^
^
^
ยินดีคร้าบ
+1 ให้ด้วย จะได้มาอีก
ตอบเม้นย้อนหลังต่อครับผม...........
เอ่อ กิมตี๋หัดขับ นี่สเป็กเหรอครับ เหมือนไม่ทีสเป็กนะ
น้องหนิง ยินดีด้วยจ้า ... เหนื่อยขนาดไหน วันนั้น แต่เห็นหน้า พ่อแม่ ปูย่า ตายาย แล้ว หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย
ตอนสมัยพี่รับ พี่ต้องเข้าหอประชุมตั้งก่อน 8 โมง อะไรก็ยังไม่ได้กินเลย ถ่ายรูปกัน แล้วกว่าจะเสร็จ บ่าย หิวมากกกกกกกกกกกก
แต่พอออกมาถ่ายรูป ได้เห็นท่าน ๆ ยิ้มอย่างมีความสุข เชื่อเปล่า พี่ลืมความหิวไปเลย
และที่พี่ปลื้มก็คือ พ่อแม่ ออกมาปุ๊บ แม่กลัวหิว แม่เอาน้ำ ข้าวเหนียว เนื้อทอด มาป้อนให้พี่กับปากเลย
แบบญาติ ๆ จะถ่ายรูปกัน แต่แม่บอก ให้แจ็คมันพักก่อน แล้วแม่ก็ป้อนข้าว ป้อนน้ำ บอกพี่ว่าไม่ต้องจับหรอก เดี๋ยวมือจะเปรอะ
ต้องถือใบปริญญาอีก แล้วคุณยายพี่อีก น้ำตาไหลเลย แบบเป็นหลานคนแรกที่รับปริญญา (พี่ชายพี่เรียนช่าง ปวส. แล้วก็ไปทำงาน)
แบบนี้แหละทำให้พี่หายเหนื่อยเลย แต่พอเสร็จงานแล้วจะไปหาที่ฉลองกันนั้น หิวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
^
^
^
ตอนแรกว่าจะไม่บอกละครับ แต่สุดท้าย.....เอาวะบอกละกัน..........
เชื่อมั้ยล่ะครับถ้าผมจะบอกว่าปริญญาทั้งสองใบของผม ไร้ซึ่งเงาของทั้งพ่อแม่พี่น้องและญาติสนิท!!
ทำไมถึงเป็นอย่างงั้นใช่มั้ยครับ?
เรื่องของเรื่องก็คือปริญญาใบแรก เป็นปริญญาที่ผมจบจากมหาลัยที่ผมเอ็นท์ติดในอีกหนึ่งปีต่อมาน่ะครับ
ตอนนั้นผมมีปัญหากับที่บ้านประมาณนึง บวกกับการเรียนที่นี่เป็นการแอบเรียน(อย่างที่ผมได้บอกไปแล้ว) นั่นทำให้ผมกลัวว่าถ้าผมบอกที่บ้านไป ไอ้ที่เรากำลังมาคุใส่กันอยู่มันจะยิ่งมึนตึงอ่ะครับ
ผมก็เลย..........ตัดสินใจไม่รับปริญญามันซะเลยดีกว่า
ส่วนใบที่สอง ใบนี้เป็นใบที่จบจากราม อาจจะนานหน่อย (6 ปี) แต่ก็จบได้ในที่สุด
อ่อ....แต่ต้องบอกก่อนว่าที่จบช้าเนี่ย ไม่ใช่เพราะโง่ดักดานหรืออะไรหรอกนะครับ แต่มันเป็นเพราะ...เอิ่ม........เอาตรงๆ เลยละกัน
ปีแรก ผมเข้าโบสถ์และบ้ากิจกรรม นั่นจึงทำให้ผลการเรียนออกมาค่อนข้างแย่
ปีสอง สาม สี่ ห้า ผมเอ็นท์ติดและได้เรียนที่ใหม่ ก็เลยต้องโฟกัสไปที่ที่ใหม่ก่อน
