เสพติดความเจ็บปวด
ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนเราจะทนความเจ็บปวดซ้ำๆ แบบเดิมได้หลายครั้ง ทั้งๆ ที่มันเจ็บปวดเจียนตายแต่ก็ยังมีหลายคนเลือกที่จะทนแล้วทำเป็นไม่เห็นมัน
ผมพูดถึงเรื่องนี้ทำไม? เพราะผมเป็นหนึ่งในนั้นไง
ผมเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าพยายามทำให้น้ำตาที่ไหลบ่าออกมาย้อนกลับไปที่เดิม น่าแปลกที่ไหลหนักกว่าเดิมจนท้องฟ้าสีดำที่ผมเห็นพร่ามัวไปหมด ผมยกบุหรี่ขึ้นมาสูบหนักๆ ก่อนที่จะพ่นออกมาจนควันท่วม ผมจะไม่แปลกใจเลยถ้าผมจะเป็นมะเร็งปอดตาย ตอนแรกผมก็ไม่สูบหรอกแต่เขาเป็นคนชวนผมสูบ ผมก็เลยสูบด้วย
เสียงหอบหายใจสลับเสียงครางดังแผ่วเบาคล้ายกับขวยเขินที่จะทำ ทั้งๆ ที่มันทำกันตั้งแต่ก่อนที่ผมจะกลับถึงห้องด้วยซ้ำไป ผมกลืนก้อนสะอื้นลงคอเท้าแขนบนระเบียงที่มีหิมะตกโปรยปราย
ฤดูหนาวของที่นี่ไม่เคยปราณีสิ่งมีชีวิตใดๆ แน่นอนว่ามันรวมถึงคนข้างในด้วยล่ะมั้ง ถึงทำกิจกรรมสร้างความอบอุ่นให้กัน นี่ถ้าผมเข้าไปคงเจอกองไฟของพวกลูกเสือ หึ ดีผมจะได้ไปซื้อมาร์ชเมลโล่มาปิ้งกินข้างๆ เลย
ผมคุยกับเขาหลายครั้งแล้วถึงเรื่องนี้แต่คำตอบที่ได้กลับมาก็ชอบมาเป็นทำนองว่า 'ถ้ารับไม่ได้ก็เลิกซะสิ' อย่าคิดว่าผมไม่อยากเลิก ผมอยากเลิกจะตายชัก โอกาสเรื่องความรักคนเรามีครั้งเดียวซะที่ไหน แต่อย่างว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตประหลาดและผมก็เลิกรักหมอนั่นไม่ได้สักที
ผมเคยถามเขานะว่าผมไม่เร้าใจพอเหรอ? อะไรทำนองนั้น เขาก็ยิ้มแล้วกอดผมต่ออีกสองสามรอบแทนคำตอบ ทำให้ผมคิดว่าปัญหาของเขาคงจะอยู่ที่ความเจ้าชู้ของเขามากกว่า ช่วยไม่ได้เจอกันครั้งแรกผมก็ตกหลุมเขาที่รอยยิ้มทรงสเน่ห์นั้นนั่นแหละและผมก็รู้อยู่แล้วว่ามันไม่มีทางเป็นของผมเพียงคนๆ เดียว เขาแจกจ่ายรอยยิ้มราวกับองค์กรการกุศล ถ้าหากมันเป็นเงิน ทุกคนที่สบตาเขาคงได้เงินล้านกลับบ้าน
