All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 25
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 25  (อ่าน 4546 ครั้ง)

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม








ตอนที่  1_จุดเริ่มต้น...

“เฮ้ย..นุ..ปีนี้มึงจะไปช่วยดูน้องหลีดที่คณะป่าววะ...”  เสียงไอ้กิ๋วถามผมตอนกำลังเดินลงมาจากตึกที่คณะ
“กูว่าจะไม่แล้วว่ะ...ปีสามแล้ว...อีกอย่างจะฝึกสอนแล้วด้วยขี้เกียจว่ะ...”  ผมตอบแล้วเดินต่อ   ไอ้กิ๋ววิ่งอ้อมมาดักผมด้านหน้า...ผมเองก็มองมันแบบงงๆประมาณว่า...อะไรของมึงวะเนี่ย
“ได้ไงว๊า...มึงไม่ไปช่วยดู....แล้วน้องที่คณะมันจะทำไงอ่ะ...มือใหม่กันทั้งนั้น...น่านะ...ไปดูพวกมันซักนิดนึงก็ได้น่า....เย็นนี้ไปด้วยกัน..” ไอ้กิ๋วยังคงเซ้าซี้ต่อ
“อะไรของมึงวะเนี่ย...ร้อยวันพันปีไม่เห็นมึงจะสนใจเลยหลีดเนี่ย..เอางี้..คำเดียว...บอกมาตรงๆ”
“ครือว่า....กูอยากไปดูหน้าน้องใหม่ๆอ่ะ...เห็นมันบอกกันว่าน้องผู้หญิงน่ารักๆเพียบเลย...”
“น่านไง...กูว่าแล้ว..เออๆแค่ไปดูเฉยๆนะเว้ย..แต่เรื่องอื่นกูไม่ยุ่งนะ..ไม่อยากเหนื่อยว่ะ...เครียดมากๆหน้ากูโทรมหมด” 
“ก็แค่น๊านแหละ...นึกแล้วก็ตื่นเต้นว่ะ..อยากเห๊นอยากเห็น...” ไอ้กิ๋วพูดแล้วทำหน้ากระดี๊กระด๊า
“เออ...แค่ดูนะเมิง..อย่าได้คิดอย่างอื่น...ไม่งั้นกูจะโทรบออกไอ้นิ่มนะเว้ย..ขอบอก...”  ผมพูดปุ๊บไอ้กิ๋วเอานิ้วมือทำจุ๊ๆปั๊บ...เฮ้อ....เพื่อนกรู...

   ห้าโมงเย็นผมกับไอ้กิ๋วเดินมาที่หน้าคณะนั่งรออยู่ที่ม้าหินอ่อน...คุยกันซักพักน้องๆปีสองปีสามก็เริ่มเดินเข้ามาหามาทักทายตามประสาแล้วก็นั่งลงเม้าท์ต่อกันอีกซักพัก
“เป็นไงปอย...น้องปีนี้...โอเคมั้ยล่ะ...”  ผมถามน้องปอยเป็นหลีดปีสองที่นั่งอยู่ข้างๆผม...ปอยเป็นเด็กผู้หญิงเชื้อสายจีนผิวขาวหน้าหมวยมีเขี้ยวหน้าตาน่ารักดีที่สำคัญเต้นเก่งมาก...เต้นน้ำไหลไฟดับ...
“โห..พี่นุ...กว่าจะหามาได้นะ...กวาดมาจนจะหมดเอกปอยกะเอกพี่นุแล้วเนี่ย...” ปอยบ่น
“พี่เห็นแว่บๆน่ารักทั้งนั้นเลยนี่หว่า...”  ไอ้กิ๋วพูดแทรกเข้ามาทำเอาเจ้าอิ่มซัดเพี๊ยะที่แขนไอ้กิ๋ว...อิ่มเป็นเพื่อนกับปอยเรียนอยู่เอกเดียวกัน...อิ่มเป็นเด็กน่ารักแบ๊วๆออกจะเอ๋อๆเพราะชอบเออเร่อตลอดเวลาซ้อม...                                       
“แหม!พี่กิ๋ว....ตางี้เป็นประกายวิ๊งๆเลยนะ..คอยดูนะหนูจะฟ้องพี่นิ่ม...” 
“โห...พูดกันจริงชื่อนี้..เมื่อกี้ไอ้นุก็ทีนึงแล้ว...กิ๊กๆกั๊กๆน่าอย่าคิดมาก...”               
“แล้วพี่นุจะไม่มาช่วยซ้อมจริงๆเหรอปีนี้อ่ะ...”  ปอยถามเสียงอ่อยๆ
“เหนื่อยอ่ะปอย...ขอพี่ดูอยู่ห่างๆดีกว่าอ่ะ...มีอะไรก็มาปรึกษาละกันแต่ถ้าจะให้ช่วยเต็มๆตัวเหมือนเมื่อก่อนอ่ะ...ไม่เอาแล้ว...เหนื่อยว่ะ...เครียดด้วย..”
“ปอยเอ้ยยยย....อ้อนไอ้นุมันดีๆเดี๋ยวมันก็ใจอ๊อนนนน...เชื่อดิ..” ไอ้กิ๋วแทรกเข้ามาอีก
“น่า..นะๆๆๆๆ...”  ได้เรื่องเลยปอยกับอิ่มเกาะแขนผมคนละข้างอ้อนวอนใหญ่
“นึกว่าช่วยน้องช่วยนุ่งน๊าพี่นุนะ....” อิ่มพูด
“งั้นเดี๋ยววันนี้พี่นุลองดูน้องๆหน่อยละกันว่าเวิร์คมั้ย...พอดีซ้อมมาได้สองสามวันแล้วอ่ะ..พี่นุช่วยดูๆให้ปอยหน่อยนะว่าควรปรับตรงไหนบ้าง...”  ปอยหันมาบอกผมแล้วดึงแขนอิ่มลุกไปที่สนามหญ้าเรียกน้องๆมาเข้าแถว  ผมก็กวาดสายตามองไปทั่วๆ....ดูๆแล้วปีนี้มาน้องหลีดเยอะเหมือนกันเว้ย...ผู้ชายพอๆกับผู้หญิงเลยซึ่งแตกต่างจากทุกปีที่จะมีผู้ชายน้อยมาก...ดูไปดูมาเริ่มรู้สึกเหมือนที่ไอ้กิ๋วบอกคือมีน้องๆหน้าตาดีหลายคนแฮะ....

ผมเห็นปอยกับอิ่มพูดอะไรกับน้องๆซักสองสามคำแล้วหันมากวักมือเรียกไอ้กิ๋ว  ไอ้นั่นก็แบบว่าพร้อมอยู่แล้วอ่ะครับพุ่งไปอย่างกะจรวด...ระริกระรี้เชียวมันอ่ะ...
“สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ...” น้องๆหลีดที่นั่งอยู่ยกมือไหว้...
“สวัสดีน้องๆทุกคนนะ...เป็นไง...ซ้อมกันมาได้2-3วันแล้วเป็นไงบ้าง...เห็นพี่ปอยกับพี่อิ่มบอกว่ายังเหยาะแหยะๆกันอยู่...วันนี้...พี่มีเพื่อนมาด้วยคนหนึ่ง...เป็นรุ่นพี่ในคณะนี่แหละ...”
“พี่เค้าช่วยสอนพี่สองคนมา....อยากบอกว่า...โหดมากกกก...” อิ่มบอก...น้องๆก็เริ่มหันมามองผมละ
“เอ๊า...ไอ้นุ..มาคุยกะน้องๆหน่อย...เร็วๆเลยมึงอย่าลีลา...” ไอ้กิ๋วตะโกนเรียก...ผมก็...เอาวะ...ไม่ลุกไม่ได้แล้วเดี๋ยวเสียฟอร์มหมด...ผมเดินไปคุยกันน้องๆได้นิดหน่อยแล้วก็ปล่อยให้ปอยกับอิ่มซ้อมน้องๆต่อไปกันก่อน...ผมกับไอ้กิ๋วนั่งดูอยู่ห่างๆพร้อมกับอาการหื่นๆของไอ้กิ๋ว...สักพักปอยเดินมาหาผม..
“พี่นุ...เดี๋ยวปอยจะให้น้องมาสอบกับพี่นุนะ...พี่นุดูให้หน่อย...มันไม่กลัวปอยเลยอ่ะ...” ปอยบ่น
“โห...หมดนี่อ่ะนะ...จะได้กลับกันกี่ทุ่มอ่ะปอย..”  ผมบอก
“เอางี๊...เดี๋ยวพี่ดูน้องผู้หญิงเอง...ส่วนไอ้นุ..มึงดูน้องผู้ชาย...” ไอ้กิ๋วหันมาบอกผมแล้วรีบลุกไปเรียกน้องหลีดผู้หญิงด้วยความไวแสง...เดี๋ยวเดียวน้องผู้ชายก็เดินมาหาผมแล้วพร้อมกับปอยมานั่งอยู่ข้างๆผม...ส่วนอิ่มไปคุมอยู่กับไอ้กิ๋ว
“อย่างพวกแกเนี่ยต้องเจอของจริง...เอ๊า..นั่งลง...เดี๋ยวออกมาทีละคน”  เสียงปอยตวาดแว๊ดๆ ผมมองไปทั่วๆแล้วก็รู้สึกว่า..นี่หลีดคณะกูเหรอวะเนี่ย...มีผู้ชายอยู่ประมาณสิบคน...แต่ที่ดูได้จริงๆนี่...เอ่อ...คือว่ามีไม่ถึงห้าคนเลยเว้ย...ที่เหลือหน้าเหี้ยหมดมีตั้งแต่เหี้ยน้อยจนถึงเหี้ยปานกลางเลย...
“เอ๊า!!!แก...ไอ้หนึ่ง...กะไอ้เดี่ยว...ออกมา....”  เสียงปอยตวาดเรียกน้องแต่ละคนออกมาสอบ...ดีบ้าง...มั่วบ้าง...หุหุหุ..
ไอ้หนึ่งนี่หน้าตาหล่อแต่ท่าทางเอาเรื่อง...คิ้วเข้ม...ขาว..หุ่นล่ำ..ไอ้เดี่ยวนี่หน้าเสี่ยวๆหุ่นคล้ายๆหมีแต่ท่าทางแข็งแรงแต่สาวแตกเชียว....ปอยยังเรียกต่อไปเรื่อยๆ...ไอ้แซ๊ก...ไอ้เอก...ไอ้วุ้น...ผมก็บอกนั่น..ตินี่ไปเรื่อย...จนมาคนต่อมา...                   
“ไอ้เจมส์....แกลุกมาเลยเร็วๆ...” ปอยเรียกชื่อ  ส่วนไอ้เจ้าของชื่อพอเดินออกมาปั๊บ...ผมก็เฮ้ย...แม่งตัวสูงมาก   มากกว่าทุกคนในรุ่นเลย...หุ่นแม่งสูงล่ำอย่างกะนักบาสเลย...ผมยังคิดอยู่เลยว่าจะจัดโซนเต้นยังไง...จะต่อตัวยังไงได้วะเนี่ย...เพราะเจมส์มันสูงโด่อยู่คนเดียวเลยในขณะที่คนอื่นเค้าตัวเท่าๆกันสามารถจับกันเป็นคู่ๆได้พอดี...ไอ้เจมส์ทำท่าพื้นฐานไปได้ซักพัก...ผมก็เริ่มหงุดหงิดเพราะไม่รู้ว่ามันไม่ได้จริงหรือมันแกล้งกันแน่...ผมก็เลยต้องเดินไปดูมันใกล้ๆ...พอไปใกล้ๆมัน  ผมว่าผมตัวสูงแล้วนะแต่ปรากฏว่าผมเองยังสูงแค่คอมันเอง.......
ตลอดช่วงที่ผมยืนบอกเจมส์มันใกล้ๆนั้นผมสังเกตได้ว่าเจมส์มันจะก้มมองผมตลอดจนผมรู้สึกได้...มองจนผมเริ่มจะเขินละ...ไม่รู้มันจะมองทำไม....โดยผมเองต้องเป็นฝ่ายถอยออกมายืนไกลๆจากมันซะเอง(หรือกลัวใจตัวเองหว่า...555)...ตกลงมึงมองกูนี่เพราะอะไรเนี่ย...มองเพราะจู้จี้หรือเลื่อมใสหรือยังไงวะ...งงๆ...หลังจากเจ้าเจมส์ก็ดูที่เหลือสอบต่อไปอีกเรื่อยๆจนครบ...ก็ถึงเวลาเบรกพักกินข้าว...
“เดี๋ยวไปกินข้าวกันพี่นุ...ไปร้านหลังมอเนี่ย...อิ่มมันบอกอร่อย..” ปอยเดินเข้ามาบอกผม...ผมก็เออๆออๆตาก็มองไปที่น้องๆแต่ละคน...ได้ยินมันแซวกันแว่วๆเข้าหูว่าเจ้าเจมส์มันกำลังตามจีบเมย์อยู่....เมย์นี่ก็เป็นหลีดที่อยู่เอกเดียวกะมันเหมือนกัน..มันเลยตามมาเป็นหลีดด้วยผมได้ยินก็..นะ..ไม่ได้รู้สึกยังไงแต่เหมือนกับวิ๊งๆยังไงไม่รู้แฮะ...แต่ก็ทิ้งไว้ตรงนั้นไม่ได้สนใจอะไรต่อ..
“เดี๋ยวกู...พาน้องขึ้นรถกูไปก็ได้..ประหยัดดี...แต่เอาเฉพาะน้องผู้หญิงนะเว้ย...” ไอ้กิ๋วเดินมาบอกแล้ว สตารท์รถขับออกไป...
ผมกับปอยและอิ่มก็เดินไปที่รถมอ’ไซด์ของตัวเองเตรียมตัวออกไปเหมือนกันสายตาก็เหลือบไปเห็นร่างสูงๆเดินอยู่หน้าตึก....ปอยกับอิ่มเลยขับไปจอดข้างๆ
“อ้าว..เจมส์ทำไมเดินไปล่ะ...รถไม่พอเหรอ?...”  อิ่มถาม...เจมส์มันก็ส่ายหน้า
“งั้นไปกับพี่นุไป๊...พี่นุเค้าไปคนเดียวน่ะ...” ปอยบอก
“พี่นุ...เอาไอ้เจมส์ไปด้วยนะ...มันไม่มีรถไป...” อิ่มหันมาตะโกนบอกผมแล้วรีบบึ่งออกไปเร็วจี๋   ผมก็เลยขับไปจอดตรงที่เจ้าเจมส์มันยืนรออยู่
“เจมส์ขับละกัน...” ผมลงจากรถให้เจมส์มันขับแทน  พอไปถึงร้านข้าวแต่ละคนก็พยายามสั่งอะไรที่มันเหมือนๆ กันเพื่อที่จะได้เร็วๆเพราะแต่ละคนนั้นหิวมากกกกกก....พอกินกันเรียบร้อยก็กลับมาซ้อมต่อที่เดิม...ระหว่างรอให้ครบแต่ละคนก็พักผ่อนกันตามอัธยาศัย...ผมก็นั่งรวมกลุ่มอยู่กับปอย  อิ่มแถมยังมีเจ้าเจมส์มานั่งรวมกลุ่มอยู่ด้วยแถมยังแอบมองผมเป็นระยะๆอีก...มันให้เหตุผลว่าไม่รู้จะคุยกับใคร...เมย์ก็ยังไม่มา...
   หลังจากมากับครบแล้วก็ซ้อมกันอีกซักพักแล้วจึงปล่อยน้องๆกลับบ้านกัน..สรุปว่าวันแรกของผมกับน้องๆก็ไม่เลวนะ...แต่ว่าผมจะยังไงดีละเนี่ย...คิดจะรับภาระอันใหญ่หลวงอีกแล้วเหรอเนี่ย...
“เป็นไงวะ...พอเจอน้องแล้วอ่ะ..” ไอ้กิ๋วถามผมระหว่างที่พวกเรานั่งรอส่งน้องๆกลับบ้าน
“ก็ดี...”  ผมตอบสั้นๆ
“พี่นู๊....นะๆๆ...ช่วยหน่อยเหอะน๊า...ไม่งั้นปอยตายแน่เลย...”  ปอยพูด
“นั่นดินะ...รับรองหนูจะไม่ให้พี่นุเหนื่อยเด็ดขาด..” อิ่มพูดแล้วชูมือสองนิ้ว
“น่าไอ้นุ...ช่วยๆน้องมันไปเหอะ...ดีออก...ปีนี้มีน้องเยอะ..เราก็พาน้องไปเก็บตัวชายทะเลกันได้เลยเนี่ย”
ไอ้กิ๋วบอก  ปอยกับอิ่มทำท่าเห็นด้วยทันที
“เออๆ...ก็ได้วะ..แต่ถ้าปัญหามันเยอะนักก็ไม่เอาเลยนะเว้ย..บอกไว้ก่อน...”  ผมบอก.....เฮ้ออออ....งานเข้าอีกแล้วผม....กรรมจริงๆ!!!!!

(ติดตามตอนที่ 2)
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-05-2017 17:24:13 โดย monkey1990 »

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่  2_เมารัก...

“ไอ้เจมส์....แกจะเดินตามเมย์ทำไมนักหนาวะ...เมย์มันรำคาญนะเว้ย...”  เสียงของออยเพื่อนเมย์ที่เป็นหลีดเหมือนกันตวาดเจ้าเจมส์แว่ดๆตอนเดินมาที่หน้าคณะ...ผมกับไอ้กิ๋วหันไปมองตามต้นเสียงก็เห็นเมย์เดินมาก่อนตามด้วยไอ้เจมส์ที่ตอนนี้ออยยืนขวางไว้อยู่..ดูแล้วเมย์คงรำคาญอ่ะครับแต่ไม่กล้าพูดเลยให้ออยจัดการแทน...ผมเดาเอานะ...
“มันเรื่องอะไรของแกวะออย...เราตามเมย์ไม่ได้ตามแก...” ไอ้เจมส์เถียง  ผมเห็นออยยืนท้าวเอวละ
“ชั้นก็รู้ว่าแกน่ะไม่ได้ตามชั้น...ต้องให้บอกกี่ครั้งวะว่าเมย์มันรำคาญ...แต่มันไม่อยากพูดเอง..เข้าใจ๊”
“ไม่เข้าใจ...ถ้าเมย์มาบอกเองเราถึงจะหยุด...แกไม่ต้องมายุ่ง..”
“เอ๊อออ...สาธู๊!!!...ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา...เช๊อะ...” ออยสะบัดหน้าเดินไปนั่งข้างๆเมย์ ส่วนเจ้าเจมส์เดินมานั่งโต๊ะเดียวกับที่ผมกะไอ้กิ๋วนั่งอยู่
“สรุปว่าชอบเมย์เค้าใช่ป่าววะ...” ไอ้กิ๋วถามทันทีที่ไอ้เจมส์นั่งลง
“ก็ชอบอ่ะพี่กิ๋ว...ชอบมาตั้งแต่วันรับน้องแล้ว...” 
“เห็นออยมันบอกพี่ว่าเมย์มันมีแฟนแล้วนี่...” ไอ้กิ๋วถามต่อ
“ไม่มี๊พี่...มีที่ไหนผมยังไม่เคยเห็นเลย...”
“ตามเค้าต้อยๆแบบนี้ไม่กลัวเค้ารำคาญเหรอวะ...ตอนเรียนก็ชอบไปนั่งข้างๆเค้านี่หว่า...”
“โห..พี่กิ๋ว...ทำไมข้อมูลแน่นนักว๊า...ไอ้ออยบอกอีกอ่ะดิ..” ไอ้เจมส์ทำหน้าเซ็ง
“เมย์มันเป็นคนไม่พูด...ออยมันคงพูดแทนอ่ะ...คนเค้ามีแฟนแล้วอย่าไปยุ่งกับเค้าเล้ย...” ไอ้กิ๋วพูด
“นี่พี่กิ๋วพูดแทนเมย์หรือไอ้ออยให้พี่มาพูดเนี่ย...ถ้าผมไม่เห็นกะตาว่าเมย์มีแฟนแล้วนะผมไม่เลิกหรอก”
“แล้วถ้าถึงตอนนั้นเห็นเมย์เค้ามีแฟนกับตา...แล้วเราจะทำยังไง...” ผมถามบ้างหลังจากฟังอยู่นาน
“ผมก็คงอึ้งนะ...แต่ก็ไม่เป็นไร...เพราะตอนนี้ผมก็เริ่มมองๆคนอื่นอยู่ไว้เหมือนกัน...” ไอ้เจมส์ตอบแล้วยิ้มแบบแปลกๆ...ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่านะว่าเจมส์มันจ้องหน้าผมแบบพิกลๆเว้ย...เหมือนจะมีความหมายแอบแฝงในคำพูดของมันแฮะ...สงสัยงานจะเข้าหรือป่าวว๊า...????


   แต่แล้วเวลาเพ้อฝันของไอ้เจมส์ก็มาหมดลงเมื่อถึงตอนเบรกกินข้าวตอนหนึ่งทุ่มเมื่อแฟนเมย์เค้ามารับเมย์ไปกินข้าวเล่นเอาทั้งทีมหลีดฮากันยกใหญ่เว้นแต่ไอ้เจมส์นี่แหละที่ผมดูๆแล้วมันคอตกไปถนัดตา....
“ชั้นเตือนแกแล้วนะไอ้เจมส์..เสือกไม่เชื่อ...สมน้ำหน้า...” ออยเดินมาเยาะเย้ยแล้วขับรถออกไป  ไอ้เจมส์เองมันก็คงเถียงไม่ออกแล้วอ่ะครับตอนนั้นมันคงคิดว่าเวลานี้ไม่น่าจะมาถึงเร็ว...
“เฮ้ย...ไหวป่าวเจมส์...” ผมเดินเข้าไปถามเจมส์หลังจากที่คนอื่นๆทยอยกันออกไปหมดแล้วทิ้งให้ไอ้เจมส์นั่งคอตกอยู่ที่บันไดหน้าตึก...เจมส์พยักหน้างึกงัก
“ไปกินข้าวไหวป่าววะ.....เดี๋ยววันนี้พี่ขับเองก็ได้...” ผมขับแล้วให้เจมส์ซ้อนแล้วตามทุกคนออกไป
พอกินข้าวกันเสร็จก็เข้ามาซ้อมตามปกติระหว่างซ้อมกันสภาพไอ้เจมส์ไม่ต่างอะไรกับซอมบี้เลยคือไร้ชีวิตจิตใจเป็นที่สุดต่างจากเวลาปกติที่ดูมันจะกระดี๊กระด๊าตลอด...
“เอ๊า..รวมได้แล้วเด็กๆ..จะได้กลับบ้าน...” เสียงปอยตะโกน..น้องหลีดทุกคนก็มานั่งรอตรงหน้าบันได
“เร็วๆสิยะ...ชั้นอยากกลับบ้านแย่แล้ว...ไอ้เจมส์...เร็วๆเลย...ให้ว่อง” อิ่มชี้นิ้วแว๊ดๆ
“เดี๋ยวพี่แจกกระดาษให้นะ..แล้วเขียนชื่อ  ชื่อเล่น   เอกอะไร...เบอร์โทรมาให้เรียบร้อยด้วย...พวกพี่จะเก็บไว้...เผื่อมีอะไรจะได้โทรแจ้ง...” ปอยพูดแล้วส่งกระดาษให้เจ้าวุ้นเขียนแล้วส่งต่อให้คนอื่นๆต่อ...
“พี่นุมีอะไรจะพูดกับน้องป่าววันนี้..” อิ่มหันมาถามผม
“อืมม..ไม่มีอ่ะอิ่ม...เขียนกันเสร็จแล้วปล่อยน้องเลย...ท่าทางแย่กันแล้ววันนี้..” ผมตอบ
“อ้าวววว....ใครที่เขียนเสร็จแล้วกลับบ้านได้เลยน๊าค๊า...เจอกันพรุ่งนี้..เที่ยงตรงนะจ๊าาา...” อิ่มตะโกนบอก...น้องที่เขียนเสร็จแล้วเดินเข้ามาไหว้แล้วก็ทยอยกันกลับบ้าน
“พี่นุ..พี่กิ๋ว...เสร็จแล้วไปกินนมกันป๊าววว...พี่ปอย...พี่อิ่มด้วย...ยังไม่สามทุ่มเลย..” ไอ้เต๊ะรีบเข้ามาเกาะแข้งเกาะขาทันทีที่เขียนเสร็จ
“ยังมีแรงเหลืออีกนะยะไอ้เต๊ะ..เวลาให้ซ้อมนี่ทำอย่างกะจะตาย” อิ่มหันมาแขวะ
“โห่..พี่อิ่มก้อ...คืนวันศุกร์ทั้งทีจะรีบไปไหนนี่...นะพี่นุ...ไปเหอะ..ถ้าพี่ไปนะ...รับรองคนอื่นเค้าก็ไปกันหมดแหละ...น๊า..พี่นุ..น๊าค๊าบบบ...”
“แล้วเกี่ยวอะไรกับพี่วะเนี่ย..ว่าไงกิ๋ว...ปอย...อิ่ม..ไปกันป่าว...” ผมหันไปถามความเห็นคนอื่นๆ
“ถ้าพี่นุไป...หนูก็ไปแหละ...แต่หนูไม่อยู่ดึกนะเดี๋ยวพ่อด่า...” อิ่มบอก
“แล้วมึงไม่ต้องไปส่งไอ้เจมส์เหรอเต๊ะ...นั่งทำหน้าจะตายห่าแล้วน่ะ...” ไอ้กิ๋วบอก
“ไปส่งดิพี่...ก็ว่าจะเอามันไปด้วย...อกหักแบบนี้มันต้องดื่มเพื่อลืมเธอ..ก๊ากกกกๆๆๆ...” ไอ้เต๊ะบอก
   พอถึงร้านนมหน้ามอ...ผม..ปอย..อิ่ม..ก็สั่งนมกินกันคนละแก้ว...ส่วนไอ้กิ๋ว..ไอ้เต๊ะ..ไอ้เจมส์มันสั่งเบียร์มาดื่มกันครับ...กระดกกันพรวดๆ...จนถึงเวลาสมควร....ที่ต้องแยกย้ายกันกลับบ้าน
“เฮ้ย...ไอ้เต๊ะ..ขับรถกลับกันดีๆนะเว้ย...” ผมบอกตอนที่ยืนกันอยู่หน้าร้าน
“ไหวน่าพี่นุ..แค่นี้ซาบายมากกกกก...” ไอ้เต๊ะตอบหน้าแดงก่ำ
“แกยังขนาดนี้แล้วไอ้เจมส์จะไหวมั้ยน่ะ...” ปอยหันไปมองไอ้เจมส์ที่นั่งยองๆหัวห้อยอยู่ข้างๆรถไอ้กิ๋ว
“หนูว่าให้พี่กิ๋วเอาไอ้เจมส์ไปส่งหอดีกว่าพี่นุ...ส่วนไอ้เต๊ะก็ให้ขี่กลับคนเดียวดีกว่า...ไม่งั้นหนูว่านะ...ไม่พ้นโค้งหน้านี้หรอก...เชื่อเหอะ...”  อิ่มพูด
“โด่..อย่าแช่งงงงกานดิ..เพ่อิ่มมมม...” ไอ้เต๊ะพูดแล้วเดินไปสตารท์รถ
“ไอ้กิ๋ว..ไปส่งเจมส์หน่อยดิ...มึงมีรถยนต์อ่ะ..” ผมหันไปบอกไอ้กิ๋ว
“เออๆ...ไปส่งก็ได้...แต่มึงไปด้วยนะไอ้นุ...” ไอ้กิ๋วบอกแล้วเข้าไปสตารท์รถรอ...
“งั้นหนูกลับละนะ  พี่นุ...หวัดดี..พี่กิ๋ว..หวัดดี..” ปอยกับอิ่มลาแล้วขับรถออกไป..ส่วนผมกับไอ้กิ๋วก็ต้องพยุงไอ้เจมส์ขึ้นรถไปส่งที่หอกันตามระเบียบ...
“แม่ง...แล้วบอกทำใจได้...แดกซะคออ่อนคอพับ...” ไอ้กิ๋วขับไปบ่นไป
“ก็มึงนั่นแหละ...ชนเอาๆจนน้องมันเป็นแบบนี้อ่ะ...เพราะฉะนั้นอย่าบ่นว่ะ...”  ผมบ่นบ้าง...ไอ้กิ๋วขับรถมาสักพัก มันเริ่มชะลอรถ...
“แม่งเอ้ย...หออยู่ทางโค้งแบบนี้แล้วกูจะจอดยังไงวะเนี๊ยยยย...”
“เลยไปหน่อย...จอดได้มั้ยวะ...ข้างหน้าอ่ะ..”
“ข้างหน้าก็ไฟแดงแล้วไอ้นุ...เอางี้...มึงขึ้นไปส่งไอ้เจมส์ก่อน...เดี๋ยวกูไปวนรถย้อนมารับละกัน....” ไอ้กิ๋วพูดแล้วจอดรถให้ผมลากไอ้เจมส์ลงจากรถ...ผมเอาแขนเจมส์พาดบ่าแล้วพยุงเจมส์มันขึ้นไปบนหอ...แม่งเอ้ย...ลำบากกูอีก...ไม่อยากจะบอกว่าห้องไอ้เจมส์มันอยู่ชั้นสามครับ...โห..กว่าจะตะเกียกตะกายขึ้นมาได้  หนักโคตรๆตัวมันก็ใช่จะเล็กๆด้วยไอ้เจมส์อ่ะ..ดีที่มันยังพอรู้เรื่องก้าวขาเดินมาด้วยได้...ไม่งั้นผมตายแน่



“ทำไมช้าจังวะไอ้นุ..กูจอดรถไม่ได้อ่ะ...แม่งไปวนมาสามรอบแล้วเนี่ย..”ไอ้กิ๋วบ่นตอนผมขึ้นมานั่งบนรถ
“อ้าว..ไอ้เหี้ย...ชั้นสามนะเมิงกูไม่ใช่สไปเดอร์แมนนะเว้ยจะได้ชักใยแล้วโหนขึ้นตึกอ่ะ..ไม่ต้องบ่นแล้ว..ไปส่งกูเลย...” ปากดีอย่างงี้...ให้มันขึ้นไปส่งก็ดีอ่ะ..ไอ้กร๊วกเอ้ยยยย....ไอ้กิ๋วกลับมาส่งผมที่ร้านนมอีกครั้งเพราะรถผมจอดอยู่ที่นั่น...ผมขับรถกลับพอถึงหอก็แทบอยากจะสลบทันที...เพราะตั้งแต่รับภารกิจซ้อมหลีดให้น้องๆมาหลายวันเนี่ยระบบชีวิตผมเริ่มเปลี่ยนไปอีกแล้วหลังจากที่มันเข้าที่เข้าทางมานาน....  พองานเยอะเข้ามันก็เริ่มเป๋ๆอีกแล้วผม...ไหนจะงานตัวเอง...ไหนจะงานของหลีดอีก...OH!my god...ผมจะไหวมั้ยวะเนี่ย...เฮ้ออออ...


ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่  3_ความ(นัย)ในใจ...


