กว่าจะมาอัพเรื่องนี้ได้ ทำใจอยู่นาน ไม่รู้เหมือนกันน้ารู้สึกกลิ่นอายมันมีน้องภูมิมาเจืออยู่นิดๆน้า อย่าว่ากันน้า อิอิ รักน้าทุกคน จุ๊บๆๆๆ
(งอนน้า)พอกลับถึงห้องก็พากันหลับเป็นตายเพราะกินอิ่มมากไปหน่อย ตื่นมาอีกทีตอนเก้าโมงเช้า เสียงนาฬิกาปลุกไม่ได้ช่วยอะไร กลับเอาไปฝันว่าได้ไปฟังเพลงซ้อมท่าเต้นอยู่เสียอีก
"อ่า สายแล้วๆ เค้าไปวิ่งมะทันอ่า พ่อหมีขาวๆ"
พอลืมตาตื่นขึ้นก็โวยวายทันที
"หือ กี่โมงแล้ว"
เหลือบไปมองนาฬิกาหัวเตียง
"อ่าเก้าโมงแล้วอ่า"
"วันนี้วันเสาร์นี่ อยากไปวิ่งเดี๋ยวค่อยไป"
"อือเนะ งั้นนอนต่อดีกว่า อิอิ"
ว่าแล้วก็ซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มเอาหัวดันใต้รักแร้ของเฟียตทันที
"ทำไมนอนอีกล่ะ ไม่หิวเหรอแม่หมี"
"ยังมะหิวเนะ นอนก่อน"
เฟียตเองก็อ้าใต้วงแขนออกแล้วโอบตัวคนตัวเล็กเอาไว้ ญี่ปุ่นหัวเราะคิกคัก มือก็คว้าไปที่เดิมที่ตนชื่นชอบ
"อย่าบีบดิแม่หมี เดี๋ยวเจ็บตัวน้า"
"อิอิ มะเอาเนะเค้ามะอยากโดนแหย่อ่าวันนี้ อยากเล่นเฉยๆ"
"อ้าว กลัวริดซี่เหรอ"
"เนะ อิอิ เล่นๆ"
เล่นจนหนำใจจนเฟียตเริ่มที่จะทนไม่ไหวจึงลุกไปเข้าห้องน้ำ ญี่ปุ่นก็นอนดิ้นแด่วๆอยู่บนเตียง กว่าจะอาบน้ำเสร็จก็เกือบสิบเอ็ดโมงเข้าไปแล้ว
"ไปกินข้าวกันแม่หมี วันนี้กินแบบลดน้ำหนักจริงจังนะเว้ย เหมือนจะน้ำหนักขึ้นยังไงไม่รู้"
"แอ่ะ เค้าก็รู้สึกเนะ ทำไมวันนี้มันบวมๆอ่า"
"มึงน่ะบวมมานานแล้วนี่ เพิ่งรู้ตัวเหรอ"
"แอ่ะ ว่าเค้าเนะ มันเพิ่งบวมหรอก"
"เออๆ เพิ่งบวมก็เพิ่งบวม ไปๆ ไปกินสลัดกัน"
ว่าแล้วก็เดินนำหน้าลงไปจากห้อง ทั้งสองเดินไปหน้าโรงเรียนร้านขายอาหารที่ปกติจะมีแต่ผู้ใหญ่มากินกันเพราะค่อนข้างแพง
"มีแบบตักเองด้วยว่ะ ไปๆแม่หมีไปตัก"
"อ่า มีเยลลี่ด้วยอ่า หวานๆ"
ตาโตขึ้นมาทันที ญี่ปุ่นปรี่เข้าไปตักเยลลี่ก่อนสิ่งอื่น ตามด้วยผลไม้ มันฝรั่งอบ
"เฮ้ย เอาผักด้วยดิวะ แดกแต่ของแบบนี้นะมึง"
"อ่า ผักไรอ่า กระหล่ำม่วงมันขมอ่า"
"เอานี่ผักกาดแก้ว"
คนตัวใหญ่ไม่ให้ตักเองแล้วเพราะเห็นโกยเอาแต่ของหวานๆ เฟียตจัดการตักให้เสร็จสรรพ ญี่ปุ่นก็ยืนลุ้นอยู่ใกล้ๆ
"เอาเนื้อไก่บ้างดีกว่านะ"
