณิชย์ของสำนักพิมพ์ที่เป็นข้อมูลสาธารณะด้วย เพราะไปตรวจสอบแล้วไม่พบข้อมูลของนางXX XXX ทางสำนักพิมพ์ก็แจงกลับมาค่ะว่าไม่สามารถให้ได้.. และชื่อที่ไปตรวจสอบแล้วไม่พบ อาจเป็นเพราะนางXX XXX ได้มีการเปลี่ยนชื่อ/นามสกุลไป เนื่องจากแต่งงาน
ย้อนกลับไปอ่านค่ะ ขึ้นต้นว่า'นาง' ตั้งแต่เซ็นต์สัญญา นี่คือแต่งงานรอบที่2หรือเป็นคำแก้ตัวของสำนักพิมพ์ก็ไม่อาจทราบได้
ทำงานบนพื้นฐานแห่งความไม่ไว้วางใจค่ะ
นอกจากนี้ สำนักพิมพ์ยังแจ้งเพิ่มเติมมาว่า นางXX XXX ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับทางสำนักพิมพ์แล้ว รวมทั้ง บก.คนเก่าที่ดูแลงานของเราก็ลาออกไปแล้วด้วย
โดยการเหตุการณ์ทั้งหมด เราซึ่งเป็นคู่สัญญาโดยตรงไม่เคยได้รู้เลยค่ะว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่มีใครแจ้ง กลายเป็น west ในกะลา หูหนวก ตาบอดทุกสิ่งอัน แม้แต่เลื่อนไปวันไหน ทางนักเขียนยังไม่รู้เลยค่ะ ต้องถามทางลูกค้าเอาว่าสำนักพิมพ์ติดต่อมาหรือยังถึงได้รู้ว่าเลื่อนไปวันที่ 25 มิถุนายนอีกรอบ
แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ทางสนพ.แจ้งว่า
" แล้วตอนนี้คุณWestก็มาจี้ คุณWestคิดว่าจะเกิดการโกงขึ้นหรือคะ ถามว่าสนพ.เคยเงียบหายไปจากลูกค้าหรือไม่ ก็ไม่เคยหายนะคะ จะว่าเรื่องช้านั้น สำนักพิมพ์ยอมรับผิดทุกอย่าง ไม่เคยแก้ตัวกับลูกค้า แม้จริงๆแล้วโรงพิมพ์จะเลทงานเราก็ตาม "ไปต่อไม่เป็นเลยค่ะ ระหว่างนี้เราก็พยายามตามหนังสือทุกๆทาง ข้อมูลที่ทราบมาทำให้ช็อคค่ะ
1. การตีพิมพ์
สำนักพิมพ์แจ้งว่า เป็นการตีพิมพ์แบบออฟเซท
ข้อเท็จจริง เป็นการตีพิมพ์แบบดิจิตอล
2. จำนวนที่ตีพิมพ์
สำนักพิมพ์แจ้งว่า ยอดพิมพ์ 500 เล่ม
ข้อเท็จจริง ยอดพิมพ์ 300 เล่ม
3. ขั้นตอนตีพิมพ์
สำนักพิมพ์แจ้งว่า อยู่ในกระบวนการของโรงพิมพ์ตั้งแต่วันที่ 2 พค.2556
ข้อเท็จจริง โรงพิมพ์เพิ่งได้ไฟล์บรูฟวันที่ 27 พค. 2556
4. วันส่งหนังสือ
สำนักพิมพ์แจ้งว่า โรงพิมพ์ล่าช้า
ข้อเท็จจริง สำนักพิมพ์เพิ่งชำระยอดค่าใช้จ่ายที่เหลือกับทางโรงพิมพ์ไปวันที่ 10 มิถุนายน 2556 ทำให้ทางโรงพิมพ์เพิ่งส่งหนังสือออกไปให้กับทางสำนักพิมพ์ได้ในวันที่ 11 มิถุนายน 2556 เราเลยขอเปลี่ยนแปลงสัญญาค่ะ ในเมื่อคู่สัญญาก็ไม่มีตัวตน สำนักพิมพ์ก็ไม่มีเลขทะเบียนพาณิชย์ ยอดตีพิมพ์ วิธีการตีพิมพ์ และรายละเอียดการตีพิมพ์ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม เราเลยยื่นคำขาดว่า
