LOVE HIGH STORY – 07 – Mine | เด็กใครให้รู้ซะบ้างตรอกข้าวสารในยามค่ำคืนประดับประดาไปด้วยแสงไฟหลากสี ป้ายไฟร้านค้าที่เรียงรายอยู่ทั้งฝั่งซ้ายและขวาต่างก็ส่องแสงสว่างเรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวยามราตรี บางก็กระพริบวิบวับ บ้างก็มีรูปร่างแปลกตา สวยงามแตกต่างกันไป
เสียงเพลงอึกทึกจากร้านอาหารและบาร์ต่างๆ ตลอดสาย ประกอบกับเสียงผู้คนที่เจ๊าะแจ๊ะจอแจไปทั่วถนน ทำให้ถนนเส้นนี้มีชีวิตชีวาเป็นอย่างมาก โดยรวมแล้วยังคงคึกคักไม่ต่างจากช่วงเวลากลางวัน เพียงแต่มันมีมนต์เสน่ห์ที่ต่างกัน เรียกได้ว่าเป็นถนนที่มีสองบุคคลิกก็ว่าได้
.
.
.
โอยยยยยย ผมว่าถ้าให้ผมพูดแบบนี้ต่อไปนะ ผมคงต้องอึดอัดตายแน่ๆ ทำไมต้องให้บทพูดกับผมซะดูเป็นนิยายดราม่าขนาดนั้นด้วยอะ… เอาใหม่ๆ ผมจะพูดตามสไตล์ผมละนะ... อะแฮ่ม แฮ่ม แฮ่ม
.
เอาจริงๆ เลยนะ ไอ้ตรอกข้าวสารเนี่ย คนมันเย๊อะ เยอะแยะยั๊วเยี๊ยะ เดินกลางวันก็ร้อนตับแลบ ของก็แพง หาที่จอดก็ยาก แถมค่าที่จอดก็แพงอีกต่างหาก รถไฟฟ้าก็มาไม่ถึง จะนั่งแท๊กซี่มาก็รถติด ค่าแท๊กซี่บานเป็นจานดาวเทียม แถมมาถึงแล้วยังต้องมาเจอกับพวกฝรั่งตัวเหม็น วุ๊ยยยยยยย พูดถึงแล้วผมก็รู้สึกเหมือนกลิ่นมันติดอยู่ปลายจมูก
ส่วนกลางคืนเนี่ยนะ คนก็เยอะอีกอะแหละ เดินเบียดกันแทบจะได้เสียกันกลางถนน ยิ่งเจอพวกฝรั่งตัวเหม็นด้วยนะ แทบอ้วก เสียงก็ดัง เปิดเพลงตีกันมั่วไปหมด ไม่รู้เพลงไหนของร้านไหน เหม็นบุหรี่ หิวข้าวก็ต้องรอคิว เพราะร้านส่วนใหญ่มักจะโต๊ะเต็ม แต่งตัวไม่แนวก็จะโดนมอง วุ๊ยยยยย อย่าให้บ่น!!! (///FlapJack ไอ้ต้าร์ แล้วที่เอ็งกำลังทำอยู่นี่คือ???)
แล้วชื่อ”ตรอกข้าวสาร” เนี่ย ผมว่ามันไม่ค่อยเมคเซนส์นะ เห็นขายกันแต่น้ำหมักข้าวบาร์เล่ย์กันทั้งถนนเลย... อ้อ แล้วก็มีผัดไทที่ดูไม่ค่อยจะใช่ผัดไทสักเท่าไรด้วย
.
.
.
พวกผมมาถึงที่ถนนข้าวสารกันก็ทุ่มกว่าๆ แล้วละครับ จอดรถไว้ที่ตึกจอดรถด้านนอก ก็ไอ้ที่ว่าเก็บค่าจอดรถแพงนะแหละ มาถึงก็เดินกันไปกินสุกี้แห้งกันที่ท้ายตรอก ตลอดทางก็อย่างที่ผมบ่นๆ ไปนะแหละครับ... ถ้าไม่ติดว่าวงดนตรีสดของบริกบาร์เขามีแต่เจ๋งๆ นะ ผมก็ไม่อยากมาหรอก นอนเล่น Ultimate Alliance อยู่ที่ห้องยังจะดีกว่า ไม่เปลืองด้วย
อาหารมื้อเย็นเสร็จไป ก็ได้เวลาของเครื่องดื่มละครับ ไม่ต้องเข้า 7-11 ให้เสียเวลา ตรงกันไปที่ผับเลยดีกว่า ไปช้าเดี๋ยวคนเยอะ โต๊ะจะเต็ม ที่ผับก็มีเครื่องดื่มครับ... กึ๊บ กึ๊บ กะลึ๊บ กึ๊บ กึ๊บ เฮ้!
