♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: P.15 ซื้อรวมเล่มได้ที่งานตลาดฟิค 22มีนา บูธ H2-3
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: P.15 ซื้อรวมเล่มได้ที่งานตลาดฟิค 22มีนา บูธ H2-3  (อ่าน 139661 ครั้ง)

ออฟไลน์ Noipatt

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
Tom(or)boy
«ตอบ #330 เมื่อ27-09-2012 03:57:47 »

ซดมาม่าไม่อร่อยเลย==; ยังดีนะมีจับมือพอให้ใจชื้น กลับบ้านไปคุยกันดีๆนะ

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
«ตอบ #331 เมื่อ27-09-2012 06:04:11 »

มาหวานกันตอนท้ายเลยทำเอาลุ้นเครียด
เต๋ายังคงน่ารักคงเส้นคงวา
ชาค่ะก็อธิบายให้เต๋าเข้าใจซะนะ
ว่าแต่พ่อแม่ไม่อยู่นี่ทางสะดวกเนอะ

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
«ตอบ #332 เมื่อ27-09-2012 10:28:21 »

ยังดีที่เต๋าไม่ไปกับแฟง ดราม่ามาซะเกือบจบตอน ดีนะที่ตอนจบมีจับมือกันไม่งั้นเศร้าทั้งตอนอ่ะ

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
«ตอบ #333 เมื่อ27-09-2012 21:23:44 »

 :เฮ้อ: ดีที่เข้าใจกัน

ออฟไลน์ JingJing

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-2
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
«ตอบ #334 เมื่อ27-09-2012 22:05:12 »


ดีใจจังไม่มาม่า ต๋าวต๋าวจัดการสั่งสอนเด็กดื้อเลย  :z1:



ออฟไลน์ NASS.NET

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
«ตอบ #335 เมื่อ27-09-2012 22:27:46 »

โหยยยยย รอให้คุยกันรู้เรื่องแทบไม่ไหว^^
ดีกันเร็วๆนะจ๊าาาาา

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
«ตอบ #336 เมื่อ27-09-2012 23:03:54 »

เข้าใจกันก็ดีแล้ว

timvasabi

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
«ตอบ #337 เมื่อ27-09-2012 23:51:02 »


รักกันแบบนี้ซิจ๊ะ ดูแลกันและกันดีๆ

เชียร์นะ เต๋าชา ฮิฮิ

ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
«ตอบ #338 เมื่อ28-09-2012 11:42:07 »

 :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2:

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
«ตอบ #339 เมื่อ28-09-2012 20:40:17 »

รีบเข้าใจกันเร็วเด้อออ

แฟนคลับ อิ่มมาม่าา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
« ตอบ #339 เมื่อ: 28-09-2012 20:40:17 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
«ตอบ #340 เมื่อ28-09-2012 23:17:19 »

มีโอกาสได้เม้นต์สักที เติมตังค์เล่นเน็ตทีไร อ่านจบจะเม้นต์ซักหน่อย

ขอโทดค่ะ กรุณาเติมตังค์แล้วสมัครใหม่


เราชอบมากๆ เลย
ลุ้นมากๆ ตอนแรกๆ ที่คชาหรือน้องชาค่ะ ไปอยู่หอหญิง

ออฟไลน์ Arancia

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 463
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-2
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
«ตอบ #341 เมื่อ29-09-2012 00:16:29 »

ดีกันเร็วๆน้าาาา อยากให้เต๋ารู้เรื่องพี่รหัสตี๋ เร้วๆ จะได้ไม่เคือง เอ๊ะหรือรู้แล้วจากตอนที่ชาเมา รออ่านนะคะ

bozang

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
«ตอบ #342 เมื่อ29-09-2012 00:35:19 »

TOM (or) BOY  

28

 
[/b]


.
.
.
 

 




มือขวากับมือซ้ายที่จับกันไว้อย่างแน่นหนา เกาะกุมยาวนานจนกระทั่งปลายเท้าหยุดลงที่หน้าบ้านเมื่อฝ่ายหนึ่งล้วงหยิบกุญแจบ้านมาเปิดประตู  บ้านหลังเดิมค่อยๆ สว่างไสวเมื่อสวิตช์ไฟถูกกดเปิด ไม่มีใครพูดอะไรออกไป ราวกับปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมดา บรรยากาศแม้จะเงียบเชียบไปเสียหน่อยแต่ไม่ถึงกับเงียบงัน

เจ้าของบ้านเดินนำอีกคนไปยังห้องครัวด้วยเพราะเลยเวลาอาหารมื้อเย็นมามากแล้ว  กับข้าวตั้งแต่เช้าที่ยังเหลือประกอบกับที่ซื้อเพิ่มมาอีกสองอย่าง เพียงไม่นานเมื่อนำมาอุ่นทุกอย่างก็พลันเรียบร้อย

อาหารที่ถูกอุ่น กับใครบางคนที่คุ้นตา

คชายิ้มบาง ตักข้าวในจานพลางเหลือบมองอีกคน ในความเงียบนั้น หัวใจกำลังเต้นดังออกมาเหมือนความรู้สึกที่ปะทุออกมาในใจ...นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้กินข้าวด้วยกันสองคน หากแต่กระนั้น แม้ในใจเต๋าจะยังคงมีความขุ่นเคืองที่ยังไม่ได้สะสาง ทว่าอาหารบนโต๊ะแทบทุกจานก็เป็นอย่างที่ ‘เรา’ ชอบกิน

“อร่อยดีนะ”  คชาว่า มือตักอาหารที่ชอบ ...กินข้าวกับอีกคนมาไม่กี่รู้กี่มื้อต่อกี่มื้อ แต่ไม่รู้เพราะอะไร มันกลับเป็นครั้งที่เขาประหม่าที่สุด

“อ้ะ...”  ทำใจอยู่นานกว่าจะกล้ายื่นช้อนตัวเองส่งให้ เขาสบตาอีกฝ่ายตรงๆ เป็นครั้งแรก แววตาคู่นั้นประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ยอมอ้าปากรับการป้อนแต่โดยดี

หากมือคนป้อนนี่สิ กลับนิ่งค้างไปกับภาพที่เห็น รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่อีกฝ่ายยื่นหน้ามารับมันไปเสียเอง...

ไอ้คชาเอ๊ย จะป้อนข้าวสักคำ ทำดีๆ กับเขาสักหน่อยก็พลาดอีกแล้ว…

ใบหน้าหวานก้มหน้าคิ้วขมวดยุ่งก่อนจะยิ้มกลบเกลื่อนเมื่อเห็นแววตาที่มองมาอย่างสงสัย เริ่มจะโล่งใจที่อีกคนดูเย็นลงเยอะ ซ้ำยังไม่มีท่าทีหมางเมินใส่กันเท่าไหร่นัก

จนตอนกินข้าวเสร็จแล้ว คงถึงเวลาที่ต้องเข้าประเด็นกันเสียที  “ขอโทษนะเต๋า เรื่องเมื่อคืน”  ว่าไปมือก็รวบช้อนส้อมในจานแก้เก้อ

“กะแล้วว่าต้องพูดคำนี้”  เสียงทุ้มตอบเรียบๆ แต่ท่าทีเป็นต่อเห็นๆ

“ก็เราผิดจริงๆ”  พูดไปมือก็อยู่ไม่สุขอย่างร้อนรน  “ขอโทษที่คิดถึงแต่ตัวเอง ขอโทษที่เมื่อคืนโกหก เราก็แค่อยากออกไปเที่ยวบ้าง”

“ไม่อยากให้ไปด้วย?”

“ก็...”  จะตอบว่าไม่ใช่ก็คงไม่ถูกนัก  “อืม...มันก็เหมือนตอนแอบหนีแม่ออกไปเที่ยวแล้วไม่บอกนั่นแหละ ถ้าแม่รู้แล้วแม่บอกไม่ให้ไปจะทำยังไงล่ะ ไม่ได้อยากโกหกหรอกนะ แค่อยากทำอะไรตามใจตัวเองสักครั้งนึง”  เหตุผลที่ยกมาไม่รู้อีกคนจะคิดว่ายังไง แต่มันคือคำตอบที่ตรงใจเขาที่สุดแล้ว

เมื่อไม่เห็นอีกคนย้อนแย้งอะไร เสียงเดิมจึงเอ่ยต่อ  “จริงๆ ตอนแรกจะไปกับพี่ตี๋สองคน แต่กลัวไม่มีเพื่อนกลับหอเลยชวนปอไปด้วยน่าจะสนุกกว่า เห็นว่าอยู่หอเบื่อๆ”  ใบหน้าเต๋ายังคงนิ่งฟัง  “พี่ตี๋เป็นพี่รหัสเราเองแต่ไม่ค่อยเจอกัน เขาเพิ่งกลับจากญี่ปุ่นบอกจะเลี้ยงเหล้าเราก็เลยตกลงไป”

“พี่รหัส?”