“โห..คุณน้องขา...ช้ามากกกก...ช้าได้อีกค๊าาาาา...” เสียงอิ่มบ่นตอนที่ยืนดูน้องๆวิ่งกันรอบสนามอยู่
“เฮ้ย..อิ่ม...เฮี๊ยบมากๆเดี๋ยวมันหนีหมดนะมึง..” ปอยสะกิดแขนอยู่ข้างๆ
“ก็แม่ง...ท่านี้สอนมาเป็นอาทิตย์แล้วยังผิดอีก...สมองแม่งไม่จำเลย...” อิ่มบ่น
“นี่รอบสุดท้ายแล้วใช่ป่ะ...ให้น้องมันมาพักก่อนเลย..เดี๋ยวตายห่ากันหมด...เอ๊าๆ..พักได้แล้ว..” ประโยคหลังปอยหันไปบอกน้องๆที่วิ่งกันอยู่...พอแต่ละคนได้ยินคำว่าพักปุ๊บก็แทบจะคลานมานั่งพักกันเลย...แต่ละคนหงายเงิบกับพื้นกันหมด..หุหุหุ...
“แม่ง...พี่อิ่มอ่ะ...โหดชิบหาย...กูแทบจะคลานแล้วเนี่ย...” ไอ้เต๊ะบ่น
“ก็เราทำไม่พร้อมกันจริงๆนี่หว่า...โดยเฉพาะมึงอ่ะไอ้หนึ่ง...ผิดประจำเลย...” เสียงไอ้เอกบ่นตามแล้วชี้ไปที่ไอ้หนึ่งที่นอนหายใจพะงาบๆอยู่
“อะไรวะ...โทษกูคนเดียวเลย...โน่น...ไอ้เดี่ยวก็ผิด...ไม่ใช่ว่าแต่กู..” ไอ้หนึ่งโวยวาย
“อีเหี้ยเบาๆก็ได้...บ่นกันมากๆเดี๋ยวพี่เค้าก็เรียกไปซ้อมต่อหรอกมึง...เค้าให้พักก็พักดิ..” ไอ้เดี่ยวพูด...
วงสนทนาเลยเงียบลงทันทีเพราะกลัวจะได้ซ้อมต่อ...
“โหดไปป่าวอิ่มวันนี้อ่ะ...เดี๋ยวน้องหายกันหมดแล้วจะซวยนะเว้ย...” ผมแซว ปอยกับอิ่มนั่งลงข้างๆ
“วันนี้เมนส์มันไม่มาอ่ะพี่นุ...เลยโหดกับน้องๆ...” ปอยแขวะแล้วคว้าขนมใส่ปากตุ้ยๆ
“มึงนี่รู้ดีนะอีปอย...ใครจะไปตามใจน้องเหมือนมึง..” อิ่มหันมาแล้วแย่งขนมไปกินบ้าง
“เอาน่า...แล้วนี่ปล่อยน้องกี่โมงล่ะซ้อมกันตั้งแต่เที่ยงแล้วนี่...สี่โมงเย็นก็ปล่อยได้แล้วม้าง”  ผมถาม
“เดี๋ยวก็ปล่อยแล้วพี่นุ...รมณ์เสียกะพวกมัน...การบ้านหนูก็เยอะด้วย...” อิ่มบ่น
“ก็จะสี่โมงแล้วเนี่ย...ปล่อยเลยละกัน...” ปอยพูดแล้วลูกไปบอกน้องๆให้กลับบ้านเสียงเฮลั่น...
“เฮ้ย..เจมส์เดี๋ยววันนี้กูจะไปบ้านเพื่อนกูก่อนว่ะ...มึงกลับเองได้ป่าว..” ไอ้เต๊ะหันไปถาม
“ไม่ได้ก็ต้องได้อ่ะ..ก็มึงพูดแบบนี้แล้วจะให้กูทำไงได้วะ...” ไอ้เจมส์ตอบทำหน้าเซ็งๆ
“อ้าวเหี้ย...หลอกด่ากูป่าวเนี่ย...เอางี้ดิ..มึงก็ให้พี่นุไปส่งดิจะได้ไม่ต้องนั่งรถเมล์...” ไอ้เต๊ะเน้นเสียงในคำสุดท้าย...     
จนไอ้เจมส์หันมาทำตาเขียว
“มึงไม่ต้องมาเน้นเลย...ไม่เอาอ่ะ..เกรงใจพี่นุว่ะ...”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย...เดี๋ยวกูบอกเอง...พี่นุ..ไอ้เจมส์ไม่มีรถกลับ...ไปส่งมันด้วยนะ..” ไอ้เต๊ะตะโกนบอกผม
“หนูกลับก่อนนะพี่นุ...งานเยอะชิบ..ไป..อีปอยเร็วๆ...” สองสาวบ่นแล้วลาผมกลับ ไอ้เจมส์เดินมาหาผม
“ไม่มีรถกลับอีกแล้วเหรอ...ต่อไปจะคิดค่าน้ำมันแล้วนะเว้ย...อ่ะ..” ผมส่งกุญแจรถให้ไอ้เจมส์ขับ

“พี่นุ...” ไอ้เจมส์เรียกชื่อผมระหว่างทางกลับหอ
“หึ๊..ว่าไง...”
“พี่นุไม่มีแฟนกะเค้าบ้างเหรอ??...” อ้าว...กำ...ผมไม่คิดว่ามันจะถามผมด้วยคำถามแบบนี้นะเนี่ย...
“ก็....ไม่มีอ่ะ..คนไม่มีแฟนผิดตรงไหนวะ...”  ผมตอบเสียงค่อย
“ไม่ผิดหรอกพี่..ก็แค่สงสัยว่า...ทำไมคนหน้าตาดีอย่างพี่ถึงไม่มีแฟน...”  เฮ้อ...ถึงหอมันซะที...จะได้ไม่ต้องมาตอบคำถามจี๊ดๆอะไรแบบนี้อีก...
“ขอบคุณครับพี่นุ...เดี๋ยวทีหลังจะใช้บริการอีก...” ไอ้เจมส์ยกมือไหว้ขอบคุณ...
“ได้ทีเอาใหญ่เลย...เออๆอย่าบ่อยนักแล้วกัน...ไปนะ...” ผมพูดแล้วขับรถออกมา


“มึงโทรหากูแต่เช้ามีไรวะไอ้เจมส์...” เสียงไอ้เต๊ะงัวเงียๆตอนรับโทรศัพท์ไอ้เจมส์...
“เช้าห่าไร..หอกูจะเที่ยงแล้วเนี่ย...หรือแถวบ้านมึงยังหกโมงเช้าอยู่วะ..”
“แม่ง...วันอาทิตย์แบบนี้ไม่ต้องไปซ้อมหลีด...มึงยังโทรมากวนกูอีก..มีอะไรว่ามาเลยมึงอ่ะ...ด่วน”
“วันนี้ไปเที่ยวหอพี่นุมั้ย...เอาหนังไปดูกัน...”
“ไปหอพี่นุเนี่ยนะ...มึงจะไปกี่โมงล่ะ...แล้วพี่นุเค้าอยู่ห้องเหรอ...มึงโทรไปบอกพี่เค้าเลย...ขี้เกียจไปแล้วเสียเที่ยว....เออๆ...เดี๋ยวบ่ายโมงกูไปรับมึงละกัน...” ไอ้เต๊ะพูดแล้ววางสาย


“หวัดดีคับพี่นุ...” 
“ว่าไงเจมส์...”
“พี่นุอยู่ไหนอ่ะคับ...”
“อยู่ห้องดิ...กะลังจะกินมาม่าอยู่...” ผมพูดไปเอียงคอเอาไหล่หนีบโทรศัพท์ไปมือก็กำลังกดน้ำร้อนใส่มาม่าอยู่
“ดีเลย...กะลังหิวอยู่เหมือนกัน...”
“หิวเหรอ...มากินดิ..มาม่าเป็นลังเลย...” ผมยกมาม่ามาวางที่โต๊ะแล้วเอาจานปิด
“ก็กะลังจะไปหาอยู่เนี่ย....กะลังอยากกินอยู่พอดี...” 
“อ่ะ..จริงดิ...อย่าอำว่ะ...”
“ไม่ได้อำพี่...พอดีไอ้เต๊ะโทรมาชวนผมเอาหนังไปดูที่ห้องพี่นุอ่ะ...ได้ป่าว...”
“เฮ้ย..หนังไรวะ...หนังเอ็กซ์ไม่ต้องเอามานะเว้ย...” ผมพูดไปปรุงมาม่าไป
“โห่..เห็นผมเป็นคนยังไงเนี่ย...ตกลงไปได้นะพี่...เดี๋ยวบ่ายโมงเคาะห้องเลย...แค่นี้นะคับพี่นุ...” ไอ้เจมส์วางสายแล้วมองโทรศัพท์ยิ้มๆกับตัวเอง....
   ผมวางโทรศัพท์รีบโซ้ยมาม่าอย่างรวดเร็วแล้วรีบเก็บกวาดห้องให้สะอาดในพริบตาเพราะปกติไม่ค่อยจะมีแขกรับเชิญมาเยี่ยมที่ห้องซักเท่าไหร่นักโดยเฉพาะรุ่นน้อง...ผมมองนาฬิกาบ่ายโมงยี่สิบ..เสียงเคาะประตูก็ดัง...ผมเดินไปเปิดประตูก็เจอไอ้เจมส์กับไอ้เต๊ะยืนทำหน้าแป้นแล้นอยู่
“เข้ามาดิ...” ผมบอก
“โห...ทำไมสะอาดจริงอ่ะพี่นุ..ว่างๆจ้างไปทำความสะอาดที่บ้านบ้างดิ...”  ไอ้เต๊ะแซวแล้วนั่งลงข้างๆเตียง
“น่าน...ลามละไอ้เต๊ะ..เดี๋ยวโดน...”
“ที่นอนน่านอนเนอะ...” ไอ้เจมส์พูดแล้วเอนลงบนที่นอนผมทันที..
“เฮ้ยๆ...เอางั้นเลยเหรอวะเจมส์...” ผมทำหน้าเหรอหรา
“ไอ้เหี้ยเจมส์...ที่นอนพี่เค้า...มึงก้อ...หลบไปกูนอนมั่ง...” นั่น...ผมนึกว่าไอ้เต๊ะมันจะพูดเข้าหู..ที่ไหนได้กวนตีนพอๆกัน..
เฮ้อออ...คิดถูกคิดผิดวะ..ผมเนี่ย...สรุปแล้วตลอดช่วงบ่ายนั้นทั้งสองตัวมันก็นอนดูหนังบนที่นอนของผมสบายใจเฉิบ...ปล่อยให้เจ้าของห้องอย่างผมต้องนั่งดูอยู่บนพื้น...ให้มันได้อย่างนี้ดิ...
“พี่นุ..อยู่คนเดียวไม่เหงาเหรอ..” จู่ๆไอ้เจมส์หันมาถามผม...
“ชินแล้วว่ะ....” ผมตอบคำถามมันสั้นๆแล้วดูหนังต่อ
“เออ..ไอ้เจมส์วันก่อนมึงเห็นสร้อยที่คอไอ้เมย์ป่ะ...แม่งสงสัยแฟนมันซื้อให้ว่ะ..เส้นแม่งเบ่อเร่อเลย..”
ไอ้เต๊ะพูดแล้วทำตาโต
“ช่างมันเหอะ...กูไม่สนแล้วเมย์อ่ะ...กูทำใจได้แล้ว...”
“จริงเร๊อออ...เห็นเมาจะเป็นจะตายนี่หว่า...หรือว่ามึงกำลังมองใครอยู่ป่าวว๊า...”
“มั้ง...ก็กำลังมองๆอยู่เหมือนกัน...แต่ยังไม่ค่อยแน่ใจตัวเอง..” ไอ้เจมส์พูด  ผมเองนั่งดูหนังอยู่เพลินๆแต่ก็ได้ยินคำพูดของมันทั้งคู่ทุกคำโดยเฉพาะประโยคของไอ้เจมส์...มันทำให้ผมรู้สึกเสียวสันหลังแบบบอกไม่ถูก...ก็เลยทำเนียนนั่งฟังมันต่อไป...หุหุหุ
“ไม่แน่ใจยังไงวะเมิง...มึงกำลังมองใครอยู่วะ...” ไอ้เต๊ะถามต่อ
“เหอะน่า....รอให้กูแน่ใจก่อน...ไม่รู้จะจีบเค้าได้หรือเปล่า...”
“ใครวะ...อีเปรมเหรอ...” ไอ้เต๊ะยังถามต่อ..
“ป่าววว...ไม่ใช๊...อีเปรมเนี่ยนะ...ไม่ไหวหรอก...”
“อ่ะงั้น..ก้อ...อีเก๋อ่ะ...ใช่ป่ะ..???”
“เฮ้ยยย...ไม่ไหวม้าง...มึงเลิกทายได้แล้ว...ทายยังไงมึงก็ทายไม่ถูกหรอก...”
“อืมมม...งั้นใครวะ...กูรู้จักมะ...”
“รู้ดิ...มึงรู้จักแน่...”
“ระวังเค้าจะมีแฟนแล้วเหมือนอีเมย์นะเมิง...คราวนี้กูไม่เมากะมึงแล้วนะเว้ย...เดี๋ยวแม่กูด่า...”
“ไม่นะ...กูถามเค้าแล้ว...เค้าบอกไม่มีว่ะ...” น่านนน...ใช่เลยครับ...ผมว่าผมไม่ได้คิดไปเองนะว่าที่ไอ้เจมส์มันพูดอ่ะมันหมายถึงผม(หรือเปล่าวะ)...เพราะมันเพิ่งถามผมไปเมื่อวันก่อน..เอ๊ะ!ไอ้นี่นิ...มันยังไงของมันวะ...ผมหันไปมองหน้าไอ้เจมส์แว่บนึงก็พบว่ามันนั่งจ้องหน้าผมอยู่...ผมรีบหันกลับมาทันที....
“อ่ะจิงดิ...งั้นกูขอให้เป็นรักแร้..เอ้ย..รักแท้ของมึงละกันเพื่อน...อ้าวเฮ้ย...พี่นุ...เงียบเลย..วิญญาณออกจากร่างไปแล้วเหรอพี่...” ไอ้เต๊ะหันมาสะกิดไหล่ผม
“อ่ะ..เฮ้ย...ป่าว...ก็กำลังดูหนังเพลินๆอยู่..คุยไรกันแม่งดูหนังไม่รู้เรื่องแล้วเนี่ย...” ผมตอบ  ไอ้เต๊ะดูนาฬิกาแล้ววิ่งไปดูท้องฟ้าที่ระเบียง
“แม่ง...ฟ้าครึ้มแล้วว่ะไอ้เจมส์...กลับเหอะ...ไม่อยากเปียกว่ะ...” ไอ้เต๊ะเดินกลับมาหยิบกุญแจรถ  ผมรีบเดินไปเปิดประตู
“แหม!ไม่ค่อยรีบไล่แขกเลยนะพี่นุ...” ไอ้เต๊ะแซวแล้วเดินออกไปใส่รองเท้า ไอ้เจมส์เดินตามไปแล้วหยุดที่ประตู
“เดี๋ยววันหลังมาอีกนะพี่นุ...ผมรู้นะ...ว่าพี่ได้ยินที่ผมคุยกับไอ้เต๊ะอ่ะ..” ไอ้เจมส์หันมาลาผมแล้วก้มหน้ากระซิบเบาๆให้ได้ยินกันสองคนในประโยคหลังแล้วเดินออกไปทิ้งความสงสัยไว้ให้ผม...
“มันจะเล่นอะไรของมันวะ...”  ผมปิดประตูพูดกับตัวเอง

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เสียวสันหลังแทนพี่นุ..อย่าลืมลงกฎเล้าด้วยนาจา   :pig2:

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ขอบคุงที่ช่วยเตือนนะครัช...แฮ่ะๆๆ...แก้ไขละคร้าบ :katai2-1:

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่  4_สองสาวเล่าเรื่อง...


“นี่..อีเดี่ยว...มึงว่าหลีดคณะเราใครน่ากินที่สุดดดด...” วุ้นกะลังนั่งจีบปากจีบคอเมาท์ถึงเพื่อนๆในทีมอยู่กับเดี่ยวที่หน้าคณะระหว่างรอซ้อม...เดี่ยวเองก็นั่งเอาแป้งพัฟซับหน้าอยู่
“คณะเราเนี่ยนะเหรอ...อืมม..ขอเดี้ยนคิดก่อนนะค๊า...” เดี่ยวว่างตลับแป้งแล้วมือประสานกันทำท่าทางเพ้อฝัน..
“กูว่านะ...ไอ้หนึ่งก็ท่าทางจะแซ่บอยู่นะค๊า...” วุ้นพูด
“หนึ่งเหรอ...หล่อ..คิ้วเข้ม...ขาวล่ำ..ท่าทางจะอึ้มมม....แต่สงสัยจะแดกยากอยู่...กลัวจะโดนตีนก่อนได้แดกนะสิ”
เดี่ยวจีบปากจีบคอแล้วหยิบลิปติกขึ้นมาทาปาก 
“เหรอ..ว๊า...แย่จัง...เหลือใครอีกล่ะ..ไอ้แซ็ค...อี๋...ไม่ไหวอ่ะ...” วุ้นทำท่าขยะแขยง
“ก้อไอ้เอกไง...ลืมแล้วเหรอ..” เดี่ยวพูด
“ต๊ายย...หน้าอย่างกะปลาตีนจะเอาไปทำปุ๋ยเหรอยะให้ได้กะไอ้เอกกูเอาตูดไปถูกะเสาไฟฟ้าดีกว่า” วุ้นพูดแล้วเบะปาก
“อุ๊ยตายแล้ว...เหลือเจมส์ไงมึ๊งงง”  เดี่ยวทำเสียงสูง
“เจมส์เหรอ...สูงล่ำซะขนาดนั้น...โดนเข้าไปกูไส้แตกแน่เลยมึง...” วุ้นพูดเสียงอ่อยๆ
“แหม!ปากดีนะเมิง...ของอย่างนี้ไม่ลองไม่รู้...แต่ถ้าเป็นกู...กูยอมตายยยนะฮ้า..” เดี่ยวพูดแล้วปิดปากหัวเราะชอบใจ  วุ้นแลบลิ้นใส่แล้วทำปากยื่น...
“เจมส์มันคงจะมาเอามึงหรอกอีเดี่ยว...โน้น...เจมส์เค้าชอบหม้อ...ไม่ได้อยากแดกถั่วนะเมิง..”
“อ๊ะไม่แน่...กูว่านะ.....กูรู้สึกว่า..เจมส์มันก็จะมีองค์เหมือนเราเหมือนกันนะ...”
“มีองค์...ไอ้เจมส์เนี่ยนะ...มึงรู้ได้ยังไง...อย่าบอกนะว่า..มึง...มึง...แดกไอ้เจมส์มาเรียบร้อยแล้วอ่ะ...อ๊ายยยยยย....ไม่ย๊อมไม่ยอม...ทำไมมึงไม่แบ่งกูบ้าง...” วุ้นกรี๊ดลั่น...
“นี๊!!!!!หุบปากเลยอีชะมด...กูจะไปได้มันตอนไหนล่ะยะ...” เดี่ยวตวาด  วุ้นหุบปากทันที
“อ้าว...กูจะไปรู้เหรอ...สาวไวไฟอย่างมึงอ่ะ...แล้วยังไง...มึงรู้ได้ยังไงว่าไอ้เจมส์มันมีองค์อ่ะ...”
“ก็กูสังเกตเวลาไอ้เจมส์มันมองพี่นุน่ะสิ...กูว่ามันมองพี่นุแปลกๆนะ...” เดี่ยวพูดแล้วทำท่ากอดอก
“พี่นุ...ไอ้เจมส์...พี่นุกับไอ้เจมส์เนี่ยนะ...กูว่าไม่เห็นมันจะมีอะไรเลย...พี่นุเค้าก็ไม่เห็นจะอะไรนี่นา...”
“พี่นุน่ะ..อาจจะไม่...แต่ไอ้เจมส์อ่ะ..อาจจะคิดอะไรกับพี่นุก็ได้...”
“อ้าววว...แล้วที่เจมส์มันตามจีบเมย์ล่ะ..ยังไง..งง...คนสวยงงไปหมดแล้วคะเนี่ย...” วุ้นทำท่าปวดหัว
“นี่มึง...เสือไบไง..มึงไม่รู้จักเสือไบเหรอ...คอยดูนะ...กูต้องสืบเรื่องนี้ให้ได้...” เดี่ยวพูด
“เสือไบเหรอ...ตายแล้ว...กูก็อยากขี่เสือไบน๊า...ยิ่งเสือไบตัวใหญ่..สูงล่ำอย่างกะนักบาสแบบนี้..กูช๊อบบ”
“น้อยๆหน่อยอีวุ้น...ตัวเท่าลูกหมาเนี่ยนะ..โดนของไอ้เจมส์เข้าไป...มึงก็ไม่ต้องเบ่งกันพอดีล่ะ..อีห่า”
“มึงก็น้อยๆหน่อยอีเดี่ยว...จะบอกว่าไอ้เจมส์เหมาะกะมึงงั้นละสิ...อีควายอย่างมึงน่ะ..โน่นเลย...พี่กิ๋วโน่น
เหมาะกะมึงที่สุด...555555”
“ต๊ายยย...หุ่นอย่างกะหมีควายนะพี่กิ๋วน่ะ...มึงเก็บไว้เองเหอะ...ถ้าพี่นุนะก็ว่าไปอย่าง...”
“ไม่ได้...พี่นุน่ะ..ของกู...” วุ้นตบโต๊ะแล้วยืนขึ้น  เดี่ยวก็ตบโต๊ะลุกยืนขึ้นตาม
“ใจคอจะกวาดแม่งหมดทั้งคณะเลยเหรออีเตี้ยหมาตื่น..คืนหมาหอน..” เดี่ยวท้าวเอว
“อ๊ายยย....ใครจะไปสวยเหมือนมึงล่ะอีโอ่งราชบุรี...อีกระหรี่ร้อยชื่อ...” วุ้นเถียง
“นี่..ตกลงมึงกะกูจะมาเถียงให้ได้โล่รึไงเนี่ย.....ชิ...รมณ์เสีย...” เดี่ยวพูดแล้วนั่งลง
“ก็มึงเริ่มก่อนนี่...ไม่เอาล่ะ...เรามาตกลงกันดีกว่า...” วุ้นบอก  เดี่ยวทำหน้าสงสัย
“ตกลงห่าไรอีกล่ะอีดอก..”
“ก็ตกลงแบ่งคนกันไง...มึง...รับผิดชอบ...พี่กิ๋ว...ไอ้แซ็ค..ไอ้เอกไป...เอาไปตรวจสอบคุณภาพสินค้า...ส่วนกู...จะรับตรวจสอบ...ไอ้หนึ่ง...ไอ้เจมส์...แล้วก็พี่นุเอง...โอเค๊...”
“โถ...อีควาย...หล่อๆนี่มึงเก็บเรียบเลยนะ...ของแบบนี้ใครดีใครได้นะคะ...” เดี่ยวพูดแล้วสะบัดหน้าเชิ่ดๆเดินไปรวมกลุ่มกับคนอื่นที่นั่งเมาท์กันอยู่กับไอ้กิ๋วที่อีกโต๊ะนึง
“แหม!อีเดี่ยวกูก็เลือกที่เหมาะสมกะมึงแล้วไง..จะโกรธกูทำไมเนี่ย...” วุ้นพูดแล้ววิ่งตามไปสมทบ
“เอ้อ...แต่งตัวน่ารักนะวุ้น...แหม!กูนึกว่าหมาชิสุ...”  ไอ้กิ๋วแซว
“ค๊า...ก็พันธุ์เดียวกับที่อยู่ในปากพี่นี่แหละ...” วุ้นสวนกลับทำเอาทุกคนหัวเราะชอบใจ
“อ้าวเจมส์..พี่นุยังไม่มาเหรอ..” เดี่ยวหันไปถามเจมส์ที่กำลังนั่งคุยกับไอ้เต๊ะอยู่
“กูจะไปรู้ได้ไง..ทำไมไม่ถามพี่ปอยหรือพี่อิ่มล่ะ..”
“จะไปรู้เหรอ...กูก็คิดว่ามึงจะรู้...”  เดี่ยวพูดแล้วลอยหน้าลอยตา
“ตกลงพี่กิ๋วจะพาพวกเราไปเก็บตัวกันที่ชะอำจริงๆเหรอ...”  ออยถาม
“อืมม...คิดไว้อย่างนั้นนะ...ต้องรอถามไอ้นุก่อน..” ไอ้กิ๋วตอบ
“โอ๊ยยย...พี่นุเค้าโอเคอยู่แล้ว...เชื่อหนูดิพี่กิ๋ว..”  อิ่มพูดแล้วนั่งลงข้างๆไอ้กิ๋ว
“แต่พวกเราก็ต้องตั้งใจซ้อมด้วย...ไม่งั้น...อด...” ปอยทำเสียงเข้มในคำสุดท้าย
“เอ้า..ไปๆ...ไปซ้อมได้แล้ว...” ไอ้กิ๋วบอก...น้องๆแต่ละคนก็แยกย้ายกันไปซ้อมกันตามปกติ
“โน่น..พี่นุเดินมาโน่นแล้ว...” อิ่มหันไปสะกิดปอย
“พี่นุ..ตกลงวันนี้พาน้องๆไปวัดตัวได้เลยป่าว...” ปอยเดินเข้ามาถาม  ผมเดินมานั่งลงที่บันไดที่หน้าคณะ
“เจ๊เค้าบอกได้อ่ะนะ...เดี๋ยวไปรถไอ้กิ๋วกันนี่แหละ...จะได้ไปทีเดียว...”
“งั้นปอยไปเรียกน้องๆมารวมกันก่อนดีกว่าเนอะพี่นุ...เอ๊า..เด็กๆมารวมกันทางนี้...”
“พี่กิ๋วด้วยมารวมด้วยค๊า...คุณพี่...” อิ่มกวักมือเรียกไอ้กิ๋ว
“เดี๋ยววันนี้พี่จะให้พวกเราไปวัดตัวตัดชุดกันนะ...เดี๋ยวพวกหลีดปอมปอมไปรถของพี่กิ๋วนะ..ส่วนหลีดมือเดี๋ยวไปรอบสอง...” ผมบอก
“โห...รถกูจะเอาไปหมดมั้ยเนี่ย...” ไอ้กิ๋วบ่น
“อย่าบ่นน่าพี่กิ๋ว...ทำๆไปเหอะ”  อิ่มหันไปว่า  ไอ้กิ๋วเดินไปถอยรถมาจอดที่หน้าตึก...รถไอ้กิ๋วเป็นรถดีแม็กซ์..ตอนครึ่งใส่แค็ปด้านหลัง...ด้านหลังนั่งได้ประมาณหกคนมีแซ็ค  เอก   เดี่ยว  เจมส์  อิ่ม  ปอยและผมเพราะไอ้กิ๋วมันวางของไว้เต็มหมดเลย  ส่วนไอ้หนึ่งมันขอนั่งหน้า..มันบอกว่ามันชอบเมารถไม่ว่าจะใกล้ไกลแค่ไหนมันเมาหมด...เวรกรรม...
“อ้าว...แล้ววุ้นละ...นั่งตรงไหนได้เนี่ย...หลังเบาะพี่กิ๋วก็มีแต่กล่องอะไรไม่รู้...” วุ้นยืนบ่น..
“บ่นมาก..เดี๋ยวก็ให้วิ่งตามซะเลยนี่อีวุ้น...เอางี้มานั่งเบียดกับไอ้หนึ่งละกัน..” ไอ้กิ๋วบอก
“พี่กิ๋ว...หนึ่งมันตัวโตอ่ะ...”
“แหม!มึงนี่เรื่องมากจริงเล๊ยยยอีวุ้น..งั้นหนึ่ง  มึงให้มันนั่งตักละกัน” ไอ้กิ๋วบอก  วุ้นแววตาเป็นประกายทันที
“อ้าวพี่...ให้อีวุ้นนั่งตักนี่ผมจะเสียความบริสุทธิ์มั้ยเนี่ย...” ไอ้หนึ่งหันไปโวยวาย
“แหม!หนึ่ง...ชั้นสิต้องเสียหาย..ชั้นก็ยังซิงอยู่นะยะ...” วุ้นพูดแล้วขยับขึ้นไปนั่งบนตักของไอ้หนึ่งที่นั่งทำหน้าพะอืดพะอมอยู่
“อย่างมึงนะซิง...ให้มึงไปอมพระทั้งจังหวัดมาพูดกูยังไม่เชื่อเลยอีวุ้น...” ไอ้กิ๋วพูดแล้วขับรถออกไป
“อุ๊ยๆๆๆ....” วุ้นทำเสียงสะดุ้งหลังจากนั่งไปซักพัก
“เป็นห่าอะไรอีกล่ะ...” ไอ้กิ๋วตวาดเข้าให้
“ปะๆ...ป่าวพี่...ขับต่อไปเหอะ..”  หน้าวุ้นแดงก่ำจรดใบหูเลย..เหอๆๆ...ส่วนไอ้หนึ่งก็นั่งเงียบกริบ...


พอถึงร้านที่มาวัดตัว...
“อ้าว..ลงได้แล้วกะจะนั่งกันให้ท้องไปเลยเหรอ...แหม...ชิสุ..เจอของใหญ่ยาวเข้าไปนั่งเงียบเชียวนะมึง”
ไอ้กิ๋วบอก  วุ้นกระมิดกระเมี้ยนลงจากตักไอ้หนึ่งไปอย่างเสียดายแล้วก้าวมารวมกลุ่มกับเพื่อนๆ
“ตาเยิ้มเชียวนะอีวุ้น...อย่างอื่นเยิ้มด้วยป่าวเนี่ยมึง...” เดี่ยวรีบเดินเขามากระซิบ
“ไม่อาว...ม่ายพูด...บอกได้คำเดียว...แซ่บค๊า...” วุ้นพูดแล้วดึงมือเดี่ยวเดินเข้าไปในร้าน  ไอ้กิ๋วหันไปมองไอ้หนึ่งที่ยังนั่งอยู่บนรถอยู่..หน้าแดงก่ำเชียว
“แหม!ไอ้หนึ่งถ้าร้านอยู่ไกลอีกนิด...สงสัยได้อีวุ้นเป็นเมียแน่มึง...555...งั้นขากลับมึงคงแตกก่อนถึงมอนะ...เดี๋ยวพี่จะหาทางขรุขระๆให้...จะได้ไม่ต้องออกแรงมากดีมั้ยวะไอ้หนึ่ง...คราวนี้อีวุ้นถึงสวรรค์แน่...ก๊ากกๆๆ...”
“โธ่...พี่กิ๋ว...ก็พูดไปเรื่อย....เรื่องธรรมดาของผู้ชายน่าโดนอะไรเสียดสีมันก็ต้องตื่นเป็นธรรมดา...”
ไอ้หนึ่งพูดแล้ววิ่งตามทุกคนเข้าไปในร้าน...พอวัดตัวเสร็จตอนขึ้นรถปรากฏว่าคราวนี้ไอ้หนึ่งไม่ยอมนั่งหน้าแล้วครับให้ไอ้เดี่ยวไปนั่งแทน...เล่นเอาไอ้กิ๋วขำก๊าก...
“มันน่าขำนักเหรอพี่กิ๋ว...” วุ้นหันไปถามไอ้กิ๋วตอนขับรถกลับมอ
“ก็ขำดิ..นั่นแหละ...ไอ้หนึ่งมันคงกลัวแหละอีวุ้น...ที่มึงไปนั่งทับหำมันอ่ะ...”
“แหม..พี่กิ๋วอ่ะ...นิดๆหน่อยๆ..สร้างโบรถ์สร้างวิหารน่า...”
“อ๋อ...แบบนี้สิกูถึงซวยมานั่งแทนไอ้หนึ่งเนี่ย...อี๋...พี่กิ๋วขับเร็วๆ...หนูขยะแขยงจะแย่อยู่แล้ว” เดี่ยวบ่น
“มึงทำอย่างกะกูอยากนั่งทับหอยมึงนักนี่อีเดี่ยว...อีมารคอหอย...ดูสิ...อดทับหำหนึ่งเลย...”
“อีดอก.......” ไอ้กิ๋วกับไอ้เดี่ยวประสานเสียงพร้อมกัน
“พอถึงแล้วอ่ะพี่กิ๋วกะพวกชั้นจะพาหลีดมือไปวัดตัวนะพวกแกก็ไปหาข้าวกินเลยจะได้ไม่เสียเวลา” อิ่มหันมาบอก
“พี่นุอยู่คุมไอ้พวกนี้แล้วกัน...เดี๋ยวปอยพาหลีดมือไปเอง...” ปอยบอกผม
“พี่ว่าวันนี้ปล่อยกลับบ้านเลยดีกว่า...อยู่กันไม่ครบด้วย...กว่าจะไปจะมากันอีก...” ผมบอก
“โอเคๆ...การบ้านหนูก็เย้อเยอะ...” อิ่มบ่น  พอมาถึงมอแต่ละคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน...ส่วนปอยกับอิ่มก็พาน้องหลีดมือไปวัดตัวอีกรอบนึง
“พี่นุ....วันนี้ไปส่งผมหน่อยดิ...” ไอ้เจมส์เดินมาหาผมหลังจากที่คนอื่นออกกันไปหมดแล้ว
“อืมม..ไปดิ...” ผมส่งกุญแจให้ไอ้เจมส์มันเป็นคนขับ...ออกจากมอไปได้ซักพัก...ปรากฏว่าฝนตกเว้ย....
“ตกทำไมตอนนี้ว๊า....”  เสียงไอ้เจมส์บ่น  ฝนก็เริ่มลงเม็ดหนาขึ้นเรื่อยๆ...
“หาที่หลบก่อนมั้ยเจมส์...ไม่อยากเปียกว่ะ...” ผมบอก...ไอ้เจมส์ก็ขับรถเข้าไปจอดในปั๊มน้ำมันฝนก็กระหน่ำเทลงมาไม่ลืมหูลืมตา...ผมกับเจมส์ยืนหลบฝนกันอยู่หน้าเซเว่นในปั๊มหลังมอ...เฮ้อ...ตกทำไมวะ
“มานั่งก่อนเหอะพี่นุ..ท่าทางจะอีกนาน..” เจมส์บอกแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้หน้าเซเว่น...ผมเดินไปนั่งข้างๆ
มือกอดอกเพราะเริ่มหนาวละ...ผมหันไปมองเจมส์มันก็เปียกเหมือนกันเลย...เจมส์มันอยู่ในชุดเสื้อกีฬากางเกงขาสั้นเหมือนทุกวัน...ส่วนผมก็ยังอยู่ในชุดนักศึกษาอยู่เลย...เปียกหมด...เฮ้อออออ...จะว่าไปมันมองผมนานไปแล้วนะ...ผมมองดูตัวเอง...โห..เสื้อนักศึกษากู...เปียกแล้วยังเนียบเนื้ออีก...โอ้..แม่เจ้า...
“มองอะไรอ่ะเจมส์...” ผมทักทำเอาเจมส์มันสะดุ้งเลย
“ป่าวอ่ะพี่นุ...ไม่ได้มอง...” ท่าทางมันก็เขินๆเว้ย...หลังจากนั้นต่างฝ่ายต่างก็นั่งเงียบต่อ...คุยอะไรดีวะ...
“เออ...เจมส์เรียน ร.ด.ป่าวอ่ะเราน่ะ...”
“ไม่ได้เรียนหรอก...แม่ผมอยากให้เป็นทหารจะตาย...”
“อืมม..ก็ดีนะ...ทำไมอ่ะ..ไม่อยากเป็นเหรอ??”
“ไม่อยากอ่ะพี่...ให้ผมช่วยชาติด้านอื่นดีกว่า...”
“จะว่าไปอย่างเจมส์เนี่ย...ทำไมมาเรียนปฐมวัยวะ...”
“รักเด็กมั้งพี่นุ...อยู่กับเด็กแล้วสบายใจ...แต่ตอนนี้ผมว่าอยู่กับผู้ใหญ่ก็ดีเหมือนกัน...ผู้ใหญ่กว่าก็น่ารักดี”
“เหรอ...อืมม...ดีเนอะ...”  ไปต่อไม่ถูกละผม...ไอ้เจมส์มันเหมือนจะหยอดผมอีกแล้ว...
“พี่นุหนาวเหรอ?..เห็นนั่งกอดอก...”
“หนาวดิ...เปียกซะขนาดนี้...”
“เห็นตัวเล็กๆแบบนี้...ก็ซ่อนรูปเหมือนกันนะพี่นุเนี่ย...”
“เยอะละไอ้เจมส์...เดี๋ยวให้กลับเองเลย...” ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกหูแดงเว้ย...ไอ้เจมส์ยืนขึ้นข้างๆผมแล้วยกมือบิดขี้เกียจ...ผมยื่นมือไปข้างหน้ารองดูว่าฝนมันเบารึยัง...
“ฝนเบาแล้วอ่ะเจมส์..ไปเหอะ...กว่าจะไปส่งเราแล้วกลับมาหอพี่อีก...ไปเร็ว”
“รอให้เบากว่านี้ก่อนก็ได้พี่นุ...เดี๋ยวเป็นหวัดไม่รู้ด้วยนา...” ไอ้เจมส์บอกแล้วเดินตามหลังผมออกมา
สตารท์รถแล้วขับออกไป....เฮ้อออ...เปียกหมด...