พวกผมเป็นวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ที่ประกอบไปด้วยชายฉกรรย์ (อ่านว่า ชาย-ฉะ-กัน!!! เฮือก!!) 9 คนและผู้หญิงอีก 1 คน น่ารักซะด้วยครับ ขาวใส ตาโต ปากนิดจมูกหน่อย ตัวเล็กๆ ชื่อดรีม เป็นเพื่อนของคนชื่อโต้งที่เป็นรุ่นน้องในชมรมของพี่เต็มอะครับ ดรีมสมชื่อครับ ทำผมแทบเพ้อละเมอฝันหาตั้งแต่แรกเจอที่สยามแล้วละครับ แต่ยังไม่ทันได้ฝันไปถึงไหนต่อไหนก็เจอไอ้ลิงภูเขานี่เขกหัวดังโป๊ก พร้อมแจ้งข้อหา “ยืนทำหน้าเพ้อ”... ผมยังไม่ทันได้หาทนาย ยังไม่ทันได้ขึ้นศาลแก้ต่าง พิพากษาเลยซะงั้น
.
.
.
มาถึงบริกบาร์ก็ไม่รอช้าละครับ เดินเข้าไปจับจองโต๊ะกันเลย พวกผมเลือกนั่งโต๊ะแถวที่สามจากเวที แถวแรกไม่ไหวอะครับ ติดลำโพงซะด้วย เคยคิดผิดไปนั่งโต๊ะแถวหน้าอยู่ครั้งนึง กลับบ้านกันแบบหูดับกันเลยทีเดียว ถึงวงดนตรีสดของที่นี่จะเจ๋งยังไง แต่ต้องตะโกนคุยกันก็ไม่ไหวมั้งครับ เจ็บคอ... พูดถึงแล้วก็ได้แต่มองนาฬิกา นับเวลาคอยให้ถึงสี่ทุ่มไวๆ จะได้ฟังวงดนตรีสดเล่นสักที ผมละไม่ค่อยชอบเพลงจังหวะตึก ตึก ตึก ตึก กับเสียงซินธ์ แท๊ด แท๊ด แท๊ด แท๊ด ของพวกเพลงที่นิยมเปิดกันในผับนี่หรอกครับ ผมว่ามันขาดจิตวิญญาณของความเป็นศิลปิน... (ว่าไปนั่น)
.
.
.
ห๊าววววววววววววววว
.
เวลาเดินไปช้าจริงๆ เลยนะครับ เวลาที่เรารออะไรสักอย่าง นี่ผมก็เริ่มจะง่วงแล้วด้วย สงสัยเมื่อกี๊กินมาเยอะไปนิด พุงมันตึง หนังตาเลยหย่อน... แต่อย่าคิดว่าผมจะหลับในผับนี่หรอกนะครับ บ้าดิ ใครมันจะไปหลับลง (ยกเว้นคนเมา) เพลงดังขนาดนี้ โต๊ะก็แคบๆ คนก็เยอะ เดินชนกันไปเรื่อย หลับลงก็เก่งแล้วครับ... แต่จะว่าไป ผมว่าผมไปล้างหน้าล้างตาสักหน่อยดีกว่า
อ้อ ส่วนคนอื่นๆ เหรอครับ... กำลังนั่งก๊งกันเลยละครับ “เอ้า ชนนนนนนน”.
ว่าแล้ว ชายหนุ่มร่างเล็กสะกิดบอกรุ่นพี่ร่างสูงที่นั่งติดกัน ก่อนจะลุกออกจากโต๊ะแล้วเดินเบียดผู้คนตรงไปยังห้องน้ำ... แว่วยินเสียงเฮฮาจากโต๊ะกลุ่มเพื่อนตัวเองก่อนจะปิดท้ายด้วยคำว่า
“หมดแก้ว!!!”.
.
.
ทางด้านร่างสูง เขามองร่างเล็กเดินออกไปจนถึงห้องน้ำจึงกลับมาสนใจแก้วเบียร์ตรงหน้าก่อนจะยกขึ้นดื่มตามเพื่อนๆ และน้องๆ ในโต๊ะ
.
.