“ใช่ แต่ไม่ได้สนิทกันหรอก ไม่ได้เจอกันบ่อย เปิดเทอมมาเจอพี่แกไม่ถึงห้าครั้ง”  หรืออาจจะห้าครั้งพอดี คชาพยายามระลึกอยู่ในใจ ก่อนจะนึกได้ว่าไม่ใช่สาระสำคัญในตอนนี้

“อย่าขี้หึงนักสิ มันไม่มีอะไร เมื่อคืนมันเมาๆ”  เรื่องจริงก็คือเขาจำอะไรแทบไม่ได้สักอย่าง จนพี่ตี๋เล่าให้ฟังถึงได้รู้ว่าเหตุการณ์เมื่อคืนมันชวนคิดไปในทางนั้นอยู่ไม่น้อย

“ไม่หึงนะ”  มือบางจับมืออีกคนฝ่ายเอาไว้ แตะมันเบาๆ เหมือนกับไม่กล้า

“รู้แล้ว”  เต๋าตอบสั้นๆ  “หึงไม่ได้ใช่ไหม...”  ประโยคนั้นไม่ใช่คำถาม หรือถ้าจะถามใครสักคน คนนั้นก็คงเป็นตัวเขาเอง

“เปล่า...อย่าคิดแบบนั้นสิ”  มือบางรีบดึงมืออีกฝ่าย จับมันไว้แน่น  “เรายังหึงเต๋าเลย เต๋าก็หึงเราได้เหมือนกัน”

“ตอนไหน?”

“นั่นสิ ตั้งแต่ตอนไหน...” ที่เต๋าเริ่มรู้จักกับแฟง

คำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบ เขาไม่รู้ จะโทษใครก็ไม่ได้เพราะเป็นเขาเองที่ห่างจากอีกฝ่าย ละเลยกันไปจนแทบไม่รู้ตัว

ในช่วงที่ตัวเราห่างไกล...เป็นไปได้ไหมว่าใจจะห่างกัน?


ความเงียบเข้าครอบงำชั่วขณะ บรรยากาศดูน่าอึดอัดก่อนที่คชาจะเป็นฝ่ายเปิดปากเอ่ยอะไรบางอย่างที่ค้างคา

“เต๋า...รู้สึกยังไงกับแฟง?”  ในคำถามนั้น ตาคู่เรียวฉายความลังเลออกมาชัดเจน  มีใครเคยบอกไหมว่าคชาเป็นคนไม่มีความมั่นใจโดยเฉพาะเรื่องแบบนี้...กว่าเขาจะกล้าตัดสินใจยอมรับ กว่าจะกล้าจับมือเดินไปข้างๆ ก็ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาพักใหญ่

“แฟงก็น่ารักดี”

สั้นง่ายได้ใจความ คำตอบที่คนฟังไม่ได้คาดไว้ถูกเอ่ยออกมา คชานิ่งอึ้งพักใหญ่ก่อนจะแสร้งยิ้มบางๆ

“น..น่ารัก?”

“อื้อ คุยสนุก ร่าเริง”  เต๋าว่าพลางแย้มยิ้มบางที่เฉือนหัวใจคนมอง

“หรอ...หรอ... เราก็...ว่างั้น”  คชาว่าพลางคิดตาม... ใช่ แฟงเป็นคนน่ารัก พูดจาวางท่าวางตัวดี เพราะอย่างนั้นถึงมีแต่คนมาชอบเธอ หลายคนต้องรอเก้อแต่กลับทนยอมที่จะรอต่อไป

แต่สำหรับเต๋าที่แฟงมีใจให้ คงจะไม่ต้องกอดเข่าเช็ดน้ำตาเหมือนคนอื่นๆ สินะ

คิดแล้วก็เจ็บแปลบขึ้นมาในอก... คชาก็แค่คนธรรมดาที่อยากรักคนที่เขารักเรา ไม่ใช่พระรองละครน้ำเน่าที่คอยยินดีที่เห็นเขาสมหวัง

กว่าจะทำใจให้เงยหน้ามองอีกคนก็เป็นเวลาหลายชั่วอึดใจ รอยยิ้มเฉไฉผุดขึ้นบนริมฝีปากบางอีกครั้ง  “แฟงเขาชอบนาย”  สรรพนามที่ไม่ได้ใช้มานานแล้วถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้ง  “ถ้านายชอบเขา...ก็คงสมหวัง”

“งั้นหรอ”  แม้คำตอบไม่ยินดียินร้าย แต่กลับบั่นทอนจิตใจคนฟังไม่น้อยเลยทีเดียว


ความอึดอัดเข้าแทรกแซงเพียงอึดใจ แต่ก็มากพอให้เขาคิดตัดสินใจอะไรบางอย่าง  “หมดเรื่องจะคุยแล้ว กลับหอดีกว่า...”  แสร้งหัวเราะเบาๆ ก่อนจะลุกพรวดจากที่นั่งของตน  แม้คชาจะเป็นคนตัดสินใจอะไรช้าเกือบทุกครั้ง แต่เมื่อจะไปมันกลับรวดเร็วง่ายดายเพราะไม่อยากอยู่ให้ทรมานใจตัวเอง

ขอกลับเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัยอีกครั้งนึง


“ขอโทษเรื่องเมื่อวานอีกทีนะ...เรื่องก่อนหน้าด้วย”


มือบางหยิบกระเป๋าของตน ขาก้าวฉับๆ อย่างไม่สนใจสิ่งอื่นใด... ไม่เคยนึกว่าเราต้องบอกลากันเร็วขนาดนี้ ใจคนเราเปลี่ยนแปลงกันง่ายดายเสียจริง

ตั้งแต่เต๋าชอบแพรวา จนเปลี่ยนมาชอบเขา แต่ยังไงซะเต๋าก็คงชอบผู้หญิง

จริงรึเปล่า...ที่เคยได้ยินว่าความรักของผู้ชายด้วยกันมันไม่ยั่งยืน

 
 

เพราะบ้านหลังนี้เป็นเพียงตึกแถวหลังไม่ใหญ่ ไม่ได้กว้างขวางมากมาย แม้เพียงชั่วนาทีก็ถึงหน้าประตูบ้านเสียแล้ว  มือบางจับประตูไว้แน่น หากแต่ออกไปไม่ได้ด้วยกุญแจที่ล็อคเอาไว้แน่น

คชาหันหลังกลับไป เห็นร่างอีกคนที่เดินตามออกมา

“เต๋า...”  ใบหน้านั้นยังคงนิ่งเรียบยากจะคาดเดา ไม่มีคำรั้งอ้อนวอนเขา หากแต่ก็ไม่ได้ผลักไสไล่ส่งกัน

ในแววตาคู่นั้น...นิ่งเสียจนไม่รู้ว่าคิดอะไร

มืออบอุ่นคู่นั้น...ถือกุญแจดอกเดิมไว้อยู่


“ขอได้ไหม?”


คว้ามืออีกคนขึ้นมา...แกะมือที่กำกุญแจหลวมๆ เอาไว้


“อย่าชอบเขานะเต๋า...อย่าชอบเขาเลย”  ไม่ได้ดึงกุญแจออกไป เพียงแต่ดึงมืออีกคนไว้แทน  เสียงนั้นเอ่ยไม่เบา เคล้าน้ำตาเจ้าเอยที่ไม่รู้ไหลจากไหนมารวมกัน

“เรารักเต๋านะ เต๋าไม่รักเราแล้วหรอ?”  บ่อน้ำตาแตกพรากแล้วก็คงไม่มีอะไรต้องอาย คชาโผเข้ากอดอีกคนไว้ราวกับจะอ้อนวอน


ท่ามกลางเสียงสะอื้นไห้...ฝ่ามืออบอุ่นลูบศีรษะเด็กขี้แยเอาไว้แผ่วเบา แขนอีกข้างกอดเกี่ยวเอาไว้ให้รู้ว่าเต๋ายังอยู่ที่เดิม

“ก็ยังไม่ได้บอกว่าชอบเขาสักคำ ทำไมชอบคิดเองเออเอง”

“ไอ้บ้า...ฮึก..มาแกล้งเราได้ลงคอ ฮือ~”

“ไม่ได้แกล้ง แค่อยากรู้ว่าจะทำไงต่อ จะหนีปัญหาไปแบบคราวก่อนรึเปล่า...”  กระชับอ้อมกอดให้แน่นกว่าเดิม  “แต่เราดีใจ ที่คชาเลือกจะรั้งเราไว้แทน...”

ยิ่งปลอบยิ่งร้องไห้จ้า คชาเอาหน้าซุกหัวไหล่อีกคนหวังให้มันช่วยซับน้ำตาที่ไม่มีวี่แววจะขาดสาย...วูบแรกมันมาจากความเสียใจ หากแต่ตอนนี้เจือไปด้วยความสุขที่เอ่อล้นเต็มประดา


ถ้าการรักใครสักคนคือการเอาตนเองไปแขวนไว้กับคนนั้น ตอนนี้เขาก็พร้อมที่จะทำมันแล้ว



“ชาค่ะ...ตอนนี้เราจะเลิกเป็นเพื่อนกันได้รึยัง?"