เรื่องการเรียนที่รามก็เลยลงไว้แต่ไม่ได้ไปสอบบ้าง ไปสอบแล้วแต่หาตึกไม่เจอบ้าง บางทีเจออากาศร้อนๆ ก็นึกไม่อยากสอบขึ้นมาซะงั้นบ้าง ก็สุดแล้วแต่ว่าจะหาเหตุผลอะไรมาแก้ตัวแหละครับ
จนปีหกนั่นแหละ ผมถึงรีบเก็บให้หมดๆ
กว่าจะจบได้แทบรากเลือดกันเลยทีเดียว
ส่วนเหตุผลที่ไม่มีพ่อแม่มาร่วมแสดงความยินดี เป็นเพราะเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนกันเล็กน้อยครับ เป็นความคลาดเคลื่อนที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย
เหตุมันเกิดจาก ผมโทรไปถามที่บ้านว่าอยากมารับปริญญาผมรึปล่าว คือที่ถามเพราะแม่ผมท่านไม่เคยขึ้นมากรุงเทพเลยน่ะครับ ผมก็เลยกลัวว่าท่านจะลำบากรึปล่าว ก็เลยถามไปด้วยความเป็นห่วง แต่พ่อกับแม่ผมดันเข้าใจว่าที่ผมถามเป็นเพราะผมไม่อยากให้ท่านขึ้นมาซะงั้น (กลัวว่าผมจะอายเพื่อน.......เอ่อ...ดูท่านคิดกันสิครับ) ท่านก็เลยพูดกึ่งๆ ประชดอะไรซักอย่างนี่แหละจำไม่ได้
ไอ้ผมด้วยความไม่รู้ก็เลยคิดว่าท่าน(คง)ไม่อยากมา(สินะ) ผมก็เลยบอกว่างั้นก็ไม่ต้องมาละกัน เพราะผมจะไม่รับปริญญาแล้ว......น่านนนนน....เป็นงั้นไป....
นั่นแหละครับ ปริญญาใบที่สองก็เลยเป็นหมันตามใบแรกไปอีกใบ
ทุกวันนี้ผมก็เลยมีแต่ใบปริญญา ทรานสคริปท์ ฯลฯ แต่ไม่มีรูปถ่ายที่ถ่ายอย่างมีความสุขกะคนอื่นเค้าเลยซักใบ
จำได้เลยว่าวันที่เพื่อนๆ ผม(จากทั้งสองสถาบัน)กำลังมีความสุขกัน ผมกลับต้องนั่งทำมิวสิควีดีโออยู่ที่ห้องคนเดียวด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจที่ใครๆ ก็ไม่รัก
..........น่าสงสารมั้ยครับ..........
ความแตกต่างอืม จะว่าน้อยก็น้อย เยอะก็เยอะนะครับ แฟนคนแรกผมขอแทนชื่อเลยละกันครับ เค้าชื่อวินด์
1. วินด์ชอบเล่นกีฬาที่เล่นกันเป็นทีม แล้วเล่นได้เก่งเกือบทุกอย่าง กีฬาโปรดเค้าคือบาสกับบอล
ขณะที่ผมชอบเล่นกีฬาที่ต้องใช้แร็กเกตเช่น แบต เทนนิส ไม่งั้นก็ว่ายน้ำครับ
แต่บางทีผมก็ไปเล่นบาสกับเค้า เพราะผมเองก็ชอบเล่นบาสด้วย แต่บอลนี่ผ่านเลยครับ เพราะเตะไม่เป็น
2. วินด์ชอบเล่นกีต้า แต่ขณะที่ผมสีซอให้วินด์ฟัง
3. วินด์ชอบกินอาหารอิตาเลี่ยน ไม่ชอบกินผัก ขณะที่ผมชอบกินอาหารญี่ปุ่น แล้วก็บริโภคผักอย่างกับเป็นวัวเป็นควาย
4. วินด์ชอบกินอาหารทะเล ขนาดที่ผมเจออาหารทะเล จะเขี่ยทิ้งเป็นอันดับแรก เว้นแค่พวกปลาที่ผมจะกิน แต่ถ้าเป็นกุ้ง ปู ปลาหมึกนี่ผมยกให้เค้าเลยถ้ามาสดๆ แต่ถ้าใส่มาในอาหารแล้วอันนั้นผมจะกินครับ เว้นแต่ปลาหมึกที่ยังไงก็ไม่กิน
5. วินด์เป็นพวกเข้าสังคมเก่ง เป็นฝ่ายชอบเริ่มต้นเข้าหาคนอื่นก่อน ส่วนผมเป็นพวกนิ่งๆ เงียบๆ ไม่ค่อยพูด ถ้ายังไม่รู้จักกัน (แบบว่าขี้อายอะครับ)
6. วินด์มักเข้ากับเด็กได้ดี แบบว่ารายนั้นเค้าเป็นนักเอนเตอร์เทนตัวยง เล่นอะไรกับเด็กก็ได้หมด (ไม่น่าซิ เด็กในสังกัดมันเลยเยอะ )
ส่วนผมเข้าหาทางผู้ใหญ่ได้ดีกว่า แบบว่าผมไม่รักเด็ก
7. วินด์กลัวผีมากกกกก แล้วก็เชื่อเรื่องพวกผีสาง ปอบ หรืออะไรทั้งหลายแหล่ ขณะที่ที่ผมไม่กลัวผี แล้วก็ไม่เชื่อเรื่องพวกนั้น
8. เวลาเรียนวินด์จะตั้งใจเรียนมากกว่าผม แม้ว่าวิชานั้นจะน่าเบื่อขนาดไหนก็ตาม ขณะที่ผมหลับ แอบอ่านหนังสือการ์ตูน ไม่ก็เอางานอื่นมาทำ ถ้าเป็นวิชาที่ผมไม่สนใจหรือมันน่าเบื่อ -_-"
แต่พอคะแนนสอบออกมา มันก็น้อยกว่าผมตลอด 555+
9. วินด์เป็นพวกโกรธง่าย หายเร็ว แต่ผมจะโกรธยาก แล้วก็หายยาก ส่วนใหญ่ถ้าเวลาทะเลาะกัน โดยมากแล้วเค้าจะเป็นคนมาง้อผมซะส่วนใหญ่
เวลาวินด์โกรธจะดูง่ายมาก เพราะมันจะเสียงดัง โวยวาย ส่วนผมจะแบบโกรธเงียบ ไม่คุย ไม่อยากเจอหน้า ถามไม่ตอบไม่งั้นก็พูดคำตอบคำอะไรอย่างนั้นครับ
10. ผมชอบหนังแนวดราม่า โรแมนซ์ หรือหนังสยองขวัญทั้ง thriller horror ส่วนวินด์ชอบแอกชั่นไซไฟ กับหนังตลก
11. ผมชอบดูซีรีย์ญี่ปุ่น แต่วินด์ชอบซีรีย์เมกา...แต่เราสองคนไม่ชอบดูละครไทยเหมือนกันทั้งคู่
12. ถ้าพูดถึงความโรแมกติก วินด์เป็นคนโรแมนติกมากกว่าผมครับ แต่ผมจะเป็นพวกเก็บรายละเอียดทุกอย่างเวลาคบกัน
13. ตอนนอนวินด์มันจะมีชุดนอนเป็นเซตของมันเลย ขณะที่ผมเสื้อยืด เกงบอล เวลานอนในห้องแอร์ วินด์จะชอบปรับแอร์ต่ำๆ แล้วก็ห่มผ้าซะหนา (แล้วมันจะเปิดต่ำๆทำไมของมันฟระ ) ส่วนผมชอบเปิดพอดีๆ ที่ 25 องศา ช่วยชาติประหยัดไฟ (แบบว่าสมัยก่อนเป็นคนขี้หนาวครับ )
14. ผมชอบเที่ยวป่าภูเขา หรือน้ำตก ขณะที่วินด์ชอบไปเที่ยวทะเล
15. ผมชอบผู้หญิงเรียบร้อย แต่มีไหวพริบ ขณะที่วินด์มันชอบผู้หญิงสวย ใส ไร้สติ (มันจะหลอกมาฟันหรือไงฟระนิ )
สุดท้าย....วินด์ชอบให้ผมนั่ง.... แต่ขณะที่ผมชอบให้วินก้ม....
