SPECIAL PART 1 : ฝัน..ไม่ฝัน??
“วันนี้ผมมีเคสที่ต้องไปตรวจคนไข้เพิ่มอีกไหมครับ”
“ไม่แล้วค่ะคุณหมอ วันนี้มีแค่นี้ค่ะเวลาที่เหลือคุณหมอก็ไปพักผ่อนเถอะค่ะวันนี้คุณหมอก็เจอเคสผ่าตัดมาเยอะแล้ว”
“งั้นเดี๋ยวถ้ามีอะไรคุณพยาบาลก็ช่วยเรียกด้วยนะครับ หมอจะนั่งพักอยู่ที่ห้อง” ผมบอกพยาบาลสาวสวยก่อนเดินตรงดิ่งมา
พักที่ห้องพัก
วันนี้ผมมีเคสผ่าตัดตั้งแต่ช่วงเช้าและนั่นจึงทำให้ผมยังไม่ได้มีเวลาส่วนตัวในการพักผ่อน แต่เห็นจะมีช่วงนี้แหละที่ผมจะได้
พักกับคนอื่นบ้างซะที
“เป็นหมอนี่ก็เหนื่อยเหมือนกันแฮะ”
ผม หรือ หมอนอร์ส หรือ นายแพทย์นอร์สที่เพิ่งจะเข้ามาทำงานอยู่ในโรงพยาบาลของรัฐบาลได้เมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็
ทำให้ผมสัมผัสได้ว่าช่วงเวลาที่ผมเข้ามาเป็นหมอที่นี่สุดโหดใช่ย่อย
“ป่านนี้ไฟจะทำอะไรอยู่นะ” ผมว่าก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาเช็คไลน์ที่อีกคนส่งรูปภาพขนมเค้กหน้าตาน่าทานมาอวดผม
ก่อนจะส่งข้อความมาบอกสุขสันต์วันเกิด เฮ้อ!แฟนใครนะน่ารักจริงๆ
“อยากจะกลับไปฉลองวันเกิดกับไฟจัง เฮ้อ!!” ผมอยากจะกลับไปฉลองวันเกิดกับไฟตอนนี้เลยจริงๆ ถ้าไม่ติดว่าเผื่อมีเคส
ฉุกเฉินเข้ามาหลายรายและจำนวนหมอที่มีไม่มากพอเพราะช่วงนี้หมอของที่นี่จัดกิจกรรมแพทย์อาสาไปรักษาผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกล
จากในเมืองหลงเหลืออยู่ในโรงพยาบาลก็ไม่กี่คนเท่านั้น
“อยากให้เวลาเดินเร็วๆจัง เฮ้อ!” ผมว่า ก่อนจะหันไปหยิบเอกสารงานที่ทำค้างมาเช็คและ.................
“นอร์สตื่นได้แล้วเช้าแล้วนะ” อืม เสียงเหมือนมีใครมากระซิบอะไรข้างหู แต่ทำไมเสียงมันคุ้นๆเหมือนเสียงไฟเลยแฮะ?
“นอร์สตื่นเถอะนะไม่งั้นวันนี้ไฟไม่ให้ของขวัญสุดพิเศษกับนอร์สนะ” ของขวัญ? ของขวัญสุดพิเศษ? เดี๋ยวนะ...ถ้ามีของขวัญ
แสดงว่าวันนี้ต้องมีงานหรือไม่ก็เป็นวันสำคัญอะไรสักอย่าง แต่ที่แน่ๆเสียงเซ็กซี่ๆที่กระซิบแผ่วเบาอยู่ข้างหูผมต้องเป็นไฟอย่าง
แน่นอนไม่มีทางผิดเพี้ยนแน่ๆ!!
“อืม ของขวัญ ของขวัญอะไรเหรอครับไฟ” ผมพยายามลืมตาเพื่อมองอีกคนจนเห็นเป้าหมายก่อนจะดึงอีกคนเข้ามากอด
แต่ก็กลับถูกอีกฝ่ายตีเข้าให้อย่างเต็มแรง ไฟก็อย่างนี้หละครับไม่เคยชินกับมันสักที แต่ผมว่ามันก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของไฟนะ
ครับ
“เล่นอะไรแต่เช้าเนี่ย คนกำลังจริงจังอยู่นะ แต่ว่านอร์สจำไม่ได้จริงๆเหรอว่าวันนี้เป็นวันอะไร?” อีกคนถามผมด้วยสายตางงๆ
วันนี้....วันนี้เป็นวันอะไรอ่ะ วันตรุษจีน เข้าพรรษา ออกพรรษา วันเสาร์ วันอาทิตย์หรือวันจันทร์ เอ....แต่ว่าที่รู้ๆวันนี้ผมต้องไปทำ
งานแน่ๆ!