 

 





            เสียงข่าวภาคค่ำยังคงรายงานปกติไปตามเคย คชาที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยฟุ้งด้วยกลิ่นแชมพูหอมหวานเดินลงมาหาลูกชายคนโตที่นั่งดูทีวีรอที่ห้องรับแขกด้านล่าง ผ้าขนหนูสีขาวในมือถูกอีกคนแย่งมาเช็ดผมให้แทน

            คชานั่งลงบนพื้นพรมหน้าโซฟา ให้คนที่นั่งอยู่ก่อนหน้าเช็ดผมให้ตนได้สะดวก มือคว้ารีโมทมาเปลี่ยนเป็นช่องเคเบิลการ์ตูนพลางนั่งดูมันอย่างมีความสุข  ริมฝีปากแย้มยิ้มกว้าง ตอนนี้ย่ำค่ำแล้ว แม้ไม่มีรายการอะไรน่าสนใจ หากแต่โลกกลับสดใสอย่างบอกไม่ถูก

            “หอมจัง”  เสียงทุ้มว่าพลางยื่นจมูกมาดมกลิ่นเส้นผมนั้นเสียใกล้

            “ก็ใช้อันเดียวกัน จะหอมอะไร”

            “แล้วใครว่าหอมแชมพู”  เต๋าว่าแล้วจมูกก็หอมบนศีรษะอีกคนดังฟอด แล้วจึงแกล้งใช้ผ้าขนหนูขยี้ผมอีกคนเล่น

            “สนุกนักใช่ไหม แกล้งชาวบ้านเขาเนี่ย”  แม้เสียงเล็กจะบ่นพึมพำแต่ก็ยิ้มบาง แม้ตาจะจดจ่อกับเจ้าตัวการ์ตูนในจอแก้วตรงหน้าก็ตาม

            “ชาวบ้านที่ไหน แฟนต่างหาก”

            “แฟนเฟินอะไร...ยังไม่ได้รับปากสักคำ”  หันมาเอ่ยกับคนด้านหลังพลางยิ้มเป็นกวนเข้าให้สักที

            “หรอ? แล้วจะทำไงดี หรือเราจะข้ามขั้น”  คนพูดยิ้มเจ้าเล่ห์ มือหนาเลื่อนจากศีรษะอีกคนลงมาตามแนวกกหู แตะเบาๆ แต่ก็พอให้อีกคนรู้สึกวาบหวิว

            ตอนนั้นเอง คชาจึงเข้าใจความหมายของ ‘ข้ามขั้น’ แจ่มแจ้งเสียที


“ไอ้บ้า ไอ้ทะลึ่ง...เดี๋ยวก็เจ็บตัวหรอก”  แต่อย่างที่บอกว่าคชาเก่งเรื่องตีเนียนเป็นทุนเดิม  “อยากเจ็บตัวหรอต๋าวววววว”  ถามพลางพยายามทำหน้าเหนือกว่าสุดฤทธิ์ แม้อีกฝ่ายจะไม่มีทีท่าสะทกสะท้านสักนิดเดียว

“ถ้าต้องเจ็บเพราะรักคชาก็ยอม”

“แหวะ! จะอ้วก”

“อ้าว...ยังไม่ทันทำอะไรแพ้ท้องอีกแล้วหรอชาค่ะ”

เอ่อบบบบ......

คนตัวเล็กแทบจะกุมขมับทันทีที่ได้ยินอีกคนพูด ไม่รู้จะสงสารตัวเองดีไหมที่มาเจอนายเศรษฐพงศ์ในโหมดนี้ แต่ท่ามกลางความรู้สึกนั้นมันกลับสบายใจ

ผ้าขนหนูผืนหนาถูกโยนใส่หน้าอีกคนที่ทำหัวเราะเมื่อเขาเถียงต่อไม่ถูก คชาลุกไปนั่งบนโซฟาก่อนจะแกล้งทำร้ายใบหน้าอีกคนผ่านผ้าผืนนั้นบ้าง

“เต๋าเอ๊ย...ทำไมถึงได้เสี่ยวแบบนี้วะ? วันๆ กินอะไรเป็นอาหาร?”  พูดไปมือก็แกล้งอีกคนไปพลาง

“กินชา...โอ๊ย!”  คนถูกแกล้งโอเวอร์แอคติ้งเมื่ออีกคนแกล้งบิดแก้มขาวของตน เสียงดังไปทั่วบ้านแต่คงไม่ต้องเกรงใจใครเพราะตอนนี้ไม่มีใครอื่นอยู่เลย

“เก่งนักนะไอ้เรื่องพูดจากำกวม... ใครกินใครกันแน่เหอะ รู้เปล่าเราชอบกินขนมลูกเต๋านะ”  คชาว่าขณะที่ดึงผ้าขนหนูออกจากใบหน้าอีกคนที่กำลังยิ้มแก้มปริ่ม

“ขนมลูกเต๋า? เป็นยังไง?”

“หือ... ก็ลูกสี่เหลี่ยม หวานๆ มันๆ”  เสียงใสตอบอีกคนแม้ไม่เข้าใจจุดประสงค์ของคำถาม  ทว่าไม่ทันเอ่ยปากต่อ ริมฝีปากบางก็ถูกช่วงชิงลมหายใจไปเสียก่อน  ลิ้นร้อนไล่รุกรานเข้ามาจากด้านนอกสู่ภายใน หยอกล้อเคล้าคลอเคลีย

“รสชาติเหมือนกันไหม?”  เต๋าถามเสียงพร่า  “หรือยังชิมไม่พอ?”  ไม่รอคำตอบ...คนเจ้าแผนการก็มอบรสสัมผัสให้อีกคนได้ชิมอย่างจุใจต่อ แม้โดยรูปการณ์ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเป็นคนถูกชิมมากกว่าก็ตาม

จะว่าไป เต๋ากับขนมลูกเต๋าอาจไม่ได้ต่างกันมากมาย รสชาติหวานที่ปลายลิ้น พาให้หลงมัวเมาในอารมณ์โดยง่ายดาย

ต่างกันตรงที่ขนมลูกเต๋าอยากกินก็หาซื้อได้ แต่(ไอ้)เต๋าคนนี้ไม่มีขายที่ไหนอีก

เสียงการ์ตูนที่ดังออกจากโทรทัศน์กลายเป็นเพียงฉากหลัง เสียงอื้ออึงในลำคอต่างหากที่กลายเป็นตัวเอก ผสานสอดคล้องกับหัวใจที่เต้นดังราวกับตีกลองอยู่ในอก

“อุ๊ย!”  หากแต่เสียงแปลกปลอมที่เข้ามาในฉากทำเอาคนตัวเล็กเบิกตาโพลง หันไปมองด้านหลังเป็นน้องชายร่างผอมสูงกับน้องสาวแก้มยุ้ยที่ยืนอยู่ไม่ไกล  เต๋าหยุดให้อีกคนชิมเมื่อถูกมือเล็กทุบแผ่นหลังประท้วง ก่อนจะหันไปมองสองต.ที่ยืนมองไม่สะทกสะท้าน

“กินข้าวมารึยัง?”  เสียงทุ้มทักทายน้องทั้งสองราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้า ขัดกับอีกคนที่เลือดไหลสูบฉีดไปที่แก้มทั้งสองจนแดงเถือก

“อ๋อ กินมาแล้วพี่เต๋า”  น้องชายตอบ  “เดี๋ยวเต๋อไปอาบน้ำก่อนละกัน ร้อน”

“ต๋อก็ไปวาดรูปบนห้องดีกว่า”  น้องสาวว่าพลางยิ้มแป้น

“อย่าลืมทำการบ้านกันด้วยล่ะ”  เต๋าเอ่ยทิ้งท้าย มองตามน้องทั้งสองที่เดินขึ้นบันไดไป แล้วจึงหันกลับมาหาคนข้างๆ ต่อ


“เราก็ ขึ้นห้อง ไป ทำการบ้าน กันบ้างเถอะชา”

 

 



 

            ระยะทางสี่ชั้นไม่เคยไกลเมื่อเราจับมือเดินขึ้นมาพร้อมกัน... คนตัวเล็กเดินนำเข้าไปในห้องนอนก่อนจะหยิบข้าวของของตนที่ไว้บนเตียงย้ายมาที่โต๊ะเขียนหนังสือ ส่วนอีกคนกำลังล็อคประตูห้อง ก่อนจะนั่งลงบนเตียงท่าทางเตรียมพร้อม

“เต๋า...ขออะไรหน่อยได้ไหม?”  คชาหันมาเอ่ยกับเจ้าของห้อง

“ขออะไรครับ?”  คนพูดว่าแล้วก็ปรี่ไปหาร่างเล็กที่นั่งอยู่ มือเอื้อมไปจับใบหน้าหวานที่มีความกังวลฉายอยู่ในดวงตา

“เราอยากทำการบ้าน”

“ครับ เต๋าก็อยาก”

“ดีเลย...”  คชายิ้มแก้มปริ  “งั้นเต๋าไปทำบนเตียงได้ไหม?”