ไม่ทันได้รู้สึกอะไรบุหรี่ก็หมดมวนอีกแล้ว ผมหยิบมวนใหม่ขึ้นมาจุดและสูบ จริงๆ ผมก็ไม่ชอบมันหรอกแต่สูบแล้วรู้สึกดีขึ้นมันเหมือนผมพ่นความรู้สึกหนักๆ ของตัวเองออกมาด้วย ผมน่ะ หึงหวงเขาแทบบ้าแต่ก็รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ ผมทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง สิทธิ์พิเศษอย่างเดียวที่มีคือการได้อยู่ร่วมห้องกับเขาก็เท่านั้น
แกร๊ก
เสียงกลอนประตูถูกปลดแต่ผมไม่ได้หันไปมองเพราะมันไม่ได้มาจากห้องผม
"สูบบุหรี่อีกแล้วเหรอครับ" น้ำเสียงทุ้มนุ่มทักผมทำให้ผมยอมหันไปมองแล้วพ่นควันใส่
"อืม หมออย่างคุณก็ควรไปไกลๆ จากผม เดี๋ยวจะเป็นมะเร็งตาย"
หมอหนุ่มหัวเราะในลำคอ "คุณน่ะควรเลิกสูบได้แล้ว เดี๋ยวผมจะอดเห็นหน้าคุณทุกเช้า" มองผมตาพราวระยับ
ใช่ว่าผมจะไม่รู้ ว่าหมอปัญญาอ่อนนี่โง่มาชอบผม
"ไปไหนก็ไป"
ผมเอ่ยปากไล่ ช่วยไม่ได้ผมมันพวกเสพติดความเจ็บปวดกับอะไรที่มันอ่อนโยน ผมไม่ค่อยชินกับมันสักเท่าไหร่ แต่แล้วหมอมันก็ทำแบบเดิมทุกครั้งที่เจอผมสูบบุหรี่
ฟู่ว
ควันบุหรี่ถูกพ่นใส่หน้าผมแบบเดียวกับที่ผมทำใส่เขาเมื่อกี้ ผมมองหน้าหมอนิ่งไม่ออกความเห็นกับการกระทำเด็กๆนี่
"งั้นคุณก็เป็นพร้อมผมแล้วกัน เวลาป่วยจะได้นอนเตียงข้างกัน"
เขาแย่งบุหรี่ผมไปสูบอีกแล้ว เชื่อเขาเลย..
ผมกลอกตาเบื่อๆ แล้วหยิบมวนใหม่ขึ้นมาจุดแต่ก็โดนเขาแย่งไปทั้งซอง
"ผมว่าเงินเดือนหมอมันก็ไม่ได้แร้นแค้นนะ จะมาแย่งบุหรี่ผมทำไม"
"สูบบุหรี่มันไม่ดีนี่ อีกอย่างช่วงนี้คุณชักจะสูบมากเกินไปแล้ว" เขาเอ็ดผมเสียงดุสมกับเป็นหมอหัวหน้าแผนก
แต่ผมจะเชื่อฟังเขาทำไม เขาไม่ใช่พ่อผมสักหน่อยและผมก็ไม่ได้ชอบเขาด้วย
แอ๊ด
แขนหนักๆ พาดบนไหล่ผมเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของอย่างเห็นได้ชัด
"กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ หืม?"
หนวดสากๆ ซุกไซร้คอผมหยอกเย้าจนผมหัวเราะคิกเบาๆ
"สักพักแล้วล่ะ"
ผมเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาที่ผมหลงใหล มันปรากฎความเหนื่อยล้าจากกิจกรรมอย่างว่ามาจางๆ จนหัวใจในอกผมบีบรัดแน่น เอาเข้าจริงผมก็ไม่ได้เสพติดมันหรอกแต่ถ้าผมไม่หลอกตัวเองว่าเสพติดมัน ผมก็จะเจ็บจนตัวตาย คุณไม่อยากรู้หรอกว่าเดือนนี้เขาพาผู้หญิงขึ้นห้องแล้วกี่คน เอาเป็นว่าผมกลับมาจากทำงานทีไรก็เจอเขาทำเรื่องอย่างว่าทุกที แต่ไม่รู้ทำไม ช่วงนี้มันถึงได้มากเป็นพิเศษ
"แล้วคุยกับหมอเวรนี่อีกแล้วเหรอ"
ทำเหมือนจะหึงหวงผมแต่ก็ไม่ มันก็แค่คำพูดของเขาเท่านั้น แต่ผมกลับรู้สึกดีกับมัน บ้าชะมัดที่ผมหลุดยิ้มออกมา ผมใช้หางตามองหมอแล้วแค่นเสียงหึ
"เปล่า"
สีหน้าของหมอมึนตึงอย่างเห็นได้ชัด ผมเห็นดวงตาสีเขียวนั่นเจือทั้งความไม่เข้าใจและเกลียดคนที่ผมรักเอามากๆ เขาคงจะแปลกใจที่ผมเลือกที่จะอยู่กับคนแบบนี้ไม่ใช่หมอที่โปรไฟล์เลิศหรูไปซะทุกอย่างเขา
ก็อย่างที่รู้มนุษย์มันประหลาด ใช่ว่าเขาไม่ดี ผมก็แค่รักคนๆ นี้เท่านั้นเอง เหตุผลง่ายๆ ที่เข้าใจง่ายเหมือนบวกเลขขั้นพื้นฐานที่ไม่ต้องใช้ความฉลาดอะไรก็พอจะนึกคำตอบออกทันที
"ดี" เขายิ้มแล้วก้มลงมาจูบหนักๆ ที่ปากผม "เข้าห้องซะ อากาศเย็นแล้ว"
ผมพยักหน้าหงึกหงักแทบไม่ต้องคิด อย่างน้อยเขาก็มีมุมน่ารักแบบนี้แหละ
"แต่ฉันคงต้องออกไปข้างนอกก่อน เธอติดรถฉันมาน่ะ"
รอยยิ้มของผมค้างจนเขาใช้มือจับแก้มผมแล้วดึงเบาๆ ให้กลายเป็นรอยยิ้มเหมือนเดิม
"ก็แค่เซ็กส์น่า"
เขาว่าทิ้งท้ายก่อนที่จะผิวปากเดินควงกุญแจไปหารถซึ่งผู้หญิงคนที่ว่านั่นก็ยืนรอข้างรถแล้ว เธอมองเห็นผมแล้วไหวไหล่ใส่
คล้ายกับยียวน
ผมเพิ่งสังเกตว่าเขาลืมใส่เสื้อโค้ทกันหนาวแต่ อืม.. ช่างมันเถอะ ความร้อนที่เขาเพิ่งสร้างมันน่าจะเพียงพอต่อเขาแล้วนั่นแหละ ผมก้มมองมือตัวเองที่กำแน่นอย่างแปลกใจ
จะเอาอะไรอีก... ได้แค่นี้ก็ดีแล้วไม่ใช่รึไง
"เป็นผมไม่ได้เหรอ"
ผมเงยหน้ามองหมอนิ่งๆ และไม่ได้ถอยหนีจากมืออุ่นๆ ที่กำลังเกลี่ยน้ำตาผมออก
ผมเหยียดยิ้มให้หมอซึ่งดูเหมือนจะทนรอยยิ้มจอมปลอมของผมไม่ได้เลยดึงตัวผมเข้าไปกอด ผมหลับตาไม่มีเสียงสะอื้นหรืออะไรทั้งนั้น ผมชินชาไปแล้วกับเรื่องนี้แต่ร่างกายและหัวใจผมมันไม่ชิน น้ำตาที่ควรจะหยุดไหลก็ไม่หยุดสักที
"..ไม่ตอบถือว่าตกลงนะ"
เสียงทุ้มกระซิบข้างหูผมก่อนที่หมอจะก้มลงมาจูบผม ผมปล่อยให้หมอรุกรานตามใจชอบโดยที่น้ำตายังไหลตลอดเวลา
