3P นะคะ
ไม่มั่นใจว่าเรทขนาดนี้แล้วจะเอามาลงที่นี่ได้หรือเปล่า...
ถ้าไม่ได้รบกวนช่วยลบด้วยนะคะ
- - - - - - - - - -
“ลงมือคืนนี้เลยใช่มั้ย” ภายในห้องอันเงียบงัน เสียงเรียบทุ้มเอ่ยถามแผ่วเบาจบแทบจับใจความไม่ได้
“หรือว่านายจะปล่อยโอกาสนี้ไป แล้วไปทำวันหลังล่ะ” ใครอีกคนในห้องตอบกลับด้วยน้ำเสียงและความดังที่ไม่ต่างกัน ราวกับว่าชายหนุ่มทั้งสองระแวงว่ายังจะมีบุคคลภายนอกมาได้ยินการสนทนาของพวกเขา ทั้งๆที่ในห้องก็มีกันอยู่แค่สองคนและไม่มีใครคิดจะมารบกวนชายหนุ่มสองคนนี้อยู่แล้ว นอกเสียจากว่าเขาจะไปกวนคนอื่นเองมากกว่า
“จะบ้าเรอะ!” ชายคนแรกขึ้นเสียง “โอกาสดีๆแบบนี้จะปล่อยไปได้ยังไง ขืนพลาดวันนี้ไปล่ะเสียดายตายเลย”
“แล้วจะถามทำไมล่ะ ในเมื่อตัวนายเองก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว” น้ำเสียงยียวนตอบกลับมา ถ้าไม่ติดว่ามีแผนอื่นที่วางไว้บวกกับนิสัยของทั้งคู่ที่ไม่ต่างกัน บางทีคืนนี้อาจจะเป็นการซัดปากเพื่อนร่วมแผนที่ปากเสียระยะสุดท้ายก็เป็นได้
“ชั้นถามเพื่อย้ำเฉยๆ ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำซักหน่อย” น้ำเสียงหงุดหงิดบ่งบอกอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด “อย่ามากวนให้มากจะได้มั้ยเนี่ย ถ้าพลาดคืนนี้ไปล่ะ มีหวังโดนด่าเป็นไอ้โง่สองตัวแน่”
“หึหึ อย่างเราสองคนน่ะ...ไม่เหมาะที่จะเป็นไอ้โง่ร้อก” ร่างสูงหัวเราะในลำคอเบาๆ ลำแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามคล้องคออีกฝ่าย “พวกเราน่ะ สมควรจะเรียกว่า’สารเลว’ต่างหากล่ะ ไม่ใช่โง่!”
นาฬิกาแขวนบนผนังบอกเวลากว่าเที่ยงคืน แต่แสงสว่างจากคอมพิวเตอร์ขนาดพกพาจากห้องนอนของเด็กหนุ่มร่างเล็กยังไม่ดับไป นิ้วมือเรียวถอนแว่นสายตาออกก่อนที่จะนวดขมับพร้อมหลับตาพักสายตาชั่วครู่ ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีรายงานสุมกองพะเนินสำหรับเด็กมัธยมปลายอย่างเขา ให้ทำมากมายขนาดนี้ในช่วงปิดเทอม ช่างไม่แตกต่างอะไรกับตอนเปิดเทอมเลย
คริสแหงนคอพิงกับพนักเก้าอี้ด้วยความเหนื่อยอ่อน เวลาที่เหลืออยู่ของการปิดเทอมยังคงมีอีกมากมาย มากพอที่จะทำให้เด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดปีทำรายงานไปเรื่อยได้อย่างสบายๆไม่รีบไม่ร้อนอะไร ถ้าไม่ติดว่ามีปีศาจสองตนที่คอยวนเวียนรบกวนเขาอยู่ในบ้าน