“ได้สิ เรื่องแค่นี้”  ยังไงก็ต้องทำบนเตียงอยู่แล้ว...

ได้รับคำตอบแบบนั้น ใบหน้าหวานก็แย้มยิ้มกว้าง เปิดกระเป๋าสะพายของตนพลางเอ่ยประโยคถัดมา


“งั้นเราขอยืมใช้คอมหน่อยนะ ต้องรีบทำส่งอาจารย์” 

เดี๋ยวนะ...นี่คชาหมายถึง ‘ทำการบ้าน’ จริงๆ!???


ร่างสูงยืนมองคนที่กำลังจดจ่อกับการบ้านของตนเองหน้าคอมพิวเตอร์ตาละห้อย อยากเรียกร้องความสนใจสักหน่อยแต่พอเห็นอีกคนตั้งหน้าตั้งตาทำจริงจังเลยถอยทัพไปที่เตียง หยิบสมุดขึ้นมาดูรายเอียดงานของคณะที่ต้องตื่นแต่เช้าไปในวันพรุ่งนี้แทน

ใบหน้าคมก้มๆ เงยๆ เหลือบมองอีกคนเป็นระยะ เห็นยังง่วนกับการบ้านเลยหยิบหนังสือข้างๆ เตียงมาอ่านเล่นฆ่าเวลาไป

รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่อีกคนลุกจากหน้าคอมฯ แล้วเดินตรงมาหา เข็มนาฬิกาในห้องบอกเวลาห้าทุ่มเศษ

“การบ้านเสร็จแล้วหรอ?”  เต๋าถาม คั่นหน้าที่อ่านแล้ววางมันบนข้างเตียง

“อื้อ ส่งเข้าเมลอาจารย์เรียบร้อย ทันเวลา”  คชาว่า ทรุดตัวลงนั่งพิงหัวเตียงข้างๆ อีกคน  “แต่เหลืองานอีกอย่าง ช่วยทำหน่อย”

ไม่รอให้อีกคนตอบอะไร มือบางก็ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้พร้อมปากกา

            “ทำหน่อยเร็ว แปปเดียว”

            ตาคู่คมจรดมองกระดาษแผ่นนั้น กวาดตามองพบว่าเต็มไปด้วยพื้นที่ว่างๆ  ก่อนที่มือจะกระชับปากกาเสียแน่นเมื่อเหลือบเห็นหัวกระดาษด้านบน


            ...ใบ สมัคร แฟน ครับ...

            “เขียนเร็วสิ จะรออะไร?”  คชายิ้มร่า...ดวงตาบอกประกายแห่งความสุขในนั้น ไม่รู้ว่าเจ้าตัวรู้ไหม ทุกครั้งที่ยิ้มมันเหมือนมีพลังงานบางอย่างไหลออกมา

            ไม่ใช่แค่น่ารัก ไม่ใช่แค่น่ามอง แต่มันมากกว่า... รอยยิ้มนั้นช่างล้ำค่าจนสรรหาคำบรรยายไม่หมดสิ้น

            มันไม่ใช่รักแรกพบ คนเราไม่ได้รักกันง่ายดายแค่มองตา แต่เพราะกับคชา เขามองเห็นลึกไปถึงหัวใจ

            “ยังไม่ยอมเขียนอ...”  ปลายเสียงหายไปเพราะการจู่โจมที่ข้างแก้ม สัมผัสนุ่มหยุ่นที่ประทับลงมาเพียงชั่ววินาทียังติดตรึงอยู่เหมือนทุกครั้ง

            ถ้าการจูบทำให้หัวใจสั่นไหว การหอมแก้มก็ทำให้หัวใจพองโต


            “ทำไมถึงน่ารักอย่างนี้นะ?”


            และนั่นเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่ทั้งคู่จะทรุดตัวนอน กอดกันหลวมๆ ฟังเสียงลมหายใจของกันและกัน

            หลังจากนั้นไม่นาน ไฟในห้องก็ปิดมืดลง หมอนสองใบกับคนสองคนภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน รวมถึงกระดาษแผ่นเดิมและปากกาที่ถูกวางไว้ข้างเตียง

 

 

‘ขอสมัครตลอดไป :)

นายเศรษฐพงศ์ เพียงพอ


 

 

 


 

 

TBC


ใกล้จบแล้วค่าทุกคน แหะๆ >w<
หวานกันเข้าไป เอิ๊ววววววววววววววว

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
«ตอบ #343 เมื่อ29-09-2012 00:44:06 »

 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
«ตอบ #344 เมื่อ29-09-2012 01:12:18 »

โอ้ น่ารักอ่ะ

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
«ตอบ #345 เมื่อ29-09-2012 02:15:35 »

 :o8: :-[ :impress2:แค่จูบ นะ ทำเอาเราจะตายแล้วววววววววววววว

timvasabi

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
«ตอบ #346 เมื่อ29-09-2012 02:37:09 »

OMG น่ารักเว่อร์ >/////<

มุกแบบที่ชาทำนี้ น่ารักคอดๆเลยค่ะ

รักกันนานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆนะจ๊ะ เต๋าชา

ปล.ไม่อยากให้จบเลยอะค่ะ ต่ออีกซัก 10 ตอนได้ไหมเอ่ยย?? ฮิฮิ


ออฟไลน์ Takarajung_TK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-2
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
«ตอบ #347 เมื่อ29-09-2012 05:26:01 »

หวานชื่นใจ  :-[

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
«ตอบ #348 เมื่อ29-09-2012 07:45:55 »

อ่านช่วงแรกๆน้ำตาคลอ พอช่วงหลังๆยิ้มจนปวดแก้ม โอยย ย ย ย ย ย ย   ตายจ้ะ เจอ ใบสมัครแฟนเข้าไป น่ารักได้อีก!

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
«ตอบ #349 เมื่อ29-09-2012 07:47:37 »

ตอนนี้มาแบบหวานๆ   o13


อ่านแล้วอย่าลืมบวกคะแนนกันนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
« ตอบ #349 เมื่อ: 29-09-2012 07:47:37 »





papark

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
«ตอบ #350 เมื่อ30-09-2012 02:06:54 »

แอร๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก.. ฟินมากครับ ให้ตายเซ้!
ทำไงดีครับ คชาน่ารักมากเลย โดยเฉพาะตอนที่ "ขอได้ไหม" น่ะ.. ผมนี่นั่งฟินคนเดียวจริงๆ นะ
แล้วก็ซวยแล้วคชาเอ๋ย ถูกเห็นเข้าจนได้.. เต๋านี่ก็นิ่งซะแบบ.. พี่ครับ อย่านิ่งแบบนั้น ผมกลัว! 555

อ้ากกกกกก รักคนเขียนนะครับ จุ๊บๆ ♥

ListeL

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
«ตอบ #351 เมื่อ01-10-2012 00:27:13 »

อร๊ายยยยยยยชอบบบบบบบบบบบบบ
อ่านช่วงแรกแล้วน้ำตาไหลพรากฮืออออออ อินมากกกกกก
รักกันนานๆนะอย่าทะเลาะกันบ่อยเปลืองน้ำตา สมหวังสักทีนะเต๋า คนเขียนจ๋าไม่ต้องรีบจบก็ได้จ้า  -..-กอดเต๋ากับคชากับคนเขียน

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
«ตอบ #352 เมื่อ01-10-2012 12:26:05 »

โอ๊ย

หวานนนนนนนนนน

กันตอนท้าย

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ออฟไลน์ bangkeaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 566
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-4
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
«ตอบ #353 เมื่อ01-10-2012 13:06:16 »

ตกลงเป็นแฟนกันได้ซะที
เต๋ารอมานานละนะคะชา

ออฟไลน์ honeyhoon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
«ตอบ #354 เมื่อ01-10-2012 13:16:33 »

แต่งได้น่ารักแล้วก้อสนุกมากค่ะ รอตอนต่อไป  :pig4:

ออฟไลน์ mini.tori

  • BOOM SHAKALAKA
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
«ตอบ #355 เมื่อ03-10-2012 13:53:25 »

ลุ้นตั้งนาน  : :mc4:  :mc4: :mc4:


อยากอ่านสเปเชี่ยล เบนxบอส  :z1: :z1:

ออฟไลน์ ida_iii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
«ตอบ #356 เมื่อ05-10-2012 00:23:04 »

สงสัยเพราะไรเตอร์ชอบคิดว่าตัวเองเขียนดราม่าไม่เก่ง

มิน่า เลยดราม่าซะบ่อยเชียว 

เราเพิ่งตามอ่าน แล้วก้เพิ่งจะอ่านทัน  ความถี่ดราม่านี่แทบจะเท่ากับตอนหวานเลยนะ

แล้วดราม่าแต่ละที หวิดๆน้ำตาจะร่วงก้หลายรอบ

เต๋าน่ารักเกินไปแล้วววว

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
«ตอบ #357 เมื่อ11-10-2012 18:34:01 »

