พิมพ์หน้านี้ - ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: P.15 ซื้อรวมเล่มได้ที่งานตลาดฟิค 22มีนา บูธ H2-3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: bozang ที่ 25-05-2012 08:37:17

หัวข้อ: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: P.15 ซื้อรวมเล่มได้ที่งานตลาดฟิค 22มีนา บูธ H2-3
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 25-05-2012 08:37:17
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0




---------------------------------------------------------------



หมายเหตุ
1. ฟิคเรื่องนี้เป็นแฟนฟิค เต๋าคชา AF8 แต่คนที่ไม่รู้จักเต๋าคชาก็อ่านได้ค่ะ แต่ถ้าอยากมโนให้ตรงกับคนแต่งล่ะก็ สามารถไปเซิร์ช google / youtube ได้เลยว่า "เต๋าคชา"
2. ฟิคเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับศิลปินแต่อย่างใด
3. ฟิคเรื่องนี้ลงมาแล้วที่เด็กดีดอทคอม ปัจจุบันยังแต่งไม่จบ และเรา(คนโพส)เป็นเจ้าของเรื่องเองค่ะ




---------------------------------------------------------------



สารบัญ

00 01 02 03 04 อยู่ด้านล่างจ้ะ

05 06 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33328.30)
07 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33328.60)
08 09 10 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33328.90)
12 13 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33328.120)
15 16 17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33328.150)
18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33328.180)
19 20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33328.210)
21 22 23 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33328.210)



---------------------------------------------------------------




Synopsis

ผู้หญิงคงต้องอาย... เมื่อผู้ชายแท้ๆ อย่าง คชา เด็กโคราชบ้านนา ริปลอมตัวเป็นทอมตามคำแนะนำของเพื่อนหมาดๆ อย่างเฟรม เพื่อที่การอยู่ในหอพักหญิงราคาแสนถูกใกล้มหาวิทยาลัยใจกลางเมืองกรุง

ผู้ชายหนึ่งเดียว ในหอพักหญิงเพียงพอ... หนึ่งเดือนต่อจากนี้ คชาคงได้พบกับเรื่องวุ่นๆ ที่คาดไม่ถึงอย่างแน่นอน




---------------------------------------------------------------
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂
เริ่มหัวข้อโดย: wisky ที่ 25-05-2012 08:48:51
ยินดีต้อนรับเรื่องใหม่ค่ะ  :pig2: มาลงเร็วๆนะค่ะจะรออ่าน :L2:
ปล.เอากฏของเล้ามาลงด้วยนะค่ะเดี๋ยวทู้หาย
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 25-05-2012 09:16:48
♀ TOM (or) BOY ♂
00







ชายรูปร่างเล็กในชุดเสื้อฮู้ดสีดำแขนยาว กับกางเกงยีนส์สีซีดพร้อมด้วยรองเท้าผ้าใบ เดินหอบสัมภาระใบใหญ่มายืนหยุดอยู่ที่หน้าอาคารสี่ชั้นสีชมพูหวานแหววในตรอกไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย
ตาเรียวเล็กหรี่ลงมองป้ายที่เขียนด้านหน้าสลับกับแผนที่ที่ได้มา กะพริบตาสองสามครั้งเพื่อให้รู้สึกแน่ใจว่าตนเองไม่ได้ตาฝาด

หอพักเพียงพอ... ชื่อก็ถูกแล้วนี่หว่า!
แต่ทำไมมันเป็นหอหญิงไปได้!!!!!
ชื่อ คชา เป็นชื่อผู้ชายนะว้อยไอ้เฟรม!!!!!
อย่าบอกนะว่าสองสามอาทิตย์ที่คุยเฟซบุคกันมา มันคิดว่าผมเป็นทอม!
ไม่หนิ... ไม่น่าโง่ขนาดนั้นนี่หว่า ก็เคยเจอกันครั้งนึงตอนมาสอบสัมภาษณ์แล้วนี่ ตอนนั้นเขาก็ใส่เสื้อนร. กางเกงสีดำปกติดี  หรือคิดว่าเขาเป็นคนบ้านนอกคอกนา จะหลอกยังไงก็ได้หรอ? 
ถ้าคิดอย่างนั้น... ก็ถูกแล้วว้อยยยยยยย ฮือออออออออ ไม่น่าหลงเชื่อมันเลยว่าจะหาห้องถูกๆ ใกล้มหาวิทยาลัยให้ได้… เออ หาให้ได้แล้วไง ก็นี่มันหอหญิง!!!!!
ไอ้เชี่ยเฟรมเอ๊ย  เจอตัวเป็นๆ อีกเมื่อไหร่ได้ตบหัวทักทายแน่ๆ



คชานั่งคร่ำครวญปนด่าเพื่อนโคตรใหม่ในใจที่ร้านน้ำเต้าหู้ใกล้ๆ ตึกสีชมพูตึกเดิม  ไอ้เฟรมที่ว่า เป็นเพื่อนที่สอบติดคณะเดียวกัน แล้วดันนั่งรอสัมภาษณ์ข้างๆ เลยได้คุยกันยาว  และยิ่งมีความชอบเรื่องดนตรีเหมือนๆ กันยิ่งคุยถูกคอ  เฟรมเป็นเด็กอีสานที่มาอยู่กทม.ตั้งแต่ตอนม.ปลายเสียก่อน  ยิ่งเห็นว่าเป็นคนบ้านเดียวกันแบบนั้น  คชาเลยวานให้ช่วยหาห้องหับให้
แล้วผลเป็นไง... พรุ่งนี้เปิดเทอมวันแรกแล้ว  คืนนี้จะมีที่ซุกหัวนอนไหม คชายังไม่รู้เลย


เกือบครึ่งชั่วโมงที่คชานั่งรำพึงรำพันถึงเพื่อนที่เคยเห็นตัวเป็นๆ แค่ครั้งเดียว  ในที่สุดตัวจริงก็มาหาเขาจนได้...  เฟรมรูปร่างเตี้ยกว่าคชาเล็กน้อย หากแต่ดูมีเนื้อมีหนังกว่ากัน รวมถึงดูแมนกว่าคชามาก  หนุ่มร่างสันทัดเดินตรงมาหาเพื่อนใหม่ร่างเล็กพลางยิ้มแฉ่งให้

“เฮ้ย คชาหวัดดี.. โทษที ทายาสิวอยู่ ต้องรอมันแห้งก่อนน่ะ”  เขาเอ่ยทักทายอย่างสบายอารมณ์ต่างจากคนฟังลิบลับ... รายนั้นกำหมัดแน่น ถ้าต่อยไอ้หน้าสิวตรงหน้าได้คงต่อยมันไปนานแล้ว
ขอให้สิวแกไม่หาย ให้หน้าแบบนี้ไปตลอดชาติ... ไอ้คนหลอกลวง!!!

“เออ สวัสดี”  แม้ใจจะคิดร้ายเพียงใด หากแต่ยังทักทายกลับไปตามมารยาทที่พึงกระทำ

“อย่าทำหน้าอย่างนี้ดิ... คือจริงๆ ตอนแรกเราจะให้แกมาอยู่หอเดียวกับเราเว่ย แต่พี่ที่บอกจะย้ายออกดันเลื่อนเป็นย้ายเดือนหน้าว่ะ  แล้วเขาก็บังคับให้ห้องนึงอยู่ได้แค่คนเดียวด้วย ไม่งั้นจะโดนจ่ายค่าปรับอย่างแพง  มันเลยไม่มีที่ให้แกอยู่อะ”  เฟรมยังพูดยิ้มๆ เช่นเคย

“เลยให้(กู)มาอยู่หอหญิง?”

“เปล่า... คือ.......”  หนุ่มหน้ามึนพูดจบก็นึกอยู่สักพัก ก่อนจะพูดขึ้นต่อว่า...  “เออ ก็ใช่”

“บ้าเอ๊ยยยยยยยยยยยย”  คชาสบถลากเสียงยาว ไม่ได้ว่าคนตรงหน้าซะทีเดียวแต่เป็นการรำพึงรำพันกับโชคชะตาของตัวเองเสียมากกว่า

“เฮ้ย อย่าเพิ่งกริ้วดิวะ  ฟังก่อน... คือที่นี่ค่าหอถูกมากเลยนะเว่ย เดือนนึง 2,500 แถมคุณป้าเขาใจดีลดเหลือแค่ 2,300  ห้องน้ำในตัว  แถวนี้หาไม่ได้อีกแล้วนะ  แล้วอีกอย่างนึง จากการที่เราเคยเจอแล้วก็เคยคุยสไกป์กับแกมาหลายครั้งแล้ว  เราเล็งเห็นว่าแกสามารถมาอยู่ที่นี่ได้จริงๆ”
พอได้ยินเฟรมพูดยืดยาวแบบนั้น  คชาจึงเริ่มมีความหวังเล็กๆ บางอย่างในใจ  ใบหน้าหวานจึงนิ่งฟังต่อ

“คือเรารู้จักกับพี่ที่เคยอยู่หอนี้เว้ย พี่เขาชื่อแพรว”

“อ่าฮะ”

“เขาเป็นทอม”

บ้าเอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย  คือคุณมึงจะบอกว่าผมเหมือนทอมใช่ไหมคร้าบบบบบบบ  ก็คิดว่าจะมีเหตุผลอะไร!!!

ดูเหมือนประโยคจากเพื่อนใหม่จะทำให้เขาเลือดขึ้นหน้าไม่มากก็น้อย... คชากระแทกถ้วยน้ำเต้าหู้ว่างเปล่าลงบนโต๊ะสีขาว  ขมวดคิ้วมองหน้าสิวของเฟรมอย่างเคร่งขรึม

“คือพี่แพรวจะไม่เช่าต่อแล้ว เราเลยให้พี่เขาบอกเจ้าของให้ว่าจะให้ทอมรุ่นน้องเช่าต่อสักเดือนนึง  เจ้าของก็อนุญาต พร้อมอยู่ ไม่ต้องตรวจเอกสารไรเลยด้วย  เจ๋งปะล่ะ?”

เห็นหน้าภูมิใจสุดๆ ของเพื่อนใหม่ตรงหน้าแล้ว ไม่รู้ว่าคชาควรจะตอบว่า ‘เออ เอ็งโคตรเจ๋ง สุดยอดเลยว่ะเพื่อน’  แล้วตบไหล่มันเบาๆ  หรือควรจะซัดหน้ามันไปสักทีสองทีดี

แต่ตอนนี้คชากำลังไร้ทางเลือกแบบสุดๆ  เขาเองก็ไม่รู้จักใครในกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรแห่งนี้อีกแล้วเสียด้วย แถม 2300 บาทยังเป็นจำนวนเงินที่ถูกไม่ใช่น้อยเมื่อเทียบกับค่าครองชีพในเมืองกรุงแบบนี้...
ไหนๆ ก็ถ่อมาถึงนี่แล้ว...

“แค่เดือนเดียวใช่ไหมวะ?”  เสียงเล็กย้ำถามอย่างไม่มั่นใจนัก

“เออ แค่เดือนเดียว รับรอง”  เฟรมตอบยิ้มๆ กลับมาให้  ตบไหล่เล็กเบาๆ

“แล้วถ้าโดนจับได้ล่ะ?”  ใบหน้าหวานเลิกคิ้วถามต่อ

“ไม่โดนหรอกคชา... แกโคตรเหมือนทอมเลยจริงๆ”  ได้ยินเพื่อนใหม่ว่าดังนั้นก็ไม่รู้คชาจะดีใจหรือเสียใจ  แต่เอาเป็นว่าในตอนนี้คงต้องดีใจไปก่อนก็แล้วกัน

“เชื่อเราเว่ย... ไม่มีอะไรยากเลย เข้าห้องปุ๊บก็ปิดประตูล็อกห้องปั๊บแค่นั้นเอง”
คชาพยักหน้าหงึกๆ อย่างเริ่มคล้อยตาม... พอนึกดูแล้วก็ไม่มีอะไรจริงๆ 

“เดี๋ยวน้ำเต้าหู้มื้อนี้เราเลี้ยงเอง ถือว่าเป็นอาหารต้อนรับคชาเนอะ” 
ศีรษะกลมพยักขึ้นลงอีกครั้ง  เฟรมเห็นดังนั้นก็ยิ้มพลางเรียกเจ้าของร้านมาเก็บเงินทันที  ก่อนที่ทั้งคู่จะลุกออกจากโต๊ะเล็กๆ ตัวนั้นไป

เฟรมยื่นกุญแจห้องให้กับเพื่อนใหม่  ตบไหล่อีกคนเบาๆ

“ห้องเบอร์ 23 อยู่ชั้นสองห้องที่สาม อาจจะยังมีข้าวของพี่แพรวอยู่นิดหน่อยอย่าไปสนใจ  โชคดีนะเว่ย ที่นี่มันหอหญิง เรามาส่งแกได้แค่นี้แหละ”  พูดจบก็ยื่นสัมภาระของอีกฝ่ายที่ช่วยถือส่งให้คืนแก่เจ้าของ  คชารับมันไป ทำหน้าสงสัยกับถุงพลาสติกทึบที่เฟรมให้มาพร้อมกัน

“ของขวัญต้อนรับเพื่อนใหม่... ไว้เข้าไปถึงห้องแล้วค่อยเปิดดูนะ”
คชายิ้มน้อยๆ  ชักเริ่มจะถูกชะตากับเพื่อนคนนี้ซะแล้วล่ะ

“ทำตัวเนียนๆ ล่ะ  เจอกันพรุ่งนี้ที่คณะ บาย”
แม้มือเล็กจะไม่ได้ยกขึ้นโบกให้อีกฝ่ายเพราะมีของเต็มมือแต่คชาก็ตอบกลับไปเบาๆ

“อือ บาย”
ตาคู่เรียวยืนมองเฟรมที่เดินไปจนลับ  ก่อนจะหันกลับมามองตึกหอพักสีชมพูหวานจ๋อย  นึกภาวนาขอพรอยู่ในใจ


คุณพระคุณเจ้าคุณพ่อคุณแม่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ช่วยให้คชาอยู่รอดปลอดภัยในหอพักเพียงพอนี้ด้วยเถิด...
สาธุ







TBC




ขอบคุณคุณ wisky มากเลยค่ะ ที่มาเจิมและมาเตือน 555 ปกติอ่านอย่างเดียว เพิ่งลองสมัครยูสมาโพสบ้าง
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 25-05-2012 09:28:24
♀ TOM (or) BOY ♂
01








เงินจำนวน 2,300 บาท กับค่าหอพักใจกลางเมืองแบบนี้ มันดูน้อยใช่ไหม?
แต่ผมว่ามันแพงไปซะด้วยซ้ำ!!!!!


หนุ่มร่างเล็กในสถานภาพทอมบอย วางข้าวของทั้งหมดกองลงกับพื้น ยืนมองสถานที่ซึ่งจะเป็นที่พักอาศัยของตัวเองไปอีกหนึ่งเดือน
แผ่นหลังบางแนบชิดติดประตู  ด้านหน้าถัดไปอีกสองเมตรเป็นโต๊ะเขียนหนังสือ มีหน้าต่างและผ้าม่านที่ฝุ่นจับแลดูไม่ได้ซักมานาน  ส่วนซ้ายมือเป็นเตียงขนาดนอนพอดี๊พอดีตัว ใต้เตียงมีลิ้นชักให้ใส่ของ ติดกับเตียงก็เป็นผนังห้องน้ำ มุมตรงข้ามเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดย่อม
พื้นที่ทั้งหมดรวมกันไม่น่าเกิน 15 ตารางเมตรได้!
นึกไม่ออกหรอว่าเล็กขนาดไหน?... ก็เล็กขนาดที่ลุกจากปลายเตียงแค่สามก้าวก็ถึงห้องน้ำแล้วน่ะ
ทีวี ตู้เย็น โซฟา... ของพรรค์นั้นอย่าได้หวังว่าจะมีเลย  กาน้ำไฟฟ้าสักใบยังไม่มี  แต่ยังดีที่มีเครื่องทำน้ำอุ่นในห้องน้ำกับแอร์ขนาดจิ๋วติดผนังอีกตัวมาให้

สมชื่อหอพักเพียงพอ ให้คชาได้เป็นอยู่อย่างพอเพียง...


หนุ่มร่างเล็กยกข้าวของบางส่วนจากพื้นมาวางบนเตียง  เปิดกระเป๋าเสื้อผ้าเทข้าวของออกมาเตรียมจัดใส่เข้าไป
หากแต่เสียงโหวกเหวกโวยวายก็ดังขึ้นเสียก่อน

“ไฟไหม้จ้า ไฟไหม้ คนข้างในรีบออกมาเร็ว!!!!”

ฉิบหาย! นี่มันเรื่องอะไร!? ยังไม่ทันได้นอนสักคืนเลยเลยนะเว้ย!!! ตังค์จ่ายไปตั้งสองพันสามร้อย!!!!!!  แต่ยังไงตอนนี้ก็ต้องเอาชีวิตกับข้าวของไว้ก่อน!!!!!
เหงื่อผุดพรายที่ใบหน้า  หัวใจสูบฉีดอย่างรวดเร็ว... ถ้ามีตู้เย็นในห้องคชาคงยกออกไปด้วยเสียแล้ว... แต่มันไม่มี หนุ่มร่างเล็กจึงรีบคว้าอะไรที่พอติดออกมาได้ให้มากที่สุด

ก่อนจะรีบเปิดประตูออกไป...



“เย้ๆๆๆ  ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนร่วมหอชั้นเดียวกันนะจ๊ะ... ฉันชื่อจอย ส่วนนี้พี่หลินกับแพรวา ไปเล่นสลาฟกันเหอะ  เล่นสามคนมาตั้งนานไม่มันส์เลย”

สามสาวไซส์อวบนิดๆ ลั่นหน่อยๆ ยืนประจันหน้ากับผู้ชายในคราบทอมอย่างคชาพลางยิ้มร่า  ก่อนที่เขาจะโดนพวกเธอกึ่งลากกึ่งฉุดไป

นี่ มัน อะไร กัน วะ !!!!!



- - - - - - - -



‘เชื่อเราเว่ย... ไม่มีอะไรยากเลย เข้าห้องปุ๊บก็ปิดประตูล็อกห้องปั๊บแค่นั้นเอง’
คำพูดของเฟรมเมื่อยี่สิบนาทีก่อนยังคงดังก้องอยู่ในใจ... ที่เฟรมบอกมันไม่มีอะไรยากจริงๆ 
แต่ทำไมมันถึงทำไม่ได้ล่ะวะ!!!!!?????


“นี่ชา รีบลงมาสิ หรือว่าจะผ่าน”  เสียงแหลมๆ ของหญิงสาวผมสีทองเจ้าของห้องเบอร์ 21 นามว่า แพรวา เอ่ยกับชายหนุ่มในคราบทอมตรงหน้าอย่างจิกๆ ตามวิสัย

คชาถูกเรียกว่า ‘ชา’ ชื่อใหม่ที่เพิ่งคิดได้จากมันสมองส่วนน้อยนิดของเขาเอง  ทอมหนุ่ม(?)หน้าซีด... มองหน้าสมาชิกแต่ละคนในวงสลับกับไพ่ในมือ

นี่มันชะตากรรมอะไรของเขากันนะ? ยังไม่ทันเข้าไปนั่งในห้องได้ถึงห้านาทีก็ถูกเคาะประตูร้องเรียกมาเป็นขาไพ่สลาฟในห้องคนอื่นแบบนี้!

สลาฟ... เกมไพ่ที่เขาเล่นทีไรก็แพ้มันซะทุกที


“ผ่าน”  เสียงเล็กเอ่ยออกไป  แพรวายิ้มร่า ก่อนจะลงไพ่เบอร์ 2 โพธิ์แดงออกมา

“จอย.. พี่หลิน... ผ่านไหม?”  เธอถามหญิงสาวอีกสองคนในวง
หลินเป็นเจ้าของห้องเบอร์ 22 หุ่นอวบอัด ผมดัดเป็นลอนสวย เรียนอยู่คณะวิทยาศาสตร์ชั้นปีที่ 2   ส่วนจอยเรียนคณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกขับร้อง ปี 1 ผมตรงประบ่าใบหน้าสวยหวาน แต่ออกจะลั่นอยู่เหมือนกัน  ห้องของจอยนั้นเบอร์ 24 ตรงข้ามห้องของคชาเอง

“ผ่านย่ะ / ผ่าน”  สองสาวตอบอีกหนึ่งสาว  แพรวาได้ยินดังนั้นหัวเราะร่า

“คู่สี่... หมดแล้วจ้ะ แพรชนะ”  พูดจบเธอก็ลุกขึ้นจากวง เดินเข้าห้องน้ำไปอย่างสบายใจ
ห้องจึงมีพื้นที่หายใจเพิ่มขึ้นอีก 25%

ก็บอกแล้วว่าห้องมันเล็ก! ถึงห้องเบอร์ 21 ห้องนี้จะใหญ่กว่าห้องเขานิดนึงก็ตามที  แต่มันไม่เพียงพออยู่ดีสำหรับคนสี่คน  ดูสิ นั่งเบียดไหล่ชนไหล่กันอยู่แล้วเนี่ย… แต่นั่นไม่เท่าไหร่หรอก เมื่อเทียบกับการที่สาวเจ้าใส่เสื้อคอยืดย้วย  แล้วต้องมาก้มๆ เงยๆ วางไพ่กันอีก  เพศหญิงเหมือนกันพอจะเข้าใจ แต่เผอิญว่าเขาดันไม่ใช่น่ะสิ!

คชาเบนสายตาหนีแทบไม่ทัน…

จะบาปไหม?  แต่เปล่านะ เขาไม่ได้ตั้งใจจะแอบดูเนินอกพี่หลิน T^T
เอาจริงๆ คชาชอบผู้หญิงอกเล็กมากกว่าเพราะมันดูน่ารักดี... (เกี่ยวไหม!!!!!)



โชคดีที่เย็นวันนั้นขาไพ่รายสำคัญอย่างพี่หลินมีธุระต้องออกไปข้างนอก  จอยเองก็เช่นเดียวกัน  การเล่นสลาฟในวันนั้นจึงยุติลงในอีกสองชั่วโมงต่อมา

สองชั่วโมง! …และมันเป็นสองชั่วโมงที่ไม่ได้อะไรเลย  นอกเสียจาก…

“ชา... เธอเป็นสลาฟบ่อยที่สุดในบรรดาพวกเรา ส่วนฉันก็เป็นคิงบ่อยที่สุด ดังนั้นเธอต้องรับใช้ฉันตามสัญญา”  แพรวาเอ่ยกับเพื่อนใหม่พลางยิ้มเยาะเย้ยนิดๆ

“สัญญาอะไรวะ!?”  ทอมหนุ่มร้องออกมาแบบงงๆ  ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ

“ไม่รู้ ยังนึกไม่ออก ไว้จะบอกอีกที”

“ฮะ?... แต่ก่อนเล่นไม่ได้มีบอกเอาไว้เลยนี่”

“มีจ้ะ แต่ตอนนั้นเราเล่นกันแค่สามคน”  คชาอ้าปากกำลังจะเอ่ยขัดแพรวา หากแต่เธอทำเมินไม่สนก่อนจะเปลี่ยนเรื่องไปเสียดื้อๆ

“กลับห้องไปได้แล้วชา ไว้วันหลังจะเรียกมาเล่นสลาฟกันใหม่ ฉันจะอาบน้ำ”
ได้ยินเธอกล่าวดังนั้นคชาจึงรีบออกไปโดยเร็ว
พอแล้ว... เขายังไม่อยากเป็นบาปเพิ่มอีก




- - - - - - - -




มื้อเย็นมื้อแรกในเมืองหลวงแห่งนี้  ไม่ยากเลยที่คชาจะหาอาหารได้ทั่วไปจากรถเข็นริมทาง  ในตรอกซอกซอยแถวนี้มีเยอะแยะเลยจริงๆ

ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นโอชา... เห็นชื่อร้านหน้ากินแถมยังมีแปะโลโก้เชลล์ชวนชิม คนตัวเล็กก็เลยนั่งลง แม้อากาศจะไม่ได้ดีเหมือนโคราชแต่บรรยากาศตอนนี้ก็สบายดีเหมือนกัน

ก๋วยเตี๋ยวชามใหญ่ถูกนำมาเสิร์ฟในเวลาต่อมา  คชายิ้มเจื่อนพลางพูด “ขอบคุณฮะ” เพื่อแอ๊บทอมตามจำเป็น
ก็ไอ้เรามันมารยาทดี  ตอนสั่งทีแรกเลยเผลอไปพูด ‘ครับ’ อะดิ

“อ้าวน้อง... พี่ก็ว่าหน้าอย่างเนี้ยอะนะเป็นผู้ชาย  แล้วก็เป็นทอมจริงๆ ด้วย ฮ่าๆๆ”
ได้ยินคนขายพูดกับตัวเองแบบนั้นแล้วคชาจึงทำหน้ายิ้มเจื่อนๆ ไปให้  ไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่ในใจโคตรเซ็ง
นี่เขาเหมือนทอมขนาดนั้นเลยหรอ?? ตั้งแต่ปลอมตัวมายังไม่มีใครนึกสงสัยสักคน T T




หน้าต่างบานเล็กถูกเปิดออกกว้างด้วยคนตัวบางที่โผล่ศีรษะออกมากินลมชมวิว  คชาหลับตา...รับลมเย็นๆ ที่ซัดเข้ามาที่หน้าอย่างพอใจ

จากคำบอกเล่าของพี่หลินในวงไพ่... ห้องนี้เป็นห้องเดียวในชั้นที่มีหน้าต่าง ถึงมันจะเล็กกว่าห้องอื่นหน่อยแต่ก็คุ้ม

ตาคู่เรียวเบิกสำรวจเมืองกว้าง... ด้านล่างเป็นตรอกหน้าตึกหอพัก ถัดไปทางซ้ายเป็นซอยที่มีตึกแถวบ้านคนติดๆ กัน  ส่วนทางขวานั้นเป็นตรอกที่เดินออกไปเชื่อมกับถนนใหญ่ ทางไปร้านน้ำเต้าหู้และร้านอาหารข้างทางมากมายนี่เอง
เงยหน้าขึ้นมองด้านบน เขานึกเสียดายที่ไม่เห็นพระจันทร์เพราะตึกฝั่งตรงข้ามบัง แต่อย่างน้อยได้เห็นฟ้าสีดำท่ามกลางแสงไฟบ้างก็ยังดี

มือบางปิดหน้าต่างลง ก่อนจะติดผ้าม่านที่เพิ่งนำไปซักลงไป  กลับหลังหัน เดินมาอีกสามก้าวก็ล้มตัวลงบนที่นอน
แม้เตียงจะขนาดกะทัดรัด  แต่ผ้าปูที่นอนหอมๆ เพราะนำไปซักใหม่ กับฟูกนุ่มพอประมาณก็ทำเอาเขานอนสบายได้พอตัว  และแน่นอนว่าปลอกหมอนก็สะอาดสะอ้าน... คนตัวเล็กจึงซุกหน้าลงกับหมอนสังเคราะห์ใบนั้นแรงๆ อย่างพอใจ

ห้องนอนส่วนตัวในชีวิตครั้งแรกของเขา... จะว่าไปมันก็โอเคดีเหมือนกัน

ถึงห้องจะเล็กไปหน่อย แต่อย่างน้อยคืนนี้ก็ไม่มีเสียงไอ้เค้นท์น้องชายตัวแสบที่นอนกรน ไม่มีเสียงแม่บ่นให้รีบเข้านอน
คิดแล้วก็ใจหาย  ตอนอยู่บ้านไม่เคยชอบเลยนะ แต่ไม่รู้ทำไม... คิดถึงจังว่ะ


มาวันเดียวก็โฮมซิกซะแล้วหรอเรา T^T





- - - - - - - -




เช้าวันแรกในห้องเบอร์ 23 ของหอพักเพียงพอ  ร่างเล็กบนที่นอนค่อยๆ ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ  หลังจากปิดโทรศัพท์ที่เสียงปลุกดังเป็นรอบที่สาม

ก็เรียนเก้าโมงเช้านั่นแหละ แต่เขาตั้งเวลาไว้เจ็ดโมง เพื่อที่จะเผื่อเวลาเดินไปมหาวิทยาลัย เผื่อเวลาเดินไปที่ตึกเรียนที่ไม่รู้อยู่ไหน นั่นยังไม่รวมเวลาอาบน้ำ เวลากินข้าวที่โรงอาหาร รวมถึงเวลาซื้อสมุดสักเล่ม กับเวลาหลงทางอีกด้วย  แค่คิดก็วุ่นวายแล้ว!

คนตัวเล็กยืนเป่าผมเร็วๆ ที่หน้ากระจกในตู้เสื้อผ้า  มือจะคว้าชุดนักศึกษาออกมาแต่ก็เริ่มเอะใจ

เดี๋ยวนะ... ชุดนักศึกษาชาย!

เอาแล้วจุ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  ลืมคิดไปเลยว่าจะทำไง???


หากแต่ตอนนั้นเองที่แขนป้อมๆ ของคชาไปชนกับถุงพลาสติกทึบที่วางไว้บนโต๊ะจนได้...

ของขวัญของเฟรมที่คชาลืมเปิดดูเมื่อวานจึงปรากฏแก่ตาคู่น้อย
ชุดนักศึกษาหญิงครบชุดทั้งเสื้อ กระดุม กระโปรง เข็มขัด
กับยกทรงสีขาวลายลูกไม้ และกางเกงในเข้าชุดกัน
นี่มันของขวัญอะไรของแกวะไอ้เฟรม!!!!!






สิบห้านาทีต่อมา คชาเปิดประตูออกมาหน้าห้องของตัวเองจนได้หลังจากยืนคิดอยู่นาน  มือบางคว้าลูกปิด ก่อนจะเปิดมันออกเบาๆ

หมดเรื่องสักที ใส่ชุดแบบนี้แหละจะได้ไม่มีใครสงสัย...

อย่าได้คิดว่าคชาใส่ชุดชั้นในกับชุดนักศึกษาหญิงเชียว! จะบ้าหรือไง!  เขากำลังใส่เสื้อฮู้ดสีดำตัวใหญ่คลุมทับเสื้อยืดต่างหาก  ถึงจะเป็นกางเกงนักศึกษากับรองเท้าหนังแต่ก็คงไม่เป็นไร  ส่วนเสื้อเชิ้ตกับไทด์และเข็มขัดอยู่ในกระเป๋าค่อยเปลี่ยนใส่ที่มหาลัยอีกที

เฮ้อ... ทำไมชีวิตมันถึงวุ่นวายอย่างนี้

คนตัวเล็กปิดประตูห้องเบอร์ 23 มองสำรวจตัวเองอีกครั้ง  หากแต่พอหันไปทางขวา ก็พบว่าบนทางเดินไม่ได้มีตัวเองที่อยู่คนเดียว

ไม่ใช่แพรวา ไม่ใช่พี่หลิน ไม่ใช่จอย


แต่มันเป็นผู้ชาย! และกำลังยืนทำท่าน่าสงสัยอยู่หน้าห้องแพรวา!!!!!





“เฮ้ย!!!! / เฮ้ยย!!!!!”  แล้วตอนนั้นที่คชากับโจรตัวขาวหันมาเจอกันเข้าพอดี  ใบหน้าหวานอ้าปากร้องได้ไม่นานก็ถูกโจรนั่นวิ่งเข้ามาปิดปากไว้เสียก่อน

“เธออยู่ห้องนี้ใช่ไหม?  เปิดเข้าไปก่อน”

เขาพยายามอ้าปากพะงาบๆ ส่งเสียงร้อง แต่ก็ไม่ออกเพราะมือที่ปิดปากเข้าอยู่ แล้วยังมีวัตถุแข็งๆ มาดันหลังเสียอีก  “เปิดเร็วๆ สิ ฉันไม่ใช่โจรหรอกน่า” 

ไม่เชื่อที่ผู้ชายคนนั้นพูดหรอก  แต่ก็จำต้องเปิดเพราะถูกบังคับข่มขู่  แล้วที่จี้หลังเขาอยู่น่ะ ไม่รู้ว่ามีดหรือปืนเท่านั้นเอง T^T


คชาถูกผลักเข้าไปในห้องของตัวเอง  ยืนมองไอ้โจรตัวขาวที่กำลังปิดประตูพลางลงกลอนห้องเขาเสียเสร็จสรรพ  ก่อนที่มันจะหันกลับมาทำหน้านิ่งมองเขา

เพิ่งได้มองหน้าแบบเต็มๆ ...หน้าตาก็ดีไม่เบา ไม่น่าเป็นโจรเลย!


“แก... อย่าทำอะไรฉันนะ ฉันไม่มีอะไรให้ขโมยด้วย”  เสียงเล็กเอ่ยขู่ฟ่อๆ แต่ตัวลีบอย่างไม่ได้ตั้งใจ  ถึงอะไรสักอย่างที่ใช้จี้หลังเขาถูกใส่ลงกระเป๋ากางเกงของมันเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะปลอดภัยอยู่ดี

“นี่.. เธอเป็นทอมหรอ?”  แต่อีกคนกลับเปลี่ยนเรื่องเป็นถามเขาพลางทำหน้าติดจะไม่ชอบสักเท่าไหร่

“เปล่า เป็นผู้ชาย!”  เพราะความเก็บกดที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นทอมล่ะมั้ง  เขาเลยเผลอพูดตอบออกไป  แต่พอพูดจบนึกขึ้นได้ก็ทำตาโตเสียเอง

เผลอพูดอะไรออกไปวะ!
เออ แต่มันเป็นโจร... ถ้าเราบอกว่าเป็นผู้ชายมันอาจจะกลัวหนีไปก็ได้



“ไม่เชื่อก็ดู... นี่กางเกงนักศึกษาชาย รองเท้าก็ด้วย”  นิ้วเรียวชี้ให้โจรหน้าขาวดู  ทว่าท่าทีของอีกฝ่ายกลับยังไม่เชื่อเหมือนเดิม

“เป็นผู้ชายแต่มาอยู่หอหญิงเนี่ยนะ”  ใบหน้าหล่อขมวดคิ้ว  เพ่งมองอีกคนอย่างไม่เชื่อสายตา  หากแต่พอเห็นอีกคนหน้าซีดขนาดนั้น  เสียงทุ้มจึงเอ่ยต่ออย่างยิ้มเยาะ 

“เป็นผู้ชายจริงไม่เห็นต้องกลัวผู้ชายเลยหนิ” 
เออ.. ก็เป็นผู้ชายแต่กลัวผู้ชายแล้วจะทำไมวะ!  แล้วจะหัวเราะในลำคอหึหึทำเตี่ยอะไร!? 
กลัวโดนปล้น กลัวโดนปล้ำ กลัวโดนคนในหอจับได้  มันผิดตรงไหน!!!!!

“ไม่เห็นต้องกลัวขนาดนั้นเลย ฉันไม่ปล้ำเธอหรอกน่า  พอดีรสนิยมยังปกติดี  แล้วอีกอย่าง ฉันก็บอกแล้วว่าไม่ใช่โจร”  ริมฝีปากหยักอมยิ้มบางๆ หลังพูดจบ  พอเห็นอย่างนั้นคชาก็เริ่มจะวางใจขึ้นมานิดนึง

“แล้วนายเป็นใคร?”  เสียงใสรีบถามต่อ  หากแต่ตาคู่เรียวยังคงหรี่มองอย่างหวาดระแวงไม่ไว้วางใจ
ใบหน้าหล่อยิ้มขำ พูดตอบอีกคนตรงๆ 




“เศรษฐพงษ์ เพียงพอ” 

เอ๊ะ นามสกุลมันคุ้นๆ อยู่นะ




“เป็นลูกชายเจ้าของหอ... ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณเจ้าของห้องเบอร์ 23”

ว่า ไง นะ!


บ..บร๊ะแล้ว! มันเป็นลูกเจ้าของหอ!
อ๊ากกกกกกกกกกกกกก แล้วที่เมื่อกี๊บอกมันว่าเป็นผู้ชาย!!!
ตาย หยัง เขียด แน่ ตรู!!!!!
TT^TT






TBC

จะมีคนอ่านไหมเนี่ย 555
ฝากด้วยนะค้า หมู่นี้อ่านนิยายในเล้าทุกวัน จนคิดได้ว่าลองเอาของตัวเองมาลงมั่งดีกว่า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Intro+Part1
เริ่มหัวข้อโดย: Eternal luv ที่ 25-05-2012 09:57:11
 :z13:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Intro+Part1
เริ่มหัวข้อโดย: Kanda Moe ที่ 25-05-2012 10:28:40
แวะเข้ามาอ่านคะ+คุณเป็ดให้ ><"
คชาปลอมตัวเป็นทอมเพื่อที่จะอยู่ในหอหญิง คิดแล้วต้องน่ารักน่าดูเลย(?) :-[ :-[ :o8:
เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ :กอด1: :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Intro+Part1
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 25-05-2012 10:57:57
♀ TOM (or) BOY ♂
02










“เศรษฐพงษ์ เพียงพอ  เป็นลูกชายเจ้าของหอ... ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณเจ้าของห้องเบอร์ 23”


ใบหน้าหวานซีดเผือดลงกว่าเดิมราวกับไก่ต้ม คชายืนตัวนิ่ง ทว่าตาคู่เรียวกำลังกลอกมองอีกคนอย่างลุกลี้ลุกลน  รู้สึกว่าตัวเองนั้นช่างโง่เง่าเต็มที

โง่...ที่ดันไปบอกลูกเจ้าของหอหญิงว่าตัวเองเป็นผู้ชาย
หรือบางที  คชาคงโง่...ตั้งแต่ยอมพักที่นี่ตามคำพูดของไอ้เฟรมแล้วก็ได้



“หน้าซีดเชียว ไม่สบายรึไง?”  เสียงทุ้มของชายหนุ่มดังขึ้นกลางความเงียบ  คนตัวเล็กตั้งสติก่อนจะส่ายหน้าแรงๆ เป็นคำตอบแก่อีกฝ่าย

“ไม่สบาย... แต่กลัวสินะ”
ก็เออดิ! กลัวโดนจับได้ ว่าแต่ทำไมไอ้นี่ถึงยังยืนยิ้มอยู่แบบนี้ล่ะวะ?

คิดได้ดังนั้น ร่างเล็กก็เริ่มมีความหวัง คชาสบตามองอีกคนก่อนจะค่อยๆ พูดออกมา



“นาย.. คือที่เมื่อกี๊เราบอกว่าเป็นผู้ชาย เราแค่...พูดเล่น...นะ”

ร่างสูงยืนนิ่งฟัง

“คือเราแค่อยากเป็นผู้ชาย ก็เลยชอบพูดแบบนั้นออกไป”  เห็นอีกคนหน้านิ่งมองมาแบบนั้นแล้วไม่รู้ว่างานนี้เขาจะอยู่หรือไป  ก็คชาเล่นโกหกมันหน้าด้านๆ แบบนี้  แถมตัวเขาเองนี่แหละที่เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ

ใบหน้าหวานหลบสายตาอีกคนที่เพ่งมองมาอย่างพินิจ หันซ้ายมองขวา คิดอะไรไม่นานก็รีบล้วงเอากระโปรงนักศึกษาสีดำจากถุงพลาสติกใบเดิม

“นี่ไงหลักฐาน”  มือเรียวถือให้อีกคนดูหลักฐานเท็จคาตา  กระโปรงพลีตจีบรอบความยาวพอประมาณ
หากแต่ที่มากกว่านั้น
ชั้นในสีขาวลายลูกไม้กำลังร่วงหล่นบนพื้นดังแหมะ...

“ฮ่าๆๆๆๆ”  ลูกชายเจ้าของหอหัวเราะออกมาทันทีเมื่อเห็นมัน และยิ่งขำออกมาดังๆ เมื่อเห็นคนตรงหน้ากระวีกระวาดเก็บมันลงที่เดิมอย่างเขินๆ อีก
ตลกดีจริงๆ

“ขำอะไร!”  ยกทรงนั่น...เป็นของเขาจริงๆ ก็ไม่ใช่  แต่ไม่รู้ทำไมคชาถึงรู้สึกอับอายขนาดนี้

“ขำทอม... นี่ล่ะน้า อยากเป็นผู้ชายแต่สุดท้ายก็ปฏิเสธความจริงไม่ได้อยู่ดี”
คชาได้ยินดังนั้นก็ทำหน้ายู่ยี่... ก็ดีที่อีกคนเชื่อเขาซะสนิท แต่มันตะขิดตะขวงใจตรงที่บอกว่าเขาอยากเป็นผู้ชายนี่แหละ ถึงตอนแรกจะเป็นเขาเองที่พูดแบบนั้นไปก็ตาม

จริงๆ ไม่เคยต้องอยากว้อย เกิดมาก็เป็นผู้ชายอยู่แล้ว! หน้าก็ออกจะหล่อ ตัวก็ไม่ได้เตี้ย เห็นๆ กันอยู่เนี่ยว่าเป็นผู้ชาย ยังจะเชื่อว่าเป็นทอมอีก ไอ้บ้าหน้าขาวเอ๊ย!!!!!

หอพักถูกๆ ไม่ตายยังหาใหม่ได้  แต่ศักดิ์ศรีความเป็นชายมันสำคัญกว่า!


“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น ปวดขี้หรือไง?”

“เปล่า”  คชาตอบหน้าตาย ก่อนจะกลั้นใจพูดประโยคต่อมา




“วันนี้เมนส์มา”


ฮืออออออออออ  หมดสิ้นแล้ว... ศักดิ์ศรีความเป็นชายของนายนนทนันท์
ก็สถานการณ์มันบังคับนี่นา ก็เขายังไม่อยากตาย...


“มิน่า... ดูเกรี้ยวกราดเชียว เอาเถอะ ฉันไม่ถือสาเพราะยังไงซะเธอก็เป็นผู้หญิง
ผู้หญิง......ก็ได้วะ TT

“แต่ตอนแรกที่เธอเห็นฉัน... เธอทำแผนฉันเสียหมด”
แผนอะไรอีกโวะ! อย่าบอกนะว่ามันจะมาปล้นจริงๆ

“ไม่ใช่แผนลักขโมยของอย่างที่เธอคิด แต่ถ้าบอกว่าเป็นแผนรักก็ว่าไปอย่าง”

ฮะ? แผนรัก...
ส..เสี่ยวว่ะ


“ฉันชอบแพรวา.. กำลังจะเอาไอ้นี่มาวางให้ที่หน้าห้อง นายก็ดันมาเห็นพอดี”  ว่าแล้วพ่อลูกเจ้าของหอพักก็หยิบหลักฐานที่ว่าออกมาจากกระเป๋า...ช็อกโกแลตแท่งยาวห่อสีดำ
ตอนนั้นคิดไปได้ไงว่าเป็นมีดเป็นปืนวะ พลาดไปแล้วเรา T^T

“แต่เพราะเธอที่ทำฉันเสียแผน เพราะงั้นก็ต้องรับผิดชอบ”
คิ้วบางผูกโบขึ้นทันที... อะไรอีกวะเนี่ย เปิดประตูออกมาเห็นนายยืนอยู่มันผิดด้วยหรือไง!?

“ต่อจากนี้ เธอต้องเอาขนมมาวางไว้หน้าห้องแพรวาทุกเช้า แล้วก็ช่วยฉันจีบแพรวาด้วย”
ปฏิเสธ ได้ ไหม ?

“เอาเบอร์เธอมา... อ้อ ฉันชื่อ เต๋า เธอชื่ออะไร?”

“คชา”  เสียงเล็กเผลอตอบออกไป  หากแต่เมื่อพูดจบก็ทำตาโตตกใจ  ฉิบหาย! คชามันชื่อผู้ชาย เดี๋ยวก็ตกม้าตายตอนจบพอดี

“ว่าไงนะ ได้ยินไม่ชัด”
เฮ้อ... ยังรอด

“ชื่อ ‘ชา’ ได้ยินชัดไหม?” 

“แล้วทำไมเมื่อกี๊เหมือนมีสองพยางค์?”
แล้วจะสงสัยไปทำไมเล่า!

“ชาคะ...”  คิดได้ไงวะ ฉลาดจริงๆ เรา  “เมื่อกี๊พูดว่า ชาคะ ได้ไหมล่ะ?”  ทำหน้ากวน พูดถามอย่างหาเรื่อง เพื่ออีกคนจะได้จบๆ ประเด็นนี้ไปซะที  แต่ทว่า...

“ไม่ได้!”  เต๋าขมวดคิ้วจ้องอีกคนเขม็ง สีหน้าเคร่งเครียดอย่างไม่ยอม  เห็นดังนั้นคชาก็เริ่มตัวเกร็ง  นี่ตรูไปฆ่าคนมารึไงถึงได้มองแบบนั้น!!!!! 

“ต้องพูดว่า ชาค่ะ สิ...เกิดมาเป็นผู้หญิงยังใช้ คะ ค่ะ ไม่ถูกอีก ต่อไปนี้ต้องใช้ ชาค่ะ นะ  สอบเข้ามหาลัยมาได้ยังไงเนี่ย” 
นี่ล่ะน้า... นายเศรษฐพงษ์ ลูกชายเจ้าของหอพักเพียงพอที่มีคุณแม่เป็นครูภาษาไทย!

“เออ รู้แล้วน่า ชื่อชาค่ะ พอใจยัง?”

“พอใจแล้ว... แล้วก็ขอเบอร์ชาค่ะด้วยครับ”

ไม่ชอบใจเอาซะเลยที่ถูกเรียกแบบนั้น หากแต่ใจความประโยคมันสำคัญกว่า  ใบหน้าหวานขมวดคิ้วถามกลับเซ็งๆ  “เอาเบอร์ไปทำไร?”
ไม่ใช่ไม่รู้แต่ไม่อยากให้  เดือนหน้าก็จะย้ายออกแล้วไง ไม่อยากผูกมิตรกับลูกเจ้าของหอ!

“บอกแล้วไงว่าจะให้ช่วยจีบแพรวา อย่าเล่นตัวน่า ฉันไม่จีบเธอหรอก พอดีเป็นคนมีรสนิยม”
คชาได้ยินดังนั้นก็ยิ้มเยาะ... แหม พูดมาได้ ถึงมาจีบจริงแล้วคิดว่าเขาจะเล่นด้วยรึไง! ไม่เอาเหมือนกันแหละว้อย!

“กดเบอร์เร็วๆ อย่าเรื่องมาก”  ว่าแล้วก็ยื่นไอโฟนรุ่นใหม่ของตัวเองใส่มืออีกฝ่ายทันที คนตัวเล็กรับมาก็มองมันอย่างเศร้าใจ... ค่าเช่าห้องรูหนูของเขาถูกแปรสภาพเป็นมือถือราคาแพงนี่สินะ

“เร็วๆ เข้าสิ”

“กดยังไงล่ะ ใช้ไม่เป็น”
ได้ยินดังนั้นเจ้าของโทรศัพท์เครื่องสีขาวก็คว้ามันกลับคืนไป ก่อนจะบังคับอีกคนให้ยอมบอกเบอร์มาโดยดี

“เมมเบอร์เต๋าสุดหล่อลงไปในเครื่องนายด้วย มีอะไรเกี่ยวกับแพรวาก็โทรมารายงาน”

“อือ”  ตอบส่งๆ ไป  คนพูดจะได้รีบๆ ไปซะที

“ไม่ต้องคิดจะตัดสาย ยังไงฉันก็ตามตัวเธอได้อยู่ดี... อย่างประตูห้องนี้เนี่ย ไขสองทีก็เปิดออกมาได้แล้ว”
ว่า ไง นะ?  - -;

“แต่ก่อนคนชอบลืมกุญแจไว้ในห้องบ่อยๆ กุญแจสำรองก็หยิบยาก เลยพอมีเครื่องมือน่ะ”
ฮะ? จริง ดิ - -“

เต๋าส่งสายตาท้าทายไปให้อีกคนอย่างกวนๆ  ก้าวเท้าจะเดินออกไป  หากเพียงแค่สามก้าวก็หันกลับมา

“ช็อกโกแลตละลายหมดแล้ว ยกให้ละกัน”  ว่าแล้วโยนมันลงแหมะบนเตียงเล็ก  หันหลังจะเดินออกไป
ก่อนจะหันมาอีกครั้งเพื่อเอ่ยประโยคสุดท้าย


“ออกจากหอเลี้ยวขวา เดินเลาะไปหน่อยมีร้านยาอยู่”

จะ บอก ทำ ไม?


“เผื่อเธอปวดท้องเมนส์จะได้ไปซื้อยา”


ไม่ปวดท้องเมนส์แต่จะปวดหัวตายเพราะเจอนายนี่แหละว้อย!!!!!





- - - - - - - - -





จากที่เผื่อเวลาไว้เกือบชม. แต่สุดท้ายก็ต้องกระวีกระวาดวิ่งหาตึกเรียนเพื่อมาให้ทันเวลา  เพราะไอ้ลูกเจ้าของหอตัวดีนั่นแท้ๆ
จากการถามป้าที่เฝ้าหอเมื่อเช้า ได้ยินมาว่าเรียนที่เดียวกับเราอีก แต่เป็นคณะบริหาร โชคดีตึกไม่ค่อยใกล้กัน มหาวิทยาลัยก็ใหญ่ คงไม่บังเอิญมาเจอกันง่ายๆ หรอก
คนอื่นๆ ที่หอพักก็ด้วย...

“ไง คชา”  เพื่อนใหม่รายเดิมอย่างเฟรมกล่าวทักทาย เพิ่งเจอกันล่าสุดเมื่อวานตอนบ่าย แต่รู้สึกเหมือนผ่านมาหลายวันจริงๆ
ผ่านมาเยอะ... เจ็บ(สีข้าง)มาเยอะ

“เออดีเฟรม”  ว่าแล้วชายร่างเล็กก็เข้าไปนั่งที่ด้านในริมกำแพง เพราะกะแล้วว่าแอร์มันน่าจะไม่ลง ถึงอาจจะไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่เพราะห้องเรียนรวมมันใหญ่มาก  แต่ยังไงคนขี้หนาวอย่างเขาต้องเซฟไว้ก่อน ถึงจะยังใส่เสื้อฮู้ดทับเสื้อนักศึกษาชายไว้อีกชั้นนึงก็เถอะ

“เฟรม... รู้เปล่าวะ ผ่านไปยังไม่ครบวันเลย มีแต่เรื่อง...”  คชากำลังจะเล่าสาธยายให้เพื่อนฟัง หากแต่หญิงสาวผมสีน้ำตาลทองที่เดินเข้ามาในห้องก็ต้องทำเอาคนตัวเล็กฟุบลงกับโต๊ะทันที  ซ้ำยังดึงฮู้ดขึ้นมาปิดผมเอาไว้จนมิด
ก็นั่นมันแพรวา!

เรียนนิเทศเหมือนกันหรอวะ!?... นั่งหน้า นั่งหน้า นั่งหน้า อย่ามานั่งแถวนี้


คชาพยายามสะกดจิตอีกคนอยู่ในใจ  หากแต่ไม่กี่วินาทีต่อมา ก็ได้ยินเสียงแหลมของแพรวาอยู่ไม่ไกล

“เป็นไงบ้าง สบายดีไหมเฟรม?”

“สบายดี แล้วแพรวาเป็นไง?”

เออ เอ็งสบายดี แต่ไอ้คนที่นั่งตัวลีบฟุบกะโต๊ะอยู่นี่สิ...ตาย ตาย ตายสถานเดียว
ไอ้เฟรมเอ๊ย... หาหอให้ทั้งทีไม่ดูหน่อยเลยว่าไอ้ห้องข้างๆ น่ะเรียนคณะอะไร!!!
โอ๊ย... ชีวิตมันจะมีอะไรแย่กว่านี้!!!!


คชานอนนิ่งไม่กระดิกทั้งๆ ที่หัวใจเต้นรัว ลอบฟังบทสนทนาระหว่างคนสองคน จนกระทั่งมีเสียงเฟรมพูดขึ้นกับเขาเบาๆ

“แพรวาเดินไปนั่งหน้าแล้ว อาจารย์กำลังจะสอน”
ใบหน้าหวานค่อยๆ เงยขึ้นมามองเพื่อนอย่างวิตกกังวล ก่อนจะแอบเล่าเรื่องให้อีกคนฟังเบาๆ ภายในคาบเรียนนั้น...


“เชื่อสิคชา ปัญหามันต้องมีทางแก้...”

เออ... หวังว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้พอดี
ช่วยแก้ให้ถูกวิธีนะ ไม่ใช่ทำแบบตอนเอาเขาไปไว้หอพักหญิงนั่น



“แต่ยังไม่รู้จะแก้ไงว่ะคชา... ตอนบ่ายไม่ได้เรียนรวมแล้ว คงไม่เป็นไรหรอกเนอะ”

ไอ้บ้าเอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย





- - - - - - - - -





การเรียนในวันเปิดเทอมวันแรกเป็นการเรียนเต็มวัน และก็โชคดีมากๆ ที่ตอนบ่ายแพรวาเรียนอีกเซคชั่นซึ่งย้ายห้องเรียนกะทันหันไปอีกตึก คชาเลยได้อยู่ในเซฟโซนชั่วคราว
การเรียนวิชาช่วงบ่ายไม่มีอะไรมาก อาจารย์เพียงแค่แนะนำรายวิชา ชม.เดียวก็ปล่อย  เลยได้ให้เฟรมพาทัวร์ไปกินของอร่อยในมหาวิทยาลัย แต่ยังมีหนุ่มตี๋แว่นที่คชาเพิ่งรู้จักใหม่อย่าง โปเต้ มาอีกคนหนึ่งด้วย  คุยกันถูกคอทีเดียว เพราะทั้งสามคนชอบเรื่องดนตรีเหมือนกัน

“ได้ยินว่าคณะเศรษฐศาสตร์มีประกวดวงดนตรีทุกปี พวกเรามาฟอร์มวงไปแข่งกันบ้างดีไหมวะ?”  เฟรมเสนอพลางกัดลูกชิ้นหมูเข้าปาก มองหน้าโปเต้ที่กำลังทานเครป สลับกับคชาที่จดจ่อกับการกินไอศกรีมสีชมพู  “ชนะเลิศได้ตังค์เยอะอยู่แน่ะ”

“เออ ดี ว่าแต่แถวนี้มีห้องซ้อมแบบไม่แพงไหมอะ?”  โปเต้ถามขึ้นต่อ

“น่าจะมีนะ คงหาไม่ยากหรอก... แล้วคชาอะว่าไง?”

“อือ...ก็ดีเหมือนกัน ไม่ได้หยิบจับมานานแล้ว กลัวลืม”  หนุ่มหน้าหวานตอบก่อนจะจ้วงไอศกรีมคำสุดท้ายเข้าปาก

“เออ งั้นไว้ใกล้ๆ ค่อยคุยกันอีกทีละกัน... มีแค่สามคนพอ ชนะจะได้ไม่ต้องหารตังเยอะ”

คชาพยักหน้าเบาๆ... คิดแล้วก็อยากได้ตังค์ใช้แบบไม่ต้องขอแม่บ้างจริงๆ




ตกบ่าย คนตัวเล็กกลับหอมานอนตีพุงเล่น คงเป็นเพราะแดดกทม.ช่างแรงเหลือหลาย แถมอากาศก็ร้อนระอุไม่สบายเท่าที่โคราช
เลยมาเปิดแอร์นอนแช่สบายแบบนี้...
นอนคิดไปคิดมาก็นึกถึงห้องนอนร่วมกับน้องชายตัวแสบที่โคราช ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไง เคนท์จะกลับจากโรงเรียนรึยัง? ห้องมันจะรกกว่าเดิมไหม? หรือจะสะอาดขึ้นรึเปล่า?
ส่วนแม่คงยังไม่กลับจากทำงาน แล้วที่ร้านของคุณลุงล่ะจะเป็นยังไง? เค้กกับคิวจะทะเลาะกันอยู่ไหม?

เฮ้อ... อาการโฮมซิกกำเริบอีกแล้วสิเรา T^T



ร่างเล็กผล็อยหลับไปทั้งอย่างนั้น ตื่นมาอีกทีก็เพราะเสียงโทรศัพท์เพลงการ์ตูนติงต๊องที่วางอยู่
คชาหรี่ตามองชื่อที่ขึ้นบนโทรศัพท์เครื่องเก่าๆ

‘เผือก’

จะใครซะล่ะ.. ไอ้เต๋าลูกเจ้าของหอนี่เอง ก็อยากเมมชื่อมันว่าอย่างนี้ใครจะทำไม  คงโทรมาเพราะเรื่องแพรวาล่ะสิท่า
ทั้งเต๋าทั้งแพรวานี่เป็นปัญหาพอกันจริงๆ
นิ้วเล็กกดปิดเสียงแล้วปล่อยให้มันสั่นเอาอย่างนั้น เพราะนึกถึงไอ้หน้าคนโทรมาแล้วชักจะหมั่นไส้มันเหลือเกิน
จะตัดสายก็ไม่ได้ เดี๋ยวรู้ว่าเราตั้งใจไม่รับ... ถือซะว่าเขายังไม่ตื่นก็ละกัน

คิดอย่างนั้นก็นอนฟุบกับหมอนอีกครั้ง ถึงจะไม่ได้ง่วงงังเงียแล้วก็ตาม
คิดว่าตัวเองเป็นใครวะ? มาเอาเบอร์เราไปแถมยังบังคับให้รับสายเพื่อให้ช่วยจีบสาว

เฮอะ... น่าหมั่นไส้

ใหญ่นักรึไงไอ้ลูกเจ้าของหอ!









TBC

ว่างอยู่เลยมาลงต่อให้เลย อิอิ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Intro+Part1+Part2
เริ่มหัวข้อโดย: CrazierM ที่ 25-05-2012 11:05:43
เอ้า! งานเข้าแล้วชาเอ๋ยย ~ 55555
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Intro+Part1
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 25-05-2012 11:08:46
คชาฮามาก 55555
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Intro+Part1+Part2
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 25-05-2012 11:12:25
 :m20:  55555เปิดมาก็ฮาเลย คชาน้อคชา วุ่นวายดีแท้

น่าสนุกคะ ลุ้นๆๆ ความจิแตกเมื่อไหร่^^
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ ขอวลอีกนิดนคดี๋ยวอมลงห้น่นอน อย่กันลืมน
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 25-05-2012 11:40:06
ฮดี
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Intro+Part1+Part2
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 25-05-2012 13:50:26
♀ TOM (or) BOY ♂
03
[/b]






ใบหน้าหวานยกยิ้มเมื่อเห็นว่าโทรศัพท์ตัวเองหยุดสั่นลงไปในเวลาต่อมา  คชาหยิบมันขึ้นมาดู  คำว่า ‘3 สายที่ไม่ได้รับ’  โชว์หราอยู่  แล้วจึงหันหน้าไปที่ประตูห้องบานสีขาว
ไม่มีทางที่ไอ้เต๋านั่นจะบุกมาได้แน่ๆ
เพราะถึงจะไขกุญแจได้ ก็ยังมีกลอนอีกชั้นอยู่ดี

ตาคู่เรียวมองไปที่กลอนประตูที่ลงไว้แน่นหนาอย่างผู้มีชัย

เรื่องแค่นี้ก็ไม่รู้นะคุณลูกเจ้าของหอ...


เครื่องปรับอากาศที่ดับไปนานแล้วเพราะการตั้งเวลาปิดพาให้บรรยากาศในห้องออกจะอบอยู่นิดๆ  เห็นดังนั้นคชาก็ลุกขึ้นยืน เปิดผ้าม่านออกให้เห็นหน้าต่างบานใส ก่อนจะผลักมันออกไปรับลมเย็นๆ แทน
และตอนนั้นที่เสียงเพลงการ์ตูนติงต๊องจากโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง คชามองมันอย่างยิ้มเยาะก่อนจะกดปิดเสียงวางไว้บนโต๊ะเครื่องเขียนใกล้ๆ เหมือนเดิม

ตาคู่เรียวชะเง้อออกไปนอกหน้าต่าง มองหาแหล่งอาหารมื้อสุดท้ายของวัน  แม้จะมองไม่ค่อยเห็นร้านรวงอะไร แต่ในใจกำลังเล็งรถเข็นขายเกาเหลาเลือดหมูที่เดินผ่านตอนกลับหอเอาไว้ กะจะไปฝากท้องเย็นนี้

น้ำซุปกระดูกหมูใสๆ โรยพริกไทยพอได้รสเผ็ดนิดๆ  กับเลือดหมูรสฝาดกับหมูนุ่มๆ เครื่องในอีกสามสี่ชิ้น...
แค่คิดก็น้ำลายไหลแล้ว...

“ชา”

หากแต่เสียงดังไม่ใกล้ไม่ไกลก็พาให้ความคิดต้องสะดุด... คชากลืนน้ำลายลงคอ ก้มหน้ามองด้านล่าง ไม่เห็นสิ่งมีชีวิตที่พูดได้สักคน  มีก็แต่หมาสีน้ำตาลผอมๆ กับแมวสีขาวอีกตัว
สงสัยเสียงคนสั่งน้ำที่ร้านแน่ๆ (ก็ร้านน้ำเต้าหู้ร้านนั้นขายชาดำเย็นด้วย)

“ชาค่ะ”
แต่เสียงนั้นกลับดังขึ้นกว่าเดิม แถมคำสร้อยที่ตามหลัง มันฟังดูแล้ว...

“เฮ้ย!!!!”

ไม่ใช่ข้างล่าง แต่เป็นข้างหน้าเยื้องขึ้นไปด้านบน... ที่ระเบียงตึกแถวฝั่งตรงกันข้าม ประมาณชั้นสี่ ไอ้หน้าขาวคนเดิมกำลังยืนเพ่งมองมาตรงนี้ แถมในมือยังมีไอโฟนเครื่องเดิม

“เจอกันหน้าหอ”

แน่นอนว่าไม่ใช่คำถามหรือคำขอ แต่มันคือคำสั่ง!





“ทำไมไม่รับสาย?”
สุดท้ายทั้งสองคนก็มานั่งอยู่ในร้านน้ำเต้าหู้ร้านเดิมด้วยกัน  คชากำลังถูกไอ้ลูกเจ้าของหอคนเดิมสอบสวน
แล้วมันธุระอะไรที่ต้องรับสายด้วยวะ!?

ถึงจะนึกคำตอบกวนๆ แบบนั้นไว้ แต่เอาเข้าจริงก็ไม่กล้าพูดออกไปอยู่ดี ก็ดูสีหน้าโหดๆ นั่นสิ แค่เห็นก็ตัวเกร็ง  คนตัวเล็กพยายามสงบนิ่ง  สมองเร่งหาเหตุผลดีๆ  จนเสี้ยววินาทีสุดท้าย...


“แม่สอนตั้งแต่เด็กว่า อย่ายุ่งกับผู้ชายแปลกหน้าอะ”  คชาเอ่ยเสียงน้อย ทำหน้าบู้บี้ ตาหงอย ราวกับสุนัขถูกอดอาหาร

“ตอนจะมากรุงเทพก็ย้ำนักย้ำหนา คนกรุงไว้ใจไม่ได้ โดยเฉพาะผู้ชายยิ่งน่ากลัว”  ว่าพลางยกมือขึ้นกอดตัวเอง ท่าทางดูกลัวซะจนอีกฝ่ายเริ่มคล้อยตาม

“เราเลยไม่ค่อยสบายใจ.. เด็กต่างจังหวัดมาไกลแบบนี้แม่ก็ห่วงเป็นธรรมดา  อีกอย่าง ตอนเราเจอนายครั้งแรก มันก็ออกจะแปลกๆ ไปหน่อย  อยู่ดีๆ นายก็ผลักเราเข้ามาในห้อง”  เสียงเล็กยังคงกล่าวเบาๆ  ยกน้ำเต้าหู้ขึ้นจิบอีกอึก  ก่อนจะช้อนหน้ามองอีกฝ่ายตาแป๋วให้ดูน่าสงสารที่สุดชีวิต

“นายเข้าใจเรานะ”

ไม่รู้เป็นความสามารถที่ซ่อนอยู่ในตัวส่วนไหน แต่ที่รู้ๆ เขากำลังทำหน้าซื่อตาใสได้อย่างแนบเนียน  ใบหน้าหวานยังคงทำเป็นนิ่ง แม้จะเห็นอีกคนพยักหน้าให้เบาๆ แล้วก็ตาม

เต๋าขมวดคิ้วขรึม นิ่งคิดพักหนึ่ง ...ถึงชาจะเป็นทอม แต่โดยพื้นฐานยังไงก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่ดี... เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ 

“ขอโทษที ลืมนึกไปเลย”

ได้ยินแบบนั้นคชาก็ยิ้มบาง  ตอบเรียบๆ ออกมา  “อือ ไม่เป็นไร”  ยิ้มเยาะเบาๆ ในใจ  ยกน้ำเต้าหู้ดื่มอึกสุดท้าย เตรียมเช็คบิลลา
หลั่นลัลล้า~ จะได้ผลักไอ้เต๋านี่ออกไปจากวงจรชีวิตสักที

ต่อจากนี้ก็ไปจีบกันเองละกันนะ...

คชาก้มหน้ายิ้ม มือบางสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเตรียมหยิบเงินออกมา ขาเรียวกำลังจะลุกขึ้นยืน  หากแต่เสียงทุ้มของอีกคนก็ดังขึ้นเสียก่อน

“แล้วต้องทำยังไง?”  คชานิ่ง หันหน้าไปมอง “ต้องทำยังไง เราถึงจะไม่ใช่คนแปลกหน้ากัน”

และคำถามที่ถูกเอ่ยตามมานั้น ก็ทำเอาคนฟังไปไม่เป็น

“ก็...”  ไม่ต้องทำไง เป็นคนแปลกหน้าไปอะดีแล้ว

“ถึงเราจะเพิ่งรู้จักกัน แต่เราน่าจะเป็นเพื่อนกันได้นี่”

“เอ่อ...”

“คนกรุงไม่ได้น่ากลัวหมดทุกคนหรอก หรืออย่างน้อยก็เห็นแก่ความรักของฉันที” 
พูดซะซีเรียสแบบนี้ แล้วคชาจะทำยังไง!?

ใบหน้าหวานเห็นสายตาของอีกฝ่ายที่จ้องมาก็ถึงกับต้องหลบ แต่สมองยังคงครุ่นคิดต่อไป... ไอ้เราก็ไม่ใช่คนใจร้ายซะด้วย
ตาคู่เรียวเหลือบมองผู้ชายตรงหน้าอีกครั้ง

“แค่เอาขนมให้แพรวาหน้าห้องอย่างเดียวใช่ไหม?”

“อือ”  ใบหน้าหล่อพยักลงเบาๆ

“แค่นั้นนะ ไม่ทำอย่างอื่นแล้ว ห้ามบุกมาที่ห้องด้วยล่ะ”

“อือ ตอนนี้รู้แล้วว่าเธอกลัว ไม่ทำหรอก เดี๋ยวแม่เธอจะเสียใจ มีผู้ชายมาอยู่ในห้องคงไม่งาม”
โฮ~ นี่เขากลายเป็นสาวน้อยน่าสงสารไปแล้วใช่ไหม? T^T
เอาความเห็นใจของเขาคืนมานะไอ้เผือก!!!!!


“ตกลงเธอช่วยฉันนะ... อ้ะ นี่ของกำนัล”  ว่าพลางหยิบขนมหมีโคอาลามาร์ชรสสตรอเบอร์รี่ออกจากถุงยื่นให้  พร้อมกับวางถุงใบใหญ่ไว้ข้างๆ

“ส่วนในถุงนี้ฝากให้แพรวาด้วยล่ะ... ขอบใจนะชาค่ะ”  เต๋าพูดพลางส่งยิ้มให้อีกฝ่าย... รอยยิ้มธรรมดาที่ในความคิดคชามันโคตรกวน!

เมื่อกี๊ไปสงสารมันทำไมวะ!!!!!

เอาน่ะ... อย่างน้อยก็ยังได้กินโคอาลามาร์ช ที่โคราชหาซื้อรสนี้ยากด้วย...  คชาคิดปลอบใจตัวเองเบาๆ  แม้จะอยากฆ่าไอ้เต๋าตรงหน้าทิ้งแค่ไหนก็ตาม

“งั้นมื้อนี้เราเลี้ยงเอง... แปะครับ น้ำเต้าหู้ใส่เครื่องอีกแก้ว”  เต๋าหันไปสั่งเสร็จก็หันมามองหน้าอีกคน  “กินเยอะๆ นะชา... เราเคยได้ยินว่า น้ำเต้าหู้มีสารช่วยให้ไม่ปวดท้องรอบเดือน”

ได้ยินแบบนั้น... ความคิดของคชาที่จะแก้แค้นโดยการสั่งน้ำเต้าหู้ให้หมดร้านก็เป็นอันจบลง  คชาถอนหายใจหน่วงๆ ออกมา  มือกำหมัดแน่นอย่างระงับอารมณ์

“ไม่เป็นไร เราหายปวดแล้ว”

“ได้ไง... ประจำเดือนเธอเพิ่งมาไม่ใช่หรอ อีกตั้งหลายวันนี่”

“เออ... ขอบใจ”  เออออตามมันไปจะได้เลิกพูดซะที... ไอ้บ้านี่ จำแม่นจริงๆ ว้อยยยยย
ใบหน้าหวานคลี่ยิ้มจางที่โคตรเจื่อนให้กับเพื่อนชาย  เงยหน้าฟังประโยคต่อไปของอีกคน


“ชา... ถ้าแม่โทรมาบอกไปเลยนะว่า วางใจได้เลย วันนี้เจอผู้ชายโคตรหล่อแถมยังใจดี”

กับผีน่ะสิ... ไอ้เผือกหลงตัวเองเอ๊ย!
เจอกับนายนี่มันซวยของโคตรซวยชัดๆ





หลังจากซัดน้ำเต้าหู้ใส่เครื่องเข้าไปสองถ้วยเต็มๆ  ร่างเล็กก็ออกมาเดินเตาะแตะอยู่ในตรอกคนเดียว  เดินมาที่ร้านเกาเหลาเลือดหมูอีกทีเขาก็กำลังเก็บร้านเพราะขายหมดแล้ว เลยได้แต่ยืนบีบกล่องโคอาล่ามาร์ชในมือจนมันบุบบู้บี้

ไม่ได้กินตับในเกาเหลา ขอกินตับไอ้คนชื่อเต๋าแทนได้ไหม!!!!!


คชาได้แต่ทำปากจิ๊จ๊ะอย่างไม่พอใจ... ก่อนจะเดินเลี้ยวเข้าไปที่ร้านโชว์ห่วยใกล้ๆ แทน
กำลังจะหยิบขนมปัง แต่มือบางคว้าอีกอย่างเสียก่อน  พอชำระเงินกับลุงคนขายเสร็จก็รีบแกะออกมาเคี้ยวหนุบหนับอย่างคับแค้นใจ

ขนมลูกเต๋าราคา 12 บาท... เป็นทางออกในการระบายความแค้นได้อย่างดี





- - - - - - - -





เช้าวันที่สองในหอพักเพียงพอ  คชาตื่นเช้าเหมือนอย่างเคยตามเสียงนาฬิกาจากมือถือที่ตั้งเวลาไว้  หากแต่วันนี้หลังตื่นนอนเขายังต้องทำภารกิจอีกอย่าง
ร่างเล็กลุกบิดขี้เกียจหาววอดอย่างงัวเงีย เอามือขยี้ตา ก่อนจะคว้าหยิบขนมในถุงแบบสุ่มๆ ออกมาดู

‘ขนมปังกระเทียม... แต่ความรักของผมไม่มีใครมาเทียบเทียม’

พออ่านข้อความบนห่อจบก็แทบจะอ้วกออกมาซะตรงนั้น  คชาส่ายหน้าเป็นพัลวันแล้วจึงรีบเดินออกไปหน้าห้อง อาศัยช่วงเวลาเช้าตรู่ที่คนยังไม่ตื่นนอน รีบวางมันไว้บนกล่องจดหมายหน้าประตู  ก่อนจะสาวเท้ากลับมาที่ห้องตัวเองอย่างรวดเร็ว

เฮ้อ... นี่แค่ด่านแรกของวัน... แต่ด่านต่อมานี่สิงานเข้า


วันนี้มีคาบเรียนรวม!




หลังจากอาบน้ำเสร็จ ของขวัญจากเฟรม ค่อยๆ ถูกหยิบขึ้นมาพิจารณาดูอีกครั้ง... เสื้อผ้านักศึกษาหญิง ทั้งยังชุดชั้นในตัวเดิมที่ก่อวีรกรรมงามหน้าต่อหน้าไอ้เต๋า!
คชาได้แต่มองมันอย่างปลงๆ ก่อนจะจับยัดลงในถุงอย่างเดิม

จะบ้าหรอ... แค่แพรวาคนเดียว ทำไมต้องลงทุนแต่งหญิงด้วย!
มันต้องมีหนทางอื่นสิวะ!!!!!




และด้วยเหตุนั้นเอง... คชาในชุดนักศึกษาชายก็มาอยู่ในห้องเรียนก่อนเวลาสิบห้านาที  เขายังคงใส่ฮู้ดสีดำตัวเดิมคลุมท่อนบนเอาไว้ พอเห็นหน้าเพื่อนยากอย่างเฟรมที่เดินเข้ามาก็รีบกวักมือเรียกหยอยๆ
หากแต่เฟรมกลับหยุดอยู่ที่หน้าห้องตรงนั้น...

“เฮ้ย ทุกคน... เรามีอะไรสนุกๆ มาให้ทำกัน”  แถมยังประกาศออกไมค์เสียงดังจนทุกคนต้องหันมามอง

“ชา ลุกขึ้นยืนดิ๊”
เฟรมเรียกชื่ออีกคนสั้นๆ พลางหันไปมองหน้าคนที่ถูกเรียกให้ยืน... พอทุกคนมองมา คชาเลยต้องลุกขึ้นยืนตามสั่งเสียจนได้  มันทำบ้าอะไรของมันอีกวะ!

“คือไอ้ชามันเป็นผู้ชาย... แต่เหมือนทอมเนอะว่าไหม?”
ใบหน้าหวานหันไปมองเพื่อนร่วมรุ่นที่นั่งอยู่บางตา จะพยักหน้ากันทำไมล่ะเว้ยเฮ้ย!

“มาเล่นไรหนุกๆ กันเหอะ... แกล้งหลอกพวกที่ยังไม่มาว่าไอ้ชาเป็นทอมกัน
ได้ยินดังนั้นก็พอชื้นใจที่ไอ้เฟรมกำลังหาทางแก้ปัญหาของเขาให้... แต่ว่ามันเล่นใหญ่ไปรึเปล่า!? จะหลอกแพรวาคนเดียวต้องหลอกเพื่อนเกินครึ่งรุ่นเลยนะเว้ย!!!

แม้คชาจะนึกค้านเสียงดังในใจ แต่สุดท้ายก็ไม่ทันเฟรมอยู่ดี

“ชีวิตสี่ปีในมหาลัยมันสั้น... มาสนุกกันเหอะพวกเรา”






เที่ยงวันนี้คชามากินข้าวกับกลุ่มเพื่อนที่ใหญ่กว่าเดิม คงเพราะได้รู้จักกับเพื่อนมากมายในคาบเรียนรวม ...เพื่อนที่เขาควรจะรู้จักตั้งแต่รับน้องช่วงปิดเทอมที่เขาไม่ได้มานี่เอง
และคชาเลยเพิ่งได้รู้ว่าเฟรมเป็นตัวเด่นคนนึงในรุ่น แถมยังหัวโจกมากเสียด้วยสิ!

“ให้ตายเหอะ... นี่อยู่คณะเดียวกันหรอเนี่ยชา แต่ก็ดี เวลามีงานจะได้ไปลอก”  เสียงของแพรวาพาให้เขาเงยหน้าขึ้นจากชามก๋วยเตี๋ยวตรงหน้ามอง  เธอยังคงเอ่ยประโยคเดิมๆ อย่างประหลาดใจ... ซึ่งไม่แปลกเลย ตอนที่เขาเห็นแพรวาครั้งแรกเขาประหลาดใจกว่านี้เสียด้วยซ้ำ

“อือ นั่นดิ เพิ่งรู้นะเนี่ย  ว่าแต่เดี๋ยวนี้ไม่จั่วสลาฟกันแล้วหรอ?”  เสียงเล็กตอบรับพลางทำชวนคุยไปแบบเนียนๆ  แม้ในใจจะเกลียดการเล่นสลาฟเพราะแพ้ราบคาบทุกที

“ช่วงนี้เปิดเทอมแล้วจอยมีซ้อมร้องเพลงต้องกลับดึกทุกวันเลย  แต่เสาร์อาทิตย์จะไปเคาะประตูเรียกละกัน”

“โห อะไรกัน ที่หอมีเล่นสลาฟด้วยหรอ อยากเล่นบ้างอะ”  เฟรมที่นั่งฟังอยู่พูดแทรก

“ก็มาสิ... แต่หอหญิงนะ”  เสียงแหลมของแพรวากล่าวเชิงประชดประชัน หากแต่ใบหน้ายิ้มแย้มไม่คิดอะไร  เฟรมเห็นแบบนั้นเลยคุยต่อไป

“เข้าได้หรอ... ดีเลย จะได้ไปจีบสาว ว่าแต่มีกกน.ตากอยู่หน้าห้องด้วยป้ะ?”

“ว้ายยยยยยยยย ทะลึ่ง!”

“เปล่าทะลึ่งซะหน่อย กกน.ย่อมาจาก ‘กางเกงนอน’ เนอะชาเนอะ”  เฟรมหันไปหาพวก... คชาเลยได้แต่พยักหน้าเบาๆ เออออตามมันไป

ใช่... แกไม่ได้ทะลึ่งเลยเฟรม... อย่างแกมันเรียกลามกแล้ว!!!!!






สุดท้ายแล้ววันนั้นก็ผ่านไปได้อีกวัน... คชาเดินกลับหอพักมาพร้อมกับแพรวาโดยไม่มีคำถามสงสัยอะไรมาก นอกเสียจากว่าทำไมเขาถึงแต่งชุดนักศึกษาชาย

“ก็เราอยากเป็นผู้ชายอะ ผิดหรอ?”  ใบหน้าหวานหันไปพูดตอบเพื่อนสาว... เธอได้แต่มองอย่างปลงๆ ก่อนจะพูดขึ้นมา

“ชา... เราเคยมีเพื่อนสมัยมัธยมเป็นทอมเยอะเลย แต่ตอนนี้มีแฟนเป็นผู้ชายไปหมดแล้ว”

“แล้ว?”

“เราว่าเดี๋ยวชาก็คงมีแฟนเป็นผู้ชายเหมือนกัน”

ได้ยินแบบนั้น หนุ่มน้อยในคราบทอมก็แทบจะขำออกมาดังๆ

ไม่มีทาง... ยังไงก็ไม่มีทาง!!!!!







TBC


คือฝึกงานอยู่ แต่ว่างมากเลยเอาตอน3มาลงต่อเลย
ขอบคุณทุกคนมากๆจ้า

 :t3:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 00 01 02 03
เริ่มหัวข้อโดย: Eternal luv ที่ 25-05-2012 13:58:46
 :z13: อีกรอบ ก่อนอ่าน
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ ขอวลอีกนิดนคดี๋ยวอมลงห้น่นอน อย่กันลืมน
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 25-05-2012 14:26:44
จรอดถึงดือนป่
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 00 01 02 03
เริ่มหัวข้อโดย: hongzaa ที่ 25-05-2012 14:45:06
มีทางแน่ชาเอ้ยยยยยยยยยย

โคอาลามาร์ช สีชมพู ของโปรดเลยให้ตายยยย !!!!

เนื้อเรื่องสนุกมากๆ

รอตอนต่อป๊ายยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 00 01 02 03
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 25-05-2012 18:49:46
ชาเอ้ย แกจะรั่วไปไหน 555
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 00 01 02 03
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 25-05-2012 19:07:37
มีแน่ๆ 5555555555555555555555
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 00 01 02 03
เริ่มหัวข้อโดย: iDistort ที่ 25-05-2012 20:32:54
สนุกอ่า รอตอนต่อไป

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 00 01 02 03
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 25-05-2012 20:59:40
สนุกดีค่ะ รอตอนหน้า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 00 01 02 03
เริ่มหัวข้อโดย: wisky ที่ 25-05-2012 22:18:34
สนุกมากเลยคะ  o13 อยากรู้ว่าชาจะทำยังไงต่อไปเพื่อไม่ให้ความลับแตก(ก่อนเวลาอันสมควร555)
ปล.+1ให้นักเขียนที่ขยันมาต่อวันเดียวตั้งหลายตอน :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 00 01 02 03
เริ่มหัวข้อโดย: bangkeaw ที่ 25-05-2012 22:30:07
ฮาดีอ่ะ  :m20:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 00 01 02 03
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 26-05-2012 00:19:40
ฮาาาามว๊ากกกก   5555555

ชาค่ะ  กะเต๋าขา  :-[ น่ารัก ๆ  รอวันที่เต๋าจับได้  ฮิอิ้ว
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 00 01 02 03
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 26-05-2012 14:27:33
“เราว่าเดี๋ยวชาก็คงมีแฟนเป็นผู้ชายเหมือนกัน”
ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เราสงสัยอะ ขนมลูกเต๋าเป็นยังไงหรอ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 00 01 02 03
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 26-05-2012 16:23:13
สนุกมากเลยค่ะ
 o13
ถึงเราจะไม่ได้ติดตามคู่นี้มากแต่ก็พอรู้จัก
คชาก็เหมาะเป็นทอมจริงๆอ่ะเนอะ
 :laugh:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 00 01 02 03
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 26-05-2012 20:21:32
รูปขนมลูกเต๋าค่า
(http://www.ekachai.co.th/images/looktao-01.jpg)

ขอบคุณทุกคนที่อ่าน+เม้นท์นะค้า

มาต่อตอน 4 กันเถอะ

--------------------------------



♀ TOM (or) BOY ♂
04









เปิดเทอมมาได้สี่วันแล้ว...
สามหนุ่มหน้าตาธรรมดาค่อนไปทางดี เดินเข้ามาในโรงอาหารคณะตอนช่วงพักเที่ยงโดยมีสายตาของสาวๆ บางคนที่เหล่มองมาเป็นระยะ  แน่ล่ะนะ... ในคณะนิเทศศาสตร์น่ะ อัตราของเพศชายต่อเพศหญิงมีเพียงหนึ่งในสาม  และถ้าดูกันให้ลึกลงไป... ชายแท้ๆ มันย่อมเหลือน้อยลงไปอีก พอผู้ชายสามคนมารวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนมันเลยฮอตอยู่แบบนี้
หนุ่มร่างเล็กแอบทำเก๊กไม่สนใจสายตาที่มองมาที่กลุ่มของพวกเขา ยังคงนั่งลงกับเพื่อนซี้ชายแท้ทั้งสองอย่างเฟรมและโปเต้อย่างแมนๆ  ประหนึ่งว่ากลุ่มตัวเองเป็นสามหนุ่มเนื้อทองก็ไม่ปาน

“ชา... ขอยืมหน้าลองแป้งใหม่หน่อยสิ”  แต่สาวข้างห้องพ่วงด้วยตำแหน่งเพื่อนร่วมคณะอย่างแพรวาก็ทำเอาหมดมู้ดไปในทันที...  หนุ่มหน้าหวานในคราบทอมได้แต่หันไปมองเธอนิ่งๆ  พยายามไม่แสดงสีหน้าเซ็งแซ่ออกมา

“ไว้ที่ห้องละกันนะแพรวา”  เขารีบตอบปฏิเสธไปก่อน

“ไม่ได้ ใจร้อน... ต้องลองตอนนี้แหละจะได้รู้ว่าติดทนรึเปล่า ทาแล้วหน้าหมองไหม ควบคุมความมันได้สิบชั่วโมงเท่าที่โฆษณาบอกหรือว่าเขามั่ว”  เสียงแหลมร่ายเหตุผลยาวๆ มาซะจนคชาเถียงไม่ทัน อีกทั้งยังไม่รู้จะเถียงอะไรด้วยล่ะ  แต่ก็ยังดี.. ที่ตรงนั้นไม่ได้มีคชาที่อยู่กับแพรวาสองคน

“มาลองนี่มา”  เป็นเฟรมเองที่ออกตัวแทนพลางยื่นหน้าไปให้  แต่ทันทีทันใด...สาวผมสีน้ำตาลทองก็ทำหน้ายี้พร้อมกับบอกปัด

“ไม่... ให้เอาพัฟใหม่ๆ ไปปัดกับหน้านายก็สกปรกกันหมดพอดี ฉันไม่อยากมีสิวขึ้นพรึ่บพรั่บแบบนี้”

“โห... พูดแบบนี้มาบีบสิวให้เลยดีกว่ามา จะได้หาย”

“จะบ้าหรอ สกปรก! ไปหาหมอสิ คลินิกก็อยู่แค่นี้”  เธอพูดเชิ่ดๆ ตามสไตล์ก่อนจะลุกเดินมาหาเพื่อนทอมจำเป็นเมื่อเห็นโปเต้ที่นั่งอยู่ข้างๆ เป้าหมายเดินลุกออกไป  มือสวยเปิดตลับแป้งสีชมพูหวาน หยิบพัฟมาแตะเนื้อแป้ง ส่วนมืออีกข้างก็จับกรอบหน้าหวานของเพื่อนทอมคนเดิมไว้ไม่ให้หันหนี

เจอแบบนั้นคชาก็นั่งนิ่งในทันที
มีผู้หญิงมาจับหน้าแถมนั่งประชิดขนาดนี้... เขาก็... เกร็งอยู่นะ

“อีกอย่างนึงนะเฟรม... ผิวหน้าผู้ชายกับผู้หญิงมันไม่เหมือนกัน” 
จริงอะ... แล้วทำไมถึงแยกไม่ออกล่ะแพรวา - -“ 

คชานึกค้านในใจได้ไม่นานก็ต้องหลับตาลงเมื่ออีกคนเริ่มเอาฟองน้ำนั้นมาตบๆ แตะๆ บนใบหน้า แอบทำจมูกฟุดฟิดน้อยๆ เมื่อได้กลิ่นหอมไม่คุ้นเคยที่ลอยมา

เพลิดเพลินราวกับเด็กหญิงกำลังเล่นแต่งตัวตุ๊กตา... จากที่แพรวาจะลองแตะสักทีสองที สุดท้ายเพิ่มตรงนี้นิดตรงนั้นหน่อยจนกลายเป็นทั่วทั้งใบหน้าจนได้  เธอแย้มยิ้มมองผลงานของตนเองอย่างพึงพอใจ  แล้วจึงยื่นกระจกส่งให้เจ้าของใบหน้านั่นได้พิจารณาใบหน้าตัวเอง

คชากะพริบตาปริบๆ มองตัวเองในกระจกอย่างอึ้งๆ

ผิวหน้าของเขามันเนียนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต... นี่สินะคือเวทมนตร์ของผู้หญิง

แต่เขาไม่ใช่ผู้หญิงว้อย!!!!!

“ชาสวยมากเลยอะ ผิวก็ดี เห็นแล้วอิจฉาจัง”

แล้วก็ไม่อยากสวยด้วย!!!!!

“เฮ้ย ไอ้ชาสวยว่ะ”  โปเต้ที่เพิ่งเดินกลับมาจากการซื้อน้ำทักขึ้นแบบขำๆ  หากแต่คนฟัง ทำหน้าประหนึ่งถูกธนูปักที่หัวเข่าก็ไม่ปาน

นอกจากไม่ช่วยยังมาตอกย้ำ... ไอ้ปู่เต้!

“เออ... สวยแบบนี้จีบได้ป้ะชา”  แล้วยังเฟรมที่หันมาทำพูดเล่นแต่คนฟังไม่เล่นด้วยสักนิด
ตอนแรกยังช่วยกันอยู่เลยนะว้อย!!!!!

“ชอบอะ ภูมิใจจังทำให้เพื่อนสวย... ชาอยากกรีดตาด้วยไหม เนี่ย...วันนี้เรากับแอ้นกรีดตาเหมือนกันเลย... นั่นไง แอ้นมาพอดี จะได้เป็นแก๊งค์สามสาวพาวเวอร์พัฟเกิร์ล”

ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ตอนแรกยังเป็นสามหนุ่มเนื้อทองอยู่เลย
ตอนนี้จะกลายเป็นพาวเวอร์พัฟเกิร์ล... คชาไม่เอา!!!!!

โดยไม่มองสีหน้าผะอืดผะอมไม่สมยอมสักนิดของเพื่อนทอม... แพรวาเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าเครื่องสำอาง แล้วค่อยๆ รูปซิปเปิดออกมา

“นี่แพรวาจะทำอะไรอ้ะ?”  แอ้นที่เดินมาถึงโต๊ะถามขึ้นจังหวะนั้นพอดี

“กรีดตาให้ชาไง จะได้เหมือนพวกเรา.. แอ้นช่วยจับชาไว้ที”

“เฮ้ย ไม่เอา อย่าทำแบบนี้”  สาวสวยผมดำยาวพูดพลางดึงอายไลเนอร์นั้นออกมาไว้ในมือตัวเอง  “อย่าแกล้งชาดิ ชาเป็นทอม แพรวาก็รู้”

ราวกับนางฟ้ามาโปรด... หนุ่มหน้าหวานพอได้ยินก็พยักหน้าเห็นด้วยแรงๆ สองสามที  “ใช่ อย่าแกล้งเราสิ”  หันไปมองขู่เพื่อนผู้ทรยศทั้งสองให้พยักหน้าเห็นด้วยเสียอีก
เห็นแบบนั้นแพรวาก็ได้แต่ขมวดคิ้วจิกตามองเบาๆ ก่อนจะยอมปล่อยเพื่อนทอมไปอีกวัน...
ถึงจะรู้สึกถึงรังสีแปลกๆ จากแอ้นก็ตามที




- - - - - - - -



ตกเย็น... หนุ่มร่างเล็กเดินกลับมาหอพักตามกิจวัตร  แต่วันนี้จ้ำอ้าวให้ไวเป็นพิเศษเพราะไม่มั่นใจสักนิดกับการมีแป้งติดบนหน้าอยู่แบบนี้
แพรวานะแพรวา... บอกอย่าเพิ่งล้างหน้าจนกว่าตัวเองจะกลับไปถึงหอ!
แล้วไปคาราโอเกะกันแบบนี้ เมื่อไหร่จะได้กลับละเนี่ย!!!

ขาก้าวฉับๆ เดินตรงเข้าไปในตรอกเดิม  ตาคู่เรียวเหลือบไปเห็นเจ้าตะวัน... ลูกสุนัขจรจัดสีขาวมอซอข้างถนนที่ชอบมาขอของกินบ่อยๆ เวลาเขานั่งกินอาหารข้างทาง  อยากเข้าไปเล่นกับมันเหมือนเมื่อวาน แต่วันนี้คงต้องขอบาย

“อ้าว... ชาค่ะ ไปทำอะไรมา”
แต่แปลกเนอะ... วันนี้ไม่ทักหมา... หมาดันมาทักก่อนซะได้

“หวัดดีเต๋า”  เขาพูดเรียบๆ มองหน้าชายหนุ่มที่เพิ่งเดินออกมาจากบ้านตัวเอง

“ทาแป้งเนียนซะเชียว จะไปเล่นลิเกที่ไหนล่ะ?”  ใบหน้าหล่อหลิ่วตาถามกวนๆ  “หรือกลับใจอยากเป็นผู้หญิง?”

คนฟังอย่างคชาได้ยินก็เบะปากเซ็งๆ  “แพรวาให้ช่วยลองแป้ง... จบมะ?”  เอาชื่อเพื่อนสาวตัวแสบแต่เป็นนางในดวงใจอีกฝ่ายเข้าอ้างจะได้จบๆ  “ไม่มีอะไรแล้วก็หลบไป จะขึ้นห้อง”

“โถ่ ไม่เอาน่า ทำงอนไปได้... ทอมนะทอม”  เสียงทุ้มพูดพลางก้าวขายาวไปดักหน้าอีกฝ่ายไว้  “พูดเล่นแค่เนี้ยมาทำงอนตุ๊บป่อง... ไปกินข้าวเป็นเพื่อนหน่อยดิ มีเรื่องจะคุย”

“ไม่ได้งอนว้อย!”  รีบอุทานขัดอีกคนเสียงใส

“ดี จะได้ไม่ต้องง้อ  ปะ..ไปกิน’เตี๋ยวเป็ดกัน”

“ไม่อยากกิน”  กับแก!

“มาเหอะน่า เดี๋ยวเลี้ยง” 

“มีตังค์จ่าย”

“ผู้ชายที่ดีต้องออกเงินให้ผู้หญิง”

“เป็นทอม”

“เออนั่นแหละ เหมือนกัน”

คชามองหน้าอีกคนนิ่งๆ  ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเต็มแรง... ทั้งเหนื่อยจะเถียง แล้วก็เบื่อลูกตื๊อของหมอนี่
มันไม่ต่างอะไรเลยกับการถูกเจ้าตะวันเลียแข้งเลียขาขอของกินอยู่ทุกวัน

แต่สุดท้าย  เขาก็เดินตามไอ้ลูกเจ้าของหอไปเหมือนกับที่แบ่งลูกชิ้นให้หมาน้อยตัวนั้นอยู่ดี




ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดเก่าแก่ถัดเข้าไปในซอย ไม่ได้มากไปด้วยผู้คนแต่ก็พอมีลูกค้าไม่ขาด  พัดลมตัวใหญ่สีเขียวทึมตัวหมุนช้าๆ อยู่บนเพดาน  อาแปะพุงพลุ้ยกับอาซ้อเจ้าของร้านท่าทางใจดีกำลังช่วยกันทำงานอย่างสบายๆ

“เตี๋ยวเป็ดสองชามครับป้า เส้นเล็กชามนึง ส่วนอีกชาม...เอาไรชา?”  เต๋าหันไปถามร่างเล็กที่นั่งด้านตรงข้าม  คนถูกถาม...จากที่ตอนแรกไม่อยากกินเท่าไหร่เพราะถูกบังคับกลายๆ ให้มา  แต่พออยู่ในร้าน กระเพาะอาหารก็เริ่มสั่งการเสียจนได้

“เอาบะหมี่”  พูดตอบเสียงไม่ดังอย่างสงวนท่าที ถึงจะแอบกลืนน้ำลายลงคอเพราะกลิ่นหอมน่าทานที่โชยเข้ามาก็ตาม

“อีกชามเอาบะหมี่ครับ”  เต๋าหันไปสั่งต่อพลางอมยิ้มเบาๆ ที่ริมฝีปาก
ก็แค่ตลก... ที่ชาเหมือนจะไม่ยอม แต่ก็ต้องยอมเขาซะทุกที

“นี่ ตกลงมีไร?” 

“น้ำแข็งเปล่าสองกับโค้กด้วยครับป้า”

“ตกลงมีไร?”  เสียงเดิมถามย้ำรอบที่สอง หวังจะได้ฟังคำตอบของอีกคน  หากแต่กลายเป็นเขาเองที่ถูกอีกฝ่ายจ้องหน้าซะเขม็ง
นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มมองสำรวจใบหน้าอย่างละลาบละล้วง

“ชา... ดูไปดูมา เธอก็...”

ร่างเล็กจากที่นั่งเซ็งก็หูผึ่งรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ

“สวย...เหมือนกันนะ”

พอได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายประกอบกับสีหน้าจริงจังแบบนั้น ใบหน้าหวานก็ขึ้นสีระเรื่อในทันที  ตาคู่เรียวหลบสายตาที่เพ่งมองมาตามสัญชาติญาณ  แถมจากที่อยู่เฉยๆ ดีๆ...ตอนนี้หัวใจเจ้ากรรมก็เต้นดังจนเจ้าของมันได้ยิน

ไอ้เต๋ามันบ้า... มันบ้า... มันบ้าไปแล้วแน่ๆ

เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่หันหน้าหนี... อีกคนก็ยังตามมาจ้องต่อ  ซ้ำยังเคลื่อนใบหน้าเข้าใกล้ในระยะประชิด  ตาคู่เรียวเหลือบเห็นรอยยิ้มอีกคนที่ส่งมาแล้วยิ่งไม่อยากถูกจ้องเป็นเท่าตัว

“เขินหรอชา...?”  ในดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้น ดูจริงจังแต่ยังแฝงรอยยิ้มเอาไว้

“ป...เปล่า”  คชาพูดปฏิเสธเสียงเบากว่าเคย

“ไม่ต้องเขินหรอก...”  เต๋ายังคงจ้องมองอีกคนไม่ลดละ ขยับเข้าใกล้ซะจนอีกคนสะดุ้งโหยง

“พูดเล่นเท่านั้นแหละ  ฮ่าๆๆๆๆ”

ไอ้*=2/@#&*_@$ !!!!!

คชาเบ้ปาก เงยหน้าขึ้นมองอีกคนเต็มตาไม่ทันไร  เสียงทุ้มก็พูดขึ้นต่อ  “เขินจริงด้วย หน้าแดงแจ๋เลย”

“แดงเพราะร้อนต่างหาก!”  รีบพูดแก้พลางยกมือขึ้นพัดใบหน้าตัวเองรัวๆ เงยหน้ามองพัดลมเพดานที่พัดอืดๆ ก็ยิ่งขัดใจ...  ร้อนชะมัดเลยว้อย!

“หรอออออออออ”  เต๋าลากเสียงยาวทั้งยังส่งยิ้มล้อๆ อีกฝ่ายอย่างผู้มีชัย  เพราะดูยังไง อาการแบบนี้มันก็เรียกเขินชัดๆ

“ไม่เป็นไรน่า... ผู้ชายหล่อร้ายกาจแบบฉัน ใครอยู่ใกล้ก็ต้องหวั่นไหวเป็นธรรมดา”

ใครไปหวั่นไหวกับแกวะ! ไอ้เผือกหลงตัวเองเอ๊ย!!

“ให้ตายเหอะ... ขนาดเธอเป็นทอมนะเนี่ย... เพลียกับความหล่อของตัวเองจริงๆ”
คชาพอได้ยินก็ทำหน้าย่น อยากเถียงอีกฝ่ายกลับไปใจจะขาดรอนๆ  หากแต่ก๋วยเตี๋ยวเป็ดสองชามร้อนๆ ที่ถูกยกมาตั้งกับน้ำแข็งและน้ำอัดลมก็ทำช่วยเบรคเอาไว้

“ไอ้หลงตัวเอง”

หากแต่ยังพูดตอบโต้อีกคนเบาๆ แล้วจึงยื่นมือออกไปเพื่อดึงชามของตัวเองมา ทว่าไม่ทันมือหนาที่จัดการแย่งเอาไว้เสียก่อน  ใบหน้าหวานจึงช้อนมองอีกฝ่ายแบบงงๆ

“พูดจาไม่เพราะเลย ขึ้น ‘ไอ้’ ได้ยังไง”  ในฐานะลูกชายคุณครูสอนภาษาไทย... นอกจากจะใช้ภาษาอย่างถูกต้องแล้วยังต้องสุภาพด้วยแน่ะ

“แล้วเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ อยากพูด มีปัญหาอะไรไหม?”  เสียงใสสวนกลับอย่างไม่ยี่หระ

“แม่บอกไม่ให้ยุ่งกับผู้ชายแปลกหน้าแต่ไม่สอนให้พูดจาเพราะๆ หรอไง?”

“โห... นี่ด่าว่าแม่ไม่สั่งสอนหรอวะ!?”  แค่พูด ‘ไอ้’ แค่เนี้ย!

“นี่ก็ไม่เพราะ... พูดค่ะก่อนแล้วจะให้กิน”  คชาได้ยินก็นั่งนิ่ง... ทำไมเขาต้องเชื่อไอ้เผือกนี่ด้วย! มาทำสั่งสอนยังกับเป็นผู้ปกครอง

“เร็วๆ สิชาค่ะ... เต๋าหิวแล้วนะครับ”

“หิวก็กินสิ”

“ไม่ได้... ต้องสั่งสอนเด็กหญิงชาค่ะพูดจาไม่เพราะก่อน”
เด็กหญิง!!!!!!!!!! T^T

“ไม่ใช่สิ โตแล้ว ประจำเดือนก็มาแล้ว ต้องเรียกนางสาวชาค่ะถึงจะถูกเนอะ”
ไม่ ใช่ ทั้ง นั้น แหละ ว้อย !!!!!!!!!!
(แต่ก็เถียงไม่ออกอยู่ดี TT^TT)

“พูดเพราะแล้วก็ได้ พอใจรึยัง?”  และสุดท้ายก็ต้องยอมแพ้มันทุกที...ก็เบื่อจะไปยอกย้อนมัน แถมตอนนี้ ท้องก็ร้องจ๊อกๆ แล้วด้วยสิ

“นี่เพราะตรงไหน หางเสียงก็ไม่มี”

ได้ยินแบบนั้น คนฟังก็ทำฮึดฮัดไม่พอใจ  กัดฟันพูดออกไป  “เพราะตรงนี้แหละค่ะ พอใจรึยังคะต๋าววววว?”  จงใจลากเสียงยาวประชดประชันอย่างไม่พอใจสักนิด  หากแต่อีกคนกลับยิ้มกว้างออกมาซะอย่างนั้น

“โอเคครับชา งั้นเรามากินก๋วยเตี๋ยวกัน”
กว่าจะได้กิน… ไอ้บ้าเอ๊ยยยยยยยย!!!!!




พักยกต่อล้อต่อเถียงมาโซ้ยก๋วยเตี๋ยวไปได้เกินค่อนชาม  หนุ่มร่างสูงก็เริ่มจะพูดคุยเรื่องอื่นแล้วบ้าง หลังถามเรื่องแพรวาจากเพื่อนทอมจำเป็นซะละเอียดยิบ

“แล้วเธออยู่หอเป็นยังไงบ้าง ขาดตกอะไรไหม?”

“ก็พออยู่ได้... เตียงก็นอนสบายดี”  เสียงใสพูดตอบ  “แต่แอร์มันหนาว พอปิดแปปนึงมันก็ร้อน อยากได้พัดลม... กาต้มน้ำก็ไม่มี”  พูดเสียงหงอยโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ใบหน้าหวานแอบยู่เมื่อนึกถึงตอนดึกๆ ที่หิวอยากกินมาม่าซักชาม แต่มองไปในห้องก็มีแต่กองขนมของแพรวาที่เขาคงมิบังอาจไปหยิบกิน
ขนาดขนมหมีโคอาล่าที่ให้เขามาแท้ๆ ยังไม่กล้าแกะกิน... เพราะแค่เห็นข้อความบนนั้นที่อีกคนตั้งใจเขียนให้แพรวามันก็สยิวกิ้ว

“อยากได้พัดลมกับกาต้มน้ำหรอ?”  ลูกเจ้าของหอถามเจ้าของห้องเบอร์ 23 ที่ทำหน้ายู่ก่อนจะพยักหน้าหงึกหงักให้  โดยไม่รู้ตัว...คชากำลังมีความหวังบางอย่างอยู่ในใจ

“ก็ไปซื้อเอาสิ”  แต่คำตอบจากลูกชายเจ้าของหอก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย!  คชาขบริมฝีปากล่าง  เซ็งนิดๆ ที่แอบไปตั้งความหวังกับคำพูดของอีกคน  ขมวดคิ้วทำหน้านิ่วใส่อีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยเสียงแข็งโวยต่อ

“แล้วเน็ตที่หอก็เป็นอะไรไม่รู้ ติดๆ ดับๆ... จ่ายเงินตั้ง 2,300 มีอะไรดีบ้างเนี่ย?”

“ได้ยินมาว่าเน็ตที่หอมันไม่ค่อยดี เธอไม่รู้หรอ... แม่ฉันถึงได้ลดค่าหอให้สองร้อยไง”

คนตัวเล็กได้ยินดังนั้นก็อุทานออกมาอย่างไม่พอใจ  “บ้าเอ๊ย!!! แล้วจะดูบอลยังไงล่ะ!” 

“อ้าว นี่เธอดูบอลด้วยหรอ?”  เสียงทุ้มรีบถามต่อเพราะเริ่มมีเค้าลางว่าจะเป็นคอเดียวกัน

“ดูสิ... เสาร์นี้นัดสำคัญด้วย”

“แมนยูเตะกับเชลซี?”  เต๋าถาม พอเห็นอีกฝ่ายพยักหน้าหงึกหงักจึงรีบซักต่อ  “เชียร์ทีมอะไร?”

“ถามทำไม?”

“ฉันเชียร์แมนยู... มาดูด้วยกันไหม?”

“คงไม่ดี... เดี๋ยวเชลซีชนะแล้วนายจะพาล”

“ฉันไม่ใช่พวกแพ้แล้วพาล... อีกอย่าง รู้ได้ไงว่าเชลซีจะชนะ”

ได้ยินแบบนั้น หนุ่มร่างเล็กก็ถลึงตาพูดเน้นอย่างมั่นใจ  “ของมันแน่อยู่แล้วไงล่ะ”

“พูดแบบนี้วันเสาร์เจอกันที่บ้านเลยดีกว่า จะได้รู้ว่าใครเป็นใคร”  หมายถึง...ดูบอล

“ก็เอาดิ้ จัดไป  นัดนี้เชลซีเจ้าบ้านไม่พลาดแน่!”  เสียงใสตอบตกลงโดยแทบไม่ต้องคิดอะไร  ถ้าเรื่องฟุตบอลเขาทุ่มสุดใจเสมอ
ทุ่มสุดใจจนลืมไปเสียสนิท... เคยพูดเองว่าแม่ไม่ให้ยุ่งกับชายแปลกหน้า แต่ไม่ถึงสัปดาห์ก็จะไปบ้านเขาแล้ว

“แต่นายเต๋าเจ้าของบ้านก็จะไม่แพ้เหมือนกัน”

“เฮอะ เดี๋ยวก็รู้”  คนหน้าหวานเอ่ยอย่างไม่แยแส ก่อนจะยกแก้วโค้กขึ้นดื่มอึกใหญ่  ไม่ได้สนใจสายตาคู่หนึ่งที่มองมาพลางอมยิ้มบางๆ

ก็แค่ตลกดี... ที่ได้ยินอีกฝ่ายพูดมากแบบนี้เป็นครั้งแรก
ตลกดี... ที่ได้เห็นสีหน้าแปลกๆ ที่ไม่ค่อยเห็นของอีกคน










TBC

ใครอ่านแล้วชอบก็เม้นท์ให้กำลังใจคนแต่งสักนิดน้าาาาาา
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 04
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 26-05-2012 20:31:13
=w='' หลังกิจกรมมเตะบอลก็ในร่มเลย 5555555555
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 04
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 26-05-2012 20:39:30
ชอบจังเลย ชาค่ะตลกนี้ เวลาเต๋าพูดเรื่องที่เกี่ยวกับผู้หญิงทีไร อดขำไม่ได้
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 04
เริ่มหัวข้อโดย: iDistort ที่ 26-05-2012 20:42:26
มาต่อแล้ว รอตอนต่อไปครับบ  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 04
เริ่มหัวข้อโดย: jiw ที่ 26-05-2012 20:59:59
รอทุกวันรีบมาต่อน๊าาาาาาาาาาา :call: o13
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 04
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 26-05-2012 21:08:05
ไม่งามลูกไม่งาม 55555
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 04
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 26-05-2012 22:11:53
ตามอ่านอยู่อีกเว็บ


เห็นน้องเอามาลงที่เล้าดีใจ

เลยมา +1 + เป็ดให้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ ขอวลอีกนิดนคดี๋ยวอมลงห้น่นอน อย่กันลืมน
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 26-05-2012 22:58:55
ริ่มล้ว
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 04
เริ่มหัวข้อโดย: yongsulewa ที่ 26-05-2012 23:13:43
 o22
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 04
เริ่มหัวข้อโดย: mister ที่ 26-05-2012 23:34:04
ไปดูด้วยคนสิ   :z6:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 04
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 27-05-2012 01:18:37
ไม่อยากนึกถึงวันที่เต๋ารู้ความจริง
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 04
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 27-05-2012 10:58:50
ดูบอลจบ
เต๋าก็ชวนชาไปเตะบอลต่อเลยสิ
 :z1:
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
 :laugh:

แต่ดูท่าสาวแอ้นนี่จะปิ๊งปั๊งชารึเปล่าเนี่ย
 :m29:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 04
เริ่มหัวข้อโดย: wisky ที่ 27-05-2012 11:37:39
น่ารักอะ ชอบเวลาเต๋าเรียกชาค่ะอ่านแล้วรู้สึกเขินบอกไม่ถูก :-[ รอลุ้นต่อไปว่าผลบอลจะเป็นยังไง :pig4:
ปล.+เป็ดให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 04
เริ่มหัวข้อโดย: Allure-Q ที่ 27-05-2012 12:24:16
นี่ถ้าหนุ่มเต๋าอยากเปลี่ยนทอมเป็นเธอแต่ดันเจอคชา จะเป็นยังไงต่อเนี่ย :laugh:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 04
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 28-05-2012 15:56:23
รอวันความแตก 5555    :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 04
เริ่มหัวข้อโดย: krit24 ที่ 28-05-2012 17:11:27
ชาน่ารักอ่ะ
แต่แอบสงสารหน่อยนึง ทุกคนคิดว่าเป็นทอม 555
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 04
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 29-05-2012 23:23:00
♀ TOM (or) BOY ♂
05







ทุกเช้า... คชารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพวกโรคจิต

ตาคู่เรียวเหลือบมองห่อขนมในมือแล้วก็รีบเอามันวางไว้บนตู้จดหมายหน้าห้องเบอร์ 21 เหมือนที่เคยทำ  ก่อนจะจ้ำเท้ากลับมาพลางนึกสงสารแพรวาอยู่ในใจ

ตั้งแต่  ‘ขนมปังกระเทียม... แต่ความรักของผมไม่มีใครมาเทียบเทียม’ --‘แครกเกอร์... อย่าปล่อยให้ผมต้องรอเก้อ’ -- ‘ขนมผิง... อยากเป็นที่พักพิงของคุณ’

จนมาถึงของวันนี้...  ‘โอริโอ้วเธอน่ารักจัง’

ยิ่งคิดก็แทบอ้วกออกมาซะเดี๋ยวนั้น  แถมยังสงสารแพรวาเบาๆ ที่ต้องเจออะไรแบบนี้ทุกวันอีก
ไม่ใช่แค่ข้อความบนขนมหรอก แต่ไอ้คนให้จอมกวนประสาทแถมยังโคตรเสี่ยวต่างหากเล่า!!!!!


ขาเรียวเดินเข้ามาในห้องเบอร์ 23  ปิดประตูลงเงียบๆ ก่อนจะเดินดิ่งเข้าไปเปิดหน้าต่างบานเล็กออกเป็นกิจวัตรประจำยามเช้า  แสงสว่างลอดเข้ามาทันทีแค่เพียงเปิดผ้าม่านสีฟ้า... และเพียงเท่านั้นคชาก็หรี่ตาลงเล็กกว่าเดิม  ก่อนจะพยายามเบิ่งให้กว้างพลางผลักหน้าต่างบานใสออกไป

โชคดีที่หอพักนี้อยู่ถัดเข้ามาในตรอกหลายสิบเมตร กลิ่นเหม็นๆ จากมลพิษบนท้องถนนจึงเข้ามารบกวนได้ยากหน่อย แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าอากาศที่บ้านเกิดอย่างโคราชมันดีกว่ามากมายก็ตาม

แต่ตอนนี้คชาอยู่ที่กรุงเทพฯ เมืองใหญ่อันแสนวุ่นวายบนสภาวะที่เลือกไม่ได้ ดีไม่ดียังไงเห็นทีคงจะต้องปรับตัวเอา

สูดลมหายใจเข้าลึกๆ อีกหนเพื่อสูดออกซิเจนยามเช้าเสร็จ ตาคู่เรียวก็เหล่มองไปด้านล่าง  เหลือบเห็นเจ้าลูกหมามอซอตัวเดิมที่นอนหงอยๆ อยู่


“ตะวัน”  ไม่ทันต้องคิดอะไร ปากก็เรียกชื่อที่ตั้งให้มันเมื่อสองวันก่อน  “ตะวัน!”  เรียกให้ดังขึ้นกว่าเดิมเพราะมันไม่มีปฏิกิริยาอะไรกับเสียงของเขาเลย

หากแต่มันกลับยังนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น  คิ้วบางผูกโบว์น้อยๆ ก่อนจะส่งเสียงออกมา

“บ๊อกๆ”  เห่าเป็นเสียงหมาซะเลยเผื่อมันจะสนใจ  ก็อุตส่าห์เรียกชื่อภาษาคนแล้วไม่หันนี่หว่า
จะไม่สำนึกบุญคุณที่แบ่งลูกชิ้นให้ตั้งหลายวันเลยหรอ?
หรือเพราะเมื่อวานเขาไปกินก๋วยเตี๋ยวเป็ดมาแล้วไม่ได้แบ่งมัน?

“บ๊อกๆๆๆ”  ส่งเสียงเห่ารัวๆ อีกที... หากแต่คราวนี้ดูเหมือนจะได้ผล เพราะเขาได้ยินเสียงที่ดังกลับมา

“โฮ่งๆๆ”
แต่ดันมาจากด้านบน...

สิ่งมีชีวิตสีขาวๆ ยืนยิ้มล้อเลียนให้เขาอยู่บนระเบียงตึกแถวตรงข้ามชั้นสี่  มันคือที่เดิมกับที่เขาเคยเห็นหมอนี่ในวันนั้น... ไอ้เต๋า...