ปีศาจฝาแฝด...ที่แสนจะน่ารำคาญ จิกหัวใช้น้องชายคนเล็กในบ้านอย่างเขาได้ทุกวี่ทุกวัน เพราะบิดามารดาทำงานที่ต่างประเทศ จึงไม่ได้รับรู้เลยว่าลูกชายฝาแฝดแสนดี ท่าทางรักและเอ็นดูน้องนั้น นิสัยที่แท้จริงน่ะไม่ต่างอะไรกับปีศาจ มีแค่ต่อหน้าพ่อแม่ที่นานๆจะกลับบ้านครั้งเท่านั้นล่ะ ถึงจะทำดีกับน้องชายบ้าง
ปกติพี่ชายฝาแฝดวัยยี่สิบปีของเขาแทบจะไม่อยู่ติดบ้าน โดยเฉพาะช่วงปิดเทอมที่ทั้งสองจะออกท่องราตรี หาเหยื่ออยู่ในผับหรูที่ประจำ ใช้หน้าตาหลอกล่อหาหญิงสาวสักคนสองคนหรือมากกว่านั้น ผู้ที่ยินยอมพร้อมใจขึ้นเตียงกับพวกเขาทุกเมื่อ กลับบ้านมาก็นอนขลุกอยู่แต่ในห้อง จะเห็นหน้าแต่ละทีก็ตอนที่พี่ชายเขาหิวและลงมาหาอะไรกินเท่านั้น
แต่คราวนี้แปลกกว่าทุกครั้ง เมื่อทั้งแดนและโดมพร้อมใจจะสิงตัวอยู่ในบ้านไม่ออกไปไหน พร้อมกับให้เหตุผลง่ายๆว่า ไอ้การท่องราตรีติดต่อกันทุกคืนน่ะมันน่าเบื่อซะแล้ว สู้จิกหัวใช้น้องชายในบ้านดีกว่าเป็นไหนๆ!
น้องชายคนเล็กเลยรู้ตัวเป็นแน่แท้ว่า ปิดเทอมนี้คงไม่ได้มีเวลาออกไปเที่ยวพบปะกับเพื่อนฝูงที่ไหน แถมยังต้องเจียดเวลาทำรายงานอันแสนมีคุณค่า ไปรับใช้พี่ชายทั้งสองคนอีก เพราะฉะนั้นการรีบทำรายงานให้เสร็จๆไปจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด จะได้ไม่ต้องคอยรับใช้พี่ชายพร้อมพะว้าพะวนเรื่องรายงานไปด้วย
ใจจริงคริสก็อยากจะขัดขืนไม่ยอมทำตามคำสั่งพี่ชายแฝดของเขาเหมือนกัน ติดอยู่ที่ว่าพันธุกรรมจากทางบิดาผู้เป็นชาวอเมริกานั้น ตกไปเป็นของฝาแฝดหมด ไม่เหลือมาถึงเด็กหนุ่ม พี่ชายทั้งสองคนถึงได้หน้าตาที่หล่อเหลามาจากพ่อ เรือนผมสีน้ำตาลทองแปลกตา และรูปร่างสูงใหญ่อย่างชาวต่างชาติ ถึงจะชอบเที่ยวกลางคืนแต่การที่เป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลในมหาวิทยาลัย ทำให้ร่างที่สูงเป็นทุนเดิมยังเต็มไปด้วยมัดกล้ามจากการเล่นกีฬา ผิวสีแทนสวยจากการออกกำลังกายกลางแจ้ง แตกต่างกับน้องชายอย่างสิ้นเชิง
คริสได้รูปร่าง ผิวพรรณและหน้าตามาจากมารดามาทั้งหมด สิ่งที่ได้จากมารดาผู้เป็นหญิงไทยเชื้อสายจีน คือใบหน้าเรียวที่ติดออกหวาน และด้วยความที่คริสไม่ใช่นักกีฬาอย่างพี่ชาย แต่เป็นเด็กเรียนที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการท่องตำราอ่านหนังสือ ผิวพรรณที่ไม่เคยถูกแดดถูกลมจึงยังคงเป็นสีขาวอมชมพูเนียนละเอียด และด้วยความที่โตช้ากว่าเด็กวัยเดียวกัน ทำให้ความสูงของเขายังคงเพียงสูงเกินมารดามาไม่กี่นิ้ว แต่เตี้ยกว่าพี่ชายเกือบฟุต!
ถ้าจะให้เขาไปสู้กับพี่ชาย ก็คงเหมือนเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุงชัดๆ แถมยังเป็นซุงสองท่อนอีกต่างหาก!