มืออุ่นๆ ที่หยาบกว่าเขาคนนั้นสอดมือเข้าไปในเสื้อผมและเขาก็ลูบแผ่นหลังผม
ผมเหลือบมองเขาไม่ได้ว่าอะไรเพียงแค่ยกแขนสองข้างขึ้นโอบคอเขาแล้วหลับตาลงส่งเสียงครางออกมาเบาๆ หมอดูจะตกใจกับปฏิกิริยาของผมเพราะที่ผ่านมาผมปฏิเสธเขามาตลอด
แต่มันก็ต้องมีบ้างนั่นแหละที่ผมจะเลิกปฏิเสธเขา
"...แน่ใจเหรอ ถ้าคุณไม่ต้องการก็บอกผมตรงๆ คุณก็รู้ว่าผมชอบคุณมาก"
เขาว่าทั้งๆ ที่พาผมเข้าห้องตัวเองและวางผมบนเตียง
ผมยิ้มเล็กๆ ให้เขาและเอื้อมมือไปปลดเข็มขัดเขาออก
"อืม"
ผมเหนื่อยแล้วล่ะสำหรับการไล่ตาม
เขาคนนั้นเคยบอกว่ามือของผมค่อนข้างเย็นซึ่งมันก็น่าจะจริงเพราะทันทีที่ผมแตะเจ้านั่นของหมอ หมอก็สะดุ้งเฮือก ผมส่ายหัวให้กับสีหน้ากระดากอายของคุณหมอ ช่วยไม่ได้ ผมชินกับความเจนจัดของเขาซะแล้วล่ะ
ผมใช้เวลากับมันนิดหน่อยก่อนที่จะรับมันเข้าไปในปาก แน่นอนว่าคุณหมอสีหน้าเปลี่ยนทันที มือหยาบนั่นจับหัวผมเบาๆ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นแน่นเมื่อผมแกล้งใช้ลิ้นกับสิ่งนั้น ผมเล่นกับมันพักใหญ่จนรู้ตัวอีกทีก็ถูกคุณหมอผู้ใจดีของผมผลักผมลงบนเตียงแล้วฉีกทึ้งเสื้อผ้าผมออก
เขาแปลกไปนิดหน่อยจากตอนปกติ เหมือนกับลูกแกะที่จู่ๆ ก็กลายร่างเป็นหมาป่าแต่ก็สู้คนรักของผมไม่ได้ที่เป็นสิงโตตัวผู้ตลอดเวลา นอกจากเรื่องกินกับเซ็กส์เขาก็แทบไม่สนใจอะไรแล้ว
ผมหอบหายใจเมื่อเขาก้มลงดูดยอดอกผมพอเห็นผมนิ่งเขาก็จงใจดูดแรงๆ จนผมครางออกมา
บ้าชะมัดที่จู่ๆ ผมก็นึกถึงคนรักของผมซะอย่างนั้น เขาคนนั้นชอบกัดเป็นบ้า
"ผมจะดูแลคุณอย่างดี ถ้าคุณยอมเลิกกับเขาแล้วมาหาผม"
หมอกระซิบข้างหูผมเหมือนจะเกลี้ยกล่อม ผมไม่ได้ตอบเขาเพียงแค่หลับตาและปล่อยให้เขาทำตามใจ แค่นี้ก็ถือว่ามากแล้วสำหรับคนอย่างผม
ผมครางออกมาแผ่วเบาเพื่อเขาสัมผัสผมตรงนั้น
"เป็นผมไม่ได้เหรอ.. ผมดีกับคุณขนาดนี้"
ผมไม่ตอบและไม่คิดจะตอบคำถามของเขา ไม่ว่าจะคำถามไหนๆ เพราะทั้งเขาและผมก็รู้อยู่แก่ใจแล้วว่าคำตอบคืออะไร ผมมันก็แค่คนบ้าที่คนบ้ากว่าอย่างเขามารักก็เท่านั้น
"ไม่ได้จริงๆ งั้นเหรอ"
เขาตัดพ้อผมอย่างน่าสงสาร
แต่ผมสงสารไหม? ก็ไม่ ที่ผมควรสงสารคือตัวเองมากกว่า
"รู้ไหมว่าตาคุณน่ะสวยเป็นบ้า"
หมอพูดเหมือนกำลังเพ้อดาราสักคนที่ไม่ใช่ตัวผม แต่ไอ้การกระทำชื่นชมของเขาก็ขัดกับมือที่สาวตรงนั้นของผมเร็วๆ จนผมคู้ตัวกำผ้าปูที่นอนแน่น
ไอ้หมอนี่มันบ้าไปแล้ว..
"นอกจากตาคุณจะสวย ผมก็ชอบผมยาวๆ ของคุณเหมือนกัน"
มืออีกข้างจับผมสีเทาที่ถูกย้อมมานับครั้งไม่ถ้วนของผม ทำให้ผมลืมตาข้างนึงขึ้นมาดูก็เห็นเขาจูบมันเบาๆ ราวกับของล้ำค่า
"แต่ผมก็รู้อีกนั่นแหละว่าคุณไว้ผมยาวและย้อมสีเทาเพราะเขา"
นั่นก็ถูก ผมไม่ได้ไว้ผมยาวมาตั้งแต่แรกหรอก
"ถ้าคุณยอมรักผม ผมจะปล่อยให้คุณทำสิ่งที่คุณอยากทำ"
ผมสะดุ้งกับนิ้วที่ถูกชโลมด้วยน้ำเย็นๆ เหนียวๆ
"อา.."
ผมครางออกมาอย่างไม่ปิดบัง นิ้วของคุณหมอดูจะเชี่ยวชาญกับการตรวจภายในจนผมแข้งขาอ่อน
หมาป่าตัวนี้อ่อนโยน..
มันช่างต่างจากสิงโตของผมซะจริง
ผมยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเมื่อเผลอสะอื้น
"เจ็บเหรอ.."
หมาป่าซื่อถอนนิ้วออกทันที ผมส่ายหน้าดิก "เปล่า"
"เพราะเขาเหรอ"
น้ำเสียงของหมอเศร้าจนผมยอมลืมตาขึ้นมาดู มันเจ็บปวดเหมือนตอนที่ผมมองเขาเมื่อกี้เลย แววตาเดียวกันแต่ความรู้สึกไม่เหมือนกัน ผมไม่เข้าใจที่ทำไมสิงโตของผมถึงไม่เจ็บปวดกับเขาบ้าง
เอาเข้าจริงหมาป่าหน้าตาก็ไม่ได้แย่หรอกแต่ผมยังไม่หมดรักจากสิงโตก็แค่นั้น
ผมไม่ตอบแต่ดึงตัวคุณหมอลงมาหาตัวเองและจูบเบาๆ บนจมูกซึ่งหมอก็หน้าแดงจนน่าเอ็นดู
"ทำต่อเถอะ"
หมออิดออดเหมือนไม่อยากทำแต่จนแล้วจนรอดก็ทนความต้องการลึกๆ ของตัวเองไม่ไหวเลยทำต่อ
ผมยิ้มเอ็นดู สำหรับผมหมอก็เหมือนลูกหมาป่าสักตัวนั่นแหละ ต่อให้ผมไม่ค่อยใส่ใจมัน มันก็ยังมีชีวิตรอดด้วยตัวเองอยู่ดี
"อา..."
ผมร้องออกมาหลับตาลงเมื่อสิ่งที่เข้ามาไม่ใช่นิ้วสองนิ้วอีกต่อไป คุณหมอขยับอย่างเชื่องช้าเหมือนกับกลัวผมเจ็บ ผมเลยกระตุ้น
หมอด้วยการเงยหน้าขึ้นไปจูบ ผมยอมรับว่าผมชินกับความเร่าร้อนของสิงโตมากกว่า คนนั้นเขาเล่นแทบไม่ให้ผมได้หายใจ
แต่คุณหมอก็มีอย่างหนึ่งให้ผมประทับใจนะ คุณหมอสวมถุงยางตามแบบฉบับหมอๆ ที่ป้องกันโรคอะไรต่อมิอะไร ตอนทำกับสิงโตผมก็บังคับให้เขาใส่เหมือนกัน ผมรักเขานะ แต่ผมไม่ไว้ใจเขาเท่าไหร่
อึก..!