หึหึหึ ดูไอ้เปี๊ยกสิครับ มานั่งไม่ทันไรก็หาวซะแล้ว มันก็แปลกคนนะครับ สถานที่อึกทึกแบบนี้ยังจะหาวได้อีก... แถมมาผับแต่ไม่ดื่มเหล้าหรือเบียร์เลย ผมถามว่าจะเอาอะไร มันก็ว่า “เป๊ปซี่ on the rock พี่ขอเพียวๆ นะน้อง โซดาไม่ต้อง”... ผมละสงสัยจริงๆ คนอะไร เกรียนได้ทุกที่ทุกเวลา ตอนนี้ผมเริ่มจะไม่แน่ใจแล้วละครับ ว่ามันเป็นกวนตรีนแบบนี้มาตั้งแต่เกิดเลยรึเปล่า ถ้าเป็นแบบนั้น ผมก็จะขอยกย่องแม่ของไอ้เปี๊ยกนี่เป็นแม่ดีเด่นแห่งชาติ ที่ท่านอดทนความกวนของมันได้และเลี้ยงดูจนเติบโตจนเป็นเกรียนตอนปลายได้เช่นตอนนี้
“เฮ้ย เชี่ยโบ๊ท ต้าร์มันไมดื่มเหล้าเหรอวะ” ไอ้ว่านมันจะมาถามผมทำไมเนี่ย เพื่อนไอ้ต้าร์นั่งอยู่ข้างๆ มันตั้งสองคน
“เออ กูถามแล้ว มันไม่เอา”
“มันไม่เอา หรือมึงห้ามไม่ให้มันดื่มวะ” เอ้า ไอ้ห่าเต็ม ถามออกมาได้ อย่างผมเนี่ยนะจะไปมีปัญญาห้ามไอ้เปี๊ยก มันฟังผมซะที่ไหนเล่า (ถ้าไม่ขู่มันนะ)
“ฟาย! กูจะห้ามมันเพื่อ?”
“มันไม่อยากเมามั้งพี่” ไอ้น้องทีเพื่อนไอ้เปี๊ยกตอบหลังจากกระดกเบียร์อึกใหญ่ลงคอ
“ทำไมวะ”
“มันคงเข็ดอะพี่ คราวที่แล้วมันเมาแล้วโคตรรั่วอะ”
“รั่วไงวะ” ผมเองก็ชักจะอยากรู้แล้ว ปกติอยู่ห้องที่คอนโดฯ ผมกับต้าร์ก็มีดื่มกันบ้าง แต่ก็ไม่ได้เยอะแยะอะไร แค่เบียร์คนละกระป๋อง หรือไม่ก็ว๊อดก้าคนละไม่กี่ชอต
“อย่ารู้เลยพี่” ยิ่งพูดแบบนี้มันยิ่งทำให้อยากรู้นะเนี่ย
“เออ จะว่าไป กูยังไม่เคยเห็นไอ้ต้าร์เมาเลยวะ... หึหึหึ” ไอ้เต็มกล่าวขึ้นพลางลูบคาง สายตาดูเจ้าเล่ห์... เฮ้ย มึงมาดตัวโกงโคตรๆ อะ
“งั้นจัดเลยมั๊ยละพี่เต็ม” ไอ้น้องโจ มึงไม่คิดจะปกป้องเพื่อนมึงหน่อยเหรอครับ คนอื่นก็เข้าอิหรอบ “เสนอมา ก็จัดไป”
“เฮ้ย อย่าเลยมึง ช่างมันเหอะ มันไม่อยากดื่มก็ไม่ต้องให้มันดื่ม”
“อะไรของมึง ไอ้โบ๊ท แค่กินเหล้านะเว้ย มึงจะหวงอะไรเนี่ย”
“ไอ้ห่าเต็ม กูไม่ได้หวง... แต่ถ้ามันเมา กูเนี่ยจะลำบาก เข้าใจไหมสาดดดด”
“ไม่ลำบากหรอก เดี๋ยวพวกกูช่วยหิ้วปีกไปส่งถึงรถเลย” เอ้า พวกเชี่ยนี่ แค่ไปถึงรถอะไม่ใช่ปัญหาเพราะว่าพวกเราคนเยอะ ช่วยกันถูลากถูกังไปได้ แต่หลังจากแยกย้ายกันแล้วเนี่ยสิ ผมตัวคนเดียวเลยนะ!!!
“งั้นก็ตามนี้ กูจัดเอง” เชี่ยเต็ม มึงเอาจริงอะ??
“อย่าเลย พวกมึ...” ผมออกปากห้าม แต่ยังไม่ทันพูดจบ เสียงผมก็โดนเสียงพวกมันกลืนหายไปในอากาศซะแล้วละครับ ฟังกูบ้างดิ!