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่  5_สัมผัส...
   วันนี้ก็เป็นเหมือนทุกวันที่ผมต้องมาช่วยซ้อมหลีดตามปกติและก็เป็นหน้าที่ผมเกือบจะทุกวันที่ผมจะต้องเป็นคนไปส่งไอ้เจมส์ซะทุกครั้งจนเริ่มเป็นที่สังเกตของใครหลายๆคนล่ะ
“ไปๆมาๆ..ไหงต้องไปส่งไอ้เจมส์มันทุกวันได้วะ...” ไอ้กิ๋วถามผมหลังจากพักซ้อมครึ่งแรก
“ก็ไม่อะไร๊...มันไม่มีรถกลับ..ก็ไปส่ง..แค่นั้นอ่ะ..ไม่มีอะไรหรอกน่า...ไอ้เต๊ะก็ไม่ค่อยมา” ผมตอบแล้วเอาผ้าซับเหงื่อ
“แต่กูรู้สึกว่าไอ้เจมส์มันมองมึงแปลกๆอยู่นา...”
“แปลกยังไงวะ...”
“ก็ไม่รู้ดิ..มันอาจจะอกหักจากไอ้เมย์แล้วเบี่ยงเบนมาชอบมึงก็ได้มั้ง...”
“บ้าแล้ว...มึงก็พูดไปเรื่อย...ไปใส่ร้ายน้องมันได้ไงวะ...ไม่มีไรหรอก”
“อ๊ะไม่แน่นะเว้ย..ของแบบนี้...โสดด้วยกันทั้งคู่...มันน่าคิดนะโว้ยยยย”
“กวนตีนละมึงอ่ะ....ไม่ได้คิดก็ไม่ได้คิดดิวะ...”
“เออๆ..ไม่คิดก็ไม่คิดดิ...ว่าแต่ปีนี้เราพาน้องไปเก็บตัวที่ไหนดีวะ....ไปชะอำหรือหัวหินดีอ่ะไอ้นุ...”
“ที่ไหนก็ได้..ถ้าเป็นทะเลกูไปได้หมดแหละ...”
“งั้นไปเมื่อไหร่ดีวะ...สิ้นเดือนเป็นไง...”
“อืมม...ก็ดีนะเว้ย..เฮ้ย..สิ้นเดือน...ก็อีกสิบกว่าวันดิ..จะทันเหรอวะ...”
“ทันน่า...เดี๋ยวกูจัดการเอง...เรื่องรถกะที่พักเดี๋ยวให้แม่กูจัดการให้...เรื่องค่าใช้จ่ายเดี๋ยวก็หารกันทั้งหมดนี่แหละ...คนละพันน่าจะอยู่ไม่น่าจะเกินนี้...”



ก่อนกลับบ้านในวันนั้นไอ้กิ๋วก็แจ้งรายละเอียดกับน้องๆเรื่องการไปเก็บตัวที่ชะอำหรือเรียกอีกอย่างว่าไปเที่ยวนั้นแหละ...แต่ละคนดีใจกันยกใหญ่...เฮกันลั่นเลย...ถามโน่นถามนี่กันใหญ่...สงสัยทริปนี้คงสนุกน่าดูเลย
“ต้องเตรียมชุดว่ายน้ำไปป่าวคะพี่กิ๋ว...” วุ้นยกมือถามเสียงแจ๋น
“ตามสบายเลยมึง..จะทูพีซ...วันพีซ...ตีโป่ง..อะไรก็เรื่องของมึงเลยอีวุ้น...” ไอ้กิ๋วบอก
“แล้วนอนกันยังไงอ่ะพี่กิ๋ว...”ไอ้เต๊ะถาม   แต่อิ่มแทรกขึ้นมาตอบแทน
“ก็แยกชายแยกหญิงสิยะไอ้เต๊ะ....คิดชั่วๆอีกสิแกน่ะ...”
“โห...ป่าวคิดชั่วนะพี่อิ่ม...แต่ผมสงสัยว่า..ถ้าแยกชายแยกหญิงแล้วอีวุ้นกะอีเดี่ยวมันจะนอนไหนอ่ะพี่..555”
เท่านั้นแหละฮากันลั่นเลยกับคำพูดไอ้เต๊ะ
“กูไม่นอนกะมึงละกันไอ้เต๊ะ...ปากดีนะมึงอ่ะ...” เดี่ยวหันไปซัดเพียะที่ต้นแขนไอ้เต๊ะ
“ไปทะเลอย่างเดียวเลยเหรอพี่กิ๋ว...” ออยถาม
“ขากลับอาจจะแวะพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งด้วยนะ...เดี๋ยวรายละเอียดพี่จะแจ้งอีกทีนึง..”
   

นัดหมายอะไรอีกนิดหน่อยก็ปล่อยน้องๆกลับบ้านแล้วก็เหมือนเดิมอย่างทุกวันที่ผมต้องไปส่งไอ้เจมส์เหมือนอย่างเคย...
“พี่นุจะไปทะเลกับพวกเราหรือเปล่าอ่ะ...” ไอ้เจมส์ถามผมตอนจอดรถที่หน้าหอมัน
“ถ้าไม่ติดอะไรก็น่าจะไปนะ...ทำไมเหรอ...เจมส์มีไรป่าว??” ผมแกล้งตีหน้าซื่อแต่ก็พอจะรู้ความหมายที่เจมส์มันถามผมแหละ...เหอๆๆ
“ก็ไม่มีอะไร...ผมก็แค่อยากให้พี่นุไปด้วย...จะได้สนุกๆ...”
“เหรอ...ขาดพี่คนเดียวคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง?...แต่ก็คงต้องไปแหละไม่งั้นใครจะคุมพวกเราล่ะ...ลำพังแค่ไอ้กิ๋วคนเดียวไม่ไหวหรอก...ไปนะ..” ผมบิดกุญแจเตรียมสตารท์รถ
“พี่นุ...”
“หึ๊....ว่าไงอ่ะ...”
“พรุ่งนี้พี่นุว่างมั้ย....”  เจมส์ถาม  ผมทำท่านึกก่อนว่ามีภารกิจอะไรหรือเปล่า
“น่าจะว่างนะ..มีอะไรเหรอ...”
“พอดีไอ้เต๊ะชวนไปดูหนังอ่ะ...พี่นุไปดูด้วยกันนะ...” ผมคิดในใจ...ไอ้เต๊ะอีกแล้วเหรอวะ...
“ดูหนังเหรอ...ก็ดีเหมือนกัน...รอบกี่โมงล่ะ...”
“พี่นุมารับผมซักสี่โมงเย็นละกัน...”
“เออๆงั้นเดี๋ยวมาตอนสี่โมงละกัน...แล้วจะให้รอตรงไหน...”
“ขึ้นไปข้างบนห้องเลยก็ได้พี่นุ...เจอกันพรุ่งนี้นะครับ.....ฝันดีพี่...” ผมขับรถออกมามองไปในกระจกก็เห็นเจมส์มันยังยืนมองผมอยู่สักพักแล้วค่อยเดินเข้าหอไป...
   วันรุ่งขึ้นประมาณสี่โมงเย็นผมก็มาจอดอยู่ที่หน้าหอไอ้เจมส์แล้วก็เดินขึ้นไปบนชั้นสามห้องไอ้เจมส์มัน
ผมเคาะห้อง...ไอ้เจมส์เปิดประตุให้ผมเข้าไป...อื้อหือ..ห้องมันยังรกได้เสมอต้นเสมอปลายเหมือนวันที่ผมลากมันขึ้นมาส่งเด๊ะเลย...
“อ้าว..นัดให้มารับสี่โมงเย็น..ยังไม่เปลี่ยนชุดอีก...” ผมบ่นแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงตรงโต๊ะทำงาน
“เดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน..ห้านาทีครับรับรอง...” ไอ้เจมส์คว้าผ้าเช็ดตัวแล้ววิ่งปรื๋อออกไป...ลืมบอกไปหอนี้เป็นห้องน้ำรวมครับ...ผมนั่งมองไปรอบๆห้องเดินดูโน่นดูนี่ไปซักพัก...ไอ้เจมส์ก็เปิดประตูผลั๊วะเข้ามา....ทำเอาผมตกใจหมด...
“อ้าว..เฮ้ย...” ผมหันไปทางต้นเสียงแล้วก็ต้องรีบหันกลับมาทางเดิม...ก็ไอ้เจมส์นะสิครับเล่นนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเปลือยอกเดินเข้ามาในห้องจะไม่ให้ผมตกใจได้ไงอ่ะ
“เป็นไรอ่ะพี่นุ...” เสียงเจมส์มันถามผม...
“ปะปะ..ป่าว...เร็วๆเหอะ..เดี๋ยวไม่ทันดูหนังหรอก..” ผมตอบแต่ก็ยังไม่หันไปมองหน้ามัน...เสียงเจมส์มันเปิดตู้เสื้อกุกกักๆแล้วเดินอ้อมมายืนตรงหน้าผม...ผมก็หน้าเหรอหราเลย...เจมส์มันยื่นเสื้อให้ผมดูสองตัว
“พี่นุเลือกเสื้อให้ผมหน่อยดิ..ใส่ตัวไหนดี..”  ผมก็โอ้ยยย...เจมส์...มึงแกล้งกูป่าวว๊า...
“เอาตัวนี้...” ผมก้มหน้าก้มตาชี้ๆส่งเดชไปตัวนึง
“ตัวนี้เหรอ...แน่นะพี่นุ...ยังไม่ได้มองเลยแล้วเลือกได้ไงอ่ะ...” ไอ้เจมส์ยังงอแงผมก็เลยต้องเงยหน้ามองเสื้อที่มันถืออยู่แต่ว่ามันไม่ได้เห็นแค่เสื้อน่ะดิ...อิอิอิ...ทำไมแม่งล่ำจริงว๊าเจมส์เอ้ยยยย....
“เอ๊าาา...ตัวนี้นั่นแหละ...พอใจยัง...” ผมชี้ที่เสื้อตัวเดิมก็เห็นเจมส์มันยิ้มๆ ทำไมต้องให้ผมเลือกด้วยวะ
“รอแป๊บนึงนะค๊าบบบ...แต่งตัวก่อน...อ้าวพี่นุ..หันไปก่อนดิผมจะแต่งตัว...หรืออยากจะดูอ่ะ” เจมส์มันพูดแล้วทำท่าจะถอดผ้าเช็ดตัวจนผมต้องรีบหันไปอีกทาง...เสียงเจมส์มันหัวเราะคิกคัก...ฝากไว้ก่อนเถ๊ออ



“ไม่มาตอนห้างปิดเลยอ่ะพี่นุ....” เสียงไอ้เต๊ะโวยวายมาแต่ไกลตอนผมกับไอ้เจมส์เดินมาถึงหน้าโรงหนัง
“โน่นเลย...เพื่อนเราเลย...ช้ามากกกก...” ผมบอก
“ก็พี่นุอ่ะที่ช้า...ไม่ยอมเลือกเสื้อให้...” ไอ้เจมส์เถียงแบบข้างๆคูๆ
“โอ้ย..ไม่ต้องเถียงกันละ..นี่ตั๋ว..จ่ายมาเลยซื้อให้เรียบร้อยแล้ว...ไปเร็ว..เค้าเข้าไปกันหมดแล้ว” ไอ้เต๊ะพูดแล้วส่งตั๋วให้ผมกับไอ้เจมส์คนละใบแล้วเดินนำเข้าไปในโรง

“แบงค์..มึงรู้จักพี่ที่เดินเข้าไปในโรงหนังเมื่อกี้ป่ะ...”                                   

“คนไหนวะธีร์...”                                                  

“ก็ที่ยืนคุยกันสามคนเมื่อกี้อ่ะ....”  ธีร์ถาม...แบงค์ทำท่าคิดแล้วคิดออก                                                                                             

“อ๋อ...เค้าชื่อพี่นุ...อยู่ศึกษาฯน่าจะปีสี่ว่ะ...”                                                                                                                                           

“เหรอ...ทำไมกูไม่เคยเห็นวะ...”                                                                                                                                       

“มึงอยู่ปีหนึ่ง...พี่เค้าอยู่ปีสี่...แล้วมึงจะเคยเห็นมั้ยล่ะ...คนละคณะอีกต่างหาก...ทำไมอ่ะ...สนใจเหรอ?”                                             

“ก็พี่เค้าน่ารักดีนี่หว่า...” ธีร์พูดแล้วอมยิ้ม...


“เพิ่งอกหักมาหมาดๆก็จะเอาใหม่อีกแล้วเหรอวะไอ้ธีร์...มึงนี่ก็แปลก...คนเข้ามาชอบมาหามึงเยอะแยะเสือกไม่สน...ดั๊น..ไปชอบวิ่งตามคนอื่นเค้าซะนี่..หล่อเลือกได้นะเมิง...”

“เออ...ก็มันน่าลุ้นดีนี่หว่า...ชื่อพี่นุ..ใช่มั้ย??...อืมม...เดี๋ยวกูจะลองดูซักหน่อยละกัน...”

“แล้วคืนนี้มึงไปป่าว...ที่ The voice อ่ะ...กูนัดพวกมันหมดแล้วนะเว้ย...”

“เออๆ...ไป..เดี๋ยวกูไปเจอที่โน่นเลยละกัน...เดี๋ยวกูกลับบ้านไปอาบน้ำก่อน...แล้วเจอกันเว้ย...”



   ตลอดสองชั่วโมงกว่าๆที่อยู่ในโรงหนังเนี่ย...ทำเอาผมหลับสบายเหมือนกันแฮะแอร์เย็นๆคนก็ไม่เยอะเท่าที่ควร....สบายไปเลยผมอ่ะ...ออกมาจากโรงหนังก็เกือบจะสามทุ่มแล้ว...
“ชวนมาดูหนังนะเนี่ย...ไม่ได้ชวนมาหลับนะพี่นุอ่ะ...” ไอ้เจมส์มันบ่นผม
“ก็มันง่วงนี่หว่า...ไม่ค่อยชอบด้วยอ่ะเรื่องนี้น่ะ...”  ผมตอบ
“เดี๋ยวไปต่อกันมั้ยพี่นุ...” ไอ้เต๊ะหันมาถามผม
“จะไปไหนอีกวะป่านนี้แล้ว...”
“ผมนัดเพื่อนไว้ที่ The voice อ่ะครับ..ไปป่าวพี่นุ...ไปด้วยกัน...ถ้าไม่ชอบไปสักพักแล้วกลับก็ได้”  ไอ้เต๊ะบอก...ผมก็ยังอ้ำอึ้งอยู่ไม่รู้จำเอาไงดีเลยหันไปถามไอ้เจมส์..
“เอาไงเจมส์...จะไปหรือจะกลับหอ”
“แล้วแต่พี่นุอ่ะ...ถ้าพี่นุไปผมก็ไป...”
“ไปเหอะพี่นุ...นานๆที...นะๆ”
“เออ..ไปก็ไป...แต่ไปแป๊บเดียวนะเว้ย...ไม่ค่อยชอบไปว่ะ”


ธีร์และแบงค์นั่งดื่มเหล้าอยู่กับเพื่อนกลุ่มใหญ่ที่โต๊ะหน้าเคาท์เตอร์บาร์  กลุ่มเล็กๆ มุมห้องในผับ The voice เป็นจุดสนใจของธีร์ ชายหนุ่มห้าคนและผู้หญิงหนึ่งคน--สองคนเขามองผ่านเลย หญิงสาวดูก๋ากั่น ส่วนชายอีกคนท่าทางนุ่มนิ่ม อายุราวสี่สิบ รูปร่างท้วมๆ แต่งตัวสีสันฉูดฉาด สามคนที่เหลือดึงดูดความสนใจธีร์ได้ไม่น้อย                      
“กูว่าคนที่นั่งอยู่มุมโน้นมันหน้าคุ้นๆว่ะ..” ธีร์หันไปบอกกับแบงค์ชี้ไปทางชายหนุ่มคนนั้นสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ปลดกระดุมแขนเสื้อพับรั้งขึ้นมาครึ่งแขน กางเกงยีนส์สีเท้าเข้ม...ยิ้มกว้างสดใส! ธีร์รู้สึกเหมือนมีแม่เหล็กดึงดูด รอยยิ้มของชายหนุ่มเป็นยิ้มที่สดใสมีชีวิตชีวา...ต่างจากที่เขาเคยเห็น รอยยิ้มกว้างนั้นเป็นรอยยิ้มที่เหมือนจะทำให้ห้องส่องสว่างวาบขึ้นมา
 “ไอ้ควายธีร์...มึงจำไม่ได้เหรอวะ...” แบงค์ถาม                                                         
“ใครวะ...เห็นไม่ชัด”   ธีร์ทำหน้างงๆ                                                                    
“ไอ้ห่า...ก็พี่นุของมึงไง...โอกาสดีนะเว้ย...เข้าไปหาเลยดิวะ..”  แบงค์บอก                                                            

“เอาไว้ก่อนว่ะ...ยังไม่พร้อม...” ธีร์พูด......เหมือนจะรู้ตัวว่าโดนจ้องมอง ชายหนุ่มคนนั้นหันขวับมามอง ธีร์รีบหลบตามองไปทางอื่นทำไม่รู้ไม่ชี้...แอบอมยิ้ม พอชายหนุ่มเผลอ ธีร์ก็หันกลับไปมองอีกอย่างเพลิดเพลิน
“อ่ะพี่นุ...คนละขวด...” ไอ้เต๊ะส่งเบียร์ขวดเล็กให้ผมกับไอ้เจมส์คนละขวด                                             
“ไม่ดื่มไม่ได้เหรอวะ...”  ผมถามเสียงอ่อย                                                                      
“ไม่ได้เลยพี่นุ...มาแล้วต้องดื่ม....น่าเพื่อผม....โชนแก๊วววววว”  ไอ้เต๊ะพูด...เอาวะ...ดื่มก็ดื่ม...ครั้งแรกในชีวิตเลยที่รสชาติเบียร์สัมผัสกับลิ้นผม...                                                                       
“กินเป็นกะเค้าด้วยเหรอพี่นุ...”   ไอ้เจมส์ถามหลังจากเห็นผมทำหน้าเหมือนจะอ๊วกซะให้ได้                                               

“ก็โอเคอ่ะ...ได้อยู่...”  ผมตอบ...เฮ้อออ...ผ่านไปซักครึ่งชั่วโมงผมยังคงนั่งดูทุกอย่างอยู่เหมือนเดิม...ส่วนไอ้เต๊ะกับ               ไอ้เจมส์ก็หลับหูหลับตาเต้นกันอย่างเมามัน...แอลกอฮอล์เริ่มสูบฉีด...รวมถึงผมด้วยมองขวดเบียร์ของตัวเอง...เอ๊ะ!เกือบจะหมดขวดแล้วนี่หว่า..เอิ๊กกกก...จาหวายม้ายยยยว๊า...เหอๆๆ...ก็ไอ้เต๊ะดิครับเล่นชนแก้วกันอยู่นั่นแหละ...ผมเองก็ไม่ใช่คอทองแดงซะด้วยดิ...                               
“ไหวมั้ยพี่นุ....จะกลับกันเลยก็ได้นะ...” ไอ้เจมส์หันมาถามผม...ดูแล้วมันก็ตึงๆนะแต่คงไม่เท่าผม                               
“กลับดิ...ไม่ไหวแล้วว่ะ...โลกหมุนติ้วๆเลย...” ผมตอบ                                                              

“เฮ้ย...เต๊ะมึงอยู่ต่อใช่ป่ะ...งั้นกูกับพี่นุกลับก่อนนะเว้ย...” เจมส์หันไปบอกไอ้เต๊ะแล้วเดินออกมากับผม                             

“เจมส์ไปส่งพี่แล้วกัน...แล้วเอารถกลับหอไปก็ได้แล้วพรุ่งนี้มารับพี่ด้วย...” ผมบอก                                        

“โห...ขับไปส่งพี่นุได้ก็บุญแล้วมั้ง...ผมก็แย่แล้วเนี่ย...ว่าจะขอนอนที่ห้องพี่นุอยู่พอดี”  ได้ยินก็ตกใจวุ้ย...แต่ห่วงรถตัวเองมากกว่า                                                                               

“ห๊า....เอางั้นเลยเหรอ....เออๆตามใจละกัน...” ผมตอบๆไปเพราะอารมณ์นั้นอยากนอนเต็มที่
   



พอกลับมาถึงห้องผมก็แทบจะคลานขึ้นเตียงเลย...อยากอ๊วกก็อยากอ๊วก...แต่อยากนอนมากกว่า ผมคลานไปบนที่นอน..นอนคว่ำฟุบนอนทันที..เหลือบตามองไอ้เจมส์...เฮ้ย..มันถอดกางเกงยีนส์ทำไมวะ                                       
“เจมส์...ถอดกางเกงทามมายอ่ะ...” ผมถามเสียงอ้อแอ้ๆ                                                 
“ผมนอนทั้งกางเกงยีนส์ไม่ได่อ่ะพี่นุ...ไม่งั้นนอนไม่หลับ..”                                               
“งั้นโน้นเลย..กางเกงขาสั้นอยู่ในตู้เลย...ปายหยิบอาววว....” ผมบอก  เจมส์มันก็เดินไปหยิบมาใส่...ผมก็เห็นมันถอดเสื้ออีก...เจมส์มันคงรู้ว่าผมจะโวยวายอีกมันเลยชิงบอกก่อน                                                                 
“ผมร้อนอ่ะพี่นุ...ขอนอนถอดเสื้อแล้วกัน...” เจมส์มันบอกแล้วคลานขึ้นมานอนข้างๆผม...ช่างมันเหอะ...ม่ายหวายแล่วววว...คร่อออกกกZZzzzz!!!!!!!....   
                                                                   
           ผมหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้รู้สึกตัวอีกที...ทำไมโลกมันหมุนติ้วๆแบบนี้ว่ะ...แต่เอ๊ะ...หมอนข้างผมทำไมมันใบใหญ่จังวะ...พอเห็นว่าอะไรเป็นอะไรผมก็เฮ้ย...ผมนอนกอดไอ้เจมส์อยู่นี่หว่า...ไอ้เจมส์นอนหงายอยู่โดยมีผมนอนตะแคงเอามือกอดมันไว้ด้วย  สักพักเจมส์มันขยับผมเลยพยายามพลิกตัวเอามือออกจากตัวไอ้เจมส์แต่ปรากฏว่าไอ้เจมส์มันดึงผมไปกอดมันให้อยู่ในท่าเดิมเป๊ะ....ตกลงมันรู้เรื่องป่าววะเนี่ย...เมาจริงหรือเมาดิบหว่า...ยังไม่ทันจะคิดอะไรต่อไปผมก็หลับไปอีก...ZZZZZzzzz!!!!!!


         โอ้ยยยย...ทำไมมันปวดหัวอย่างนี้ว๊า...ผมกุมขมับตัวเองในขณะที่ยังนอนคว่ำมุดอยู่ใต้ผ้าห่มอยู่..เอ๊ะ!..ผมไม่ได้อยู่คนเดียวนี่หว่า...แล้วตอนนี้หัวผมซุกอยู่กับอะไรว่ะนุ่มๆปนแข็งๆเหมือนกล้ามเนื้อ...แล้วมือของผมมันกำลังโอบกอดอะไรไว้อยู่วะ...ผมค่อยๆเงยหน้าจากผ้าห่มขึ้นมาก็เห็นไอ้เจมส์นั่งเอนหลังพิงกับหัวเตียงเสื้อก็ไม่ใส่...อมยิ้มมองผมที่กำลังหนุนอยู่ในซอกแขนของไอ้เจมส์แถมยังกอดมันไว้อีกต่างหาก...                                                                                                            

“ตื่นแล้วเหรอพี่นุ...”  เจมส์ทัก...ผมทำท่าจะดึงมือที่กำลังกอดไอ้เจมส์ไว้ออกแต่เจมส์มันไวกว่า...มันคว้ามือผมไว้ก่อน

“จะเอาออกทำไมอ่ะพี่นุ...ไหนๆก็นอนกอดผมมาทั้งคืนแล้ว...กอดผมต่ออีกหน่อยผมก็ไม่คิดเงินหรอก...” เจมส์พูดแล้วกุมมือผมไว้แน่น....                                                                                       

“เอ่อ...โทษทีว่ะเจมส์....พอเมาทีไรนิสัยเสียทุกทีเลย...” ผมพูดแบบแก้เขินยังไม่กล้าสบตาไอ้เจมส์นัก...                                 

“ไม่รู้อ่ะ..พี่นุนอนกอดผมทั้งคืนแบบนี้...ผมเสียหายนา...” ไอ้เจมส์พูดผมก็จะดึงมือออกแต่มันก็จับไว้อยู่                                 

“งั้นก็ปล่อยได้แล้วเว้ย...จะไปอาบน้ำ...” ผมพยายามดึงแต่ก็ยังไม่หลุด                                 

“อย่าเพิ่งดึงมือออกเลยพี่นุ...ขอผมมีความสุขอีกหน่อยนึงนะ...”  เจมส์พูดแล้วเลื่อนตัวลงมานอนคู่กับผม โดยที่เวลานี้กลายเป็นว่าผมนอนหนุนแขนไอ้เจมส์อยู่อีกมือก็ยังกอดเจมส์มันไว้เหมือนเดิมเป๊ะ...เจมส์ขยับให้ตัวผมชิดกับตัวมันมากขึ้น..จนตอนนี้ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว...                                                                                       

“พี่นุ...รู้ใช่มั้ยว่าผมรู้สึกกับพี่ยังไง...” เจมส์พูดไม่ค่อยเต็มเสียงนัก...ผมก็ใจเต้นตึ่กๆ...ยังไงดีวะกรูเอ๊ยย..เงียบไปก่อนละกัน...ดูดิ๊เจมส์มันจะพูดอะไรต่อ...ถ้าผมยังเงียบอยู่แบบนี้...                                                                                          

“พี่นุเงียบทำไมอ่ะ...พี่ไม่ได้รังเกียจผมใช่มั้ย...”  เจมส์เลื่อนหน้าลงมาจนหน้าของเราแทบจะชนกัน...จนรู้สึกถึงลมหายใจของเราทั้งคู่                                                                 

“เอ่อ...พี่ไม่รู้จะตอบยังไงอ่ะเจมส์...” ผมตอบเสียงอ่อยๆ เจมส์ยังคงจ้องหน้าผมอยู่                                                 

“งั้นพี่ยังไม่ต้องบอกอะไรกับผมก็ได้....แต่ผมขออนุญาตกอดพี่นุไปแบบนี้อีกซักพักนะ...”  เอาแล้ว...ไอ้นุเอ๋ยยยย... 
งานเข้าอีกแล้วครับท่าน....

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เขิน..นนนนนนนนนนนนนนนน    :-[

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เด่วจะยิ่งฟินนนกว่านี้อีกคับ....อิอิอิ :o8:

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่  6_เผลอใจ...

                                                 
“ไงอีวุ้น...เดินขาถ่างมาเชียวนะเมิง....จะเต้นได้มั้ยเนี่ยอีดอก”   เดี่ยวขำชอบอกชอบใจแซววุ้นที่เดินเข้ามาซ้อมอย่างอ่อนเปลี้ยเพลียแรง                                                                      

“แหม...มึงก้อ...แบงค์เค้าอุตส่าห์มาหา..กูก็เลยจัดชุดใหญ่ให้ซะดอกนึงเอ๊งงงง” วุ้นนั่งลงข้างๆ                                                 

“เมามาอีกละสิ..ไอ้แบงค์น่ะ...ไอ้พวกนี้เมาแล้วแอลกอฮอล์ลงไข่ทู๊กที...ตอนปกติกูไม่เห็นมันจะอะไรกับมึงเลยอีวุ้น...” เดี่ยวพูด วุ้นหันมาชักสีหน้า                                                                 

“ปากดีนะมึง..กูกะแบงค์อ่ะเราออกจะรักกัน..เจอเทอร์โบสิบหกวาวล์อย่างกูอ่ะแบงค์ไปไหนไม่รอดร๊อก”                           

“อ่ะจ๊า....กูนะรอดูวันมึงน้ำตาเช็ดหัวเหน่า...”                                                      

“อีควาย...เค้าเรียกหัวเข่า...”                                                        

“เออๆนั่นแหละ...นี่...วันหลังกูขอกินมั่งนะแบงค์น่ะ....อยากลองชิมซิว่าหนุ่มนิเทศมันจะแซ่บแค่ไหน...” เดี่ยวทำท่าเอาลิ้นเลียปากแพร่บๆ   วุ้นค้อนขวับ                                                                                             

“ข้ามศพกูไปก่อนเถอะอีเดี่ยว...”  พูดแล้วหยิบกูลิโกะป๊อกกี้สีชมพูขึ้นมาใส่ปากแล้วส่งให้เดี่ยวหนึ่งอัน...                               

“โน่น..เทพบุตรของมึงเดินมาโน่นแล้วอีวุ้น...ต๊ายยย...อะไรดลใจให้มาถึงที่นี่ยะ...” เดี่ยวบอก  วุ้นเองก็ยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมเลยพอเห็นแบงค์กับธีร์เดินเข้ามา                                                                          

“จะมาทำไมไม่โทรบอกวุ้นก่อนละแบงค์...” วุ้นเดินไปดึงแขนแบงค์มานั่งที่โต๊ะ ส่วนธีร์ก็ยืนอยู่กวาดสายตามองไปรอบๆเหมือนกำลังหาอะไรอยู่ พอเดี่ยวหันไปเห็นธีร์ก็หันมาขยิบตากับวุ้นทำหน้าทะเล้น ทำปากพูดว่า “หล่อมากกกก” โดยไม่ออกเสียง

 “มองหาอะไรน่ะธีร์....ถ้าหาคนสวย.....ก็นั่งอยู่ตรงนี้ไงค๊า...”  เดี่ยวพูดแล้วทำตาปิ๊งๆ                                                   

“อ๋อ...ไอ้ธีร์มันมองหาพี่นุน่ะ...” แบงค์ตอบแทนทำเอาวุ้นกับเดี่ยวทำหน้างง                                             

“พี่นุ...ธีร์จะมาหาพี่นุทำไมอ่ะ..”  วุ้นถาม                                                                      

“อย่ารู้เลยน่า...” แบงค์ยังตอบแทนอยู่  ธีร์นั่งลงข้างๆแบงค์                                                            

“ปกติพี่นุเค้ามาที่นี่กี่โมงเหรอ?...”  ธีร์หันมาถามวุ้น                                                        

“ก็ไม่แน่ไม่นอนอ่ะ...ธีร์มีไรอ๊ะป่าว...” วุ้นทำหน้าสงสัย                                                     

“อย่าบอกนะว่าธีร์จะมาจีบพี่นุอ่ะ...หุหุหุ”  เดี่ยวพูดแทรกขึ้นมาแบบล้อเล่นไม่ได้จริงจัง                                              

“อืมม..ก็ใช่นะสิ..” ธีร์พยักหน้า                                                                             

“ห๊า...จีบพี่นุ...”  เดี่ยวกับวุ้นพูดพร้อมกันแล้วทำตาโตเอามือทาบอก                                                     

“จริงดิ๊....ตายละ...คนสวยอกหักอย่างแรง.....” เดี่ยวทำเสียงผิดหวัง                                

“ไม่ได้ล้อเล่นใช่มั้ยเนี่ย...” วุ้นหันไปถามแบงค์...แบงค์ก็พยักหน้า                                

“คนหล่อๆทำไมต้องมาชอบคนหล่อๆด้วยกันหมดเลยว๊า..” เดี่ยวหันไปกระซิบกับวุ้น แบงค์ดูนาฬิกาแล้วหันไปถามธีร์                             

“เอาไงธีร์..จะรอหรือจะกลับวะ...”  ธีร์ทำท่าคิด                                                                 

“อืมมม...กลับก่อนก็ได้...วุ้น..งั้นฝากบอกพี่นุด้วยนะ....ว่ามีคนคิดถึง...” ธีร์พูดแล้วลุกออกไป                                                  

“จ๊า...เดี๋ยวจะบอกให้นะตัวเอง...” เดี่ยวพูดแทนโบกมือบ๊ายบายทำท่าส่งจูบให้ทั้งสอง                                                 

“ธีร์เค้าฝากกู...ไม่ได้ฝากมึง...อีปลวก...” วุ้นหันมาด่า                                            

“กูรู้ละ...อีชะมด...ว่าแต่..เฮ้อ...อิจฉาพี่นุจัง..มีแต่คนมาชอบ...” เดี่ยวพูดแล้วถอนใจเฮือกใหญ่   





“แบงค์...มึงว่าพี่นุเค้าจะชอบกูมั้ยวะ...” ธีร์ถามตอนเดินออกมาจากสนาม                                       
   
“ไม่น่าถาม...หล่อๆอย่างมึงใครไม่ชอบก็โง่แล้ว...” แบงค์ตอบ                                                  

“แล้วถ้าพี่นุเค้ายอมเป็นคนโง่ละวะ...”                                          

“อันนี้กูก็ไม่รู้ว่ะ...กูจะตอบแทนพี่เค้าได้ยังไงวะ...ว่าแต่มึงเอาจริงอ่ะ...ที่จะจีบพี่เค้าอ่ะ...”                                             

“ไม่รู้ดิ...แต่กูรู้ว่า..กูเห็นพี่เค้าแว่บเดียวกูก็ชอบพี่เค้าแล้วอ่ะ...คนอะไรน่ารักชิบ...” ธีร์พูดแล้วยิ้ม                                               

“เป็นเอามากเว้ยเพื่อนกู...ให้มันจริงเถ๊อ..กูกลัวแต่ว่ามึงจะฟันแล้วทิ้งเหมือนที่ผ่านมาอ่ะดิ....พอได้แล้วก็หายอยากอ่ะ...ชิ่งหนีตามระเบียบเหมือนพี่นวินไง...”                                                                    

“นั่นมันอดีตเว้ย...พี่นวินแม่งขี้หึงเกิน....ตอนนี้กูไม่แล้ว...คนนี้กูรักจริง...”                                                                                

“รักจริง...ทั้งๆที่มึงยังไม่เคยคุยกับพี่เค้าเลยเนี่ยนะ...บ้าไปแล้วมึงอ่ะไอ้ธีร์”                                                                        

“แค่พี่เค้ายอมคุยกับกู....ไม่ต้องได้กับพี่เค้า.....แค่นี้กูก็ดีใจแล้วว่ะ...”                                                               

“น้ำเน่าว่ะ...แต่ถ้าได้พี่เค้าด้วยก็ดีใช่มะ..กูรู้หรอกน่า...”                                                            

“มึงก้อ...แค่ได้ใจพี่นุเค้าอย่างเดียวก็พอแล้วเว้ย....สำหรับกูอ่ะ...”                                                                                             

“แต่กูว่า...ตอนนี้แค่หน้าพี่เค้า...ก็ให้มึงได้เห็นก่อนเหอะว่ะ....เฮ้ย!ธีร์...แต่กูว่านะ....ยังไงได้ทั้งตัวด้วยได้ทั้งใจด้วย...  มันก็ดีกว่าได้อย่างใดอย่างหนึ่งนาเว้ยยยย...เชื่อกูดิ ”                                                                          

“มึงขอเบอร์โทรพี่นุให้หน่อยดิ...จากไอ้วุ้นไง...ช่วยกูหน่อยดิ..ไม่ได้เห็นหน้าแค่ได้ยินเสียงก็ยังดี..”  ธีร์พูด  แบงค์เอามือไปทาบหน้าผากธีร์แล้วก็กลับมาทาบหน้าผากตัวเอง                                                                                    

“นี่มึงถึงขั้นเพ้อเลยเหรอวะธีร์...ท่าทางอาการหนักนะมึงเนี่ย...เออๆเดี๋ยวกูจะขอให้ละกัน...หวังว่าถ้าพี่นุเค้าไม่รับรักมึง..มึงคงไม่นั่งร้องไห้ฟูมฟายขี้มูกโป่งนะเว้ย...”                                                                                                                   

“ระดับกูไม่มีอยู่แล้วเว้ย...เรื่องจีบไม่ติดอ่ะ...”                                                      

“อ๊ะๆ...เวรกรรมมันมีจริงนา...หักอกคนอื่นเค้ามาเยอะระวังโดนมั่งนา...แล้วจะหาว่ากูไม่เตือนไม่ได้นะ..”                         