กรี๊ดดดดดด หน่วงมานาน สมหวังซ๊ากกกกกกกกกกกที

bozang

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
«ตอบ #358 เมื่อ18-10-2012 04:59:22 »

♀ TOM (or) BOY ♂
29
ตอนจบ









   คืนวันเสาร์ อาหารมื้อสามัญประจำบ้านของครอบครัวเพียงพอกลับมาอีกครั้ง  สมาชิกในบ้านพร้อมหน้าหลังจากที่วันธรรมดาทุกคนล้วนมีกิจกรรมของตนเอง  แม่เต่าเพิ่งกลับจากสัมมนา ในขณะที่น้องๆ ก็เพิ่งกลับจากเรียนพิเศษได้ไม่นาน

   สุกี้โฮมเมดตรงหน้ายังคงเป็นอาหารง่ายๆ แต่เอร็ดอร่อย ลูกชายคนกลางเทผักใส่หม้อทีเดียวทั้งกระบุง ลูกสาวก็คีบเนื้อสัตว์ใส่ตามมา ในขณะที่คุณแม่คอยดูหม้อต้มให้ไฟกำลังพอดี โดยมีคุณพ่อนั่งมองยิ้มๆ

   ขาดก็แต่พ่อลูกชายคนโตนี่แหละ เผลอเป็นต้องชะเง้อออกไปด้านนอกทุกที อาการแบบนี้ ทั้งบ้านเริ่มจะพอเดาได้ว่าเพราะอะไรและเพราะใคร

   โทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นในจังหวะนั้นทำให้มือหนาผละจากช้อนแทบจะทันทีราวกับรอมานาน นิ้วกดปุ่มรับสายพลางเดินออกไป

   “มาช้า...”  เต๋าพูดขณะไขกุญแจเปิดประตูบ้านให้อีกคน  “ไปกินข้าวเร็ว กำลังกินกันอยู่เลย”
   “เรากินมาแล้วอะ”  คชาตอบเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย  “พวกเฟรมชวนพอดีเลยกินมาก่อน”
   คนฟังชะงักไปเล็กน้อยที่ได้ยินอย่างนั้น นิ่งเพียงครู่เดียวก็ยกมือขยี้ศีรษะอีกฝ่าย...ยังไม่ทันโกรธอะไรเลย แต่ดูคชากลับทำหน้าตารู้สึกผิดได้น่าเอ็นดูนัก  “ก็ไม่ได้ว่าอะไร... เข้าไปข้างในก่อนเถอะ”




   สมาชิกคนที่หกของบ้านเพียงพอนั่งลงข้างๆ ลูกชายคนโต มีชามใบเล็กวางตรงหน้าพอเป็นพิธี  แม้ตามจริงจะกินมาแล้ว แต่พออีกคนที่อยู่ใกล้หม้อกว่าตักอะไรมาให้ก็กินอยู่ดี

   “วันนี้ไปไหนมาจ๊ะคชา?”  แม่เต่าถามอีกคนที่เพิ่งเข้ามา เป็นปกติแล้วที่คชาจะมาที่นี่ เห็นจากภาพแล้วก็รู้ดีว่าเพราะลูกชายของเธอเองไม่ใช่เพราะใคร
   “ไปทำรายงานมาครับ”  คชาว่า  “ช่วงนี้ส่งงานเยอะ ใกล้จะปิดเทอมแล้ว”
   แม่เต่าไม่ได้ถามอะไรมากกว่านั้น ประเด็นเดิมจบลงกลายเป็นเรื่องของลูกชายคนรองและลูกสาวที่ยังอยู่ในวัยมัธยมแทน ชีวิตในรั้วโรงเรียนในเมืองกรุงดูโลดโผนเอาการ
   “มีสาวๆ มาติดพี่เต๋อด้วยล่ะพ่อ ต๋อเห็นขนมในล็อกเกอร์เต็มเลย ได้ยินว่าเขาทะเลาะกันแย่งพี่เต๋อด้วย”  น้องสาวแก้มยุ้ยเล่าอย่างออกรส พี่ชายคนรองจึงพูดขึ้นบ้าง
   “ต๋อก็ชอบมาส่องนักบาสโรงเรียนเนอะ ให้กลับก่อนก็ไม่เอา” 
“ต๋อไม่ได้ชอบพวกพี่เขาแบบนั้นสักหน่อย พี่เต๋อไม่รู้อะไร”  น้องสาวเถียงกลับ มีประกายกรุ้มกริ่มในแววตา

บทสนทนาของพี่ชายคนรองกับน้องสาวว่ากันต่อไปไม่นาน ประเด็นก็เปลี่ยนไปพูดถึงเรื่องปิดเทอมที่จะมาถึงแทน เต๋อที่ได้โอกาสก็ขออนุญาตพ่อแม่ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนๆ  ส่วนต๋อบ่นกระปอดกระแปดเพราะตนต้องไปเรียนพิเศษอีกเหมือนเดิม

“ว่าแต่เดี๋ยวคชาก็ปิดเทอมแล้วใช่ไหม”  พ่อต๋อยวกมาที่เพื่อนสนิท(?)ลูกชายที่นั่งนิ่งฟังอยู่นานสองนาน  “แล้ววางแผนจะทำอะไร?”
“คงกลับบ้านน่ะครับ แม่ก็ถามอยู่เรื่อยว่าเมื่อไหร่จะปิดเทอม”  คชาว่ายิ้มๆ

อาหารมื้อนี้ยังคงเหมือนเดิมทุกครั้ง เต็มไปด้วยความอบอุ่นของครอบครัวเพียงพอ  แม้ลูกแต่ละคนจะมีความชอบและนิสัยต่างกัน แสบซนกันบ้างตามประสาวัยคะนอง แต่เพราะพื้นฐานครอบครัวล้วนทำให้ทุกคนเติบโตเป็นเด็กดี
   เด็กบ้านนอกเพียงคนเดียวในนี้ เลยอดจะมีความสุขตามไปด้วยไม่ได้
   “ขอบคุณสำหรับอาหารนะครับ พ่อต๋อยแม่เต่า”
   



   บนห้องนอนสีขาว คชานั่งพักบนพื้นปาร์เกต์พิงหลังกับขอบเตียง  มือหยิบหนังสืออ่านเล่นเล่มบางมาเปิดอ่านไปอย่างไม่จริงจังนัก เอนศีรษะกับหน้าขาคนที่นั่งอยู่บนเตียง

   มือหนาลูบเส้นผมอีกคนแผ่วเบา เอ่ยถามเรียบๆ  “คิดถึงบ้านไหม?”

   คชาละสายตาจากบนหน้ากระดาษช้อนมองใบหน้าอีกคน ตอบตรงๆ ออกมา  “คิดถึงทุกวันแหละ...ไม่ได้กลับบ้านตอนกลางเทอมเหมือนคนอื่นเลย”

   แก้มที่พองลมน้อยๆ ทำเอาคนมองอมยิ้ม ยื่นนิ้วมาจิ้มให้ใบหน้าหวานพ่นลมออก

   “เดี๋ยวก็ได้กลับแล้ว”  เต๋าปลอบ  “อีกสามอาทิตย์เอง”

   “นั่นสิ... อีกสามอาทิตย์เอง”  คชาว่าลอยๆ ...สามอาทิตย์ที่ว่าดูยาวนานเมื่อเทียบกับความคิดถึง หากในขณะเดียวกัน มันกลับไม่นานเมื่อรู้ว่านั่นคือเวลาที่ได้อยู่กับอีกคน

   “ไม่ต้องเหงานะ พ่อแม่เราก็คือพ่อแม่คชา น้องเราก็คือน้องคชา”  มือหนาปัดเส้นผมที่ปรกตาอีกคนออก  มองตากันให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

   “บ้านเราก็บ้านคชา เตียงเราก็เตียงคชา”  ว่าแล้วก็ดึงตัวอีกคนขึ้นมานั่งด้วยกันบนเตียงนอนนุ่ม ดึงหนังสือเล่มบางออกจากมืออีกคน  “หนังสือเราก็หนังสือคชา ของของเราก็ของคชาเข้าใจไหม?”