.
.
.
และแล้วเหตุการณ์ก็เป็นไปตามแผนของไอ้เต็มมันครับ พอไอ้เปี๊ยกกลับมาจากห้องน้ำได้สักพัก ไอ้เต็มก็ยื่นแล้วเบียร์ให้ ตอนแรกไอ้เปี๊ยกก็ปฏิเสธดีอยู่หรอกครับ แต่โดนจี้หัวใจเข้าไปด้วยประโยคเด็ด “เฮ้ย ไอ้ต้าร์ มึงอย่ามาตุ๊ดน่า เร็วๆ หมดแก้วเลยมา” เข้าไป ทีนี้ละครับพี่น้องเอ้ยยยย กระดกไม่หยุดเลยครับ ไอ้พวกนั้นก็ชอบใจกันใหญ่ ยื่นทั้งเหล้า ทั้งว๊อดก้า ทั้งค็อกเทล ให้ไอ้เปี๊ยกกันยกใหญ่ เพื่อให้มันดื่มหลายๆ อย่าง จะได้เมาไวๆ... ผมนั่งอยู่ข้างๆ มันห้ามมันแล้ว มันก็ไม่ฟัง ยื่นเป๊ปซี่ on the rock ให้ก็ไม่เอา
เวลาผ่านไปจนเกือบสี่ทุ่มแล้วละครับ ไอ้ต้าร์ก็กรึ่มๆ ละ หน้าแดงคอแดงไปหมดแล้ว แต่ไอ้พวกนั้นก็ยังไม่หยุดครับ ชวนชนแก้วกันตลอด... จะว่าไป ไอ้เปี๊ยกนี่ก็คอแข็งใช่ย่อยนะครับ เพราะว่าถ้านับจริงๆ แล้ว มันเหมือนโดน 5 รุม 1 เลยนะครับ มันคนเดียวชนกับไอ้เต็ม ไอ้ว่าน ไอ้แทน (พวกเพื่อนเหี้ยของผมเอง) และไอ้ทีกับไอ้โจ (พวกเพื่อนเหี้ยของไอ้ต้าร์มันครับ) แต่มันก็ยังไม่เมาเป็นหมา ไม่เหมือนไอ้เต็ม ไอ้ว่าน และไอ้โจ ที่ท่าทางใกล้จะร่อแร่เต็มทีแล้วละครับ... เจริญละครับ คิดจะมอมเขา แต่เสือกมาเมาก่อน เรื้อนสัส
.
.
.
พอสี่ทุ่มนิดๆ วงดนตรีสดที่ไอ้เปี๊ยกมันชอบก็ออกมาเตรียมตัวแล้วละครับ เพียงไม่นานก็พร้อมบรรเลงลีลาให้ขาเที่ยวได้กระโดดได้เต้นกัน ผมเข้าใจไอ้เปี๊ยกมันนะว่าทำไมถึงชอบวงดนตรีสด มันดูมีชีวิตชีวากว่าเปิดแผ่นตั้งเยอะ ยิ่งวงที่ร้องเทพๆ แถมเอนเตอร์เทนเก่งๆ นะครับ หุยยยยย สนุกสุดๆ!! มันเป็นความรู้สึกที่พิเศษเฉพาะตัวของการไปผับ บวกกับการไอ้เฮฮากับเพื่อนฝูงด้วยแล้ว มันยิ่งทำให้รู้สึกสนุกมากยิ่งขึ้น... คนบางคนอาจจะไม่เข้าใจและมองว่าการไปผับเป็นเรื่องไร้สาระ แต่สำหรับผม การที่เรานานๆ มาที เพื่อมาสนุกกับเพื่อนๆ มันเป็นเรื่องที่ถึงจะไม่ได้มีสาระประโยชน์อะไร แต่ก็ไม่ได้ไร้สาระหรอกนะครับ
ต้องยอมรับว่าวงดนตรีวงนี้เขาเจ๋งจริงๆ ครับ เล่นสนุกมาก คนกระโดดกันทั้งผับเลยก็ว่าได้ ยิ่งแต่ละคนดื่มกันจนกรึ่มๆ แล้วด้วย ยิ่งเฮฮากันขึ้นไปอีก เพลงดังๆ ต่างก็ถูกขนเอามาร้อง ไม่ว่าจะอินดี้หรือไม่อินดี้ คนในนี้ก็เต้นตาม ร้องตามได้หมดคร้าบบบบบ
.