“ก็อกๆ” เสียงเคาะประตูกวนใจดังขึ้น ไม่ต้องลุกไปดูก็เดาออกได้ว่าเป็นใคร จะมีใครซะอีกล่ะที่กล้ารบกวนชาวบ้านในยามวิกาลแบบนี้ นอกจากเสียจากไม่คนใดก็คนหนึ่งจากฝาแฝดนรกที่ไม่เคยมีคำว่าเกรงใจและมารยาทให้กับน้องชายคนนี้เลย
คริสเงียบ ไม่ส่งเสียงและไม่ลุกออกไปเปิดประตู เวลานี้มันดึกเกินกว่าที่จะเรียกใช้เขาแล้ว ยิ่งเขาเงียบ คนที่รออยู่ภายนอกก็ยิ่งเคาะประตูดังและถี่ขึ้นเรื่อยๆ ถ้าประตูไม่ได้ล็อกไว้ฝาแฝดคงจะเปิดประตูเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตนั่นล่ะ
“ผมนอนแล้ว” เด็กหนุ่มตอบกลับไปสั้นๆ แต่คำตอบที่ได้รับคือเสียงตะโกนกลับมา
“อย่ามาโกหก ลุกมาเป็นประตูเดี๋ยวนี้ซะไอ้คริส คนที่นอนแล้วน่ะ เขาไม่เปิดไฟในห้องทิ้งไว้แบบนี้หรอก”
“ก็ผมกำลังจะนอนแล้วนี่ไง นี่ก็ดึกแล้ว มีอะไรค่อยคุยพรุ่งนี้ไม่ได้หรอพี่ วันนี้ผมเหนื่อยแล้ว อยากนอน”
“แกจะลุกออกมาดีๆมั้ยห๊ะไอ้คริส ถ้าแกไม่ลุกมาเดี๋ยวนี้ พรุ่งนี้เช้าเตรียมหยอดน้ำข้าวต้มได้เลย พวกเรามีธุระด่วนจะคุยกับแกนะเว้ย”
น้ำเสียงที่นอกจากจะขมขู่แล้วยังมีเสียงหักนิ้วตามมา บ่งบอกได้เลยว่าคนพูดทั้งสองคนเอาจริงแน่ ทำให้น้องชายคนเล็กที่รู้ตัวดีว่าสู้แรงไม่ไหว ต้องจำใจลุกขึ้นไปเปิดประตูให้พี่ชายทั้งสองอย่างระอาใจ ละทิ้งรายงานที่ทำค้างไว้ก่อน
“มีอะไรก็ว่ามา”
คริสยืนบังประตูไม่ให้ทั้งสองคนเข้ามาในห้องส่วนตัวของตัวเอง แต่ก็สู้แรงโดมที่ผลักเขาเบาๆแต่ก็แรงพอจะทำให้ร่างเล็กกระเด็นออกไปได้ ทั้งสองคนเดินเข้าห้องน้องชายโดยไม่ต้องรอขออนุญาต ฝาแฝดนั่งลงบนเตียงของเด็กหนุ่มอย่างถือวิสาสะ คริสนั่งหันหลังให้พี่ชาย สนใจงานที่ทำค้างไว้ต่อ
“ตกลงพวกพี่มีอะไร” น้ำเสียงจากร่างเล็กเหนื่อยอ่อนอย่างเห็นได้ชัด ทั้งเหนื่อยกายจากงานและเหนื่อยใจจากนิสัยของพี่ชายทั้งคู่
ความจริงแล้วทั้งสองมีใบหน้า อุปนิสัย การพูดจาและรสนิยมที่เหมือนกันจนแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร เพราะสีผมที่ต่างกัน สีน้ำตาลทองธรรมชาติคือแดนหรือแดเนียล สีควันไฟจากน้ำยาสังเคราะห์คือโดม หรือโดมินิค นั่นล่ะถึงทำให้เด็กหนุ่มแยกออกได้
“แกก็รู้ใช่มั้ยว่าช่วงนี้พวกเราไม่ได้ออกไปเที่ยวไหน เลยไม่ค่อยมีสาวให้ควงน่ะ” ชายหนุ่มผมสีควันไฟบอกกับน้องชายด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“อืม แล้วไงอ่ะ” เด็กหนุ่มถามต่ออย่างไม่เข้าใจความหมายที่พี่ชายต้องการจะสื่อ
“จะบอกให้ก็ได้ไอ้น้องชาย...ก็คือ” แดนเว้นว่างให้น้องชายคิดเล่นๆ “พวกเราคึกว่ะ”
“เอ้า! แล้วพวกพี่จะมาบอกผมทำไมล่ะ” ใบหน้าหวานล่ะสายตาจากจอคอมพิวเตอร์หันมามองฝาแฝดอย่างมึนงง รอยยิ้มแสยะของพี่ชายทั้งสองถูกส่งให้กับน้องชายร่างเล็ก