จริงๆคงมีอีกเยอะมากหละครับ แต่ถึงเราจะต่างกันขนาดไหน แต่ผมว่าเวลาคบกันแล้ว ไอ้เรื่องพวกนี้เราก็จะมองข้ามมันไปเองครับ
หรือไม่งั้นพอคบกันมันก็จะปรับตัวเข้าหากันเองโดยอัตโนมัติอะครับ
^
^
^
ขอแจมด้วยนะครับ แต่ขอข้ามข้อที่เม้นแจ๊คไปแล้วละกัน
ข้อหนึ่ง === ผ่าน
ข้อสอง === เรื่องดนตรีเล่นเป็นหลายอย่างมาก แต่ไม่เก่งซักอย่าง
ข้อสาม === อาหารผมกินได้หมด ยกเว้นพริก ของดิบทั้งหลาย และปลาร้า!
ข้อสี่ === อาหารทะเลนี่ของโปรดผมเลย โดยเฉพาะกุ้ง
ข้อห้า === เรื่องเข้าสังคม ผมแล้วแต่กรณีครับ ถ้าเป็นที่ที่มีคนรู้จักเยอะ ก็จะเป็นตัวฮา แต่ถ้าเป็นทางการนิดหรือมีแต่ผู้ใหญ่ก็จะออกแนวขรึมๆ หน่อย
ข้อหก === ผมรักเด็กมาก เห็นแล้วอยากกอด อยากหอม อยากอุ้ม
ข้อเจ็ด === ผมเป็นคนไม่ค่อยกลัวผี กลัวความมืดมากกว่า
ข้อแปด === ผ่าน
ข้อเก้า === ผมอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อ่ะ อะไรมากระทบหน่อยจะไปทันที แต่ไม่วีน ไม่เหวี่ยงนะ ถ้าไม่พอใจจะเงียบมากกว่า
ข้อสิบถึงสิบห้า === ผ่านครับผม
อ่านแต่ละคู่ เหมือนเติมเต็มกันและกันมากกว่านะค๊ะ มีอะไรที่ชอบเหมือนกันบ้างก็ดีไปอย่าง เพราะเราทำร่วมกันได้
แต่อันไหนที่ต่างก็ช่วยเสริมกันและกัน น่ารักดี ชอบที่หลายคู่มองออกว่าเรากับแฟนเหมือนและต่างกันยังไง
เพราะทำให้เราเข้าใจและแชร์กันได้ บ้างคู่มองไม่ออกก็คงทะเลาะกันตาย ประมาณว่าทำไมเธอไม่อย่างนั้นอย่างนี้
หรือเลิกกันเพราะไม่เหมือนกัน แล้วให้เหตุผลว่า เราต่างกันเกินไป
^
^
^
เค้าถึงบอกไงครับว่าเพราะความต่างนี่แหละที่เป็นฝ่ายเติมเต็มซึ่งกันและกันให้สมบูรณ์
อย่างผม...บอกได้เต็มปากเลยครับว่าถ้าวันนั้น ผมก็คงไม่มีวันนี้เหมือนกัน
นะ อ่านของแต่ละคน ทำมาเป็นข้อๆเลยวุ้ย ข้อนี้ไม่รู้ตอบไงดี บอกไม่ถูกอะ
มันเหมือนแทบจะไม่มีอะไรต่าง ทั้งๆที่มันก็ต่างกันชิบหาย เหมือนมันจะถูกหักล้างกันไปตามแต่ละอย่างจนเหมือนไม่มีอะไรต่าง
เพราะถ้ามาถามถึงความต่างตอนนี้คงบอกไม่ได้ละว่าต่างกันยังไงบ้าง มันเหมอืนเลือกจำแต่สิ่งดีๆ จนอะไรที่ไม่ดีไม่อยู่ในความทรงจำ
และก็ไม่รู้ว่ามันได้หายไปจากความทรงจำตอนไหน มารู้ตัวตอนนี้ ก็เหลือแค่สิ่งดีๆ
^
^
^
ก็ดีนะบูมที่เลือกจำแต่สิ่งดีๆ เพราะพี่ก็เลือกจำแต่สิ่งที่ดีๆ ของเค้าเหมือนกัน (ถึงได้เป็นอย่างงี้ไงล่ะ)
โห! กระทู้ไปเร็วมากเลย ตอบไม่ทัน อ่านแทบไม่ทัน
ขอตอบคำถามเรื่อง สเป็คก่อนแล้วกัน
สเป็คผม ถ้าเป็นผู้หญิง ผมชอบผู้หญิงตัวเล็ก ๆ หน้าตาน่ารัก ไม่จำเป็นต้องสวย แต่ต้องดูดี จะผิวอะไรก็ได้ แต่อย่าคล้ำจนเกินไป
เพราะมันจะ contrast กับผมที่ผิวออกขาวเหลือง ไม่อยากเป็นคู่ดำ-ขาว 5555 ที่สำคัญคือ ต้องไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่
เพราะผมไม่ชอบผู้หญิงปากเหม็นและมีกลิ่นเหล้าติดตัว มันดูกร้านโลกยังไงไม่รู้
ส่วนผู้ชาย ขอสารภาพว่า ไม่เคยคิด เพราะไม่ทันคิด มันก็มาแล้วอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่ถ้ามีโอกาสให้คิดให้เลือก (ฝันไว้ก่อน อิอิ)
ผมชอบคนรูปร่างสูงโปร่ง สมส่วน ไม่อ้วนจนหาเอวไม่เจอ แล้วก็ไม่ผอมจนเกินไปจนหลังติดกระดูก เวลาลูบมันไม่ลื่นมือ ผิวไม่คล้ำจนเกินไป อกผาย ไหล่ผึ่ง หน้าตั้ง หลังตรง คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ตาคม ผมหยักศก (เอ! เขียนไปเขียนมา ทำไมมันเหมือนไอ้คุณชายไปได้เนี่ย?) ส่วนขนาด อืม! ผมชอบที่จับแล้วมันเต็ม ๆ มือ แล้วไม่สั้นจนเกินไป (ติดเรทอีกหรือเปล่าเนี่ย??)
^
^
^
พี่ปุ้มมองเหมือนผมตรงที่ว่า ผู้หญิงที่กินเหล้าสูบบุหรี่มันช่างดูกร้านโลกซะเหลือเกิน ยิ่งผมเห็นกราวด์ของหลายๆ สายการบินที่สุวรรณภูมิยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงประตูทางเข้าบ่อยๆ ด้วยแล้ว ทั้งๆ ที่เธอ เธอ และเธอ เหล่านั้นก็สวยและบุคลิกดีมากๆ นะครับ แต่ภาพมันกลับดูลบไปเลยอ่ะ
ส่วนผู้ชาย ถึงจะสูบหรือไม่สูบ มันก็ยังเป็นผู้ชายไง (แต่ผมก็ไม่ชอบผู้ชายสูบบุหรี่อยู่ดี)
แต่ผมว่า ‘คุณชาย’ ของพี่เนี่ย อย่างกะหลุดออกมาจากแม๊กกาซีนเลยนะครับ
แล้วผมก็ต้องอิจฉาพี่....อีกตามเคย...........
ว้าว แต่ละคน แจงเป็นข้อ ๆๆ ยาวมาก
^
^
^
เนะเป็นแบ๊คตลอด
จบหน้า 21