ขอให้จบกันที่การตีพิมพ์ 300 เล่ม เราคิดแค่ค่าลิขสิทธิ์กับเปอร์เซ็นต์แบ่งยอดจอง ส่วนที่เหลือให้สำนักพิมพ์ขายโดยเราจะไม่เอาส่วนแบ่งใดๆทั้งสิ้น และอนุญาตให้จัดจำหน่ายถึงปลายปี 2556 เท่านั้น ส่วนหนังสือที่เราจะได้จากสนพ.จะมี 5 เล่ม ใจดีค่ะ ขอเป็นที่ระลึก1เล่ม ทีเหลือเอาไปขายเถอะ ซึ่งทางสนพ.แจ้งกลับมาว่า ยินยอมให้เปลี่ยนแปลงสัญญา แต่ขอตีพิมพ์
อีก 500เล่ม เนื่องจากเป็นการพิมพ์แบบออฟเซ็ทซึ่ง
มี ก า ร ว า ง มั ด จำ ไ ป แ ล้ ว โดย 300เล่มแบบดิจิตอล และ 500 เล่ม แบบออฟเซต = มีการตีพิมพ์แบบไม่แจ้งนักเขียน 800 เล่ม
เราเลยสอบถามกับทางสำนักพิมพ์ค่ะว่าที่บอกว่าวางมัดจำ 500 เล่มไปแล้ว รบกวนช่วยบอกชื่อโรงพิมพ์ + เมล/บิล ยันการวางมัดจำได้หรือเปล่า แต่ยังไงก็จะยืนยันที่ยอด 300 เล่มนะคะ รู้สึกถึงความวุ่นวายมากมายและไม่พร้อมกับการทำงานแบบนี้ทั้งของตัวเองและอีกฝ่าย ทั้งในแง่ของความไว้วางใจและความรับผิดชอบ เลยขอยุติด้วยการร่างหนังสือเปลี่ยนแปลงสัญญาพร้อมลงลายเซ็นไปให้ทางสำนักพิมพ์ตอบกลับมาภายในวันที่ 25 มิถุนายน 2556 ซึ่งเป็นวันกำหนดส่งหนังสือ
นอกจากนั้น เราไปสอบถามทางโรงพิมพ์เดิมแจ้งว่า มีการตีพิมพ์แค่ 300 เล่มเท่านั้นค่ะ เปลี่ยนโรงพิมพ์หรืออะไรเราก็ไม่อาจทราบได้
นอกจากนั้น ทางโรงพิมพ์ยังสอบถามกับเราเพิ่มเติมมาวันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน 2556 ว่า ติดต่อสำนักพิมพ์ได้ไหม
ทางขนส่งแจ้งว่าติดต่อสำนักพิมพ์เพื่อจะสอบถามเส้นทางส่งของไม่ได้ ทั้งที่โรงพิมพ์ส่งไปตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2556 สำนักพิมพ์ก็แจ้งเมื่อวันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน 2556 ว่า หนังสือเพิ่งได้รับเมื่อสองวันก่อนนะคะ(ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน 2556)
เราเลยสอบถามกับทางโรงพิมพ์อีกทีค่ะ คราวนี้เลยได้ข้อมูลใหม่มาอีกว่า เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน 2556 ทางสนพ.ได้ติดต่อกับทางโรงพิมพ์ไปว่าไม่ได้ที่คั่นหนังสือมาด้วย
ซึ่งทางโรงพิมพ์แจ้งว่า
ไม่เคยได้รับไฟล์สำหรับทำที่คั่นหนังสือค่ะ และล่าสุดเมื่อคืน 26/06/2013 ทางสนพ.แจ้งว่ามีการทยอยส่งหนังสือให้ลูกค้าแล้ว 100 ชุดโดยไม่มีของแถมไปด้วย จะส่งตามไปทีหลัง แต่จนถึงนาทีนี้ เราก็ไม่อาจทราบได้ว่า 100 คนดังกล่าวมีการส่งหนังสือไปให้แล้วจริงหรือไม่ เพราะเท่าที่ถาม ยังไม่เจอใครที่ได้รับเมลแจ้งไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่งหนังสือไปแล้ว หรือจะส่งไปในรอบที่ 2 เลยค่ะ กระทั่งเวลา 19.44 น. ของวันนี้ ทางสำนักพิมพ์ก็ส่งข้อความมาแจ้งรหัสพัสดุกับเรา โดยยังไม่ติดต่อส่งเมลกลับเรื่องการแก้ไขสัญญาว่าจะตีพิมพ์แค่ 300 เล่ม และไม่มีการแจ้งชื่อโรงพิมพ์ กับหลักฐานยืนยันการโอนค่ามัดจำให้โรงพิมพ์จำนวน 500 เล่ม ทั้งที่ข้อการเปลี่ยนแปลงสัญญามีความข้องเกี่ยวกับการส่งหนังสือให้เราว่าจะส่งมา 5 เล่ม หรือ 1 เล่มเลยค่ะ ไม่สามารถหาคำตอบได้จริงๆว่าเพราะเหตุใดจึงไม่สามารถตอบเมลได้ทั้งที่เวลาก็ผ่านมา 3 วันแล้ว
ทางสำนักพิมพ์อาจจะคิดว่าแค่โอนเงินให้ ส่งเล่มให้ก็จบ แต่สำหรับเรามันไม่ใช่แค่นั้นค่ะ การเขียนนิยายของเราเขียนด้วยใจ และเราไม่อยากให้ใจใครไปเพื่อให้มันย้อนกลับมาเอาเปรียบตัวเอง และสร้างความเดือดร้อนใจให้ผู้อื่น การที่สำนักพิมพ์จงใจหลีกเลี่ยงที่จะติดต่อ และพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้องเลยค่ะ
อ่านมาถึงตอนนี้ก็ถือเป็นอุทาหรณ์นะคะ ใครมีคำแนะนำอะไรดีๆเชิญเลยค่ะ ตอนนี้เหนื่อยหน่ายจริงๆ ไม่ใช่แค่เรา ทางโรงพิมพ์ที่ถูกกล่าวหาโดยไม่มีกระบอกเสียงใดๆทั้งสิ้นก็น่าเห็นใจ ลูกค้าที่ถูกต่อว่าโดยท่านก็น่าเห็นใจ รวมไปถึงนักเขียนท่านอื่นที่ไม่ออกมาพูดเพราะไม่อยากให้เรื่องแย่ไปกว่านี้ก็น่าเห็นใจค่ะ
ระหว่างนี้กำลังนำสัญญาที่คู่ฉบับไม่มีตัวตนไปปรึกษาทนาย หากไม่มีการเซ็นแก้หนังสือเปลี่ยนแปลงสัญญากลับมา คงต้องหาช่องทางให้สัญญาฉบับเก่าเป็นโมฆะ และแจ้งความดำเนินคดีฐานละเมิดลิขสิทธิ์ทันทีค่ะ
ปล.ล่าสุดเมื่อคืนสำนักพิมพ์โพสภาพของอีกเรื่องหนึ่งซึ่งมี 2 เล่มจบลงแฟนเพจ แต่เห็นแค่สันของเล่ม 1 ส่วนเล่ม 2เห็นแค่ปกหน้าครึ่งเดียว ยังงงอยู่เลยว่าเล่ม 2 ได้มาได้ยังไง เพราะเท่าที่ทราบเมื่อเช้านี้เล่ม 2 ยังรอเข้าเล่มอยู่ที่โรงพิมพ์อยู่เลยค่ะ
อันนี้ไม่ทราบว่าเราเข้าใจผิดไปเอง หรือทางสำนักพิมพ์จงใจทำให้คนที่เห็นเข้าใจผิดว่ามาแล้วทั้ง 2 เล่มนะคะ