บทที่ 10
“ ไอ้เมืองมีอะไรกินบ้างวะ ” ภาคที่เปิดประตูห้องเข้ามาด้วยอาการเหนื่อยล้าจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่พูดพร้อมกับทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างหมดสภาพ
“ คุณภาคทำไมพึ่งกลับห้องล่ะครับ ” เสียงที่ตอบกลับมาทำให้ภาคขมวดคิ้วมุ่นเพราะไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอนที่น้องชายของเขาจะเรียกเขาว่าคุณนอกซะจาก...
“ ตาวตาว ” ภาคลืมตามองคนที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากเขามากนัก
“ อืมผมเอง ” ตาวพยักหน้ารับ
“ มาได้ไงวะ ” ภาคพึมพำกับตัวเองแต่คงจะดังไปจึงทำให้เมืองที่พึ่งเดินออกมาจากห้องนอนได้ยิน
“ กูพามาเอง ” เมืองตอบ
“ หืม อะไรยังไง คบกันแล้ว? ”
“ ก็ไม่เชิง ”
“ ไม่เคลียร์ ” ภาคส่ายหัวก่อนจะหันไปมองที่ร่างเล็กๆของตาว “ ยังไงครับคุณตาวตาวมาห้องน้องผมบ่อยขนาดนี้เป็นไรกับมันหรอ ” ภาคเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกวนประสาท จนเมืองอยากจะตบกะโหลกเข้าให้สักทีถ้าไม่ติดว่าเขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าตาวจะตอบคำถามนี้ของพี่ชายเขาว่าอย่างไร
“ เราคุยๆกันอยู่ครับ ”
“ ตอบดาราสัส ”
“ คุณภาคเป็นดาราเหรอครับถึงรู้ว่าแบบนี้คือตอบเป็นดารา ” ตาวย้อนถาม
“ อ่ะยอกย้อนกูอีก เออกูย๊อม ” ภาคยกมือขึ้นอย่างยอมแพ้ “ มองจิกกัดกูขนาดนั้นก็เดินเอามีดมาแทงกูให้จบๆเถอะ ”
“ ได้เหรอครับ ”
“ กูก็ประชดไหมล่ะบางที ” ภาคว่า “ เฮ้อ ขี้เกียจเถียงกับมึงละกูเหนื่อยขอนอนก่อนละกันไว้มีแรงแล้วจะมาสู้ใหม่นะ ฝันดี ” ว่าพร้อมกับเอนหัวลงนอนราบบนโซฟาไปหน้าตาเฉย
“ สัสภาคเข้าไปนอนในห้องมึงดีๆ ” เมืองยกเท้าขึ้นเขี่ยขาของพี่ชายตนเอง
“ พอแล้วครับคุณเมือง ” ตาวร้องห้ามเพราะดูจากสภาพของภาคแล้วคงจะหลับลึกเป็นตายไปแล้วล่ะ “ ดูคุณภาคล้าๆปลุกยังไงก็คงไม่มีแรงลุกแล้วล่ะครับ ”
“ ถ้าคุณยายรู้นะมันโดนบ่นเละแน่ๆ ”
“ ก็น่าบ่นนะครับไปเที่ยวยังไงกันกลับมาซะเช้าเลย ”
“ มันไม่ได้เที่ยวหรอก ”
“ ครับ? ” ตาวขมวดคิ้วอย่างสงสัยหากไม่ได้เที่ยวแล้วภาคไปทำอะไรกันถึงกลับซะเช้าแบบนี้
“ เรื่องเรียนมันนั่นแหละปีสุดท้ายแล้วก็แบบนี้ ” เมืองบ่นพร้อมกับส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจแต่สิ่งที่เมืองบอกเล่ามันยิ่งทำให้ตาวขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมก็ในเมื่อตัวเมืองเองก็เรียนปีสุดท้ายแล้วภาคจะยังเรียนปีสุดท้ายได้อย่างไรก็ในเมื่อภาคเป็นพี่ของเมือง
แม้ว่ามันจะดูเป็นไปได้เพราะขนาดตัวเมืองและตาวเองยังเรียนชั้นปีเดียวกันทั้งๆที่เมืองเป็นพี่และรหัสนักศึกษาของเมืองก็เป็นปีก่อนตาวแต่นั่นก็เป็นเพราะว่าเมืองไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศมา แล้วภาคล่ะทำไมกันต่อให้บอกว่าไปแลกเปลี่ยนมาเช่นกันแต่ก็ควรจะจบได้แล้วไม่ใช่หรือ รึว่าภาคติดเอฟหลายตัว บ้านนี้นี่อะไรกันชอบเรียนล้าหลังรึไงกันนะตาวได้แต่คิดแล้วก็สงสัยไม่กล้าจะเอ่ยปากถามออกไปเพราะกลัวจะเป็นการไม่เหมาะสมมากเกินไป
“ อ๋อครับ แล้วนี่คุณเมืองจะกินอะไรครับผมจะได้ทำถูก ”
“ กินมึงได้ป่ะ ”
“ คุณเมือง ” ตาวเบิกตากว้างแก้มเห่อแดง เมืองกล้าพูดแบบนั้นออกมาได้ยังไงลืมไปแล้วรึไงว่าเราไม่ได้อยู่กันเพียงแค่สองคน
“ อะไรล่ะ ไอ้ภาคมันไม่ได้ยินหรอกป่านนี้เฝ้าพระอินทร์ฝันเห็นนางเอกเอวีไปเป็นสิบละมั้ง ” เมืองว่าเมื่อโดนตาวขึ้นเสียงใส่
“ คนแบบคุณเมืองนี่มันจริงๆเลย ” ตาวส่ายหัว
“ คนแบบกูมันทำไมเหรอ ” เมืองเดินเข้าไปใกล้คนตัวเล็กพร้อมกับจ้องตาเหมือนแกล้ง “ คนแบบกูนี่มันหล่อกระชากใจเลยป่ะ ”
“ หลงตัวเอง ”
“ หลงไม่หลงไม่รู้ รู้แต่ว่ามีคนหวงจนร้องไห้ก็แล้วกัน ” เมืองยิ้มล้อ
“ ผะ ผมจะไปทำอาหารแล้ว ” ตาวรีบพูดแล้วเดินเข้าครัวไป
“ หึหึ ร้ายนะมึงไอ้น้องชาย ”
“ เหนื่อยก็นอนไปสัส อย่ามายุ่งเรื่องของคนมีคู่เค้า ”
“ อย่ามาแซะกู คนแบบกูเค้าเรียกอยู่หล่อๆคนเดียวให้คนเสียดายเล่นโว้ย มึงก็เหมือนกันไอ้เสือมีเรื่องต้องเคลียร์กับกูเยอะแน่มึง ”
“ เคลียร์เหี้ยไรล่ะกูไม่มีไรจะเคลียร์โว้ย กูจะไปช่วยตาวทำอาหาร ”
“ บอกตาวชงโกโก้กับขนมปังให้กูสักแผ่นด้วยนะ ”
“ มีสิทธิ์ไรมาใช้เมียกู ”
“ มึงได้เขาละเหรอทำมารียกเมีย หึ ไอ้กาก ”
“ ภาค ” เมืองเรียกพี่ชาย
“ ไร ” ภาคเงยหน้าขึ้นมามองน้องชายก่อนจะเจอเมืองแจกนิ้วกลางให้เต็มๆหน้าพร้อมกับคำพูดที่ไม่ออกเสียงแต่ดูออกว่าน้องชายของเขาด่าเขาว่าอะไร “ สัสเมืองกูพี่มึงนะโว้ยยยย ” ภาคร้องตะโกนไล่หลังเมืองที่วิ่งเข้าครัวไปอย่างอารมณ์ดี