“อวยพรล่วงหน้าเลยนะเมิง...จะจีบพี่นุไม่ติดก็เพราะมึงนี่แหละ..ไปเร็ว..กูหิวข้าวแล้ว”
   


วันนี้เป็นวันแรกที่ผมเองไม่อยากจะไปซ้อมหลีดเลยเพราะผมเองยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับไอ้เจมส์เลยตั้งแต่มันบอกความในใจกับผม...ผมเองไม่รู้ว่าผมควรจะรู้สึกยังไงดี..ผมควรจะดีใจ..เสียใจหรือยังไงวะ...สับสนโคตรๆ...ผมนั่งมองนาฬิกาตอนนี้ก็เกือบจะหกโมงเย็นแล้ว...ป่านนี้เค้าก็คงซ้อมกันได้มั้ง?....
โทรศัพท์ผมก็ยังคงสั่นอยู่อย่างสม่ำเสมอซึ่งก็คงเป็นเจมส์นั่นแหละที่โทรมา...วันนี้ทั้งวันเจมส์มันโทรหาผมตลอดแต่ผมเองนี่แหละที่ไม่ยอมรับสายมันอ่ะ...เฮ้อ...ขอเวลาอีกนิดนะเจมส์....โอ้ยยย..ปวดหัวเว้ย...อาบน้ำดีกว่า...

“เอาละ...เดี๋ยววันนี้พี่จะปล่อยเลยละกัน....ส่วนกำหนดการเดินทางไปเก็บตัวของเรานี่...ก็อย่างที่บอกไปเมื่อกี้...เราจะเดินทางกันศุกร์หน้า...ส่งเงินได้ที่พี่ปอยตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปนะ...อย่างช้าวันพุธ..” ไอ้กิ๋วบอกเสียงเข้ม...แล้วจึงปล่อยน้องๆกลับบ้าน                                                                                                    

“ไอ้เต๊ะ...เดี๋ยวมึงเลยไปส่งกูที่หอพี่นุหน่อยดิ...”  ไอ้เจมส์เดินมาบอกไอ้เต๊ะมันก็ทำหน้าขมวดคิ้วสงสัย                                 

“ไปหอพี่นุอีกแล้วเหรอวะ...มีไรป่าวเนี่ยไอ้เจมส์...”                                                 

"ป่าววว....กูแค่เป็นห่วงพี่เค้า...วันนี้ทั้งวันติดต่อพี่นุไม่ได้เลย..ไม่รู้เป็นอะไรหรือเปล่า..”                                                             

“กูไปส่งแค่หน้าหอพี่นุนะ...แล้วมึงหาทางกลับเองนะเว้ย..กูรีบวันนี้อ่ะ...”                                                                   
ผมอาบน้ำเสร็จนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมานั่งเช็ดผมอยู่ที่ปลายเตียง..สักพักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น...ผมเดินไปเปิดประตูเพราะนึกว่าเป็นไอ้กิ๋วคงตามมาด่าผมที่อู้งานวันนี้...แต่ที่ไหนได้พอเปิดประตูออกไป...                                 

“เจมส์...” น้ำเสียงผมตกใจมากเพราะไม่คิดว่าจะเป็นไอ้เจมส์แถมผมยังนุ่งผ้าเช็ดตัวอยู่อีก  เจมส์ไม่รอให้ผมเรียกแต่เจมส์มันผลักประตูเข้ามาแล้วปิดประตูทันที....                                                                          

"ทำไมพี่นุไม่รับโทรศัพท์ผม....”  เจมส์จ้องผมตาเขม็ง  ผมก็ยืนอึ้งอยู่                                                         

“พอดีวันนี้พี่ลืมโทรศัพท์อ่ะ...” เหตุผลฟังไม่ขึ้นเล้ยผมอ่ะ...                                               

"ไม่จริงอ่ะ...พี่นุจงใจไม่รับต่างหาก...” เจมส์เริ่มเสียงดังจนผมตกใจ                                  

"พี่ว่าเจมส์คุยไม่รู้เรื่องแล้ววันนี้อ่ะ...กลับไปก่อนเหอะ...”                                                         

“พี่นุเกลียดผมใช่มั้ยที่ผมบอกพี่ไปแบบนั้นอ่ะ...”  ผมส่ายหน้าเดินไปเปิดประตูแต่เจมส์คว้าแขนผมไว้แล้วดึงกลับมา

“เฮ้ย..เจมส์ปล่อย...” ผมพยายามสะบัดมือ...ผ้าเช็ดตัวก็จะหลุด                                                

“ผมไม่กลับอ่ะ...ถ้าผมคุยกับพี่นุไม่รู้เรื่องแบบนี้...”  เจมส์เอามือสองข้างจับไหล่ผมไว้                                                                

“เจมส์...อย่าเพิ่งเลย...พี่ไม่รู้จะพูดอะไรอ่ะ...” ผมยืนก้มหน้านิ่ง เจมส์ยังคงจ้องตาผมอยู่                                                     

“พี่นุ...พี่นุก็รู้ว่าผมชอบพี่...แล้วพี่นุจะไม่ให้คำตอบอะไรกับผมบ้างเลยเหรอ..” น้ำเสียงเจมส์อ่อนลง                                             

“พี่นุ....ยังไม่บอกผมตอนนี้ก็ได้แต่ขอให้ผมได้กำลังใจจากพี่นุบ้าง....ให้ผมได้รู้สึกเพียงสักนิดก็ยังดีว่า พี่นุไม่ได้รังเกียจผม..”

เจมส์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนผมได้ยินเสียงหายใจ...ผมรู้สึกว่ามันใกล้ขึ้น...ใกล้ขึ้น...จนผมรู้สึกว่าริมฝีปากเราใกล้กันเกินไป...อีกนิดเดียวก็จะประกบกันแล้ว....ก่อนที่อะไรจะเลยเถิดไปกว่านี้ผมต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว...                         

“เจมส์....อย่าเลยนะ....”  ผมบอกเสียงค่อย...มือก็พยายามจะผลักอกไอ้เจมส์แต่มันเหมือนเอาไปแตะๆไว้มากกว่า   

“อย่าห้ามผมเลยครับพี่นุ...”  ผมก็รู้สึกว่ามีริมฝีปากอุ่นๆแตะลงมาบนริมฝีปาก ผมเผยอริมฝีปากรับการจูบอย่างไม่รู้ตัว  แล้วค่อยๆดันอกเจมส์ออกไปอย่างช้าๆ....เจมส์ค่อยๆถอนริมฝีปากออกมาอย่างตัดใจก่อนที่จะมองหน้าผมอีกครั้ง....รู้สึกหน้าตัวเองแดงจัดจริงๆเลยตอนนั้น...นี่กูทำอะไรไปวะเนี่ย...                                                                                                     

“ พรุ่งนี้เจอกันนะพี่นุ “ เจมส์พูดเขินๆ แล้วเดินออกจากห้องไปทิ้งให้ผมเองยืนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตรงนั้นพักใหญ่...นึกแล้วก็โมโหตัวเองที่เผลอใจจูบกับไอ้เจมส์ไป...เจมส์มันจะคิดว่าผมมีใจให้ไปแล้วหรือเปล่าวะเนี่ย...ไม่ได้การละ ผมเองก็ต้องเข้มแข็งกว่านี้ถ้ายังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดให้กับตัวเองอ่ะ...เฮ้ออ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เค้าจูบกันแย้ว..ววววว  :mew1:

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่  7_ความบังเอิญ...

                                                                                       
“เบอร์ใครวะ...ไม่คุ้นเลย...” ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วพยายามนึก   แต่ก็ดูแล้วไม่คุ้นเลยกดรับซะหมดเรื่อง                    

“ฮัลโหล...สวัสดีครับ...” ผมพูด  ทางปลายสายฝั่งโน้นมีเสียงกุกกักนิดหน่อย                              

“ฮัลโหล...ใช่เบอร์พี่นุป่าวครับ...”                                               

“อ๋อ...พูดอยู่ครับ...ใครเนี่ย...” ผมเดินไปยืนรับลมตรงระเบียงเพราะมันร้อนมากกกกกกก...                                     

“ตอนนี้พี่นุยังไม่รู้จักผมหรอกครับ...แต่เดี๋ยวเราก็คงรู้จักกัน...”  ฟังแล้วก็งง...ใครอำผมหรือป่าววะ....                     

“แล้วได้เบอร์พี่มาได้ไงเนี่ย...”                                                                    

“มันไม่สำคัญหรอกครับว่าผมได้เบอร์พี่นุมายังไง...แต่มันสำคัญตรงที่ผมอยากรู้จักพี่นุมากกว่า...พี่นุจะว่าอะไรมั้ยครับถ้าผมจะขอโทรมาหา..โทรมาคุยกับพี่นุบ้าง...”  ฟังแล้วก็งงคูณสอง                                 

“เอ่อ...แล้วเราชื่ออะไรเนี่ย...มีที่มายังไงเล่ามา...ถ้าคิดจะคุยกัน...”  ผมยื่นขอเสนอ อีกฝ่ายที่ฟังอยู่หัวเราะคิกคัก                 

“แหม!รอบคอบจังนะครับพี่นุ...ผมยืนยันเลยว่าผมไม่มีเจตนาร้ายแอบแฝง...ผมชื่อธีร์ครับ...เรียนอยู่นิเทศฯปี 1”       

“แล้วนึกยังไงโทรมาคุย...”                                                                         

“ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ..ก็แค่ชอบ...ไม่ได้มีเหตุผลอื่น..”  โห...เล่นกันตรงๆอย่างนี้เลยเหรอวะ...                                

“เหอๆ...ตรงดีเนอะ...หึหึ..”  ผมเริ่มไปต่อไม่ถูกละ                                                            

“ก็ตรงๆนี่แหละครับ..ผมไม่ชอบอ้อมค้อม...พี่นุคงไม่ว่าอะไรผมนะครับที่พูดตรงแบบนี้....”                                                 

“อืมม..ไม่หรอก...มีคนชอบก็ดีกว่ามีคนเกลียดไม่ใช่เหรอ...”  เอาไงต่อดีอ่ะ...                                                      

“พี่นุไม่มีอะไรจะถามผมแล้วเหรอครับ...อยากรู้อะไรก็ถามผมได้นะ...”                                       

“อืมม...อ๋อ..นึกออกแล้ว...เราเคยเห็นพี่แล้วเหรอ...”                                                                                         

“เคยสิครับ..ไม่งั้นจะชอบได้ไง....”                                                   

“ที่ไหนอ่ะ...”                                                                            

“วันนั้นพี่นุไปดูหนังกับเพิ่อนใช่มั้ยครับ....แล้วพี่นุก็ไปเที่ยวต่อที่ The voice”                                              

“เฮ้ย...เรารู้...แอบสะกดรอยตามพี่หรือเปล่าเนี่ย...”                                                            

“ไม่หรอกครับ....มันเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า...วันนั้นที่ The voice พี่นุเองยังมองมาทางผมอยู่เลยเพียงแต่พี่นุอาจจะไม่ได้สังเกตว่ามีใครแอบมองอยู่...”                                                              

“อืมม..เหรอ...บังเอิญดีเนอะ...ไม่รู้จะถามอะไรแล้วอ่ะ..ไว้ถ้านึกออกจะเป็นฝ่ายโทรไปถามเองดีมั้ย..”                             

“ยินดีครับพี่นุ...ความจริงแล้ววันนี้ผมอยากเข้าไปหาพี่นุที่หอด้วยซ้ำ...อยากเห็นหน้าพี่นุใจจะขาด...แต่มันคงไม่เหมาะเพราะเราเพิ่งจะได้คุยกัน....จริงๆเมื่อวันก่อนผมก็เข้าไปหาพี่นุที่คณะนะครับ...แต่พี่นุยังไม่มาผมก็เลยกลับก่อน...แต่ว่าแค่พี่นุคุยกับผมขนาดนี้ผมก็ดีใจแย่แล้วนะครับ...ที่อย่างน้อย...พี่นุก็ไม่ได้รังเกลียดผม...”  ธีร์พูดจนผมอดอมยิ้มไม่ได้... จะเกลียดได้ไงฟะหน้าเจ้าธีร์ผมก็ยังไม่เคยเห็นเลย                                                      

“ไม่เป็นไรหรอก...ถ้ามาดีพี่ก็คุยด้วยได้หมดแหละ...แต่คุยแล้วอย่าโกหกกันก็แล้วกัน...มีอะไรก็บอกตรงๆไม่ต้องปิดบัง...ถ้าคิดจะคุยกันแล้วอ่ะ..”                                                             

“แน่นอนครับ...ผมไม่มีอะไรปิดบังพี่นุอยู่แล้ว...ขอบคุณมากครับสำหรับวันนี้...ผมคิดถึงพี่นุนะครับ...” พูดเสร็จเจ้าธีร์ก็วางสาย...ผมวางโทรศัพท์แล้วก็ยังมานั่งงงๆอยู่ว่า...คือใครวะเจ้าธีร์เนี่ย...แต่ช่างเหอะเค้ามาดีก็คุยดีไว้ก่อนละกัน...






“ไอ้นุ...โทรศัพท์เป็นห่าอะไรเนี่ย..สายไม่เคยว่างเลย...ชั้นนั่งกดมาเป็นชาติแล้วเนี่ย...แกรีบมาที่คณะเดี๋ยวนี้เลย...โรงเรียนที่เราเลือกฝึกสอนมีปัญหาว่ะ...แกรีบมาเร็วๆเลยนะ...” นัทตี้ใส่เป็นชุดหลังจากผมกดรับโทรศัพท์อีกครั้งนึง   

“เออๆพอดีแม่โทรมาว่ะ...รู้แล้ว...เดี๋ยวรีบไปเลยเนี่ย...พวกแกอยู่ที่คณะนะ..โอเคๆ..” ผมวางสายแล้วรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วพุ่งตรงไปที่คณะเร็วจี๋เพื่อที่จะได้ไม่ต้องโดนนัทตี้มันว๊ากเอาอีก...อีกสิบห้านาทีผมก็มาถึง

“มีอะไรวะ...ตกอกตกใจหมด...” ผมบ่น  นัทตี้ดึงผมมานั่งที่ระเบียงหน้าห้องของอาจารย์ที่ปรึกษา

“ก็โรงเรียนที่พวกเราเลือกไปฝึกสอนเนี่ย...มันเต็มว่ะ...อาจารย์เค้าอยากให้ไปอีกทีนึง...” นัทตี้บอก

“ไปที่ไหนวะ...เฮ้ย..ถ้ากันดารไม่ไปนะเว้ย....”  ผมบอกแล้วนัทตี้มันก็ชี้ไปที่อาคารเก่าๆสี่ชั้นที่ตั้งอยู่หลังคณะ

“อาจจารย์เค้าจะให้ไปที่นั่นอ่ะ...” ผมมองตามที่นัทตี้มันชี้ไปแล้วก็เหวอเลย

“โรงเรียนสาธิตเนี่ยนะ...ไม่ไหวม้าง” ผมร้องเสียงดัง                  

“ไม่ไหวก็ต้องไหวอ่ะ...ชั้นเซ็นชื่อไปแล้ว...เหลือแกอ่ะไอ้นุ...เข้าไปเซ็นเลย..”  ไอ้นัทตี้พูดแล้วดึงผมลุกขึ้นดันหลังผมให้เข้าไปในห้องอาจารย์...เฮ้อ...จะไหวมั้ยเนี่ย...นุเอ๊ยยยยย....



   กว่าจะทำธุระเรื่องโรงเรียนที่ต้องฝึกสอนเสร็จก็สี่โมงเย็นพอดี...ผมกับไอ้นัทตี้และเพื่อนๆคนอื่นในเอกอีก   5-6 คนก็แยกย้ายกันกลับ...ผมเดินไปที่รถไขกุญแจแล้วเตรียมสตารท์แต่มันก็เงียบกริบ...

“เฮ้ย..เป็นไรอ่ะ...” ผมบอกกับตัวเองแล้วลองสตารท์ดูอีกทีมันก็ยังไม่ติด...เปิดถังน้ำมันดู...น้ำมันก็มีนี่หว่า...โธ่เว้ยยย
ต้องจูงอีกแล้วเหรอวะ...นึกแล้วก็หัวเสีย...หงุดหงิดเรื่องโรงเรียนแล้วยังต้องมาหงุดหงิดเรื่องรถเสียอีก...วันนี้มันวันอะไรวะ...ผมถอนใจเฮือกใหญ่แล้วก็จูงรถคนเก่งออกไปร้านซ่อมหลังมอ...เวลาขี่ผ่านหลังมอเหมือนร้านมันอยู่ใกล้นิดเดียวแต่เวลาจูงไปเหมือนมันไกลจังเลยวะ...จูงไปก็บ่นไป...ปิ๊นๆ....เสียงแตรรถใครมาดังอยู่ด้านหลังวะไม่เห็นรึไงว่าคนรถเสียเนี่ย...ผมหันไปมองก็เจอรถซีอาร์วีสีดำจอดอยู่ด้านหลัง...มีน้องผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งเปิดประตูลงมา...ไม่ใช่หน้าตาดีสิ...หน้าตาหล่อเลยต่างหากเดินเข้ามาหาผม...ผมก็ใครวะ...ไม่เคยเห็นหน้า

“รถเป็นอะไรอ่ะครับ...รถเสียเหรอ..”  น้องคนนั้นเดินเข้ามาถามใกล้ๆแล้วนั่งยองๆก้มดูใต้ท้องรถ

“อืมมม...ไม่รู้มันเป็นอะไรเหมือนกัน...เมื่อกี้ก็ขี่มาดีๆ...” ผมบอก

“งั้นเดี๋ยวผมช่วยจูงไปละกันครับ...ผมเห็นพี่จูงมาไกลแล้ว..” น้องคนนั้นบอกแล้วคว้ารถผมจูงเดินต่อไป...ผมเห็นพี่จูงมาไกลแล้ว...มันหมายความว่าไงวะ...

“เอ่อ..ไม่เป็นไรหรอกครับร้านแค่นี้เองเดี๋ยวจูงไปเองดีกว่า...” ผมทำท่าเข้าไปจะจูงเองแต่น้องเค้าก็ยังจูงต่อผมก็เดินตาม

“ไม่เป็นไรหรอกครับพี่นุ..เดี๋ยวผมจูงให้...” ห๊า...ไม่เป็นไรหรอกครับพี่นุ...น้องคนนี้มันรู้จักชื่อผม...รู้ได้ไงวะ...จะว่าไปเสียงนี้มันก็คุ้นๆนะ...หรือว่าน้องคนนี้จะเป็น....ผมเลยลองตัดสินใจเรียกดู..เป็นไงเป็นกันวะ

“ธีร์เหรอ?...ใช่หรือเปล่า??...” ผมถาม  คนที่จูงรถตรงหน้าผมหยุดกึกเลย....แล้วหันมาทำหน้ายิ้มๆ

“แหม!ผมไม่น่าพลาดเรียกชื่อพี่นุเลย...พี่นุก็เลยรู้หมดเลย...” ธีร์เกาหัวเขินๆ ผมก็..เฮ้อ..โล่งอกที่ใช่...จะว่าไปไอ้ธีร์นี่ก็หล่อดีนี่นา...อย่างธีร์มันไม่น่าจะมาชอบผมนะเนี่ย...พอรู้ว่าคนตรงหน้าคือคนที่โทรมาบอกว่าชอบผมก็เริ่มไปต่อไม่ถูกอีกแล้วเหมือนเดิม...ผมเดินตามเจ้าธีร์ไปจนถึงร้านซ่อมรถ..ระยะทางก็ทำให้เจ้าธีร์เหงื่อตกได้เหมือนกันแฮะ...เจ้าธีร์เอาแขนเสื้อซับเหงื่อที่หยดติ๋งๆ...ผมเลยส่งผ้าเช็ดหน้าให้เพราะเมื่อใครมีน้ำใจให้ผมผมก็ควรจะแสดงน้ำใจเล็กๆน้อยๆกลับไปบ้างจริงมั้ยครับ...ผมส่งให้...เจ้าธีร์มันก็หันมามองงงๆยิ้มๆแล้วก็รับผ้าไปซับเหงื่อ

“ขอบคุณครับ...เดี๋ยวผมซักมาคืนนะ...” พูดแล้วยิ้มหวานเชียว

“ไม่เป็นไรหรอก...มีเยอะ....” ผมบอกแล้วหันหน้าไปมองทางอื่นเพราะเริ่มรู้สึกว่าเขินๆยังไงไม่รู้





“โห..น้อง...เครื่องมันน๊อกไปเลยเนี่ยวันนี้คงไม่ทันหรอกเพราะพี่ต้องรื้อเครื่องหมดเลย...น่าจะเสร็จพรุ่งนี้เย็นๆแหละ”ช่างเดินออกมาบอก

“พรุ่งนี้เลยเหรอครับ...มันซ่อมก่อนซักนิ๊ด..ไม่ได้เลยเหรอครับ...” ผมต่อรอง

“ไม่ได้หรอกน้อง..แค่สตารท์ยังไม่ติดก็จบเลยอ่ะ...”

“งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เย็นๆผมมาดูละกัน...ธีร์ขอบคุณมากนะถ้าไม่เจอธีร์คงแย่..”  ประโยคหลังผมหันมาบอกธีร์แล้วเดินออกจากร้านซ่อมเจ้าธีร์วิ่งตามออกมา

“พี่นุ...แล้วจะกลับยังไงครับเนี่ย...”

“เดี๋ยวคงนั่งรอรถเมล์อ่ะ...ทำไงได้...”  ผมบอก     ผมเห็นเจ้าธีร์มันอึกอักๆทำท่าจะพูดอะไรซักอย่าง

“งั้น...ผมขอไปส่งพี่นุได้มั้ยครับ...จะได้ไม่ต้องรอรถเมล์...” 

“เอ่อไม่ดีม้าง...จะดีเหรอ...” ธีร์คงเห็นผมลังเลเลยพูดต่อ

“นะครับ...รับรองความปลอดภัย...” ธีร์พูดแล้วยิ้มเต็มที่...เออ..เอาวะคงไม่มีอะไรเสียหายหรอกเนอะ...ผมพยักหน้าแล้วเดินกลับไปที่รถเจ้าธีร์ที่จอดทิ้งไว้ก็ไกลจากร้านพอสมควร...ผมกับธีร์เราเดินคู่กันไปแบบเรื่อยๆไม่ได้รีบร้อนอะไร

“ไม่คิดว่าจะได้เจอพี่นุวันนี้นะครับเนี่ย...” ธีร์พูดเขินๆ

“อ้าวเหรอ...นึกว่าสะกดรอยตามมาซะอีก...” ผมแซวขำๆแต่ทำเอาเจ้าธีร์หน้าเสียเลย

“ป่าวนะครับพี่นุ...มันบังเอิญจริงๆนะ..พี่นุไม่เชื่อผมเหรอ...” ธีร์พูดแล้วทำตาละห้อย

“เฮ้ย...ล้อเล่น...อย่าคิดมาน่า....” ผมพูดแล้วเอามือผลักไหลเจ้าธีร์แบบขำๆเจ้าธีร์เองก็รับมุกเซแซ่ดๆเหมือนผมผลักแรงมากกกก....โดยไม่ทันสังเกตว่ามีสายตาคนสองคู่ดูอยู่อีกฟากของถนน....



“นี่อีวุ้น...หล่อนเห็นเหมือนที่ชั้นเห็นมะ...” เดี่ยวพูดแล้วดูดไอ้ติมแจ่บๆ

“เห็นสิอีควาย...ไปไงมาไงสนิทกันได้นะสองคนนี้..” วุ้นบอกแล้วทำหน้าสงสัย

“หยอกล้อกันกระหนุงกระหนิงเชียว...”

“เค้าจะไปไหนกันนะอีเดี่ยว...แกลองเดาสิ...” วุ้นหันไปถาม

“ไม่ใช่ม่านรูดอย่างมึงละกันอีวุ้น...กูจะรู้มั้ยเนี่ย...”

“สวีทกันเหมือนแฟนกันเลยอ่ะ..ดูดิ..มีแตะไหล่กันด้วยอ่ะ...อ๊ายยย” วุ้นกรี๊ด

“ธีร์ก็หล่อ..พี่นุก็หล่อ...เฮ้ออออ...กูอยากอยู่ตรงกลางจริงๆ...” เดี่ยวพูดแล้วทำตาปิ๊งๆ

“อีเดี่ยว...แกว่าไอ้เจมส์มันจะรู้มั้ยเนี่ย...”

“รู้แล้วทำไมยะ...พี่นุไม่ได้เป็นแฟนไอ้เจมส์มันนี่...”

“อ้าว...ก็หล่อนบอกเองว่าไอ้เจมส์มันมีองค์เหมือนจะชอบพี่นุอยู่นี่...อีบ้า...พูดเองลืมเอง...”

“เออ..ใช่เว้ย...อืมม...เอาละมึง...ถ้าเป็นอย่างที่เราคิดนะ...รักสามเศร้าแน่มึง...ใครจะเป็นฝ่ายไปน๊า...”

“ไม่รู้อ่ะ...เหลือใครกูกวาดหมด...กูอิ๊บไว้ก่อน..” วุ้นหันไปบอกเดี่ยว

“มึงอิ๊บใช้มั้ย...งั้นกูอึ๊บละกัน...” เดี่ยวพูด วุ้นหันมามองหน้าแล้วตีมือกัน
“อร๊ายยยยย...เริ่ดค๊า....”




“หอพี่นุอยู่ตรงไหนอ่ะครับ...” ธีร์ถามผมหลังจากขึ้นไปนั่งบนรถแล้ว

“ขับตรงไปก่อนแล้วเลี้ยวซ้ายข้างหน้าละกัน...”

“เอ่อ...พี่นุครับ...ไปกินข้าวเป็นเพื่อนผมก่อนได้มั้ยอ่ะ...พอดีผมยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่กลางวันแล้ว...”

“โถ..น่าสงสารเนอะ...ก็ได้...งั้นก็ถือว่าพี่เลี้ยงขอบคุณที่ธีร์จูงรถมาให้พี่ก็แล้วกัน...”  ผมบอก

“งั้นก็ถือว่าผมเลี้ยงที่ได้เจอพี่นุจริงๆก็แล้วกัน...” ธีร์พูดสวนกลับมา...ผมหัวเราะเบาๆ

“เอาๆ...ตามใจ..ไม่เถียงแล้ว...”

“ดีแล้วครับที่ไม่เถียง....พี่นุจะได้ฟังผมอย่างเดียว...ดีมั้ยครับ..” ธีร์พูดแล้วยิ้มซะหวานเชียว...เฮ้อออ...งานเข้าซ้ำซ้อนซะแล้วผม...ผมนั่งเงียบจนมาถึงร้านอาหาร...ธีร์เลือกกินที่แพอาหารแห่งหนึ่งบรรยากาศดีมาก...เราเลือกนั่งโต๊ะริมสุด...

“ทานไรดีครับพี่นุ...” ธีร์ส่งเมนูให้ผม

“แล้วแต่ธีร์เลย...พี่ยังไงก็ได้..”

“โอเค..ครับผม...” ธีร์รับเมนูกลับไปเปิดดูแล้วสั่งอาหารมา2-3 อย่าง....ระหว่างรออาหารผมก็นั่งมองนั่งซึมซับบรรยากาศกลางแม่น้ำอะไรไปเรื่อย...ซึ่งผมก็รู้ว่าธีร์นั่งอมยิ้มมองหน้าผมอยู่

“ชอบเหรอครับพี่นุ...”

“อืมม..อากาศดีอ่ะ...ไม่ค่อยได้ลงมาบ่อยๆ” ผมตอบแต่ตาก็ยังมองแม่น้ำอยู่

“ดูแล้ว...พี่นุนี่คงกำลังเขินผมอยู่ใช่มั้ยครับ...” ธีร์ถาม...น่าน..รู้ทันอีก

“เขินอะไร๊...ป่าวววว...มีอะไรให้เขินอ่ะ...” ผมหันหน้ามาแต่ตายังเผลอมองไปที่อื่นอยู่

“ถ้าไม่เขิน...แล้วทำไมพี่นุต้องหลบตาผมอ่ะครับ...”  ธีร์มันต้อนผมไปถึงไหนวะเนี่ย

“ไม่ได้หล๊บบบบบบบบ...”

“อ๊ะ..ไม่หลบก็ไม่หลบ...ผมก็นึกว่าพี่นุจะเขินผมซะอีก..ที่คนที่บอกชอบพี่นุมานั่งอยู่ตรงหน้า...ผมก็เลยนึกว่าพี่นุจะเขินผม...แต่ก็ดีแล้วครับที่ไม่เขิน...อ้าว..อาหารมาแล้ว...” บ๋อยเอาอาหารมาเสริฟ์เหมือนระฆังดังช่วยชีวิตผมพอดี...เราต่างก็นั่งเงียบทานอาหารกันไปเรื่อยๆซึ่งธีร์ก็ตักอาหารให้ผมตลอด

“ขอบคุณนะครับพี่นุ..ที่ยอมมาทานข้าวกับผม...” ธีร์พูดเสียงนุ่มหลังจากทานข้าวเสร็จแล้วรอเช็กบิล....ผมได้แต่ยิ้มรับ..เพราะไม่รู้จะพูดยังไงดีนี่หว่า

“แล้วพรุ่งนี้พี่นุ..จะมาเรียนยังไงอ่ะครับรถก็ยังซ่อมไม่เสร็จ...” ธีร์ถาม...ผมก็เพิ่งนึกออก..กรูจะมายังไงวะ

“เออ..จริงดิ...ลืมสนิทเลย...”

“งั้นตอนเช้าผมมารับพี่นุที่หอนะครับ...แล้วตอนเย็นผมจะพาพี่นุมาเอารถเอง...”

“เฮ้ย...ไม่เป็นไรหรอก..เดี๋ยวพี่มากับเพื่อนก็ได้...”

“นะครับ...พี่นุอย่าปฏิเสธผมเลย...” ธีร์มองผมตาเชื่อมเชียว...ไอ้ผมรึมันก็เป็นคนใจอ่อนปฏิเสธคนไม่ค่อยเป็นซะด้วย

“ตามใจแล้วกัน...ถ้าไม่กลัวไปเรียนสายอ่ะ...ย้อนไปย้อนมา...”  ผมบอก  ธีร์จ่ายเงินแล้วขับรถมาส่งผมที่หอ

“ขอบคุณมากนะธีร์...” ผมหันมาลาแล้วเปิดประตูรถลงไป

“ฝันดีนะครับพี่นุ...เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าผมมา...” ธีร์ชะโงกหน้ามาบอก  ผมโบกมือบ๊ายบายแล้วหันหลังเดินเข้าไปในหอ

“ฝันถึงผมด้วยนะครับพี่นุ....ของผม...” ธีร์พูดแล้วยิ้มกับตัวเองแล้วขับรถออกไป.....






“ไอ้เชี่ยธีร์..มึงปิดโทรศัพท์ทำไมวะ...กูโทรหามึงตั้งแต่เย็นแล้วเนี่ย...” แบงค์โวยวายหลังจากธีร์กดรับ

“ก็กูกำลังติดภารกิจเว้ย...”

“ภารกิจอะไรของมึงวะ...นั่นแน่..น้ำเสียงมีความสุข...มึงไปทำอะไรมาบอกกูมาบัดเดี๋ยวนี้...”

“กูไปกินข้าวกับพี่นุมา....”  ธีร์พูด  แบงค์ขำก๊ากๆๆๆ

“มึงเนี่ยนะไปกินข้าวกับพี่นุมา...จะให้กูเชื่อเหรอวะ...หน้าพี่เค้าตั้งแต่วันนั้นแล้วมึงก็ยังไม่เคยได้เจออีกเลยแล้วมึงจะไปกินข้าวกับพี่เค้าได้ไงวะ...”

“มึงหาว่ากูโกหกว่างั้น??....”

“ป่าว...ก็แค่งงอ่ะ...ไม่มีประเด็นที่มึงจะได้ไปกินข้าวกับพี่เค้าอ่ะ...กูนึกไม่ออกว่ะ..”

“ก็เมื่อสายๆ...กูโทรไปหาพี่นุ...”

“อ่ะ..จริงดิ..”

“อืมม...เราก็คุยกัน...กูก็เลยบอก..ว่ากูอ่ะชอบพี่เค้า...”

“ว๊าววววว....จริงเหรอวะ...แล้วพี่เค้าว่าไง...เค้าด่ามึงมั้ย??”

“พี่นุไม่ด่าว่ะ...แต่ก็ไม่ได้ว่าไง...แค่นี้ก็รู้แล้วว่าพี่นุไม่ได้รังเกลียดกูอ่ะ...”

“โห...แม่ง...เจ๋งว่ะ...”

“แล้วเมื่อเย็นกูขับรถไปหลังมอ...กูเห็นพี่เค้าจูงรถอยู่...รถเสียอ่ะ...กูก็เลยลงไปช่วยแล้วก็เลยชวนเค้าไปกินข้าว...”

“แม่ง...นับถือว่ะไอ้ธีร์...แล้วมึงจะทำไงต่อ...”

“พรุ่งนี้เช้ากูจะไปรับพี่นุเค้าไปเรียนแล้วตอนเย็นกูก็ไปรับพี่เค้าไปเอารถ...”

“ซู๊ดยอดดดดดดดด....เพื่อนกู...นี่ๆมึงเอางี้ดิ...มึงก็ไปเตี๊ยมกับที่ร้านไง...ให้เค้าซ่อมรถพี่นุนานๆดิมึงจะได้มีโอกาสไปรับส่งพี่นุเค้าทุกวันไง๊...”

“เอ๊อออ...ไอเดียร์เจ๋งนี่หว่า...ขอบใจเว้ย...”

“เออน่า...ได้แล้วอย่าลืมแบ่งกูมั่งละกันพี่นุอ่ะ...”

“ไอ้ห่า...ห้ามยุ่งเลยนะมึงคนนี้อ่ะ...”

“อะไรวะ...ทีเมื่อก่อนมึงมีอะไรยังแบ่งกูเลยอ่ะ..ลืมแล้วเหรอ?...เหอๆๆ...”