“ไงชาค่ะ เห่าแต่เช้าเชียว”  ชายหนุ่มพูดเสียงดังทักทายเพื่อนทอมที่ยื่นหน้ามานอกหน้าต่าง

“แต่ก็มีหมาเห่าตอบด้วยหนิ”  เงยหน้าตอบอีกฝ่ายนิ่งๆ แต่แสนยียวน

“กวนแต่เช้าเชียวนะ... ของอะ ให้ยัง?”  ใบห้าหล่อทำพยักเพยิดเมื่อกำลังสื่อถึงแพรวา

“ให้แล้ว”

“ให้อะไร?”

“โอริ... / โอ้วเธอน่ารักจัง”  พูดไม่ทันจะจบคำอีกฝ่ายก็ต่อให้ทันที... จำแม่นเชียวนะอะไรเสี่ยวๆ แบบนี้  แถมยังยิ้มอารมณ์ดีซะเหลือเกิน...
แต่ทำไมวะ ยิ่งเห็นมันยิ้มแบบนี้ก็ยิ่งหมั่นไส้

“ไปอาบน้ำแล้ว บ๊ายบาย”  คชาเอ่ยเสียงแข็งตัดบทเพราะไม่อยากจะคุยกับหมอนี่นาน  เขาก้มมองเจ้าตะวันที่ยังคงนอนตรงที่เดิมอีกครั้งแล้วจึงเอื้อมมือไปปิดหน้าต่างบานใส

“ขอบใจนะชา”  เสียงสุดท้ายลอดเข้ามาก่อนหน้าต่างจะถูกปิดลง… ตามมาด้วยผ้าม่านผืนสีฟ้าที่ปิดกั้นการมองเห็นของห้องเบอร์ 23 กับโลกภายนอก
และนั่นทำให้ใครอีกคนบนระเบียงชั้นสี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย  ก่อนจะกลับมาผิวปากอย่างอารมณ์ดี
เช้านี้อากาศสดชื่นจริงๆ




- - - - - - - - -




การเรียนในวันศุกร์มีเพียงแค่คาบเช้าวิชาเดียว... ดังนั้นการเรียนการสอนจึงหมดลงตั้งแต่ช่วงสาย เพราะเป็นครั้งแรกที่เรียนวิชานี้จึงยังไม่มีเนื้อหาอะไรมากนัก

คชา... หนุ่มน้อยหน้าใสยังคงเดินประกบแก๊งค์สามหนุ่มเนื้อทองเหมือนเดิม  ยกแขนพาดคอเพื่อนอย่างแมนๆ ตามสบายเพราะตอนนี้หลบมาอยู่กันแค่สามคนเพื่อมาแวะกินของว่างแถวตึกคณะเศรษฐศาสตร์ที่เคยมาเมื่อวันจันทร์

“สตอร์เบอร์รี่ซันเดกับน้ำมะนาวครับ”  เขาเอ่ยสั่ง ยืนรอสักพักก็รับทั้งสองอย่างมา  คว้าใส่มือไปที่โต๊ะ สมทบกับเพื่อนชายอีกสองคน  ช้อนสแตนเลสไซส์เล็กในถ้วยทรงสูงถูกใช้จ้วงตัก ไอศกรีมสีชมพูรสหวานอมเปรี้ยว  พอกินกับน้ำมะนาวยิ่งสดชื่นเข้าไปใหญ่  ใบหน้าหวานยกยิ้มอย่างพอใจที่ได้มีชีวิตสบายๆ เสียที
ไม่ต้องคิดอะไรซับซ้อน ไม่ต้องหลบซ่อนปิดบังความจริง


“ว้าย โลกกลมอะ”  แต่เสียงแหลมคุ้นหูที่ลอยเข้ามาในโสตประสาทก็ทำเอาทั้งสามชะงัก... แพรวาก็มาที่นี่ แล้วยังมีแอ้นอีกคน

“ชา...”  ท่ามกลางความวุ่นวายสับสนของเสียงพูดต่อล้อต่อเถียงไปตามประสาของแพรวากับเฟรม โดยมีโปเต้นั่งฟังชิลๆ  แอ้นนั่งลงข้างๆ เขา  “ไอติมอร่อยไหม?”

หนุ่มร่างเล็กที่กำลังงับช้อนอยู่ในปากพอดีค่อยๆ ดึงออกมา “ก็ดี ลองชิมสิ”  มือกำลังจะส่งให้อีกฝ่ายชิมแต่ก็ชะงักเสียก่อน
แอ้นเป็นผู้หญิงนะ กินช้อนเดียวกันแบบนี้ จะดีหรอ...

หากแต่ไม่ทันจะคิดเสร็จ แอ้นก็ฉวยเอาช้อนคันนั้นไปแล้ว เธอใช้มันตักไอศกรีมสีหวานเข้าปาก  “อร่อยดีนี่ชา”

เห็นเธอยิ้มหวานให้แบบนั้น  คชาก็อดยิ้มเขินๆ ไม่ได้  “อื้ม อร่อยเนอะ” 
เพียงช่วงเวลาเสี้ยววินาทีที่ทั้งสองประสานสายตากันด้วยรอยยิ้ม ก่อนคชาจะเป็นฝ่ายหลบตาก่อนเสียเอง

“ชา.. กินเสร็จไปห้องน้ำกับแอ้นหน่อยสิ ปวดฉี่อะ”  เธอพูดชวนอีกคน ใบหน้ายังไม่หยุดเปื้อนยิ้ม  และนั่นทำให้เขาเผลอพยักหน้าตอบตกลงโดยไม่รู้ตัว


ลืมไปซะสนิท... ห้องน้ำที่ว่ามันคือ ห้องน้ำหญิง!!!!!


เป็นครั้งแรกที่คชาได้เข้ามาในสถานที่แห่งนี้  จริงๆ มันก็เหมือนกับห้องน้ำชายที่ไม่มีโถฉี่เท่านั้นเอง  ด้วยตัวสถานที่มันไม่มีอะไรเลย แต่บุคคลข้างในต่างหากสิ... คชาแอบเห็นสายตาแปลกๆ ของสาวๆ ที่มองมาในตอนแรก ก่อนจะหายไปจนไม่ได้สนใจเขา
อย่าบอกนะว่า... คชาเนียนเป็นทอมโดยไม่ได้ตั้งใจอีกแล้ว!

ตาคู่เรียวพิจารณาใบหน้าตัวเองในกระจก... ไม่เข้าใจคนที่หลงเชื่อว่าเขาเป็นทอมเลยจริงๆ  ก็เขาใส่ชุดนักศึกษาชายคลุมด้วยฮู้ดสีดำออกจะเท่ แถมยังสูงตั้ง 175 เชียว หุ่นถึงจะผอมแต่ก็ไม่ได้ดูบอบบางอะไรขนาดนั้นสักหน่อย

ขมวดคิ้วสำรวจใบหน้าตัวเองไม่นานก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อแอ้นมาจับไหล่ของเขาเอาไว้  “ทำอะไร ดูเครียดเชียว?”  คงเป็นเพียงคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบแต่อย่างใด  คชาจึงแค่ยิ้มให้ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับเธอ

ตอนนั้นเองที่มือเรียวของเขาถูกแอ้นเอาไปจับเอาไว้... แน่นอนว่าคชาถึงกับสะดุ้งอีกครั้ง

นอกจากแม่ก็แทบไม่เคยได้จับมือผู้หญิงคนอื่นเลย
โอ๊ย... ทำแบบนี้ชาทำตัวไม่ถูกนะแอ้น


มือเรียวเผลอสลัดมือบอบบางของหญิงสาวออกเบาๆ อย่างไม่คุ้นชิน เธอไม่ได้ถือสาอะไรแต่ยังคงหันมามองเพื่อนทอมยิ้มๆ  ทั้งคู่ค่อยๆ เดินลงจากบันไดตึกคณะบัญชีที่ไปอาศัยห้องน้ำเพื่อกลับไปหาเพื่อนๆ ที่นั่งรออยู่ที่เดิม

“ชา... ทำไมถึงไม่ชอบผู้ชายหรอ?”  ระหว่างนั้น แอ้นถามคำถามที่ทำคนฟังตกใจนิดๆ

“ฮะ... เออก็...”  เพราะเราเป็นผู้ชายไงล่ะ...แน่นอนว่าพูดไม่ได้  “ไม่รู้สิ...ก็ไม่เคยรู้สึกแบบนั้นเลย”  คงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดในตอนนี้

แอ้นได้ยินดังนั้นก็หยุดรออีกคนให้มาเดินข้างๆ กัน  ใบหน้าสะสวยทอดมองหน้าคชานิ่ง ก่อนจะตอบเรียบๆ ธรรมดา


“เหมือนกันเลยชา เราก็ไม่ชอบผู้ชาย” 





- - - - - - - - -





แล้วคืนวันเสาร์ก็มาถึง... เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่า คชายังคงมานั่งรวมตัวเล่นไพ่กับสามสาวร่วมหอชั้นเดียวกันในห้องเบอร์ 21 ของแพรวาเหมือนอาทิตย์ก่อน และแน่นอน... ฝีมือระดับคชาแล้ว...

จะเหลืออะไรนอกจากตำแหน่งสลาฟ!

ใบหน้าหวานเบะปากขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด  ยิ่งหันไปเห็นแพรวาที่ลุกเดินไปเข้าห้องน้ำเพราะเป็นคิงไปเรียบร้อยแล้วก็ได้แต่ท้อแท้ใจ

เหลือบมองไพ่บนมืออีกรอบก็ต้องส่ายหน้าเบาๆ... นี่เขาถูกชะตากับเลข 3 มากนักรึไง ในมือถึงมีแต่ไพ่เบอร์ 3 เนี่ย!!!!!
และในตอนนั้นเอง แพรวาที่ครองตำแหน่งคิงติดกันห้าสมัยก็เดินเข้ามา พร้อมกับขนมผิง (อยากเป็นที่พักพิงของคุณ)
คชาแอบสะดุ้งนิดๆ เมื่อเห็นมัน... หากแต่ก็ทำเนียนเป็นว่า สะดุ้งเพราะจอยลงไพ่ A สองใบต่างหาก

“อ้ะ... กินกันทุกคน”  แพรวาแกะห่อขนมพลางวางลงในวง คชาแอบเหล่ตามองขนมเม็ดเล็กๆ กลมๆ สีขาวพลันก็นึกถึงคนให้
เออ... คืนนี้ห้าทุ่มมีบอลแล้วนี่หว่า อีกครึ่งชั่วโมงเอง

เขาเบะปากอย่างหงุดหงิด  คำพูดที่หลุดตอบตกลงไปด้วยจิตวิญญาณของแฟนบอลมันกำลังตามมาทำร้ายตัวเขาซะแล้ว
แน่นอน เขาไม่ได้กลัวอะไร... คชาก็ผู้ชาย ไปบ้านเพื่อนผู้ชายน่ะเรื่องปกติ

แต่ในกรณีนี้มันไม่ใช่...เพราะเต๋าไม่รู้ว่าเขาเป็นผู้ชาย  สนิทกับเขารึไงก็เปล่า  แถมเขายังออกจะไม่ชอบหน้าหมอนี่ซะด้วยซ้ำ 
และอีกอย่างที่ย้ำชัดว่าไม่ควรไป... เป็นเพราะเขาไม่อยากยุ่งวุ่นวายกับลูกเจ้าของหอไปมากกว่านี้

คชากำลังหลอกเต๋าอยู่... และอีกสามอาทิตย์กว่า เขาก็จะย้ายออกจากที่นี่
เพราะฉะนั้น... ถ้าเลือกได้...อย่าไปสุงสิงกับไอ้ลูกเจ้าของหอมันนักเลย


เป็นเพราะจิตใจที่กำลังกังวลจนไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว... คชาก็ครองตำแหน่งสลาฟทิ้งท้ายอีกหน... มือเรียวแบไพ่ในมืออย่างอับจน ก่อนจะสนใจโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่กำลังสั่น

ไม่ผิดจากที่คิด... ‘เผือก’  คือชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ
คิดถึงปุ๊บก็โทรมาปั๊บแบบนี้
ตายยากจริงๆ!

อ้างว่าจะไปรับโทรศัพท์จึงลุกเดินออกมาจากห้องเบอร์ 21 นั้น  แต่จนกระทั่งเลี้ยวเข้าห้องของตัวเองไปแล้วก็ยังปล่อยให้มือถือสั่นไม่หยุดอยู่ดี

แน่ล่ะ... คชาไม่คิดจะรับสายแต่แรกอยู่แล้ว
ถ้าถาม ก็จะตอบว่าเผลอหลับไปก่อนนั่นแหละ...จะไปยากอะไร!

เขาวางมือถือที่เพิ่งหยุดสั่นลงบนเตียง... มือเรียวคลำไปที่สวิตช์ กำลังจะปิดไฟหากแต่ก็หยุดมือนั้นไว้เสียก่อน
เกือบลืมไป ตอนนี้เขาเอาผ้ามาพันหน้าอกเอาไว้แบบที่พวกทอมชอบทำ... เพราะเสื้อนอนของเขามันบางจนกลัวสาวๆ จะเห็นอะไรๆ เข้าน่ะสิ!

มือเรียวกำลังค่อยๆ จับชายเสื้อนอนเพื่อถอดมันออกก่อนจะได้ถอดผ้าที่รัดหน้าอกเอาไว้ตามหลัง  หากแต่ตอนนั้นก็มีเสียงกึกกักดังหน้าประตู

สมองไม่ทันได้คิดอะไร... คชาหันหน้าไปมองพร้อมกับมือที่จับเสื้อยืดค้างไว้

มันค่อยๆ ถูกเปิดออก พร้อมกับชายเสื้อที่กำลังเลิ่กขึ้นสูงถึงระดับหน้าอก


“เต๋า!!!!!!!!!! / เฮ้ย!!!!!!!!!!”

สองเสียงอุทานออกมาเพราะตกใจไม่แพ้กัน... คชาหัน 180 องศา รีบดึงชายเสื้อลงมา จัดมันให้เรียบร้อยเหมือนเดิมอย่างลุกลี้ลุกลน  ส่วนอีกคนก็รีบหันหน้าหนีไปอีกทาง

“ไม่เห็น...อ..อะไรใช่ไหม?”  เสียงใสเป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน เสียงเบาและสั่นอย่างไม่ตั้งใจ ซ้ำใบหน้าก็ยังคงสีหน้ากล้าๆ กลัวๆ
แค่กลัวเต๋าจับได้ว่าเป็นผู้ชายเท่านั้นเอง

ประโยคเดียวกันแต่คนพูดกับคนฟังคิดคนละอย่าง... คชาเพียงถามเพื่อเช็คว่าตัวเองยังรอดอยู่ไหม... แต่คนฟังตอบอย่างบริสุทธิ์ใจเพราะคิดไปมากกว่านั้น

ก็ถ้ามองไม่ผิดไป... ชากำลังอายไม่ต่างจากตอนอยู่ในร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ด


“เปล่า... ไม่... แค่แว้บเดียวเองลืมไปหมดแล้ว วางใจได้” 

ลืมได้...ซะที่ไหนกัน!
ยังติดตาอยู่ด้วยซ้ำตอนนี้
พุง...ขาว...
เอว...บาง...

เพราะไม่รู้เท่าทันความคิด ร่างเล็กจึงถอนหายใจโล่งอกเมื่อได้ยินดังนั้น   ก่อนจะขมวดคิ้วถามอีกฝ่ายต่อ  “แล้วนี่มาที่ห้องมีอะไร? บอกแล้วไงว่าแม่ไม่ชอบ”  พยายามอ้างหาเหตุผลมาไล่

“แล้วใครบอกจะไปดูบอล นี่มันใกล้เริ่มแล้ว โทรหาก็ไม่รับ เมื่อกี๊เลยส่งข้อความมาว่า ไม่รับสายอีกรอบจะมาหาที่ห้อง”  เสียงทุ้มสาธยาย มองหน้าอีกคนอย่างบริสุทธิ์ใจ  “ไม่ได้ตั้งใจจะบุกรุกหรอก แต่เธอไม่ได้ล็อคประตู”

พอได้ยินแบบนั้น... คนตัวเล็กก็ถึงกับออกอาการเหวอ  สรุปแล้วเป็นเขาเองสินะที่พลาดแบบนี้


“บอลจวนจะเตะแล้ว รีบไปเหอะ”
เต๋าพูดชี้ชวนคชากลับไปทำตามแผนเดิมที่วางไว้... คนตัวเล็กพอได้ยินเรื่องบอล จากที่ตัดใจว่าจะไม่ดู ก็เริ่มนึกเสียดาย
ตั้งแต่มากทม.ยังไม่เคยได้ดูบอลสักนัดเลย ในฐานะแฟนตัวยงเขารู้สึกผิดต่อทีมมาก!
แต่ไหนๆ โอกาสก็มาถึงที่แล้ว...

“แต่แม่ไม่ชอบให้ไปบ้านผู้ชาย”  ทว่าคชากลับปล่อยให้หลุดลอยไปอีกหน  เผลอทำหน้าย่นอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพราะแค่คิดก็เสียดายจริงๆ 
แต่มันจำเป็น!
ซอรี่นะเชลซี... เดี๋ยวเจอกันในวิทยุแทน

“นายมันยิ่งฉวยโอกาสอยู่ด้วย... ดูสิ เข้ามาในห้องเราพรวดพราดแบบนี้ เมื่อกี๊เกือบเห็นเราถอดเสื้อแล้ว”  คชาพูดพลางยกมือขึ้นกอดเสื้อยืดสีเข้มเอาไว้แน่นๆ  แสร้งทำตาแป๋วซะน่าสงสารเต็มประดา
และมันยิ่งทำให้เต๋านึกถึงภาพเมื่อครู่ขึ้นอีกทีอย่างไม่ได้ตั้งใจ

เต๋าส่ายศีรษะแรงๆ... ภายนอกเหมือนจะเพลียกับอาการของอีกคน แต่จริงๆ แล้วกำลังพยายามเอาภาพเอวบางๆ นั่นออกไป

“ฉันไม่บ้าทำอะไรเธอหรอกน่า... บอกแล้วไงว่ามีรสนิยม”  พูดตอบทั้งๆ ที่ยังสลัดภาพในหัวออกไม่ได้  “บ้านฉันปลอดภัย ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ”  พูดหาเหตุผลต่อไป... ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงต้องมาตื๊อยัยทอมจอมรักนวลสงวนตัวมากถึงขนาดนี้

บางที... คงเพราะอยากหาเพื่อนดูบอลยามดึกละมั้ง
อีกอย่าง นายเศรษฐพงศ์เป็นคนชอบทำอะไรตามแผนการ

“ไปเร็ว... แมนยูรอขยี้เชลซีจะแย่แล้ว”  เสียงทุ้มเอ่ยกระตุ้นอีกฝ่ายซะหน่อย

“โห... เชลซีต่างหากที่จะถล่มแมนยูกระจุย”  และคชาก็สวนทันควันอย่างยอมไม่ได้ตามคาด... ถึงเชลซีจะเคยแพ้แมนยูมาก่อนยังไง แต่เพื่อทีมทีรักก็ต้องเถียงแทน

“รู้ได้ไง ยังไม่ได้ดูเลย”  เต๋าพูดเรียบๆ  “จะไปไม่ไปชาค่ะ?”  ถามย้ำรอบสุดท้าย แต่อีกคนก็ยังทำหน้าเป็นหมาขี้สงสัยเหมือนเดิม

“ไม่เป็นไร... ทนดูเชลซีแพ้ไม่ได้ก็นอนอยู่ห้องไปละกัน”  ขายาวก้าวไปที่ประตู มือกำลูกบิดเอาไว้  ไม่มีเวลาตื๊อต่อไปเพราะบอลกำลังจะเริ่ม


“อย่าลืมล็อคประตูอีกล่ะ เป็นสาวเป็นแส้”

พูดจบก็เดินออกไปก่อนจะปิดประตูลง...









TBC
ขอบคุณทุกคนมากๆ จ้า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 05 (29/05)
เริ่มหัวข้อโดย: TO.EYEz ที่ 29-05-2012 23:52:49
ว๊ากกกกกกก
ชอบเรื่องนี้มาๆๆ ถึงขั้นคลั่่ง 55555555
น่าร๊ากกกกกกก
ชาค่ะน่ารักโฮกกกก
 :man1:

แอร๊ยๆ ไม่ไหวจะเคลียร์
 o18
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 05 (29/05)
เริ่มหัวข้อโดย: iDistort ที่ 30-05-2012 00:13:08
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 05 (29/05)
เริ่มหัวข้อโดย: zaabbo ที่ 30-05-2012 00:22:02
มีหรือ คชาจะไม่ไป  :laugh: ลองหยามกันขนาดนี้อย่าไปยอมแพ้ เชลซี!!!  :angry2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 05 (29/05)
เริ่มหัวข้อโดย: jiw ที่ 30-05-2012 00:42:40
สนุกมากอ่ะ อ่านแล้วไม่ผิดหวัง รีบมาต่อไวๆๆนะ รออยู่ :call:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 05 (29/05)
เริ่มหัวข้อโดย: londoneye ที่ 30-05-2012 00:59:11
กรี๊ดน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกก

คชาน่ารักอ่ะ...เป็นชาค่ะแล้วดูฮาๆดี

เต๋าเริ่มจะหลงรักน้องชาค่ะแล้วอ่ะดิ :z1:

บอกตามตรงว่าไม่ได้เป็นแฟนเต๋าคชา...แต่พอมาอ่านเรื่องนี้แล้วก็ไปหาดูรูป... :-[จิ้นไปไกลเลย^^
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 05 (29/05)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 30-05-2012 01:18:09
จะคอยดูว่าเต๋าจะเปลี่ยนรสนิยมเมื่อไหร่  หุหุ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 05 (29/05)
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 30-05-2012 12:43:17
แว๊กกกก  แอ้นเป็นเลส
555
ชาน้อยกลอยใจ  เมื่อไหร่จะได้สวีทกับพี่เต๋าล่ะ
แพรวานั่นของเฟรมเขา

พี่ต้นเจมส์พี่ไทด์พี่แพรว  หายไปไส  - -
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 05 (29/05)
เริ่มหัวข้อโดย: akihito ที่ 30-05-2012 13:42:14
เพิ่งเข้ามาอ่าน สนุกมากเลย
จะรอนะคะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 05 (29/05)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 30-05-2012 19:33:50
เราว่าแอ้นแปลกๆแล้วนะ 555
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 05 (29/05)
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 30-05-2012 19:49:42
^[]^
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 05 (29/05)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 30-05-2012 20:48:51
สนุกจริงเรื่องนี้ ถ้าเต๋ารู้ความจริง (ซึ่งคงเป็นหลังจากที่รักไปแล้ว) จะมีดราม่ามั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 05 (29/05)
เริ่มหัวข้อโดย: Viper_Wa ที่ 30-05-2012 20:50:12
 :z13: :z13: :z13:ขอจิ้มๆๆๆๆเจิ่มไว้ก่อนะฮับ เดี๋ญวจะกลับมาอ่าน ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างง่ะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 05 (29/05)
เริ่มหัวข้อโดย: ิิำืben ที่ 30-05-2012 22:38:56
น่ารักอ่า :-[
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 05 (29/05)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 30-05-2012 23:29:54
ฮั่นแน่ะ!!!
 :m12:
ว่าแล้วไงพระศุกร์เข้าพระเสาห์แทรกซะจริงๆนะชาค่ะ
ทั้งผู้หญิงที่มาชอบ
ทั้งผู้ชายแอบหวั่นไหว
คนมันจะเนื้อหอมอ่ะนะ อิอิ
 :z1:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 05 (29/05)
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 31-05-2012 00:05:11

♀ TOM (or) BOY ♂
06






เสียงการแข่งขันฟุตบอลนัดสำคัญดังสนั่นจากโทรทัศน์จอแบนขนาด 48 นิ้วตรงหน้า  หนุ่มร่างสูงที่นั่งยืดขาบนโซฟาสีน้ำตาลเข้มนั่งนิ่งมองมันอย่างไม่สบอารมณ์ หลังจากผลัดกันรับผลัดกันรุกอย่างคู่คี่สูสี แมนยูทีมรักก็โดนเข้าไปลูกนึงแล้ว
ยิ่งภาพเบื้องหน้ากำลังรีเพลย์ช็อตนั้นให้ดูจากกล้องอีกมุม เต๋าก็ต้องขมวดคิ้วมองเซ็งๆ  ไอ้เสื้อน้ำเงินเบอร์ 23 มันเตะชิ่งไปโดนอีแวนส์ทีมเขาจนเข้าประตู!!!!!

ดวงดีนักนะเชลซี!!!  แค่คิดถึงทีมสิงห์น้ำเงินก็พาลให้อารมณ์หงุดหงิด  หากไม่เพียงเท่านั้น  แต่สมองยังคงคิดไปถึงแฟนบอลทีมที่ควรจะมานั่งดูอยู่ด้วยกันตรงนี้แต่แรก

น่าหงุดหงิดมันทั้งนักเตะทั้งแฟนบอล!
จะไม่มาจริงๆ ใช่ไหม!?

iPhone4S เชียวนะ!!!!







โทรศัพท์สีขาวรูปทรงทันสมัยถูกวางลงไว้ข้างเตียง... ใบหน้าหวานเพียงมองมันพลางนอนฟังการแข่งขันฟุตบอลไปด้วยอย่างพอใจ
นำก่อนแล้วว้อยไอ้เต๋า!!!!
ว่าแต่... ไอ้มือถือเครื่องขาวนี่ตั้งใจลืมให้เอาไปคืนรึไง? เล่นวางไว้ทนโท่แบบนี้เลย?  ราคามันไม่ใช่ถูกๆ นะ!
ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป จากทิ้งผ้าเช็ดหน้าไว้เลยเปลี่ยนเป็นไอโฟน???


เสียงพากย์จากวิทยุในโทรศัพท์บอกหมดเวลาครึ่งแรก  คชายิ้มเยาะใส่โทรศัพท์สีขาวราวกับว่ามันเป็นตัวแทนของเจ้าของ... ใครวะที่คุยว่าทีมตัวเองจะขยี้เชลซี
ตีไข่ให้แตกก่อนเถอะน้องผี!

 
พักครึ่งสิบห้านาที  คชาถอดหูฟังโทรศัพท์ออกวางไว้บนเตียงนอน  ก่อนจะเดินไปเปิดหน้าต่างในห้องเพราะแอร์ที่ถูกปิดไปพักนึงทำให้อากาศเริ่มจะร้อนเสียแล้ว
แหงนหน้ามองขึ้นไปด้านบน... ฟ้าดำมืดมนยังคงไม่เห็นดวงดาวหรือดวงจันทร์เหมือนเคย เขาลดสายตาลงมาอีกหน่อย... ห้องชั้นสี่บนตึกแถวฝั่งตรงกันข้ามถูกปิดไฟจนมืด
หรือรับไม่ได้ที่จะแพ้จนต้องปิดไฟนอน?

ยืนรับลมอมยิ้มสะใจอยู่ไม่นาน เสียงเคาะที่หน้าประตูก็เรียกร้องความสนใจไปหมดสิ้น  ใบหน้าหวานขมวดคิ้วหันไปก่อนจะถาม 

“ใคร?”  เดินไปหาตรงหน้าประตู

“เต๋า”  พอได้ยินเสียงก็ถึงกับร้องอ๋อ...  กลับมาเอามือถือล่ะสิ! แล้วตกลงแกล้งลืมไว้อ่อยเขารึเปล่า? หรือที่จริงไอ้เต๋ามันเป็นตุ๊ด!?
บ้า... ตุ๊ดที่ไหนเขาจะชอบทอมกัน

“ล็อคทำไม เปิดสิ”  เสียงทุ้มดังขึ้นต่อเนื่อง  “เร็ว เดี๋ยวคนอื่นมาเห็น”
เจ้าของห้องได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วเบะปากอย่างหมั่นไส้... ใครวะที่ก่อนไปบอกให้ล็อคประตู... แล้วใครที่ควรจะรู้ว่าที่นี่เป็นหอหญิงซึ่งไม่ควรเข้าออกตามใจแบบนี้...

มือเรียวคว้าโทรศัพท์เครื่องสีขาวบนเตียงนอน  มืออีกข้างปลดล็อคกลอนออก กำลูกบิดหมุนเปิดออกไปเพียงแค่ให้เห็นหน้าค่าตา

“หนึ่งศูนย์”  เสียงใสทักทายด้วยโค้ดสั้นๆ ที่เข้าใจกันดี

“เพิ่งครึ่งแรก แถมลูกเมื่อกี๊ก็แค่ฟลุค ยังเหลือเวลาอีกตั้ง 45 นาที”  เต๋าตอบกลับเรียบๆ แต่ในใจโคตรเซ็ง   “หึ.. ใส่เสื้อทีมซะด้วย กลัวคนไม่รู้หรือไงว่าเชียร์ทีมอะไร”  สายตาไล่มองลายเสื้อยืดสีน้ำเงินสกรีนลายสิงห์ที่อีกฝ่ายสวมอยู่

คชาได้ยินก็ยกยิ้มภูมิใจพลางยื่นโทรศัพท์ในมือคืนเจ้าของ  “อ้ะ เอาคืนแล้วก็กลับไปนอนร้องไห้ได้แล้ว”  คนตัวเล็กพูดเยาะเย้ย  หากแต่ไม่ทันที่มือขาวซีดนั้นจะมารับเอาโทรศัพท์ตัวเองคืนไป  สมองก็นึกบางอย่างขึ้นได้พอดี

มือเรียวรีบดึงประตูปิด  เอาแผ่นหลังดันไว้ หัวใจเต้นแรง

บ้าเอ๊ย!!!
ลืมไปเลยว่าตอนนี้ใส่แค่เสื้อเปล่าตัวเดียว!


“เป็นอะไร เปิดประตูสิ!”
ได้ยินเสียงทุ้มที่เรียกดังนั้น... คชาก็เริ่มตั้งสติ  แง้มประตูเปิดแค่พอมีช่อง  ยื่นมือที่ถือโทรศัพท์เครื่องเดิมออกไป
และเมื่อวัตถุชิ้นนั้นถูกอีกฝ่ายดึงเอาไป หัวใจจึงค่อยๆ คลายการสูบฉีด

โล่ง ไป ที

ซะที่ไหนกัน!
เอาโทรศัพท์เสร็จก็กลับบ้านไปเด้... จะจับมือเขาไว้เพื่อ!!!?

มือเรียวสะบัดออกรัวๆ เพื่อให้อีกคนปล่อย  แต่หารู้ไม่ ยิ่งทำแบบนั้น อีกคนยิ่งกำแน่นเข้าไปอีก

แมนยูโดนไปลูกนึงแล้ว ขอแกล้งแฟนเชลซีคืนให้สะใจหน่อยก็แล้วกัน…


“เฮ้ย! ปล่อยดิ... แต๊ะอั๋งหรอ?”  เมื่อใช้แรงไม่ได้ผลจึงต้องใช้เสียงเอ่ยห้าม  มืออีกข้างรั้งประตูเอาไว้ให้เป็นเกราะกำบังแผ่นอกแบนราบของตัวเอง
แต่มันกลับเป็นจุดอ่อน...
เพราะต้องแบ่งแรงออกเป็นสอง... จึงไม่เท่าแรงของอีกคน

การยื้อยุดดำเนินไปเพียงไม่นาน  ในที่สุดเศรษฐพงศ์ก็ย่างก้าวมาในห้องเบอร์ 23 สำเร็จ  ไม่ต่างจากการแข่งนัดนี้ที่แมนยูไปเยือนถิ่นเชลซีเจ้าบ้านเลย

ประตูบานสีขาวถูกลงกลอนอีกครั้ง... เต๋าหันไปยิ้มเยาะใส่อีกฝ่าย หากแต่ก็ต้องคลายมันลงเมื่อเห็นร่างเล็กที่ยืนหันข้างให้กำลังเอามือสองข้างกอดหน้าอกเอาไว้เสียแน่น

ตาคู่คมกวาดไปมองแผ่นหลังบาง...เสื้อยืดสีน้ำเงินตัวนั้นลู่ไปกับผิวกายจนแทบสนิท

“ชา... อย่าบอกนะว่าโนบราอยู่!?”

ได้ยินคำถามแบบนั้นคนฟังก็หน้าขึ้นสี  “เออเด้ะ!”  แต่ยังตอบเสียงกวนกลบเกลื่อน  “รีบเอามือปิดตาเดี๋ยวนี้เลย!”  พูดขู่ทั้งๆ ที่มือยังปิดหน้าอกไว้ท่าเดิม

เต๋าเผลอกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ  แต่ก็ยกมือปิดตาตามคำบอกโดยดี

“ปิดแน่นๆ ห้ามแอบดูนะ!”  หันมาขู่ใส่อีกรอบ  “เอามือออกขอให้เป็นกุ้งยิง”  พูดจบก็เดินถอยไปหาตู้เสื้อผ้าทั้งๆ ที่ยังจับตาดูอีกฝ่ายไม่ให้คลาดสายตา  จนเริ่มแน่ใจแล้วจึงหันหลังไปควานหาผ้าผืนเดิมไปใส่ในห้องน้ำ


เมื่อได้ยินเสียงปิดประตูห้องน้ำดัง  ‘ปัง!’  สองมือที่ปิดตาไว้จึงถูกลดออก  เต๋าเบนความสนใจตัวเองไปยังหน้าต่างบานเล็กที่ถูกเปิดอ้าไว้  ปล่อยลมให้พัดเข้ามาปะทะร่างกาย ฟังเสียงภายนอกแทนที่จะเป็นเสียงสวบสาบจากในห้องน้ำ  ก่อนจะใช้โทรศัพท์ตัวเองมาเปิดดูฟุตบอลนัดสำคัญเพื่อทำลายความฟุ้งซ่านไม่ทราบสาเหตุในจิตใจ

แต่ดูเหมือนจะยิ่งทำให้เต๋าปั่นป่วนเข้าไปใหญ่

“เฮ้ย! สามศูนย์ได้ไงวะ!!!!!!!!”
และเพียงแค่นั้น... บรรยากาศภายในห้องก็แปรเปลี่ยนไปในพริบตา





“มันต้องอย่างนี้สิเชลซี!!!!”  คชาที่เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพเรียบร้อยมิดชิดพอดีรีบย่างเท้ามาหาอีกคน  มองตัวเลข 3-0 ที่มุมจอโทรศัพท์เครื่องนั้นตาเป็นประกาย  “บอกแล้ว... กลับบ้านไปนอนร้องไห้เหอะเต๋า”  กลายเป็นคนละคนกับสาวน้อยที่กอดหน้าอกตัวเองไว้ตะกี๊ลิบลับ

“ยังเหลือเวลาอีกตั้งนาน... คิดว่าผีจะแพ้ง่ายๆ หรือไง?”  เต๋าพูดเถียงแทนแม้จะไม่มั่นใจสถานการณ์ทีมตัวเองในตอนนี้สักนิดเดียว... สามลูกเชียว ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ  “สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร ไม่เคยได้ยินหรอ?”

“เหรออออออออออ... จะรอดูนะต๋าวววววววว”  คชาลากเสียงยาวจงใจจะเยาะเย้ย หากแต่ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายเจ็บใจหรือคิดเป็นเดือดเป็นร้อนเลย
แค่เซ็งกับการแข่งนัดนี้เบาๆ เท่านั้นเอง
ให้ถึงคราวแมนยูก่อนเหอะ!






“โอ๊ย! ไอ้กรรมการบ้าเอ๊ย สองลูกเลยหรอวะ? ฟาล์วตรงไหนเนี่ย แมนยูสำออยว่ะ”  แต่ในอีกเกือบครึ่งชั่วโมงต่อมา สถานการณ์ที่เริ่มพลิกผันก็ทำให้คนตัวเล็กนั่งบ่นเสียงห้าว ขมวดคิ้วทำหน้านิ่วอย่างจริงจัง

“โดนยิงเข้าแล้วอย่าพาลสิชาค่ะ... พูดจาก็ให้เพราะๆ หน่อย”  เต๋าหันมาพูดจาเรียบๆ ตอบกลับไป แต่รอยยิ้มที่มุมปากนั่นพอเห็นแล้วมันอดจะหมั่นไส้ไม่ได้
จงใจกวนประสาทชัดๆ!
เฮอะ... ได้แค่สองลูกมาทำเป็นดีใจ  ตอนนี้เชลซีต่างหากที่นำอยู่!

จนกระทั่งเกมการแข่งขันดำเนินมาจนถึงช่วงสิบห้านาทีสุดท้าย... ทั้งสองคนยังคงนั่งลงกับพื้นที่เดิม มองโทรศัพท์เครื่องขาวที่ตั้งไว้บนเตียงตาแทบไม่กะพริบ

นี่มันช่วงเวลาได้เสีย(?)เลยเถอะ!!! สิบห้านาทีสุดท้าย ชี้เป็นชี้ตายของเกมเลย  สองร่างบนพื้นห้องจากที่นั่งห่างกันเล็กน้อยก็เบียดกันแทบจะเกยตัก  จุดโฟกัสมีเพียงลูกกลมๆ เล็กๆ ในสนามที่กำลังถูกส่งไปทางนู้นทีทางนี้ที

ก่อนที่นักเตะอดีตดาวรุ่งอย่างเวนรูนีย์ ส่งบอลผ่านไปยังเพื่อนนักเตะร่วมทีมสีแดงจนมันถูกโหม่งเข้าเป็นประตูชัย

ปีศาจแดงเลยได้ทีตีเสมอสิงห์น้ำเงินเจ้าถิ่นเป็น 3 ประตูต่อ 3


“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก ได้ไงวะ จะมาเสมอไม่ได้นะว้อย!!!”  ร่างเล็กพูดพลางยกมือขึ้นขยี้เส้นผมบางจนกระจุยยุ่งเหยิง  สติแตกกระเจิงเมื่อถูกตีเสมอได้ทัน

“บอกแล้วไง แมนยูไม่ตายง่ายๆ หรอก หึ”

“ไอ้กรรมการบ้า ถ้าจะขนาดนี้ก็เอาเสื้อสีแดงมาใส่เลยเถอะ!”

“รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง”

“หุบปากไปเลยเต๋า!”

“เสมอแล้วพาล”

“โอ๊ย ไอ้เผือกบ้า ไอ้กวนประสาท กลับบ้านไปเลยไป!”

“กลับก็ได้... อีกสิบนาทีที่เหลือก็ฟังวิทยุไปละกัน”  เสียงทุ้มเอ่ยจบก็หยิบไอโฟน ขยับตัวทำทีจะลุก แต่ก็ถูกอีกฝ่ายดึงเอาไว้

“เฮ้ย! อย่าเพิ่งไปดิ ดูให้จบก่อน”  พลิกลิ้นกลับคำง่ายๆ ซะอย่างนั้น  มือเรียวรั้งกระตุกชายเสื้ออีกฝ่ายเบาๆ  เต๋าเหล่ตามองอีกฝ่าย ซ่อนรอยยิ้มไว้ในดวงตาคู่คม

ได้แกล้งคนแล้วสนุกดีแฮะ...





สิบนาทีกว่าๆ ที่เหลือ ทั้งสองคนยังคงนั่งจ้องจอสี่เหลี่ยมเล็กๆ เบื้องหน้าตาเป็นมัน  การแข่งขันพอจะมีลุ้นให้ได้เสีย(ประตู)อยู่เป็นระยะ  แต่กลับไม่มีทีมใดที่ทำสำเร็จเลย

เสียงเป่านกหวีดหมดเวลาดังขึ้น  เกมจบลงที่สกอร์ 3 ประตูต่อ 3  ปิดการแข่งขันแบบเสมอกันฟังดูน่ายินดีทั้งสองฝ่าย ทว่ากลับมีคนเจ็บใจไม่หาย

สามนาทีสุดท้ายมักทดเวลาบาดเจ็บนักบอล แต่ไม่เคยทดเวลาบาดเจ็บให้กองเชียร์

ใบหน้าหวานมู่ทู่ยับยู่ยี่  เหล่ตามองแขกไม่ได้รับเชิญแฟนบอลอีกทีมที่กำลังผิวปากอยู่อย่างหมั่นไส้
ขึ้นนำตั้งสามลูกก่อนแต่มาจบเสมอกันแบบนี้ใครจะไปรับได้… แถมแต้มตอนนี้เชลซียังตามหลังแมนยูอยู่อีก

อยากฆ่าคนว้อยยยยย !

   



เวลาล่วงเลยมาจนเกือบจะตีหนึ่ง  เต๋าหาววอดก่อนจะลุกขึ้นยืน บอกลาอีกคนที่ยังหงุดหงิดจากการแข่งขันไม่หาย  แล้วเดินลงไปเพื่อจะกลับไปนอนที่บ้านตัวเอง

ขายาวเดินลงบันไดมาด้านล่างในความมืด ไขกุญแจประตูหอพักในมือเสร็จก็ผลักมันเปิดออก  ทว่ามันแทบไม่ขยับเขยื้อนใดๆ เพราะประตูถูกล็อคเพิ่มเติมด้วยแม่กุญแจทองเหลืองตัวใหญ่

และมันเป็นอันที่เขาไม่มีลูกกุญแจ!!!!!





นั่นจึงทำให้เต๋าได้กลับมาอยู่ในห้องเบอร์ 23 อีกครั้ง...


หนุ่มเจ้าของห้องยังคงทำหน้าบึ้งตึงใส่อย่างไม่สบอารมณ์ เพราะความรำคาญที่ถูกเคาะเรียกก็เลยเปิดให้มันเข้ามาอีกจนได้  คชาก้าวขาไปยืนตรงหน้าต่างบานเล็ก  ผลักเปิดออกก่อนจะหันไปบอกอีกคน

“ออกประตูไม่ได้ก็โดดลงไป”  ใบหน้านิ่งพูดจาเอาจริงแต่อีกคนกลับนึกขำ
เต๋าก้าวไปหาเพื่อนทอมจำเป็น ก่อนจะไปยืนเบียดไหล่มองออกไปนอกหน้าต่างข้างๆ กัน

“อยากให้โดดจริงหรอชาค่ะ?”  หันไปพูดถามขำๆ แต่อีกคนพยักหน้าขึงขังอย่างเซ็งแซ่เต็มประดา  “ถ้าฉันตายไปเป็นผีจะมาหลอกเธอคนแรกเลย ไม่กลัวหรอ?”  เต๋าแสร้งเอ่ยทีเล่นทีจริง

“ไอ้บ้า พูดทำไม”  ไม่พูดตอบตรงๆ แต่พอเห็นอีกคนทำหน้าตาตื่นตกใจตอนดึกขนาดนี้ก็ชัดเลย
กลัวผีแน่ๆ

“แล้วถ้าเราบอกว่าความจริงเราเป็นผีล่ะ...จะเชื่อไหม?”  เต๋าถามอีกฝ่ายต่อด้วยท่าทางแน่นิ่ง  ประสานมองอีกฝ่ายตาแข็ง  ไม่ได้ทำให้ดูน่ากลัวแต่มันนิ่งเกินกว่าปกติจนอีกฝ่ายเริ่มนึกจินตนาการไปไกลเสียเอง
ประกอบกับลมที่พัดแรงและเสียงสุนัขในซอยเห่าหอนที่ดังเข้ามาพอดี...

ไม่นะ... ไม่ใช่ว่าไอ้หมอนี่ตายไปตั้งแต่สามวันก่อนแล้ว

“ชา... เราเป็นผี”

ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

“ผีแดงแมนยูไงล่ะ ฮ่าๆๆๆ นี่เชื่อจริงหรอ? ผีที่ไหนเขาจะบอกว่าตัวเองเป็นผีกัน”  เต๋าหัวเราะเสียงดังพลางเอามือกุมท้อง  ตอนนั้นเองที่หมัดเล็กรัวต่อยมาที่แผ่นหลัง

“บ้าเอ๊ยยยยยยย คนยิ่งกลัวๆ อยู่”  ทำร้ายร่างกายอีกคนเสร็จก็ยื่นมือไปปิดหน้าต่างอย่างรวดเร็ว  ก็ความมืดกับลมหนาวและเสียงหมาหอนมันน่ากลัวเกินไป!

“นายมันไอ้ตัวซวยชัดๆ” 
ตั้งแต่วันแรกที่เจอจนวันนี้ยังไม่มีอะไรดีสักอย่างเดียว!!!!!




สุดท้าย... คชาก็มานอนแหมะลงบนเตียงเล็กของตัวเอง ปล่อยให้คุณลูกเจ้าของหอนอนบนพื้นแข็งๆ ข้างล่างที่เขาเหยียบย่ำไม่เคยได้ทำความสะอาดกวาดถูเลยสักครั้งเดียว
แต่นั่นคงไม่เท่ากับ…

“หนาว”  เพราะไม่มีหมอน ผ้าห่ม หรืออะไรสักอย่างก็เลยเป็นแบบนี้  เต๋านอนหนุนแขนตัวเอง มืออีกข้างกอดตัวเองไว้  จนกระทั่งคนด้านบนโยนหมอนใบเล็กลงมาให้ด้วยความปรานี!

“เอาไปกอดไปหนุนไปทำอะไรก็ตามสบาย... อย่าหนาวตายก็พอ”

“กลัวผีล่ะสิ... กุ๊กกุ๊กกุ๊กกู๋...”  แม้จะหนาวแต่ก็ยังมีอารมณ์ทำเสียงซาวน์ประกอบหนังผีแกล้งใส่อีกฝ่าย

“บอกว่าอย่าพูดถึงไง!”  เสียงใสว่าพลางจับเอาหมอนข้างใบเล็กมาฟาดตัวคนบนพื้น  และนั่นทำให้หมอนข้างนั่นถูกเต๋าดึงไปกอดแน่น

ก็คนมันหนาวนี่หว่า... ผ้าห่มก็ไม่มีสักผืนเดียว

แต่ฝ่ายคชามีหรือจะยอม ร่างเล็กพยายามยื้อยุดเอาหมอนข้างใบนั้นคืนจากอีกฝ่าย มือทั้งสองคนยุดฉุดกระชากวัตถุนั้นไปมาในความมืด  ที่จริงปกติคชาเป็นคนนอนง่าย หลับไว แต่พอเวลาตีหนึ่งกว่าๆ ไปแล้วไม่ได้นอนก็เลยตาค้างเอาแบบนี้

และเขาก็ติดหมอนข้างมากเสียด้วยสิ

เพราะงั้น... ถ้าคืนนี้เขาไม่ได้หมอนข้างคืนก็อย่างหวังจะได้หลับเลยไอ้เต๋าตัวซวย!!!




เสียงลมกับเสียงผ้าห่มสวบสาบของคนที่แย่งหมอนข้างกันดังขึ้น  “ขอหมอนหน่อยไม่ได้รึไง หนาว”  เสียงลูกเจ้าของหอที่กลายมาเป็นคนขออาศัยชั่วคราวพูดต่อ

“ทำไมต้องให้ด้วย”  แค่ให้ซุกหัวนอนไม่ไล่ออกจากห้องก็บุญแล้วเหอะ!

“ใจร้ายว่ะชา”

“ก็หมอนเราอะ”  จังหวะที่ตอบนั้น ร่างเล็กบนเตียงก็เผลอผ่อนแรงจากหมอนข้างสีฟ้าเข้าพอดี  ฝ่ายเต๋าจึงดึงฉวยเอาหมอนข้างใบนั้นไปได้

ทว่าไม่ได้มีเพียงแค่หมอนข้าง... แต่เจ้าของของมันที่พยายามยืดมันไว้ก็ดันกลิ้งลงมาตามแรงจนทับร่างอีกฝ่ายเข้าอย่างจัง



เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วกะทันหัน  เพียงไม่กี่วินาที...คนตัวเล็กที่นอนทับอีกฝ่ายอยู่พอเรียกสติได้ก็รีบกระเด้งตัวกลับขึ้นไปบนเตียง มือเรียวฉวยดึงเอาผ้าห่มที่ลงมาจากเตียงพร้อมตัวเองคืนไป หากแต่ยังทิ้งหมอนข้างไว้ข้างล่างเหมือนเดิม

“ยกหมอนข้างให้ก็ได้”  เสียงใสเอ่ยอย่างปัดรำคาญ

และนั่นคือสิ่งสุดท้ายที่เต๋าได้จากเพื่อนทอมในคืนนี้...


ถัดจากหมอนใบเล็ก และอุบัติเหตุที่นำพามาซึ่งรอยจูบบนแก้มของเขา!

ใช่แล้ว... ตอนที่กลิ้งมาทับกันเมื่อครู่นี้ ข้างแก้มของนายเต๋าถูกสัมผัสนุ่มหยุ่นประทับเข้าอย่างจัง  คงไม่ต้องถามว่ามันคืออะไร เพราะสัมผัสชื้นๆ ที่ยังคงอยู่มันบ่งบอกได้เป็นอย่างดี


ในความมืดที่ปกคลุมห้องเบอร์ 23 อยู่นี้

คชาคงไม่เห็น... ว่าอีกฝ่ายกำลังเอามือจับแก้มตัวเองเอาไว้อย่างเหลือจะเชื่อ

ส่วนเต๋าก็ไม่รู้... ว่าอีกคนยังคงเอามือปิดริมฝีปากตัวเองไว้อยู่อย่างตกใจ

เราต่างไม่รู้ เราต่างไม่เห็น
และจะทำเป็นว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เพราะมันเป็นแค่อุบัติเหตุเท่านั้นเอง







TBC
มาแล้วจ้าตอน 6
อิอิ
ขอบคุณทุกคนมากๆจ้า
 o13
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 06 (31/05)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 31-05-2012 00:26:04
เต๋าเริ่มมาพัวพันเรื่อยๆ แถมมีเหตุการณ์ที่ทำให้ใจสั่นเล็กน้อย
ลุ้นจริงว่าความลับจะเปิดเผยเมื่อไหร่
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 06 (31/05)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 31-05-2012 00:34:53
น่ารักเกินทอม 5555

หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 06 (31/05)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 31-05-2012 00:58:55
อ๊ายน่ารัก ชอบอ่ะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 06 (31/05)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 31-05-2012 01:10:29
อิคึๆ
 :z1:
เดี๋ยวนี้อุบัติเหตุรักกันบ่อยนะจ้ะเด็กๆ
คาดว่าอีกไม่นานจะคืบหน้าไปอีกเยอะ
 :laugh:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 06 (31/05)
เริ่มหัวข้อโดย: zaabbo ที่ 31-05-2012 01:37:40
หึหึหึ สป๊ากกันแล้ววว
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 06 (31/05)
เริ่มหัวข้อโดย: whipcream ที่ 31-05-2012 03:45:48
 :-[ น่ารักสุดพลัง สนุกมว๊ากกกกกกกกกก มาต่อเถอะนะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 06 (31/05)
เริ่มหัวข้อโดย: kaoru404 ที่ 31-05-2012 08:21:53
อ้ายยยยยยย น่ารัก :impress2:สุดๆ
มา่ต่อเร็วๆเถอะ :call:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 06 (31/05)
เริ่มหัวข้อโดย: krit24 ที่ 31-05-2012 08:40:08
น่ารักอ่ะ แต่จะรู้ความจริงเมื่อไหร่เนี่ย
หวังว่าเต๋าคงไม่โกรธน้า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 06 (31/05)
เริ่มหัวข้อโดย: iDistort ที่ 31-05-2012 09:01:49
แอร๊ยย  :o8: :o8: :o8: น่ารักอ่ะ  :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 06 (31/05)
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 31-05-2012 09:11:51
 :o8:  อิรุงตุงนังแล้วซิ หวั่นไหว ~

แพรวาเธอไม่ชอบผู้ชาย วุ่นซะแล้ว เธอคงเห็นว่าชาค่ะเป็นคนเอาขนมมาให้  อลวนหลายเศร้าแล้ววว
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 06 (31/05)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 31-05-2012 20:14:00
ฮี้ววววววววววววว

น่ารักอ่ะ

ตอนแรกเราเห็นชื่อเรื่อง

แล้วแบบ มันจะเป็นยังไงน๊าาา

จะบ้าหรออออ

พอมาอ่าน ก็โอเคอ่ะ

น่ารักม๊วกกกกก ฮ่าๆๆๆๆ

เค้าชอบคู่นี้เต๋าคชา

^____________________^
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 06 (31/05)
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 31-05-2012 20:52:22
เค้าจุ๊บแก้มกันแล้วอ้ะ  :z1:  รอตามติดตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 06 (31/05)
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 31-05-2012 21:42:31
5555 ไม่ไหวว่ะ หัวเราะจนตัวสั่น ปวดท้องเจ็บคอไปหมดแล้ว
ชาสุดยอดอะ เต๋า แอ้น แล้วก็แพรวาคงเป็นเรื่องน่าปวดหัวไม่น้อย

หวังว่าชาจะได้ย้ายหอจริงๆ นะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 06 (31/05)
เริ่มหัวข้อโดย: akihito ที่ 31-05-2012 22:53:34
จุ๊บแก้มแล้ว :impress2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 06 (31/05)
เริ่มหัวข้อโดย: wisky ที่ 01-06-2012 14:01:59
น่ารัก น่าลุ้นขึ้นเรื่อยๆ  :o8:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 06 (31/05)
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 01-06-2012 18:41:53
><!!คชาน่ารักเกิ๊น~~!
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 06 (31/05)
เริ่มหัวข้อโดย: ิิำืben ที่ 02-06-2012 00:09:16
น่ารักอ่ะ :m3:
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ ขอวลอีกนิดนคดี๋ยวอมลงห้น่นอน อย่กันลืมน
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 02-06-2012 08:56:16
เต๋จสั่น
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 06 (31/05)
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 03-06-2012 23:25:26
♀ TOM (or) BOY ♂
06
[/b][/color]






คชาเพิ่งค้นพบข้อดีของการมาอยู่กทม.คนเดียวหนึ่งอย่าง
- - ตู้ม!!!!! - -

นั่นก็คือ...
“ว้อยยย... ไอ้ชาจะมาจับนมทำไมวะ!!!?”
“ฮ่าๆๆๆๆ สยิวอะเด้... ไอ้เต้รีบมาช่วยเร็ว!!!”
“เฟรมแกเสร็จแน่!!! ย้ากกกกกกกก”

- - ตู้ม!!!!!! - -

สมาชิกคนที่สามกระโดดลงสระมาร่วมคลุกวงใน(?)ปลุกปล้ำกับสมาชิกอีกสองของแก๊งอย่างเมามันส์  ท่ามกลางน้ำใสไหลเย็นที่เจือไปด้วยกลิ่นคลอรีนจางๆ ในสระว่ายน้ำขนาดใหญ่แห่งนี้  คชาคว้าตัวเฟรมเอาไว้จากข้างหลัง ให้โปเต้จัดการแกล้งไอ้จอมแสบนี่เสียบ้าง

“เฮ้ย... อย่าว้อย จั๊กจี้”  เฟรมที่กำลังถูกอีกสองคนรุมล้อมหน้าล้อมหลังเริ่มท้วงขอ
“นี่แหละน้า... ทำกับคนอื่นไว้เยอะ ฮ่าๆๆ”  คชาพูดพลางยังแกล้งไอ้ขี้ก้างที่ถูกเขากอดเอาไว้อยู่
“วันนี้แกขโมยกินลูกชิ้นฉันไปนะไอ้เฟรม”  โปเต้พูดพลางซัดน้ำเข้าหน้าเพื่อนรักคนดี  แต่มิวายพลอยกระเด็นโดนอีกคนไปด้วย
“เฮ้ยไอ้เต้ ดีๆ สิ”  คชาท้วงขึ้นบ้าง เพราะหลังๆ ไอ้เพื่อนคนนี้ชักจะดูไม่ให้ความร่วมมือพิกล

- - ซู่ววววววว - -

เฟรมที่หลุดจากการเกาะกุมของคชาได้ก็รีบหันหลังมาซัดน้ำเข้าหน้าไอ้เพื่อนทอมตัวดีทันที… และตอนนั้นคชาจึงได้รู้ว่า
คดีพลิก!!!!!

“เฮ้ย! ไอ้เต้จัดการไอ้เฟรมดิ มาเล่นพวกเดียวกันเพื่อ!”
“ไม่ว่ะชา... แกล้งแกหนุกกว่าเยอะเลย!”
ไอ้งูพิษ!
“น้องทอมจ๋า ขอพี่เฟรมจับนมคืนบ้างนะ กิ๊วๆ”
“หนอย.. ฝากไว้ก่อน! อ๊อยยยยยย ไอ้เฟรม..จั๊กจี้”
“น้องทอมคนดี มาให้พี่เต้แกล้งหน่อยละกัน เดี๋ยวไม่ให้ไปเล่นเกมที่บ้านต่อนะ”

ใช่แล้ว... ข้อดีของการมาอยู่กทม.คนเดียวคือการเล่นปล้ำกับเพื่อนในสระ
เย้ย! ไม่ใช่! ...มันคือการมาเที่ยวเล่นเถลไถลโดยไม่มีแม่โทรมาบ่นต่างหาก!

“ไอ้เฟรม... ย๊ากกกกกกกก”
“ไอ้เต้... ตายยยยยยยย”

เพื่อนผู้ชายก็สนิทกันเร็วแบบนี้ล่ะนะ จะไปคิดอะไรให้มากมาย





เย็นวันนั้น กว่าจะเล่นสนุกในสระว่ายน้ำแถวบ้านโปเต้ กว่าจะเปลี่ยนเสื้อผ้ากันแล้วไปเกรียนเกมกันต่อ ปิดท้ายด้วยการโซ้ยข้าวต้มราตรีให้อิ่มท้อง จนถึงตอนที่คชากลับมาถึงหอพักเพียงพอ ก็เป็นเวลา...

“เฮ้ย! หอปิดแล้วหรอวะ!!!”  ร่างเล็กในชุดเสื้อยืด(ของโปเต้)คลุมทับด้วยเสื้อฮู้ดสะพายเป้พะรุงพะรัง ยกมือเขย่าแม่กุญแจทองเหลืองอันใหญ่ตรงหน้ารัวๆ  หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา...ก็พบว่า

‘00:03’ ไม่ใช่สกอร์แมนยูต่อเชลซี(คิดแล้วยังแค้นไม่หาย) แต่เป็นเที่ยงคืนสามนาทีต่างหาก!
หอปิดเที่ยงคืน... กลับมาถึงตอนเที่ยงคืนสามนาที จะมีอะไรซวยกว่านี้อีก!


ร่างเล็กได้แต่ยืนอยู่ตรงนั้นอยู่อย่างโดดเดี่ยว... ก่อนจะหันซ้ายหันขวาดูอีกทีแล้วพบว่าบรรยากาศตอนนี้โคตรวังเวง
เข้าหอไม่ได้ แล้วจะทำไงดี?

นิ้วเรียวกดไล่ดูรายชื่อที่มีในเครื่อง ก่อนจะตัดสินใจกดปุ่มสีเขียวเพื่อโทรออกไปหาใครบางคน...


ตอนนั้น คชาไม่รู้เลย... แม้เขาจะอยู่คนเดียวตรงนี้ แต่มีใครอีกคนยืนดูอยู่พักหนึ่งแล้ว
บนระเบียงชั้นสี่ ที่เดิม

เต๋ากำโทรศัพท์ในมือเอาไว้แน่น ตาคู่คมจ้องมันสลับกับร่างเล็กที่โทรหาใครบางคนพลางเดินวนไปวนมาอยู่หน้าหอ หัวใจเต้นแรงอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว นับถอยหลังในใจเพื่อกะเวลาให้มันดังขึ้นพอดี

3……….

2……..

1……

0….


0..


0


0


เฮ้ย!!! ทำไมไม่ดังวะ!!!!!


ทำไมไม่รับวะไอ้เฟรม!!!!!


ใบหน้าหวานขมวดคิ้วจนยุ่ง ตาคู่เรียวจดจ้องที่โทรศัพท์ในมือไม่ไปไหน ก่อนจะกดปุ่มโทรออกเป็นครั้งที่สาม

“รับสิวะ... คนยิ่งกลัวๆ อยู่”  บ่นพึมพำกับตัวเองเสียงเบา ใบหน้ายังก้มมองโทรศัพท์ในมืออยู่อย่างเดิม

“ชา...”  น้ำเสียงเย็นๆ ที่ดังขึ้นข้างหลังก็พาลเอาขนลุกซู่... เขาเหล่ตามองต่ำ ที่พื้นมีเงาอีกอันเพิ่มขึ้นมา
ไม่นะ... ไม่นะ... ไม่นะ...

“ไอ้ผีบ้าอย่าเข้ามานะว้อย!!!!!” คชาร้องเสียงใสพลางหันหลังควับ...แต่ถึงอย่างนั้นกลับยังหยีตาไม่กล้ามองเต็มสองตา
ไม่ใช่ไม่กลัวนะที่หันมา แต่เคยเห็นในหนังพอทำอย่างนี้แล้วผีจะหายไปอ้ะ
แต่นี่ไม่หาย... ผีหน้าขาวที่ไหววะ!!!
หน้ามันขาว จมูกโด่ง ตาโตๆ
ปากแดงด้วย!

“เต๋า!!!!”  เสียงใสโวยวายทันทีที่ตัดสินใจเบิกดูเต็มตา ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก  “มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง ตกใจหมด”
หากแต่คนมาใหม่ยังคงยืนนิ่งๆ ซะจนอีกคนขมวดคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ  “แล้วมาทำอะไรดึกดื่นเนี่ย?”  คชาถามต่อ แต่นั่นยิ่งทำให้อีกคนมองตาดุใส่เสียอีก

“ไปไหนมา?”  คำถามปกติ แต่น้ำเสียงไม่ใช่
“ไปกับเพื่อน”
“เพื่อนผู้หญิงหรือผู้ชาย?”

“ผู้ชาย... แล้วจะอยากรู้ไปทำไมเนี่ย!”  เสียงใสเริ่มท้วงกลับเมื่อเริ่มนึกได้ว่าตนเองไม่จำเป็นสักนิดเดียวที่ต้องตอบออกไป
มันธุระกงการอะไรที่ต้องรู้ด้วยวะเต๋า!!!

“ทีหลังไม่ต้องไป กลับดึกขนาดนี้ไม่กลัวโดนฉุดรึไง?”  เสียงทุ้มร่ายยาว  “แล้วเพื่อนผู้ชายประสาอะไรไม่คิดจะมาส่งเพื่อนผู้หญิงที่หอ เป็นผู้ชายแบบนี้เอาผ้าถุงมาใส่เลยดีกว่า”
เฟรม...ไอ้นี่มันด่าแก!

“ที่นี่มันอันตราย ไม่เหมือนแถวบ้านเธอหรอก...” คนฟังเริ่มทำหน้ายู่ นึกไม่ชอบที่อีกคนมายุ่งเรื่องไม่เข้าท่า

“คิดสิ... ถ้าเธอเป็นอะไรไปขึ้นมามีแค่เธอที่เสียใจรึเปล่า? ยังมีคนอื่นที่เป็นห่วงเธออีกเยอะแยะ”  แต่ประโยคถัดมา ก็เริ่มนึกตามและเข้าใจ... แม่เขาล่ะ พ่อเขาล่ะ น้องชายอีกล่ะ ญาติๆ ล่ะ แล้วยังพวกเพื่อนๆ อีกด้วย
แล้วก็... นายด้วย... หรอ...?
ที่มายืนบ่นปาวๆ นี่ก็...
เป็นห่วง...????

ใบหน้าหวานช้อนมองตาคนที่ร่ายยาวทำตัวเป็นมาเฟียไม่ต่างจากแม่ของเขา ลึกลงไปยังมีอะไรอีกมากมายในสายตาคู่คม

“แต่ก็ดีที่ไม่มีใครหน้ามืดมาทำอะไร... ถือเป็นโชคดีของพวกนั้น”
เหอะ... แต่อย่างนี้มันเรียกหาเรื่องกวนบาทามากกว่าว่ะ!

“ยังจะทำหน้าบู้บี้ใส่อีก นี่ฉันมาช่วยเธอหรอก”  หันมาพูดเสร็จเต๋าก็หันไปควักกุญแจออกมาจากกระเป๋ากางเกงนอน เพื่อไขแม่กุญแจทองเหลืองอันใหญ่ พร้อมยังประตูเหล็กอีกชั้นนึง  “ถ้าฉันไม่มา คงโดนผีหลอกไปแล้ว”

“เฮอะ...”  คนฟังทำเสียงใส่เหมือนไม่สน ทว่ายังแอบขนลุกขนพองเบาๆ เพียงแค่ได้ยินคำว่า ‘ผี’ เพียงคำเดียว

“ไปนอนไปชาค่ะ นอนดึกเดี๋ยวไม่สูง”

“หาว่าเตี้ยหรอ!”

“ฝันดีผีรอบเตียง”

“ไอ้เต๋า!!!”

   สุดท้ายก็ลงเอยอิหรอบเดิม



- - - - - - - - -



เช้าวันใหม่ยังคงมาถึงพร้อมกับเสียงนาฬิกาปลุกเหมือนทุกวัน ทว่ากว่าวันนี้คนตัวเล็กจะได้ฤกษ์ลุกขึ้นจากหมอนก็ปาเข้าไปแปดโมงเศษ
เมื่อคืนนอนดึกนี่หว่า... กว่าจะกลับถึงหอ กว่าจะได้เข้าหอ กว่าจะได้เข้านอน

   และกว่าเช้าวันนี้คชาจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็จวนจะถึงเวลาเรียนพอดี  คชานำฮู้ดตัวสีดำมาใส่ทับเหมือนเดิม เท้าเดินไปเตะหันถุงพลาสติกใบใหญ่ที่วางกองไว้กับพื้น จึงก้มลงหยิบสุ่มๆ ออกมาหนึ่งอย่าง ก่อนจะเดินออกไปหน้าห้องเหมือนที่เคยทำ
   ภารกิจเสี่ยวทุกเช้า น้ำเน่าจนน่ารำคาญ - -;

   ถึงจะสายแล้วแต่ชั้นสองของหอพักเพียงพอกับดูเงียบสงบ  สงสัยจะไปเรียนกันหมดแล้ว ไม่ก็นอนยังไม่ตื่นแน่ๆ ...ทางสว่างแท้ๆ
   เห็นเป็นดังนั้น มือเรียวก็หยิบของในมือมาพินิจดูจริงจัง...

‘ดื่มน้ำแร่จากเทือกเขาแอลป์ ก็เหมือนแอลได้สมุดเดทโน้ต’ 
อะไรของมัน?  ใบหน้าหวานขมวดคิ้วงงๆ เมื่ออ่านข้อความแรกบนขวด ก่อนจะเหลือบไปเห็นข้อความภาคต่อ

‘คุณจะเป็นอมตะด้วยความรักของผม’
ไม่ใช่น้ำแร่แต่เป็นน้ำเน่า!!!!!  ...แม้จะส่ายหน้าเบาๆ แต่ก็วางขวดน้ำลงบนที่เดิม

ทว่าตอนนั้น... เสียงประตูห้องเบอร์ 21 ก็ดังขึ้นเอี๊ยดอ๊าด
หัวใจแทบจะหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม  ดวงหน้าหวานค่อยๆ หันไปมองคนที่เพิ่งโผล่พรวดออกมา... สาวผมยาวสีน้ำตาลทองในชุดนักศึกษากำลังยืนเท้าเอวมองที่หน้าประตู  “อรุณสวัสดิ์แพรวา”  คนตัวเล็กพูดต่อพลางส่งยิ้มแห้งๆ  ...ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะมีวันนี้

“ชา... เธอใช่ไหมที่เป็นคนทำ?”  วันที่ถูกจับได้คาหนังคาเขา!

“ทำอะไร เรามารอแพรวาไปเรียนพร้อมกันอยู่เนี่ย”  คชาว่าพลางส่งยิ้มตาหยีใส่เพื่อนสาวข้างห้อง  แต่ในสายตาคนมอง...ความรู้สึกมันฟ้องกว่ากำลังโกหก!

“เหรอ... ไหนหนังสือเรียนล่ะ?”

“ฮะ? เออ... จริงด้วย ลืมไว้ในห้อง”  พูดพลางเอามือเกาหัวแก้ขัด

“รู้ตัวรึเปล่าว่าไม่เนียน?”

“อะไรหรอแพรวา?”  ยังคงทำหน้าแบ๊วใสซื่อไม่รู้เรื่องต่อไป  “เดี๋ยวเราไปหยิบของก่อนน้า... รอแปปนึงจะได้เดินไปมหา’ลัยด้วยกัน”  รีบตัดบทลงตรงนั้น ก่อนจะวิ่งจู๊ดเข้าห้องเบอร์ 23 ของตัวเองไป

ประตูห้องเบอร์ 23 ถูกปิดลง หัวใจดวงน้อยยังเต้นตูมตามจากเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่หาย เกือบถูกแพรวาจับได้แล้วไง... หรือที่จริงก็
จับได้แต่เขายังเป็นผู้ร้ายปากแข็งอยู่ก็เถอะ

กระวีกระวาดหยิบข้าวของลงในเป้ใบสีดำ กำลังจะออกจากห้องก็เหลียวไปเห็นหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้  คชาเดินไป... ว่าจะปิดมันหากแต่กลับยื่นหน้าออกไปแทน  จนแล้วจนรอดก็ชะเง้อเงยขึ้นมองตึกแถวฝั่งตรงข้ามโดยไม่รู้ตัว

ตอนนั้นประตูระเบียงสีขาวบนชั้นสี่ค่อยๆ เปิดออก  ชายร่างสูงกำลังเดินออกมา... ทว่าไม่ทันจะเห็นหน้า คชาก็รีบเอื้อมมือปิดหน้าต่างลงเสียก่อน

ไม่เอา! ไม่อยากเจอไม่อยากมองหน้าไอ้ผีตัวซวย!





   “แพรวาจับได้แล้ว... ไม่ทำแล้วนะ” 
แต่สุดท้ายก็เป็นคชาเองที่นัดตัวซวยที่ว่ามาเจอที่ร้านน้ำเต้าหู้ในตอนเย็น  เสียงใสพูดสรุปความเหตุการณ์เมื่อเช้าให้อีกคนฟังจนจบ  คิดไปคิดมาก็ดีเหมือนกันเพราะเป็นโอกาสในการชิ่งหนีจากเรื่องยุ่งเหยิงพรรค์นี้แบบเนียนๆ
หากแต่อีกฝ่ายกลับนิ่งเฉย ยกน้ำเต้าหู้ขึ้นดื่มอย่างไม่ยี่หระอะไรแม้แต่นิดเดียว

“อืม ไม่ต้องทำแล้ว”  เสียงทุ้มพูดธรรมดาแต่พาให้อีกคนดีใจจนแทบอยากจุดพลุฉลอง  ริมฝีปากบางยกยิ้มดีใจโดยอัตโนมัติ

“แผนรักคือการใส่ใจ เริ่มจะไม่เวิร์ค” 
ไม่เคยเวิร์คเลยต่างหาก!

“กำลังจะใช้แผนหลอกให้รักแล้วจากไปอยู่พอดี”
ว่า ไง นะ =[]=


เต๋าเห็นอีกคนทำหน้าอึ้งปนเอียนแล้วจึงพูดเฉลย  “ไม่เคยได้ยินหรือไง ถ้าเราชินกับอะไรเราจะไม่เห็นคุณค่าของสิ่งนั้น แต่พอหายไปจากชีวิตสักสามวัน...”  พูดค้างไว้อย่างนั้นพลางยิ้มกริ่ม

“เราจะรู้ว่ารักมันมากแค่ไหน”

“แหวะ!”  จงใจทำท่าอาเจียนอย่างหมั่นไส้... ไอ้เผือกเสี่ยวเอ๊ย!

“เป็นไรชาค่ะ ใครทำท้องแล้วไม่รับรึไง?”  เต๋าแสร้งทำเสียงจริงจัง แต่แววตาขี้เล่นบ่งบอกความกวนโอ๊ยสิ้นดี!  “ท้องไวจังนะ อาทิตย์ก่อนเมนส์ยังมาอยู่เลย” 

เรื่องของชาวบ้านนี่จำแม่นเชียวนะ!… คชาก่นด่าอีกคนในใจพลางนั่งมองไอ้จอมกวนประสาทตรงหน้าเซ็งๆ เมื่อเห็นแบบนี้ มีหรือคนตรงหน้าจะหยุดเพียงเท่านั้น

“หรือว่า... คืนวันเสาร์ที่เรานอนด้วยกัน...”
นอนด้วยกัน!!! ดูมันพูดเข้า...แค่ห้องเดียวกันก็พอป้ะ!!!!

“เธอข่มขืนฉันหรอชา?”
“ไอ้บ้าเต๋า!!!!!”
“อย่าคิดว่าไม่รู้นะว่าคืนนั้นเธอทำ...” 

“ไอ้...!!!”  พูดขึ้นได้แค่นั้นก็อ้าปากค้างเมื่อเห็นอีกคนยกมือลูบแก้มตนเองไว้... ไม่รู้บังเอิญหรือว่าอะไร ถึงได้ตรงกับอุบัติเหตุนั้นพอดี

 “เถียงไม่ออกล่ะสิ... มันนุ่มมากเลยนะตอนนั้น”  เต๋าแสร้งเอานิ้วจิ้มลงบนแก้มขาวซีดของตัวเอง พูดจาทะเล้นซะจนอีกคนถึงกับหน้าขึ้นสี ปิดปากเงียบไปต่อไม่เป็น

ตอนนั้น... รู้จริงดิ???

“จำไม่ได้หรอชา... เรื่องคืนนั้น”  เต๋าแกล้งเว้นวรรคลงกลางคัน  ตาคู่คมสะกดมองอีกคนเพื่อสังเกตอาการ  พอเห็นแววตาลนลานบนท่าทีที่พยายามสงบสติอารมณ์ก็ลอบยิ้มอยู่ในใจ

ได้แหย่ยัยทอมเล่นนี่มันสนุกชะมัด!

“คืนนั้น...หมอนข้างเธอฟาดเข้าเต็มแก้มฉันเลย”
ม...หมอนข้าง!?

“ดูทำหน้าเข้า คิดว่าเป็นอะไร?”  เต๋าตอบเรียบๆ เขยิบมองอีกคนให้ใกล้ขึ้นอีกนิด แววตาซุกซนยังจ้องอีกคนไม่เลิก 

“เปล่าซะหน่อย”  ปฏิเสธเสียงแข็งแต่หน้ายังแดงไม่หาย  “ตอนนั้นมันมืด ใครจะจำอะไรได้”  ทู่ซี้ทำไม่รู้ต่อไป หารู้ไม่ว่ากำลังโดนหลอกเสียสนิท

“ตกลงฉันหมดหน้าที่แล้วใช่ไหม ต่อไปก็จัดการเองละกัน โชคดี”  คนตัวเล็กพูดตัดบทไม่อยากเสียเวลา  ลุกขึ้นหันหลังเดินออกไปไม่กี่ก้าว  ก็ถูกรั้งไว้ด้วยคำถามสุดท้าย


“ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มยี่ห้ออะไร?”

   คิ้วบางขมวดขึ้นอย่างไม่เข้าใจ เพราะหันหลังอยู่จึงไม่เห็นสีหน้าทะลึ่งทะเล้นของอีกคน


   “ทั้งหอมทั้งนุ่มเลย”






TBC

หายไปหลายวัน โทษทีนะค้า อิอิ
ขอบคุณทุกคนมากๆ เลยจ้า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 07 หน้า 3 (03/06)
เริ่มหัวข้อโดย: iDistort ที่ 03-06-2012 23:38:34
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: น่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 07 หน้า 3 (03/06)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 03-06-2012 23:47:23
ยังฮาเหมือนเดิม แต่ดูวี่แววแล้วชาค่ะของเรายังไม่ได้เริ่มหวั่นไหวอะไรทั้งนั้น
มีแต่เต๋าแหละที่เริ่มสนใจยัยทอมขึ้นมานิดๆ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 07 หน้า 3 (03/06)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 04-06-2012 01:32:17
 :z10:  ชอบสุดๆเลย
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 07 หน้า 3 (03/06)
เริ่มหัวข้อโดย: Minako ที่ 04-06-2012 05:24:31
น่ารักกกก >_<
ชอบๆ อยากอ่านต่อแล้ววว 555
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 07 หน้า 3 (03/06)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 04-06-2012 07:38:39
เต๋านี่เห็นชาค่ะเป็นอะไร
ชอบมาแหย่จริงเชียว
 :o8:
แล้วสรุปตอนนี้ปิ๊งใครแน่จ้ะเต๋า
 :m12:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 07 หน้า 3 (03/06)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-06-2012 10:23:36
รีบๆมาต่อน๊าาาาาา :z2:
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ ขอวลอีกนิดนคดี๋ยวอมลงห้น่นอน อย่กันลืมน
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 04-06-2012 11:59:34
จิ้มชค่
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 07 หน้า 3 (03/06)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 04-06-2012 12:10:30
ฮึ้ววววววว

อะไรจ๊ะทั้งหอมทั้งนุ่ม

แอร๊ยยยย
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 07 หน้า 3 (03/06)
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 04-06-2012 12:53:23
เต๋ากวงงงงงตีงนะ555555555  :m20:

คชาจะโดนแพรวารุกคืนก่อนโดนเต๋ารุกฆาษมั้ย o18
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 07 หน้า 3 (03/06)
เริ่มหัวข้อโดย: Oilsaoo ที่ 04-06-2012 15:14:17
เต๋าคิดไรกับชาค่ะป่ะเนี้ยย
มาเเหย่ทุกวันเลยยย
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 07 หน้า 3 (03/06)
เริ่มหัวข้อโดย: Allure-Q ที่ 04-06-2012 17:44:07
เปลี่ยนใจมาชอบชาค่ะแล้วล่ะสิ?
เอ๊ะ หรือว่าไม่ได้เปลี่ยนมาตั้งแต่แรก?
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 07 หน้า 3 (03/06)
เริ่มหัวข้อโดย: หัวเเม่มือ ที่ 04-06-2012 18:21:04
อ่านแล้วเขินอ่ะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 07 หน้า 3 (03/06)
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 04-06-2012 22:54:34
หมายเหตุ
 - แอบมีคนเข้าใจผิดอะ คนที่ชอบคชาคือแอ้นนะคะ ไม่ใช่แพรวา เดี๋ยวอ่านแล้วจะงง




♀ TOM (or) BOY ♂
08







คงเป็นปกติธรรมดาที่ห้องเรียนขนาดความจุคนนับหลายร้อยคนกับพื้นที่สูงเป็นสโลปขั้นบันไดขึ้นไป ทำให้อาจารย์กับเหล่านักศึกษาในคลาสเรียนรวมทั้งคณะห่างเหินกันอยู่ไม่น้อย  โดยเฉพาะบริเวณตั้งแต่กึ่งกลางห้องไล่ขึ้นไปจนสุดขอบผนังด้านหลัง
ณ ที่นั่งฝั่งซ้ายแถวกลางของห้อง โปเต้กำลังนั่งจดมือระวิงพลางกินแซนด์วิชเป็นอาหารมื้อสาย เฟรมที่นั่งถัดไปกำลังฟังเพลงจากหูซ้ายและหูขวาฟังเสียงอาจารย์  ต่อมาคือคชาที่จรดปากกาลงบนสมุดหวัดๆ เป็นระยะพลางคุยกับเพื่อนที่นั่งติดกันอย่างแพรวาไปด้วย

“ก็บอกว่าไม่รู้ไม่ได้ทำไง”  เสียงใสเอ่ยตอบซ้ำสอง ตาคู่ใสหันมามองอีกฝ่ายบ้องแบ๊วราวกับจะยืนยันคำพูดของตน ก่อนจะกลับไปสนใจอาจารย์หญิงวัยใกล้เกษียณที่นั่งสอนอยู่ไกลๆ  มือยังจับปากกาลูกลื่นบันทึกโน้ตย่อลงในสมุดลายการ์ตูนตามสมควร
หากแต่สาวเจ้าคนเดิมกลับยังไม่เลิกสงสัย ถึงจะเข้าวันที่สามแล้วที่เธอไม่ได้รับขนมที่หน้าห้องก็ตามที แต่ยังไงความรู้สึกของเธอก็ยังคงชัดเจน
ยัยเพื่อนทอมตรงหน้านี่แหละที่เป็นคนทำ!

“ชา... บอกมาดีกว่าว่าใครอยู่เบื้องหลัง”  และแน่นอน... แพรวาไม่คิดว่าทอมหน้าหวานข้างห้องคนนี้จะแอบชอบเธออยู่แน่ๆ  เพราะที่ผ่านมามันไม่เคยมีเค้าสักนิด  “ฉันรู้จักรึเปล่า?”  เธอไล่เลียงต่อ

“เงียบน่าแพรวา ฟังอาจารย์ไม่ทัน”  เขาพูดออกไปทั้งๆ มือหยุดจดไปนานแล้ว แถมหูตอนนี้ก็สนใจแค่เสียงของเธอเท่านั้น

“ฉันรู้จักรึเปล่า?”

“ชู่วววว”  ใช้นิ้วชี้จรดริมฝีปากบางห้ามปรามในเชิงไม่ให้ส่งเสียงดัง  ทั้งๆ ที่จริงแค่อยากตัดบทเสียมากกว่า

“ตอบมาดีๆ ชา อย่าทำไขสือ”  แพรวาขมวดคิ้วหน้าเคร่ง น้ำเสียงกดลงต่ำ คชาได้ยินดังนั้นก็หันมายิ้มกว้างจนตาหยีให้เธอแทนคำตอบ ทำทีสนใจอาจารย์อย่างเดิม

“บอกมา”
หันมาส่ายหน้าทั้งๆ ที่ยังยิ้มแป้น

“อย่าลีลา บอกมาเดี๋ยวนี้”

“ไม่บอก”

“บอกมา”

“ม่ายบอก”

“งั้นสรุปยอมรับแล้วใช่ไหมว่าเป็นคนทำ?”

ได้ยินคำถามดังนั้นตาเรียวก็เบิ่งเล็กน้อยในเชิงตกใจ... ให้ตาย! สรุปว่านี่เขาแพ้ทางแพรวาอีกแล้วสิ  “เปล่านะ”  พูดตอบเพียงเท่านั้นก็แกล้งหาวขึ้นมาในทันที

“ง่วงชะมัด หมดคาบแล้วปลุกด้วยนะ”  เอ่ยเสียงอู้อี้ในลำคอ พยายามทำตัวเนียนต่อทั้งที่โคตรไม่เนียน  แพรวาได้แต่ยิ้มเย็นๆ มองเพื่อนทอมที่กำลังฟุบหลับลงไป
ไม่มีอะไรที่เธอสงสัยแล้วไม่ได้คำตอบหรอกนะ!




   ทั้งๆ ที่ตอนแรกแค่จะแกล้งทำเป็นหลับ แต่ด้วยความน่าเบื่อหน่ายของเนื้อหาวิชาและเสียงโทนราบเรียบของอาจารย์ รวมถึงอากาศเย็นกำลังพอดีในห้องเรียนก็พาลเอาคนหลับง่ายอย่างเขาหลับเข้าจริงๆ  และยิ่งคลาสเรียนรวมความยาวสามชั่วโมงด้วยแล้วยิ่งทำเอาหายกังวลไม่ต้องกลัวเลยว่าจะหลับจนเลยเวลา

   แต่เพียงเข้าชั่วโมงที่สองของคาบเรียนเท่านั้น  คชาก็ค่อยๆ รู้สึกตัวตื่น  คงจะเป็นเพราะคลิปวิดีโอภาพยนตร์มีเสียงเรื่องแรกของโลกที่ถูกนำมาเปิดในคาบเรียนเรื่องประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิชาสื่อสารมวลชนเบื้องต้นนี่ล่ะ
   ทว่าพอเขายกมือขึ้นขยี้ตา ก็พบว่าที่มือมีบางสิ่งแปลกประหลาดไป

   “เฮ่ย! ใครมาทาเล็บให้เนี่ย”  แม้จะอุทานกับตัวเองแต่ก็ดังไปถึงเพื่อนคนข้างๆ ...แพรวารีบหันมาทำหน้ายิ้มเยาะใส่ หนำซ้ำยังชูขวดยาทาเล็บนั้นอย่างไม่ยี่หระสักนิดเดียว

   “ใครใช้ให้กระดุกกระดิก เดี๋ยวตีเลย เลอะหมดแล้ว” เพราะเธอเพิ่งทาเสร็จสดๆ ร้อนๆ เมื่อตะกี๊ สีเลยยังไม่แห้งดี  “ให้ทาซ้ำให้ไหมล่ะ?”

“ให้ก็บ้าแล้ววววว”  ใบหน้าหวานยับย่น  เบะปากเบิ่งตามองมันอย่างไม่คุ้นชิน  “รีบเอาน้ำยามาลบออกเลย  สีอะไรเนี่ย?”  เพราะไฟในห้องเรียนถูกดับลงเพื่อให้เห็นวีดีโอบนจอโปรเจคเตอร์ชัดขึ้น เลยมองดูไม่รู้ว่าเป็นสีอะไร

“สีนี้ไงชา”  เธอว่าพลางหยิบเอาขวดยาทาเล็บที่ถูกเก็บไปแล้วขึ้นมา ประกอบกับจังหวะที่ไฟถูกเปิดขึ้นเพราะหนังฉายจบพอดี
ตาคู่เรียวจึงมองเห็นมันได้อย่างชัดเจนเสียที 

“ชมพู!”

“ช็อคกิ้งพิงค์ต่างหากจ้ะ”  แพรวาเสริม

“เหมือนสีบานเย็นมากกว่านะ”  เฟรมที่พูดแทรกทำเอาทั้งคชาแทบจะไปดิ้นตายตรงนั้น... จะสีบานเย็นหรือสีช็อคชิพอะไรนั่น มันก็พาเอาเขาแทบจะช็อคตายคาห้องตรงนี้หมดนี่แหละ

“แพรวา.. ขอเหอะ เอาน้ำยามาล้างออกเร็ว”  คชาหันไปถามสาวเจ้าด้วยสายตาอ้อนวอน ถึงมันจะแค่มือข้างเดียวที่ถูกทาด้วยสีนั้น แต่รู้ถึงไหนก็คงอายถึงนั่น

ขนาดแม่เขายังไม่เคยทาเล็บเลยเหอะ! แล้วถึงแม่กะน้องตัวแสบจะไม่มาเห็น แต่เย็นนี้มีนัดกะไอ้ผีบ้านั่นด้วย ขืนเป็นแบบนี้ได้โดนมันล้อไปอีกหลายวันแน่ๆ

เจอลูกอ้อนของเพื่อนทอมดังนั้น แพรวากลับยังนั่งใจเย็น  เธอวางยาทาเล็บขวดสีชมพูช็อคกิ้งพิงค์ขวดนั้นบนโต๊ะเล็คเชอร์ ก่อนจะเสนอทางเลือกให้อีกฝ่าย

“ให้ทาอีกข้างด้วยไหมจะได้เหมือนกัน?”

“เอาดิชา”  เฟรมชี้นำ ในขณะที่โปเต้เริ่มหันมาสนใจพลางยิ้มล้อเลียน
บ้ากันไปใหญ่แล้วไอ้พวกนี้!

“ไม่มีทาง! แพรวา เอายาล้างเล็บมาเร็ว”
จะเอามาราดมือตรงนี้เลยคอยดู!

“เอาออกมาสิแพรวา สงสารชาจะแย่”  และเช่นเคย คงต้องขอบคุณนางฟ้าคนสวยอย่างแอ้นที่คอยช่วยเขาไว้ในสถานการณ์แบบนี้อีกครั้ง  ถึงนางฟ้าจะเป็นดี้ก็เถอะ...

“เราก็อยากช่วยอยู่นะแอ้น”  แพรวาหันไปเอ่ยกับเพื่อนซี้  “แต่ไม่มีน่ะสิ ไม่ได้เอามา”
ว่า ไง นะ!

“ไว้กลับไปที่หอก่อนนะชา... อีกแปปเดียวเอ๊งงงง เดี๋ยวก็เลิกเรียน”  สาบานได้ว่าปากแพรวาไม่ได้ยิ้ม แต่ตาของเธอน่ะ กำลังยิ้มอยู่ชัดๆ!

คชาพอได้ยินก็แทบจะเขวี้ยงขวดยาทาเล็บทิ้งซะเดี๋ยวนั้น... เขาจ้องมองมันสลับกับเล็บมือสีสดของตนเองอย่างไม่ชอบใจ  ทว่าไม่ทันได้ออกแรงทำอะไร ข้อศอกก็ปัดมันร่วงหล่นบนพื้นเสียเอง

- - เพล้ง ! - -

แม้จะตื่นตกใจ แต่วูบหนึ่งในความคิด เขากลับรู้สึกดีที่เห็นมันแตกสลายคาตา  ทว่าในไม่กี่วินาทีต่อมา ความเครียดก็เริ่มเข้ามาแทน เมื่อน้ำยาสีชมพูสดจากขวดที่แตก กระจายตัวไปทั่วตัดกับสีเทาของพื้นเป็นอย่างดี แถมเสียงฮือฮาตกใจและกลิ่นสารเคมีที่โชยหึ่งก็ทำเอารู้ไปทั่วกัน

“มีอะไรตรงนั้นน่ะนักศึกษา?”  อาจารย์วัยใกล้ชราซึ่งเห็นความผิดปกติบางอย่างถึงกับต้องถามออกไมค์
ทุกคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก แต่ไม่มีใครตอบอะไร จนเธอต้องเดินมาดูด้วยตาของเธอเอง

   สุดท้าย ทั้งคู่ก็ถูกยึดบัตรนักศึกษาไปก่อน รอพบอาจารย์หลังเลิกเรียน
   




   ดูเหมือนอุบัติเหตุเมื่อครู่ใหญ่ที่ผ่านมาจะพาเอาคนทั้งคู่หงอยไปเสียสนิท คชากับแพรวาเพียงนั่งจดตามที่อาจารย์สอนไปตามประสาทั้งๆ ที่ใจก็ลุ้นอยู่ว่าคงไม่ถูกลงโทษอะไรร้ายแรง

   “วันนี้พอเท่านี้ค่ะนักศึกษา... คราวหน้าเราจะมาต่อกันที่เรื่องสื่อสิ่งพิมพ์”  เธอพูดพลางกดปิดสไลด์ประกอบการสอนที่ดำเนินมาถึงหน้าสุดท้าย ก่อนจะปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ลง

 “ยาทาเล็บสีชมพู มาพบอาจารย์ด้วย”  เธอมองผ่านกรอบแว่นสายตาทะลุขึ้นมาหาคนทั้งคู่ตรงกลางห้อง  และไม่วายเรียกชื่อนักศึกษาทั้งสองโดยอ่านจากบัตรที่ยืดเอาไป 

“นางสาวฉัตรธิดา นายนนทนันท์”




   ทั้งๆ ที่บทลงโทษของทั้งคู่ไม่มีอะไรมากมายนอกจากการทำความสะอาดพื้นที่ทำเลอะและจัดโต๊ะให้เรียบร้อย ทว่าบรรยากาศในตอนนั้นกลับเครียดขึงกว่าทีแรกเป็นทวีคูณ  แพรวาและแอ้นเอาแต่นิ่งไม่พูดไม่จา คชาเองก็ไม่รู้จะอธิบายเรื่องทั้งหมดนี้ยังไง หน้าที่สุดท้ายจึงตกมาอยู่ที่เฟรม โดยมีโปเต้ที่ยืนลุ้นเอาใจช่วยไปกับทุกคน

   “เราเป็นคนให้ไอ้ชาไปอยู่หอหญิงแก้ขัดเองแหละ”  จากที่เคยขี้เล่น สนุกสนาน ลามกไปวันๆ  เฟรมเพิ่งจะพูดอะไรจริงจังก็วันนี้
   เขาตบบ่าเพื่อนทอมจำเป็นสองสามที ก่อนจะพูดยืดอกสารภาพผิดพลางมองหน้าสองสาวอย่างแมนๆ  “แล้วก็เป็นคนเตี๊ยมกะเพื่อนให้หลอกกันว่ามันเป็นทอมด้วย อย่าโกรธไอ้ชากับคนอื่นนะ”

   “แค่นี้ชีวิตไอ้คชาก็ซวยเพราะเราจะแย่แล้ว อย่าโกรธมันเลยแอ้น แพรวา”  ตาคู่เดิมจากที่เคยมึนๆ ลอยๆ กลับแสดงความจริงจังจนน่าตกใจ

   “ถ้าจะโกรธใครสักคนก็โกรธเราเหอะ แต่ที่ทำไปเพราะเข้าตาจนจริงๆ”  ได้ยินแบบนี้แล้ว ใครจะไปโกรธลง

   ถึงจะเจ็บใจที่ถูกหลอกมาตั้งอาทิตย์กว่าก็เถอะ!


   แพรวามองหน้าเฟรมก็พลันถอนหายใจออกมาเสียงดัง เธอหันไปสบตากับแอ้น... ก็เหมือนรู้ทันความคิดซึ่งกันและกัน

   “แล้วเรื่องหอจะทำยังไง ชาคงมาอยู่หอหญิงตลอดไม่ได้หรอกนะ”  แพรวาถามต่อ  ไม่ใช่กลัวว่าคชาจะมาทำมิดีมิร้ายใคร แต่เพราะกลัวจะถูกเจ้าของหอจับได้จนกลายเป็นเรื่องใหญ่นี่สิ

   พอเห็นท่าทีของแพรวากับแอ้นที่ไม่ได้ถือโทษอะไรเฟรมก็ยิ้มกว้าง พูดตอบทันควัน  “ไม่ต้องห่วงเลยเรื่องนั้น ให้ไอ้คชามันย้ายออกตอนนี้เลยก็ได้”

   “เฮ่ย... แล้วจะให้ไปอยู่ไหนวะ?”  เป็นเจ้าตัวเองที่ถามหลังจากนิ่งเงียบมานาน

   “กำลังจะบอกแกพอดีเลย เมื่อวาน มีหอนึงเขาโทรกลับมาบอกว่ามีห้องว่างพอดี”  เฟรมตอบเพื่อนซี้อย่างภาคภูมิใจ

   “อาจจะช้าไปหน่อย... แต่คงไม่สายใช่ไหมวะที่จะพาแกออกจากหอหญิงตอนนี้อะ”  พูดพลางตบบ่าคชาสองสามที

   “ขอโทษจริงๆ ว่ะคชา ที่ผ่านมาเราก็เครียดอยู่เหมือนกัน”







หนทางเดินกลับหอในบ่ายวันนี้บรรยากาศดูจะแปลกไปกว่าเดิมเล็กน้อย เมื่อแพรวาเองรู้แล้วว่าที่แท้เขาเป็นผู้ชาย  แถมคชาก็รู้สึกสบายใจที่หาหอพักใหม่ได้เสียที

แม้จะมีความรู้สึกโหวงๆ บางอย่างในใจก็ตาม แต่มันคงเป็นเพราะการต้องสูญเสียความเคยชิน

“ชา...เอ้ย..คชา เราทำเหมือนนายเป็นทอมได้ไหมอะ? มันติดไปแล้ว”  เธอพูดพลางหันมามองหน้าอีกฝ่ายยิ้มๆ  “ชาเหมือนทอมจริงๆ นะ น่ารักกว่าผู้หญิงอีกอะ”  ยิ่งเห็นเพื่อนข้างห้องคนนี้แก้มเป็นสีชมพูระเรื่อเพราะถูกชม เธอก็ยิ่งคิดว่ามันดูน่ารัก!

   “น่ารักตรงไหน ออกจะแมนเหอะ”  เขาพูดพลางยกมือที่ยังติดสีทาเล็บสีชมพูบางส่วนขมวดคิ้วพลางยกมือขึ้นเกาศีรษะจนยุ่ง เคยได้ยินคนพูดถึงตัวเองแบบนี้เหมือนกัน แต่มันจะดี?

   คำว่า ‘น่ารัก’ เก็บไว้ใช้กับผู้หญิงจริงๆ เถอะแพรวา


   เห็นเพื่อนข้างห้องทำท่าทีดังนั้นเธอก็อยากให้ไปส่องกระจกดูหน้าตัวเองเหลือเกินว่าน่ารักขนาดไหน  แพรวาส่ายหน้าเบาๆ 

“ตกลงไอ้ของพวกนั้นใครฝากมาวาง?”  ตัดเข้าประเด็นเดิมๆ ไม่ต่างจากสองสามวันที่ผ่านมา 

   “จะรู้ไปทำไม?”

   “เอ๊า... ก็ฉันเป็นคนได้ก็อยากรู้สิว่าใครให้ แต่ละอันน้ำเน่าชะมัด”

   “บอกไม่ได้อะ”  ไม่ใช่ไม่อยากบอกนะ ตัวเขาเองถูกจี้ถามอย่างนี้มันก็อึดอันเหมือนกัน แต่เพราะไอ้ตัวคนให้มันย้ำนักย้ำหนาว่าห้ามบอกเพราะอยากให้เธอรู้จากปากตัวเอง 

“ทำไมล่ะ อยากให้คนนั้นเป็นใครหรอแพรวา?”

   “ก็...”

   “อย่าบอกนะว่า...”  คชาพูดพลางยิ้มแป้นตาหยี แกล้งเว้นวรรคให้อีกคนลุ้นเล่นๆ ก่อนจะพูดต่อแบบจงใจเอาฮา  “อยากให้เป็นเฟรม!?”

   ฮากริบเลยล่ะคชาเอ๊ย!


   ไม่มีเสียงหัวเราะใดๆ หรือเสียงค้านโวยวายอย่างที่คิด  แพรวาหยุดยืนนิ่งตรงหน้าหอ ตาค้างอยู่อย่างนั้น มองดูก็รู้ว่าผิดปกตินิสัยแพรวาอย่างเห็นได้ชัด

   “เฮ้ย! บ้าน่า จริงหรอแพรวา?”  เขาถามเสียงใส ตาโตลุ้นตัวโก่งกับคำตอบอย่างเห็นได้ชัด

   “ก็เออน่ะสิ!”  ปล่อยให้อีกคนลุ้นไม่เพียงไม่กี่วินาที แพรวาก็กลับมาเป็นสาวขี้โวยวายเสียงดังคนเดิม  “แล้วตกลงใช่เฟรมรึเปล่า?”  เธอพูดถามอย่างมีความหวังทั้งๆ ที่ยังติดจะเขินเมื่อยอมรับออกมาตรงๆ

   คชาเห็นดังนั้นก็ส่งยิ้มแห้งให้  “ไม่ใช่อะ ไม่ใช่ไอ้เฟรม” 

   “ว่าแล้วเชียว”  แพรวาพูดเรียบๆ แต่ท่าทีหงุดหงิด  “งั้นก็ฝากไปบอกเขาด้วยว่าไม่ต้องแล้ว”

   “อ้าว... ไม่อยากรู้แล้วหรอว่าใคร?”  จริงๆ เขาเริ่มใจอ่อนกะจะใบ้ให้แพรวารู้แล้วเชียว

   “ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายนะชา”

   “จริงอะ? แล้วถ้าหน้าตาดี (มั้ง) พูดจาเพราะ (ตอนพูดครับ) ทันสมัย (โทรศัพท์ดูบอลได้) มีความรู้ด้วย (เรียนมหาลัยแล้ว) แถมยังรวยอีก (ก็เป็นลูกเจ้าของหอ)”  ร่ายบรรยายสรรพคุณอีกคนออกมายืดยาว  สาบานได้เลยว่าไม่ได้อยากชม แต่ทำเพราะเป็นหน้าที่จริงๆ!

   “หล่อรวยแค่ไหน ถ้าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ว่ะคชา ฝากไปบอกเขาด้วยละกันว่าแพรวามีคนที่ชอบอยู่แล้ว เลิกทำอะไรบ้าๆ สักที”

โห... ถ้าจะพูดขนาดนี้ ได้ยินแล้วเจ็บแทน
แผนนายมันไม่เวิร์คจริงๆ ด้วยเต๋า

   “อือ... เดี๋ยวเราบอกให้”  คชาพูดปิดท้าย ก่อนจะโบกมือบ๊ายบายแพรวาที่เดินเลยไปยังห้องของตัวเอง



   - - ปัง! - -


   ได้ยินเสียงปิดประตูห้องเบอร์ 21 แล้วเขาก็พลันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ คำพูดของแพรวาเมื่อกี๊ได้ยินแล้วมันน่าเศร้าใจจริงๆ

   แล้วแบบนี้เขาจะเอาไปบอกไอ้เผือกเต๋านั่นว่าไงดี?


   เขาหยุดความคิดนั้นลงชั่วครู่  มือหยิบกุญแจห้องจากกระเป๋าออกมาไข และทันทีที่เปิดเข้าไป ก็เจอวัตถุชิ้นหนึ่งตั้งตระหง่านตรงหน้าพอดี

   มันก็แค่ของที่เคยบ่นว่าอยากได้ แต่ไม่คิดว่าจะมีคนเอามาให้จริงๆ


‘กาต้มน้ำชาค่ะ...จากเต๋าครับ’

   ขมวดคิ้วอ่านข้อความที่ติดอยู่ด้านบนในใจ ตาคู่เรียวมองมันแน่นิ่ง ก่อนจะเหลือบไปเห็นโน้ตอีกอัน


   ‘ไม่ได้บุกรุก แต่วางไว้หน้าห้องเดี๋ยวหาย ใช้ให้ดีๆ ล่ะ ยกมาหนัก’

หนักหรอ? นี่ถ้าเขายกไปคืนเจ้าตัวมันก็คงหนักเหมือนกันใช่ไหม?


เต๋า... นายเอามาช้าไป เราคงไม่ได้อยู่ใช้มันที่หอนายแล้วล่ะ
   






TBC

จะพยายามมาลงวันละตอนนะจ๊ะ คือลงในเด็กดีถึงตอน 19  ใกล้จบละ (แต่ยังแต่งไม่จบนะ)
ขอบคุณทุกคนมากๆ จ้า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 08 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 04-06-2012 23:07:40
อร๊ายมาต่อแล้ววว

เอิ่มม เค้ารู้ความจริงกันแล้ว

แล้วพระเอกเราละ จะรู้เมื่อไหร

รอจ๊ารอออ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 08 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 04-06-2012 23:15:15
=A=''
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 08 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 04-06-2012 23:43:05
เอาล่ะสิ พระเอกยังไม่รู้เลยอ่า...
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 08 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: aloney ที่ 04-06-2012 23:48:19
กรี๊ด ด ด
สวนด น่ารักมาก ก
ชอบคู่นี้ง่ะ ><
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 08 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 04-06-2012 23:48:38
แอบสงสารเต๋านิดนึง
ยังไม่ทันรู้ตัวเลยว่าชอบชาค่ะ
น้องคชาของเราก็จะจรลีออกจากหอซะแล้ว
 :o12:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 08 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: [newZy]CASS ที่ 04-06-2012 23:51:46
 :L1: :pig4:


รอติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 08 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 04-06-2012 23:59:23
โอ้ยยิ่งอ่านยิ่งลุ้น แต่ไม่ไปอ่านที่เด็กดีหรอก จะรออ่านที่นี่
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 08 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 05-06-2012 00:27:47
กดน้ำร้อนชงมาม่า :sad4:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 08 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: bangkeaw ที่ 05-06-2012 16:15:25
ชาคะ จะไปจากหอนี้ซะแล้ว จะทำยังไงดีล่ะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 08 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: iDistort ที่ 05-06-2012 21:22:28
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: น่ารักดีคับ อยากอ่านต่อแล้วว ยาวๆๆเลยได้ไหม 555
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 08 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 06-06-2012 00:16:02
♀ TOM (or) BOY ♂
09








ช่วงเวลาเย็นใกล้ค่ำแบบนี้คงเป็นเวลาดีที่เหล่านักเรียนนักศึกษา รวมถึงเหล่าคนทำงานต่างก็เสร็จสิ้นภารกิจของตน  จึงไม่แปลกที่ผู้คนมากมายจะเดินสวนกันไปมาในห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางเมืองแห่งนี้  ซึ่งกลายเป็นสถานที่นัดพบของคนอีกคู่หนึ่ง
ไม่ใช่คู่รัก หรือจะบอกว่าเพื่อนซี้ก็คงไม่ใช่... เพราะเป็นลูกเจ้าของหอ กับคนเช่าห้องเบอร์ 23 ที่กลายมาเป็นที่ปรึกษาในการเลือกซื้อของให้กับสาวในฝันนามว่า แพรวา เท่านั้นเอง

และด้วยนัดกันในสถานที่แบบนี้  ความตั้งใจของคชาที่จะยกเอากาต้มน้ำไปคืนจึงต้องเป็นอันยุติลงชั่วคราว…

คชาในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ง่ายๆ สวมเสื้อคลุมอีกตัวทับเพื่อปิดบังหน้าอกแบนราบแบบผู้ชายก้าวเท้าเข้ามาหาคนที่ยืนรออยู่ก่อน  เต๋ายังอยู่ในชุดนักศึกษาสถาบันเดียวกับเขา สะพายกระเป๋าเป้สีดำเพราะเพิ่งเลิกเรียน

พอเห็นแบบนี้ คนตัวเล็กก็เพิ่งนึกได้... เกือบสองอาทิตย์ที่ผ่านมา นี่เป็นการเจอกันครั้งแรกที่ไม่ใช่บริเวณแถวๆ หอพัก
ตอนแรกไม่อยากสุงสิงด้วยไม่ใช่หรอ? แล้วทำไมถึงเลยเถิดมาได้ขนาดนี้?

“ว่าไงชา จะซื้ออะไรให้แพรวาดี?”  เต๋าหันมาถามอีกคนที่เดินตามหลัง ชะลอให้เพื่อนทอมมาเดินอยู่ข้างๆ กัน  “นี่เป็นของชิ้นสำคัญเลยนะ”

เห็นท่าทีกระตือรือร้นของอีกคนอย่างนั้น คำพูดของแพรวาเมื่อตอนบ่ายก็แล่นเข้ามาในหัว 

‘ฝากไปบอกเขาด้วยละกันว่าแพรวามีคนที่ชอบอยู่แล้ว เลิกทำอะไรบ้าๆ สักที’
จะบอกเต๋าแบบนี้ได้ยังไง?... ขนาดคนอื่นอย่างเขา ฟังแล้วยังสะอึกเลย

“เป็นไรชา? ไม่สบาย?”  เห็นสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีของอีกคน เต๋าจึงถามขึ้นมา และยิ่งเห็นอีกคนยืนนิ่งแบบนั้น  เลยถือโอกาสยกหลังมือแตะหน้าผากอีกคนเบาๆ  “ตัวก็ไม่ร้อนหนิ หรือว่า...”

“เวียนหัวแพ้ท้องรึเปล่า? ตกลงนี่ลูกของเราจริงๆ หรอ?”  กลับมาพูดจาทะเล้นใส่ซะจนคชาต้องขมวดคิ้วเบะปากค้อนให้อย่างที่เคยทำประจำ  ที่ทำท่าอ้วกใส่วันนั้น เต๋ามันยังเอามาเล่นจนถึงวันนี้!

“ท้องก็บ้าแล้ว!”  ท้องไม่ได้ว้อย! เขาโวยเสียงใส กระฟัดกระเฟียดใส่ซะจนอีกคนหัวเราะออกมาเบาๆ

“นั่นสิ ตัวก็แค่นี้... ว่าแต่หิวยัง จะกินอะไรเดี๋ยวเลี้ยงเอง”

“อ้าว... ไม่ซื้อของให้แพรวาแล้วรึไง?”

“หลังกินเสร็จก็ได้ นี่หกโมงแล้ว เวลาอาหารพอดี... เอาร้านนี้ละกันขี้เกียจเดิน”  พูดพลางเดินนำไปยังร้านอาหารญี่ปุ่นที่อยู่ในระดับสายตา ก่อนจะหันมาถามความเห็นอีกคน

“กินได้ใช่ไหมชา?”

“อือ”

“โอเคนะ... เดี๋ยวสั่งของเปรี้ยวมาให้”

“เต๋า!!!!!”





หลังจากสั่งอาหารเป็นที่เรียบร้อย คชาก็มองเหม่อผ่านกระจกใสออกไปนอกร้าน หากแต่สมองยังคิดทบทวนเรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำมา... คำพูดของแพรวา กับกาต้มน้ำอันนั้น

“เออเต๋า...กาต้มน้ำนั่น”  บางทีเรื่องนี้อาจจะพูดง่ายกว่า  “คือ...”  ทว่าพูดได้เท่านั้นเขาก็นิ่งไปเพราะไม่รู้จะต่อยังไงดี

เดี๋ยวเราเอาไปคืนนะ เพราะเราว่าจะย้ายหอพอดี... คำพูดแค่นี้ที่ปากไม่ยอมทำงาน
หรือเพราะหัวใจมันไม่ยอมสั่งการเสียมากกว่า

แต่เพราะความเงียบทำให้คนตีความไปอีกอย่าง...  “จะขอบคุณ? ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้”  เสียงทุ้มเอ่ย แม้ปากไม่ได้ยิ้มกว้างแต่แววตาก็สื่อถึงความยินดี

“ยกอันเก่าของที่บ้านมาให้น่ะ ลองดูก่อนว่าใช้ได้ไหม ถ้าไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที”  พูดพลางหันไปสนใจน้ำชาที่พนักงานเสิร์ฟเพิ่งเอามาให้ ดันแก้วหนึ่งไปไว้ตรงหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะดูดชาเขียวจากแก้วของตัวเอง

“ชาค่ะ... ไว้วันหลังชงชาให้กินมั่งสิ”  เหมือนพูดเล่น แต่คนพูดน่ะแอบคิดจริง

“เราคงไม่ได้อยู่ชงแล้วล่ะ”

เพียงคำพูดสั้นๆ แค่นั้น การกระทำทุกอย่างก็หยุดเคลื่อนไหว เต๋านิ่ง มองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะถามออกมา

“หมายความว่าไง?”

“เราว่าจะย้ายหอน่ะ”

“ย้ายทำไม? ที่นี่ไม่ดีตรงไหน?”

ตอบไม่ได้... ถึงหอพักเพียงพอจะไม่สมบูรณ์แบบแต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นเลวร้าย แถมเกือบสองอาทิตย์ที่เขามาอยู่ก็เริ่มเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้คุ้นชิน

“อยากดูทีวี? อยากเล่นเน็ต?”
ได้ยินอีกฝ่ายถามก็พยักหน้าเออออตามไป ทั้งๆ ที่ใจไม่ได้ต้องการมันขนาดนั้นเลย

“ก็มาบ้านฉันสิ มีทุกอย่างนั่นแหละ”  เว้นไปไม่กี่วิก็พูดต่อ  “อยากได้พัดลมด้วยใช่ไหม? เดี๋ยวพาไปซื้อเดี๋ยวนี้เลย”

ใครจะคิดว่าคำตอบของเศรษฐพงศ์จะง่ายแค่นี้… เขาไม่รู้เลย... สิ่งที่ว่ามาไม่เกี่ยวกับเหตุผลที่เพื่อนทอมคิดย้ายหอเลยสักนิด แต่ที่อีกคนต้องไปเพราะไม่ควรมาอยู่แต่แรกแล้วต่างหาก

หอพักหญิงก็คือหอพักหญิง... จะมีผู้ชายมาอยู่ได้ยังไง?

อาหารจานแรกที่มาเสิร์ฟทำให้บทสนทนาเว้นวรรคลงชั่วคราว  คชานั่งนิ่งหากแต่ลนลานอยู่ข้างใน ไม่รู้จะจัดการยังไงเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีท่าทีแบบนี้

“แค่เราคนเดียว หอไม่ขาดรายได้หรอก”  ร่างเล็กพูดต่อเมื่อสรรหาคำพูดออกมาได้

“แล้วคิดว่าฉันอยากได้เงินหรือไง!”  เต๋ากระชากเสียงตอนท้ายซะจนอีกฝ่ายสะดุ้งโหยง  ตาคู่คมมองสีหน้าจ๋อยๆ ของอีกคนแล้วก็พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ
แล้วจะโมโหไปทำไมวะ? ก็แค่คนคนเดียว

“แล้วจะไปอยู่ที่ไหน?”

“ไม่ไกลจากหอเดิมนักหรอก เพื่อนหาให้” 

“จะย้ายเมื่อไหร่?”

“เร็วๆ นี้แหละ”  เร็วที่สุด...เท่าที่จะเร็วได้

“เดี๋ยวช่วยขนของ”

“ไม่เป็นไร”

“ก็บอกจะไปช่วยไง”  เอ่ยเสียงทุ้มเหมือนปกติหากแต่สายตาดุดันอย่างควบคุมไม่ได้ เขาก้มลงดูดน้ำเย็นๆ ในแก้วเผื่อมันจะช่วยคลายความหงุดหงิดลง แล้วจึงหันไปสนใจอาหารในจาน เพื่อเบนความคิดของตัวเอง

อาหารอีกจานที่สั่งถูกนำมาเสิร์ฟในตอนนั้นพอดี ทั้งสองคนจึงหยุดบทสนทนาแล้วลงมือทานแทน  มันคงเป็นมื้ออาหารที่อึดอัดที่สุดของทั้งคู่เมื่อต่างคนต่างเงียบ  หลายครั้งที่คชาแอบมองสังเกตท่าทีของอีกฝ่าย แต่เมื่อถูกจับได้ก็รีบหลบสายตาทันที

“เอ่อ... แล้วของที่ให้แพรวา จะให้เมื่อไหร่อะ?”  คชาเป็นฝ่ายถามเมื่อทานข้าวไปได้เกินครึ่งจาน... ไม่ใช่แค่อยากชวนคุยเท่านั้น แต่เพราะนึกถึงอีกฝ่ายด้วยจริงๆ

“พรุ่งนี้... ให้พร้อมกับบอกเฉลย ว่าฉันเป็นเจ้าของขนมพวกนั้นเอง”

“แค่นั้น?”