“วันอะไรเหรอครับ นอร์สจำไม่ได้จริงๆ” วันนี้มันวันอะไร?
“อย่าบอกนะว่าทำงานจนเบลอจำไม่ได้แม้กระทั่งวันเกิดตัวเอง?” ไฟบอกผม อ๋อ!อย่างนี้นี่เองไอ้เราก็คิดว่าวันอะไรก็แค่วัน
เกิด............วันเกิด...วันเกิดเรา.....ห๊ะ!!!
“วันนี้วันเกิดนอร์สเหรอครับ”
“ก็ใช่ไงไฟก็เลยจะมาปลุกนอร์สให้ไปอาบน้ำแต่งตัวจะได้ไปใส่บาตรกันเพื่อรับสิริมงคลในวันเกิด” ไฟบอกผม จากนั้นผมจึง
ก้มหน้าลงไปสำรวจอีกฝ่ายที่ถูกผมกอดเอาไว้ด้วยชุดไปรเวทที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจะเหลือก็แต่ผมเท่านั้น
“งั้นเดี๋ยวไฟลงไปรอนอร์สข้างล่างก่อนก็ได้ครับเดี๋ยวนอร์สจะรีบอาบน้ำตามลงไป” ผมบอกอีกคน จากนั้นอีกฝ่ายจึงขอตัวลง
ไปจัดเตรียมอาหารสำหรับใส่บาตร
ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วตามลงไปสมทบกับอีกคนที่อยู่ข้างล่างแล้วก็เป็นจังหวะเดียวกับที่พระสงฆ์เดินมารับบิณฑบาต
พอดี
“ขอให้โยมทั้งสองประสบพบเจอแต่เรื่องดีๆในชีวิตนะ” หลวงพ่อให้พรผมกับไฟ เราทั้งคู่จึงรับพรของหลวงพ่อและหวังว่าพร
ที่ท่านให้นั้นจะเป็นจริง ก่อนที่ท่านจะเดินไปรับบิณฑบาตที่อื่นต่อไป
“อ๊ะ!” ผมเห็นไฟทำท่าเซเหมือนคนจะล้มจึงรีบเข้าไปประคอง
“เป็นอะไรรึเปล่าครับไฟ” ผมถามไฟเพราะวันนี้เห็นเจ้าตัวตื่นแต่เช้ากลัวว่าจะได้พักผ่อนน้อยและอาจจะเป็นลมเป็นแล้งไปได้
“ไม่เป็นอะไรหรอก ไฟแค่เวียนหัวนิดหน่อยน่ะ” ไฟบอกผมก่อนจะส่งยิ้มบางๆมาให้ว่าไม่เป็นอะไร ผมจึงพยักหน้ารับทั้งๆที่ก็
ยังไม่วางใจในอาการของอีกคน แต่ผมก็ไม่อยากให้ไฟคิดมากว่าผมไม่เชื่อใจในสิ่งที่อีกคนบอก
“งั้นเดี๋ยวไฟเข้าไปทำข้าวต้มทรงเครื่องของโปรดนอร์สดีกว่านะ” ไฟบอกผม ผมจึงช่วยอีกคนยกของเก็บเข้าบ้านก่อนจะ
อาสาขอเป็นลูกมือเชฟไฟในการทำอาหารเช้ามื้อนี้
“มีอะไรให้นอร์สช่วยบ้างครับที่รัก” ผมเดินเข้าไปหาอีกคนที่กำลังขมักเขม้นในการทำข้าวต้มก่อนจะกอดอีกฝ่ายจากด้าน
หลัง
“ช่วยไปนั่งรอไฟดีกว่าเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว ไปนั่งรอเป็นเด็กดีนะครับคุณสุดที่รัก” ไฟหันมาบอกผม ผมจึงยื่นมือไปบีบจมูกเล็กๆ
ของอีกฝ่ายอย่างหมันเขี้ยว จากนั้นจึงเดินไปนั่งรอข้าวต้มจากอีกคน