   คำพูดเรียบง่ายแต่กินใจทำเอาอีกคนรู้สึกขัดเขินเล็กๆ  ริมฝีปากได้รูปคลี่ยิ้มบางเบา  “อย่างนี้แสดงว่าเต๋ากับคชาคือคนเดียวกันรึเปล่า? อะไรที่เป็นของเต๋าเป็นของคชาหมดเลยเนอะ ฮะๆๆ”  เสียงใสเอ่ยติดตลกแก้เก้อ แววตายิ้มได้ถูกส่งไปหาอีกคน

   หากแววตาคู่คมกลับสะท้อนความมุ่งมั่นแน่วแน่กลับคืนมา...
   “ใช่ครับ เต๋ากับคชาเป็นคนคนเดียวกัน”

   ไม่พูดเปล่า... ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆ เคลื่อนเข้าใกล้  ประทับรอยจูบบนหน้าผากมน ไม่รีบร้อน ไม่เชื่องช้า ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามจังหวะเวลาของมัน  ก่อนริมฝีปากนั้นจะฝากความหอมหวานไว้บนกลีบปากได้รูปที่เผยอรับแต่โดยดี โดยมีหัวใจสองดวงที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกันราวกับจะเป็นประจักษ์พยาน
   มือหนาประคองใบหน้าอีกคนไว้ไม่ห่าง มืออีกข้างสัมผัสแก้มใสอย่างทะนุถนอม ปัดไรผมออกบนใบหน้านวลพลางยิ้มมองคนรักของตน
   ไม่รู้เป็นเพราะเส้นประสาทหรือกล้ามเนื้อส่วนไหนที่ทำเอาคชาหุบยิ้มไม่ลง  แก้มขึ้นสีจางๆ เพราะเพียงแววตาหวานเชื่อมที่มองมามันมีคุณค่าเหนือสิ่งอื่นใด

   แววตาคู่นั้น บอกชี้ชัดยิ่งกว่าคำรักไหนๆ
   หน้าต่างของหัวใจบานนี้ สะท้อนเพียงภาพของเขาเท่านั้น

   ริมฝีปากบางค่อยๆ ประกบจูบตอบอีกคนอย่างเชื่องช้า แม้จะดูขัดเขินเงอะงะไปบ้างที่เริ่มก่อนหากแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหมาย  แผ่นหลังค่อยๆ นาบลงบนเตียงนุ่ม โดยมีอีกคนที่ทาบทับลงมา
หัวใจเต้นสะท้าน ถี่รัวเร็วขึ้นเรื่อยๆ  อารมณ์ที่เริ่มพุ่งพล่านตามสภาพร่างกายทำให้คชานึกกลัวสภาพต่อจากนี้

“เต๋า...”  คชาเรียกชื่อเสียงแผ่ว แววตาทั้งไหวหวั่นหากแต่ก็ลังเล ตอนนี้คชาทั้งตื่นเต้นตกใจคิดอะไรไม่ออก เหมือนถูกเสกให้หยุดนิ่งไปไหนไม่ได้  สภาวะอันตรายปรากฏขึ้นอีกหลังจากครานั้น หากแต่คชากลับใจหวิวที่สุดในครั้งนี้
ไม่อยากสารภาพเลยว่า ก่อนหน้านี้ไม่นานเขาเพิ่งไปหาข้อมูลเรื่องแบบนี้มา แล้วก็พบว่ามันน่ากลัวอย่างที่คิดจริง

ตาประสานตา ใจประสานใจ...นัยน์ตาคู่นั้นของเต๋าเด็ดเดี่ยวและมั่นคง หากแต่ในที่สุดมันก็ค่อยอ่อนลงเรื่อยๆ

“กลัวหรอ?”  เป็นครั้งแรกที่เต๋าถามเรื่องนี้ออกมา และคชาก็พยักหน้าตอบซื่อๆ กลับไปเช่นกัน
ลืมไปแล้วว่าเคยตีเนียนเป็นฝ่ายอยู่ข้างบน แต่ถึงตอนนี้ก็คงแก้ตัวไม่ทัน

เต๋ายิ้มบาง มองลูกแกะตัวน้อยที่นอนตัวสั่น ในสถานการณ์นี้ไม่ยากที่จะทำให้คชาคล้อยตาม หากแต่เขากลับนึกอยากให้เป็นไปด้วยความยินดีพร้อมใจ

อีกอย่างนึง...เห็นแบบนี้แล้วเขาไม่อยากทำลายความบริสุทธิ์สดใสแบบนี้เลย

มือหนาค่อยๆ ปัดผมที่ปรกหน้าผากออก มอบจูบบางเบาแต่หวานฉ่ำทิ้งท้าย  น้ำตาลใกล้มด อยากจะอดใจไหว หากแต่คงต้องทำ

“คราวหลังไม่ปล่อยไว้แล้วนะ”  เต๋าว่าก่อนจะละออกมา คำพูดนั้นทำเอาอีกฝ่ายคืนสติกลับมาอีกครั้งก่อน คชากะพริบตามองอีกฝ่ายปริบๆ แล้วจึงค่อยๆ ถอนหายใจโล่งอกเป็นปลิดทิ้ง

ร่างเล็กคลี่ยิ้มบางเบาให้อีกฝ่ายอย่างใจชื้น ค่อยๆ ยันตัวขึ้นมานั่งเหมือนเดิม  ทว่าอีกฝ่ายกลับมีท่าทีเหมือนยังไม่สิ้นสุดเท่านี้

“แต่ของขึ้นแล้ว...ชาจะรับผิดชอบยังไงดี?”

ได้ยินเท่านั้นสีหน้าคนฟังก็หน้าร้อนฉ่า ประกอบกับหลักฐานที่เห็นเต็มตาทำเอาอยากจะมุดหน้าหนี  ภายใต้กางเกงนอนตัวนั้นมีบางอย่างผิดปกติมากเกินไป

มาก...จนคชารู้สึกดีใจ ที่ไม่เกิดบทรัก 18+ ขึ้นมาจริงๆ

ใบหน้าของเต๋าดูกำลังอดกลั้นอย่างบอกไม่ถูก สายตาคู่นั้นมองมาอย่างวาบหวาม ก่อนจะเปล่งเสียงทุ้มมีเสน่ห์ออกมา

“ช่วยหน่อยสิชา... ใช้มือก็ยังดี”

อย่านะเต๋า...

“นะครับ...จะไม่ไหวแล้ว”

อย่าทำ...สีหน้าอ้อนวอนแบบนี้

ไม่ทันคชาได้ตอบอะไร เต๋าก็ลุกขึ้นจากเตียงนอนก่อนจะเดินไปที่ห้องน้ำ  คชาถอนหายใจออกมาอีกครั้งเหมือนจะโล่งอก หากแต่เสียงทุ้มแหบพร่ากลับดังขึ้นอีกครั้ง

“คชา...”  เพียงเท่านั้นเองที่เต๋าเอ่ยเรียก เพียงสายตาลึกซึ้งเปี่ยมด้วยอารมณ์ คชาก็หายใจติดขัดไม่เต็มที่  ร่างเล็กมองอีกคนนิ่ง ก่อนจะค่อยๆ พะเยิบจากเตียงเดินตามไป


ถือว่าตอบแทนความใจดี ที่เต๋าไม่ปล้ำเขาก็แล้วกัน…

   


- - -




ชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัยในช่วงสอบปลายภาคดูจะหนักหนากว่าช่วงมิดเทอมเป็นสองเท่า เพราะมีทั้งงานที่ต้องส่งและการสอบที่รออยู่ แม้บางวิชาอาจารย์จะอนุญาตให้ส่งหลังสอบได้ แต่เด็กต่างจังหวัดส่วนใหญ่รวมถึงเขาก็เลือกทำให้เสร็จก่อนเพื่อจะได้กลับภูมิลำเนาเร็วๆ

วันนี้ก็เช่นกัน คชามานั่งทำงานกลุ่มชิ้นย่อยที่โรงอาหารคณะ แม้เขาจะอยู่กลุ่มเดียวกับสองสาวแอ้นแพรวา หากแต่กลุ่มเจมส์เฟรมโปเต้ก็นั่งอยู่ไม่ห่างกัน  นั่งทำงานจนกระทั่งล้าจึงปล่อยให้ทุกคนได้พักสิบห้านาที

“แดงมะนาวแก้วใหญ่ครับ”  คชาถือโอกาสนี้ในการเดินไปซื้อน้ำ จ่ายเงินรับแก้วมาเสร็จ  กำลังจะเดินกลับไปหาเพื่อนกลุ่มเดิมที่โต๊ะก็เจอะกับใครบางคนเสียก่อน

สาวสวยอันดับต้นๆ ที่มีรุ่นพี่ในและนอกคณะตามจีบไม่ขาดสาย...เธอยังคงสวยน่ารักเหมือนทุกๆ วัน

“สวัสดีแฟง”  หลังจากชั่งใจว่าจะทักหรือไม่ทักดี เสียงใสก็เอ่ยขึ้น  พอเห็นหน้าตาไม่ยินดียินร้ายเท่าไรนักของเธอจึงตัดสินใจเดินเลยไปเสียดีกว่า

“เดี๋ยว...”  ทว่าพอเดินพ้นเธอไป มือบอบบางคู่นั้นก็รั้งแขนเขาไว้เสียก่อน น้ำแดงมะนาวในมือหกรดเสื้อของเขาเข้าอย่างจัง  คชาก้มลงมองเสื้อที่เปื้อนจนเห็นสีแดงชัดเจนก่อนจะเงยหน้ามองอีกคน

แค่หวังว่าเธอจะไม่ได้เจตนา…

ใบหน้าของแฟงยังสวยหวานเหมือนทุกครั้งที่ได้มอง หากความขุ่นเคืองในแววตาคู่นั้นกลับกลบความงดงามให้หายไปสิ้น  แม้ครู่ต่อมา ตาคู่นั้นจะดูหม่นหมองลงเพราะคนที่เดินมาจากด้านหลังก็ตาม

เต๋าวางมือบนไหล่คชาอย่างถือสิทธิ์ ดึงแก้วน้ำไปถือไว้เอง ไม่พูดพร่ำทำเพลงแต่จูงแขนอีกเดินออกไปยังห้องน้ำ

“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น?”  คชาถามอีกคนที่ทำหน้าดุๆ ซ้ำยังนิ่งเงียบอยู่นานสองนาน

“ไม่ชอบ...”  เต๋าว่า  “แค่รู้สึกเหมือนปกป้องคชาไว้ไม่ได้ จะสาดน้ำคืนไปก็เหมือนรังแกผู้หญิง”

“เขาอาจจะไม่ได้จงใจ”  คชาตอบอย่างใจเย็น มองโลกในแง่ดีไว้ก่อนเพราะยังไงซะก็สบายใจกว่าคิดแค้นใจให้เสียเวลา

“ช่างเถอะ... แล้วชาอยากให้เราทำยังไง?”  เต๋าถามในขณะที่อีกคนกำลังพยายามเปิดน้ำมาใส่เสื้อตน  ขายาวๆ เดินไปดึงทิชชู่ในห้องน้ำมาซับเสื้อเปียกชื้นของอีกคนให้

“หมายความว่าไง?”