“เฮ้ย แกก็เป็นน้องพวกเรามาตั้งนานแล้ว ไม่สนใจขยับฐานะหน่อยหรอวะคริส”
“ท่าจะบ้า” เสียงพึมพำเบาๆดังขึ้นมาจากเด็กหนุ่ม “ขยับฐานะอะไรของพี่ ไร้สาระชะมัด นี่อ่ะนะธุระที่จะคุยด้วยน่ะ” ดวงหน้าหวานหันกลับไปให้ความสนใจรายงานวิชาสังคมฯอีกครั้ง ไม่สนใจพี่ชายทั้งสองคนที่ยิ้มให้กันอย่างมีเลศนัยแม้แต่น้อย
“หึ...ก็เรื่องแบบนี้ไง...ที่เรียกว่าขยับฐานะ”
รู้ตัวอีกทีร่างเล็กของเด็กหนุ่มลอยหวืดขึ้นจากเก้าอี้ทำงาน ด้วยแรงยกจากพี่ชายผมสีน้ำตาลอ่อน เหมือนกับว่าร่างกายของน้องชายเบาหวิวราวกับปุยนุ่น
แรงเหวี่ยงจากแดนส่งผลให้คริสร่วงตุ้บลงบนเตียงนอนของตนเอง พี่ชายอีกคนพุ่งเขามากดเด็กหนุ่มไว้กับพื้นฟูกและยึดข้อมือทั้งสองไว้แน่นด้วยมือเพียงข้างเดียวอย่างรวดเร็ว น้องชายที่ตอนนี้พอเดาได้รางๆว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองถึงกับร้องเสียงหลง
“พวกพี่เล่นบ้าอะไรกันวะ ปล่อยนะเว้ย!”
เด็กหนุ่มพยายามทั้งสะบัดทั้งถีบ แต่มีหรือที่น้องชายตัวเล็กจะสู้แรงชายร่างใหญ่ที่มีร่างกายแข็งแรงกำยำเฉกเช่นนักกีฬานั้นได้ ร่างสูงที่ล็อคข้อมือทั้งสองแน่น ขยับให้อีกคนขึ้นมาบนเตียง ร่างทั้งสามร่างทำให้เตียงขนาดกลางแคบเล็กไปทันได้ แดนยึดข้อเท้าของน้องชายไว้พร้อมกับดึงกางเกงชุดนอนที่ไม่ได้แน่นหนาอะไรนักออกอย่างง่ายได้
“อย่าดิ้นสิวะไอ้น้องชาย” เสียงทุ้มของโดมบอกกับเด็กหนุ่ม มือหนาที่ว่างอีกข้างหนึ่ง กระชากฉีกทึ้งเสื้อนอนแบบติดกระดุมของคริสออกอย่างไม่มีชิ้นดี ร่างเล็กที่พยายามดิ้นหนีเกิดกลัวพี่ชายขึ้นมาจับใจ
“ปล่อยผมนะ! ไม่ว่าคิดจะเล่นตลกอะไรก็ตาม แต่ผมสั่งให้ปล่อยเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นถ้าแม่กลับมาผมจะบอก...อื๊อ!“
ยังไม่ทันที่จะขู่จบประโยคดี ริมฝีปากของโดมก็จู่โจมลงมาอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากบางที่อ้าค้างจากการพูดถูกลิ้นหนาสอดใส่เข้ามาอย่างง่ายดาย ร่างเล็กพยายามที่จะงับลิ้นของพี่ชายหลายครั้งแต่ก็ชายหนุ่มผู้ผ่านสนามรบบนเตียงมามากกว่าก็พลิกหลบได้ทุกที เรียวลิ้นที่แทรกแซงเข้ามาอย่างช่ำชอง ทำให้น้องชายผู้ไร้ประสบการณ์เคลิ้มตามในเวลาไม่นานนัก ลิ้นเล็กจูบตอบอย่างไร้เดียงสา ท่าทีที่ขัดขืนก็อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ชายอีกคนที่มองอยู่หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ
ฝาแฝดไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพันธนาการน้องชายอีกต่อไป แขนที่หลุดเป็นอิสระของเด็กหนุ่มคล้องรอบคอของโดมที่เบี่ยงร่างไปกึ่งนั่งกึ่งนอนข้างๆแทน พอพี่ชายจะถอนปากออกร่างเล็กก็รั้งคอไว้แน่น ราวกับว่าไม่อยากละจากจุมพิตแสนหวานที่สร้างความรู้สึกชวนมึนเมานี้ไป แดนขยับขึ้นมาคร่อมทาบทับร่างเล็ก ลิ้นหนาไล่เลียตั้งแต่ลำคอขาวลงมาเรื่อย คริสส่งเสียงในคอเหมือนรำคาญ แต่เมื่อปลายลิ้นหนาลากลงมาจนถึงปุ่มนูนกลางอกที่ล่อตาล่อใจ และตวัดลิ้นหยอกล้อยอดอกที่ชูชันตามแรงอารมณ์ของผู้เป็นเจ้าของ อาการของคริสก็เปลี่ยนไป เด็กหนุ่มร่างบางยอมละทิ้งจูบที่แสนเร่าร้อนของโดม เสียงสั่นเครือพยายามร้องห้ามปรามพี่ชายอีกคนที่เริ่มดูดดึงยอดอกของเขาเป็นจังหวะ
“อึก...ยะ..อย่า..พี่แดน..ผมรู้สึก...แปลกๆ...อ๊ะ” ฟันขาวงับแกล้งที่ปุ่มนูนนั้นแรงๆ น้องชายร้องเสียงหลงขึ้นมาทันได้ ความรู้สึกเจ็บแปลบปนเสียวซ่านแล่นริ้วขึ้นมาทั่วร่างกายของเด็กหนุ่ม ด้วยความไม่รู้ประสีประสาทำให้คริสเกิดอาการมึนเมาได้อย่างง่ายดายอีกครั้ง
แม้ริมฝีปากจะยังคงหยอกล้อกับยอดอกรสหวาน มือใหญ่ก็ของแดนลากลงต่ำ จากหน้าท้องเรียบเนียนลงไปสู่ส่วนล่างที่นูนขึ้นมาจากกางเกงชั้นใน ปลดเปลื้องปราการชิ้นสุดท้ายออกไป นิ้วเรียวกอบกุมแก่นกายที่แข็งขืนของน้องชาย กำรอบขนาดแล้วรูดขึ้นลงช้าๆ เสียงหวานครางฮืออย่างพึงพอใจ
กลุ่มเรือนผมสีน้ำตาลทองขยับลงมาสู่เบื้องล่าง ไล่เลียสะดือเล็กบุ๋มที่หน้าท้อง คริสรู้สึกโหวงๆไปทั่วกาย รู้สึกติดใจการปรนเปรอของแดนที่ยอดอกนั้น ดวงตาหยาดเยิ้มมองที่เจ้าของเรือนผมสีควันอย่างมีความหมาย มือเล็กเด็ดดึงขยี้ปุ่มนูนข้างหนึ่งของตัวเอง ยั่วยวนเรียกร้องให้โดมลิ้มลองมันเหมือนที่พี่ชายอีกคนทำ
“หึๆ” เสียงหัวเราะในลำคอพี่ชายทั้งสองคนดังขึ้นเบาๆ แทบไม่น่าเชื่อว่าภายใต้ท่าทางเด็กเรียนที่แสนเรียบร้อยนั่น น้องชายเขาจะปลุกได้ง่ายดายขนาดนี้ ร่างกายที่อ่อนไหวรับรู้ความสัมผัสหวาบหวามได้อย่างรวดเร็ว การยั่วยวนจากสัญชาติญาณนั่นก็ทำได้ดีกว่าที่คิดไว้มาก
โดมประกบริมฝีปากลงบนอกตามที่น้องชายเรียกร้อง พี่ชายอีกคนถดตัวลงมาต่ำกว่าเดิม มือที่กอบกุมแก่นกายของน้องชายถูกละออก ร่างเล็กร้องเบาๆเหมือนขัดใจก่อนจะครวญคราง เมื่อสัมผัสต่อมาที่ได้รับจากแดนคือช่องปากร้อนผ่าวที่กลืนกินเขาอย่างร้อนแรง
“อะ...อา~”
เรียวลิ้นตวัดรอบรอยหยักนั้น ก่อนโพรงปากชื้นจะขยับรูดขึ้นลง จากจังหวะเชื่องช้าแปรเปลี่ยนเป็นความเร็วที่มากขึ้น ร่างเล็กแอ่นสะโพกเข้าหาพี่ชายด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน ดวงตาทั้งคู่ของคริสพร่าพราย ร่างกายบิดเร้าอย่างรัญจวนใจ จากการปรนเปรอของพี่ชายทั้งสองคน เสียงครวญครางหลุดออกมาไม่ขาดจากริมฝีปากบางที่บวมช้ำจากรสจูบ เมื่อถึงจุดสูงสุดของความต้องการ เด็กหนุ่มแอ่นร่างขึ้นก่อนจะปลดปล่อยความสุขสมออกมา
“อ๊า!”
ร่างเล็กนอนนิ่งหอบหายใจ โดมขยับจากอกบางขึ้นมางับที่ติ่งหูของน้องชายเบาๆ เด็กหนุ่มสะดุ้งวาบ ขนลุกตั้งชัน ยิ่งเสียงกระซิบแผ่วเบาที่ตามมา ยิ่งทำให้ดวงหน้าขาวขึ้นสีแดงจัด
“ทำให้พี่บ้างสิครับคริส” ใบหน้าหล่อเหลาของปีศาจในคราบเทพบุตรมองอย่างออดอ้อน ไม่ต้องเดาคำตอบ มือเล็กรูดซิบกางเกงพี่ชายออกอย่างสั่นระริก ดวงตาจับจ้องความเป็นชายที่หนั่นนูนออกมาอย่างไม่วางตา ไม่ได้สังเกตเห็นถึงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างพึงพอใจของทั้งสองคน ที่หลอกล่อเหยื่ออย่างน้องชายให้ตกลงไปในบ่วงตัณหานี้ได้
เด็กหนุ่มค่อยๆดึงชั้นในของโดมออกอย่างเชื่องช้า แก่นกายขนาดใหญ่ที่ดีดผึงออกมาทำให้ร่างเล็กลอบกลืนน้ำลาย ริมฝีปากครอบครองส่วนนั้นของพี่ชายด้วยความกล้าๆกลัวๆ รสสัมผัสที่ไร้เดียงสาทำให้ชายหนุ่มตื่นตัวมากกว่าเดิม แม้แต่คนมองอย่างแดนก็ยังรู้สึกได้ว่าน้องชายเขามันเซ็กซี่อย่างเหลือร้ายจริงๆ
โพรงปากอุ่นกลืนกินความใหญ่โตของพี่ชายเข้าไปลึกจนเกือบสุด เด็กหนุ่มขยับริมฝีปากพร้อมปลายลิ้นอย่างเชื่องช้าดั่งที่ได้รับสัมผัสมาจากพี่ชายอีกคน แก่นกายที่เพิ่งปลดปล่อยไปเมื่อครู่ของเด็กหนุ่มกลับขึ้นมามีอารมณ์อีกครั้ง ขาเพรียวถูกถ่างออกกว้างด้วยฝีมือของชายหนุ่มเรือนผมสีน้ำตาล โดยไม่มีอาการขัดขืนของน้องชายอีกต่อไป
ช่องทางเร้นลับปรากฏขึ้นในสายตาของแดน ชายหนุ่มจู่โจมประกบปากกับช่องทางร้อน ร่างเล็กสะดุ้งเฮือก เด็กหนุ่มพยายามส่งเสียงประท้วงขึ้นมาในลำคอ แต่ก็ติดแก่นกายของพี่ชายอีกคนที่คับแน่นเต็มริมฝีปาก แดนห่อลิ้นและเริ่มสำรวจปากทางที่แสนหวาน
“อื้อ..อือ” ร่างเล็กร้องครางในลำคออย่างทรมาณ เมื่อริมฝีปากนั้นถูกแปรเปลี่ยนเป็นนิ้วยาวที่สอดแทรกเข้ามาในร่างกายอย่างคุกคาม ช่องทางที่ไม่เคยมีสิ่งใดรุกล้ำของไปรัดนิ้วเรียวแน่น โดมกระซิบปลอบประโลมน้องชายอย่างแผ่วเบา
“ไม่เป็นไรนะคริส อย่าเกร็ง...ค่อยๆผ่อนลมหายใจช้าๆ อย่างนั้นล่ะ”