.
.
ตอนนี้เก้าอี้ไม่มีความหมายแล้วละครับ เพราะว่าทุกคนต่างก็ยืนขึ้นโยกตัวตามจังหวะเพลง บางคนก็ออกสเตปซะเต็มที่ นี่ถ้ามีใครถ่ายวิดิโอไว้ คงจะมีอายมุดตูดหมาแน่ๆ ครับ... ไม่ต้องอื่นไกล โต๊ะผมเนี่ยแหละครับ ตัวดี ไอ้พวกที่จะมอมเหล้าไอ้เปี๊ยกแต่ละคนนั้น ตอนนี้รั่วกันกระจาย เต้นเป็นเด็กแว๊นซ์โดนน้ำร้อนลวกเลยละครับ... โถถถถถ ไอ้เชี่ยเต็ม มึงอยากเห็นไอ้ต้าร์เมา แต่มึงอะไปก่อนมันอีก สาดดดดด
จะว่าไป พูดถึงไอ้เปี๊ยกแล้ว... ตอนนี้มันหายไปไหน!!! เมื่อกี๊ยังยืนเต้นเป็นเพนกวิ้นอยู่ข้างๆ ผมอยู่เลย!!
.
ผมมองซ้ายมองขวา แต่ก็หามันไม่เจอ คนก็เจอ ไฟก็สลัว และที่สำคัญ... มันเตี้ย
.
“ที ไอ้ต้าร์ละ” เมื่อมองแล้วหาไม่เจอ ก็ต้องถามเพื่อนมันดูครับ
“อ้าว เมื่อกี๊มันยังเต้นอยู่ตรงนี้อยู่เลยนี่พี่ สงสัยไปเข้าห้องน้ำมั้ง” อืม ก็เป็นไปได้นะ แต่ไม่รู้ว่าไปฉี่ ไปอึ หรือไปอ้วก ฮ่าๆๆๆ
“อืม” ว่าแล้วผมก็ลองมองไปแถวๆ ห้องน้ำสักหน่อย... คิวยาวชะมัด แต่ยังไม่ทันได้สองสายตาส่องหาร่างเล็กก้ได้ยินเสียงคุ้นหูดังขึ้นไม่ไกลจากด้านหลัง
“ชนนนนนนนน... หมดแก้ว ฮ่าๆๆๆ เอิ๊กๆ”
.
ควับ!
โป๊ะเช๊ะ! นั่นไงครับ ไอ้เปี๊ยก!
.
ผมยืนหรี่ตามองไปตามเสียงเพียงชั่วครู่ก็เห็นไอ้เปี๊ยกกำลังชนแก้วและกระดกเบียร์กับกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ ตัวมันยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มของชายหญิงแปลกหน้าอย่างกลมกลืน ดูเฮฮา มันยิ้ม มันหัวเราะอยู่กับกลุ่มใครก็ไม่รู้... ผมหันกลับมามองที่โต๊ะของกลุ่มตัวเองก็เห็นแก้วของไอ้ต้าร์มันยังวางอยู่ตรงนี้... แล้วนั่นมันไปดื่มแก้วของใคร???
อืมมมม แต่จะว่าไป ไอ้เปี๊ยกมันก็กรึ่มๆ ตั้งแต่อยู่โต๊ะนี้แล้ว และยังไปชนกับโต๊ะนู้นไม่รู้กี่แก้วต่อกี่แก้ว ป่านนี้สติจะยังเหลืออยู่สักเท่าไร... เอ่ออออ ส่วนสตางค์เนี่ยไม่แน่ใจครับ มันยังเนียนเงียบค่าของซุปเปอร์อยู่เลย นั่งรถมาด้วยกันตลอดทางก็ไม่มีพูดถึง... อืมมม เดี๋ยวผมต้องรีดเงินมาจากมันให้ได้ แต่เอาไว้ไปเคลียร์ที่คอนโดฯ ก็แล้วกัน... จะทรมานมันด้วยวิธีไหนดีนะ ฮืมมมมม
.
เฮ้ย!
.
แต่ยังไม่ทันต้องคิดหาคำตอบใดๆ หรือคิดอะไรมากไปกว่านี้ ก็มีบางสิ่งที่ทำให้ผมต้องหยุดคิดแล้วเดินปรี่เข้าไปหามันโดยทันที เมื่อผู้ชายที่ไอ้เปี๊ยกมันยืนชนแก้วอยู่ด้วยนั้นมันโอบเอวไอ้ต้าร์เมื่อไอ้ต้าร์มันหันไปคุยกับผู้หญิงอีกคน มือทั้งสองข้างฉวยเข้าโอบเอวบางแล้วสวมกอดอย่างแนบชิด... ไอ้ต้าร์ก็ไม่ได้จะขัดขืนอะไร ไอ้เชี่ยนี่ ไอ้ใช้ร่างกายเปลือง!