“ก็คงบอกชอบ ต่อจากนั้นก็คงต้องดูว่าแพรวาจะว่าไง”

เขาชะงักไปชั่วครู่เมื่อได้ยินคำพูดของเต๋า... เห็นสีหน้าที่ดูจะมีความหวังบางอย่าง ไม่ได้ดูหงุดหงิดเหมือนยี่สิบนาทีก่อนหน้านี้เลย

แม้จะดีใจที่อีกฝ่ายเลิกอารมณ์เสีย แต่ยังอดกังวลไม่ได้... ถ้าเต๋าถูกปฏิเสธกลับมา... ไม่สิ ยังไงเต๋าก็ต้องถูกปฏิเสธแน่ๆ อยู่แล้ว ...กับผู้หญิงมั่นใจในตัวเองอย่างแพรวา

เขาควรจะบอกเต๋าก่อนไหม? แต่ตอนนี้ เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดยังไงเลยจริงๆ

“จะซื้ออะไรไปสารภาพรักดี... ชาค่ะ พวกผู้หญิงเขาชอบอะไรกัน?”

“หา...”  ในเมื่อเขาไม่ใช่ผู้หญิง เขาควรตอบว่าอะไร  “ดอกไม้มั้ง”  ผู้หญิงทุกคนน่าจะดีใจไม่ใช่หรอเวลาที่ได้ดอกไม้

“แล้วเธอชอบดอกไม้อะไร?”

“ถามเรา? ดอกไม้? ...ดอก..มะลิ”  คิดยังไงก็พูดออกไปโดยทันที  เขาชอบดอกมะลิ ดอกไม้ดอกเล็กๆ สีขาวบริสุทธิ์หอมเบาบางที่ทำให้นึกถึงครอบครัว
ไม่รู้ตัวเลย รอยยิ้มบางเบาของเขากำลังทำให้อีกฝ่ายหลุดยิ้มจางๆ ออกมาเช่นกัน

“อะไรชาค่ะ... อยากเป็นแม่คนหรอ?”

“จะบ้าหรือไง! ก็กลิ่นมันหอมดี”  เบะปากพูดออกมาอย่างเคย... เพราะบ้านที่โคราชปลูกไว้ แล้วเขากับน้องก็ชอบไปเก็บมาเอาให้แม่ตอนวันแม่ต่างหาก

“อืม... แล้วเธอว่าอย่างแพรวาจะชอบดอกไม้อะไร?”

“แพรวา...”  หยุดคิดไม่นานก็ตอบออกไป  “ไม่รู้สิ รู้แต่แพรวาชอบสีชมพู”

“ชมพูหรอ... งั้นกินเสร็จไปซื้อกัน”






กลิ่นหอมของเหล่ามวลหมู่ดอกไม้หลายสิบชนิดที่ปรุงผสมปนเปกันพาให้คนทั้งสองที่เดินเข้ามาใหม่อดรู้สึกสดชื่นตามไม่ได้ โดยเฉพาะคนตัวเล็กที่เหลียวซ้ายแลขวามองดูดอกไม้รูปร่างแปลกตาที่พากันอวดโฉมไปทั่วทุกมุมร้าน

“เอาแบบไหนดีชา?”  เต๋าหันไปถามอีกคนที่กำลังมองสำรวจทั้งหมดนั่นอย่างสนอกสนใจ  ส่วนตัวเองก็มองสอดส่องแบบที่ต้องการไปด้วยอีกเช่นกัน  แต่ก็ละลานตาไปหมดเสียจนเลือกไม่ถูกเลย

“ไม่ทราบว่าจะเอาไปให้ในโอกาสไหนคะ?... เลือกให้ตามความหมายก็ดีนะคะ”  พนักงานสาวกล่าวกับทั้งคู่ด้วยน้ำเสียงสดใส เธอลุกออกจากเคาท์เตอร์ของร้านเดินตรงมาหาลูกค้าทั้งสองคน  “ดอกไม้แต่ละชนิดแต่ละสีก็มีความหมายของมัน”

“แล้วถ้าจะสารภาพรัก?”


ไม่นานหลังจากที่ได้ฟังพนักงานสาวกล่าวแนะนำ เต๋าก็จัดแจงเลือกสั่งดอกไม้ สีโบว์ กระดาษห่อ พร้อมทั้งการ์ด เพื่อให้ที่ร้านจัดการนำไปส่งในวันพรุ่งนี้ช่วงบ่ายเสร็จสรรพ  ร่างสูงกำลังหยิบกระเป๋าเงินออกมาเพื่อจ่ายสตางค์  ส่วนคชานั้นเดินออกมารออยู่หน้าร้านได้พักหนึ่งแล้วเพราะต้องออกมารับโทรศัพท์เสียก่อน

“โอเคเฟรม พรุ่งนี้บ่ายสองนะ”  พูดตกลงกับเพื่อนคนเดิมเสร็จสรรพก็กดวางสาย มือบางเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง สมองน้อยๆ ไล่ลำดับสิ่งที่ต้องทำ

คืนนี้ ไปนัดแพรวาให้มาเจอกับเต๋าตอนพรุ่งนี้บ่ายๆ
และเวลาเดียวกันนั้น เขาต้องออกไปดูหอใหม่กับเฟรม… อาจจะต้องกดเงินไปด้วย เพราะเฟรมบอกว่า ถ้าพอใจก็จ่ายเงินแล้วเข้าอยู่ได้เลย

หมายความว่าคืนนี้ต้องเตรียมเก็บของแล้วสินะ... แล้วกาต้มน้ำนั่นล่ะ?

ร่างเล็กยืนครุ่นคิดอยู่ตรงนั้น จิตใจเหม่อลอยออกไปยังห้องเบอร์ 23 ของตน  นึกถึงข้าวของทั้งหมดที่ต้องกลับไปเก็บ  นึกถึงแพรวาที่จะต้องกลับไปนัดหมาย  นึกถึงเพื่อนร่วมหอร่วมชั้นอีกสองคนอย่างจอยและพี่หลิน  นึกถึงใครบางคนที่เขาต้องมาเกี่ยวพันแบบงงๆ ในช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมานี้

“คิดอะไรอยู่?”  และใครคนนั้นก็เป็นคนปลุกเขาออกจากภวังค์ความคิดที่หลุดลอย  ตาคู่คมประสานมองเพื่อนตัวเล็กที่ยังคงเหมือนมีอะไรอยู่ในใจ

“เปล่า... ไม่มีอะไร”  เสียงใสตอบอีกคนพลางพยายามสลัดเรื่องในหัวออกไปให้พ้นทาง  ก่อนที่คชาจะเดินนำอีกคนไปด้วยใจที่ยังคงไม่อยู่กับเนื้อกับตัว 

“ชาค่ะ”  ทว่าเสียงเรียกจากคนข้างหลังทำให้เขาต้องหันกลับมา ตอนนั้นเองที่คชาเพิ่งสังเกตว่าในมืออีกคนไม่ได้ว่างเปล่า
ลิลลี่สีขาวเพียงดอกเดียวในมือถูกยื่นออกไป  เพียงเท่านั้นก็เป็นฝ่ายคนรับเองที่ยืนงง… ถึงมันจะเป็นเพียงดอกลิลลี่ดอกเดียวที่ถูกห่อแบบง่ายๆ ด้วยพลาสติกใสกับโบเล็กๆ ก็ตาม แต่ไม่มีความจำเป็นอะไรที่อีกคนต้องเอามาให้เขาเลย

คชาเลิกคิ้วขึ้นในเชิงถาม ขมวดคิ้วมองตาแป๋วอย่างไม่เข้าใจ ดูท่าจะไม่เชื่อในสิ่งที่ตากำลังเห็นอยู่เสียเลย  “ให้เอาไปให้แพรวาหรอ?”  คงจะเป็นแบบเดิมเหมือนกับทุกครั้ง

“เปล่า”  ได้ยินเท่านั้น คนฟังก็มือไม้สั่นแปลกๆ  “ให้คนชื่อ ชาค่ะ นั่นแหละ... ขอบใจนะ สองอาทิตย์ที่ผ่านมา” 

ถ้าเป็นทุกครั้ง เขาคงเถียงออกไปแล้วว่าตัวเองชื่อ ชา ไม่มีค่ะอย่างที่อีกคนชอบเติมให้  หากแต่คราวนี้ มันต่างออกไป  ความรู้สึกต่างๆ มากมายไหลมาตีกันไปหมด

ประหลาดใจ.. ดีใจ.. ตื่นเต้น.. โหวงเหวง..

“ไม่เป็นไร”  เขาพูดตอบออกไปเรียบๆ ขัดกับเสียงหัวใจที่กำลังเต้นดัง  ก็ถูกแค่อีกคนดึงมือเขาไปเพื่อยัดดอกไม้นั่นใส่ในมือเขาก็เท่านั้นเอง

แต่ทำไมนะ... รู้สึกเหมือนถูกไฟช็อตเลย

มือหนาอุ่นคู่นั้นบีบมือเขาเบาๆ อีกสองสามทีราวกับจะตอกย้ำความรู้สึกบางอย่างที่กำลังก่อตัวในใจ...  เต๋าขยับเดินเข้ามาใกล้  พูดเสียงไม่ดังแต่ได้ยินก้องในสมอง

“อย่าไปไหนเลยชาค่ะ... ไม่อยากอยู่หอเราแล้วหรอ?”


คชาไม่รู้... คำพูดนั้นไม่ได้เพียงดังก้องในสมอง หากแต่กระทบไปถึงก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายให้สูบฉีดแรงยิ่งกว่าเดิม
ทว่าสุดท้าย... ก็เป็นตัวเขาที่ขืนมือออกจากสัมผัสอบอุ่นที่กอบกุมนั้นเอง

‘ไม่ใช่ไม่อยาก แต่อยู่ไม่ได้’  คำพูดในใจที่ไม่ได้ส่งผ่านออกไปถึงอีกคน



   “ขอโทษนะเต๋า”








TBC
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 08 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 06-06-2012 00:34:05
♀ TOM (or) BOY ♂
10






มวลหมู่กุหลาบงามสีชมพูหวานที่ถูกจัดช่อไว้ด้วยกระดาษห่อและโบสีขาวส่งกลิ่นหอมเย้ายวนจางๆ แก่ผู้ที่ถือมัน  ชายหนุ่มที่วันนี้แต่งตัวดูดีกว่าทุกวันยังคงยืนรออยู่ที่นัดหมายพลางก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ

จวนจะถึงเวลาแล้ว...
หลายอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้เวลาเฉลยสักที
แผนนี้...จะพลาดไม่ได้อีกต่อไป



- - -




หนุ่มร่างเล็กเอ่ยคำลาแก่เพื่อนร่วมหอร่วมชั้นอีกสองคน  เมื่อความจริงเปิดเผยไปแล้วหนึ่ง ครั้งที่ตามมาก็ไม่ยากเย็นเท่าไรนัก  หลังจากอธิบายเรื่องราวทั้งหมดไปเมื่อครู่ใหญ่ที่ผ่านมา  ทั้งจอยและพี่หลินก็ไม่ถือสาเพราะพอจะเข้าใจ แม้ก่อนหน้าจะโดนสอบสวนไปยกใหญ่ก็เถอะ

“กลับมาเยี่ยมบ้างนะชา”

“ไว้เจอกันครับพี่หลิน”

“หัดไปซ้อมสลาฟมาบ้างล่ะ อย่าให้เห็นว่าเอาแต่แพ้ผู้หญิง”

“โหย... หยามกันนี่หว่าลั่น”  เขาพูดแกมหัวเราะ โบกมือลาอีกสองคนก่อนจะเดินออกมาจากห้องเบอร์ 24  มือเรียวปิดประตูบานนั้นลง มองตรงไปยังประตูห้องเบอร์ 21 ของเพื่อนร่วมชั้นอีกคนที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันตอนนี้

แพรวาออกไปตั้งแต่สิบนาทีก่อนหน้า  ป่านนี้คงไปถึงแล้ว...

ส่วนเขาเองก็ถึงเวลาต้องไปเหมือนกัน




- - -




สวนสาธารณะใจกลางเมืองช่างร้างลาผู้คนเหลือเกินแม้แต่ในวันหยุดแบบนี้  ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่  ชายหนุ่มที่ยืนรออยู่พักหนึ่งหัวใจเต้นแรง เมื่อเห็นคนที่นัดไว้กำลังทำท่ามองหาใครสักคน

และเมื่อเธอมองมาทางเขา เพียงชั่ววินาทีที่สบตา ขายาวของเธอก็เดินตรงมาทางนี้อย่างไม่หวั่นเกรง  ริมฝีปากหยักฉีกยิ้มหวานให้แก่หญิงสาวตรงหน้า ดอกไม้สีหวานงดงามสะอาดตาถูกยื่นส่งให้

“เราชอบเธอ”  คำสารภาพถูกกล่าวออกไป  เธอสบตาเขานิ่งงัน
วินาทีนั้น หัวใจของเขาเต้นแรงเสียจนตัวเองได้ยิน  และยิ่งถี่ขึ้นเมื่อเธอยื่นมือออกมารับดอกไม้นั้นไว้  ยิ่งเห็นภาพเธอรับมันไป หัวใจก็ยิ่งพองโต

“ดอกไม้สวยจัง”  แพรวาพูดพลางก้มลงดอมดมมัน  จมูกโด่งของเธอสูดลมหายใจรดกลีบกุหลาบเนียนบนช่อ  “หอมด้วย” 
สำเร็จ... ผู้หญิงชอบดอกไม้จริงๆ ด้วยว่ะชา

“ขอบคุณสำหรับขนมที่ผ่านมานะ”  เสียงหวานเอื้อนเอ่ย สายตาก็มองตรงมายังคนตรงหน้าอย่างแน่วแน่  “ขอบคุณสำหรับดอกไม้นี่ด้วย สวยมากเลย”

ได้ยินดังนั้น คนให้ก็ยิ้มกว้างอย่างยินดี  “ดีใจนะที่แพรวาชอบ”

“อื้ม”  เธอพยักหน้าตอบ  “เราชอบดอกไม้เต๋ามากเลย”

เหมือนลำธารที่ผุดกลางผืนแผ่นดินแห้งแล้ง เพียงแค่คำว่า ‘ชอบ’ คำเดียวก็เพียงพอที่จะพาให้เต๋ายืดอกภูมิใจเป็นไหนๆ
ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายพูดอะไร เต๋าก็รีบรุกคืบต่อมา

“เราไปหาอะไรกินกันไหม? อยู่นี่ร้อนชะมัดเลย”

วูบหนึ่งในตอนนั้น เต๋าเห็นสีหน้าลังเลของเธอ... หากแต่ในวินาทีต่อมา  รอยยิ้มบางเบาของแพรวาก็ถูกส่งให้อีกฝ่ายอย่างนุ่มนวล ดวงตากลมโตมองอีกฝ่ายไม่ไหวติง หากแต่สมองพลันนึกไปถึงคำพูดเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนของ(อดีต)เพื่อนทอม หลังจากที่เค้นถามจนรู้ว่าคนที่นัดพบเธอวันนี้คือใคร

‘แพรวา... ไปหาเต๋าเถอะ  ออกไปพูดเองเลยว่าคิดยังไง’
คชาบอกให้เธอมา...

‘แต่เต๋าเป็นคนดีนะ อย่าทำร้ายจิตใจเต๋าได้ไหม?’
และบอกไม่ให้เธอทำร้ายเต๋า...


“เอาสิ ก็ดีเหมือนกัน”




- - -





   -703-
   หลังจากตรงจากลิฟท์ขึ้นมา คุณป้าที่เป็นเจ้าของก็เดินนำพวกเขาเข้ามาในห้องแห่งนี้  ตาเรียวกวาดดูรอบๆ  เตียงนอนถูกวางชิดผนังข้างซ้าย โต๊ะเขียนหนังสือตัวไม่ใหญ่ และตู้เสื้อผ้าตรงมุมห้องน้ำ มีหน้าต่างบานใหญ่ตรงกลางให้ลมตีเข้า ผนังสีขาวก็ทำให้ห้องหับมองดูสะอาดสะอ้านน่าอยู่ดี  ซ้ำยังกว้างกว่าห้องเบอร์ 23 ของเขาอยู่พอสมควร
   แม้จะหมายถึง...ค่าเช่าที่แพงขึ้นเป็นเท่าตัว
   แต่เงินห้าพันบาท แลกกันกับความสบายใจบางอย่าง มันก็คุ้มค่าอยู่เหมือนกัน

   ร่างเล็กที่ถือกระเป๋าในมือค่อยๆ วางมันลงบนพื้นข้างเตียง  เดินไปตรงนู้นตรงนี้ หันซ้ายแลขวาช่วยกันสำรวจกับเพื่อนอีกคน

   “โอเคเลยนี่หว่าคชา”  เฟรมโผล่หน้าออกมาจากตู้เสื้อผ้า กวาดตาสำรวจมันอีกทีแล้วจึงปิดมันลงอย่างเดิม

   “ฮะ... อืม ก็ดี”    คชาตอบเรียบๆ จริงอยู่ที่เขากำลังใช้เงินซื้อความสบายใจ หากแต่ในนั้น กลับยังมีอีกหลายอย่างที่ค้างคา
   กับใครบางคน... กาน้ำ และดอกไม้

   “ตกลงเอาเลยไหมวะชา...จะได้เซ็นสัญญาแล้วก็กลับไปขนของที่เหลือมาเลย”  เฟรมเปิดหน้าต่างพลางหันหน้ามาถามเพื่อนซี้ 

“ว่าไง?”

   “ขอดูอีกนิดนึงก่อน”  เขาตอบเรียบๆ  “อยากลองเน็ตด้วยอะ ลงไปขอรหัสป้าเขาให้หน่อยดิ”

   “ได้เลยคร้าบน้องทอม”

   “เดี๋ยวเหอะไอ้นี่!”  เสียงใสโวยวายตามหลังอีกคนไป  เขาเห็นรอยยิ้มกวนๆ ของเพื่อนซี้ที่ส่งมาอย่างทะเล้นตามด้วยเสียงปิดประตูห้อง

   คล้อยหลังเฟรมออกไปแล้ว ร่างเล็กก็เดินไปยังหน้าต่างบานกว้างบานนั้น มันอาจจะเป็นสิ่งที่เขาชอบที่สุดในห้องนี้  ใบหน้าหวานชะโงกออกไปพลางมองแหงนขึ้นไปเหมือนทุกที

ความว่างเปล่า มาแทนที่ระเบียงสีขาวกับใบหน้ากวนของใครบางคน

ใช่สิ... นี่ไม่ใช่ห้องเบอร์ 23 แล้วนี่นา


ตาคู่เรียวมองออกไปยังท้องฟ้าเบื้องหน้า เพราะนี่คือชั้นเจ็ด ลมก็เลยแรง แถมวิวก็มองเห็นได้กว้างไกล
   บางที... ที่ตรงนี้คงมองเห็นดวงจันทร์





- - -





   ที่นี่อาจจะเป็นเพียงร้านอาหารร้านเดียวในย่านนี้ที่ติดแอร์เย็นสบาย  ชายหนุ่มกับหญิงสาวเดินเข้ามาในร้านด้วยกันอย่างสงวนท่าที  แม้จะไม่ได้มีบุคลิกขี้อายเป็นทุนเดิม ทว่าการมากินข้าวเพียงสองต่อสองแบบนี้มันก็ทำเอาทั้งคู่ประหม่าอยู่ไม่เบา  และแม้ไม่ใช่วันแรกที่เต๋าได้คุยกับแพรวา ทว่าครั้งสุดท้ายก็คือวันที่ฝ่ายหญิงมาขอเช่าห้อง... ตั้งแต่หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้...

   “สั่งอาหารสิแพรวา”  เสียงทุ้มเอ่ยกับหญิงสาวตรงหน้าหลังจากที่เขาสั่งของตนเองไปได้ครู่นึงแล้ว

“แดงมะนาวแก้วนึงค่ะ”  เธอพูดพลางละสายตาจากเมนูอาหาร ก่อนจะส่งมันคืนให้พนักงานที่ยืนรอ
คล้อยหลังพนักงานเดินออกไปแล้ว  ชายหนุ่มก็รีบถาม  “ไม่หิวหรอ?”

คำตอบที่ได้คือการส่ายหน้า  “ไม่กินดีกว่า”  เธอเอ่ยเท่านั้น ปรายตามองออกไปนอกร้านแน่นิ่ง  มวลความอึดอัดก่อตัวขึ้นอย่างน่าประหลาดทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย  แต่มีหรือที่เต๋าจะอยู่เฉยอย่างนั้นได้

“สั่งอย่างอื่นหน่อยไหม?  ของหวานรึเปล่า?”  เต๋าคะยั้นคะยอ ส่วนหนึ่งเพราะไม่ชอบบรรยากาศเงียบเชียบแบบนี้  อีกส่วนก็รู้สึกไม่ดีหน่อยๆ ที่กลายเป็นแพรวาต้องมานั่งรอเขากินฝ่ายเดียว

แพรวาหันมองใบหน้าอีกฝ่าย ส่ายหน้าเป็นคำตอบพลางส่งรอยยิ้มจางๆ และเท่านั้นก็เพียงพอให้อีกคนชื่นฉ่ำหัวใจ


พนักงานที่นำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟเพียงวูบเดียวไม่ได้มาขัดจังหวะของทั้งคู่เลยแม้แต่น้อย  เมื่อรอยยิ้มแสนหวานยังถูกส่งให้กัน  ยิ่งรอยยิ้มพิมพ์ใจของเธอมอบให้เขาอย่างไม่รู้หยุดหย่อนแค่ไหน  มันก็ทำให้เขามีความสุขราวกับเหมือนนกที่โผบินไปไกลเท่านั้น

“เต๋า.. พูดตรงๆ เลย... เราดีใจนะ ที่มีใครสักคนมีความรู้สึกดีๆ ให้”
นกวัยหนุ่มกางปีกกว้างท้าลมแรงกลางเวหา

“ขอบใจมากนะ”
โลดแล่นทะยาน บนผืนท้องนภา...

“แต่เรามีคนที่ชอบอยู่แล้ว... ขอโทษด้วยที่คงรับอะไรจากนายไม่ได้”
ก่อนจะตกลงมาเพราะชนกิ่งไม้ใหญ่

“ดอกไม้นี่... เก็บไว้ให้คนอื่นเถอะ”
และพบว่าที่แท้มันไม่ได้บินไปไหนไกล เพราะสุดท้ายก็วนมาที่เดิม

แพรวาเดินจากไปแล้ว... เหลือเพียงดอกไม้ช่อใหญ่กับนกปีกหักอีกหนึ่งตัว
   



- - -




   “เครื่องทำน้ำอุ่นใช้ได้เลยเว่ยไอ้ชา”  เสียงก้องของหนุ่มหน้ามึนดังออกมาจากห้องน้ำบอกเพื่อนซี้ร่างเล็กที่กำลังหยิบโน้ตบุ๊คเครื่องเก่าออกมาวางเพื่อลองทดสอบอินเตอร์เน็ตที่หอพักดู

   “แล้วชักโครกอะ กดลงไหม?”  คชาตะโกนถามต่อ มือก็กดคลิกเข้าหน้าเว็บต่างๆ ไปพลาง

   “เออ... เดี๋ยวขอลองก่อน แปปนึงนะ ปวดอยู่พอดี”

   “ไอ้เฟรม!”

   “เปิดพัดลมดูดกลิ่นให้ด้วยดิ”

   “เออๆ”

   ร่างเล็กเดินลุกไปกดเปิดให้ตามที่อีกคนขอ จะกลับมานั่งที่เดิมก็แวะเปิดดูที่ตู้เสื้อผ้าที่ทำด้วยไม้สีเข้มเสียก่อน  มันว่างเปล่าไร้สิ่งใดๆ และภายในเพิ่งทาสีใหม่เป็นสีขาวเช่นเดียวกับกำแพงห้อง

   หรือจะเอาเสื้อผ้ามาใส่ตู้เลยดี?

   ไม่มีปัญหาอะไรเลยแบบนี้... ก็ไม่มีเหตุผลที่จะทำให้เขาไม่อยู่นี่หว่า


   คนตัวเล็กเดินไปหยิบกระเป๋าใบใหญ่ที่หิ้วมา  รูดซิบเปิดมันออกเพื่อหยิบเอาเสื้อผ้าเท่าที่ติดมาใส่ลงไปในตู้นั้น
   เพราะไม่มีไม้แขวนเสื้อให้เลยสักอัน คนตัวเล็กจึงจัดแจงพับมันวางลงไปก่อน  มือเปิดประตูตู้เสื้อผ้าทั้งสองบานออกกว้างเพื่อให้จัดการได้ถนัดขึ้น  ก้มลงวางเสื้อตัวที่หนึ่ง สอง สาม ตามลำดับลงไป  ก้มหน้าลงยื่นหน้าเข้าไปภายใน กลิ่นสีที่เพิ่งทาใหม่ก็ตีขึ้นจมูก  หากแต่ที่มากกว่านั้น  กลิ่นเหม็นบางอย่างกลับเข้ามาแทรกซึม

   คชาสูดลมหายใจแรงๆ ก่อนจะถอยหลังออก  กวาดเอาเสื้อผ้าที่เพิ่งบรรจุออกมาเพื่อกวาดหาสิ่งผิดปกติใดๆ  ทว่ากลับไม่มี
   แต่ในมุมในที่สุดของตู้ที่สีทาทับไม่มิดก็ชวนให้สะดุดบางอย่าง  และเพียงเท่านั้นเขาก็ลองเอาเล็บขูดสีต่อบริเวณนั้นออก
   สิ่งที่ปรากฏ มันคือสีแดง...ที่เข้มเกือบกลายเป็นสีน้ำตาล

   เพียงเท่านั้นเขาก็กระวีกระวาดถอยหลังออกไปด้วยใจที่ร้อนรน  ตะโกนคุยกับเพื่อนที่ยังอยู่ในห้องน้ำ  “ไอ้เฟรม เสร็จยังวะ ออกมาดูอะไรหน่อย”

   “แปปดิ ไม่เคยได้ยินหรือไง จะขี้ต้องขี้ให้สุดเว่ย”  เสียงก้องของเฟรมดังออกมาติดขำๆ หากแต่คนฟังไม่อยู่ในอารมณ์นั้นเลยสักนิด

   “เออ...เร็วๆ”
   อาจจะเครียดจนคิดมากเกินไป... เขาคิด มือก็ขยี้ศีรษะตนเองจนยุ่ง หากแต่ใบหน้าหวานนั้นยับย่นเสียกว่า  ร่างเล็กทรุดตัวลงนั่งกับพื้น หันไปเห็นโน้ตบุคของตนที่ถูกเปิดทิ้งไว้ที่หน้าเว็บกูเกิลพอดี  พลันนิ้วเรียวก็ค่อยๆ ลองพิมพ์ชื่อหอพักลงไป

   “หอพักรื่นรมย์”   พิมพ์เสร็จก็กดปุ่ม enter ตบท้าย  ตาเรียวมองดูหน้าเว็บที่โหลดขึ้นมาทันที
   เน็ทที่นี่เร็วอย่างที่ว่า และผลการค้นหาที่ไม่ค้นพบอะไรผิดปกติทำให้คนนั่งมองเริ่มสบายใจ  หากแต่ยังคงมีความรู้สึกบางอย่างที่บอกไม่ได้ว่าคืออะไร

   “มีอะไรวะไอ้ชา?”  เฟรมที่เพิ่งเดินจากห้องน้ำออกมาถามพลางนั่งลงข้างๆ เพื่อน  ตาก็มองหน้าจอคอมที่ถูกเปิดค้างเอาไว้

   “อ๋อ... ลองหาข้อมูลหอนี้น่ะหรอว่าคนเคยพูดถึงว่าไง เออก็ดีเหมือนกัน”  เฟรมพูดพลางหันไปเล่นคอมนั้น มือลองกดเลื่อนลงมาดู

“อืม... แต่ไม่มีอะไร สงสัยคิดมากไปเอง”  คชาพูดพลางลุกขึ้นยืน เดินเข้าห้องน้ำเพื่อจะไปฉี่บ้าง 
ในตอนนั้น เฟรมจึงลองพิมพ์ค้นหาในกูเกิลอีกครั้งดู

   ‘เย็นใจแมนชั่น’ เป็นคำที่ถูกพิมพ์ลงไปแทน  และเพียงเท่านั้น ผลการค้นหาที่มากกว่าเดิมก็ปรากฏในสายตา
   เฟรมกดคลิกลงไปที่ลิงค์อันที่สะดุดตา  ไล่อ่านไม่นานก็รีบตะโกน

   “เฮ้ย ไอ้ชา ออกมาดูนี่เร็ว”
   และเท่านั้น คนในห้องน้ำก็กระวีกระวาดออกมาหาเพื่อนที่หน้าจอคอมฯ

   “อะไรวะเฟรม? หือ...เย็นใจแมนชั่น?”  ร่างเล็กถามเพื่อนอย่างประหลาดใจ หากแต่เริ่มรู้สึกว่าที่สังหรณ์มีเค้าลาง

   “ชื่อเดิมของหอนี้ก่อนจะเปลี่ยนเมื่อเดือนก่อนไง”  เฟรมหันมาตอบเพื่อนเรียบๆ ก่อนจะเปิดอีกหน้าให้เพื่อนดู

   ‘ฆ่าปาดคอสาวออฟฟิศตายคาห้อง ยัดศพคาตู้เสื้อผ้าเผ่นหนี  ตำรวจคาด ฝีมือแฟนเก่า – เย็นใจแมนชั่น ห้อง 703’

   คชากำหมัดแน่น  หันมาพูดกับอีกฝ่ายนิ่งๆ  “เฟรม... มึงก็รู้ใช่ไหมว่ากูแมน?”

   “เออ รู้”

   “งั้นจำไว้ใส่หัวเอาไว้เลย... ถ้ากูอยู่หอนี้ได้ ต่อไปนี้ไม่ต้องเรียกกูว่าคชา!”

   “อ้าว แล้วจะให้เรียกว่าไร?”

   “ก็เรียกคชาเหมือนเดิมดิ เพราะกูไม่อยู่โว้ย!!!!!”

   อยู่ก็บ้าแล้ววววววววววว คนตายเชียวนะ เคยมีคนถูกฆ่าตายในนี้เชียว คิดแล้วอยากจะร้องไห้... ฮือ...
   ไอ้เพื่อนชั่ว! หาห้องหรือหาเรื่องมาให้กันแน่วะ… โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ T^T





- - -





ประตูห้องเบอร์ 23 ถูกไขเข้ามาด้วยลูกกุญแจดอกเดิมที่แอบพกไว้... หลังจากเพิ่งถูกปฏิเสธไปเมื่อสองชั่วโมงก่อน  เต๋าก็กลับนึกถึงหน้าใครบางคนเข้ามาแทน

ใคร...คนที่รู้แผนของเขาทั้งหมดดี

เมื่อโทรหาแล้วไม่รับสาย ความกระวนกระวายบางอย่างก็แล่นมาแทนที่  และเมื่อเปิดประตูห้องเบอร์ 23 นี้ ก็พบว่าเจ้าตัวไม่อยู่อย่างที่คิดจริงๆ  แถมข้าวของทั้งหมดที่ทิ้งเอาไว้ก็มีการเก็บเอาไว้อย่างเรียบร้อยต่างจากที่เคยมาคราวนั้น

เก็บข้าวของเตรียมจะย้าย... คนจะไป จะรั้งไว้ได้ยังไงล่ะเต๋า?

เขาถามตัวเองพลางก้าวขาเดินไปตรงโต๊ะเขียนหนังสือที่บัดนี้มีถุงพลาสติกใบใหญ่วางอยู่  ด้านในเป็นขนมที่เขาเคยเอามาฝากให้แพรวา... ทั้งที่บอกให้ชาไปแล้วแต่อีกคนกลับวางทิ้งไว้อยู่อย่างนั้น  ข้างๆ กันมีกาต้มน้ำสีขาว ถัดไปเป็นลิลลี่ที่มอบให้อีกฝ่ายเมื่อวาน

‘รู้สึกดีที่ได้รู้จักและอยู่ใกล้’  มันก็แค่ความหมายตามที่พนักงานบอก... แต่เต๋าเพิ่งจะรู้ซึ้ง การได้รู้จักกันมันมีค่าขนาดนี้ เมื่อไม่มีอีกคนอยู่ข้างกายจริงๆ

เขาไม่รู้... ความรู้สึกนี้ควรเรียกว่าอะไร  เขาชอบแพรวาไม่ใช่หรอ? แต่ทำไมการไม่เจอคนคนเดียวทำเอาเขาลืมเรื่องแพรวาไปเสียสนิท?

แพรวาต่างหาก... ที่เป็นผู้หญิงในแบบที่เขาชอบ

แพรวาต่างหาก... ที่เขาได้รู้จักก่อน

แพรวาต่างหาก... ที่...


   “อ้าว เต๋า!”  เสียงใสคุ้นหูที่ดังขึ้นดังหลังทำเอาหัวใจของใครบางคนเต้นรัว  ร่างสูงขาวหันกลับไปด้านหลัง พอเห็นหน้าใครบาง
คนเข้าก็รีบก้าวเท้าเข้าไปหาในทันที  ตาคมคู่นี้จ้องมองใบหน้าหวานของอีกคนราวกับไม่เชื่อสายตา

   “ชา... อย่าเพิ่งไปเลยนะ อยู่ด้วยกันก่อน”  เต๋าเอ่ยเสียงค่อย ไม่รอให้อีกคนตอบ...สองแขนแกร่งก็โอบร่างเล็กตรงหน้าเอาไว้ทันที ตาคู่คมค่อยๆ หลับลงอย่างสบายใจ ศีรษะเผลอซุกไซ้เพื่อนทอมโดยไม่รู้ตัว

   เต๋าไม่รู้เลยว่าทั้งหมดนี้... ทำให้หัวใจอีกดวงเต้นรัวไม่ต่างกัน

 






TBC

มาลงสองตอนเลยละกัน แหะๆ
แอบมีคนตามไปอ่านที่เด็กดี สงสัยรอไม่ไหว 555
ยังไงก็ขอบคุณมากๆ นะค้า <3
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 9,10 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 06-06-2012 00:53:23
แอบสาระภาพ ว่าไปตามอ่านในเด็กดีมาค่ะ

แฮะๆ

หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 9,10 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 06-06-2012 01:10:03
รอติดตามครับ เมื่อไหร่ความจริงจะเผยสักทีล่ะเนี่ย เต๋าต้องช๊อคแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 9,10 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: akihito ที่ 06-06-2012 11:55:29
กรี๊ดดดดดดด น่ารักอ่ะ
เริ่มรักกันแล้วว ชาค่ะรีบบอกเต๋าไปดีกว่า
ว่าแต่อีหอพักนั้น แม่ง สยองจริง :freeze:
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ ขอวลอีกนิดนคดี๋ยวอมลงห้น่นอน อย่กันลืมน
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 06-06-2012 13:40:41
ตกลงว่อยู่ต่อ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 9,10 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 06-06-2012 14:20:48
 :a5:  เกือบได้หลอนแล้วมั้ยละชา

โอ๊ยยยยย :กอด1:  หัวใจมันเต้นตึกตักๆ เอาไงละทีนี้ต้องเป็นน้องชาค่ะให้พี่เต๋าต่อสินะ ลุ้นๆๆ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 9,10 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: iDistort ที่ 06-06-2012 22:11:32
งะ ถ้ารู้ว่าชาค่ะเป็นผช จะเป็นไงเนี้ย  :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 9,10 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: hongzaa ที่ 06-06-2012 22:18:23
ถ้าเต๋ารู้จะโกรธมั้ยเนี้ยยยย

*เราแอบไปอ่านในเว็บ เด็กขยัน มาด้วยแหละ 555+
เราชอบเรื่องนี้มากกว่าเรื่องแรกนะ ฮาดี 55+*
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 9,10 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Oilsaoo ที่ 06-06-2012 23:25:39
ถ้าเต๋ารู้ เต๋าจะโกรธมั้ยเนี้ยย
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 9,10 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: bangkeaw ที่ 06-06-2012 23:56:45
ว้ายๆๆ กอดกันด้วยอ่ะ
แล้วชาค่ะก็กลับมาอยู่ที่เดิมสินะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 9,10 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: nk23992 ที่ 07-06-2012 01:05:45
แฮะรู้ทันด้วยอ่ะ สนุกมากเลยรอไมไหวว ไปตามในเด็กกีด้วยแหละ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 9,10 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: biwtiz ที่ 07-06-2012 22:14:48
เต๋าจะรู้ความจิงมั้ย
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 9,10 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 21-06-2012 22:28:23
♀ TOM (or) BOY ♂
11
[/b]





อ้อมแขนหนาที่โผเข้าโอบร่างของเขาไว้สวมกอดแน่นไม่ยอมปล่อย ใบหน้าขาวจัดที่ซุกไซ้อยู่ตรงแถวลาดบ่ากำลังเอนซบลงมา  ไรผมดกหนาคลอเคลียอยู่บริเวณลำคอ  ลมหายใจที่เป่ารดบางเบาชวนให้รู้สึกแปลกๆ ในอก

ตึกตัก... ตึกตัก... ตักตัก...

“เต๋า ปล่อยก่อน”  ไม่ให้ยาวนานไปกว่านั้นเสียงใสก็เอ่ยขึ้น  มือเรียวค่อยๆ แกะอ้อมกอดของอีกคนออก  “อยู่ๆ มาทำงี้ได้ไง... เรา...”  กำลังจะอ้างต่อว่าตนเป็นผู้หญิง ทว่าเสียงกลับหาย... เขาไม่อยากโกหกต่อไปอีกแล้ว

“เราเสียหายนะเต๋า”  ประโยคเต็มถูกเอ่ยตอนที่อีกฝ่ายยอมผละเขาออก ทั้งสองมองหน้ากันตาสบตา  แต่เท่านั้นก็พาให้ความรู้สึกแปลกๆ กลับมาอีกครั้ง

“เสียหายหรอชา?”  เต๋าทวนคำถาม  “งั้นเรารับผิดชอบเอง”  ว่าพลางโผเข้ากอดเพื่อนทอมตรงหน้าอีกครั้ง ไม่ได้เผลอไผลเหมือนทีแรกแต่คราวนี้ตั้งใจล้านเปอร์เซ็นต์  “จะให้ชดใช้ยังไง?”

ถูกถามแบบนี้ ถูกกระทำแบบนี้ แล้วจะให้คชาทำยังไงต่อไป? เขายืนนิ่งจำให้อีกฝ่ายกอด แต่สมองก็นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า
เพราะเรื่องแพรวาแน่ๆ ที่ทำให้เต๋าเป็นอย่างนี้...

“นาย...เป็นยังไงบ้าง?”  คชาถามเสียงค่อย  “แพรวา...เอ่อ...”

“โดนปฏิเสธมา”  เต๋าตอบคนในอ้อมแขนชัดๆ ตรงๆ  นึกหงุดหงิดไม่น้อยเมื่อคิดถึงเหตุการณ์นั้น หากแต่ความรู้สึกทั้งหมดก็กลับกลายเป็นศูนย์เพียงแค่รู้สึกถึงสัมผัสน้อยๆ จากมือที่ประสานไว้ด้านหลัง
ชาค่ะกำลังกอดตอบเขา...

“ไม่เป็นไรนะ”  คนตัวเล็กยกมือข้างหนึ่งลูบศีรษะอีกฝ่ายแผ่วเบา  แม้มันจะงกๆ เงิ่นๆ ติดขัดแค่ไหน แต่กลับสะกดความไม่สบอารมณ์ของอีกฝ่ายเหลือเพียงเถ้าธุลี
ห้วงความคิดของเขา มีเพียงคนในอ้อมกอดนี้...

“ผู้หญิงไม่ได้มีคนเดียวในโลกหรอกเต๋า”
นั่นสิ... ฉันยังมีเธอใช่ไหมชา?

คนฟังเงียบไปแล้วแต่ยังค้างกอดนั้นไว้แน่นิ่ง  คชาที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ จึงได้แต่ยืนค้างในท่าเดิมแบบนั้น
ผู้ชายกอดกัน... เพื่อนกอดกัน... จะเสียหายอะไร?

“เออ.. เต๋า... เราว่าจะไม่ย้ายหอแล้ว”  อาศัยจังหวะนี้บอกอีกคนซะเลย ก็ในเมื่อหอใหม่หลอนซะขนาดนั้น ใครมันจะไปอยู่ไหว... สุดท้ายก็กลับมาตายรังที่เดิม

“อืม”  เต๋าตอบเรียบๆ คำเดียวแต่หัวใจกำลังพองโต... ยิ่งกว่าดีใจหลายเท่าตัวที่กลับมาเจออีกคนพร้อมกับข่าวดีแบบนี้  เขาค่อยๆ ผละอ้อมกอดนั้นออก ยกยิ้มมุมปากอย่างอดเสียไม่ได้
ระยะห่างก็แค่นี้ ทั้งยังสายตาที่ถูกจดจ้อง ไม่ชวนให้อึดอัด แต่มันชวนให้...

ตึกตัก... ตึกตัก... ตักตัก...


“ขนมที่ให้ไปทำไมไม่เอามากิน”  ก่อนที่คชาจะหาคำตอบให้ตัวเองเป็นคำพูดได้ อีกคนก็ว่าพลางเดินไปหยิบขนมกลับมาหาเพื่อนทอมห่อหนึ่ง  มือหนาแกะมันออกมา หยิบชิ้นนึงยื่นให้ริมฝีปากสีชมพูตรงหน้า  “กินสิ”
ไม่รู้ว่าเต๋าเป็นอะไร...มาอารมณ์ไหนถึงได้ชวนเขากินขนมแบบนี้?  คชาขมวดคิ้วน้อยๆ แต่ก็อ้าปากรับคุกกี้ชิ้นนั้นแต่โดยดี  เคี้ยวมันตุ้ยๆ มองอีกคนอย่างไม่เข้าใจ

“ถึงตอนแรกเราจะให้แพรวา แต่ตอนนี้มันเป็นของชาค่ะแล้วรู้ไหม?”
คชาพยักหน้ารับ... เข้าใจคำพูด แต่ไม่เข้าใจคนพูดเลย

“อร่อยรึเปล่า?”  คชาพยักหน้าอีกครั้ง  ปากก็จำต้องกินขนมอีกชิ้นที่คนตรงหน้าป้อนให้  ตาเรียวเห็นพื่อนที่เพิ่งอกหักแอบอมยิ้มก็พลอยชื้นใจ  แต่ยังไม่เข้าใจในตัวอีกคนอยู่ดี
แต่ถ้าเขากินแล้วเต๋าจะยิ้มแบบนี้... มันก็...โอเค

ร่างเล็กเคี้ยวคุกกี้ชิ้นที่สองเสร็จจึงพูดขึ้นบ้าง  “นายก็กินมั่งสิ...”  มือบางหยิบมันออกมาหนึ่งชิ้น ยื่นส่งให้อีกคน
เต๋าเห็นแล้วก็รีบส่ายหน้า  ทว่ากลับอ้าปากเป็นสัญญาณ  จนคนตัวเล็กต้องป้อนอีกฝ่ายกลับโดยดี... ถึงจะแกล้งป้อนใส่หลายๆ ชิ้นจนมันเต็มปากจนล้นแล้วก็เถอะ

“ฮ่าๆๆๆ”  คชาหัวเราะเสียงใส ยิ่งเห็นอีกฝ่ายพยายามเคี้ยวมันจนหมดก็ยิ่งขำ  ใบหน้าขาวๆ แถมติดจะขี้เก๊กที่เคี้ยวคุกกี้จนหน้าบิดเบี้ยวทำให้คชาอดหัวเราะออกมาดังๆ เสียไม่ได้

จากที่ตอนแรกนึกอยากให้อีกฝ่ายอารมณ์ดี... แต่เป็นคชาที่หลุดขำออกมาเสียเอง  ร่างเล็กรีบเดินไปหยิบขวดน้ำเปล่า เทใส่แก้วแล้วป้อนอีกคนตามหลังเมี่อเคี้ยวเสร็จ

สงสารคนเพิ่งช้ำรักมา... เดี๋ยวขนมติดคอตายกันพอดี

“อร่อยไหมเต๋า?”  คชาถามกวนๆ  ใบหน้าหวานหยุดหัวเราะแล้วแต่ยังไม่หยุดยิ้ม  “ชอบปะ?”  ก็ถ้าชอบจะได้ป้อนเยอะๆ อีกไง
เต๋าเงยหน้าขึ้นจากแก้วใบใหญ่  “ชอบ”  ตอบสั้นๆ พยางค์เดียว แต่ใบหน้าที่ไร้ท่าทีล้อเล่นกลับทำเอาคนฟังค้างนิ่ง

“ชอบเห็นชายิ้ม”  คนพูดยิ้ม จ้องมองใบหน้าหวานที่เริ่มขึ้นสีชมพูจางๆ ถ้าเขาไม่ได้ตาฝาดไป
“ยิ้มอีกสิชา”




- - -




   เข้าอาทิตย์ที่สามของการเรียนแล้ว... คชาที่ในวันนี้กลายเป็น ‘นายนนทนันท์’ เต็มตัว ใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจ  นั่งเล่นหัวเราะกับใครๆ  ซ้ำยังเข้าห้องน้ำชายเป็นปกติได้เสียที
ถึงจะมีเพื่อนบางคนที่ยังล้อว่าเขาเป็นทอม...

“น้องทอมอยากกินไรฮะ เดี๋ยวพี่เฟรมกับพี่เต้จะไปซื้อมาให้”  ไม่ใช่ใครที่ไหน  ก็ไอ้เฟรมกับไอ้เต้สองตัวนี้นี่แหละ!

“แล้วอยากโดนทอมถีบป้ะ!?  เอาโคอาล่ามาร์ชสตรอเบอร์รี่อันนึง”
และถึงจะมีใครบางคนอยากให้เขาเป็นทอมมากกว่าก็ตาม

“คชา... แอ้นไม่คุ้นเลยอะที่คชาเป็นผู้ชาย”  เธอเอ่ยขึ้นเมื่อเฟรม โปเต้ และแพรวาลุกออกไปซื้อขนมกัน เหลือเพียงเขาที่อยู่กับเธอสองคน

“ฮะๆ หรอ”  เขาหัวเราะน้อยๆ ในลำคอ... แต่ยังไงความจริงก็คือความจริง

แอ้นส่งยิ้มให้เขาพลางพูดต่อ  “อืม... แต่คชารู้ไหม? เรานั่งทบทวนดูแล้ว ที่เรารู้สึกกับคชามันยังเหมือนเดิม”
ได้ยินเท่านั้น คนฟังก็ถึงกับชะงัก  คชานั่งหน้าเหวอ หันมามองเธอที่จ้องมองเขานิ่งๆ ปราศจากท่าทีเคอะเขินใดๆ

“คชาทำเราสับสนนะรู้ไหม? เราไม่เคยชอบผู้ชายมาก่อนเลย”  แอ้นเอ่ยเสียงหวาน แตะมือเขาเบาๆ  “ชาเป็นคนแรก”

“แต่เรา...”

“อืม... คชาไม่ได้ชอบเรา เรารู้... แต่ไม่เป็นไรใช่ไหมถ้าเราจะชอบคชา?”

“อ..อืม”  เขายิ้มให้เธอเบาๆ แต่กำลังบอกขอโทษในใจ
ถึงแอ้นเป็นนางฟ้าสำหรับเขา... แต่ไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จะตกหลุมรักนางฟ้า
ขอโทษนะแอ้น




- - -




“ไม่ไปเล่นเกมบ้านไอ้เต้ต่อจริงๆ หรอวะชา?”
เฟรมเอ่ยถามขึ้นมาเมื่อกินข้าวมื้อเย็นที่โรงอาหารคณะเสร็จ  นี่เพิ่งจะหกโมงเศษ และคชาก็ไม่ได้มีที่ไปที่ไหนนอกจากหอ
แถมยังเป็นหอหญิงที่ต้องจำใจอยู่ต่อไปอีกสองอาทิตย์ด้วยนี่สิ!

“เออ... เดี๋ยวกลับพร้อมแพรวาเลยดีกว่า ง่วงนอน”

“เอางั้นจริงอะ? โห่... ไรว้า... โชคดีๆ ดูแลแพรวาด้วยละกัน อย่าให้ไปดักฉุดใครเขาเข้า”

“หนอย... เฟรม!”

“เฮ้ย.. ไอ้ชาช่วยด้วย กูจะโดนนางยักษ์ทำร้าย”

เอาอีกแล้วสองคนนี้... คชาส่ายหน้าเบาๆ กับภาพตรงหน้า กัดกันซะทุกที...  เขารีบปรามทั้งคู่  “เออ... ไปกันเหอะแพรวา บ๊ายบาย”  ประโยคหลังพูดกับคนอื่นๆ ที่เหลือ  ยิ้มรับแอ้นที่ส่งยิ้มมาให้เขาน้อยๆ

ระยะทางกลับหอเพียงพอไม่ได้ไกลนัก เดินไปคุยไปกับแพรวาแปปเดียวก็ใกล้จะถึง... หากแต่เมื่อใกล้เข้ามาเรื่อยๆ  สายตาก็เริ่มสอดส่ายหาใครคนนึง

ใครที่ทิ้งท้ายคำพูดแปลกๆ ไว้ แต่กลับไม่เจอหน้ามาสองวันแล้ว
หายไปไหนกัน?




ไขประตูเข้าไปในห้องเบอร์ 23 เสร็จเรียบร้อย  ร่างเล็กก็เปิดหน้าต่างออก เงยหน้ามองไปบนระเบียงฝั่งตรงข้ามชั้นสี่เพื่อหาใครคนนั้น  แต่มันกลับว่างเปล่าไร้สิ่งมีชีวิตใดๆ
หรือเศร้าเพราะอกหักจนโดดตึกตายไปแล้ว?

คิดได้ดังนั้น... ร่างเล็กก็มองหาร่องรอยบนระเบียงสีขาวเครียดขรึม... แต่ก็ต้องจำผละสายตาออกเมื่อไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ
นี่เราทำอะไรอยู่วะ? เราคือนายนนทนันท์นะเว้ย! ไม่ใช่ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน!

ปิดหน้าต่างลงเช่นเดิมเสร็จ มือเรียวก็ขยี้หัวอย่างหงุดหงิด ก่อนจะถอดเข็มขัดนักศึกษา ดึงชายเสื้อเชิ้ตสีขาวออก แล้วล้มตัวนอนบนเตียง
พลิกตัวซ้ายขวาจัดท่าทาง ข่มตาให้หลับ แต่ก็ไม่ง่วงสักนิดเดียว...
คชาลืมตาโพลง  เขารู้ตัวดีว่าไม่ได้ง่วงตั้งแต่แรก... ไม่รู้สึกง่วงตั้งแต่ตอนที่เฟรมถามตอนเย็นแล้วด้วย เพราะวันนี้เขาหลับมาเต็มอิ่มตั้งแต่ในคาบเรียนแล้ว!
ที่ไม่ไปเล่นเกมบ้านโปเต้... ก็แค่...
แค่...
อยาก..... กลับหอ... มา.......
มา.....

ลอกเล็กเชอร์แพรวาเท่านั้นแหละว้อย!


คิดได้ดังนั้น ร่างเล็กก็กระเด้งตัวจากที่นอน ลุกออกไปเคาะประตูห้องข้างๆ ทันที




“อ้าว... ไหนว่าจะเอาไปซีรอกซ์ไง?”  แพรวาเพิ่งเปิดประตูห้องตนเองให้อีกคนเข้ามา พูดพลางยื่นโน้ตย่อของตัวเองให้เพื่อนทอมที่บัดนี้กลายเป็นเพื่อนชายข้างห้อง

“อืม... ก็ประหยัดค่าถ่ายเอกสารไง”  คชาพูดพลางเปิดแต่ละหน้าดู  “ลอกเองจะได้จำได้ ขอบใจนะแพรวา”  พูดเสร็จก็หันหลังเตรียมเดินออกไป  ขาเรียวกำลังจะก้าวออก แต่พอได้ยินคำถามของแพรวาก็กลับชะงักอยู่ตรงนั้น

   “แล้วเต๋าเป็นไงบ้าง?”

   “ไม่รู้เหมือนกันดิ ช่างเหอะ อย่าไปสนใจเลย”

   “อ้าว... ไหนตอนแรกบอกไม่ให้ทำร้ายจิตใจเต๋า”  คชาไม่พูดอะไรมากไปกว่านั้น หากแต่ทำทีไม่สนใจแล้วเดินกลับไปยังห้องของตนเอง  ร่างเล็กอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอน  ก่อนจะลงมือลอกโน้ตทั้งหมดไปเรื่อยๆ ด้วยจิตใจที่ขุ่นมัวเต็มที

   เพียงไม่นาน... ที่คชาจมอยู่กับตัวอักษรและปลายปากกา  หากแต่ความคิดกลับล่องลอยไปหาเรื่องอื่นๆ เรื่อยเปื่อย

   ทำไมชีวิตมันน่าเบื่อแบบนี้?  ทำไมไม่ไปเล่นเกมกับไอ้เฟรมไอ้เต้?  ทำไมเขาต้องมาทำอะไรที่หอนี่?  ทำไมต้องมีชีวิตในห้องแคบๆ เล็กๆ แบบนี้?  แล้วทำไมเขาต้องมาอยู่กรุงเทพฯ คนเดียว?

   ทำไม... ทำไม... ทำไม...


   ‘จ๊อกกกกก..’

   ทำไมหิวแบบนี้?


   อาจจะเป็นโชคดีก็ได้ที่เสียงน้ำย่อยในกระเพาะอาหารที่ทำงานมาช่วยคั่นความคิดขุ่นมัวลงไปได้บ้าง  คชาวางปากกาด้ามสีดำก่อนจะหันไปดูเวลาบนมือถือ

   สองทุ่มกว่าแล้ว  ข้าวเย็นเมื่อสองชม.ก่อนไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ...

   ลุกออกจากโต๊ะเขียนหนังสือ พลันหางตาก็หันไปเห็นถุงขนมใบใหญ่ ก็ขนมของใครคนเดิมอีกนั่นแหละ
   ตายไปรึยังวะป่านนี้?  คิดแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกทีแต่ไม่พบว่ามีใครโทรมาเลย

   เฮอะ... ไอ้คนอย่างนี้ตายไปซะได้ก็ดี... ใช่สิ เรามันหมดประโยชน์แล้วหนิ พอไม่มีเรื่องแพรวาเลยได้ทีเขี่ยเราทิ้งไปเลยไง
ขนมพวกนี้... เดี๋ยวจะเผาคืนไปให้ก็แล้วกัน






สามทุ่มเศษ หลังจากที่ออกมาแวะซื้อขนมกินตอนดึก  ร่างเล็กนั่งอยู่บนพื้นหน้าตึกหอพัก มือข้างหนึ่งบิขนมในมือให้กับสุนัขสีขาวมอซอที่นั่งจ๋องอย่างรอคอย ปากก็พูดโทรศัพท์กับคนในสายไปด้วย
ขนมลูกเต๋าที่ซื้อมา...ไม่รู้ว่าเพราะอยากกินหรือเพราะคิดถึงใครบางคน


“สบายดีครับแม่”  ริมฝีปากบางยิ้มกว้าง... ไม่ได้พูดความจริงทั้งหมด เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการมาอยู่คนเดียวในเมืองใหญ่ไม่ใช่เรื่องลำบาก  “สบายบรื๋อ... ชาซักผ้าเป็นตั้งแต่วันแรกเลยเหอะ”  พูดกับคนในสายพลางนึกถึงวันแรกที่หาวิธีใช้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญอยู่นาน  มืออีกข้างก็ลูบหัวหมาน้อยตะวันไปด้วย

“ที่นี่ของกินเพียบ อร่อยกว่าข้าวผัดของแม่ตั้งเยอะ”  แค่นหัวเราะออกมาเบาๆ แต่ในใจคิดถึงกับข้าวฝีมือแม่ใจแทบขาด  “แล้วเคนท์เป็นไงบ้าง?”  ถามถึงน้องชายตัวแสบซะหน่อย

คชายิ้มบางๆ เมื่อได้ยินแม่เล่าเรื่องน้องชายให้ฟัง เคนท์เตะบอลเข้าในการแข่งขันของโรงเรียนที่ทำเอาเจ้าตัวคุยโวไปสามบ้านเจ็ดบ้าน  คชาพูดคุยสัพเพเหระกับแม่อีกไม่นาน บทสนทนาก็ถึงคราวต้องสิ้นสุดลง

“อยู่กรุงเทพฯ ก็อย่าไว้ใจใครมากล่ะลูก คนเรามันรู้หน้าไม่รู้ใจ  คชาน่ะซื่อเกินไป”

ได้ยินแล้วรู้สึกเข้าตัวเองยังไงบอกไม่ถูก  “ครับแม่”  อาจจะจริงอย่างที่แม่ว่า... มากรุงเทพฯ ได้ไม่ถึงเดือนก็ยังถูกเขาหลอกใช้... แต่ต่อไปเขาจะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นแล้วจริงๆ

“โชคดีนะลูก อย่าไปเที่ยวเถลไถลที่ไหนนักล่ะ แม่กับน้องคิดถึงคชานะ”  น้ำเสียงของแม่ยังคงเข้มแข็งแต่แฝงด้วยความอ่อนโยนเช่นเคย

“ครับ”  เพียงพูดตอบรับธรรมดา หากแต่น้ำตากลับหยดแหมะลงบนพื้นปูน
คชาก็..คิดถึงเหมือนกัน...

เครื่องมือสื่อสารถูกลงกระเป๋าหลังจากวางสาย ท่อนแขนถูกใช้ปาดคราบน้ำตาที่รื้นออกมายกใหญ่
บ้าเอ๊ย... อุตส่าห์ทำใจแข็งมาตั้งสองอาทิตย์ มาเสียน้ำตาเอาตอนนี้จนได้
นึกพลางก้มหน้าลงมองหมาน้อยตัวเดิม

“ตะวัน...แกมาอยู่นี่ไม่คิดถึงแม่บ้างรึไง?”  ปากพูดกับมันพลางหยิบขนมลูกเต๋าชิ้นสุดท้ายในถุงยื่นให้  “แล้วแกไม่มีพี่น้องกับเขาเลยหรอ?”  บางทีมันคงไม่ใช่การถาม แต่เป็นการรำพึงรำพันความรู้สึกออกมาเสียมากกว่า  ทว่าสำหรับหมาน้อยตัวนี้ มันได้ยินที่เขาพูดทุกคำ แต่ไม่ได้ฟังเขาแม้แต่คำเดียว เพราะสิ่งเดียวที่มันสนใจจะมีแค่ขนม เมื่อมันเพียงแค่มาดมแถวๆ มือของเขาเท่านั้น

“เฮ้อ... สมองแกคงมีแต่ของกินล่ะสิ หมดแล้วอะ  โบ๋เบ๋...”  ว่าพลางหยิบเอาถุงเปล่าให้มันดู  ก่อนจะแกล้งโดยการเอาครอบจมูกของมันเสียเลย

ร่างเล็กหัวเราะแห้งๆ เมื่อเห็นมันพยายามสะบัดถุงขนมออก แกล้งแหย่มันเล่นพอสนุกสนาน เขายิ้มร่า เขาหัวเราะเสียงดัง หากแต่ข้างในนั้นยังมีคราบน้ำตาและกลิ่นความเหงาที่เจือปน

เหงา... ที่ไม่ใช่เพราะคิดถึงบ้านเพียงอย่างเดียว...
ตาเรียวแหงนมองขึ้นไปบนตึกฝั่งตรงข้าม  ชั้นสี่ห้องนั้นยังคงปิดไฟมืดสนิท
นี่ตายไปแล้วจริงๆ หรือไงวะ?

วูบนึงในความคิด... คชากลับรู้สึกโหวงเหวงอย่างบอกไม่ถูก ก็รู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้ตายจากไปไหนหรอก แต่แค่คิดว่าอีกคนจะไม่อยู่ มันก็...



“ชอบแกล้งหมาหรือไง?”  และทันใดนั้น... เสียงที่คุ้นหูก็ทำเอาคชาหันควับไปในทันที

“เต๋า”  หลุดเรียกชื่ออีกคนออกมา  “มาทำอะไรเนี่ย?”  ถามเหมือนจะไม่อยากจะเจอ หากแต่ที่จริงกำลังดีใจ  ริมฝีปากบางก็ยกยิ้มขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ดีใจ... จนลืมไปแล้วว่าตัวเองเคยตัดพ้อต่อว่าอีกคนไว้สารพัดสารเพ

“อยากมาหาไม่ได้หรือไง?”  เต๋าถามกลับ อมยิ้มมองอีกคน  “ไม่เจอกันตั้งสองวัน ไม่คิดถึงกันบ้างหรอ?”
คชาไม่ตอบ หากแต่ความรู้สึกยินดีจนล้นปรี่ในอกมันกำลังแทนคำตอบแก่ตัวเขาเอง

“แล้วหายไปไหนมา?”  ปล่อยให้เขาด่าอยู่คนเดียวตั้งนาน

ได้ยินอีกคนถามดังนั้นก็ยกยิ้ม ขยับมองหน้าอีกคนใกล้ๆ  “ถามแบบนี้คิดถึงล่ะสิ”  เต๋าเอ่ยทีเล่นทีจริง อ้าแขนออกกว้าง  “กอดสักทีไหม? จะได้หายคิดถึง”

“ยังไม่ได้พูดสักคำเลย”  ทำหน้ายู่ใส่อีกฝ่ายแต่ข้างในกลับอมยิ้ม ใบหน้าหวานหันไปหาหมาตัวน้อยแก้เก้อ  มือบางลูบหัวมันเบาๆ เหมือนที่ทำก่อนหน้า  ทำปากเป็ดใส่เจ้าหมาตัวนั้นเสียน่ารักน่าชัง

“ชา...”  เต๋าเรียก  “ชาค่ะ” 

เจ้าของชื่อหันมาก็พบว่าอีกคนขยับเข้ามาใกล้ซะประชิด  “ร..เรียกทำไม?”  ตกใจจนพูดเสียงสั่น

“เราไม่ได้หายไปไหนหรอก... สองวันที่ผ่านมาก็อยู่แถวนี้ทั้งนั้นแหละ”  คิดแล้วน่าขำเป็นบ้า... สัญญากับตัวเองไว้ว่าจะไม่ไปเจอหน้า แต่การแอบมองเขาผ่านรูเล็กๆ ช่องหน้าต่างมันเหมือนพวกโรคจิตชะมัดเลย

เหตุผลที่ทำน่ะเหรอ?... เพราะแค่อยากจะมั่นใจในความรู้สึกของตัวเองจริงๆ  ไม่อยากจะเอาเวลาไปทิ้งเหมือนตอนที่คิดว่าตัวเองชอบแพรวา  ทั้งๆ ที่หัวใจมันมีอีกคนเข้ามาโดยไม่รู้ตัว

ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?


“อ...อือ แล้วไง?”  คชาถามกลับเสียงแผ่ว

“ต่อไปจะไม่หายไปไหนอีกแล้ว”  เต๋าพูดต่อ  “จะมาให้เจอหน้าทุกวันเลย”
ชารู้สึกยังไงไม่รู้ แต่ตัวเขาน่ะแทบบ้า... เหนื่อยนะ ที่ต้องมาแอบมองอีกคนจากที่ไกลๆ แต่ไม่ได้เข้าไปหา ไม่ได้เข้าไปคุย

“ใครอยากเจอนาย?”  อีกฝ่ายสวนกลับเสียงแข็ง ทำไม่รู้ไม่ชี้ไม่สนใจ แต่หารู้ไม่... ใบหน้าหวานที่ขึ้นสีแดงจางๆ ของตัวเองมันแทนอะไรหลายๆ อย่างได้เป็นอย่างดี 

และนั่นยิ่งทำให้อีกคนได้ใจ... ถึงเต๋าจะไม่รู้แน่ชัดว่าอีกคนกำลังคิดยังไง  แต่มาเขินใส่กันแบบนี้ น่ารักเกินไปแล้วนะ

“ร้อนหรอชา?”  เต๋าถามอีกคนนิ่งๆ

“เปล่าหนิ”  คชาตอบพลางส่ายหน้า ก็ลมพัดเข้ามาอย่างนี้ จะให้ร้อนได้ไง  “ร้อนตรงไหน ลมออกจะแรง”

“นั่นสิ อากาศก็ไม่ร้อน...” แอบยกยิ้มที่มุมปาก  “แล้วทำไมหน้าแดงล่ะ?”

“หา... ก็....”  ยิ่งเห็นเพื่อนทอมแก้ตัวไม่ถูกแล้วยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่

“ไม่สบายรึเปล่า?”  เต๋าว่าแล้วก็เอาหลังมือทาบ  “ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา แต่ทำไมหน้าแดงจัง นั่นๆ ...แดงใหญ่แล้วเนี่ย”
สองมือเรียวยกขึ้นทาบแก้มใสของตัวเอง ไม่ได้อยากพิสูจน์หรอกว่าร้อนรึเปล่า แต่อยากจะปิดมันจากสายตาอีกคนต่างหาก
รู้นะว่าแกล้งล้อเขาอยู่!

“แดงแล้วทำไมล่ะ!? กลับบ้านไปเลยไป”
เต๋าหัวเราะร่า ยิ่งเห็นอีกคนทำท่าโวยวายอย่างนั้นแล้วยิ่งสนุกใหญ่  นึกอยากแกล้งต่อในใจแต่แค่นี้พอแล้วดีกว่า

“ไปก็ได้...”  เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เจอกันใหม่อยู่ดี  “ฝันดี...เจอผีเมื่อไหร่ก็โทรมา เดี๋ยวไปไล่เอง”

“เต๋า!!!”  แค่พูดคำว่า ‘ผี’ คนฟังก็ไม่ชอบแล้ว!  นี่มันแกล้งกันชัดๆ

“หรือไม่ก็บอกผีว่า... ห้ามเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากลูกเจ้าของหอ”

“หา...”  ขมวดคิ้วคิดตามอย่างไม่ค่อยเข้าใจ


“ไปจริงๆ ละ อย่าลืมล็อคประตูห้องด้วยล่ะ ฝันดี”  และนี่เป็นประโยคสุดท้ายของวันนี้  เต๋าเดินไปแล้ว ส่วนคชาก็กำลังเดินขึ้นห้องพลางทบทวนคำพูดเมื่อครู่นี้ในใจ


เจ้าของห้องมันเขาไม่ใช่หรอ? แล้วทำไมต้องขออนุญาตที่มันด้วย!!!!!

ไอ้เต๋า!  ไอ้บ้าเอ๊ยยยยยยยยยยยย!
พูดแบบนี้คิดก่อนรึเปล่าวะ!!!?






TBC

โทษทีที่หายไปนานเลยนะ เดี๋ยวจะทยอยเอามาลงนะคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 11 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: akihito ที่ 21-06-2012 23:16:11
มาต่อแล้วววว อิอิ
น่ารักขึ้นทุกทีๆ เต๋าก็รู้ความรู้สึกตัวเองแล้วด้วย
ว่าแต่เมื่อไหร่ชาจะบอกเต๋าเรื่องที่เป็นผู้ชายเนี่ย
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 11 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: papark ที่ 22-06-2012 01:27:40
สนุกจังครับ ~

ชาต้องบอกเต๋านะ
(มันต้องแอบดราม่า 55)
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 11 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: mutyamania ที่ 22-06-2012 01:38:23
สนุกดีค่ะ  เพิ่งอ่านได้แค่สี่ตอน  แต่อยากบอกว่าชอบแนวๆนี้  ไม่ได้อ่านอะไรใส ๆ มานานนมมา  คชาฮานะคะ  เต๋าก็รั่ว ๆ ดีอ่ะ  ยังไงก็ขอเม้นท์ก่อนละกัน  เดี๋ยวอ่านถึงปัจจุบันแล้วจะมาเม้นท์อีกรอบนะคะ


สู้ ๆนะคนแต่ง
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 11 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: bangkeaw ที่ 22-06-2012 17:05:55
เรื่มชอบกันแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 11 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: iDistort ที่ 22-06-2012 23:33:45
ชาค่ะน่ารักก  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 11 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 22-06-2012 23:45:29
♀ TOM (or) BOY ♂
12






สนามฟุตบอลของมหาวิทยาลัยในยามเย็นวันกลางสัปดาห์เริ่มคึกคักไปด้วยเหล่านักศึกษามากมาย เพียงเพราะมีการแข่งขันฟุตบอลของเหล่าเฟรชชี่ปีหนึ่งระหว่างสองคณะ  หนุ่มหน้าหวานในวันนี้ใส่เสื้อบอลสีน้ำเงินเบอร์ 3 ยืนยิ้มร่าอยู่ข้างสนาม เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทีมที่ต่างใส่เสื้อทีมสีน้ำเงินตามที่เขาเจาะจงให้ไปทำมา  ยิ่งเท้าได้สัมผัสกับปลายหญ้าชื้นๆ มันยิ่งรู้สึกดีใจ
เมื่อวันก่อนแข่งกับคณะแพทย์ ได้เป็นตัวต่อบอลส่งให้เพื่อนยิงจนเข้า  วันนี้ขอจัดเองสักลูกสองลูกหน่อยเหอะ!

แผ่นอกขาวไร้การปกปิดเผยให้เห็นผ่านคอเสื้อสีน้ำเงินตัวหลวมโพรก ต้นขาเนียนโผล่พ้นชายกางเกงที่เลิ่กสูงขึ้นเมื่อเจ้าตัวกำลังยืดเส้นยืดสายอยู่ข้างสนาม เขาไม่ได้สนใจมันสักนิด จนกระทั่งหนุ่มแว่นร่วมก๊วนเดินเข้ามาทักทาย

“เบาๆ หน่อยน้องทอม... หนุ่มๆ มองน้ำลายหกแล้ว”
ได้ยินดังนั้นร่างเล็กที่กำลังเหยียดขาวอร์มอัพก็ถึงกับชะงัก หรี่ตามองหน้าหาเรื่อง  “เพ้อเจ้อไอ้เต้ มีแต่สาวๆ เขามองกูตาเยิ้ม” 

ว่าพลางหันไปมองแสตนด์ด้านหลังที่มีเพื่อนร่วมคณะมานั่งเชียร์กันอยู่ประปราย  ชายตาหวานยิ้มให้สาวๆ ที่ว่า
แม้ที่ได้กลับมาจะมีแค่รอยยิ้มของแอ้นกับหน้าเจื่อนๆ ของแพรวาก็เถอะ

“แหม่... เดี๋ยวนี้มีขึ้นกูขึ้นมึงนะน้องชา”  ภายใต้กรอบแว่นสีน้ำเงินดูคงแก่เรียนนั้นมีแววตาล้อเลียนเขาอยู่ไม่น้อย... อย่าคิดว่ามีแค่เฟรมคนเดียวที่ชอบแสบใส่เขาเลย ไอ้เต้ก็พอกัน!!!

คชาทำปากยื่นใส่เพื่อน  “พอเลย... กูเป็นผู้ชายแล้วว้อย เดี๋ยวถีบให้”  ขู่ฟ่อๆ ด้วยสีหน้าโหดๆ ที่ยังไง๊ยังไงเพื่อนคนเดิมก็มองว่าทำตัวเป็น ‘ลูกสาวกำนัน’ ชัดๆ

“ห้าวว่ะ”  ถ้าละครคณะมีบทผู้หญิงปลอมเป็นชายล่ะก็ โปเต้สาบานว่าจะลองส่งชื่อน้องทอมคชาคนนี้ไปคัดดู

“เขาเรียกแมนว้อย!” 

“แมนก็แมน... แล้วที่ว่ามีหมอมาจีบหลังเตะบอลอะ?” 

“จีบเชี่ยไร! คุยกันเฉยๆ”  ร่างเล็กเถียงทันควัน  “แค่บอกขอโทษที่ชนกันในสนามแค่นั้น โม้ยังกะไปกินข้าวด้วยกันมา”  คชาพูดแกมบ่น  ด้วยพอจะรู้ว่าเรื่องพวกนี้คงไม่ได้มีต้นตอมาจากไอ้โปเต้นี่หรอก แต่คงมีคนแกล้งลือกันเล่นไปตามประสาเด็กคณะเขา

หารู้ไม่... ต้นตอมันมาจากไอ้สี่ตาคนนี้นี่แหละ! เห็นหงิมๆ แบบนี้น่ะร้ายนัก

“เฮ้ย ทีมนั้นมาแล้ว”  เสียงพูดของใครสักคนในคณะดังมาจากไม่ไกลทำให้บนสนทนาของคชากับโปเต้ชะงักกลางคัน  ตาเรียวหันไปกวาดมองคู่แข่งที่จะฟาดแข้งในวันนี้  เดินเข้ามาเยอะขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มรู้สึกหนาวๆ  “วันนี้คณะอะไรวะ?”  ถามขึ้นลอยๆ หากแต่ไม่ได้คำตอบจากใครสักคน

ร่างเล็กก้มลงหยิบผ้าขนหนูสีขาวชุบน้ำเย็นๆ มาลูบต้นคอ  อากาศตอนนี้ออกจะร้อนอบอ้าวไม่แพ้ช่วงกลางวัน  ดวงอาทิตย์ที่คล้อยต่ำไม่ช่วยให้อุณหภูมิลดลงเลย  คชาเงยหน้าขึ้นมองทีมฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง ฝ่ายนั้นเริ่มสวมเสื้อทีมสีแดงกันแล้ว แถมกองเชียร์ที่มาก็น้อยเสียเมื่อไหร่  ริมฝีปากบางขมุบขมิบตามเมื่ออ่านชื่อคณะนั้นในใจ ‘บัญชี’  มิน่า... บนแสตนด์มีแต่สาวๆ แถมแต่ละคนก็หน้าตาน่ารักกันทั้งนั้นเลย

จะมองทางซ้ายก็เข้าตา จะมองทางขวาโอ๊ะโอยก็โดน >w<

ทำนองเพลงคุ้นหูเริ่มดังทุ้มขึ้นในใจ  ตาเรียวเล็กชายมองสาวขาวหมวยน่ารักแล้วก็อดยิ้มจางๆ ไม่ได้  ทำไมที่คณะไม่เห็นมีสาวๆ น่ารักจิ้มลิ้มแบบนี้มั่ง

อุตส่าห์ไม่ซุก แน่ะ! ยังซน มาจ้างให้ทนก็ทนไม่ไหว

   สอดส่ายสายตาเป็นประกายซุกซนจนกระทั่งไปสะดุดกับสาวบัญชีคนนึงที่มองมาทางนี้เหมือนกันเข้า  มุมปากทั้งสองข้างของเธอค่อยๆ ยกขึ้น  นี่เธอคนนั้นกำลังส่งยิ้มให้ผมมาอยู่รึเปล่า?

ก็ถูกใจอีกแล้ว มันอดไม่ไหวใจแตกอีกแล้ว สกัดยังไงก็เอาไม่อยู่ ควบคุมไม่อยู่ มันอู้หูซะทุกราย


สาวๆ คนอื่นในแสตนด์ก็เริ่มมองมาทางนี้เหมือนกันล่ะ อย่าทำแบบนี้สิ มันเขินนะ >//<

บาดใจอีกแล้ว มันหลบไม่พ้นใจหล่นอีกแล้ว

   “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”

ขนาดไกลๆ มือไม้ก็สั่น ก็มันจะละลาย

ถึงขนาดกรี๊ดให้เลยหรอ ไม่เอาน่า วันนี้เราคนละฝั่งกันนะคร้าบ อย่าทำให้เกิดรักต้องห้ามสิ!

ถ้าหากละอายใจ...

   “กรี๊ดดดดดดดดดด  เต๋า!!! เต๋า!!!!!!!”  เต๋าไหนวะ!?  แม่งเอ๊ย ขัดอารมณ์หมดเลย!  อุตส่าห์กำลังมโนว่าสาวๆ บนแสตนด์กรี๊ดให้อยู่เชียว

ได้ไหมช่วยไป..... ไกลๆ หน่อย.... นี่จะตามรังควานกันไปถึงไหนวะ!!!!!

   ไอ้เผือกเต๋าเพียงพอ! หล่อตายล่ะ!!!!! 

ลางสังหรณ์เริ่มมาตั้งแต่ฉุกคิดขึ้นได้ว่าคณะบัญชีมันรวมบริหารเข้าไปด้วย แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นคนเดียวกันจนกระทั่งสายตาลากผ่านไปมองเข้าพอดี 

ลูกชายเจ้าของหอพักเพียงพอวันนี้ใส่ชุดนักกีฬาเต็มยศ เสื้อทีมแดงสดตัดกับผิวขาวซีดเป็นทุนเดิมอย่างชัดเจน ซ้ำเจ้าตัวยังยืนยิ้มมุมปากกวนๆ เด่นเป็นสง่าอยู่หน้าแสตนด์ฟากนั้น

ไอ้ขี้เก๊กเอ๊ย! เฮอะ...แกแพ้แน่!  คนตัวเล็กเย้ยอีกคนในใจหากแต่ใช้ผ้าขนหนูสีขาวปิดใบหน้าไว้เต็มๆ   ถ้าไม่ได้อยู่ในสภาพผู้ชายเต็มตัวแบบนี้คงเข้าไปเกรียนใส่แล้ว แต่ยิ่งหลุบตามองสภาพตัวเองตอนนี้...มันคือหลักฐานชั้นดีว่าเขาน่ะเป็นผู้ชายทั้งแท่งไม่ใช่ทอมแอ๊บแมนอีกต่อไป

   ยังไงก็ตาม ขอเผ่นก่อนละกัน!  วันนี้ยังไม่พร้อมจะเปิดเผยตัว T^T  คิดได้ดังนั้นก็หันเดินไปที่กระเป๋าของตัวเองทั้งๆ ที่ใบหน้ายังมีผ้าขนหนูชื้นๆ มาแปะเอาไว้อยู่  แอบมองดูซ้ายขวาก็หยิบข้าวของวิ่งไปยังห้องน้ำโลด!!!

   ไม่แข่งมันแล้วโว้ยวันนี้! เดี๋ยวไม่มีที่ซุกหัวนอน ไม่คุ้มกัน!
   





กว่าหัวใจจะเริ่มคลายจังหวะการเต้นให้ช้าลงก็เป็นตอนที่เขาปิดประตูห้องน้ำดัง ‘ปัง!’พลางลงกลอน  คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่... เหนื่อยหน่ายที่ตัวเองต้องมาปิดบังเพศเหมือนตอนเพิ่งเปิดเทอมทั้งที่ทุกคนก็รู้กันหมดแล้วว่าเขาเป็นผู้ชาย...
เขารู้ดี ความลับไม่เคยมีในโลก และสักวันเต๋าก็ต้องรู้  เพียงแต่วันนี้เขาไม่ได้เตรียมใจจะบอกนี่หว่า

ยิ่งเริ่มสนิทกันมากขึ้น มันยิ่งทำให้รู้สึกกล้าๆ กลัวๆ
มันจะโกรธไหมวะ? หลอกมันมาได้ตั้งนาน
ไม่หรอกน่า... คงไม่หรอก...

คชานึกพลางลงมือเปลี่ยนจากชุดบอลสีน้ำเงินเป็นชุดนักศึกษาแสนมิดชิดตามเดิม...ใบหน้าหวานออกอาการหงอยๆ เพราะตัวเองไม่ได้ลงแข่ง แต่ถึงกระนั้นก็หมายมั่นจะกวดขันให้ทีมนิเทศชนะแมทช์นี้ให้ได้เพื่อเขาจะได้ลงแข่งในนัดต่อไป

   คนตัวเล็กพับชุดบอลใส่กระเป๋าเป้สะพายหลัง มือบางกำลังจะเอื้อมไปเปิดกลอนทว่าแรงสั่นจากโทรศัพท์ในกระเป๋าก็เบนความสนใจไปเสียก่อน

   - - เผือก - -

   ตายยากชะมัด โทรมาทำไมวะ!?  แม้จะนึกอย่างนั้นแต่ก็กดปุ่มรับสาย

   “อยู่ไหนชาค่ะ?”  เสียงจากปลายทางดังขึ้นทันที

   “ย..อยู่...”  กำลังจะพูดต่อเสียงเขาก็วูบไปเมื่อระลึกได้ว่าเสียงของอีกฝ่ายไม่ได้มาจากโทรศัพท์เพียงอย่างเดียว  แต่มันดังก้องอยู่ในห้องน้ำนี้ด้วยน่ะสิ!

   ใครใช้ให้มาเข้าห้องน้ำตอนนี้วะ!!!!!

   “ว่าไงนะ ได้ยินไม่ชัด?”  เสียงทุ้มเสียงเดิมดังมาจากที่ไม่ไกล... ไม่เกินสามเมตรนี่เองแหละมั้ง!
ห่างกันแค่ผนังบางๆ ที่กั้น... สยองชะมัดเลย!

   มือเรียวหยิบโทรศัพท์เครื่องเก่ามาถูกับเสื้อนักศึกษาจนเกิดเสียงครืดคราด ก่อนจะกดตัดสายแล้วปิดเครื่องไปในทันที

   ฟู่ววววววววววว... รอดตัวไป






กว่าจะออกมาจากห้องน้ำก็เป็นตอนที่แน่ใจแล้วว่าไม่มีคนอื่นอยู่อีก... หลังได้ยินเสียงนกหวีดในสนามเป่าขึ้นเป็นสัญญาณเริ่มการแข่งขัน คนตัวเล็กค่อยๆ คลายกลอนที่ลงไว้ โผล่เสี้ยวหน้ามาดูไม่พบใครก็รีบออกมาทันที  ขาเรียวก้าวยาวๆ กลับไปที่สนามท่ามกลางความสงสัยของเพื่อนร่วมทีมที่ถามว่าหายไปไหนมา

   “วันนี้เหนื่อย ขอพักหน่อย”  คชาพูดกับเพื่อนร่วมทีมตัวสำรองในชุดสีน้ำเงินตรงขอบสนาม  “เดี๋ยวดูเกมให้”  ว่าพลางหันไปดูการแข่งขันในสนามที่เพิ่งเริ่มได้ไม่นาน

   “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด”  ทว่าไม่ทันได้สนใจสถานการณ์บนพื้นสนามเขียวสด เสียงกรี๊ดจากสาวๆ แสตนด์ฝั่งเขาเองก็ส่งเสียงดังขึ้นเสียก่อน คชามองตามไปยังต้นเหตุของเสียงกรี๊ดกร๊าดเหล่านั้น ก็พลันเจอะกับนักบอลกองหน้าของคณะบัญชีที่กำลังโปรยยิ้มจางๆ ขึ้นไป

   ไอ้ผีเผือกเอ๊ย! มาเตะบอลหวังจะให้สาวกรี๊ดอย่างเดียวสิท่า!  นึกก่นด่าในใจพลางเบะปากออกอย่างหมั่นไส้  ตาคู่เรียวยังคงจับจ้องอีกคนที่กวาดตามองขึ้นไปบนแสตนด์คณะนิเทศ ก่อนที่จะไล่ลงมาสบตากับเขาพอดี

   ตอนนั้นเอง... คชาถึงได้เห็นว่าอีกฝ่ายหยุดสายตานิ่ง และฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิมเป็นเท่าตัว

ยิ้มหาพระแสงอะไรวะ!  นึกตอบโต้เป็นคำพูดผ่านสายตาแบบนั้นกลับไป หากแต่อีกฝ่ายทำหน้าเป็นทองไม่รู้ร้อนซ้ำยังยักคิ้วหลิ่วตาให้ ก่อนที่มือขาวซีดนั้นจะจับที่เสื้อตัวใหญ่ราวกับจะชี้ชวนให้มองที่เสื้อสีแดงตัวนั้นตาม

2 3

เบอร์ยี่สิบสาม…
แล้วไงวะ? จะมาทวงค่าเช่าห้อง 2,300 บาทรึไง!?
   





   เสียงโห่เฮดังลั่นสนามเมื่อฝั่งคณะบัญชีเป็นฝ่ายทำประตูที่หนึ่งเข้า  “ขยันวิ่งหน่อยสิวะ!”  คชาตะโกนเสียงดังไปยังเพื่อนร่วมทีมที่มีท่าทีเนือยๆ ไม่ขยันขันแข็งอย่างเคย เว้นก็แต่ไอ้เพื่อนหน้าสิวที่ดูมันยังทำตัวดี๊ด๊าเหมือนเดิม  “เฟรม... อย่ามัวแต่หลีสาวดิ!”

   คนถูกเรียกชื่อได้แต่หันมามอบรอยยิ้มแห้งๆ ให้  ก่อนจะหันไปสนใจลูกกลมๆ ในสนามต่อ  สมาชิกทีมสีน้ำเงินดูจะวิ่งกันคึกคักมากขึ้นเมื่อเสียประตูแรกให้อีกฝ่าย  ทว่าทีมคณะนิเทศเริ่มเกมบุกทีมคณะบัญชีไม่ทันไร เสียงนกหวีดก็ดังขึ้นเสียก่อน

   ...หมดเวลาครึ่งแรก…

   เหล่านักฟุตบอลทีมสีน้ำเงินกรูกันเข้ามานั่งพักข้างสนาม  คชายื่นผ้าชุบน้ำหมาดๆ กับขวดน้ำให้เพื่อนร่วมทีมแต่ละคน  “สู้ๆ นะเว่ย ทำดีแล้ว”  บอกเพื่อนร่วมทีมที่ดูท่าทางกำลังเหนื่อยล้าเต็มที


   ห้านาทีแรกของช่วงพักครึ่ง ทีมนิเทศทุกคนเข้ามานัดแนะการเล่นของแต่ละคน ก่อนจะแยกย้ายกันไปหามุมพักของตนเอง  เว้นก็แต่คชาที่ยังคงนั่งมองพื้นหญ้าสีสดกับลูกบอลกลมๆ จากข้างสนามเหมือนเดิม  นึกอยากลงไปเล่นด้วยใจจะขาดแต่ทำไม่ได้ 
เพราะใครบางคนน่ะสิ!

ใครบางคนที่คอยส่งยิ้มกวนตีนให้ตลอดทั้งการแข่งขัน... แถมดูสาวๆ ก็กรี๊ดกร๊าดมันมากด้วยเถอะ

เฮอะ... หล่อตาย! แค่ตัวสูงกับขาวเท่านั้นเองล่ะวะ!!!


“ขอน้ำบ้างสิ”  ได้ยินเสียงที่พูดกับตน มือบางก็คว้าน้ำเปล่าที่วางอยู่ใกล้ๆ มาโดยไม่ทันมอง  ยื่นมันส่งให้ทว่าคนตรงหน้ากลับนิ่งไม่รับไปเสียที  จนกระทั่งใบหน้าหวานต้องเงยขึ้นมองตาม

ขาขาวซีดกับกางเกงสีดำเบอร์ 23… ไล่สายตาขึ้นไปก็พบกับไอ้ผีหน้าขาวคนเดิมที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มแบบกวนๆ

“ไม่ให้”  คนตัวเล็กรีบชักมือกลับทันที  “ไปฝั่งตัวเองสิ มาทำอะไรตรงนี้”  พูดพลางทำหน้าย่นใส่ หากแต่คนถูกไล่ดันไม่ไป ซ้ำยังทรุดตัวนั่งลงข้างๆ เพื่อนทอมคนเดิมเสียอีก

“เพื่อนเธอยังไปฝั่งนู้นได้เลย”  เต๋าอ้าง  พอคชาหันหน้าไปมองตาม ก็เห็นเสื้อสีน้ำเงินลอยเด่นมาแต่ไกล ซ้ำยังเป็นไอ้เฟรมกับไอ้เต้ด้วยสิ!

แหม่... ถ้าไม่มีไอ้เต๋าอยู่นี่คงเดินตามไปเหล่สาว เอ้ย ไปตามกลับมาแล้ว!


ปากบางขมุบขมิบอย่างหมั่นไส้เพื่อนทั้งสอง  “ขำอะไร?”  หันมาทำหน้าเหวี่ยงใส่ไอ้คนตัวขาวเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของอีกฝ่ายเบาๆ  “กลับไปนั่งฝั่งนู้นเลยไป”

“อยากกระชับมิตรไม่ได้หรอ?”  เต๋าพูดพลางทำหน้าอ้อนๆ ใส่  หากแต่ในสายตาอีกฝ่ายกลับรู้สึกว่าอีกคนอยากจะกวนเขาเล่นแค่นั้น

“กระชิบมิตรหรือมาหลีสาว?”  คชาถามเสียงแข็ง...หงุดหงิดไม่หายที่เห็นเพื่อนร่วมคณะมองไอ้เผือกนี่ตาเป็นมัน

“ทีเด็กนิเทศยังข้ามไปจีบเด็กบัญชีได้เลย  ทำไมหนุ่มบัญชีจะข้ามมาจีบสาวนิเทศบ้างไม่ได้?”

“จีบ?”  พูดทวนคำก่อนจะนิ่งไปชั่วครู่  “ที่อกหักจากแพรวายังไม่เข็ดรึไง?”  ใบหน้าหวานขมวดคิ้วถามเมื่อเริ่มเรียกสติได้คืนมา
คชากำลังหงุดหงิด... ยิ่งมองรอยยิ้มกวนที่ถูกส่งมาให้ก็ยิ่งรู้สึกอย่างนั้น  ฉับพลัน...ภาพที่เขากอดปลอบอีกคนในห้องตัวเองก็ลอยขึ้นมา นึกเสียดายที่อุตส่าห์ปลอบใจอีกคนในวันนั้น แต่ไม่กี่วันต่อมา มันก็ทำหน้าระรื่นบอกเขาว่าจะจีบผู้หญิงคนใหม่
ไม่รู้ทำไมถึงได้โมโหแปลกๆ ...ส่วนนอกจากนั้นคือความหมั่นไส้!

“ชาค่ะ... นี่ไม่รู้หรอว่าฉันมาจีบใคร?”  เต๋าถามทีเล่นทีจริง

“ไม่รู้”  ส่วนคนถูกถามตอบกลับเสียงแข็ง ยังอยู่ในโหมดหงุดหงิดไม่หาย

“งั้นถ้านัดนี้นิเทศชนะ จะบอกให้ก็แล้วกัน”  เต๋าพูดพลางลุกขึ้นเดินกลับไปยังฝั่งเดิมที่เดินมา ทิ้งให้เพื่อนทอมนั่งหน้าย่นอยู่ตรงที่เดิม

ถามสักคำก่อนไหมว่าอยากรู้รึเปล่า เฮอะ!





เมื่อฟ้ามืดมิดลงเรื่อยๆ  กองเชียร์บนแสตนด์เชียร์หลายคนก็เริ่มทยอยลุกออกไป บ้างก็กลับบ้าน บ้างไปหาอะไรทานเพราะเย็นมากแล้ว หากแต่คชายังนั่งลุ้นเกมการแข่งขันเบื้องหน้าอยู่ที่เดิม แม้เมื่อครู่แพรวากับแอ้นจะมาชวนให้ไปกินข้าวด้วยกันก็เถอะ
   หิวก็หิว... แต่ ณ จุดนี้ ถึงศักดิ์ศรีจะกินไม่ได้แต่ต้องมาก่อน... ทีมเขาต้องชนะ ยังไงเกมนี้ก็ต้องชนะ  เพื่อที่คชาจะได้ลงแข่งอีกครั้ง เพื่อที่ไอ้เผือกนั่นจะได้เจ็บใจเล่น

การแข่งขันในครึ่งหลังเริ่มต้นดุเดือดกว่าครึ่งแรกนัก... คชานั่งจ้องลูกกลมๆ ในสนามตาแทบไม่กะพริบ  ฝั่งนิเทศเกือบได้ประตูตีเสมอหลายต่อหลายหน ทว่าก็บอลก็ถูกสกัดได้อยู่ร่ำไป  ยิ่งเห็นใบหน้าขาวกับรอยยิ้มกวนๆ ที่ชอบชายตามองมาทางนี้อยู่เรื่อยราวกับจะเยาะเย้ยก็ยิ่งรู้สึกขัดใจ

ถ้าเป็นไปได้... คชาอยากลงไปเตะเสียตอนนี้  ไม่ใช่เตะบอลแต่ไปเตะไอ้กองหน้าเบอร์ 23 นี่แหละ!! กวนประสาทเหลือเกิน!!!!!


กำลังนั่งเชียร์ข้างสนามอยู่ดีๆ หยาดน้ำจากเบื้องบนก็เริ่มตกเปาะแปะลงมา  คชาลุกขึ้นยืนหากแต่ไม่ได้ไปไหนไกล สายตาจ้องลูกบอลกลมๆ ที่อยู่อีกฝั่งของสนามอย่างชวนลุ้นแม้ตัวจะเปียกน้ำฝนบ้างก็ตาม แต่จะเป็นไรในเมื่อฝนไม่ได้ตกหนัก แค่นี้สบายอยู่แล้ว

ตาเรียวแทบถลนออกมาบอลถูกเลี้ยงไปตรงแถวหน้าโกลฝั่งนั้น  คชาส่งเสียงร้องดีใจ และตอนนั้น ผ้าผืนใหญ่ก็โปะลงมาบนศีรษะของเขา หันไปมองอีกทีก็เห็นไอ้คนตัวขาวกำลังเอาผ้าขนหนูสีขาวมาขยี้หัวเขาเล่นอยู่

“ไปนั่งบนแสตนด์ไป”  ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นไอ้เบอร์ 23 คนเดิม

“ไปเล่นในสนามไป”  คชาย้อนกลับ ไม่อยากจะสนใจเสียงนกเสียงกาเสียงหมาเสียงแมวที่มาขัดจังหวะการดูบอลในตอนนี้

“เปลี่ยนตัวออกมาแล้ว ไม่เห็นหรอ”  เต๋าตอบ มือยังสาละวนอยู่บนศีรษะอีกคนกับผ้าขนหนูผืนนั้น  “เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก”


   ถึงอากาศจะเย็นชื้น เม็ดฝนจะโปรยปราย  ทว่าบรรยากาศรอบตัวกลับอบอุ่นอย่างน่าประหลาด แม้สายตาเรียวเล็กของคชาจะยังโฟกัสไปที่ภาพภาพเดิม หากแต่สมองมันทำลายประเด็นเหล่านั้นไปหมดสิ้นแล้ว  เขาไม่รับรู้ด้วยซ้ำว่าใครครองบอล หรือใครจะทำประตูได้  ทั้งหมดกลายเป็นเพียงละอองฝน เหลือเพียงสัมผัสขี้เล่นปนอบอุ่นบนศีรษะของเขาต่างหากที่รบกวนจังหวะการเต้นของหัวใจ


ไม่ใช่การขยี้หัวเล่นอย่างที่คชาคิดไว้ในตอนแรก... แต่มันคืออะไร? ตอนนี้เขาก็ชักจะไม่แน่ใจเหมือนกัน


ถ้าคราวที่แล้วไฟช็อต คราวนี้คงจะเป็นฟ้าผ่า...

ใช่... ฝนเริ่มตกแรงขึ้นแล้ว อีกไม่นานมันต้องฟ้าผ่าแน่ๆ  เอาสิ...ผ่าเปรี้ยงลงมาแรงๆ ได้ยิ่งดี  ความรู้สึกแปลกประหลาดนี้จะได้หายไป








‘เปรี้ยง!’
แล้วฟ้าก็ผ่าสมใจ…


เสียงดังกึกก้องกังวานไปในทั่วพื้นที่เปิดอย่างสนามฟุตบอลแห่งนี้  หยาดฝนจากที่ตกเป็นเม็ดเปาะแปะก็กลั่นตัวไหลลงมาเป็นสาย ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกรรมการต้องตัดสินใจเป่านกหวีดเพื่อยุติการแข่งขันลง เหล่านักฟุตบอลตัวชุ่มฉ่ำจึงวิ่งกราวเข้ามาในที่ร่ม นักเตะเสื้อสีน้ำเงินที่กระหายชัยชนะหลายคนพากันทรุดตัวลงนั่งแข้งขาอ่อนแรง

เพราะนัดนี้ทีมนิเทศศาสตร์เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป 0 ประตูต่อ 1  ทั้งๆ ที่เมื่อครู่ฝั่งนิเทศกำลังเป็นต่อ เกือบจะตีเสมอได้... แต่กลับต้องแพ้เพราะอากาศไม่เป็นใจแบบนี้

คนตัวเล็กปรายตามองเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ไม่ไกล อยากเดินเข้าไปทักแต่ก็ถูกรั้งไว้ด้วยอ้อมแขนแกร่งที่บีบไหล่เขาไว้... นานเกินไปจนคชาเริ่มไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของมัน แต่ถ้าถามว่าตั้งแต่เมื่อไหร่นั้น ก็คงตั้งแต่ที่อีกฝ่ายกึ่งลากกึ่งผลักให้เขาเข้ามาอยู่ในร่มแบบนี้

สองเพื่อนซี้อย่างเฟรมและโปเต้เห็นหันมาเห็นเขาเข้าพอดี คชากำลังจะถือโอกาสเข้าไปทักหากแต่มือขาวซีดข้างเดิมก็รั้งไหล่เขาไว้ มันไม่ได้บีบแน่นเหมือนทีแรกหากแต่กอบกุมเหมือนจะเว้าวอนไว้ไม่ให้ไป

เพียงเท่านั้น ก้อนอกข้างซ้ายก็กระตุกรัว  สองขาหยุดนิ่งโดยอัตโนมัติ คชาหันไปมองหน้าอีกคนในเชิงถามก็ได้คำตอบเป็นเสื้อยืดสีดำที่อีกฝ่ายไปคว้าเอามาตั้งแต่ไหนก็ไม่รู้

ไม่รู้... เพราะตัวเขาเองก็เพิ่งได้สติดีตอนได้ยินเสียงฟ้าผ่านั่นแหละ ก่อนหน้านั้นใจมันลอยไปลอยมาไร้จุดหมายได้พักหนึ่งแล้ว
แค่เพราะผ้าขนหนูผืนนั้น ที่บัดนี้เป็นเครื่องประดับคอของคชาไปโดยปริยาย

“เอาไปเปลี่ยน...เปียกหมดแล้ว”  น้ำเสียงทุ้มต่ำที่เคยกวนโมโหแต่ในขณะนี้เหลือทิ้งไว้เพียงความอบอุ่นอย่างน่าประหลาด 

“อยากโป๊หรือไง?”  เห็นสายตาที่มองต่ำลงมาตรงหน้าอกหน้าใจ คชาก็รีบยกแขนขึ้นกำบัง วันนี้เขาไม่ได้ใส่ฮู้ดมาเหมือนทุกวันเพราะอากาศนั้นร้อนแสนร้อน หากแต่เสื้อกล้ามตัวหนาที่อยู่ด้านในก็ทำให้ไม่เห็นอะไรในเวลาปกติดี

ทว่าในเวลาเปียกปอนแบบนี้เขาก็ชักไม่แน่ใจ... คนตัวเล็กรับเสื้อตัวนั้นมาอย่างเคอะเขิน กำลังจะหันเดินไปทางห้องน้ำก็ดันไปสบตากับสายตาของเพื่อนซี้ทั้งสองที่มองมา

แววตาสี่ดวงนั้นกำลังล้อเลียนเขาอยู่ชัดๆ!




ใช้เวลาไม่นาน... คชาก็เดินออกมาจากห้องน้ำหญิงในเสื้อบอลสีดำสกรีนคำว่า TAOTAO กับเลข 3 อยู่บนอก ที่บ่ายังคงมีผ้าขนหนูสีขาวผืนเดิมพาดเอาไว้  โดยไม่ต้องสอดส่ายมองหาให้ยาก เพียงมองลอดเข้าไปในห้องน้ำชาย ก็พบอีกคนในเงาที่สะท้อนกับกระจกออกมาเด่นชัด

“รอก่อนนะชา ไว้หาอะไรกินแล้วค่อยกลับบ้าน”  เต๋าพูดออกมาเชิงสั่งกับคนที่อยู่ด้านหน้าห้องน้ำอย่างไม่สนใคร
ไม่สน... ว่าไอ้คนที่อยู่ข้างในจะเป็นใครบ้าง ทั้งเพื่อนเขา เพื่อนตัวเองหรือใครต่อใคร
ไม่สน... ว่าไอ้คนที่อยู่ข้องนอกจะเคอะเขินแค่ไหนที่ตัวเองประกาศลั่นออกมาแบบนี้

คชาไม่ได้ตอบ หากแต่ยืนรออย่างงุ่นง่านอยู่หน้าห้องน้ำแบบนั้นต่อไป  กำลังทำใจว่าพรุ่งนี้เช้าคงต้องมีข่าวว่าหนุ่ม ต. กองหน้าคณะบัญชีมาตามจีบเขาอยู่ตามประสาเด็กคณะสื่อสารมวลชนแน่ๆ

ทุกคนคงจะหลงเข้าใจผิดไปยกใหญ่  ทั้งๆ ที่เต๋ากำลังจะจีบคนอื่นอยู่แท้ๆ





อาจเป็นครั้งแรกที่เต๋านึกขอบคุณคุณแม่ของเขาที่บังคับให้เขาพกร่มออกมาแบบนี้  ร่มสีชมพูหวานของที่บ้านที่เขาไม่กล้าใช้เองคนเดียวแน่ๆ หากแต่พอมีคนมาอยู่ใต้ร่มคันนี้ด้วยกันแล้วมันกลับรู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาด

เท้าอีกคู่ของคนข้างๆ ก้าวไวกว่าปกติจนเต๋ารับรู้ได้ เขาไม่ได้พูดอะไร แต่ก็รู้ว่าอีกคนคงจะเขินอายที่ออกมาด้วยกันสองคนแบบนี้ แถมยังที่เขาประกาศกร้าวในห้องน้ำชายต่อหน้าคนอื่นๆ นั่นอีก

“กินอะไรดี?”  เสียงทุ้มถามลอยๆ เมื่อมาเดินถึงย่านร้านอาหารมากมายใกล้มหาวิทยาลัย  เขาลดร่มสีแหววลงเมื่อเดินเข้ามาในที่ร่ม  “อะไรก็ได้”  ได้ยินเสียงอีกคนตอบเขาอย่างนั้น

“เสต็กไหม?”  เต๋าหันไปถามอีกครั้ง ทว่ากลับเห็นอีกคนมองร้านอาหารญี่ปุ่นอย่างสนอกสนใจ คชาหันมาหากำลังจะเข้าไปในร้านอาหารเสต็กตามที่อีกคนพูดถึง หากแต่ก็ถูกดันเข้ามาในร้านอาหารญี่ปุ่นเสียก่อน

“ไว้กินเสต็กคราวหน้าก็ได้”  เต๋าพูดขึ้นหลังจากนั่งลงภายในเก้าอี้ในร้าน คชาหัวใจวูบหวิวประหลาดที่ได้ยินอย่างนั้น... เขาเริ่มสงสัยในความแปลกประหลาดของความสัมพันธ์ที่ดูจะสนิทสนมจนเกินไปเข้าทุกที มันมีความแตกต่างในความรู้สึกไม่เหมือนกับเฟรมหรือโปเต้  แต่ก็ต้องยอมรับกับตัวเองว่าลึกๆ แล้วเขาดีใจ

สิ้นเสียงสั่งอาหาร พนักงานก็เดินจากไป คชามองออกไปผ่านกระจกใสไปยังภายนอก ก็ดันเจอะเข้ากับสาวๆ ร่วมเขาคณะจนได้  คชายิ้มทักทายสาวๆ กลุ่มนั้น นึกพลาดที่ไม่นั่งด้านในร้านแต่แรก  เขาสะกิดอีกคนให้หันไปหาพวกเธอตามที่ถูกบอก เพียงเต๋าโปรยยิ้มการค้า พวกเธอก็ดูยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก่อนจะเดินจากไป

“แฟนคลับเยอะจริงๆ นะนาย”  คชาเป็นฝ่ายพูดขึ้นเปรยๆ

“คนมันฮ็อตก็แบบนี้”  เต๋าทำท่ายิ้มภูมิใจ เห็นอีกฝ่ายทำหน้าเหม็นเขียวใส่จึงพูดต่อ  “อยากสมัครด้วยไหมล่ะ?”  ทำทีหยิบกระดาษออกมาจากกระเป๋าเป้ใบใหญ่ เขียนอะไรบางอย่างก่อนจะยื่นมันให้อีกฝ่ายดูพร้อมปากกา

เพียงไม่กี่วินาทีต่อมาที่คชาก้มหน้าอ่าน  “เขียนผิดนี่”  พูดเสียงแผ่วหลังจากตึกตรองไม่นาน ก่อนจะช้อนมองใบหน้าอีกฝ่ายที่ประดับไว้ด้วยรอยยิ้มขี้เล่นแสนกวนเหมือนทุกที

ใจนึกเกลียดที่ความรู้สึกประหลาดที่เขาไม่อยากยอมรับมันกำลังก้าวเข้ามาอีกครั้ง  หัวใจของเขากำลังตีรวนและสับสน  ยิ่งนึกถึงคำพูดที่อีกฝ่ายพูดเมื่อชั่วโมงก่อนหน้านี้ก็ยิ่งไม่เข้าใจ

ที่บอกจะจีบสาวนิเทศก่อนหน้า... มันคงไม่ใช่...


“ไม่ผิดหรอกชาค่ะ... ที่เขียนอะถูกแล้ว”
ก้มหน้าลงอ่านมันอีกรอบแล้วก็รู้สึกว่าใบหน้าตัวเองมันร้อนจนแทบต้มน้ำได้ ทั้งๆ ที่มันก็แค่ข้อความสั้นๆ ประโยคเดียว...



- ใบ สมัคร แฟน ครับ -





ควรจะเขียนอะไรลงไปดีล่ะชา???













TBC

>w<
โดยส่วนตัว ชอบตอนนี้มาก แต่งเองชอบเอง 5555
ขอบคุณทุกคนมากๆ นะจ๊ะ อิอิ
เม้นกันสักนิดเม้นกันสักหน่อยก็ดีนะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 12 หน้า 5 (up 22Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: iDistort ที่ 22-06-2012 23:57:59
มาแว้วว  :pig4: :pig4: :pig4: จิ้มๆๆ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 12 หน้า 5 (up 22Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 23-06-2012 00:03:26
  :man1:  ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเต๋ารู้ความจริงขึ้นมาว่าคชาไม่ใช่สาว จะเกิดอะไรขึ้น. แต่ตอนนี้น่ารักจริง
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 12 หน้า 5 (up 22Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: akihito ที่ 23-06-2012 01:04:26
รีบบอกความจริงไปดีกว่าชาค่ะ
เดี่ยวเต๋าครับรู้เองขึ้นมาเรื่องราวจะใหญ่โต
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 12 หน้า 5 (up 22Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: Sirada_T ที่ 23-06-2012 01:38:04
อ๋อยยย น่ารักๆ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 12 หน้า 5 (up 22Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 23-06-2012 04:32:20
น่ารักดีแท้ แต่ถ้าความจิงเปิดเผยละ แง๊ๆ

รอด้วยคนน้า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 12 หน้า 5 (up 22Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 23-06-2012 08:00:43
น่าสนุกนะ ใครๆก็มองว่าคชาเป็นทอม
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 12 หน้า 5 (up 22Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: mutyamania ที่ 23-06-2012 13:55:13
อยากให้ความแตกไวไว....อยากอ่านซีนอารมณ์....กับฉากตบจูบ 5555

คนแต่ง...แต่งได้น่ารักน่าหยิกดีค่ะ  ชอบมากเลย
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 12 หน้า 5 (up 22Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 23-06-2012 15:33:16
 :monkeysad:โอวววววววววววววววววว คงไม่มาม่านะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 12 หน้า 5 (up 22Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: [newZy]CASS ที่ 23-06-2012 22:51:55
อยากให้เต๋ารู้ความจริงแล้วอ่า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 12 หน้า 5 (up 22Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: bangkeaw ที่ 24-06-2012 01:18:08
อ๊ายยยยย น่ารักมาก
แต่ถ้าเต๋ารู้ความจริงแล้วจะเป็นไงเนี่ย ไม่อยากเศร้าเลย
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 12 หน้า 5 (up 22Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 25-06-2012 23:14:17
♀ TOM (or) BOY ♂
13
[/color]
 





ความผิดปกติของหัวใจ... ทำไมเจ้าตัวจะไม่รู้
แต่ที่ยังทำเฉยอยู่... ก็แค่อยากหลอกตัวเองต่อไป
 

ใบสมัครแฟนครับยังถูกวางแน่นิ่งไว้บนโต๊ะอาหาร ใบหน้าหวานไม่กล้าเงยสบตาอีกคู่ที่จ้องมองตนอยู่... นัยน์ตาของเขาเพียงโฟกัสที่ตัวอักษรเพียงไม่กี่ตัวบนกระดาษ เพ่งมันราวกับจะอ่านทวนอีกรอบให้แน่ใจ ราวกับจะเปลี่ยน ร.เรือ เป็น ล.ลิง อย่างที่ควรเป็น

แต่ไม่ว่าจะทำยังไง... ใบสมัครแฟนครับ ก็ไม่ใช่ ใบสมัครแฟนคลับ
และไม่ว่าจะทำยังไง... เสียงหัวใจก็ไม่หยุดเต้นดังเสียที

มันคือ ความจริง ที่เขาควรจะยอมรับแต่แรกว่าความรู้สึกของเขาได้เปลี่ยนไป  และตอนนี้... เขาก็รู้แล้วว่าตัวเองควรจะเขียน ความจริง ลงไปเช่นกัน
           




ตาคู่คมเบิกกว้างอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นอีกคนหยิบปากกาแล้วเขียนข้อความลงไปในนั้น... อะดรีนาลีนในกายพุ่งพล่าน  เขาอยากรู้จนเต็มแก่ว่าอีกคนเขียนลงไปว่าอะไร แต่ใจก็พยายามไม่สะกดอักษรเล็กๆ เหล่านั้นกลับหลัง  เขาเพียงแต่นั่งรอให้อีกคนยื่นกระดาษแผ่นนั้นคืนมาให้  รอคอย...ด้วยจิตใจที่ร้อนรน

เพียงไม่กี่วินาทีนั้นการรอคอยก็สำเร็จผล  เขามองใบหน้านิ่งๆ ที่สบตากับเขาตอนเงยหน้าขึ้นมาจากแผ่นกระดาษ ก่อนจะเปลี่ยนไปอ่านข้อความบนนั้นแทน

“นนทนันท์”  เต๋าอ่านออกเสียง ริมฝีปากคลี่ยิ้มออกมาเมื่อนึกได้ว่าคงเป็นชื่อจริงของอีกฝ่าย

“อ่านเต็มๆ สิ”

ได้ยินดังนั้น คนใจร้อนก็ก้มลงไปอ่านใหม่  แววตายังคงเป็นประกายเมื่อได้อ่านมันอย่างรีบร้อน  “นนทนันท์ อัญชุลีประดิษฐ์”
ก่อนจะนึกได้ว่าข้อความนั้นมีความแปลกประหลาดไป จึงทวนอ่านใหม่อีกครั้งเอง

“นายนนทนันท์... นาย...หมายความว่าไงชา?”

คนถูกถามไม่ได้ตอบทันที แต่ดึงกระดาษแผ่นนั้นคืนมา  “ก็หมายความอย่างนั้นไง”  ตอบเสียงแผ่วเมื่อเห็นแววตาเต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้เต็มที

“ไม่ตลกนะชา”

“ก็ไม่ตลกไง”  เขาถึงได้เครียดแบบนี้


บรรยากาศสีเทาก้าวเข้ามาบนโต๊ะอาหารโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว  นัยน์ตาของเต๋าเต็มไปด้วยคำถาม ความไม่เข้าใจ  แววตาคู่นั้นแม้จะดูเข้มแข็งแต่ก็ดูอ่อนไหวอย่างน่าประหลาด  เป็นคชาที่เป็นฝ่ายหลบตาคู่นั้นอีกครั้ง  หัวใจสั่นรัว...กับความกลัวในจิตใจ


“เต๋า... คือเรา...”  พยายามจะเริ่มตั้งต้นใหม่ แต่ยิ่งได้มองสายตาคู่นั้น ความหวั่นไหวก็ยิ่งคืบคลาน

“ถ้าเรา... เป็นผู้ชายล่ะ?”  จากประโยคบอกเล่ากลายเป็นประโยคคำถามแทนจนได้  แต่คำถามแปลกประหลาดคลุมเครือนั้น แทนที่จะนำความเข้าใจกลับยิ่งนำพาให้สงสัยยิ่งกว่าเดิม

ท่ามกลางสถานการณ์บีบคั้นนี้... คชารู้แล้ว ว่าตัวเองผิดที่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมานานเกินไป

“คือเรา...”  เสียงเดิมอึกอักไป ยิ่งเห็นแววตาเร่งเร้าที่จ้องมองมา
“เรา...”  คชาสูดลมหายใจเข้าลึกท่ามกลางเสียงหัวใจที่ดังกว่าเสียงของตัวเอง

“เราว่าจะไปแปลงเพศเป็นผู้ชาย”
สุดท้าย... เขาก็เลือกที่จะต่อเวลาให้ตัวเองอีกครั้ง

“มุกนี้ตลกก็ได้”  เต๋าพูดออกมาพลางยิ้มน้อยๆ หากแต่นัยน์ตายังมีความประหวั่นใจบางอย่าง  และยิ่งทวีคูณเมื่อได้ยินอีกคนพูดต่อ

“ไม่มุก... นี่พูดจริง”
เพียงเท่านั้นท่าทีของเต๋าก็กลับนิ่งกว่าเดิม

“บอกแม่แล้วหรือไง?”
“ยัง... แต่แม่ไม่ว่าหรอก”
“นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะ”
“ก็ไม่ได้เล่นนี่”
“ชา...”
“ทำไม?”
“เลิกหนีความจริงสักที”

ถ้อยคำแทงใจดำเสมือนมีดปลายแหลมแทงลึกที่อกซ้าย... คชาเพียงนิ่งไป จะเขาให้ทำยังไง ในเมื่อความจริงนั้นมันเป็นสิ่งที่อีกคนยังไม่รู้

“ฟังเสียงหัวใจก่อนสิชา”

เหมือนกำลังถูกแทงเข้าซ้ำสองตรงแผลเดิม...  เสียงหัวใจงั้นหรอ...ทำไมเขาจะไม่ได้ยินล่ะ? เสียงหัวใจตัวเองที่เต้นดังออกมาแบบนี้ กับความรู้สึกแปลกๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใคร
เขาอยากจะยอมรับความจริง เขาอยากจะฟังเสียงหัวใจ
แต่จะทำยังไง... ในเมื่อสองสิ่งมันขัดแย้งกัน?