*************************************************
เมืองที่ทิ้งระเบิดกวนประสาทไว้ให้พี่ชายแล้วกำลังยืนกอดอก สะโพกแกร่งพิงกับเคาน์เตอร์ครัวจ้องมองแผ่นหลังเล็กๆที่กำลังยุ่งกับการทำอาหารอยู่ สายตาของเขาจ้องมองคนตัวเล็กที่หยิบจับของในครัวที่คุณยายของเขาเป็นคนซื้อเข้ามาไว้ให้แต่เขาแทบไม่มีโอกาสจะได้ใช้เลยอย่างเพลินตา พอมามองแบบนี้เมืองถึงได้รู้ว่าตาวตัวเล็กกว่าเขามากแค่ไหน ตาวสูงเพียงแค่หน้าอกของเขา ไหล่แคบ และเป็นคนกระดูกเล็กจึงดูผอมมากแต่ผิวขาวละเอียดกลับทำให้ตาวดูน่ามองแบบที่เขาไม่รู้สึกเบื่อ มันก็อาจจะคล้ายกับคำพูดที่ว่า หากที่ไหนมี wifi คนเราก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ที่นั้นได้ไม่มีเบื่อ เขาก็คงเช่นกันหากที่ไหนมีตาวฟันธงได้เลยว่าเขาก็ไม่มีทางที่จะเบื่อเช่นกัน
เมืองตกหลุมรักตาวตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเค้าไม่คิดเลยว่าในชีวิตนี้เค้าจะรู้สึกจริงจังกับใคร เพื่อนหลายๆคนต่างเอาแต่ถามเขาว่าเปลี่ยนคนควงไปเรื่อยๆไม่ยอมคบกับใครเพื่ออะไร เขาตอบเพื่อนไปว่าเพราะเขายังไม่เจอคนที่ใช่ และพวกนั้นก็ถามเขาต่อว่าแล้วคนที่ใช่สำหรับเขาเป็นแบบไหน เขาจึงตอบออกไปว่าเป็นแบบคุณยายของเขา
คุณยายของเขาเป็นคนรักสัตว์...
ครั้งแรกที่เขาเจอตาวในวันที่แดดของประเทศไทยโคตรจะร้อนระอุต่างคนต่างเร่งรีบเพื่อไปยังที่เรียนแต่พอสัญญาณไฟเป็นสัญญาณสีเขียวสำหรับให้คนเดินรถทุกคันก็ต้องหยุดเพื่อให้ผู้คนมากมายได้เดินข้ามถนนไปก่อน เมืองที่พึ่งกลับมาเรียนที่เมืองไทยอีกครั้งหลังจากไปแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศมานั่งอยู่ในรถยนต์คันหรูของตัวเอง เคาะนิ้วมือกับพวงมาลัยรถอย่างร้อนใจเพราะกลัวว่าเขาอาจจะไปเข้าเรียนสายในคาบนี้ และสิ่งที่เขาเห็นในเสี่ยวห้าวินาทีก่อนที่สัญญาณไฟสีเขียวให้รถวิ่งได้จะมาถึง ร่างเล็กๆของใครคนหนึ่งในชุดเสื้อกราวน์ตัวสั้นสีขาวสะอาดตาก็วิ่งมาอุ้มลูกหมาตัวเล็กที่พลัดหลงมาจากที่ไหนก็ไม่รู้มันกำลังทำหน้ามึนงงอยู่กลางถนน ร่างเล็กๆนั้นโอบอุ้มลูกหมาตัวน้อยขึ้นมาแนบอกโดยไม่กลัวว่าเสื้อสีขาวของตนเองจะเปื้อนก่อนจะรีบวิ่งข้ามถนนไป
คุณยายของเขาเป็นคนอ่อนโยน...