ผมเดินไปนั่งรออีกคนที่กำลังทำอาหารอยู่ที่หน้าบ้านก่อนจะหาขนมปังเพื่อมาทานรองท้องไว้เสียก่อน จากนั้นจึงหยิบรีโมท
ทีวีเพื่อปฺดหารายการยามเช้าที่น่าสนใจ แต่ก็เปิดหาได้ม่านอีกคนก็เดินเข้ามาตามผม
“ข้าวต้มเสร็จแล้วนะนอร์ส” ไฟเดินเข้ามาหาผมก่อนจะหยุดชะงักไป
“ไฟเป็นอะไรครับ!” ผมตกใจเพราะอีกคนที่หยุดยืนอยู่ตรงหน้าผมหน้าซีดราวกับไก่ต้มก่อนจะรีบวิ่งสุดตัวหายวับเข้าไปใน
ห้องน้ำ ผมจึงวิ่งตามเข้าไปดูอีกคนที่ตอนนี้โก่งคออาเจียนอย่างหนักจนทำให้ผมรู้สึกใจไม่ค่อยดีเท่าที่ควร
“ไปหาหมอไหมครับไฟ” ผมถามก่อนจะเข้าไปลูบหลังอีกคนที่ดูอาการจะดีขึ้นจากเมื่อครู่
“ไปหาทำไมล่ะหมอก็ในเมื่อมีหมอประจำตัวนั่งอยู่นี่ด้วยทั้งคน” ไฟหันมาขยิบตาบอกผม
“ยังจะมาทำเป็นเล่นอีกนะครับไฟ นอร์สว่าไฟควรจะไปหาหมอที่โรงพยาบาลนะครับ นอร์สรู้จักพี่หมอที่เก่งๆจะได้ให้พี่เขา
ช่วยตรวจดูอาการให้” ผมบอกไฟ แต่อีกคนกลับส่ายหน้าเป็นพัลวัน
“ไม่เอาอ่ะไฟไม่ถูกกับเข็มฉีดยาของหมอ นอร์สก็รู้อ่ะไฟไม่ไปนะ ไม่ไปนะๆๆๆๆๆ” ไฟจับที่ต้นแขนผมก่อนจะทำหน้าตาน่า
สงสาร เฮ้อ!รู้ว่าผมเป็นคนใจอ่อนยังจะมาทำหน้าเศร้าๆแบบนั้นอีกนะ!
“ก็ได้ครับ แต่ไฟต้องพักผ่อนเยอะๆนะครับ” ผมบอกอีกคน ส่วนคนที่ไม่ต้องถูกบังคับให้ไปหาหมอกลับดีใจตาโตราวกับเด็ก
ได้ของเล่นชิ้นใหม่
“รับทราบครับคุณแฟนสุดที่รัก” ไฟรีบรับปากผม จากนั้นผมจึงประคองอีกฝ่ายให้ค่อยๆเดินออกมาจากห้องน้ำไปนั่งพักที่โต๊ะ
ทานข้าว
“ทานเยอะๆนะครับจะได้หายไวๆ” ผมบอกก่อนจะยกจานข้าวต้มที่หอมฉุยไปวางไว้ตรงหน้าของอีกคนและวางไว้ที่ของผม
เอง
ผมและไฟชอบใช้เวลาไปกับการนั่งรับประทานข้าวและพูดคุยกันในเวลาทานข้าวเพราะผมว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน
ที่สุดจากเวลาทั้งหมดที่ผมต้องใช้มันไปกับการเข้าเวรและผ่าตัด
ติ๊งต่อง!!! เสียงออดดังขึ้นจากทางหน้าห้องพักผมจึงบอกอีกฝ่ายให้นั่งรออยู่กับที่เพราะอีกคนเตรียมที่จะลุกไปเปิดประตู
“อ้าว ป๊าม๊าสวัสดีครับ” ผมทักทายป๊ากับม๊าของไฟ ส่วนคนที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารคงจะได้ยินผมพูดถึงป๊ากับม๊าเจ้าตัวเลยรีบ
ปรี่เข้ามาหา
“น้องไฟคิดถึงม๊ากับป๊าที่สุดในโลกเลย” ไฟเข้าไปกอดม๊ากับป๊าเหมือนเด็กน้อยๆที่พลัดหลงกับผู้ปกครอง
“ไม่ต้องทำมาเป็นพูดว่าคิดถึงป๊ากับม๊าเลยนะ ถ้าเราคิดถึงแล้วจะไปแต่งงานกับนอร์สทำไม หย่าเลยดีไหมจะได้มาอยู่กับป๊า
กับม๊าแล้วน้องไฟจะได้หายคิดถึงดีหรือไม่ดี หืม?” ม๊าถามแหย่ไฟเล่นๆ ซึ่งอีกคนรีบส่ายหัวปฏิเสธทั้งๆที่หน้าเริ่มจะมีสีชมพูเรื่อๆ
เป็นริ้วๆที่ใบหน้ายิ่งทำให้อีกคนดูน่ารักเหมือนเด็กทั้งๆที่อายุก็มากกว่าผมถึงสองปี
“ป๊ากับม๊าเข้ามาในห้องก่อนนะน้องไฟมีเรื่องเล่าให้ป๊ากับม๊าฟังเยอะแยะเลย” ไฟว่าก่อนจะเดินคุยกะหนุงกะหนิงเข้าไปที่
ห้องนั่งเล่นกับม๊าทิ้งให้ผมกับป๊าได้แต่ยืนมองภาพของสองแม่ลูกที่คุยกันอย่างสนุกสนาน
“เป็นยังไงบ้างล่ะได้ข่าวว่าที่ทำงานใกล้กับคอนโดของเราเลยให้น้องไฟย้ายออกจากที่เก่าแล้วมาอยู่ด้วยกันที่นี่หนิ” ป๊าหัน
มาถามผม
“ก็...ทำนองนั้นครับเพราะผมคิดว่าบ้านหลังนั้นที่ทางครอบครัวให้ใช้เป็นเรือนหอผมคิดว่าจะเข้าไปอยู่กับไฟเมื่อเราทั้งคู่หมด
ภาระแล้วครับ” ผมหันไปตอบป๊า
ตามจริงแล้วผมมีบ้านอยู่อีกหลังที่ทางครอบครัวของผมกับครอบครัวของไฟลงมติให้ใช้เป็นเรือนหอเพื่อที่ผมกับไฟจะได้
ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน แต่ว่ามันค่อนข้างที่จะอยู่ไกลจากที่ทำงานของผม ผมจึงย้ายให้ไฟมาอยู่ด้วยกันที่คอนโดของผมซึ่งอยู่ใกล้กับ
ที่ทำงานมากกว่าที่บ้านหลังนั้น
“แล้วชีวิตเรากับน้องไฟเป็นยังไงกันบ้าง” ป๊าถามผมแต่คราวนี้สายตายังคงมองอยู่ที่ภาพของสองแม่ลูกคุยกันอย่างออกรส
“มีความสุขดีครับ ตอนนี้ไฟอยู่ว่างๆก็เลยขออาสาเป็นคนดูแลบ้านส่วนผมช่วงนี้ก็ค่อนข้างยุ่งๆกับเรื่องของงาน แต่เราก็
พยายามหาเวลาให้กันเสมอนะครับ” ผมบอกป๊า ซึ่งท่านก็หันมายิ้มให้ผมก่อนจะตบไหล่ผมอย่างให้กำลังใจ
“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีแล้วล่ะนะ รักกันให้มากๆเข้าไว้” ป๊าบอกผม
“ครับป๊า” ผมรับคำป๊าก่อนที่ป๊าจะเดินเข้าไปหาม๊ากับไฟ
“ทำอะไรกันอยู่เหรอม๊า” ป๊าเดินเข้าไปถามม๊าที่ตอนนี้เหมือนคุยเรื่องของกินกับไฟ งานถนัดของไฟเขาเลยหละครับไอ้
เรื่องกินเนี่ย!