“ให้เราบอกแฟงไปเลยไหม ว่าเราไม่ได้ชอบเธอ”

ไม่ต้องยืนคิดให้นานคชาก็ได้คำตอบ  “ไม่ต้องหรอก”  เพราะคชารู้ดี...เรื่องแบบนี้คนอย่างแฟงฉลาดพอที่จะดูออก ส่วนเรื่องที่เขาคบกับเต๋า คงมีคนบอกให้เธอได้รู้แล้ว

ใบหน้าหวานมองอีกคนที่ช่วยซับน้ำออกจากเสื้อชุ่มๆ ให้อย่างตั้งใจ... ก็เพราะเป็นแบบนี้ เพราะว่าเต๋าใส่ใจเขามากจนกระทั่งคนอื่นไร้ความหมาย

เมื่อครั้งรู้ตัวว่าชอบ...หัวใจเราเต้นตึกตัก
เมื่อครั้งได้ยินคำรัก...หัวใจเราสั่นไหว

หากแต่หนนี้…มันคือความอุ่นใจ

“เต๋าไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น แค่อยู่แบบนี้ก็พอ”

และเพียงรอยยิ้มบางเบาถูกส่งกลับมา...เท่านั้นก็แทนค่าทุกคำตอบที่ต้องการ




- - -




   เมื่อช่วงเวลาฝนพรำได้ผ่านพ้นไป... ท้องฟ้าก็กลับกลายเป็นสว่าง

   ในร้านอาหารอีสานบ้านๆ ร้านเดิมเต็มเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศคึกคักสนุกสนาน  ทุกคนมารวมตัวกันที่นี่อีกครั้งหลังสอบวิชาสุดท้ายเสร็จ  ในวันนี้คชามากินข้าวทิ้งทวนกับเพื่อนๆ ก่อนจะไม่ได้เจอกันในปิดเทอมเล็ก  อาหารอีสานรสจัดจ้านพร้อมเสิร์ฟ คลอเคล้าด้วยเสียงเพลงจากคาราโอเกะในร้านที่สร้างสีสันได้เป็นอย่างดี

เสียงหัวเราะเฮฮาดังขึ้นเป็นระยะ ไม่ว่าจะทำข้อสอบได้หรือไม่แต่ทุกอย่างก็จบลงแล้ว  ไม่แปลกเลยที่วันนี้จะไม่มีใครปริปากถึงข้อสอบสักคำ

เพลงจากคาราโอเกะเครื่องเดิมที่ถูกเปลี่ยนหน้ากันมาร้อง โดยบัดนี้เจมส์เลือกเพลงเก่าของดีทูบี  เก๊กเสียงหล่อซะจนทุกคนต้องหยุดสนทนาแล้วหันหน้าไปมอง

“หากไม่มีเธอวันนั้น ฉันก็คงไม่มีวันนี้...”  หนุ่มร่างหมีสายตาทอดมองมาประหนึ่งเป็นนักร้องตัวจริง  “สิ่งที่ฉันเป็น สิ่งที่ฉันมีตรงนี้... ฉันรู้ดีว่าฉันได้จากใคร”
“ทั้งหัวใจคนคนนี้ แม้มันพอจะมีความหมาย…” คราวนี้ไมค์อีกตัวเริ่มทำงานแล้ว โดยการส่งให้เพื่อนๆ คนอื่นได้ร้องต่อ
“บอกด้วยคำจริงจัง บอกด้วยความจริงใจ ว่านับจากนาทีนี้ตลอดไป”
“ฉันจะรักเธอ”

ไม่รู้บรรยากาศชวนซึ้งเล็กๆ นี้มาได้ยังไง อาจจะเพราะเนื้อเพลงก็ได้ และแม้เพลงถัดมาจะต่อด้วยเพลงสุดฮิตอย่างกินตับ แต่ทุกคนก็เต็มเปี่ยมไปด้วยประกายสดใสในแววตา

“ไปเที่ยวกันไหม...จะไปก็รีบไป...”
“เดี๋ยวพี่พาไปกินตับ...ตับตับตับตับ...ตับตับตับตับ” 

คชาหัวเราะให้กับเฟรมที่เอาตับมากินจริงๆ พร้อมทั้งลิปซิงค์ขณะโปเต้ถือไมค์ร้อง ส่วนเจมส์ก็ลุกขึ้นมาเต้นบ้าๆ อย่างไม่อายฟ้าอายดิน

เทอมแรกในชีวิตมหาวิทยาลัย เทอมแรกที่มาอาศัยในเมืองกรุง...จุดเริ่มต้นที่ยากลำบากหากเมื่อมาถึงจุดสิ้นสุดพวกเราต่างก็ยิ้มได้

   ถ้าไม่มีเพื่อนๆ เหล่านี้...ก็ไม่รู้ว่าชีวิตของเขาจะมาถึงจุดนี้ได้ยังไง

เฟรม...เพื่อนคนแรกในกรุง แม้จะสร้างเรื่องยุ่งๆ แต่ก็อยู่ด้วยกันเสมอ
แพรวา...อดีตเพื่อนข้างห้องที่คอยให้คำปรึกษาหลายๆ อย่าง
โปเต้...หัวหน้ากลุ่มรายงาน ผู้เคยให้ที่พักอาศัยเขาชั่วคราว
แอ้น...นางฟ้าที่ทำให้เขารู้จักเปิดใจยอมรับตัวเอง
เจมส์...ไอ้ตัวฮา ผู้นำพาเสียงหัวเราะสู่ทุกคน

มิตรภาพที่ถูกก่อขึ้นภายใต้คำว่า ‘เพื่อน’ มั่นคงและจริงใจเสมอมา 




- - -




ภายในห้องพักเบอร์ 603  กระเป๋าเสื้อผ้าขนาดกลางๆ ถูกลากออกจากมุมห้อง ตู้เสื้อผ้าเปิดอ้าออกให้ได้หยิบของออกมาโดยสะดวก คชานั่งจัดกระเป๋า เช็คดูแล้วไม่มีอะไรต้องเอากลับมาก นอกจากของใช้บางอย่างเท่านั้น

เพราะที่โคราชบ้านเกิดมีรถทัวร์ไป-กลับเยอะจนไม่ต้องจองล่วงหน้า คชาจึงประวิงเวลานอนเอื่อยเฉื่อยอยู่ในเมืองกรุงมาสองวันติด หากแต่สุดท้ายก็คงต้องถึงเวลา…

   หนุ่มร่างเล็กตัดสินใจเดินออกจากห้องพักเมื่อใกล้ถึงเวลานัดหมาย ล็อกประตูเช็คทุกอย่างเรียบร้อย แม้จะเดินทางพรุ่งนี้ แต่นี่คือนาทีสุดท้ายก่อนจะบอกลาหอพักของตน

   ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางร้านเดิมคือที่ที่เขานัดอีกคนไว้ มันคือร้านแรกในกรุงเทพที่เขาเคยฝากท้อง ไม่รู้ทำไม วันนี้แค่อยากจะทานกับเต๋าขึ้นมา

   “เอาไรดีน้อง?”  คนขายว่าเมื่อคชาหย่อนก้นลงบนเก้าอี้พลาสติก

   ไม่ทันอ้าปากพูดอะไร  หนุ่มลูกชายเจ้าของหอก็เดินมาถึงพอดี เต๋ายังอยู่ในเสื้อเชิ้ตนักศึกษาสีขาวสะอาดตา สะพายกระเป๋าหนังใบเดิม

“เส้นเล็กหนึ่ง บะหมี่หนึ่งครับ”  เสียงทุ้มสั่งเมนูเดิมให้เสร็จสรรพ นั่งลงตรงข้ามอีกคนที่รออยู่

รสชาติของก๋วยเตี๋ยวเจ้าเดิมยังคงเหมือนทุกคราว หากแต่หนนี้คชากลับรู้สึกเหมือนอร่อยกว่าทุกๆ ครั้ง  คงเพราะบางทีนี่อาจจะใกล้เคียงกับคำว่ามื้อทิ้งทวนอำลา

เสียงกรุ๊งกริ๊งจากกระดิ่งสุนัขไม่ใกล้ไม่ไกลร้องเรียกความสนใจได้ชั่วขณะ  เจ้าหมาสีขาวตุ่นตัวผอมยังน่าเอ็นดูไม่ต่างจากวันแรกที่เจอ มันกระดิกหางเดินเข้ามาหาเขาพลางนั่งรอของกินเหมือนเคย

“ตะวัน!”  คชาเรียกชื่อมันด้วยความคิดถึง  ไม่ได้เจอกันนานมันตัวโตขึ้นกว่าคราวก่อนมาก แต่ที่น่าแปลกใจและยินดีก็คือตอนนี้มันมีปลอกคอ  คุณป้าหน้าปากซอยคงจะรับมันไปเลี้ยงแต่ปล่อยให้เดินออกมาได้ตามใจ

คชายกมือลูบขนของมันก่อนจะแบ่งลูกชิ้นในชามให้ ยิ้มสดใสพลางทอดสายตามองลงไปอย่างอ่อนโยน ในขณะที่อีกคนซึ่งนั่งดูอีกค่อยๆ คลี่ยิ้มตาม


ดูเหมือนว่า รอยยิ้มจะเป็นโรคติดต่อ...





ค่ำคืนสุดท้ายในบ้านเพียงพอ พอเหมาะพอเจอกับฟุตบอลนัดสำคัญพอดี  แม้ไม่ใช่ทีมโปรดคชาแต่ก็น่าติดตามไม่น้อยเพราะเป็นศึกระหว่างลิเวอร์พูลเจ้าบ้านที่เปิดสนามรับแมนยูทีมโปรดเต๋า  คืนแดงเดือดนี้ทั้งคู่จึงใช้เวลาอยู่บนโซฟาหน้าโทรทัศน์ด้านล่างกัน  โดยที่คนอื่นๆ ในบ้านแยกย้ายขึ้นไปพักผ่อนที่ห้องของตน

เสียงเชียร์จากทั้งสองดังขึ้นไม่ขาด  การแข่งขันดำเนินมาจนเวลาดึก เกมค่อนข้างลุ้นระทึกในช่วงใกล้หมดเวลาที่สกอร์ยังเท่ากัน
จนกระทั่งการสมาชิกจากลิเวอร์พูลทำฟาล์ว เป็นผลให้แมนยูได้จุดโทษ  ตอนนั้นจึงเป็นจุดที่ทำเอาทั้งคู่หายใจไม่ทั่วท้อง คชาเผลอคล้องแขนคนข้างๆ พลางทำตาโตลุ้นการแข่งขันไปพร้อมๆ กัน

และเพียงไม่กี่วินาทีที่ปลายสตั๊ดสัมผัสลูกกลมๆ นั้น ก็บังเกิดผลเป็นประตูขึ้นนำให้กับปีศาจแดง และกลายเป็นประตูชัยให้นัดนี้ทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชนะไปด้วยสกอร์ 2 ประตูต่อ 1

“เห็นไหม บอกแล้วว่าแมนยู”  เต๋าหันมาทำหน้าผู้ชนะบอกอีกคน ในขณะที่คชาทำหน้าเชิ่ดเหมือนไม่สนใจอะไร

“แล้วไง เชลซีดีกว่าตั้งเยอะ รอเดือนหน้าเถอะ แมนยูเสร็จเชลซีแน่”  ว่าแล้วก็ทำหน้าโหดๆ ที่ไม่ได้ดูน่ากลัวแม้สักนิดเดียว เห็นดังนั้น เต๋าก็คลี่ยิ้มบางเบา 

“โอเค แล้วจะรอ”  น้ำเสียงดูไม่ใช่คำท้าหากแต่คือการหมายตามคำพูดนั้น  สายตาคู่คมทอดมองใบหน้าอีกฝ่ายราวกับจะสื่อความนัยบางอย่างออกไป  มือกุมมืออีกคนไว้ แผ่ความอบอุ่นถึงกันและกัน

“แล้วจะรอนะคชา”





หน้าระเบียงชั้นสี่ที่เก่า บรรยากาศยามเที่ยงคืนเงียบสงัด ทว่าไม่ได้เงียบเหงา  เพียงสัมผัสจากท่อนแขนส่งผ่านเสื้อนอนบางเบา ลมหนาวที่พัดโชยก็พลันกลายเป็นเพียงสายลมแผ่วไหว

เต๋ายืนกอดเขาไว้จากด้านหลัง อ้อมแขนแกร่งกุมกระชับที่หน้าท้อง

“วันนี้ไม่เห็นมีดาวเลย”  คชาว่าพลางมองจรดฟ้ามืดด้านบน วันนี้อีกคนบอกจะพามาดูดาวหลังดูบอลจบเหมือนคราวก่อนนั้น หากแต่กลับไม่มีให้เห็นสักดวง

“ทำไมจะไม่มี”  เสียงอีกคนที่เอ่ยค้านทำให้คชาตั้งใจเพ่งเป็นพิเศษ  หันซ้ายทีขวาทีหากแต่ก็ยังมองไม่เห็นดาว

“ขี้โม้ ดาวอยู่ไหน?”  เสียงใสเอ่ยท้วง มือก็แกะแขนที่โอบไว้ออกมาจับไว้แทน  “ไหน ชี้ให้ดูหน่อย”  พูดพลางหันไปมองหน้าอีกคนอย่างท้าทาย

เต๋าส่งยิ้มเรียบง่ายตามสไตล์เป็นคำตอบ ก่อนจะยกมือข้างที่ถูกจับไว้ชี้ไปบนท้องถนนที่เต็มไปด้วยแสงไฟจากจราจร  “นั่นไงดาว...ดาวเดินดิน”

ได้ยินดังนั้น พลันอีกคนก็หัวเราะออกมาเบาๆ  “ตลกแล้วเต๋า”  คชามองลงไปตามนั้น  แม้ตอนนี้จะเป็นเวลาค่ำ หากแต่ผู้คนบางส่วนยังคงใช้ชีวิตกันยามราตรี  ตาคู่กลมตวัดไปมองคนข้างๆ ด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะถูกดึงตัวเข้าไปกอดเอาไว้แน่น

“แล้วนี่ก็ดาวอีกดวง”  เต๋าว่าแล้วก็จูบที่กระหม่อมอีกคนหนึ่งที ก่อนจะกระซิบบอกอีกคนแผ่วเบา

“กลับโคราชเดินทางดีๆ นะชาค่ะ ดูแลตัวเองด้วย”  เสียงนั้นแสดงความห่วงใยไม่ต่างจากทุกครั้ง เหมือนต้นกล้าที่ถูกรดน้ำจนชุ่มฉ่ำจนกระทั่งผลิใบ

“เข้าใจแล้วเต๋าครับ...อยู่กรุงเทพก็ตั้งใจเรียนล่ะรู้ไหม” 

“โอเค...ทราบแล้วไม่เปลี่ยน”

“หืม...?”

“ทราบแล้วไม่เปลี่ยนใจจากคชาไง”

“งั้นต้องเปลี่ยนเป็น ‘ทราบแล้วห้ามเปลี่ยนใจ’ ต่างหาก”

“ครับผม...ด้วยความยินดี”


.
.
.

ภายใต้ท้องฟ้ามืดมิด ชีวิตผู้คนนับร้อยพัน ดาวบนดินนั้นยังส่องสว่าง

หลายคนคิดไขว่คว้าดาวบนฟ้า ใฝ่หาหนทางไป หากหลงลืมแสงไฟนำทาง


บางครั้ง... คนเราก็ไม่จำเป็นจะต้องขวนขวายดวงดาวบนฟ้า โหยหาอุดมคติเสมอไป


ไม่มีความรักใดสมบูรณ์โดยตัวของมัน... เราต่างหากที่ต้องเติมเต็มช่องว่างนั้นให้พอดี




แด่แสงไฟทุกดวงบนโลกนี้... ที่รอคอยการเป็นแสงดาว...

   







E N D



จบแล้วค่า สำหรับการลงฟิคเรื่องแรกในเล้า อิอิ
หวังว่าฟิคเรื่องนี้จะทำให้ทุกคนมีความสุขกันบ้างไม่มากก็น้อย
ขอบคุณคนอ่านทุกคน ติชมได้ตามสบายนะค้า จะได้เป็นแนวทางในการแต่งเรื่องต่อไป ^^
ขออภันที่ลงไม่ค่อยต่อเนื่อง ทำให้อารมณ์ติดขัดไปบ้าง 555

 :pig4:  :pig4:  :pig4:

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
อ๊าย จบแล้ว แล้วจะมีภาค 2 หรือภาคต่อไหมค่ะ

อยากอ่านจัง

สนุกมากๆ เลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด