LOVE HIGH STORY – 23 – A Day without You | วันนี้ที่ไม่มีเอ็ง8:03 นาฬิกา
.
.
“จอดนี่แหละพี่”
รถแท๊กซี่สีเขียวเหลืองจอดส่งชายร่างเล็กที่หน้าภัตตาคารชื่อดังแห่งหนึ่งในย่านเยาวราช ร่างเล็กมองหน้าร้านที่แท๊กซี่จอดอยู่สักพักก็มั่นใจว่านี่แหละที่ๆ เขาจะมา... ถึงจะไม่ได้มานาน แต่เขาก็จำได้ ไม่ผิดแน่... ว่าแล้วก็จ่ายเงินค่าแท๊กซี่แล้วก้าวลงจากรถ
ยืนบิดตัวไปมาอยู่สักพักก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหาเพื่อนสนิทลูกหลานเจ้าของบ้านให้ออกมาเปิดประตู... ยืนเจรจาล้งเล้งอยู่สักครู่ก็วางสายไป...
.
.
~ครืดดดดด~
.
ประตูหน้าบ้านเปิดออกเผยให้เห็นชายร่างสูงหน้าตาคุ้นเคยยืนหัวฟูอยู่ในชุดเสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงบ๊อกเซอร์ลายสปอนจ์บ๊อบสีเหลือง...
“ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” เอ้า ทักกันอย่างนี้เลยรึ
“แหม่ เจอหน้ากันตอนเช้าก็ล่อกูซะละไอ้เชี่ยที!!”
“ไอ้สาดดดดดดด จะไม่ให้ด่ามึงได้ไง... มึงรู้ไหมนี่กี่โมง”
“แปดโมง... นิดๆ” ต้าร์ก้มหน้าดูนาฬิกาแล้วตอบหน้าตาเฉย
“ไอ้เชี่ยต้าร์ มึงจะถ่อมาทำไมแต่เช้าวะเนี่ย”
“อ้าว กูมาเช้าไปเหรอ... งั้นกูกลับก็ได้ จะได้ไม่กวนเวลานอนของมึง... กูไปละนะ” ว่าแล้วก็ทำหน้าน่าสงสารหันหลังไปยืนริมถนน ทำท่าราวกับว่ากำลังมองหาแท๊กซี่สักคัน
“...” ทีไม่มีปฏิกริยาอะไร เอาแต่ยืนกอดอกกระดิกขาอยู่หน้าบ้าน
“...กูไปละนะ” ต้าร์หันมาบอกเพื่อนสนิทอีกรอบหลังจากที่ไม่ได้รับปฏิกริยาอะไร
“...”
“...กูไปจริงๆ นะ”
“...” ทียืนผิวปากอย่างอารมณ์ดี
“...มึงไม่คิดจะห้ามกูสักหน่อยเหรอ ไอ้สลัดดดดดด!!” เมื่อมุขเรียกคะแนนสงสารไม่ได้ผลก็ไม่ต้องทงต้องทำมันแล้ว หน้าตาน่าสงสารเนี่ย! ว่าแล้วก็เดินกลับไปยืนประจัญหน้าเพื่อนสนิทที่ยืนทำหน้ากวนตีนอยู่หน้าบ้าน
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ กูรู้ว่ามึงอะไปไหนไม่รอดหรอก อย่ามาท่าเยอะ ไอ้เปี๊ยก ฮ่าๆๆๆ” ว่าแล้วก็ใช้นิ้วจิ้มเข้าที่หน้าผากเพื่อนสนิท จิ้มย้ำๆ จนร่างเล็กต้องปัดมือออกอย่างขัดใจ
“บ้านมึงตื่นกันยังวะ”
“เขาตื่นกันหมดแล้ว... ยกเว้นกูเนี่ย กำลังหลับสบา...” ทียังพูดไม่ทันจบก็...
“เอ้า กีต้าร์ มาได้ไงลูก ไม่เจอนานเลยนะเรา” แม่ของทีเดินผ่านมาเจอลูกชายกำลังคุยล้งเล้งอยู่กับใครอยู่หน้าบ้าน ก็เลยเดินออกมาดูก็เห็นว่าเพื่อนสนิทของลุกชายตัวเองนั่นเอง
“หวัดดีครับม๊า” ต้าร์ยกมือไหว้พร้อมยิ้มแป้นๆ เต็มใบหน้า
“มาๆ เข้ามาในบ้าน จะไปยืนอะไรอยู่นอกบ้านกันละนั่น... ดีเลย กีต้าร์มา ไอ้เจ้าทีเลยตื่นเช้าหน่อย ไม่งั้นนะมันตื่นทีก็โน้นนนนน ร้านจวนจะเปิดแล้ว แล้วก็มาเร่งๆ รีบๆ แล้วก็บ่นว่าเหนื่อย” แม่ของทีเดินนำต้าร์เข้าบ้านไปก็บ่นลูกชายตัวเองไป ต้าร์หันไปมองหน้าเพื่อนก็นึกขำอยู่ในใจ... เซ็งอย่างกับส้มตำค้างคืน!!
“งั้นวันนี้ผมจะช่วยม๊าเองครับ” ต้าร์รู้งานพูดเอาอกเอาใจแม่ของที
“จริงอะ... เหนื่อยนะ ไหวป่าวเรา” แม่ทีหันมาพูดพร้อมรอยยิ้ม ว่าแล้วก็ลูบหัวร่างเล็กไปสองสามที
“โธ่ ม๊า ไหวอยู่แล้ว ผมนี่แข็งแรงสุดๆ” ร่างเล็กพูดจาแข็งขันพร้อมทำท่าทางทะมัดทะแมงแข็งแรงทนทาน ทำเอาม๊ายิ้มให้ในความน่ารักของเพื่อนลูกชาย
.
.
บ้านของทีเป็นภัตตาคารจีนที่ขึ้นชื่อร้านหนึ่งของเยาวราช ร้านมีขนาดค่อนข้างใหญ่ มีโต๊ะอาหารไว้บริการกว่า 40 โต๊ะ ตัวร้านเป็นห้องแถวที่กินพื้นที่กว่าหกห้อง สูงห้าชั้นโดยที่ชั้นหนึ่งและสองเป็นพื้นที่ร้านอาหาร ส่วนชั้นอื่นๆ ขึ้นไปนั้นเป็นพื้นที่บ้านที่ครอบครัวของทีอาศัยอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ มีตั้งแต่รุ่นอากง-อาม่า ไปจนถึงรุ่นหลานอย่างไอ้ทีและน้องชายที่ชื่อทัง
ตอนนี้สภาพในบ้านค่อนข้างวุ่นวาย โดยเฉพาะในส่วนครัว เพราะว่าทุกคนรวมถึงพนักงานของร้านต่างก็กำลังเร่งเตรียมร้านที่จะเปิดตอน 11 โมง เลียงตะโกนสั่งงานของบรรดาอากง อาม่า อากู๋ อากิ๋ม รวมถึงป๊าและม๊าของทีดังตีกันไปมาอยู่ภายในร้านจนร่างเล็กแอบทึ่งว่า... เขาฟังกันรู้เรื่องด้วยอะเฮ้ย!!...
ทีพาต้าร์เดินไปสวัสดีญาติพี่น้องซะรอบร้านก่อนจะปลีกตัวพากันขึ้นห้องไป... “ม๊า ทีขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ” ทีบอกกับแม่เช่นนั้นแล้วก็เดินนำเพื่อนสนิทขึ้นบันได มุ่งหน้าไปยังห้องนอนของเขาที่อยู่บนชั้นสี่
“วันนี้ไอ้โจจะมาบ้านมึงป่าววะ” ร่างเล็กถามพลางหย่อนตัวลงนั่งบนเตียงยู่ยี่ของที
“ไม่รู้วะ มันไม่ได้บอกว่าจะมา... อืมมม ปกติวันอาทิตย์มันอยู่บ้านนะ ไม่ค่อยออกไปไหนหรอก”
“วันครอบครัวเหรอวะ”
“คงงั้นมั้ง”
“แล้วมึงอะ มีวันครอบครัวป่าววะ”
“ที่กูอยู่ทุกวันนี้ยังไม่ใช่วันครอบครัวอีกเหรอวะ มึงก็เห็น บ้านกูคนเยอะชิบหาย”
“ก็ดีแล้วนิ จะได้ไม่เหงาไงมึง”
“เออ ก็จริงของมึงวะ... แต่มึงก็คงไม่เหงามั้ง... มีพี่โบ๊ทอยู่ทั้งคน”
“...เหอเหอเหอ มึงไปอาบน้ำเหอะ เหม็นขี้ฟัน”
“เหรอ... ไอ้สาดดดดด” พูดลากเสียงเน้นๆ ใกล้ๆ จมูก
“เชี่ย!” ตอนแรกก็ไม่ได้เหม็นจริงๆ หรอก พูดตัดบทไปงั้น แต่ระยะประชิดแบบนี้ก็... อืมมม นะ
“ฮ่าๆๆๆ” ได้แกล้งเพื่อนแล้วก็อารมณ์ดี เดินหัวเราะร่าเข้าห้องน้ำไป
.
.
นี่เป็นครั้งแรกในรอบปีที่ต้าร์มาที่บ้านของที เขาจำได้ว่าเมื่อก่อนนี้มาทีไรก็จะได้กินอาหารอร่อยๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะฮะเก๋าที่เป็นสูตรเฉพาะของร้านนี้เขาเลยละ... และที่สำคัญ ฟรีทุกเมนู ฮ่าๆ...
เมื่อมองไปรอบๆ ต้าร์ก็ยิ้มให้กับสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ ตู้ เตียง หรือแม้แต่กองหนังสือการ์ตูนที่เคยวางอยู่อย่างไรก็อยู่อย่างนั้น ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย... จะว่าไปก็คล้ายๆ กับเจ้าของห้องละมั้ง ที่ยังเป็นเพื่อนที่ดีของเขามาเสมอ ไม่เคยเปลี่ยน...
ต้าร์เดินสำรวจห้องไปรอบๆ หยิบนั่นขึ้นมาดู หยิบนี่ขึ้นมาอ่านไปเรื่อยเปื่อย สุดท้ายก็วกกลับมาทิ้งตังลงบนเตียงยับๆ ของทีแล้วเอื้อมมือไปคว้าการ์ตูนจากกองข้างๆ เตียงมานอนอ่านเงียบๆ
.
.
“มึงกับพี่โบ๊ทงอนไรกันป่าววะ” ทันทีที่ก้าวขาออกมาจากห้องน้ำ ทีก็ยิงคำถามมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ไม่มีเบสไม่มีกลองอะไรทั้งนั้น ทำเอาร่างเล็กต้องละจากหนังสือการ์ตูนหันมาทำหน้างงคิ้วขมวด
“อะไรนะ”
“กูถามว่าพวกมึงงอนอะไรกันรึเปล่า”
“งอนไรละ ไม่มีหรอกมึง เอ้ออออ” ว่าแล้วก็ส่ายหน้าแล้วกลับไปสนใจหนังสือการ์ตูนในมือต่อ
“กูก็นึกว่ามึงงอนอะไร ถึงได้หอบตูดหนีมาบ้านกู”
“สาดดดดด คิดได้นะมึง”
“ถ้าไม่มีอะไร แล้วมึงมาบ้านกูทำไมวะ” ว่าแล้วก็หย่อนตัวลงนั่นเช็ดหัวที่ปลายเตียง
“เอ้า กูจะมาหามึงไม่ได้รึไง พูดอย่างกับกูไม่เคยมาอย่างงั้นแหละ”
“ก็ตั้งแต่มึงย้ายไปอยู่คอนโดฯ มึงก็ไม่เคยมาบ้านกูอีกเลยนี่หว่า เป็นปีๆ แล้วมั้ง”
“ก็มันไกลนี่หว่า ลาดพร้าว-เยาวราชนะมึง ไม่ใช่ดินแดง-สะพานควาย นี่กูก็จ่ายค่าแท๊กซี่ไปสองร้อยกว่าแล้ว สาดดดด”
“มึงนี่นะ งกตัวเอ้ ฮ่าๆๆๆ”
“เขาเรียกว่าใช้เงินเป็นเว้ย” พูดไปก็เหล่ตามายักคิ้วรัวๆ
“...” ทีไม่พูดอะไร แต่หันมาจ้องร่างเล็กเขม็ง
“อะไร”
“...แน่ใจว่าไม่ได้งอนอะไรกัน”
“เอ้า เชี่ยนี่!! มึงคิดอะไรไปไหนเนี่ย กูนึกว่าประเด็นนั้นจบไปแล้วนะมึง”
“กูไม่ได้โง่นะมึง ไอ้ต้าร์ เป็นเพื่อนกันมาตั้งกี่ปี ทำไมกูจะไม่รู้จักเพื่อนกู”
“หนึ่ง สอง สาม...” ต้าร์วางการ์ตูนแล้วชูมือขึ้นมานับนิ้ว
“ไม่ต้องนับ!! กูแค่พูดเชิงคำถาม แต่ไม่ได้ต้องการคำตอบเว้ย ให้มันฟังดูนานเฉยๆ ไอ้ฟายยยย”
“แปดปี มึงกับกูกับไอ้โจเป็นเพื่อนกันมาแปดปี”
“นั่น นับจนเสร็จเลยนะมึง”
“ฮ่าๆๆ”
“...แต่ถ้ามึงกับไอ้บาสก็สิบปี”
“มึงจะนับไอ้เชี่ยนั่นด้วยทำไมเนี่ย กูว่ากูตัดมันออกจากสารบบแล้วนะ สาดดด”
“มึงยังไม่หายโกรธไอ้บาสอีกเหรอวะ”
“ถ้าเพื่อนสนิทของมึงปิดมึงมาตลอดว่าจะไปเรียนนอก แล้วเพิ่งจะมาบอกมึงเอาสัปดาห์สุดท้าย มึงจะไม่โกรธเหรอวะ”
“ไม่รู้วะ เพราะว่าไอ้บาสมันบอกกูล่วงหน้าตั้งครึ่งปีแนะ หึหึหึ” พูดไปก็มองด้วยสายตาเหนือกว่าใส่ร่างเล็กไป
“เชี่ย มึงก็เลว ไอ้โจก็เลว กูน่าจะโกรธพวกมึงสองคนด้วย รู้ล่วงหน้าตั้งนานแล้วเสือกไม่บอกกู”
“ฮ่าๆๆๆๆ มึงโกรธพวกกูไม่ลงหรอก กูรู้ ฮ่าๆๆๆ”
“...สลัด... ไปแต่งตัวไป กูหิวแล้ว”
“เออๆ... เด๋วพาลงไปกินฮะเก๋า”
“แหล่มเลย” ร่างเล็กตาวาวกล่าวพลางลูบท้อง
.
.
ทีแต่งตัวเสร็จก็พาต้าร์ลงมาที่ร้านแล้วเดินเข้าครัวไป... ภายในร้านดูวุ่นวายน้อยลง น่าจะเป็นเพราะว่าจัดเตรียมของกันใกล้จะเสร็จแล้ว ก็สมควรละนะ เพราะว่าอีกแค่ชั่วโมงเดียวก็ได้เวลาเปิดร้านต้อนรับลูกค้ากันสักที...
ร่างเล็กเดินตามเพื่อนไปอย่างสดใสอารมณ์ดี... อารมณ์ดีเพราะมีความสุข... มีความสุขเพราะกำลังจะได้กินฮะเก๋าเลิศรสและที่สำคัญฮะเก๋าโอชานั้น... ฟรี
แต่ความสุขก็ต้องสะดุดเมื่อทีเดินไปหยิบหม้อขนาดกลางมาส่งให้ มองดูข้างในก็เห็นกุ้งสับที่ดูท่าทางจะปรุงรสเอาไว้แล้ว หนักไม่ใช่เล่นเลยนะนั่น... ว่าแล้วทีก็หยิบหม้อที่เล็กกว่าหม้อกุ้งสับเล็กน้อยเดินนำไปที่โต๊ะที่อยู่ด้านในสุดของครัว
“ไหนละฮะเก๋าที่จะให้กูกิน” ร่างเล็กเดินตามมาถึงโต๊ะก็ออกปากทวงของกินทันที
“ก็อยู่ในมือมึงไง”
“ห๊ะ?”