ครั้งที่สองที่เขาเจอตาวคือวันที่เขาพาไอ้เจมส์เพื่อนของเขาไปหาน้องสาวที่คณะทันตแพทย์ศาสตร์ ร่างเล็กๆของผู้ชายในชุดกราวน์ตัวสั้นสีขาวสะอาดตาคนเดิมกำลังโอบอุ้มเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่กำลังร้องไห้งอแงซึ่งเขาเดาว่าน่าจะงอแงเรื่องมาหาหมอฟันเพราะอย่างที่ใครๆก็รู้กันว่า เด็กมักกลัวหมอฟัน ในช่วงที่เขาเดินผ่านตรงที่ร่างเล็กๆนั้นยืนอยู่เขาแอบเหลือบตามองมันเป็นช่วงจังหวะที่เด็กน้อยในอ้อมแขนกำลังดีดดิ้นและกรีดร้องจนแขนเล็กๆฟาดเข้ากับใบหน้าของคนตัวเล็กนั่นจนแว่นตาที่สวมใส่แทบหลุด คุณแม่ของเล็กน้อยอุทานอย่างตกใจก่อนจะขอโทษขอโพยกับร่างเล็กแต่น้ำเสียงที่เมืองได้ยินกลับมากลับมีแต่ความอ่อนโยนไม่มีแววโกรธเคืองเลยสักนิด คนตัวเล็กพูดว่าไม่เป็นไรครับคุณแม่พร้อมกับยิ้มให้หญิงวัยกลางคนพร้อมกับกอดปลอบและชวนเด็กตัวน้อยพูดคุยดูนั่นดูนี่และในครั้งนั้นก็เป็นครั้งที่ทำให้เขารู้ว่าผู้ชายตัวเล็กคนนั้นเรียนทันตแพทย์
เขาพยายามหาครั้งต่อไปเพื่อที่จะได้พบเจอกับตาวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆไม่ว่าจะด้วยความบังเอิญหรือตั้งใจ ต้องขอบคุณไอ้เจมส์ที่มีน้องเรียนที่คณะนี้มันจึงเป็นเรื่องง่ายขึ้นที่อีกไม่กี่วันต่อมาเขาก็ได้รู้ว่าคน คนนี้ชื่อ ตาว เพื่อนในกลุ่มต่างตาโตและประหลาดใจที่เห็นเขาเริ่มเปลี่ยนไปทำตัวเหมือนสตอกเกอร์แอบตามมองคน คนหนึ่งอยู่เป็นเดือนๆและชอบนั่งยิ้มเหมือนโรคจิตอยู่คนเดียว พวกมันแทบจะหามเขาไปโรงบาลบ้า หรือ ศาลทรงเจ้าสักทีเพราะลงความเห็นกันว่าเขาอาจถูกผีเข้า เขาได้แต่ยกนิ้วกลางให้พวกมันและบอกออกไปว่าผมไม่ได้บ้า
แต่เขา...
กำลังมีสิ่งที่เรียกว่า....ความรัก
พวกมันร้องคำว่าเหี้ยขึ้นพร้อมกันและเป็นไอ้เสือที่ถามขึ้นเป็นคนแรกว่าใครคนนั้นที่เหมือนคุณยายของมึงคือใครและก็เป็นไอ้เจมส์ผู้ที่รู้ทุกอย่างตั้งแต่ต้นตอบขึ้นมาว่า เขาชื่อ ตาว เป็นนักศึกษาทันตแพทย์ ที่อ่อนโยน รักสัตว์ และทำให้เสืออย่างเขาตกหลุมรักมาเกือบเดือน ในวันที่พวกมันรู้กันหลังเลิกเรียนมันตามเขาไปแอบดูตาวที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่มันคะยั้นคะยอให้เขาเดินเข้าไปหาตาว แต่เสือร้ายแบบเขาพอตกหลุมรักใครสักคนกลับรู้สึกเหมือนตัวหดเหลือเพียงแค่สองนิ้ว เขินอาย ใจสั่น และมีแต่คำว่าไม่กล้าผุดขึ้นมาในหัว และยิ่งพวกมันเห็นเขาประหม่าจนเหงื่อตกแบบนั้นพวกมันก็ยิ่งไซโครเขา สุดท้ายวันนั้นก็เป็นวันที่เขาเดินเข้าไป ขอเบอร์ตาว และทำความรู้จักกับตาวเป็นครั้งแรกจากคำยุยงของเพื่อนสนิท
“ คุณเมืองมาตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย ” ตาวที่ยกกระทะออกจากเตาพร้อมกับหันหลังมาเจอคนตัวสูงที่กอดอกพิงเคาน์เตอร์อยู่ถามขึ้น
“ สักพักแล้ว ” เมืองตอบ
“ อ่าวแล้วทำไมไม่ส่งเสียงเลยล่ะ ” ตาวว่าพร้อมกับก้มลงใช้ทัพพีค่อยๆตักไข่ดาวที่พึ่งทอดเสร็จลงใส่จานที่วางเตรียมเอาไว้แล้ว
“ ไอ้ภาคมันบอกว่าทำเผื่อมันด้วย ของมันเอาโกโก้ด้วยนะ ”
“ อืม ” ตาวตอบรับ “ คุณเมืองมาชิมกาแฟของคุณเมืองหน่อยสิครับ ผมไม่รู้ว่าคุณเมืองดื่มแบบไหนเลยเดาเอามาชิมหน่อยเร็ว ”
“ ชิมมึงก่อนได้ป่ะ ” เมืองว่าพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างค้ำยันกักตาวเอาไว้ในอ้อมแขน
“ จะบ้าเหรอ ” ตาวเบิกตาโพลง “ ไม่เอานะคุณเมือง อื้อ ” ริมฝีปากที่ฉกเข้ามาในช่วงที่ตาวกำลังร้องปฏิเสธมันทำให้ตาวเผลอยกมือขึ้นเกาะบ่าของคนตัวสูงเอาไว้เมื่อรู้ว่าตัวเองเริ่มจะทรงตัวไม่อยู่ คนชำนาญเกมส์รักค่อยๆจูบซับริมฝีปากบางอย่างอ้อยอิ่งก่อนจะค่อยๆสอดแทรกลิ้นของตนเองเข้าไปในโพรงปากของตาว ตาวกำเสื้อบริเวณบ่าของคนตัวสูงอย่างรู้สึกประหม่าร่างน้อยๆสั่นไหวจนเมืองสัมผัสได้ แขนแกร่งเปลี่ยนที่จากตอนแรกที่ใช้ค้ำเคาน์เตอร์ครัวมาเป็นกอดรอบๆเอวเล็กเอาไว้อย่างทะนุถนอม เรียวลิ้นของเมืองเกี่ยวกระหวัดลิ้นของตาวที่ยังคงลอกแลกไปมาเพราะความไร้ประสบการณ์มันไม่ได้ทำให้เมืองรู้สึกรำคาญหรือหงุดหงิดแต่มันกลับยิ่งทำให้เมืองยิ้มมุมปากอย่างพอใจกับความไม่ประสาของตาว
ตาวคือความบริสุทธิ์ที่เมืองโคตรจะหวงแหน...
ปึก!!
“ เชี่ย!! ” เสียงที่ดังขึ้นทำให้ตาวได้สติแล้วรีบผลักเมืองออกก่อนจะหน้าเห่อแดงเข้าไปใหญ่เมื่อเจอภาคผู้ที่เป็นเจ้าของเสียงร้อง
“ คือกูคอแห้ง เลยมาหาน้ำแดก ”
“ ….. ”
“ ละ แล้วคือแบบกูเดินไม่ระวังเลยเผลอเดินเตะเคาน์เตอร์ กูไม่เห็นอะไรเลยนะเว้ย กูไม่ได้เผลอมองอย่างอื่นจนลืมมองทางเลยสักนิดจริงๆนะเว้ยตาว ” ภาคพูดแก้ตัวมันยิ่งทำให้ตาวกัดริมฝีปากของตนเองแน่นมากขึ้น
“ ไอ้ภาค! ” เมืองร้องเสียงดุใส่พี่ชายของตนเองเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กข้างๆทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เพราะเขินจัด
“ เออๆกูไปก็ได้ เชิญพวกมึงกินไส้กรอกกัน เอ้ย กินไข่ ”
“ ภาคอย่ากวนตีน ”
“ ไข่ดาวไงไข่ดาว โด่วคิดไรว๊า ”
“ ถ้ามึงยังไม่ออกไปกูจะโทรฟ้องแม่เรื่องที่มึงหนีเที่ยวหายหัวหนีเข้าป่าเป็นอาทิตย์แถมออกมายังเป็นไข้เกือบตายแน่ ”
“ สัสเมืองนี่มึงเล่นแม่เลยเหรอวะ ”
“ เออ มึงจะทำไม ”
“ เออๆกูไปก็ได้ แต่อย่าทำกันนานนะเว้ยกูหิว ” ภาคว่าก่อนจะเดินเข้าไปกระซิบข้างๆตาวว่า “ ตาวตาวก็ออมๆแรงหน่อยนะครับช่วงนี้น้องชายพี่มันห่างหายฟิตเนสไปนานอาจจะเหนื่อยง่าย ไว้ชีวิตมันหน่อยนะ ”
“ ไอ้เหี้ยภาค!!!! ” เมืองร้องตามไล่หลังผู้เป็นพี่ชายที่วิ่งหนีออกจากห้องครัวไปอย่างอารมณ์ดี
“ …… ”
“ อย่าไปใส่ใจคำพูดมันมากเลยไอ้ภาคมันก็เป็นแบบนี้แหละมันแกล้งมึงขำๆ ” ภาคหันมาบอกคนตัวเล็กที่กัดริมฝีปากตัวเองแน่นดวงตาสั่นไหว
“ ผมรู้สึกไม่ดีเลย มันดูไม่เหมาะที่มายืนจูบกับผู้ชายในห้องครัวให้คนอื่นเห็น ” ตาวบอก
“ คนอื่นที่ไหนกันนั่นไอ้ภาคนะมันเป็นพี่ชายเมืองก็เหมือนพี่ชายของตาวเราเป็นครอบครัวด้วยกันไง ”
“ แต่คุณภาคคงไม่อยากได้ผมเป็นน้อง ” ว่าพร้อมกับน้ำตาหยดเล็กที่ร่วงแหมะลงมา ริมฝีปากเล็กเบะออกราวกลับเด็กน้อยวัยอนุบาล
“ ใครบอกล่ะมันชอบตาวจะตาย ” เมืองว่าพร้อมกับยกมือปาดน้ำตาออกให้เด็กน้อยของเขา
“ ก็คุณภาคชอบแกล้งผม ”
“ งั้นเดี๋ยวกูพาแกล้งมันคืนดีไหม ”
“ ยังไงครับ ”
“ แก้วโกโก้มันอยู่ไหน ” เมืองถาม
“ นี่ครับ ” ตาวว่าพร้อมกับเลื่อนแก้วเปล่ามาให้เมือง
“ มึงอยู่เฉยๆเดี๋ยวกูจะชงให้มันเอง ” เมืองว่าพร้อมกับหยิบกระปุกผงโกโก้ขึ้นมาตักใส่พร้อมด้วยนมและน้ำตาล
“ เดี๋ยวครับคุณเมืองนั่นกระปุกกาแฟนะ ” ตาวแตะมือคนตัวสูงเมื่อเห็นเมืองกำลังจะตักผงกาแฟลงไปในแก้วของภาค
“ ก็เออดิ ”
“ ทำแบบนี้คุณภาคก็นอนไม่หลับกันพอดีสิครับยิ่งพึ่งกลับมาห้องท่าทางเหมือนคนไม่ได้นอนอยู่แล้วด้วย ”
“ ก็ดีไงให้แม่งตาค้างไปเลยอยากแกล้งมึงดีนัก ”
“ คุณเมืองเจ้าเล่ห์ ” ตาวตีแขนคนตัวสูง
“ แล้วชอบไหมล่ะ ”
“ ..... ” ตาวหลุบตาต่ำไม่สบตาของเมือง
“ ไม่ตอบแปลว่าชอบ ” เมืองพูดพร้อมกับยิ้ม
“ นี่!! ”
“ ขึ้นเสียงแปลว่ารักมาก ”
“ คนบ้า!! ผมไม่คุยด้วยแล้ว ” ตาวว่าพร้อมกับรีบเดินออกไปจากห้องครัว
“ บ้าก็บ้ารักมึงนะตาว!!! ”
****************************************
RIP อิพี่ภาค 5555555
อิพี่เมืองก็หยอดได้หยอดดี หยอดจนน้องเขิไปหมดแล้ว
มีช่องทางการติดตามละเด้อเย้!!!! ปิ้วๆๆๆ
สามารถติดตามเราได้ที่ทวิตเตอร์ @BeliefQz ทวิตเตอร์นี่จะเอาไว้แจ้งอัพเดตนิยาย และอะไรต่างๆทุกอย่างเกี่ยวกับนิยายเด้อ
ส่วนใครอยากจะหวี๊ดนิยายก็หวี๊ดได้ที่ #วิศวกาม #เมืองตาว แท็กไหนก็ได้เดี๋ยวเราจะตามไปส่องแล้วรีทวิต อุอิ
สุดท้ายนี้ ระนะ