“เอ่อ โทษครับ เพื่อนผมมาป่วนอะไรหรือเปล่าครับ” ผมถามขึ้นทันทีที่เดินถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งก็ดึงความสนใจจากคนในกลุ่มนั้นได้อย่างดี เมื่อคนพวกนั้นหันมา ผมก็รู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่ผิดปกติ... ถ้าสติผมยังดีและความรู้สึกของผมไม่ผิดเพี้ยน ผมจะบอกว่าคนในกลุ่มนี้... มีแต่ผู้ชายครับ คนที่มีหนวดนี่ก็ผู้ชาย คนผมสั้นนั่นก็ผู้ชาย คนที่ผมยาวนี่ก็ผู้ชาย คนที่ใส่กระโปรงนั่นก็ผู้ชาย คนที่แต่งหน้าทาปากนี่ก็ผู้ชาย และไอ้คนกล้ามใหญ่ๆ นั่นก็ผู้ชาย... เฮ้ยยยยย!!!
“อ้อ ไม่ได้มาป่วนอะไรหรอกครับ ผมเป็นคนไปชวนมาเอง” ไอ้คนที่ยืนโอบเอวไอ้ต้าร์อยู่หันมาตอบพร้อมรอยยิ้มหวาน ชวนสยิว แต่มือก็ยังคงสวมกอดไอ้เปี๊ยกเอาไว้ไม่มีปล่อย... ฮืมมมมม มากไปละนะ ส่วนไอ้เปี๊ยกอะเหรอครับ หน้าแดงก่ำ ท่าทางจะสติเหลือน้อยลงทุกที เพราะว่ามันหันมายิ้มตาหยีแล้วถามผมว่า “อ้าว ไอ้คุณโบ๊ท คุณไปไหนมา”...
“ก็ดีแล้วครับที่มันไม่ได้มาก่อกวนอะไร งั้นผมขอตัวเพื่อนผมกลับครับ”
“ว้าาาา อย่างงั้นก็แย่สิครับ ผมยังอยากคุยกับเพื่อนคุณอยู่เลย นี่ก็ยังไม่ได้ถามชื่อเลยด้วยซ้ำ” ไอ้คำพูดลอยหน้าลอยตานี่มันช่างน่าประเคนส้นเท้าให้เหลือเกิน
“มันเมาแล้วครับ ผมขอพามันกลับดีกว่า” ใจเย็นไว้เว้ยไอ้โบ๊ท ใจเย็นไว้
“ไม่ต้องห่วงครับ คุยกันขำๆ เดี๋ยวผมพาไปส่งเองเลย”
“ผม ขอ เพื่อน ผม คืน ครับ” ผมพูดเน้น ช้าๆ ชัดๆ ทีละครับ พร้อมส่งสายตาเอาเรื่องไปให้ พลางยื่นมือไปคว้าแขนไอ้ต้าร์แล้วกระชากให้หลุดออกจากอ้อมกอดไอ้หนวดแพะนี่... เมื่อได้ตัวต้าร์มาแล้ว ผมก็ไม่รอช้าครับ หันหลังกลับแล้วดันหลังไอต้าร์ให้เดินกลับไปที่โต๊ะเดิมของเรา...
“เดี๋ยวสิคุณ” ผมดันหันควับกลับไปมองตามคำท้วง ไอ้หนวดแพะมันจะอะไรนักหนาครับเนี่ย
“เฮ้ย ไอ้ที เอาไอ้เปี๊ยกไปเก็บดิ” ผมตะโกนเรียกไอ้ทีก่อนจะดันหลังให้ไอ้ต้าร์เดินไป ส่วนตัวผมก็กลับหลังหันเดินกลับไปที่โต๊ะไอ้หนวดแพะ
“มีอะไรครับ”
“อืมมมม เอาตรงๆ เลยนะ... เพื่อนคุณน่ารักดี... เราชอบ เราขอได้ปะ”
“...ไอ้สัด!” ประโยคที่มันเพิ่งจะพ่นออกมานั้นทำผมเดือด ง้างมือพุ่งตัวหมายจะเอาเลือดออกจากปากมัน
“พี่โบ๊ท อย่า!!” ยังไม่ทันจะได้เหวี่ยงหมัดออกไป ก็มีคนมารั้งแขนผมไว้ก่อน หันไปดูก็เป็นว่าเป็นไอ้โต้ง รุ่นน้องหน้าใหม่ในชมรมไอ้เต็มนี่เอง
“อย่าห้าม ไอ้โต้ง ไอ้ห่านี่มันกวนตีน” จะไม่กวนตีนได้ไงละครับ ป่านนี้มันยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้
“อย่ามีเรื่องเลยพี่ ผมขอ” ไอ้โต้งบอกผมด้วยสีหน้าจริงจัง ก่อนจะกระซิบ “พวกเรามันเมากันหมดแล้ว พี่ปรี่เข้าไปโดนรุมขึ้นมาทำไง” เมื่อมันว่าเช่นนั้น ผมเลยมองไปยังโต๊ะตัวเองที่เหลือสภาพพอจะตีกับใครได้อยู่ไม่ถึง 4 คน ที่เหลือก็เมารั่วกันอย่างชัดเจน... แต่ถึงยังไงก็อยากซัดปากไอ้หนวดแพะนี่สักที กูละหมั่นไส้... กูอยู่กันมาเป็นปี มือยังไม่เคยจับเลย ไอ้ห่านี่มาถึงได้โอบเอว ชื่อแม่งยังไม่รู้จักกันเลย… (เฮือก!!! ไม่ใช่แบบน้านนนนนนน T – T )
ว่าแล้วผมก็สะบัดแขนออกแล้วเดินไปตามรุ่นน้องที่จับไหล่ผมแล้วดันเล็กๆ เป็นเชิงให้ผมเดินกลับไปที่โต๊ะของเรา แต่...
“นายนี่ หวงเพื่อนจังเลยน๊า...” มันยังกวนตีนไม่เลิก
“...” ผมทำเป็นหูทวนลม ใจเย็นไว้ไอ้โบ๊ท ใจเย็นๆ
“หวงกันแบบนี้... เพื่อนแน่เหร๊อ” โอเคครับ มันตั้งใจกวนตีนกันแบบนี้ก็ต้องขอสักนิดเหอะครับ
“ฟังนะครับ ผมกับมัน เป็น แฟน กัน และผมก็ หวง มัน มาก ด้วย” ผมตั้งใจพูดเน้นๆ เป็นคำๆ ให้มันได้ยินชัดๆ ซึ่งก็ทำมันหน้าเหวอออกมาได้
.
“ถ้าเข้าใจแล้ว ก็อย่ามายุ่งกับ แฟน คนอื่น... นะครับ... อ้อ แล้วก็ ขอบใจนะที่ชม แฟน ผม ว่าน่ารัก”
.
.
.
ผมกลับมาที่โต๊ะตัวเองก็หย่อนตัวนั่งลงที่เดิม ไอ้เปี๊ยกก็นั่งอยู่เดิมข้างๆ ผม แต่ว่ามันพิงหัวบนไหล่ไอ้ทีแล้วหลับตาไปแล้วละครับ ดื่มไปเยอะแค่ไหนวะเนี่ย ไอ้เปี๊ยกเอ้ยยยยย... ไม่รู้จักดูแลตัวเอง ปล่อยให้โดนคนอื่นเขามอม แล้วก็เกือบจะเสียตัวในผับแล้วไหมละ คิดๆ แล้วก็น่าโมโหนักเชียว
“พี่โบ๊ท ฝากไอ้ต้าร์หน่อยดิ ผมปวดฉี่อะ” เมื่อผมพยักหน้า ไอ้ทีก็เอนหัวไอ้ต้าร์ให้มาพิงไหล่ผมแทน แล้วก็ออกตัวไปห้องน้ำ
.
เมื่ออยู่ในสภาพนี้ ผมก็อดไม่ได้ที่จะหันไปเหล่มองไอ้หนวดแพะแล้วยกยิ้มที่มุมปาก ส่วนมันก็คงจะจ้องมาทางผมกับไอ้เปี๊ยกอยู่แล้ว เมื่อสบกับหางตาผมเข้าไป ก็เสหน้าหนีไปทางอื่น...
ผมไม่รู้ว่ามันยังมองมาอีกบ้างหรือเปล่า แต่ผมก็โอบเอวไอ้ต้าร์ที่หลับพิงไหล่ผมอยู่ นับเป็นการตอกย้ำชัยชนะอย่างสวยงามของค่ำคืนนี้
.
.
.
ผมก้มลงมองไอ้เปี๊ยกที่หลับตา หายใจเป็นจังหวะอยู่ข้างกาย ก็พลันเห็นเศษกระดาษสีขาวโพล่พ้นขอบกระเป๋ากางเกงสีดำของไอ้ต้าร์... หนอย ไอ้หนวดแพะ มันริอาจยัดเบอร์โทรของมันใส่กระเป๋ากางเกงไอ้ต้าร์ด้วยเหรอเนี่ย ว่าแล้วก็ขอหยิบขึ้นมาดูสักหน่อยเหอะ... เผาโชว์กันให้เห็นจะๆ ไปเลยดีไหม
กระดาษแผ่นนั้นมีข้อความสั้นๆ เขียนเอาไว้ด้วยปากกา มีรอยเปียกน้ำทำให้ตัวหนังสือดูเลอะๆ แต่ก็พออ่านได้ว่า “โปรดติดตามตอนต่อไป”
-----------------------------------------------------
[Bonus หลังไมค์]
หลักจากที่โบ๊ทและต้าร์ซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เกตเสร็จ ทั้งคู่ก็ช่วยกันถือของไปเก็บที่รถ
โบ๊ท: ต้าร์ เอาเก็บไว้ที่เบาะหลังก็ได้ ที่กระโปรงหลังมันมันมีรองเท้ากับหนังสืออยู่
ต้าร์: อ้าวเหรอ โอเคๆ เปิดตูดิ
โบ๊ท: เปิดล็อคแล้ว
ต้าร์: ไม่ใช่ หมายถึงให้เปิดประตูรถให้หน่อย ถือของอยู่เนี่ย เห็นไหม ไม่มีมือแล้วเว้ย
โบ๊ท: อ้าว เออๆ ได้ครับๆ (//เปิดประตู)
ต้าร์: ตาตี่ก็เงี้ย มองอะไรไม่ค่อยจะเห็นสินะ
โบ๊ท: เดี๋ยวเอ็งจะโดนไม่ใช่น้อย
ต้าร์: ฮ่าๆๆๆๆๆ น่ากลัว (//ทำเสียงใหญ่ๆ)
โบ๊ท: อืมมมม น่ากลัวแน่ๆ ละ... ค่าของ 2,800 (//กล่าวออกมาลอยๆ ในขณะที่กำลังมุดหัวเข้าไปจัดของในรถ)
ต้าร์: (//เฮือก!!! อย่างนี้ต้องชิ่ง ว่าแล้วก็ทิ้งของแล้ววิ่ง 4x100)
โบ๊ท: โอ้ยยยย ไอ้เปี๊ยก ปล่อยของทับตีน... โอ้ยยยยย หัวโขกขอบประตู... ไอ้เปี๊ยก!!!!!
...และแล้ว เกมวิ่งไล่จับในลานจอดรถก็เริ่มขึ้น... เอย
--------------------------------------------------------------
FlapJack Corner:
เดี๋ยว หยุดก่อน อย่าเพิ่งกระทืบผม
ที่มาช้าเพราะว่า -งานเข้า- กว่าจะกลับถึงบ้านแต่ละวันก็ตี 2 เป็นอย่างต่ำ ไม่มีเวลานั่งแต่งจริงๆ จังๆ เลยมาช้าอย่างที่เห็น ต้องขอกราบอภัยแทบอกท่านผู้อ่านมา ณ ที่นี้ แต่รับรองได้ว่าจะแต่งไปเรื่อยๆ ไม่ทิ้งผู้อ่านอย่างแน่นอน (ถึงจะจำนวนไม่เยอะก็เหอะ 5555) สัญญาเลย เอาตูดไอ้ต้าร์เป็นประกัน
ต้องขอแจ้งไว้เลยว่า ณ จุดนี้ ตารางชีวิตยุ่งมาก และจะเป็นอย่างนี้ไปอีกอย่างน้อย 1 เดือนเต็มๆ เพราะฉะนั้นเดือนสิงหาคมนี้ ขอออกตัวไว้ก่อนเลยว่าอาจจะมาลงได้แค่ไม่กี่ตอนเท่านั้นนะครับ
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณทุกๆ คนที่ติดตามเรื่องนี้นะครับ โดยเฉพาะคุณ woodong มาดันให้ตลอดเลย ขอบคุณมากๆ ครับ
ผมสัญญา (ด้วยตูดไอ้ต้าร์อีกนั่นแหละ) ว่าจะไม่หายไปแบบมึนๆ ครับ