ผู้ชายกับทอมน่ะรักกันได้... แต่ผู้ชายกับผู้ชายมันรักกันไม่ได้หรอกเต๋า
 

 
 

เม็ดฝนที่ตกโปรยปรายทำให้บรรยากาศเงียบเชียบภายใต้ร่มคันเดิมดูจะมีเสียงขึ้นมาบ้าง  หลังจากทานข้าวมื้อเย็นที่ร้านอาหาร  ทั้งสองคนก็ยังคงตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตนเองจนกระทั่งเดินไปถึงปลายทาง... ตรอกหอพักเพียงพอ
แต่เต๋ายังไม่ปล่อยให้อีกคนจากไปง่ายๆ หรอก

“รอนี่ก่อน”  ร่างสูงเดินเข้าไปในบ้าน ทิ้งร่มสีหวานไว้กับคนตัวเล็ก ให้เป็นเหมือนกับเครื่องยืนยันว่า ตราบใดที่เขายังไม่มาเอาร่มคืน อีกคนก็ห้ามไป

คชาก้มมองปลายเท้า  ร่มที่ยืนอยู่เพียงคนเดียวมันสบายและไม่เปียกฝน หากแต่ร่มที่มีคนยืนอยู่ข้างๆ แม้ไม่ได้พูดกันสักคำ มันกลับอบอุ่นกว่าเป็นไหนๆ

“ชาค่ะ”  เสียงเรียกคุ้นหูทำให้รู้ว่าเป็นใคร  ใบหน้าหวานหันไปมองก็พบว่าอีกคนยื่นซองพลาสติกเล็กๆ มา  “ยา... กลับไปกินซะเดี๋ยวเป็นหวัด”

แปลกใจเล็กน้อยที่อีกคนนึกถึงเขาขนาดนี้ทั้งที่ตัวเองยังไม่คิดสนใจ  “ขอบคุณ”  คชาเอ่ยสั้นๆ พลางรับมันมาใส่กระเป๋ากางเกง  กำลังจะยื่นร่มคืนให้เจ้าของ ทว่ามือนั้นกลับถูกอีกฝ่ายกุมไว้เสียเอง

“เดี๋ยวไปส่งหน้าหอ...”  เต๋าเข้ามาในร่มอีกครั้ง  ฝ่ามือขาวนั้นบีบกระชับมืออีกฝ่ายแนบแน่น  ความอบอุ่นแทรกซึมผ่านมือหนาจนคนถูกเกาะกุมสัมผัสได้... คชานึกดีใจที่มีอีกคนอยู่ข้างกันแบบนี้
            หากแต่ขณะเดียวกัน เขาก็นึกถอนใจ เพราะมันคงอีกไม่นาน...
            เป็นครั้งแรก... ที่เขานึกอยากยืดระยะทางออกไปให้ไกลกว่าเดิม
 
 


- - -
 


 
            “แหม... มีคนมาจีบแล้วแอบงุบงิบไม่บอกเพื่อนนะน้องทอม”
            “มิน่า ถึงไม่สนหมอ”
            “อะไรยังไงอะชา... ได้ยินว่าไปกินข้าวกันด้วยจริงดิ?”
            ไม่ผิดจากที่คิดไว้เลยสักนิดว่าเหล่าเพื่อนร่วมคณะของเขาจะต้องพากันหยิบยกเองเมื่อวานมาล้อ  ทั้งที่ปกติคชาก็เป็นคนอารมณ์ดี ไม่ได้อะไรกับเรื่องแบบนี้นัก หากแต่สถานการณ์ในตอนนี้มันเริ่มเกินจะรับไหว
            คชาเพิ่งจะรู้... ว่าตอนนี้มันมาไกลเกินไปแล้ว
            ตั้งแต่เมื่อเช้า ที่เปิดประตูหน้าห้องออกไปก็เจอพัดลมตัวนึงที่วางอยู่... คชารู้ได้ทันทีว่าเป็นของใคร เพียงแค่ได้อ่านข้อความ

            ‘พา fan มาให้... ถ้าเปิดใจเมื่อไหร่แฟนจะตามมา’

ร่างเล็กได้แต่ยกมือขึ้นขยี้ผมตัวเองจนยุ่งเหยิงเมื่อนึกถึงพัดลมที่ได้เมื่อเช้า ก่อนความคิดจะกลับเข้าร่างมาฟังเสียงเพื่อนๆ รอบกายใหม่ คชาเพียงส่ายหน้าออกมา ไม่เถียงอะไร เพียงพูดแค่ว่า  “ไม่มีอะไร แค่รู้จักกัน”  ตอบปฏิเสธไปอย่างนั้นหากแต่ไม่มีใครเชื่ออยู่ดี

            “แค่รู้จัก... แต่ไอ้เช็ดหัวให้กับเดินกางร่มคันเดียวกันไปกินข้าวสองคนกระหนุงกระหนิงมันไม่ใช่นะเว่ย”  โปเต้พูดพลางยิ้มล้อ

            “เออ... ก็เป็นเพื่อนกันไง”  คชาตอบอย่างไม่สบอารมณ์  เขาไม่ชอบเลยที่ต้องถูกคนอื่นพูดล้อแบบนี้ ทั้งที่ตัวเองเครียดแทบตาย  “หยุดพูดซะที เหนื่อยจะฟัง”

            “เพื่อนกัน... ตอบเหมือนดาราเลยนะมึง”

            “เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อรึเปล่าวะ?”

            ได้ยินดังนั้นร่างเล็กก็พลันถอนหายใจหน่วงๆ ออกมา  คชาส่ายหน้า ก่อนจะประกาศกร้าวชัดเจน
            “ไม่มีใครคิดอะไรกับใครทั้งนั้นแหละ!”

            โกหกออกไปอีกครั้ง... คชารู้ดี เขาหลอกตัวเองไม่ได้ แต่ไม่ว่ายังไง เขาก็ยังไม่พร้อมจะบอกความจริงกับคนอื่นๆ ในตอนนี้


“โปเต้... กูขอไปอยู่บ้านมึงสักอาทิตย์นึงได้ไหม?”

            นี่ต่างหากคือสิ่งที่คชาต้องทำ...
 
 



- - -
 
 




            ในห้องเบอร์ 23 ห้องเดิม  เป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้วที่คชายังคงนั่งคิดเรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำไปมาอย่างนี้  คิด...ว่าจะหาทางบอกความจริงอย่างไรดี  มันเหมือนง่ายแต่ไม่ง่ายเลยสักนิดเดียว
            แต่เขาไม่อยากให้เวลาเดินไปมากกว่านี้อีกแล้ว


            สุดท้าย ขณะเวลาเกือบห้าทุ่ม  เขาก็ตัดสินใจกดปุ่มโทรออกหาใครคนนั้น  มือเรียวแนบเครื่องมือสื่อสารลงข้างแก้ม  หูก็คอยฟังเสียงนั้นอย่างใจจดใจจ่อ  เขารู้ดีว่าถึงจะดึกป่านนี้แล้วแต่เต๋าคงยังไม่นอน  เสียง ‘ตื๊ด... ตื๊ด…’  ในขณะรอสายทำเอาหัวใจเต้นระส่ำ  ใจนึงอยากให้อีกคนรับไวๆ  แต่อีกใจก็อยากยืดระยะเวลานี้ออกไปนานๆ


“เต๋า...ทำอะไรอยู่ ว่างรึเปล่า?”  เป็นคำแรกที่เขาพูดถามเมื่ออีกฝ่ายกดรับ

“ดูบอล...เชลซีแข่งอยู่เนี่ย มาดูด้วยกันไหม?”  แม้ไม่ได้บอก หากแต่เสียงจากโทรทัศน์เครื่องใหญ่ก็อธิบายได้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไร  และน้ำเสียงคนพูดก็บอกได้เลยว่าอยู่ในอารมณ์ดีแค่ไหน  “กำลังจะโทรไปชวนอยู่พอดี”

คชาลืมไปเสียสนิท... ฟุตบอลนัดสำคัญที่ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่พลาดแม้แต่เสี้ยววินาที

“คือเรา...”  จะเอายังไงดี? จะเอายังไง? คชาได้แต่ถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา  เขาแค่อยากโทรมาสารภาพเพราะไม่กล้าบอกต่อหน้า ทว่าโอกาสดันไม่เอื้ออำนวย หากแต่ก็ไม่ซะทีเดียวเมื่ออีกฝ่ายชวนเขาออกไปหาแบบนี้

“ตั้งแต่วันนั้นเรายังไม่เคยดูบอลด้วยกันเลยนะ วันนั้นที่ชาบอกจะมาก็ผิดนัด จนเราต้องไปหาเอง”  ความรู้สึกผิดแล่นริ้วขึ้นมาทันที ไม่ใช่เพราะใจความแต่เพราะน้ำเสียงที่ฟังดูตัดพ้อนั่นต่างหาก

“เอ่อ...อือ ก็ได้”  และเพราะความใจอ่อน เสียงใสจึงตบปากรับคำไปในที่สุด  สมองเร่งนึกว่าจะพูดข้อความทั้งหมดที่จะบอกอีกฝ่ายต่อหน้าตอนไหนหรือยังไงดี


            ถ้าอย่างนั้น  คืนนี้คงเป็นคืนสุดท้าย…
 
 




เต๋ายิ้มกว้างเมื่อเห็นคนที่คิดถึงมายืนรออยู่หน้าบ้านแบบนี้  มือหนารีบเปิดประตูให้อีกคนเดินเข้ามา  คชาในชุดนอนสีฟ้าลายตารางมองดูน่ารักจนแทบไม่อยากละสายตาจากไปแม้เสี้ยววินาที

“ถอดรองเท้าไว้ตรงนี้”  เต๋าบอกอีกคน รอยยิ้มยังคงประดับใบหน้าทำเอาคชาต้องมอบยิ้มแก้เก้อให้  คนตัวเล็กถอดรองเท้าแตะตามที่อีกคนบอกก่อนจะเดินเข้าไปดูทีวีที่เปิดทิ้งไว้ในห้องนั่งเล่น

โซฟาหนังสีดำบุ๋มลงไปตามคนสองคนที่นั่งอยู่  คชาเว้นระยะห่างจากอีกฝ่ายไว้ประมาณหนึ่งฟุต ไม่มากเกินแต่คงไม่น้อยไป
มันอาจจะเป็นฟุตบอลนัดแรกในชีวิตที่คชานั่งมองดูด้วยจิตใจที่เลื่อนลอยแบบนี้... เขาพยายามเรียบเรียงข้อความและคำพูดในหัวออกมาหลายต่อหลายที  แต่หันไปมองอีกฝ่ายที่นั่งลุ้นเกมการแข่งขันตรงหน้าก็กลับพูดไม่ออกสักครั้ง


และวินาทีนั้นที่เต๋าหันมาสบตาเข้าพอดี  “เป็นอะไร? ไม่สบายหรอ? ทำไมทำหน้าอย่างนั้น?”  ระยะห่างฟุตนึงลดน้อยลงเมื่อเต๋าขยับเข้าใกล้เพื่อยื่นหลังมืออบอุ่นมาแตะกลางหน้าผาก  คำถามกับสีหน้าเป็นห่วงเป็นใยทำเอาคนฟังทั้งรู้สึกผิดและรู้สึกดีไปพร้อมๆ กัน  “วันก่อนกินยารึเปล่า?”

“กินแล้ว... ปกติดี ไม่ได้ไม่สบายหรอก”  เขาเอ่ยตอบเสียงแผ่ว  “สงสัยแอร์หนาวไปมั้ง”  ยกเหตุผลข้างๆ คูๆ ขึ้นมาอ้าง

ได้ยินดังนั้นเจ้าบ้านก็รีบลุกเดินไปหรี่เครื่องปรับอากาศลงให้ ซ้ำยังขึ้นไปหยิบผ้าห่มผืนเล็กมาคลุมตัวเด็กน้อยในชุดนอนสีฟ้าให้อีก  “โอเคไหมชา?”

“อ...อืม โอเค ขอบใจ...ดูบอลต่อเถอะ”  ภายใต้ผ้าห่มสีเหลืองอ่อน  คชาประสานมือตัวเองไว้แนบแน่น  เขาเกลียดสายตาที่อีกฝ่ายใช้มองเขาแบบนั้น มันทั้งอบอุ่น ทั้งลึกซึ้ง และเปี่ยมไปด้วยความห่วงใย  แต่ในขณะเดียวกัน...ก็ยอมรับเลยว่าอยากให้เต๋ามองเขาด้วยสายตาแบบนี้ไปตลอดไป

แต่คงไม่มีวันนั้น
 
 




แม้ตอนแรก คชาจะแทบไม่ได้สนใจฟุตบอลตรงหน้า  หากแต่สุดท้าย... สัญชาติญาณแฟนบอลที่กำลังดูทีมโปรดเล่นอยู่ก็ดึงเขากลับมาหาการแข่งขันจนได้  สุดท้าย ร่างเล็กก็กลับไปเป็นแฟนบอลที่จงรักภักดีต่อเชลซีเหมือนเดิม

“แลมพาร์ต!! แลมพาร์ต!!! แลมพาร์ต!!! โคตรเมพเลยว่ะเต๋า!!!”  ร่างเล็กหันไปพูดกับอีกคนอย่างมีความสุข  รอยยิ้มสดใสที่เปื้อนใบหน้าหวานยิ่งทำให้คนน่ารักยิ่งน่ารักเป็นเท่าตัว  “สุดยอดเลยอะ... นี่มันเป็นลูกเตะที่สุดยอดในประวัติการณ์เลยนะ”  เสียงใสเอ่ยอย่างภูมิใจ  “เจ๋งอะเต๋า... เปลี่ยนใจมาเชียร์เชลซีตอนนี้ยังไม่สายนะ”

อารมณ์ที่เปลี่ยนจากตอนแรก 180 องศาทำเอาอีกคนต้องหัวเราะตามเบาๆ  ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศนี้เชลซีเป็นฝ่ายชนะทอตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ไปด้วยสกอร์ 5 ประตูต่อ 1 และได้ไปชิงแชมป์กับหงส์แดงลิเวอร์พูล  เจ้าตัวถึงได้ดีอกดีใจขนาดนี้ 

เต๋าส่ายหน้าน้อยๆ หากแต่ใบหน้าก็ยังมีรอยยิ้มบางประดับไว้ “คนเรามันรักแล้วรักเลย... มาเปลี่ยนใจง่ายๆ ไม่ได้หรอกชา”

เพียงเท่านั้น คนฟังก็หน้าขึ้นสีโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว  คชายกมือเกาศีรษะแก้เก้อ... ก็แววตาตอนอีกคนพูดน่ะ เหมือนกำลังสื่อถึงใครบางคนมากกว่าแมนยูทีมรักน่ะสิ

ใครบางคน... ที่กำลังนั่งอยู่ตรงหน้านี้

เต๋า... พูดแบบนี้เห็นใจคนฟังหน่อยเถอะ
 
 



เป็นเกือบตีหนึ่งแล้วที่ร่างเล็กยังนั่งอยู่ในบ้านของเต๋า... คชามองนาฬิกาที่แขวนไว้ในบ้าน แน่นอนว่าตอนนี้หอพักต้องถูกแขวนแม่กุญแจตัวใหญ่เพื่อปิดแล้ว แต่จะเป็นไรในเมื่อคนตรงหน้าเขามีกุญแจ
ที่สำคัญกว่า... คือคืนนี้ต้องพูดเรื่องนั้นกับเต๋าต่างหาก

ท่ามกลางสถานการณ์ที่เริ่มคับขัน เข็มนาฬิกากลับยังคงเดินต่อไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย และมันยิ่งเร่งเร้าให้คชาต้องรีบพูดความจริงออกไปก่อนจะไม่มีโอกาส

“เต๋า... คือ...”  เห็นอีกคนเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ คชาก็พูดขึ้น  หากแต่ไม่ทันได้เอ่ยใจความอะไร ข้อมือบางก็ถูกกึ่งลากกึ่งจูงให้ขึ้นบันไดไปเสียก่อน

“ไปไหนอะเต๋า?”

“ไปห้องเรา”

“เฮ้ย!!!!”
 
 




กว่าข้อมือบางจะถูกปล่อยเป็นอิสระก็เมื่ออีกฝ่ายเปิดประตูระเบียงออกไป... คชาถอนหายใจออกมาเต็มแรงเมื่ออีกฝ่ายพาเขาออกมายืนตรงระเบียงสีขาวนี่  ยอมรับตรงๆ เลยก็ได้ว่าเมื่อกี๊คิดไกลไปถึงไหนต่อไหน

แอบคิดไปแล้ว... ถ้าเกิดอีกคนนึกปล้ำเขาขึ้นมา แล้วถอดเสื้อผ้าออกเห็นว่าเขาเป็นผู้ชาย เต๋าจะทำหน้ายังไง
แต่มันก็ไม่เกิดอะไรบ้าๆ แบบนั้นขึ้น  เมื่อจุดมุ่งหมายของเต๋ามีเพียงแค่…


“ดาวสวยไหม?”  คนข้างๆ ถามเขา  ตอนนั้นคชาจึงแหงนมองขึ้นไปบนฟ้าตามที่อีกฝ่ายทำบ้าง  ฟ้าสีดำสนิท มีจุดเล็กๆ สว่างไสวอยู่บ้างเล็กน้อย

“หน้าต่างห้องเธอมองไม่เห็นดาวไม่ใช่หรือไง? วันนี้พามาดูแล้วนะ”

ครั้งที่เท่าไหร่แล้วนะที่อีกคนจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับเขาได้มากขนาดนี้  “ขอบใจ”  คชาทำได้เพียงเท่านั้น... มันอาจจะเป็นสิ่งที่มากที่สุดที่สามารถตอบแทนอีกฝ่ายได้

“รู้ไหมชา... ตั้งแต่มีเธอเข้ามา ฉันก็ชอบออกมายืนอยู่ที่ระเบียงนี่”  สัมผัสโอบกอดจากด้านหลังทำเอาคชาอ้าปากค้างโดยไม่รู้ตัว  มืออบอุ่นคู่นั้นประสานไว้ที่ด้านหน้า ไม่แน่นหนา ทว่าก็ไม่ได้อ่อนปวกเปียกเสียจนหลุดออกจากกันได้ง่ายๆ

“รู้ตัวอีกที... ก็ชอบดูดาวบนฟ้าสลับกับมองหน้าต่างเล็กๆ นั่นแล้ว”

ยิ่งได้ยินถ้อยคำจากปากอีกคนมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเสียดแทงไปในจิตใจมากเท่านั้น… คชาไม่อยากได้ยิน ไม่อยากฟัง... ความรู้สึกที่อีกฝ่ายมันมากล้นจนเกินกว่าเขาจะรับไหว

“เต๋า...”  ฝ่ายคนในอ้อมกอด พอตั้งตัวได้ก็หันหน้าไปหาอีกฝ่ายหมายจะเอ่ยความในใจสักที  หากแต่ได้จังหวะพอดีกับที่ร่างสูงขยับเข้าใกล้

จึงกลายเป็นคชาที่เกือบจะหอมแก้มอีกฝ่ายไปอย่างฉิวเฉียด… เป็นอีกครั้งที่คชานิ่งค้างราวกับเป็นหุ่นยนต์  ทั้งร่างกายหรือใบหน้าเหมือนกับถูกสาปให้นิ่งไว้อย่างนั้น
เว้นก็แต่หัวใจที่เต้นดังจนกลัวอีกฝ่ายจะได้ยิน


รอยยิ้มบางเบาถูกประดับไว้ที่ริมฝีปากหยัก ตาคู่คมเพ่งมองใบหน้าหวานที่ขึ้นสีชมพูระเรื่อ... เต๋าคลายอ้อมแขนที่ประสานกอดอีกฝ่ายไว้ออก ยกมือข้างหนึ่งไล้แก้มใสนั้นเบาๆ


“เต๋า...”  พยายามปัดมือนั้นออกทว่ากลับไม่เป็นผล  ร่างเล็กเอ่ยค้านด้วยเสียงติดขัด  “อย่าทำแบบนี้เลย... เรา...” 
หากแต่คำพูดนั้นกลับกลายเป็นเพียงลมหายใจบางเบาที่ถูกกลืนกินด้วยริมฝีปากหยักจนหมดสิ้น  ใบหน้าขาวคมเอียงเล็กน้อย

เพื่อมอบจูบรสหอมหวานได้ถนัดถนี่



ราวกับตัวเขากำลังเบาเหมือนนุ่น... ราวกับกำลังนอนหนุนก้อนเมฆบนฟ้าไกล

เปลือกตาบางค่อยๆ หลับลง มือที่กำแน่นถูกคลายออกจากกัน


ทั้งหมดราวกับกำลังฝันไป... เป็นไปได้ไหม? ถ้าคชาจะหลับใหลตลอดกาล
 







TBC


ยังมีคนอ่านอยู่ไหมคะเนี่ย เห็นคนไปตามอ่านในเด็กดีกันหมดแล้วหง่า แหะๆ
ถ้ามีก็แสดงตัวกันหน่อยนะค้า >w<
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 13 หน้า 5 (up 25Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: MEMO MINI ที่ 25-06-2012 23:25:03
จิ้ม :z13: :z13: :z13:
v
v
v
v
v
เม้นแรกมั๊ยหนิ

เปนกำลังใจให้ชาค่ะ

 :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 13 หน้า 5 (up 25Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: mutyamania ที่ 25-06-2012 23:27:23
ปวดตับอ่ะ  อยากให้ถึงตอนเต๋ารู้ความจริงไว ๆ เพราะเรามันซาดิสต์  ชอบอ่านดราม่าหนัก ๆ แบบว่าสะใจดีพิลึก  รอตอนหน้าจ้า 
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 13 หน้า 5 (up 25Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 25-06-2012 23:44:42
 :sad4: เริ่มดรามา

 :pig4:  ครับผม
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 13 หน้า 5 (up 25Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 25-06-2012 23:52:14
อุกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!!! กรีดร้องอย่างโหยหวน. ไม่อยากจะคิดว่าถ้าเต๋ารู้จะเกิดอะไรขึ้น.  ยังตามอยู่นะจ๊ะ มารายงานตัว
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 13 หน้า 5 (up 25Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 26-06-2012 01:10:37
งะ อึดอัดแทน จะมีรักทั้งทีก้อเห้อT^T

รอรอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 13 หน้า 5 (up 25Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: akihito ที่ 26-06-2012 12:41:03
รีบสารภาพซ้าาาา จูบกันแล้วเนี่ย
เดี่ยวก็มาม่าอีก ไม่อยากกินมาม่า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 13 หน้า 5 (up 25Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: bangkeaw ที่ 26-06-2012 16:39:26
เครียดค้าาาาา
มาไกลเกินไปแล้ว จูบกันแล้วด้วย
รีบๆ สารภาพซะ  :z3:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 13 หน้า 5 (up 25Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: [newZy]CASS ที่ 26-06-2012 20:35:17
รอติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 13 หน้า 5 (up 25Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 26-06-2012 21:21:39
♀ TOM (or) BOY ♂
14
[/color]







เป็นไปไม่ได้... ที่จะจมอยู่ในความฝันตลอดกาล

เปลือกตาบางค่อยๆ หรี่มองนาฬิกาปลุกที่อยู่บนหัวเตียง... เสียงมันเงียบไปพักใหญ่แล้วเขาก็นอนต่อเพราะเมื่อคืนกว่าจะกลับมานอนที่ห้องก็เป็นเวลาตีหนึ่งครึ่งได้  แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคือเรื่องราวที่ประเดประดังเข้ามามันทำเอาข่มตาหลับไม่ไหว  สัมผัสบางเบาที่ริมฝีปากยังคงเหลือทิ้งไว้ในความรู้สึกให้จดจำ
คชากะพริบตามองเวลาในนาฬิกาปลุกอีกครั้งราวกับจะดูให้แน่ใจว่าไม่ได้มองผิดไป  เข็มสั้นชี้ไปที่เลขเก้า...ฉิบหาย! เข้าเรียนแล้ว!!!!!

กระเด้งตัวขึ้นจากที่นอนนุ่มโดยอัตโนมัติ กระวีกระวาดถอดเสื้อผ้าออกเดี๋ยวนั้นก่อนจะวิ่งผ่านน้ำด้วยความเร็วสุดชีวิต ล้างหน้าแปรงฟันพอลวกๆ แล้วจึงรีบแต่งตัวภายในห้านาที  เพราะวันนี้มีคาบเรียนตอนเก้าโมงเช้าและอาจารย์ก็มักจะเช็คชื่อตอนเก้าโมงครึ่ง  แต่ที่มากกว่านั้นคือเขากับแพรวาโดนเพ่งเล็งมาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วที่ทำขวดยาทาเล็บแตกกลางห้อง  สมองนึกไปถึงเพื่อนสาวข้างห้องที่ป่านนี้คงจะไปถึงคลาสแล้ว... ที่แพรวาไม่ได้รอคงเพราะคิดว่าเขาออกไปก่อนแล้วแน่ๆ

จากบันไดมาถึงหน้าหอพักอย่างรวดเร็ว คชาแอบเห็นเจ้าหมาน้อยตะวันที่นอนอยู่ แต่วันนี้ไม่มีเวลาจะไปเล่นกับมันเหมือนวันที่ตื่นเช้า  ขาเรียวรีบก้าวไวๆ ...ถึงมหาวิทยาลัยจะอยู่ใกล้ แต่ไม่ได้แปลว่าจะไปถึงได้ภายในสองสามนาที

ก็ต้องเดินไปนี่…


“ขึ้นมาสิ”  เสียงทุ้มคุ้นหูรั้งเขาไว้เสียก่อน  หันหน้าไปมองก็พบลูกเจ้าของหอคนเดิมและจักรยานแม่บ้านสีแดงอีกคัน  เท่านั้นใจก็กระตุกวาบเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน... ความจริงที่เตรียมจะบอกแต่ก็พลันสลายไปกับรอยจูบนั้น และสุดท้าย ความพยายามทุกอย่างก็กลายเป็นศูนย์

“รีบไม่ใช่หรอ?”  เสียงเดิมรั้งให้เขากลับมาสนใจกันสถานการณ์ตรงหน้า  เต๋าพยักเพยิดไปที่เบาะหลังเป็นสัญญาณให้เขาซ้อนจักรยานคันนี้ไป

“ไม่เป็นไร เดี๋ยววิ่งไป”  คชาปฏิเสธทันควัน... แค่การเจอหน้ากันเพียงแค่นี้เขายังรู้สึกแปลกๆ เลย นับประสาอะไรกับจะซ้อนท้ายจักรยานให้อีกคนไปส่งล่ะ

“ไม่เชื่ออีก บอกให้ขึ้นก็ขึ้นมาสิ”  น้ำเสียงที่บอกเหมือนกับจะดุเล็กน้อย  มือหนาถือวิสาสะรั้งข้อมืออีกฝ่ายไว้เบาๆ  “เร็ว... อยากไปสายหรือไง?”

“ก็ไม่อยาก...แต่...”

“เกลียดคำว่า ‘แต่’ ชะมัดเลย” 

แววตาตัดพ้อคู่เดิมยังคงทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี คชาไม่ชอบสายตาแบบนี้...สายตาที่ทำเอาเขาต้องยอมใจอ่อนเสียทุกครั้ง  “รีบหน่อยนะ”

การขี่จักรยานโดยแรกเริ่มนั้นดูค่อนข้างจะทุลักทุเล คงมาจากเพราะน้ำหนักตัวเกือบหกสิบกิโลฯ ของคนซ้อนท้าย  “ตัวหนักนะเรา”  แม้จะพูดอย่างนั้นแต่ใบหน้าขาวจัดกลับอมยิ้มจางๆ เมื่อนึกตามว่าอีกคนกำลังทำหน้ายังไงอยู่  หารู้ไม่เลยว่าที่จริงอีกคนนั่งใจลอยไปถึงไหนต่อไหนเสียแล้ว

และเมื่อผ่านไปไม่นาน การขี่จักรยานเริ่มเข้าที่เข้าทาง... ร่างเล็กซึ่งนั่งอยู่เบาะหลังก็เริ่มตาปรืออย่างคนนอนไม่พอ มือเรียวกำชายเสื้อเชิ้ตนักศึกษาสีขาวของคนขี่ไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวพร้อมๆ กับสมองที่ชัทดาวน์เองโดยอัตโนมัติ 

รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่จักรยานคันเดิมเบรกเสียเต็มแรง


“โอ๊ย!”  เสียงใสร้องเพราะหัวกระแทกกับแผ่นหลังคนข้างหน้าเต็มๆ

“ลงไปก่อน”  เต๋าเอ่ยหากแต่อีกคนกลับนั่งงง  “เร็วสิ”  ตอนนั้นเองที่คชาเห็นว่าจักรยานแล่นมาจอดที่ริมถนน


ชั่วครู่ที่เผลอน้อยใจคิดว่าอีกคนจะทิ้งให้เขาเดินไปต่อเอง หากแต่ขาก็ก้าวลงจากตะแกรงด้านหลังโดยดี... คชาหันซ้ายหันขวามองทาง ทว่าเมื่อหันมาอีกที  ก็เห็นเต๋าก็ลงมายืนอยู่ข้างๆ กันแถมยังคว้าข้อมือของเขาไปจับอีกครั้ง ส่วนมืออีกข้างก็จูงจักรยานเพื่อเดินข้ามทางม้าลายไป

เต๋าไม่เคยทิ้งคชาไปไหน  มีแต่คชาที่คิดไปเอง...

“ขึ้นมา”  พ้นทางม้าลาย เสียงทุ้มบอกสั่งให้ซ้อนท้ายอีกครั้ง หากแต่หนนี้ร่างเล็กกลับทำตามอย่างว่าง่าย  พาหนะสีแดงสองล้อถูกปั่นไปเร็วเท่าที่สมรรถนะของมันจะเอื้ออำนวย หนทางที่ขรุขระเป็นระยะทำให้ศีรษะเล็กนาบไปกับแผ่นหลังอีกฝ่ายหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งไปถึงมหาวิทยาลัย

“เต๋า.. จอดก่อน ส่งประตูนี้พอ”  คชารีบเอ่ยห้าม ไม่กล้าให้อีกคนไปส่งถึงหน้าคณะ เพราะกลัวจะเจอคนรู้จักเข้าอีก  คนตัวเล็กรีบลงจากตะแกรงหลังทั้งๆ ที่ยังจอดไม่สนิท  “ขอบใจนะ”  วิ่งเข้าประตูไปโดยไม่ได้หันมามองอีกคน  สมองจดจ่อเพียงห้องเรียนกับอาจารย์คนเดิมที่รออยู่


คาบเรียนรวมวิชาสื่อสารมวลชนเบื้องต้นในเช้าวันนี้ อัดแน่นไปด้วยนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ชั้นปีที่ 1 เกือบสองร้อยชีวิตบนห้องเรียนขนาดใหญ่แบบสโลปเป็นบันไดขึ้นไป  และดูเหมือนว่าตอนนี้จะเป็นเวลาที่ทุกคนตั้งใจฟังเป็นพิเศษ  เมื่อเสียงเนิบๆ ของอาจารย์สาววัยใกล้เกษียณคนเดิมกำลังเช็คชื่อนักศึกษาที่เข้าเรียน

“ธันวา”

“มาครับ”

“นนทนันท์”

- เงียบ -

“นนทนันท์...”

“มาแล้วคร้าบ”  ร่างเล็กที่เพิ่งเปิดประตูหน้าห้องเขามาส่งรอยยิ้มบานแฉ่งไปให้อาจารย์คนเดิมที่นิ่วหน้ามอง เขาหยุดยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นจนกระทั่งเห็นเธอก้มหน้าลงขีดลงในกระดาษและขานชื่อต่อไปจึงรีบก้าวไวๆ ไปหากลุ่มเพื่อนที่นั่งเรียงกันอยู่
ทันเวลาพอดี... คุ้มค่าที่อุตส่าห์แทรกตัวเข้าไปในลิฟท์ที่คนแน่นเอี้ยดแบบนั้น


ร่างเล็กนึกพลางหันไปทักทายกลุ่มเพื่อนๆ สองสามคำ ก่อนจะปิดเปลือกตาด้วยความง่วงนอนเสียเต็มประดา

อยากตั้งใจเรียนอยู่นะ... แต่ตอนนี้สมองยังไม่พร้อมรับเรื่องราวอะไรเลยจริงๆ






การเช็คชื่อนักศึกษาเกือบสองร้อยชื่อผ่านพ้นเสร็จสิ้นไปในเวลาไม่กี่นาทีต่อมา... หากทว่านักศึกษาร่างใหญ่ที่เพิ่งโผล่พรวดเข้ามาที่ประตูด้านหลังก็ทำเอาการเรียนการสอนต้องหยุดชะงัก... แม้การเข้าจากประตูด้านหลังจะทำให้ไม่มีนักศึกษาคนไหนที่จะมาสนใจนัก  หากแต่กับอาจารย์ผู้สายตายาวที่อยู่ด้านล่างสุดล่ะก็...มองเห็นทุกสิ่งเป็นอย่างดี

เด็กสมัยนี้มันแสบจะตาย! …ขนาดบอกว่าวันนี้จะเช็คชื่อห้ามมาสาย ยังมีคนมาถึงเอาเวลานี้เลย

“เอ้า... ที่เพิ่งมาใหม่น่ะชื่ออะไร มาสายนะรู้ไหม?”  เธอถามด้วยน้ำเสียงตำหนิ

“ศุภวิชญ์ครับ”  นักศึกษาร่างใหญ่เอ่ยเสียงดังอย่างไม่สนใคร

“อีกคนล่ะ?”  อาจารย์คนเดิมหมายถึงนักศึกษาอีกคนที่เพิ่งเข้าประตูด้านหลังตามมา

“เอ่อ...”  เขามีท่าทีเลิ่กลั่ก  “เปล่าครับ...ผมเก็บกระเป๋าตังค์ได้ เอามาคืนเจ้าของเฉยๆ”

เมื่อคำพูดคำนั้นแสดงถึงความเป็นคนแปลกหน้าไม่คุ้นเคย  ไม่กี่วินาทีต่อมา เหล่านักศึกษาเกือบครึ่งห้องก็เริ่มหันมามองที่พวกเขา  สาวๆ หลายคนเริ่มหันไปซุบซิบกันเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามาในห้องเรียนใหม่ไม่ใช่ใคร หากแต่เป็น ‘เต๋า’ หนุ่มรูปหล่อ ผู้เล่นกองหน้าเบอร์ 23 แห่งคณะบัญชี

ตอนนั้นเอง ร่างเล็กซึ่งกำลังนั่งเคลิ้มใกล้เข้าสู่นิทราจึงถูกสะกิดด้วยเพื่อนๆ ที่รู้ดีว่า นายคนนั้นน่ะ มาหาใคร

“ชาๆ ตื่น... มีคนมาหา / เร็วชา กิ๊กมึงมาแล้ว”

“หือ... อาราย?”  พูดเสียงยานคางพลางหันไป... ก็ต้องนิ่งค้างเมื่อเห็นกระเป๋าสตางค์ตัวเองอยู่ในมือของร่างสูงคนเดิมกับที่มาส่งเขา

“ไหน... เอามาดูซิว่าของใคร?”  เสียงเนิบๆ ของอาจารย์(ไม่)สาวกล่าวออกไมโครโฟน

ได้ยินดังนั้นคชาก็รีบสะดุ้งตอบขึ้นทันควัน  “ของผมเองครับ”  เขาก็แค่ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ อีกทั้งก็กลัวอาจารย์จะประกาศชื่อบนบัตรนักศึกษาออกไปเหมือนคราวก่อนจนคนรู้กันหมด

“นนทนันท์... มาสายแล้วยังป้ำเป๋อลืมของไว้อีกนะ รีบไปขอบคุณเขาแล้วกลับมานั่งที่เร็วเข้า เพื่อนเขาจะได้ไป”


ใบหน้าหวานหันไปพยักหน้าให้อาจารย์  ขาเรียวกุลีกุจอวิ่งขึ้นบันไดไปหาอีกคนที่ยืนรออยู่ท้ายห้องเรียนแบบสโลป... สมองนึกดีใจที่ได้รับของคืนโดยไม่ต้องผ่านมือใคร  แต่คชากลับไม่ทันคิด... สรรพนามกับคำลงท้ายที่ใช้พูดกับอาจารย์แบบนั้น มันทำเอาคนที่ถือกระเป๋าสตางค์ในมือเผลอเปิดมันออกดู

ต่อหน้าต่อตาเจ้าของ  วินาทีนั้นร่างเล็กก้าวขายาวที่สุดในชีวิตเพื่อจะไปให้ถึงกระเป๋าใบนั้นก่อนให้ได้

“เฮ้ย! อย่า...” 

คำพูดสุดท้าย...ที่ไม่อาจฉุดรั้ง

เต๋ามองดูรูปถ่ายในอดีตของอีกคนในนั้นกับครอบครัว... ภาพเด็กชายผมสั้นเกรียนสองคนในวัยเยาว์กับหญิงสาววัยกลางคน... เด็กคนซ้ายมองยังไงก็คือคนเดียวกันกับเจ้าของกระเป๋าใบนี้ไม่มีผิด ทั้งใบหน้า แววตาและรอยยิ้ม ทุกอย่างมันบ่งบอกชัดเจน
ความสงสัยที่ถาโถมเข้ามาทำให้เต๋ารีบเปิดช่องต่อไปเพื่อหาคำตอบด้วยความใคร่รู้เต็มที

ชั่วพริบตาเดียว...ความจริงก็ถูกเปิดเผยผ่านบัตรสี่เหลี่ยมแข็งๆ ใบเดียว
ก็แค่บัตรประชาชน...

“นายนนทนันท์ อัญชุลีประดิษฐ์...”  เสียงทุ้มอ่านมันออกมาเบาๆ ราวกับจะพูดย้ำกับตัวเอง  ทั้งที่เจ้าตัวเคยเขียนให้เขาดูอย่างนี้หากแต่เขากลับไม่เอะใจอะไรเลย

มัวแต่หลงเชื่อลมปากอีกคนไปได้... นอกจากคำว่า ‘โง่’ เต๋าก็ไม่รู้จะพูดคำไหนกับตัวเองอีกแล้ว





ท่ามกลางเสียงซุบซิบแซมไปด้วยเสียงหัวเราะเบาๆ ของนักศึกษาคนอื่นๆ ในห้อง  เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นในโสตประสาต... เสียงเดิมที่คอยเรียกชื่อของเขา...

“เต๋า...”  ร่างเล็กที่เพิ่งวิ่งขึ้นมาถึงรีบดึงสติของเขากลับมาที่ปัจจุบัน  แววตาคู่นั้นตื่นตระหนกอย่างไม่ปกปิด  “คือเรื่องมัน...”  เขาจะพูดยังไงดี... มันควรจะเริ่มที่ตรงไหน?

“สนุกมากรึเปล่า?”  หากแต่คำพูดประชดประชันกลับเหมือนธนูที่ทิ่มลงกลางหัวใจ เต๋าเอ่ยเท่านั้นก็วางกระเป๋าสตางค์สีดำไว้ที่โต๊ะตัวใกล้ๆ  ก่อนจะเดินพรวดออกไปโดยทันที



คชาเก็บกระเป๋าเจ้ากรรมใบนั้นมาไว้กับตัว รีบเดินตามอีกคนออกไปก็เห็นแผ่นหลังไวๆ ที่เพิ่งเข้าไปในลิฟท์  ทั้งคู่ประสานมองตากันเพียงไม่นาน... คำพูดนับล้านที่พรั่งพรูออกมาไม่สามารถไปถึงอีกคนเมื่อเขาเพียงยืนแน่นิ่ง  ก่อนที่ร่างเล็กจะปล่อยให้ประตูอะลูมิเนียมเงาวับค่อยๆ เลื่อนเข้าหากันอย่างง่ายดาย  เหลือเพียงใบหน้าเย็นชาเป็นภาพสุดท้ายในความทรงจำ

คชาหยุดยืนอยู่แค่ตรงนั้น  เขาไม่ได้ตามลงไป  เขาไม่มีอะไรจะแก้ตัว


ยังไงก็ตั้งใจจะบอกความจริงวันนี้อยู่แล้ว  ให้เรื่องวุ่นๆ มันจบลงเท่านี้ก็ดีเหมือนกัน

เข้าใจแล้วใช่ไหมเต๋า ว่าเรา... รัก กัน ไม่ ได้

ขอโทษ... แล้วเราจะไม่มาให้นายเห็นหน้าอีกเลย




- - -




ผมเกลียด... ที่ความทรงจำของผมกับเธอ ไม่สิ กับเขา มันมากมายมหาศาลอย่างนี้


มันก็แค่แค่สามอาทิตย์ที่เราได้รู้จักกัน แต่ทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามากลับทำเอาผมวกเข้าเรื่องของอีกคนได้หมดทุกสิ่งราวกับว่าเราผูกพันกันมาเนิ่นนาน

สนามหญ้ายามเย็นในวันนี้ก็เช่นกัน  มันยังคงสีมีเขียวเหมือนเดิม แต่กลับดูแห้งเหี่ยวไปในความรู้สึกด้วยเหตุผลบางอย่าง... วันนี้ทีมของพวกเรามาซ้อมบอลในสนามเดียวกับที่แข่งในวันนั้น เย็นวันที่ฝนเทลงมาแต่บรรยากาศกลับอบอุ่นในหัวใจ

ไม่มี อีกแล้ว

ผมหวัง..ยิ่งกว่าหวัง ว่าการมาซ้อมบอลในวันนี้จะช่วยผ่อนคลายทุกสิ่งทุกอย่างในใจได้  เรื่องทั้งหมด..ความจริงทั้งหมดที่บ่งบอกว่าผมโง่เง่ายิ่งกว่าควายมันทำเอาผมรู้สึกเจ็บทุกที

เรื่องที่เขาเป็นผู้ชาย... ยังไม่เจ็บเท่าการที่ผมถูกหลอกแบบนี้

เขาอาจจะมีความจำเป็นบางอย่าง... แต่เขาไม่คิดจะเชื่อใจผมสักหน่อยหรอ? ไม่คิดจะบอกกันก่อนหรือไง?

จะหลอกกัน อีกนานเท่าไหร่?

แล้วทำไม ไม่ตามลงมา... ไม่พูดไม่จา ไม่อธิบายอะไรสักคำ...?




“เต๋า!”  เจ้าของชื่อหันไปหาเพื่อนซี้หน้าฝรั่งอย่าง ‘เบน’ ที่ส่งเสียงเรียก เขาวิ่งขึ้นไปรอรับบอลที่ส่งมาด้วยเท้าซ้าย เลี้ยงออกไปพลางหลบอีกฝ่ายที่พยายามจะตัดบอลนั้น  สำหรับในสนาม เวลาเพียงเสี้ยววินาทีก็สำคัญ เพราะมันสามารถกลายเป็นโอกาสแห่งชัยชนะได้เลย

และโอกาสนั้นก็มาถึงแล้วเมื่อเต๋าหลบหลีกอีกฝ่ายได้ ก่อนจะใช้เท้าขวายิงประตูเสียเต็มแรง

เขาเตะลูกกลม   ๆ นั่นราวกับว่ากำลังกำจัดเรื่องวุ่นวายทั้งหมดออกไป
แล้วมันก็เป็นประตูจนได้... เต๋ายกยิ้มดีใจกับตัวเอง ก่อนจะหันไปมองข้างสนามที่เดิม

เผลออีกแล้ว... เขาหันไปมองที่ตรงนั้นเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้... ที่ที่วันนั้นมีใครอีกคนนั่งอยู่เพื่อชมการแข่งขันฟุตบอล

ปัญหา... ถ้าแค่โยนมันทิ้งไป เดี๋ยวมันก็กลับมาใหม่อยู่ดี…




หลังจากซ้อมฟุตบอลเสร็จตอนหัวค่ำ  ทุกคนก็อยู่ในสภาพหิวเจียนตาย เหล่าทีมฟุตบอลคณะบัญชีจึงเลือกมากันที่ย่านร้านอาหารใกล้ๆ มหาวิทยาลัย... คงจะไม่เป็นไรเลย ถ้าไม่ใช่ร้านนี้

   ร้านที่เคยบอกกับใครคนนึงไว้ว่า ‘คราวหลังไว้มากินด้วยกัน’


“ทำไมต้องมากินเสต็กด้วยวะ?”  เสียงทุ้มเอ่ยถามไอ้เพื่อนตัวดีคนนำความคิดอย่างหนุ่มผมหยิกผิวสองสี นามว่า ‘น้ำแข็ง’

“ก็กูหิวนี่หว่า... อยากแดกเนื้อ”

คำตอบไม่มีผลต่อคนถามนัก เต๋านั่งนิ่งๆ อยู่สักพักพนักงานก็มารับออเดอร์ ใบหน้าขาวจัดก้มมองภาพอาหารแสนน่ากินในเมนู เปิดพลิกไปพลิกมาก่อนจะปิดมันลง

“สั่งดิเต๋า เหลือมึงอะ”
มือหนาเปิดเมนูอาหารออกอีกครั้ง มองมันอีกไม่นานก็ถอนหายใจออกมายาวๆ ก่อนจะปิดมันลง  “กูกลับบ้านดีกว่า” 

“ไรของมึงอีกวะ?”  เบนถามขึ้น

“ไม่อยากกินเสต็ก”  เต๋าพูดสั้นๆ เท่านั้นก่อนจะหยิบกระเป๋าของตัวเองที่ตั้งไว้ใกล้ๆ ออกเสร็จก็เดินออกไปจากร้านในทันที


ไม่อยากกินเสต็กตอนนี้... เพราะอยากเก็บไว้กินกับใครอีกคน
ยังไม่หายโกรธหรอกนะ แต่กำลังจะไปให้อีกคนทำให้เขาหายโกรธสักที

แล้วเราจะได้มากินเสต็กด้วยกันนะ... ชาค่ะ





จากร้านเสต็กร้านนั้นมาที่บ้านของเขาใช้เวลาเพียงไม่ถึงยี่สิบนาที  เต๋ารีบกลับเข้าไปในบ้าน วางข้าวของลงก่อนจะคว้าเอากุญแจดอกเดิมที่มีเลข 23 ติดอยู่และเดินออกมาทันที

สองทุ่มครึ่ง... ถ้าเข้าหอพักเพียงพอไปในเวลานี้อาจจะเจอใครสักคนที่เป็นผู้หญิงและทำเอาเธอคนนั้นตกใจ แต่ในตอนนี้คงไม่มีอะไรสำคัญเท่าการไปเจอเจ้าของห้องเบอร์ 23 คนนั้น

เต๋าไม่ได้มาง้อ เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรผิด แต่กำลังมาให้อีกคนขอโทษดีๆ และอธิบายความจริงทั้งหมดต่างหาก


ขายาวก้าวไวๆ แต่ยังไม่เท่าที่ใจต้องการ พลันนึกถึงใบหน้าหวานราวกับผู้หญิงของใครคนนั้น  เขาใช้มุกเดิมๆ กับป้าที่เฝ้าหอด้านล่างว่า  “พ่อให้ขึ้นมาจัดการลูกบิดที่มันเสีย”  ก่อนจะก้าวขึ้นบันไดตรงไปที่ห้องเบอร์ 23 ด้วยใจที่ร้อนรน

เขาเคาะประตูบานนั้นสองสามที หากแต่ไม่มีเสียงตอบรับจึงจัดการไขกุญแจเข้าไปอย่างคนใจร้อน และประตูก็ถูกเปิดออกได้อย่างง่ายดายเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้ลงกลอนไว้

ห้องนั้นมืดมิด มือซ้ายจึงเอื้อมไปกดสวิตช์ไฟให้ภาพแจ่มชัด

เพียงเสี้ยววินาที...

ความว่างเปล่า... คือสิ่งเดียวที่เห็นในสายตา

ความเงียบเหงา... คือสิ่งที่ปรากฏในห้องแห่งนี้

ความผิดหวัง... คือสิ่งที่เกิดขึ้นในหัวใจ


จะมาก็มา จะไปก็ไป... ไม่คิดจะบอกกันสักคำหน่อยหรือไงชา?

จะทำร้ายใจกันไปถึงไหน... เท่าไหร่ถึงจะพอ?










TBC


ขอบคุณทุกคนมากๆที่ติดตามจ้า
หลายคนมากๆ อ่านแล้วบอกว่า เต๋าโกรธน้อยไป น่าจะโกรธมากกว่านี้ แหะๆ เราดราม่าไม่เก่งเท่าไหร่น่ะ
ติชมได้ตามสบายจ้า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 14 หน้า 5 (up 26Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 26-06-2012 21:46:49
งานนี้หนุ่มบริหารจะทำไงต่อล่ะเนี้ย
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 14 หน้า 5 (up 26Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 26-06-2012 21:58:06
แว๊กกกก,,  คชาหนีไปแล้ว!!
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 14 หน้า 5 (up 26Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: akihito ที่ 26-06-2012 21:58:53
ก็ชาค่ะก็บอกไปแล้ว
แต่เต๋าไม่เชื่อเองนี่นา
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 14 หน้า 5 (up 26Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: [newZy]CASS ที่ 26-06-2012 22:18:03
ชาค่ะ ไหนบอกอย่าทำร้ายเต๋าไง
กลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 14 หน้า 5 (up 26Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 26-06-2012 23:29:00
แง๊ๆ อารายยังไงเนี่ย คนนึงตกใจแต่กลับให้อภัย

ส่วนอีกคนคิดไกลแล้วเดินจากไปเองอย่างงั้นหลอ

คงไม่หรอก อิอิ เรารู้ว่าเด๋วก้อดีกาน อิอิ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 14 หน้า 5 (up 26Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 26-06-2012 23:35:26
ฮือออออออออออออออออออออ
 :o12: :o12:


ในที่สุดความจริงก็ปรากฏ
สงสารทั้งสองคนเลย ถ้าเราเป็นชา เราก็ไป  :sad4:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 14 หน้า 5 (up 26Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: timvasabi ที่ 27-06-2012 00:06:22
ชาไปไหนอ้า~

เต๋าไม่โกรธแล้วนะ กลับมาก่อนเด้!!

55555 รอตอนต่อนะค่ะ น่ารักดีอะ
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ ขอวลอีกนิดนคดี๋ยวอมลงห้น่นอน อย่กันลืมน
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 27-06-2012 06:28:28
ม่ด้ข้มป๊บดียวอมม่ห้กินซงั้น พรม่พูดถึงม่ข้จกันสักที
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 14 หน้า 5 (up 26Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 28-06-2012 08:44:56
♀ TOM (or) BOY ♂
15
[/b][/color]








ราวกับทุกอย่างเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน…

‘แก... อย่าทำอะไรฉันนะ ฉันไม่มีอะไรให้ขโมยด้วย’
‘นาย.. คือที่เมื่อกี๊เราบอกว่าเป็นผู้ชาย เราแค่...พูดเล่น...นะ’
‘วันนี้เมนส์มา’
‘แม่สอนตั้งแต่เด็กว่า อย่ายุ่งกับผู้ชายแปลกหน้าอะ’

เหมือนเราเพิ่งรู้จักกัน

‘มันต้องอย่างนี้สิเชลซี!!!! บอกแล้ว... กลับบ้านไปนอนร้องไห้เหอะเต๋า’ 
‘โอ๊ย! ไอ้กรรมการบ้าเอ๊ย สองลูกเลยหรอวะ? ฟาล์วตรงไหนเนี่ย แมนยูสำออยว่ะ’
‘ออกประตูไม่ได้ก็โดดลงไป’
‘นายมันไอ้ตัวซวยชัดๆ’

เหมือนเราเพิ่งสนิทสนมกัน

‘ยกหมอนข้างให้ก็ได้’
‘ผู้หญิงไม่ได้มีคนเดียวในโลกหรอกเต๋า’

เหมือนเราเพิ่งรู้สึกดีต่อกัน

‘ถ้าเรา... เป็นผู้ชายล่ะ?’
‘เต๋า... คือเรื่องมัน...’   



เรื่องมันเหมือนว่า.. ผมเป็นแค่คนโง่คนนึง...




ดอกไม้ที่เคยเป็นสีขาวสะอาดบบัดนี้แห้งกรอบเป็นสีน้ำตาลอ่อนตามกาลเวลา  มือหนาวางดอกไม้ดอกนั้นลงที่เดิม บนโต๊ะเขียนหนังสือตัวเดียวในห้องเบอร์ 23 แห่งนี้ ใกล้ๆ กันมีพัดลม กาต้มน้ำ กับขนมสองสามห่อที่วางอยู่

ทุกอย่างล้วนมีความหมายและความทรงจำ หากแต่มันกลับถูกทิ้งไว้อย่างเดียวดาย

ไม่รู้ว่าคนที่รับ...เขาไม่ใยดี หรือไม่ต้องการ

เต๋ายกยิ้มที่มุมปากมองมัน ก่อนจะกลับหลังหันออกมา สวิตช์ไฟดวงเดิมถูกกดปิดให้มืดสนิทอีกครั้ง  มือหนากดล็อคมันก่อนจะค่อยๆ ปิดลงอย่างช้าๆ
ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกเก็บไว้ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ห้องนี้

สำหรับคนให้น่ะ... ไม่อยากได้อะไรคืนหรอก





- - -




ดวงอาทิตย์ทอแสงสีส้มทองเป็นประกายในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนจะลาลับขอบฟ้า  ในหมู่บ้านอันเงียบสงบในเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน  รถแท็กซี่จอดลงที่หน้าบ้านหลังสีขาวขนาดไม่ใหญ่หลังหนึ่ง หนุ่มร่างเล็กจ่ายเงินให้คนขับเป็นที่เรียบร้อยก็ลงจากรถ ยืนรอเพียงไม่นานหนุ่มตี๋ใส่แว่นลูกชายเจ้าของบ้านก็ออกมาเปิดประตูให้

“เหมือนกูพามึงหนีตามกันมายังไงก็ไม่รู้ว่ะ”  โปเต้พูดติดตลกพลางช่วยถือกระเป๋าใบใหญ่หนึ่งใบเดินนำเข้าไป
นอกจากกระเป๋าใบนั้นแล้ว มีเพียงเป้ที่ใช้สะพายไปเรียนกับโน้ตบุ๊คอีกหนึ่งเครื่อง แม้ความจริงจะยังเหลือข้าวของอยู่อีกหลายอย่าง แต่คชาก็นำไปฝากไว้ที่ห้องข้างๆ ของแพรวาจนเกือบหมดแล้ว

เหลือก็แต่ของ...ที่ไม่ใช่ของเขา
ฝันดีที่เป็นไปไม่ได้... ตอนนี้คชาตื่นเต็มตาแล้วล่ะ



“กินอะไรมารึยังจ๊ะคชา?”  เพียงแค่ก้าวเข้ามาภายในบ้านหลังเล็กหลังนี้ ผู้เป็นแม่ของโปเต้ก็เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มอบอุ่น  คชายกมือขึ้นสวัสดีหม่าม๊าที่ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของตนพลางยิ้มน้อยๆ ก่อนจะพูดคุยกับหม่าม๊าของโปเต้เหมือนกับทุกครั้งที่เขามาที่บ้านหลังนี้

“เต้... ไปจัดห้องใหม่ให้เพื่อนไป”  ส่วนป่าป๊าที่เพิ่งกลับบ้านมาไม่นานหลังจากนั้นก็พูดสั่งลูกชายของตนอย่างเต็มที่จนคชาต้องรีบบอกปัด  “ผมนอนห้องเต้ดีกว่าครับ อยู่แค่อาทิตย์เดียวเอง”

ห้องนอนของโปเต้เป็นที่อาศัยของคชาอีกหนึ่งอาทิตย์ต่อจากนี้  ห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้านี้มีพื้นที่กว้างขวางกว่าห้องเช่าเบอร์ 23 นัก  หลังจากที่เดินตามเจ้าของห้องเข้ามา คชาก็นั่งลงอย่างคุ้นเคยพลางเริ่มหยิบข้างของเครื่องใช้จำเป็นออกมาจัดวาง 

“กูอยู่ไม่เกินอาทิตย์หรอก... สิ้นเดือนนี้หอเฟรมก็ว่างแล้ว”  เขาเอ่ยเรียบๆ

“โห... มาอยู่กะกูแค่ไม่กี่วันก็จะไปหาไอ้เฟรมต่อละ ใจง่ายนะมึงอะ”

“เออ... จะให้กูอยู่บ้านมึงไปตลอดรึไงล่ะไอ้นี่”  คนพูดหันไปทำปากเป็ดใส่เพื่อนซี้ที่กำลังจัดที่นอนให้อยู่ ฟูกนิ่มถูกลากมาไว้ข้างๆ เตียงนอนของเจ้าของห้อง

“มึงนอนกะไอ้เฟรมสองคนพอไหมวะ?”  โปเต้พยักเพยิดหน้าไปทางฟูกขนาดไม่ใหญ่นักที่เพิ่งเอามาปู  ที่จริงมันเหลือเฟือสำหรับคนคนเดียว แต่เพราะวันนี้เฟรมนึกอยากมานอนค้างด้วยเขาเลยถาม  คชาทำท่าคิดอย่างชั่งใจ กำลังจะบอกอีกคนว่าไม่เป็นไร หากแต่ก็ถูกชิงพูดเสียก่อน  “กูไปเอามาอีกอันละกัน เดี๋ยวพวกมึงได้เสียกันในห้องกู”

   “ทะลึ่งละไอ้เต้”

“ทะลึ่งอะไร กูหมายถึงได้เสียใจเพราะนอนเบียดกัน”

โปเต้ใช้นิ้วชี้ดันแว่นตาพลางยิ้มกริ่ม คชาไม่ตอบทว่าขมวดคิ้วทำหน้าย่นใส่ หากแต่พออีกคนเดินจากไป ใบหน้านั้นก็เผยรอยยิ้มบางเบาออกมา หากแต่ดวงตากลับดูไม่สดใสอย่างที่ควรจะเป็น





   เฟรมมาถึงในเวลาไม่นานหลังจากนั้น เกมเพลย์สเตชั่นถูกหยิบขึ้นมาวางเตรียมพร้อมเล่น  ถึงแม้จะมีจอยสติ๊กเพียงแค่สองอัน ทว่าทั้งสามก็สนุกไปกับมันแม้จะต้องสลับกันเล่น

   “เล่นท่าอะไรวะไอ้เต้”

   “ท่าน้ำนนท์มั้ง”

   “หรอ.. คิดว่าท่าพระจันทร์ซะอีก”

   “แต่กูว่าพวกมึงท่าจะบ้าแล้วว่ะ”

   เสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะแม้เกมที่เล่นจะเป็นเกมต่อสู้... กว่าทั้งสามคนจะได้เข้านอนก็เป็นเวลาย่างเข้าวันใหม่เสียแล้ว  เครื่องเกมถูกเก็บเข้าแบบลวกๆ  โปเต้หันไปจัดที่ผ้าห่มของตนเองให้เรียบร้อย คชาลุกไปเข้าห้องน้ำ ส่วนเฟรมกำลังสวดมนต์

“ชา... มึงย้ายมากะทันหันแบบนี้ มีเรื่องอะไรรึเปล่าวะ?”  เสียงทุ้มของโปเต้ตะโกนถามเพื่อนที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล  คชาที่ล้างมืออยู่ยืนนิ่งทบทวนคำถามนั้น

“ไม่มีอะไร”  คำตอบสั้นๆ ถูกกล่าวออกไป

“มันต้องมีดิ... เกี่ยวกับไอ้เด็กบัญชีคนนั้นใช่ไหมวะ?”  คนในห้องน้ำค่อยๆ เงยหน้ามองตัวเองในกระจก แม้เขาจะล้างมือเสร็จแล้วแต่ยังกลับปล่อยให้น้ำไหลผ่านมือต่อไป  เขาไม่อยากเดินออกไปตอบคำถามนี้พลางมองหน้าคนถามไปด้วย

“ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ”  คชาตอบด้วยคำพูดเดิมๆ อีกครั้ง

“ปากแข็ง... แพรวาบอกว่ามันต้องเกี่ยวกับเด็กบัญชีคนนั้นแน่ ใช่ไหมไอ้เฟรม?”

“เออ... วันนี้ตอนเย็นกูไปส่งแพรวาที่หอมา เจอไอ้นั่นเดินออกมาจากหอด้วย / ต้องไปหามึงแน่ๆ เลยว่ะไอ้ชา”

ร่างเล็กที่เดินออกมาจากห้องน้ำพอดีถึงกับชะงักมองเพื่อนทั้งสองเมื่อได้ยินอย่างนั้น  “มึงมั่วแล้ว”  เขายังตอบปฏิเสธสั้นๆ อีกเช่นเคย

“มั่วอะไร เห็นอยู่กับตา... แพรบอกด้วยว่าเคยเห็นแกอยู่กับไอ้หมอนั่นบ่อยๆ”

“เดี๋ยวนี้สนิทกับแพรวาจังนะเฟรม...ไปส่งที่หอด้วย กุ๊กกิ๊กกันรึเปล่าวะ?”

“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยไอ้ชา”  เฟรมพูดขึ้นอย่างคนรู้ทัน หากแต่ใบหน้ากลับขึ้นสีแดงจางๆ  “เป็นมึงมากกว่าที่กิ๊กกั๊กกะไอ้เต๋านั่น... วันนี้ในคาบมันเกิดอะไรขึ้นวะ?”

ใบหน้าเพื่อนทั้งสองหันมามองเขาด้วยสายตาคาดคั้น... หากแต่นัยน์ตานั้นเจือปนด้วยความเป็นห่วงเอาไว้  คชารู้ดีว่าเพื่อนๆ ต่างพากันเป็นห่วงแค่ไหน  แต่เรื่องนี้...เขาจัดการเองได้

“กูเลือกทางที่ดีที่สุดแล้ว พวกมึงไม่ต้องห่วงหรอก”
คนตัวเล็กพูดพลางเดินไปปิดไฟในห้องนอนสีขาวลงจนมืดสนิท  ก่อนจะล้มตัวลงนอนพลางคลี่รอยยิ้มจางๆ ในความมืดนั้น เขาเอื้อมมือไปตบบ่าเจ้าของห้องที่นอนอยู่บนเตียง ก่อนจะหันไปหาเพื่อนซี้อีกคนที่ล้มตัวลงนอนข้างๆ กัน

   “ขอบใจมากนะ... ไอ้เต้ไอ้เฟรม”





- - -





   สนามกีฬาในร่มของมหาวิทยาลัยในยามเย็นเริ่มคลาคล่ำไปด้วยนักศึกษา คงเพราะผลพวงจากกีฬาเฟรชชี่ที่ต้องแข่งขันกันหลายรายการ ทั้งบาสเกตบอล วอลเล่ย์บอล ว่ายน้ำ ยูโด หรือแม้แต่มวย ทุกสนามในเวลานี้จึงเต็มไปด้วยนักศึกษาที่ทั้งกำลังแข่งขันและกำลังซ้อมกันอยู่อย่างขะมักเขม้น

   “ไอ้เบน... ตั้งใจเล่นหน่อยสิวะ! เอะอะก็วิ่งไปหาบอสตลอด ไม่ตั้งใจซ้อมมันเสียเวลาคนอื่น อยากแพ้เหมือนบอลเมื่อวานหรือไง”

   “กูไปขอกำลังใจจากแฟนหน่อยไม่ได้รึไง เขาเพิ่งหายงอนกูเนี่ย  หงุดหงิดมาจากไหนวะไอ้เต๋า เป็นไรของมึงวะ!?”

   หนุ่มลูกครึ่งฝรั่งปะทะคำพูดด้วยภาษาไทยคล่องปรื๋อกับเพื่อนร่างสูงที่ยืนทำหน้าเครียดใส่ตรงหน้า ...เขาก็แค่วิ่งช้านิดเดียว แวบไปหาบอสที่ข้างสนามเสียหน่อยแค่นี้ และที่สำคัญมันก็เป็นเพียงแค่การซ้อมกีฬาบาสเกตบอลสำหรับเตรียมแข่งขันในวันศุกร์ซึ่งก็อีกตั้งหลายวัน  ส่วนไอ้เรื่องการแข่งขันฟุตบอลเมื่อวานที่แพ้ ก็สมควรอยู่หรอกเพราะดันไปเจอกับทีมคณะวิทย์กีฬาที่มีตัวเก็งทีมชาติอยู่หลายคนน่ะสิ

   “ช่วงนี้มึงเป็นอะไรวะ?”  เบนถามต่อเมื่อเห็นอีกคนกำลังพยายามสกัดกลั้นอารมณ์พุ่งพล่านที่เขาไม่ทราบสาเหตุเอาไว้ ...ไอ้เต๋าคนนี้น่ะ เป็นเพื่อนกับเขามาก็ตั้งแต่มัธยม นับครั้งได้เลยที่มันจะอารมณ์เสียใส่คนอื่นอย่างไร้เหตุผลแบบนี้ ปกติมันใจเย็นจะตาย

   “เออ... กูอารมณ์ไม่ค่อยดี”  เสียงทุ้มเอ่ยออกมา หันไปมองหน้าแฟนเพื่อนที่เพิ่งเดินมาสมทบก็ถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะปลีกตัวออกไป

   เหมือนเกินไป... ทรงผมใหม่ของบอส ทำให้เขานึกถึงใครอีกคน.... เพียงเท่านั้นอารมณ์ความหงุดหงิดบางอย่างมันก็ถูกระบายออกมาแบบนี้ ทั้งที่สะกดมันมาได้ตลอดสองสามวันที่ผ่านมา

   สุดท้าย สองขาของเขาก็นำพาเข้ามาในห้องน้ำ เขาสบตาคู่คมของตนเองในกระจกบานใหญ่ น้ำเย็นๆ จากก๊อกน้ำถูกปล่อยให้ไหลผ่านมือหนาคู่นั้น ก่อนจะใช้มันวักน้ำใส่หน้าตัวเองแรงๆ ราวกับจะให้สายน้ำดับความรู้สึกของตัวเองลง

   ใจนึง... เขายังโกรธ ยังเจ็บปวดเมื่อนึกถึงเรื่องราวทั้งหมด หากแต่อีกใจมันกลับทั้งคิดถึง ทั้งเป็นห่วง

   สามวันแล้วที่คนคนนั้นจากไป... ย้ายจากห้องนั้นแล้วไปอยู่ที่ไหน? ป่านนี้จะทำอะไรอยู่?


   “เล่นไรวะไอ้เต้!”

   “อ้าว มึงบอกร้อนนี่”

   “ไม่ได้บอกให้สาดน้ำใส่ซะหน่อย เปียกไปทั้งตัวหมดแล้ว”

   สองเสียงที่คุยกันดังก้องในห้องน้ำนั้นทำเอาคนที่ก้มลงล้างหน้าต้องนิ่งค้างเพื่อเงี่ยหูฟังให้แน่ใจ

“ก็ไหนบอกอยากอาบน้ำไง”

   “เออ กูอยากอาบน้ำ แต่ไม่ได้อยากโดนสาดน้ำใส่ว้อย นี่ไม่ใช่สงกรานต์นะไอ้เต้”

และเมื่อเสียงนั้นเริ่มดังเข้ามาใกล้... ก็ยิ่งชัดเจนว่าหนึ่งในเสียงนั้นเป็นของใครคนนึงที่เขาคิดถึงแทบตลอดเวลา  ใบหน้าขาวจัดเงยขึ้นมาก็เห็นใบหน้าของใครคนนั้นผ่านกระจกสะท้อนตรงหน้า คนตัวเล็กสวมชุดกีฬาอย่างคนมาออกกำลังกาย เนื้อตัวเปียกชุ่มอย่างที่ว่าในบทสนทนาเมื่อครู่

เพียงไม่กี่เมตรถัดมา ที่ชายืนอยู่จากตรงนี้

   เพียงไม่กี่วินาทีถัดมา ที่แววตาคู่นั้นประสานมองเขาผ่านกระจกเช่นเดียวกัน  และแววตาสดใสคู่นั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นความนิ่งเฉยได้ในเวลาเพียงชั่วอึดใจ  ก่อนจะเสมองไปในทิศอื่นเหมือนไม่เคยมีเขาอยู่ในสายตา

   ราวกับว่าไม่มีตัวตน ราวกับไม่ใช่คนรู้จักกัน

   “กลับบ้านกันเหอะว่ะเต้”

   “เออๆ”


   สองคนเดินออกจากห้องน้ำนั้นไปแล้ว เขาทำได้เพียงมองตามแผ่นหลังบางนั้นไป  เสื้อสีน้ำเงินหมายเลข 3 กับคำว่า ‘KACHA’ บนเสื้อ คงจะเป็นคำตอบได้

   ไม่มี ‘ชาค่ะ’ อีกต่อไป... จะเหลือก็เพียง ‘คชา’

   และเสียงหัวเราะแว่วๆ ที่ได้ยินลอยมาก็ทำให้เขารู้ว่า คชาคนนั้นมีความสุขมากเพียงใด

   เขายืนมองใบหน้าอันเรียบเฉยของตนเองในกระจก.... หมดห่วงไปได้ คชาไม่เป็นเดือดเป็นร้อนเลยกับการไม่มีคนชื่อ ‘เต๋า’ อยู่ในชีวิต

ดีจังนะ ...สักวันเขาเองก็คงจะยิ้มออกมาแบบนี้ได้เหมือนกัน

   สักวัน...




   แต่เต๋ากลับลืมนึกไป... แม้แต่กระจกเงาที่สะท้อนภาพทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา ภาพของมันยังกลับด้านซ้าย-ขวาเสมอ
นับประสาอะไรกับภาพตรงหน้านี้เล่า





- - -






   เพราะการพบกันอย่างไม่คาดฝันมันทำเอาเขาไม่ทันได้ตั้งตัว  ใบหน้าเฉยชาและเจ็บปวดของอีกคนยังคงติดตรึงอยู่ในโสตประสาท  มันน่าเศร้าที่ภาพสุดท้ายในความคิดเราไม่ได้มีแม้แต่รอยยิ้มให้กัน  เต๋าคงยังโกรธเขามากเรื่องนั้น ซึ่งมันก็สมควรแล้ว

   แต่การที่เขาเลือกจะหลีกหนีและหมางเมิน มันก็สมควรแล้วเหมือนกัน... การรักเพศเดียวกันมันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องหรอก และเขาก็คิดว่าอีกคนคงจะเข้าใจเรื่องนี้ดี

   ก่อนที่มันจะลุกลามมากเกินไป เขาจึงต้องตัดไฟแต่ต้นลม

   ถ้ารู้ว่ายิ่งใกล้ยิ่งทำให้รัก... แล้วจะอยู่ใกล้กันไปทำไม?


   “ชา... เป็นไรวะ?”

   “เปล่า”

   ตะเกียบในมือซ้ายยังคงทำหน้าที่คีบเส้นในจานได้เป็นอย่างดี  คนตัวเล็กสูดเส้นราเมนในชามเข้าปากพลางมองอะไรไปเรื่อยเปื่อย
   วันนี้ เขากับเพื่อนๆ มาหาอะไรกินกันต่อเพราะโปเต้ทนหิวรอไปกินที่บ้านไม่ไหว คนอื่นๆ ก็หิวเพราะออกกำลังกายกันอย่างเต็มที่  และเขาที่ไม่ใช่คนมีปากมีเสียงอะไรก็เออออตามเพื่อนไปเหมือนทุกครั้ง มารู้ตัวอีกที... ก็มานั่งอยู่ในร้านอาหารร้านนี้แล้ว

   และมันเป็นร้านเดิม ร้านเดียวกับที่เคยมาด้วยกันวันนั้น...วันที่ฝนตกชุ่มฉ่ำในหัวใจ

   “ชา... เป็นไรวะ? มีความหลังกับร้านนี้รึไง?”  เฟรมเป็นฝ่ายถามขึ้นมา และมันก็เรียกสติจากคนที่ใจกำลังหลุดลอยได้เป็นอย่างดี 

“เดี๋ยวนะไอ้เต้...ร้านที่มีคนเห็นไอ้ชามากินกับหนุ่มบัญชีมันร้านนี้รึเปล่าวะ?”

   “ไม่รู้ว่ะ แต่กูว่าชัวร์... นี่มึงกับไอ้เต๋ายังไม่เคลียร์กันอีกหรอวะ? วันนี้เจอกันในห้องน้ำก็ไม่เห็นทักทาย”

   “อะไรนะชา... เจอเต๋าด้วยหรอ?”  แพรวาซักขึ้นอย่างสนอกสนใจ จะว่าไป...แพรวาอาจจะเป็นคนที่รับรู้เรื่องนี้มากที่สุดแล้วก็เป็นได้

   “อือ ก็เจอกันเฉยๆ ไม่มีอะไรหรอก”  เขาบอกปัดไป... มันก็ไม่มีอะไรจริงๆ ไม่ใช่หรอ? แค่มองหน้ากันแปปเดียวแล้วก็เดินออกมา ไม่มีบทสนทนาหรือแม้แต่คำพูดสักคำ

   “ชา... มีปัญหาอะไรบอกแอ้นได้นะ”  หญิงสาวฉีกยิ้มหวานให้แก่เพื่อนที่นั่งหน้านิ่งอยู่ตรงหน้า  และมันก็ทำให้คนได้รับต้องส่งยิ้มบางๆ กลับไป  แต่นั่นกลับดูน่าหงุดหงิดในสายตาเพื่อนคนอื่นๆ ซะเหลือเกิน... มัวแต่นั่งอมพะนำบอกปัด แล้วก็ทำท่ายิ้มเศร้าๆ แบบนี้เนี่ยนะ! 

ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่มองมาอย่างคาดคั้น  ใบหน้าหวานทำเสมองไปที่กำแพงไม่ไกล โพสอิทมากมายเรียงรายกันอยู่บนกำแพง  บ้างก็ให้กำลังใจ ชื่นชมอาหารของทางร้าน  แต่บ้างก็ดูจะเขียนเป็นการส่วนตัวไปสักหน่อย เขียนบอกรักนักร้องขวัญใจบ้างล่ะ บอกรักแฟนบ้างล่ะ

   ดีนะ... ที่วันนั้นเขาไม่ได้เขียนอะไรแปะลงไป เพราะดูจะเป็นการสร้างความทรงจำให้มันมากมายไปกว่าเดิม

   คชาทำเมินคำถามที่เพิ่มขึ้นจากเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ แสร้งทำเป็นอ่านกระดาษใบเล็กสีแสบตาเหล่านั้นอย่างสนอกสนใจ  ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับตัวเขาเลย

   ‘ไม่สมัครวันนี้ วันอื่นก็ได้... รออยู่นะ  - TAO’
   แน่ใจจริงหรอ...ว่าไม่เกี่ยว?


   โพทอิทสีเขียวมะนาวอันนั้นแม้อ่านเพียงรอบเดียวเขาก็จำมันได้ขึ้นใจ... ไม่รู้ว่าวันนั้นอีกคนแอบไปเขียนมันเมื่อไหร่ แต่ก็คงเป็นหลังจากที่ให้ใบสมัครอันนั้นกับเขาล่ะมั้ง

   นึกดูแล้ว... มันน่าเศร้าพิกล


   “เป็นไรอีก ดูทำหน้าเข้า”

   “กูจะงอนแล้วนะ มีอะไรไม่ยอมบอกเพื่อนฝูงเนี่ย”

   เพื่อนๆ กลุ่มเดิมยังคงสังเกตสังกาคนตัวเล็กที่ทำหน้านิ่งได้เป็นอย่างดี  คชายิ้มบางๆ ให้กับทุกคนราวกับจะบอกว่าไม่เป็นไร  หากแต่นัยน์ตาคู่นั้นกลับไม่ยิ้มด้วยเลย 

   “ชา... มีอะไรรึเปล่า? อยากให้แอ้นช่วยไหม?”

   แอ้นถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง  คชายิ้มรับ หากแต่ขมวดคิ้วและจ้องมองคนตรงหน้าอย่างครุ่นคิด

   “มี... แอ้นช่วยอะไรเราหน่อยสิ”  และคำตอบนี้ทำเอาทุกคนบนโต๊ะต้องหันมาฟังอย่างใจจดใจจ่อ เพราะในที่สุด เจ้าตัวปัญหาก็ยอมแพล่มออกมาสักที

   ร่างเล็กสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะผ่อนมันออกมาอย่างช้าๆ ไม่เร่งรีบ  สมองนึกทบทวนคำพูดที่กำลังจะเอ่ยออกมาอีกที
   เขาแน่ใจ...


   “แอ้น... เป็นแฟนกับคชาได้ไหม?”

   แน่ใจ... ว่านี่เป็นทางออกที่ดีแล้วจริงๆ

   
   






TBC

ขอบคุณทุกคนมากๆจ้าที่ติดตาม >w<
อ่านแล้วเป็นยังไงติชมกันได้นะ
 :really2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 15 หน้า 6 (up 28Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 28-06-2012 09:43:46
 :sad4: :sad4:
แง เราไม่ไหวแล้วนะ ตอนนี้เต๋าน่าสงสารมากกกกกกกกก
ชาอย่าทำแบบนี้ มันไม่ใช่แค่ทำร้ายตัวเองและเต๋านะ มันเป็นการทำร้ายแอ๊นด้วย


ฮือออออออออออออ
 :เฮ้อ: เมื่อไหร่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม

คนเขียนมาต่ออีกไวๆนะ เป็นกำลังใจให้จ้า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 15 หน้า 6 (up 28Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: bangkeaw ที่ 28-06-2012 10:10:15
ในขณะที่เต๋าไม่ได้โกรธมาก และอยากให้กลับไปเป็นเหมือนเดิม
แต่กลับเป็นคชาที่วิ่งหนีไปซะงั้นอ่ะ ฮือออออ
เต๋าต้องจับตัวคชามาคุยให้รู้เรื่องแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 15 หน้า 6 (up 28Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: [newZy]CASS ที่ 28-06-2012 10:41:50
คชานายทำร้ายเต๋าทำไม TT
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 15 หน้า 6 (up 28Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 28-06-2012 11:48:36
หมี่เหลืองแระไง แล้วจะเปงไงละน้อ

ไม่อยากจะคิดT^T
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 15 หน้า 6 (up 28Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: nestanuine ที่ 28-06-2012 13:25:34
อ่านมาแต่ต้น...รู้สึกสงสารเต๋าที่สุดเลย
ไปชอบแพรวาก็โดนปฏิเสธ พอรู้ใจตัวเองว่า
ชอบชา...ก็มามึนตึงใส่กันอีกแล้ว

แย่จัง...  รักกันไวๆ นะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 15 หน้า 6 (up 28Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 28-06-2012 19:13:40
สงสารแอ้น ชาทำแบบนี้เพื่ออะไร แย่มากอะ คุณจะได้ชื่อว่าแฟนผู้ชายคนแรกของแอ้นเลยนะ
สิ่งที่คุณทำคือการทำร้ายตัวคุณเอง แอ้น แล้วก็เต๋า อยากให้แอ้นปฏิเสธมากอะ
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ ขอวลอีกนิดนคดี๋ยวอมลงห้น่นอน อย่กันลืมน
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 28-06-2012 22:15:51
อยปวดตับอย่งรง
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 15 หน้า 6 (up 28Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: papark ที่ 29-06-2012 23:56:05
เห้ย.. ผมอ่านแล้วผมแม่งเจ็บแทนเต๋าว่ะ
ผมนี่โคตรอิน..ผมเข้าใจความรู้สึกเต๋าเลย
คุณคนแต่งเขียนได้ดีมากจนผมอิน..ให้ตายสิ

คชาทำแบบนี้..ไม่ดีเลย น่าจะคุยกันให้จบๆสักที
(ยังไงก็ต้องมีดราม่าสินะ? //ร้องไห้)
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 15 หน้า 6 (up 28Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 30-06-2012 01:34:49
 :a5:

ทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะ ???
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 15 หน้า 6 (up 28Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: iDistort ที่ 30-06-2012 06:45:57
ยุ่งกันเข้าไปใหญ่แล้ว  :really2: :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 15 หน้า 6 (up 28Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 30-06-2012 08:01:08
รอจ้ารอ :call:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 15 หน้า 6 (up 28Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 30-06-2012 16:38:50
ปัญหามันจะเพิ่มมากขึ้นนะแบบนี้  :เฮ้อ: สงสารแอ้นด้วย
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 15 หน้า 6 (up 28Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 30-06-2012 20:38:48
♀ TOM (or) BOY ♂
16







“กลับดีๆ นะบอส”
“ดูหนังให้สนุกนะเบน”

หนุ่มลูกครึ่งฝรั่งโบกมือลาคนรักหน้าหวานที่กำลังจะขึ้นแท็กซี่กลับบ้านไป ไม่มีคำพูดอะไรมากกว่านั้น หากแต่สายตาที่ส่งให้กันก็เป็นคำตอบได้ถึงสถานะความสัมพันธ์ของพวกเขา  ทว่าฝ่ายบุคคลที่สามที่ยืนมองเหตุการณ์นั้นอย่างเต๋าอดจะมองด้วยสายตารำคาญนิดๆ ไม่ได้ ...จะสวีทอะไรกันนักกันหนา!

“ไม่ชวนบอสดูหนังด้วยกันวะ?”  เต๋าถามเพื่อนซี้หลังจากที่แฟนของอีกฝ่ายขึ้นรถไปเรียบร้อย  “จะชวนกูเพื่อ?”

“อ้าว เห็นมึงเซ็งๆ อยู่ไม่ใช่หรือไง?”  เบนพูดพลางเดินนำกลับเข้าไปในห้างสรรพสินค้าอย่างเดิม  “อีกอย่าง... บอสไม่ดูหนังผีว่ะ”

เต๋าได้ยินดังนั้นก็รู้ได้ทันที เหตุผลจริงๆ มีแค่อย่างหลังเท่านั้นแหละ ประโยคแรกมันแค่พูดให้ฟังดูดีเฉยๆ  “สรุปมึงชวนกูมาดูหนังผี?”

“ก็เออดิ... บอกไปแล้วไง ใจลอยอีกละ”  หนุ่มลูกครึ่งฝรั่งหันมาถามหน้ากวน  “ช่วงนี้ทำตัวเหมือนคนอกหักนะมึง”

เต๋าไม่ได้ตอบคำถามของเพื่อนสนิทแต่อย่างใด หากแต่เดินจ้ำอ้าวไปยังจุดหมายด้วยฝีเท้ายาวๆ  ห้างสรรพสินค้าชื่อดังในเวลานี้เต็มไปด้วยนักเรียนนักศึกษาเพราะเป็นช่วงเลิกเรียน  ขาก้าวขึ้นบันไดเลื่อนที่ติดแหง็กไปด้วยผู้คนมากมาย มันน่าเบื่อไม่น้อยที่เขาต้องมองมันไหลขึ้นไปอย่างช้าๆ โดยที่ทำอะไรไม่ได้  ปกติเขาไม่ได้ใจร้อนแบบนี้หรอก แต่หมู่นี้อะไรมันก็เปลี่ยนไป

ช่วงเวลาน่าเบื่อมักผ่านไปช้ากว่าที่เคยเสมอ เขาปล่อยตัวเองเคลื่อนขึ้นไปอย่างช้าๆ ตามสายพานที่หมุนไป สายตาถูกทิ้งหันให้มองไปเรื่อยเปื่อยไร้จุดหมาย  ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เห็นแต่คนมากันเป็นคู่... ห้างสรรพสินค้าคงตอบโจทย์คู่รักเพราะสะดวกสบาย กินข้าวดูหนังช้อปปิ้งได้ในที่เดียว

จะว่าไป ครั้งนึงเขาก็เคยมาเดินห้างสองต่อสองกับใครคนนั้นเหมือนกัน


ภาพในอดีตผุดย้ำขึ้นมาชัดเจนในสมอง... เขาจำได้ดี วันนั้นอีกฝ่ายบอกเขาว่าจะย้ายหอแล้วเขาก็อารมณ์เสียเป็นบ้า ทว่าตอนนั้นก็มีเหตุที่ทำให้ไม่ได้ย้าย แต่บทจะไปจริงๆ ก็เล่นหายไปแบบดื้อๆ

เจอกันอีกที...ก็มีแต่ความหมางเมิน

ภาพใบหน้าเรียบเฉยจุดรอยยิ้มเศร้าฉาบขึ้นบนใบหน้าขาว หากแต่ยังไม่เท่าภาพคนสองคนที่กระซิบกระซาบกันบนบันไดเลื่อนอีกฝั่งที่สวนลงมา

คชา... กับนักศึกษาสาวอีกคนที่ดูจะสนิทสนมกับพอตัว
เจอกันแบบไม่ได้ตั้งตัวอีกแล้ว... เจอกันทีไรก็เจ็บทุกทีเลยนะชา

   



   “กินอะไรกันดีแอ้น?”
   “อืม...อยากกินก๋วยเตี๋ยว”

   เพียงประโยคสั้นๆ เท่านั้นที่คชาหันไปพูดคุยกับเพื่อนสาวที่มาด้วยกันในวันนี้หวังเพียงจะหลบหน้าใครอีกคนที่ขึ้นบันไดเลื่อนสวนขึ้นมา  ไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นจะสังเกตเห็นเขาไหม แต่ด้วยยังไม่พร้อมที่จะสบดวงตาคู่นั้นจึงต้องเลี่ยงโดยการหันหน้ามาคุยกับแอ้นแทน

   “กินก๋วยเตี๋ยวเดี๋ยวหน้ามันหรอก มาเดททั้งที”  คชาพูดเสียงใสพลางยิ้มแป้นให้กับเธอ หากแต่อีกฝ่ายกลับทำหน้านิ่ว  “ชา...”  แอ้นถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินนำเดินไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวที่เธออยากกิน

   เดท... จะพูดคำนี้ได้ไหม? เมื่อคชาชวนอีกฝ่ายออกมาเที่ยวกันสองต่อสองแบบนี้ ทั้งยังดูแลสาวเจ้าเป็นอย่างดี  ตั้งแต่เลื่อนเก้าอี้ หรือหยิบช้อนตะเกียบให้  ซ้ำแล้ว ใบหน้านั้นก็ประดับไปด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอ

   “ชา...วันนี้โดดซ้อมทำไม?”  แอ้นถามอีกคนที่ยังสาละวนอยู่กับอาหารตรงหน้า  คชาเคี้ยวลูกชิ้นในปากแก้มตุ่ยก่อนจะทำหน้าเหรอหราเหมือนเด็กที่ถูกจับได้  “วันนี้ซ้อมบาสไม่ใช่หรอ?”

   “ขี้เกียจไง”  คชาตอบแบบส่งๆ ไป ทั้งที่ความจริงแล้ว...

“เพราะรู้ว่าต้องแข่งกับเต๋ามากกว่า”

ได้ยินอีกฝ่ายพูดจารู้ทันซะขนาดนั้น เจ้าตัวก็ถึงกับนิ่งตั้งหลักอยู่พักหนึ่ง  “อย่าพูดแบบนี้สิ เรามาเดทกันนะแอ้น”  เขาพยายามพยุงบรรยากาศให้กลับมาเหมือนเดิม

“อย่าใช้คำนี้เลยชา เรามาก็แค่ในฐานะเพื่อน”  แอ้นพูดด้วยแววตาหม่นหมอง  เมื่อสองวันก่อนเธอไม่ได้ตอบตกลงคชาไป แต่ปฏิเสธอ้อมๆ ให้ไปลองคิดดูใหม่อีกที และจนถึงวันนี้อีกฝ่ายก็ยังรั้นไม่เลิกรา

“งั้นแอ้นก็เป็นแฟนกับเราสิ”

“ชา... ทำแบบนี้มันเจ็บนะรู้ไหม”

ได้ยินดังนั้น คิ้วบางก็ขมวดผูกโบอย่างไม่เข้าใจ  “แอ้นเคยบอกว่าชอบเราไม่ใช่หรอ งั้นเราก็เป็นแฟนกันไง”

“แล้วคชาชอบเราหรอ?”

คำถามสั้นๆ ประโยคเดียวทำเอาอีกฝ่ายนิ่งงันไปในทันที... ไม่ใช่ไม่รู้คำตอบ แต่เพราะรู้มันอย่างชัดเจนถึงพูดไม่ได้

คชาไม่เคยคิดกับแอ้นในฐานะคนรักเลย

จนถึงตอนนี้ ที่เขาพยายามอยู่ใกล้ชิดกับแอ้นเกือบตลอด หวังว่าความผูกพันจะแปรเปลี่ยนเป็นความรักได้บ้าง หากแต่ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม
สุดท้ายคำตอบก็คือความเงียบงัน และมันแปลความหมายอะไรอย่างอื่นไม่ได้เลย นอกเสียจากว่า คชาไม่เคยรักแอ้น
รอยยิ้มบางผุดขึ้นบนริมฝีปากอิ่มได้รูป หากแต่ดวงตาคู่สวยของเธอกลับฉายความหม่นหมอง

รักคนที่ไม่รักเรา... เป็นใครก็ต้องเจ็บทั้งนั้น


“ถ้าคนเรามันเลิกรักใครได้ง่ายๆ คงไม่มีคนต้องเสียใจหรอกคชา”

   แอ้นพูดวกกลับมาเข้าเรื่องเดิม เพราะเธอรู้ดีว่าคชาขอคบเธอด้วยเพียงแค่ต้องการเลิกชอบเต๋า  หากแต่คำพูดนั้นก็ยังไม่วายสะท้อนกลับเข้าหาตัวเธอเอง

ถ้าคนเรามันเลิกรักได้ง่ายๆ  ป่านนี้แอ้นคงเลิกชอบคชาไปแล้ว

แววตาหม่นเศร้าของใบหน้าสวยหวานตรงหน้าทำเอาเขายิ่งรู้สึกเสียใจ... เขากำลังลากคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาทำร้ายใช่ไหม?

   “แอ้น... เราขอโทษ”
   “เก็บคำนั้นไว้ให้เต๋าเถอะ”

   “แต่...”  หนุ่มร่างเล็กชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นต่อ  “แต่เต๋าเป็นผู้ชาย”

   “แล้วจะทำไม...ในเมื่อเต๋าชอบคชา”  แอ้นนิ่งมองอาการของอีกคนแล้วก็ยิ่งชัดเจน  “คชาก็ชอบเต๋าเหมือนกันไม่ใช่หรอ?”

   เขาสะดุ้งตัวน้อยๆ เมื่ออีกฝ่ายพูดออกมาได้ตรงเผงแบบนั้น... พูด..ในสิ่งที่แม้แต่เขายังไม่อยากจะยอมรับกับตัวเอง

   “ผู้ชายกับผู้ชาย จะรักกันได้ยังไง”

   “ก็รักกันแล้วไม่ใช่หรอ”  แอ้นว่าด้วยสีหน้านิ่งๆ  “แล้วจะยังต้องไปกลัวอะไร... อยากให้ทุกอย่างจบลงแบบนี้หรอคชา?”

ภาพแววตาคู่คมอันเจ็บช้ำผุดฉายขึ้นมาในสมอง... ไม่บอกก็รู้ว่าเต๋ารู้สึกแย่แค่ไหน


   อยากให้ทุกอย่างจบลงแบบนี้หรอคชา?
   





- - -






อาคารกีฬาของมหาวิทยาลัยในวันนี้ค่อนข้างคึกคักด้วยเพราะเป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของกีฬาเฟรชชี่หลายๆ ชนิด  ที่ชั้นสามของอาคารเดียวกันนี้ สนามบาสพื้นไม้สีอ่อนขัดเงาวับกำลังหนาตาไปด้วยกองเชียร์จากทั้งสองฝั่งก็คือคณะนิเทศและบัญชี
เหมือนได้มาทบทวนความหลังเมื่อครั้งแข่งกีฬาฟุตบอลเมื่ออาทิตย์ก่อนยังไงอย่างงั้น  แต่ที่ต่างกันคือวันนี้ฟ้าฝนไม่สามารถทำลายการแข่งขันลงได้อีก

เสียงเฮดังลั่นของประชากรคณะนิเทศศาสตร์เรียกกำลังใจให้แก่ผู้เล่นที่กำลังวอร์มอัพร่างกายอยู่ไม่น้อย  ในทีมแข่งฟุตบอลดูจะไม่ค่อยมีใครมีฟอร์มที่หวือหวาจนตั้งตัวเป็นหัวหน้าทีมได้ หากแต่สำหรับกีฬาบาสเกตบอลนั้นต่างออกไป เมื่อนักศึกษาชายร่างสูงใหญ่อย่างเจมส์ ดีกรีอดีตนักบาสของโรงเรียนเป็นตัวตั้งตัวตีในการแข่งขัน ตั้งแต่นัดแรกจนได้เข้ามาถึงนัดชิงชนะเลิศนี้

“เล่นตามที่ซ้อมเมื่อวานนะ เข้าใจป้ะ”  เจมส์พูดทบทวนแผนการตามที่เมื่อวานได้ตกลงกันให้ทุกคนได้ฟังอีกครั้ง  เสร็จแล้วจึงประสานมือรวมพลังกับสมาชิกในทีมคนอื่นๆ

“นิเทศ นิเทศ เฮ้!”  เสียงทุ้มจากเหล่านักกีฬาเสื้อน้ำเงินหลายชีวิตดังขึ้นกึกก้องภายในสนามเพราะเป็นที่ปิด เรียกความสนใจจากทีมอีกฝั่งได้พอควร

“แล้วนี่ไอ้คชามันไปไหนวะ?”  เจมส์ถามขึ้นเมื่อเพิ่งเห็นว่ากำลังคนนึงไม่มาอยู่ให้เห็นหน้าในตอนนี้  “เมื่อวานก็ไม่มาซ้อม”

“ไม่รู้ว่ะ... เลิกเรียนก็ไม่เห็นหน้าแล้ว”

“อะไรวะ กะจะให้มาเป็นตัวสำรองซะหน่อย”  เจมส์บ่นไปตามประสา  “ตอนนี้ไปวอร์มก่อนละกัน... ถ้ามันจะไม่มาก็ไม่มา ยังไงทีมเราก็ต้องชนะอยู่ดี”

หนุ่มตี๋ร่างใหญ่หัวหน้าทีมพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง... กับกีฬาฟุตบอลเขาไม่ค่อยได้สนใจ แต่ถ้าเป็นบาสเกตบอลแล้วล่ะก็... เจมส์ไม่เคยแพ้ใครเว้ย!





“จะไม่ไปหรอชา?”
ที่ม้านั่งหินอ่อนบรรยากาศร่มรื่นมุมหนึ่งในมหาวิทยาลัย  หนุ่มร่างเล็กยังคงนั่งสบายๆ ไม่มีแววความทุกข์ร้อนอยู่บนในหน้าสักนิด  ต่างจากอดีตเพื่อนข้างห้องอย่างแพรวาที่ทำตาดุๆ ใส่มาพักหนึ่งแล้ว

“แพรวาไปก่อนก็ได้”  เขาพูดพลางก้มลมเอาช้อนตักน้ำแข็งไสในถ้วยที่พร่องลงไปเต็มที

“แล้วถ้าเราไป... จะตามไปไหม?”
ใบหน้าหวานช้อนมองหน้าเพื่อนสาวที่ยังคงสีหน้าเรียบนิ่งเอาไว้ก็พลันถอนหายใจออกมาเบาๆ  “ไปก่อนเถอะ”

นักศึกษาสาวลุกขึ้นจากม้านั่ง ด้วยเพราะใกล้เวลาเข้ามาเต็มที อีกทั้งใจก็ไปอยู่ที่สนามแข่งขันตั้งนานแล้ว  “ตามใจละกัน ไม่ยุ่งด้วยแล้ว”

มือเรียวสวยสีน้ำผึ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายไว้ที่บ่า พูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินจากไป  “คิดดูก็แล้วกัน...โอกาสมาอยู่ตรงหน้าแล้ว”

โอกาส...งั้นหรอ?

เหมือนตะกอนที่ถูกตีกวนให้ขุ่นขึ้นมาอีกครั้ง คชายังคงคิดไม่ตกกับสถานการณ์ในตอนนี้  สองมือกุมประสาน คิ้วบางขมวดขึ้นอย่างใช้ความคิด… ความหมางเมินกับเวลาหนึ่งอาทิตย์หลังจากเหตุการณ์วันนั้นมันทำให้เขาเข้าหน้าไม่ติดจริงๆ

สายลมพัดโชยเย็บสบาย ดวงตะวันคล้อยต่ำอ้อยอิ่ง หากแต่ภายใต้ใบหน้านิ่งยังคงเต็มไปด้วยปัญหามากมาย


- - ครืด ครืด - -


แรงสั่นน้อยๆ จากกระเป๋าเป้ใบหนาทำให้คนตัวเล็กหลุดจากห้วงความคิด ก่อนจะหยิบเอาเครื่องมือสื่อสารออกมารับสายอย่างไม่รีบร้อน  ชื่อเพื่อนนักศึกษาสาวที่เพิ่งเดินจากไปเมื่อหลายสิบนาทีก่อนปรากฏขึ้นที่หน้าจอ


“ว่าไงแพรวา”

“รีบมาที่สนามเร็วชา... เจมส์เฟรมเต้บาดเจ็บอยู่!”  ได้ยินเสียงตื่นๆ ของแพรวาออกมาจากปลายสาย เจ้าตัวก็รีบคว้ากระเป๋าวิ่งไปที่สนามทันที



คนตัวเล็กเหนื่อยหอบ... กว่าจะมาถึงที่สนามแม้จะไม่ได้ไกลมากแต่เพราะรีบมาด้วยความตกใจมันก็เป็นแบบนี้ แถมยังต้องขึ้นบันไดมาชั้น 3 ด้วยกลัวจะไม่ทันการถ้าต้องรอลิฟท์  มือเรียวผลักประตูสนามเข้าไปก็พบผู้คนมากมายที่นั่งชมการแข่งขันอยู่  คชาไม่ได้สังเกตอะไรในสนามนัก หากแต่ก็วิ่งไปยังฝั่งที่เพื่อนคณะของตัวเองนั่งอยู่กัน

และตอนนั้น... เขาก็พบว่า ไม่มีใครเป็นอะไรเลย!


เจมส์ยังวิ่งอยู่ในสนามดี... แถมวิ่งปร๋อชู้ตเข้าได้แต้มเสียด้วย  ส่วนโปเต้กับเฟรมเพิ่งจะได้เปลี่ยนตัวเข้าไปลงเล่นเมื่อกี๊นี้

“แพรวา”  คชาเอ่ยเรียกพลางทำหน้าตึงใส่ หากแต่เจ้าตัวกลับไม่แสดงสีหน้าที่บ่งบอกถึงความสำนึกผิดเลยแม้แต่นิดเดียว

“ไม่บอกแบบนี้แล้วจะมาหรอ”  เธอเอ่ยเรียบๆ  “ไปเปลี่ยนชุดไป เพื่อนรออยู่ คนอื่นเริ่มเหนื่อยกันแล้ว”  เอ่ยไล่ให้เพื่อนหน้าหวานไปทำสิ่งที่ควรกระทำในฐานะสมาชิกทีมบาสเกตบอลคนนึง  มือเรียวสวยหยิบเสื้อสีดำกับกางเกงขาสั้นยื่นส่งให้อีกคน  “หยิบมาจากที่ห้องให้”  ที่เป็นเช่นนั้นเพราะคชายังฝากเสื้อผ้าบางส่วนไว้ที่ห้องของแพรวานั่นเอง


หนุ่มร่างเล็กถอนหายใจยาวๆ หากแต่ก็ทำตามแต่โดยดี ถูกมัดมือชกแบบนี้จะขัดขืนก็คงไม่ได้  แพรวามองแผ่นหลังนั้นที่ค่อยๆ เดินออกไปพลางยิ้มกริ่มออกมา


กว่าร่างเล็กที่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าจะเดินกลับมาที่สนามได้ก็ตอนที่เสียงนกหวีดเป่าเริ่มการแข่งขันควอเตอร์ที่ 3 พอดี  คชารีบก้าวขาไวๆ แต่กลับก้มหน้ามองเสื้อสีดำที่กำลังสวมอยู่... เสื้อสีดำเบอร์ 3 สกรีนชื่อ TAOTAO ที่เจ้าของให้ยืมใส่ตั้งแต่ครั้งก่อน  เขาลืมคืนมันให้กับเจ้าของ แล้วก็ถูกแพรวาตลบหลังจนได้  ยิ่งคิดก็ยิ่งละอาย เอาเป็นว่าเขาจะใส่เป็นครั้งสุดท้ายแล้วรีบเอาไปคืนเจ้าของก็แล้วกัน

มือเรียวรีบหยิบเอาเสื้อเบอร์สีน้ำเงินมาสวมทับทันทีทันใด ตามองดูสกอร์ก็พบว่ามันค่อนข้างสูสีเลยทีเดียว

37-34 คณะบัญชีกำลังนำอยู่สามแต้ม หากแต่ทางนิเทศก็วิ่งกันเต็มที่สุดกำลัง โดยเฉพาะเจมส์ที่ดูท่าจะเหนื่อยไม่น้อย ดูท่าคงจะไม่ได้พักมาตั้งแต่ควอเตอร์แรก  ทว่าอีกฝ่ายก็ไม่เบาเลยทั้งเกมรับเกมรุก  ชั่ววูบหนึ่งที่เขาสังเกตเห็นเจ้าของเสื้อสีดำตัวนี้ยืนพักอยู่ที่ข้างสนามฝั่งตรงข้าม  เพราะมันไกลก็เลยไม่ได้เห็นอะไรชัดเจนนัก

หัวใจกระตุกวูบเมื่อเห็นใบหน้าเรียบนิ่งมองมาทางนี้ เขารีบก้มหน้าลงในทันทีไม่กล้าสบสายตาคู่นั้น  นับหนึ่งถึงสามในใจก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าอีกฝ่ายไม่อยู่เสียแล้ว

ฟู่ว... โล่งอก


“ชา... เตรียมตัว ควอเตอร์สุดท้ายนายต้องลงนะ”  แพรวาหันมาพูดสั่งหน้านิ่ง  เขาเพียงแต่พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะเริ่มยืดเส้นยืดสาย แม้ในใจจะยังรู้สึกหวั่นๆ ก็ตาม


ช่วงเวลาไม่กี่นาทีไม่พอให้คนตัวเล็กที่ยืนยืดเส้นยืดสายข้างสนามได้ทันเตรียมใจ ขาเรียวค่อยๆ ก้าวเข้าไปในสนามตามคนอื่น  ตาปรายมองเพื่อนๆ หลายคนที่หมดแรงข้าวต้มกันเกือบหมด ยิ่งเห็นความพยายามทุ่มเทสุดชีวิตขนาดนั้นแล้วนึกไม่อยากแพ้ในการแข่งขันนัดนี้เอาเสียเลย

   ตาคู่เรียวเหล่มองทีมฝั่งตรงข้ามที่สวมเสื้อสีแดงไม่ต่างจากวันนั้น ถ้ามองจากส่วนสูงฝ่ายตรงข้ามดูจะชนะอยู่เห็นๆ  ท่ามกลางสมาชิกทีมคณะบัญชี  เต๋ายังคงโดดเด่นสะดุดตากว่าใคร  ผิวขาวจัดยังคงตัดกับเสื้อสีแดงตัวเดิม หากแต่หมายเลข 23 บนเสื้อทำเอาเขาจุกอยู่ไม่น้อย

คชาแสร้งทำเป็นสนใจสกอร์ด้านหลังเมื่อถูกจับได้ว่าแอบมองอีกฝ่ายอยู่ หากแต่ไม่กี่วินาทีถัดมา เสียงนกหวีดก็ดังขึ้นเป็นสัญญาณให้เริ่มควอเตอร์สุดท้ายของเกม


ทุกอย่างเริ่มต้นรวดเร็วไปหมดเมื่ออีกฝ่ายครองบอลได้ก่อนในขณะเริ่มเกม  เขาลนลานทำอะไรแทบไม่ถูก นึกในใจว่าควรจะก้าวไปแย่งลูกบอลกับคนอื่นเขาหรือควรจะไปกันตรงไหนทำอะไรก่อนดี  เผลอครู่เดียว อีกฝ่ายก็ชู้ตลงซวบได้แต้มเพิ่มไปอีก 2 คะแนน
46-42 คือสกอร์ในตอนนี้  ทีมคณะบัญชีเริ่มตีห่างออกไปอีกแล้ว!

“ชา! ทำตามที่บอกสิ!”  เสียงแหลมของแพรวาตะโกนดังเข้ามาช่วยเตือนสติเขาอีกครั้ง สิ่งที่เธอแอบกระซิบก่อนเข้ามาในสนามเขายังจำได้แต่ไม่คิดว่าจะต้องทำจริงๆ  ทว่าพอเหลือบไปมองต้นเสียงก็เห็นสีหน้าจริงจังของเธอกับร่างที่นอนแผ่บนพื้นอย่างเหนื่อยหอบของเจมส์

อย่ากดดันกันอย่างนี้ได้ไหมเล่า TT

“ชา!”

เอาก็เอาวะ!



เมื่อได้เริ่มเกมใหม่อีกครั้งโดยคณะนิเทศศาสตร์ที่เพิ่งเสียแต้ม คนตัวเล็กไม่ได้รอรับบอลแต่อย่างใด หากแต่ตรวจจับทีมเสื้อสีแดง พอพบคนที่เป็นเป้าหมายก็รีบก้าวเข้าไปหาไวๆ ก่อนจะเอาตัวบังไว้ไม่ให้อีกฝ่ายได้รับบอลจากเพื่อนร่วมทีม

‘คชา... ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น แค่กันเต๋าไว้’ 

คำสั่งจากแพรวา!






    เวลาสิบนาทีที่เดินถอยหลังช่างเชื่องช้าในความรู้สึก... ท่อนแขนบางที่กางออกเพื่อกันอีกคนเอาไว้สัมผัสกับผิวร้อนชื้นเหงื่อทำเอาเขาสะดุ้งเป็นระยะ หากแต่ก็ยังระแวดระวังไม่ให้อีกฝ่ายได้รับลูกอยู่ในที

   ใบหน้าหวานหันไปมองหน้าอีกคนแบบจะๆ ก็พบว่าเต๋ากำลังทำหน้าหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย  ไม่รู้ว่าเพราะตัวเขาหรือเพราะสกอร์ แต่คชาจะภาวนาให้เป็นอย่างหลัง

   ก็ตอนนี้คะแนนเสมอกันแล้วนี่นา!


   ช่องว่างที่เกิดขึ้นจากความเผลอไผลของคชาทำให้เต๋าได้รับลูกจากเพื่อนร่วมทีม เขาเลี้ยงมันออกไป ส่งกลับไปกลับมาอย่างรวดเร็วจนคชาตามแทบไม่ทัน และตอนนั้น เต๋าก็ได้รับลูกบอลอีกครั้งจนเป็นโอกาสได้ชู้ต

   ลูกกลมๆ สีส้มเคลื่อนที่โค้งไปยังห่วง มันไหลวนอยู่บนนั้นก่อนจะกระเด็นออกจากแป้นออกมา  วินาทีนั้นที่คชากระโดดคว้าลูกบอลได้ก่อนจะโยนส่งให้เพื่อนอีกคนในทีมที่รออยู่อีกฟากของสนาม

   เสียงร้องเฮดังลั่นตามมาในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา... หันไปดูก็พบว่า ฝ่ายทีมนิเทศขึ้นนำแล้ว


   46 ต่อ 48  กับเวลาอีกสามนาทีที่แค่รักษาคะแนนเอาไว้ให้คงที่ก็จะเป็นฝ่ายชนะ




ท่ามกลางคนสิบคนในสนาม คชามองดูสมาชิกเบอร์ 23 ของอีกฝ่ายเกือบตลอดเวลา ยิ่งเห็นสีหน้าไม่สู้ดีแบบนั้นเขายิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่ เท่าที่แพรวากระซิบบอกมา ไม่มีลูกไหนที่เต๋าชู้ตไม่ลง

แต่มันเกิดขึ้นสองหนแล้ว ตั้งแต่คชามาอยู่ในสนาม


เขาไม่ได้ตามประกบเต๋าอีกต่อไป หากแต่มาตั้งรับอยู่ในโซนของตัวเองแทน แขนเอื้อมรับบอลจากเพื่อนร่วมทีมที่ส่งมาให้ก่อนจะส่งต่อไปให้เพื่อนร่วมทีมอีกคนหวังจะให้ทำแต้ม หากแต่ทุกอย่างไม่ได้ง่ายไปซะหมดเมื่อลูกบอลถูกตัดจนตกไปอยู่ในทีมอีกฝ่ายสลับไปมาจนน่าปวดหัว  คชาหันไปมองเต๋าอีกครั้งก็พบสีหน้าจริงจังแฝงความเศร้าหม่นที่ทำเอารู้สึกใจไม่ดีเลย

การแข่งขันดำเนินไปอย่างอืดอาด จนเวลาเดินมาถึง 30 วินาทีสุดท้าย


“ชา!”  ไม่ต้องแยกว่าเสียงใคร เขาก็หันไปรับบอลมาจากเพื่อนร่วมทีมคนนั้น และไม่ทันที่สมองจะสั่งการ มือก็เผลอส่งมันไปให้สมาชิกเบอร์ 23 ทีมฝั่งตรงข้ามเสียแล้ว

ก็เล่นเหลือบมองเขาทุกสามวิอย่างนั้น... เลยหลุดมือส่งไปให้จนได้

เต๋าชะงักไปเล็กน้อยหลังจากได้รับลกบอลมาถือไว้ในมือ หากแต่ก็พยายามรวบรวมสติเพื่อชู้ตมันจากระยะไกล เท้าทั้งสองอยู่หลังเส้นสามคะแนนพอดิบพอดี  ลูกนี้จึงถือเป็นลูกชี้เป็นชี้ตาย

สิบวินาทีสุดท้าย…

มือขาวซีดปล่อยบอลสีส้มลอยไปยังแป้นตรงหน้า ลูกกลมๆ หมุนวนอยู่บนห่วงอีกครั้งอย่างสวยงาม  ก่อนจะกระเด็นออกมาราวกับไม่สนใจใยดี

เสียงนกหวีดเป่าหมดเวลา

การแข่งขันบาสเกตบอลนัดชิงชนะเลิศในกีฬาเฟรชชี่ปีนี้ คณะนิเทศศาสตร์เป็นฝ่ายชนะไปอย่างเฉียดฉิว

   เสียงเฮดังลั่นมาจากฟากหนึ่งของสนาม ชัยชนะที่ได้รับมันทำเอาแต่ละคนดีใจแทบไม่ได้สติ  ทุกคนลืมความผิดพลาดทุกอย่างในการแข่งขัน ก่อนจะกอดคอกันอย่างดีใจ


   ต่างจากอีกฝั่ง ที่มีเพียงหยาดเหงื่อและหยดน้ำตา

   ภาพคนตัวเล็กที่ถูกเพื่อนๆ รุมกอดอย่างสุขสันต์มันช่างบาดลึกลงไปในหัวใจ  สมาชิกเบอร์ 23 คว้ากระเป๋าก่อนจะเดินจากไปอย่างหมดแรงเต็มทน


   เขาแพ้อีกแล้ว...








TBC

ขอบคุณคนอ่านทุกคนมากๆ จ้า อิอิ
เอาจริง เราดราม่าไม่เก่งหรอกนะ ไม่ต้องห่วงกัน แหะๆ

ติชมได้ตามสบายจ้า

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 16 หน้า 6 (up 30Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 30-06-2012 21:17:02
เทคะแนนให้แอ้ม  o13 หญิงฉลาดชาติเจริญ
ท่าทางเพื่อนๆจะรู้กันหมดแล้ว และเชียร์เต็มที่ ขอให้เข้าใจกันเร็วๆน๊า  :m1:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 16 หน้า 6 (up 30Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 30-06-2012 22:07:07
 :z3:

รอตอนต่อไปเผื่อว่าอะไรๆ จะดีขึ้น
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 16 หน้า 6 (up 30Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 30-06-2012 22:39:30
ถ้าจะดราม่า อีกยาว  :เฮ้อ:

แต่ก็รอตอนต่อไปครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 16 หน้า 6 (up 30Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 30-06-2012 22:48:19
นั่นสิ ดราม่า สุดสุด
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 16 หน้า 6 (up 30Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: [newZy]CASS ที่ 30-06-2012 23:07:54
ขอให้มีอะไรๆดีขึ้นด้วยเถ้ออออ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 16 หน้า 6 (up 30Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 30-06-2012 23:26:06
แพรวาแสบอะ ไม่รู้แบบนี้จะยิ่งทำเอาชาเข้าหน้าเต๋าติดไหมเนี้ย
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 16 หน้า 6 (up 30Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: iDistort ที่ 30-06-2012 23:29:13
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 16 หน้า 6 (up 30Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: Olivia23 ที่ 30-06-2012 23:55:09
ชาค่ะใจร้าย ทำไมไม่เคลียร์กับเต๋าเต๋าฮะ   :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 16 หน้า 6 (up 30Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 01-07-2012 01:28:03
งะT^T โหดร้ายแท้ๆ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 16 หน้า 6 (up 30Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 01-07-2012 08:15:28
มาม่าเต็มชามแถมขึ้นอึดดดด   โอ๊ย!ๆ เจ็บ   
ดีกันซะทีเถ้อะ... อย่างเป็นอย่างนี้เลย
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 16 หน้า 6 (up 30Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: biwtiz ที่ 01-07-2012 20:44:06
เมื่อไหร่จะดีกันสัก   เศร้าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ ขอวลอีกนิดนคดี๋ยวอมลงห้น่นอน อย่กันลืมน
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 01-07-2012 21:07:39
คชรีบๆคลียร์ลยชักปวดตับล้ว
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 16 หน้า 6 (up 30Jun)
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 03-07-2012 22:43:32
♀ TOM (or) BOY ♂
17
[/color]






หยดน้ำใสค่อยๆ รินไหลออกจากดวงตาทีละน้อย และดูไม่มีทีท่าจะหยุดลงง่ายๆ ในยามนี้  ช่างไม่เข้ากันกับหุ่นแบบผู้ชายอกสามศอกเลยสักนิดเดียว

“ไอ้เจมส์ มึงจะร้องทำไม นี่พวกเราชนะนะเว่ย”
“ฮือ ก็กูไม่เคยแข่งชนะเลยนี่หว่า”
“อ้าว ไหนบอกแชมป์เก่า”
“กูโม้ไปงั้นแหละ!”

   ภาพชายร่างสูงใหญ่ถือผ้าขนหนูลายหมีพูห์เช็ดน้ำตาไปด้วยดูออกจะน่าขำอยู่นิดๆ หากแต่ภาพเหล่าเพื่อนๆ ที่รุมปลอบใจปนกวนส้นเล็กๆ ก็คงเรียกรอยยิ้มจากผู้พบเห็นได้ไม่น้อย

   “เลิกร้องได้แล้วไอ้หมี เดี๋ยวพรุ่งนี้ซื้อน้ำผึ้งให้”
   “เดี๋ยวกูซื้อส้มสายน้ำผึ้งให้”
   “งั้นกูซื้อน้ำส้มสายชูให้”
   “ไม่เกี่ยวกันว้อยยยยย!”

   หนุ่มร่างเล็กยืนมองภาพเพื่อนๆ แสนสุขสันต์ของเขาก็อดยิ้มออกมาด้วยไม่ได้ ดีใจกับทุกคนที่ได้รับชัยชนะจากการแข่งขันเมื่อครู่นี้ ทว่าในใจยังกลับรู้สึกจุกๆ อยู่ดี  มือเรียวดึงเสื้อเบอร์ที่สวมทับอยู่ออกเมื่อมีคนเรียกเก็บคืน... เพียงเท่านั้นหมายเลข 3 กับชื่อใครบางคนบนเสื้อก็สะกิดแผลเดิมขึ้นมาในใจ

   “เฮ้ย! ไอ้ชา อย่าชักช้า เดี๋ยวจะไปกินเนื้อย่างต่อกัน  รีบไปเปลี่ยนชุดเร็ว”

   “เออ รอเดี๋ยว”  เขาขานรับส่งๆ ไป ก่อนจะถอนหายใจเหนื่อยๆ ออกมา


   มันจะจบลงแบบนี้จริงๆ ใช่ไหม?
   แล้วในที่สุด เราก็กลาย...เป็นคนไม่รู้จักกัน






- - -






หนุ่มผิวขาวจัดเดินอยู่เดียวดายภายใต้ท้องฟ้าอันมืดมน บรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนไม่ต่างอะไรนักกับสภาพจิตใจ  สองเท้าเดินก้าวฉับๆ แม้ใจจะหมดเรี่ยวแรงเสียเต็มประดา  หากแต่เพียงเดินไปได้แค่ครึ่งทาง สายฝนก็เริ่มเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่เห็นใจคนบนพื้นดิน

   รอยยิ้มเศร้าผุดขึ้นที่ริมฝีปาก ขาไม่คิดแม้แต่จะก้าวหลบหนีเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้มันชำระล้างคราบเหงื่อไคลออกไปจนหมดสิ้น  ปล่อยให้สายฝนอำพรางน้ำตาที่ไหลรินลงมาผสมปนเปกันต่อไป

   เพราะหลังจากวันนี้ เขาจะไม่เสียใจ... เขาบอกกับตัวเอง




   เสียงฝนดังซู่ซ่าไม่หยุดจนกระทั่งเดินมาถึงตรอกทางเข้าบ้าน ตึกแถวหอพักสีชมพูช่างดูน่าหดหู่เหลือเกินในความคิด มันไร้ชีวิตชีวาแห้งแล้งไม่เหมือนเก่า น่าตลกนะ มันก็แค่ตึก แต่พอขาดใครบางคนไป มันกลับทำเอารู้สึกเงียบเหงาวังเวงได้ขนาดนี้

   หยดน้ำใสจากดวงตาคู่คมหยุดไหลลงมาแล้ว หากแต่แววตายังโศกเศร้าไม่เปลี่ยน เต๋ายกยิ้มมุมปากราวกับจะเยาะเย้ยตัวเอง

   จะเสียใจให้ได้อะไรขึ้นมา? ในเมื่อไม่มีชาค่ะคนเดิมอีกแล้ว ไม่มีชาค่ะที่เคยช่วยเขาจีบแพรวา ไม่มีชาค่ะที่เขาชอบแกล้ง ไม่มีชาค่ะที่ไปกินข้าวด้วยกัน
   หรืออันที่จริง... มันไม่มีชาค่ะแต่แรกแล้วต่างหาก


ร่างสูงค่อยๆ หันหลังให้กับมัน  ก้าวขามายังหน้าบ้านของตัวเอง มืออันเปียกชื้นคว้ากุญแจจากในกระเป๋า ก่อนจะใช้มันเปิดประตูเข้าไป  ใบหน้าขาวซีดหันมามองตึกแถวสีชมพูอีกครั้ง

และเขาตั้งใจ ว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย

อะไรที่ทำแล้วเหนื่อย ก็คงต้องหยุด แล้วพอสักที...

   เขาละสายตาออกจากตึกแถวเบื้องหน้าอันเงียบเหงา ก้มหน้าล็อคประตูบ้านให้เหมือนเดิม

   ลาก่อนชาค่ะ... ลาก่อนคชา...
   แล้ววันข้างหน้า... เราคงเป็นแค่คนเคยรู้จักกัน



   ‘เปรี้ยง!’

เสียงฟ้าผ่าที่ดังขึ้นทำเอาเต๋าเงยหน้ามองออกไปภายนอก ไม่รู้ว่าทำไม เขาถึงรู้สึกราวกับท้องฟ้าจะส่งสัญญาณอะไรกับเขาบางอย่าง  เต๋าก้มลงถอดรองเท้าอันเปียกชื้นวางผึ่งไว้บนชั้น

‘เปรี้ยง!’  ครั้งที่สองตามมาไม่ห่างกัน เขาเงยหน้ามองออกไปด้านนอกอีกครั้ง เพียงวูบเดียวเท่านั้น หัวใจเจ้ากรรมก็กระตุกวาบทันที


   “เต๋า!”   

   น่าตลก... ที่เขากลับได้เห็นหน้าคนที่ตัดใจว่าจะไม่ไปยุ่งด้วยอีกครั้ง  คชายืนอยู่ตรงหน้านี้ เรียกชื่อเขาด้วยความรู้สึกที่ยากจะเข้าใจ
   นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป... เห็นเขาเป็นอะไรนะคชา?

“ขอเข้าไปหน่อยสิ”  กับคนที่ไม่ได้อยากจะใจอ่อนด้วยอีกแล้ว แต่พอเห็นว่าอีกฝ่ายตัวเปียกโชกแค่ไหน ทั้งเสื้อผ้าและเส้นผมที่ลู่ไปกับร่างกาย มันก็พาให้มือเปิดประตูออกให้เอง





เป็นหนที่สองแล้วที่คชาได้เข้ามาเหยียบบ้านหลังนี้ นับตั้งแต่อาทิตย์ก่อนที่มาดูฟุตบอลด้วยกันกับอีกคนกลางดึก  ทว่าช่วงเวลาเพียงอาทิตย์เดียว ก็ทำให้อะไรๆ เปลี่ยนไป

“เต๋า... เรามีเรื่องจะคุยกับนาย”

แม้เขาจะไม่ได้ยืดอกยกไหล่พูดอย่างผ่าเผย แต่ก็ไม่ได้หลบแววตาคู่คมของอีกฝ่ายเลย หัวใจดวงน้อยเต้นดังโครมคราม...มันทั้งตื่นเต้น ทั้งกังวล หากแต่ก็หวั่นไหว

ราวกับทั้งคู่กำลังเล่นเกมจ้องตา คนหนึ่งกำลังรอคอยข้อความที่อีกฝ่ายต้องการจะบอก ส่วนอีกคนกำลังพยายามรวบรวมความกล้าในการพูดความรู้สึกของตัวเองออกมา คชาที่ยืนตัวลีบอยู่เบื้องหน้าค่อยๆ อ้าปากออก

“เต๋า...ไปทำอะไรมาถึงได้เปียกขนาดนี้  รีบไปอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเร็ว  พาเพื่อนขึ้นไปเปลี่ยนชุดด้วยเลย”

ทว่าเสียงของหญิงวัยกลางคนที่เดินเข้ามาพอดีก็ทำเอาบทสนทนาที่ยังไม่ได้เริ่มต้นค้างกลางอากาศแบบนั้น  เต๋าหันไปหาเธอก่อนจะตอบรับกลับไป  “ครับแม่”




ระยะทางสี่ชั้นที่ต้องเดินขึ้นไปเต็มไปด้วยมวลความอึดอัด คชาจดจ้องแผ่นหลังอีกคนที่ก้าวขึ้นไปไวๆ พลางรู้สึกท้อใจอยู่ไม่น้อย
ตั้งแต่เขามาที่นี่... เต๋ายังไม่ได้เปิดปากพูดกับเขาสักคำเดียว แถมใบหน้าเฉยชานั้นก็ทำเอาเขาตีความไปในทางร้ายๆ ได้อีกมากมาย  ถ้าไม่มีสายฝน ถ้าเขาไม่ได้ตัวเปียก เต๋าก็คงไม่ใยดีเขาเลยสักนิดเดียว

   ความเงียบงันยังคงอยู่แม้กระทั่งทั้งสองคนขึ้นมาถึงบนห้อง เต๋าเปิดตู้เสื้อผ้าไม้สีเข้มออกก่อนจะหยิบจับอะไรอยู่ตรงนั้น  ส่วนคชายังยืนนิ่งๆ อยู่แถวหน้าประตู ไม่กล้าจะกระดิกตัวทำอะไรสักอย่างเดียว

   “นี่”  สบตากันเข้าก็ตอนที่เต๋าหันมามองพอดี  คชาสะดุ้งโหยง ยืนนิ่งแข็งเมื่ออีกคนเข้ามาใกล้พร้อมกับยื่นผ้าขนหนูและเสื้อผ้า  “เอาไปเปลี่ยน”

   ถ้าเป็นปกติ เขาคงตอบปฏิเสธเสื้อผ้าพวกนั้นไปแล้ว หากแต่ตอนนี้ เขาได้แต่กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอไป ก้มหน้าแล้วตอบแค่  “ขอบใจ”  เพียงเท่านั้น  ใจจริงอยากให้เต๋าเป็นฝ่ายเปลี่ยนก่อนเหมือนกัน แต่ด้วยความไม่กล้าสู้หน้าก็เลยต้องตามน้ำไป  หากแต่หัวใจกลับเต้นรัวเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ใจร้ายเกินไปนักกับตัวเอง
   



   หลังจากคชาเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อผ้าของอีกฝ่ายเสร็จ เจ้าของห้องก็ผลัดเข้าไปเปลี่ยนบ้าง เขาได้ยินเสียงซู่ซ่าที่ดังออกมาจากห้องน้ำ เต๋าคงจะอาบน้ำเลย

   คชาใช้ผ้าขนหนูเช็ดเส้นผมที่ยังเปียกชื้น ก่อนจะเดินมายังบริเวณริมหน้าต่าง แหวกม่านออกเล็กน้อยก่อนจะปิดมันลงอย่างเก่า ขาก้าวไปหยุดยืนที่หน้าประตูสีขาวที่จะออกไปยังนอกระเบียง ยืนลังเลไม่นานก็เปิดมันออกไป

   มือเรียวจัดการบิดเสื้อผ้าของตัวเองที่เปียกชุ่มให้น้ำบางส่วนออกไป สะบัดมันอีกทีสองทีก่อนจะวางพาดมันไว้ตรงราวระเบียง

   ร่างเล็กท้าวแขนที่ระเบียงมองออกไปด้านนอก สายฝนหยุดลงแล้วหากแต่อากาศยังเย็นชื้นอยู่ เนื้อตัวที่เริ่มร้อนรุมๆ ทำเอาคชารู้สึกว่าโดนฟ้าฝนเล่นงานเข้าอีกแล้ว

   มือบางตีหน้าผากอุ่นแปะๆ  รู้สึกว่ามันบ้าดี ที่อยู่ๆ ก็ตัดสินใจวิ่งมาที่นี่... วิ่งมา แม้จะไม่รู้ว่าอีกคนอยู่รึเปล่า แค่เพียงคิดว่า ยังไงวันนี้ก็ต้องได้คุยกัน
   เพราะเขาไม่อยากเป็นแค่...คนเคยรู้จักกัน...กับเต๋าเลย


   นึกถึงจุดประสงค์ที่มาในวันนี้ หัวใจก็เริ่มเต้นถี่แรง เขาไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายจะโกรธเขาแค่ไหน ท่าทีเฉยชาที่ได้รับมันทำเอาใจแป้ว หากแต่ลึกๆ ในใจเขามีความหวังว่าเต๋าจะยังเหมือนเดิม

ใจนึกไปถึงอีกคนในห้องน้ำ ร่างกายกลับหลังหัน ก่อนจะพบว่า คนคนนั้นมายืนอยู่ข้างหลังเขาอยู่แล้ว

   ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?


   “ทำอะไร?”
   “เอ่อ... เอาเสื้อมาบิดให้แห้ง”
   “เข้าไปได้แล้ว”
   “อ..อืม”


   คชาหยิบเสื้อและกางเกงที่ผึ่งลมไว้บนราวก่อนจะเดินตามอีกคนเข้าไปต้อยๆ  สมองพยายามนึกคำพูดอย่างที่ตั้งใจในวันนี้
   จะเริ่มจากอะไรก่อนดี?

   “มีอะไร?”  หากแต่เป็นเต๋าที่เปิดบทสนทนาก่อน  “พูดมาสิ”  เสียงเดิมเร่งเร้าคนที่ยังยืนแน่นิ่งเหมือนทำตัวไม่ถูก  ก็ยังไม่ทันเตรียมคำพูดในหัวเลย อยู่ๆ ก็ถามขึ้นมา

   “เรา...”  คชาอ้ำอึ้ง ก้มหน้ามองเท้าตัวเอง ก่อนจะฮึดสูดหายใจเข้าลึก แล้วค่อยๆ ช้อนมองอีกคนที่รอฟัง  เต๋าจ้องมองใบหน้าอีกคนแน่นิ่งไม่วางตา

“เรา...เราเอาเสื้อมาคืน”  คนตัวเล็กพูดพลางยกเสื้อสีดำในมือขึ้น  “แต่เดี๋ยวเราไปซักมาให้ก่อนดีกว่า”  ส่งยิ้มแหยๆ ให้อีกฝ่าย หากแต่เต๋ากลับไม่แม้แต่จะแย้มยิ้มด้วยเลย

มือขาวจัดแย่งเอาเสื้อสีดำตัวเก่าของตนมาไว้ในมือ ก่อนจะเหวี่ยงมันลงไปที่ตะกร้าผ้าอย่างไม่ใส่ใจนัก  “ถ้าจะมาแค่นี้ก็กลับไปได้แล้ว”  ใบหน้าหล่อเหลานั้นยังคงไปด้วยความเรียบตึงที่ทำเอาอีกคนนึกหวั่นในอก

“ยังสิ... ยังไม่หมด”  คชารีบยื้อยุดเอาไว้ก่อนจะถูกไล่จริงๆ  “เราขอโทษ...ที่เคยโกหกนาย”  เสียงใสเอ่ยต่อพลางทำหน้าย่นอย่างขอความเห็นใจ 

“ไม่ได้ตั้งใจจะหลอกนะ... เอ่อ...เอาจริงๆ ก็ตั้งใจ แต่ที่โกหกก็เพราะจำเป็นนะ มันหาหออยู่ไม่ได้แล้วอ้ะ จริงๆ ต้องโทษเฟรมด้วย เพราะเฟรมมันหาหอนี้มาให้ ใจจริงเราก็ไม่ได้อยากทำแบบนี้เลย”

“แล้วไง?”

คำตอบกลับสั้นๆ หลังจากคำพูดอธิบายเสียยืดยาวทำเอาคนตัวเล็กเสียเซลฟ์ไปเลย  “แล้วเต๋า...เต๋าจะยกโทษให้เราได้ไหม?”

“อืม ยกโทษให้ แค่นี้ใช่ไหมที่จะพูด?”

ยกโทษหรอ? ไม่จริงเลยสักนิดกับสีหน้าเรียบเฉยที่เต๋าทำใส่ ถ้ายกโทษให้แล้วทำไมถึงยังทำหน้าแบบนั้น หรือคำว่ายกโทษกับหายโกรธมันไม่เกี่ยวกัน


“เต๋า ขอโทษจริงๆ นะ เรากลับมาคุยกันเหมือนเดิมได้ไหม? อย่าทำหน้าแบบนี้ใส่เราดิ”  คนตัวเล็กเริ่มพูดเสียงอู้อี้ด้วยอารมณ์น้อยใจ เขาเริ่มทำอะไรไม่ถูกแล้ว นึกโทษตัวเองที่คำโกหกมันกลายมาเป็นดาบทิ่มแทงตัวเอง

สำหรับตอนนี้ แค่...คนรู้จัก...เต๋าจะให้เขาได้รึเปล่า เขายังไม่รู้เลย


“เรื่องวันนี้ก็ด้วย เราไม่ได้ตั้งใจจะทำให้นายชู้ตไม่ลงนะ ไม่ได้ตั้งใจจะไปกันด้วย แต่เพื่อนสั่งมา”  คชาพยายามอธิบายเพราะกลัวจะถูกเข้าใจผิด  “เพื่อนบอกให้ไปกันจริงๆ นะ ไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งนายเลย”

“แล้วที่มาที่นี่...ใครสั่งมาอีก?”

“เปล่านะ เรามาของเราเอง”  คชารีบปฏิเสธทันควัน  “จะหาว่าเราเห็นแก่ตัวก็ได้ แต่เราไม่อยากเสียเต๋าไป”

ไม่อยากเสียเต๋าไป... ใครกันแน่ที่ทิ้งใครก่อนนะ? เขาเก็บคำถามนี้ไว้ในใจ ไม่ได้พูดมันออกมา ด้วยเพราะสีหน้าลูกหมาหงอยๆ ของคชาที่ทำเอาเขาเศร้าแทน เขาถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆ เมื่อเห็นภาพนั้น  ก่อนจะเป็นฝ่ายพูดบ้าง

“แล้วทำไมอยู่ๆ ถึงหายไป?”  เสียงทุ้มที่พูดขึ้นทำเอาอีกคนเริ่มใจชื้นขึ้นมาอีกนิด อย่างน้อยเต๋าก็ไม่ถึงกับเฉยเมยไม่สนใจเขาแล้ว

“ก็จะให้เราสู้หน้าเต๋าได้ยังไง หลอกไว้ตั้งขนาดนั้น อีกอย่าง...”  คชานิ่งไปพลางคิดว่าจะพูดหรือไม่พูดดี

“อีกอย่างอะไร?”

“ไม่มีอะไร”

“อีกอย่างอะไร?”

“ก็เต๋า...เต๋าชอบเรา”


ประโยคสั้นๆ ที่อีกฝ่ายพูดมันทำเอาคนฟังถึงกับนิ่งไป  เขาชอบคชา ใช่ เขาชอบคชา... แต่ใครจะคิดว่ามันจะเหตุผลที่อีกฝ่ายจากเขาไปแบบนี้
โดนต่อยหน้าสักทียังจะดีกว่าต้องมาได้ยิน


“เราไม่ได้หมายความแบบนั้นนะเต๋า... เดี๋ยวสิ อย่าเดินหนี”  คนตัวเล็กรีบไปกั้นหน้าอีกคนเอาไว้ ยืนขวางประตูเอาไว้อย่างนั้นแหละ

“ฟังก่อนสิ ยังพูดไม่จบเลย”

“เต๋า... เต๋ารังเกียจไหม ที่ตัวเอง...ชอบผู้ชาย?”

ไม่มีคำตอบจากริมฝีปากหยักคู่นั้น มีเพียงแววตาที่ยากจะคาดเดาส่งมาให้ คนตัวเล็กยังคงทำใจดีสู้เสือ ประสานตามองแม้จะรู้สึกกลัวจับใจ
กลัว... ว่าอีกฝ่ายจะไม่ต้องการเขาแล้วจริงๆ

“ถ้าเต๋ารังเกียจ ก็คงไม่แปลกหรอก ตอนแรกเราก็มึนๆ กับตัวเองเหมือนกัน”  กว่าเขาจะคิดได้ ก็เกือบจะสายไปเสียแล้ว

“แต่ถ้าไม่... ขอโอกาสให้เราอีกทีได้รึเปล่า?”


ตาคู่ใสช้อนมองใบหน้าอีกคนอย่างอ้อนวอน มือบางจับมืออีกฝ่ายเอาไว้แม้จะรู้สึกเคอะเขินอยู่ก็ตาม

“อย่างน้อย เรากลับมาเป็นเพื่อ..น.....”


ข้อความท้ายประโยคถูกกลืนกินด้วยริมฝีปากของอีกคนจนหมดสิ้น มือบางที่จับมืออีกคนไว้เริ่มคลายออกเพราะความตกใจ หากแต่เต๋าก็เป็นฝ่ายกระชับมันไว้แทน แผ่นหลังบางถูกดันจนชิดกับบานประตู

มือหนาข้างที่เหลือยกขึ้นสัมผัสใบหน้าให้เอียงรับสัมผัสหอมหวานจากเขาอย่างถนัดถนี่ ลิ้นยาวค่อยๆ สอดเข้าไปทีละนิด หยอกล้อกับอีกคนที่เริ่มละเลียดรับรสชาตินั้นเข้าไปชิมเสียบ้าง  แม้จะดูเงอะๆ งะๆ ไม่ถูกต้องสักอย่าง  แต่เต๋ากลับไม่เคยมีจูบครั้งไหนทำให้รู้สึกดีเท่าครั้งนี้เลย

เพราะมันคือจูบที่มอบจากหัวใจ...เพื่อสื่อไปถึงหัวใจอีกดวง


ตาคู่เรียวจากที่เคยหลับปี๋กลับค่อยๆ คลายความหวาดเกร็ง ก่อนจะเริ่มลืมตาขึ้นมามองสภาพความเป็นจริง
ถึงจะเขิน ที่ต้องเสียจูบให้คนคนเดิมอีกครั้ง แต่ไม่ใช่ไม่เต็มใจเสียหน่อย คชาเต็มใจ หากมันจะทำให้อะไรๆ จะกำลังแปรเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดี แม้ยังไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะต้องเผชิญกับอะไรบ้างก็ตาม
   

   แผ่นหลังที่เริ่มเสียการทรงตัวก็ทำให้คนตัวเล็กกอดอีกคนเข้าไว้ด้วยความตกใจ... เขาพิงประตูอยู่ไม่ใช่หรอ? แล้วตอนนี้มันหายไปไหน?


   จูบอันยาวนานชะงักลงกลางคันเมื่อทั้งคู่รู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง และเพียงไม่นานก็พบกับความจริง


   “แม่ให้มาตามไปกินข้าว”  เจ้าน้องสาวแก้มยุ้ยตัวแสบนี่เองที่โผล่เข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียงกันแบบนี้  แถมแววตาสนุกสนานของเจ้าตัวก็ทำให้เต๋ารู้ว่าน้องคนนี้คงจะเห็นอะไรดีๆ เมื่อครู่หมดแล้ว  รอยยิ้มล้อเลียนช่างดูทะเล้นแก่แดดเหลือเกินในสายตาพี่ชาย หากแต่กับคนมาใหม่กลับรู้สึกอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนดี

   “ทำธุระเสร็จแล้วก็รีบลงมานะพี่เต๋า”  เธอเอ่ยอย่างมีเลศนัย ก่อนจะเปลี่ยนโฟกัสไปที่หนุ่มรุ่นพี่ที่ยืนส่งยิ้มเจื่อนๆ มาให้  “พี่สะใภ้ด้วย รีบลงมานะ เดี๋ยวกับข้าวเย็นหมด”

เด็กสาวพูดจบก็หันหลังเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี ปล่อยให้พี่ชายกับพี่สะใภ้ (ที่แม่เรียกว่าเพื่อนพี่เต๋า) ได้อยู่กันต่อตามลำพัง



ไว้วันหลังแอบเอากล้องมาติดไว้ดีไหมนะ?








TBC

ดีกันแล้วนะ ไม่ดราม่าแล้วนะ ฮ่าๆ
โซซอรี่สำหรับพลพรรครักความดราม่าด้วยนะจ๊ะ


หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 17 หน้า 6 (up 3 July)
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 03-07-2012 23:04:41
 :mc4: คุยกันได้ซะที


น้องสาวของเต๋านี่ สุดยอด :jul3:


ขอบคุณและรอตอนต่อไปนะครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 17 หน้า 6 (up 3 July)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 03-07-2012 23:27:25
 :จุ๊บๆ:

จูบกันไปแล้ว
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 17 หน้า 6 (up 3 July)
เริ่มหัวข้อโดย: Olivia23 ที่ 03-07-2012 23:32:39
ดีๆ ติดเลยๆ หิหิ :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 17 หน้า 6 (up 3 July)
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 03-07-2012 23:47:58
พี่สะใภ้ *-*
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 17 หน้า 6 (up 3 July)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 04-07-2012 00:46:56
ดีกานทั้งทีเกือบจะเสียตัวไปซะละ อิอิ

รอรอน้อ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 17 หน้า 6 (up 3 July)
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 04-07-2012 07:18:40
น่ารักอ่ะ
หลังจากนี้ก็จะหวานแล้วใช่เปล่า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 17 หน้า 6 (up 3 July)
เริ่มหัวข้อโดย: papark ที่ 05-07-2012 01:30:57
ว๊ากกกก แฮปปี้เอน ♥

ดีใจชะมัด ผมอ่านแล้วเขินอ้ะ!

น้องสาวเต๋าสาววายแท้บ่? 5555

ขอบคุณมากครับ  ~
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 17 หน้า 6 (up 3 July)
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 05-07-2012 06:44:13
คุณน้องขัดจังหวะ มีจะเอากล้องมาถ่ายอีก เต๋าชาต้องระวังตัวดีๆ นะ เดี๋ยวคลิปหลุด
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 17 หน้า 6 (up 3 July)
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 05-07-2012 08:48:08
ได้ใจพี่ไปเลยน้อง  :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 17 หน้า 6 (up 3 July)
เริ่มหัวข้อโดย: fastation ที่ 06-07-2012 22:59:42
เคลียร์กันได้แล้วดีจัง ว่าแต่ชักอยากเป็นน้องของเต๋าซะแล้วสิ -.,-
รออ่านต่อจ้า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 17 หน้า 6 (up 3 July)
เริ่มหัวข้อโดย: bangkeaw ที่ 07-07-2012 01:30:56
กรี๊ด พี่สะใภ้  :laugh:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 17 หน้า 6 (up 3 July)
เริ่มหัวข้อโดย: akihito ที่ 11-07-2012 12:29:13
ติดกล้องไว้แล้วเอามาแบ่งกันบ้างนะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 17 หน้า 6 (up 3 July)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 11-07-2012 14:33:01
ใกล้แล้ว ใกล้แร้วว ^^

หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 17 หน้า 6 (up 3 July)
เริ่มหัวข้อโดย: FortuneTeller ที่ 11-07-2012 17:51:11
ให้ตายสิ... ไม่เคยอ่านนิยายให้ห้องที่ยังโพสท์ไม่จบมานานมากแล้วนะคะ
ส่วนมากจะอ่านแค่เรื่องที่จบแล้วตลอด

แต่พอบังเอิญได้เห็นว่าเป็นเรื่อง นายต๋าวว กับนายขาชา... ก็อดอ่านไม่ได้
ชอบคู่นี้ม๊ากก มากกกก....
ลุ้นสุดๆ ชอบมากค่ะ :)
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 17 หน้า 6 (up 3 July)
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 14-07-2012 01:14:05
น่าร๊ากกกกกกกกก  :-[
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 17 หน้า 6 (up 3 July)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 14-07-2012 14:43:58
โอ๋ยยยยย เราพลาดเรื่องนี้ไปได้เยี่ยงไร
น่ารักกกกกก มั่กกกกกกกก!!!
ทุกอย่างอ่ะ :impress2:
       เต๋าบอกไป เราไม่ต้องการเพื่อน แต่เราต้องการเหมือนเดิม
ใช่เลย ตูอยากได้แฟนที่ชื่อคชา---บอกไปเต๋า
แต่ตัวขโมยซีน น้องสาวเต๋า
555 สุดยอดมากหนู...กับคำว่า 'พี่สะใภ้'  o13
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 17 หน้า 6 (up 3 July)
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 15-07-2012 14:31:21



    เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ
    พล๊อตแนวดีนะ ^ ^




หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 17 หน้า 6 (up 3 July)
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 16-07-2012 01:52:33



    เหอะๆๆ ได้เรื่องเลย ได้ความรู้สึกดีๆกลับมา
    แล้วดูเหมือนจะได้อนาคตน้องสะใภ้เป็นกองกำลังขาวายแถมมาด้วยนะ




หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 17 หน้า 6 (up 3 July)
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 19-07-2012 20:45:46
♀ TOM (or) BOY ♂
18







วันนี้เป็นวันศุกร์
เพียงวันธรรมดาทว่าพิเศษกว่าทุกครั้ง เนื่องจากโต๊ะอาหารสี่เหลี่ยมขนาดกลางพรั่งพร้อมไปด้วยสมาชิกทั้งสี่ของครอบครัวตัวต.
เพราะปกติครูภาษาไทยอย่างแม่เต่ามักต้องอยู่เวรที่โรงเรียนในวันศุกร์ตอนเย็น  ต๋อ..ลูกสาวคนเล็กก็ไปเรียนพิเศษวาดรูป  เต๋อ..ลูกชายคนกลางมีซ้อมบาสเกตบอล  ส่วนพนักงานบริษัทอย่างพ่อต๋อยก็มักจะรถติดกว่าจะกลับมาถึงบ้านก็มักเลยเวลาอาหารไปแล้ว เหลือก็แต่ลูกชายคนโตอย่างเต๋าที่ถึงบ้านเร็วเพราะบ้านอยู่ใกล้มหาลัย หากแต่ก็หาอะไรใกล้ๆ กินเองเกือบทุกวัน
แขกของบ้านอย่างคชา พอได้ยินอย่างนั้นเข้าก็ส่งรอยยิ้มแห้งๆ ให้กับคนอื่นๆ บนโต๊ะอาหาร  ปกติครอบครัวเพียงพอไม่ค่อยได้กินข้าวเย็นพร้อมหน้ากันในวันธรรมดา แต่ไหงวันที่เขาวิ่งฝ่าสายฝนมาง้อใครบางคน มันถึงได้เป็นวันที่สมาชิกอยู่กันพร้อมหน้าแบบนี้ล่ะ

“อยู่มหาลัยเต๋ามันโดดเรียนไปเที่ยวไหนบ้างรึเปล่า?”  น้ำเสียงอบอุ่นของพ่อต๋อยเอ่ยถามเรียบๆ 

คชานิ่งคิดก่อนจะส่ายหน้าเป็นคำตอบ  “ไม่รู้สิครับ คือเรา..อยู่คนละคณะกัน”
จะว่าไป...แล้วเขารู้อะไรเกี่ยวกับเต๋าบ้างนะ?

“คชาเรียนนิเทศน่ะพ่อ”  ลูกชายตอบแทนให้

“แล้วไปรู้จักกันได้ยังไงล่ะ?”  แม่เต่าถามขึ้นบ้าง แปลกใจไม่น้อยที่ทั้งสองคนเพิ่งรู้จักกันในมหาวิทยาลัยแต่สนิทสนมกันขนาดมาที่บ้าน...เพราะมีแค่เพื่อนเต๋าอีกไม่กี่คนเท่านั้นที่เคยมาที่นี่

“รู้จักเพราะ...เตะบอลด้วยกันน่ะครับ”  คชาแย้มยิ้มหวานด้วยความภูมิใจในการแถอย่างแนบเนียนของตัวเอง “ชอบฟุตบอลเหมือนกันด้วย”

“อ๋อ อย่างนี้เอง ว่าแต่คชาบ้านอยู่ไหนล่ะ?”

“มาจากโคราชครับ”

“หรอจ๊ะ แล้วตอนนี้พักอยู่ไหน?”

“อยู่บ้านเพื่อนอีกคนน่ะครับ แก้ขัดไปก่อน แต่เดี๋ยวกำลังจะย้ายเข้าหอแล้วครับ”

   “อยู่หอทำไมพี่ชา มาอยู่นี่สิ”  น้องสาวแก้มยุ้ยตาโตพูดทั้งๆ ที่ยังเคี้ยวไม่หมดดี  “จะได้อยู่กับพี่เต๋าไง... กับต๋อด้วย”  รอยยิ้มสดใสผุดขึ้น หากแต่คนถูกพาดพิงอย่างคชากลับรู้สึกว่ามันดูเจ้าเล่ห์ยังไงพิกล  “เนอะพี่เต๋อ”  หันไปขอความเห็นจากพี่ชายคนกลางพลางกระซิบกระซาบในสิ่งที่คชารู้สึกเสียวสันหลังชอบกล

   “อย่าดีกว่าครับน้องต๋อ เกรงใจจะแย่”  และเพียงแว้บเดียวเท่านั้น คชาก็เห็นแววตาวิบวับจากน้องเต๋อในเชิงล้อๆ คล้ายคลึงกัน

   “เกรงใจอะไร บ้านเราชิลๆ อยู่แล้วพี่... พี่เต๋าอะว่าไง?”  น้องชายว่าพลางหันไปสะกิดพี่ชายที่นั่งเงียบอยู่  เห็นดังนั้น คชาจึงส่งสายตาขู่ๆ กลับไปถึงอีกคน
   อย่าได้ตอบเห็นด้วยเชียว!

   “มาอยู่ด้วยกันไหมชา?”
   พอกันทั้งพี่ทั้งน้องเลยวุ้ย!

   ก่นด่าอีกคนในใจหากทว่าใบหน้ากลับร้อนเอาดื้อๆ เมื่อเห็นแววตาของคนพี่ไม่มีวี่แววขี้เล่นอยู่เลยสักนิด ใบหน้านั้นมองมาอย่างจริงจังจนเขาลอบถอนหายใจ คชาเบือนหน้าหนีหากแต่ก็ไปสบตากับพ่อต๋อยแม่เต่าเข้า

“มาอยู่บ้านเราไหมคชา เพื่อนเต๋าก็เหมือนลูกแม่อีกคนนั่นแหละ”

ได้ยินคำพูดจากคุณแม่แสนใจดีกับการพยักหน้าคล้อยตามของคุณพ่อเข้าแล้ว คชาก็หวนนึกถึงครอบครัวของตัวเองที่โคราชไม่น้อย ไม่ได้โทรไปหาสองวันแล้ว ไม่รู้ตอนนี้แม่กับน้องๆ จะเป็นไงบ้าง

   “ขอบคุณครับ...พ่อ...แม่”  เพิ่งจะเรียกทั้งคู่ว่าพ่อแม่ได้อย่างเต็มปากก็หนนี้  ทั้งสองทั้งใจดีแล้วก็อบอุ่นจริงๆ

“แต่อย่าดีกว่า ผมมากรุงเทพฯ คนเดียวก็อยากลองใช้ชีวิต อยากทำอะไรเองดูบ้าง”  อยากจะพิสูจน์ตัวเองว่าโตแล้ว อยู่คนเดียวได้

   “งั้นก็ตามใจลูก... แต่คืนนี้ค้างที่นี่ก่อนดีไหม ฝนตกอีกแล้ว คงไม่หยุดง่ายๆ แน่” 

   คชายิ้มหวานให้กับคุณแม่คนที่สอง ก่อนจะพยักหน้ารับคำชวนของหญิงวัยกลางคน  “รบกวนด้วยนะครับ”






   หลังมื้ออาหารแสนเรียบง่าย สมาชิกในบ้างต่างก็เริ่มแยกย้ายเข้าไปทำกิจกรรมส่วนตัวของตนเอง น้องเต๋อขึ้นไปอาบน้ำ แม่เต่าขึ้นไปทำแผนการสอนบนห้อง ส่วนพ่อต๋อยกำลังนั่งดูทีวีอยู่ในห้องรับแขกด้านล่างกับลูกสาวที่นั่งขีดเขียนอะไรอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

   “ไหนดูซิ วาดรูปอะไรเนี่ย?”  พี่ชายชะโงกหน้าก้มลงไปดูสมุดวาดเขียนเล่มใหญ่ของน้องสาว  “นี่มัน... ชา มาดูสิ”

   ร่างเล็กก้าวเข้าไปหาสองพี่น้องตามเสียงเรียก ก่อนจะก้มมองลงในสมุดวาดเขียนที่เด็กสาวกางออกให้ดู

   “เอ่อ...”  รูปคนสองคนที่กอดกันอยู่ทำเอาเขายืนนิ่งสนิท ถึงลายเส้นจะเป็นแบบการ์ตูนทว่ามองปราดเดียวก็รู้ในทันทีว่าใครเป็นใคร
   ไอ้คนที่ทำหน้าเขินผมหน้าม้าเห็ดนั่นเขาแน่ๆ ส่วนอีกคนที่ตัวสูงกว่าหน่อยแถมยิ้มเจ้าเล่ห์ก็หนีไม่พ้นไอ้คนที่ยืนยิ้มแฉ่งอยู่นี่แหละ

   “วาดรูปสวยหนิน้องสาว”  เต๋าพูดพลางยื่นมือไปขยี้ผมของเด็กสาวจนยุ่งเหยิง

   “ชอบไหมพี่ชา?”

   “อ่า...”  ถ้าตอบไม่ชอบคงไม่ดีแน่และยิ่งสายตาพ่อต๋อยที่หันมามองอีก นี่ไม่กลัวพ่อต๋อยมาเห็นแล้วสงสัยรึไงว่าน้องต๋อวาดรูปอะไร  “ช..ชอบครับ”

   “งั้นเดี๋ยวต๋อวาดเสร็จจะเอาให้นะ”  เธอยิ้มหวานพลางมองพี่ชายทั้งสองอย่างอารมณ์ดี

“รอแปปนึงนะคุณพี่สะใภ้”

   “น้องต๋อ!!!”   

โชคดีที่พ่อต๋อยเดินออกไปรับโทรศัพท์พอดีและคงจะไม่ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วของลูกสาวคนเล็ก  แต่แค่นั้นก็พาเอาพี่สะใภ้ของน้องต๋อยืนหน้าแดงทำอะไรไม่ถูกจนกระทั่งฝ่ายพี่ชายต้องพูดขึ้น

“ขึ้นห้องไปอาบน้ำกันเถอะชา”

   รอยยิ้มกรุ้มกริ่มที่ประดับบนใบหน้าทำเอาคชาอยากจะยื่นมือไปตีปากอีกคนสักสองสามที
   แต่ทำไม่ได้! ก็ตอนนี้ข้อมือถูกอีกคนลากให้เดินขึ้นห้องไปแล้วสิ






   คชาขึ้นมาบนห้องก็จัดการอาบน้ำให้เรียบร้อยเนื่องจากก่อนหน้าเขาเพียงแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะไม่ได้กะไว้ก่อนว่าจะต้องค้างคืน  คนตัวเล็กในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นของอีกฝ่ายเดินออกมาจากห้องน้ำพลางเช็ดผมที่เปียกชื้น  ไม่ทันได้ทำอะไร โทรศัพท์มือถือก็ส่งเสียงเรียกดังขึ้น คชากดรับมันทันทีเมื่อเห็นว่าปลายสายที่โทรมาคือใคร

   “เป็นไงมั่งวะไอ้เต้”  น้ำเสียงสดชื่นถูกส่งไปยังคนในสายเพราะกำลังคิดว่าจะโทรไปหาพวกมันอยู่พอดี คชาหย่อนก้นลงบนปลายเตียงนอน มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ อีกข้างก็เช็ดผมไปพลาง

   “เฮ้ย ไปกินไม่ชวนกูเลยว่ะ”

   “เออ คราวหน้าเรียกกูด้วย ถ้าไปไม่ชวนอีกกูโกรธ”

   “อือ”

   “ไอ้นี่... ไม่มีอะไรว้อย!”

   “ทำไมวะ?”

   “ไอ้..บ้า...”

   แม้จะเป็นเวลาไม่กี่นาทีที่คชาจดจ่อกับคนในปลายสาย หากแต่ก็สร้างความหงุดหงิดให้กับอีกคนไม่น้อย
   เต๋านั่งมองร่างเล็กที่พูดคุยกับโทรศัพท์กับอีกคนอย่างสนิทสนม ทั้งๆ ก่อนหน้ายังอุตส่าห์วิ่งตามมาง้อเขาอยู่เลย แต่พอเขาหายโกรธแล้วความสำคัญก็คงจะลดลงตามไปด้วยสินะ

‘ปัง!’  เสียงปิดประตูระเบียงดังขึ้นอย่างจงใจเมื่อเจ้าของห้องอดรนทนไม่ไหวเดินออกไปที่ระเบียงแทน เต๋าสูดกลิ่นฝนปล่อยให้อากาศเย็นสบายกระทบผิว ปล่อยความคิดให้ล่องลอยอยู่ไม่นาน  เสียงเอี๊ยดอ๊าดของประตูบานเดิมก็ดังขึ้นพร้อมกับใครบางคนที่ยื่นหน้าออกมาทั้งๆ ที่ยังกำโทรศัพท์อยู่ในมือ

“จะนอนรึยังเต๋า?”  คนตัวเล็กโผล่หน้าออกมาถามเสียงซื่อ

“ยัง”

“อยู่ข้างนอกไม่หนาวหรอ?”  คชาเดินออกมายืนที่ระเบียงบ้าง  “ฝนตกอีกแล้ว”  พูดพลางยกแขนกอดอกไว้เพราะอากาศที่เย็นชื้น
“หึ... ฝนตกก็เลยอดออกไปสิ”  เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นท่ามกลางเสียงฝนโปรยปราย... อยากออกไปขนาดนั้นทำไมจะไม่ได้ยิน

“อ้าว...เต๋าจะไปไหนหรอ?”

   “ใครกันแน่ที่จะไป...”  แน่นอนว่าคำถามนี้ไม่ต้องการคำตอบ  “ร่มแขวนอยู่ข้างล่าง ตรงหน้าบ้าน”  ร่างสูงพูดจบก็เดินเข้าห้องไปอย่างคนไร้อารมณ์ ปล่อยให้อีกคนยืนงงอยู่พักหนึ่งก่อนจะรีบเดินตามเข้าไปบ้างเมื่อพอเดาความคิดอีกฝ่ายได้

   คชามองคนตัวใหญ่ขี้ใจน้อยที่นั่งลงนิ่งๆ บนเตียงนอนก็ลอบยิ้มขำ มาแอบฟังเขาคุยโทรศัพท์กับไอ้เต้ไอ้เฟรมล่ะสิ เขาก็แค่บ่นอยากไปกรึ๊บเหล้ากับพวกมันบ้างแค่นั้นเอง

   อุตส่าห์มาเรียนไกลหูไกลตาแม่แล้ว ก็อยากออกไปกินเหล้าสังสรรค์กันให้พอสนุกสนานเท่านั้นแหละ อีกอย่างวันนี้เพื่อนคนอื่นก็ไปกันพร้อมหน้า เพิ่งเริ่มสนิทกันมันก็อยากจะออกไปเฮฮาด้วยน่ะสิ

   “เต๋า...จะนอนแล้วหรอ?”  แต่พอเห็นอีกวางมาดขรึมใส่แบบนี้ ไอ้ความอยากจะออกไปหาเพื่อนก็สลายไปกับละอองฝน  ร่างเล็กนั่งลงข้างๆ อีกคนพลางเอ่ยเบาๆ  “จะให้เรา..นอนตรงไหนล่ะ?”

   พูดเองก็เขินเองแปลกๆ  ยอมรับก็ได้ว่าแอบคิดลึกกับประโยคที่เป็นฝ่ายเอ่ยออกมาเอง คชายกมือขึ้นเกาศีรษะน้อยๆ  ช้อนสายตามองอีกคนอย่างรอคอยคำตอบ

   เลิกงอนได้แล้วไอ้บ้าเอ๊ย ลงทุนง้อขนาดนี้แล้วนะ!


   “นี่... จะให้นอนไหน?”  คำถามเดิมถูกถามซ้ำเมื่ออีกคนไม่ยอมตอบ ริมฝีปากบางค่อยๆ แย้มรอยยิ้มสดใสเพื่อให้อีกคนค่อยๆ คลายอาการหน้าตึงลงบ้าง

   “ข้างล่าง”

   “ห๊ะ”

   “บอกว่านอนข้างล่าง ไม่ได้หรือไง?”

   ใจร้ายว่ะ!  คชาทำปากยื่นใส่อีกฝ่ายเมื่อได้ยินคำตอบที่ไม่ตรงใจหากแต่ก็พยักหน้าตกลงโดยดี  อุตส่าห์หวังว่าจะได้ยินคำตอบประมาณว่าเต๋านอนขวาคชานอนซ้าย แต่ไหงดันเนรเทศเขาลงมานอนข้างล่างแบบนี้เล่า

   แต่เอาก็เอาวะ... ตอนที่เต๋าเคยไปค้างห้องเขา เขาก็เคยแกล้งให้มันนอนพื้นเหมือนกัน  อย่างน้อยพื้นปาร์เก้ก็ไม่ได้เย็นเหมือนพื้นกระเบื้องในห้องนั้นน่ะนะ  ร่างเล็กคว้าหมอนหนุนลงมาพร้อมด้วยหมอนข้างอีกใบ ก่อนจะนอนแผ่ลงบนพื้นมันทั้งอย่างนั้นแหละ

   พยายามไม่น้อยใจ นึกเข้าไว้ว่า มันก็เหมือนในละครที่พระเอกต้องเสียสละเตียงให้นางเอกยังไงล่ะ

   เท่ชะมัดเลยเรา…


   “นอนละนะเต๋า”

   รอยยิ้มหวานๆ ถูกส่งให้คนที่เพิ่งเดินไปปิดไฟกลับมา หากแต่คชากลับต้องตื่นตกใจ เมื่อถูกอีกฝ่ายช้อนตัวขึ้นมาไว้บนเตียง

   “อ..อะไร?”  น้ำเสียงตะกุกตะกักเมื่อเห็นว่าอีกคนอยู่ใกล้ชิดเพียงแค่นี้... แค่คืบเดียวเท่านั้น ไม่อยากเลยที่เต๋าจะก้มหน้าลงมาช่วงชิงอากาศจากเขาไปได้

   ใบหน้าขาวคมยังคงมองเห็นลางๆ ด้วยแสงจากโคมไฟสีนวล เต๋าก้มหน้าลงมาชิดซะจนคชาเริ่มหายใจติดขัด  อะไรสักอย่างบอกเขาว่าจูบครั้งที่สองของวันกำลังจะสูญไปในไม่ช้า... เปลือกตาบางค่อยๆ หลับลงมาแผ่วเบา

   แต่ก็เปล่า...

   “ฉันบอกให้นายนอนข้างล่าง”  เสียงทุ้มเอ่ยคำประกาศิตอีกครั้ง และนั่นทำเอาอีกคนขมวดคิ้วผูกโบว์อย่างไม่เข้าใจ

   “อื้อ... ก็ให้เราลงไปนอนข้างล่างดิ”  ไม่รู้จะอุ้มขึ้นมาบนเตียงทำไม เอาแขนมากั้นไว้แบบนี้ แถมหน้ายังชิดซะจนจะหายใจรดต้นคออีก มันสยิวกิ้วนะรู้ไหม!

   “ก็กำลังจะทำอยู่นี่ไง”

   พูดจบร่างสูงก็อันตรธานมาอยู่บนตัวอีกคนภายในชั่วอึดใจเดียว อ้อมแขนแกร่งยันฟูกนุ่มไว้ก่อนจะก้มลงตวัดปลายจมูกสูดกลิ่นหอมจากเรือนกาย ครีมอาบน้ำกลิ่นเดิมในวันนี้กลับหอมละมุนกว่าทุกวัน

   “แบบนี้ต่างหาก นอนข้างล่างน่ะ”

   แววตาเรียบเฉยฉายแววความเจ้าเล่ห์ภายในพริบตา


   เสียงหัวใจที่เต้นแรงในตอนนี้มันช่างพาให้กลัวเหลือเกินว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน ไฟสีส้มนวลจากโคมไฟข้างเตียงส่องให้เห็นแววตาแน่วแน่จนเขารู้สึกได้ แผ่นหลังของคชาเริ่มชื้นเหงื่อ อุณหภูมิในตัวจากที่ร้อนรุมๆ เพราะสภาพอากาศยิ่งจะเพิ่มสูงขึ้นไปกว่าเดิม  เขาเริ่มต้นทำอะไรไม่ถูก จะพูดห้ามหรือจะผลักไสอีกฝ่ายออกไปก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเลยสักอย่างเดียว

   และสัญชาติญาณของเขาก็ไม่ผิดจริงๆ... มือบางถูกจับตรึงเอาไว้แน่นไม่ให้เขยื้อนกายหนีไปไหนก่อนริมฝีปากหยักจะโน้มลงมอบจูบหอมหวานแก่เขาอีกครั้ง ไล่ต้อนสัมผัสอย่างหยอกล้อแต่ก็อ่อนโยนลึกซึ้งในคราวเดียวกัน

   มือหนาค่อยๆ เกลี่ยเอาเส้นผมบางที่ปรกใบหน้านั้นอยู่มาทัดหูเอาไว้  เต๋าอยากจะเห็นให้ชัดๆ กับตาว่าอีกฝ่ายทำหน้าอย่างไร มองเขาแบบไหน เมื่อตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาแบบนี้

   ริมฝีปากหนายกยิ้มทันทีเมื่อเห็นสีหน้าเขินอายอย่างไม่ปิดบังของคนข้างล่าง ทว่านั่นกลับยิ่งเป็นมากกว่าคำเชิญชวนให้เต๋าลงมือทำสิ่งที่ต้องการต่อไป


   “ชอบไหมชา?”  เสียงกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูทั้งชวนจั๊กจี้และวาบหวิวอยู่ในอก กะจะให้เขาระเบิดออกมาเลยรึไงนะ  “ตอบมาสิ... ชอบ หรือ ชอบ” 

ตัวเลือกของคำตอบเรียกว่าไม่มีทางเลือกจะดีกว่า ริมฝีปากหนาคลอเคลียบริเวณใกล้ๆ ใบหู  ก่อนฝังจมูกโด่งลงบนแก้มนุ่มนิ่มฟอดใหญ่  มือหนาสัมผัสผิวหน้าเนียนนุ่มของอีกฝ่ายอย่างทะนุถนอม

และตอนนั้นคำพูดของเพื่อนซี้เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้าก็ดังแว่วเข้ามาในหัวยิ่งพาให้สติกระเจิดกระเจิง

‘งั้นแสดงว่าคืนนี้แกก็ค้างบ้านเต๋าอะดิ’
‘อือ’
‘เสร็จแน่น้องทอมคชา’
‘ไอ้นี่... ไม่มีอะไรว้อย!’
‘ห้ามเปิดประตูออกไปนอกห้องเด็ดขาดเลยนะเว่ยคชา’
‘ทำไมวะ?’
‘เอ๊า... เขาถือเคล็ดกัน คืนแรกที่เข้าหอเขาห้ามเจ้าบ่าวเจ้าสาวออกมาก่อนฟ้าสว่าง’
   ‘ไอ้..บ้า...’


น่าอายชะมัด... ใครจะคิดว่าคำพูดน่าอายที่ไอ้โปเต้มันแกล้งล้อเลียนจะเริ่มส่อเค้าลางเป็นจริงขึ้นเรื่อยๆ  คชาหลับตาลงอีกครั้งราวกับจะหนีความจริงในตอนนี้

ไม่ได้อยากจะยอมนะ แต่มัน...


   ทว่าเพียงครู่เดียวเท่านั้น ตาคู่ใสก็ค่อยๆ ลืมขึ้นเมื่อเห็นว่าการกระทำของอีกคนชะงักไป  ใบหน้าที่กำลังขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิดของอีกฝ่ายสร้างความสงสัยให้กับเขาอยู่ไม่น้อย

   “ตัวร้อนนี่ เป็นไข้หรอ?”  ฝ่ามือหนาวางพิสูจน์ลงบนหน้าผาก ก่อนจะก้มลงแตะหน้าผากลงตามไปวัดอุณหภูมิอีกครั้ง  “ไม่สบายทำไมไม่บอก”  เต๋าพูดต่อเมื่อรู้สึกได้ทันทีว่าอีกคนตัวร้อนรุมๆ

   ไม่ทันรอคำตอบ อีกคนก็รีบลุกเดินออกจากห้องไป ก่อนจะกลับมาด้วยยากับน้ำดื่มในแก้วใบใส  เจ้าของห้องลงมือป้อนน้ำป้อนยาให้อีกคนเสร็จสรรพ ก่อนจะปิดไฟมืดสนิทอีกครั้งแล้วมานั่งข้างๆ กันบนเตียง

   “ทีหลังไม่สบายต้องบอกนะรู้ไหม?”  น้ำเสียงที่พูดออกจะดุนิดหน่อยแต่แฝงความห่วงใยเอาไว้เต็มเปี่ยม

   “อือ”  คชาขานรับเบาๆ ...ก็เขาไม่อยากเป็นภาระกับอีกฝ่ายนี่นา อีกอย่าง ตอนนั้นใครจะมีอารมณ์พูดล่ะ โดนขึ้นคร่อมซะขนาดนั้นคงจะมีสติคิดหรอกนะว่าตัวเองกำลังตัวร้อนอยู่

“นอนเถอะ... พักผ่อนเยอะๆ จะได้หาย”
ถ้อยคำแสดงความห่วงใยทำเอาอีกฝ่ายอิ่มเอมใจ  คชาลอบอมยิ้มในความมืดนั้นก่อนจะล้มตัวลงหนุนหมอน  ตอนนี้เขาง่วงและเหนื่อยล้ามากแล้ว และความสุขที่ล้นปรี่ก็เป็นเครื่องการันตีว่าคืนนี้เขาจะต้องฝันดีแน่ๆ  คชาหลับตาลงไม่นานก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากอ้อมแขนหนาที่โอบกอดเขาไว้ราวกับเขาเป็นหมอนข้างใบโปรด

   “เดี๋ยวก็ติดไข้หรอก”  คนป่วยประท้วงน้ำเสียงอ้อยอิ่งจนคนฟังอยากจะถามกลับไปเหลือเกินว่า ที่พูดนี่อยากให้เขาปล่อยหรืออยากให้เขาทำอะไรกันแน่

   “ติดก็ดีสิ จะได้แบ่งๆ กันป่วย”  ไม่พูดเปล่าแต่มือปลาหมึกทำหน้าที่กอดอีกคนไว้แน่นหนากว่าเดิม  “คิดถึงนะชา...คิดถึงมากเลยนะรู้ไหม ห้ามหนีไปไหนอีกล่ะ”

   “อื้อ”

   “หมอนข้างใบเดิมนี่นา”  ไม่ต้องคิดให้ยาก ก็คืนวันที่เต๋าเคยไปนอนค้างห้องเบอร์ 23 แล้วเกิดศึกแย่งหมอนข้างนั่นแหละ ใบหน้าหล่อลอบยิ้มเมื่อนึกถึงความบังเอิญที่อีกคนหอมแก้มเขาในคืนวันนั้น  ปลายจมูกโด่งทิ้งลงบนแก้มเนียนอย่างตั้งใจ  “ทั้งหอมทั้งนุ่ม... เหมือนเดิมเลย”

   ไม่มีคำตอบใดๆ ตามมา มีเพียงฝ่ามือที่ทุบหลังอีกคนเป็นการประท้วงเบาๆ หากแต่ก็ยอมให้เต๋ากอดเขาไว้แต่โดยดี


   สองร่างบนที่นอนกอดก่ายกันอย่างแน่นหนาราวกับเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน  เสียงฝนตกพรำค่อยๆ จางหายจนเงียบสงบลง


   ฝนหยุดแล้ว... ท้องฟ้าแม้มืดมิดแต่ก็สว่างไปด้วยแสงจันทร์นวลกระจ่าง

   ท้องฟ้าก็เหมือนชีวิต มีช่วงเวลาที่ฝนตก แดดออก หรือพายุเข้า  คนเราก็มีทั้งช่วงเวลาดีๆ และเลวร้าย

ทว่าท้องฟ้าไม่ใช่ของใคร แต่ชีวิตเป็นของเรา

   และเขาก็เลือกแล้ว... ที่จะทำให้ช่วงเวลานี้มีแต่ความสุข


“ฝันดีนะคชา”

“ฝันดีนะเต๋า”


   เก็บสิ่งดีๆ เอาไว้ แล้วโยนความเศร้าทิ้งไป


   ขอบคุณนะ... ขอบคุณที่ให้โอกาสเราอีกครั้ง







TBC

ขอบคุณทุกคนที่อ่านนะจ๊ะ มีอะไรติชมได้จ้า >w<
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 18 หน้า 7 (up 19 July)
เริ่มหัวข้อโดย: bangkeaw ที่ 19-07-2012 23:21:59
ไอย๊ะ ถ้าจะคืนดีกันแล้วหวานขนาดนี้แล้วล่ะก็
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 18 หน้า 7 (up 19 July)
เริ่มหัวข้อโดย: [newZy]CASS ที่ 20-07-2012 00:20:44
 :กอด1:

น่ารักจริงเล้ย
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 18 หน้า 7 (up 19 July)
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 20-07-2012 05:47:03
นายดีกว่าที่คิดนะนายเต๋า แต่จูบไปตั้งนานไม่รู้เหรอว่าเค้าป่วย
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 18 หน้า 7 (up 19 July)
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 20-07-2012 07:38:09
ไม่มาอยู่ด้วยดีแล้ว เนี้ยมีคนแอบดู
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 18 หน้า 7 (up 19 July)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 20-07-2012 11:58:48
อูยยยยยย...มดไต่เต็มเตียง
เป็นไข้ก็ดี เต๋าจะได้จัดการได้ง่ายๆ หน่อย
แต่เราชอบนายนะเต๋า สุภาพบุรษ
ค่อยๆ เจนเทิลๆ อุอุ ดูแลดีมากๆ
อ้อ ครอบตัว ต. จะน่ารักไปไหน
โดยเฉพาะ หนูต๋อคิวปิคตัวจิ๋วน่ารัก
 ขอเทคมือหน่อย give me five!! เย้วววววว!!!!
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 18 หน้า 7 (up 19 July)
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 20-07-2012 16:17:28



    อ๊ายยยยย น่าร้ากกกกกกกกก
    แต่ครอบครัวตัว ต. นี่ ต. กันทั้งบ้านจริงๆนะ
    เวลาเรียกกันไม่งงหรือไง
    แล้วหนูชาต้องเปลี่ยนชื่อด้วยรึเปล่าอ่า เดี๋ยวไม่ตรงคอนเซ็ป อิอิ




หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 18 หน้า 7 (up 19 July)
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 20-07-2012 17:25:36
น่ารักโค่ยๆ >///<
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 18 หน้า 7 (up 19 July)
เริ่มหัวข้อโดย: devotionNightmare ที่ 20-07-2012 18:42:31
เต๋าคชาน่ารักเกินไปแล้ว >///<
 :man1: :man1: :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 18 หน้า 7 (up 19 July)
เริ่มหัวข้อโดย: akihito ที่ 20-07-2012 21:03:15
มดขึ้นเชียว
ว่าแต่คิดว่าจะมีฉากระทึกซะอีก(แอบเสียดาย) 555+
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 18 หน้า 7 (up 19 July)
เริ่มหัวข้อโดย: Olivia23 ที่ 20-07-2012 21:51:15
แต่งเลยๆ  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 18 หน้า 7 (up 19 July)
เริ่มหัวข้อโดย: NASS.NET ที่ 20-07-2012 22:29:16
ตามอ่านจนทันแล้ว เย้ๆ
ตอนช่วงมาม่านี่ถึงกะซึม
ค่อยยังชั่วนะคะที่ไม่นานมาก^๐^
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ
ว่าเต๋าเต๋า จะพิฆาตเป็ดเมื่อไหร่ หุหุหุ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 18 หน้า 7 (up 19 July)
เริ่มหัวข้อโดย: fastation ที่ 21-07-2012 19:31:37
พามาให้พ่อแม่รู้จักแล้ว -.,-
รออ่านตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 18 หน้า 7 (up 19 July)
เริ่มหัวข้อโดย: papark ที่ 22-07-2012 22:49:13
ใกล้จบแล้วอะเด้ =[]=!!!!

ไม่นะ เต๋าคชา ยังค้างอยู่เลยย

อ้าก ตอนนี้หวานซะ ♥
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ ขอวลอีกนิดนคดี๋ยวอมลงห้น่นอน อย่กันลืมน
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 23-07-2012 08:09:58
ดีกันล้วดีจังต่ต๋อบหื่นน
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 18 หน้า 7 (up 19 July)
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 23-07-2012 20:19:01
 :-[ อร๊าย ดีใจ คืนดีกันแล้ว
แถมหวานกันอีกต่างหาก
เมื่อไหร่จะถึงฉาก มหัศจรรย์เนี่ย :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 18 หน้า 7 (up 19 July)
เริ่มหัวข้อโดย: topphy ที่ 23-07-2012 21:51:27
 ฉีดยาเลยเต๋า :z1:

คืนดีกันแล้ว
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 18 หน้า 7 (up 19 July)
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 25-07-2012 22:11:56
♀ TOM (or) BOY ♂
19






ฟ้าสว่างแล้ว...

   เปลือกตาบางค่อยๆ เปิดมองคนที่ตนเผลอกกกอดไว้ทั้งคืนโดยไม่รู้ตัว... ผิวขาวจัดจนดูซีด ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย เส้นผมหยักศกที่ดูยุ่งเหยิงหน่อยๆ หากแต่กลับดูเป็นธรรมชาติ...  ยอมรับเลยว่าเต๋าเป็นคนที่ดูดี จนหลายครั้ง...หรือแม้แต่ตอนนี้ เขาก็ยังไม่รู้เลยว่าทำไมอีกคนถึงได้รู้สึกแบบนั้นกับเขา ทั้งๆ ที่เต๋ายังมีตัวเลือกอีกเยอะแยะ

   แต่เรื่องแบบนี้ต้องการเหตุผลด้วยหรอ? ในเมื่อคชาก็หาเหตุผลให้ความรู้สึกของตัวเองไม่ได้เช่นกัน
ตาคู่เรียวยังคงลอบมองคนที่ตนกอดเอาไว้ นึกอายเล็กๆ ที่เผลอไปกอดอีกคนเข้าในยามหลับ หากแต่ความอบอุ่นที่เขาได้รับ สัมผัสทางกายมีผลกระทบต่อก้อนเนื้อในอกซ้ายอย่างน่าประหลาด...
มันมากมายเสียจนที่คชาฉวยกอดอีกคนไว้แน่นกว่าเดิม
ขอหลับต่ออีกนิดนึงนะ...



- - -



“คิดว่าจะไม่ตื่นซะแล้ว” 

เสียงทุ้มอันคุ้นเคยดังขึ้นทันทีเมื่อปลายเท้าก้าวลงบันไดมาถึงชั้นล่าง  เต๋าในชุดอยู่บ้านสบายๆ นั่งลงอยู่ตรงเก้าอี้ไม่ใกล้ไม่ไกล ในมือถือแก้วน้ำเอาไว้อยู่

“ไม่ได้ขี้เซาขนาดนั้นสักหน่อย”  คชาตอบเสียงค่อย... เพราะอันที่จริงตอนนี้มันก็สิบโมงเศษแล้ว แถมแค่ล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็ลงมา เสื้อผ้ายังเป็นชุดเมื่อคืนอยู่เลย

“ไม่อาบน้ำล่ะ”
“ไม่มีชุด”
“หยิบๆ ใส่ไปเถอะ ของเต๋าก็เหมือนของชาแหละ”

คนตัวเล็กได้ยินดังนั้นก็ยืนนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะทำปากยื่นใส่ แกล้งเบือนหน้าหนีไปก็เห็นน้องต๋อที่กำลังนั่งยิ้มเขินๆ มองเขาอยู่
“อือ...งั้นเดี๋ยวไปอาบน้ำก่อนก็ได้”  พูดเสร็จก็หันหลังกลับเตรียมหนีขึ้นบันไดไปตั้งหลักอีกที... ไม่ไหวแล้วแบบนี้ เล่นหยอดแต่เช้าเลย

ไอ้เสี่ยวเต๋า! คนมันก็เขินเป็นนะเว้ยเฮ้ย

“อย่าเพิ่ง มากินข้าวก่อนจะได้กินยา”  เสียงทุ้มที่พูดซะใกล้จนดูจะมากเกินไป กับแขนที่รั้งเอาไว้ยิ่งทำให้หัวใจสูบฉีดแรง และเมื่อหน้าผากถูกแตะด้วยหน้าผากมนของอีกฝ่ายเพื่อวัดไข้ ก็แทบจะทำเอาคนตัวเล็กแทบจะเป็นบ้า...

“ตัวไม่ค่อยร้อนแล้ว”  เต๋าพูดพลางเอามือคล้องคออีกฝ่ายให้เดินไปด้วยกัน  “แต่หน้าแดงแจ๋เลย”  ประโยคหลังกระซิบบอกให้ได้ยินแค่สองคน แน่นอนว่ายังมีสายตาวิบวับของน้องต๋อเช่นเดิม พร้อมกันด้วยเสียงผิวปากเบาๆ ของน้องเต๋อที่เพิ่งเดินลงมาจากด้านบน

พ่อต๋อยแม่เต่าครับ คชาอยากรู้เหลือเกิน... เลี้ยงลูกยังไงถึงได้เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยได้ขนาดนี้!



คำถามที่คิดเล่นๆ ในใจไม่มีโอกาสได้ถามเมื่อผู้ใหญ่ทั้งสองออกไปซื้อของ อาหารมื้อสายกับพี่น้องตระกูลเพียงพอทั้งสามเลยเป็นบรรยากาศเดียวกับเมื่อครู่ไม่ผิด
พี่ชายคนโตยังทำหน้าที่เทคแคร์เขาเป็นอย่างดี ส่วนน้องๆ ก็...

“พี่สะใภ้~”

มือที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากชะงักไปในทันที  ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้ามองคนพูด
คราวนี้ไม่ใช่ต๋อ... แต่เป็นเต๋อ! น้องชายหน้าหล่อผิวขาวถึงจะแพ้พี่ชายไปหน่อยก็ตาม

“พี่คชาหันมาด้วยอ้ะ ขนาดพูดลอยๆ นะเนี่ย”  ส่วนน้องสาวพูดเสริมซะจนเขาไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน

“ก็....”  คชาพูดตอบด้วยเสียงไม่ดังนัก  “อย่าเรียกแบบนี้เลย เรียกพี่คชาดีกว่านะ”

“เขินอ้ะดิ ต๋อรู้น่ะ”

“เปล่าครับ”  พูดทั้งๆ ที่ใบหน้าขึ้นสีจางๆ  “แต่เดี๋ยวคนอื่นจะเข้าใจผิดหมด”  กลัวที่สุดก็คงเป็นพ่อแม่ของสามพี่น้องนี่แหละ
ไม่อยากนึกเลย... ถ้าพ่อต๋อยแม่เต่ามาได้ยินเข้าจะทำหน้ายังไงกัน

นาทีเงียบงันบนโต๊ะอาหารถูกทำลายลงด้วยกับข้าวบนจานของคชาที่พี่ชายคนโตตักมาให้  ใบหน้าหวานหันไปมองอีกคนที่แม้นั่งนิ่งไม่พูดจาแต่ก็ดูแลเขาไม่ขาดหาย… เขาไม่รู้ว่าเต๋ากำลังคิดอะไร หากแต่คชามีคำตอบให้กับสถานะครึ่งๆ กลางๆ ในตอนนี้แล้วหลังจากนอนคิดเมื่อคืน





“เต๋า...เราอย่าเพิ่งเป็นแฟนกันเลย” 

เสียงเล็กเอ่ยกับอีกคนในห้องนอนหลังจากอาบน้ำเสร็จ ตาเรียวช้อนมองอีกคนอย่างมีความหมาย มันไม่ได้ตัดขาดเยื่อใย หากแต่ฉายแววความกังวลบางอย่างอยู่ในนั้น

“ทำไม?”  ถามกลับสั้นๆ

“มันยังเร็วไป”  คนตัวเล็กตอบ  “เดือนเดียวเองที่เรารู้จักกัน”
ไม่ได้นับเวลาผิดเลย... คชานับแล้วนับอีกดูให้ถี่ถ้วนแค่ไหนมันก็ 28 วันเท่านั้นเอง

“แล้วต้องรอถึงเมื่อไหร่?”  เต๋าทรุดตัวลงนั่งข้างๆ อีกคนบนเตียงนุ่ม  “ชาก็รู้...ว่าความรู้สึกมันเกินคำว่า ‘เพื่อน’ ไปแล้ว”

“ก็ไม่ได้ให้รอนานขนาดนั้นหรอก”  พูดเสียงอ่อยเมื่ออีกฝ่ายกอดตัวเอาไว้ราวกับจะอ้อน  “แต่อย่างน้อย เราก็น่าจะรู้เรื่องของอีกฝ่ายมากกว่านี้”
ท้ายประโยคเสียงแผ่วลงเมื่ออีกฝ่ายดันหลังเขาลงนอนบนเตียงสีขาว คชาเบือนหน้าหนีจมูกยาวที่คอยไล่ต้อนสูดดมกลิ่นของเขาไปทั่วตั้งแต่แก้มใส ใบหู ลามลงมาถึงซอกคอ

“เต๋า...ทำอะไร?”  เขาส่งเสียงปรามคนเจ้าเล่ห์ ถึงแม้มันจะไม่ได้หนักแน่นเท่าที่ควรก็ตาม

“ข้ามขั้น” คำพูดสั้นๆ ที่อีกคนตอบทำเอาคนตัวเล็กขมวดคิ้วด้วยความสงสัย  “ไม่ต้องเป็นแฟนกันก็ได้ ข้ามไปเป็นอย่างอื่นเลย”

คำพูดกำกวมนั้นทำเอาคนฟังนิ่งคิดอยู่วูบหนึ่ง ก่อนจะเอ็ดอีกคนทันทีเมื่อพิจารณาในความได้  “ทะลึ่ง!”

“เปล่าทะลึ่ง... ไม่อยากเป็นสะใภ้บ้านนี้หรอชา?”
ใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ใกล้แค่ฝ่ามือไม่ได้ทำให้ใจคนฟังเต้นระส่ำเพราะเริ่มคุ้นชิน หากแต่คำถามนั้นกับสีหน้าอ้อนๆ นั้นน่ะสิ แทบเอาเขาละลายไปทั้งตัว  เขานอนนิ่งรับริมฝีปากที่โน้มลงมาแตะชิมกลีบปากตัวเองเพียงแผ่วเบา  หากแต่ไม่ยอมให้อะไรเลยเถิดไปกว่านั้น มือทั้งสองก็ดันใบหน้าอีกคนออกห่างก่อนจะลุกขึ้นนั่งตามเดิมเพื่อให้พ้นจากสถานการณ์อันตราย
ขืนอยู่เฉยต่อไปได้เกิดเหตุแบบเมื่อคืนแน่... แล้วตอนนี้เขาก็สบายดีเสียด้วยสิ

“อย่าเพิ่งรุกเยอะดิเต๋า...”  กว่าจะรวบรวมความกล้าเพื่อเปล่งคำพูดนี้ออกมาได้ก็ใช้เวลาหลายวินาที  จ้องกันอย่างกับจะกลืนเข้าไปทั้งตัวแบบนี้มันชวนขนลุกอยู่นะ ยิ่งสีหน้าแบบนั้นด้วยอีก... ถ้าเต๋าเป็นเสือก็คงจับเขากินไปเรียบร้อยแล้ว

“เราปรับตัวไม่ทันอะ ขอเวลาก่อนนะ ถือซะว่าค่อยๆ ทำความรู้จักกันไป”  เพราะอันที่จริง เขาเองก็ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเต๋ามากมาย ไม่ต่างจากฝ่ายนั้นเลย

อ้อมแขนหนาโผเข้ากอดอีกคนเข้าอีกครั้ง คชาได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายเบาๆ ว่า  “ก็ได้”  เพียงเท่านั้นก็ริมฝีปากบางก็แย้มยิ้มออกมา

“งั้นบ่ายนี้ ไปดูหอใหม่กันไหมเต๋า? เรานัดเพื่อนไว้แล้ว”




ไม่ใช่คชาไม่เห็นว่าเต๋ามีสีหน้าอย่างไรเมื่อได้ยินว่าจะไปดูหอใหม่ เขาเองไม่ได้อยากขัดใจอีกฝ่ายหรอกในขณะที่ความสัมพันธ์มันเพิ่งเริ่มต้นแบบนี้ แต่เพราะคชาเองก็อยากมีมุมส่วนตัวและอยู่ได้ด้วยตัวเองบ้างน่ะสิ
สุดท้ายเลยต้องตบปากรับคำไปว่าจะมานอนด้วยทุกอาทิตย์ อีกคนถึงได้ดูอารมณ์ดีขึ้นมา

เฟรมเดินออกมารับเขากับเต๋าที่ยืนรออยู่ที่ริมถนนใหญ่  เขาแนะนำเฟรมให้เต๋ารู้จักอย่างเป็นทางการ แอบเห็นรอยยิ้มล้อๆ ของเพื่อนซี้ที่ส่งมาก็อยากจะตั๊นท์หน้ามันเหลือเกิน  ยืนทักทายกันไม่นานนัก เฟรมก็นำอีกสองคนเดินไปยังหอพักของของตัวเอง มันไม่ได้อยู่ไกลจากบ้านของเต๋าซะทีเดียว หากแต่ก็ไม่ได้ใกล้ขนาดเดินมาห้านาทีถึง
หอพักของเฟรมเป็นตึกสูง 15 ชั้น ไม่ใช่แค่ตึกแถวทั่วไปแบบหอพักเพียงพอ ถึงภายนอกจะดูเก่า แต่ภายในดูเหมือนจะเพิ่งทาสีใหม่ เฟรมเดินตรงเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่หอก่อนจะให้เธอเดินนำพวกเขาไปยังห้องที่เป็นจุดหมาย


- 603 -

ห้องนอนสีขาวดูเรียบง่ายสบายตา แม้ว่าจะไม่ได้ใหญ่โตมากมายแต่ก็นับว่าน่าอยู่ทีเดียว พื้นที่ใหญ่กว่าห้องเบอร์ 23 ห้องนั้นพอสมควร หนำซ้ำยังมีระเบียงเล็กๆ ที่โผล่ออกไปตากเสื้อผ้าแล้วก็นั่งมองฟ้ามองดาวเรื่อยเปื่อยได้อีก

“คราวนี้ไม่มีคนตายใช่ไหมไอ้เฟรม?”  เสียงใสรีบถามขึ้นทันทีหลังจากสำรวจแล้วว่าโอเค  ห้องนี้ดีและครบครัน แต่ถ้ามีคนตายแบบห้องนั้นที่เคยจะไปอยู่เขาก็ไม่ไหวนะ

“ไม่มีเว้ย... พี่ที่เคยอยู่เขาได้งานใหม่พอดีเลยย้าย ไม่เกี่ยวกับคนตายแล้ว”

“แน่นะ”

“เออ แน่สิ”

“เจอเขาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่? ไม่ใช่พี่เขาเป็นวิญญาณไปแล้วนะ”  คชาถามด้วยสีหน้าจริงจัง  เห็นแบบนั้นเฟรมก็แทบกุมขมับ

“เจอเมื่อสองวันก่อนนี่แหละ... เอาเป็นว่า ถ้าเจออะไรแปลกๆ ก็มาเคาะห้องกูละกัน ห้อง 507 อยู่ข้างล่างนี่เอง รับรองว่าพี่เฟรมจะดูแลน้องทอมอย่างดีไม่ให้ขาดตกบกพร่องเลย”

“เออ”

“งั้นเดี๋ยวพี่เฟรมขอไปเทสมาตรฐานชักโครกก่อนละกัน ปวดอีกละ เดี๋ยวมา”

หนุ่มหน้าสิวพูดปุ๊บก็เดินเข้าห้องน้ำอย่างฉับไว โดยคชาไม่ลืมที่จะตะโกนทิ้งท้ายให้อีกคนเปิดพัดลมปรับอากาศด้วย  คนตัวเล็กหันมาหาร่างสูงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงปลายเตียง... ตั้งแต่มาที่นี่เต๋าก็ไม่ได้พูดอะไรมากสักเท่าไหร่ สงสัยเจอความเกรียนของไอ้เฟรมเข้าไปล่ะมั้ง

“ห้องนี้ดีไหม?”  คชาพูดพลางนั่งลงที่ปลายเตียงหันหน้ามองอีกคน

“อืม ก็ดี”
ตอบสั้นจัง... ความคิดแรกที่ผุดเข้ามาในหัวคือแค่นั้น หากแต่ใบหน้านิ่งเฉยของคนตรงหน้าที่แสดงออกมันกลับตอกย้ำว่าคนตรงหน้าไม่ได้ปกติดี

“เป็นไรเต๋า?”

“หึง”  ไม่จำเป็นต้องปกปิดความในใจ เมื่อคชาถามเต๋าก็ตอบไปตามตรง  “สนิทกันจังนะชา”

ถึงจะเขินเล็กๆ ที่ได้ยินคำคำเดียวจากปากอีกคน หากแต่ก็กังวลเมื่อสีหน้าอีกฝ่ายยังคงนิ่งสนิท  “ก็เพื่อนกันทั้งนั้นแหละ คิดมาก”  มือบางเอื้อมไปดึงมือหนาของอีกคนมาจับไว้คล้ายจะง้ออยู่ในที  “เฟรมเป็นเพื่อนคนแรกของเราในกรุงเทพเลยนะ”

“แต่เต๋าเป็นแฟนคนแรกใช่ไหม?”

วกเข้าเรื่องเดิมจนได้สิน่า... คชาไม่ได้ทำอะไรมากนอกจากส่งยิ้มบางๆ  “รอก่อนนะเต๋า” 

แม้คำตอบไม่เป็นที่น่าพอใจสักเท่าไหร่ แต่พอได้เห็นสีหน้าอ้อนๆ แบบนั้นแล้วใครจะไปทำใจแข็งลง  ไม่รู้ไปหัดทำตัวน่ารักมาจากไหน  สุดท้ายเต๋าก็ย้ายก้นมานั่งข้างอีกคนแทน  มือหนาขยี้เส้นผมอีกคนเล่นอย่างพอใจ ก่อนจะดีดแก้มใสดัง ‘แป๊ะ’ อย่างหมั่นเขี้ยว

“โอ๊ย!”  คชาร้องก่อนจะหันไปหยิบหมอนใบนุ่มเป็นอาวุธ แล้วจัดการประทุษร้ายอีกคนคืน... มือบางจัดการฟาดมันลงบนใบหน้าอีกคน ยิ่งเห็นเต๋านั่งเป็นเป้านิ่งก็ยิ่งฟาดใส่อีก

เคยเล่นแบบนี้กับน้องๆ ที่โคราช แล้วคชาก็ไม่ได้เล่นนานแล้วน่ะสิ

แต่บนเตียงมีหมอนใบเดียวเสียเมื่อไหร่ แล้วอย่างเต๋ายอมหรอที่จะเป็นผู้ถูกกระทำ...


ไม่ปล่อยไว้นานนัก หมอนอีกใบก็ถูกมือยาวฉวยมาตอบโต้อีกฝ่ายกลับไปบ้าง คชาดูจะสนุกกว่าเดิมเมื่อเขาเล่นตอบแบบนี้  มือฟาดไม่ยั้งแถมตัวก็พยายามเอี้ยวหลบไปด้วย ส่วนเต๋าน่ะหรอ... สู้ยิบตาไม่เคยถอย จะโดนหมอนฟาดใส่ยังไงไม่มีหลบ ยังไงมันก็แค่หมอนนุ่มๆ ถึงอีกฝ่ายจะลงแรงไม่ยั้งก็ตาม

ไม่นานหลังจากปล่อยให้อีกคนได้โจมตี มือหนาก็ใช้ความสงบนิ่งแย่งเอาหมอนของอีกฝ่ายมาถือไว้ในมือได้สำเร็จ ก่อนจะโยนมันทิ้งไป แล้วทำการรุกฆาตเสียเลย

หมอนใบเล็กถูกใช้ลูบใบหน้าอีกฝ่ายเบาๆ แทนการตี... แผ่นหลังคชาในตอนนี้แนบสนิทกับเตียงเล็กอีกครั้ง ก่อนที่เต๋าจะก้มหน้าลงไปใกล้


สถานการณ์คุ้นๆ นะ...ว่าไหม?


ยิ่งเห็นอีกคนทำตาโตตกใจเต๋ายิ่งสนุกกับการได้แกล้ง จมูกโด่งฉวัดเฉวียนอยู่แถวแก้มใส กลิ่นหอมที่ดมทีไรก็ไม่รู้จักเบื่อ
จะว่าเต๋าฉวยโอกาสก็ยอม แต่เวลาคชาเขินมันน่ารักจะตาย!

“ดีจังที่ชาค่ะเป็นผู้ชาย”  ไม่ได้พูดเสียงดังเพราะมันไม่จำเป็นสักนิดกับระยะห่างเพียงแค่นี้  ตรงกันข้าม เสียงแผ่วเบาที่ข้างหูกลับนั้นชวนจั๊กจี้ซะมากกว่า

“จริงหรอ?”  คชาถามกลับ... แม้จากตำแหน่งในตอนนี้จะเสียเปรียบ หากแต่คำพูดของอีกคนกลับทำเขาดีใจเป็นลิงโลด
นอกจากเต๋าจะไม่โกรธ เต๋ายังดีใจซะอีก... ที่ผ่านมาคงมีแต่เขาที่คิดเองเออเองไปโดยไม่ฟังเสียงคนอื่นเลย

“เราดีใจที่ชาค่ะคนนั้นเป็นผู้ชาย...”  ตาคู่คมจ้องมองลึกลงไปในดวงตาเรียวซะจนเข้าของยกมือขึ้นจับศีรษะด้วยความเก้อเขิน  เต๋าแอบอมยิ้มไปกับภาพนั้นก่อนจะพูดต่อ

“จะได้ไม่ท้องไงชา”


   ไอ้ หื่น เอ๊ย!


จะบอกว่ามือไวก็ไม่ผิดเมื่อหมอนที่ถูกทิ้งเอาไว้ถูกยกขึ้นตีใส่หน้าอีกคนไม่ยั้ง... ไอ้เราก็หวังจะได้ยินคำพูดซึ้งๆ เสียหน่อยดันมาทำหื่นใส่จนได้  แล้วยังรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่นอีก

มือรัวหมอนใบเดิมใส่หน้าอีกคนหลายๆ ทีและไม่มีทีท่าว่ายกนี้คชาจะยอมให้ง่ายๆ อีกแล้ว... ก็ดูสิ...ไอ้เต๋ามันแกล้งโผมมมมมม!!!

“โอ๊ยชา เบาหน่อยสิ... ล้อเล่นนิดเดียวเอง”  เสียงคนกะล่อน

“ไม่! จะตีให้หายทะลึ่ง”  เสียงคนหน้าบึ้ง

“เห้ย... จะสวีทอะไรกันแถวนี้วะ”  และเสียงคนผิดจุด!


เหมือนทั้งคู่จะลืมไปแล้วว่าตอนที่กำลังเล่นจ้ำจี้ตีหมอนใส่กันบนเตียงยังมีอีกคนที่แว้บไปเข้าห้องน้ำ และคนคนนั้นก็เพิ่งจะเดินออกมาอยู่ตรงหน้านี้

“โหย... หวานไม่เกรงใจเพื่อนฝูงเลยนะน้องทอม”

“เดี๋ยวเหอะไอ้เฟรม!”  คชาที่ลุกขึ้นมานั่งหลังตรงแล้วพูดปากยื่นใส่เช่นเคย  “หุบปากไปเลย”  ไม่ได้หมายถึงแค่ตอนนี้ แต่หมายถึงกับคนอื่นด้วย... กลัวจริงๆ ว่ามันจะเอาไปเล่าให้คนอื่นฟังว่าเขากับเต๋างู้นงี้กันน่ะสิ  ทว่าแม้เฟรมจะได้ยินคำพูดของอีกคนชัดเจนทั้งสองหู แต่รอยยิ้มทะเล้นที่ส่งมากลับไม่ทำให้คนตัวเล็กไว้วางใจสักนิดเดียว

“เฟรม... ความผิดที่แกพาผู้ชายหน้าตาดี(?)ไปทิ้งไว้หอหญิงวันก่อนเปิดเทอมยังจำได้อยู่ใช่ไหม?”  คชาพูดเสียงขู่  “เต๋า...ไอ้นี่แหละที่พาเราไปอยู่หอพักเพียงพอ”  คนเดียวไม่พอแต่ยังสะกิดแขนคนข้างๆ พลางเอ่ยฟ้อง  “ถ้าจะโทษใครก็โทษมันนี่แหละ พาวุ่นวายไปหมด”

“แกก็สมยอมเองด้วยเหอะชา”

“ก็ไม่มีทางเลือกนี่หว่า หออื่นแพงจะตาย”

“นั่นไง ก็พอกันแหละ ทำมาเป็นฟ้องสามี”

“ไอ้เฟรม!”

สงครามย่อมๆ ส่อแววจะก่อตัวอีกครั้งเมื่อคนตัวเล็กเริ่มโวยวายขึ้นมา หากแต่บุคคลที่สามอย่างเต๋าฉุดข้อมือคนข้างกายไว้ก่อนจะพูดขึ้นบ้าง

“เฟรม...อย่าพูดแบบนั้น คชาเสียหาย”

ได้ยินดังนั้นเด็กน้อยที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ยิ้มกวนใส่เพื่อนซี้ตัวแสบ  ยิ่งเห็นเฟรมมีท่าทีหงอๆ ก็ยิ่งรู้สึกสะใจ ...โดนซะบ้าง อยากล้อดีนัก!

“ไว้เป็นสามีจริงๆ เมื่อไหร่จะบอกละกัน... ยังไงก็ขอบคุณนะที่พาคชาไปอยู่หอพักเพียงพอ ไม่งั้นก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้เจอกัน”


ไอ้ บ้า เอ๊ยยยยย ! T//T




- - -





หลังจากคชาตกลงเซ็นสัญญาเช่าห้อง 603 นั้นเป็นที่เรียบร้อย เขาก็กลับมาเดินเตร่ที่ตรอกหอพักเพียงพอพร้อมกับลูกเจ้าของหอคนเดิม  ถึงแม้หอใหม่จะเข้าอยู่ได้เลยหากแต่ของส่วนหนึ่งอยู่ที่บ้านโปเต้ อีกส่วนก็ฝากไว้ที่ห้องแพรวา แถมของที่เต๋าให้มาก็ยังกองอยู่ที่ห้องเบอร์ 23 เหมือนเดิม

เต๋าบอกเขาว่า... ‘ให้ไปแล้วไม่ได้ต้องการเอาคืน’


ประตูห้องเบอร์ 23 ในหอพักหญิงถูกเปิดออกอีกครั้งพร้อมกับผู้ชายสองคนที่เดินเข้ามา ภาพที่เห็นตรงหน้าไม่ต่างจากภาพสุดท้ายในความทรงจำเลยสักนิด ทุกอย่างยังคงอยู่เหมือนเดิม ราวกับจะรอวันนี้ที่เขาจะเดินกลับมาหามัน

รอวัน... ที่เขารู้ใจตัวเองเสียที

กาต้มน้ำที่อีกคนยกมาให้ พัดลมตัวเดิมยังมีมุกแฟนติดเอาไว้อยู่ ขนมสองสามห่อยังคงสภาพเดิมไม่ได้เน่าเสีย ส่วนดอกลิลลี่ที่แห้งเหี่ยวไปตามกาลเวลากลับดูมีค่ามากมาย

นิ้วยาวของอีกฝ่ายตรงเข้ามาสัมผัสที่ใบหน้าของเขา ใต้ดวงตาที่มีหยดน้ำใสๆ ไหลออกมา... อยู่ดีๆ น้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว

มันคงล้นเอ่อออกมาจากหัวใจ...

เต๋าปาดน้ำตาหยดน้อยที่ไหลรินราวหยาดน้ำค้าง ก่อนจะเป็นหลักให้อีกคนโผเข้ากอดเต็มแรง


“ขอบคุณนะเต๋า”


เขาคงไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้มากกว่านี้
ขอบคุณจริงๆ  ขอบคุณที่ไม่เคยทิ้งกัน...







TBC

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ อิอิ ดีจายในคนมาอ่านเพิ่มด้วย
ป.ล. บัตรคอนเต๋าคชาหายากจัง
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 19 หน้า 8 (up 25 July)
เริ่มหัวข้อโดย: devotionNightmare ที่ 25-07-2012 22:41:36
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:ขอบคุณนะเต๋า  :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 19 หน้า 8 (up 25 July)
เริ่มหัวข้อโดย: mister ที่ 25-07-2012 22:49:04
อ่านไปเขินไป :o8: :-[
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 19 หน้า 8 (up 25 July)
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 25-07-2012 22:55:49
ตามน้องโบมาจากเด็กดี
รอตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 19 หน้า 8 (up 25 July)
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 25-07-2012 23:26:20
 :L1:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 19 หน้า 8 (up 25 July)
เริ่มหัวข้อโดย: [newZy]CASS ที่ 25-07-2012 23:41:36
 :กอด1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 19 หน้า 8 (up 25 July)
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 25-07-2012 23:58:29
มดกัดยิบๆเลย
หวานได้อีก เอาอีกๆ หวานๆแบบนี้ชอบบบบ :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 19 หน้า 8 (up 25 July)
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 26-07-2012 01:31:40



    แม้จะยังไม่ยอมรับ แต่ในเชิงพฤติกรรมนี่มันเหมือนจะเปลี่ยนสถานะไปแล้วนะ



หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 19 หน้า 8 (up 25 July)
เริ่มหัวข้อโดย: chin-ruyze ที่ 26-07-2012 03:05:43
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก มดกัดๆๆๆๆๆๆๆ :z3:
555555+ :jul3: หวานโคตรๆๆๆ  :a5:
เอาวะ อ่านแล้วชีวิตจิงชักอยากเป็นงี้มั่งอ่ะ ไม่มีคนให้บอกรักว่ะ  o22
แง้ๆๆอ่านไปแล้วชักอิจฉาความหวานจิงๆเฟ้ยยย  :serius2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 19 หน้า 8 (up 25 July)
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 26-07-2012 06:37:31
ฮามาก ทีนี้หวานไม่เลือกสถานที่เลยนะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 19 หน้า 8 (up 25 July)
เริ่มหัวข้อโดย: papark ที่ 26-07-2012 21:20:52
โอ้ยยยย เขินนน ♥♥♥

หวานไปคู่นี้ ผมเขินแทนเลยว่ะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 19 หน้า 8 (up 25 July)
เริ่มหัวข้อโดย: JingJing ที่ 26-07-2012 22:32:15
มาตามอ่านน้องชาค่ะ คชา ด้วยคนนะจ๊ะ
ทอมน่ารักกกกกกกกกกกกก :impress2:

มาต่อเร็วๆนะ รออ่านจ้า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 19 หน้า 8 (up 25 July)
เริ่มหัวข้อโดย: akihito ที่ 26-07-2012 23:13:58
หวานเชียว อิจฉาๆ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 19 หน้า 8 (up 25 July)
เริ่มหัวข้อโดย: fastation ที่ 28-07-2012 19:45:47
น่ารักจริงๆ อ่านไปยิ้มไปเลย
รออ่านตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 19 หน้า 8 (up 25 July)
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 28-07-2012 21:35:22
ชาค่ะ อย่าร้องไห้สิ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 19 หน้า 8 (up 25 July)
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 29-07-2012 19:01:52
♀ TOM (or) BOY ♂
20








ห้องเรียนขนาดใหญ่ในเวลาก่อนเข้าเรียนยังคงเงียบสงบเนื่องจากยังไม่ถึงเวลาเรียน  วันนี้คชามาถึงแต่เช้าเนื่องด้วยว่าจะมานั่งงีบรออาจารย์ คชานั่งลงบนเก้าอี้แถวกลางของห้องในฝั่งซ้ายมือ ก่อนจะหันไปมองหน้าอีกคนที่ทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ... หนุ่มหล่อคนดังของคณะบริหารอินเตอร์ที่บอกจะแวะมาส่ง แต่ไม่ยอมกลับไปเสียที

“ไปดิ... จะนั่งทำแมวอะไร?”  คชาออกปากไล่คนที่ทรุดตัวลงนั่งข้างๆ  เพราะเมื่อคืนเขายังไม่ได้นอนที่หอใหม่แต่ค้างบ้านเต๋าอีกวัน ผลลัพธ์เลยคือการที่อีกคนมาส่งเขาแบบนี้แหละ  “เดี๋ยวอาจารย์จะมาแล้วเนี่ย ออกไปเร็ว”

“ไม่เอา วันนี้จะเรียนด้วย”

“ตัวเองไม่มีเรียนรึไง?”

“ไม่มี อาจารย์ยกเลิกคลาสตอนเช้า...”  เต๋าพูดพลางถอดกระเป๋าสะพายของตนลงวางบนพื้นข้างๆ  “ชาว่างตอนบ่ายไม่ใช่หรอ? เที่ยงกินข้าวเสร็จแล้วไปส่งเราที่คณะหน่อยสิ”

“หมายความว่าจะนั่งอยู่นี่ยันเที่ยง”

“ไม่ได้หรอ?”  เต๋าถามเสียงอ้อน  “เรากำลังศึกษาดูใจกันอยู่ไม่ใช่หรือไง?”
คชานิ่งไปเมื่อได้ยินดังนั้นก็ทำปากยื่น... ศึกษาดูใจหรอ คือจะว่าไงล่ะ ไอ้คำนี้มันก็ไม่ผิดนักหรอก เขาเป็นคนบอกเต๋าไปเองว่าอยากรู้จักกันให้มากกว่านี้  แต่อย่ามาทำหน้าจริงจังเกินไปแบบนี้สิวะ
คนมันเขินนะเว่ย!

“เออ... ก็..ตามใจละกัน” 
เพราะเขารู้ ถึงห้ามยังไง เต๋าก็รั้นไม่ไปอยู่ดีนั่นแหละ...แล้วอีกอย่าง อยู่ด้วยกันแบบนี้ ก็ดีเหมือนกัน...



วันนี้คชามาถึงห้องเรียนก่อนเวลาเรียนสิบห้านาทีคนจึงน้อยอยู่ หากแต่เมื่อเวลาผ่านไป นักศึกษาก็ค่อยๆ ทยอยเดินเข้ามาพร้อมด้วยเสียงซุบซิบไม่ขาดสาย
จะเพราะอะไรล่ะ... ถ้าไม่ใช่...

“แหมๆ ตัวติดกันเลยนะ”  เป็นเฟรมที่เอ่ยคำนี้เมื่อเห็นพวกเขานั่งอยู่ก่อน  เฟรมวางของลงนั่งบนเก้าอี้ข้างๆ คชา หากแต่ยื่นหน้าไปทักทายอีกคน  “หวัดดีเต๋า...มาส่งไอ้ชาหรอเนี่ย”

“อืม... แต่ว่างๆ ไม่มีไรทำเลยว่าจะมานั่งเรียนด้วยอะ” 

“อ้าวชา...พากิ๊กมาหรอวะ?”  ความวัวไม่ทันหายความควายเข้ามาแทรก... โปเต้เดินเข้ามาร่วมวงพอดี

“เปล่า... ไม่ใช่กิ๊ก”  หากแต่ท่าทีนิ่งๆ ของเต๋าทำเอาใบหน้าทะเล้นของโปเต้ที่เอ่ยแซวต้องชะงักไป  “ตอนนี้เป็นเพื่อน แต่เดี๋ยวจะเป็นมากกว่านั้น”  เต๋าเอ่ยพลางหันมามองหน้าคชาอย่างมีความหมาย จนโปเต้กับเฟรมแอบส่งเสียงโห่ฮิ้วให้อีกระลอก

“ไอ้พวกนี้... หุบปากไปเลย คนเขามองกันทั้งห้องแล้ว”  คชาส่งเสียงขู่ๆ ออกไป ใบหน้าหวานๆ ทำเข้มใส่เพื่อนซี้ร่วมก๊วนทั้งสอง

“อะไรว้า... หวงเต๋าหรอ ไม่เอาน่าน้องทอม”

“ไหนว่ายังไม่เป็นแฟนกันไง หึงซะแล้ว”

“กูเปล่าหวงแต่กูอายว้อย!!!!!!!!”

กว่าเสียงหัวเราะและรอยยิ้มล้อเลียนจากเพื่อนทั้งสองจะสงบลงได้ก็เป็นตอนที่อาจารย์เดินเข้ามาในห้องเรียน  ด้วยนิสัยเด็กนิเทศที่มาสายอยู่บ่อยๆ ทำให้นักศึกษาเริ่มทยอยกันเข้ามามากขึ้นหลังเวลาจริงสิบห้านาที ไม่เว้นแพรวาและแอ้น
เขาหันไปทักทายพวกเธอตามปกติ  รอยยิ้มของแพรวาที่ส่งกลับมาฉายแววล้อเลียนอยู่น้อยๆ ทว่าไม่ทำให้เขารู้สึกเก้อเขิน  ต่างจากรอยยิ้มของแอ้นที่มองดูแล้วเศร้าสร้อยพิกล
แต่จะให้คชาทำยังไง... ในเมื่อทุกอย่างมันเป็นแบบนี้
หวังว่า ‘เวลา’ คงช่วยให้อะไรๆ เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น



ความง่วงเข้ามาเยือนอีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไปได้เกือบหนึ่งชั่วโมง... วิชานี้เลิกเรียนตอนเที่ยง และตอนนี้เพิ่งสิบนาฬิกาตรง นั่นหมายความว่าอีกสองชั่วโมงที่เขาต้องนั่งอยู่แบบนี้  เมื่อคืนเขานอนดึกเพราะมัวแต่เล่นเกมกับเต๋าจนตาค้าง ซ้ำยังนอนคิดไปเรื่อยเปื่อยอยู่นานสองนาน
เปลือกตาหนักอึ้งค่อยๆ ปิดลงซ่อนตาดำจนหมดสิ้น  มือที่จับปากกาพอเป็นพิธีก็วางลงโดยอัตโนมัติ
เขากำลังจะงีบหลับในคาบเรียนเหมือนกับทุกครั้งที่ง่วง


“โอ๊ย!”  หากแต่ถูกอีกคนหยิกเข้าที่แก้มเสียเต็มแรง  คชาลืมตาตื่นพลางลูบแก้มตัวเองป้อยๆ  หันไปทำหน้าย่นใส่คนมือดี
“เจ็บนะ”  คนตัวเล็กบ่นเสียงหงุงหงิงในลำคอ
“จะได้ไม่หลับไง”
“ง่วง”
“ตอนบ่ายค่อยหลับก็ได้ ไม่มีเรียนไม่ใช่หรอ?”
“ก็ง่วงตอนนี้”
“เดี๋ยวทำข้อสอบไม่ได้นะชา”
“เดี๋ยวจะสอบค่อยให้เพื่อนติว”
“ตามใจ... ถ้าไม่ห่วงก็ไม่ห้ามหรอก”


ทั้งคำตอบและสายตาคู่นั้นทำเอาคนฟังเบือนหน้าหนี  เขาเถียงอีกคนไม่ออก แต่จะให้มองหน้าเต๋าต่อไปมันก็เขิน สุดท้ายเลยต้องทำเมินแล้วหันไปสนใจอาจารย์แทน




กว่าจะพักเที่ยง คชาก็ถูกคนข้างๆ หยิกแก้มตอนสะลึมสะลือไปหลายต่อหลายครั้ง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาบ่อยๆ จนถูกอีกคนคว้าไปเล่นเกมแทน จึงกลายเป็นว่าวันนี้เป็นวันที่เขาตั้งใจเรียนอีกวัน
วันนี้เต๋ามาร่วมวงทานมื้อเที่ยงกับเขาและเพื่อนๆ ที่โรงอาหาร  ด้วยความที่เต๋าเป็นคนอัธยาศัยดีเข้ากับคนอื่นง่าย ทุกคนจึงคุยกันอย่างถูกคอ  สาวๆ หลายคนผลัดเวียนมาทักทายหนุ่มรูปหล่อต่างคณะ คชาที่กินข้าวเสร็จพอดีจึงลุกเอาจานไปเก็บก่อนจะแวะเดินไปซื้อน้ำ

เพราะเป็นเวลาเที่ยงกว่าๆ  ร้านน้ำที่มีเพียงสองร้านจึงคิวยาวเหยียด  เขายืนรอน้ำปั่นอย่างใจเย็นพลางหันไปมองที่โต๊ะเป็นระยะ แอบหมั่นไส้ไอ้คนหล่อที่ยังคงมีสาวแท้สาวเทียมมาพูดคุยทักทายไม่หยุดหย่อน จนตอนนี้ถึงขั้นมีคนมานั่งตรงที่ของเขาไปแล้วทั้งๆ ที่ยังวางกระเป๋าเอาไว้อยู่

“คชากินอะไร?”  จนกระทั่งเสียงทักทายจากเพื่อนร่วมคณะอีกคนดึงความสนใจกลับมา

“สตรอเบอร์รี่ปั่น แต่คิวยาวเลย แล้วแฟงล่ะ?”  เขาพูดตอบเธอ... แฟงเป็นสาวสวยร่างเล็ก ท่าทางคุณหนูผู้ดี เรียนเก่ง แถมยังเป็นขวัญใจหนุ่มๆ รุ่นพี่อีกด้วย

“ชาเขียวปั่นจ้ะ... ว่าแต่คนนั้นใครหรอคชา เห็นตั้งแต่ในห้องแล้ว หล่อจัง”  เธอถามโดยไร้ท่าทีเก้อเขินแม้แต่น้อย
วกเข้ามาเรื่องนี้จนได้… หล่อตรงไหนวะ ก็งั้นๆ แหละ แค่ขาวกับสูงเอง!

“ชื่อเต๋าน่ะ อยู่บริหารอินเตอร์”  เขาตอบไปเพื่อตัดบท พอได้ยินเสียงคุณลุงร้านน้ำเรียกก็หันไปจ่ายเงินแล้วรับสตรอเบอร์รี่ปั่นมาถือแทน

“ไปก่อนนะแฟง”

“เดี๋ยวชา...”  ไม่ทันได้หันหลังเขาก็ถูกเธอรั้งเอาไว้เสียก่อน  แฟงเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะถามขึ้นเบาๆ  “แล้วเต๋ามีแฟนรึยัง?”
...เต๋ามีแฟนรึยัง...
คำถามตรงประเด็นสุดๆ ทำเอาคชาถึงกับยืนนิ่ง  สมองประมวลผลคำถามนั้นออกมาก่อนจะตอบออกไป

“ไม่มีหรอกแฟง”  และคำตอบนั้นก็เรียกรอยยิ้มของคนถามได้เป็นอย่างดี

“แต่เต๋ามีคนที่ชอบอยู่แล้วนะ อีกไม่นานก็คง..ลงเอยกัน  ได้ยินว่าฝ่ายนั้นก็..เอ่อ..มีใจให้เต๋าอยู่”
ไม่ได้หวงเลยนะ... แต่คชาก็ไม่ได้พูดอะไรผิดนี่นา





สตรอเบอร์รี่ปั่นในมือพร่องลงไปมากซ้ำยังเริ่มละลายเป็นน้ำเหลวๆ เมื่อเขาเดินออกมาตากแดดเปรี้ยงยามเที่ยงวันด้วยเพราะต้องมาส่งเต๋าที่ตึกเรียนอีกฟากหนึ่งของมหาวิทยาลัย
อันที่จริง ตอนแรกเขาก็ขี้เกียจเพราะแดดมันร้อน หากแต่อีกคนเอาแต่พูดอ้อนรอให้เขาไปส่ง ซ้ำยังทำท่าจะไม่ลุกง่ายๆ ถ้าเขาไม่ไปด้วย สุดท้ายก็เลยต้องยอม  ไม่ใช่เพราะอะไรหรอก...แต่หมั่นไส้ไอ้คนหน้าตาดีที่มีแต่สาวๆ เข้าหา คอยดูเหอะ วันหลังจะไม่ให้มาแล้วจริงๆ

ริมฝีปากดูดน้ำปั่นในมือ ตาก็มองแผ่นหลังของคนข้างหน้าไป  นี่เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่มาเดินด้วยกันในมหาวิทยาลัย  แล้วคชาก็ได้รู้ว่าเต๋ามีเสน่ห์เหลือร้าย เดินไปทางไหนก็มีแต่คนเหลียวมอง ยิ่งนึกถึงรอยยิ้มอีกคน...บางครั้งดูขี้เล่น บางครั้งอบอุ่น และบางครั้งก็ทำเอาหัวใจสั่นไหวได้เสียดื้อๆ

ว่าแต่ตอนนี้ล่ะ เต๋ากำลังโปรยยิ้มให้ใครอยู่รึเปล่า?
เพราะเขายืนอยู่ข้างหลัง จึงมองไม่เห็นอะไรเลย

คชาครุ่นคิดอยู่ไม่นาน ใบหน้าอีกคนก็หันควับมาหาราวกับรู้ทัน  “ขาสั้นหรือไงเรา.. เดินช้าจัง”  เต๋าหยุดเดินพลางหันมาสบตา... รอยยิ้มบนใบหน้ายังทะเล้นแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นเหมือนเดิม

“ไม่ได้เตี้ยสักหน่อย... ก็เดินต่อสิไม่เห็นต้องรอเลย”

“รอได้เสมอแหละถ้าเป็นคชา”  มือหนาเอื้อมมาจับข้อมืออีกคนไว้ ดึงให้ไปเดินข้างๆ กัน  “เดินไปด้วยกันนะ...”  ข้อมือของเขาถูกบีบเบาๆ ก่อนที่จะถูกปล่อยเป็นอิสระ

เราเดินไปด้วยกันช้าๆ ไม่มีคำพูดมากมาย  หากแต่ระยะทางไม่ได้ยาวไกลเหมือนที่ควรจะเป็น  เพียงไม่นาน ตึกเรียนของเต๋าก็มาอยู่ตรงหน้านี้แล้ว


“เบน บอส... พอดีเลย นี่คชานะ”  เต๋าเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเห็นเพื่อนซี้กับแฟนที่นั่งอยู่ใต้ตึก  ส่งสายตาบอกกันเพียงไม่นานเบนก็เข้าใจสถานะของอีกคน  เมื่อดูนาฬิกาพบว่ายังไม่ถึงเวลาเรียนเต๋าจึงนั่งลงกับเพื่อนๆ ก่อน  หากแต่คุยกันไม่นาน อีกสองคนก็ลุกขึ้นเสียก่อน

“เดี๋ยวกูไปส่งบอสที่คณะก่อน เจอกันบนห้องนะ”  เบนพูดทิ้งท้ายแล้วเดินจากไป  ทิ้งความสงสัยเล็กๆ ไว้กับคนมาใหม่อย่างคชา

“บอสอยู่เศรษฐศาสตร์น่ะ เป็นแฟนเบน”  ก่อนจะถูกเฉลยโดยเต๋านี่เอง... เป็นแฟนกันจริงๆ ด้วยแฮะ  เพราะงั้นที่เต๋ารู้ว่าตัวเองชอบผู้ชายเลยไม่คิดมากเท่ากับเขาสินะ

“ชา...ยังง่วงอยู่รึเปล่า?”
   “นิดนึง ร้อนมากกว่า”
   “ดีเลย งั้นขึ้นไปตากแอร์เย็นๆ กัน”
   “บนห้องเรียน?”
   “อืม”  เต๋าพยักหน้า
   “ไม่เอา เดี๋ยวโดนอาจารย์ว่าหรอก”
   “แต่เต๋าคิดถึงชา”
   “ยังไม่ทันไปไหนเลย... อีกอย่างก็อยู่ด้วยกันมาตั้งสองวันแล้วเหอะ”  เพราะวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากคชาไปง้อเต๋าก็อยู่ด้วยกันเกือบจะตลอด... เอาง่ายๆ ว่าไปค้างบ้านเต๋ามาแล้วสามคืนติดน่ะ ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์
   “แค่สองวันเอง”

   “ห่างๆ กันบ้างน่ะเต๋า เดี๋ยวก็เบื่อหรอก”  คชาเอ่ยเรียบๆ  ยอมรับว่ากลัวอีกคนจะเบื่อกันซะก่อน  โดยเฉพาะถ้าต้องอยู่ด้วยกันนานๆ

“เดี๋ยวเรากลับหอก่อนละกัน ยังจัดของไม่เสร็จดีเลย ว่าจะกลับไปงีบด้วย”  เพราะตั้งแต่ย้ายหอก็ยังไม่เคยไปนอนเลยสักครั้งนี่นา
ขอกลับไปนอนคิดอะไรก่อนนะ... ตอนนี้มันเหนื่อยๆ ยังไงก็ไม่รู้




- - -





   ห้องเบอร์ 603 ดูเงียบงันวังเวงในความคิด มันตอกย้ำความหม่นหมองบางอย่างในใจให้มากขึ้นกว่าเดิม  ยิ่งนึกถึงใบหน้าใครบางคนที่ช่วยเขาขนของจากบ้านโปเต้มาที่นี่มันก็พาให้ความรู้สึกในใจยิ่งชัดเจน  เมื่อวาน ตอนที่เต๋าช่วยจัดของวางนู่นทำนี่ให้เขามีความสุขแค่ไหนนะ

   น่าแปลกดีที่ตอนนั้นรู้สึกเฉยๆ แต่พอนั่งนึกย้อนไป ตอนนั้นเขามีความสุขมากมายจริงๆ

   คชาลงมือจัดข้าวของให้เป็นระเบียบขึ้นนิดหน่อยก่อนจะล้มตัวลงนอนบนที่นอนนุ่มๆ  ก็เมื่อวานอีกแหละที่เพิ่งช่วยกันเอาผ้าปูที่นอนไปซัก ไม่งั้นจะกลิ่นหอมแบบนี้หรอ  ตาเรียวสวยค่อยๆ หลับลง มือกอดหมอนข้างใบนุ่มไว้แน่นราวกับเป็นตัวแทนของใคร

   คิด...ถึง...





   หลับไปนานขนาดนี้เชียว...

   ร่างเล็กตื่นขึ้นมาพร้อมกับดูนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาหกโมงครึ่งแล้ว  เมื่อครู่เขานอนจนเพลิน ฝันอะไรสักอย่างถึงเต๋าด้วยแต่จำไม่ได้เพราะมันลางเลือนเต็มที

   ให้ตายเถอะ... คนบ้าอะไรวะ พอตัวไม่อยู่ก็ตามมาหาถึงในฝัน  รู้บ้างไหมว่ามันทำให้เขายิ่งอยากเจอตัวจริง  นิ้วมือค่อยๆ เลื่อนกดดูโทรศัพท์ที่ว่างอยู่ข้างเตียง ไม่มีใครโทรมา... ใจแป้วเล็กๆ หากแต่ก็กดไปที่รายชื่อก่อนจะไล่หาอยู่นาน

   แต่ไม่เจอ!

   ชื่อ ‘เผือก’ ในมือถือหายไปไหนได้? เขาไม่ได้กดลบออกไปสักหน่อย
   ลองกดดูหมายเลขที่โทรออกล่าสุดเขาจึงพบความจริง


   ‘@love’ 


สงสัยแอบเปลี่ยนให้ตอนในคาบเรียนแหงๆ  ไอ้บ้าเอ๊ย! ทำไมชอบทำตัวน้ำเน่าใส่เขานักวะ
   ทำแบบนี้...มันถอนตัวไม่ขึ้นนะรู้ไหม?

   นั่งอมยิ้มมองอยู่ไม่นาน คชาก็กดโทรออกไปหาปลายสาย  ไม่ปล่อยให้รอนาน แอทเลิฟคนนั้นก็รับโทรศัพท์

   “เต๋าหรอ?”  เขาพูดออกไปได้แค่นั้น เพราะหัวใจที่เต้นโครมครามไม่หยุด

   “ว่าไงชา”  ยิ่งได้ยินเสียงมันยิ่งตื่นเต้น... ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โทรหากันสักหน่อย

   “กินข้าวรึยัง?”

   “กำลังกินอยู่เลย มากับพวกไอ้เบนนั่นแหละ มีอะไรหรอ?”

   “เปล่า ไม่มีอะไร งั้นแค่นี้นะ”

   มือกดวางสายไปทันทีหลังจากที่พูดจบ... แค่อยากชวนไปกินข้าวเย็นด้วยกันเหมือนตอนที่เขายังพักอยู่ที่หอเพียงพอ แต่เต๋าไปกินกับเพื่อนแล้วมันก็คงเปล่าประโยชน์

   ไม่ได้โกรธเลยนะ... แต่ว่ามัน...

   ไม่เข้าใจตัวเองเลย ความรู้สึกนี้ เหมือนลูกโป่งใบใหญ่ๆ ที่ค่อยๆ ฟีบลงล่ะมั้ง  มันไม่ได้แตก ‘ปัง!’ ออกเป็นเสี่ยงๆ แต่เหมือนมันมีรูเล็กๆ ให้ลมค่อยๆ รั่วออกต่างหาก

   ตอนนี้ ลูกโป่งใบนั้น หดลงเหลือเล็กนิดเดียว

   กินข้าวคนเดียวก็ได้...ไม่เหงาสักหน่อย ไม่ได้คิดถึงเลยด้วย เพิ่งเจอกันเอง ตอนกลางวันก็ยังนั่งกินข้าวด้วยกันอยู่เลย


   คชาหยิบกระเป๋าเงินกับกุญแจห้องที่วางอยู่บนโต๊ะ ปิดสวิตช์ไฟ แล้วเดินออกมา...
      ว่าจะหาอะไรกินแถวๆ หอใหม่  แต่สุดท้าย ขามันก็พามาแถวนี้จนได้... ร้านก๋วยเตี๋ยวร้านเดิมที่เคยมาฝากท้องไว้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ากรุง  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันอยู่แถวๆ หอพักเพียงพอ
   
กินข้าวคนเดียว...ปกติจะตาย!

   นั่งโซ้ยก๋วยเตี๋ยวไปได้ไม่นาน เสียงร้องหงิงๆ ที่ปลายเท้าก็ดึงความสนใจไปเสียก่อน  เจ้าหมาตะวันที่ตัวโตขึ้นกว่าเดิม มันมาร้องขอของกินจากเขาเหมือนอย่างที่เคยทำ

   รอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นที่ริมฝีปาก  คชาค่อยๆ คีบลูกชิ้นในชามก่อนจะโยนให้มันบนพื้น  เห็นมันเคี้ยวเพียงนิดเดียวก็กลืนอย่างรวดเร็วแล้วมานั่งจ๋องขอของกินต่อ

   แม้จะกินก๋วยเตี๋ยวเสร็จแล้ว แต่เจ้าสมุนตัวน้อยยังคงเดินตามคชาไม่หยุดหย่อน มันคงจะคิดถึงเขา ตั้งอาทิตย์กว่าที่ไม่ได้เจอมัน ถึงจะรู้ว่าเจ้าตะวันยังอยู่ดีเพราะคุณป้าหน้าปากซอยเอาข้าวมาให้มันกินประจำ แต่จริงๆ ก็อดคิดถึงมันไม่ได้


   สุดท้าย คชาเลยเดินไปซื้อขนมจากร้านโชว์ห่วยของอาแปะมาแบ่งให้มันกิน  เขาทรุดตัวลงนั่งกับพื้นปูนตรงหน้าหอพักที่เดิม ตาเหลือบมองบ้านฝั่งตรงข้ามแล้วก็แอบถอนหายใจ

   บนชั้นสี่ปิดไฟสนิท... ทำไมต้องทำตัวเหมือนมาจีบลูกสาวคนอื่นด้วยวะเรา ไม่เจอตัวก็มาชะเง้อหาที่หน้าบ้านเขา บ้าไปแล้วหรือไง?
   ขนมในมือหมดแล้ว  คชาแอบทำปากยื่นคนเดียวก่อนจะลุกขึ้นยืน... ไม่มีเหตุผลที่ต้องนั่งอยู่ต่อไป  เขามาแถวนี้ก็เพราะมาหาข้าวกินหรอก! แล้วที่มานั่งตรงนี้ก็เพราะมาให้ขนมเจ้าตะวัน!


   “ชา!”  ทว่าเสียงคุ้นเคยที่เรียกไว้ทำให้หัวใจเต้นแรง... ใครคนนั้นวิ่งตรงมาหาเขาอย่างรวดเร็ว  “โทรไปหาทำไมไม่รับ แล้วนี่มารอหรอ?”

   “ไม่ได้หยิบโทรศัพท์มา เปล่ารอ”  คชาปฏิเสธทันควัน  “แวะมากินข้าวแถวนี้เฉยๆ กำลังจะกลับหอแล้ว”

   “เดินไปส่งไหม?”  เต๋ารีบเสนอตัว  “คิดถึงชาจัง”  แขนข้างหนึ่งยกขึ้นโอบไหล่ของเขาอย่างมีความสุข

   “ไม่ต้องหรอก”  คชาปฏิเสธทั้งๆ ที่หัวใจเต้นดัง... จริงๆ ก็อยากอยู่ด้วยกันนานๆ แต่เพราะไม่อยากรบกวน ไม่อยากให้เต๋าต้องเหนื่อยเสียเวลาเดินกลับไปกลับมา  เขาไม่ใช่สาวน้อยสักหน่อยที่ต้องให้ใครไปส่งหรือกลัวใครจะมาทำมิดีมิร้าย เขาไม่ได้อ่อนแอหรือบอบบางขนาดนั้นเลย

   “เรากลับเองดีกว่า ไปก่อนนะเต๋า”  เขาส่งยิ้มบางๆ ให้อีกคน แล้วหันหลังเดินจากมา

   “เดี๋ยวสิ”  ไม่พูดเปล่าแต่มือยาวยังยื่นมาดึงไหล่อีกคนเอาไว้  “ไม่อยากให้เราไปส่งหรอ?”  เสียงทุ้มเสียงเดิมสั่นไหวเพียงเล็กน้อย  “หรือว่าเบื่อ... เราวุ่นวายกับคชาเกินไปรึเปล่า?”

   “เปล่านะ”

   “แล้วทำไม?”

   “เราแค่เกรงใจ  เต๋าต่างหากที่จะเป็นฝ่ายเบื่อเรา”  ได้ยินแบบนั้น ร่างสูงจึงรีบเดินไปดักหน้าอีกคนทันที... เขาอยากมองให้ชัด ว่าคชาทำหน้ายังไงอยู่ อยากรู้...ว่าคชากำลังคิดอะไร

   “ทำไมพูดแบบนั้นล่ะชา?”

   “เราน่าเบื่อจะตาย”

   ได้ยินคนตัวเล็กพูดตอบแบบนั้น เต๋าก็นึกอยากจะดีดหน้าผากแรงๆ สักที  “คิดเองเออเอง”

   “แต่เราคุยไม่เก่ง เอาใจก็ไม่เป็น ทำตัวน่ารักแบบผู้หญิงไม่เป็นหรอกนะ”  คชาทำปากยื่นน้อยๆ เมื่อพูดออกมา  ยิ่งคิดถึงสาวๆ ที่เข้ามาชอบเต๋าดูแล้วหน้าตาน่ารักกันทุกคน  ดูอย่างแฟงสิ... ทั้งๆ ที่เธอมีรุ่นพี่มาขายขนมจีบให้ตั้งเยอะ  แต่ไม่ยักจะสนใจ

เต๋าอมยิ้มมองคนคิดมากที่ทำหน้ามู่ทู่ใส่  เห็นแก้มป่องๆ นั่นแล้วมันหมั่นเขี้ยวซะจนอยากจะหยิกแรงๆ เหมือนในคาบเรียน  “แค่นี้ก็น่ารักจะแย่แล้ว ไม่ต้องทำอะไรหรอกชา” 

ทันทีที่เขาพูดออกมา อีกคนก็แสดงความเก้อเขินออกมาอย่างปกปิดไม่มิด ทั้งดวงหน้าที่คลายกังวลแล้วขึ้นสีชมพูจางๆ ทั้งมือบางที่ยกขึ้นขยี้ผมตัวเองแก้เก้อ

นี่ไงล่ะ ที่บอกว่า ‘น่ารัก’ โดยไม่ต้องพยายาม


   “ให้เต๋าไปส่งนะ”
   “อ..อืม”
   


   แม้ท้องฟ้าจะมืดแล้วหากแต่คชากลับไม่รู้สึกเงียบเหงาหรือว้าเหว่เมื่อมีอีกคนอยู่ใกล้ๆ  เต๋ากำลังเล่าเรื่องของตัวเองในวันนี้  วิชาเรียนเป็นยังไง ตอนเย็นไปกินอะไรมา คิดถึงคชาแค่ไหน  แม้จะได้ยินคนฟังบ่นอุบว่า “น้ำเน่า”  หากแต่รอยยิ้มบางๆ ที่ริมฝีปากนั่นกลับดึงดูดให้เต๋ามองแล้วยิ้มตาม... น่าเสียดายที่ระยะทางจากบ้านเต๋าไปหอพักคชาไม่ได้ไกลกันนัก เพราะเพียงไม่นาน ตึกสูงสิบกว่าชั้นตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าแล้ว

“ชา...มีไรจะบอก”  เต๋าขยับตัวไปใกล้ จ่อริมฝีปากที่ข้างใบหู 


- - ฟู่ววววววววว - -  ก่อนจะเป่าลมเข้าไปในหูอีกคนเสียเต็มแรง


“แกล้งหรอ!”  คนตัวเล็กไม่พูดเปล่ามือก็ฟาดใส่แขนอีกคนไปด้วย ...ไอ้เป่าหูน่ะไม่เท่าไหร่ แต่มาแกล้งหลอกให้ตื่นเต้นดีใจคิดว่ามีอะไรสำคัญนี่สิ มันน่านัก!

เต๋ายืนอมยิ้มมองอีกคนที่ทำหน้าดุที่ไม่น่ากลัวเลยสักนิด แล้วจึงพูดขึ้นต่อ  “เอาหูมาอีกทีสิ... คราวนี้จะบอกจริงๆ แล้ว”


“มีอะไร?”  เสียงใสเอ่ยพลางเอียงหูให้อีกคนแต่โดยดี  โสตประสาตในตอนนี้จดจ่อกับการฟังเสียงของอีกคนอีกครั้ง
และเสียงทุ้มแผ่วเบานั้นกลับดังชัดเจนในทุกๆ คำ


“วันนี้คิดถึงมากเลยนะ ดีใจมากด้วยตอนกลับบ้านมาเจอชาอยู่ตรงนั้นน่ะ”
“เหมือนคนบ้าเลยเนอะ ห่างกันได้ไม่กี่ชั่วโมงเองก็คิดถึงแล้ว”
“ต่อไปนี้อย่าคิดมากอีกนะ เราไม่เบื่อชาหรอก”
“อย่าเบื่อเราก่อนก็แล้วกัน”


น้ำหยดลงหิน หินมันยังกร่อน... นับประสาอะไรกับหัวใจก้อนเท่ากำปั้นที่ขยันเต้นรัวอย่างไม่รู้เหน็ดรู้เหนื่อยนี่ล่ะ

คชาหยักหน้าลงช้าๆ เป็นคำตอบ…จะเบื่อได้ยังไง ในเมื่อเขามีความสุขขนาดนี้


เห็นอีกคนทำตัวน่ารักแบบไม่ได้ตั้งใจ  คนตัวโตกว่าก็อดใจไม่ได้... ริมฝีปากหนาขยับเข้าช่วงชิงความหอมจากแก้มแดงๆ นั่นส่งท้าย มือลูบศีรษะอีกคนแผ่วเบา


“ฝันดีนะคะชา”  เต๋าพูดก่อนจะค่อยๆ เดินจากไป  ทิ้งให้อีกคนยืนนิ่งค้างอยู่ตรงนั้น  ภาพใบหน้าหล่อเหลาที่ส่งยิ้มให้ยังคงตราตรึง สัมผัสที่ข้างแก้มยังอุ่นๆ อยู่เลย

ไอ้เต๋า...อย่าทำให้เขากลายเป็นสาวน้อยม.ต้นเพิ่งหัดมีรักครั้งแรกได้ไหม ไอ้หน้าไม่อาย มาหอมอะไรตรงนี้เล่า โอ๊ย...คนมันเขินนะเว้ยยยยยย T//T 


แล้วเดินหนีไปแบบนี้คิดว่าเท่นักรึไง ไอ้บ้า...กลับมาให้ด่าเดี๋ยวนี้เลยนะ!!!
   









TBC

มาแล้วค่าาาาาาาาาาาาาาาาา
หวานไปม้าย >///<
ขอบคุณคนอ่านทุกๆคนเช่นเคยค่า หวังว่าจะชอบกันน้า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 20 หน้า 8 (up 29 July)
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 29-07-2012 20:14:30
น่ารักเว่อร์ๆๆมากๆๆ
อมยิ้มแก้มตุ่ย มีความสุขกะคู่นี้จัง
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 20 หน้า 8 (up 29 July)
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 29-07-2012 21:01:46
หวานกันจริงจริ๊ง  :impress2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 20 หน้า 8 (up 29 July)
เริ่มหัวข้อโดย: akihito ที่ 29-07-2012 21:37:36
ชาน่ารักเวอร์ เต๋าก็ช่างยอดจริงๆ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 20 หน้า 8 (up 29 July)
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 29-07-2012 21:46:49
อย่าให้เป็นหวานก่อนพายุเข้านะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 20 หน้า 8 (up 29 July)
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 29-07-2012 22:04:58
เอาอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หวานๆแบบนี้ชอบ อย่าเอามาม่ามาให้กินบ่อยนะ เดวอืด
ขอกอดคนเขียนที :กอด1: หว๊านหวานชอบบบ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 20 หน้า 8 (up 29 July)
เริ่มหัวข้อโดย: Olivia23 ที่ 29-07-2012 22:14:42
เผือกจะน่ารักเกินไปแล้วนะลูก  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 20 หน้า 8 (up 29 July)
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 29-07-2012 23:57:53
หวานเกินไปแล้ว เขิลลลลล แทนเลลย :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 20 หน้า 8 (up 29 July)
เริ่มหัวข้อโดย: timvasabi ที่ 30-07-2012 01:10:33
น่ารักซะเหลือเกิน ให้ตายเถอะ อิจฉาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 20 หน้า 8 (up 29 July)
เริ่มหัวข้อโดย: na_near ที่ 30-07-2012 04:02:51
อ่านตอนนี้ แล้วรุ้สึกหน้ามันตึงๆ เพราะต้องอ่านไปยิ้มไป
ก็แหม หวานกันซ๊ะ :-[
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 20 หน้า 8 (up 29 July)
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 30-07-2012 05:42:14



     จะหวานกันไปไหนเนี่ย
     แต่หนูชาก็ดูเหมือนสาวน้อยเข้าไปทุกวันๆจริงๆนั่นแหละ




หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 20 หน้า 8 (up 29 July)
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 30-07-2012 06:37:59
น้องทอม  มาแล้ว :mc4:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 20 หน้า 8 (up 29 July)
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 30-07-2012 12:01:34
น้องทอมหวั่นไหวมากกกกกกกกกกก
เผือกขยันหยอดเข้าลูก
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 20 หน้า 8 (up 29 July)
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 30-07-2012 13:41:33
 :man1:ชาค่ะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 20 หน้า 8 (up 29 July)
เริ่มหัวข้อโดย: [newZy]CASS ที่ 30-07-2012 16:36:52
น่ารักจริ๊งๆ ><
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 20 หน้า 8 (up 29 July)
เริ่มหัวข้อโดย: papark ที่ 30-07-2012 23:56:00
อ้ากกกก น่ารักเวอร์ครับบบบบ บ ♥

ฟินเวอร์อะ อ่านไปพึมพำไป อะไรเงี้ย

ผมเขินอะ.. ให้ตายสิ ชอบครับบบ!
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 20 หน้า 8 (up 29 July)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 31-07-2012 00:43:07
คู่นี้เค้าหวานตลอด ไม่ว่าจะเรื่องจริงหรือในนิยาย

ว่าแล้วแว็บไปคลิปตอนเค้าอยุ่ในบ้าน ดีกว่า

-3- อร๊ายย
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 20 หน้า 8 (up 29 July)
เริ่มหัวข้อโดย: bangkeaw ที่ 31-07-2012 19:34:15
โอยยยยย น่ารักไปไหน
น่าอิจฉาที่สุด  :give2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 20 หน้า 8 (up 29 July)
เริ่มหัวข้อโดย: fastation ที่ 02-08-2012 12:55:50
หวานเอาโล่จริงๆคู่นี้ คนอ่านอิจฉาคร้าบบบ
รออ่านตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 20 หน้า 8 (up 29 July)
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 02-08-2012 23:48:26
♀ TOM (or) BOY ♂
21







นิ้วมือที่จับปากกาลายการ์ตูนค่อยๆ คลายออก ตาคู่เรียวปรือลงด้วยความง่วงนอนเต็มที แต่ก่อนจะเข้าสู่ห้วงแห่งนิทรา คนตัวเล็กก็ถูกมือปริศนาโยกมาทำร้ายร่างกาย  นิ้วมือขาวๆ นั้นบรรจงหยิกลงที่แก้มใสเข้าอย่างจัง ซ้ำยังส่งแววตาดุเข้าขู่ใส่อีกต่างหาก
คชาได้แต่ถ่างตาเรียนต่อไปทั้งๆ ที่อยากจะฟุบลงหลับตั้งแต่หลายนาทีก่อน เมื่อคืนแทบไม่ได้นอนเพราะมัวแต่อ่านการ์ตูนเลยอยู่ในอาการนี้ แต่ครั้นจะบอกเหตุผลก็ไม่กล้า เพราะคนให้ยืมการ์ตูนที่ว่าน่ะ คือคนเดียวกับที่คอยเตือนไม่ให้หลับ!
โดนว่าน่ะไม่เท่าไหร่ ที่กลัวจริงๆ คือกลัวไม่ได้ยืมนารูโตะมาอ่านต่างหาก! จริงๆ การ์ตูนเป็นของน้องเต๋อแท้ๆ แต่คนพี่นี่สิคอยบงการตลอด
ถ้าเช่าร้านตั้งเล่มละห้าบาทเชียว แถมร้านก็ไม่ได้ใกล้หอสักเท่าไหร่

“ตั้งใจเรียนสิ อีกสองอาทิตย์จะสอบแล้วไม่ใช่หรอ?”  เสียงทุ้มที่เอ่ยถามแม้จะฟังดูตำหนินิดหน่อยแต่แววตาคนถามกลับส่งความห่วงใยไม่ปกปิด

“อ้าว อีกสองอาทิตย์หรอ”  หากแต่คนฟังกลับไม่ได้สังเกต คชาทำหน้างงใส่ก่อนจะกลับมาเป็นสีหน้าเบลอๆ อย่างคนนอนไม่พอเช่นเดิมด้วยความที่ไม่คิดอะไร... สองอาทิตย์แล้วไงล่ะ อีกตั้งนานนี่นา

“นี่ไม่ได้ฟังที่อาจารย์พูดเลยใช่ไหมเนี่ย”  เต๋าทำหน้าหน่ายๆ ตาก็เหลือบมองสมุดโน้ตเล่มบางบนโต๊ะที่จดเล็กเชอร์ด้วยลายมือเป็ดเขี่ยเอาไว้  คิ้วหนาขมวดมองมันอย่างพิจารณา  “เดี๋ยวจดให้”  ว่าแล้วก็หยิบอุปกรณ์การเรียนของอีกคนไปโดยไม่ที่เจ้าตัวไม่ได้ร้องขอ  เจ้าเกมแองกรี้เบิร์ดที่ถูกหยิบขึ้นมาเล่นฆ่าเวลาจึงกลายเป็นหมันไปโดยปริยาย

“ตั้งใจฟังอาจารย์สอนล่ะ”  เต๋าพูดทิ้งท้ายโดยมีเสียงตอบรับเบาๆ ของอีกคนในลำคอ



มือหนากำปากกาตั้งใจจดเลกเชอร์มือเป็นระวิง ตาก็มองสไลด์หูก็ฟังเสียงบรรยายของอาจารย์ที่หน้าห้อง จนกระทั่งไหล่กว้างสัมผัสกับปลายผมเส้นบางของคนข้างๆ นั่นแหละจึงรู้สึก

คชาหลับตา ศีรษะโงนเงนจนกระทั่งมาเบียดไหล่ของอีกคน พอชนเข้าจังๆ ก็กระเด้งไปนั่นตัวตรงอย่างเดิมทั้งที่ตายังหลับสนิท  เต๋าเหลือบมองเจ้าชายน้อยที่นอนหลับสะลึมสะลือไม่รู้เรื่องรู้ราว... ลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ด้วยความเป็นกังวล
อีกสองอาทิตย์คชาจะสอบกลางภาคแล้ว...

เช่นเดียวกัน... อีกสองอาทิตย์ นักศึกษาหลักสูตรนานาชาติอย่างเต๋าก็จะเปิดภาคเรียนจริงๆ หลังหมดคอร์สเรียนซัมเมอร์  และนั่นหมายถึงเต๋าไม่มีโอกาสมาตามกำกับดูแลอีกคนเหมือนอย่างตอนนี้อีกต่อไป

เต๋ายกมือหนาลูบศีรษะอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนจะจัดแจงให้ศีรษะฟุบลงบนแขนที่เจ้าตัววางไว้บนโต๊ะ

เฮ้อ...จะไหวไหมเนี่ย???







อาหารมื้อเที่ยงวันนี้คชาหลบมาที่โรงอาหารคณะรัฐศาสตร์กับเต๋าสองคน  คงเพราะวันนี้เลิกก่อนเวลาครึ่งชั่วโมงเลยยอมเดินไกลมาถึงนี่  และยังไม่ไกลจากตึกเรียนของเต๋าในตอนบ่ายมากนัก

“อาทิตย์หน้าไม่มานั่งเรียนด้วยแล้วนะ”
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพลางมองหน้าอีกคนที่นิ่งเงียบไปถนัดหลังจากได้ยิน  “เรียนซัมเมอร์จบแล้วน่ะ พวกไอ้น้ำแข็งมันชวนไปเที่ยว”

“อ่าวหรอ”  คชาตอบกลับอีกฝ่าย มือซ้ายยังคีบตะเกียบหยิบลูกชิ้นในจาน

“ตั้งใจเรียนด้วยล่ะ อาทิตย์หน้าหนสุดท้ายก่อนมิดเทอมแล้ว”

“รู้น่า สั่งยังกะเป็นแม่”  คชายู่หน้าก่อนจะเคี้ยวลูกชิ้นปลา ตาคู่ใสหลบลี้จากพิกัดสายตาของอีกคน  ไอ้การที่เต๋ามานั่งเรียนด้วย ตอนแรกเขาก็ไม่ได้ชอบหรอกนะ กลัวอาจารย์จับได้แล้วจะโดนว่า แล้วก็อายเพื่อนๆ อีก
แต่พอเจ้าตัวบอกจะไม่มานี่สิ มันกลับโหวงๆ ชอบกล

“แล้วไปเที่ยวที่ไหนอะ?”  คชาเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากคิดอะไรให้มากไปกว่านี้

“ไม่รู้พวกไอ้น้ำแข็งมันเหมือนกัน”  เต๋าตอบ  “อยากไปด้วยไหม?”

“หา...เอ่อ ไม่ดีมั้ง”  คำตอบนั้นทำเอาคนถามขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย  “จะสอบแล้วไง ต้องอ่านหนังสือสิ”
สาบานได้ว่านี่คือคำพูดของนายนนทนันท์ตัวจริงเสียงจริง... และนั่นทำเอาเต๋ายิ้มรับบางๆ  “ดีแล้ว...” เขาพูดแค่นั้นโดยหารู้ไม่ว่าที่จริงอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร
มันก็แค่เรื่องไม่สำคัญ...




- - -




ตั๋วหนังสองใบรอบวันศุกร์บ่ายเป็นการพักผ่อนครั้งสุดท้ายก่อนคชาจะเข้าสู่ช่วงสอบ ภาพยนตร์แนวซูเปอร์ฮีโร่ของโปรดคนตัวเล็กถูกเลือกมาสำหรับโอกาสนี้  เต๋าเห็นอีกคนนั่งมองจอภาพยนตร์ตาแทบไม่กะพริบก็อดยิ้มขำไม่ได้  ดูตาแวววับนั่นสิ ยังกับเด็กน้อยนั่งเฝ้าหน้าจอทีวีดูการ์ตูนตอนเช้าวันเสาร์

เขาว่ากันว่า ความเป็นเด็กมีอยู่ในตัวทุกๆ คน  สำหรับคชา...อาจจะมีเยอะหน่อยล่ะมั้ง

“โหยเต๋า โคตรสนุกเลยอะ อยากดูอีกรอบชะมัด”  ขนาดที่ว่าเดินออกจากโรงจนมาขึ้นแท็กซี่แล้วยังโม้ไม่เลิกนี่แหละ

“อืม... ก็ดี”

“ก็ดงก็ดีอะไร สนุกจะตาย”  คชาพูดสวนทันควัน  “ไว้ชวนพวกเฟรมมาดูดีกว่า”  คนพูดเอ่ยลอยๆ อย่างไม่ได้คิดอะไรนัก แต่คนฟังน่ะยิ่งกว่าคิด

“ทำไมต้องดูกับเฟรม?”

“อ้าว แล้วจะให้ดูกับใครล่ะ?”

เต๋าไม่ได้ตอบหากแต่นั่งนิ่งเผื่อว่าอีกคนจะเข้าใจเองเสียบ้าง แต่สุดท้ายก็ทนมองอีกคนทำหน้าเป็นหมาขี้สงสัยไม่ไหว เลยยกนิ้วมาชี้ที่ตัวเอง  “ดู กับ เต๋า”

เพียงเท่านั้นก็เรียกรอยยิ้มจากอีกฝ่ายได้ไม่น้อย... แม้ข้อสงสัยบางประการจะยังคงอยู่  “แต่วันนี้ดูไปแล้วนี่ จะดูอีกหรอ?”

“ก็แล้วใครล่ะอยากดูรอบสอง”

“ก็เราชอบหนิ”  คชาเอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะยู่ปาก  “แต่เต๋าบอกแค่ ‘ก็ดี’ เอง”

“มันไม่เกี่ยวกับหนังเสมอไปหรอก”

ไม่ทันที่คนตัวเล็กได้พูดตอบอะไร รถแท็กซี่ก็มาจอดเลียบถนนทางเข้าตรอกบ้านเต๋าเสียแล้ว... ทั้งคู่ลงมาจากรถเดินมาไม่นานก็ถึงบ้านของเต๋า

แน่นอน... คชามานอนบ้านเต๋าทุกอาทิตย์จนเป็นกิจวัตรไปซะแล้ว

ไม่นานนัก ไฟบนห้องชั้นสี่ก็ถูกปิดลงพร้อมๆ กับการเข้าสู่ห้วงแห่งความฝันของคนสองคน
คืนนี้เป็นคืนที่ดี...







   แสงตะวันยามเช้าที่ส่องแยงตาผ่านรอยต่อของผ้าม่านไม่มีผลใดๆ เมื่อคนตัวเล็กขยับใบหน้าหนี  คชายังคงซุกกอดเจ้าของห้องต่างหมอนข้างด้วยความเคยชิน ในยามไม่ได้สติ ใบหน้าหวานขยับเข้าใกล้อีกฝ่ายราวกับจะยั่วเย้า โดยเฉพาะปลายจมูกรั้นที่ลากผ่านแก้มขาวสว่างของลูกชายคนโต

   เต๋าอมยิ้มน้อยๆ  มองดูเวลาจากนาฬิกาที่ฝาผนังก่อนจะยกมือลูบศีรษะคนตัวเล็กเบาๆ

   “ตื่นได้แล้ว”  เพิ่มระดับเสียงเพื่อปลุกคนขี้เซา  “ตื่นเร็ว อาบน้ำกินข้าวเสร็จจะได้มาอ่านสอบไง”

   “อ...อือ”  หากแต่ผลตอบรับมีเพียงตาคู่เรียวที่หรี่มองเขาก่อนจะขยับตัวหนีไม่สนใจ

   “ชา... อย่าว่ายากสิ”  กดเสียงดุแต่ที่ทำเพราะความเป็นห่วงไม่ใช่อะไร เต๋าลุกขึ้นนั่งก่อนจะก้มลงประชิดใบหน้าของเด็กดื้อ  เห็นสีหน้าตื่นๆ ของคนที่ตื่นแล้วแต่ยังไม่อยากลุกแล้วก็นึกสนุกขึ้นมา

   “จะตื่นได้รึยังครับ?”  คำถามที่สุภาพเป็นพิเศษยิ่งฟังดูเจ้าเล่ห์ขึ้นกว่าเดิม  ตาคู่คมจ้องมองใบหน้านิ่งกับตาที่เบิกโตขึ้นก็ยิ้มกริ่ม

   “คนตื่นสาย ต้องโดนลงโทษ”

   “ลงโทษ...อ..อะไร?”  คนตัวเล็กหน้าเหวอแต่เช้า คิ้วขมวดเป็นปม แก้มขึ้นสีจางเมื่ออีกคนกำลังเข้าใกล้กว่าเดิม  ตาจ้องมองริมฝีปากแดงสุขภาพดีแทบไม่กะพริบ

   ถึงจะเคย(จูบกัน) แต่เอาจริงๆ มันก็ยังไม่ชิน  ตาคู่เรียวหลับลงยอมรับโทษแต่โดยดี


   ‘เป๊าะ!’


   แต่ผิดคาด แทนที่จะเป็นเสียงจ๊วบจ๊าบ(?) ดันกลายเป็นเสียงดีดหน้าผากเข้าอย่างจัง  คนถูกกระทำลืมตามองอีกฝ่ายโดยอัตโนมัติ ยกมือลูบหน้าผากมนพลางค้อนใส่ทันทีที่เห็นอีกคนยิ้มล้อเลียน

   คงหาว่าเขาคิดทะลึ่งอยู่แน่ๆ …เปล่านะ ก็ก่อนหน้านี้มันเคยมีประสบการณ์นี่นา!
   




   บรรยากาศบ้านครอบครัวเพียงพอในวันเสาร์ยังคงเป็นไปอย่างสบายๆ  คชานั่งอ่านหนังสือสอบอยู่ที่โซฟาด้านล่าง ข้างๆ กันมีคุณลูกชายคนโตที่มานั่งเป็นเพื่อน

   ไม่รู้ว่าหนังสือเล่มหนาในมือมันมีเวทมนตร์อะไร คชาถึงรู้สึกเหมือนถูกเสกให้ง่วงทุกครั้งที่เข้าใกล้แบบนี้... เพิ่งอ่านไปได้ 20 กว่าหน้าเองนะ

   ออกสอบร้อยกว่าหน้า... แล้วยังต้องจำให้ได้อีก!

   หากแต่เมื่อคชาหันไปหาคนข้างๆ ก็ต้องเบิ่งตาโต

   ‘นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ’ หรือที่เรียกกันตามชื่อตัวละครหลักว่า ‘นารูโตะ’!!!


   “อ่านมั่งดิเต๋า”  คชาพูดเสียงเอื่อยๆ กับคนที่นั่งอ่านการ์ตูนสบายใจเฉิบ  “นะนะนะ”  สะกิดแขนเบาๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจ

   “อ่านหนังสือให้จบก่อนสิ”  เต๋าหันมาตอบเรียบๆ อย่างเป็นต่อ

   “ไม่เอา น่าเบื่อจะตาย”  ทำหน้าย่นแสดงอาการเบื่อหน่ายเต็มประดา  “เต๋ารู้ป้ะ ตอนม.ปลายเราชอบอ่านเรื่องนี้มากเลย แต่พอจะสอบเอ็นท์เลยหยุดอ่านไป”  แต่พอพูดถึงการ์ตูนที่ว่า ดวงตากลับสดใสเป็นประกาย
   “ให้อ่านหน่อยนะ นิดเดียวเอง”

   “ก็ได้”  ว่าจะไม่ใจอ่อนแล้วเชียว แต่ก็ต้องยอมแพ้จนได้ ใครใช้ให้มาทำตาแป๋วน่าสงสารใส่แบบนี้ล่ะ
   ถึงจริงๆ แล้วมันจะน่า...อย่างอื่น... มากกว่าก็เถอะนะ
   




   วันเสาร์...เป็นปกติที่น้องเต๋อน้องต๋อสองแสบจะออกไปเรียนพิเศษ เหลือก็แต่พ่อต๋อยแม่เต่าที่นั่งดูทีวีสบายๆ อยู่ที่บ้าน  คชาเลยย้ายถิ่นฐานกลับไปบนห้องของเต๋าเหมือนเคยด้วยความเกรงใจ  ชีทเรียนความหนาพอประมาณกระจายเต็มพื้นที่โต๊ะเขียนหนังสือไม้ตัวเก่า  คนตัวเล็กเพียงแลมันด้วยหางตา ริมฝีปากแย้มยิ้มสบายใจ

   เพราะในมือมีการ์ตูนอยู่นี่เอง!

   จบเล่มที่สามแล้ว ถ้าทำแบบนี้ได้กับหนังสือเรียนคงเก็ทเอทุกวิชา!


   “ชา... แม่ให้เอาขนมมาให้”  เต๋าที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาวางมันลงบนโต๊ะ ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าทันทีที่เห็นว่าอีกคนยังคงอ่านการ์ตูน

   “ชา...ไปอ่านหนังสือได้แล้ว”

   “ก็อ่านอยู่ไง”

   “หมายถึงหนังสือเรียน”

   “เดี๋ยวก่อนน่ะ กำลังได้ที่เลย”

   “ชา...”  เต๋าทำหน้าดุ น้ำเสียงก็เย็นเยียบ หากแต่มันไม่มีความหมายเลยตราบที่อีกคนไม่ได้สนใจเลยสักนิดเดียว

“ชา... พอได้แล้ว”

   แล้วเขาก็ได้รู้ว่า ไอ้คนที่ยืนอยู่ตัวเป็นๆ เทียบความสำคัญกับไอ้ตัวการ์ตูนขาวดำผมตั้งนั่นไม่ได้สักนิด
   มือหนากระชากหนังสือการ์ตูนเล่มนั้นออกมาอย่างสุดจะทนก่อนจะโยนมันออกไปอย่างไม่ใส่ใจ

   “เฮ้ย! เต๋า ทำไมแบบนี้อะ!?”  คนกำลังเพลินโวยวายทันทีที่เห็นใบหน้าดุๆ เข้ามาแทน

   “ก็แล้วใครล่ะ ที่ไม่ยอมฟังกันบ้างเลย”

   “เราก็อ่านของเราดีๆ นี่ เต๋าจะห้ามเราทำไม”

   “แล้วมะรืนนี้ ใครกันล่ะที่มีสอบ”


   “จะใครล่ะ... ก็คชาไง!”  เจ้าตัวจัดการเฉลยคำตอบที่คนถามรู้ดี  หากแต่แววตาคู่นั้นยังฉายความดื้อรั้นอย่างเต็มเปี่ยม  “เราดูแลตัวเองได้น่ะ เรื่องแค่นี้จะมาอะไรกันนักกันหนา”  ขาเรียวลุกขึ้นไปหาเจ้าการ์ตูนเล่มนั้น ทว่ากลับถูกอีกคนเข้ามาขวางไว้

   “จะหวงอะไรนักหนา กะอีแค่การ์ตูน”  คนตัวเล็กยังคงสีหน้าบึ้งๆ เอาไว้เหมือนเคย ก่อนจะหันหลังไปเก็บชีทที่วางเกลื่อนอยู่ที่โต๊ะ

   “ได้... จะไปอ่านหนังสือเดี๋ยวนี้แหละ”  พูดไปมือก็เก็บมันใส่กระเป๋า... อยากให้อ่านนักก็ได้ คชาอ่านแน่ แต่ไม่ใช่ที่นี่เท่านั้นเอง
   เบื่อ! เซ็ง! หมดอารมณ์!

   “ไม่ได้หวงการ์ตูน แค่ห่วงจะอ่านไม่ทัน”  เสียงทุ้มที่เอ่ยขึ้นขณะที่อีกคนคว้าลูกบิดประตู มีผลเพียงแค่ให้คนตัวเล็กหยุดชะงักลงชั่วคราว

   “โตแล้วน่ะ”  เสียงใสตอบทั้งๆ ที่ยังหันหลังให้  “เดี๋ยวไปหอสมุด นัดพวกไอ้เฟรมไว้”  จริงๆ นัดกันบ่ายสอง แต่ไปรอก่อนก็ได้วะ


   ดูเหมือนนมกับขนมปังปิ้งบนโต๊ะจะต้องกลายเป็นหมันซะแล้ว...






   เที่ยงวันเสาร์  หอสมุดกลางของมหาวิทยาลัยเริ่มหนาตาไปด้วยเหล่านักศึกษา คชาที่เพิ่งมาเหยียบที่นี่เป็นครั้งแรกมองสถานที่แห่งนี้ด้วยความรู้สึกชอบใจ มันถูกตกแต่งภายในอย่างเรียบง่ายแต่มองดูสบายตาและอบอุ่นดี  และคงเป็นโชคดีไม่น้อยที่นักศึกษากลุ่มหนึ่งลุกขึ้นจากโต๊ะพอดี คชาจึงรีบเสียบแทนที่โดยพลัน

   การออกมาอย่างกะทันหันจากบ้านเต๋ายังคงทำให้ความรู้สึกยังค้างคา... ถึงที่นี่จะให้ความรู้สึกอบอุ่นแต่ก็ไม่เท่า ‘บ้าน’  ทว่ามวลความหงุดหงิดบางอย่างก็ยังไม่ถูกลบเลือนไป

   ก็รู้ว่าเป็นห่วง... แต่ทำไมต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะ! ฮึ่ยยยยยยยยยยยยย ขัดใจ!




“เมนส์ไม่มารึไงวะชา?”  เสียงทักทายดังขึ้นจากเพื่อนซี้ที่นัดพบไว้หลังจากนั่งรอมาร่วมสองชั่วโมง  เฟรมที่มาพร้อมกับแพรวา กำลังยิ้มร่าดูแล้วโคตรน่าหมั่นไส้

ไอ้บ้านี่ อย่ามาล้อแบบเดียวกับที่เคยโดนใครบางคนล้อสิวะ!

   คชาทำตาขวางใส่เพื่อนซี้ร่วมหอที่นัดมาติวหนังสือ เหตุที่ไม่นัดติวที่หอไปเลย เพราะยังมีแพรวา แอ้น โปเต้ด้วยไงล่ะ ถึงสองรายหลังจะกำลังเดินทางอยู่ก็ตาม

   “อ่านถึงไหนแล้วเนี่ย?”  แพรวาถามขึ้น เธอนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม  “เราอ่านจบแล้วแต่ยังจำไม่ได้เลย เนื้อหาเยอะสุดๆ”

   “หา...จบแล้วหรอ? เรายังอ่านไม่ถึงครึ่งเลย”

   “อื้ม จะสอบวันจันทร์อยู่แล้วนะชา ต้องเร่งหน่อยสิ”  และคำตอบของแพรวาก็ทำเอาคนฟังรู้สึกแทงใจดำไม่น้อย

   แทงใจดำจริงๆ... รู้สึกใจดำ..ที่เดินปั้นปึ่งออกมาจากบ้านเขาหลังจากไปอาศัยนอนซ้ำยังกินข้าวนั่งเล่นอยู่นานสองนาน นี่ยังไม่ทันบอกลาพ่อแม่เขาด้วยซ้ำไป

   แต่อีกด้านหนึ่ง... คชายังนึกหงุดหงิดที่ไม่ถูกอีกคนตามใจเหมือนเคย… เขาทำผิดตรงไหน อยู่ดีๆ มาโยนการ์ตูนออกไปอย่างนั้นมันใช้ได้ที่ไหนกันเล่า!!!

   คนตัวเล็กทำปากบู้บี้อยู่คนเดียวซะจนถูกเพื่อนทั้งสองล้อเลียน  พอรู้สึกตัวเข้าก็โวยใส่นิดหน่อย ...กับเพื่อนๆ คชายังเป็นคนที่ไม่ค่อยมีปากมีเสียงมากนัก  มันต่างออกไปเมื่ออยู่กับใครบางคน... ไม่รู้ว่าเขาไปเอานิสัยแบบนี้มาจากไหน แต่คงเพราะที่อีกฝ่ายทำให้เขามากเกินไปจนเคยตัว

   คชาเปลี่ยนความคิดมาสนใจชีทเรียนบนโต๊ะเมื่อเพื่อนอีกสองคนมาถึง  มือเปิดสมุดเลกเชอร์เล่มบางของตัวเองเข้าประกอบ เปิดดูผ่านๆ แต่กลับสะดุดเข้าตรงลายมือแปลกๆ ที่ไม่ใช่ของตัวเอง  เนื้อหาที่เรียนในวันนั้นถูกบันทึกไว้อย่างละเอียด ลายมือแม้ไม่สวยแต่ก็อ่านรู้เรื่องดี

   แต่ยิ่งอ่าน...ยิ่งนึกถึงคนที่จดให้...และยิ่งรู้สึกจุกๆ ข้างใน


   ‘ใครก็ไม่รู้นั่งหลับซะน่าหมั่นเขี้ยว  หวงจัง ห่วงด้วย...อย่าหลับบ่อยๆ นะ’  เต๋าคงเขียนไว้ตั้งแต่วันที่นั่งจดให้ แต่เขาไม่เคยสนใจอ่านมัน

   ‘ตั้งใจอ่านหนังสือนะชา  สู้ๆ ครับ  ;)’


   ไอ้บ้าเอ๊ย!!! ทำไมชอบทำให้เขารู้สึกผิดนัก!

   คชานั่งมองที่ว่างข้างๆ กาย... ถ้าเขาไม่หุนหันพลันแล่นออกมาแบบนี้ คงได้ชวนอีกคนมาหอสมุดด้วยกันแล้ว








TBC

รู้สึกว่าตอนนี้มันสั้น ต่ออีกตอนเลยละกันนะ ด้านล่างจ้า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 20 หน้า 8 (up 29 July)
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 02-08-2012 23:54:38
♀ TOM (or) BOY ♂
22





เพราะเป็นช่วงสอบกลางภาค หอสมุดกลางแห่งนี้จึงเปิดให้บริการจนถึงเวลาเที่ยงคืน แต่ไม่ต้องรอให้ดึกขนาดนั้น เหล่านักศึกษาก็เริ่มทยอยกลับไปกันจนผู้คนบางตา

คชาเก็บชีทเรียนทั้งหมดใส่กระเป๋าตอนเวลาสี่ทุ่มครึ่ง  หลังจากที่เพื่อนๆ ช่วยกันติวให้จนเข้าใจเนื้อหาทั้งหมด  ที่เหลือคือเรื่องของตัวเขาเองล้วนๆ แล้วว่าจะจำทั้งหมดนั่นลงไปได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันพรุ่งนี้คือวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันว่างวันสุดท้ายก่อนสอบ ยิ่งต้องใช้เวลาให้คุ้ม

“พรุ่งนี้ไม่มาแล้วใช่ไหม?”  คชาถามเพื่อนๆ อีกครั้ง ในกลุ่มของเขาตอนนี้ ทุกคนดูเก่งกันหมดเว้นก็แต่เขาเอง  ทั้งแอ้น โปเต้ และแพรวา ต่างอ่านจบกันมาแล้วคนละรอบสองรอบ ส่วนเฟรมถึงจะอ่านมาน้อยแต่สมองไวจำแม่นสุดๆ

“คงไม่มาแล้วล่ะ  สู้ๆ นะคชา ลองอ่านทวนหลายๆ รอบ”  แอ้นเอ่ยยิ้มๆ  แววตาส่งกำลังใจมาให้

“อืม”  คชายิ้มกลับไป แม้คำว่า ‘อ่านทวนหลายๆ รอบ’ จะฟังดูเป็นอุดมคติสิ้นดี  ก่อนมานี่ยังอ่านไม่ถึงครึ่งรอบเลย แล้วไอ้หลายๆ รอบที่ว่ามันต้องใช้เวลาและความพยายามเท่าไหร่กัน?

ทั้งหมดแยกย้ายกันกลับถิ่นฐานของตัวเองที่ถนนใหญ่หน้าป้ายรถเมล์ แอ้นโบกแท็กซี่ขึ้นไปกับโปเต้ ส่วนคชากับเฟรมเดินมาส่งแพรวาที่หอพักเพียงพอก่อน

“บ๊ายบาย...” เสียงแพรวาเอ่ยกับเพื่อนชายทั้งสอง หากแต่แววตาดูจะเหล่มองไปที่เฟรมมากเป็นพิเศษ คชาลอบมองคนทั้งคู่ก็แอบตั้งคำถามในใจ... เขารู้ดีว่าแพรวามีใจให้กับเฟรม แต่เฟรมล่ะ รู้สึกยังไง?

มันเป็นปริศนาที่ไม่ได้รับการคลี่คลาย หากแต่เขาไม่คิดจะกวนน้ำให้ขุ่นขึ้นมา ยังไงนี่ก็เป็นเรื่องของแพรวาที่เขาแค่บังเอิญไปรู้เข้า ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ควรจะเป็นคงจะดีกว่า  ตอนนี้แค่เรื่องตัวเอง...คชายังแทบเอาไม่รอดเลย

ตาคู่เรียวเหม่อมองไปที่อาคารฝั่งตรงข้าม  บ้านอันอบอุ่นหลังนั้นยังมีไฟลอดออกมาจากห้องบนชั้นสี่  ประตูระเบียงสีขาวในความมืดนั้นยังปิดสนิท คชาแอบหวังเพียงน้อยนิดว่าคนในนั้นจะเปิดออกมาให้เห็นหน้าเพียงเสี้ยวนึง

“แหม่ๆๆๆ คิดถึงก็ไปหาเขาสิ”  เฟรมที่คุยกับแพรวาเสร็จเอ่ยขึ้นทันที คนตัวเล็กสะดุ้ง เขินเล็กๆ ที่ถูกแซวแบบนี้ แต่ก็บอกปัดไปตามเรื่อง

“เปล่า”  คชาหันไปตอบเพื่อนซี้ ทว่าเมื่อชะเง้อมองขึ้นไปอีกที ไฟในห้องก็มืดสนิทแล้ว  “เฟรม... กลับหอกันเหอะ”

“เฮ้ย ไม่ต้องรีบ หอเปิดตลอด อยากไปหาก็ไปดิ้”

“มันดึกแล้ว”  เขานอนกันหมดแล้ว... คชาตอบเท่านั้นก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง  “รีบกลับไปอ่านหนังสือกัน”  ไม่ต้องรอคำตอบจากอีกคน เจ้าตัวก็รีบเดินนำทันที



เพราะเขาไม่อยากจะรบกวนในยามวิกาล แต่ถึงเต๋าจะยังไม่นอน คชาก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่าถ้าเจอหน้าแล้วจะพูดอะไร  อาจะเป็นเพราะบางที...ลึกๆ ในใจยังหวังว่าเต๋าจะเป็นฝ่ายเปิดปากพูดอะไรสักอย่างก่อนเหมือนที่เคยเป็น

เท้าเดินเตาะแตะไปในตรอก มือก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู... วันนี้มันช่างเงียบสงบ ไม่มีแม้สักสายที่ไม่ได้รับหรือข้อความใหม่จากใครคนเดิม  แอทเลิฟคนนั้นยังไม่ติดต่ออะไรมาเลยตั้งแต่ตอนเที่ยงวันนี้  ข้อความสั้นๆ บอกฝันดีที่เคยได้รับเกือบทุกวัน คชาเพิ่งจะรู้ว่ามีค่ามากแค่ไหน

แล้วคืนนี้ล่ะ เต๋าจะปล่อยให้เขาฝันร้ายรึเปล่า?





ไม่หรอก... คืนนั้นคชาไม่ได้ฝันร้าย

เพราะถ้าจะให้พูด ต้องบอกว่าไม่ได้นอนเลยจะดีกว่า... แสงสว่างลางๆ ที่เริ่มลอดเข้ามาทางช่องหน้าต่างบ่งบอกให้รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลารุ่งสาง เมื่อคืนหลังจากอาบน้ำ คชาก็นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนนอนไม่หลับเลยฮึดอ่านหนังสือต่อ อ่านไปกินขนมไป แอบงีบไปสองชั่วโมงก็ตื่นมาอ่านอีกทีจนเช้า

โทรศัพท์มือถือเครื่องเดิมถูกหยิบขึ้นมาดูเวลา อีกสิบห้านาทีจะหกโมงตรง... แต่มันไม่สำคัญเท่าจำนวนสายที่ไม่ได้รับและข้อความขาเข้าที่ยังเป็นศูนย์  คนตัวเล็กปรือตามองมัน สมองเหนื่อยล้าจนเกินกว่าจะคิดหรือทำอะไร เขาค่อยๆ เอนกายลงบนที่นอนนุ่มตามด้วยผ้าห่มที่คลุมตัว

ตื่นมาเมื่อไหร่ค่อยว่ากันอีกที




- - -




   ถึงแม้หมอน เตียงนอน และผ้าห่มนุ่มๆ จะเป็นมูลเหตุในการไม่อยากลุกออกจากที่นอน แต่ด้วยเพราะเพิ่งมานอนจริงๆ จังๆ ในตอนเช้าทำเอาหลับไม่ลึกเท่าที่ควร  คชาตื่นมาด้วยความรู้สึกมึนๆ หัวตอนเกือบบ่ายโมง  ในใจยังคั่งค้างเรื่องที่นึกก่อนนอนอยู่

   มีเพียงคำเดียวในห้วงความคิด... ‘เต๋า’
   


   คชาล้างหน้าแปรงฟันพอลวกๆ เขายังไม่ได้อาบน้ำเพราะมีเรื่องอื่นที่ดูสำคัญกว่า คชาลุกเดินออกจากหอพักมายังตรอกเดิมที่เมื่อวานได้เข้ามาแวะเวียน

   ครบ 24 ชั่วโมงแล้วที่ไม่ได้คุยกัน  และเขาก็ยอมแพ้ราบคาบแต่โดยดี

   คชายืนอยู่หน้าร้านน้ำเต้าหู้ สั่งใส่เครื่อง 3 ถุงกับปาท่องโก๋ยี่สิบบาท  ทว่านัยน์ตายังชะเง้อมายังหลังคาบ้านของใครบางคน

   “ไอ้หนู ได้แล้ว”

   “ครับลุง”  คชาหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์ให้คุณลุงเสร็จก็ค่อยๆ เดินไปยังจุดหมายที่ตั้งไว้แต่แรก หากแต่เมื่อรถครอบครัวคันใหญ่สีกรมท่าแล่นมาจอดตรงหน้าตึกแถวหลังนั้น คชาจึงหยุดมองโดยอัตโนมัติ

   และอีกไม่กี่วินาที เต๋าในชุดเสื้อยืดกางเกงสามส่วนสบายๆ ก็เดินสะพายเป้ใบใหญ่ออกมา ที่เสื้อเหน็บแว่นตาดำ ซ้ำยังสวมหมวกแก๊ปสีน้ำตาล  ประจวบกับที่ประตูรถแวนคันนั้นถูกเปิดออกด้วยหญิงสาวหนึ่งในเพื่อนของเต๋า ผมตัดสั้นย้อมสีแดงเปรี้ยวจี๊ดทำเอาจำได้แม่นว่าเธอชื่อ ‘เดียร์’  ส่วนอีกคนที่ตามลงมาจากฝั่งคนขับ คือ ‘น้ำแข็ง’

   ทั้งสามคนยืนคุยกันเพียงไม่กี่ประโยค ก็เป็นฝ่ายนั้นที่สังเกตเห็นการมีอยู่ของเขา  ตาคู่คมเพ่งตรงมาที่คชา วูบหนึ่ง เขารู้สึกถึงความอ่อนไหวในดวงตาคู่นั้น


   “จะไปไหนกันหรอ?”  คชาเดินเข้าไปทักด้วยท่าทีเก้ๆ กังๆ... รู้สึกเหมือนอยู่ผิดที่ผิดทางไปเสียหมด

   “อ้าว คชา”  น้ำแข็งหันมาทักทาย คชาส่งรอยยิ้มแห้งๆ กลับไป  “ไปเสม็ดน่ะ คชาไปด้วยกันเปล่า เต๋ามันมาชวนรึยัง?”

   “ไม่ได้หรอก เราติดสอบน่ะ”  คชาส่ายหน้าให้หนุ่มผมฟูที่แต่งตัวตามสบายแต่ก็ยังดูดี หรืออย่างเดียร์ที่ใส่เสื้อแขนกุดกับยีนส์ก็ดูสวยเฉี่ยวเหมาะกับใบหน้า  แต่พอหันมาดูสภาพตัวเองตอนนี้ที่แม้แต่น้ำท่าก็ยังไม่ได้อาบแล้วช่างไม่เข้ากันซะเลย

“ยังไงก็เที่ยวกันให้สนุกนะ” เหมือนคชาจะพูดรวมๆ หากแต่สายตาอดจะเหล่กลับมาหาหนุ่มผิวขาวเสียไม่ได้  ตาสองคู่ประสานกัน รู้สึกอึดอัดขึ้นมาแปลกๆ

   “ตั้งใจอ่านล่ะ”  แล้วเต๋าก็เอ่ยปากพูดกับเขาเป็นครั้งแรกด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งยากจะคาดเดา  คชาได้แต่ยืนมองตัวแข็ง  ต่อหน้าเพื่อนเต๋าเขาไม่รู้จะพูดถึงเรื่องเมื่อวานยังไง... มันเป็นเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องสักเท่าไหร่ ใครได้ฟังก็คงหัวเราะแน่ ทั้งๆ ที่มันไม่ตลกเลย

   ทะเลาะกันเพราะแค่หนังสือการ์ตูน!


   แม้ดวงตาจะเป็นหน้าต่างของดวงใจแต่สุดท้ายก็ยากจะหยั่งรู้เมื่อไม่มีใครปริปาก  เกมจ้องตาของคนทั้งคู่เป็นอันต้องจบลงเมื่อน้ำแข็งเปิดประตูเข้าไปสตาร์ทรถ

   “ไปก่อนนะคชา”  ไม่ใช่เต๋าหรอกที่พูดคำนี้ แต่เป็นเดียร์ต่างหาก เธอส่งยิ้มหวานโบกมือมาให้ก่อนจะหันไปหาเต๋า  “นี่กินอะไรมารึยัง? ซื้อชานมมาฝากอยู่ในรถน่ะ”

   “ก็ดี... ขอบใจ”  เต๋าพูดตอบเพื่อนสาวในกลุ่ม ปลดเป้บนหลังลงมาถือหิ้วไว้แทน


   คชามองตามอีกคนที่กำลังจะขึ้นรถตามเพื่อนไปตาปริบๆ  รองเท้าแตะสีดำคู่นั้นกำลังจะก้าวเข้าไปในรถ  เหมือนระเบิดเวลากำลังนับถอยหลัง แต่ก่อนที่ระเบิดลูกนั้นมันจะตู้มแล้วทุกอย่างหายวับไป  คชาก็ชิงคว้ามือเต๋าเอาไว้ก่อน เขามองสบตาคู่นั้นแน่นิ่ง

   “คือเรา...”  คชาอ้ำอึ้ง ยังไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าจะพูดอะไร เต๋ายืนนิ่งฟังรอเขาพูดต่อ

“คือ.. เต๋าจะกลับมาวันไหน?”

“คงวันศุกร์นี้แหละ”

“เหรอ...ไปตั้งหลายวัน”  ริมฝีปากบางยิ้มกว้างออกมา แต่นัยน์ตาไม่มีวี่แววของความสุขใดๆ  “ดีจัง...ไปเที่ยวตั้งหลายวัน คงสนุกน่าดู”  เสียงเดิมเอ่ยต่อพลางค่อยๆ ผละออกจากข้อมือหนา  “เดินทางดีๆ นะ แล้วเจอกัน”

“อืม”  เต๋าตอบแค่นั้น เว้นวรรคสักพักเหมือนรออะไรบางอย่าง หากแต่เมื่อปราศจากสิ่งใด  การสนทนาก็จบลงเท่านั้น  เต๋าจากไปพร้อมกับรถแวนคันใหญ่ที่เคลื่อนตัวไปจากตรอกเล็กๆ ตรงนั้น  ทิ้งคนด้านหลังที่ยืนกำถุงน้ำเต้าหู้ไว้แน่น

ปกติคชากินแค่ถุงเดียวก็อิ่มแล้ว ส่วนปาท่องโก๋นี่ก็ไม่ได้ชอบมากขนาดนั้น... คงไม่ต้องถาม ว่าซื้อมามากมายเพราะใคร


สุดท้าย คงต้องโทษความขี้ขลาดของเขาเอง
   






   ไม่เคยคิดว่าหอพักตัวเองกับบ้านเต๋าจะอยู่ไกลกันขนาดนี้มาก่อน  เวลาเดินช้าเสมอเมื่อเรารู้สึกไม่สบายใจและคชาก็กำลังรู้สึกเช่นนั้น  ไม่ใช่เพราะพรุ่งนี้สอบ แต่เป็นเพราะเหตุการณ์เมื่อครู่  เพราะใครบางคนที่วันนี้ไม่อยู่ให้เขาดื้อใส่... ไม่อยู่เอาใจ ไม่อยู่เคี่ยวเข็ญ ไม่อยู่เป็นเพื่อนเหมือนเคย

   ห้าวันที่จะไม่เจอกัน... จะว่าไป ตั้งแต่ได้รู้จักยังไม่เคยห่างกันนานขนาดนี้มาก่อนเลย

   มือบางยังกำหูหิ้วถุงน้ำเต้าหู้แน่นจนกระทั่งมาถึงหน้าหอพัก ตอนแรกว่าจะซื้อไปฝากเต๋ากับพ่อแม่เขา แต่พอลูกชายคนโตไม่อยู่ใจก็นึกไม่กล้าเท่าไหร่  คชาเดินใจลอยเข้ามาในหอพักจนถึงหน้าประตูลิฟท์โดยสารที่กำลังจะปิดลง

   อารมณ์ตอนนี้เขาไม่คิดที่จะรีบวิ่งเข้าไป หากแต่คนในนั้นที่กดปุ่มเปิดลิฟท์เอาไว้ช่วยให้เขาเข้าไปได้อีกคน  บรรยากาศในตู้สี่เหลี่ยมแคบๆ เงียบสงัด จนกระทั่งมีคนออกไปในชั้นสี่ เสียงหนึ่งก็เปล่งขึ้น

   “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ พักอยู่หอนี้หรอ?”  หนุ่มผิวสองสีเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริง  คชาฉงนเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าในลิฟท์มีคนแค่สองคนจึงหันไปมอง เขาเพิ่งสังเกตว่าคนคนนั้นช่างดูคุ้นตา เหมือนว่าเคยเจอกัน แต่จำไม่ได้

   “เราปอไง... จำได้ไหม ที่เคยเตะบอลด้วยกัน”

   “ปอ? เตะบอล?”  คชาทวนคำ เหล่มองกองหนังสือที่อยู่ข้างกายอีกคน เคมีเอย ชีววิทยาเอย “ปอ... ที่เป็นหมอใช่ไหม?”

   “ไม่ใช่หมอ เราเป็นนักศึกษาแพทย์” 


   ประตูลิฟท์เปิดออกพร้อมด้วยปอที่ยกหนังสือตั้งใหญ่  คชาเดินตามหลังออกมาด้วยเป็นชั้นที่เขาอาศัยอยู่พอดี


    “ตกลงนายอยู่หอนี้หรอ บังเอิญจัง”  น้ำเสียงนั้นยังดูมีชีวิตชีวาเช่นเคย  “เราเพิ่งย้ายเข้ามาวันนี้เอง อยู่ห้องนี้”  มือที่วางกองหนังสือลงชี้ไปที่บานประตู  ด้านบนติดเลขห้อง 602 เอาไว้ชัดเจน

   “ติดกันเลย เราอยู่ห้องนี้”  คชาชี้ไปที่ประตูห้องตัวเอง... 603

   “จริงหรอ ดีเลย งั้นคงต้องรบกวนคชาบ่อยๆ แล้ว”  ปอยังคงส่งยิ้มหวานให้เขาเช่นเคย  จนคชาเริ่มจะสงสัย ไอ้หมอนี่มันอารมณ์ดีเกินเหตุหรือเพี้ยนกันแน่

“รบกวนอะไร ใครอนุญาต”  คนตัวเล็กเอ่ยทีเล่นทีจริงแต่หลุดยิ้มออกมาที่มุมปาก... ถึงปอจะยิ้มตลอดเวลา แต่คชาก็คิดว่าดูเป็นคนอัธยาศัยดี ทั้งรอยยิ้มบานแฉ่งที่คลี่ออกจนเห็นฟันซี่เล็ก และดวงตาที่เผยชัดเจนถึงความจริงใจ

“ต้อนรับเพื่อนบ้านใหม่ เอานี่ไปก่อนละกัน”  คชาหยิบน้ำเต้าหู้ส่งให้หนึ่งถุง ที่เหลือเก็บไว้เป็นอาหารมื้อเที่ยงของตัวเอง

“โห...ขอบคุณนะคชา”  ปอส่งยิ้มกว้างกว่าเดิม  “ได้กินแล้วต้องมีแรงแน่ๆ”

“ก็เว่อร์ไป ไปละนะ”  คชาตอบกลับประโยคสุดท้าย แล้วจึงก้าวเข้าห้อง 603 ของตนเอง


ประตูห้อง 603 ถูกปิดลงพร้อมด้วยเสียงหัวเราะกับตัวเองเบาๆ เมื่อคิดถึงเพื่อนข้างห้องคนนั้น... ปอเป็นคนตลกดี และเขาก็รู้สึกถูกชะตา

เอาน่ะ... อย่างน้อย ก็มีคนรู้จักอยู่ใกล้ๆ อีกคน





- - -





   หลังจากที่ตรากตรำอ่านหนังสือ ในที่สุดการสอบวิชาแรกที่ดูหนักที่สุดก็ผ่านพ้นไปได้แบบพอถูๆ ไถๆ  ส่วนวิชาที่สองที่ตามมาในวันถัดไป  คชาคิดว่าค่อนข้างเป็นไปด้วยดี

   ร่างเล็กในชุดนักศึกษาถูกระเบียบเป๊ะเดินก้าวสบายๆ ออกมาจากห้องสอบ  รู้สึกโล่งไปได้อีกหน่อยเมื่อผ่านไปแล้วสองวิชา มือเล็กกดปุ่มเปิดเครื่องโทรศัพท์ที่ถูกบังคับให้ปิดตอนสอบ  ตาเรียวมองมันด้วยความหวังหากแต่คำตอบก็ยังไม่ต่างจากเดิม

   เต๋าไม่ติดต่อมาสองวันแล้ว

   พอคิดตามสีหน้าก็พลอยหดหู่  มือบางยังคงถือเครื่องมือสื่อสารเอาไว้จนมาถึงร้านอาหารมื้อเที่ยงใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัยกับเพื่อนซี้อีกสองคน... แก๊งค์สามหนุ่มเนื้อทองกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง

   “เป็นอะไรวะชา?”  โปเต้ถามขึ้นขณะรออาหารที่สั่ง

   “หือ...เปล่า”  ตอบปฏิเสธโดยแทบไม่คิด  “ทำไมหรอ?”

   “แล้วทำไมทำหน้าแบบนั้นวะ ไหนบอกทำข้อสอบได้ไง”  โปเต้ถามกลับ

   “ทะเลาะกะแฟนอะดิ”  เฟรมเดาคำตอบให้ หากแต่คชารีบสวนกลับทันควัน

   “เปล่า ไม่ใช่แฟน”  ใบหน้าหวานยับย่นขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ  “กูยังไม่มีแฟนสักหน่อย”

   “หรออออออออออออออ”  เฟรมลากเสียงยาวใส่กวนๆ แต่ท่าทีคนถูกกวนดูจะไม่สบอารมณ์เล่นด้วยสักเท่าไหร่นัก

“ว่าแต่ช่วงนี้ทำไมไม่เจอเต๋าวะ?”  โปเต้ตั้งข้อสังเกต เพราะปกติน่ะ เรียกว่าแทบเป็นเงาตามตัว

   “เขาก็มีเพื่อนของเขาสิ ก็ต้องไปเที่ยวกันบ้าง”  คชาตอบออกมาเหมือนไม่คิดอะไรหากแต่ในใจมันจุกเล็กๆ... มันเป็นเหตุผลปลอบใจตัวเองที่คชาใช้มาตลอดสองวันที่เต๋าไม่ได้โทรหาเลยสักครั้งเดียว

“ไปเที่ยวไหนกันวะช่วงสอบ... เออ ลืมไป พวกเด็กอินเตอร์ยังไม่เปิดเทอมนี่หว่า”  เฟรมถามเองตอบเองเสร็จสรรพ

“เขาไปทะเลกับเพื่อนน่ะ กลับมาวันศุกร์”  คชาเลี่ยงการเอ่ยชื่ออีกคน...ไม่ถึงกับต้องแทนว่า‘คนที่คุณก็รู้ว่าใคร’… คชาก็แค่เลี่ยงการคิดถึงที่มากเกินความจำเป็น

   “คิดถึงอะดิ?”  หนุ่มแว่นยิ้มล้อๆ คชาไม่ตอบหากแต่ในใจเห็นด้วยเสียเต็มประดา

   ใช่... คิดถึง คิดถึงมาก

   “คิดถึงก็โทรไปหาดิ”  เฟรมแนะต่อ  “ความคิดถึงมันห้ามไม่ได้เว่ย เพราะงั้นคิดถึงก็โทรเลย อย่าไปคิดอะไรมาก”
   คนตัวเล็กอดถอนหายใจออกมายาวๆ เสียไม่ได้... มันเป็นความรู้สึกของคนที่ถูกเทคแคร์มาตลอดแต่วันนึงต้องกลับกัน

   “เออ เรื่องแค่นี้จะเครียดทำไม”  โปเต้เอ่ยต่อ  “ไม่เคยฟังเพลงของนิวจิ๋วหรอวะ...รอแล้วได้อะไร... ถ้าไม่กล้าก็ส่งข้อความก็ได้ แต่พิมพ์หาแค่นี้เอง

“เออ จริง ไม่เห็นมีอะไรต้องอาย หน้าก็ไม่เห็น เสียงก็ไม่ได้ยิน”

คนตัวเล็กนิ่งทบทวนคำพูดของเพื่อนซี้ทั้งสอง ทว่าอาหารที่มาเสิร์ฟก็คั่นจังหวะความคิดลงเพียงเท่านั้น  เฟรมกับโปเต้ไม่ได้พูดกับ
เขาเรื่องนี้อีก ซึ่งก็ดีแล้ว เพราะเขาไม่อยากให้คนอื่นต้องพลอยเป็นห่วงหรือคิดมากตาม





คืนวันเดียวกัน หลังจากอ่านหนังสือเตรียมสอบวิชาที่สามเสร็จแบบลวกๆ  ร่างเล็กในชุดนอนสีฟ้าก็นอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงอยู่นานสองนาน  สายตายังคงเพ่งมองไปที่ตัวหนังสือเล็กๆ บนหน้าจอโทรศัพท์ของตน

คชากำลังอ่านข้อความเก่าๆ ที่เต๋าเคยส่งมาให้... ถึงฝ่ายนั้นจะไม่ได้ส่งอะไรมายาวนักแต่ทุกคำมันกลับกระทบมาถึงจิตใจให้เต้นรัว
ทั้งๆ ที่ตอนได้รับแทบจะอ้วกออกมาตรงนั้น แต่พอตอนนี้เขากลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

‘อยากนอนกอดหมอนข้างดิ้นได้’
‘คิดถึงนะแอทเลิฟ’
‘ฝันดีนะคะชา’

ลอบยิ้มกับข้อความเหล่านั้นเบาๆ พลันก็นึกถึงสิ่งที่เพื่อนทั้งสองบอกตอนเที่ยงวันนี้  คชานั่งคิดนิ่งๆ อยู่สักพัก  นิ้วเล็กก็กดเข้าเมนูพิมพ์ข้อความ  คำพูดมากมายที่ผุดขึ้นมาในหัวทำให้นิ้วกดพิมพ์กดลบไปๆ มาๆ 
จนสุดท้ายเหลือเพียงประโยคเดียวเท่านั้น

   ‘อยากให้ถึงวันศุกร์เร็วๆ’

   หัวใจเต้นรัวอย่างไม่มีสาเหตุเมื่อตัดสินใจได้ว่าจะส่งคำนี้หลังจากคิดมาหลายต่อหลายตลบ  คชากลั้นใจกดปุ่มส่งออกไปยังปลายทาง  ตาเบิ่งมองดูรูปจดหมายสีครีมที่กำลังแสดงเครื่องหมายอยู่ในระหว่างการส่ง


   หากแต่เครื่องหมายตกใจที่ปรากฏ ก็ทำเอาเจ้าของโทรศัพท์ขมวดคิ้วเบาๆ

   ‘ไม่มีจำนวนวันเพียงพอสำหรับการใช้บริการ  เติมวัน กด @$^&)!#’

ข้อความจากระบบเครือข่ายเป็นตัวชี้แจงได้เป็นอย่างดี ส่วนท้ายบอกถึงระยะเวลาของโปรโมชั่นเดิมที่ใช้อยู่ว่ากำลังจะหมดในอีกไม่กี่วัน  ดูนาฬิกาตอนนี้ก็ดึกแล้ว และคชาก็ขี้เกียจเกินกว่าจะเดินไปมินิมาร์ทที่ถัดไปอีกสองซอยเพื่อซื้อบัตรเติมเงิน

   คชาถอนหายใจหน่วงๆ ออกมาเมื่อสุดท้ายทุกอย่างก็ยังไม่ต่างจากเดิม  ขาลุกเดินไปปิดสวิตช์ไฟเตรียมเข้านอน


   ในห้องสี่เหลี่ยมมืดๆ  คนตัวเล็กฝังตัวเองลงบนที่นอนนุ่มอีกครั้ง  ตาคู่เรียวมองดูแสงวาบจากโทรศัพท์ที่หัวเตียง


มือถือย่อมมีวันหมดโปรโมชั่น...
แล้วคนล่ะ หมดไปรึยัง หรือเพราะอะไร?
   

   
   







TBC



หวานติดกันมากๆ กลัวคนเบื่อ 55555
ขอบคุณคนอ่านทุกคนและทุกคอมเม้นมากๆ เลยน้า อิอิ
 :impress2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 21-22 หน้า 9 (up 2 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 03-08-2012 07:09:59
มือที่สาม มาเเล้วนะเต๋า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 21-22 หน้า 9 (up 2 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 03-08-2012 08:02:34
ห่างกัน 3 วันนารีเป็นอื่น
นี่กี่วัน ปอ อีกต่างหาก
เต๋ามาคุมเด็กให้ไว
555 ขำตรงทะเลาะกันเพราะการ์ตูน
ก็นะ เด็กไม่เด็ก ถ้าโอตาคุการ์ตูนแล้วไซร็มันเลิกยาก
อ่านตอนนี้แล้วเต๋าใจดีแล้วก็อบอุ่นมากกกกกก!!!
กดบวกให้ไว ใส่เป็ดลอยคอด้วย อุอุ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 21-22 หน้า 9 (up 2 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 03-08-2012 08:29:50
เฮ่อ เซ็ง คชาคงได้เรียนรู้ อย่าปากหนัก ทำตามอารมณ์มากไปอีกนะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 21-22 หน้า 9 (up 2 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 03-08-2012 08:57:00

มือถือย่อมมีวันหมดโปรโมชั่น...
แล้วคนล่ะ หมดไปรึยัง หรือเพราะอะไร?
   


   คมแท้ๆ บาดจายยย



หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 21-22 หน้า 9 (up 2 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 03-08-2012 10:22:45
ชาน้อยน่าเอ็นดู
คิดถึงเต๋าก็ต้องบอกนะจ้ะ
ยิ่งอยู่ห่างกันแบบนี้
เดี๋ยวก็มีมือที่ 3 มาเยี่ยมหรอก
ดีกันไวๆน้าเด็กๆ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 21-22 หน้า 9 (up 2 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 03-08-2012 12:15:25
ก็ชาคะเอาแต่ใจ เต๋าอุตส่าห์เป็นห่วงแต่กลับไปโกรธเต๋า เป็นเราเราก็เสียใจนะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 21-22 หน้า 9 (up 2 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: fastation ที่ 03-08-2012 13:58:42
ไม่ยอมคุยกันให้เคลียร์ระวังพ่อหนุ่มห้องข้างๆนามว่าปอมาแย่งไปละ
รออ่านตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 21-22 หน้า 9 (up 2 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: devotionNightmare ที่ 03-08-2012 17:08:14
เล่นกระชากหนังสือแล้วโยนขนาดนั้นโอตาคุร้อยทั้งร้อยก็หงุดหงิดแหละวะ o12
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 21-22 หน้า 9 (up 2 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: akihito ที่ 03-08-2012 19:23:58
เต๋างอนมากไประวังจะโดนคนอื่นแย่งชาไปนะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 21-22 หน้า 9 (up 2 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 03-08-2012 20:37:46
อั้ยยะ

งอนกัน ทำไม

คุยกันด่วนเลย

เบอร์อะไรคชาบอกมา เดี๋ยวโอนวันไปให้ 55555555555


หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 21-22 หน้า 9 (up 2 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: bangkeaw ที่ 03-08-2012 22:36:37
เต๋า คชามีหนุ่มมาข้องแวะแล้วนะ หายไปนานๆแบบนี้
อุปสรรคเยอะนะช่วงนี้
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ ขอวลอีกนิดนคดี๋ยวอมลงห้น่นอน อย่กันลืมน
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 03-08-2012 23:53:40
หน่วงตม
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 21-22 หน้า 9 (up 2 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: papark ที่ 04-08-2012 00:11:32
ผมเข้าใจความรู้สึกชานะ เป็นผม..ผมแม่งโคตรหงุดหงิดเลย
แล้วผมก็เข้าใจเต๋านะ.. เต๋าเป็นห่วงมากจึงต้องทำแบบนั้น ผมเข้าใจ..
อ้ากกก ระวังมือที่สามและสี่นะชา ~
รอนะครับ มาอัพไวๆน้า ~
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 21-22 หน้า 9 (up 2 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 04-08-2012 00:26:24
หมดโปรแล้ว ต่อไปเป็นเวลาเอาจริง
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 21-22 หน้า 9 (up 2 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 05-08-2012 16:09:51
♀ TOM (or) BOY ♂
23








เขาว่ากันว่า... คนมาทะเล ถ้าไม่อินเลิฟก็อกหัก
แล้วกับเขาล่ะ เป็นอย่างไหน?

ท้องฟ้ากับทะเลสีดำอยู่เบื้องหน้า  หาดทรายสีนวลในยามกลางวันแลดูมืดมนและน่ากลัวในยามกลางคืน  แม้แต่ท้องฟ้าก็เมฆทืบไม่เห็นดาวเลยสักดวง
ปาร์ตี้ริมหาดของหมู่เพื่อนกำลังสนุกสนานกันได้ที่  สามวันแล้วที่มาที่นี่ แต่ความห่างไกลกลับยิ่งทำให้คิดถึง
ระยะทางไม่ทำให้ลืม แต่ยิ่งทำให้รู้ว่าสำคัญ

เต๋าถอนหายใจหน่วงๆ ออกมา  ท่ามกลางความครึกครื้นของกลุ่มเพื่อนเบื้องหลัง เขาทิ้งห่างออกมานั่งที่เก้าอี้ชายหาดฟังเสียงคลื่นและลมทะเล  ด้านข้างมีกระป๋องเบียร์วางอยู่สองสามกระป๋อง จิตใจลอยไปไกลถึงเมืองกรุง... สามวันแล้วที่ไร้การติดต่อซึ่งกันแล้วกัน ถ้าเป็นปกติเขาคงทนไม่ได้ แต่ในตอนนี้เขายังอยู่ในช่วงถามใจ
ไม่ได้ถามใจตัวเอง แต่ถามใจใครคนนั้น...
‘รัก’ กับ ‘ผูกพัน’ แม้จะใกล้กัน แต่เต๋าต้องการเพียงความรัก

“แหม่... ไอ้เต๋า จากแฟนมาทะเลแค่นี้มานั่งเป็นพระเอกมิวสิคอยู่ได้”  เบนเอ่ยพลางนั่งลงใกล้ๆ เพื่อนสนิทหลังจากยืนมองอยู่สักพัก

“ใครวะแฟน?”  เต๋าถามกลับเสียงนิ่ง ฟังดูไม่ยินดียินร้าย  “เขายังไม่ได้เป็นแฟนกูว่ะ”  ว่าแล้วก็ยกเบียร์จิบขึ้นอีกอึกใหญ่

   “เห้ย... ดราม่าอะไรวะ ไหนว่าคบหาดูใจกันอยู่ไง?”

“กูดูใจเขาแล้วเขาดูใจกูบ้างรึเปล่าวะ?”  เสียงทุ้มเอ่ยตัดพ้อ  “ทั้งๆ ที่กูห่วงเขาสารพัด คิดถึงเขาอยู่ทุกวัน แล้วเขาเคยคิดแบบนั้นกับกูบ้างไหม?”

“ใจเย็นเพื่อน ใจเย็น”  เบนพยายามปลอบ

“หรือจริงๆ เขาไม่ได้คิดอะไรกับกูวะ เขามาอยู่กรุงเทพคนเดียวเลยอาจจะแค่เหงาก็ได้ กูก็เป็นแค่เพื่อนธรรมดาคนนึง”

“ไม่เอาน่า...”  เบนตบบ่าอีกคนอย่างปลอบใจ ...เต๋าเป็นเพื่อนเขามาหลายปี นานๆ ทีจะเห็นเจ้าตัวดราม่ากับเรื่องอะไรโดยเฉพาะความรัก  “อย่าคิดมากดิวะเพื่อน อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้”

“เออ...กูก็ไม่ได้อะไรหรอก แค่ถอยออกมาหน่อย เผื่ออะไรๆ มันจะชัดเจน”  เต๋าทอดสายตาไปยังทะเลกว้าง
เต๋าถอนหายใจยาวๆ ออกมาอีกครั้ง นั่งหลับตาปล่อยใจตัวเองให้เป็นอิสระล่องลอย... ความชัดเจนที่ว่าน่ะ กับตัวเขาเข้าใจแล้วว่าตนเองรู้สึกยังไง แต่กับคชาล่ะ
สถานะที่ยังคลุมเครือ การกระทำที่ไม่ชัดเจน

เต๋ายังนั่งซึมทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องเล็กๆ เรื่องนั้น  เรื่องเล็กที่จุดประเด็นเรื่องอื่นขึ้นมา... ที่เขาเป็นห่วงคชามันผิดตรงไหน? นึกอยากจะรู้จริงๆ ว่าอีกฝ่ายสัมผัสมันได้บ้างรึเปล่า?
หรือจริงๆ แล้วเต๋าเข้าใจผิดมาตลอดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ
แค่ให้บอกว่าเป็นอะไรกัน... เต๋าก็เป็นได้แค่เพื่อนคนนึงเท่านั้นเอง




- - -




สิ่งหนึ่งที่คชาไม่เข้าใจ คือการที่เด็กคณะนิเทศศาสตร์ต้องลงเรียนวิชาธรรมชาติวิทยา
คชานั่งขมวดคิ้วอ่านหนังสือเรียนเล่มสีเขียว มือซ้ายป้ายปากกาไฮไลท์ลงไปในส่วนสำคัญ วิชานี้ไม่ใช่วิชาบังคับ แต่ก็เป็นวิชาเลือกที่เด็กคณะนิเทศปี 1 ส่วนใหญ่ลงเรียนตามๆ กันมาทุกปีจนอาจารย์เปิดเซคชั่นให้ เนื่องด้วยเพราะต้องเรียนวิชาหมวดวิทยาศาสตร์อย่างน้อย 1 วิชาอยู่แล้ว

เนื้อหาของมันที่ละม้ายคล้ายวิทย์โอเน็ตไม่รู้จะทำให้เขาดีใจรึเสียใจดี ตอนสอบเข้าคะแนนวิทยาศาสตร์เขาอยู่ในเกณฑ์กลางๆ แต่พอสอบเสร็จทุกอย่างก็เหมือนกลายเป็นศูนย์ คืนครูคืนตำราไปหมดแล้ว  โชคดีก็ตรงที่ได้ยินว่าข้อสอบมันเป็นช้อยส์นี่แหละ เพราะงั้นถ้าอ่านผ่านตาไปบ้างก็น่าจะพอทำได้

แขนเรียวยืดบิดขี้เกียจ ปากก็หาววอด สองทุ่มกว่าแล้วและเมื่อครู่นี้เขาก็เพิ่งกินข้าวกล่องเสร็จไป ไม่รู้เพราะหนังท้องตึงหนังตาเลยหย่อน หรือเป็นเพราะโรคง่วงนอนเพราะเห็นหนังสือเรียนกันแน่

หากแต่เสียงเคาะประตูสองสามครั้งก็ทำเอาเขาขมวดคิ้วเบาๆ  ขาลุกขึ้นจากโต๊ะญี่ปุ่นบนพื้นเดินไปหาต้นเสียง... แวบแรกในสมอง เขาคิดถึงเต๋า แต่ก็ถูกต้านขึ้นมาเสียเองเพราะตอนนี้เต๋าคงสนุกกับเพื่อนๆ อยู่ที่ทะเล

สงสัยจะเป็นเฟรม...


“ไงคชา”  แต่ไม่ใช่เฟรมอย่างที่คิดไว้หรอก

“มีอะไรหรอปอ?”  เขาถามนักศึกษาแพทย์ตรงหน้าที่ส่งยิ้มกว้างมาให้

“เราซื้อขนมมาฝากน่ะ”  เอ่ยพลางยกถุงพลาสติกในมือขึ้นมา ตาปรายเข้าไปในห้อง  “เข้าไปข้างในได้ไหม?”

คำขอของเพื่อนใหม่ข้างห้องดูน่าเห็นใจขึ้นมาเมื่อเจ้าตัวส่งสายตาอ้อนๆ มาให้  คชานึกไม่ออกว่าในอนาคตคนตรงหน้าจะเป็นหมอแบบไหน แต่บอกตรงๆ ว่าเขาคงไม่กล้าให้รักษาเพราะไม่มีความน่าเกรงขามอย่างนั้นอยู่เลยสักนิดเดียว  คนตัวเล็กเปิดประตูออกกว้างให้คนมาใหม่เข้ามา  ถ้าไม่นับตัวเขาเอง ปอเป็นคนที่สามที่ได้เข้ามาเหยียบห้องนี้ 

ปอนั่งลงตรงโต๊ะญี่ปุ่นกลางห้องโดยไม่ต้องถาม มือแกะกล่องโฟมออกมา สาคูกับข้าวเกรียบปากหม้อส่งกลิ่นโชยน่ากินไปทั่วห้อง

“กินเลยคชา”  หนุ่มผิวสองสีว่า  มือก็จิ้มสาคูเข้าปากแถมด้วยผักกาดหอมที่ฉีกใส่ตาม

“ขอบใจนะ แต่ทีหลังไม่ต้องซื้อมาฝากก็ได้หรอก”  เสียงใสเอ่ยกับเพื่อนใหม่

“เฮ้ย แค่นี้เองไม่เป็นไร เราเพื่อนบ้านกัน... ทีวันแรกคชายังเอาน้ำเต้าหู้มาให้เราเลย”  ปอเอ่ยยิ้มๆ  “มันเยอะ กินคนเดียวไม่หมดหรอก แถมยังเหงาด้วย”

ถ้อยคำซื่อๆ จากปากอีกคนทำเอาคชาชะงัก...  ‘เหงา’ ไอ้คำคำนี้มันแทงใจชอบกลเมื่อได้ยิน

“ว่าแต่นายทำไมถึงเพิ่งย้ายมาหอนี้ล่ะ?”  คชาเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“อ๋อ... ตอนแรกเราอยู่บ้านญาติ แต่มันไกลจากมหาลัย แล้วเราก็ไม่ค่อยสนิทกับญาติสักเท่าไหร่ด้วย”  ปอเล่า  “เราเพิ่งย้ายมาจากอุตรดิตถ์น่ะ เพิ่งมาอยู่คนเดียวมันเลยเหงาๆ ...แล้วคชาล่ะ หน้าตี๋ๆ ตัวขาวๆ แบบนี้คงเป็นเด็กเมืองกรุงแน่ๆ เลย”

“เฮ้ย! จะบ้าหรอ เราเป็นเด็กโคราช เพิ่งเข้ากรุงตอนเข้ามหาลัยเหมือนกันนี่แหละ”

“หรอ... งั้นคชาก็ไม่รังเกียจใช่ไหมที่มีเพื่อนเป็นเด็กบ้านนอกแบบเราอะ”

“รังเกียจทำไม ก็บ้านนอกเหมือนกัน”  เสียงใสพูดจบ ทั้งสองก็หัวเราะออกมาเบาๆ  บรรยากาศในห้องจากเพื่อนข้างห้องที่ไม่คุ้นเคยดูอบอุ่นขึ้นมาอย่างน่าประหลาด  คชานั่งกินข้าวเกรียบปากหม้อในกล่องโฟมอย่างเอร็ดอร่อย  บทสนทนาเล็กๆ น้อยๆ ผุดขึ้นมาระหว่างเพื่อนใหม่ทั้งสอง

“ว่าแต่นี่อะไรอะ หนังสือเรียนคชาหรอ?”  ปอพูดพลางพลิกหนังสือบนโต๊ะดู

“อืมใช่ พรุ่งนี้สอบ ยังอ่านไม่จบเลย”  คชาเอ่ยด้วยท่าทีกังวลเล็กๆ ไปตามประสา ถึงอันที่จริงจะไม่เครียดเท่าไหร่แต่ก็ยังอ่านไม่จบ

“อ้าวหรอ.. งั้นเรามาขัดจังหวะคชาอ่านหนังสือรึเปล่าเนี่ย?” 

“เฮ้ย ไม่... เราเบื่อๆ อยู่พอดี”  คชารีบปฏิเสธเมื่อเห็นท่าทีเป็นหมาหงอยของอีกคน

“หรอ?”  ปอขมวดคิ้วอย่างไม่สบายใจ  “เดี๋ยวเราติวให้เอาไหม ดูแล้วไม่น่ายากเท่าไหร่นะ”  ว่าพลางพลิกดูเนื้อหาภายในเล่ม

“แหงล่ะ จะยากได้ไง นายมันนักเรียนแพทย์นี่”

ถึงจะไม่อยากรบกวนเพื่อนข้างห้อง แต่สีหน้าที่ดูไม่สบายใจเท่าไรนักของปอก็ทำให้คชาตอบตกลง และหลังจากนั้นหลายนาทีต่อมา คชาก็คิดว่าตัวเองคิดถูกแล้ว  ปอพูดได้เข้าใจดีสมกับที่เป็นนักศักษาแพทย์ มาดขี้เล่นเป็นเด็กๆ นั่นหายไปเมื่อปอเอ่ยอธิบายด้วยท่าทีสุขุม

ตอนนี้ เขาเริ่มเชื่อแล้วล่ะ... ว่าอนาคตปอจะเป็นหมอได้จริงๆ

จนกระทั่งเนื้อหามาถึงบทสุดท้าย เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เพลงการ์ตูนก็ดังขึ้น... คชาหูผึ่งที่ได้ยิน หลังจากเต๋าไปทะเลเขาก็กลับมาใช้ริงโทนมีเสียงหลังจากเปิดโหมดสั่นอยู่นาน

คนตัวเล็กลุกขึ้นไปหาเครื่องมือสื่อสารที่วางทิ้งไว้ตรงหัวเตียง ไม่อยากคาดหวังว่าใครโทรมาเพราะกลัวความผิดหวัง หากแต่รายชื่อที่ปรากฏขึ้นมากลับทำหัวใจเต้นรัว

‘@love’




- - -




สองชั่วโมงแล้วนับแต่ปาร์ตี้ริมหาดเริ่มต้นขึ้น  กลุ่มเพื่อนเด็กบริหารอินเตอร์รวมทั้งหมด 8 คน จากตอนแรกที่ทุกคนยังดูปกติดี ในตอนนี้หลายๆ คนเริ่มจะไปซะแล้ว

คงโชคดีที่ทริปนี้มีหญิงสาวมาด้วยสามคน แต่ละคนยังมีสภาพปกติดีด้วยเพราะเดียร์กับแอนไม่ดื่ม ส่วนปลาเพียงแค่จิบเบาๆ และอีกหนึ่งหนุ่มที่ยังไหวก็คือน้ำแข็ง ส่วนสี่หนุ่มที่เหลือ เบนกับตั้มเมาพับไปแล้ว หยีดูสภาพอ้อแอ้ ส่วนเต๋าดูจะเมาหนักกว่าใคร

ณ เวลาสี่ทุ่มครึ่ง เหล้าเบียร์และอาหารถูกเก็บไปเรียบร้อย เหลือทิ้งไว้เพียงศพแต่ละคนที่ต้องถูกทยอยเก็บตามมา
หนุ่มผิวขาวจัดในตอนนี้หน้าขึ้นสีแดงจัดเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ หลังจากที่เต๋าไปนั่งเงียบๆ คนเดียวอยู่พักใหญ่ก็ถูกเพื่อนลากมาร่วมวงเพราะเห็นท่าทีซึมแปลกๆ ตลอดทริป

“ชาอยู่ไหน... เต๋าคิดถึงชา...”  ยิ่งเมายิ่งเปิดเผยความในใจ... หนุ่มผิวขาวจัดเอ่ยออกมาด้วยเสียงยานคาง  ตอนนี้ที่ริมหาดเหลือเพียงเต๋ากับหยีที่เมาพับ ส่วนคนอื่นๆ กำลังถูกขนไปเก็บที่ห้องนอน

“อยู่ในใจมึงไงเต๋า ฮ่าๆๆๆ”  หยีพูดตอบให้

“เออ ถูก”  เต๋าว่า  “แล้วกูอยู่ในใจเขาบ้างไหมวะ?” 

“คิดมากน่า... อย่างมึงถึงอกหักก็หาใหม่ได้ง่ายๆ ล่ะว้า”  หยีตอบเพื่อน

“ไม่เอา คนนี้กูรักของกู”  เสียงทุ้มเอ่ยเพ้อๆ

เกินสมองจะควบคุมเมื่อในยามนี้ส่วนที่ใช้คิดมีเพียงหัวใจ  มือขาวซีดหยิบเครื่องมือสื่อสารที่วางไว้ทิ้งบนโต๊ะมานาน ใช้เวลาเลื่อนหาชื่ออยู่นานกว่าจะเจอ  ชื่อที่ถูกบันทึกไว้เหมือนกันกับอีกเครื่อง

‘@love’






‘@love’

หลายวินาทีแล้วที่คชายืนจ้องชื่อนั้นในโทรศัพท์ราวกับจะดูให้แน่ใจ จนเมื่อตั้งสติได้  คนตัวเล็กก็หันไปมองอีกคนในห้องเชิงขอเวลา  นิ้วมือค่อยๆ เลื่อนไปกดรับสาย หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นที่จะได้ยินเสียงคนที่คิดถึงแต่ไม่กล้าติดต่อไปตลอดหลายวันที่ผ่านมา

“ชา...”  กี่วันแล้วที่ไม่ได้ยินเสียงนี้... คชานิ่งค้างเหมือนถูกสะกด แม้ฟังดูก็รู้ว่าน้ำเสียงไม่ปกติ

“เต๋า”  คชาเรียกชื่ออีกฝ่ายเหมือนจะช่วยเตือนสติ  “เมาอยู่หรอ?”

“ถ้าเมาก็เมารักชานั่นแหละ คิดถึงงงงง”  คนฟังกำโทรศัพท์แน่น ได้ยินดังนั้นแล้วหัวใจก็เหมือนมีน้ำหล่อเลี้ยงให้ชุ่มชื้น ถึงมันจะส่งกลิ่นเหล้ามาแต่ไกลก็ตาม

“คิดถึงชา อยากกอดชา”

“อ..อืม”

“อยากจูบคชา จูบแรงๆ สักร้อยที”  คนตัวเล็กได้ยินดังนั้นก็รู้สึกหน้าร้อนวูบขึ้นมาทันที มือข้างหนึ่งยกขึ้นจับปลายผมเล่นเบาๆ

“อยากกลืนอยากกินไปทั้งตัว”  คำพูดที่ชวนติดเรทมากขึ้นทุกทีทำเอาคนตัวเล็กที่ขยับนั่งลงกับปลายเตียง  ไม่พูดตอบอะไรแต่หน้าแดงแจ๋ไปกับคำพูดเหล่านั้น... เขาว่าคนเมามักจะเผยความรู้สึกส่วนลึกออกมานี่ จริงไหม...

“ชา...ให้เต๋าจูบชานะ”  เสียงเดิมยังเอ่ยต่อไป แม้จะฟังดูอ้อแอ้ตามประสาคนเมาแต่ก็ทำเอาคนฟังถึงกับหลับตาปี๋โดยไม่รู้ตัว...  ประสาทหูที่ยังทำงานได้ยินเสียงจูบวาบหวามลอดออกมาจากลำโพงโทรศัพท์ ขนแขนพากันลุกซู่ขึ้นมาซะอย่างนั้น

“เต๋า... ทำอะไร!? ทะลึ่ง”  ไม่ใช่เสียงของคชา หากแต่มาจากปลายสาย... เสียงผู้หญิงที่ดังแทรกเข้ามาทำเอาคนฟังถึงกับลืมตาราวกับตื่นจากฝัน  “ถอดเสื้อกับเข็มขัดทำไม... เฮ้ยเต๋า!”

เสียงผู้หญิงเสียงนั้นคชาไม่รู้หรอกว่าคือใคร แต่เท่านั้นสมองก็พลันนึกไปไกลเสียแล้ว

“ฮัลโหลๆ”  คชาพยายามเอ่ยกับปลายสาย ทว่ามันก็ถูกวางไปเสียก่อน  ทิ้งไว้เพียงปริศนาที่ยากจะเข้าใจ

เต๋าเมาปลิ้น... โทรมา...ส่งจูบให้...
ถอดเสื้อ...ถอดเข็มขัด...แล้วก็มีผู้หญิงเข้ามา

คนตัวเล็กนั่งกุมขมับอยู่บนเตียง คิ้วขมวดจนแทบจะชนกัน ยิ่งปะติดปะต่อเรื่องราว ภาพในหัวยิ่งลอยขึ้นมา

อย่าบอกนะว่า... เต๋าเมา...แล้วก็...ทำอะไรผู้หญิงคนนั้นเพราะคิดว่าเป็นเขา
โอ๊ย...ไม่... คิดอะไรอกุศล...เต๋าไม่ทำอะไรอย่างนั้นหรอก...

ใช่ไหม?

คชารู้ดี... ปกติเต๋าเป็นสุภาพบุรุษมากแค่ไหน แต่ในยามที่เมาไม่ได้สติแบบนี้... เมาถึงขนาดที่ว่าโทรมาแล้วพูดอะไรแบบนั้นด้วย
อุตส่าห์จะดีใจกับคำบอกคิดถึงแล้วเชียว... ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ




- - -




   เฟรมกลับขอนแก่นทันทีหลังสอบกลางภาคเสร็จ...

   จริงๆ ยังไม่เสร็จซะทีเดียวแต่นี่เป็นวิชาสุดท้ายของสัปดาห์ เนื่องด้วยวันศุกร์ไม่มีสอบ และจะสอบอีกทีก็ถัดไปอีกอาทิตย์นึง
   คชาโบกมือให้กับเพื่อนซี้ที่รีบกลับไปที่หอเพื่อเก็บกระเป๋าเตรียมออกเดินทาง เห็นสีหน้าลัลล้าของเฟรมแล้วก็ดีใจแทน แต่ลึกๆ ตัวเองก็อดคิดถึงบ้านไม่ได้  แม้คชาจะโทรคุยกับครอบครัวบ่อยๆ แต่มันแทนกันไม่ได้หรอก

   คนตัวเล็กนั่งนิ่งๆ อยู่ที่ม้าหินด้านล่างของอาคาร รอแพรวากับแอ้นที่ยังทำข้อสอบไม่เสร็จ เตรียมไปฉลองกันเล็กๆ เย็นวันนี้

   “ไงคชา...”  เสียงผู้หญิงที่เอ่ยขึ้นทำเอาใบหน้าหวานต้องเงยหน้ามอง

“สวัสดี...แฟง”  คชาทักกลับไปอย่างไม่เข้าใจนัก ปกติแฟงกับเขาถึงอยู่คณะเดียวกันแต่ไม่ค่อยได้คุยด้วยหรอก นอกเสียจากวันนั้นที่แฟงมาถาม... เรื่อง...

   “หมู่นี้ไม่ค่อยเห็นเต๋าเลยนะ”  เธอพูดนิ่งๆ ส่งยิ้มบางที่ไม่ส่อแววถึงความเป็นมิตรสักเท่าไหร่  หลังจากวันนั้นที่คชาแอบกันท่าแฟงว่าเต๋ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว แฟงคงรู้ในเวลาต่อมาว่านั่นคือคชา และเธอก็มีท่าทีเปลี่ยนไป

   “เต๋าไปเที่ยวต่างจังหวัดน่ะ”  คชาตอบกลับเรียบๆ

   “นี่คชา... ถามจริงๆ เลยนะ นายกับเต๋าเป็นอะไรกัน?”

   “ก็... เป็น...”  คชาอ้ำอึ้งในคำตอบ มันเป็นเรื่องที่แม้เขาเองก็ยากจะอธิบาย

   “ถ้าไม่ได้เป็นอะไร ก็ปล่อยเต๋าไปได้ไหม?”  แววตาคู่สวยมองตรงมาอย่างตั้งมั่น  “ไม่คิดบ้างหรอ ที่นายทำอยู่มันตัดโอกาสที่เต๋าจะได้เจอกับคนดีๆ”

   สิ้นประโยคนั้นคชาก็นิ่งไป... ไม่ทันได้ตอบอะไรหรือไม่ทันได้ฟังอะไรแฟงพูดมากกว่านั้น แพรวากับแอ้นก็เดินเข้ามาเสียก่อน  แฟงหันไปมองเพื่อนร่วมรุ่นทั้งสองที่เดินเข้ามาใหม่ก่อนจะลุกเดินออกไป

   คชาเพียงส่ายหน้าตอบแพรวาที่เอ่ยถามว่ามีอะไร แม้ในใจยังคงค้างคา

   “อย่าไปฟังอะไรยัยนั่นมากน่ะคชา ให้ตายเหอะ...ฉันล่ะไม่ชอบหน้ายัยแฟงนั่นจริงๆ  ต่อหน้าล่ะชอบทำตัวแอ๊บใสๆ  เอาเข้าจริงล่ะแรดจะตาย ได้ยินว่าเพิ่งหักอกพี่โอ๊ตด้วยแหละ”  แพรวาเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์...พี่โอ๊ตที่ว่าเป็นพี่ปีสอง พี่รหัสของแอ้น

   “แพรวาก็...พูดเกินไป”  แอ้นปราม 

   “เกินไปอะไร... ชา..นี่เราพูดจริงๆ นะ”

   “อืม เราไม่ได้สนใจที่เขาพูดนักหรอก”  คชาตอบออกไป  และบทสนทนาทั้งหมดก็จบลงเท่านั้นเมื่อเจมส์กับโปเต้กลับมาจากโรงอาหารพอดี
   



   เย็นวันนั้น หลังจากที่ไปดูหนังราคาพิเศษด้วยบัตรนักศึกษาเสร็จ คชาก็เสนอเมนูมื้อเย็นเป็นอาหารอีสานบ้านเกิด  โลเคชั่นจากห้างสรรพสินค้าดังเลยถูกเปลี่ยนเป็นร้านลาบในย่านชุมชนหลังมหาวิทยาลัยที่เปิดตั้งแต่เย็นจนถึงดึกๆ

   ไม่ต่างจากทุกครั้งที่คชาสั่งส้มตำมากินตอนพักเที่ยงที่โรงอาหาร... ทุกครั้งที่คิดถึงบ้าน เมนูเหล่านี้ดูจะช่วยได้ไม่มากก็น้อย

“เอ้า...ชน!”  ไม่ต้องมีแอลกอฮอล์ เมื่อสิ่งที่ถูกยกชนเป็นเพียงกระติ๊บข้าวเหนียวอันเล็กๆ  คชานั่งจกข้าวเหนียวเคล้าไก่ย่างส้มตำ ตัดซดน้ำต้มแซ่บชามใหญ่ที่วางอยู่ด้านหน้า  งานนี้แทบไม่มีแม้แต่ช้อนกลางสักคัน ดูทุกคนจะเป็นกันเองเหลือเกิน

การฉลองสอบเกือบเสร็จลากยาวตั้งแต่ทุ่มเศษมาถึงสามทุ่ม กระเพราะอาหารรูดปิดไปนานแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงคาราโอเกะในร้านที่ยังทำงานรองรับความบ้าระห่ำของนักศึกษาปีหนึ่งที่มาระบายความเครียด

   “โห...ให้ตายเหอะ ไอ้เฟรมน่าจะมาด้วยว่ะ จะได้มาร้องด้วยกัน”  เจมส์บ่นเมื่อถึงคิวเพลงของตนที่เลือกไว้... เพลงที่เจมส์ชอบหยิบมาร้องเล่นบ่อยๆ โดยมีเฟรมเป็นลูกคู่

   ...เด็กมีปัญหา...

   คนตัวเล็กนั่งหัวเราะมองเพื่อนร่างยักษ์ที่แอ๊บแบ๊วร้องเพลงของดูโอสาวอย่างโฟร์มด  ทุกคนดูจะชอบอกชอบใจกับหนุ่มหน้าหมีที่ทำท่าตลกเฮฮาจึงเลือกเพลงถัดมาให้กับเจมส์อีกเพลง… เพลงใหม่ของนักร้องสาวกลุ่มเดิม

...จีบได้แฟนไม่รัก...

คชานั่งหัวเราะปรบมือตามๆ กันไป  คราวนี้เจมส์เวียนให้คนอื่นมาเป็นลูกคู่ตัวเองบ้าง เพราะเจมส์บอกว่าอยากร้องแต่ท่อนของโฟร์
ไมค์อีกตัวที่ถูกสลับเวียนกันไปมาพาทำเอาคชานั่งขำกับเพื่อนๆ  ก่อนที่ไมค์ตัวนั้นจะมาหยุดอยู่ที่คชา  คนตัวเล็กรับมันมาก็ถูกเจมส์ฉุดขึ้นไปยืนด้วย

“เจ้าของฉันอยู่ไหน... ไม่เห็นว่าจะสำคัญ... โสดหรือว่าไม่โสด ไม่ต่างกัน”  สาบานได้ว่าคชาเพิ่งจะฟังเพลงนี้อย่างจริงจังเป็นครั้งแรก แต่ไอ้เนื้อเพลงนี้นี่มันแทงใจดำเข้าอย่างจังเลย

คนตัวเล็กดำน้ำไปแค่นั้นก็รีบส่งไมค์ให้เพื่อนต่อแล้วมานั่งอยู่กับโปเต้ตามเดิม

คชายังไม่มีเจ้าของ... เขาเป็นโสดมาตั้งแต่เลิกกับแฟนคนแรกตอนอยู่ม.5 แล้ว  และการจะมีรักครั้งใหม่ โดยเฉพาะกับผู้ชายด้วยกัน มันเลยทำเอาสมองสับสนวุ่นวายไปหมด

เพราะเขาไม่รู้... ทำตัวไม่ถูก... สุดท้ายมันเลยลงเอยแบบนี้ใช่ไหม?

คชานั่งมองโทรศัพท์ของตนอีกคงเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่สามารถเชื่อมเราเข้าหากันได้

‘อยากให้ถึงวันศุกร์เร็วๆ’  ข้อความที่พิมพ์เมื่อสองวันก่อนแต่ไม่ได้ส่ง ในตอนนี้กลับมาปรากฏที่หน้าจออีกครั้ง
เขาเปลี่ยนโปรโมชั่นใหม่แล้ว และคราวนี้ก็กำลังทำใจกล้ากดส่งมันไปหาอีกคน... ทีแรกว่าจะรอเต๋ากลับมา แต่ตอนนี้คชาแค่อยากสร้างความมั่นใจบางอย่างให้ตนเอง



   เต๋า... กลับมาเร็วๆ นะ ไม่อยาก..จูบกัน..ผ่านมือถืออีกแล้ว

   มัน ‘เหงา’ สิ้นดี








TBC


มาต่อแล้วค่า >w<
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 23 หน้า 9 (up 5 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: fastation ที่ 05-08-2012 16:33:37
บักเต๋ารีบกลับมาหาชาค่ะเดี๋ยวนี้เลยนะโว้ย !!
เดี๋ยวปั๊ดเชียร์ให้ชาค่ะหวั่นไหวกับหมอข้างห้องเลยนิ
รออ่านตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 23 หน้า 9 (up 5 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: arunoki ที่ 05-08-2012 17:01:31
โอ๊ย  ประโยคสุดท้ายกระชากใจ >///<

ช่องว่างที่เต๋าทิ้งไว้ครั้งนี้บีบคั้นจิตใจชาชาน่าดูเลย
เต๋าเอ๊ย...เต๋าเอ๋อ  รีบกลับมาจุ๊บน้องได้แล้วนะ  น้องเหงา  น้องเริ่มจะชัดเจนแล้ว

ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ
ตอนแรกๆเราตามอ่านในเด็กดี  เพิ่งมาเห็นว่าเอามาลงในเล้าด้วย
เขียนได้น่ารักมากกกกกกกกกก (ก.ไก่ล้านตัว)

เราว่าเรื่องนี้เป็นมาสเตอร์ของฟิคเต๋าคชาเลยแหละ

หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ ขอวลอีกนิดนคดี๋ยวอมลงห้น่นอน อย่กันลืมน
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 05-08-2012 18:30:22
ฮ้อ   ปวดตับฉิบ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 23 หน้า 9 (up 5 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: devotionNightmare ที่ 05-08-2012 20:23:38
ยัยแฟงฉันเกลียดแก :z6:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 23 หน้า 9 (up 5 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: JingJing ที่ 05-08-2012 20:51:35
 :m17: สงสารชาน้อย อิพี่ต๋าวกลับมาหาเร็วๆนะ เดี๋ยวมคปด.(หมอคาบไปรับประทาน)นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 23 หน้า 9 (up 5 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 05-08-2012 21:25:44
ระวัง ห.. คาบไปแด.. ล่ะ เต๋า :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 23 หน้า 9 (up 5 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: bangkeaw ที่ 05-08-2012 22:12:00
ต๋าวววว รีบๆกลับมาได้แล้ว
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 23 หน้า 9 (up 5 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: papark ที่ 05-08-2012 22:48:00
แอร้กกกกกกกกกกกกกกกกก...ฟินนนนนน -__,,,-

" ไม่อยากจูบผ่านโทสับแล้วว มันเหงาสิ้นดี ~ "

มาอัพอีกสักตอนสองตอนได้มั้ยครับ? T_T

เต๋ากลับมาไวๆนะเว้ยยยย ไม่งั้นชาเสร็จแน่ ๆ 555
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 23 หน้า 9 (up 5 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 05-08-2012 23:00:31
เต๋าเอ๊ย เมาได้น่าเอ็นดูมากอ่ะ
 :-[
ทำไมต่อหน้าไม่รุกชาค่ะเยอะๆแบบนี้มั่งน้อ
 :z1:

รีบๆกลับมาซะทีนะเต๋านะ
เดี๋ยวคชาจะโดนหมอจีบ(รึเปล่าไม่รู้)แล้วนะ
แถมชะนีสารพัดพิษก็มาบ่อนทำลายแล้วนะเต๋า
รีบๆกลับมาเด้อ เด็กโคราชรออยู่
 :impress:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 23 หน้า 9 (up 5 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 06-08-2012 14:30:36
ในที่สุดก็ตามทัน เต๋าอย่าคชาไว้นานนะเดี๋ยวก็เสร็จหมอหรอก ^_^
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 23 หน้า 9 (up 5 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 06-08-2012 16:18:53
น้องชาใจมากค่ะลูก
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 23 หน้า 9 (up 5 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 06-08-2012 23:32:20



   เหมือนคชาจะเริ่มเปิดใจตัวเองมากขึ้นแล้ว
   ก็หวังว่าจะไม่มีอุปสรรคให้เข้าใจกันผิดอีกละนะ




หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 23 หน้า 9 (up 5 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 08-08-2012 20:15:46
เข้ามารอจ้า :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 23 หน้า 9 (up 5 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 08-08-2012 21:48:31
♀ TOM (or) BOY ♂
24





โดนทิ้ง...

คนตัวเล็กโบกมือลาแพรวาที่เพิ่งขึ้นแท็กซี่ไปเมื่อครู่นี้  ปกติถ้าไปไหนด้วยกันแล้วกลับดึกๆ เขากับเฟรมต้องเป็นคนไปส่งแพรวาที่หอก่อนเสมอ แต่วันนี้ต่างออกไปด้วยเฟรมกลับขอนแก่นไปแล้ว ส่วนแพรวาก็กลับไปนอนที่บ้านแถบชานเมืองเนื่องด้วยได้หยุดสามวันหลังสอบเสร็จ...

ใครๆ ก็กลับบ้านกลับช่องกัน มีแต่เขาที่นอนเหงาอยู่หอคนเดียว

คชาที่ปฏิเสธการไปค้างบ้านโปเต้เมื่อสิบห้านาทีก่อนเริ่มนึกเสียดายขึ้นมาเมื่อพบว่าหยดน้ำจากเบื้องบนค่อยๆ กลั่นตัวลงมาเปาะแปะๆ  แท็กซี่คันก่อนหน้า ถ้าเขาโดดขึ้นไปด้วยตอนนี้คงนั่งตากแอร์เย็นสบายบนเบาะนุ่มๆ แล้ว

แต่เพราะพรุ่งนี้เป็นวันศุกร์นี่สิ... คชาเลยไม่อยากไป
วันศุกร์...ที่ใครบางคนบอกจะกลับมา

คชาเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นเรื่อยๆ เมื่อหยดน้ำกลายเป็นหยาดฝนเม็ดใหญ่ ลมพัดแรงเสียจนร่างเล็กเกือบปลิว สภาพตอนนี้อย่าต้องให้พูดเลยว่าจะสะบักสะบอมแค่ไหน  ทั้งเนื้อตัวเปียกปอนผมเผ้าก็ยุ่งเหยิงไปหมดซะจนไม่นึกจะหยุดฝีเท้าลง

คงไม่มีอะไรจะเสียไปมากกว่านี้
เอาวะ... เป็นไงเป็นกัน  อีกนิดก็ถึงหอแล้ว






แต่คชาคงลืมไปว่า... ตัวเองไข้ขึ้นง่ายแค่ไหน

เก้าโมงเช้าวันศุกร์ในห้องหมายเลข 603  คนตัวเล็กตื่นขึ้นมาบนเตียงนุ่มๆ เตียงเดิมเช่นเคย  แต่ที่วันนี้แตกต่างไปกว่าทุกวันคงเพราะอาการร้อนๆ หนาวๆ  ปวดหัวตึ้บๆ  แถมลมหายใจก็ไม่ปกติเอาเสียเลย

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นไข้หวัด

ถึงจะเพลียจนไม่อยากลุกขึ้นจากที่นอน หากแต่มือถือเจ้ากรรมดันร้องปลุกขึ้นมาเสียก่อน เสียงของมันยังบาดหูเช่นเดียวกับสามสี่วันที่ผ่านมาที่คชาตั้งไว้เพราะกลัวตื่นไปสอบไม่ทัน

มือเล็กเอื้อมคว้ามันเพื่อกดปิด หากแต่สมองก็ระลึกต่อได้ว่ายังมีเพื่อนร่วมหออยู่ทั้งคน
ตาเรียวเบิ่งมองหาเบอร์จากรายชื่อก่อนจะกดโทร

“มีไรวะชา โทรมาแต่เช้า”  ปลายสายว่า

“โทษทีว่ะที่มาปลุก ว่าแต่ห้องแกมียาปะวะเฟรม?”  แม้แต่เสียงก็บ่งบอกว่าคนพูดป่วยแค่ไหน “กูเป็นไข้ว่ะ”  คชาพูดต่อ

“ห้องกูอะมีอยู่ แต่ตอนนี้กูอยู่ขอนแก่น มึงลืมไปแล้วรึไง?”  เฟรมว่าด้วยเสียงเอือมระอาเล็กๆ... คงเพราะหงุดหงิดที่ถูกโทรปลุก

“เออ จริงด้วยว่ะ กูเบลอ งั้นแค่นี้นะ ง่วง”

“เออ...”  จริงๆ แล้วเหมือนเฟรมจะพูดบอกลาต่อ หากแต่คชาที่ยกโทรศัพท์ออกจากหูแล้วไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น  มือกดปุ่มตัดสายก่อนจะค่อยๆ วางมันลงบนหัวเตียงเหมือนเดิม

ตอนนี้ร่างกายมันเพลียจนไม่อยากจะทำอะไรแล้ว

   ขอชัทดาวน์ตัวเองก่อนนะ... สวัสดีชาวโลกทุกคน





- - -





เคยอยู่ในอาการยิ้มไม่หุบบ้างไหม?