“ก็...พูดเรื่องอาหารค่ำของวันนี้ไง ก็วันนี้เป็นวันเกิดของลูกเขยสุดหล่อไม่ใช่เหรอม๊าก็อยากจะเอาใจบ้างนะ” ม๊าบอกก่อนจะ
หันมามองหน้าผมยิ้มๆ ผมจึงพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าไปนั่งข้างๆไฟ ส่วนป๊าก็เดินไปนั่งข้างๆกันกับม๊า
“งั้น....นี่ของขวัญของป๊ากับม๊า” ป๊ากับม๊ายื่นกิ๊ฟท์วอชเชอร์ของที่พักในมัลดีฟส์ให้ผมกับไฟ
“ม๊ากับป๊าให้เราเอาไว้ใช้ฮันนีมูนกันหลังจากที่เราเคลียร์เรื่องงานและเรื่องส่วนตัวได้เข้าที่เข้าทางแล้ว แต่มีข้อแม้ว่าต้องใช้
ภายในปีนี้นะไม่งั้นมันจะหมดอายุซะก่อนเพราะม๊าเสียดาย ถ้าไม่ติดว่าเป็นน้องไฟนะ ม๊าจะเอาไปฮันนีมูนกับป๊ารอบที่สิบหกแล้ว
นะ” ม๊าบอกผมกับไฟซึ่งเจ้าตัวดูท่าจะชอบทะเลมากเพราะนัยน์ตานี่แวววับพริบพราวกันเลยทีเดียว
“มัลดีฟส์เลยเหรอม๊าทำไมม๊ามีแบบนี้แล้วไม่เคยเอามาบอกน้องไฟบ้างอ่ะ งอนม๊าแล้วนะ” ไฟว่าม๊าอย่างงอนๆ แต่เจ้าตัวก็ไม่
ได้งอนจริงงอนจังอะไรขนาดนั้น แต่งอนเพียงเพื่อต้องการที่คนทำให้งอนมาง้อก็เท่านั้นเอง ซึ่งนั่นก็เป็นผมด้วยที่อยู่ในกรณีนั้น
ของอีกคน
“จะมางอนม๊าไม่ได้นะน้องไฟก็ในเมื่อม๊าจะเก็บอันนี้เอาไว้ให้น้องไฟกับคนที่น้องไฟรักได้เอาไปใช้ด้วยกันไงล่ะ” ม๊าว่าก่อน
จะเอื้อมมือมาลูบหัวไฟอย่างรักใคร่เอ็นดู
“น้องไฟรักม๊าที่สุดในโลกเลย” ว่าจบเจ้าตัวก็กอดม๊าเสียแน่นจนทำให้ป๊าที่นั่งอยู่ข้างๆม๊าเอ่ยแซว
“น้อยๆหน่อยนะน้องไฟนี่เมียป๊านะ โน่นเรามีคนรักก็ไปกอดกับคนรักเราโน่น” ป๊าว่าก่อนที่อีกคนจะหันหน้ามามองผมเขินๆ
“กอดนอร์สก็ได้นะครับไฟ นอร์สไม่กัด” ผมบอกอีกคนยิ้มๆ แต่อีกคนกลับยู่หน้าใส่ ฮ่าๆๆๆเด็กจริงๆแฟนใครเนี่ย!!
“เออเกือบลืมไปเลย ม๊ากับป๊าเอามะม่วงที่สวนมาฝาก แต่ว่าตอนนี้มันยังเปรี้ยวๆอยู่เพราะว่ามันเพิ่งจะสุก แต่ว่าเราต้องรอให้
มันสุกก่อนนะเพราะมันอร่อยมาก ม๊ารับประกัน” ม๊าว่า ก่อนจะให้ป๊าเดินไปหยิบมะม่วงจากที่รถขึ้นมาให้ผมกับไฟที่ห้อง มะม่วงที่
สวนของบ้านไฟแต่ละลูกใหญ่มากราวกับคัดไซต์มาอย่างดี
“เป็นอะไรไปน้องไฟทำหน้าอย่างกับอยากที่จะกินซะขนาดนั้น” ม๊าหันไปถามเพราะอีกคนมองมะม่วงที่ป๊าเอาไปเก็บให้ไม่
วางตา
“ไม่รู้เหมือนกันอ่ะม๊า แต่ว่ามันน่ากินดีนะ ม๊าทำมะม่วงน้ำปลาหวานให้น้องไฟหน่อยสิ น้องไฟชอบกินฝีมือม๊าที่สุด” ไฟหันไป
พูดกับม๊าอ้อนๆ จากนั้นท่านจึงไปทำมาให้ ผมจึงได้อยู่กับไฟสองคน
“ไฟไม่สบายอยู่นะครับกินของแบบนั้นมันไม่ค่อยดีนะเดี๋ยวท้องก็เสียหรอก” ผมว่าอีกคน
“แต่ไฟอยากกินอ่ะนอร์สให้ไฟกินนะๆๆๆๆ” ไฟคล้องแขนผมก่อนจะทำหน้าอ้อนๆ เอ...วันนี้ไฟมาแปลกแฮะทุกทีไม่เคยอ้อน
หรือว่าไม่สบายแล้วการกระทำเปลี่ยน??