ผมเบิกตากว้างเมื่อไปๆ มาๆ หมอเริ่มจะไม่อ่อนโยนสักเท่าไหร่ เล่นเอาผมตัวโคลงไปตามแรง ผมตัวสั่นไปทั้งตัวเมื่อหมาป่ารู้จุดในตัวผมแล้วกระตุ้นตรงนั้นไม่หยุด
ผ้าปูที่นอนถูกผมกำแน่นผมเงยหน้ามองเพดานหัวขาวโพลนปล่อยให้ร่างกายเป็นไปตามสัญชาตญาณ ผมปล่อยเสียงที่ไม่ดังนักเพราะรู้ดีว่ากำแพงที่นี่ไม่ได้หนาสักเท่าไหร่ แต่เหมือนคุณหมอจะไม่พอใจเร่งเร้าจนผมต้องกัดฟันแน่นไม่ให้เสียงมันดังไปมากกว่านี้
ผมไม่ได้หน้าหนาเหมือนเขาสักหน่อย
จังหวะบนเตียงไวขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ของคุณหมอ
"..ข้อร้องล่ะ เป็นผมไม่ได้เหรอ"
มือหยาบลูบใบหน้าผมเหมือนตกอยู่ในภวังก์
"ผมชอบคุณจนแทบบ้า คุณไม่รู้หรอก"
ผมยิ้มรับจับมือนั่นไม่ได้ตอบอะไร
เพียงไม่นานเราทั้งสองคนก็ถึงฝั่งฝันโชคดีที่คุณหมอสวมถุงยางให้ผมด้วย
♪~
ผมเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ในกางเกงที่ถอดไว้ขึ้นมากดรับโดยไม่ต้องดูชื่อ "ว่า"
// หายไปไหน ฉันหิวแล้ว ทำอะไรให้กินหน่อย //
"ออกมาข้างนอกนิดหน่อยน่ะ นายนอนรอเลย" ผมพูดพลางหยิบเสื้อผ้ากางเกงมาสวมกลับดังเดิม ไอ้เจ็บมันก็เจ็บนะ แต่ก็ใช่ว่าจะเจ็บจนทนไม่ได้ เอาเป็นว่าผมชินแล้วมากกว่า
"...คุณจะไปหาเขาเหรอ"
หมอถามผมเสียงเบา
ผมกดวางโทรศัพท์ไม่ได้ตอบแต่หยิบซองบุหรี่ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงคืนและสาวเท้าออกจากห้อง
"ผมไม่ดีตรงไหน.."
ดวงตาสีเขียวนั่นสั่นพร่าจนผมใจกระตุก
แต่ก็นะ..
ผมหยุดฝีเท้าที่หน้าห้อง
"คุณไม่ได้แย่หรอก คุณหมอ คุณดีเกินไปสำหรับผมด้วยซ้ำ" ผมหันไปพูดด้วยรอยยิ้มจาง "แต่ผมมันเป็นพวกเสพติดความเจ็บปวด ไว้วันไหนที่ผมทนความเจ็บปวดนั่นไม่ได้ ผมจะมาให้คุณรักษาคนแรกเลยแล้วกัน"
ผมไม่รอคำตอบของคุณหมอแต่เดินออกทันทีและปิดประตูดังปัง
"เฮ้อ" ผมถอนหายใจเซ็งๆ
ผมนี่มันบ้าชะมัดเลย เลือกคนที่เลวร้ายทั้งๆ ที่มีคนดีเสนอตัวมาให้ผมเลือก
แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ
ผมมันเป็นพวกชอบความเจ็บปวด
-------------
ลองเขียนแนวใหม่ๆ บ้าง