   ร่างสูงที่นั่งเบาะหลังสุดของรถแวนคันใหญ่ยังคงนั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่เงียบๆ คนเดียว  สี่ห้าวันที่ผ่านมาได้ไปเที่ยวตั้งเยอะก็ยังไม่รู้สึกดีเท่าวันกลับ

   ‘อยากให้ถึงวันศุกร์เร็วๆ’  เต๋าไม่ได้กำลังอ่านมันอยู่อีกรอบนึงหรอก หากแต่สมองจำข้อความที่ได้รับเมื่อคืนจนขึ้นใจแล้วต่างหาก

วันนี้วันศุกร์แล้วนะคชา...

   ถึงฝ่ายนั้นจะส่งช้ามาหน่อย แต่อย่างน้อย เขาก็รู้สึกว่า ‘เรา’กำลังเข้าใกล้กันอีกก้าวนึง
   รอยยิ้มเหมือนได้รับชัยชนะยังคงอยู่เมื่อเต๋าเข้าสู่โหมดส่วนตัว แม้มือจะเล่นเกมในไอโฟนสีขาวฆ่าเวลาแต่ในใจยังคิดถึงแต่เรื่องเดิมที่หยุดคิดไม่ได้สักที

   เกมนี้จะแพ้หรือชนะเขาไม่รู้ แต่เต๋าสู้ยิบตา
   



   รถแวนคันสีกรมท่าแวะจอดปั๊มน้ำมันเวลาสิบโมงเศษ เต๋าลงไปเดินซื้อของฝากพอได้อะไรติดไม้ติดมือมาบ้าง กำลังคิดอยู่ว่าจะขนมที่ซื้อมาจะพอให้น้องสองคนรึเปล่า  หากแต่พอขึ้นรถไป เต๋าก็ลืมทุกอย่างหลังจากหยิบมือถือขึ้นมาดู

   ‘คชาเป็นไข้ ฝากดูมันที’ – เฟรม

   อยากจะตอบกลับไปเต็มแก่ว่าไม่ต้องฝากก็ดูอยู่แล้ว แต่ทำไม่ได้ เพราะตอนนี้เขายังอยู่เมืองชลแวะซื้อของฝากอยู่เลย

   ในใจนึกขอบคุณที่ไอ้หยีติดธุระพอดีเลยต้องออกจากที่พักตอนเช้า ถ้าไม่อย่างนั้นมีหวังได้กลับถึงบ้านตอนเย็นย่ำค่ำแน่ๆ  นิสัยเจ้าพวกนี้ยิ่งชอบเที่ยวจนวินาทีสุดท้ายด้วยน่ะสิ

สำหรับตอนนี้ เต๋าเลยทำอะไรไม่ได้ นอกจากภาวนาให้คนป่วยที่กรุงเทพฯ อย่าเป็นอะไรหนักเลย

จากที่อารมณ์สบายๆ กลายเป็นร้อนรน ปลาหมึกแห้งกับข้าวหลามหนองมนที่ซื้อไปฝากคงจะไม่พอเมื่อเต๋าวิ่งลงไปซื้อยากับเจลลดไข้มาเผื่อตอนไปถึง  ตอนนี้เต๋าอยากให้เข็มนาฬิกาหมุนเร็วขึ้นกว่าเดิม

“แหม...ขาดกันไม่ได้เลยนะ”  เสียงล้อๆ ของเดียร์ดังขึ้นมาจากเบาะแถวหน้าเมื่อเต๋าบอกให้คนขับอย่างน้ำแข็งเร่งความเร็วอีกนิด...

“อยากกินชานมล่ะสิท่า”  ปลาเสริม... ตั้งแต่วันที่พาคชาไปเดินแถวคณะ ก็มีสองสาวนี่แหละที่ตามติดตลอดมา

พวกเธอเลยชอบล้อมาตั้งแต่วันนั้น ซึ่งอันที่จริงเต๋าก็ไม่ได้รู้สึกกระดากหรือเขินอายอะไรสักนิด ติดจะชอบด้วยซ้ำไป

แต่ไม่ใช่ตอนนี้...

“คชาป่วย ป่านนี้ไม่รู้เป็นไงมั่ง”  เต๋าตอบชัดๆ ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

“อ้าวหรอ”  เสียงใครสักคน

“เออดิ ไม่รู้ไปทำดิท่าไหนถึงไข้ขึ้น”  เสียงทุ้มเอ่ยตอบ  ถึงใจความจะฟังดูตำหนิ หากแต่น้ำเสียงที่เอ่ยก็เจือไปด้วยความเป็นห่วงอย่างไม่ปกปิดใดๆ

ตอนนี้เต๋าอยากมีประตูวิเศษ คอปเตอร์ไม้ไผ่ หรืออะไรก็ได้ที่จะทำให้ได้เจออีกคนเร็วๆ





แต่สุดท้าย สิ่งที่เต๋าทำได้คือการนั่งรอ รอ และก็รออยู่บนรถตู้คันเดิม  และวินาทีที่มันเคลื่อนมาจอดหน้าหอพักสูงสิบห้าชั้นตามคำบอกของเขา  ร่างสูงก็แทบจะกระโจนออกมา  ขายาวก้าวฉับๆ เข้าตึกไปแลกบัตรกับลุงยามก่อนจะเข้าหอพักไปโดยสะดวก  เป้าหมายคือห้องเบอร์ 603 ที่แม้เขาไม่ค่อยได้มาทว่าจำตัวเลขได้ขึ้นใจ

หลังยังแบกเป้สัมภาระใบใหญ่ ในมือขวามีของฝาก ส่วนมือซ้ายถือถุงยากับเจลลดไข้ หัวใจเต้นตุบๆ ที่จะได้เจอหน้าอีกคนหลังจากไม่เจอมาหลายวัน


หน้าห้อง 603 …เต๋ายืนอยู่ด้านหน้าประตูสีน้ำตาลอันเงียบสงบ เคาะสองสามทีไม่มีเสียงตอบรับจึงลองเปิดเข้าไปดูเผื่อบังเอิญไม่ได้ล็อค
และมันก็เปิดได้!



หากแต่วินาทีที่เต๋าเงยหน้าขึ้นมอง เขาก็รู้ว่าความบังเอิญไม่มีอยู่จริง

“บอกแล้วไง ถึงหวัดจะเกิดจากไวรัส ไม่ต้องกินยาก็หายเองได้ แต่ก็ควรกินเพื่อบรรเทาอาการ”  เสียงไม่คุ้นหูของใครสักคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงเอ่ยขึ้น ชายนิรนามที่เห็นเพียงแผ่นหลังกำลังหยิบแก้วน้ำกับยา


ไอ้นี่มันเป็นใคร?


“โอเคคร้าบ กินก็กิน... เออ จะว่าไปก็ดีเหมือนกัน มีเพื่อนเป็นหมอ งั้นจองตัวไว้เลยละกัน รักษาฟรีตลอดชีพ โอเค๊”  คชาพูดตอบ ยอมรับยานั่นจากอีกคนกลืนลงคอ

“รักษาตลอดชีวิตอะได้ แต่ใครเขาพูดแบบนี้กัน อยากป่วยรึไงเล่า ฮ่าๆๆ”

“เออ จริงด้วย ฮะๆๆๆ”


แล้วไหนใครป่วยกัน?


   เสียงหัวเราะนั้นแม้จะเบาๆ ทว่ากลับดังก้องในใจใครอีกคน  เต๋ายืนมองสองคนที่อยู่ห่างไปเพียงไม่กี่เมตร เสียงปล่อยของที่มือขวาลงดังขึ้นขัดจังหวะคนทั้งคู่... ของฝากจากระยองจะมีความหมายอีกต่อไปหรอ?


   ก่อนเต๋าจะวางถุงที่มือซ้ายไว้ใกล้ๆ ตามมา... ยากับเจลลดไข้ก็คงไม่สำคัญอีกต่อไป


   “กลับมาเมื่อไหร่หรอเต๋า?”  คนป่วยบนเตียงที่เพิ่งรู้ถึงการมาของอีกคนเอ่ยทักขึ้นตอนนั้น  เสียงใสติดจะป่วยๆ ยังดึงความสนใจเอาไว้ได้อยู่  ใบหน้าหวานหันมาถามพร้อมมอบรอยยิ้มบางๆ ให้

   แต่คชารู้ไหม... ตอนนี้เต๋าไม่ต้องการมันเลย
   ก็เหมือนกันไม่ใช่หรือไง...กับที่ยิ้มให้ไอ้‘หมอ’นั่น


   “เพิ่งกลับมา”  เต๋าตอบสั้นๆ กลับไป

   “หรอ...”  คชาเอ่ย รอยยิ้มดูเจื่อนลงเมื่อเห็นท่าทีอีกคน  “เออ นี่ปอนะ อยู่ห้องข้างๆ เราเอง”  ก่อนที่เสียงใสของคนตัวเล็กจะเอ่ยขึ้นต่อ  “ปอ...นี่เต๋า”  หันไปบอกเพื่อนข้างห้องที่บัดนี้มานั่งประจำเป็นคุณหมอข้างเตียง  ฝ่ายปอก็พยักหน้ารับพร้อมกับหันไปทักทายเพื่อนใหม่อย่างอารมณ์ดี

   แม้อีกฝ่ายจะไม่ได้ยิ้มกลับมาให้ก็ตาม


   “คือเรามีไข้นิดหน่อยน่ะเต๋า...แต่ไม่เป็นอะไรมากหรอก ดีที่มีปอมาดูให้”  คชาพูดขึ้น แค่อยากอธิบายสาเหตุการมาของอีกคน  “เดี๋ยวก็คงหายแล้วแหละมั้ง”  จริงๆ เพิ่งกินยาเม็ดแรกไปแต่ไม่อยากให้อีกคนเป็นห่วง...วงเล็บว่าในกรณีที่เต๋าเป็นห่วงน่ะนะ
“ปอเขาเรียนหมอไง ถึงจะปีหนึ่งเหมือนกันก็เหอะ แต่มีความรู้ใช้ได้เลย คิดว่าคุณหมอมาเอง  ฮะๆๆๆ”

   “เฮ้ย ไหนตอนแรกยังไม่ไว้ใจให้รักษาอยู่เลย กลับคำนี่นา”  หนุ่มผิวสีเถียง  ก่อนจะลงเอยด้วยเสียงหัวเราะเบาๆ ของคนทั้งคู่อีกครั้ง

   ใครจะรู้สึกยังไงไม่รู้ หากแต่คนมองกลับกระอักกระอ่วนกับบรรยากาศนี้เต็มทน... คนเดียวไม่เหงาเท่าสามคน คำนี้คงจะจริง
   ยิ่งเห็นว่าอีกสองคนอยู่ใกล้ชิดกันแค่ไหน...เท่านี้เต๋าก็แทบจะร้อนเป็นไฟลุก มือข้างหนึ่งกำหมัดแน่น ตอนนี้เต๋าอยู่ในอารมณ์ขั้นสุดแล้วจริงๆ

ประตูวิเศษ คอปเตอร์ไม้ไผ่ หรืออะไรก็ได้...เขากำลังต้องการมันอีกครั้ง

   “หายไข้แล้วนี่ งั้นไปนะ”  สุดท้ายก็กลั่นคำนี้ออกมาได้หลังจากนิ่งอยู่นาน  เขาหันหลังให้คนทั้งคู่...ใครมาเจอเข้าตอนนี้อาจจะมีชกเพราะพิษความหึง

   “จะไปไหนอะเต๋า?”  และเสียงใสติดจะอ้อนๆ ก็รั้งเขาไว้  “ไม่อยู่เป็นเพื่อนเราก่อนหรอ?”  อีกครั้งและอีกครั้ง

   ขายาวๆ ของคนที่ยืนอยู่ไม่ก้าวถอยหลัง เขาเพียงหันหน้ากลับไป  “เพื่อนมีเยอะแล้ว”  คำพูดสุดท้ายก่อนจะก้าวฉับๆ ทิ้งคนทั้งสองไว้ตรงที่เดิม


   หึง... เต๋าลืมไปเสียสนิท คำนี้คงไม่มีสิทธิ์ใช้เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน

   เข้าข้างตัวเองไปใหญ่แล้วไอ้เต๋า... คิดว่าที่ผ่านมาเขามีใจให้แกรึไง?

   คำว่า ‘ชอบ’ แค่สักคำ คชายังไม่เคยพูดมันเลย






   บรรยากาศในห้องแปรเปลี่ยนจากแดดอ่อนๆ กลายเป็นฟ้าครึ้มเมื่อใครบางคนเดินจากไป  แผ่นหลังนั้นไปไวเกินกว่าบุคคลที่สามอย่างปอจะตามได้ทัน และที่สำคัญ... คือคนป่วยที่นั่งร้องไห้อยู่บนเตียงเมื่อปอกลับเข้ามา

   ฟ้าครึ้มแล้ว ฝนก็ตกเป็นธรรมดา


   คนตัวเล็กที่นั่งสะอื้นอยู่บนเตียงค่อยๆ ทวีความรุนแรงขึ้น ไข้ที่ยังรุมๆ ดูจะพาให้ทุกสิ่งแย่ขึ้นไปอีก... ใครจะคิดว่าการรอคอยที่จะเจอใครบางคนจะทำให้จุดจบสุดท้ายเป็นแบบนี้ เมื่ออยู่ดีๆ อีกคนก็เดินจากไปโดยแทบไร้คำลา

   คชาทำอะไรผิด..เต๋าโกรธอะไรอยู่..หรือว่าไม่ชอบเขาแล้วหรอ..แค่ไม่กี่วันคนเราก็เปลี่ยนใจได้แล้วรึเปล่า?

   เหมือนกับที่เต๋าเลิกชอบแพรวา ตอนนั้นมันก็ง่ายเหมือนกันนี่นา... ง่ายกว่านี้ด้วยซ้ำไป


   ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง จะหาคำตอบก็ไม่ได้ จะขยับตัวก็ปวดเมื่อยไปหมด... คชาที่นั่งสะอื้นค่อยๆ ถูกจับไปกอดปลอบโดยว่าที่คุณหมอที่ขยับมานั่งใกล้ๆ

   แต่หมอน่ะ...รักษาได้แค่โรคทางกายเท่านั้นแหละ


   “ฮึกๆ ฮือ~”  หากแต่เสียงสะอื้นไห้ที่ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นก็เป็นสัญญาณบ่งบอกได้เป็นอย่างดี  ศีรษะเอนซบลงบนบ่าอย่างต้องการที่พึ่ง แม้คนที่เขาต้องการจะไม่อยู่ในเวลานี้ แต่คชาก็ต้องการใครสักคนช่วยปลอบใจ

   เหมือนจะเป็นการร้องไห้อย่างจริงจังครั้งแรกในรอบปี คชายังคงร้องไห้อยู่อย่างนั้น ปล่อยให้มันไหลออกมาโดยไม่คิดจะห้ามจนตาบวมหูอื้อไปหมด ตอนนี้เสียงสะอื้นเริ่มหายไปแต่แทนที่ด้วยแผ่นหลังอันสั่นเทาแทน



ในขณะที่ฝนกำลังเริ่มซา ทว่าวินาทีต่อมา...ฟ้าก็ผ่าลงอีกครั้ง


ไร้เสียง ‘เปรี้ยง’ หากแต่มีเสียง ‘ปัง!’ เมื่อประตูถูกเปิดเข้ามา  ฝีเท้ายาวๆ ก้าวเข้ามาในห้อง ตามด้วยเสียงหมัดหลุนๆ ซัดเข้าที่ข้างแก้มว่าที่คุณหมอเข้าอย่างจัง


- - พลั่ก!!! - -


   “เป็นหมอใช่ไหม งั้นไปรักษาตัวเองก่อนละกัน”  เสียงทุ้มของคนที่เพิ่งกลับเข้ามาใหม่เอ่ยแค่นั้นก่อนจะดึงตัวอีกคนให้ลุกออกมา    “โทษที... แต่คนนี้ของกู!”


   ร่างสูงจัดการดึงไอ้หมอออกไปหน้าห้องก่อนจะล็อคประตูเรียบร้อยแล้วย่างสามขุมกลับมาหาคนบนเตียง  แต่พอเห็นสายตาอาลัยอาวรณ์ไอ้หมอนั่นแล้วเต๋าก็อดจะหงุดหงิดไม่ได้

   “โธ่ว้อยยยยยยยย”  ระบายออกมาเป็นคำพูดเสียงดังจนอีกคนหันมามองด้วยความตกใจ  ทว่าบรรยากาศในห้องกลับเงียบลงอีกครั้งเมื่อไม่มีใครพูดอะไรต่อมา 

   แม้คชาจะหยุดร้องไห้ไปแล้วเพราะความตกใจแต่คราบน้ำตายังคงอยู่  เต๋าเดินเข้าไปหาอีกคน ไม่มีกระดาษหรือผ้าเช็ดหน้า มีเพียงนิ้วมือที่ปาดน้ำตาออกให้

   “ขอโทษ”  เต๋าพูดเท่านั้น...ขอโทษที่ทำให้ร้องไห้

   “ขอโทษเหมือนกัน”  คนตัวเล็กพูดเสียงอู้อี้ในลำคอ  “ขอโทษ...ถ้าทำอะไรไม่ถูกใจ” ทั้งที่ผ่านมาแล้วก็เมื่อกี๊เลย...


   เต๋าไม่พูดอะไรต่อนอกจากคว้าอีกคนมากอดไว้แน่นๆ  มือยกขึ้นลูบศีรษะอีกฝ่ายเบาๆ “คิดถึงนะชา”

   บ่อน้ำตาแตกอีกครั้งเมื่อได้ยินคำนั้นออกมา... คชาซบหน้าลงบนอกอีกคนให้มันช่วยซ่อนน้ำตาแห่งความดีใจนั้นเอาไว้

   “คิดถึงเหมือนกันไหม?”  เสียงทุ้มเอ่ย เต๋ายิ้มรับเมื่อเห็นคนในอ้อมอกพยักหน้าลงสองสามที  “อือ”  คชาขานรับอู้อี้ในลำคอ
   หลังจากนั้นไม่นานนัก คชาก็เผยรอยยิ้มออกมาให้เห็นอีกครั้ง  คชาผละออกจากอีกคน ส่งยิ้มให้ โดยมีนิ้วมือหนาที่ตามมาปาดคราบน้ำตานั้นออก

   “เต๋า...เมื่อกี๊หึงหรอ?”  คชาถามขึ้นด้วยท่าทีลังเล

   “ยังจะถาม”  พูดพลางผละอ้อมแขนออก นิ้วมือค่อยๆ ไล้ที่รูปตาบวมๆ ของอีกคน

“แต่เรากับปอไม่ได้อะไรกันนะ เราก็แค่...”

“อย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้”  เต๋าเอ่ยขัดขึ้นทันที ดวงตาคู่โตเพ่งมองดวงหน้าอีกคนแน่วแน่  ฝ่ามือลูบแก้มนวล  แล้วจึงค่อยๆ เคลื่อนริมฝีปากประทับลงบนหน้าผากมน  “ตัวร้อน”

ไม่หยุดแค่นั้นเมื่อริมฝีปากอิ่มยังคงเลื่อนมาประทับลงบนเปลือกตาทั้งสอง ทับลงบนตาคู่บวมราวกับจะปลอบประโลม  ก่อนจะย้ายมาที่แก้มทั้งสองที่ขึ้นสีแดงจางๆ ไม่รู้เพราะพิษไข้ หรือเป็นเพราะคนตรงหน้ากันแน่
ฝ่ามือหนาค่อยๆ ลดลงมาจากแก้มมาที่ลาดไหล่  เต๋าค่อยๆ เคลื่อนเข้าใกล้อีกคน ก่อนจะส่งมอบจูบให้ผ่านริมฝีปากซีดๆ ของอีกคน  หากแต่เพียงแค่แตะเบาๆ ก็ถูกอีกคนดันออกมาเสียก่อน

“เดี๋ยว..ติดไข้..หรอก”  คชาเอ่ยเสียงกระท่อนกระแท่น

“ถ้าติดจากชาก็เอา”  ว่าแล้วมือก็รวบแขนอีกฝ่ายเอาไว้ก่อนจะประทับจูบลงไปบนริมฝีปากนั้น ลิ้นหนาไล้ลิ้มแตะชิมจากกลีบปากนุ่มก่อนจะกวาดต้อนเข้าไปด้านใน  จนคนป่วยที่ขืนตัวเอาไว้ในทีแรกค่อยๆ จำยอมตาม

ได้จูบกัน..จริงๆ..แล้วหรอ


เหมือนห้วงแห่งความฝันที่เขากำลังหลุดลอยไป คชาหลับตาลงก่อนจะปล่อยใจไปกับคนตรงหน้านี้  มารู้อีกทีก็ตอนที่แผ่นหลังกำลังทาบบนที่นอนของตัวเอง  ตาคู่เรียวปรือมองอีกคนก่อนจะตกใจเมื่อเห็นอีกคนขึ้นมาอยู่บนเตียงด้วยกันแล้ว

“เต๋า...จะทำอะไร?” 

“แล้วคิดว่าทำอะไรล่ะครับ?”  ร่างสูงตอบกลับ ใบหน้าหล่อเหลามองดูเจ้าเล่ห์เสียจนคชาเริ่มสับสนในตัวเอง

จะทำ...แบบนั้น...จริงหรอ?

ไม่ทันที่คชาจะเอ่ยห้าม  ริมฝีปากอุ่นร้อนก็ก้มลงมาที่แก้มใส หากแต่ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าสูดกลิ่นสบู่จางๆ  เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่ไม่ไกลก็ดังขึ้นเสียก่อน  เต๋าผละออกแล้วหันไปดู

และจึงได้รู้... มันไม่ใช่ทั้งโทรศัพท์ของคชาและของเขา


ร่างสูงก้าวลงจากเตียงตรงไปที่โทรศัพท์เครื่องนั้นอย่างหัวเสีย แต่อย่าคิดเลยว่ามันจะขัดจังหวะได้แบบในละคร!

มือหนาจัดการกดปิดเสียง แล้วกลับไปหาคนของเขาบนเตียงอีกครั้ง

   “คนป่วยต้องออกกำลังกายนะ เหงื่อออกจะได้หายไข้”  เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น  ตรรกะอะไรแบบนี้เหมือนคชาจะเคยได้ยินมาก่อน แต่ออกกำลังกายบนเตียงมันมีที่ไหนกันเล่า

   “เต๋า...”  เอ่ยชื่ออีกคนเมื่อนึกคำเถียงไม่ออก  “โอ๊ย มันจั๊กจี้”  พยายามห้ามมือหนาที่กำลังเลื้อยมาแถวช่วงเอว  หากแต่ริมฝีปากที่ประกบกันอีกครั้งก็ทำให้อารมณ์ของคนป่วยเริ่มเคลิบเคลิ้ม จูบครั้งนี้ไม่ได้หวานละมุนแบบคราวแรกหากแต่รุ่มร้อนด้วยแรงอารมณ์ เนิ่นนานจนพอใจเต๋าจึงถอนจูบออกมา แล้วส่งตาคู่คมมอง

   และสายตานั้น... ทำให้คชารู้สึกเหมือนจะถูกกลืนกินไปทั้งตัว

   มันทำให้คชานึกถึงคำพูดคนเมาในโทรศัพท์เมื่อวันก่อน แน่นอนว่าเขายังจำได้ดี หากแต่วินาทีนี้ไม่มีใครเมา... ท่าทีของเต๋าแน่วแน่เสียจนเขาสั่นคลอนไปหมด

   “เต๋า...เคยทำกับใครแบบนี้มาก่อนรึเปล่า?”  เสียงใสนั้นเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ  สมองนึกไปถึงคืนนั้น ยังคิดไม่ตกว่าเต๋าจะไปทำอะไรใครเข้ารึเปล่า

   “อยากรู้หรอ?”  อีกฝ่ายถามกลับ เห็นคชาทำหน้าติดจะอายก็แอบอมยิ้ม  “ไม่เคยหรอก”  กระซิบข้างหูให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น  “คชาจะเอาครั้งแรกของเต๋าไปเลยนะ”  ทำเสียงน่าสงสารแต่ยิ้มหน้าบานเสียยิ่งกว่าอะไร

   ทว่าคนที่อยู่ข้างใต้กลับทำหน้าเหรอหรา ด้วยเข้าใจไปแล้วว่า...

   “ไม่กลัวเจ็บหรอเต๋า...”  เสียงนั้นไม่มีความมั่นใจใดๆ เลย  “ให้เรา...ใส่...”  ไม่กล้าพูดต่อไปมากกว่านั้น เพราะยิ่งคิดก็ยิ่งอาย  “เราก็..ไม่เคย”  ทั้งกับผู้หญิงแล้วก็ผู้ชาย  “เรา...ทำ..ไม่เป็น”

   เต๋าแทบจะหัวเราะออกมาดังๆ เมื่อได้ยิน... มาถึงขั้นนี้ คชายังคิดได้หรอว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายกระทำ!


   “ไม่เป็นไรนะ... น้องชาค่ะทำไม่เป็น แต่เต๋าทำเป็น”  มือข้างหนึ่งประคองดวงหน้าหวาน อีกข้างเริ่มเลื้อยไปแถวสะดือจนชายเสื้อยืดสีขาวเริ่มร่นขึ้นมา  “นอนเฉยๆ ก็พอนะคะชา”

   ในขณะที่เต๋ากำลังทาบทับบนร่างของอีกคน  โทรศัพท์เครื่องสีดำยังคงทำหน้าที่ของมันต่อไปอย่างต่อเนื่อง  ทว่าเพราะไม่มีเสียงจึงกลายเป็นเพียงอุปกรณ์ประกอบฉากชิ้นนึงที่ไม่อาจทำอะไรได้เลย



   แต่เสียงเคาะที่ประตูน่ะสิ...ของจริง!



   ประตูบานเดิมถูกเคาะรัวๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นทุบปึงปังเสียงดังจนเต๋าต้องลุกออกไปเปิดดูด้วยความรำคาญ 

“มีอะไร?”  เต๋าถามคนเคาะ... ไอ้หมอหน้าช้ำห้องข้างๆ มันยังไม่เข็ดหรือไง?

   “มาเอาโทรศัพท์”  ปอพูดเท่านั้นเต๋าก็รีบคว้ามันมาส่งคืนเจ้าของ

หากแต่รับโทรศัพท์คืนเสร็จแล้ว คนมาใหม่ยังไม่จากไปง่ายๆ  “นี่นาย... เราไม่ได้คิดอะไรกับคชานะ”

“เออ”  เต๋าขานรับส่งๆ หากแต่ไม่ทันจะพูดต่อ



- - พลั่ก!!! - -



แก้มขาวซีดของร่างสูงถูกก็ชกเข้าเสียเต็มแรง เต๋าไม่ร้องโอดโอยแต่ทำหน้าเหยเกพลางเอามือลูบมันเบาๆ

“ถือว่าหายกัน”  คนชกพูดพลางสะบัดมือเล็กน้อย ส่งยิ้มสวยเห็นฟันให้ตามแบบฉบับ  “อ้ะ ยาแก้อักเสบ”  ยื่นให้อีกคนแล้วก็เดินออกไป โดยไม่ลืมจะกล่าวทิ้งท้ายกับอีกคนที่กำลังลุกขึ้นจากเตียง

“พักผ่อนเยอะๆ นะคชา... อย่ายอมให้ใครรังแก”

   เห็นสายตาเชิงล้อเลียนที่มองมา คนตัวเล็กก็ค่อยๆ ยกมือจัดผมยุ่งเหยิงแก้เก้อ ก่อนจะโบกมือลาเพื่อนข้างห้องคนดีที่เพิ่งกลับไป
   หลังบุคคลที่สามเดินออกไป คชาก็รีบเดินมาหาอีกคน  “เจ็บมากไหม?”  มองสำรวจใบหน้าที่ขึ้นรอยช้ำๆ แล้วพาไปนั่งก่อน  เจ้าของห้องหาผ้าขนหนูกับน้ำอุ่นๆ มาเพื่อประคบให้  ตอนนั้นเองที่คชาเอ่ยขึ้นเบาๆ เหมือนเกรงใจ



   “ดีแล้วเนอะ อย่าเพิ่ง..เลย... เดี๋ยวเต๋ายิ่งเจ็บเข้าไปใหญ่”


   ห๊ะ! ว่าไงนะ!?   


   แม้จะขัดใจ แต่เต๋าก็ไม่ได้ท้วงติงคำพูดนั้น ตาคู่คมเอาแต่มองดวงหน้าหวานที่ยังคงเอียงอาย แล้วจึงไล่อีกคนไปนอนพักแต่โดยดี


   เรื่องแบบนี้ สักวันคชาจะรู้เอง…
   







TBC

มาลงแล้ว >w<
ตอนนี้หลายอารมณ์เนอะ ดราม่าปนหวานปนฮา กร๊ากกกกกกกกกกก
ขอบคุณทุกคนมากๆ นะค้า

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 24 หน้า 10 (up 8 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: fastation ที่ 08-08-2012 22:02:31
555 ชาค่ะคิดได้นะ
ระวังเหอะ สุดท้ายตัวเองนั่นละจะเป็นคนที่ต้องเจ็บเอง -.,-
รออ่านตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 24 หน้า 10 (up 8 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 08-08-2012 22:15:35
 :z3: เสียดายอ่ะ :o8: เชียร์ๆ o13
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 24 หน้า 10 (up 8 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: JingJing ที่ 08-08-2012 22:36:02
โอ๊ยใจหายใจคว่ำ นึกว่าพี่เต๋าจะถอดใจซะแล้ว
มันต้องอย่างนี้สิเศรษฐพงษ์ อย่ายอมให้ใครมาแย่งน้องชาค่ะนะ o13

ว่าแต่ว่าอิพี่ต๋าวจะใจร้อนไปไหม น้องขาชาไม่สบายอยู่นะ แหม :z1:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 24 หน้า 10 (up 8 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 08-08-2012 22:40:59


   เหอๆๆ คุณหมอปอกวนตีนได้จังหวะได้ใจเหมือนกันนะเนี่ย




หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 24 หน้า 10 (up 8 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 08-08-2012 22:52:58
หลายอารมย์ แต่ก็ชอบมากกกกกกกก 
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 24 หน้า 10 (up 8 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 08-08-2012 23:00:34
ใจหายใจคว่ำ โคตรๆ แต่สุดก็ เฮ้ออออออ โล่ง อก... แต่ ชาคะ คิดจะขึ้นครู หรอคะ  หึหึ  :z1:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 24 หน้า 10 (up 8 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: akihito ที่ 09-08-2012 00:42:31
ชาค่ะ คิดได้ไงจะเป็นฝ่ายรุก= =
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 24 หน้า 10 (up 8 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 09-08-2012 07:55:52
พอชาเป็นไข้แบบนี้ก็ดี
หลับฝันไปเลย
เต๋าโดนเรื่องรุมให้ได้คิด
รุกโลด เชียร์
กดบวกปล่อยเป็ด
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 24 หน้า 10 (up 8 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 09-08-2012 10:32:02
พูดตรงๆ ออกไปได้แล้วนะคชา งานนี้มีสาวมารอให้คชาทิ้งหนุ่มอยู่แล้ว

ส่วนคุณหมอไม่มีอะไรในกอไผ่จริงอะ หรืองานนี้จะได้เพื่อนร่วมกลุ่มอีกคน
มาคู่กับสาวน่ารักประจำกลุ่ม
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 24 หน้า 10 (up 8 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 09-08-2012 10:58:16
คชาจะรุกได้เหรอ??
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 24 หน้า 10 (up 8 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 09-08-2012 12:34:33
 :o8:ไข้จายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 24 หน้า 10 (up 8 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: biwtiz ที่ 09-08-2012 21:23:08
เมื่อไหร่จะได้กัน
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 24 หน้า 10 (up 8 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 10-08-2012 00:12:22
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
 :laugh:
เค้าอุตส่าห์มาซีนอารมณ์กันซะยกใหญ่
คชาดันมาทำคดีพลิกเอาตอนท้ายนี่แหละ
หนูคิดว่าหนูจะเป็นผู้กระทำเหรอจ้ะ คิกๆ
เอาเถอะ ไว้ถึงเวลาชาค่ะก็จะรู้เองเนอะเต๋าเนอะ
 :z1:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 24 หน้า 10 (up 8 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 26-08-2012 01:28:36
คชาคิดว่าเต๋าเป็นฝ่ายรับ  o22  ไม่รู็อะไรซะแล้วชาค่ะ 555

ปอไม่น่าลืมมือถือเลย เดี๋ยวเราซื้อใหม่ให้ก็ได้ ขัดจังหวะทำไมย้ะ  :beat: คนกะลังจะฟิน

ครั้งหน้าอย่าพลาดนะ ต๋าวววว
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 24 หน้า 10 (up 8 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 26-08-2012 02:27:35
ชอบจริงๆเลยย

ชาคะ ชาค่ะ  คิดได้ไงเนี้ยยย

คนทั้งเล้า เค้ารู้กันหมดแล้วว คิดไปเองอยู่ได้คนเดียวว

555555555
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 24 หน้า 10 (up 8 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 26-08-2012 13:09:26
 :-[ :-[ :-[ :-[ พี่เต๋า เริ่มรุกแล้วเว้ย
\/
\/
\/
\/
\/
\/
มีมารผจญอีก วุ้ย เซ็ง :a5: :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 24 หน้า 10 (up 8 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: ListeL ที่ 26-08-2012 23:31:14
ยังรอเสมอ:)
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 24 หน้า 10 (up 8 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 28-08-2012 22:48:39
♀ TOM (or) BOY ♂
25
[/b]







ไม่สบายตัวเลย...

ร่างเล็กบนเตียงนอนรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีในเวลาต่อมา คิ้วที่ขมวดจนหน้ามุ่ยยังคงอยู่เพราะร่างกายที่ไม่ค่อยจะสู้ดี  หันไปมองนาฬิกาจากโทรศัพท์มือถืออีกทีก็พบว่าเกือบหกโมงแล้ว

คชายันตัวนั่งบนเตียง ยกมือขยี้ผมให้ยุ่งเหยิงกว่าเดิมอย่างนึกรำคาญใจ ตาคู่เรียวสอดส่องภายในห้องก็พบว่าตัวเองกำลังอยู่คนเดียว  ย้อนนึกไปก่อนที่เขาจะหลับ จำได้ว่าเต๋าบอกว่าเย็นๆ จะแวะมาใหม่

โกหก... นี่ก็เย็นแล้ว ยังไม่เห็นโผล่มาแม้แต่เงา

เพราะร่างกายที่อ่อนแอยิ่งทำให้รู้สึกอ่อนไหวเป็นพิเศษ... คชาเลยทั้งเหงาทั้งน้อยใจที่ไม่มีใครอยู่ด้วยสักคน เต๋ากลับบ้านไปก่อนเขาจะหลับ แพรวากับเฟรมกลับบ้านไปตั้งแต่เมื่อวาน ส่วนปอก็คงจะกลับไปนอนบ้านแล้วเหมือนกัน

กระเพาะอาหารส่งเสียงโครกครากขึ้นมาเบาๆ  ยาที่วางอยู่ข้างเตียง...ว่าที่คุณหมอปอที่ซื้อมาให้กำชับว่ากินหลังอาหาร แต่คนป่วยตัวเล็กที่นั่งขมวดคิ้วมองมันเกิดรู้สึกบางอย่างขึ้นมาในตอนนั้น

อยู่ดีๆ ก็คิดถึงบ้าน... ถ้าตอนนี้คชาอยู่ที่นั่นคงจะมีข้าวต้มร้อนๆ กับน้ำอุ่นวางรอไว้ให้แล้ว  ข้าวต้มของแม่ไม่ค่อยอร่อยหรอก มันออกจะจืดชืดไปหน่อยแต่เขากลับคิดถึงมันขึ้นมาจับใจ

แม่คงจะเข้ามาป้อนยากับวัดไข้ให้ เค้นท์ก็คงไม่กล้ากวนใส่เหมือนทุกทีแถมยังเชื่อฟังเขาอีกต่างหาก
นั่งคิดไป... รู้ตัวอีกที น้ำตาก็หยดใส่หมอนแปะๆ
ไม่ได้เจอแม่มาหลายเดือนแล้ว...
เหงา... คิดถึงบ้าน... คิดถึงทุกคนที่นั่น... แต่จะโทรหาตอนนี้แม่ก็รู้หมดสิว่าเขาป่วยแล้วยังแอบร้องไห้อีก

โทรศัพท์เครื่องเดิมถูกกำไว้แน่น มืออีกข้างยกขึ้นปาดน้ำตา วันนี้มันจะอะไรกันนักกันหนา ทำไมตัวเองถึงอ่อนแอแบบนี้ ร้องไห้มากี่รอบแล้วเรา?

แล้วเต๋าไปไหน... ทำไมไม่มาปลอบกันเลย

   ‘ป่วยแล้วเอาแต่ใจนะเรา’  จำได้ว่าแม่เคยพูดประโยคนี้สองสามหน คชาเพิ่งจะรู้ตัวว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็คราวนี้  คชาชอบอ้อนแม่เวลาป่วย อ้อนว่าถ้าหายแล้วจะเอานู่นนี่... แต่คราวนี้ไม่อยู่กับแม่แล้ว คชาจะไปอ้อนใคร?
   ใครๆ เขาก็กลับบ้านกัน คชาก็อยากกลับเหมือนกันนะ
ตั๋วรถอยู่ไหน? โบกแท็กซี่ไปบขส.ตอนนี้เลยได้รึเปล่า?

คิดได้แล้วไม่ปล่อยผ่านไปง่ายๆ เมื่อคชาลุกขึ้นจากเตียงแม้จะโงนเงนอยู่บ้าง  ร่างเล็กเปิดตู้เสื้อผ้าเอากระเป๋าสัมภาระออกมา มือก็หยิบเอาเสื้อผ้าใส่เข้าไป ก่อนจะรื้อมันออกมาใหม่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าไม่จำเป็นต้องเอาเสื้อผ้าไปนี่นา...

   ป่วยแล้วเบลอไปหมดเลย...


   ขณะที่สมองกำลังรวบรวมความคิดว่าต้องเอาอะไรไปบ้าง สมองก็ชะงักไปเสียก่อน ด้วยเพราะเสียงเคาะประตู ร่างเล็กจึงเดินไปเปิดให้แขกผู้มาเยือน

   “ตื่นนานรึยัง? อาการเป็นไงบ้าง?”  ไม่ผิดจากที่คิดนักเมื่อคนมาใหม่คือเต๋า... คชายังยืนนิ่งไม่ตอบ ปล่อยให้อีกคนใช้หลังมือหนาทาบวัดไข้อยู่อย่างนั้น

   “อืม...ก็ดีขึ้นแล้วนะ”  เต๋าพูดพลางระบายยิ้มออกมาเมื่อรู้สึกว่าร่างกายของอีกฝ่ายแค่อุ่นๆ ไม่ได้ร้อนรุมๆ เหมือนตอนแรก  หากแต่ข้อสรุปนั้นกลับทำเอาคชาเบะปากออกมา

   “ยังไม่หายซะหน่อย”  คนตัวเล็กว่าก่อนจะเดินกลับมานั่งที่เก้าอี้  ไม่รู้หรอกว่าตัวเองอาการดีขึ้นจริงรึเปล่า แต่สำหรับคชา...ตอนนี้วัดกันที่อารมณ์ล้วนๆ

   “โอเคครับคนป่วย ยังไม่หายก็ยังไม่หาย”  เต๋าพูดอย่างเอาใจ  “แล้วนี่เอากระเป๋าออกมาทำไมน่ะ?”

   “จะกลับบ้าน”  คชาตอบเสียงห้วน จริงๆ ตอนเต๋ามาก็ทำให้คชาลืมเรื่องนี้ไปชั่วครู่ แต่ดันเป็นเจ้าตัวที่ไปสะกิดเรื่องนี้ขึ้นมาเอง

   “กลับบ้าน? กลับโคราช?”  เต๋าเลิกคิ้วขึ้นในเชิงถาม

   “อือ จะกลับบ้านแล้ว” เหงา... คำพูดสุดท้ายเพียงเอ่ยในใจเท่านั้นไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ

   ข้อความแสนง่ายของคนตัวเล็กทำเอาอีกคนถอนหายใจหนักๆ ออกมา... ก่อนจะพูดสวนกลับไป  “แน่ใจแล้วหรอ?”

   “ทำไมต้องไม่แน่ใจด้วย แค่จะกลับบ้าน”  คำพูดที่ฟังดูรั้นกว่าปกติทำเอาคนถามมองตามเข้าไปในแววตาคู่ใส เขาเพิ่งสังเกตว่ามันแดงกว่าปกติ ซ้ำข้างในนั้นยังคงมีความเหงาที่ซ่อนเอาไว้ไม่มิดเลย

   “อยู่ห้องคนเดียวเหงาใช่ไหม? ขอโทษที่มาช้าไปหน่อย”  เต๋าถามพลางดึงอีกคนมากอดไว้แนบอก  แอบยิ้มมุมปากที่เห็นอีกคนส่ายหัวเป็นพัลวันเพราะไม่ยอมรับความรู้สึกตัวเองตรงๆ

“ไม่เหงาก็ไม่เหงา งั้นไปกินข้าวกันก่อนนะ จะได้กินยา”  ไม่รู้ว่าผิดไหมที่รั้งอีกคนไว้แบบนี้ ไม่รู้ที่ทำลงไปมันเห็นแก่ตัวไปรึเปล่า ก็รู้ว่าคชามีสิทธิ์จะกลับบ้านเพราะยังไงซะก็บ้านของเขา  แต่เต๋าไม่นึกอยากให้คนตัวเล็กไปไหนคนเดียวเลย
โดยเฉพาะในยามที่อีกคนทั้งอ่อนไหวและอ่อนแอแบบนี้…

   ไม่ต้องรอให้อีกคนตอบตกลง เต๋าก็มัดมือชกพาคนตัวเล็กออกมาจากห้องพักโดยไม่ลืมจะหยิบถุงยาที่หัวเตียงออกมาด้วย
   



   “อีกนิดจะถึงแล้ว... หลับตาหน่อยสิชา”  เต๋าเอ่ยขึ้นเมื่อเดินมาถึงใกล้ๆ ที่หมาย  จริงๆ มันก็แถวๆ บ้านเต๋านั่นแหละ แต่ในละแวกนี้คชาก็ลองกินมาแทบทุกร้านแล้ว

   “หลับตาทำไม ร้านแถวนี้มีอะไรหรอ?”

   “เอาน่า...”  เต๋าพูดแล้วก็ไปยืนซ้อนหลัง ก่อนจะยกมือขึ้นปิดตาคนข้างหน้าและพาเดินตรงไป  “นิดเดียวก็จะถึงแล้ว ห้ามแอบมองนะ”

   “เล่นเป็นเด็กๆ”  เสียงป่วยๆ บ่นอุบอิบในลำคอ หากทว่าเจ้าตัวกลับหลับตาตามคำบอกแต่โดยดีเมื่อฝ่ามือหนาค่อยๆ ลดลงแล้วเปลี่ยนเป็นจูงเขาไว้แทน

   “จะพามาแกล้งรึเปล่าเนี่ย?”  เสียงเดิมเอ่ยต่ออย่างระแวดระวัง  “ไม่มีขี้หมานะ”  ไม่ได้รับคำตอบใดๆ นอกจากรอยยิ้มขำๆ ของคนจูงที่คนถูกจูงมองไม่เห็น

   “อีกนิดเดียว...จะถึงแล้ว”  เต๋าว่าแล้วก็ละข้อมืออีกคนก่อนจะคว้าที่ช่วงเอวไว้แทน ก่อนจะบิดให้หันซ้าย  “ยืนรอตรงนี้แปปนะ ห้ามลืมตาล่ะ”

   มาถึงจุดนี้แม้ไม่ลืมตาคชาก็พอรู้ว่าตัวเองยืนอยู่ที่ไหน เพราะเสียงเปิดประตูน่ะสิเขาถึงรู้ว่ากำลังยืนอยู่หน้าบ้านของเต๋าแท้ๆ  หากแต่ก็หลับตาต่อไปด้วยเพราะยังอยากลุ้นต่อว่าสุดท้ายเต๋าจะพาไปเจอกับอะไร

   “มาแล้วครับ รอนานไหม?”  เสียงทุ้มที่ดังขึ้นทำเอาคนตัวเล็กอุ่นใจในทันที  มือบางถูกคว้าไปจับไว้โดยฝ่ามือด้านๆ ที่ยังอบอุ่นเหมือนเคย  “ค่อยๆ ยกขาก้าวขึ้นมานะ”

   “โอเค...ทีนี้ก็ถอดรองเท้า”  เสียงเดิมเอ่ยต่อ
   คนตัวเล็กถอดรองเท้าแตะออกตามคำบอก ปลายเท้าที่สัมผัสพื้นกระเบื้องเย็นๆ ทำเอาคนตัวเล็กยิ้มขำเพราะอีกคนช่างไม่เนียนเอาซะเลย

   คชายังถูกพาไปเดินเรื่อยๆ แต่จุดนี้เขาไม่ทันรู้แล้วว่าอยู่ส่วนไหนของบ้านเพราะถูกแกล้งพาให้เดินวน ก่อนที่เต๋าจะพาคชานั่งลงบนเก้าอี้ที่พอเดาได้ว่าเป็นโซฟาที่ห้องรับแขกเป็นแน่

   “ชา... ลืมตาได้แล้ว”  พอเสียงทุ้มเอ่ยจบคนตัวเล็กก็รีบเบิกตาขึ้นมองทันที หากแต่พอเห็นทุกสิ่งรอบกายก็ทำเอาตัวหดลงไปนิดหน่อย

   พ่อต๋อยแม่เต่า แล้วยังน้องต๋อ... มาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

   “ชา... สวัสดีพ่อกับแม่เร็ว”  เต๋าสะกิดเตือน

   “อ่า... สวัสดีครับ”  คนตัวเล็กตามน้ำไปแม้ว่าจะยังงงๆ กับสถานการณ์ตรงหน้าอยู่  หากแต่รอยยิ้มอบอุ่นที่ผู้ใหญ่ทั้งสองส่งมาให้ก็คลายความกังวลออกไปได้มาก

“พ่อ แม่... วันนี้พาลูกชายมาฝากอีกคน”  เสียงเต๋าที่เอ่ยขึ้นง่ายๆ เหมือนกับจะพูดเล่นทำเอาคชาหันไปมองคนพูด ประสานสายตากับร่างสูงที่หันมาบอกเขา  “จะยกพ่อกับแม่ให้วันนึงละกัน”

เพราะคำพูดที่เต๋าเอ่ยขึ้นท่ามกลางคนอีกสามคน  คชาจึงยกมือขึ้นลูบท้ายทอยเบาๆ เพราะติดจะเขินอยู่หน่อยๆ ...เหมือนกำลังถูกพามาฝากตัวเป็นลูกเขย(?)ยังไงอย่างนั้น

   “ยกน้องให้ด้วยสิพี่เต๋า”  ก่อนคำพูดของน้องสาวแก้มกลมที่เอ่ยแทรกจะทำเอาทุกคนอดหัวเราะเบาๆ ไม่ได้ หากแต่พี่ชายหันไปแกล้งบีบจมูกอย่างหมั่นเขี้ยว

   เต๋าผลักคนตัวเล็กให้เดินไปหาพ่อกับแม่ของตนที่นั่งอยู่  ร่างเล็กเดินเข้าไปหาอย่างทำตัวไม่ถูก ก่อนจะถูกแม่เต่าคว้าเข้าไปกอดเต็มรัก ส่วนแผ่นหลังบางก็สัมผัสได้ถึงฝ่ามืออุ่นๆ ของพ่อต๋อยที่วางลงมา

   “อย่างที่เคยบอกแหละ... คชาก็เหมือนลูกแม่อีกคนนะ”  ถ้อยคำอบอุ่นที่เอ่ยขึ้นทำเอาคนตัวเล็กกอดตอบแม่เต่าพลางซุกใบหน้าลงบนบ่าเล็กนั้น  น้ำตาแห่งความตื้นตันเอ่อล้นดวงตาทั้งสอง  ไม่รู้เต๋ามาพูดอะไรให้คุณแม่ฟัง แต่ตอนนี้คชารู้สึกอบอุ่นหัวใจจริงๆ

   “มีอะไรก็มาหาพ่อกับแม่ได้นะ”  พ่อต๋อยเอ่ยขึ้นบ้าง ตอนนั้นที่แม่เต่าผละจากคชาเพื่อให้อีกคนกอดต่อ
   คชารู้สึกเก้ๆ กังๆ เล็กน้อยเพราะค่อนข้างห่างเหินกับพ่อ เนื่องด้วยพ่อแท้ๆ ของตนหย่าขาดกับแม่และอาศัยอยู่อีกจังหวัดทำให้นานๆ จะเจอกันสักครั้ง  หากแต่เพราะความอบอุ่นที่สัมผัสได้ทำให้คชาค่อยๆ กอดตอบคุณพ่อตรงหน้าเบาๆ

   “ขอบคุณครับ”  เขาตอบเท่านั้น สัมผัสได้ถึงฝ่ามือที่ลูบศีรษะอย่างเอ็นดูก็ก้มหัวลงไปอีก  ก่อนจะค่อยๆ ผละออกเพราะกลัวว่าตัวเองจะร้องไห้เป็นเด็กขี้แยอีกหน



   หมดจากตรงนั้น ทั้งห้าคนขาดเพียงน้องเต๋อที่ติดซ้อมกีฬาที่โรงเรียน ก็พากันเข้าไปทานอาหารเย็นในวันนี้ที่โต๊ะอาหาร เต๋าที่เดินรั้งท้ายแอบยกมือขึ้นขยี้ศีรษะคนตัวเล็กเบาๆ ด้วยความเอ็นดู... รอยยิ้มจางๆ ที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวานทำให้เต๋าเริ่มหมดห่วง
อาหารมื้อเย็นวันนี้เป็นสุกี้ที่ต้มกันสดๆ  หม้อไฟฟ้าถูกนำมาตั้งไว้ตรงกลางโต๊ะ  คชาเดินตามไปนั่งข้างๆ ลูกชายคนโตแล้วก็รับประทานพร้อมๆ กับสมาชิกครอบครัวเพียงพอที่มารวมตัวกันเกือบจะพร้อมหน้าในเย็นวันศุกร์

   “เอ้านี่”  เต๋าส่งชามคนตัวเล็กคืนหลังจากฉวยมันไปตักสุกี้ให้  เพราะคชานั่งไกลจากหม้อจึงตักเองไม่ถนัดเท่าที่ควร
   คชาพึมพำคำว่า “ขอบใจ” ข้างในลำคอ แต่นั่นไม่เบาพอที่จะทำให้คนข้างๆ ไม่ได้ยิน

   แม้จะรู้สึกหมดกังวลกับบรรยากาศที่ผ่อนคลาย หากแต่ลึกๆ ในใจคชายังมีความรู้สึกกระอักกระอ่วนปะปนอยู่... พ่อกับแม่ของเต๋าดูแลเขาเหมือนกับเป็นลูกอีกคน แต่ถ้ารู้ว่าภายใต้คำว่า ‘เพื่อน’ ที่พูดบอกมันมีอะไรที่เกินกว่านั้นล่ะ

ทว่าไม่ต้องมีคำพูดใด  สัมผัสอุ่นๆ ที่มือขวาก็ทำเอาคนตัวเล็กหมดกังวลภายในชั่วอึดใจ  ใต้โต๊ะอาหารราวกับล่วงรู้ความคิดนั้น... มือซ้ายของเต๋าเคลื่อนไปบีบมือขวาของคชาเบาๆ ราวกับจะบอกว่ายังมีเขาอยู่ตรงนี้

   คชาก้มหน้าทานอาหารซ่อนรอยยิ้มเขินๆ นั้นไว้  แอบเหลือบตามองคนข้างๆ ที่นั่งนิ่งรเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็หันมากินข้าวต่ออย่างไม่รู้สึกรู้สาบ้าง แม้ในหัวใจจะกำลังพองโต

   แทบไม่รู้สึกเลยว่า ตอนนี้ตนเองลืมคำว่า ‘เหงา’ ไปสนิทเลย
   




   “เป็นหวัดนิดหน่อยแม่... ไปตากฝนมา”
   “ครับ... กินยาแล้ว โอเค เดี๋ยวชาจะรีบเข้านอน”
   “ครับแม่”  ร่างเล็กที่ออกมายืนที่ระเบียงชั้นสี่กดวางสายทั้งรอยยิ้ม มีความสุขที่ได้คุยโทรศัพท์กับแม่  ถึงจะนึกขำที่เมื่อสองสามชั่วโมงก่อนตัวเองยังงอแงเก็บกระเป๋าเตรียมกลับบ้านอยู่เลย

   “ออกมาทำอะไรตรงนี้ ลมเย็นๆ เดี๋ยวก็ไม่หายหรอก”  เสียงทุ้มที่เอ่ยจากด้านหลังทำเอาคนฟังหันควับไปมอง  คชาชูโทรศัพท์ในมือ  “โทรหาแม่”
   “เป็นไง คุยแล้วสบายใจไหม?”
   “อื้อ”
   “แล้วยังอยากกลับบ้านอยู่รึเปล่า?”
   “อยาก”  คำตอบของคชาทำเอาคนถามนิ่งไปสนิท  “แต่คงไม่ใช่ตอนนี้”  คชาพูดต่อพลางเปรยยิ้ม

   ไม่มีใครไม่อยากกลับบ้าน ทุกคนย่อมคิดถึงที่ที่ตนจากมาทั้งนั้น... แต่ตอนนี้ คชายังมีความสุขกับการอยู่ที่นี่
คงไม่ต้องบอกหรอกนะว่าเพราะใคร...

รอยยิ้มกว้างๆ บนใบหน้าหวานทำเอาอีกฝ่ายโล่งใจไปได้เยอะ  นิ้วมือหนายกขึ้นเกลี่ยผมที่เริ่มยาวปรกใบหน้า จับมันทัดหูก่อนจะก้มลงประทับรอยจูบที่หน้าผากอีกครั้ง

“ต่อไปถ้าคิดถึงบ้าน จำไว้ว่ายังมีบ้านนี้อยู่นะชา” 

“อื้ม”  คชาพยักหน้าตอบอีกคน ยอมให้กุมมือข้างหนึ่งอย่างไม่ขัดขืน  ร่างเล็กเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปในห้อง

“ไปนอนได้แล้วมั้งคนป่วย” 

“ไม่ป่วยซะหน่อย หายแล้ว”  คชาเอ่ยเสียงใส ถึงเขาจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนสีฟ้าแล้วแต่ยังไม่นึกง่วงเลยสักนิด  “นอนมาทั้งวันแล้ว นี่ก็ยังไม่ดึกเลย หาอะไรทำกันเหอะ”

เต๋าได้ยินดังนั้นก็อมยิ้มเบาๆ  นึกถึงตอนเย็นที่ไปหาอีกฝ่ายที่ห้อง เจ้าตัวยังบอกว่า ‘ยังไม่หาย’ อยู่เลย สงสัยเพราะตอนนั้นจะอารมณ์ไม่ดีอยู่จริงๆ 

“แล้วจะทำอะไรล่ะ ตอนกลางคืน ในห้องนอนเนี่ย”  น้ำเสียงเรียบๆ เริ่มส่อแววขี้เล่นซุกซน  “อะไรน้า...ที่ทำกันในห้องนอนสองคน”
“ทะลึ่ง”  คชาผละคนที่เดินเข้ามาใกล้ๆ ออก ก่อนจะถามขึ้นอย่างลังเล  “ไม่กลัว..เจ็บ..รึไง?”  ยังยืนยันประโยคเดิมแม้ว่าสภาพตอนนี้มันจะไม่เหมือนอย่างนั้นเลยก็ตาม  เขาอยู่ในชุดนอนสีฟ้าลายสก็อต ส่วนเต๋าใส่เสื้อกล้ามสีดำที่โชว์กล้ามแขนหนาๆ เกินกว่าที่คชาคิด

แค่จินตนาการว่าจะผลักให้เต๋าล้มลงไปยังยากเลย... ไม่อยากจะนึก ถ้าเกิดว่ามันเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมาจริงๆ

เขาคง....... เฮ้ย! ไม่เอาไม่คิด...


“ชา...”  จังหวะนั้นที่เสียงเรียกใกล้ๆ ลำคอทำเอาคนตัวเล็กสะดุ้งโหยง... เขาคงเหม่อนานไปหน่อยจนไม่ทันรู้ตัว  “เต๋าอยากเข้าไปอยู่ในนั้นของชานะครับ”

คำพูดชวนคิดลึกทำเอาคชาหน้าร้อนวูบวาบ ยิ่งลมหายใจที่เป่ารดจมูกยิ่งทำเอาคชาหัวใจเต้นแรง... อยากเข้าไปอยู่...ในนั้น...?
แล้วมันในไหนล่ะวะ? นี่เต๋าทะลึ่งจริงๆ หรือเขาคิดไปเองกันแน่...

แม้ในใจจะมีคำพูดต่อต้าน หากแต่ริมฝีปากที่ประทับจูบอ่อนหวานลงมาทำเอากลืนข้อความนั้นไปหมดสิ้น  มือข้างหนึ่งถูกกำประสานเอาไว้แน่น...

จูบกัน...อีกแล้ว...
แม่...คชาไม่ได้ใจง่ายนะ ชาโดนบังคับ
ไม่ได้ยินยอมเลย...จริงๆ

คชาส่งเสียงอื้ออึงในลำคอที่ถูกช่วงชิงลมหายใจออกมาจากอีกคน อารมณ์เริ่มเตลิดไปกับจินตนาการในหัวที่มากเกินความจำเป็น  ก่อนจะหอบหายใจถี่ๆ เมื่อริมฝีปากถูกปล่อยเป็นอิสระ

คชาประสานมองอีกคนตาแป๋ว... ก่อนที่สมองจะคาดเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ คำตอบก็ถูกเฉลยขึ้นเสียก่อนเมื่อมือข้างที่ถูกประสานไว้ถูกยกขึ้นมาแล้ววางลงบนตำแหน่งอกข้างซ้ายของเขา

“ในนี้ของชา... ให้เต๋าเข้าไปอยู่ได้รึยัง?”  ถึงจะฟังดูน้ำเน่า แต่คชาก็เขินเกินกว่าจะขัดบรรยากาศนั้นลง  คนตัวเล็กหน้าร้อนอย่างที่ไม่คิดว่าจะเคยเป็นมาก่อน  การที่เต๋ามาพูดแบบนี้ใส่มันพาให้ใจสั่นซะยิ่งกว่าถูกจูบเสียอีก

“ไม่ถามปีหน้าเลยล่ะ”  คชาตอบกลับ พยายามเสียงดังสู้ก่อนจะบ่นอุบอิบในลำคอ  “ทำขนาดนี้แล้วเพิ่งถาม”  ก็ตั้งแต่รู้จักกันมา เขาเสียจูบไปกี่ครั้งแล้วล่ะ... ไม่อยากบอกเลยว่า ขนาดกับแฟนเก่า คชาเคยแค่แตะๆ ปากกันครั้งเดียวเอง แถมพอทำเสร็จแล้วเขายังขอโทษฝ่ายนั้นยกใหญ่เลย

“ก็คชาน่ารัก”  คำพูดหวานเชื่อมนั้นทำเอาคชาต้องรีบพูดแก้เก้อ  “ต้องหล่อสิ”

“ครับ...หล่อก็หล่อ”  เต๋าพูดแล้วก็ยกมือเกลี่ยผมอีกฝ่ายที่ลงมาปรกหน้าอีกครั้ง ยิ่งผมเริ่มยาวขึ้นแบบนี้ คชายิ่งเหมือนทอมกว่าตอนแรกเสียอีก  “คชาหล่อมากเลย”  หล่อจนเหมือนทอมแน่ะ...

แม้เต๋าจะแกล้งพูดเอาใจ แต่คำพูดนั้นก็ทำให้อีกฝ่ายพอใจไม่น้อยเลยทีเดียว คนตัวเล็กแย้มยิ้มกว้าง นิ่งมองอีกคนอยู่นาน ยิ่งคิดก็ยิ่งมีความสุขที่ทุกอย่างมาถึงตรงนี้

ก่อนจะตัดสินใจเคลื่อนริมฝีปากไปประทับข้างแก้มอีกคนเบาๆ

“วันนี้..ทำตัวน่ารัก.. ให้รางวัล”  เสียงใสเอ่ยกระท่อนกระแท่น ก่อนเจ้าตัวจะแสร้งนอนลงบนเตียงพลางดึงผ้าห่มมาปิดจนเห็นเพียงแค่ตาคู่เรียว  “นอนดีกว่า ปิดไฟด้วยล่ะ”  ว่าแล้วก็ตะแคงหันหน้าหนีไปซะอย่างนั้น

เต๋ามองคนน่ารักภายใต้ผ้าห่มผืนหนาก็ยิ้มกว้าง... คำตอบของคำถาม คงไม่จำเป็นอีกต่อไป
มาขนาดนี้...จะบอกว่าคชาไม่ให้เขาไปอยู่ในใจก็แย่เกินไปหน่อยแล้ว

แต่มาหอมแก้มแล้วชิงมุดผ้าห่มหนีไปนี่สิ... มันน่า...นัก...

คนตัวเล็กที่ยังนอนกระดุกกระดิกใต้ผ้าห่มนั้นทำเอาเต๋ายิ้มขำ... มือหนายกขึ้นลูบรางวัลที่ได้รับบนแก้มขาวแผ่วเบา  แม้ใจจริงจะอยากดึงคนแกล้งหลับขึ้นมาอะไรๆ ต่อ แต่เพราะความใสซื่อของเจ้าตัวนั่นแหละที่ย้อนมาเป็นเกราะกำบังที่เต๋าไม่กล้าทำร้ายได้ลง

คชากลัวเต๋าเจ็บ... ครับ... เต๋าก็กลัวคชาเจ็บเหมือนกัน

คนตัวโตที่ยังไม่คลายยิ้มลุกเดินไปปิดไฟเพื่อเข้านอน

เรื่องความสัมพันธ์ทางกาย ไว้รอวันที่เราพร้อมก็คงไม่สาย... เพราะความสัมพันธ์ทางใจต่างหากที่เชื่อมเราไว้ด้วยกัน
เต๋าล้มตัวลงนอนบนอีกฝั่งของเตียงที่เว้นไว้ ก่อนที่อ้อมแขนแกร่งดึงร่างเล็กไปกอดไว้หลวมๆ

คชาแกล้งหลับได้... เต๋าก็แกล้งกอดได้เหมือนกัน


“รักนะคะชา”

แต่ประโยคสุดท้าย ไม่ได้แกล้งหรอกนะ...









TBC

หวานอีกแล้ว 55555
ขอโทษด้วยนะค้าที่หายไปน้านนานนานนนนน
 :t3:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 28-08-2012 23:03:52



     ไม่สบายแล้วง๊องแง๊งเหรอเนี่ย
     แต่เต๋าเลยได้โอกาสพาเข้าบ้านเลยนะ หึหึ




หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: LEksUp ที่ 28-08-2012 23:36:13
แอร๊ยยยย

หวาน มาก มาย

 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: topphy ที่ 28-08-2012 23:43:29
 จะน่ารักไปไหนคู่นี้ :impress2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 28-08-2012 23:52:04
สวีทกันจริง   :n1: :L1: :n1:


ขอบคุณครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 29-08-2012 00:25:56
ดีกันแล้ว  :n1:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 29-08-2012 01:56:57
หนูน้อยเราขี้อ้อนเชียว เต๋าก็ให้เสมอต้นเสมอปลายนะ ไม่ใช่ช่วงนี้ยังหวานก็เลยเห็นว่าน่ารัก
นานไปไม่ใช่น่ารำคาญนะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 29-08-2012 02:35:53
ครอบครัวเต๋าน่ารักจัง
เต๋าเป็นผู้ชายที่อบอุ่นสุดๆอ่ะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 29-08-2012 06:21:07
ครอบครัวเต๋า อบอุ่นมากเลย o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 29-08-2012 13:11:09
 :o8:อยากป่วยๆ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: ListeL ที่ 29-08-2012 15:47:44
เยยยยยยยยย้ มาต่อแล้ววววว
ถึงจิตใจคนอ่านตอนนี้จะย่ำแย่ไปหน่อยแต่ว่าอ่านชาคะกะพี่สว่างแล้วรู้สึกดีขึ้นไปด้วย เฮ้อรักกันนานๆนะ :)
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 29-08-2012 19:26:43
คชาตอนป่วยน่ารักอะ  :-[
รอตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: MoD ที่ 29-08-2012 21:27:22
อ่านรวดเดียวจบเลยยยยยยยยยยยยยย -/-

ไม่เคยดูเอเอฟ ไม่เคยจิ้นเต๋าคชา
แต่เรื่องนี้นี่สุดๆจริงๆ -///////////- รอนะคะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 30-08-2012 16:57:32
หวานมาก ยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว น่าร๊าก
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 30-08-2012 19:04:08
ครอบครัวตัว ต. ใจดีและอบอุ่นมากมาย
กดบวกปล่อยเป็ด
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: lvlax23 ที่ 30-08-2012 20:12:16
น่ารักอะ  :-[ :-[ชอบบบบบ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: [newZy]CASS ที่ 30-08-2012 20:19:04
>,<
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 30-08-2012 23:50:18
อ่านจนทัน สนุกดีเรื่องนี้  ปลื้มๆ :)
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: moomew ที่ 31-08-2012 00:06:31
เราอ่านในเด็กดี ชอบมาก ใกล้จบแล้ว คิคิ

เพ้อกะเต๋าไปเลย เวลาหึง สุดๆๆชอบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: mutyamania ที่ 31-08-2012 00:59:39
ไม่ได้อ่านตั้งหลายตอน  คลาดกันไปเสียนานกับเรื่องนี้  อ่านแล้วชอบตอนที่เต๋ากับปอต่อยกันอ่ะ  โมเม้นท์นั้นมันเท่ห์มาก  น้องชานมใสซื่อเกินไปแล้ว  คิดกดเต๋าเหรอคะ  ฝันไปเถอะ  หื่นให้ได้ครึ่งหนึ่งของคุณพระเอกซะก่อนเถ๊อะ!!!!

หวาน ๆ ๆ ๆ อ่านตอนล่าสุดนี่เปรี้ยวปากอยากกินข้าวพองเคลือบคาราเมลขึ้นมาทันที(เกี่ยว?)  ก็แบบ  มันหวานอ่ะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 01-09-2012 23:17:56
ฮี้วววว

สวีท มากไปแหละ

อยากไปอยู่ใต้เตียง 5555+
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 06-09-2012 15:16:21
หูย ยยย  เค้าพากันไปฝากตัวเป็นลูกสะใภ้ซะละ 5555   คงไม่ได้เป็นหรอกช้าลูกเขยอ้ะ  :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 23-09-2012 05:49:11
♀ TOM (or) BOY ♂
26
[/b]







ครึ่งเทอมหลังถึงมรสุมงานจะเยอะแค่ไหน... แต่คนอย่างคชามีหรือจะไหวหวั่น

   คงเพราะยังไม่ใกล้กำหนดส่งงานเลยไม่มีใครรีบร้อนกัน เย็นวันนี้จึงมีที่หมายใหม่เป็นบ้านของเจมส์  หกโมงเย็น รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นคันสีดำก็แล่นออกจากคณะนิเทศศาสตร์ไปยังบ้านของหนุ่มร่างหมีที่อยู่แถบชานเมือง คชาซึ่งนั่งเบาะหน้ากดโทรศัพท์เพื่อนเล่นเกมฆ่าเวลา  จริงๆ ตอนแรกเขา รวมทั้งเฟรมกับเต้ที่นั่งอยู่เบาะหลังยังไม่ค่อยสนิทกับเจมส์ด้วยเพราะรายนี้ชอบปลีกวิเวกแถมยังทำหน้ามึนตลอดยกเว้นเวลาแข่งกีฬา  แต่ไปๆ มาๆ พอได้คุยกันมากขึ้นจึงถูกคอจนแทบจะกลายเป็นกลุ่มแก๊งค์เดียวกัน

ดังนั้น... ตอนนี้คชาจึงขอตั้งชื่อกลุ่มชายโสด(?)สี่คนบนรถว่า


“เอฟโฟร์... ดีปะชื่อนี้?”  เขาเอ่ยกับเพื่อนอีกสามบนรถ โดยมีคนขับอย่างเจมส์ที่พยักหน้าเห็นด้วยรัวๆ

“เอโฟร์ไม่ได้หรอวะ เสียว F มันจะลอยมาจริงๆ”  โปเต้ว่า

“ถ้าเอโฟร์ก็เป็นกระดาษดิ”  เฟรมพูดขึ้น  “กูพูดจริงนะ หล่อๆ อย่างพวกเราเหมาะกับชื่อเอฟโฟร์แล้วเว่ย”


แล้วตลอดระยะทางไปบ้านเจมส์นั้น ก็เต็มไปด้วยเสียงคู่หูเฟรมกับเจมส์ที่ดำเนื้อเพลงเอฟโฟร์ออกมาแบบมั่วๆ




หนึ่งชั่วโมงต่อมา... กลุ่มเอฟโฟร์ก็ฝ่าด่านรถติดในใจกลางเมืองหลวงจนมาถึงบ้านของเจมส์  บ้านสีขาวหลังใหญ่พร้อมสนามหญ้าเล็กๆ เรียกความแปลกตาให้คชาไม่น้อย โดยเฉพาะหน้าบ้านมีสระว่ายน้ำสีฟ้าใสแจ๋วอยู่ด้วยยิ่งรู้สึกตื่นเต้น
ต้องเรียกได้ว่าบ้านเจมส์มีฐานะดีเลยล่ะ แต่พอมาอยู่ด้วยแล้วไม่พาให้คชารู้สึกอึดอัดหรือต่ำต้อยสักนิด คงเพราะความสนิทแบบเพื่อนกันที่ไม่มีเรื่องฐานะมาเชื่อมโยง

อาหารมื้อเย็นที่ตั้งสำรับไว้รอดูน่าทานไปเสียทุกอย่าง มื้อนี้เขาคงเจริญอาหารไม่ต่างจากตอนไปบ้านโปเต้หรือบ้านเต๋า  พวกเขาเอ่ยสวัสดีคุณแม่ของเจมส์ที่ส่งยิ้มกว้างมาให้ด้วยท่าทางแสนใจดี

“ไม่ต้องเกรงใจนะลูก ไม่พอเติมอีกได้”  คุณแม่ท่านว่าอย่างนั้น แล้วมันก็ไม่ผิดสักนิดเดียว
ก็แหม...ฝีมือคุณป้าแม่บ้านเขาเยี่ยมยอดจริงๆ



กว่าทุกคนจะได้เข้าสู่จุดประสงค์ในการมาครั้งนี้จริงๆ ก็เป็นตอน 2 ทุ่ม สี่หนุ่มเอฟโฟร์นั่งตั้งวงจั่วกันอยู่ในห้องของเจมส์
แต่อย่าเข้าใจผิดไปเชียว นี่ไม่ใช่การพนันแต่เป็นเกมการ์ดยูกิต่างหาก

เพราะบัดนี้ คือช่วงเวลาแห่งการดูเอล!!!!!

“ขอส่งเทพมังกรฟ้าโอชีริส โจมตีแบล็กเมจิคเชียนเดี๋ยวนี้!”  คชาได้ยินดังนั้นก็ทำหน้าเหวอได้ที่ ...ไอ้บ้าเอ๊ยยยยย มีการ์ดแบบนี้อยู่ในกองด้วย

“ไอ้เจมส์ โกงนี่หว่า เล่นมีมอนสเตอร์แบบนี้อยู่ในเด็คคนอื่นก็ตายเรียบดิ”  คชาเอ่ยพลางทำหน้าย่นอย่างเซ็งๆ  การ์ดกับดักเมื่อกี๊ก็ใช้ไปหมดแล้วเสียด้วย

“โปรดเรียกผมว่า ‘เคน’ ไม่ใช่เจมส์”  หนุ่มร่างหมีว่า เก๊กหน้าหล่อเสมือนเป็นเคนวงเอฟโฟร์เต็มที่  “ลาก่อนซันช่าย จบเทิร์น”  ยื่นมือมาหยิบการ์ดแบล็คเมจิกเชียนของคชาที่ตั้งรุกไว้ และพลันตานั้น เขาก็ออกจากการแข่งขันไปโดยปริยายเนื่องจาก hp หมดพอดี

“ใครซันช่ายวะ?”  แพ้ไม่พอยังโดนกวนใส่อีก... วัยรุ่นเซ็ง

“ก็มึงไง... ช่วงเวลานี้อนุญาตให้โทรหาเต้าหมิงซื่อได้ โอเค๊?”  เฟรมรีบสมทบ

“ไม่ใช่เต้าหมิงซื่อเว่ย เต๋าหมิงซื่อต่างหาก กร๊ากกกกกก”  ไอ้เต้มันก็เอากับเขาด้วย
 
เหนื่อยจะเถียง... คชานึกในใจเพียงเท่านั้นก่อนจะลุกเดินออกมา ไม่ได้โทรหาไอ้เต๋าหมิงซื่ออย่างที่คนอื่นมันล้อหรอกนะ แค่เดินมาสำรวจห้องเจมส์เล่นๆ เท่านั้น  ห้องนอนกว้างขวางกว่าห้องของเขาหลายเท่า ทั้งตู้เตียง โต๊ะเขียนหนังสือ กีต้าร์ แล้วยังมีวิดีโอเกมกับอุปกรณ์ออกกำลังกายอีก

คนตัวเล็กเดินไปดูใกล้ๆ  ดัมเบลสีน้ำเงินที่วางอยู่บนพื้นเห็นแล้วก็พาให้นึกถึงแขนหนาๆ ของเต๋า(หมิงซื่อ)... ใหญ่แบบนั้นคงต้องไปแอบเล่นที่ไหนมาแน่ๆ

ว่าแล้วก็หยิบมันขึ้นมายกทีสองที...
ก็ไหวอยู่หรอก...แต่หนักเหมือนกันนะเนี่ย

“ไอ้ชาทำอะไร๊ อย่าทำหล่นทับขานะเว้ย”  โปเต้ที่สายตาว่องไวหันมาบอกเพื่อน  ก่อนจะตามด้วยเสียงของเจมส์  “อันนั้น 5 โล”
“กูไม่ซุ่มซ่ามขนาดนั้นซะหน่อย... ว่าแต่ต้องเล่นวันละกี่ทีถึงจะมีกล้ามวะ?”  คชาถามขึ้นต่อ  แขนขวายังคงยกขึ้น-ลงอย่างต่อเนื่อง
“ของแบบนี้มันต้องใช้เวลานะซันช่า”  ชื่อใหม่ที่ถูกเอ่ยขึ้นมาทำเอาคนตัวเล็กเบะปากเซ็งๆ  “ว่าแต่ซันช่าจะอยากมีกล้ามไปทำไมล่ะ?”  เจมส์ถามกลับ

“กูไม่อยากเป็นซันช่า”  คชาตอบ แค่โดนเรียกน้องทอมๆ ก็ว่าแย่แล้ว ยังโดนเรียกซันช่าอีก... ที่เป็น F4 เพราะอยากเป็นวิคว้อย กูอยากเป็นรุ่นพี่จีฮู อยากเป็นคิมฮยอนจุง!!!!!

“ถามจริงเหอะ กูดู ไม่แมน ขนาดนั้นเลยหรอวะ?”  คนตัวเล็กเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล มือวางดัมเบลลงกับพื้นพลางมองหน้าเพื่อนอีกสามคนเครียดๆ

“ก็ไม่ขนาดนั้น แต่มึงเหมาะกับเป็นทอมมากกว่า”  โปเต้พูดเหมือนจะปลอบ  “เออ...นั่นดิจะอยากมีแขนใหญ่ๆ ไปทำไมวะ?”  เฟรมพูดขึ้นต่อ

“เอาน่ะ กูทำได้ก็แล้วกัน พวกมึงจั่วกันไป เดี๋ยวกูขอเล่นนี่หน่อย”  คชาเอ่ยรั้นๆ ไม่ตอบคำถามเพื่อนที่รอฟัง  เพราะคำตอบของเขารู้ดีแก่ใจตัวเอง
อยากมีแขนใหญ่ๆ ไว้แข่งกับไอ้เต๋าหมิงซื่อ!!!!

คชาย้อนนึกไปถึงเมื่ออาทิตย์ก่อนที่ไปนอนบ้านอีกคน อ้อมแขนนั้นที่โอบเขาไว้ตอนนอน ที่จริงก็อุ่นดีแต่พอนึกภาพตอนนั้นมันพาให้ขนลุกแปลกๆ

ใครจะคิด ว่าชีวิตลูกผู้ชาย(ที่เหลือน้อยลงเรื่อยๆ)ของนายนนทนันท์จะต้องมากังวลกับเรื่องแบบนี้  รูปร่างเต๋าที่ตอนแรกแค่คิดว่าสูงกว่านิดเดียวกลับดูบึกบึนแข็งแรงกว่าที่คิดไว้เยอะ ทั้งแขนใหญ่ๆ ที่อวดโชว์เขาเมื่อใส่เสื้อกล้าม แล้วยังหุ่นสวยๆ ไร้พุงนั่นอีก
เอาตรงๆ... ว่ากันด้วยเรื่องสรีระ คชาก็คิดว่าตัวเองเสียเปรียบนิดหน่อยมาโดยตลอด จนตอนที่เต๋าบอกว่า ‘คชาจะเอาครั้งแรกของเต๋าไป’ นั่นแหละ เขาเลยคิดเข้าข้างตัวเองว่าอีกคนจะยอมเสียสละพรหมจรรย์ข้างหลังให้

แต่มาคิดอีกทีดูท่าเขาจะตีความผิดไป ...ภาพเต๋าเปลือยท่อนบนโชว์แขนล่ำๆ หุ่นหนาๆ กับสายตาวิบวับที่ลอยมายิ่งเป็นเครื่องยืนยันสมมติฐานนั้น

มาถึงตอนนี้... ถึงปากจะเคยถามอีกคนว่า ‘ไม่กลัวเจ็บหรอ’ แต่นั่นคือการเตะถ่วงเท่านั้นเอง เขาไม่ได้ใสซื่อขนาดที่ว่าเจอแบบนี้แล้วไม่เอะใจอะไรเลย  แต่จะให้ยอมรับแต่โดยดีก็ยังไม่อยากทำ...เพราะงั้นเลยขอหลอกตัวเองต่อไปอีกสักหน่อย อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่นา

ระหว่างนี้... มาลองฟิตกล้ามซะหน่อยดีกว่า เผื่อสถานการณ์มันจะพลิกกลับได้จริงๆ


คชายิ้มให้กับตัวเองอย่างมีความหวังซะจนเพื่อนอีกสองคนมองหน้ากันงงๆ  คนตัวเล็กอยู่กับความคิดของตนเองจนไม่ได้ยินเสียงเพื่อนที่กำลังคุยกัน

“มึงว่ามันจะไหวหรอวะ”  แวนเนสว่า

“กูว่าท่าจะยาก”  เคนตอบ

   สองหนุ่มหันมองเพื่อนซี้ร่างเล็กที่ยกเวทด้วยสองแขนพลางขมวดคิ้วไปด้วยเพราะความหนัก... ก่อนที่อีกคนจะพูดขึ้นอย่างปลงๆ

   “ไม่รอดแน่ๆ...”  วิคสรุปความ


   เล่นเวทจะรอดไม่รอดไม่รู้...แต่ถ้าต้องสู้แรงไอ้เต๋า(หมิงซื่อ)เห็นทีจะยาก
   สู้เพื่อเอกราชต่อไปนะซันช่า…พวกเรา F3 จะเป็นกำลังใจให้!!!!!





- - -






   เพื่อนไม่เคยทิ้งกัน...
   คงเพราะช่วงนี้คชาติดเพื่อนเป็นพิเศษล่ะมั้งถึงอินกับประโยคนี้  อยู่มหาลัยก็ไปทำรายงานนู่นนี่โดยมีเพื่อนสั่งเพื่อนช่วยตลอด  พอกลับหอมาก็ได้เพื่อนว่าที่คุณหมอมาช่วยสอนการบ้านอย่างขะมักเขม้นให้… การบ้านวิชาภาษาอังกฤษที่เรียนเหมือนกันทั้งมหาวิทยาลัย โชคดีที่ตัดเกรดกันแค่ในคณะของตัวเอง

   ในห้องพักเบอร์ 603 ระหว่างที่คชากำลังดูปอแก้เรียงความของเขาอยู่เงียบๆ โทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าก็ส่งเสียงดังขึ้นรบกวน และเมื่อหยิบมันขึ้นมาดู ก็ทำเอารู้สึกประหลาดใจไม่น้อย

“ดีครับพี่ตี๋”  พี่ตี๋ที่ว่า...เป็นพี่รหัสคชาที่แทบไม่ค่อยได้เจอหน้ากัน เพราะเจ้าตัวค่อนข้างเป็นแรร์ไอเท็มที่นานๆ จะมาให้เห็นสักครั้ง แต่ถึงกระนั้นชื่อเสียงของพี่ท่านช่างขจรไปไกล

“เฮ้ย! ไอ้น้อง วันนี้พี่เพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น มีของฝากมาว้อย”  พี่รหัสว่าด้วยน้ำเสียงจิ๊กโก๋เป็นสไตล์

“โห ขอบคุณครับพี่”  ซื้อมาให้อย่างนี้คชาก็ไม่ขัดศรัทธา สำหรับพี่รหัสที่ไม่ค่อยมาให้เห็นหน้า หนังสือก็ไม่มีให้จนคชาเคยคิดน้อยใจเบาๆ พอได้ยินอย่างนี้ก็ดีใจว่ายังไม่ลืมกัน

   “เออ...งั้นคืนนี้เจอกันที่ร้าน xxx ดีไหม จะพาไปเลี้ยงด้วยสักหน่อย”

   “ได้พี่ แต่นั่นมันร้านเหล้าไม่ใช่หรอ?”  คชาถามกลับเมื่อนึกขึ้นได้ ตาโตลุกวาวอย่างตื่นเต้น สบตากับปอที่เงยหน้าขึ้นมาพอดี

   “เออ เลี้ยงเหล้าสักหน่อย พี่รหัสมึงเป็นใครให้มันรู้ซะบ้าง”  เพราะฉายา ‘จิ๊กโก๋ขี้เมา’ ที่ได้จากการดวดเหล้าเป็นอาจิณสินะ...
“ตกลงว่างเปล่า? สองทุ่มเจอกัน โอเค?”

   “โอเคครับพี่”  คชาตอบนิ่งๆ แต่ในใจยิ้มกริ่มเหมือนกำลังได้แหกกฎบางอย่าง  เพราะครั้งก่อนที่เพื่อนๆ ไปกินกันเขาไม่ได้ไป บอกตรงๆ เลยว่าไอ้เรื่องแบบนี้คชาก็อยากรู้อยากลองตามประสาวัยรุ่นทั่วไปล่ะนะ

   “พาเพื่อนมาด้วยก็ได้นะไอ้น้อง จะได้สนุกกัน ป๋าจ่ายไม่อั้นอยู่แล้ว”  ได้ยินดังนั้นคชาที่ประสานตากับปอก็ยิ้มกว้าง ยังไงก็ตามเขาคงไม่อยากกลับหอมาคนเดียว แถมกับพี่รหัสก็ไม่ได้สนิทสนมกันมากขนาดไปนั่งกันสองคนแล้วไม่มีเดดแอร์

“ได้เลยพี่ เดี๋ยวผมถามเพื่อนก่อน”
   




เหมือนนกกำลังหัดบินเป็นครั้งแรก…

   มันตื่นเต้น อยากรู้ว่าท้องฟ้าเป็นยังไง อยากโฉบกางปีกไปสัมผัสก้อนเมฆและพระจันทร์ดูสักครั้ง อยากรู้จักโลกกว้างให้มากขึ้นกว่าเดิม

   และตอนนี้ คชากับปอก็เป็นเช่นนั้น


   “โหยปอ ตอนแรกคิดว่าจะไม่มาด้วยซะแล้ว เห็นเรียนหมอ”  คชาว่าพลางเดินนำเพื่อนไปที่ร้านในตรอกไม่ไกลจากมหาลัยนัก  ใครที่บอกว่าร้านเหล้าห้ามอยู่ใกล้สถานศึกษาดูท่าจะไม่จริง

   “เพราะเรียนหมอสิยิ่งต้องมา”  ปอว่า ปรายตามองดูร้านเหล้าสองสามร้านที่เรียงรายติดกัน  “เห็นพี่โตๆ บอกว่าปีหนึ่งต้องรีบกินเหล้าเข้าไว้ พอปีสองดูอาจารย์ใหญ่ที่เป็นตับแข็งตายแล้วตอนนั้นจะเลิกกินไปเอง”

   “โห พูดซะน่ากลัว”  คชาพูดพลางหัวเราะเบาๆ แต่ในใจไม่ได้นึกกลัวอะไรอย่างนั้นเลย
   



   ร้านเหล้าใกล้มหาลัยที่เปิดเพลงเบาๆ เคล้าเสียงพูดคุยของเหล่านักศึกษาในคราบลูกค้า  คชาเปิดประตูเข้าไปก็เจอพี่รหัสเจ้าของฉายา ‘จิ๊กโก๋ขี้เมา’ นั่งรออยู่แล้วที่มุมด้านใน

   “ทางนี้ไอ้น้อง”  พี่ท่านอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำ บนโต๊ะมีเหล้ากับมิกเซอร์วางอยู่เตรียมลงมือเต็มที่  “นั่งเลยๆ”

   สำหรับพี่รหัสอย่างพี่ตี๋นั้น เป็นผู้ชายแมนๆ ลุยๆ ไปไหนไปกัน ได้ยินว่าบ้านทำธุรกิจทัวร์เลยได้ติดสอยห้อยตามไปเที่ยวนู่นนี่อยู่เรื่อย และถึงเห็นมาดจิ๊กโก๋ไว้หนวดแบบนี้แต่มีดีกรีพูดได้หลายภาษาทั้งจีนทั้งญี่ปุ่นเลยทีเดียว

   ส่วนเรื่องความประทับใจเกี่ยวกับพี่รหัสคนนี้นั้น มันไม่มีอะไรนอกจากตอนวันแรกที่เปิดเทอมเพื่อนพี่ตี๋ก็มาบอกว่าพี่รหัสอยู่เนปาล ยังไม่กลับ  ได้เจอหน้าอีกทีก็อีกหลายวันต่อมา

   คชาเอ่ยแนะนำเพื่อนที่มาด้วยอย่างปอ

   “พี่ตี๋ นี่เพื่อนผมเอง...ปอ”  คชาแนะนำ

   “ปอ?”  คนอาวุโสกว่ามองหน้าอย่างครุ่นคิด  “เด็กคณะเราป่าววะ?”

   “ป่าวพี่ ปอมันเรียนหมอ”

   “แล้วนี่ใช่ไอ้คนที่เขาว่าเป็นแฟนเอ็งป่าววะไอ้น้อง?”  พี่ตี๋ถามต่อ  “กูได้ยินเขาลือกัน”

   คำพูดตรงเผงของพี่รหัสทำเอาคนตัวเล็กเหวอไปเล็กน้อยก่อนจะตั้งตัวทัน  “เปล่าพี่ ผมยังโสดเหอะ”  พูดจบดังนั้น... โทรศัพท์มือถือเจ้ากรรมก็ดังขึ้นพอดีราวกับจะรู้งาน


   ‘@love’


“เดี๋ยวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะพี่”  ว่าแล้วเจ้าตัวก็วิ่งออกไปรับโทรศัพท์ที่หน้าร้าน กลัวปลายสายได้ยินเพลงที่เปิดแล้วจะพาลสงสัย

   “ฮัลโหล...เต๋า”  เขาพยายามทำเสียงให้เป็นปกติ ทั้งที่ใจกังวลกลัวโดนจับได้

   “อยู่ไหนน่ะ ไม่ได้อยู่หอหรอ?”

   “อือ ใช่...”  เขานิ่งคิดชั่ววินาที  “มา..ทำรายงานบ้านเพื่อน นี่ออกมาซื้อขนมที่เซเว่น”  ว่าพลางมองตรงไปไม่ไกล สัญลักษณ์ร้านสะดวกซื้อสีส้มเขียวสว่างจ้าอยู่ตรงหัวมุม  “ว่าแต่โทรมามีอะไรรึเปล่า?”

“ก็ไม่มีอะไร”  เขาได้ยินเสียงลมหายใจลอดออกมาเบาๆ  “แค่คิดถึง” 

เพียงคำสั้นๆ คำเดียวทำเอาคนฟังจุกอกไม่น้อย หมู่นี้เขากับเต๋าไม่ค่อยเจอหน้ากันด้วยเพราะต่างคนก็เริ่มมีโลกของตัวเอง เขาต้องทำรายงานการบ้านจุกจิก ไหนจะไปเฮฮากับเพื่อนอีก ส่วนเต๋าก็มีซ้อมบาสเกตบอลและทำกิจกรรมที่คณะ  และแม้ฝ่ายนั้นจะชวนให้ไปหาหลังเลิกเรียนแต่เขากลับไม่กล้าพอ

   “แล้วนี่จะกลับมานอนที่หอรึเปล่า?”

   “ก็..คงไม่”  คชาตอบเพื่อตัดปัญหา  “ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ”

   “อืม...ตั้งใจทำรายงานนะคชา”

   “อือ จะตั้งใจเต็มที่เลย”

   เป็นนาทีเดียวที่แสนยาวนานในความรู้สึก กว่าจะถึงจังหวะที่ได้กดปุ่มวางสาย หัวใจก็เต้นรัวจนแทบระเบิดออกมา คชารู้สึกผิด คชาไม่ได้อยากโกหก...แต่ก็ไม่อยากให้เต๋ารู้ว่าออกมาทำอะไร

   ว่ากันตามตรง... เขากลัวอีกฝ่ายรู้แล้วจะตามมาคุม กลัวตัวเองไม่อิสระเหมือนเคย

   ก็รู้ดีว่าเต๋าเป็นห่วงมากแค่ไหน แต่ถ้าไม่บอกออกไป เต๋าก็ไม่ต้องมามัวพะวง มันไม่ดีกว่าหรอ???
   




   บรรยากาศในร้านเหล้าค่อนข้างเป็นไปอย่างสบายๆ  คนไม่เยอะถึงกับแน่นขนัดแต่ก็ไม่ได้โหรงเหรง  คชานั่งลงตรงที่เดิมข้างๆ พี่รหัส โดยมีฝั่งตรงข้ามเป็นปอ  ไม่ทันที่ก้นติดเก้าอี้ดีนัก แก้วน้ำสีอำพันก็ถูกส่งยื่นมาให้

   “เอาไปไอ้น้อง” 

   “ขอบคุณคร้าบพี่ตี๋”

แวบแรก... เขารู้สึกได้ถึงรสชาติขมปร่าและความร้อนวูบขึ้นมานิดๆ ที่ลำคอ  จนเมื่อแก้วที่สองที่สามตามมา แอลกอฮอล์ที่เข้าสู่เส้นเลือดก็เริ่มทำงานให้จนใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีจางๆ

“ไหวเปล่าวะคชา?”  เพื่อนผิวสีถามขึ้นในขณะที่เจ้าตัวยังนั่งจิบเหล้าไปเรื่อยๆ โดยไม่มีวี่แววสะทกสะท้าน

“ไหวๆ เพิ่งกินไปแก้วเดียวเอง”  คชาว่า คีบถั่วเข้าปากเคี้ยวหงับๆ

“แก้วเดียวที่ไหน นับมั่วแล้ว เห็นเติมไปตั้งหลายรอบ”

“อ้าว ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแก้วใหม่ซะหน่อย ฮะๆๆ”  คนตัวเล็กว่าพลางหัวเราะออกมาเบาๆ เหมือนจะขำกับคำพูดของตนเอง





หนึ่งชั่วโมงผ่านไป แก้วเหล้าที่ถูกเติมไม่ขาดทำเอาคนตัวเล็กอยู่ในอาการกึ่มได้ที่  คชาในตอนนี้พูดเยอะกว่าปกติคงเพราะฤทธิ์จากแอลกอฮอล์

“ไอ้น้อง...ไหนๆ มาเจอกันทั้งที เรามาเปิดใจกันหน่อยดีไหมวะ?”  พี่ตี๋ว่าพลางยิ้มมุมปากตามสไตล์  “เอ็งด้วยไอ้ปอ”
คชาพยักหน้าหงึกหงักตามด้วยปอที่เออออตามไป...
หารู้ไม่ว่าการเปิดใจของพี่ตี๋...

“ไอ้ชา... ชีวิตช่วงนี้เป็นไงบ้างวะ?”
“ก็เรื่อยๆ อะพี่”
“แล้วเรื่องความรักล่ะ เป็นไง?”

คือการหลอกถามความลับดีๆ นั่นเอง...


   คนตัวเล็กทำหน้าลังเลนิดหน่อยเมื่อได้ยินคำถาม จนเมื่อถูกกดดันด้วยเหล้าปั่นรสสตรอเบอร์รี่ที่พี่ตี๋เพิ่งสั่งมาให้เลยเกรงใจจนหันหน้าไปกระซิบบอกเรื่องตัวเองกับพี่รหัสให้ได้ยินกันแค่สองคน

   “ก็ดีอะพี่ เขาก็ดูแลผมดีทุกอย่าง”  คชาว่าแล้วก็หลุดยิ้มเขินๆ ออกมา ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่อยู่ในร่างพาให้พูดตามที่ใจคิดออกไป  “แต่มันตัวใหญ่จังพี่ ผมล่ะกลั๊วกลัว กอดทีผมเหลือตัวนิดเดียว”

   ตี๋หลุดขำออกมาทันทีเมื่อได้ยินที่น้องรหัสตัวเองเล่า 

“อย่าบอกใครนะพี่  จุ๊ๆ ไว้”  เสียงคนใกล้เมาที่เอ่ยออกมาฟังดูทั้งตลกทั้งน่าเอ็นดูซะจนตี๋เริ่มหมั่นเขี้ยว ยื่นมือไปขยี้หัวน้องรหัสจนยุ่งเหยิง  “โธ่เอ๊ย น้องกู”

   “พี่ตี๋อะ...ผมเล่าเรื่องผมแล้วนะ พี่เล่าเรื่องพี่มั่งสิ”  คนเป็นน้องว่าเสียงอ้อน ปากดูดเหล้าปั่นรสสตรอเบอร์รี่อย่างชอบอกชอบใจ  “อร่อยจัง”

   “เฮ้ยชา เดี๋ยวเมาหรอก”  ปอพยายามปรามเพื่อน

   “ยังไม่เมาน่า...ถ้าเมาแกก็ลากเรากลับหน่อยละกัน”
   



บทสนทนาว่าด้วยเรื่อง ‘ความรัก’ ดูจะเป็นหัวข้อหลักในค่ำคืนนี้ ตี๋กำลังเล่าเรื่องตัวเองที่ไม่เคยเป็นความลับให้น้องๆ ฟัง

   “วันนั้นกูก็มากินเหล้าแบบวันนี้นี่แหละ...แต่มากับหญิงอื่น แล้วแฟนกูมากับเพื่อนพอดีไง”  ตี๋ว่า หน้าสลดเพียงชั่วครู่แล้วจึงเอ่ยต่อ  “โป๊ะแตกเลย โดนตบไปทีนึงแล้วก็เลิกกัน”

   “โหย...เจ็บน่าดูว่ะพี่”

   “เออ เจ็บฉิบหายมือโคตรหนัก”  หนุ่มจิ๊กโก๋หลุดหัวเราะเบาๆ  “พวกเอ็งก็ระวังแล้วกัน ถ้าริจะมีกิ๊กต้องสับรางให้เก่งเข้าไว้”  ว่าพลางเอื้อมแขนไปคล้องคอน้องรหัสพลางตบบ่าปุๆ  “เข้าใจไหมไอ้น้อง?”

   คชาที่สติเหลือน้อยแค่ครึ่งพยักหน้าลงเออออตามไป  มือจะหันไปฉวยแก้วเหล้าก็ต้องชะงักไปเพราะเพื่อนข้างห้องอย่างปอพยักเพยิดหน้าไปด้านหลัง  ใบหน้าหวานซับสีแดงระเรื่อหันหน้าไปตามที่เพื่อนบอก มองจากระดับสายตาตัวเองขึ้นไป จนพบกับใบหน้าขาวและแววตาคู่คมที่มองตรงมา


   “แกโทรชวนเต๋ามาด้วยหรอวะ?”  ปอถามซื่อๆ หากแต่คชาแทบจะร่ำไห้  ยิ่งเห็นสายตาเย็นชาดุดันคู่นั่นก็เริ่มกลัว

   “เปล่า...บอกมาทำรายงาน”  คชาว่า ตามองตามใครคนนั้นที่เดินไปนั่งอีกมุมของร้าน เต๋ามากับเพื่อนประมาณเจ็ดแปดคน นั่งเบียดกันจนเต็มโต๊ะ

   ความรู้สึกผิดแล่นเข้าปราด ระหว่างที่ใจกำลังตรึกตรองจะเดินไปขอโทษ ความคิดก็พลันสลายไปในพริบตา


   ผู้หญิงที่นั่งเบียดไหล่กับเต๋านั่นมัน ‘แฟง’ ไม่ใช่หรือไง?


   ไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่? แล้วหันไปหัวเราะด้วยแบบนั้น สนิทกันหรอ?


   บรรยากาศสนุกสนานของโต๊ะนั้นไม่ชวนให้อยากเดินไปก้าวก่าย แม้จะเห็นใครคนนั้นเพียงด้านข้างแต่เสียงหัวเราะครึกครื้นที่ดังมาคงมากพอจะสรุปความ... 

เหมือนมีเส้นบางๆ มากั้นอาณาเขตแบ่งฟากร้านเอาไว้ ราวกับกระจกใสที่มองทะลุแต่ไม่สามารถข้ามผ่าน


   มันเป็นเส้นบางๆ ที่ก้ำกึ่งระหว่าง ‘หึง’ กับ ‘ความรู้สึกผิด’ ในใจ

   ระยะทางแค่ไม่กี่ก้าว ช่างห่างไกลกันเหลือเกิน...
   







TBC

ลืมเรื่องกันไปรึยังหนิ -_-"
คนแต่งกลับมาแล้วจ้า แหะๆ (จริงๆก็วนเวียนแถวนี้ทุกวันแหละ แต่ไม่ได้เอามาลงสักที)
คือจริงๆ แต่งถึงตอน 27 แล้วไง
เดี๋ยวตอน 27 จะตามมานะจ๊ะ

 :pig4:
หัวข้อ: Tom(or)boy
เริ่มหัวข้อโดย: Noipatt ที่ 23-09-2012 10:31:41
มีเค้ามาม่า==; อย่ามาม่าเยอะนะ ที่บ้านมีเยอะแล้ว
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 23-09-2012 12:21:50

ขอบคุณที่มาต่อแต่ค้างครับ  :m31:

รอตอนต่อไปครับ  :mc4: :mc4: :bye2:

ปล. ต้องตั้งน้ำร้อนรอไหมเนี่ย :sad11: 
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 23-09-2012 13:02:46
เรื่องเริ่มมาแล้ว คชาไม่น่าเลย เฮ้อ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 23-09-2012 13:09:20


    โย่วกลับมาอัพแล้ว ^ ^
    แต่กลับมาทั้งทีก็ใจดีแจกมาม่าเลยนะ




หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 23-09-2012 16:54:43
คชาก็ไม่น่าโกหกเลย บอกไปเต่าจะได้ไม่เข้าใจผิด
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
เริ่มหัวข้อโดย: JingJing ที่ 23-09-2012 17:27:34
จะมาม่าอีกแล้วหรอก  :เฮ้อ:
แอบคิดถึงบรรยากาศฮาตอนต้นๆเรื่อง
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
เริ่มหัวข้อโดย: LEksUp ที่ 23-09-2012 17:29:46
 นานๆ มาที

แล้วทำไมถึงค้างอย่างนี้

 :z3:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 23-09-2012 18:04:16
แอบมาตอบ -- ไม่ค่อยมาม่าหรอกค่า เรามาม่าไม่เก่ง (จริงๆนะ)
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ListeL ที่ 23-09-2012 19:14:36
55
งอนเลยเต๋าจ๋า 
ครั้งหน้าคชาจะได้ไม่โกหกอีก
แต่ก็เข้าใจคชานะ

สู้ๆจ้าคนเขียน
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 23-09-2012 20:53:36
พี่ค่ะรีบมาน่ะค่ะ
กำลังค้างเลย o13
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Moonmaid ที่ 23-09-2012 22:28:45
ได้กินมาม่าอีกแย้วววว
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
เริ่มหัวข้อโดย: OraeiAiYamapi ที่ 24-09-2012 09:44:41
 :impress3:เพิ่งได้มาอ่านค่ะ

ที่จริงไม่เคยดูเอเอฟลย

พออ่านคู่นี้แล้วน่ารกดีมากเลยค่ะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :really2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 25-09-2012 00:38:20
^^
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 25-09-2012 00:47:31
พี่เต๋ามาอธิบายด่วนครับ  :m16:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mutyamania ที่ 25-09-2012 00:57:02
แฟง........กรี๊ดดดดดดดดด 

ตอนแรกนึกว่าเต๋าจะมาม่า  ตอนนี้กลายเป็นชาน้อยมาม่าซะเอง  รอลุ้นตอนต่อไปด้วยใจระทึก
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
เริ่มหัวข้อโดย: papark ที่ 25-09-2012 01:38:06
มาอัพแล้ว.. ดีใจครับ T_T (กอดคนเขียน) ..มีเค้าดราม่าแล้วคชาเอ๋ย
เอาล่ะจะเป็นยังไงต่อ รอลุ้นครับ รอลุ้น -_,-
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 27-09-2012 02:58:27
♀ TOM (or) BOY ♂
27







ปิดตาไม่ให้เห็นได้ แต่ปิดใจไม่ให้รู้สึกไม่ได้...
บรรยากาศเฮฮาในวงเหล้าไม่ช่วยลดความรู้สึกในใจให้เบาบางลง

ภาพคนที่เขาไม่รู้จักกำลังกอดคออย่างสนิทสนมกับใครอีกคนที่เขาคิดถึงตลอดเวลาในสถานที่อโคจรยามค่ำคืนแบบนี้ยังทำเอาจุกอยู่ข้างใน  โดยเฉพาะเมื่อก่อนหน้านี้ไม่ถึงชั่วโมง...เสียงนั้นยังบอกเขาว่าทำรายงานอยู่บ้านเพื่อน

โกรธไหม? แน่ล่ะ...โกรธที่ถูกหลอกซึ่งๆ หน้า ถ้าไม่ตามเพื่อนออกมานั่งดื่มก็คงไม่รู้อะไรเลย

หึงไหม? ไม่หึงก็ไม่ใช่เต๋า...กับไอ้ปอที่นั่งอยู่ด้วยคดีเก่าก็ยังไม่เคลียร์นัก ตอนนี้ยังมีไอ้หน้าหนวดที่ไม่รู้จักมากอดคอคชากลางร้านแบบนี้ด้วย แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่เคยทำ

ทั้งโกรธทั้งหึง แต่ที่มากไปกว่านั้นคือความเสียใจ... ทำไมถึงต้องหลอก? ไม่อยากบอกหรือบอกไม่ได้? เราไม่สนิทใจแม้แต่จะบอกเรื่องต่างๆ ต่อกันแล้วหรอ???  ...ยิ่งคิดซ้ำยิ่งพาลไปถึงวันก่อนหน้า... ที่คชาบอกไปทำรายงานมันใช่แบบวันนี้รึเปล่า?  เขาไม่เคยไม่อยากเชื่อใจแต่พอเห็นแบบนี้หัวใจก็พลอยสั่นคลอน

‘สามวันจากนารี เป็นอื่น...’  ถ้าว่าตามกลอน ตอนนี้ก็ครบสามพอดี

ท่ามกลางเสียงพูดคุยสนุกสนาน บรรยากาศที่ผ่อนคลาย เสียงหัวเราะที่ออกมาจากปากเขาในตอนนี้เหมือนกำลังถูกเค้นมาจากสมองที่สั่งการ...เคยได้ยินว่าหากเรายิ้มใจเราจะยิ้มตาม แต่ทำไมตอนนี้ไม่ยักจะจริง

   “นั่นมันคชานี่”  แฟง..เพื่อนของแอนที่มาด้วยกันเอ่ยขึ้น หมู่นี้เธอมาหาแอนที่คณะบ่อยๆ เลยได้คุยกัน  ดูเหมือนเธอจะเพิ่งเห็นคชา ส่วนเขาน่ะสักพักแล้ว  “มากับพี่ตี๋ซะด้วย...พี่ตี๋เป็นพี่ที่คณะน่ะเต๋า”

   “งั้นหรอ”  เขาตอบรับเบาๆ  หันสายตาไปมองตาม ตอนนี้คนตัวเล็กกำลังดูดเหล้าปั่นในแก้วใส ท่าทางใกล้เมาเต็มที

   เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่  “พี่ตี๋จริงๆ เขาฮอตมากเลยนะ พวกรุ่นแฟงกรี๊ดกันเยอะ แต่ไม่ค่อยมาคณะเลยไม่ค่อยเจอ ไม่ยักรู้ว่าสนิทกับคชาขนาดนี้” แฟงพูดมาเท่านั้นก่อนจะหันกลับมาที่โต๊ะ ซ่อนรอยยิ้มบางอย่างที่คนข้างๆ ไม่มีวันเห็นมันไว้ข้างใน แอบเขยิบกายที่เบียดไหล่ออกห่างอีกคนมาสักนิดเพราะกลัวอีกฝ่ายจะมองตัวเองไม่งาม เธอไม่อยากจงใจเกินไป ถึงคนจะแน่นโต๊ะและเต๋าก็นั่งในสุดก็ตามที

สายตาคู่คมที่จดจ้องไปที่สองคนบนโต๊ะไม่ใกล้ไม่ไกลค่อยๆ ละออกมา  ภาพคชาที่กระซิบอีกคนเสียใกล้จนแทบจะจูบใบหูช่างบาดตาบาดใจเกินทน...




ขณะเดียวกัน อีกฟากหนึ่งของร้าน การเปิดใจยังคงไม่สิ้นสุด

เมื่อครั้งนี้... ตี๋ถามน้องรหัสว่า ‘กับไอ้คนนั้นน่ะ... เคย จุดจุดจุด กันรึยัง!!!’

“บ้าหรอพี่ จะไปเคยได้ไง...”  คชากระซิบบอกพี่รหัสเสียงแผ่ว  “อย่างมากก็แค่จูบ อา...แต่จริงๆ ก็เกือบไปครั้งนึง  ปอเข้ามาพอดี”

แน่นอนว่าในเวลาปกติ คชาไม่มีทางพูดอะไรแบบนั้น ทว่าในตอนนี้ คำพูดทุกอย่างถูกพ่นออกมาอย่างไม่กลั่นกรอง  “พี่ตี๋... เขาจะโกรธไหม ผมบอกเขาว่าไปทำรายงาน”  คชาที่ผละออกจากข้างหูพี่รหัสเอ่ยถามในเชิงปรึกษา  ใบหน้าหวานสีแดงจัดด้วยปริมาณแอลกอฮอล์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  “ผมโกหกเขาอีกแล้ว เขาต้องโกรธแน่ๆ เลย... แต่ผมไม่ชอบยัยนั่นเลย มาด้วยกันได้ยังไง...แล้วผมจะบอกเต๋าว่าไงดีเรื่องที่โกหก”  คนเมาพูดทุกอย่างที่คิด ซ้ำยังวกไปวนมา  “ทำไงดีพี่ ทำไงดีปอ ทำงายดี โดนโกรธแน่...”

“เอ็งก็บอกไปสิวะ รายงานเรื่องเอทิลแอลกอฮอล์”  พี่รหัสเอ่ยติดตลก  “เนอะไอ้ปอ... หรือว่าจะเป็นรายงานวิชาเขียนข่าวเรื่องร้านเหล้าใกล้สถานศึกษาไหม... เฮ้ย หรือจะบอกว่ามาแจกแบบสอบถามพฤติกรรมการใช้ถุงยางก็ไม่เลว” 

“เอ่อ.. พี่...”  ไม่ใช่คชาแต่เป็นปอที่เรียกชื่อออกมาอย่างปลงๆ

ส่วนคนถามกลับไม่ฟังคำตอบสุดไร้สาระ มัวแต่นั่งดูเหล้าปั่นรสสตรอเบอร์รี่นั่นอย่างชอบใจ จนกระทั่งเงยหน้าขึ้นจากแก้วน้ำเมื่อหมดไปอีกแก้ว  “พี่ตี๋... ห้องน้ำ ปวดฉี่”

“จะถามว่าห้องน้ำอยู่ไหน? ไอ้ชาเอ๊ย มึงเมาแล้ว”  พี่รหัสว่าพลางพยุงตัวน้องลุกขึ้นมา ก่อนจะเอาแขนพาดบ่าพาคนเมาเดินไปด้านหลัง

โดยมีใครบางคนที่มองตามไม่คลาดสายตา...

   



   “พี่ตี๋...ผมไม่ไหวแล้วอ้ะ”

   “ใจเย็นดิวะ ห้องน้ำเต็มอยู่...เฮ่ย จะทำอะไรวะนั่นไอ้ชา!”  พี่รหัสว่าพลางจับมือเล็กๆ ที่กำลังจะปลดซิบกางเกงลงไว้ได้ทันท่วงที  นี่ถ้าเขาไม่มาด้วยมันไม่ฉี่ตรงนี้ไปแล้วหรอวะเนี่ย  “นี่มันอ่างล้างหน้าเว้ย”

   “อ้าวหรอพี่...ฮะๆ”  คชาว่า  “แต่จริงๆ ตรงนี้ก็ได้นะ ผมไม่ถือหรอก คนกันเอง”

   พี่รหัสหน้าหนวดไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านั้นนอกจากนับมือน้องรหัสลำยองเอาไว้กลัวมันจะรูดซิบฉี่ตรงนี้ขึ้นมาอีก  “มึงไม่ถือแต่กูถือว้อย”

   “แต่พี่ตี๋ค้าบ... ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ นะ”

   “ใครให้ซัดไปเยอะขนาดนั้นล่ะวะ ใจเย็นๆ ใกล้ได้สุขสมแล้วมึง”

   ตี๋ว่าพลางตบบ่าน้องปุๆ  ก่อนจะจับตัวมาล้างหน้าล้างตาให้ บ่นกับตัวเองเบาๆ “นี่กูเป็นครูอนุบาลรึป่าววะ”  ทั้งพามาเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าให้...นี่มันน้องรหัสหรือลูกกันแน่วะเนี่ย!



   ในขณะที่น้องรหัสหน้ามนกำลังดึงชายเสื้อพี่รหัสมาเช็ดหน้า พี่รหัสหน้าหนวดก็ปล่อยให้อีกคนทำอย่างนั้นแต่โดยดี หากแต่มือบางก็ถูกคว้าดึงไปโดยบุคคลที่สามเสียก่อน

   ใบหน้าคนมาใหม่ดุดันแสดงความหึงหวงอย่างปกปิดไม่มิด มือขาวซีดดึงร่างคนตัวเล็กที่โงนเงนเข้ามาแนบกาย มืออีกข้างกำหมัดแน่นอยากจะตั๊นท์หน้ามันไปสักที

   บทสนทนาล่อแหลมเมื่อตะกี๊ ดูเหมือนจะมีบุคคลที่สามได้ยินเข้าหมดแล้ว

   ทั้ง ‘ผมไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว’ ของคชา กับ ‘ใจเย็น ใกล้ได้สุขสมแล้ว’ ของตี๋

   “ไอ้น้องเวรเอ๊ย...หาเรื่องให้กู”  ตี๋เอ่ยกับน้องรหัสที่ยืนหน้ามึนไม่รู้เรื่องรู้ราว  มองสีหน้านักเลงของไอ้เต๋าว่าที่น้องเขยแล้วชักจะกลัว

คนนึงเมาเหมือนหมา อีกคนดุกว่าหมา...เออ ให้มันได้อย่างนี้!

   “มึงอย่ามาหาเรื่องพาลใส่กู ไอ้ชามันให้กูพามาเอง”  ตี๋พยายามพูดไกล่เกลี่ย ทว่าไม่ทันขาดคำ หมัดหลุนๆ ของอีกฝ่ายก็วิ่งเข้าหา ยังดีที่มือของเขาไวพอคว้ามันได้เสียก่อน ชินซะแล้วกับเรื่องชกต่ออย่างนี้

“อย่าเล่นแบบนี้ ถึงกูขี้เมาแต่กูไม่ชอบใช้กำลัง มึงพามันกลับไปก็แล้วกัน อยากรู้ไรก็ถามมันเอง ขี้เกียจจะเสือกด้วยแล้ว”  ตี๋เอ่ยกับคนขี้ใจร้อนแล้วชักจะหงุดหงิด  จนกระทั่งเห็นมือหนาที่ค่อยๆ คลายหมัดลงก็เบาใจ นี่ถ้าตะกี๊ห้ามมือมันไม่ทันมีหวังหน้าช้ำแน่ๆ 
ทั้งสองคนยืนมองกันแน่นิ่ง เหมือนดูเชิงว่าจะเอายังไงต่อไป ท่ามกลางแรงปะทะทางสายตาราวกับกระแสไฟฟ้าช็อตเปรี๊ยะๆ  คนเมาที่ยืนมึนอยู่นานก็เอ่ยขึ้น 

“พี่ตี๋ ปวดอ้ะ จะแตกแล้ว” 

เชี่ยยยยยยยยย ไอ้คช๊า!!!!!

ยิ่งได้ยินยิ่งอยากซัดกระบาลเวรๆ ของไอ้น้องรหัสสักสองสามที พูดแต่ละคำนี่หาเรื่องให้กูชัดๆ  ดูไอ้เต๋านั่น ทำหน้าเหมือนโดนเผาบ้านก็ไม่ปาน

ตี๋สบถเบาๆ ก่อนจะบอกไอ้หมาหวงก้างที่ยืนจังก้าเตรียมเข้าชาร์ต  “มันเมามากแล้ว ฝากพามันกลับเลยก็แล้วกัน แต่ให้มันฉี่ก่อน มันปวดฉี่อยู่ เดี๋ยวได้ราดกลางทางพอดี”  ตี๋พูดขึ้น จังหวะเดียวกับที่คนในห้องน้ำเปิดประตูออกมา

“ห้องน้ำๆ”  คชาร้องโวยวายเป็นเด็ก ชี้ห้องน้ำห้องว่าง พลางกระตุกแขนคนข้างๆ ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร  “พาไปฉี่หน่อย”

“อย่าเอาแต่ใช้กำลัง มันจะทำให้มึงเลือดขึ้นหน้า หัดมีสติกว่านี้”  ตี๋พูดเท่านั้น ทิ้งให้อีกสองคนมันไปจัดการกันเอง

เรื่องนี้กูไม่เกี่ยวว้อย!!! แค่เพิ่งกลับมาไทย อยากกินเหล้าเลยชวนมันมาเลี้ยง หาเรื่องสนุกๆ คุย ไอ้เรามันก็ป๋าเห็นน้องมันไม่เคยเลยสั่งมาให้ลองหมดก็เท่านั้นเอง


เรียนผูกต้องเรียนแก้นะไอ้ชา... ถ้ามึงรักกันจริง เรื่องจิ๊บจ๊อยแค่นี้ต้องผ่านไปได้สิวะ!




- - -




   เหมือนสติกำลังหลุดลอยไป... คนตัวเล็กไม่รับรู้อะไรนอกจากการถูกพยุงตัวโดยใครสักคน แขนที่พาดบ่าเอาไว้ให้ความรู้สึกอุ่นใจ  ขณะนี้ภาพและเสียงต่างๆ ถูกเบลอไปหมดเหลือเพียงเสียงคุ้นเคยของคนใกล้ตัว

   ตั้งแต่  ‘มาทางนี้...’  ‘ก้าวขาลงก่อน’  ‘ถอดรองเท้า’ จนกระทั่งเสียงสุดท้าย...

   “ถึงบ้านแล้ว...”  เสียงเดิมบอกกับเขาเช่นนั้น และตอนนั้นเองเขาก็นอนแผ่ลงกับที่นอนนุ่มและกลิ่นที่คุ้นเคยโดยสัญชาติญาณ
   เขาสัมผัสได้ถึงน้ำอุ่นๆ ที่สัมผัสตามผิวเนื้อตัว คชาปล่อยตัวเองไว้ในตำแหน่งแสนสบายอย่างนั้น ปล่อยให้อีกคนได้ทำอย่างที่ต้องการเสียเต็มที่

   สัมผัสนุ่มหยุ่นที่ปาก... รสชาติขมปร่าจากลิ้นของอีกคน... คชาไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น คนตัวเล็กเหมือนใจหลุดลอยออกไปที่ร้านแห่งเดิม

   “ขอบคุณนะพี่ที่เลี้ยงเหล้า...”  เสียงคนเมาที่ละเมอออกมาเรียกให้เต๋าชะงักริมฝีปากที่กำลังจะปล้นจูบรอบที่สองลง

   “เรื่องนั้นอย่าบอกใครนะ เก็บไว้เป็นความลับระหว่างเรา จุ๊ๆ” 

ความลับอะไรอีก???

สายตาโกรธขึงทว่าแฝงความตัดพ้อใช้ทอดมองร่างคนเมาบนเตียง เต๋ากำหมัดแน่น...ปีศาจในกายกำลังพุ่งพล่าน ประกอบกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ยิ่งทำให้เขาเลือดร้อน  มือขาวกระชากคนบนเตียงให้ลุกขึ้นนั่งขึ้นมา

“ความลับอะไร!?”  น้ำเสียงร้อนรน...มือกระชับบ่าเล็กเอาไว้แน่น  “ตอบมาสิคชา!!!”  เขาถามเสียงดัง 

“พี่...”  คนเมาหลุดเสียงละเมอ...สรรพนามที่ใช้บอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้หมายถึงเขาแต่เป็นไอ้นั่น  ยิ่งคิดถึงหน้ามันก็ยิ่งเกิดอาการอยากต่อยคน  มือกำหมัดแน่น ในขณะที่เต๋ากำลังจะเค้นเอาความจริงจากปากคนเมา เสียงที่วูบขึ้นมาก็ทำให้เลือดร้อนในกายสงบลง

‘อย่าเอาแต่ใช้กำลัง มันจะทำให้มึงเลือดขึ้นหน้า หัดมีสติกว่านี้’

น่าตลกที่คำพูดนี้ถูกเอ่ยโดยคนที่เขาเกลียดขี้หน้า หากแต่มันกลับย้อนคืนมาหาเขาโดยไม่รู้ตัว  เต๋าปล่อยมือจากตัวอีกคน ลุกพรวดเดินไปเข้าห้องน้ำก่อนจะปิดประตูดัง ‘ปัง!’

   ไม่ทันได้ยินเสียงที่ละเมอเพ้อต่อมา

“พี่ตี๋...เต๋าต้องโกรธชาแน่เลย ทำไงดี?”




- - -
   



แสงแดดที่ส่องแยงตาทำให้เขาต้องขยับตัวหนี อาการปวดหัวแทรกขึ้นทันทีที่รู้สึกตัว เขาค่อยๆ กะพริบตาถี่ก่อนจะลืมขึ้นมองฝ้าเพดาน หันซ้ายมองขวาจึงพบว่าตนไม่ได้อยู่ในห้องตนเองแต่เป็นห้องของเต๋า

สมองพยายามย้อนนึกเรื่องเมื่อคืนมากแค่ไหน ก็ระลึกได้เพียงตอนนั่งกินเหล้าที่ร้าน เจอเต๋ามากับเพื่อนกลุ่มใหญ่รวมถึงแฟง... นึกออกอีกที ก็จำได้ว่านอนลงบนที่นอนสบายตัว

เหมือนห้วงความทรงจำขาดหายไป จะนึกยังไงก็นึกไม่ออกแถมอาการปวดหัวก็ยังทวีคูณ... คชานั่งขยี้ศีรษะบนเตียง ตอนนั้นเองที่ประตูห้องถูกเปิดเข้ามา

สีหน้าเย็นชาของเต๋าช่วงน่ากลัวในความรู้สึก คชารู้ตัวว่าเขาผิดหากแต่ตอนนี้เขากลับไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงใดๆ  เต๋าในชุดนักศึกษาเดินเข้ามาพร้อมกับวางเครื่องดื่มขวดเล็กไว้ข้างเตียง

“ตกลงเมื่อคืนมันเรื่องอะไร?”  อีกฝ่ายถามสีหน้าเรียบนิ่ง

“เรา...”  ยังไม่ทันได้เรียบเรียงอะไร เพราะเพิ่งตื่นแถมยังมึนสุดๆ  “เมื่อคืนพี่ตี๋บอกจะเลี้ยงเหล้า เราเลยชวนปอไปด้วย แต่บอกเต๋าว่าไปบ้านเพื่อน...”

คำตอบที่ได้รับทำเอาคนฟังขมวดคิ้วจนยุ่ง...ความจริงจากปากอีกคนน่าเศร้ากว่าที่คิด คชาชวนปอแต่กลับเลือกจะโกหกเขา  “แล้วไงต่อ”  เต๋าซัก

“ก็เจอเต๋าเข้ามาในร้าน... จำไม่ได้แล้ว”

“แล้วไปสนิทกับไอ้นั่นตั้งแต่เมื่อไหร่?”  เสียงทุ้มเอ่ยถาม หากแต่คำตอบที่ได้ยินพาลให้คิดว่าอีกคนกำลังกวน

“พี่ตี๋หรอ? ก็ไม่ได้สนิทขนาดนั้นนี่”

ไม่ได้สนิทขนาดนั้น?  “แล้วเมื่อคืนนั่นมันอะไร?”

“อะไร?”  คชาทวนคำ ก่อนจะถามอีกคนกลับไป...  “แล้วอะไรเล่า?”

จนปัญญาจะหาคำตอบ อะไรที่ว่ามันคืออะไรเขาไม่เข้าใจ คนตัวเล็กจึงได้แต่นั่งนิ่งๆ  คำถามที่อีกคนถามเขาเองก็ไม่รู้จะตอบไปว่ายังไงดี

เขาได้ยินอีกฝ่ายถอนหายใจหน่วงๆ  แววตาคู่นั้นดูตัดพ้อ สับสนและไม่เข้าใจ

“บนโต๊ะมีกับข้าว อุ่นไว้แล้ว...แล้วนั่นก็กินแก้แฮงค์”  เต๋าพยักเพยิดไปที่เครื่องดื่มขวดเล็กข้างเตียง  หันไปหยิบหนังสือเล่มหนาใส่กระเป๋าเป้ ก่อนจะคว้ามันสะพาย

“ถ้าจะกลับก็ล็อคประตูบ้านให้ด้วย”

และนั่นคือประโยคสุดท้าย ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินออกไป


คำว่า ‘บ้าน’ ไร้ซึ่งความหมายเมื่อต้องอยู่เพียงลำพัง...





- - -




   กว่าจะกินข้าว ล้างจาน กลับหอมาอาบน้ำ ไปถึงห้องเรียนก็เป็นเวลาเกือบเที่ยง  ว่าจะขึ้นลิฟท์ไปยังห้องเรียนหากแต่ก็เจอกับกลุ่มเพื่อนของตนเสียก่อน  ตอนนั้นเองที่เขาถูกเฟรมดันหลังให้เดินไปยังโรงอาหารแทน

   “ไอ้ชา... อย่าบอกนะว่า ที่มึงมาเอาป่านนี้มึงเสร็จไอ้เต๋าหมิงซื่อไปแล้ว”  เฟรมถามอย่างตื่นๆ  ท่าทีดูอยากรู้อยากเห็นยิ่งกว่าอะไร

   “ห๊ะ ซันช่า...จริงดิ?”  เจมส์ถามย้ำ

   “จริงอะไรเล่า หน้ากูเขายังไม่อยากจะมอง”  คชาว่าอย่างหน่ายๆ กับความคิดของเพื่อน  “ไปเอาความคิดแบบนี้มาจากไหนวะ?”

   “อ้าว ทะเลาะกันหรอ?”  เฟรมลดท่าทีนั้นลง  “แต่ทำไมคอมึงมีรอยดูดวะ เนี่ย ข้างหลังเนี่ย!”

   คชาขมวดคิ้ว... รอยเรยอะไรอีก? แต่จะว่าไป ตอนอาบน้ำก็เห็นอะไรแดงๆ ที่หน้าอกเหมือนกันแต่ไม่ได้สนใจ

   “ยุงกัดมั้ง คิดอะไรอกุศล”

   “ยุงตัวเบ้อเริ่มเลยสิถ้างั้น”  เฟรมว่ายิ้มๆ ตอนนั้นเองที่เพื่อนคนอื่นเดินตามมาสบทบพอดี  หากแต่ในจำนวนนั้น พี่รหัสคนดีก็เดินฝ่ากลุ่มเพื่อนของเขาเข้ามา

   “เฮ้ย..ไอ้ชา ครบ 32 ไหมมึง?”

   “ครบสิพี่”  เขาตอบพี่รหัส... ถ้าจะมีอย่างเดียวที่ขาดๆ หายๆ ก็คือใจของเขานี่แหละ มันกำลังล่องลอยสับสนอย่างบอกไม่ถูก  “แต่พี่ตี๋...เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมลืมไปหมดแล้ว”

   แม้จะเป็นเวลาเที่ยงตรง หากแต่ตอนนี้ยังไม่มีใครเดินไปซื้อข้าว เมื่อทุกคนกำลังหูผึ่งฟังเรื่องราวจากพี่ตี๋อย่างตั้งอกตั้งใจ
   ถึงไม่อยากให้คนอื่นร่วมฟังด้วยแค่ไหน แต่งานนี้ท่าจะยากซะแล้ว
   ยังไง...ฟังแล้วช่วยกันหาทางแก้หน่อยนะทุกคน





- - -





   บรรยากาศของคณะบัญชีในตอนนี้เต็มไปด้วยการจัดงานวุ่นวาย

   เวลาบ่ายสี่โมงหลังเลิกเรียน คชากำกระชับสายกระเป๋า รู้สึกเกร็งเล็กๆ ที่เดินมายังถิ่นที่ไม่ใช่ของตนเพียงลำพัง  สนามหญ้าหน้าตึกที่เขาเคยเดินผ่านกำลังถูกตกแต่งจัดที่จัดทางให้กลางเป็นซุ้มขนาดใหญ่  มาสคอตของงานรูปโลมาสีน้ำเงินตั้งตระหง่านอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล  เขาจำได้ว่าเต๋าเคยพูดว่าที่คณะจะมีงาน Open House  แต่ไม่รู้เลยว่าจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้

รู้ตัวดีว่าช่วงหลังๆ เขาให้ความสนใจในตัวอีกคนน้อยลง อาจเพราะเวลาถูกแบ่งไปให้อย่างอื่น ทั้งการบ้าน รายงาน เล่นเกมสนุกสนาน ออกกำลังกาย... ไม่รู้ว่าหลงลืมไปตั้งแต่เมื่อไหร่ มองดูอีกทีโลกของเราก็โคจรมาไกลกัน

คชาเดินไปทั่วบริเวณงาน พยายามตามหาใครบางคน... จนพบว่าเต๋ากำลังนั่งอยู่กับเพื่อนตรงมุมเล็กๆ นั้น ที่นั่งใต้อาคารซึ่งอยู่ระหว่างลานคณะกับสนามหญ้านี่เอง

เสียงหัวใจเต้นแรงอย่างตื่นเต้น... ได้เห็นคนที่อยากเจอก็จริงแต่ขากลับก้าวไม่ออก จนกระทั่งเพื่อนเต๋าคนหนึ่งที่หันมาเจอเขาเข้าพอดี... สาวผมสั้นเปรี้ยวสีแดงเพลิง เดียร์ยิ้มพลางกวักมือเรียกเขาไหวๆ ตรงกลุ่มนั้น

เมื่อวานเดียร์ไม่ได้ไปดื่มที่ร้านกับเต๋า... ไม่รู้ว่าเธอจะรู้รึเปล่าว่าตอนนี้เขากับเต๋ายังมีเรื่องค้างคากัน
ระหว่างที่คิดในใจว่าจะเอายังไงต่อดี... ตาคู่คมก็หันควับมาทางนี้เสียแล้ว
   



   เต๋าหมิงซื่อ... ท่าทางชื่อที่เจมส์เป็นคนริเริ่มท่าจะไม่ผิด เมื่อตอนนี้คชารู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางกลุ่ม F4 ของจริง  แต่ละคนฐานะดีมีอันจะกินอย่างไม่ต้องสงสัย

   หลังจากเดินไปหาเต๋า เขาก็ถูกเดียร์ลากเข้ามาด้วย... ร้านกาแฟสตาร์บัคส์สาขาใกล้มหาวิทยาลัยถูกใช้เป็นที่ประชุมงานครั้งสุดท้ายสำหรับในวันพรุ่งนี้  มันเป็นครั้งแรกที่คชาก้าวเข้ามาที่นี่  เครื่องดื่มราคาแก้วละร้อยกว่าทำเอาไม่คิดจะกระดิกตัวไปสั่งเลย 
ซ้ำแล้วยิ่งถูกจัดแจงให้นั่งข้างๆ เต๋า...เขาจะกล้าลุกไปไหนได้

   เพื่อนเต๋าแต่ละคนท่าทางดูดีเหมือนที่เคยเจอ คนไหนคุ้นหน่อยอย่างเบน เดียร์ หรือน้ำแข็งเขาก็ไม่เกร็งด้วย หากแต่ที่เหลือยังดูน่ากลัวในความคิดเขา

   โดยเฉพาะคนมาใหม่...จำได้ลางๆ ว่าชื่อ ‘แอน’ เธอเดินมาพร้อมกับแฟงและนั่งลงด้วยกัน

   “พอดีเลย...แอนมาแล้ว เริ่มคุยงานกันนะ”  น้ำแข็งว่าพลางพูดคุยสิ่งที่จะถูกจัดขึ้นพรุ่งนี้ เรื่องที่เขาไม่เคยรู้อะไรด้วยเลยถูกกล่าวขึ้น มันเป็นบทสนทนาที่เขาเอ่ยแทรกไม่ได้และไม่คิดจะทำอยู่แล้ว  หลายครั้งที่บทสนทนานั้นถูกเปลี่ยนไปใช้ภาษาที่สองอย่างอังกฤษเพื่อให้เพื่อนในวงคนหนึ่งเข้าใจได้ถนัด

   นี่สินะโลกในแบบของเต๋า โลกที่เขาไม่กล้าเขามาเหยียบ ต่างจากเต๋าที่วิ่งเข้าหาโลกของเขาอยู่ตลอดเวลา... กับบรรดาเพื่อนของเขา เต๋าคุ้นเคยดีและบางคนก็ค่อนข้างสนิท ซ้ำยังขอเบอร์เอาไว้อยู่หลายคน

   “เบื่อหรอ?”  เดียร์ที่นั่งใกล้ๆ หันมาสะกิดเขาจากการอยู่ในความคิดเพียงลำพัง  ที่จริงเขาอยากจะพยักหน้าแรงๆ สักที แต่ทำได้เพียงส่ายหน้าเบาๆ ตามมารยาทไป

   “ไม่ต้องปฏิเสธหรอก ดูก็รู้”  เธอเอ่ยต่อ  “เรายังเบื่อเลย คุยอะไรกันวนไปวนมา ขี้โม้ชะมัดไอ้น้ำแข็ง”

   คำพูดนั้นทำเอาเขาหลุดยิ้มในทันที อย่างน้อยกับเพื่อนเต๋าคนนี้เขาก็คุยได้อย่างสะดวกใจ  “ต้องอยู่นี่ถึงกี่โมงหรอ?”  คชาถามเบาๆ

   “ก็จนกว่าจะคุยเสร็จนั่นแหละ”  เธอว่า

   “ตั้งใจฟังด้วยเดียร์ อย่ามัวแต่คุย”  ตอนนั้นเองที่เสียงทุ้มอันคุ้นเคยเอ่ยขึ้นมา...เสียงจากคนข้างๆ ตัวเขานี่เอง

   “รับทราบค่ะท่านรองประธานเต๋า”  คชาแอบยิ้มเบาๆ ไปกับคำพูดของเดียร์ แต่ในใจยังนึกไม่ออกเลยว่าจบการประชุมงานอันน่าเบื่อหน่ายนี่แล้วเขาจะทำยังไงต่อดี

   ก็ตั้งแต่เจอกัน... เรายังไม่ได้พูดอะไรนอกจากคำว่า ‘สวัสดี’

   ‘ใกล้ตัว แต่ไกลหัวใจ’ มันเป็นแบบนี้นี่เอง






   “โอเค.. เจอกันพรุ่งนี้เจ็ดโมงครึ่ง วันนี้ไว้เท่านี้ ประชุมอีกทีเย็นพรุ่งนี้หลังเสร็จงาน”  ผ่านไปจนเวลาหนึ่งทุ่มตรงเขาจึงได้ยินคำนี้จากปากน้ำแข็ง  เวลาสองชั่วโมงครึ่งในการพูดคุยสรุปรายละเอียดทำเอาคชาแอบนั่งหาวไปหลายครั้ง

   ทุกคนเก็บข้าวของ เขาเองก็กระชับกระเป๋าใบเล็กขึ้นมา  “เย็นแล้ว ไปหาอะไรกินกันไหม?”  แฟงเอ่ยขึ้นในตอนนั้น  “เต๋า...ร้านอาหารญี่ปุ่นร้านไหนนะที่บอกว่าอร่อย?”

   แววตาของเธอหันมามองหน้าคชาเหมือนจะส่งสาสน์ท้าทาย คำพูดเมื่อครู่ไม่บอกก็รู้ว่าเธอชวนเต๋าไปทานข้าวกลายๆ นี่เอง

   เขาเหลือบหันไปมองใบหน้าขาวคมของคนข้างๆ  เต๋ายกยิ้มออกมาเบาๆ  “อ้อ...ร้าน a ตรงย่านใกล้ๆ มหาลัย จริงๆ ไม่รับรองรสชาติเท่าไหร่หรอก เคยไปกินอยู่สองสามหนเอง”

   สองสามหนนั่นก็ไปกับเขาทุกครั้งไม่ใช่หรือไง?  คชานึกหากไม่ได้พูดอะไรออกมา

   จนกระทั่งเห็นเต๋าลุกขึ้นหยิบกระเป๋า คชาจึงลุกตาม.. ท่าทีเหมือนจะเดินไปกับแฟงทำเอาเขาไม่ชอบใจ  แม้ดูจากท่าทางเต๋าคงไม่ได้คิดอะไร แต่ในใจมันไม่ชอบเลย


ขอ ‘หึง’ สักครั้งได้ไหม?


   มือเล็กจับสายกระเป๋าเป้อีกคนเอาไว้  เอ่ยด้วยเสียงไม่ดัง  “เต๋า...กลับบ้านกัน”  คงเพราะเป็นอย่างเดียวที่อาจจะเชื่อมเราเอาไว้ได้  บ้านที่เต๋าเคยชวนเขาไปอยู่... วันศุกร์อย่างเช่นวันนี้เป็นวันที่เขาไปนอนค้างบ้านเต๋าไม่ใช่หรือไง?

   “วันนี้พ่อกับแม่ไม่อยู่”  เต๋าเอ่ยสั้นๆ ไม่ตอบคำถามออกมาตรงๆ น้ำเสียงนิ่งเรียบยากจะคาดเดา

   “แล้วอยู่กับเราไม่ได้หรือไง?”  คชาพูดต่อ สมองถูกพักเอาไว้ ใช้หัวใจเท่านั้นที่พูดแทน  “ถ้าไม่อยากให้เราค้าง เราไม่ค้างก็ได้... แค่มีเรื่องจะพูดด้วยเท่านั้นเอง”

   ใบหน้าของเต๋ายังคงไม่แสดงอาการไหวติง หากแต่มือข้างหนึ่งยื่นมาแกะมือเขาออกจากกระเป๋าเป้ของตน


   “ถ้าอยากจับ...ก็จับมือ”  คำพูดนั้นทำเอาคนตัวเล็กขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิด ลอบเห็นเพื่อนของเต๋าสองคนที่จับมือกันเดินอยู่ด้านหน้า แต่ว่ากับเขามันต่างกัน

   สองคนนั้นเป็นผู้หญิงกับผู้ชาย แล้วก็เป็นแฟนกัน

   แต่กับเราสองคน...


   เวลาตัดสินใจไม่ได้มีนานนัก... เสียงถอนหายใจดังขึ้น ตามด้วยขายาวที่เดินนำหน้าไป ทิ้งเขาไว้เบื้องหลัง  คชาได้แต่เดินจ้ำตามแผ่นหลังคนข้างหน้าไม่เกินไขว่คว้าแต่ยังลังเลที่จะเอื้อมมือ

เต๋าโบกมือลาเพื่อนคนอื่นๆ แล้ว  ตอนนี้เหลือเพียงเราสองคนในบรรยากาศเงียบงันท่ามกลางความวุ่นวายของใจกลางเมือง  ทั้งสองเดินมาจนถึงสี่แยกไฟแดงที่พอข้ามไปก็จะเป็นบริเวณตรอกบ้านของเต๋า ในตอนนั้นที่เขากลับมายืนข้างๆ อีกคนได้แล้ว

ในระหว่างที่รถยังคงวิ่งสวนกันรวดเร็ว เขารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านเข้ามาจากฝ่ามือคนข้างๆ ที่เกาะกุม  และเมื่อไฟจราจรเปลี่ยนสี คชาก็ถูกอีกคนจูงมือให้ข้ามถนนมาด้วยกัน

ระยะเวลาไม่นานเพียงเสี้ยวนาที...ทว่าตอนนี้โลกทั้งใบสว่างขึ้นทันตา

เป็นเวลาไม่กี่วินาทีที่เดินข้ามถนน ช่วงเวลาที่หัวใจเบ่งบาน...ความอบอุ่นนั้นกำลังจะหายไป



หากแต่ไม่เป็นอย่างนั้น เมื่อมือบางกางประสานมือข้างนั้นไว้ แม้จะลังเลในทีแรกแต่ตอนนี้เขากลับบีบมันอย่างมั่นคง ราวกับจะให้สัญญาณบางอย่างกับอีกคน

   ถึงคชาคนนี้จะเป็นผู้ชาย แต่จะไม่อายกับเรื่องแบบนี้อีกแล้ว

ต่อไปนี้ เขาจะจับมือนั้นไว้ ไม่ปล่อยให้ใครต้องเดินนำ



แล้ว ‘เรา’ จะเดินไปพร้อมๆ กัน...เต๋าหมิงซื่อ
   










TBC   


บอกแล้วว่าเราดราม่าไม่เก่งงิ 5555
 :L1: ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะจ๊ะ <3
หัวข้อ: Tom(or)boy
เริ่มหัวข้อโดย: Noipatt ที่ 27-09-2012 03:57:47
ซดมาม่าไม่อร่อยเลย==; ยังดีนะมีจับมือพอให้ใจชื้น กลับบ้านไปคุยกันดีๆนะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 27-09-2012 06:04:11
มาหวานกันตอนท้ายเลยทำเอาลุ้นเครียด
เต๋ายังคงน่ารักคงเส้นคงวา
ชาค่ะก็อธิบายให้เต๋าเข้าใจซะนะ
ว่าแต่พ่อแม่ไม่อยู่นี่ทางสะดวกเนอะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 27-09-2012 10:28:21
ยังดีที่เต๋าไม่ไปกับแฟง ดราม่ามาซะเกือบจบตอน ดีนะที่ตอนจบมีจับมือกันไม่งั้นเศร้าทั้งตอนอ่ะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 27-09-2012 21:23:44
 :เฮ้อ: ดีที่เข้าใจกัน
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
เริ่มหัวข้อโดย: JingJing ที่ 27-09-2012 22:05:12

ดีใจจังไม่มาม่า ต๋าวต๋าวจัดการสั่งสอนเด็กดื้อเลย  :z1:


หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
เริ่มหัวข้อโดย: NASS.NET ที่ 27-09-2012 22:27:46
โหยยยยย รอให้คุยกันรู้เรื่องแทบไม่ไหว^^
ดีกันเร็วๆนะจ๊าาาาา
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 27-09-2012 23:03:54
เข้าใจกันก็ดีแล้ว
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
เริ่มหัวข้อโดย: timvasabi ที่ 27-09-2012 23:51:02

รักกันแบบนี้ซิจ๊ะ ดูแลกันและกันดีๆ

เชียร์นะ เต๋าชา ฮิฮิ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 28-09-2012 11:42:07
 :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 28-09-2012 20:40:17
รีบเข้าใจกันเร็วเด้อออ

แฟนคลับ อิ่มมาม่าา
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 28-09-2012 23:17:19
มีโอกาสได้เม้นต์สักที เติมตังค์เล่นเน็ตทีไร อ่านจบจะเม้นต์ซักหน่อย

ขอโทดค่ะ กรุณาเติมตังค์แล้วสมัครใหม่


เราชอบมากๆ เลย
ลุ้นมากๆ ตอนแรกๆ ที่คชาหรือน้องชาค่ะ ไปอยู่หอหญิง
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Arancia ที่ 29-09-2012 00:16:29
ดีกันเร็วๆน้าาาา อยากให้เต๋ารู้เรื่องพี่รหัสตี๋ เร้วๆ จะได้ไม่เคือง เอ๊ะหรือรู้แล้วจากตอนที่ชาเมา รออ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 29-09-2012 00:35:19
TOM (or) BOY  

28

 
[/b]


.
.
.
 

 




มือขวากับมือซ้ายที่จับกันไว้อย่างแน่นหนา เกาะกุมยาวนานจนกระทั่งปลายเท้าหยุดลงที่หน้าบ้านเมื่อฝ่ายหนึ่งล้วงหยิบกุญแจบ้านมาเปิดประตู  บ้านหลังเดิมค่อยๆ สว่างไสวเมื่อสวิตช์ไฟถูกกดเปิด ไม่มีใครพูดอะไรออกไป ราวกับปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมดา บรรยากาศแม้จะเงียบเชียบไปเสียหน่อยแต่ไม่ถึงกับเงียบงัน

เจ้าของบ้านเดินนำอีกคนไปยังห้องครัวด้วยเพราะเลยเวลาอาหารมื้อเย็นมามากแล้ว  กับข้าวตั้งแต่เช้าที่ยังเหลือประกอบกับที่ซื้อเพิ่มมาอีกสองอย่าง เพียงไม่นานเมื่อนำมาอุ่นทุกอย่างก็พลันเรียบร้อย

อาหารที่ถูกอุ่น กับใครบางคนที่คุ้นตา

คชายิ้มบาง ตักข้าวในจานพลางเหลือบมองอีกคน ในความเงียบนั้น หัวใจกำลังเต้นดังออกมาเหมือนความรู้สึกที่ปะทุออกมาในใจ...นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้กินข้าวด้วยกันสองคน หากแต่กระนั้น แม้ในใจเต๋าจะยังคงมีความขุ่นเคืองที่ยังไม่ได้สะสาง ทว่าอาหารบนโต๊ะแทบทุกจานก็เป็นอย่างที่ ‘เรา’ ชอบกิน

“อร่อยดีนะ”  คชาว่า มือตักอาหารที่ชอบ ...กินข้าวกับอีกคนมาไม่กี่รู้กี่มื้อต่อกี่มื้อ แต่ไม่รู้เพราะอะไร มันกลับเป็นครั้งที่เขาประหม่าที่สุด

“อ้ะ...”  ทำใจอยู่นานกว่าจะกล้ายื่นช้อนตัวเองส่งให้ เขาสบตาอีกฝ่ายตรงๆ เป็นครั้งแรก แววตาคู่นั้นประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ยอมอ้าปากรับการป้อนแต่โดยดี

หากมือคนป้อนนี่สิ กลับนิ่งค้างไปกับภาพที่เห็น รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่อีกฝ่ายยื่นหน้ามารับมันไปเสียเอง...

ไอ้คชาเอ๊ย จะป้อนข้าวสักคำ ทำดีๆ กับเขาสักหน่อยก็พลาดอีกแล้ว…

ใบหน้าหวานก้มหน้าคิ้วขมวดยุ่งก่อนจะยิ้มกลบเกลื่อนเมื่อเห็นแววตาที่มองมาอย่างสงสัย เริ่มจะโล่งใจที่อีกคนดูเย็นลงเยอะ ซ้ำยังไม่มีท่าทีหมางเมินใส่กันเท่าไหร่นัก

จนตอนกินข้าวเสร็จแล้ว คงถึงเวลาที่ต้องเข้าประเด็นกันเสียที  “ขอโทษนะเต๋า เรื่องเมื่อคืน”  ว่าไปมือก็รวบช้อนส้อมในจานแก้เก้อ

“กะแล้วว่าต้องพูดคำนี้”  เสียงทุ้มตอบเรียบๆ แต่ท่าทีเป็นต่อเห็นๆ

“ก็เราผิดจริงๆ”  พูดไปมือก็อยู่ไม่สุขอย่างร้อนรน  “ขอโทษที่คิดถึงแต่ตัวเอง ขอโทษที่เมื่อคืนโกหก เราก็แค่อยากออกไปเที่ยวบ้าง”

“ไม่อยากให้ไปด้วย?”

“ก็...”  จะตอบว่าไม่ใช่ก็คงไม่ถูกนัก  “อืม...มันก็เหมือนตอนแอบหนีแม่ออกไปเที่ยวแล้วไม่บอกนั่นแหละ ถ้าแม่รู้แล้วแม่บอกไม่ให้ไปจะทำยังไงล่ะ ไม่ได้อยากโกหกหรอกนะ แค่อยากทำอะไรตามใจตัวเองสักครั้งนึง”  เหตุผลที่ยกมาไม่รู้อีกคนจะคิดว่ายังไง แต่มันคือคำตอบที่ตรงใจเขาที่สุดแล้ว

เมื่อไม่เห็นอีกคนย้อนแย้งอะไร เสียงเดิมจึงเอ่ยต่อ  “จริงๆ ตอนแรกจะไปกับพี่ตี๋สองคน แต่กลัวไม่มีเพื่อนกลับหอเลยชวนปอไปด้วยน่าจะสนุกกว่า เห็นว่าอยู่หอเบื่อๆ”  ใบหน้าเต๋ายังคงนิ่งฟัง  “พี่ตี๋เป็นพี่รหัสเราเองแต่ไม่ค่อยเจอกัน เขาเพิ่งกลับจากญี่ปุ่นบอกจะเลี้ยงเหล้าเราก็เลยตกลงไป”

“พี่รหัส?”

“ใช่ แต่ไม่ได้สนิทกันหรอก ไม่ได้เจอกันบ่อย เปิดเทอมมาเจอพี่แกไม่ถึงห้าครั้ง”  หรืออาจจะห้าครั้งพอดี คชาพยายามระลึกอยู่ในใจ ก่อนจะนึกได้ว่าไม่ใช่สาระสำคัญในตอนนี้

“อย่าขี้หึงนักสิ มันไม่มีอะไร เมื่อคืนมันเมาๆ”  เรื่องจริงก็คือเขาจำอะไรแทบไม่ได้สักอย่าง จนพี่ตี๋เล่าให้ฟังถึงได้รู้ว่าเหตุการณ์เมื่อคืนมันชวนคิดไปในทางนั้นอยู่ไม่น้อย

“ไม่หึงนะ”  มือบางจับมืออีกคนฝ่ายเอาไว้ แตะมันเบาๆ เหมือนกับไม่กล้า

“รู้แล้ว”  เต๋าตอบสั้นๆ  “หึงไม่ได้ใช่ไหม...”  ประโยคนั้นไม่ใช่คำถาม หรือถ้าจะถามใครสักคน คนนั้นก็คงเป็นตัวเขาเอง

“เปล่า...อย่าคิดแบบนั้นสิ”  มือบางรีบดึงมืออีกฝ่าย จับมันไว้แน่น  “เรายังหึงเต๋าเลย เต๋าก็หึงเราได้เหมือนกัน”

“ตอนไหน?”

“นั่นสิ ตั้งแต่ตอนไหน...” ที่เต๋าเริ่มรู้จักกับแฟง

คำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบ เขาไม่รู้ จะโทษใครก็ไม่ได้เพราะเป็นเขาเองที่ห่างจากอีกฝ่าย ละเลยกันไปจนแทบไม่รู้ตัว

ในช่วงที่ตัวเราห่างไกล...เป็นไปได้ไหมว่าใจจะห่างกัน?


ความเงียบเข้าครอบงำชั่วขณะ บรรยากาศดูน่าอึดอัดก่อนที่คชาจะเป็นฝ่ายเปิดปากเอ่ยอะไรบางอย่างที่ค้างคา

“เต๋า...รู้สึกยังไงกับแฟง?”  ในคำถามนั้น ตาคู่เรียวฉายความลังเลออกมาชัดเจน  มีใครเคยบอกไหมว่าคชาเป็นคนไม่มีความมั่นใจโดยเฉพาะเรื่องแบบนี้...กว่าเขาจะกล้าตัดสินใจยอมรับ กว่าจะกล้าจับมือเดินไปข้างๆ ก็ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาพักใหญ่

“แฟงก็น่ารักดี”

สั้นง่ายได้ใจความ คำตอบที่คนฟังไม่ได้คาดไว้ถูกเอ่ยออกมา คชานิ่งอึ้งพักใหญ่ก่อนจะแสร้งยิ้มบางๆ

“น..น่ารัก?”

“อื้อ คุยสนุก ร่าเริง”  เต๋าว่าพลางแย้มยิ้มบางที่เฉือนหัวใจคนมอง

“หรอ...หรอ... เราก็...ว่างั้น”  คชาว่าพลางคิดตาม... ใช่ แฟงเป็นคนน่ารัก พูดจาวางท่าวางตัวดี เพราะอย่างนั้นถึงมีแต่คนมาชอบเธอ หลายคนต้องรอเก้อแต่กลับทนยอมที่จะรอต่อไป

แต่สำหรับเต๋าที่แฟงมีใจให้ คงจะไม่ต้องกอดเข่าเช็ดน้ำตาเหมือนคนอื่นๆ สินะ

คิดแล้วก็เจ็บแปลบขึ้นมาในอก... คชาก็แค่คนธรรมดาที่อยากรักคนที่เขารักเรา ไม่ใช่พระรองละครน้ำเน่าที่คอยยินดีที่เห็นเขาสมหวัง

กว่าจะทำใจให้เงยหน้ามองอีกคนก็เป็นเวลาหลายชั่วอึดใจ รอยยิ้มเฉไฉผุดขึ้นบนริมฝีปากบางอีกครั้ง  “แฟงเขาชอบนาย”  สรรพนามที่ไม่ได้ใช้มานานแล้วถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้ง  “ถ้านายชอบเขา...ก็คงสมหวัง”

“งั้นหรอ”  แม้คำตอบไม่ยินดียินร้าย แต่กลับบั่นทอนจิตใจคนฟังไม่น้อยเลยทีเดียว


ความอึดอัดเข้าแทรกแซงเพียงอึดใจ แต่ก็มากพอให้เขาคิดตัดสินใจอะไรบางอย่าง  “หมดเรื่องจะคุยแล้ว กลับหอดีกว่า...”  แสร้งหัวเราะเบาๆ ก่อนจะลุกพรวดจากที่นั่งของตน  แม้คชาจะเป็นคนตัดสินใจอะไรช้าเกือบทุกครั้ง แต่เมื่อจะไปมันกลับรวดเร็วง่ายดายเพราะไม่อยากอยู่ให้ทรมานใจตัวเอง

ขอกลับเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัยอีกครั้งนึง


“ขอโทษเรื่องเมื่อวานอีกทีนะ...เรื่องก่อนหน้าด้วย”


มือบางหยิบกระเป๋าของตน ขาก้าวฉับๆ อย่างไม่สนใจสิ่งอื่นใด... ไม่เคยนึกว่าเราต้องบอกลากันเร็วขนาดนี้ ใจคนเราเปลี่ยนแปลงกันง่ายดายเสียจริง

ตั้งแต่เต๋าชอบแพรวา จนเปลี่ยนมาชอบเขา แต่ยังไงซะเต๋าก็คงชอบผู้หญิง

จริงรึเปล่า...ที่เคยได้ยินว่าความรักของผู้ชายด้วยกันมันไม่ยั่งยืน

 
 

เพราะบ้านหลังนี้เป็นเพียงตึกแถวหลังไม่ใหญ่ ไม่ได้กว้างขวางมากมาย แม้เพียงชั่วนาทีก็ถึงหน้าประตูบ้านเสียแล้ว  มือบางจับประตูไว้แน่น หากแต่ออกไปไม่ได้ด้วยกุญแจที่ล็อคเอาไว้แน่น

คชาหันหลังกลับไป เห็นร่างอีกคนที่เดินตามออกมา

“เต๋า...”  ใบหน้านั้นยังคงนิ่งเรียบยากจะคาดเดา ไม่มีคำรั้งอ้อนวอนเขา หากแต่ก็ไม่ได้ผลักไสไล่ส่งกัน

ในแววตาคู่นั้น...นิ่งเสียจนไม่รู้ว่าคิดอะไร

มืออบอุ่นคู่นั้น...ถือกุญแจดอกเดิมไว้อยู่


“ขอได้ไหม?”


คว้ามืออีกคนขึ้นมา...แกะมือที่กำกุญแจหลวมๆ เอาไว้


“อย่าชอบเขานะเต๋า...อย่าชอบเขาเลย”  ไม่ได้ดึงกุญแจออกไป เพียงแต่ดึงมืออีกคนไว้แทน  เสียงนั้นเอ่ยไม่เบา เคล้าน้ำตาเจ้าเอยที่ไม่รู้ไหลจากไหนมารวมกัน

“เรารักเต๋านะ เต๋าไม่รักเราแล้วหรอ?”  บ่อน้ำตาแตกพรากแล้วก็คงไม่มีอะไรต้องอาย คชาโผเข้ากอดอีกคนไว้ราวกับจะอ้อนวอน


ท่ามกลางเสียงสะอื้นไห้...ฝ่ามืออบอุ่นลูบศีรษะเด็กขี้แยเอาไว้แผ่วเบา แขนอีกข้างกอดเกี่ยวเอาไว้ให้รู้ว่าเต๋ายังอยู่ที่เดิม

“ก็ยังไม่ได้บอกว่าชอบเขาสักคำ ทำไมชอบคิดเองเออเอง”

“ไอ้บ้า...ฮึก..มาแกล้งเราได้ลงคอ ฮือ~”

“ไม่ได้แกล้ง แค่อยากรู้ว่าจะทำไงต่อ จะหนีปัญหาไปแบบคราวก่อนรึเปล่า...”  กระชับอ้อมกอดให้แน่นกว่าเดิม  “แต่เราดีใจ ที่คชาเลือกจะรั้งเราไว้แทน...”

ยิ่งปลอบยิ่งร้องไห้จ้า คชาเอาหน้าซุกหัวไหล่อีกคนหวังให้มันช่วยซับน้ำตาที่ไม่มีวี่แววจะขาดสาย...วูบแรกมันมาจากความเสียใจ หากแต่ตอนนี้เจือไปด้วยความสุขที่เอ่อล้นเต็มประดา


ถ้าการรักใครสักคนคือการเอาตนเองไปแขวนไว้กับคนนั้น ตอนนี้เขาก็พร้อมที่จะทำมันแล้ว



“ชาค่ะ...ตอนนี้เราจะเลิกเป็นเพื่อนกันได้รึยัง?"

 

 





            เสียงข่าวภาคค่ำยังคงรายงานปกติไปตามเคย คชาที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยฟุ้งด้วยกลิ่นแชมพูหอมหวานเดินลงมาหาลูกชายคนโตที่นั่งดูทีวีรอที่ห้องรับแขกด้านล่าง ผ้าขนหนูสีขาวในมือถูกอีกคนแย่งมาเช็ดผมให้แทน

            คชานั่งลงบนพื้นพรมหน้าโซฟา ให้คนที่นั่งอยู่ก่อนหน้าเช็ดผมให้ตนได้สะดวก มือคว้ารีโมทมาเปลี่ยนเป็นช่องเคเบิลการ์ตูนพลางนั่งดูมันอย่างมีความสุข  ริมฝีปากแย้มยิ้มกว้าง ตอนนี้ย่ำค่ำแล้ว แม้ไม่มีรายการอะไรน่าสนใจ หากแต่โลกกลับสดใสอย่างบอกไม่ถูก

            “หอมจัง”  เสียงทุ้มว่าพลางยื่นจมูกมาดมกลิ่นเส้นผมนั้นเสียใกล้

            “ก็ใช้อันเดียวกัน จะหอมอะไร”

            “แล้วใครว่าหอมแชมพู”  เต๋าว่าแล้วจมูกก็หอมบนศีรษะอีกคนดังฟอด แล้วจึงแกล้งใช้ผ้าขนหนูขยี้ผมอีกคนเล่น

            “สนุกนักใช่ไหม แกล้งชาวบ้านเขาเนี่ย”  แม้เสียงเล็กจะบ่นพึมพำแต่ก็ยิ้มบาง แม้ตาจะจดจ่อกับเจ้าตัวการ์ตูนในจอแก้วตรงหน้าก็ตาม

            “ชาวบ้านที่ไหน แฟนต่างหาก”

            “แฟนเฟินอะไร...ยังไม่ได้รับปากสักคำ”  หันมาเอ่ยกับคนด้านหลังพลางยิ้มเป็นกวนเข้าให้สักที

            “หรอ? แล้วจะทำไงดี หรือเราจะข้ามขั้น”  คนพูดยิ้มเจ้าเล่ห์ มือหนาเลื่อนจากศีรษะอีกคนลงมาตามแนวกกหู แตะเบาๆ แต่ก็พอให้อีกคนรู้สึกวาบหวิว

            ตอนนั้นเอง คชาจึงเข้าใจความหมายของ ‘ข้ามขั้น’ แจ่มแจ้งเสียที


“ไอ้บ้า ไอ้ทะลึ่ง...เดี๋ยวก็เจ็บตัวหรอก”  แต่อย่างที่บอกว่าคชาเก่งเรื่องตีเนียนเป็นทุนเดิม  “อยากเจ็บตัวหรอต๋าวววววว”  ถามพลางพยายามทำหน้าเหนือกว่าสุดฤทธิ์ แม้อีกฝ่ายจะไม่มีทีท่าสะทกสะท้านสักนิดเดียว

“ถ้าต้องเจ็บเพราะรักคชาก็ยอม”

“แหวะ! จะอ้วก”

“อ้าว...ยังไม่ทันทำอะไรแพ้ท้องอีกแล้วหรอชาค่ะ”

เอ่อบบบบ......

คนตัวเล็กแทบจะกุมขมับทันทีที่ได้ยินอีกคนพูด ไม่รู้จะสงสารตัวเองดีไหมที่มาเจอนายเศรษฐพงศ์ในโหมดนี้ แต่ท่ามกลางความรู้สึกนั้นมันกลับสบายใจ

ผ้าขนหนูผืนหนาถูกโยนใส่หน้าอีกคนที่ทำหัวเราะเมื่อเขาเถียงต่อไม่ถูก คชาลุกไปนั่งบนโซฟาก่อนจะแกล้งทำร้ายใบหน้าอีกคนผ่านผ้าผืนนั้นบ้าง

“เต๋าเอ๊ย...ทำไมถึงได้เสี่ยวแบบนี้วะ? วันๆ กินอะไรเป็นอาหาร?”  พูดไปมือก็แกล้งอีกคนไปพลาง

“กินชา...โอ๊ย!”  คนถูกแกล้งโอเวอร์แอคติ้งเมื่ออีกคนแกล้งบิดแก้มขาวของตน เสียงดังไปทั่วบ้านแต่คงไม่ต้องเกรงใจใครเพราะตอนนี้ไม่มีใครอื่นอยู่เลย

“เก่งนักนะไอ้เรื่องพูดจากำกวม... ใครกินใครกันแน่เหอะ รู้เปล่าเราชอบกินขนมลูกเต๋านะ”  คชาว่าขณะที่ดึงผ้าขนหนูออกจากใบหน้าอีกคนที่กำลังยิ้มแก้มปริ่ม

“ขนมลูกเต๋า? เป็นยังไง?”

“หือ... ก็ลูกสี่เหลี่ยม หวานๆ มันๆ”  เสียงใสตอบอีกคนแม้ไม่เข้าใจจุดประสงค์ของคำถาม  ทว่าไม่ทันเอ่ยปากต่อ ริมฝีปากบางก็ถูกช่วงชิงลมหายใจไปเสียก่อน  ลิ้นร้อนไล่รุกรานเข้ามาจากด้านนอกสู่ภายใน หยอกล้อเคล้าคลอเคลีย

“รสชาติเหมือนกันไหม?”  เต๋าถามเสียงพร่า  “หรือยังชิมไม่พอ?”  ไม่รอคำตอบ...คนเจ้าแผนการก็มอบรสสัมผัสให้อีกคนได้ชิมอย่างจุใจต่อ แม้โดยรูปการณ์ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเป็นคนถูกชิมมากกว่าก็ตาม

จะว่าไป เต๋ากับขนมลูกเต๋าอาจไม่ได้ต่างกันมากมาย รสชาติหวานที่ปลายลิ้น พาให้หลงมัวเมาในอารมณ์โดยง่ายดาย

ต่างกันตรงที่ขนมลูกเต๋าอยากกินก็หาซื้อได้ แต่(ไอ้)เต๋าคนนี้ไม่มีขายที่ไหนอีก

เสียงการ์ตูนที่ดังออกจากโทรทัศน์กลายเป็นเพียงฉากหลัง เสียงอื้ออึงในลำคอต่างหากที่กลายเป็นตัวเอก ผสานสอดคล้องกับหัวใจที่เต้นดังราวกับตีกลองอยู่ในอก

“อุ๊ย!”  หากแต่เสียงแปลกปลอมที่เข้ามาในฉากทำเอาคนตัวเล็กเบิกตาโพลง หันไปมองด้านหลังเป็นน้องชายร่างผอมสูงกับน้องสาวแก้มยุ้ยที่ยืนอยู่ไม่ไกล  เต๋าหยุดให้อีกคนชิมเมื่อถูกมือเล็กทุบแผ่นหลังประท้วง ก่อนจะหันไปมองสองต.ที่ยืนมองไม่สะทกสะท้าน

“กินข้าวมารึยัง?”  เสียงทุ้มทักทายน้องทั้งสองราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้า ขัดกับอีกคนที่เลือดไหลสูบฉีดไปที่แก้มทั้งสองจนแดงเถือก

“อ๋อ กินมาแล้วพี่เต๋า”  น้องชายตอบ  “เดี๋ยวเต๋อไปอาบน้ำก่อนละกัน ร้อน”

“ต๋อก็ไปวาดรูปบนห้องดีกว่า”  น้องสาวว่าพลางยิ้มแป้น

“อย่าลืมทำการบ้านกันด้วยล่ะ”  เต๋าเอ่ยทิ้งท้าย มองตามน้องทั้งสองที่เดินขึ้นบันไดไป แล้วจึงหันกลับมาหาคนข้างๆ ต่อ


“เราก็ ขึ้นห้อง ไป ทำการบ้าน กันบ้างเถอะชา”

 

 



 

            ระยะทางสี่ชั้นไม่เคยไกลเมื่อเราจับมือเดินขึ้นมาพร้อมกัน... คนตัวเล็กเดินนำเข้าไปในห้องนอนก่อนจะหยิบข้าวของของตนที่ไว้บนเตียงย้ายมาที่โต๊ะเขียนหนังสือ ส่วนอีกคนกำลังล็อคประตูห้อง ก่อนจะนั่งลงบนเตียงท่าทางเตรียมพร้อม

“เต๋า...ขออะไรหน่อยได้ไหม?”  คชาหันมาเอ่ยกับเจ้าของห้อง

“ขออะไรครับ?”  คนพูดว่าแล้วก็ปรี่ไปหาร่างเล็กที่นั่งอยู่ มือเอื้อมไปจับใบหน้าหวานที่มีความกังวลฉายอยู่ในดวงตา

“เราอยากทำการบ้าน”

“ครับ เต๋าก็อยาก”

“ดีเลย...”  คชายิ้มแก้มปริ  “งั้นเต๋าไปทำบนเตียงได้ไหม?”

“ได้สิ เรื่องแค่นี้”  ยังไงก็ต้องทำบนเตียงอยู่แล้ว...

ได้รับคำตอบแบบนั้น ใบหน้าหวานก็แย้มยิ้มกว้าง เปิดกระเป๋าสะพายของตนพลางเอ่ยประโยคถัดมา


“งั้นเราขอยืมใช้คอมหน่อยนะ ต้องรีบทำส่งอาจารย์” 

เดี๋ยวนะ...นี่คชาหมายถึง ‘ทำการบ้าน’ จริงๆ!???


ร่างสูงยืนมองคนที่กำลังจดจ่อกับการบ้านของตนเองหน้าคอมพิวเตอร์ตาละห้อย อยากเรียกร้องความสนใจสักหน่อยแต่พอเห็นอีกคนตั้งหน้าตั้งตาทำจริงจังเลยถอยทัพไปที่เตียง หยิบสมุดขึ้นมาดูรายเอียดงานของคณะที่ต้องตื่นแต่เช้าไปในวันพรุ่งนี้แทน

ใบหน้าคมก้มๆ เงยๆ เหลือบมองอีกคนเป็นระยะ เห็นยังง่วนกับการบ้านเลยหยิบหนังสือข้างๆ เตียงมาอ่านเล่นฆ่าเวลาไป

รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่อีกคนลุกจากหน้าคอมฯ แล้วเดินตรงมาหา เข็มนาฬิกาในห้องบอกเวลาห้าทุ่มเศษ

“การบ้านเสร็จแล้วหรอ?”  เต๋าถาม คั่นหน้าที่อ่านแล้ววางมันบนข้างเตียง

“อื้อ ส่งเข้าเมลอาจารย์เรียบร้อย ทันเวลา”  คชาว่า ทรุดตัวลงนั่งพิงหัวเตียงข้างๆ อีกคน  “แต่เหลืองานอีกอย่าง ช่วยทำหน่อย”

ไม่รอให้อีกคนตอบอะไร มือบางก็ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้พร้อมปากกา

            “ทำหน่อยเร็ว แปปเดียว”

            ตาคู่คมจรดมองกระดาษแผ่นนั้น กวาดตามองพบว่าเต็มไปด้วยพื้นที่ว่างๆ  ก่อนที่มือจะกระชับปากกาเสียแน่นเมื่อเหลือบเห็นหัวกระดาษด้านบน


            ...ใบ สมัคร แฟน ครับ...

            “เขียนเร็วสิ จะรออะไร?”  คชายิ้มร่า...ดวงตาบอกประกายแห่งความสุขในนั้น ไม่รู้ว่าเจ้าตัวรู้ไหม ทุกครั้งที่ยิ้มมันเหมือนมีพลังงานบางอย่างไหลออกมา

            ไม่ใช่แค่น่ารัก ไม่ใช่แค่น่ามอง แต่มันมากกว่า... รอยยิ้มนั้นช่างล้ำค่าจนสรรหาคำบรรยายไม่หมดสิ้น

            มันไม่ใช่รักแรกพบ คนเราไม่ได้รักกันง่ายดายแค่มองตา แต่เพราะกับคชา เขามองเห็นลึกไปถึงหัวใจ

            “ยังไม่ยอมเขียนอ...”  ปลายเสียงหายไปเพราะการจู่โจมที่ข้างแก้ม สัมผัสนุ่มหยุ่นที่ประทับลงมาเพียงชั่ววินาทียังติดตรึงอยู่เหมือนทุกครั้ง

            ถ้าการจูบทำให้หัวใจสั่นไหว การหอมแก้มก็ทำให้หัวใจพองโต


            “ทำไมถึงน่ารักอย่างนี้นะ?”


            และนั่นเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่ทั้งคู่จะทรุดตัวนอน กอดกันหลวมๆ ฟังเสียงลมหายใจของกันและกัน

            หลังจากนั้นไม่นาน ไฟในห้องก็ปิดมืดลง หมอนสองใบกับคนสองคนภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน รวมถึงกระดาษแผ่นเดิมและปากกาที่ถูกวางไว้ข้างเตียง

 

 

‘ขอสมัครตลอดไป :)’

นายเศรษฐพงศ์ เพียงพอ


 

 

 

 

 

TBC


ใกล้จบแล้วค่าทุกคน แหะๆ >w<
หวานกันเข้าไป เอิ๊ววววววววววววววว

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 27 หน้า 12 (up 27/09)
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 29-09-2012 00:44:06
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 29-09-2012 01:12:18
โอ้ น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 29-09-2012 02:15:35
 :o8: :-[ :impress2:แค่จูบ นะ ทำเอาเราจะตายแล้วววววววววววววว
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
เริ่มหัวข้อโดย: timvasabi ที่ 29-09-2012 02:37:09
OMG น่ารักเว่อร์ >/////<

มุกแบบที่ชาทำนี้ น่ารักคอดๆเลยค่ะ

รักกันนานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆนะจ๊ะ เต๋าชา

ปล.ไม่อยากให้จบเลยอะค่ะ ต่ออีกซัก 10 ตอนได้ไหมเอ่ยย?? ฮิฮิ

หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 29-09-2012 05:26:01
หวานชื่นใจ  :-[
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 29-09-2012 07:45:55
อ่านช่วงแรกๆน้ำตาคลอ พอช่วงหลังๆยิ้มจนปวดแก้ม โอยย ย ย ย ย ย ย   ตายจ้ะ เจอ ใบสมัครแฟนเข้าไป น่ารักได้อีก!
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 29-09-2012 07:47:37
ตอนนี้มาแบบหวานๆ   o13


อ่านแล้วอย่าลืมบวกคะแนนกันนะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
เริ่มหัวข้อโดย: papark ที่ 30-09-2012 02:06:54
แอร๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก.. ฟินมากครับ ให้ตายเซ้!
ทำไงดีครับ คชาน่ารักมากเลย โดยเฉพาะตอนที่ "ขอได้ไหม" น่ะ.. ผมนี่นั่งฟินคนเดียวจริงๆ นะ
แล้วก็ซวยแล้วคชาเอ๋ย ถูกเห็นเข้าจนได้.. เต๋านี่ก็นิ่งซะแบบ.. พี่ครับ อย่านิ่งแบบนั้น ผมกลัว! 555

อ้ากกกกกก รักคนเขียนนะครับ จุ๊บๆ ♥
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ListeL ที่ 01-10-2012 00:27:13
อร๊ายยยยยยยชอบบบบบบบบบบบบบ
อ่านช่วงแรกแล้วน้ำตาไหลพรากฮืออออออ อินมากกกกกก
รักกันนานๆนะอย่าทะเลาะกันบ่อยเปลืองน้ำตา สมหวังสักทีนะเต๋า คนเขียนจ๋าไม่ต้องรีบจบก็ได้จ้า  -..-กอดเต๋ากับคชากับคนเขียน
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 01-10-2012 12:26:05
โอ๊ย

หวานนนนนนนนนน

กันตอนท้าย

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
เริ่มหัวข้อโดย: bangkeaw ที่ 01-10-2012 13:06:16
ตกลงเป็นแฟนกันได้ซะที
เต๋ารอมานานละนะคะชา
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
เริ่มหัวข้อโดย: honeyhoon ที่ 01-10-2012 13:16:33
แต่งได้น่ารักแล้วก้อสนุกมากค่ะ รอตอนต่อไป  :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mini.tori ที่ 03-10-2012 13:53:25
ลุ้นตั้งนาน  : :mc4:  :mc4: :mc4:


อยากอ่านสเปเชี่ยล เบนxบอส  :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ida_iii ที่ 05-10-2012 00:23:04
สงสัยเพราะไรเตอร์ชอบคิดว่าตัวเองเขียนดราม่าไม่เก่ง

มิน่า เลยดราม่าซะบ่อยเชียว 

เราเพิ่งตามอ่าน แล้วก้เพิ่งจะอ่านทัน  ความถี่ดราม่านี่แทบจะเท่ากับตอนหวานเลยนะ

แล้วดราม่าแต่ละที หวิดๆน้ำตาจะร่วงก้หลายรอบ

เต๋าน่ารักเกินไปแล้วววว
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 11-10-2012 18:34:01
กรี๊ดดดดดด หน่วงมานาน สมหวังซ๊ากกกกกกกกกกกที
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 28 หน้า 12 (up 29/09)
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 18-10-2012 04:59:22
♀ TOM (or) BOY ♂
29
ตอนจบ









   คืนวันเสาร์ อาหารมื้อสามัญประจำบ้านของครอบครัวเพียงพอกลับมาอีกครั้ง  สมาชิกในบ้านพร้อมหน้าหลังจากที่วันธรรมดาทุกคนล้วนมีกิจกรรมของตนเอง  แม่เต่าเพิ่งกลับจากสัมมนา ในขณะที่น้องๆ ก็เพิ่งกลับจากเรียนพิเศษได้ไม่นาน

   สุกี้โฮมเมดตรงหน้ายังคงเป็นอาหารง่ายๆ แต่เอร็ดอร่อย ลูกชายคนกลางเทผักใส่หม้อทีเดียวทั้งกระบุง ลูกสาวก็คีบเนื้อสัตว์ใส่ตามมา ในขณะที่คุณแม่คอยดูหม้อต้มให้ไฟกำลังพอดี โดยมีคุณพ่อนั่งมองยิ้มๆ

   ขาดก็แต่พ่อลูกชายคนโตนี่แหละ เผลอเป็นต้องชะเง้อออกไปด้านนอกทุกที อาการแบบนี้ ทั้งบ้านเริ่มจะพอเดาได้ว่าเพราะอะไรและเพราะใคร

   โทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นในจังหวะนั้นทำให้มือหนาผละจากช้อนแทบจะทันทีราวกับรอมานาน นิ้วกดปุ่มรับสายพลางเดินออกไป

   “มาช้า...”  เต๋าพูดขณะไขกุญแจเปิดประตูบ้านให้อีกคน  “ไปกินข้าวเร็ว กำลังกินกันอยู่เลย”
   “เรากินมาแล้วอะ”  คชาตอบเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย  “พวกเฟรมชวนพอดีเลยกินมาก่อน”
   คนฟังชะงักไปเล็กน้อยที่ได้ยินอย่างนั้น นิ่งเพียงครู่เดียวก็ยกมือขยี้ศีรษะอีกฝ่าย...ยังไม่ทันโกรธอะไรเลย แต่ดูคชากลับทำหน้าตารู้สึกผิดได้น่าเอ็นดูนัก  “ก็ไม่ได้ว่าอะไร... เข้าไปข้างในก่อนเถอะ”




   สมาชิกคนที่หกของบ้านเพียงพอนั่งลงข้างๆ ลูกชายคนโต มีชามใบเล็กวางตรงหน้าพอเป็นพิธี  แม้ตามจริงจะกินมาแล้ว แต่พออีกคนที่อยู่ใกล้หม้อกว่าตักอะไรมาให้ก็กินอยู่ดี

   “วันนี้ไปไหนมาจ๊ะคชา?”  แม่เต่าถามอีกคนที่เพิ่งเข้ามา เป็นปกติแล้วที่คชาจะมาที่นี่ เห็นจากภาพแล้วก็รู้ดีว่าเพราะลูกชายของเธอเองไม่ใช่เพราะใคร
   “ไปทำรายงานมาครับ”  คชาว่า  “ช่วงนี้ส่งงานเยอะ ใกล้จะปิดเทอมแล้ว”
   แม่เต่าไม่ได้ถามอะไรมากกว่านั้น ประเด็นเดิมจบลงกลายเป็นเรื่องของลูกชายคนรองและลูกสาวที่ยังอยู่ในวัยมัธยมแทน ชีวิตในรั้วโรงเรียนในเมืองกรุงดูโลดโผนเอาการ
   “มีสาวๆ มาติดพี่เต๋อด้วยล่ะพ่อ ต๋อเห็นขนมในล็อกเกอร์เต็มเลย ได้ยินว่าเขาทะเลาะกันแย่งพี่เต๋อด้วย”  น้องสาวแก้มยุ้ยเล่าอย่างออกรส พี่ชายคนรองจึงพูดขึ้นบ้าง
   “ต๋อก็ชอบมาส่องนักบาสโรงเรียนเนอะ ให้กลับก่อนก็ไม่เอา” 
“ต๋อไม่ได้ชอบพวกพี่เขาแบบนั้นสักหน่อย พี่เต๋อไม่รู้อะไร”  น้องสาวเถียงกลับ มีประกายกรุ้มกริ่มในแววตา

บทสนทนาของพี่ชายคนรองกับน้องสาวว่ากันต่อไปไม่นาน ประเด็นก็เปลี่ยนไปพูดถึงเรื่องปิดเทอมที่จะมาถึงแทน เต๋อที่ได้โอกาสก็ขออนุญาตพ่อแม่ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนๆ  ส่วนต๋อบ่นกระปอดกระแปดเพราะตนต้องไปเรียนพิเศษอีกเหมือนเดิม

“ว่าแต่เดี๋ยวคชาก็ปิดเทอมแล้วใช่ไหม”  พ่อต๋อยวกมาที่เพื่อนสนิท(?)ลูกชายที่นั่งนิ่งฟังอยู่นานสองนาน  “แล้ววางแผนจะทำอะไร?”
“คงกลับบ้านน่ะครับ แม่ก็ถามอยู่เรื่อยว่าเมื่อไหร่จะปิดเทอม”  คชาว่ายิ้มๆ

อาหารมื้อนี้ยังคงเหมือนเดิมทุกครั้ง เต็มไปด้วยความอบอุ่นของครอบครัวเพียงพอ  แม้ลูกแต่ละคนจะมีความชอบและนิสัยต่างกัน แสบซนกันบ้างตามประสาวัยคะนอง แต่เพราะพื้นฐานครอบครัวล้วนทำให้ทุกคนเติบโตเป็นเด็กดี
   เด็กบ้านนอกเพียงคนเดียวในนี้ เลยอดจะมีความสุขตามไปด้วยไม่ได้
   “ขอบคุณสำหรับอาหารนะครับ พ่อต๋อยแม่เต่า”
   



   บนห้องนอนสีขาว คชานั่งพักบนพื้นปาร์เกต์พิงหลังกับขอบเตียง  มือหยิบหนังสืออ่านเล่นเล่มบางมาเปิดอ่านไปอย่างไม่จริงจังนัก เอนศีรษะกับหน้าขาคนที่นั่งอยู่บนเตียง

   มือหนาลูบเส้นผมอีกคนแผ่วเบา เอ่ยถามเรียบๆ  “คิดถึงบ้านไหม?”

   คชาละสายตาจากบนหน้ากระดาษช้อนมองใบหน้าอีกคน ตอบตรงๆ ออกมา  “คิดถึงทุกวันแหละ...ไม่ได้กลับบ้านตอนกลางเทอมเหมือนคนอื่นเลย”

   แก้มที่พองลมน้อยๆ ทำเอาคนมองอมยิ้ม ยื่นนิ้วมาจิ้มให้ใบหน้าหวานพ่นลมออก

   “เดี๋ยวก็ได้กลับแล้ว”  เต๋าปลอบ  “อีกสามอาทิตย์เอง”

   “นั่นสิ... อีกสามอาทิตย์เอง”  คชาว่าลอยๆ ...สามอาทิตย์ที่ว่าดูยาวนานเมื่อเทียบกับความคิดถึง หากในขณะเดียวกัน มันกลับไม่นานเมื่อรู้ว่านั่นคือเวลาที่ได้อยู่กับอีกคน

   “ไม่ต้องเหงานะ พ่อแม่เราก็คือพ่อแม่คชา น้องเราก็คือน้องคชา”  มือหนาปัดเส้นผมที่ปรกตาอีกคนออก  มองตากันให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

   “บ้านเราก็บ้านคชา เตียงเราก็เตียงคชา”  ว่าแล้วก็ดึงตัวอีกคนขึ้นมานั่งด้วยกันบนเตียงนอนนุ่ม ดึงหนังสือเล่มบางออกจากมืออีกคน  “หนังสือเราก็หนังสือคชา ของของเราก็ของคชาเข้าใจไหม?”

   คำพูดเรียบง่ายแต่กินใจทำเอาอีกคนรู้สึกขัดเขินเล็กๆ  ริมฝีปากได้รูปคลี่ยิ้มบางเบา  “อย่างนี้แสดงว่าเต๋ากับคชาคือคนเดียวกันรึเปล่า? อะไรที่เป็นของเต๋าเป็นของคชาหมดเลยเนอะ ฮะๆๆ”  เสียงใสเอ่ยติดตลกแก้เก้อ แววตายิ้มได้ถูกส่งไปหาอีกคน

   หากแววตาคู่คมกลับสะท้อนความมุ่งมั่นแน่วแน่กลับคืนมา...
   “ใช่ครับ เต๋ากับคชาเป็นคนคนเดียวกัน”

   ไม่พูดเปล่า... ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆ เคลื่อนเข้าใกล้  ประทับรอยจูบบนหน้าผากมน ไม่รีบร้อน ไม่เชื่องช้า ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามจังหวะเวลาของมัน  ก่อนริมฝีปากนั้นจะฝากความหอมหวานไว้บนกลีบปากได้รูปที่เผยอรับแต่โดยดี โดยมีหัวใจสองดวงที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกันราวกับจะเป็นประจักษ์พยาน
   มือหนาประคองใบหน้าอีกคนไว้ไม่ห่าง มืออีกข้างสัมผัสแก้มใสอย่างทะนุถนอม ปัดไรผมออกบนใบหน้านวลพลางยิ้มมองคนรักของตน
   ไม่รู้เป็นเพราะเส้นประสาทหรือกล้ามเนื้อส่วนไหนที่ทำเอาคชาหุบยิ้มไม่ลง  แก้มขึ้นสีจางๆ เพราะเพียงแววตาหวานเชื่อมที่มองมามันมีคุณค่าเหนือสิ่งอื่นใด

   แววตาคู่นั้น บอกชี้ชัดยิ่งกว่าคำรักไหนๆ
   หน้าต่างของหัวใจบานนี้ สะท้อนเพียงภาพของเขาเท่านั้น

   ริมฝีปากบางค่อยๆ ประกบจูบตอบอีกคนอย่างเชื่องช้า แม้จะดูขัดเขินเงอะงะไปบ้างที่เริ่มก่อนหากแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหมาย  แผ่นหลังค่อยๆ นาบลงบนเตียงนุ่ม โดยมีอีกคนที่ทาบทับลงมา
หัวใจเต้นสะท้าน ถี่รัวเร็วขึ้นเรื่อยๆ  อารมณ์ที่เริ่มพุ่งพล่านตามสภาพร่างกายทำให้คชานึกกลัวสภาพต่อจากนี้

“เต๋า...”  คชาเรียกชื่อเสียงแผ่ว แววตาทั้งไหวหวั่นหากแต่ก็ลังเล ตอนนี้คชาทั้งตื่นเต้นตกใจคิดอะไรไม่ออก เหมือนถูกเสกให้หยุดนิ่งไปไหนไม่ได้  สภาวะอันตรายปรากฏขึ้นอีกหลังจากครานั้น หากแต่คชากลับใจหวิวที่สุดในครั้งนี้
ไม่อยากสารภาพเลยว่า ก่อนหน้านี้ไม่นานเขาเพิ่งไปหาข้อมูลเรื่องแบบนี้มา แล้วก็พบว่ามันน่ากลัวอย่างที่คิดจริง

ตาประสานตา ใจประสานใจ...นัยน์ตาคู่นั้นของเต๋าเด็ดเดี่ยวและมั่นคง หากแต่ในที่สุดมันก็ค่อยอ่อนลงเรื่อยๆ

“กลัวหรอ?”  เป็นครั้งแรกที่เต๋าถามเรื่องนี้ออกมา และคชาก็พยักหน้าตอบซื่อๆ กลับไปเช่นกัน
ลืมไปแล้วว่าเคยตีเนียนเป็นฝ่ายอยู่ข้างบน แต่ถึงตอนนี้ก็คงแก้ตัวไม่ทัน

เต๋ายิ้มบาง มองลูกแกะตัวน้อยที่นอนตัวสั่น ในสถานการณ์นี้ไม่ยากที่จะทำให้คชาคล้อยตาม หากแต่เขากลับนึกอยากให้เป็นไปด้วยความยินดีพร้อมใจ

อีกอย่างนึง...เห็นแบบนี้แล้วเขาไม่อยากทำลายความบริสุทธิ์สดใสแบบนี้เลย

มือหนาค่อยๆ ปัดผมที่ปรกหน้าผากออก มอบจูบบางเบาแต่หวานฉ่ำทิ้งท้าย  น้ำตาลใกล้มด อยากจะอดใจไหว หากแต่คงต้องทำ

“คราวหลังไม่ปล่อยไว้แล้วนะ”  เต๋าว่าก่อนจะละออกมา คำพูดนั้นทำเอาอีกฝ่ายคืนสติกลับมาอีกครั้งก่อน คชากะพริบตามองอีกฝ่ายปริบๆ แล้วจึงค่อยๆ ถอนหายใจโล่งอกเป็นปลิดทิ้ง

ร่างเล็กคลี่ยิ้มบางเบาให้อีกฝ่ายอย่างใจชื้น ค่อยๆ ยันตัวขึ้นมานั่งเหมือนเดิม  ทว่าอีกฝ่ายกลับมีท่าทีเหมือนยังไม่สิ้นสุดเท่านี้

“แต่ของขึ้นแล้ว...ชาจะรับผิดชอบยังไงดี?”

ได้ยินเท่านั้นสีหน้าคนฟังก็หน้าร้อนฉ่า ประกอบกับหลักฐานที่เห็นเต็มตาทำเอาอยากจะมุดหน้าหนี  ภายใต้กางเกงนอนตัวนั้นมีบางอย่างผิดปกติมากเกินไป

มาก...จนคชารู้สึกดีใจ ที่ไม่เกิดบทรัก 18+ ขึ้นมาจริงๆ

ใบหน้าของเต๋าดูกำลังอดกลั้นอย่างบอกไม่ถูก สายตาคู่นั้นมองมาอย่างวาบหวาม ก่อนจะเปล่งเสียงทุ้มมีเสน่ห์ออกมา

“ช่วยหน่อยสิชา... ใช้มือก็ยังดี”

อย่านะเต๋า...

“นะครับ...จะไม่ไหวแล้ว”

อย่าทำ...สีหน้าอ้อนวอนแบบนี้

ไม่ทันคชาได้ตอบอะไร เต๋าก็ลุกขึ้นจากเตียงนอนก่อนจะเดินไปที่ห้องน้ำ  คชาถอนหายใจออกมาอีกครั้งเหมือนจะโล่งอก หากแต่เสียงทุ้มแหบพร่ากลับดังขึ้นอีกครั้ง

“คชา...”  เพียงเท่านั้นเองที่เต๋าเอ่ยเรียก เพียงสายตาลึกซึ้งเปี่ยมด้วยอารมณ์ คชาก็หายใจติดขัดไม่เต็มที่  ร่างเล็กมองอีกคนนิ่ง ก่อนจะค่อยๆ พะเยิบจากเตียงเดินตามไป


ถือว่าตอบแทนความใจดี ที่เต๋าไม่ปล้ำเขาก็แล้วกัน…

   


- - -




ชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัยในช่วงสอบปลายภาคดูจะหนักหนากว่าช่วงมิดเทอมเป็นสองเท่า เพราะมีทั้งงานที่ต้องส่งและการสอบที่รออยู่ แม้บางวิชาอาจารย์จะอนุญาตให้ส่งหลังสอบได้ แต่เด็กต่างจังหวัดส่วนใหญ่รวมถึงเขาก็เลือกทำให้เสร็จก่อนเพื่อจะได้กลับภูมิลำเนาเร็วๆ

วันนี้ก็เช่นกัน คชามานั่งทำงานกลุ่มชิ้นย่อยที่โรงอาหารคณะ แม้เขาจะอยู่กลุ่มเดียวกับสองสาวแอ้นแพรวา หากแต่กลุ่มเจมส์เฟรมโปเต้ก็นั่งอยู่ไม่ห่างกัน  นั่งทำงานจนกระทั่งล้าจึงปล่อยให้ทุกคนได้พักสิบห้านาที

“แดงมะนาวแก้วใหญ่ครับ”  คชาถือโอกาสนี้ในการเดินไปซื้อน้ำ จ่ายเงินรับแก้วมาเสร็จ  กำลังจะเดินกลับไปหาเพื่อนกลุ่มเดิมที่โต๊ะก็เจอะกับใครบางคนเสียก่อน

สาวสวยอันดับต้นๆ ที่มีรุ่นพี่ในและนอกคณะตามจีบไม่ขาดสาย...เธอยังคงสวยน่ารักเหมือนทุกๆ วัน

“สวัสดีแฟง”  หลังจากชั่งใจว่าจะทักหรือไม่ทักดี เสียงใสก็เอ่ยขึ้น  พอเห็นหน้าตาไม่ยินดียินร้ายเท่าไรนักของเธอจึงตัดสินใจเดินเลยไปเสียดีกว่า

“เดี๋ยว...”  ทว่าพอเดินพ้นเธอไป มือบอบบางคู่นั้นก็รั้งแขนเขาไว้เสียก่อน น้ำแดงมะนาวในมือหกรดเสื้อของเขาเข้าอย่างจัง  คชาก้มลงมองเสื้อที่เปื้อนจนเห็นสีแดงชัดเจนก่อนจะเงยหน้ามองอีกคน

แค่หวังว่าเธอจะไม่ได้เจตนา…

ใบหน้าของแฟงยังสวยหวานเหมือนทุกครั้งที่ได้มอง หากความขุ่นเคืองในแววตาคู่นั้นกลับกลบความงดงามให้หายไปสิ้น  แม้ครู่ต่อมา ตาคู่นั้นจะดูหม่นหมองลงเพราะคนที่เดินมาจากด้านหลังก็ตาม

เต๋าวางมือบนไหล่คชาอย่างถือสิทธิ์ ดึงแก้วน้ำไปถือไว้เอง ไม่พูดพร่ำทำเพลงแต่จูงแขนอีกเดินออกไปยังห้องน้ำ

“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น?”  คชาถามอีกคนที่ทำหน้าดุๆ ซ้ำยังนิ่งเงียบอยู่นานสองนาน

“ไม่ชอบ...”  เต๋าว่า  “แค่รู้สึกเหมือนปกป้องคชาไว้ไม่ได้ จะสาดน้ำคืนไปก็เหมือนรังแกผู้หญิง”

“เขาอาจจะไม่ได้จงใจ”  คชาตอบอย่างใจเย็น มองโลกในแง่ดีไว้ก่อนเพราะยังไงซะก็สบายใจกว่าคิดแค้นใจให้เสียเวลา

“ช่างเถอะ... แล้วชาอยากให้เราทำยังไง?”  เต๋าถามในขณะที่อีกคนกำลังพยายามเปิดน้ำมาใส่เสื้อตน  ขายาวๆ เดินไปดึงทิชชู่ในห้องน้ำมาซับเสื้อเปียกชื้นของอีกคนให้

“หมายความว่าไง?”

“ให้เราบอกแฟงไปเลยไหม ว่าเราไม่ได้ชอบเธอ”

ไม่ต้องยืนคิดให้นานคชาก็ได้คำตอบ  “ไม่ต้องหรอก”  เพราะคชารู้ดี...เรื่องแบบนี้คนอย่างแฟงฉลาดพอที่จะดูออก ส่วนเรื่องที่เขาคบกับเต๋า คงมีคนบอกให้เธอได้รู้แล้ว

ใบหน้าหวานมองอีกคนที่ช่วยซับน้ำออกจากเสื้อชุ่มๆ ให้อย่างตั้งใจ... ก็เพราะเป็นแบบนี้ เพราะว่าเต๋าใส่ใจเขามากจนกระทั่งคนอื่นไร้ความหมาย

เมื่อครั้งรู้ตัวว่าชอบ...หัวใจเราเต้นตึกตัก
เมื่อครั้งได้ยินคำรัก...หัวใจเราสั่นไหว

หากแต่หนนี้…มันคือความอุ่นใจ

“เต๋าไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น แค่อยู่แบบนี้ก็พอ”

และเพียงรอยยิ้มบางเบาถูกส่งกลับมา...เท่านั้นก็แทนค่าทุกคำตอบที่ต้องการ




- - -




   เมื่อช่วงเวลาฝนพรำได้ผ่านพ้นไป... ท้องฟ้าก็กลับกลายเป็นสว่าง

   ในร้านอาหารอีสานบ้านๆ ร้านเดิมเต็มเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศคึกคักสนุกสนาน  ทุกคนมารวมตัวกันที่นี่อีกครั้งหลังสอบวิชาสุดท้ายเสร็จ  ในวันนี้คชามากินข้าวทิ้งทวนกับเพื่อนๆ ก่อนจะไม่ได้เจอกันในปิดเทอมเล็ก  อาหารอีสานรสจัดจ้านพร้อมเสิร์ฟ คลอเคล้าด้วยเสียงเพลงจากคาราโอเกะในร้านที่สร้างสีสันได้เป็นอย่างดี

เสียงหัวเราะเฮฮาดังขึ้นเป็นระยะ ไม่ว่าจะทำข้อสอบได้หรือไม่แต่ทุกอย่างก็จบลงแล้ว  ไม่แปลกเลยที่วันนี้จะไม่มีใครปริปากถึงข้อสอบสักคำ

เพลงจากคาราโอเกะเครื่องเดิมที่ถูกเปลี่ยนหน้ากันมาร้อง โดยบัดนี้เจมส์เลือกเพลงเก่าของดีทูบี  เก๊กเสียงหล่อซะจนทุกคนต้องหยุดสนทนาแล้วหันหน้าไปมอง

“หากไม่มีเธอวันนั้น ฉันก็คงไม่มีวันนี้...”  หนุ่มร่างหมีสายตาทอดมองมาประหนึ่งเป็นนักร้องตัวจริง  “สิ่งที่ฉันเป็น สิ่งที่ฉันมีตรงนี้... ฉันรู้ดีว่าฉันได้จากใคร”
“ทั้งหัวใจคนคนนี้ แม้มันพอจะมีความหมาย…” คราวนี้ไมค์อีกตัวเริ่มทำงานแล้ว โดยการส่งให้เพื่อนๆ คนอื่นได้ร้องต่อ
“บอกด้วยคำจริงจัง บอกด้วยความจริงใจ ว่านับจากนาทีนี้ตลอดไป”
“ฉันจะรักเธอ”

ไม่รู้บรรยากาศชวนซึ้งเล็กๆ นี้มาได้ยังไง อาจจะเพราะเนื้อเพลงก็ได้ และแม้เพลงถัดมาจะต่อด้วยเพลงสุดฮิตอย่างกินตับ แต่ทุกคนก็เต็มเปี่ยมไปด้วยประกายสดใสในแววตา

“ไปเที่ยวกันไหม...จะไปก็รีบไป...”
“เดี๋ยวพี่พาไปกินตับ...ตับตับตับตับ...ตับตับตับตับ” 

คชาหัวเราะให้กับเฟรมที่เอาตับมากินจริงๆ พร้อมทั้งลิปซิงค์ขณะโปเต้ถือไมค์ร้อง ส่วนเจมส์ก็ลุกขึ้นมาเต้นบ้าๆ อย่างไม่อายฟ้าอายดิน

เทอมแรกในชีวิตมหาวิทยาลัย เทอมแรกที่มาอาศัยในเมืองกรุง...จุดเริ่มต้นที่ยากลำบากหากเมื่อมาถึงจุดสิ้นสุดพวกเราต่างก็ยิ้มได้

   ถ้าไม่มีเพื่อนๆ เหล่านี้...ก็ไม่รู้ว่าชีวิตของเขาจะมาถึงจุดนี้ได้ยังไง

เฟรม...เพื่อนคนแรกในกรุง แม้จะสร้างเรื่องยุ่งๆ แต่ก็อยู่ด้วยกันเสมอ
แพรวา...อดีตเพื่อนข้างห้องที่คอยให้คำปรึกษาหลายๆ อย่าง
โปเต้...หัวหน้ากลุ่มรายงาน ผู้เคยให้ที่พักอาศัยเขาชั่วคราว
แอ้น...นางฟ้าที่ทำให้เขารู้จักเปิดใจยอมรับตัวเอง
เจมส์...ไอ้ตัวฮา ผู้นำพาเสียงหัวเราะสู่ทุกคน

มิตรภาพที่ถูกก่อขึ้นภายใต้คำว่า ‘เพื่อน’ มั่นคงและจริงใจเสมอมา 




- - -




ภายในห้องพักเบอร์ 603  กระเป๋าเสื้อผ้าขนาดกลางๆ ถูกลากออกจากมุมห้อง ตู้เสื้อผ้าเปิดอ้าออกให้ได้หยิบของออกมาโดยสะดวก คชานั่งจัดกระเป๋า เช็คดูแล้วไม่มีอะไรต้องเอากลับมาก นอกจากของใช้บางอย่างเท่านั้น

เพราะที่โคราชบ้านเกิดมีรถทัวร์ไป-กลับเยอะจนไม่ต้องจองล่วงหน้า คชาจึงประวิงเวลานอนเอื่อยเฉื่อยอยู่ในเมืองกรุงมาสองวันติด หากแต่สุดท้ายก็คงต้องถึงเวลา…

   หนุ่มร่างเล็กตัดสินใจเดินออกจากห้องพักเมื่อใกล้ถึงเวลานัดหมาย ล็อกประตูเช็คทุกอย่างเรียบร้อย แม้จะเดินทางพรุ่งนี้ แต่นี่คือนาทีสุดท้ายก่อนจะบอกลาหอพักของตน

   ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางร้านเดิมคือที่ที่เขานัดอีกคนไว้ มันคือร้านแรกในกรุงเทพที่เขาเคยฝากท้อง ไม่รู้ทำไม วันนี้แค่อยากจะทานกับเต๋าขึ้นมา

   “เอาไรดีน้อง?”  คนขายว่าเมื่อคชาหย่อนก้นลงบนเก้าอี้พลาสติก

   ไม่ทันอ้าปากพูดอะไร  หนุ่มลูกชายเจ้าของหอก็เดินมาถึงพอดี เต๋ายังอยู่ในเสื้อเชิ้ตนักศึกษาสีขาวสะอาดตา สะพายกระเป๋าหนังใบเดิม

“เส้นเล็กหนึ่ง บะหมี่หนึ่งครับ”  เสียงทุ้มสั่งเมนูเดิมให้เสร็จสรรพ นั่งลงตรงข้ามอีกคนที่รออยู่

รสชาติของก๋วยเตี๋ยวเจ้าเดิมยังคงเหมือนทุกคราว หากแต่หนนี้คชากลับรู้สึกเหมือนอร่อยกว่าทุกๆ ครั้ง  คงเพราะบางทีนี่อาจจะใกล้เคียงกับคำว่ามื้อทิ้งทวนอำลา

เสียงกรุ๊งกริ๊งจากกระดิ่งสุนัขไม่ใกล้ไม่ไกลร้องเรียกความสนใจได้ชั่วขณะ  เจ้าหมาสีขาวตุ่นตัวผอมยังน่าเอ็นดูไม่ต่างจากวันแรกที่เจอ มันกระดิกหางเดินเข้ามาหาเขาพลางนั่งรอของกินเหมือนเคย

“ตะวัน!”  คชาเรียกชื่อมันด้วยความคิดถึง  ไม่ได้เจอกันนานมันตัวโตขึ้นกว่าคราวก่อนมาก แต่ที่น่าแปลกใจและยินดีก็คือตอนนี้มันมีปลอกคอ  คุณป้าหน้าปากซอยคงจะรับมันไปเลี้ยงแต่ปล่อยให้เดินออกมาได้ตามใจ

คชายกมือลูบขนของมันก่อนจะแบ่งลูกชิ้นในชามให้ ยิ้มสดใสพลางทอดสายตามองลงไปอย่างอ่อนโยน ในขณะที่อีกคนซึ่งนั่งดูอีกค่อยๆ คลี่ยิ้มตาม


ดูเหมือนว่า รอยยิ้มจะเป็นโรคติดต่อ...





ค่ำคืนสุดท้ายในบ้านเพียงพอ พอเหมาะพอเจอกับฟุตบอลนัดสำคัญพอดี  แม้ไม่ใช่ทีมโปรดคชาแต่ก็น่าติดตามไม่น้อยเพราะเป็นศึกระหว่างลิเวอร์พูลเจ้าบ้านที่เปิดสนามรับแมนยูทีมโปรดเต๋า  คืนแดงเดือดนี้ทั้งคู่จึงใช้เวลาอยู่บนโซฟาหน้าโทรทัศน์ด้านล่างกัน  โดยที่คนอื่นๆ ในบ้านแยกย้ายขึ้นไปพักผ่อนที่ห้องของตน

เสียงเชียร์จากทั้งสองดังขึ้นไม่ขาด  การแข่งขันดำเนินมาจนเวลาดึก เกมค่อนข้างลุ้นระทึกในช่วงใกล้หมดเวลาที่สกอร์ยังเท่ากัน
จนกระทั่งการสมาชิกจากลิเวอร์พูลทำฟาล์ว เป็นผลให้แมนยูได้จุดโทษ  ตอนนั้นจึงเป็นจุดที่ทำเอาทั้งคู่หายใจไม่ทั่วท้อง คชาเผลอคล้องแขนคนข้างๆ พลางทำตาโตลุ้นการแข่งขันไปพร้อมๆ กัน

และเพียงไม่กี่วินาทีที่ปลายสตั๊ดสัมผัสลูกกลมๆ นั้น ก็บังเกิดผลเป็นประตูขึ้นนำให้กับปีศาจแดง และกลายเป็นประตูชัยให้นัดนี้ทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชนะไปด้วยสกอร์ 2 ประตูต่อ 1

“เห็นไหม บอกแล้วว่าแมนยู”  เต๋าหันมาทำหน้าผู้ชนะบอกอีกคน ในขณะที่คชาทำหน้าเชิ่ดเหมือนไม่สนใจอะไร

“แล้วไง เชลซีดีกว่าตั้งเยอะ รอเดือนหน้าเถอะ แมนยูเสร็จเชลซีแน่”  ว่าแล้วก็ทำหน้าโหดๆ ที่ไม่ได้ดูน่ากลัวแม้สักนิดเดียว เห็นดังนั้น เต๋าก็คลี่ยิ้มบางเบา 

“โอเค แล้วจะรอ”  น้ำเสียงดูไม่ใช่คำท้าหากแต่คือการหมายตามคำพูดนั้น  สายตาคู่คมทอดมองใบหน้าอีกฝ่ายราวกับจะสื่อความนัยบางอย่างออกไป  มือกุมมืออีกคนไว้ แผ่ความอบอุ่นถึงกันและกัน

“แล้วจะรอนะคชา”





หน้าระเบียงชั้นสี่ที่เก่า บรรยากาศยามเที่ยงคืนเงียบสงัด ทว่าไม่ได้เงียบเหงา  เพียงสัมผัสจากท่อนแขนส่งผ่านเสื้อนอนบางเบา ลมหนาวที่พัดโชยก็พลันกลายเป็นเพียงสายลมแผ่วไหว

เต๋ายืนกอดเขาไว้จากด้านหลัง อ้อมแขนแกร่งกุมกระชับที่หน้าท้อง

“วันนี้ไม่เห็นมีดาวเลย”  คชาว่าพลางมองจรดฟ้ามืดด้านบน วันนี้อีกคนบอกจะพามาดูดาวหลังดูบอลจบเหมือนคราวก่อนนั้น หากแต่กลับไม่มีให้เห็นสักดวง

“ทำไมจะไม่มี”  เสียงอีกคนที่เอ่ยค้านทำให้คชาตั้งใจเพ่งเป็นพิเศษ  หันซ้ายทีขวาทีหากแต่ก็ยังมองไม่เห็นดาว

“ขี้โม้ ดาวอยู่ไหน?”  เสียงใสเอ่ยท้วง มือก็แกะแขนที่โอบไว้ออกมาจับไว้แทน  “ไหน ชี้ให้ดูหน่อย”  พูดพลางหันไปมองหน้าอีกคนอย่างท้าทาย

เต๋าส่งยิ้มเรียบง่ายตามสไตล์เป็นคำตอบ ก่อนจะยกมือข้างที่ถูกจับไว้ชี้ไปบนท้องถนนที่เต็มไปด้วยแสงไฟจากจราจร  “นั่นไงดาว...ดาวเดินดิน”

ได้ยินดังนั้น พลันอีกคนก็หัวเราะออกมาเบาๆ  “ตลกแล้วเต๋า”  คชามองลงไปตามนั้น  แม้ตอนนี้จะเป็นเวลาค่ำ หากแต่ผู้คนบางส่วนยังคงใช้ชีวิตกันยามราตรี  ตาคู่กลมตวัดไปมองคนข้างๆ ด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะถูกดึงตัวเข้าไปกอดเอาไว้แน่น

“แล้วนี่ก็ดาวอีกดวง”  เต๋าว่าแล้วก็จูบที่กระหม่อมอีกคนหนึ่งที ก่อนจะกระซิบบอกอีกคนแผ่วเบา

“กลับโคราชเดินทางดีๆ นะชาค่ะ ดูแลตัวเองด้วย”  เสียงนั้นแสดงความห่วงใยไม่ต่างจากทุกครั้ง เหมือนต้นกล้าที่ถูกรดน้ำจนชุ่มฉ่ำจนกระทั่งผลิใบ

“เข้าใจแล้วเต๋าครับ...อยู่กรุงเทพก็ตั้งใจเรียนล่ะรู้ไหม” 

“โอเค...ทราบแล้วไม่เปลี่ยน”

“หืม...?”

“ทราบแล้วไม่เปลี่ยนใจจากคชาไง”

“งั้นต้องเปลี่ยนเป็น ‘ทราบแล้วห้ามเปลี่ยนใจ’ ต่างหาก”

“ครับผม...ด้วยความยินดี”


.
.
.

ภายใต้ท้องฟ้ามืดมิด ชีวิตผู้คนนับร้อยพัน ดาวบนดินนั้นยังส่องสว่าง

หลายคนคิดไขว่คว้าดาวบนฟ้า ใฝ่หาหนทางไป หากหลงลืมแสงไฟนำทาง


บางครั้ง... คนเราก็ไม่จำเป็นจะต้องขวนขวายดวงดาวบนฟ้า โหยหาอุดมคติเสมอไป


ไม่มีความรักใดสมบูรณ์โดยตัวของมัน... เราต่างหากที่ต้องเติมเต็มช่องว่างนั้นให้พอดี




แด่แสงไฟทุกดวงบนโลกนี้... ที่รอคอยการเป็นแสงดาว...

   







E N D



จบแล้วค่า สำหรับการลงฟิคเรื่องแรกในเล้า อิอิ
หวังว่าฟิคเรื่องนี้จะทำให้ทุกคนมีความสุขกันบ้างไม่มากก็น้อย
ขอบคุณคนอ่านทุกคน ติชมได้ตามสบายนะค้า จะได้เป็นแนวทางในการแต่งเรื่องต่อไป ^^
ขออภันที่ลงไม่ค่อยต่อเนื่อง ทำให้อารมณ์ติดขัดไปบ้าง 555

 :pig4:  :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน หน้า13 (up 18Oct.)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 18-10-2012 05:29:18
อ๊าย จบแล้ว แล้วจะมีภาค 2 หรือภาคต่อไหมค่ะ

อยากอ่านจัง

สนุกมากๆ เลย
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน หน้า13 (up 18Oct.)
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 18-10-2012 07:29:15
จบซะแล้ว  อยากอ่านต่อจัง
 
 o13 o13 o13


 :bye2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน หน้า13 (up 18Oct.)
เริ่มหัวข้อโดย: ArMee ที่ 18-10-2012 10:57:24
จบซะแล้ววว
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน หน้า13 (up 18Oct.)
เริ่มหัวข้อโดย: biwtiz ที่ 18-10-2012 11:01:43
 :really2: :really2:อ๊ายย จบแล้ว

ยังไงก็ยินดีกับนักเขียนด้วย
นะ
 o13 o13 o13

 :bye2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน หน้า13 (up 18Oct.)
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 18-10-2012 11:28:58
 :bye2: :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน หน้า13 (up 18Oct.)
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 18-10-2012 13:05:04
ขอบคุณนะครับ :bye2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน หน้า13 (up 18Oct.)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 18-10-2012 13:08:13
จบแล้ว ไม่อยากให้จบเลย

ยังก็ขอบคุณ สำหรับนิยายดีที่แต่งมานะคับ

และจะติดตามผลงานต่อไปนะครับ

หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน หน้า13 (up 18Oct.)
เริ่มหัวข้อโดย: ice_spok ที่ 18-10-2012 15:27:10
จบน่ารักมากๆๆๆ

มีภาค2 ไหมมม อิอิ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน หน้า13 (up 18Oct.)
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 18-10-2012 17:01:17



     จบซะแล้ว จบน่ารักดีนะ
     ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ




     
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน หน้า13 (up 18Oct.)
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 18-10-2012 17:08:14
^^
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน หน้า13 (up 18Oct.)
เริ่มหัวข้อโดย: mutyamania ที่ 18-10-2012 17:10:11
จบสวยดีค่ะ  หวานซะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน หน้า13 (up 18Oct.)
เริ่มหัวข้อโดย: wasawath ที่ 18-10-2012 19:11:15
หวานซะ ><
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน หน้า13 (up 18Oct.)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 18-10-2012 19:24:00
จบซะแล้ว น่ารักตลอดเลย ^_^**  ฃอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน หน้า13 (up 18Oct.)
เริ่มหัวข้อโดย: JingJing ที่ 18-10-2012 20:42:41
ขอบคุณคนแต่งจ้า  :pig4:


 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน หน้า13 (up 18Oct.)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 18-10-2012 21:39:28
จบซะแล้ว น่ารักอ่ะ แต่จะมีภาคต่อไหมอ่ะ อยากอ่านต่ออ่ะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน หน้า13 (up 18Oct.)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 18-10-2012 22:26:37
ชาค่ะจบซะแล้ว
จบได้น่ารักกุ๊กกิ๊กมากค่ะ
ขอบคุณสำหรับเรื่องนี้นะคะ
 o13
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน หน้า13 (up 18Oct.)
เริ่มหัวข้อโดย: LEksUp ที่ 18-10-2012 23:01:07
ใสใส

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน หน้า13 (up 18Oct.)
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 23-10-2012 04:06:11
แอบมาดัน ฮึบๆๆๆ

แวะมาบอกว่า ฟิคเรื่องนี้มีรวมเล่มด้วยนะจ๊ะ
หน้าปกสวยๆ โดยน้องส้มจีน

(http://imageshack.us/a/img607/9592/cccgs.jpg)

จำนวน 350หน้าup
เพิ่มตอนพิเศษ 2-3 ตอน
ราคา 300 บาท ค่าส่ง 50 บาทจ้า ^^

ส่วนรายละเอียดการสั่งซื้อ ติดตามได้ในนี้เลยจ้า
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=777894&chapter=32

ขอบคุณทุกๆ คนมากๆ นะค้า >w<

ป.ล. แอบเห็นคนโหวตให้ในเซ็งเป็ดรอบแรกด้วย เหลือเชื่อมาก 555 แม้จะเล็กน้อยแต่ไม่เคยคิดมาก่อน ขอบคุณมากๆนะคะ
ป.ล.2 มีใครที่อ่านฟิคนี้จนจบแต่ไม่รู้จักเต๋าคชาตัวจริงไหมอะ อยากรู้จริงๆ หรือมีใครที่เพิ่งมารู้จักเต๋าคชาเพราะฟิคนี้บ้าง???
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 23-10-2012 06:36:57
เอาแน่ๆ หนึ่งเล่มจ้า
ปกฝีมือน้องส้มจีนหวานใสน่ารักมาก

รอเรื่องใหม่น้า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: took-ta_naka ที่ 23-10-2012 07:35:59
 o13 o13   สุดยอดมากมาย  ขอด้วยเล่มนึงจ้า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 24-10-2012 15:05:53
หวานซ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
ขอบคุณค่ะนักเขียน :pig4:
รู้จักเต๋าคชาเพราะฟิคเรื่องเน้ :o8:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 24-10-2012 16:47:16
แฮปปี้เอนดิ้ง

หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Mickii ที่ 08-11-2012 13:14:30
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ชอบมากๆๆ เลยคะ

หลงรักคชาไปโดยไม่รู้ตัว...... น่ารัก น่าแกล้งดีเนอะ

ไม่งั้นเพื่อนๆ รวมทั้งเต๋า จะไม่ชอบได้ยังงัย จบแบบแฮปปี้ดีเราก้อมีความสุข

แต่กว่าทั้งคู่จะยอมรับกันเลย ก้อเล่นซะเราเครียดตามเลย ไม่รู้ว่าจะทันสั่งจองหนังสือมั๊ยเนี้ย
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 08-11-2012 19:32:18
หวานๆ น่ารัก  :-[
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: princessrain ที่ 08-11-2012 22:32:37
เป็นฟิคเต๋าคชา ที่สนุกที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมาเลยย

แม้ช่วงกลางเรื่องจะบิ้วซะเข้ากับเพลง "แค่ของเลียนแบบ" ของคชามากไปนิสส

เล่นเอาซะน้ำตาร่วงกราว แต่ตอนท้ายก้เล่นเอาซะยิ้มไม่หุบเหมือนกัน อิอิ

ขอบคุณที่แต่งให้อ่านกันนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: nok03 ที่ 08-11-2012 23:40:29
อร๊ายยยยยยยยยย สวนด เหมือนกันคร้าบบบบบ  :impress2:
เรื่องนี้ยังไม่เคยอ่าน แต่แค่รู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับ เต๋าคชา ก้อฟินเว่อร์แล้วววววววววววว
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 09-11-2012 00:42:46
อ่านรวดเดียวจบเลย หวานกันจัง อิจฉาน้า
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: funland ที่ 09-11-2012 19:04:21
อ่านจบแล้ว ขอบคุณค่ะ น่ารักได้อีกแหะ อิอิ  :o8:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: timtam ที่ 09-11-2012 23:20:42
โอ๊ยเรื่องนี้น่ารักมากๆเลยค่ะ หลงรักคชาแบบสุดๆ เต๋าเองก็น่ารัก หวานกันจนทำคนอ่านน้ำตาลในเลือดสูงตาม น่ารักที่สุดเลยค่ะ ขอบคุณคนแต่งน่ะค่ะ ชอบการใช้ภาษาเรียบง่าย อ่านได้สบายๆ อ่านแล้วมีความสุขเล็กๆ  น่ารักมากค่ะ ขอบคุณน่ะค่ะ  o13 :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: bowlyngz ที่ 12-11-2012 00:15:59
ชูสองมือ  เราไม่รู้จักเต๋าคชาตัวจริงๆจ้า แต่อ่านฟิคเรื่องนี้จนจบ ^^ ก็พอรู้มาบ้างว่าคู่นี้เค้าซัมติงๆ แต่ไม่เคยฟังเพลงเค้าจริงๆ ตอนแรกอ่านแล้วก็ตงิดๆ นายเอกชื่อคชา เอ๊ะๆๆๆ แต่พอพระเอกชื่อเต๋าเท่านั้นแหละ อ๋อเต๋าคชาของสาวๆ(วาย)นี่เอง สนุกนะ เต๋าขี้หึงได้อีก ชอบตอนแรกๆ ฮาดี ๕๕๕ ถ้าแต่งเป็นเรื่องยาวก็หนุกหนาน  รอเรื่องต่อไปน้าา
ป.ล.หน้าปกหนังสือสวยมาก ชอบบ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 12-11-2012 17:57:53
น่ารักค่ะ รอเรื่องต่อไปนะ^^
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 13-11-2012 00:57:30
สุดยอดมากมาย   o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: aomtm ที่ 13-11-2012 22:28:12
แรกๆสนุกดีค่ะ ชอบตอนที่คชาแอบไปอยู่ในหอหญิงอ่ะ

อ่านแล้วฟิน รอบเดียวจบ ชอบมากกกก  o13
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 14-11-2012 11:14:41
เรื่องนี้อ่านจบแล้วสนุกมากมาย   เต๋าคชาน่ารัก >///<
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสนุก ๆ นะฮ๊าฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 14-11-2012 20:16:58
เต๋าชาน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
นี่บอกใครว่าชาเป็นทอม เค้าก็คงเชื่ออ่ะแหละ หลักฐานเห็นๆ :impress2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: HaLF333 ที่ 16-11-2012 00:50:06
น่ารักมากๆ เลยอ่ะเรื่องนี้ ใสๆ อ่านแล้วชื่นใจจัง...
ขอบคุณนะคะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: pedgampong ที่ 16-11-2012 02:47:05
Just done the whole story without a break!! Lovely story mak mak
Thx u  na ka
Anyway who is Tao?? Until now I still hv no clue abt him hahaha
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Love_ewan ที่ 16-11-2012 13:21:31
สนุกและประทับใจ่อะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 17-11-2012 12:00:21
สนุกดีค่ะ อ่านเพลินเลย
คชาน่ารักแบบเด็กๆ เต๋าก็เข้มเท่เชียว

บวกๆ^^
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: nano ที่ 18-11-2012 16:51:54
น่ารักใสๆ สบายอารมณ์
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: maple4120 ที่ 19-11-2012 23:10:25
สนุกมากเลยค่า อ่านแล้วชักจะเริ่มชอบคู่เต๋าคชาขึ้นมาแล้วสิ อิอิ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: thyme812 ที่ 20-11-2012 00:21:24
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: annly ที่ 20-11-2012 11:52:40
รักใสๆมากๆจบแล้วแต่ก็น่ารักมากๆ
แอบเสียดายจบแล้ว ขอบคุณนะค่ะสำหรับเรื่องที่มาลงให้อ่าน
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: golf7777 ที่ 21-11-2012 22:02:26
จบแบบลุ้น แต่ไม่เสียว จะมีตอนพิเศษไหมคับ แล้วจะมีภาค 2 ไหม  :impress2: :serius2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 29-11-2012 22:43:40
ทำภาค 2 ไหม?

อยากอ่านน่ะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: dekthuem ที่ 30-11-2012 22:32:07
น่ารักมากอ่ะ ขอบคุนคนเขียนน่ะคับ^^
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: nuchyyy ที่ 22-03-2013 21:45:26
ขอบคุณสำหรับฟิคเต๋าคชาน่ารักๆนะค่ะ :pig4:
นี่เป็นฟิคเต๋าคชาเรื่องแรกที่อ่านเลยค่ะ ทำให้ต้องไปตามหาอ่านฟิคเรื่องอื่นๆอีก อิอิ
ชอบมากกกก น่ารักสุดๆๆๆ :-[
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 25-03-2013 10:46:24
น่ารักๆ
ขอบคุณสำหรับเรื่องของเต๋าคชา อิอิ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: away3g ที่ 28-04-2013 23:30:03
 o13ยอดเยี่ยมมากคับ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 02-05-2013 02:50:54
อ่านจบแล้วววว

หลงในความน่ารักของคชา :o8:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: icexfrost ที่ 02-05-2013 22:54:17
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน

จบแล้ว น่ารักมากเลย ทั้งเต๋ากับคชา

ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 03-05-2013 19:11:56
อ่านถึงหน้า5แล้ว น่ารักดี
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 04-05-2013 11:45:26
สนุกค่า น่ารักดีเต๋าคชา น่ารักทั้งคู่เลย

อ่านไปดูคลิปเต๋าคชาบิ้วไปอินสุดๆ ><
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 04-05-2013 15:00:55
อ่านรวดเดียวจบ  น่ารักมากเลย  อิอิ

สวนด  >///<
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 06-05-2013 14:58:05
เรื่องราวน่ารัก ดำเนินไปได้ด้วยดี ถึงแม้จะเพียงจุดเริ่มต้นของความรัก แต่มันก็เกิด
จากความเชื่อใจและไว้ใจซึ่งกันและกัน เอาใจช่วยทั้งสองคนนี้ ขอให้รักนี้นิจนิรันดร์
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: na-au ที่ 08-05-2013 21:08:05
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

 :3123: :3123: :3123:

 :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: - lloJ!จิ้a - ที่ 21-02-2014 05:33:56
รักชาค่ะกับเสี่ยวเต๋า

ฉันล่ะชอบชื่อขนมที่แกส่งให้แพรวามากเลย 55555
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 27-02-2014 15:08:05
ชอบมาก  :hao5:


เต๋าคชาที่รัก คิดถึงสุดๆ แอทเลิฟ  :hao5:   :monkeysad:   :impress3:  :sad11:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: benji ที่ 02-03-2014 13:50:33
@love  เขิลจ้าเขิล

ต้องขอสารภาพว่า ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามาอ่านเลยนะเรื่องนี้ แต่พอลองอ่านดูแล้ว  อุ๊ต๊ะ! สนุกมากกกกกก

มีทุกอารมณ์ รัก เหงา เศร้า ฮา รั่ว หน่วงๆ   :heaven o13
 :pig4:
ปอ.ลิง  อยากอ่าน ฉากนั้น อ้ะ  :oo1:
 :z1:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: nok03 ที่ 04-03-2014 16:48:10
สอบถามหน่อยคร้าบ
นิยาย @ Love เต๋าคชาทั้ง 2 เรื่อง
ยังจองได้หรือป่าว พอดีอยากได้แต่พึ่งได้อ่าน
ไม่ทราบว่าทันไหม  :mew2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Umiko ที่ 04-03-2014 23:27:49
สุดยอดเลย

เรื่องนี้สนุกมาก...

หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 06-03-2014 19:04:47
เจอเรื่องนี้เมื่อคืน อ่านจบเมื่อกี้นี้
ชอบมากมากกก
น่ารักอะ คชา-ชาค่ะ ^^ เต๋า

ขอบคุณคนเขียนที่มีผลงานนิยายที่น่ารักออกมาให้อ่าน ^^
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 07-03-2014 12:27:45
น่ารักมากที่สุด
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 08-03-2014 03:44:48
น่ารักมากเลย อ่านรวดเดียวจนจบเลย
ขอบคุณคนแต่งมากเลยค่ะ สำหรับนิยายน่ารักๆ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 17-03-2014 01:12:33
มีข่าวมาแจ้งสำหรับแฟนนิยายนะค้า โบคนแต่งเองค่า

จะบอกว่า ตอนนี้ ฟิคเรื่องนี้ TOM or BOY ได้ทำการ reprint แบบเงียบๆ ไปเรียบร้อยแล้วนะคะ
ขณะนี้มีใน stock ประมาณ 10 เล่มค่า จะนำไปขายที่งานตลาดฟิค วันที่ 22 มีนาคมนี้ บูธ H2-3 ค่า (บูธเดียวกับปรารถนารักเป็นดั่งใจของ Ozaka)

ราคาเล่มละ 320 บาท (แถมที่คั่นและโปสการ์ด)

(https://imagizer.imageshack.us/v2/541x395q90/268/eg59.jpg)
หน้าตาเป็นแบบนี้นะค้า ถ่ายมาจากของจริงเลย มาซื้อหาจับจองกันน้า

ส่วนอีกเรื่องของโบ (MySassyBoy) เหลือแค่ 1-2 เล่มค่า คงติดไปในงานเช่นกันน้า(ถ้ายังขายไม่ออกซะก่อน)
ยังไงก็ขอบคุณทุกคนมากๆ นะค้า ไม่ได้เข้ามาอ่านคอมเม้นท์ในกระทู้นี้ซะนานเลย

ป.ล. ใครต้องการติดต่อสอบถามคนแต่งเรื่องรวมเล่ม ฟิค บลาๆๆ สามารถติดต่อในเพจ fabebook.com/rainbobow ได้เลยค่า
เพจเราเหงาๆ หน่อยแต่ตอบไวจ้า อิอิ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 29 ตอนอวสาน P.13 // update การรวมเล่มจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 17-03-2014 01:23:03
สอบถามหน่อยคร้าบ
นิยาย @ Love เต๋าคชาทั้ง 2 เรื่อง
ยังจองได้หรือป่าว พอดีอยากได้แต่พึ่งได้อ่าน
ไม่ทราบว่าทันไหม  :mew2:

ไม่รู้ว่าตอบช้าไปไหมนะค้า สามารถซื้อได้ที่งานตลาดฟิควันที่ 22 มีนาคมนี้ หรือติดต่อโดยตรงมาหานักเขียนที่เพจ facebook.com/rainbobow เลยค่า

ขออภัยที่ตอบล่าช้านะคะ >.<
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: P.15 ซื้อรวมเล่มได้ที่งานตลาดฟิค 22มีนา บูธ H2-3
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 29-01-2016 13:22:26
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: P.15 ซื้อรวมเล่มได้ที่งานตลาดฟิค 22มีนา บูธ H2-3
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 13-02-2016 17:41:10
 :mew1: อ่านจบแล้วววววว

น่ารักดีค่ะ ถึงทั้งเต๋าและคชาจะขี้งอนกันไปหน่อย
แต่อ่านตอนง้อกัน แล้วเขินเลย~

ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้อ่านนะคะ

 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: P.15 ซื้อรวมเล่มได้ที่งานตลาดฟิค 22มีนา บูธ H2-3
เริ่มหัวข้อโดย: sawapalm ที่ 14-02-2016 14:31:42
หวานเกิ้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน อิจอย่างแรงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :ling1:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: P.15 ซื้อรวมเล่มได้ที่งานตลาดฟิค 22มีนา บูธ H2-3
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 10-03-2016 14:41:26
ขนมาทั้งเอเอฟเชียว

 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: P.15 ซื้อรวมเล่มได้ที่งานตลาดฟิค 22มีนา บูธ H2-3
เริ่มหัวข้อโดย: José_Gil ที่ 20-03-2016 01:49:09
อ่านจบแล้ว
ทั้งหวาน แถมชอบมากๆ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: P.15 ซื้อรวมเล่มได้ที่งานตลาดฟิค 22มีนา บูธ H2-3
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 03-12-2017 18:43:48
 :L2: สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: P.15 ซื้อรวมเล่มได้ที่งานตลาดฟิค 22มีนา บูธ H2-3
เริ่มหัวข้อโดย: MinorMa ที่ 12-06-2018 14:38:10
สนุกมากๆเลยค่าาา เพิ่งมารู้ที่หลังว่าเป็นฟิค นึกว่าชื่อตัวละครเฉยๆ555555 เรื่องนี้เป็นฟิคในรอบหลายปีที่เราอ่านเลยน้า ปกติไม่ชอบอ่านฟิคมากๆแต่เรื่องนี้สนุกจริงๆ
หัวข้อ: Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: P.15 ซื้อรวมเล่มได้ที่งานตลาดฟิค 22มีนา บูธ H2-3
เริ่มหัวข้อโดย: ღM!haruღ ที่ 12-06-2018 17:53:58
สนุกมากกกกก เราชอบมากเลยค่ะ เพิ่งอ่านไปได้ไม่เท่าไหร่แต่อดใจไม่ไหวมาเม้นก่อน คชาน่าร๊ากกกกกก~~~~