“ค่อยๆกินก็ได้น้องไฟเดี๋ยวก็ติดคอหรอก” ม๊าบอกไฟเพราะตอนนี้เจ้าตัวนั่งกินมะม่วงน้ำปลาหวานอย่างเอร็ดอร่อยราวกับ
อยากกินมานาน
“ก็น้องไฟอยากกินนี่หน่า” อีกคนตอบ แต่ก็ยังไม่หยุดกิน
“ปกติน้องไฟไม่ชอบกินของเปรี้ยวไม่ใช่เหรอ ทำอย่างกับเป็นคนท้องไปได้” ม๊าว่า แต่ว่าไฟจะท้องได้ยังไง??
“แล้วน้องไฟจะท้องได้ยังไงกันม๊า น้องไฟเป็นผู้ชายนะ” อีกคนบอกม๊าอย่างขบขัน แต่ว่า....ถ้ามันเป็นไปได้ล่ะจะทำยังไง
ผมนั่งคิดถึงอาการของอีกคนตั้งแต่เช้าเพราะเมื่อเช้าไฟดูหน้าซีดราวกับคนจะเป็นลม แถมยังอ้อนผมกับทุกคนอย่างที่ไม่
ค่อยจะได้อ้อนเท่าไรโดยเฉพาะผมเพราะไฟเป็นคนที่เขินมากเวลาจะอ้อนผมและที่สำคัญไม่ไม่ชอบของเปรี้ยวแต่กลับกินอย่าง
เอร็ดอร่อย??
“ตอนนี้เย็นแล้วม๊ากับป๊าขอตัวกลับก่อนนะนอร์ส น้องไฟ”
“ครับ เดี๋ยวผมไปส่งครับ” ผมเดินไปส่งป๊ากับม๊าแทนไฟที่ยังนั่งทานมะม่วงต่ออย่างเอร็ดอร่อย
“ไฟครับนอร์สว่าไฟหยุดกินเถอะเดี๋ยวท้องเสียนะครับ” ผมเดินเข้ามาหาอีกคนก่อนจะนั่งลงข้างๆและยึดจานมะม่วงไป
“อ่า ก็ได้ๆ” ไฟทำตามอย่างว่าง่าย
“เอ่อ...ไฟครับ” ผมเรียกไฟ จะบอกดีไม่ดีนะ? ผมชั่งใจอยู่ครู่ทั้งๆที่อีกคนมองหน้าผมเพื่อรอฟังผมต่อ
“ไฟครับคือนอร์สมีที่ตรวจครรภ์ที่ได้จากทางโรงพยาบาลมาคือ...นอร์ส
อยากจะให้ไฟลองใช้ดูน่ะครับ” ผมบอกอีกคนไป ไฟที่มองหน้าผมแปลกๆเหมือนกับสิ่งที่ผมพูดเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ซึ่งผมก็รู้
ว่าเรื่องนั้นมันเป็นไปไม่ได้ แต่ว่า......ถ้าลองสักหน่อยก็น่าจะดีไม่ใช่เหรอ?
“อืม ก็ได้อยู่ไหนล่ะ” ไฟยอมทำตาม ผมจึงรีบวิ่งไปหยิบที่ตรวจครรภ์มาให้อีกคน ก่อนจะประคองไฟไปเข้าห้องน้ำ
“โอ๊ย!!ตื่นเต้น” ผมว่าเพราะตอนนี้ไฟก็เข้าไปตรวจในห้องน้ำซึ่งก็ได้เวลาที่จะรู้ผลและไม่นานอีกคนก็เปิดประตูเดินออกมา
“เป็นยังไงบ้างครับไฟ ขีดเดียวหรือสองขีด” ผมถามอีกคน แต่หน้าของไฟกลับดูเหมือนคนตกใจกับอะไรบางอย่าง
หรือว่า.............
“สอง...สองขีด....ไฟท้องเหรอนอร์ส มันเป็นไปไม่ได้อ่ะ มันจะเป็นไปได้ยังไงอ่ะนอร์สไฟเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ แล้ว..แล้ว
ไหนจะลูกในท้องของไฟอีกอ่ะ ไฟเป็นผู้ชายนะร่างกายไฟมันไม่ได้มีมารองรับเด็กที่อยู่ในครรภ์นะ อึก” ไฟบอกผมราวกับคน
หวาดกลัว ผมจึงรวบตัวอีกคนมากอดปลอบให้กำลังใจ
“ไม่เป็นไรนะครับไฟ ไม่เป็นไรนะ” ผมบอก แต่อีกคนกลับร้องไห้หนักกว่าเดิม
“เป็นสิ!! ไฟเป็นแบบนี้นอร์สก็จะต้องทิ้งไฟไป ฮือๆๆ นอร์สจะทิ้งไฟใช่ไหม ฮึก ฮือๆ” ไฟพยายามจะผละออกจากผม แต่ผม
กลับกอดอีกฝ่ายแนนเพราะรู้ว่าสิ่งที่ไฟเป็นอยู่ตอนนี้มันมาจากการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย
“ไม่ครับ นอร์สจะไม่มีวันทิ้งไฟกับลูกไปแน่นอน นอร์สสัญญาว่าจะรักไฟและลูกนะครับ” ผมว่าอีกคนที่ร้องไห้อย่างหนักก็
สลบอยู่ในอ้อมแขนของผม
“นอรส นอร์ส” อืม เสียงใครมาเรียกอีกแล้วเนี่ย
“เลิกงานแล้วจะไม่กลับบ้านไปหาไฟเหรอ” ไฟ เอ๊ะ!เสียงไฟนี่หน่า
“อืม ก็นอร์สอยู่ที่-” ผมกำลังจะตอบว่าตอนนี้ผมก็อยู่บ้านกับไฟ แต่พอหันไปมองสิ่งที่อยู่รอบๆตัวก็เห็นอีกคนอยู่ให้ห้องพัก
แพทย์ที่โรงพยาบาล ผมจึงนั่งทบทวนเรื่องราวตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ที่ผมผ่าตัดเสร็จแล้วเข้ามาพัก จากนั้นก็.............ฝัน? ผมฝันเหรอ
เนี่ย?
“เป็นอะไรรึเปล่านอร์ส” ไฟถามผม
“เอ่อ...เปล่าครับ แต่ว่าไฟไม่ได้รู้สึกแปลกๆอะไรใช่ไหมครับ แบบเวียนหัว? อยากกินของเปรี้ยว?” ผมถามไฟ แต่อีกคนก็งง
กับสิ่งที่ผมพูดแต่ก็ยอมตอบผม
“ไม่นะ ไฟก็ปกติดี นอร์สนั่นแหละที่เป็นอะไรรึเปล่า” ไฟถามผมก่อนจะเดินเอามือเข้ามาอังหน้าผากผมไว้
“ตัวก็ไม่ร้อนนะ” ไฟว่า ผมจึงบอกอีกคว่าไม่เป็นไรไปอีกฝ่ายจึงเลิกคิดมาก
“เรากลับไปฉลองวันเกิดนอร์สที่บ้านเถอะครับ” ผมบอกอีกคนซึ่งอีกฝ่ายก็ยอมแต่โดยดี
“เอ...วันเกิดนอร์สปีนี้ไฟจะให้อะไรเป็นของขวัญนอร์สน้า” ผมแกล้งกระเซ้าเย้าแหย่อีกคน
“ไม่บอก!!” ว่าจบไฟก็รีบเดินหนีผมออกจากห้องไป
“เฮ้อ!!” ผมถอนหายใจกับการกระทำเด็กๆของอีกคน แต่จะว่าไปวันนี้ผมก็ได้ของขวัญที่ทำให้ผมรู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมา
ก่อน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ความฝันของผมเท่านั้นก็ตามที แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นความจริงและไม่ได้ฝันไป นั่นคือการที่ผมได้อยู่
กับคนที่ผมรักอย่างไฟ แค่นี้ก็เป็นของขวัญวันเกิดที่ยิ่งใหญ่สำหรับผมแล้ว
ตอนพิเศษมาแล้วนะคะและงานมโนของหมอนอร์สก็มาเช่นเดียวกัน 55555 ไว้เจอกันกับตอนพิเศษตอนหน้านะคะ
อัพพร้อมจอมใจเช่นเดียวกันจร้าา