“ก็นั่นนะใส้ฮะเก๋า แล้วในหม้อที่กูถือมาก็แป้งฮะเก๋า”
“ไอ้สลัด... ไอ้คนหลอกลวง... มึงหลอกกู”
“ฮ่าๆๆๆ กูหลอกอะไรมึง”
“ก็มึงบอกว่าจะพามากินฮะเก๋า”
“ก็เออไง แต่ถ้ามึงไม่ทำฮะเก๋าก่อน แล้วจะเอาที่ไหนมาแดก ฮ่าๆๆๆๆ”
“เออ ก็จริงของมึง แล้ว... ทำไมกูต้องทำเองละ”
“มึงจะกินหรือไม่กิน”
“กิน”
“เออ งั้นก็มาช่วยกูทำ”
“...เชี่ย” บ่นๆๆๆๆ แต่ก็นั่งลงช่วยทีห่อฮะเก๋านะเออ
.
.
ในหม้อแป้งได้ผสมส่วนผสมของแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำและน้ำมันไว้แล้ว กีต้าร์มีหน้าที่ปั้นแป้งให้เป็นก้อนกลมๆ ขนาดประมาณหนึ่งนิ้วแล้วเอาไปเรียงใส่ถาดไว้ให้ทีห่อใส้และจับจีบ... ทำไปก็ฟังเพื่อนสนิทสอนเรื่องการทำฮะเก๋าไปจนม๊าที่เดินผ่านไปๆ มาๆ อยู่แถวนี้ได้ยินยังแอบยิ้มให้กับมาดอาจารย์ของเจ้าลูกชาย... ทำไปทำมาก็เริ่มเพลิน กลายเป็นว่ารู้สึกสนุกกับการปั้นแป้ง ราวกับเด็กๆ ที่สนุกกับการปั้นดินน้ำมัน
“แป้งเนี่ย สูตรลับองกงกูเลยนะ ส่วนใส้ฮะเก๋าเนี่ยก็สูตรลับอาม่ากู... ลับขนาดที่อากงกับอาม่ากูยังไม่ยอมบอกกันเองเลยว่าทำยังไง ต่างคนต่างทำ ต้องไปแอบทำด้วยนะมึง เดี๋ยวอีกคนเห็น... มึงเห็นห้องตรงนั้นไหม นั่นแหละห้องลับอากงกู”
“เฮ้ย จริงอะ!”
“หึ... ไม่จริง”
“ไอ้สลัด! มึงหลอกกูอีกละนะ”
“เอ้ออออ มึงก็เชื่อกูเนาะ”
“ฟายเอ้ย!!”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ มึงนี่มันน่าแกล้งจริงๆ วะต้าร์”
“เออ มึงก็แกล้งกูมาตั้งหลายปีแล้วเหอะ ไม่เบื่อมั่งไง”
“ฮ่าๆๆๆๆ ยากวะ... ว่าแต่ มึงไม่ได้งอนอะไรพี่โบ๊ทแน่นะ”
“เอ้า ห่า!!! วกมาเรื่องนี้อีกละ มึงข้องใจอะไรนักหนาวะ”
“ให้พูดจริงๆ ปะ?”
“...กูขอปิดประเด็น”
“อย่ามาเกรียนเลยสาด”
“...” ร่างเล็กนั่งก้มหน้าก้มตาปั้นแป้ง ปิดปากสนิท สนิทจนเม้มซะแน่นเลยละ
“ก็พวกมึงตัวติดกันอย่างกับแฟนกันขนาดนั้นอะ แล้วอยู่ๆ เมื่อวานนี้มึงก็ไม่เดินกับพี่เขา แล้ววันนี้ก็มาบ้านกู มันมีตรงไหนที่ไม่น่าสงสัยบ้างวะต้าร์” เมื่อเห็นเพื่อนร่างเล็กก้มหน้าก้มตาปั้นแป้ง ทีก็ก้มหน้าก้มตาห่อใส้ แต่ก็ไม่วายพูดขึ้นมาลอยๆ กระทบต้าร์เต็มๆ
“มึงก็คิดมากไปนะไอ้ที ฟงแฟนอะไรกัน พวกกูเป็นผู้ชายทั้งคู่นะเว้ย แล้วพวกกูก็ไม่เคยทำอะไรอย่างว่าเลยนะ จะเรียกว่าแฟนก็ตลกแล้ว”
“นี่มึงไม่รู้ตัวเลยเหรอวะ”
“ว่า?”
“ก็พวกมึงสนิทกันมาก มากจนแบบ... ใกล้ชิดอะมึง”
“กูก็สนิทกับมึงกับไอ้โจเหอะ”
“มันคนละแบบเว้ย”
“กูไม่เข้าใจ”
“เฮ้อออออ อย่างมึง... เข้าใจแค่ว่าต้องปั้นแป้งแบบไหนก็ดีเกินพอแล้วละ เรื่องอื่นมึงไม่ต้องเข้าใจหรอก”
“...ไอ้สลัด”
“ฮ่าๆๆๆ”
.
.
นั่งห่อฮะเก๋ากันจนร้านเปิดก็ยังห่อไม่เสร็จ ลูกค้าที่สั่งฮะเก๋าก็เยอะ ถึงจะมีทำเอาไว้อยู่บ้างแล้ว แต่จะมัวช้ามือก็ไม่ได้ ของออกไม่ทันสั่งจะโดนอากงเอ็ดเอาได้... เอาเป็นว่าหลังจากนั้นทั้งวัน กีต้าร์ได้ทำงานสารพัดอย่าง ตรงไหนต้องการให้ไปช่วยก็เข้าไปช่วย ได้ออกแรงได้ขับเหงื่อ ถึงจะเหนื่อยแต่ก็สนุก... ทุกทีที่ทีเล่าเรื่องที่บ้านให้ฟังก็พอนึกภาพออก ไปร้านอาหารที่ขายดีๆ ก็พอจะเห็นภาพว่ายุ่งแค่ไหน แต่ก็ไม่เคยได้ลงมือทำเองสักที เมื่อก่อนที่มาบ้านทีก็ไปหมกกันอยู่ในห้อง ถึงเวลาก็ลงมากินข้าวหรือไม่ก็ออกไปหาซื้ออะไรกินกันข้างนอกแถวๆ นี้
วันนี้บ้านของทีดูคึกคักเป็นพิเศษ... ต้องขอบคุณความสดใสของร่างเล็กที่มาเสริมบรรยากาศยุ่งๆ ในร้านแห่งนี้ให้ดูสดใสและผ่อนคลายมากขึ้น... และที่สำคัญ รอยยิ้มของต้าร์ก็เป็นที่ถูกใจของแขกหลายๆ คนซะด้วยสิ
“อาต้าร์เอ้ย วังนี้ลื้อรีบกลับอะเป่า” อาม่าหน้าตาใจดีของทีเอ่ยถาม
“อ้อ ไม่รีบครับม่า”
“เออ ลีๆ งั้งก็อยู่กิงข้าวเย็งล้วยกังเลยนะ เลี๋ยวอาม่าจะทำเต้าหูทรงเครื่องให้ลื้อกิง” อาม่าพูดติดสำเนียงจีนพร้อมรอยยิ้มเอ็นดู
“ผมอยู่แน่นอนอาม่า ไม่ได้กินข้าวผมไม่กลับ ฮ่ะๆ”
.
.
กว่าจะได้เวลาอาหารเย็นก็ทำเอาต้าร์ซูบเฉาลงไปได้ไม่น้อย พอถึงเวลาก็เลยจัดหนักจนโดนแซวว่าตัวเล็กแต่กินจุ ไอ้เจ้าเปี๊ยกนี่ก็ไม่ได้เหนียมอายแต่อย่างใด กิน กิน กิน กินจนจุใจ ยิ่งบรรยากาศในโต๊ะอาหารเป็นไปอย่างคึกคักด้วยแล้ว มื้ออาหารก็ยิ่งอร่อย... อิ่ม อร่อย และฟรี...
เมื่อท้องอิ่ม ฟ้าเริ่มมืด ก็ได้เวลากลับบ้าน... หมดเวลาสนุกแล้วสิ... ร่างเล็กยกมือไหว้และบอกลาญาติๆ ของที... ทีเดินออกมาส่งต้าร์ที่หน้าร้าน ยืนกันอยู่สักพักก็มีรถแท๊กซี่ผ่านมาร่างเล็กก็โบกเรียกแล้วบอกลาเพื่อนสนิท... ก่อนจะปิดประตูทียังมียิงปืนนัดสุดท้ายใส่สมองของต้าร์อีกว่า
“มึงอย่างอนพี่เขานานละ”
“ยังไม่จบนะมึง กูไม่ได้งอนจริงๆ สาบานเลยก็ได้เอ้า”
“ฮ่าๆๆๆ เอๆ กูเชื่อก็ได้... กลับดีๆ ละ แล้วอย่าไปเกรียนใส่พี่แท๊กซี่เขานะมึง”
“เออรู้น่า ไปละ กูกลับดีกว่า เหนื่อย หมดแรง กลับไปนอนละ”
“บายมึง”
“เจอกันพรุ่งนี้เว้ย” ว่าแล้วก็ปิดประตู นั่งรถกลับบ้านพร้อมกับฮะเก๋าอีกถุงใหญ่ที่อาม่าให้กลับไปกินที่คอนโดฯ
.
.
.
อารมณ์สนุกเริ่มจืดจางเมื่อไร้เสียงเจี๊ยวจ๊าวของทีและญาติๆ... ความเงียบเข้าครองบรรยากาศเย็นๆ ในรถแท๊กซี่... ป่านนี้ไอ้คุณโบ๊ทจะกลับถึงห้องหรือยัง... เผลอคิดเผลอสงสัยจนได้สิน่า ทั้งๆ ที่สะบัดเรื่องร่างสูงออกจากหัวได้แล้วทั้งวัน แต่ก็มาเผลอนึดถึงเอาตอนจบจนได้... ว่าแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าปิดเสียงโทรศัพท์ไว้ เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็ต้องตกใจเมื่อมีเบอร์ที่ไม่ได้รับสายกว่า 14 สาย... โมโจโจโจ้ ทั้งนั้นเลย... ตอนสิบโมงสี่สาย ตอนเที่ยงสองสาย ตอนบ่ายโมงครึ่งสองสาย บ่ายสี่โมงสี่สาย และทุ่มครึ่งอีกสองสาย... เมื่อใช้สมองคิดดูแล้ว ก็เห็นว่าไม่ควรโทรกลับเป็นอันขาด เพราะว่าอาจโดนกระชากวิญญาณผ่านสายโทรศัพท์ได้... ว่าแล้วก็ส่ง sms ไปบอกสักหน่อยดีกว่าว่ากำลังกลับ
.
.
เกือบสองชั่วโมงกับการฝ่าการจราจรอันคับคั่งของกรุงเทพฯ ผ่านไป แท๊กซีก็พาร่างเล็กมาถึงคอนโดฯ โดยสวัสดิภาพ... กีต้าร์จ่ายเงินแล้วลงจากรถแล้วเดินเข้าคอนโดฯ... ตั้งหน้าตั้งตาเดิน เดิน เดิน และเดินไปที่ลิฟท์ กะไว้ว่าจะรีบเข้าห้องแล้วปิดตายก่อนจะต้องเจอกับร่างสูงที่ไม่รู้ว่ากลับมาแล้วหรือยัง หรือถ้ายังไม่กลับมาก็ควรจะรีบขึ้นห้องก่อนที่จะมาบังเอิญเจอกันที่รีเซปชั่น ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน... อืมมมมม
แต่แล้ว... ก่อนที่จะกดลิฟท์ ก็เหมือนโชคชะตาฟ้าจะเป็นใจ(?)ให้ต้าร์ไปเตะตาเข้าที่ร่างสูงคุ้นตานั่งอยู่ที่โซฟา แถมกำลังจ้องมาที่เขาเขม็งไม่วางตา... ร่างเล็กกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะเลี่ยงสายตากลับมาที่ปุ่มลิฟท์ มือเล็กค่อยๆ เลื่อนไปกด แต่เพียงอึดใจก็ได้ยินเสียงของร่างสูงพูดขึ้นเสียงเรียบด้านหลังว่า...
“โปรดติดตามตอนต่อไป”.
.
.
-------------------------------------------------
[Bonus หลังไมค์]
ตอนเที่ยง เมื่อทีห่อฮะเก๋าเสร็จก็เอาผ้าขาวบางคลุมถาดฮะเก๋าแล้วถือไปวางไว้บนชั้นวางของข้างเตาเพื่อเตรียมนึ่งฮะเก๋าออกขาย ส่วนร่างเล็กนะเหรอ โดนม๊าของทีเรียกให้ไปช่วยงานหน้าร้านได้สักครึ่งชั่วโมงแล้วละ
ทีล้างมือทันกับเสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะพอดี เดินไปดูก็เห็นชื่อรุ่นพี่คนสนิทของต้าร์โชว์หราเป็นสายเรียกเข้า
“หวัดดีพี่โบ๊ท”
“เอ้อ ที...”
“คับพี่”
“ไอ้เปี๊ยกอยู่ป่าว”
“อยู่พี่ แต่แม่ผมลากไปหน้าร้านอะ พี่จะคุยป่าว”
“ไม่เป็นไรๆ”
“มีอะไรป่าวพี่”
“ไม่มีอะไร... แค่เห็นไอ้ต้าร์มันบอกว่าจะไปบ้านที ก็เลยลองโทรมาถามดูว่าอยู่บ้านทีรึเปล่า”
“อยู่พี่ มันมาเรียกผมตั้งแต่เช้านุ้นนนน”
“เออ อยู่นั่นก็แล้วไป... พี่โทรหามันแล้วมันไม่รับ ไอ้เราก็นึกว่าไปโดนฆ่าหมกส้วมไปแล้ว”
“ฮ่าๆๆๆ อย่างไอ้ต้าร์อะนะจะโดนฆ่าหมกส้วม ใครจะฆ่ามันคงจะโดนมันโวยวายใส่จนหูแตกก่อนอะพี่”
“เออ ก็จริงของมึง ฮ่ะๆ... งั้น... แค่นี้แหละ”
“เดี๋ยวพี่...”
“หือ?”
“ให้บอกต้าร์มันไหมพี่ว่าพี่โทรมา”
.
.
“...ไม่ต้องหรอก”
.
. -------------------------------------------------
FlapJack's Corner:
หวังว่าตอนนี้คงจะชิลพอที่จะช่วยลดอารมณ์ขัดใจอารมณ์อึนได้นะ
@คราส อย่ามองดรีมในแง่ลบขนาดนั้นสิ
@iforgive อย่าเพิ่งจิตตกดิ!! อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนนนนน
@malula ใช่ๆ ดรีมชงจนโดนเขม่นแล้วเนี่ย แม่ยกต้าร์ไม่ปลื้ม
@greensnake ถูกต้องแล้ววววว ต้องรอลุ้นกันต่อไป แต่ไม่รู้จะมีอะไรให้ลุ้นนะ
@princegolf "ศึกชิงโบ๊ท" ฮ่าๆๆๆๆๆ ไอ้คนจะโดนชิงมันยังไม่รู้เรื่องเลยนั่น
@KURATA ชิลๆ น่า ขำๆ เนอะ (ขำไม่ออก )
@allaboutmyfav นั่นสินะ แบบน้ำท่วมปาก จะพูดก็ไม่ได้ จะพูดว่าอะไรยังไม่รู้เลย
@noomasoi3 มาเต้นกันให้หายอึดอัด... 5 6 7 8 Let's go
@ChCh13 หน้าไอ้เจ้าโบ๊ทตอนได้ยินคำว่า "กลัวไม่ได้มีปั๋วเหรอคะพี่" >>>
@pim_onelove อุยยยยย หวังว่าอิโม ที่ใช้ จะไม่ได้พุ่งเป้ามาที่ผมใช่มะ
@BeeRY มามงมาม่าอะไรกัน ไม่มีหร๊อก!!!
@sakurai อยากหายอึน? งั้นมาอ่านบทใหม่ดูสิว่าช่วยได้ไหม หรือถ้ายังไม่ได้ ไว้รออ่าน interlude ตอนถัดไปนะ
@imonkey mc ไม่ใช่ว่าเกรียนไม่ออกหรอก แค่ลดระดับลงเท่านั้นเอง
@JingJing อย่ามางอนเค้านะ
@yunjae55 รับทราบ!!
เช่นเดิม ขอบคุณกำลังใจจากทุกคอมเมนท์ด้วย +1 กันไปนะครับ
สำหรับตอนหน้าเดี๋ยวจะเอา interlude ชิลๆ มาเติมพลังให้กับชนกลุ่มน้อยอีกสักตอนก่อนจะลุยกันต่อนะ
สำหรับคืนนี้ ราตรีสวัสดิ์ ฝันดี หลับปุ๋ยครับ