เฟียตบอกแล้วสั่งเนื้อไก่อบมาสองชิ้น ทั้งสองลงมือกินกันอย่างเอร็ดอร่อย ญี่ปุ่นฟาดของในจานเรียบไม่มีเหลือ จะทำท่าเดินไปตักอีก
"นั่นแน่ ไปไหน"
"เค้าอยากกินเยลลี่อีกอ่า"
"เว้ย ตักมาล้นจานยังไม่พออีกเหรอ"
"เสียดายเนะ เหลืออยู่ตั้งเยอะ"
"สามอันพอนะ"
"แอ่ะ"
ทำหน้าย่นแต่ก็ยอมเดินไปตัก พอลับตาเฟียตก็หันหลังให้แล้วตักเยลลี่เข้าปากเคี้ยวหมุบหมับ ก้อนแล้วก่อนเล่า
"เอ้ย ทำไรวะ"
"พรวด หวาย"
เฟียตเห็นมาเกินไปจึงเดินมาตามเห็นคนตัวเล็กยืนหันหลังให้อยู่นาน พอเดินมาใกล้ๆก็ทักออกไป
"แอ่ะ พ่อหมีขาวอ่า"
พ่นเยลลี่สีเขียวแดงออกมาเต็มเคาท์เตอร์สลัดเขา พนักงานหันมาดูทำหน้าสุดจะทน
"แหว่ะไอ้บ้า ทำไมพ่นออกมาแบบนี้วะ"
รู้สึกอายคนขึ้นมาเฟียตรีบจูงมือญี่ปุ่นกลับโต๊ะแล้วรีบไปจ่ายเงิน
"ทำไมบอกไม่ฟังแม่หมี บอกไม่ให้กินทำไมไปแอบกิน"
"อ่า ก็เค้าว่ามันน่ากินเนะ"
"ไม่ต้องมาพูดเห็นไหม อายคนเขาไหม ตะกละ"
"แอ่ะ ว่าเค้าอ่า"
"ว่ามึงนั่นล่ะ เว้ยหงุดหงิด"
ทำหัวฟัดหัวเหวี่ยงเดินไม่รอ ญี่ปุ่นก็วิ่งตามไปเกาะแขน
"เค้าขอโทษน้า เค้าไม่กินลับหลังพ่อหมีขาวอีกแล้วน้า"
"ไม่เชื่อเว้ย หลายครั้งแล้วนะมึง ทำไมไม่เคยฟังผัวเลยวะ"
เสียงขรึมขึ้นมาโกรธจริงจัง
"อ่า เค้าขอโทษเนะ เค้าไม่ทำอีกแล้วน้า น้าพ่อหมีขาวน้า"
ไม่มีเสียงตอบรับแต่คนตัวใหญ่สบัดแขนออก ญี่ปุ่นตกใจแต่ก็วิ่งตามไปเกาะแขนอยู่
"อ่า พ่อหมีขาวงอนเค้าเหรอ"
"เออ"
"แอ่ะ เค้าขอโทษน้า อย่างอนเค้าน้า"
"-"
เฟียตทำท่าไม่สนใจญี่ปุ่นเริ่มมีสีหน้าไม่ดี พักนี้เป็นอะไรไปไม่รู้ ทั้งที่แต่ก่อนไม่เคยสนใจว่าใครเขาจะรู้สึกยังไงกับตน
"ให้เค้าทำอารายอ่า พ่อหมีขาวถึงจาหายงอน"
"มึงไม่ต้องมาพูด กี่ครั้งแล้ววะ บอกไม่ให้ทำแต่เสือกทำ กูเซ็ง"
เฟียตตวาดกลับ ญี่ปุ่นตกใจหยุดกึกลง เฟียตเดินต่อไปไม่ได้หันหลังมาดู คนตัวเล็กเริ่มหน้าเบ้ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกจุกมวนอยู่กลางอก หลายครั้งแที่เฟียตตวาดแต่ก็กลับมาง้อ แต่ครั้งนี้เฟียตไม่สนใจง้อเลย เฟียตเดินต่อไปพอไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินตามก็หันมามอง เห็นญี่ปุ่นยืนหน้าเบ้อยู่
"ต้องเอาให้เข็ด ใจแข็งไว้ไอ้เฟียต"
เฟียตบอกกับตัวเองพึมพำคนเดียวก่อนจะตัดสินใจเดินต่อไป ญี่ปุ่นรู้สึกโหวงเหวงขึ้นมาทำหน้าย่นยับไม่รู้จะไปไหนดี ร้องไห้ออกมา เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ร้องไห้แล้วไม่มีคนตัวใหญ่ปลอบ ญี่ปุ่นร้องไห้ออกมาเพียงลำพัง เฟียตเองก็ยืนมองอยู่ห่างๆ ใจสลายไปอยากจะวิ่งกลับเข้ามากอดปลอบโยนไม่ได้ตั้งใจให้ร้องไห้ แต่ก็อยากจะดัดนิสัยของญี่ปุ่น แม้จะน่ารักมัดหัวใจเขาไว้เพียงใดก็ตามแต่สักวันเขาก็ต้องโตขึ้นมากกว่านี้ เฟียตได้แต่แอบยืนมองอยู่ห่างๆ ญี่ปุ่นเดินร้องไห้กลับไปหอของตัวเอง
"ปุ่นเป็นอะไร ใครทำอะไรปุ่น"
พอบอยเห็นญี่ปุ่นเดินร้องไห้เข้ามาก็ตกใจทั้งที่ตัวเองกำลังคลอเคลียอยู่กับเอก
"หมีขาวไม่รักเราแล้วอ่า"
ปล่อยโฮออกมา
"เฮ้ย ทำไมวะ ยังเห็นดีๆกันอยู่เลย"
เอกเองก็ตกใจเดินมาหาญี่ปุ่นพร้อมกันทั้งสองคน
"มีอะไรกันปุ่น ทำไมพี่เฟียตไม่รักปุ่นแล้ว"
"หมีขาวว่าเราเนะ งอนเราอ่า ง้อก็ไม่หาย"
"เฮ้ย ทำไมวะ แปลก ทั้งที่พี่เฟียตออกจะรักมึง มึงไปทำอะไรล่ะ"
เอกถาม ญี่ปุ่นสะอึกสะอื้นก่อนจะเล่าเรื่องให้ฟัง พอเพื่อนได้ฟังก็อมยิ้มหันมองหน้ากัน
"เอาน่าปุ่น พี่เฟียตคงงอนไม่นานหรอกนะ ใจเย็นๆ พี่เฟียตเขารักปุ่นจะตาย"
"รักเราแต่ทำไมงอนนานเนะ เราขอโทษตั้งหลายครั้ง"
"เขาก็อยากดัดนิสัยมึงน่ะดิ เห็นแก่กิน"
"เอก"
บอยร้องปรามไว้เพราะญี่ปุ่นหน้าเบ้อีกครั้ง
"เรามันนิสัยไม่ดีหรา เรามันนิสัยเสีย ฮือๆๆ"
ร้องออกมาอีกบอยต้องกอดปลอบไว้ เอกเองก็ตกใจไม่รู้จะทำยังไงดี กว่าญี่ปุ่นจะสงบลงก็นาน พอหยุดร้องไห้ก็นั่งนิ่งเหมือนคิดอะไรอยู่
"เราไปออกกำลังกายกันไหมบอย"
ญี่ปุ่นพูดขึ้น
"อืม เอาดิ ไปซ้อมเต้นด้วยเนอะ"
ทั้งสองตกลงกันแล้ววิ่งเข้าไปในโรงเรียน วิ่งรอบสนามฟุตบอล บอยวิ่งได้สองรอบก็เหนื่อยแต่ญี่ปุ่นไม่ยอมหยุดวิ่งต่อไปได้สี่รอบ พอเลิกวิ่งก้ไปตีแบดฯกัน
"เหนื่อยอ่ะปุ่นพักก่อนดีกว่าไหม"
"ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวเราซ้อมท่าเต้นรอบอยเนะ"
บทจะไม่ยมอก็ไม่ยอมเอาง่ายๆ เอกเอาโทรศัพท์มือถือมาเปิดเพลงให้ญี่ปุ่นซ้อมเต้น บอยพอเห็นเพื่อนไม่ยอมแพ้ก็เอาบ้าง ทั้งสองซ้อมกันอยู่จนบ่ายแก่ๆ