พี่ชายอีกคนกลับไปใช้ริมฝีปากปรนเปรอให้กับส่วนที่ตื่นตัวของร่างเล็กพร้อมกับขยับนิ้วเข้าออกอย่างเชื่องช้า เมื่อช่องทางของคริสผ่อนคลายลง เพียงไม่นานสะโพกขาวก็ขยับตามนิ้วเรียวของพี่ชาย พร้อมๆกับที่เขาใช้ปากให้โดมไปด้วย
“อืม~”
แดนเพิ่มจำนวนนิ้วที่สอดแทรกเข้าไปเรื่อยๆ จนช่องทางที่คับแน่นเริ่มขยายออกมากกว่าเคย ยิ่งชายหนุ่มขยับนิ้วหมุนวนเร็วเท่าไหร่ ร่างเล็กก็ขยับสะโพกตามอยู่ไม่ห่าง เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลแกล้งกระชากนิ้วออกอย่างรวดเร็ว เรียกเสียงประท้วงจากร่างเล็กได้อย่างดี ชายหนุ่มปลดกางเกงออก คริสละริมฝีปากออกจากแก่นกายของพี่ชายผมสีควันอย่างทันใด เมื่อช่องทางคับแน่นบริสุทธิ์ถูกแทนที่ด้วยสิ่งที่ใหญ่กว่านิ้วหลายเท่านัก
“ไม่!..ฮึก..พี่แดน..ไม่เอา..ผมเจ็บ!”
จากเสียงครวญครางแปรเปลี่ยนเป็นเสียงสะอื้นแผ่วเบา ช่องทางที่ฝืดเคืองทำให้แดนกดสะโพกเข้าไปอย่างลำบาก พี่ชายอีกคนก้มลงดูดลำคอขาวเนียนจนเป็นจ้ำ มือใหญ่ของโดมช่วยปลุกเร้าร่างกายส่วนอื่นของคริสแทน
“อา...” เสียงครางแผ่วเบาเป็นสัญญาณให้แดนกระแทกแก่นกายเข้าไปในปากทาง หยาดน้ำตาไหลรินจากดวงตาคู่งามของน้องชายไม่ขาดสาย ความรู้สึกของคริสตอนนี้คือทั้งจุกทั้งเจ็บปวดทรมาณ เลือดเริ่มไหลซึมจากช่องทางที่ฉีกขาด แต่เมื่อพี่ชายเริ่มขยับแก่นกายที่แทรกตัวอยู่ในร่างของเขาช้าๆ ความรู้สึกเสียวซ่านก็สอดเทรกเข้ามาพร้อมความเจ็บปวด สมองของเด็กหนุ่มมึนงง จากที่ดิ้นหนีกลับรู้สึกหวาบหวิวไปกับตรงนั้น
คริสรั้งคอพี่ชายอีกคนเข้ามาจูบแลกลิ้น ร่างกายที่ตอนนี้เริ่มคุ้นชินไปกับการสอดใส่เริ่มขยับสวนกับพี่ชาย ช่องทางหวานตอดรัดอย่างเย้ายวนทุกคราที่แดนขยับตัว ชายหนุ่มเร่งจังหวะให้ถี่เร็วขึ้นกว่าเดิม
“อึก...อื้อ~~” เสียงเล็กครวญครางอย่างพึงพอใจ เมื่อความเสียวซ่านขึ้นสู่จุดสูงสุด อารมณ์ความต้องการของเด็กหนุ่มก็ล้นทะลัก สายธารแห่งความสุขถูกปลดเปลื้องออกมาเต็มหน้าท้องแกร่งของร่างสูง ในขนาดเดียวกันช่องทางด้านหลังก็ตอดรัดอย่างรุนแรง พี่ชายอดกลั้นกระแทกตัวลงไปไม่กี่ครั้ง หยาดน้ำอุ่นก็พุ่งฉีดเข้าสู่ร่างกายของน้องชาย
- - - - -
ต่อ rep ต่อไปนะคะ