“ก็บอกแล้ว...คนนี้กูรักจริง...”

“หวังฟัน...”

“หวังแต่งเว้ย....”

“ค๊าบบบบ....เชื่อแล้ว...ไม่ต้องทำเสียงดุกูก็ได้...”  แบงค์พูดแล้ววางสาย

“ท่าทางจะเป็นเอามากเว้ยเพื่อนกู...” แบงค์พูดแล้วขำหึๆ   ธีร์นั่งพิมพ์ SMS แล้วส่งไปยังหมายเลขที่คิดถึง

“ฝันถึงผมด้วยนะครับพี่นุ....ของผม...จากธีร์....พี่ไปเป็นของแกตั้งแต่เมื่อไหร่วะธีร์เอ้ยยย..”  ผมอ่านตาม SMS ที่ได้รับเมื่อกี้...อ่านแล้วก็รู้สึกดีอย่างประหลาด...ผมบ่นแล้วเอนหลังลงบนที่นอนพิมพ์ SMS แล้วส่งกลับไปเบอร์เดิมที่ส่งมา

“ฝันดีด้วยแล้วกัน...ไม่รู้จะบอกอะไร..หุหุ...จากพี่นุ...” ธีร์นอนอ่าน SMS แล้วยิ้มอย่างมีความสุข

“ไม่รู้จะบอกอะไรแต่ก็ยังส่งมาได้อีกเนอะพี่นุนี่...” ธีร์ยิ้มแล้ววางโทรศัพท์ไว้ข้างๆหมอนแล้วหลับตา

“ผมจะไปหาพี่ในความฝันแล้วนะครับพี่นุ...”

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เอ๊ะยังไง พี่นุแลดูเทไปทางธีร์ ว่าแต่ธีร์นี่...เป็นคนดีรึเปล่า???   :hao4:

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่  8_หึงหวงกับห่วงหา...


“อรุณสวัสดิ์ครับ เชิญขึ้นราชรถได้เลยครับ” ธีร์เดินเข้ามาใกล้  เช้าวันนี้ธีร์อยู่ในชุดนักศึกษาแบบเข้ารูปดูแล้วท่าทางไฮโซไม่เบา...เฮ้อ...เอาวะ..อย่างน้อยก็ดีกว่าต้องยืนขาแข็งรอรถเมล์หน้าหอแหละวะ...
“ปกติมีเรียนเช้าแบบนี้เลยเหรอ..”  ผมหันไปถามขณะติดไฟแดง
“ไม่เลยครับ...แต่ผมอยากเจอพี่นุผมเลยต้องตื่นเช้าให้ได้ไง....”
“โห...จะรู้สึกดีดีมั้ยเนี่ย...” ผมพูดแล้วหันออกไปนอกรถ  ธีร์จอดรถส่งผมที่หน้าคณะ  ผมสะพายกระเป๋าแล้วหยิบหนังสือลงจากรถ
“เดี๋ยวตอนเย็นผมมารับพาไปเอารถนะครับพี่นุ...”  ธีร์บอก...ผมกำลังจะอ้าปากพูดว่าไม่ต้องก็ได้แต่เจ้าธีร์ก็ปิดกระจกแล้วขับรถออกไปเร็วจี๋....ผมเดินขึ้นตึกมาในห้องเรียน..เพื่อนคนอื่นก็คุยอะไรไปตามระเบียบ......ไอ้นัทตี้กะโอเล่เดินอมยิ้มเข้ามาในห้อง แกล้งกระแอมดังๆ
“ใคร....”  นัทตี้เปิดฉากถาม
“ใคร อะไรเหรอ...”  ผมตอบพร้อมทำหน้างงๆ
“อย่ามาทำไก๋ ใครมาส่ง บอกมาซะดีๆ เขาอยากรู้กัน”  โอเล่ถาม
“อ๋อ มิน่าล่ะ ตอนเดินเข้ามาทำหน้ากันแปลกๆ” ผมคิดในใจ...ทีกูมาเองทุกวันไม่ยักกะมีใครสนแต่วันนี้เจือกสนกันขึ้นมาเชียว...เพื่อนผมแต่ละคน
“เร็วๆอย่าลีลาว่ะไอ้นุ...” นัทตี้ท้าวเอว
“นี่สงสัยคงเกาะหน้าต่างแอบดูกันเป็นแถวเลยเหรอวะ...” ผมพูด
“เปล่า ชั้นเห็นก่อน....ยัยพจน์กับไอ้กิ๊กรีบเข้ามาดูด้วยแล้วโอเล่ก็เลยหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูป” นัทตี้เล่าเป็นฉากๆ
“บ้าเหรอ ถ่ายรูปด้วยเหรอ บ้ากันไปใหญ่แล้ว” ผมขึ้นเสียง  ไอ้นัทตี้กะไอ้โอเล่หัวเราะแล้วแตะไหล่ผมเบาๆ
“ชั้นล้อเล่นเว้ย....ว่าแต่...ใครกันอ่ะ...” โอเล่ถามคะยั้นคะยอจะเอาความจริง
“เพื่อนมาส่ง...” ผมพึมพำเบาๆ
“เพื่อนคนไหน ชั้นรู้จักไหม” ไอ้นัทตี้ยังไม่ยอมเลิกรา
“ก็เพื่อนเราน่ะ....แกไม่รู้จักหรอก”
“เพื่อนหรือพี่น้องท้องติดหลัง ฮ่า ฮ่า ฮ่า” โอเล่ล้อทะลึ่งๆ หัวเราะชอบใจ
“บ้าน่า...กวนตีนแล้วแก 2 คนอ่ะ…สัปดน” ผมส่ายหน้า อดหัวเราะกับสมมุติฐานของโอเล่ไม่ได้
“ขำอะไรกันแต่เช้าจ๊าเพื่อนฝูง...” เสียงไอ้กิ๋วทักทายมาแต่ไกล
“นินทาแกอยู่นี่แหละไอ้กิ๋ว....”  ไอ้นัทตี้หันไปบอกแล้วเดินกลับไปนั่งที่...ไอ้กิ๋วนั่งเก้าอี้ข้างๆผม
“วันก่อนหายไปไหนวะไอ้นุ...ทำไมไม่มาซ้อมหลีดให้น้องว่ะ...พวกมันก็รอกัน...” ไอ้กิ๋วหันมาถามผม
“เอ่อออ....วันก่อนกู..กู...” ตอบว่าไรดีว๊า
“กู...กูทำไมล่ะไอ้นุ...มึงติดขัดตรงไหนเนี่ย...อึกๆอักๆอยู่ได้” ไอ้กิ๋วพูด
“ก็กู...กูปวดหัว...แล้วก็ปวดแขนด้วย...มึงก้อ..กูไม่ไปมันก็ซ้อมกันได้นี่หว่า...”
“แน่นะ...ไม่ได้มีเหตุผลอื่นนะเว้ย..ไม่มีอะไรปิดบังกันแน่นะ...”
“เอ๊ออออ....”  ถามอยู่ได้...จะให้ผมบอกได้ไงวะว่าที่ไม่ไปเพราะผมไม่พร้อมจะเจอไอ้เจมส์ที่มันมาสารภาพรักผมอ่ะ




“เฮ้ยนุ...เย็นนี้ห้ามเบี้ยวนะเว้ย...มาซ้อมให้น้องมันด้วยวันก่อนไอ้ปอยกับไอ้อิ่มแทบอ๊วกเลย...มึงไม่มาน้องมันไม่ค่อยฟังว่ะ...แต่ละตัวกวนตีนทั้งนั้น...”  ไอ้กิ๋วบอกผมตอนเรียนวิชาตอนบ่ายเสร็จ
“เออ...รู้แล้วเดี๋ยวกูต้องแวะไปดูรถที่ร้านก่อนว่ะ...ไม่รู้เสร็จรึยัง”
“อ้าว...รถเสียเหรอ...แล้วมายังไงวะเมื่อเช้า...” ไอ้กิ๋วถาม  ผมยังไม่ทันตอบก็มีเสียงบีบแตรดัง  ผมกับไอ้กิ๋วหันไปดู...อ้าว...รถเจ้าธีร์นี่หว่า...รู้ได้ไงวะว่าผมเรียนเสร็จแล้วอุตส่าห์จะรีบหนีไปเอารถเองซะหน่อย...ผมกับไอ้กิ๋วหยุดยืนอยู่ที่บันได..เจ้าธีร์เปิดประตูรถเดินลงมาหา
“นึกว่าจะมาไม่ทันซะแล้วนะครับพี่นุ...”  ธีร์เดินมายืนตรงหน้ายกมือไหว้ไอ้กิ๋ว ไอ้กิ๋วก็รับไหว้งงๆ
“รู้ได้ไงว่าพี่เลิกตอนนี้อ่ะ..”
“ผมรู้ก็แล้วกันครับ...อะไรที่เกี่ยวกับพี่นุผมต้องรู้ให้หมด...” ธีร์พูดแล้วยิ้มยื่นมือมาดึงหนังสือผมไปช่วยถือ
“อะแฮ่มมมม...” ไอ้กิ๋วทำท่าไอขัดจังหวะขึ้นมา
“ไอ้นุงั้นกูไม่รอคำตอบที่ถามไว้จากมึงละ...เหอๆๆ...” ไอ้กิ๋วพูดให้คิดแล้วเดินผิวปากไปสบายใจเฉิบ
“ไปดูรถกันเลยนะครับพี่นุ...” ธีร์ถาม  ผมพยักหน้ารับเดินตามขึ้นรถไปอย่างไม่มีทางเลือก...เฮ้อ..ชีวิต..





“อะไรนะพี่...ยังไม่เสร็จ...อะไหล่ไม่มี...สั่งแล้วยังไม่มาเหรอ...แล้วทำไงอ่ะพี่ผมต้องใช้รถด้วยอ่ะ...” ผมยืนโวยวายกับเจ้าของร้านซ่อมรถโดยที่ไม่ทันสังเกตว่าไอ้ตัวแสบเจ้าของแผนการยืนอมยิ้มอยู่ด้านหลัง
“ก็อะไหล่มันไม่มีนี่น้อง...นี่พี่ก็สั่งอะไหล่ไปแล้วน่าจะภายใน 2-3 วันก็คงมา..”  เจ้าของร้านบอก  ธีร์พยักหน้าเห็นด้วย
“ก็แปลว่ากว่าผมจะได้ใช้รถก็คืออาทิตย์หน้า...”  ผมสรุปแล้วถอนใจเฮือกใหญ่...แล้วเดินออกมาอย่างอารมณ์เสีย
“พี่นุ...รอผมด้วย...” ธีร์วิ่งตามออกมา
“อะไรวะร้านบ้าบอ...ย้ายร้านซะดีมั้ยเนี่ย...”  ผมบ่น
“ย้ายไม่ได้หรอกพี่นุ...เค้าสั่งอะไหล่ไปแล้วอ่ะครับ...”
“ก็นั่นดิ...อาทิตย์นี้พี่ก็ไม่อยู่ด้วย...เฮ้อ...วุ่นวายว่ะ...”
“แล้วพี่นุจะไปไหนมาไหนยังไงละครับทีนี้...”  ธีร์ถาม  ผมถอนใจอีกครั้ง...ผมก็กำลังคิดถึงปัญหานี้นี่แหละ
“ก็นั่นดิ...” ผมยังคงตอบเหมือนเดิม
“งั้นผมขอทำหน้าที่ต่อได้มั้ยครับ...”  ผมหันไปมองหน้าธีร์แล้วขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“หน้าที่...????”
“ครับ...หน้าที่รับส่งพี่นุไง...นะครับ...”
“เอางั้นเลยเหรอธีร์...ไม่ไหวมั้ง..ไม่ดีมั้งพี่เกรงใจเราอ่ะ...มันอีกตั้งหลายวัน..” ผมพยายามบ่ายเบี่ยง
“นะครับพี่นุ...อย่าปฏิเสธผมเลยนะ...” ธีร์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ...อย่าปฏิเสธผมเลย...ประโยคนี้อีกแล้วในช่วงเวลาไม่กี่วันมานี้ผมได้ยินคนพูดประโยคนี้กับผมหลายครั้งเลยนะเนี่ย...จะต่างกันก็แค่คนที่พูดก็เท่านั้น
“ขอพี่คิดดูก่อนก็แล้วกันนะธีร์...คนเพิ่งรู้จักกัน..รบกวนมากๆพี่ไม่ค่อยสบายใจอ่ะ...” ผมพูดไปแบบไม่ได้คิดอะไรแต่มันก็ทำให้แววตาธีร์สลดลงทันที
“คนเพิ่งรู้จักกัน...”  ธีร์พูดทวนประโยคที่ผมพูดไปแล้วเม้มปากก้มหน้านิ่งเลย...ผมก็..เฮ้ย..กูพูดไรผิดป่าววะ...
“เฮ้ย..ไม่ใช่อย่างนั้นนะธีร์..คือว่าพี่...ยังไงดีอ่ะ...เออ...พี่ไม่ได้หมายความอย่างนั้นอย่าแปลเจตนาพี่ผิดสิว๊า...”

“ไม่เป็นไรครับพี่นุ...ผมเข้าใจ..ถึงยังไงมันก็เป็นความจริงที่เรา...เพิ่งรู้จักกัน...”  ธีร์พูด...ไปใหญ่แล้วทีนี้
“อืมมม...ก็ได้...มารับก็มารับ...”  ผมตัดสินใจพูดออกไป...ธีร์เงยหน้ามองแบบไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้จริง...
“อะไรนะครับพี่นุ...จริงๆเหรอ...”
“อืมม...แต่ถ้ามาสายพี่ไม่รอนะเว้ย...แน่ใจนะว่าตื่นทันอ่ะ...”
“ทันครับทันแน่นอน...แล้วนี่พี่นุจะไปไหนต่ออ่ะครับ...”  ธีร์ถามแววตาเปลี่ยนจากเมื่อกี้เป็นคนละคนเลยลิงโลดเต็มที่
“ก็ต้องเข้าไปที่หน้าคณะอ่ะ...ไปดูเค้าซ้อมหลีด...”
“เลิกกี่ทุ่มอ่ะครับ...ผมจะได้เข้ามารับหรือว่าจะให้ผมนั่งรอดี..”
“เฮ้ยไม่ต้องหรอก...เรามีธุระอะไรก็ไปทำเหอะ...เดี๋ยวพี่กลับกะไอ้กิ๋วก็ได้...”  ผมบอก  ธีร์ไม่ตอบเอาแต่ยิ้มอยู่นั่นแหละ






“พี่กิ๋ววันนี้พี่นุจะมาป่าว...”  เจมส์ถามไอ้กิ๋วตอนที่นั่งรอซ้อมอยู่ที่หน้าคณะ...ไอ้กิ๋วหยิบหมูปิ้งใส่ปากแล้วตามด้วย   ข้าวเหนียวอีกหนึ่งปั้นก่อนจะตอบ
“อี้-ออก-อัน-แอ้ว-อ้า-ไอ้-อัน-อา-อ้อม-อ้วย...”  ไอ้กิ๋วตอบไม่ชัดเพราะหมูเต็มปาก
“พี่กิ๋วเค้าบอกว่า...พี่บอกมันแล้วว่าให้มันมาซ้อมด้วย...ใช่มั้ยพี่กิ๋ว...” ไอ้เต๊ะแปลแล้วหันไปถาม
“ถะถะถะถูกต้องน๊าค๊าบ...” ไอ้กิ๋วตอบ
“ไม่เห็นพี่นุมาซักที...”  เจมส์ยังถามต่อแล้วชะเง้อมองเป็นระยะๆ
“มันไปดูรถมันมั้ง...ก็รถมันเสียอ่ะ...” ไอ้กิ๋วพูด
“อ้าว..พี่นุรถเสียเหรอ..ทำไมผมไม่เห็นรู้...”  เจมส์พูดแบบงงๆ
“แล้วทำไมมึงจะต้องรู้ด้วยวะไอ้เจมส์..มึงจะซ่อมให้พี่เค้าเหรอวะ...” เต๊ะพูดขัดขึ้นมา
“อ๋อ...มันกลัวไม่มีรถกลับบ้านอ่ะดิ๊...” ไอ้หนึ่งพูดขึ้นมาบ้างหลังจากเงียบอยู่นาน
“กูว่าไม่ใช่หรอกมั้งเจมส์..เนอะ..ใช่ป่าว..” ไอ้กิ๋วพูดแล้วเหล่ตามองไอ้เจมส์จนต้องหลบตา
“เฮ้ย..รถใครวะ...” ไอ้เต๊ะพูดแล้วชี้นิ้ว  ทุกคนหันไปมองตามที่ไอ้เต๊ะมันชี้
“รถกิ๊กไอ้นุมัน...” ไอ้กิ๋วพูด  เจมส์หันมามองหน้าไอ้กิ๋วแล้วหันกลับไปมองเหมือนเดิม
“อ้าวพี่นุเหรอวะ...มารถใครวะเนี่ย...” ไอ้เต๊ะพูด....





“ซ้อมเสร็จแล้วโทรหาผมนะพี่นุ...”  ธีร์ยื่นหน้ามาบอกแล้วขับรถออกไป...พอเห็นผมหันมาไอ้พวกตัวแสบทั้งหลายที่นั่งมองผมอยู่ก็หันควับกลับไปอยู่ในท่าเดิมกันเป็นแถว...ผมเดินเข้าไปทักทายทุกคนตามปกติซึ่งทุกคนก็ปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจะเว้นก็แต่ไอ้เจมส์นี่แหละที่นั่งก้มหน้าก้มตาแต่แอบเหลือบขึ้นมามองผมตาขวางใส่เป็นระยะๆ
“อุ้ยตายแล้ว...วันนี้หล่อนว่าจะเกิดศึกชิงนายมั้ยค๊าอีเดี่ยว...” วุ้นถามหลังจากนั่งมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากอีกมุมนึง
“มีแน่ค่ะ..เดี๊ยนคอนเฟิร์ม..” เดี่ยวพูดแล้วยกมือทำท่าโอเค...
“หล่อนว่า..วันนี้ไอ้เจมส์จะน๊อตหลุดมั้ยยะ..” วุ้นถาม  เดี่ยวกอดอกทำท่าครุ่นคิด
“ไอ้เจมส์ด้วยอ่ะ...พันเปอร์เซ็นต์ค่ะ...มันต้องหึงพี่นุแน่นอน...ฟังธ๊งงง...”
“อุ้ย..แล้วเรื่องนี้มันจะเป็นยังไงต่อไปละคะคุณเดซี่...วิกกี้อยากรู๊อยากรู้...” วุ้นทำเสียงตื่นเต้น
“เรื่องแบบนี้ก็ต้องติดตามตอนต่อไปซิค๊า....หุหุหุ...” เดี่ยวพูดแล้วเอามือปิดปากหัวเราะแบบผู้ดีอังกฤษ...เหอๆๆ
“เอ๊าาา...เข้าที่ได้แล้วค่าาาา.....ใครช้าห้ารอบสนาม...” อิ่มตะโกนเรียก..ทำเอาน้องแต่ละคนวิ่งกันหูดับตับไหม้...เย็นวันนั้นเราซ้อมกันค่อนข้างหนักเพราะต้องต่อท่าเต้นใหม่ๆ...ไหนจะต้องซ้อมต่อตัวอีก...เพลงก็ยังเหลืออีกตั้งครึ่งเพลงที่ต้องใส่ท่าเต้น..เฮ้อ....เหนื่อยโคตรๆ
“เฮ้ย..กิ๋ว...จะไปกันศุกร์นี้อยู่แล้วทุกอย่างเรียบร้อยมั้ย...รถเอย...ที่พักเอย...”  ผมถามหลังจากที่เบรกการซ้อมในช่วงแรก...
“เรียบร้อยแล้วว่ะ...ปอยกับอิ่มมันก็เก็บเงินน้องจนครบหมดแล้วเนี่ย...” ไอ้กิ๋วบอก
“เอาให้มันชัวร์นะเว้ย...เอาลูกหลานเค้าไปเยอะแบบนี้อย่าให้ผิดพลาดนาาา....”
“รับรองน่า...มือชั้นนี้แล้วชัวร์...”
“พี่นุ...ผมขอคุยอะไรด้วยหน่อยดิ...”  ไอ้เจมส์เดินเข้ามาหาผม  ผมก็มองหน้ามันแบบหวั่นๆเดาไม่ออกเลยว่ามันจะมาอารมณ์ไหนวะตอนนี้อ่ะครับ...ไอ้กิ๋วหันมองหน้าผมกับไอ้เจมส์สลับไปมาๆ...
“คุยกันตรงนี้ก็ได้...” ผมบอก
“ไม่ได้อ่ะพี่นุ...ผมขอไปคุยตรงโน้น...” ไอ้เจมส์พูดแล้วดึงแขนผมลุกขึ้นคือตอนนั้นผมนั่งเหยียดขาอยู่ที่สนามหญ้าอ่ะครับ...ไอ้เจมส์ดึงผมมาคุยที่หลังตึกที่เราซ้อมกันโดยที่ผมไม่รู้เลยว่ามีคนสอดรู้อีกสองคนตามผมไปด้วย...
“วันนี้ใครมาส่งพี่นุเหรอ??...” ไอ้เจมส์ยิงคำถามทันทีที่ปลอดคน
“อ้าว...ทำไมล่ะเจมส์...พี่จะมากับใครแล้วยังไงล่ะ...”  ผมถามบ้าง
“พี่นุยังไม่ตอบคำถามผม...”
“เฮ้ย..เจมส์...พี่เป็นพี่เรานะเว้ย...เราอยู่ปีหนึ่ง..พี่อยู่ปีสามเรามาตะคอกพี่แบบนี้เนี่ยนะ...”
“แล้วพี่นุมากับใคร...” เจมส์พยายามปรับเสียงให้นุ่มลงแบบว่าพยายามมากกกก...
“พี่จะมากับใคร...พี่ต้องคอยรายงานเจมส์ด้วยเหรอ...เจมส์ไม่ใช่เจ้าของพี่นะเราไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย”  ผมพูดบ้างเพราะเริ่มจะไม่ไหวละ...เจมส์มันคาดคั้นผมเกินไป...
“ทะเลาะกันใหญ่เลยแก...” วุ้นหันมากระซิบกระซาบตายังจ้องมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามากระพริบ
“เงียบสิอีห่าจิกนี่...กูจะฟังต่อ..” เดี่ยวพูด
“แต่พี่นุก็รู้ว่าผมรู้สึกกับพี่ยังไง...”   เจมส์พูดต่อ...ผมถอนใจเฮือกแบบอดกลั้นเต็มที่      
“พี่ว่าเราคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วเจมส์...” ผมพูดแล้วเดินหนี...ไอ้เจมส์วิ่งมาดักผมด้านหน้า
“พี่นุ...ตลอดเวลาที่ผ่านมา พี่นุไม่ชอบผมบ้างเลยหรือครับ ผมไม่ดีตรงไหน...”  เจมส์ถามด้วยสายตาตัดพ้อ
“............................”  ผมก็อึ้งเลย...ไม่รู้จะพูดยังไง
“ไอ้หมอนั่นมันเป็นใครครับ มันสำคัญกับพี่มากนักหรือพี่ถึงบอกผมไม่ได้....แล้วผม...ไม่มีที่ในใจพี่บ้างเลยเหรอ” 
“ต๊ายยย....น่าสงสารเจมส์จังเลยเนอะอีเดี่ยว....”  วุ้นทำเสียงซึ้งแล้วปาดน้ำตา
“แล้วพี่นุจะว่าไงละทีนี้....”  เดี่ยวบ่นพึมพำๆ
“เจมส์....อย่าถามอะไรตอนนี้เลย ขอเวลาพี่บ้าง”  ลมกระโชกแรงขึ้น สายฝนเริ่มโปรยปราย เจมส์ยืนนิ่ง ตาหลุบต่ำมองพื้น ปากเม้ม สองแขนที่ตกอยู่ข้างกายกำมือแน่น
“พี่นุ...เห็นใจผมบ้าง...” เจมส์เสียงอ่อน
“เจมส์...ฟังพี่นะ...เราห้ามจิตใจกันไม่ได้หรอก เราบังคับมันไม่ได้...บางครั้งจิตใจคนเรามันอยู่เหนือการควบคุม”
ผมพยายามพูดอย่างใจเย็น
“แต่ผมรักพี่นุ...ทำไมพี่นุไม่รักผมบ้าง” เจมส์เริ่มน้ำตาซึม...ขยับตัวเข้ามาใกล้
“เจมส์จะให้พี่บอกว่ายังไง...” ผมเริ่มจนปัญญา  เจมส์ขยับมือมาจับแขนผม
“อุ๊ย!....จับมือกันด้วย...”  วุ้นกับเดี่ยวอุทานขึ้นพร้อมกัน
“เจมส์อยากให้พี่พูดตอนนี้ให้ได้เลยใช่ไม๊.....อยากให้ทุกสิ่งเปลี่ยนไปเหรอ...   ที่เราสนิทกันอยู่อย่างนี้ ไม่ดีหรือยังไง...  ถ้าอะไรมันเป็นไปอย่างที่ต้องการไม่ได้...จะดันทุรังทำไม...อย่าให้พี่ต้องตัดสินใจตอนนี้เลย พี่ยังไม่พร้อม”
“พี่นุ...อย่าพูดกับผมอย่างนี้สิ......นะ...” เจมส์ก้มหน้า
“พี่อยากให้เรารู้สึกดีๆ ต่อกันไปนานๆ...เจมส์อย่าเพิ่งเร่งรัดพี่เลยนะ...” ผมเองก็ยังไม่กล้าตัดขาด...ผมยังอยากถนอมจิตใจของเจมส์อยู่...พูดจบผมก็หันหลังเดินมาเลยปล่อยให้เจมส์มันใช้ความคิดอยู่กับตัวเองซักพักละกัน....



   เรียกซ้อมกันได้อีกพักใหญ่ๆ....ก็เรียกรวมแถวเพื่อที่จะปล่อยกลับบ้าน...ไอ้กิ๋วเป็นคนอธิบายเกี่ยวกับรายละเอียดการเดินทางในคืนวันศุกร์นี้ว่านัดเจอกันที่ไหน...กี่ทุ่ม..เตรียมอะไรไปบ้างก็ว่าไปแล้วก็ปล่อยน้องกลับบ้าน
“เฮ้ย...กิ๋ว...ไปส่งกูที่หอหน่อยดิ...” ผมเดินไปบอกไอ้กิ๋ว...พอมันเห็นผมหน้าเครียดๆมันก็เลยไม่ถามอะไรต่อแล้วผมก็เลยเดินไปหาไอ้เต๊ะ
“เต๊ะ..วันนี้แกไปส่งไอ้เจมส์ด้วยนะ...พี่ไม่มีรถว่ะ...” ผมบอก...ไอ้เต๊ะก็พยักหน้ารับงึกงัก  ผมเดินผ่านไอ้เจมส์ไปขึ้นรถไอ้กิ๋วโดยไม่มองหน้าเจมส์มันเลยแต่ผมก็รู้ว่าเจมส์มันมองตามผมตาละห้อยเชียว...
“เฮ้ย...อย่าซีเรียสมากนะเว้ย...” ไอ้กิ๋วบอกผมตอนมาถึงหอ
“เออ...ขอบใจเว้ย...ไม่มีอะไรหรอก...ขับรถดีๆนะเว้ย...”  ผมพูดแล้วหันหลังเดินขึ้นหอ...โทรศัพท์ดัง...
“พี่นุเลิกหรือยังครับ...ผมกำลังออกไปแล้ว..” เสียงธีร์กรอกมาตามสาย...ผมเองก็ลืมไปซะสนิทเลยว่าธีร์ต้องมารับ
“เอ่อ...ธีร์...โทษทีนะพอดีพี่ลืมอ่ะ...พี่เลยกลับมากะเพื่อนถึงหอแล้วเนี่ย..” ผมบอกเสียงอ่อยๆ...ปลายสายเงียบไปพักนึง
“อ้าวเหรอครับพี่นุ...แต่ผมก็ออกมาแล้วเนี่ย...ว่าจะมารับพี่นุแล้วชวนไปกินนมกันซะหน่อย...พี่นุไปได้มั้ยครับ...หรือว่าเหนื่อยแล้ว...ถ้าพี่นุเหนื่อยไม่อยากออกไปไหนผมขอไปนั่งคุยกับพี่นุที่ใต้หอได้มั้ยครับ...ได้เห็นหน้าพี่นุนิดนึงก่อนนอนก็ยังดี...ผมจะได้นอนหลับฝันดีด้วย...นะครับ” น้ำเสียงเจ้าธีร์ทำผมใจอ่อนอีกแล้ว...
“อย่าปฏิเสธผมเลย...ธีร์กำลังจะพูดประโยคนี้ใช่มั้ย...” ผมพูดแล้วขำ
“ว๊า..รู้ทันผมซะแล้ว...”
“จะมาก็มาแล้วกัน...ใกล้ถึงรึยังอ่ะจะได้นั่งรอที่ใต้หอนี่แหละ...”
“ใกล้แล้วครับ...เลี้ยวข้างหน้าก็ถึงแล้ว...” ธีร์บอก...ยังไม่ทันวางสายผมก็เห็นไฟรถเลี้ยวส่องเข้ามาแต่ไกล...ธีร์เดินยิ้มแป้นเข้ามาหาผมที่นั่งรออยู่ที่ม้าหินอ่อนใต้ถุนตึก..
“ท่าทางพี่นุจะเหนื่อยนะครับวันนี้...โทรมเชียว....สงสัยผมมากวนพี่นุแน่ๆเลย” ธีร์นั่งลงตรงหน้าผม
“ไม่หรอก...ถ้ายังไม่ดึกจนเกินไปอ่ะนะ...ว่าแต่ทำไมว่างล่ะปกติตอนนี้เราทำอะไรเหรอ...” ผมถาม
“ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คนร่อนอยู่กับเพื่อนๆอ่ะครับ...เฮโน่นเฮนี่ไปตามประสา...”
“ตามประสาเพลย์บอยเจ้าเสน่ห์.....แล้วมาทำอะไรแบบนี้ไม่เบื่อเหรอ...???”
“ไม่หรอกครับ...ไม่เบื่อเลย...ตั้งใจทำมากกว่า  ของแบบนี้มันอยู่ที่ใจ...แล้วพี่นุล่ะครับเบื่อผมรึยังที่มากวนใจพี่นุติดๆกันแบบนี้อ่ะครับ...”
“ตอนนี้ยังอ่ะ...ยังพอรับได้อยู่...แต่ถ้ามากไปกว่านี้ไม่แน่...”  พูดแล้วหัวเราะ...ธีร์เองมันก็ยิ้มๆ
“เมื่อก่อนนี้ผมเที่ยวมาเยอะแล้วอ่ะครับ..ก็เลยเบื่อ...อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้าง...เพื่อใครซักคน...” ประโยคสุดท้ายพูดแล้วมองตาผม...จนผมต้องเมินหน้าไปทางอื่นซะเอง
“คนที่เค้าชอบๆเที่ยวกัน...เค้ามีเบื่อกันด้วยเหรอ...แล้วแฟนเราล่ะไปไหน.....มาอยู่แบบนี้เค้าไม่ว่าเอาเหรอ...อย่าบอกน๊าว่าไม่มีแฟนอ่ะ...หน้าตาแบบนี้...”
“เคยมีครับ...แต่เลิกหมดแล้ว...มันคลิ๊กกันไม่ลงตัวอ่ะครับ..ถ้าจะบอกว่าไม่มีมันก็คงโกหกอ่ะครับ..จริงมั้ย?”
“นั่นดิเนอะ...”
“พักผ่อนดีกว่าครับพี่นุ...ผมไม่รบกวนแล้ว...แค่ได้มาเห็นหน้าพี่นุก่อนนอนก็ชื่นใจแล้ว...เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าผมมารับเวลาเดิมนะครับ...ฝันถึงผมบ้างนะพี่นุ”   ผมยืนส่งจนรถเจ้าธีร์ขับออกไปสุดถนนแล้วเดินกลับเข้าไปในตึก....ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆที่อยู่ๆก็มีคนเข้ามาเติมสีสันในชีวิตอีกคนนึงแล้ว...เฮ่อ...จะภูมิใจดีมั้ยเนี่ย...





“ธีร์..มึงอยู่ไหนเนี่ย...เค้านัดแดกเหล้ากันมึงรีบมาด่วนเลย...” เสียงแบงค์โวยวายมาตามสายโทรศัพท์
“กูขับรถอยู่...กำลังจะกลับหอ...ไปหาพี่นุมา...”
“งั้นอย่าเพิ่งกลับบ้าน..มึงเลี้ยวมาบ้านไอ้คิมก่อนเลยเมิง...ให้ไว...”
“เฮ้ย..ไม่ได้...ไปแดกเหล้ากะมึงเดี๋ยวพรุ่งนี้กูตื่นมารับพี่นุไม่ทันเว้ย...”
“นั่นแน่.....มีแฟนแล้วทิ้งเพื่อนเลยนะเมิง...เออๆตามจายเมิงละกัน...เบื่อนักไอ้พวกเกียมัว...กลัวเมียเนี่ย...”
“ไอ้บ้า...พี่นุเค้ายังไม่ได้เป็นเมียกูเว้ย...”
“ตอนนี้ยังไม่เป็น...แต่เดี๋ยวก็เป็น...ใช่มั้ยว่ะ..กร๊ากกๆๆ..เอ๊ะ!หรือว่ามึงจะเป็นเมียพี่นุซะเอง...”
“อ้าว...ปากหมาอีกแล้ว...กูว่า...มึงนั่นแหละ....เมาแล้วไปหาอีวุ้นทุกครั้งแบบนี้ระวังตื่นมามึงจะเป็นเมียมันนะเว้ย...หยึย...แค่นึกก็ขำว่ะ...ลองคิดดูนะมึงตื่นขึ้นมาร้องไห้กระซิกๆในอ้อมแขนอีวุ้น...แค่คิดก็สยองแล้วว่ะ...”
“ควาย....รุ่นนี้ไม่มีสับเปลี่ยนหน้าที่เว้ย...กูเห็นจุกทุกทีที่โดนเสียบอ่ะ...ครางอิ๋งๆเลย...หลงกูหัวปักหัวปำจะตาย”
“มันหลงมึง...หรือมึงหลงมันวะ....เห็นเมาทีไรต้องไปนอนกะมันทุกที...”
“อ้าว...ได้ไง...มีของฟรีอยู่กะตัวกลัวอะไรวะ...ครบทุกกระบวนท่า..มึงจะเอาอะไรล่ะอีวุ้นจัดให้ได้หมด...จูบปาก...   ดูดไข่..ไซร้ง่ามขา...ทำให้กูได้หมดแหละ...แค่กูทำให้ของกูแข็งแค่นี้พอ...นอกนั้นอีวุ้นจัดการเองหมด...ตั้งแต่อมยันนั่งเทียนโยกกูนี่แหละ...เหอๆ...”
“เออๆเล่าซะเห็นภาพเลยมึง.....แค่นี้แหละ...อย่าแดกเยอะละกันมึง..” ธีร์พูดแล้ววางสาย..รีบบึ่งรถกลับหอทันทีเพื่อที่จะได้นอนหลับแล้วฝันถึงคนที่คิดถึงอีกคืนนึง...กลับมาถึงห้อง...อาบน้ำเสร็จ....ธีร์เดินไปที่ระเบียงมองออกไปที่แนวต้นไม้ข้างนอก เหนือแนวต้นไม้นั้นเป็นตึกสูงประมาณสิบกว่าตึก หนึ่งในตึกเหล่านั้นอาจเป็นที่พักของ
พี่นุของเค้า...ขณะนี้ธีร์ยืนอยู่คนเดียวที่ระเบียง ซึ่งร้อยวันพันปีแทบไม่เคยเปิดประตูห้องด้านหลังออกมายืนเหม่อเช่นนี้

“ฝันดีนะครับพี่นุ....”  ผมอ่านตาม SMS ที่ได้รับอีกเหมือนเดิม..ผมอ่านแล้วล้มตัวลงนอนเผื่อบางทีอาจจะฝันถึงใครกะเค้าบ้าง...แต่ว่าไม่ไหวละมั้ง...เหนื่อยเหลือเกินวันนี้....คร่อออกกก...ZZZZzzzz!!!...ฟี๊ZZZzzzZZ!!!!


ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เจมส์คือตัวหลอกใช่ไหม? ธีร์น่าจะมาวิน  :hao3:

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ทุกอย่างกะลังจะพีคขึ้นเรื่อยละคับ...อิอิอิ  :impress2:

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่  9_ขอมัดจำ...


   ผมมาถึงที่ปั๊มน้ำมันหลังมอที่เป็นจุดนัดพบก่อนเดินทางและเป็นสถานที่รถจอดในคืนนี้ประมาณสามทุ่มกว่าๆแต่ไอ้กิ๋วมันนัดให้น้องๆมาไม่เกินสี่ทุ่ม...ผมมาก่อนเพื่อมาดูความเรียบร้อยและแน่นอนครับคนที่มาส่งผมก็คงเป็นใครไปไม่ได้...นอกจาก...เจ้าธีร์...เจ้าเดิมนั่นเอง...พอเห็นผมสะพายกระเป๋าเป้เดินลงมาจากรถเจ้าธีร์..ไอ้กิ๋วก็แซวเลย...
“กูนึกว่ามึงจะมาพร้อมน้องซะแล้วนะไอ้นุ...ดีนะมาก่อนเวลาเนี่ย...”
“เออ..กูรู้น่า...แล้วไหนยังไม่เห็นมีใครมาเลยวะ...” ผมวางกระเป๋าแล้วมองไปรอบๆ
“ไอ้อิ่มกะไอ้ปอยมาแล้ว...วิ่งไปซื้อขนมกับพวกหลีดมือในปั๊มกันโน่น...ส่วนหลีดแดนซ์ยังเงียบจ้อย...” ไอ้กิ๋วบอก
“เออๆ...เดี๋ยวมันก็มายังไม่สี่ทุ่มนี่หว่า...” ผมบอกไอ้กิ๋วแล้วเดินกลับไปที่รถ...ธีร์นั่งรออยู่ในรถหันหน้าออกนอกรถมองมาทางผมพอดี...
“ธีร์กลับเลยก็ได้นะ...ขอบคุณมากเลยที่เป็นธุระมาส่งทั้งอาทิตย์เลย...”
“ไม่ใช่ธุระหรอกครับพี่นุ...ผมเต็มใจ...” พูดแล้วยิ้มหวานอีกแล้ว
“ต่อไปก็ธีร์ก็สบายแล้วสิ...พี่ไม่อยู่ตั้งสามวันกลับมารถก็คงเสร็จพอดีแล้ว...ธีร์ก็จะได้ไม่ต้องเปลืองน้ำมัน..”
“ไม่ดีอ่ะครับ...ผมอยากรับส่งพี่นุต่อไปอย่างนี้อ่ะครับ...”
“ไม่ได้หรอกธีร์...แค่นี้พี่ก็เกรงใจธีร์จะแย่อยู่แล้วถึงธีร์จะบอกพี่ว่าเต็มใจก็เหอะ...ลึกๆพี่ก็ยังรู้สึกเกรงใจอยู่ดี...”
“ใจร้าย...” ธีร์พูดตัดพ้อผมเล็กๆแต่คงเป็นการแซวๆกันมากกว่า
“ก็ใจร้ายนี่แหละ...รู้ไว้ซะด้วยแล้วต่อไปจะร้ายกว่านี้...”  ผมพูดแบบขู่ๆ
“ร้ายสิครับดี...ผมชอบ...” ธีร์พูดแล้วยื่นหน้ามาใกล้ๆ
“พี่นุ...พอพี่นุมีรถใช้เหมือนเดิมแล้ว....ผมจะมีโอกาสเจอพี่นุบ้างมั้ยครับ...” ธีร์ถามเสียงอ่อยๆ
“ก็โทรมาหาได้...คุยได้ตามปกติ...” ผมพูดพยักหน้าเออๆออๆ
“แค่โทรเหรอครับ...ผมมาหาพี่นุบ้างได้ไหม...นะครับ..ให้โอกาสผมบ้าง..พี่นุก็รู้ว่าผมชอบพี่นุนะครับถึงแม้พี่นุจะยังไม่เคยบอกอะไรกับผมบ้างก็เหอะ...แต่ผมอยากให้พี่นุเห็นความตั้งใจจริงของผม....พี่นุอย่าปฏิเสธผมเลยนะ...”
“น๊านน...เดาไม่ผิดเลยพี่ว่าแล้วธีร์ต้องจบด้วยประโยคนี้...” ผมพูดแล้วหัวเราะชอบใจ...ธีร์เองก็เขินๆ
“รู้ทันผมอีกแล้ว...”
“ธีร์...เรื่องของเรามันเพิ่งจะเริ่มต้นนะ...อย่าเพิ่งให้พี่พูดอะไรตอนนี้เลย...พี่อยากให้เรารู้จักกันมากกว่านี้ก่อนตอนนี้มันยังอยู่ในช่วงโปรโมชั่นอยู่...ทุกอย่างมันก็ดูดีไปหมดแหละ...แต่ถ้าทุกอย่างมันไม่เป็นไปอย่างที่เราคิดล่ะ.....มันจะเสียมิตรภาพเปล่าๆนะธีร์...พี่เองอาจจะไม่ได้ดีอย่างที่ธีร์คิดก็ได้...เข้าใจพี่นะ...” ผมบอกธีร์ไปคล้ายๆกับที่บอกกับเจ้าเจมส์
“เข้าใจครับพี่นุ...อดีตของผมก็ไม่ดีนักหรอกครับ...แต่ผมเลือกที่จะอยู่กับปัจจุบันมากกว่า...” ธีร์ยื่นมือมากุมมือผมไว้
“ไปจำคำพูดแบบนี้มาจากไหนเนี่ย...” รู้สึกว่าผมเริ่มจะไปไม่ถูกอีกแล้วเวลาอยู่ต่อหน้าคนที่มองผมด้วยสายตาแบบนี้
"ผมรักพี่นุนะครับ....ผมขอมัดจำเฉยๆ...ไม่ได้คิดจะเกินเลยหรอก...นะครับ" ธีร์เสียงพร่า ใบหน้าแดงก่ำแล้วธีร์ก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิดโดยการยื่นหน้ามาหอมแก้มผมฟอดใหญ่แล้วกลับลงไปนั่งเหมือนเดิม...ผมก็ตาเหลือกเลยที่นี้...
ใครจะมาเห็นบ้างป่าวว๊า...ผมหันซ้ายหันขวา...เฮ้อ...โชคดีตรงที่จอดรถมันเป็นมุมมืดพอดี...
“พี่นุไม่โกรธผมนะครับ...ผมห้ามใจไม่ไหวจริงๆ...อย่างที่บอกขอมัดจำไว้ก่อนไงครับ...ไม่ได้คิดจะเกินเลย”
“นี่แหละ...เค้าเรียกเกินเลยแล๊ว...เกิดใครมาเห็นทำไงเนี่ย...” ผมบ่นอุบอิบ
“งั้นแสดงว่าถ้าไม่มีคนก็โอเคใช่มั้ยครับ...”
“ไม่ได้...” ผมรีบพูดเลยก่อนจะเลยเถิด...ไปมากกว่านี้...เฮ้อ...นี่ผมปล่อยให้อะไรแบบนี้เกิดขึ้นกับผมอีกแล้วเหรอวะเนี่ย...ทำไมผมถึงห้ามใครไม่ได้เลยว๊า...คนสองคนที่เข้ามา..ทำให้สิ่งที่เหมือนกัน...บอกในสิ่งที่คล้ายๆกัน...
จะต่างกันก็แค่คนพูด..สถานที่..และเวลาแต่ว่า...มีจุดหมายเดียวกันนั่นก็คือ...ผม...จะภูมิใจดีมั้ยเนี่ย...
“พี่ว่าธีร์กลับเลยก็ได้นะ...เค้ามากันครับหมดแล้ว...เดี๋ยวรถก็คงออกแล้วล่ะ...ขับรถกลับบ้านดีๆนะ...”
“พี่นุ...ผมขอโทรหาพี่เป็นระยะๆนะครับ...ผมจะได้แน่ใจว่าพี่นุถึงที่หมายโดยปลอดภัย...”
“ถึงห้ามไม่ให้โทร...ก็คงห้ามไม่ได้อยู่แล้วนี่...ตามใจแล้วกัน..ไปนะ..” ผมพูดแล้วเดินกลับเข้าไปรวมกลุ่ม...ธีร์มองตามไปซักพักแล้วขับรถออกไป...อย่างน้อยวันนี้ธีร์ก็ได้กำลังใจกลับไปมาโขอยู่
“แค่หอมแก้มแล้วไม่โดนด่าก็โอเคแล้ววะ...” ธีร์พูดกับตัวเองแล้วขับรถออกไป...ผมเดินกลับมาที่รถก็เห็นน้องๆมากันครบหมดแล้วกำลังขึ้นไปจับจองที่นั่งกันเกือบหมดแล้ว...



“ครบมั้ยปอย...???” ผมถาม
“เรียบร้อยแล้วพี่นุ...” ปอยหันมาบอกแล้วขึ้นไปนั่งคู่กับอิ่ม  ไอ้กิ๋วเดินมาหาผม
“ปะ...ออกเดินทางได้แล้วเพื่อน...ได้เวลาล้อหมุน...” ไอ้กิ๋วบอกแล้วผมก็เดินตามมันขึ้นรถไป...ไอ้กิ๋วนั่งหน้าคู่ไปกับคนขับ...รถที่ไอ้กิ๋วหามาเป็นรถบัสเล็กประมาณสามสิบที่นั่ง...ก็ถือว่าโอเคนะครับ...ผมเลือกที่นั่งแถวที่สามนับจากคนขับ...นั่งคนเดียวครับมันว่างอยู่ก็ดีครับนั่งคนเดียวจะได้หลับอย่างสบายๆหน่อย....
“พี่นุ...ผมซื้อเป๊บซี่มาฝาก...” เจมส์ยื่นกระป๋องเป็บซี่ให้ผมแล้วนั่งลงข้างๆ...ผมรับมาแต่ยังไม่เปิดดื่ม
“แล้วนั่งตรงไหนได้ล่ะเราน่ะ...”
“ผมก็นั่งร้องรำทำเพลงกะไอ้เต๊ะไอ้หนึ่งด้านหลังแหละครับ...ไม่อยากกวนใจพี่นุ...”
“ก็ยังไม่ได้กวนใจอะไรนี่...เออ...เอาน้ำมาให้นี่แล้วเรากินอะไรได้อ่ะ...”  ผมถาม  เจมส์มันยิ้มๆ
“อ๋อ..มีแล้วเหมือนกัน...พี่นุกินเลยนะอุตส่าห์ตั้งใจเอามาให้...”
“ขอบใจนะ...” ผมบอกแล้วเปิดกระป๋องดื่ม
“พี่นุ...เรื่องวันก่อนผมขอโทษนะ...” เจมส์บอกเสียงอ่อยๆ
“อืมม...ช่างมันเหอะเจมส์...พี่ไม่ได้โกรธอะไรเราซักหน่อยพี่แค่อยากให้เรามีสติมากกว่านี้ก็แค่นั้นเอง...”
“ครับ...งั้นเดี๋ยวผมกลับไปสนุกกับพวกมันก่อนแล้วกัน...” เจมส์พูดแล้วลุกกลับไปนั่งที่เดิม...ผมหันหลังไปมองก็เห็นพวกมันกำลังร้องเพลงกันอย่างเมามันโดยมี...วุ้นกับเดี่ยวเป็นหางเครื่องที่ดูไปดูมาลีลามันคล้ายโคโยตี้นะเนี่ย..555
เราออกเดินทางกันตอนสี่ทุ่ม....ระหว่างนั่งรถไปธีร์ก็โทรเข้ามาถามเป็นระยะๆตลอด  จนผ่านไปซักครึ่งคืนแล้วบรรยากาศบนรถก็เริ่มเงียบส่วนใหญ่จะเมาพับกันไปซะมาก...ผมเองก็หลับๆตื่นๆมาตลอดทางพร้อมกับได้ยินเสียง  ไอ้หนึ่งโอกอากอ๊วกมาตลอดทาง...อย่างที่มันบอกอ่ะครับว่ามันชอบเมารถยิ่งทางไกลแบบนี้แล้ว...ม่ายรอด....ผมดูนาฬิกาที่ข้อมือ...ตอนนี้ตีสี่กว่าๆแล้ว....
“ถึงไหนแล้ววะไอ้กิ๋ว...” ผมชะโงกหน้าไปถาม
“เข้าเขตประจวบแล้วว่ะ...น่าจะถึงที่พักประมาณหกโมงเช้าแหละ...อาจจะก่อนด้วย...” ไอ้กิ๋วตอบ...
“ไม่นอนเหรอพี่นุ...” เจมส์เดินมาถามผมแล้วนั่งลงที่เบาะข้างๆติดกับผม
“นอนแล้ว...แต่มันหลับไม่สนิทอ่ะดิ...แล้วเราล่ะไม่นอนเหรอ...เห็นเค้าเงียบกันหมดแล้วนี่...”
“ผมก็หลับไม่ได้เหมือนกัน..ถ้าหลับแล้วจะเมารถ...สู้ผมมานั่งคุยกับพี่นุดีกว่า...” เจมส์พูดแล้วหันมายิ้ม....



ผมนั่งคุยกับเจ้าเจมส์กันตมาตลอดทาง...ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องจิปาถะทั่วไปเรื่องครอบครัว...เรื่องเรียน...ของผมบ้างของเจมส์บ้างผมดูแล้วเจมส์มันอารมณ์เบาลงจากวันนั้นเยอะสงสัยมันคงคิดได้บ้างอ่ะครับ....จนใกล้จะถึงที่พักไอ้กิ๋วเลยปลุกทุกคนให้ตื่น...ที่พักที่ไอ้กิ๋วมาจองก็ถือว่าใช้ได้นะครับ...ไอ้กิ๋วจองบ้านพักเป็นบังกะโลแฝดสองหลังเราแบ่งกันพักโดยให้ผู้หญิงหนึ่งหลังและผู้ชายหนึ่งหลัง...
“แล้วหนูล่ะจะไปอยู่หลังไหน....จะให้หนูนอนกะไอ้พวกเถื่อย..ถ่อย..ถุย..หนูไม่เราหรอกนะเหม็นเหล้า..” วุ้นเบะปาก
“แหม!อีวุ้น...อีหมาชิสุ...ทำอย่างกะพวกกูพิศวาสมึงนักเนี่ย...ลองมึงมานอนดิจะจับลงแขกให้ดู...” ไอ้เต๊ะพูดแต่มันกลับทำให้วุ้นตาโตเป็นประกาย...
“ลงแขกเหรอ...งั้นกูเปลี่ยนใจ...กูนอน...” วุ้นคว้ากระเป๋าแล้วทำท่าจะรีบวิ่งเข้ามา  เดี่ยวดันจิกผมคว้าไว้ก่อน
“มึงมานี่เลยอีวุ้น...เป็นผู้หญิงยิงเรือนะเมิง...กูไปด้วย...” เดี่ยวพูดแล้ววิ่งตามไปกะวุ้น
“มึงสองตัวรีบไปลงหลุมเลยเดี๋ยวโดนตีนกู...” ไอ้กิ๋วเข้ามาขวาง
“พี่กิ๋วอ่ะ...กลับก็ได้...แล้วพอเปลี่ยวอย่ามาเคาะห้องเรียกหูนะ..” วุ้นค้อนแล้วกระทืบเท้าปึงๆเข้าห้องไป
“เนื้อหงส์มีให้กินไม่กิน...เชอะ...” เดี่ยวสะบัดหน้าเดินตูดบิดตามวุ้นเข้าไปอีกคน
“เนื้อหงส์หรือเนื้อคางคกวะอีเดี่ยว...” ไอ้กิ๋วตะโกนตาม
“ตกลงใครพักไหนบ้างวะเนี่ย...” ผมถามเพราะบ้านผู้หญิงเค้าเข้าห้องกันหมดแล้วเหลือแต่ตัวผู้นี่แหละ...
“ก็เหลือกัน 8 คนก็แบ่งกันไปหลังละ 4 คนละกัน..สบายๆจะได้ไม่ต้องเบียด
“งั้นผมกะไอ้เจมส์มานอนห้องพี่นุกะพี่กิ๋วดีกว่า...” ไอ้เต๊ะรีบบอก...ผมอึ้งนิดเมื่อได้ยินแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
“งั้นไอ้หนึ่ง...ไอ้เอก..ไอ้แซก...ไอ้คิมก็ไปนอนฝั่งโน้นแล้วกัน....ทำภารกิจให้เรียบร้อยแล้วซักเก้าโมงมารวมกันที่หน้าบ้านนะเว้ย...ดูๆไอ้หนึ่งมันด้วยนะเว้ย...เมารถจะตายห่าแล้วนั่นน่ะ...” ไอ้กิ๋วบอกแล้วหิ้วกระเป๋าเข้าไปในห้อง...
“กูนอนพื้นนะเว้ย...” ไอ้กิ๋วบอกแล้วโยนกระเป๋าโครม
“ผมก็นอนพื้นด้วย...” ไอ้เต๊ะบอกอีกคน...
“อ้าวแล้วเป็นเหี้ยไรนอนพื้นกันหมดเนี่ย....” ผมวางกระเป๋าแล้วโวยบ้าง
“ก็เตียงมันเด้งๆอ่ะพี่...ผมนอนไม่ได้หรอกมันเหมือนเมาเรือ...” ไอ้เต๊ะอธิบาย
“กูด้วย...กูนอนเตียงแบบนี้ไม่ชินว่ะ...” ไอ้กิ๋วช่วยเสริม...ไอ้เจมส์คว้าเก้าอี้มานั่งข้างๆเตียง
“แล้วกูล่ะ..จะมีเหตุผลกะเค้าบ้างจะได้มั้ยเนี่ย...” ผมบ่น
“มึงก็นอนเตียงนั่นแหละ...สบายดีไม่ชอบหรือไงวะ...แบ่งๆให้ไอ้เจมส์มันนอนด้วยก็จบ...” ไอ้กิ๋วพูด
“เออๆ...ไม่มีทางเลือกนี่หว่า...พี่นอนฝั่งติดผนังนะ...เจมส์นอนฝั่งนี้ละกัน...” ผมบอกเจมส์ ไอ้เจมส์ก็พยักหน้ารับ
หันไปดูไอ้สองตัวนั้นอีกที...หลับไปแล้ว...นอนกรนกันสบายใจเฉิบ...
“เหมือนพี่นุไม่อยากนอนเตียงเดียวกับผม...” เจมส์ถามหลังจากที่เห็นสองคนนั้นหลับสนิทไปแล้ว
“ป่าว...ไม่ใช่อย่างนั้น...คือว่าพี่...เอ่อ....”
“พี่นุทำเหมือนเราไม่เคยนอนเตียงเดียวกัน...พี่นุลืมไปแล้วเหรอ...” เจมส์ถามเสียงค่อยพอให้ได้ยินกันสองคน
“ตอนนั้นมันเมาเว้ย...ปกติ...ชินกับการนอนคนเดียวมากกว่า...”
“เมาแล้วก็เลยนอนกอดผมทั้งคืน..” เจมส์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนผมเขินอีกแล้วก่อนที่จะเจออะไรซ้ำรอยผมหนีก่อนดีกว่า
“อืมม...เดี๋ยวพี่ไปสูดอากาศริมทะเลก่อนดีกว่า....เจมส์ก็นอนเหอะ...” ผมพูดแล้วรีบลุกออกไปเร็วจี๋เพราะป้องกันตัวเอง
เสียงเจมส์หัวเราะตามหลังมาแล้วเจมส์มันก็เอนหลังนอนหลับไปอีกคน...

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
แหงะ..เดาไม่ถูก ใครคือคนที่ใช่ ไรต์อัพเร็วทันใจ เป็นกำลังใจให้น๊า  :pig4:

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่  10_ฟังเสียงหัวใจตัวเอง...



   ผมออกมาเดินอยู่ที่ชายหาดรอดูพระอาทิตย์ขึ้น...จริงๆแล้วผมก็ง่วงนอนนะแต่จะให้ผมนอนอยู่บนเตียงเดียวกับไอ้เจมส์ตอนนี้ผมยังไม่พร้อมอ่ะครับถึงนอนยังไงก็ไม่หลับอยู่ดี...ผมเดินปล่อยใจใช้ความคิดอะไรไปเรื่อยโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้..ช่วงเวลาที่มีใครๆเข้ามาในชีวิตพร้อมๆกัน...หลังจากที่หัวใจผมแห้งแล้งอยู่นาน
จู่ๆก็มีเข้ามาให้เลือกพร้อมกันถึงสองคนกับระยะเวลาเพียงแค่เดือนกว่าๆที่ผ่านไป...คนหนึ่งโผงผาง...วู่วาม...ยังคิดอะไรเหมือนเด็กๆแต่มีความรู้สึกดีๆมอบให้เต็มหัวใจ....กับอีกคนหนึ่งพูดตรง...สุขุมนุ่มลึก...แต่ท่าทางจะเคยเจ้าชู้มาก่อนแต่ก็มีความรู้สึกดีๆมอบให้ไม่แพ้คนแรก...แล้วอย่างนี้ผมควรจะเหมาะกับใครมากกว่ากัน..ผมถามตัวเอง...
กับ “เจมส์” รุ่นน้องในหลีดที่พอผิดหวังจากผู้หญิงที่รักกลับเปลี่ยนใจมาชอบผม...ซึ่งผมก็สนิทกับเจมส์อยู่ประมาณนึงจนเจมส์มันกล้าสารภาพความรู้สึกออกมาให้ผมฟังตรงๆแถมระหว่างผมกับเจมส์ยังเคยใกล้ชิดกันมาอีก...ทั้งกอด...รวมไปถึงจูบอีกหนึ่งครั้งที่เจมส์มันประชิดผมอย่างที่ไม่ทันตั้งตัว
กับ “ธีร์” หนุ่มรุ่นน้องนิเทศปีหนึ่งรูปหล่อเสน่ห์แรง...ที่จู่ๆก็โทรมาบอกรักผมอย่างที่ไม่ทันตั้งตัว...ธีร์เป็นคนที่พูดตรง..ตรงมากคิดอย่างไรก็พูดมาอย่างนั้นแต่แฝงไว้ด้วยความสุขุม...จะว่าไปแล้วธีร์ค่อนข้างเดินเกมเร็วมากอาจจะเพราะโชคกับความบังเอิญช่วยในหลายๆครั้ง...ตั้งแต่โรงหนัง...ที่ผับ...รถเสีย...จนเลยมาถึงรับส่งผมระหว่างซ่อมรถพร้อมกับการมัดจำโดยการขโมยหอมแก้มผมไปอีกหนึ่งฟอดก่อนเดินทางมาที่นี่....


ส่วนผมทำไมยังไม่ตัดสินใจบอกอะไรกับใครน่ะเหรอครับเพราะผมเองก็ยังไม่แน่ใจในอะไรหลายๆอย่างรวมถึงไม่แน่ใจตัวเองด้วย...ไม่ใช่เผื่อเลือกนะครับเพียงแต่ว่าผมยังไม่พร้อมจะเลือกต่างหาก...เจมส์เองผมไม่รู้ว่าเจมส์เข้ามาหาผมในช่วงที่เค้ากำลังสับสนจากการอกหักหรือเปล่า...หลายๆครั้งที่เจมส์แสดงออกมาหึงหวงผมจนเกินไปบวกกับยังควบคุมสติอารมณ์ไม่ค่อยอยู่อีกต่างหากทั้งๆที่เรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน...ลึกๆผมก็ไม่อยากให้เจมส์มาเป็นอย่างผมนะ...เพราะถ้ามันไม่เป็นอย่างที่เจมส์คิดผมกลัวจะเสียมิตรภาพไปต่างหาก....ส่วนธีร์...ผมพอจะรู้บ้างเล็กๆว่าธีร์เองค่อนข้างเจ้าชู้แม้ว่าธีร์จะบอกว่ามันเป็นอดีตแล้วก็เถอะ...อย่างที่รู้ๆกันคนเจ้าชู้มักจะทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการและเมื่อได้มาเรียบร้อยแล้วทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไป...เหมือนตอนนี้ระหว่างผมกับธีร์จะเป็นช่วงโปรโมชั่นมากกว่าแต่ธีร์ก็มักจะย้ำให้ผมฟังอยู่เสมอถึงการกระทำต่างๆว่าออกมาจากใจจริงๆไม่ได้เสแสร้ง...


“เฮ้อออ...ใครก็ได้ช่วยตัดสินใจที๊.....” ผมตะโกนแล้วเอนหลังนอนหลับตาลงไปบนพื้นทราย...สักพักโทรศัพท์ดัง
“ว่าไงธีร์...ตื่นเช้าจังเพิ่ง 7 โมงเอง...” ผมพูด
“คงชินที่ตื่นมาส่งพี่นุมั้งครับ....ว่าแต่...พี่นุจะให้ใครช่วยตัดสินใจอะไรเหรอครับ...” ได้ยินธีร์พูดผมเด้งผึงลุกนั่งทันที
“ห๊า...ธีร์ว่าไงนะ....พูดอีกทีซิ...”
“ไม่บอกได้มั้ยครับ...พี่นุหันหลังมามองเองดีกว่า...” ผมหันไปด้านหลังก็สะดุ้งเพราะธีร์นั่งคุกเข่าอยู่ด้านหลังผมหน้าแทบจะชิดกันเลย...ผมก็ได้แต่อึ้ง..อึ้ง..อึ้งแล้วก็อึ้ง...มาได้ไงวะ
“เฮ้ยธีร์...ตกใจหมด...มาได้ไงเนี่ย...”
“มีคนมานั่งใกล้ขนาดนี้แล้วยังไม่รู้ตัวอีกนะพี่นุ...เป็นโจรขึ้นมาทำไงเนี่ย...” ธีร์ขำแล้วเปลี่ยนมานั่งคู่กับผม
“ไปไงมาไงเนี่ย...แล้วไม่บอกกันซักคำนะว่าจะตามมาด้วยอ่ะ...เงียบกริ๊บ...” ผมบอกอย่างเคืองๆ
“บอกไปก็ไม่เซอร์ไพรส์สิครับ...ว่าแต่..พี่นุดีใจมั้ย...ที่เจอผม...” ธีร์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมอีกแล้ว...ใจเต้นตึ่กๆ
“บอกไปก็ไม่เซอร์ไพรส์สิ...” ผมตอบกวนๆบ้างทำเอาธีร์หน้างอเลย
“ใจร้าย...ผมอุตส่าห์ขับรถตามมาทั้งคืน...ตอบให้กำลังใจกันบ้างไม่มีเลย..คนเราอ่ะ...” ธีร์พูดงอนๆ
“ก็บอกแล้วว่าใจร้ายนี่นา...ตามมาเองนี่...” ผมตอบแล้วคว้าทรายโยนใส่ธีร์หนึ่งกำมือแล้ววิ่งหนี
“โหพี่นุ...เล่นแบบนี้เหรอ...ด้ายยย....” ธีร์ถอดรองเท้าแล้ววิ่งไล่ตามผมสุดชีวิต...วิ่งไล่กันสักพักจนเริ่มหอบผมจึงชะลอหยุดเดินเพราะเห็นว่าวิ่งมาไกลจากหน้าที่พักมากแล้ว...ผมนั่งลงกับพื้นทรายกอดเข่าหอบแฮ่กๆธีร์วิ่งตามมานั่งใกล้ๆ
“วิ่งไวไปมั้ยพี่นุ...เหนื่อยนะเนี่ย...” ธีร์พูดหอบๆเหงื่อหยดติ๋งๆ
“ก็อยากวิ่งตามเองนี่หว่า...” ผมก็หอบ...เหงื่อไหลย้อยเหมือนกันธีร์หยิบผ้าเช็ดหน้าแล้วเช็ดเหงื่อที่หน้าผม...ผมมองดู..เฮ้ย...มันผืนเดียวกันกับที่ผมให้ธีร์ไปวันนั้นนี่หว่า
“ซักแล้วครับพี่นุ...รับรองเอี่ยมหน้าพี่นุไม่ขึ้นผื่นแน่นอน...”
“ซักแล้วแต่ห้ามคืนนะ...ให้แล้วห้ามเอามาส่งคืนด้วย...” ผมบอกแล้วเอนหลังนอนลงไปบนพื้นทรายแล้วพลิกตัวยันศอกขึ้นสองข้าง เอามือเท้าคาง
"ธีร์....พี่ถามอะไรอย่างนึงได้มั้ย???...." ผมทำหน้าจริงจัง
“ถามมาสิครับพี่นุ...ผมพร้อมตอบทุกคำถาม...” ธีร์พูดแล้วเอนหลังนอนเอาแขนมาหนุนหัว
"ถ้าเราไม่ได้ลงเอยกัน....ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่..ธีร์จะยังเป็นเพื่อนกับพี่มั้ย...???"  ผมถาม  ธีร์นิ่งไปชั่วครู่
ในใจกระตุกวูบ แต่ยังทำหน้ายิ้มๆ แล้วตอบว่า
"ไม่ครับ" ธีร์ตอบ  คราวนี้คนที่นิ่งคือผมเองแต่ก็นิ่งได้ไม่นานเมื่อธีร์พูดต่อ ซึ่งทำให้ผมต้องเปลี่ยนสีหน้าเป็นเขินอายแทบไม่ทัน
"ผมไม่อยากเป็นเพื่อน ผมอยากเป็นคนรัก"  ผมกลืนน้ำลาย ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ที่เคยปากดีตอนนี้อึ้งไปหมด
"แต่ถ้าเราไม่ได้ลงเอยอย่างที่ว่า....ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ผมก็จะยังรักพี่นุอยู่ ส่วนจะรักต่อนานแค่ไหน อันนี้ก็แล้วแต่เวลา....ผมยังบอกไม่ได้ แต่ที่แน่ใจคือสิ่งที่ผมกำลังบอกอยู่ตอนนี้ล่ะ" ธีร์พูดเนิบๆ ...เอาซะแล้วไหมล่ะ อยากรู้ดีนักคราวนี้เป็นไง ได้ยินเต็มสองหู แล้วก็อึ้งไปเลย...ผมคิดในใจ...ธีร์ขยับตัวเข้ามาใกล้ เอนตัวลงนอนตะแคงเกือบแนบชิดผม ศอกซ้ายวางอยู่บนพื้น ยื่นมือขวามาแตะต้นแขนของผมที่กำลังหลบตาก้มลงมองพื้น
"ผมรู้ว่ามันอาจจะเร็วไปที่ผมบอกพี่นุแบบนี้....พี่นุครับ ถามหัวใจพี่นุดีๆ นะ...ว่ามีความสุขเวลาอยู่กับผมหรือเปล่า สำหรับผมเวลาที่อยู่กับพี่นุ......ผมรู้สึกว่าเวลามันหยุดนิ่ง ไม่อยากห่างพี่นุเลย อยากคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ อยากทำอะไรที่ใจอยากจะทำ อยากให้เราได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานๆ... " เสียงธีร์แหบพร่า สั่นไหวอย่างที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน
ผมรู้สึกประหม่า ตายังจับจ้องอยู่ที่พื้น ยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นเพราะกลัวจะหลอมละลายพ่ายแพ้ต่อสายตาหวานซึ้งของธีร์จนในที่สุดธีร์ก็ยกมือขึ้นมาแตะคางผมดันให้เงยหน้าขึ้นใบหน้าของธีร์อยู่ใกล้ผมมาก นัยน์ตาหวานเยิ้มด้วยแรงปรารถนา ลมหายใจหนักหน่วง ปากเผยอช้าๆ ก่อนจะจะยื่นมาประกบปากผมแน่น ลิ้นอุ่นๆ สอดเข้ามา ตวัดเกี่ยวกับลิ้นของผมจนต้องยอมต่อการลุกล้ำ...อยากจะขัดขืนอยู่หรอก แต่ทำไมกายมันไม่มีแรงขยับ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเหมือนขี้ผึ้งกำลังถูกหลอมละลาย...ในที่สุดผมก็ยอมแพ้ต่อกายของตน ปล่อยให้อารมณ์พาไปร่างสองร่างเกี่ยวกระหวัดรัดกัน พลิกไปมาบนพื้นทราย  เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ผมยกมือขึ้นดันอกหนาของธีร์ให้ออกห่างเพราะกลัวจะทันทานใจและอารมณ์ของตัวเองไม่ไหวผมหายใจหอบ หนักหน่วงราวกับว่ายน้ำข้ามทะเลเป็นสิบๆรอบธีร์ก็ไม่ต่างกัน
“ธีร์..พอเหอะ...พี่.....”
"ผมรักพี่นุนะครับ...บอกแล้วไงผมขอมัดจำเฉยๆไม่ได้คิดจะเกินเลยหรอก" ธีร์เสียงพร่า ใบหน้าแดง รู้สึกร้อนผ่าวด้วยอารมณ์ปรารถนา
"จริงเหรอ??" ผมบ่นอุบอิบ ตาหลุบต่ำมองหน้าอกของธีร์ที่หายใจเข้าออกแรงๆ
"ไม่จริง ผมโกหก" ธีร์ตอบยิ้มๆ แววตาส่งความหมายตามที่พูด...โอ๊ย อะไรกันนี่...โชดดีนะที่เป็นเวลาเช้าแบบนี้...ที่ชายหาดถ้าเป็นกลางคืนต้องเสียตัวแน่เลยผม... ...ทำไงดีล่ะทีนี้......ผมรักธีร์หรือเปล่า พร้อมจะคบกับธีร์ไหม แล้วจะเป็นอย่างไรหลังจากนี้หากมีอะไรกันแล้วทุกอย่างจะเหมือนเดิม หรือจะเป็นอีกแบบหนึ่ง...ผมนึกในใจ แต่อีกเสียงหนึ่งรีบแทรกว่า...อย่านะ อย่าเพิ่งยอม แค่เขาบอกรักก็จะยอมเป็นของเขาเลยหรือ...เสียงแรกเถียงกลับมา...แล้วเจมส์ล่ะเจมส์ก็บอกว่ารัก...แล้วเรามีต้องมีอะไรกับเจมส์ด้วยหรือ...หากผมจะมีความสัมพันธ์ทางกายกัน...แต่ความสัมพันธ์ทางใจสำคัญที่สุด......แล้วใจผมเป็นของใครล่ะ......กายและใจต้องสัมพันธ์กัน หากใจไม่รัก กายก็ไม่ควรจะรักด้วย...????