"ไปกินข้าวก่อนดีกว่าเราหิวแล้ว"
บอยบอกพลางเอาผ้าขึ้นเช็ดหน้า
"เดี๋ยวเรารออยู่ที่นี่นะบอย เราจะซ้อมต่อ"
"เฮ้ย ไอ้หญ้าแห้ง มึงคึกมาจากไหนวะ"
"ปุ่น จะดีเหรอ เอกงั้นเอกไปซื้อข้าวมาให้เราหน่อยดิ เดี๋ยวเราอยู่เป็นเพื่อนปุ่น"
"น่าน ซวยกูอีกแล้ว"
เอกบ่นออกมาแต่ก็ยอมไปเพราะบอยตาเขียวใส่ ทั้งสองอยู่ซ้อมเต้นกันต่อไป จนค่ำเอกนอนรอหลับไปหลายตื่น ญี่ปุ่นมีสีหน้ามุ่งมั่นเหมือนตอนซ้อมแบดฯคราวนั้น แววตาที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆฉายขึ้นมาอีกครั้ง บอยเองก็ไม่อยากจะขัดใจเพื่อนเพราะรู้ว่าญี่ปุ่นแม้จะเห็นเอ๋อๆ แต่เวลาทำอะไรแล้วย่อมทำเต็มที่และผลที่ออกมาก็ไม่มีใครคาดคิด
"กลับห้องดีกว่าปุ่น"
"อืม กลับเนะ"
"แวะกินข้าวขาหมูกันเนอะไม่ได้กินนานแล้ว"
"ไม่อ่า เราจะกินแต่โยเกิร์ต"
"เอ้ย ปุ่นไม่ดีหรอกนะ ถึงนายจะลดน้ำหนักแต่ถ้าไม่กินอะไรเลยมันไม่ดีนะ"
"เราไม่หิวอ่ะบอย"
"อะไรวะไอ้หญ้าแห้ง นี่มึงเป็นเอามากนะเนี่ย"
"เราไม่ได้เป็นเอามาก แต่เราอยากจะทำให้ได้"
น้ำเสียงที่ไม่เคยได้ยินจากปากของญี่ปุ่นดังออกมา สีหน้าแววตาดูมุ่งมั่นเหลือเกิน เพื่อนทั้งสองได้แต่มองหน้ากัน
"ท่าทางมันจะเอาจริงอ่ะแม่หมู"
"ไม่เคยเห็นปุ่นเป็นแบบนี้เลยอ่ะ ตอนซ้อมแบดฯก็แค่ขยันมุ่งมั่น แต่ไม่เคยดูนิ่งขนาดนี้"
"มันคงรู้สึกตัวล่ะ"
ทั้งสองคุยกันเดินตามหลังญี่ปุ่นกลับหอ พอซื้อของเสร็จก็เดินไปทางหอ
"วันนี้มึงไม่ไปนอนหอพี่เฟียตเหรอไอ้หญ้าแห้ง"
"ไม่อ่า เราจะไม่ไปนอนแล้ว เค้างอนเรานิ"
"เอ้ย มันจะดีเหรอวะ อย่างอนกันนานเลยนะ เดี๋ยวมันจะจืด"
"อารายอ่าจืด นายสองคนจะทำอารายกันก็ได้เนะ เราหลับเร็ว"
บอยได้แต่อึ้ง เพราะคนพูดดูท่าไม่สนใจจริงๆ เพิ่งจะเคยเห็นญี่ปุ่นดูจริงจังก็คราวนี้เอง พออาบน้ำเสร็จก็กินโยเกิร์ตแล้วนอนทันที
"ก๊อกๆ"
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นเมื่อตอนหัวค่ำ บอยกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ ส่วนเอกกำลังเลือกเพลงให้อยู่ ญี่ปุ่นนอนหลับไปแล้ว
"อ้าวพี่เฟียต มารับปุ่นเหรอ"
"มันนอนแล้วเหรอ"
ไม่ก้าวเข้าห้องมา ได้แต่ยื่นหน้าเข้ามาในห้อง สายตาเหลือบไปมองร่างของญี่ปุ่น
"เพิ่งหลับไปอ่ะพี่ วันนี้ปุ่นไม่กินข้าวเลยอ่ะพี่ กินแต่โยเกิร์ต ปุ่นไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะ"
บอยพยายามสื่อสิ่งหนักใจออกไป เฟียตเองสายตาเครียดครุ่นคิดขึ้นมาทันที
"จริงเหรอ มันไม่ได้กินอะไรเลยเหรอ"
"ใช่พี่ ทะเลาะกันเหรอพี่"
เฟียตเดินปรี่เข้าไปในห้อง นั่งลงข้างๆเตียงเอามือจับร่างคนตัวเล็กที่นอนขดอยู่
"เปี๊ยก กลับห้องเราเถอะ"
น้ำเสียงเครือเหมือนจะร้องไห้ออกมา ญี่ปุ่นขยับร่างหนีไปชนฝา
"กลับห้องเราเถอะ"
เฟียตยังครางออกมา บอยกับเอกยืนมองหน้ากันแล้วพยักหน้าส่งสัญญาณออกไปจากห้องทันที เฟียตเขย่าร่างญี่ปุ่นอยู่นาน แม้จะรู้สึกตัวแล้วแต่ก็ทำเป็นไม่สนใจ
"เปี๊ยก กูขอโทษ กูไม่ได้ตั้งใจ"
"เค้าโกรธจริงๆน้า ไม่ต้องมาคุยกะเค้า"
ยอมพูดออกมาแต่มันคำพูดที่ออกมาพร้อมน้ำตา รู้สึกหวั่นไหวในใจอย่างประหลาด เฟียตรู้ตัวก็พยายามเอามือจะคว้าร่างของญี่ปุ่นมากอด แต่รายนั้นดิ้นหนีเอามือปัดออก
"ยอมแล้วนะคนดี กลับห้องเราเถอะ พ่อหมีไม่งอนแล้ว"
"แต่เค้างอน ไปเลยเนะ อย่ามายุ่งกะเค้า เค้ามันตะกละ เค้ามันบอกไม่ฟัง"
เฟียตหน้าชาไป ลืมนึกไปว่าคำพูดแรงๆเหล่านี้เขาไม่เคยพูดเลยกับญี่ปุ่น และญี่ปุ่นเองก็ไม่เคยพูดกับใคร ญี่ปุ่นลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำแม้เฟียตจะพยายามดึงแขนไว้ แต่คนตัวเล็กก็ไม่ยอมร้องไห้สะอึกสะอื้น บอยกับเอกเดินเข้ามาในห้อง
"พี่เฟียต พี่กลับไปก่อนเถอะพี่ เดี๋ยวให้ปุ่นหายงอนแล้วค่อยคุยกันนะพี่"
"มึงไม่ต้องมายุ่ง กูจะพามันกลับห้อง ไม่กลับกมึงก็ไม่ต้องนอน"
เฟียตตวาดออกมา
"พี่มันไม่มีประโยชน์หรอกครับ ผมไม่เคยเห็นปุ่นเป็นแบบนี้มาก่อน ท่าทางคงจะเอาจริง ถึงพี่ไม่กลับไปก่อน ปุ่นก็ไม่ยอมออกมาหรอกเชื่อผมดิ"
บอยพูดเพราะรู้ดีว่าญี่ปุ่นเป็นคนยังไง เฟียตเองก็รู้ เขาถอนหายใจออกมาครุ่นคิดอยู่
"ไอ้เปี๊ยก กูกลับห้องเราแล้วนะ กูขอโทษ กูรักมึงมากนะ รู้ไหม"
น้ำเสียงที่เครียดจนคนได้ยินรู้สึกขนลุกไปตามๆกันดังขึ้น เฟียตเดินไปหน้าห้องน้ำแล้วพูดขึ้นเสียงดัง ยอมจำนนต่อคนตัวเล็กแต่โดยดี ฝ่ายญี่ปุ่นพอได้ยินก็ยิ่งร้องไห้หนัก ทั้งที่อยากจะกลับห้องด้วยแต่ก็งอนอยู่ เขารู้สึกเสียใจที่เป็นต้นเหตุให้เฟียตงอน เพราะญี่ปุ่นเองก็รู้ตัวดีว่าเป็นคนพูดไม่ฟัง ตะกละอย่างที่เขาพูดจริงๆ แต่ถ้าได้ยินจากปากคนอื่นจะไม่เป็นแบบนี้ ไม่น่าเลยจริงๆ
พอวันอาทิตย์ญี่ปุ่นก็ทำเหมือนเดิมออกวิ่งแต่เช้า กินข้าวน้อยกินแต่น้ำเยอะ
"ปุ่นพอก่อนไหมอ่ะ นายหน้าซีดแล้วนะ"
บอยร้องขึ้นเพราะเห็นท่าทางญี่ปุ่นแล้วน่าจะไม่รอด
"เราไหวเนะ มาๆเต้นต่อบอยกำลังได้ท่าอยู่เลยอ่า"
"เฮ้ย ไอ้หญ้าแห้งเดี๋ยวก็เป็นลมไปหรอกมึง ข้าวก็ไม่แดก"
"เราไม่เป็นไรเนะ"
หอบแฮ่กๆแม้แต่เวลาพูด แต่ยังไม่ทันขาดคำ
"บอย"
ร้องเรียกชื่อเพื่อนออกมาแล้วก็ล้มคว่ำหน้าลงทันที แว่นตากระแทกพื้นหักออกจากกันทันที
"ปุ่น"
ทั้งบอยทั้งเอกปรี่เข้ามาแต่ไม่ทัน พอพลิกตัวญี่ปุ่นขึ้นเห็นว่าไม่มีบาดแผลอะไรมากนักเว้นแต่รอยแดงตรงข้างจมูก
"ปุ่นเป็นลมพ่อหมู"
"เฮ้ย ทำไงดี"
"เอาอะไรมาพัดเร็ว"
ทั้งสองช่วยกันประคบประหงมอยู่ แต่ญี่ปุ่นก็ยังไม่ฟื้น
"ไปตามคนมาช่วยดีกว่าพ่อหมู"
บอยร้องบอก เอกรีบลุกวิ่งทันที วิ่งไปแบบไม่คิดชีวิตวิ่งออกจากคอร์ทแบดฯมาผ่านสนามบาสฯเห็นคนกำลังเล่นบาสฯอยู่
"พี่ๆ ช่วยด้วยๆ"
เอกแหกปากไปแต่ไกล
"มีอะไรวะไอ้น้อง"
เป็นรุ่นพี่ชัน ม.ห้ากำลังเล่นบาสฯอยู่และหนึ่งในนั้นมีโฟคอยู่ด้วย
"เพื่อนผมเป็นลม ช่วยด้วยพี่"
"เฮ้ย ไหนวะ"
"อยู่ใน ในสนามแบดฯพี่"
เอกเองก็กระหืดกระหอบกว่าจะพูดออกมาได้แต่ละคำ โฟคหันมามองตามเสียง พอคุ้นหน้าก็ปรี่ออกจากสนาม
"ใครวะไอ้เอกเป็นลม"
"พี่โฟค ไอ้หญ้าแห้ง เอ้ย ไอ้ปุ่นพี่"
วิ่งไปก่อนแล้วไม่รอฟังให้จบ เพื่อนๆก็กรูตามกันไป โฟควิ่งไม่กี่นาทีก็ถึงคอร์ทแบดฯ
"ไอ้เปี๊ยก"
โฟคปรี่เข้าไปนั่งยองๆลงใกล้ๆ
"พี่โฟค ช่วยด้วยปุ่นไม่ฟื้นเลยเลยอ่า"
บอยร้องไห้ออกมา โฟคหน้าเสียรีบจับตัวของญี่ปุ่น
"พาไปห้องพยาบาล"
ว่าแล้วก็อุ้มร่างของญี่ปุ่นขึ้นทันที วันอาทิตย์ไม่มีคนอยู่ประจำห้องพยาบาลแต่รุ่นพี่พวกนี้ก็รู้ทางหนีทีไล่ วิธีเปิดห้องแอบเข้าไปนอนกันอยู่บ่อยๆ เพื่อนๆที่วิ่งมาสมทบกรูกันไปเปิดห้องพยาบาลรอ โฟคอุ้มตัวของญี่ปุ่นขึ้นกึ่งวิ่งกึ่งเดิน
"กูว่าพามันไปหาหมอดีกว่าว่ะ แว่นแตกเลยนะมึง"
โด่งเพื่อนสนิทของโฟคเอ่ยขึ้นเพราะท่าทางของญี่ปุ่นไม่สู้ดีนักหน้าซีดไม่มีเลือดสักหยด หายใจรวยระรินอยู่
"ได้ ไปคลินิกหน้าโรงเรียนดีกว่าจะได้ไม่ไกล"
ว่าแล้วก็อุ้มตัวของญี่ปุ่นขึ้นอีกแล้ววิ่งออกไปหน้าโรงเรียน เอกกับบอยก็วิ่งตามไป บอยร้องไห้ไม่หยุดกลัวว่าเพื่อนจะเป็นอะไรไป พอถึงมือหมอก็ค่อยโล่งใจเพราะหมอบอกว่าเป็นลมเพราะไม่ได้กินข้าว ร่างกายอ่อนเพลียเกินไป
"ไม่ทานอะไรเลยเหรอหนู กินแต่น้ำไม่ดีนะต้องกินข้าวบ้างนะหนูเดี๋ยวไม่สบายเอา แล้วนี่ต้องไปตัดแว่นไหม หมอว่าหนูน่าจะไปทำเลสิกส์ดีกว่านะจะได้ไม่ต้องรำคาญ"
"อ่า ต้องขาดโรงเรียนเหรอครับคุณหมอ"
ญี่ปุ่นถามขึ้น
"ก็ประมาณอาทิตย์หนึ่งนั่นล่ะหนู ลาได้ไหมล่ะ"
"อ่า ต้องถามคุณครูก่อนเนะ แต่เอ๋ศุกร์นี้ก็มีงานโรงเรียนอ่าคุณหมอลามะได้เนะ"
"งั้นก็ใส่เลนส์ไปก่อนนะ ถูกว่าตัดแว่นใหม่ ถ้าซ่อมคงไม่ได้หรอกนะหมอว่า มันแตกแล้ว"
"อ่า"
เสียดายแว่นตาขึ้นมา พอไม่เป็นอะไรแล้วโฟคก็เข้ามาหา
"เป็นไงไอ้เปี๊ยก ไม่กินข้าววะ"
"หมีดำช่วยพาเค้ามาหาหมอหรา ขอบคุณน้า แต่เค้าทำแว่นตาที่หมีดำซื้อให้แตกอ่า เค้าขอโทษน้า"
"เออไม่เป็นไรเดี๋ยวซื้อให้ใหม่ ไปจะกลับหรือยังเดี๋ยวกูเดินไปส่ง"
"อ่า มะเป็นไรเนะ เดี๋ยวเค้ากลับกะบอยกะปลาดุกได้เนะ"
พอเห็นหน้าโฟคก็รู้สึกผิดขึ้นมาไม่อยากทำให้โฟคเสียใจอีก โฟคเองก็ได้แต่มอง ในใจบอบช้ำเหลือเกิน ทำไมคนที่ได้มันไปไม่ดูแลให้ดีๆ ปล่อยให้เป็นลมเป็นแล้งแบบนี้ได้ยังไง ญี่ปุ่นกลับบ้านแล้วกับบอย ส่วนเอกอาสาไปซื้อโจ๊กกับผลไม้ของกินให้ เวลาเดินกลับก็ต้องพยุงกันกลับเพราะยังเวียนๆหัวอยู่ ส่วนเฟียตเห็นเอกเดินหน้าตาตื่นเข้าไปในตลาดก้เดินตาม
"เฮ้ย มึงหนีใครมาวะหน้าตื่นมาเชียว"
"อ้าวพี่เฟียต ผมจะไปซื้อโจ๊กให้ไอ้หญ้าแห้งมันอ่ะ"
"เหรอ มาเดี๋ยวกูซื้อให้"
"พี่ มันเป็นลมนะเมื่อตอนเย็น"
"ห๊า"
แหกปากดังลั่นจนคนหันมามอง
"มึงว่าอะไรนะ"
"ก็มันเป็นลมพี่ แว่นตากระแทกพื้นแตกเลยอ่ะ ต้องใส่เลนส์เอา อ้าวพี่ไปไหน"
เฟียตวิ่งออกมาจากตลอดแล้ว ไม่ได้ถามว่าตอนนี้ญี่ปุ่นอยู่ที่ไหน แต่คิดเองเออเองว่าคงอยู่ที่ห้อง ในใจร้อนรนยิ่งนักห่วงเหลือเกิน พอถึงหน้าห้องก็ผลักประตุเข้าไปทันทีเพราะบอยไม่ได้ล็อกห้อง
"ไอ้เปี๊ยก"
เห็นญี่ปุ่นนอนอยู่บนเตียงก็วิ่งถลาเข้าไปหาทันที กอดตัวเอาไว้
"เป็นอะไรมากไหม ไหนพ่อหมีดูซิ"
เชยคางคนตัวเล็กขึ้นมาดูแต่ก็ต้องน้ำตาร่วงออกมา เพราะญี่ปุ่นน้ำตาคลอเบ้าอยู่ก่อนแล้ว
"ขอโทษ พี่ขอโทษจริงๆ"
ร้องไห้ออกมาญี่ปุ่นเองก็ร้องแต่ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
"เจ็บไหมคนดี เดี๋ยวพ่อหมีพาไปตัดแว่นใหม่นะ"
นั่งตัวแข็งทื่ออยู่ไม่ยอมพูดอะไร เฟียตเองเหมือนใจสลายไม่คิดว่าการที่จะทำให้ญี่ปุ่นหลาบจำจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้ เหมือนเขากำลังเหยีบย่ำหัวใจตัวเอง คนตัวเล็กใจแข็งอย่างที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน
"พูดกับพ่อหมีบ้างสิ พ่อหมีขอโทษ หายงอนพ่อหมีได้ไหม"
เฟียตคร่ำครวญออกมา บอยเองที่ยืนนิ่งอยู่ก็น้ำตาไหลออกมา บาดตาบาดใจเหลือเกิน
"เค้ามะได้งอนเนะ ตัวเองล่ะงอน ตัวเองทิ้งเค้า"
สะอึกสะอื้นพูดออกมา เฟียตก็รวบร่างมากอดไว้แน่นร้องไห้เช่นกัน
"พ่อหมียอมแล้ว จะทำอะไรก็ยอมแล้ว แม่หมีอย่าทำแบบนี้เลย พ่อหมีจะตาย"
ยิ่งพูดยิ่งร้องไห้ ยิ่งเสียใจน้ำตายิ่งไหลออกมา นานแสนนานกว่าที่จะสงบลงได้
"เค้าอยากอยู่ห้องนี้ พ่อหมีกลับไปเถอะ"
"-"
พูดอะไรไม่ออกได้แต่มองหน้าเพราะคนตัวเล็กมุดกายลงไปนอนบนเตียงเอาผ้าห่มมาคลุมไว้แล้ว
"แม่หมี วันนี้ไม่กลับไปห้องเราไม่เป็นไร แต่รับรู้ไว้นะว่าพ่อหมีเสียใจมากที่ทำให้แม่หมีโกรธ พ่อหมีขอโทษจริงๆ จะไม่ทำอีกแล้ว พ่อหมีรักแม่หมีมากนะ รู้ไหม รักมากเหลือเกิน"
เฟียตกัดฟันไม่ยอมให้น้ำตาไหลออกมา ยอมเดินกลับห้องไป บอยกับเอกยืนมองหน้ากันน้ำตาคลออยู่
"ปุ่น ทำไมใจแข็งจังเลย ไม่สงสารพี่เฟียตเหรอ"
บอยเข้าไปนั่งข้างเตียงพูดเบาๆ
"พี่เขารักมึงมากนะไอ้หญ้าแห้ง มึงก็รักพี่เขามาก จะงอนกันทำไมวะ"
"เราไม่ได้งอนเนะ เราแค่อยากจะลดน้ำหนัก ให้เราลดได้ก่อนเนะ ค่อยกลับไปหาพ่อหมีขาว"
ญี่ปุ่นพูดออกมาหน้าแหยๆ
"อ้าว ไอ้นี่กูอุตส่าห์ซึ้ง"
เขียนโดย eiky