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ธีร์มาแรง...แซงเจมส์แล้ว  :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่  11_รถไฟชนกัน...



“ว่าไงพ่อดอกรักเร่...เร่ไปจนถึงชะอำเลยนะเมิง....” เสียงแบงค์แซวมาตามสาย...ธีร์นอนโทรศัพท์อยู่ที่เตียง
“อ้าว...ไม่อย่างนั้นพี่นุเค้าจะรู้ได้ไงว่ากูชอบเค้าจริงๆอ่ะ...” ธีร์พูดไปยิ้มไป
“หือ...ทุ่มทุนสร้างจังเลยนะเมิง...ยังไงเผื่อใจไว้บ้างก็ดีนะเว้ย...”
“ไม่เผื่อว่ะ...อย่างน้อยกูก็ได้จูบพี่นุแล้ว...กูคงไม่ผิดหวังหรอก...” แบงค์ฟังแล้วตาโตเลย
“โห...ได้จูบแล้วเหรอวะ...มึงอำป่ะเนี่ย...”
“ดูแล้วพี่นุก็น่าจะมีใจให้กูบ้างแหละ...ไม่งั้นกูคงโดนต่อยคว่ำไปแล้ว...ทีแรกก่อนเดินทางกูก็เสี่ยงหอมแก้มเค้าแย่แล้วนะเว้ยแต่พี่นุเค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร....พอมาถึงนี่ก็เลยจูบพี่นุซะเลย....กูคิดถึงเค้านี่หว่า...”
“ทั้งหอมทั้งจูบไปแล้วแบบนี้...อย่างอื่นก็คงไม่ยากแล้วซิว๊า...นั่นแน่...” แบงค์ทำเสียงล้อ
“เฮ้ย..กูยังไม่ได้คิดถึงขั้นนั้นว่ะ...ถ้าพี่นุจะยอมมีอะไรกับกู...ก็ต้องเกิดจากความเต็มใจของพี่เค้าเองไม่ใช่เพราะกู
คนเดียว...กูบอกแล้วไงกับคนนี้...กูรักจริง...กูไม่อยากให้เป็นเหมือนคนก่อนๆที่ผ่านมา...ที่ได้กันแล้วก็จบ...”
“อ๋อออ....รักแท้ว่างั้น....ไม่น่าเชื่อนะเนี่ยว่าเสืออย่างมึงจะยอมถอดเขี้ยวเล็บเพราะคนธรรมดาๆได้เนี่ย...”
“มึงต้องลองมีความรักเองแล้วจะรู้...ความรักแบบจริงๆนะเว้ย...ไม่ใช่วันไนท์สแตนด์...”
“ปากดี...ทำเหมือนมึงไม่เคยมีอ่ะนะไอ้วันไนท์สแตนท์เนี่ย...เผลอๆมึงจะเยอะกว่ากูอีก...”
“ก็บอกแล้วว่ากูเลิกไปแล้ว...กับพี่นุกูไม่มีทางยอมให้เป็นแค่วันไนท์สแตนด์หรอก...”
“แล้วนี่กลับเมื่อไหร่วะ...ไปก็ไม่ชวนกูซักคำเลย...น้ำใจเพื่อนอ่ะ...ทำอย่างกะจะไปฮันนีมูนนะมึง...”
“ก็กูรีบนี่หว่ากลัวตามไม่ทัน...วันอาทิตย์ก็คงกลับว่ะ...บางทีอาจจะชวนพี่นุกลับมาด้วยกัน...”
“แล้วนี่ยังไงเนี่ย..พี่นุเค้ามานอนกับมึงรึเปล่า...เอ้ย!..กูหมายถึงมาพักกับมึงที่บ้านหรือเปล่าวะหรือพักรวมกะคนอื่นๆ”
“เค้าก็พักอยู่กะคนอื่นๆดิ...”
“ว๊า...กระจอกว่ะมึงเนี่ย..ทำไมมึงไม่พาพี่นุมาพักที่นี่ละวะ...ป๊อดอ่าเด้!!!!....”
“ก็ไม่ได้ป๊อดเว้ย...มึงคอยดูละกันแค่นี้นะเว้ย...ของีบก่อน  ขับรถมาทั้งคืนแล้ว...”
“ของีบ...หรือขอเงี่ยนว๊าไอ้ธีร์...ไม่ใช่จูบพี่นุมาแล้วอารมณ์ค้างนะเว้ย...ใช้มือเองไปก่อนละกัน...เหอๆๆ...” แบงค์พูดแล้ววางสาย...ธีร์นอนหงายมองเพดานอย่างครุ่นคิด
“ทำยังไงพี่นุถึงจะยอมมานอนกับเราดีว๊า...” ธีร์คิดในใจแล้วก็หลับตาลงอย่างอ่อนเพลีย



ผมเดินกลับมาที่บ้านพักค่อยบิดประตูเปิดเข้าไปอย่างเงียบๆเพราะมันยังหลับกันอยู่...ผมเลยเข้าไปอาบน้ำถึงยังไงนอนตอนนี้ก็ไม่หลับอยู่ดีกว่าจะหลับก็คงถึงเวลานัดหมาย...ผมยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องน้ำเผลอยกมือลูบแก้มและริมฝีปากของตัวเอง...ไม่กี่วันมานี้มีสองคนที่เข้ามาใกล้ชิดผมมาก...มากถึงมากที่สุด  แก้มและริมฝีปากของผมถูกสัมผัสโดยคนสองคนที่มีความรู้สึกเดียวกัน...วันนั้นที่หอผมไม่ได้มีอะไรกับเจมส์...วันนี้เมื่อเช้าที่ชายหาดผมก็ไม่ได้มีอะไรกับธีร์..แต่ก่อนจะแยกกันธีร์ก็หอมแก้มผมไปหลายทีบอกว่าตอนบ่ายจะมาหาใหม่...ขอไปนอนพักก่อน
นี่ผมใจง่ายไปรึเปล่าวะเนี่ย...ที่ปล่อยให้ใครต่อใครรุกล้ำเข้ามาในอาณาเขตของผมง่ายดายอย่างนี้หรือเป็นเพราะว่าลึกๆแล้วผมเองเรียกร้องให้มีใครซักคนเข้ามาเติมในส่วนที่ขาดหายไปต่างหาก...ภาพของคนสองคนยังซ้อนกันอยู่ภายในใจของผม...แล้วเมื่อไหร่ล่ะที่ภาพในใจของผมจะชัดเจนเหลือเพียงแค่ภาพเดียว....เสียที...
   

กว่าที่ทุกคนจะรวมตัวกันได้ครบก็ปาเข้าไปสิบโมงกว่าๆกับอาหารมื้อเช้าของพวกเรา...ไอ้กิ๋วยืนกอดอกทำหน้าคว่ำอยู่ที่หน้าบังกะโล...ดูแล้วมันคงหิวมากอ่ะครับ....พอเห็นวุ้นกับเดี่ยวเดินมาอ้อยอิ่งไอ้กิ๋วก็ใส่เลย
“แหม...อีสวย...พวกกูหิวจะแย่แล้วเนี่ยนี่มึงจะไปกินข้าวหรือจะไปเดินแฟชั่นที่มิลานวะ...อีห่าเอ้ย..”
“แหม....พี่กิ๋วอ่ะ...ก็คนสวยนี่คะก็ต้องแต่งตัวนานเป็นธรรมดา...” วุ้นจีบปากจีบคอ  ผมยืนมองการแต่งกายของวุ้นกะดี่ยวแล้วเดาได้ถึงการเดินทางของทั้งคู่คือโดนหมาไล่ฟัดแน่ๆกับชุดสไตล์หางเครื่องหมอลำซิ่งที่ทั้งคู่ใส่มา
“โห..อีวุ้น....ชุดนี้เอามาจากคณะ เสียงอีสาน หรือเปล่าเนี่ย?” ไอ้เต๊ะถาม
“ ต๊าย....ดูถูกเค้า นี่ๆๆดูดีๆชุดนี่นะ DKNY เชียวนะยะ...” วุ้นตอบ
“อ๋อ...DKNY นี่ย่อมาจาก DOOD –K- NAM- YERM (ดูด-เค-น้ำ-เยิ้ม) ใช่ป่าวว่ะ...” ไอ้เอกแซวบ้างทำเอาทุกคนที่ยืนฟังอยู่ฮากันกระจายกับชุดของวุ้นและเดี่ยว...กางเกงขาระฆังผ้าต่านสีทองแซมผ้าลูกไม้ลายฉลุแบบที่เขาเอามาทำม่าน
ฉลุแบบที่เขาเอามาทำม่านพร้อมปักหมายเลข 60 ไว้ที่กลางหลังไม่รู้จะสื่อถึงราคาหรือว่าต้องการให้เห็นว่าเป็นมอไซค์วินหรือยังไง  เด็ดสุดต้องยกให้เสื้อตัวในที่พิมพ์ลายรูปรอยเท้า
“ ...แต่เสื้อตัวในน่ะ อิอิอิ...ยืมของแฟนมา “ วุ้นบิดชายเสื้อม้วนไปม้วนมาทำท่าอาย มองดูคล้ายๆชิสุห์ไล่งับหางตัวเอง
“ แต่ที่จริงวุ้นไม่จำเป็นต้องยื้มของแฟนมาก็ได้นะ..ใส่เสื้อขาวธรรมดาไปก็ได้แล้วไอ้รอยตีนพวกเนี้ยเดี๋ยวพวกพี่จัดให้”
“แหม..พี่นุก้อ...แขวะหนูอีกแล้วนะ...” วุ้นทำหน้างอแล้วก็เดินตุปัดตุป่องออกไป...พวกเราก็ขำกันใหญ่
“ไปกินข้าวกันเหอะ...พวกหนูหิวจนไส้กิ่วหมดแล้ว...” อิ่มตะโกนบอก....พวกเราจึงเคลื่อนพลเดินเลาะไปตามชายหาดดูร้านค้าต่างๆไปด้วยระหว่างทาง...ใครหิวก็แยกไปหาข้าวกิน...ใครอยากช๊อปปิ้งก็เดินดูได้ตามสบาย...
“เดี๋ยวตอนบ่ายจะให้น้องมันทำอะไรวะไอ้นุ...” ไอ้กิ๋วถาม...ปากก็เคี้ยวแตงกวาตุ้ยๆ
“อืมม...คงปล่อยให้พักกันตามอัธยาศัยก่อนอ่ะ...ลงน้ำไม่ได้หรอกแดดร้อนจะตายห่า...เดี๋ยวเย็นซักสี่โมงเย็นค่อยไปซ้อมที่ชายหาด...ไปต่อตัวกันในน้ำ...ตกจะได้ไม่เจ็บไง...” ผมบอกแล้วตักข้าวเข้าปาก
“แหม..พี่นุตกลงในน้ำถึงไม่เจ็บแต่จุกนะพี่...” อิ่มพูด
“ก็ขามันเป็นโปลิโออ่ะพี่นุ...ยืนนานไม่ได้...” ปอยพูดแล้วขำ
“ค๊า..อีสวย...อีขาแข็ง...กูเห็นต่อตัวทีไรมึงก็ตกก่อนกูทุกทีแหละอีปอย...” อิ่มหันมาแขวะพอเป็นพิธีแล้วกินข้าวต่อ
“ไม่รู้อ่ะ...เย็นนี้ใครตกก่อนจับโยนลงน้ำ...” ผมแซวพอขำๆ
“หนูว่านะพี่นุ...มันมีที่ร่มอยู่อ่ะ..เอาพวกหลีดมือไปซ้อมก่อนดีกว่าอีพวกนี้ขี้เกียจ...” อิ่มบอก
“ก็เหมือนมึงตอนปีหนึ่งไง...” ปอยบอก  อิ่มหันไปมองตาขวาง
“อีปอยยยยยย....ขัดกูอีกแล้วนะ...กินข้าวไปเลยมึงอ่ะ...”  ผมฟังแล้วก็ขำ...ชอบขัดกันจังเลยคู่นี้แต่ก็รักกันมากนะเนี่ย..
“นี่อีวุ้น...หล่อนช่วยดูสิคะว่าร้านไหนเค้ามีผู้ชายปิ้งขายบ้าง...เดี๊ยนจะได้เหมาซักไม้สองไม้...” เดี่ยวถามวุ้นขณะที่เดินดูข้าวของในร้านค้าแถวถนนเลียบชายหาด
“แหม...คุณเดี่ยวขา....ถ้าเดี๊ยนเห็นก็ต้องแวะแล้วสิค๊า...” วุ้นพูดแต่แล้วสายตาก็ไปสะดุดอยู่ที่รถยนต์คนหนึ่งในระยะ
ห้าสิบเมตรจากตรงที่ยืนอยู่...วุ้นขยับแว่นมองให้ชัด
“นี่อีเดี่ยว...แกเห็นผู้ชายที่ยืนซื้อของอยู่ตรงหน้าโน่นมั้ย...” วุ้นถาม  เดี่ยวขยับแว่นมองดูบ้าง
“ไหน...ซีอาร์วีสีดำนั่นนะเหรอ...ใครวะ...มองไม่เห็นอ่ะ...”
“โน่น่ะ...คนนั้นน๊า...ที่ใส่กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล....เสื้อลายดอกสีฟ้าอ่อน...ข้างในสวมเสื้อสีขาวนั่นไง...อีควายมองเห็นมั้ยเนี่ย???” เดี่ยวพยายามเพ่งตามอง...แล้วก็ตาโตเป็นไข่ห่าน...
“ธีร์.....” ทั้งคู่หันมามองหน้าแล้วพูดพร้อมกันเมื่อธีร์ขับรถผ่านไป
“ตายแล้ว...ธีร์มันตามมาถึงนี่เลยเหรอเนี่ย...” วุ้นพูด
“สงสัยจะได้ข่าวเด็ดซะแล้วมาเที่ยวคราวนี้...อิอิอิ...” เดี่ยวหัวเราะชอบใจ....
“นี่นังเดี่ยว....หล่อนว่าพี่นุเค้าจะรู้มั้ยว่าธีร์ตามมาที่นี่อ่ะ...” เดี่ยวทำท่าคิดแบบอิ๊กคิวซัง
“อืมม...อาจจะรู้หรืออาจจะไม่รู้ก็ได้...แต่คิดว่าไม่น่าจะรู้นะ...”
“เหรอ....แล้วไอ้เจมส์ล่ะอีเดี่ยว...ถ้าเจมส์มันเห็นว่าไอ้ธีร์อยู่ที่นี่แล้วมันจะทำไงอ่ะ...อุตส่าห์ได้มาเที่ยวกับพี่นุแล้วยังมีมารตามมาผจญถึงนี่อีก...”
“มารรูปหล่อด้วยมึง...ขอบอก...ปะ..เราไปช๊อปปิ้งกันต่อดีกว่า...อีชิสุห์” เดี่ยวพูดแล้วดีดนิ้วเรียก
“แหม..อีหมีควาย...กล้าเรียกนะ...”




“พี่นุ...กินข้าวเสร็จแล้วเดี๋ยวไปเดินเที่ยวกันนะ..” เจมส์เดินเข้ามาชวน...ผมก็พยักหน้ารับก่อนที่โทรศัพท์จะดังขึ้น
พอเห็นว่าเป็นเบอร์ใครผมก็เลยเดินเลี่ยงๆออกไปรับข้างนอกโดยที่เจมส์มองตามผมไปอยู่
“ว่าไงธีร์...” ผมพูดเสียงค่อยๆ
“ทำไมต้องกระซิบด้วยละครับพี่นุ...” ธีร์ถามมาอย่างแปลกใจ
“ปะปะ..เปล่า...ว่าไง...” ผมปรับเสียงพูดให้เป็นปกติ
“พี่นุอยู่ตรงไหนครับตอนนี้...ผมเข้ามาหาแล้วอ่ะ...” ธีร์พูดแล้วชะลอรถค่อยๆมองดูตามร้านค้า
“เอ่อ...เค้าเรียกตรงไหนหว่า...มันเลยที่พักมาหน่อยนึงอ่ะธีร์...”
“พี่นุทานข้าวยังอ่ะครับ...ไปทานกับผมมั้ย?..ช่วงบ่ายนี้มีภารกิจต้องทำอะไรรึเปล่าครับ....เอ๊!!วันนี้พี่นุใส่เสื้อสีชมพูหรือเปล่าครับ...”
“อืมม...ใช่ดิ...ทำไมเหรอ?...”
“กางเกงสีขาวด้วยใช่ป่าวครับ...ผมว่าผมเจอพี่นุแล้วนะ...” ธีร์ตัดสาย  พอผมหันไปอีกทาง  รถธีร์ก็จอดอยู่ตรงหน้าผมซะแล้ว...ธีร์ใส่กางเกงขาสั้นสีน้ำตาลเสื้อลายดอกสีฟ้าอ่อน ทิ้งชาย ไม่กลัดกระดุม ข้างในสวมเสื้อกล้ามสีขาว เผยให้เห็นหน้าอกล่ำๆ..ดูแปลกตาดีเหมือนกัน...
“แต่งตัวแบบนี้เป็นกะเค้าด้วยนะเนี่ย...” ผมมองแล้วยิ้มๆ ธีร์กำลังจะอ้าปากพูดแต่เจ้าเจมส์แทรกเข้ามาซะก่อน
“เราไปกันเลยมั้ยพี่นุ.....”  ไอ้เจมส์ผ่าเข้ามากลางวงสนทนาระหว่างผมกับธีร์...งานเข้าอีกซะแล้วผม



“เอ่อ...คือ...”  ทำไงดีว๊า...รถไฟสองขบวนชนกันโครมเบ่อเร่อแล้วทีนี้...ตัวช่วยผมไปไหนหมดว๊า...ทั้งคู่ยืนจ้องหน้ากันไม่ลดละโดยมีผมอยู่ตรงกลาง  แววตาท้าทาย แววตาไม่ยอมแพ้ แววตาที่แสดงความหวงกันทั้งคู่เลย...ผมเริ่มรู้สึกถึงความตึงเครียดที่เริ่มก่อตัวขึ้น...โชคยังเข้าข้างผมเมื่อไอ้กิ๋วเดินออกมาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี
“อ้าว..ไปไงมาถึงนี่ได้วะธีร์..” ไอ้กิ๋วเดินเข้ามาสมทบ  ธีร์ยกมือไหว้
“ก็ขับรถตามมาตั้งแต่เมื่อคืนแหละครับ...ขับตามมาเรื่อยๆถึงเมื่อเช้าเหมือนกัน...” 
“แล้วใครใช้ให้ตามมาวะ...” ไอ้เจมส์พูด
“ก็ไม่มีใครใช้หรอก...เราแค่อยากมาหาพี่นุ...ไม่ได้อยากมายุ่งกับใคร..”
“แล้วรู้ได้ไงว่าพี่นุเค้าอยากเจอ...” 
“ไอ้เจมส์มึงไปกะพี่ตรงโน้นดีกว่า...” ไอ้กิ๋วแทรกเข้ามาแล้วลากคอไอ้เจมส์เดินออกไปด้วยกัน...
“ท่าทางเขาจะหวงพี่นุมากนะครับ....เลยไม่ชอบหน้าผมเอามากๆ” ธีร์พูดเสียงเรียบจนผมอึดอัด ไม่รู้จะตอบอะไรใบหน้าธีร์ดูยิ้มๆ ก็จริงอยู่ แต่ก็ดูไม่ขี้เล่นเหมือนเคย
“คงไม่มีอะไรหรอก...เออ..ธีร์ยังไม่ได้กินข้าวมาไม่ใช่เหรอ...ไปหาอะไรกินก่อนมั้ย...” ผมเปลี่ยนเรื่องแล้วเดินขึ้นรถไปกับธีร์...แต่ก็ยังไม่วายหันไปมองไปทางไอ้กิ๋วที่เพิ่งแยกไอ้เจมส์ออกไป...
“พี่กิ๋วจะลากผมออกมาทำไมวะ...” เจมส์หันไปโวยวายหลังจากที่ไอ้กิ๋วลากมาไกลพอสมควร
“งั้นมึงก็กลับไปเลยไอ้เจมส์...ถ้ามึงอยากให้ไอ้นุเกลียดขี้หน้ามึงก็ตามใจ...” ไอ้กิ๋วปล่อยไอ้เจมส์ให้เป็นอิสระ
“พี่กิ๋วไม่เข้าข้างผมเลย...ทำไมไปเข้าข้างไอ้นั่นล่ะ..”
“กูไม่ได้เข้าข้างใครทั้งนั้นแหละ...ไอ้เจมส์..กูรู้นะว่ามึงคิดยังไงกะไอ้นุ...แต่ถ้ามึงยังใช้อารมณ์อยู่แบบนี้นะอย่าหวังเลยว่าไอ้นุมันจะคิดอะไรด้วยน่ะ...แม้แต่ความเป็นเพื่อนมึงก็จะไม่ได้...คอยดูสิ...” ไอ้กิ๋วพูดเป็นชุดทำเอาไอ้เจมส์คอตก
“พี่กิ๋ว...ผม...” ไอเจมส์เสียงอ่อยๆ
“ถ้าอยากได้ใจไอ้นุ...มึงก็ต้องใช้ความจริงใจไม่ใช่ใช้อารมณ์แบบนี้...มึงเก็บไปคิดเองละกันไอ้เจมส์..ปะ..ไปรวมกลุ่มกับคนอื่นทางโน้นดีกว่าเว้ย...” ไอ้กิ๋วพูดแล้วกอดคอไอ้เจมส์เดินไป



   ธีร์ขับรถช้าๆ ไปตามถนนเรียบริมทะเล เปิดกระจกลงให้ลมทะเลได้พัดเข้ามา ผมมองทิวทัศน์สองข้างทางอย่างสนใจ ลมพัดผมจนหัวยุ่งแถมยังต้องหยีตาเพราะแสงแดดจ้าอีก
“พี่นุ....สวมแว่นกันแดดผม...จะได้ไม่แสบตา” ธีร์ยื่นแว่นกันแดดให้
“โอ้โห ใหญ่เบ้อเริ่มปิดได้ทั้งหน้าเลยนะนี่”
“พูดเป็นเล่นไป ไหนลองใส่ให้ผมดูซิ”  ผมส่ายหน้า ธีร์พยักหน้าลุ้นให้ผมใส่
“แดดจ้านะครับ”  ผมสวมแว่นกันแดดของธีร์แล้วเงยหน้าขึ้นแกล้งทำเป็นกลัวว่าแว่นจะหล่นแล้วเอานิ้วชี้ดันแว่นให้แนบกับสันจมูก
“เดี๋ยวแวะซื้อแว่นที่พอดีๆดีกว่านะเนี่ย...”  ธีร์พูดแล้วยิ้มกว้าง
“ใครว่าพี่จะซื้อ...ธีร์พามาก็ต้องเป็นคนซื้อให้พี่ดิ..” ผมตอบ หันหน้าไปมองทะเล
“แล้วก็ไม่บอก จะเอาอะไรผมหาให้ได้ทั้งนั้นหล่ะ...เพื่อพี่นุ...ของผม...”



“คงอ้วนไปหลายวัน” อาหารกลางวันอร่อยมากสมกับที่ธีร์ชมนักชมหนา  ผมดื่มน้ำเอนตัวพิงพนักสวมแว่นกันแดดสีชาราคาถูกที่แวะซื้อจากซุปเปอร์มาร์เก็ตในตัวเมือง  ผมยุ่งเพราะลมทะเล แต่ผมก็ไม่สนใจที่จะปัดเสยให้เรียบร้อย
“เดี๋ยวกลับไปต้องทำอะไรต่อครับพี่นุ..” 
“กลับไปก็คงเรียกมาซ้อมกันอ่ะ...ซ้อมไปด้วยเล่นน้ำทะเลไปด้วย...”
“น่าสนุกดี...ผมไปเล่นน้ำด้วยนะครับ...”
“เอ่อ...”
“ไม่ต้องเอ่อแล้วครับ...รับรองว่าผมไม่สร้างความลำบากใจให้พี่นุแน่นอน...”  ธีร์จ่ายเงินค่าอาหารแล้วเราก็เดินออกมา

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เจมส์จ๋า....อย่าท้อนะ  อันของสูงแม้ปองต้องจิต ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้หรือ?  :hao5:

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ติดตามอ่านตลอดเลย...ดีใจุง... :hao5:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ติดตามอ่านตลอดเลย...ดีใจุง... :hao5:

ถ้าเป็นกำลังใจให้ได้ก้อยินดีนาจา ตามอ่านตลอด สู้ๆเน๊อะ   o13

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่  12_ทะเลหวาน...


   ผมกลับมาถึงบังกะโลก็พบว่าน้องๆบางส่วนนั่งคุยกันอยู่ที่ชายหาด...บางส่วนก็อยู่ในบ้าน...ดูๆแล้วอากาศก็เริ่มไม่ค่อยจะร้อนแล้วเลยเดินไปเรียกทุกคนให้ออกมาซ้อมกันเลยดีกว่า...อยากเล่นน้ำทะเลใจจะขาดแล้ว...ธีร์ไปจอดรถแล้วไปหาที่นั่งรอผมตามเตียงผ้าใบที่เค้ามีไว้บริการตามชายหาด...พอทุกคนมาพร้อมกันเราต่างก็รีบวิ่งลงทะเลกันยกใหญ่...หลีดมือต่างก็เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานเพราะยังไม่ต้องซ้อม...ส่วนบรรดาหลีดแดนซ์ก็เริ่มซ้อมต่อตัวกันก่อน...ต่อตัวกันไป...แกล้งให้ตกน้ำกันบ้าง...คนที่อยู่บนยอดตกเองจริงๆบ้างตกน้ำกันตู้มต้าม...ออกจะไปแนวเน้นแกล้งกันมากกว่าเน้มซ้อม...ธีร์ยังคงนั่งดูผมอยู่ไกลๆพอหันไปทีไรผมก็เห็นธีร์มองมาแล้วยิ้มให้ผมตลอด...โดยธีร์ให้เหตุผลว่า...รอให้คนอื่นขึ้นจากน้ำไปก่อนแล้วเค้าจะค่อยลงเล่นน้ำกับผม...เจมส์ยังคงวนเวียนเข้ามาใกล้ผมบ้างเป็นบางครั้งแต่ไอ้กิ๋วก็จะเข้ามาแจมเสมอ...ผ่านไปเกือบชั่วโมงคนอื่นยังคงเล่นสนุกกันอยู่..ผมเลยเดินขึ้นไปหาธีร์ที่นั่งอยู่ชายหาดห่างจากที่ผมเล่นกันอยู่พอสมควร...อ้าว...หลับไปแล้วนี่หว่า...ผมเดินไปนั่งลงที่เตียงผ้าใบตัวข้างๆ..นั่งมองหน้าธีร์ยามหลับใหล  จมูกโด่งคม ปากเผยอนิดๆ หายใจสม่ำเสมอ อกหนากว้างขยับเป็นจังหวะ แขนข้างนึงพับวางอยู่บนหน้าท้องแบนราบ อีกข้างหนุนศีรษะอยู่
“มองจนผมจะละลายแล้วนะพี่นุ...” 
“ธีร์...”  ผมอุทาน เมื่อจู่ๆ คนที่นอนหลับใหลก็ลืมตา
“รอพี่นุจนหลับไปเลย....” ธีร์ยิ้มจนตาหยี  ผมมองไปที่ชายหาดที่เลนน้ำกัน...แต่ละคนเริ่มทยอยเดินขึ้นมากลับเข้าไปอาบน้ำกันเป็นแถว...โดยไม่มีใครสังเกตเห็นว่าผมนั่งอยู่ตรงไหนเพราะมันห่างกันพอสมควร...
“ตะวันจะตกดินแล้ว...เค้าไม่เล่นกันแล้วน้ำน่ะ...” ผมบอก...ธีร์หน้าเสีย
“ง่ะ...ได้ไง...พี่นุรับปากผมแล้วนะครับ...ไปกันเลย...”  ธีร์พูดแล้วยืนขึ้นถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกตามด้วยเสื้อกล้ามสีขาว...จนผมต้องหลบตาก้มหน้าลงสายตาจับอยู่ที่ต้นคอของธีร์...อะไรบางอย่างบังคับให้สายตาผมเลื่อนต่ำลง  แผงอกของธีร์ถือว่าล่ำพอสมควรดูแล้วคงค่อนข้างให้ความสำคัญกับร่างกายอยู่..หน้าท้องก็แกร่ง แบนเรียบ แผ่นท้องกล้ามขึ้นเป็นลอน...เฮ้อ..เลือดกำเดาจะกระฉูด  เสียงหัวเราะในลำคอเบาๆของธีร์ทำให้ผมรู้สึกตัวเงยหน้าขึ้นมาหลังจากเผลอก้มหน้าสำรวจรูปร่างของคนอยู่ตรงหน้าอยู่หลายอึดใจ
 “มองพอหรือยังครับพี่นุ...เดี๋ยวผมจะให้พี่มองทั้งคืนเลยดีมั้ย...”   เสียงธีร์ฟังดูขันๆ
"เล่นน้ำด้วยกันนะครับ ผมไม่ได้เล่นน้ำทะเลมานานมากแล้ว" ธีร์พูดต่อแล้วดึงมือผมแล้วก้าวเดินลงทะเล




พระอาทิตย์ทอแสงอ่อน ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองสวยงาม ผิวน้ำทะเลต้องแสงตะวันยามเย็นส่องประกายระยิบระยับ  ผมเริ่มจะเหนื่อยเพราะอยู่ในทะเลค่อนข้างนานละ...ธีร์คลอเคลียอยู่ไม่ห่างแม้ไม่ได้ถูกเนื้อต้องตัวผม
แต่ผมกลับรู้สึกว่ากำลังโดนโลมไล้ไปทั่วตัว  ตอนอยู่ในทะเลผมยังรู้สึกว่าไออุ่นๆจากตัวของธีร์แผ่ออกมา รู้สึกร้อนผ่าวผสมเย็นสะท้าน ความรู้สึกนี้แปลกประหลาดนัก เหมือนคนจะเป็นไข้...หนาวๆ ร้อนๆ...
“เราว่ายกลับเข้าฝั่งกันดีกว่านะธีร์...”
"อ้าว ทำไมละครับพี่นุ...เหนื่อยแล้วเหรอ?..”  ผมพยักหน้าแล้วว่ายน้ำเข้าฝั่งช้าๆจนเท้าแตะพื้นทรายจึงยืนรอชั่วครู่
“ผมว่าไม่ต้องว่ายน้ำแล้ว....เรายืนเล่นโต้คลื่นกันอยู่แบบนี้ดีกว่า” เราสองคนยืนโต้คลื่นเล็กๆ ของทะเลยามเย็นอยู่ด้วยกันเงียบๆ
"คิดอะไรอยู่หรือครับพี่นุ" ธีร์ถามเสียงนุ่ม ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมมากที่สุดเท่าที่เคยทำมา(เหรอ...มากกว่านี้ยังเคย..หุหุ)
"ก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อย" ผมตอบเสียงเบาหวิว ยังไม่สบตาธีร์
"คิดอะไรอยู่ล่ะ บอกผมบ้างสิ"
"ก็เรื่อยเปื่อย จะบอกได้ยังไง" ผมยังไม่มองคนที่เซ้าซี้ถามคำถาม
"ก็อยากจะรู้ว่า ในความคิดพี่นุมีผมอยู่ในนั้นหรือยัง???" 
"ยัง..." ผมตอบไม่เต็มเสียง
"จริงหรือครับ"  ธีร์พูดพร้อมยิ้มมุมปาก ประกายตาวิบวับ
"จริงดิ..." ผมตอบเสียงเบายิ่งกว่าเดิม รู้สึกเขินอายขึ้นมาอีกแล้ว...จะโดนธีร์จูบไหมเนี่ย..ผมคิดในใจ...แต่ในที่สุดผมก็ต้องหยุดคิด เพราะสิ่งที่คิดนั้นเกิดขึ้นจริงๆแล้ว  ธีร์ยื่นหน้าเข้ามาชิด ปากเรียวได้รูปทาบลงมาบนปากแดงๆ ของผมอีกแล้ว  ไออุ่นจากตัวของธีร์ที่ผมรู้สึกได้เมื่อตอนที่ว่ายน้ำอยู่ด้วยกัน ตอนนี้กำลังถ่ายเทออกมาผ่านริมฝีปากเข้าสู่กายของผมจนร้อน...ร้อนดังถูกนาบด้วยเหล็กเผาไฟ แต่ก็ไม่ทรมานแต่ทว่ากลับรู้สึกซาบซ่าน ตัวเบาหวิว ทั้งที่ยืนอยู่บนทรายหยาบๆ ในทะเล แต่ผมรู้สึกเหมือนลอยละล่องอยู่บนปุยเมฆ..นี่ผมกำลังโดนจูบอีกแล้วหรือนี่...ธีร์โอบแขนมาด้านหลังของผม ลดแขนซ้ายลงแล้วกดมือลงน้ำหนักดันให้ผมเข้ามาแนบชิดตัวธีร์มากขึ้น มือขวาของธีร์วางอยู่กลางแผ่นหลังของผมดันเอาไว้ไม่ให้ขยับตัวกระดุกกระดิกได้  ธีร์ขยับตัวเสียดสีกับผมเบาๆมือซ้ายเริ่มขยับยกขึ้นช้าๆ ไล้นิ้วไปตามขอบกางเกงของผมแล้วสอดมือเข้าไปสัมผัสกับเนื้อเนียนจนผมสะดุ้งเฮือก มือขวาของผมที่วางอยู่บนแผ่นอกกำยำของธีร์ขย้ำอกกว้างแกร่งนั้นแรงๆ แขนซ้ายที่รัดตัวธีร์อยู่กระชับแน่นขึ้นแต่ใบหน้าพยายามส่ายหนีเพื่อถอนปากออกสูดลมหายใจ
"ธีร์...พอก่อน.." ผมพูดเสียงกระเส่า ขาดห้วง  ธีร์ไม่ยอมหยุดออกแรงบีบมือที่วางทาบอยู่บนเนินเนื้อแน่นเต็มมือ แล้วประกบปากผมอีกครั้งหลังจากที่ยอมให้ผมหายใจ
"พี่นุ...พี่นุครับ" ธีร์เสียงอู้อี้หลังจากถอนปากออกมาหายใจเช่นกัน ธีร์เองก็รู้สึกเหมือนใจจะขาดเสียให้ได้ แต่ครั้นสูดอากาศเข้าไปเฮือกใหญ่ ธีร์ก็บดปากเข้ากับปากของผมอีกครั้ง คราวนี้หนักหน่วงและยาวนานขึ้น ตะหวัดลิ้นดุนดันลุกล้ำเข้าไปลึกมากกว่าเดิม
"พอ พอเถอะ" ผมเสียงกระเส่า  กอดรัดธีร์หนักกว่าเดิม
"พี่นุครับ ผม...ผม..." ธีร์เสียงพร่าด้วยแรงปรารถนา 
“พี่นุ...ผม...รักพี่นุนะครับ...พี่นุรักผมบ้างนะ...???”  ธีร์เปลี่ยนมาจ้องตาผมนิ่งจนผมต้องหลบตาซะเอง....โดยที่ผมเองก็ไม่รู้เลยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดอยู่ในสายตาของ 2 ผู้สอดรู้โดยตลอด



 ผมกลับเข้ามาที่บ้านเป็นคนสุดท้าย...เข้าไปก็เห็นเค้าอาบน้ำกันหมดแล้วกำลังนั่งเล่นกีต้าร์ร้องเพลงกันอยู่ที่ระเบียงด้านนอก...ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องพักก็เจอไอ้กิ๋วนั่งอยู่...
“กูนึกว่าจมทะเลตายห่าไปแล้ว...” ไอ้กิ๋วบ่นพอเห็นผมเดินเข้าไป
“กะกะกู..ไปเดินเล่นมาอ่ะ...” ผมตอบเลี่ยงๆ
“เฮ้ยนุ...อย่าหาว่ากูเสือกเลยนะเว้ย...จะยังไงก็เลือกเอาซักทางนะ...ไม่งั้นมันจะยุ่งยากกันไปกว่านี้นะเว้ย...”
“เออ...กูก็กำลังพยายามอยู่...”
“นี่แล้วจะบอกอะไรอย่างนึง...มึงกะไอ้ธีร์อ่ะอย่าประเจิดประเจ้อกันมากนักดิวะ...” ไอ้กิ๋วพูด  ผมทำหน้างงๆ
“ประเจิดประเจ้อยังไงวะ...”
“แหม!ต้องให้กูบอกอีก...ทั้งที่ปั้มเมื่อคืน..ทั้งเมื่อกี้น่ะ...ดูดดื่มไปป่าววะ...” ไอ้กิ๋วพูดทำเอาผมหน้าถอดสีเลย...
“มึงเห็นเหรอ...”
“ไม่ใช่แค่กูนะมึง...อีวุ้นกะอีเดี่ยวก็เห็น...มึงก็รู้ปากสองคนนี้อ่ะ...กูเดินผ่านไปพอดีเลยลากมันออกมาก่อน...”
“ขอบใจว่ะกิ๋ว...กูจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาอีก...” ผมบอกแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป...คิดถึงคำพูดของ
ไอ้กิ๋วเมื่อกี้นี้...เลือกเอาซักทางนะไม่งั้นมันจะยุ่งยากกันไปกว่านี้...เสียงไอ้กิ๋วยังก้องอยู่ในหัวผม...ตอนนี้เหมือนกับว่าธีร์จะรุกเข้าหาผมมากขึ้นและผมเองก็รู้สึกเหมือนจะพึงพอใจกับการกระทำของธีร์ด้วย...เมื่อกี้ที่ริมทะเล...ทุกอย่างจบลงที่จูบของธีร์ที่ไม่มีอะไรไปมากกว่านั้นเหมือนเดิม...ธีร์เองพยายามควบคุมตัวเองอย่างหนักเพื่อไม่ให้มีอะไร
ถลำลึกมากไปกว่านี้รวมถึงผมเองด้วยที่ก็พยายามยับยั้งชั่งใจตัวเองเหมือนกัน...
“พี่นุครับ...ผมไม่ได้ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ...แต่ผมทำเพราะผมอยากทำกับพี่นุจริงๆนะครับ...” นั่นคือคำพูดที่ธีร์พูดกับผมก่อนจะขอตัวกลับไปบ้านแล้วจะมารับผมไปกินข้าวเย็น...



   หลังจากอาบน้ำกันเสร็จแล้วก็พักผ่อนกันตามอัธยาศัย...ซึ่งส่วนใหญ่จะออกไปกินข้าวเย็นกันเกือบหมดเหลืออยู่แค่ไอ้หนึ่งที่กำลังนั่งคุยอยู่กับไอ้กิ๋วอยู่ที่หน้าบ้าน...แล้วก็ปอยกับอิ่มที่กำลังแต่งตัวอยู่....ส่วนผมเองก็นอนดูทีวีอยู่ในบ้านเพราะรู้สึกเพลียเหลือเกินเดินทางมาตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่ได้หลับกับเค้าซักงีบเลยผมอ่ะ...
“เฮ้ยไอ้นุ...ไอ้ธีร์มันมาหาแน่ะ...” ไอ้กิ๋วเดินเข้ามาบอก...แล้วลุกออกก็เห็นธีร์กำลังนั่งคุยอยู่กับไอ้กิ๋วและไอ้หนึ่งเหมือนกับว่ารู้จักกันมานาน...
“ผมยืมตัวผู้ฝึกซ้อมหน่อยนะครับพี่กิ๋ว...เดี๋ยวผมเอามาส่ง...” ธีร์บอกแล้วลุกมาหาผม
“เออ...เอาไปแล้วก็ดูแลมันหน่อยละกันช่วงนี้หัวใจไอ้นุมันว้าวุ่น...” ไอ้กิ๋วพูดแล้วก็หัวเราะ...ผมเดินออกมากับธีร์ที่รถ
“ได้เห็นพี่นุแต่งตัวแบบนี้แล้วดูรีแล็กซ์ดีนะครับ...” ธีร์บอกผมเลยก้มมองตัวเอง...รีแล็กซ์ตรงไหนวะ
“แค่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นเนี่ยนะ...ปกติก็ใส่อยู่แล้ว...”
“แต่ผมไม่เคยเห็นนี่ครับ...” ธีร์พูดแล้วเดินไปที่รถกดสัญญาณเปิดประตู...ผมมองดูธีร์มันแต่งตัวก็คล้ายๆกับเมื่อกลางวันเพียงแต่เปลี่ยนเป็นกางเกงสามส่วนรัดข้อสีเขียวขี้ม้ากับเสื้อยืดสีขาวพิมพ์ลายสดใสขนาดพอดีตัว...
”ท่าทางพี่นุเพลียๆนะครับ...” ธีร์ถามหลังจากขับออกมาได้ซักพัก
“เพลียดิ...ยังไม่ได้นอนเลยตั้งแต่เมื่อคืนอ่ะ..แถมยังโดนจูบอีกเลยเสียพลังงานไปเยอะ...” ผมพูดแล้วยักคิ้วขำๆ
“งั้นเราขับรถเล่นกันซักพักมั้ยครับ...ซึมซับบรรยากาศชายทะเลกันตอนกลางคืนซะหน่อย...”   

ธีร์พูดแล้วเลี้ยวเข้าถนนใหญ่การจราจรติดขัดมากเพราะมีการซ่อมผิวถนน ช่องทางเดินรถหลายช่องบีบเหลือเพียงช่องเดียว รถขยับตามกันได้ทีละนิด...เฮ้อ...นั่งบนรถที่เคลื่อนตัวที่ละน้อยมีแอร์เย็นๆ เป่าหน้านี่มันก็ทำให้เคลิ้มเหมือนกันแฮะ...สักพักผมก็แบตหมด...หลับซะสนิทเลย...
    รถจอดสนิท ผมงัวเงียรู้สึกตัวตื่นผมกระพริบตาถี่ๆพยายามปรับสายตา ลมเย็นโชยมาปะทะใบหน้า หูแว่วได้ยินเสียงซ่าๆ รอบข้างมืดสลัวมีแสงไฟวิบวับด้านหน้าผมหันไปมองด้านข้าง...ธีร์หายไป...นี่ไม่ใช่ ลานจอดรถร้านอาหารนี่นา...ผมหันขวับมาทางด้านซ้าย กดกระจกรถลดลงมาจนถึงขอบประตูธีร์ยืนยิ้มอยู่ เอามือล้วงกระเป๋า
“นี่ที่ไหน”
“บ้านพักริมทะเลของผมเอง...”
“อะไรนะ...บ้านพักริมทะเลแล้ว...ร้านอาหาร...” ผมเริ่มคิดอะไรออก
“ร้านอาหารก็ยังอยู่ที่เดิมสิครับ...ผมอยากเปลี่ยนบรรยากาศพาพี่นุมากินข้าวที่บ้านผมบ้าง...อ๊ะๆไม่มีเจตนาแอบแฝงนะครับ...ไว้ใจได้...”  ธีร์ยังเอามือล้วงกระเป๋ายืนอยู่ไม่ห่าง กางขาออกเล็กน้อย ท่าทางสบายๆ ผมเหล่ตามอง
“คราวที่แล้วก็พูดแบบเนี่ย...”  ผมหันหน้ากลับมองตรงไปข้างหน้า แสงไฟวิบวับหน้าบ้านไม้สีขาวอยู่ไม่ไกล บ้านชั้นเดียว หลังใหญ่พอสมควร ระเบียงหน้าบ้านกว้างมีซุ้มไม้เลื้อย เสียงลมทะเลสาดซัดหาดทรายดังซ่าๆ ผมเปิดประตูรถลงเดินตรงไปที่บ้านพักริมทะเลโดยมีธีร์เดินตามหลังไปอย่างเงียบๆ  โต๊ะทานข้าวตั้งอยู่ตรงระเบียงใต้ซุ้มไม้เลื้อย เก้าอี้สองตัวสีขาววางไว้ติดกันแทนที่จะวางไว้คนละฟาก โต๊ะปูผ้าสีขาวค่อนข้างยับยู่ยี่...ผมเดินไปดึงเก้าอี้มาวางอีกฟากหนึ่งของโต๊ะทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส...ธีร์เดินไปยกอาหารมาวางสองสามอย่าง...
“ผมให้พ่อครัวเค้าทำให้อ่ะครับ...ผมอยากเปลี่ยนบรรยากาศพาพี่นุมาทานที่สงบๆบ้างอ่ะครับ...ที่ที่มีแค่ผม..กับพี่นุ...”






“โอ๊ย..อิ่ม....พ่อครัวฝีมือใช้ได้นะเนี่ยนเปิดร้านอาหารได้เลย...” ผมบอก
“เป็นอาหารเย็นมืออร่อยที่สุดเลยครับ” ธีร์พูดเสียงนุ่ม ยิ้มกว้าง ส่งสายตาพราวระยับ  ผมเบือนหน้าไปมองทะเลที่กำลังสาดซัดหาดทราย...ผมนึกไว้อยู่แล้วว่าธีร์ต้องพูดอะไรแบบนี้
“พี่นุครับ กลับไปถึงแล้วผมขอแวะไปชวนพี่นุทานอาหารเย็นบ้างได้ไหม..ทำอะไรทานที่ห้องพี่นุก็ได้...”  ธีร์ยื่นมือมาจับมือผมเกร็งมือเล็กน้อยเหมือนจะดึงมือออกแต่ก็ไมทำ ธีร์กุมมือแน่นขึ้น   
“พี่นุก็รู้ว่าผมคิดกับพี่นุยังไง...พี่นุไม่ได้รังเกียจผมใช่มั้ยครับ...ไม่อย่างนั้นพี่นุคงโกรธตั้งแต่ผมบอกรักพี่นุครั้งแรกไปแล้ว....ให้โอกาสผมบ้าง...ถ้ายังไม่รู้สึกอะไรกับผมตอนนี้ก็เปิดประตูแง้มๆ ไว้ให้ผมบ้างนะครับ”  ผมไม่รู้ตัวว่าตัวเองหน้าแดง  รู้สึกอ้ำอึ้ง ไม่รู้จะพูดอะไรดี หูอื้ออึงแทบไม่ได้ยินเสียงรอบข้างเลย....
“พี่นุครับ...” เสียงธีร์เรียกชื่อผม..ถึงรู้สึกออกจากภวังค์
“ห๊า...ว่าไงนะธีร์...”
“ไปเดินเล่นกันมั้ยครับ...”




ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ดูสภาพแล้วคงไม่ได้แค่แง้มๆแล้วหล่ะ เปิดประตูไปกว่าครึ่งแล้วม้าง...งงงงงง   :hao6:

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ดูสภาพแล้วคงไม่ได้แค่แง้มๆแล้วหล่ะ เปิดประตูไปกว่าครึ่งแล้วม้าง...งงงงงง   :hao6:


5555...ลั่นเบยยยยย...

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่  13_ความรัก..ที่ออกแบบ(ไม่)ได้...



   ผมทั้งสองไปเดินเล่นริมทะเล....ธีร์เดินล้วงกระเป๋าทอดน่องเคียงข้างไปกับผมช้าๆ มองทะเล...มองท้องฟ้ายามค่ำคืนไปเรื่อยๆ ปราศจากการพูดคุยด้วยคำพูด...ผมรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะสอดประสานกับธีร์ที่กำลังเดินอยู่ข้างๆ ไหล่กระทบกันบ้างเป็นครั้งคราว  พระจันทร์ครึ่งเสี้ยวส่องสว่างทอดแสงตกกระทบผืนน้ำในทะเลระยิบระยับเห็นอยู่ไกลๆต้นไม้สูงใหญ่ยืนต้นเป็นแนวทางด้านซ้ายของชายหาด  สายลมเอื่อยๆ พัดกิ่งใบของต้นสนให้ขยับไหว เสียงหวีดหวิวเบาๆ ราวกับกระซิบกระซาบกัน ผมกระชับแขนที่กอดอกให้แน่นขึ้น ลมเย็นๆ พัดโชยมาปะทะใบหน้าเบาๆ
“ดาวสวยนะครับพี่นุ...ประเดี๋ยวจะมีดาวตก” เสียงทุ้มข้างหูดังขึ้นทำลายความเงียบ 
“มีญาณวิเศษหรือไง” ผมอดแขวะไม่ได้
“จากประสบการณ์ที่ผมเคยยืนดูดาวที่นี่ตอนกลางคืนหลายๆครั้ง ผมเห็นดาวตกบ่อยๆ”
“อ้อคงพาใครมาดูบ่อยๆ” ผมอดเน้นเสียง ‘ดู’ ไม่ได้
“โธ่...พี่นุครับ...อย่าทำลายบรรยากาศสิ” นักดูดาวประท้วงอย่างอ่อนใจ  หางตาแอบมองผมซะด้วย  ก่อนที่จะทันได้พูดอะไร บนฟากฟ้าที่ระบายสีด้วยจุดสีขาวไฟระยิบระยับของดวงดาวก็มีดาวตกสองดวงไล่เลี่ยกัน
“เขาบอกว่า ถ้าเห็นดาวตกให้อธิฐานขอพรอะไรก็ได้...พี่นุลองอธิฐานสิครับ”  ผู้เชี่ยวชาญเรื่องดาวตกสาธยาย
“ธีร์เชื่อเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ” ผมถาม ใบหน้ายังแหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เผื่อจะเห็นดาวตกอีก
“ลองดูก็ไม่เสียหายนี่นา”  ธีร์หันมามองผมด้วยสายตาอ่อนโยน  ครู่ใหญ่ก็เกิดดาวตกอีกครั้ง ดาวตกครั้งนี้เห็นเป็นลำแสงสีขาวนวลพาดยาวบนท้องฟ้าอย่างชัดเจน ก่อนจะเคลื่อนคล้อยตกลงอีกฟากหนึ่งของเส้นขอบฟ้าช้าๆ เหมือนจะรอให้ผมสองคนได้อธิฐานได้ทันท่วงที
“พี่นุอธิษฐานว่าอะไรเหรอครับ...”
“ขอให้แข่งหลีดชนะ...”
“แน่ใจหรือครับว่าอธิฐานแค่นั้น  ก็เค้ามักอธิฐานกันว่า ให้เจอเนื้อคู่ เจอคนรัก สมหวังเรื่องความรัก อะไรแบบนี้”
ธีร์ก้าวเท้ามายืนตรงหน้าผมมองหน้าด้วยสายตาแพรวพราว สองมือล้วงกระเป๋ากางเกงดูผ่อนคลายสบายใจเหลือเกิน
ผมยืนนิ่งเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้าก็พบว่าสายตาธีร์ที่กำลังทอดมองมานั้นส่องแสงระยิบระยับเหมือนผิวน้ำทะเล
ไม่มีผิด ริมฝีปากได้รูปอมยิ้มนิดๆ ใบหน้ากรุ้มกริ่มทำให้ผมรู้สึกขัดเขิน...เฮ้ย..จะเขินไม่ได้นะนุ..เขินทีไรไม่โดนหอมก็โดนจูบทุกที...ผมหลบตาหันหน้าไปมองความมืดว่างเปล่าซ้ายขวาสลับไปมา พลางกระชับแขนที่กอดอกให้แน่นขึ้น ห่อไหล่เล็กน้อย พ่นลมออกมาเบา
“ฮื่อ เริ่มหนาวแล้ว กลับกันเถอะ”
“หนาวเหรอครับ” ธีร์ถามเสียงนุ่มพลางขยับตัวช้าๆ เข้ามาใกล้อีกราวกลับจะบอกว่า ถ้าผมหนาวธีร์จะทำให้ผมหายหนาว...ผมรีบหันกลับ แล้วรีบเดินอ้าวไปที่รถ ธีร์ส่ายหน้าเบาๆพร้อมระบายยิ้มอย่างถูกใจ


   ที่ริมถนนหน้าที่พักผมกล่าวขอบคุณธีร์เบาๆ ก่อนเปิดประตูรถลงเดินกลับที่พักธีร์มองตามผมไปจนลับตาธีร์ส่ายหน้า หัวเราะกับตัวเองเบาๆ นึกเขินตัวเองที่รู้สึกมีชีวิตชีวิตราวกับเป็นหนุ่มน้อยที่เริ่มมีความรัก
“คืนนี้สงสัยคงนอนไม่หลับแน่เลยเรา...” ธีร์พูดกับตัวเองสลับกับแหงนหน้ามองดูท้องฟ้าเป็นระยะ เผื่อจะเห็นดาวตกอีกครั้ง....พักใหญ่ๆ...ธีร์เองยังคงจอดรถอยู่หน้าที่พักอยู่อย่างนั้น...ธีร์เดินเข้ามาจนถึงหน้าบ้านพักของผม  ธีร์ยิ้มมุมปากหยุดยืนหน้าประตูบ้านพัก  ธีร์ยิ้มกับตัวเองว่าเขาเป็นเอามาก...มายืนมองประตูห้องก็ชื่นใจ...แค่นี้ก็พอใจแล้ว...
ธีร์ถอนหายใจแล้วเดินออกไปขับรถกลับที่พัก...โดยหารู้ไม่ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นอยู่ในสายตาเจมส์ที่เพิ่งจะเดินออกมาจากบ้านอีกหลังนึงตลอด...พฤติกรรมของธีร์สร้างความหวั่นไหวและเจ็บปวดได้ไม่น้อยเลย...ผมนอนคิดอะไรอยู่เงียบๆบนเตียงคนเดียวเพราะไม่รู้ว่าเจมส์มันหายไปไหน...ผมอดถามตัวเองไม่ได้ว่า หากเหตุการณ์เมื่อเย็นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในทะเล แต่อยู่ในห้องพักของผมหรือบ้านพักของธีร์...อะไรๆจะเลยเถิดไปมากแค่ไหนสัมผัสของธีร์ทำให้ผมอ่อนปวกเปียกได้ไม่น้อย  ...แล้วนี่หากเจมส์ทำกับผมเหมือนกับธีร์มันจะเป็นอย่างไรนะ...ถึงแม้เจมส์จะเคยจูบผมครั้งนึงก็เหอะแต่ก็ยังไม่ดูดดื่มเท่ากับธีร์...
...จะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายวะเนี่ยมีคนมาชอบผมตั้งสองคนพร้อมกัน...ช่วงไม่กี่วันมานี้ผมกับธีร์ใกล้ชิดกันมากแบบที่ผมไม่เคยคิดว่าจะให้อะไรแบบนี้เกิดขึ้น เสน่ห์ของธีร์นั้นเข้มข้นไม่ใช่น้อยจนผมรู้สึกยากที่จะทัดทานไหว...ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว...หลับก่อนดีกว่า...                               


วันรุ่งขึ้นผมปลุกให้ทุกคนตื่นตั้งแต่เช้าประมาณเกือบ 7 โมงเพื่ออกไปวอร์มร่างกายวิ่งเลาะไปตามชายหาดแล้วกลับมาตั้งวงทำกายบริหารกันที่ชายหาดหน้าที่พัก...หลังจากนั้นหลีดมือก็ซ้อมท่า...หลีดปอมปอมก็ซ้อมเต้นกันประมาณ 4-5 รอบแล้วจึงมาซ้อมต่อตัวกัน
“เอ๊า..มาถ่ายรูปกันเร็วๆเวยยยยย....” ไอ้กิ๋วถือกล้องเดินเข้ามาเรียกพวกเราไปรวมกลุ่มถ่ายรูป...ถ่ายกลุ่มมือ...กลุ่มปอมปอม...ใครอยากถ่ายเดี่ยวถ่าย...ใครอยากถ่ายคู่ถ่าย...จนมาถึงภาพหมู่...เจมส์มันก็มานั่งข้างๆผมตรงด้านหน้า...
พอไอ้กิ๋วนับหนึ่ง...สอง...สาม...ไอ้เจมส์ก็ยื่นมือเข้ามาสวมกอดผมที่เอวทันที....แช๊ะ!!!!....ผมจะว่าอะไรก็ไม่ทันแล้วก็มันถ่ายไปแล้วนี่หว่า...ผมหันไปมองหน้าเจมส์มันยิ้มๆ...ระหว่างที่พักเหนื่อยหลายๆคนลงไปเดินลุยน้ำทะเลตามชายหาดบ้าง...เก็บเปลือกหอย...ก่อกองทรายกันบ้าง....ซึมซับบรรยากาศกันก่อนที่จะเดินทางกลับในช่วงสายๆ
ผมเองก็กำลังกางแขนสูดโอโซนชายทะเลเข้าปอดเต็มที่...เจมส์มันก็เดินเข้ามาหาผม...
“พี่นุ...ผมขอโทษ...”
“ขอโทษเรื่องอะไรอ่ะเจมส์”
“ขอโทษที่ผมชอบทำตัวงี่เง่าอ่ะพี่...ทำอะไรก็วู่วาม...ไม่ค่อยมีสติ...”
“เฮ้ย..ไม่เป็นไรหรอก...พี่เองก็ไม่ได้คิดมากอะไร...ไม่ได้โกรธเจมส์ด้วยซ้ำพี่ก็รู้ว่าเจมส์ทำไปด้วยความรู้สึกยังไง”
“ผมกลัวว่าพี่นุจะเกลียดขี้หน้าผม...”
“ไม่หรอก..คิดมากไปป่าวเจมส์...ความรู้สึกดีดีที่มี...สำหรับพี่มันไม่ได้พังลงง่ายๆด้วยเรื่องแค่นี้หรอก...”
“แต่พี่นุก็จะยังไม่เลือกใคร..ใช่มั้ยครับ...”
“พี่ไม่อยากเลือกหรอกเจมส์...คนสองคนต่างก็ดีกับพี่ด้วยกันทั้งคู่...พี่ไม่อยากเสียมิตรภาพทั้งหมดไป...อาจจะฟังเหมือนพี่เห็นแก่ตัวนะ...แต่พี่คงไม่ผิดมั้งที่อยากรักษามิตรภาพดีๆของคนสองคนไว้ให้นานที่สุดน่ะ...ความรู้สึกดีดีไม่ได้สร้างขึ้นได้ภายในวันเดียวนะเจมส์....จะปล่อยให้มันพังทลายไปง่ายๆแบบนี้..เจมส์ไม่เสียดายเหรอ..”
“แต่วันนึงก็ต้องมีคนคนหนึ่ง...เสียใจอยู่ดี...”
“ไว้รอให้ถึงวันนั้นก่อนมั้ยเจมส์...บางทีวันนั้นคนที่เสียใจ...อาจจะเป็นพี่เองก็ได้...” ผมพูดแล้วหันมายิ้มกับเจมส์แล้วเดินต่อไปเรื่อย...เจมส์ทรุดลงนั่งกับพื้นทราย...ไอ้กิ๋วเดินเข้ามาหาแล้วโอบไหล่เจมส์...วุ้นเดินตามมาสมทบ
"พี่กิ๋ว....ระหว่างผมกับไอ้ธีร์...พี่เชียร์ใคร" เจมส์ถามเสียงเศร้าๆ
"พี่ก็เชียร์ทั้งสองคน"
"แน่ใจนะพี่" 
"ไอ้เจมส์ของแบบนี้มันอยู่ที่คนกลาง..จะมึงหรือไอ้ธีร์...แต่ท้ายที่สุดมันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของไอ้นุมัน”
“ผมคงหมดโอกาสแน่ๆเลยพี่กิ๋ว...ผมแพ้แล้ว...”  ไอ้กิ๋วมองหน้าวุ้นแล้วถอนหายใจ
“กูเข้าใจนะเว้ยเจมส์....อย่าเพิ่งพูดอะไรมากใจเย็นๆไว้ก่อน...รวบรวมสติไว้อะไรๆอาจไม่ได้เลวร้ายมากอย่างที่เราคิดหรอก....อย่าพูดยังงั้น...ไอ้นุมันก็ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรนี่หว่า”  ไอ้กิ๋วเอามือลูบแผ่นหลังให้กำลังใจเจมส์
“พี่กิ๋ว....เจมส์มันไม่ได้อ๊วกนะ”
“อีวุ้น....” ไอ้กิ๋วถลึงตาใส่วุ้น วุ้นเองทำหน้ามุ่ยตัวเองก็งกๆ เงิ่นๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน
“ผมดูแววตาพี่นุ...ผมก็รู้แล้วพี่กิ๋ว...แววตาพี่นุเค้าเปลี่ยนไปตั้งแต่ไอ้ธีร์มันเข้ามาอ่ะ...พี่กิ๋วไม่ต้องมาปลอบว่าพี่นุรักผมเหมือนน้องชายหรอก...ผมไม่อยากเป็นน้องชาย ผมอยากเป็นคนรัก ผมอยากเป็นแฟน ได้ยินไม๊”
“ถ้าเป็นแฟนไม่ได้ แล้วมึงไม่อยากเป็นน้องชายเลยเหรอ....แม้แต่ความรักแบบพี่น้องมึงก็ไม่ต้องการเลยใช่ไม๊”
ไอ้กิ๋วถามเสียงเข้ม
“ฟังนะเว้ยไอ้เจมส์....พี่เคยบอกแล้วว่าความรักมันบังคับใจกันไม่ได้หรอก บางทีเราก็บอกไม่ได้ว่าทำไม คนเรามีผิดหวังมีสมหวังเวลาเรายังเหลืออยู่อีกเยอะอย่าให้วันนี้อย่าให้การติดสินใจตอนนี้มาทำลายความรู้สึกดีๆที่เคยมีต่อกัน”
“แค่นี้...ผมก็รู้แล้วว่าพี่นุจะเลือกใคร...”
“งั้นกูถามหน่อย...ตอนไอ้เมย์หักอกมึง...ยังไม่เห็นมึงเป็นขนาดนี้เลย...มึงตอบกูมาว่ามึงชอบไอ้นุตอนไหน..”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันพี่กิ๋ว...พอรู้ตัวอีกทีมันก็รู้สึกชอบไปแล้ว...”
“งั้นกูถามอีกข้อนึง...ตรงๆเลย...มึงเคยมีอะไรกับผู้หญิงหรือยัง...”  เจมส์หันไปมองวุ้นแว่บนึงแล้วตอบเสียงค่อย
“ไม่เคยหรอกพี่กิ๋ว...แค่จับมือยังไม่กล้าเลย...”  พอได้ยินเจมส์ตอบวุ้นรีบหันหลังไปลูบปากตัวเองทันที
“แล้วกับไอ้นุล่ะ...มึงบอกมาตรงๆนะ...ห้ามโกหก..”
“ก็...ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก...”
“ไม่ถึงขั้นนั้น....แล้วถึงขั้นไหนวะ....”
“ก็แค่ได้กอด....กับจูบ...” ไอ้เจมส์บอกเสียงอ่อยๆ วุ้นทำตาเหลือกทันทีที่ได้ยิน
“แล้วมึงรู้สึกยังไง...”
“ผมก็รู้สึกดี...ดีมากอ่ะพี่กิ๋ว..เพราะผมไม่เคยใกล้ชิดกับใครขนาดนี้มาก่อน...”
“มึงจะบอกว่าไอ้นุคือคนแรกที่ใกล้ชิดมึงมากขนาดนี้ว่างั้น..???...ไอ้นุมันก็ทำตัวไม่ถูกนะเนี่ย...”  ไอ้กิ๋วบ่น
“นี่เจมส์....พี่นุอาจไม่ได้รักเจมส์อย่างแฟน...อย่างคู่รักแต่เจมส์ลองนึกดูสิ คนที่เป็นแฟนกัน ทะเลาะกัน ยังเลิกกัน หย่าร้างกันได้แต่ความรักแบบเพื่อนแบบพี่น้องที่มีให้กันมันพิเศษมากนะ...ถึงโกรธ ถึงทะเลาะกัน แต่เราก็ยังให้อภัยกัน คืนดีกัน รักกันได้เสมอ ความรักแบบนี้จากพี่นุ...เจมส์แกไม่ต้องการบ้างเลยเหรอ...จะเอาความรักแบบคู่รักอย่างเดียวให้ได้เลยใช่ไม๊ คิดให้ดีนะ”  วุ้นพูดแววตาจริงจัง
“นี่มึงพูดดีๆแบบนี้ก็เป็นนี่อีวุ้น..” ไอ้กิ๋วหันมาแซว วุ้นแลบลิ้นใส่แล้วเปลี่ยนแววตาจริงจังมาเป็นขี้เล่นเหมือนเดิม
“ว่าแต่....เจมส์...ยัง.....เวอร์จิ้น...อยู่เจงๆเหรอ...” วุ้นพูดเสียงอ่อนเสียงหวานแล้วเอามือทำปูไต่ไปตามขาเจมส์
“ขอบใจมากนะวุ้นถึงเราจะหันมาชอบผู้ชายบ้าง...เราก็ขอชอบแค่พี่นุนะไม่ได้หมายความว่าต่อไปเราจะชอบคนอื่น...”   
“แหม..เจมส์..รับรอง...เจอกับวุ้น...เจมส์จะได้อะไรที่มันมากว่ากอดกับจูบแน่นอน...”  วุ้นแซวจนไอ้กิ๋วรำคาญ
“น้อยๆหน่อยอีชิสุห์...นี่ไอ้เจมส์ระวังหำมึงเลยนะเมิง...ลองว่าอีชิสุห์รู้ว่ามึงยังเวอร์จิ้นแบบนี้อ่ะ..มันไล่แดกมึงแน่...”
“แหม..พี่กิ๋ว...หนูก็แซวมันเล่น...ไม่อยากให้มันเครียดหรอกน่า...อย่างเจมส์น่ะหนูไม่เอาหรอก...หนูกลัว”
“ทำไมวะ...ของสดๆนะเมิง...กลัวห่าอะไร” ไอ้กิ๋วถามงงๆ
“ไม่ไหวอ่ะพี่กิ๋ว...เจมส์ใหญ่เกิน...หนูกลัวไส้แตก...” วุ้นตอบอายๆแล้วปิดหน้าวิ่งหนีไปจากตรงนั้น
“โถ...อีดอก...นึกว่ากลัวอะไร...” ไอ้กิ๋วตะโกนด่าตามขำๆ


   พอกลับเข้ามาในบ้านต่างก็คนก็รีบอาบน้ำอาบท่าเก็บข้าวเก็บของอย่างรวดเร็วเพราะยังมีเป้าหมายให้เที่ยวระหว่างทางอีก...ไอ้กิ๋วเดินเข้ามาขอให้ผมไม่ให้ไปกับไอ้ธีร์ซึ่งผมก็โอเคไม่ได้ขัดข้องอะไร...ผมก็บอกธีร์ไปตามตรงซึ่งธีร์เองก็คงเข้าใจ(มั้ง)...แต่ธีร์ก็ขอขับรถตามกลับมาอย่างเดิม...พวกเราออกเดินทางตอนแปดโมงกว่าๆตรงดิ่งไปยัง
เขาวัง..จ.เพชรบุรีก่อนเพื่อกินข้าวเช้าและหาซื้อของฝากกัน....แล้วจึงมุ่งตรงไปยังจ.นครปฐมเพื่อไปดูพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งกันและปิดท้ายที่พระปฐมเจดีย์...ซึ่งกว่าจะกลับมาถึงพิษณุโลกก็ปาเข้าไปสี่ทุ่มครึ่ง...ผม  ไอ้กิ๋ว  ปอยและอิ่มเรารอส่งน้องๆให้กลับบ้านกันหมดแล้วพวกเราจึงแยกกันกลับ...
“ขับรถเหนื่อยมั้ยล่ะธีร์...” ผมหันไปถามก่อนที่จะเดินมาขึ้นรถ
“เหนื่อยสิครับ...ถ้ามีคนใจดีนวดให้บ้างก็คงดี...”  ธีร์พูดแล้วมองมาที่ผม
“อยากขับตามไปเอง...สมน้ำหน้า...”
“โห...ใจร้าย....”  ธีร์หรี่ตา แล้วแกล้งทำหน้ามุ่ย
“ว่าใจร้ายอีกแล้วนะ...เดี๋ยวคอยดูเหอะจะใจร้ายให้ดูจริงๆซะเลย...” 

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เห็นใจน้องเจมส์..แววแพ้มาแต่ไกล  :monkeysad:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด