All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 25
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 25  (อ่าน 4612 ครั้ง)

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่  14_คำตอบของหัวใจ...



การเดินทางสิ้นสุดลงที่หน้าประตูห้อง...ผมล้วงกุญแจห้อง...ธีร์ยืนพิงไหล่ซ้ายกับผนังข้างประตูรอกล่าวราตรีสวัสดิ์...ในมือยังคงช่วยถือข้าวของตามขึ้นมาส่งอยู่   ผมเงยหน้าขึ้นมาสบตาธีร์อย่างครุ่นคิดชั่วครู่
"ขอบคุณนะธีร์...ที่เดินขึ้นมาเป็นเพื่อน"  ธีร์ขมวดคิ้ว....
“พี่นุ...” เสียงของธีร์ผ่านริมฝีปากออกมาแผ่วเบา แทบไม่ได้ยิน แววตาทักท้วง...ลมหายใจสะดุด
“เอ่อ...พี่หมายถึง...ขอบคุณที่เป็นเพื่อนเดินขึ้นมาส่งไง...”  ผมพูด...ธีร์ถึงยิ้มออก
"เต็มใจอยู่แล้วครับ..." ธีร์ตอบ ยิ้มกว้าง นัยน์ตาเป็นประกายวูบวาบ
“คอแห้งจังครับพี่นุ....” ธีร์กระแอมเบาๆ  ผมอมยิ้ม ไขกุญแจเปิดประตู ก้าวเท้าเข้าไปในห้อง...ธีร์มองตามตาละห้อย
“เข้ามาดื่มอะไรก่อนไม๊ธีร์...ถ้ายังไม่ง่วง"
“ไม่ง่วงครับ ไม่ง่วง...”  ธีร์ยิ้มกว้างจนตาหยี...หัวใจเต้นแรงเพราะดีใจ...ธีร์เดินออกไปยืนตรงระเบียงมองออกไปด้านนอก..ส่วนผมเองก็เดินไปเปิดตู้เย็น
“อยู่ตั้งชั้นเจ็ด...ไม่กลัวเหรอครับ...” ธีร์ถาม  ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ                                                                             
“ดื่มอะไรดี...”
 “อะไรก็ได้ครับ...ดื่มได้หมดยกเว้นยาพิษ...”  ผมเดินเข้ามาใกล้ยื่นแก้วน้ำส้มให้   ธีร์กุมมือของผมเอาไว้...ยกแก้วน้ำส้มในมืออีกข้างขึ้นดื่ม
“อร่อยจัง...”  ธีร์ยิ้มทำตาซึ้ง  ผมยืนนิ่งไปชั่วครู่คิดถึงเรื่องราวที่คุยกับเจมส์ที่ชายหาดเมื่อเช้า...
“คิดอะไรอยู่ครับพี่นุ...” มือธีร์ที่เกาะกุมมือของผมอยู่กระชับแน่นเข้า
“พี่นุครับ...กำลังคิดเรื่องของเราอยู่หรือเปล่า...”  ธีร์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้มาก เสียงนุ่มทุ้มลึกดังอยู่ใกล้หู ผมเงยหน้ามองธีร์ นัยต์ตาคู่นั้นของธีร์ทอดมองผมอย่างอ่อนโยน...ประกายตาบ่งบอกความในใจ
“พี่นุครับ...ผมรู้ว่ามันเร็วไป....ผมรักพี่นุนะครับ...เรามาเป็นแฟนกันนะ ผมไม่อยากรออีกแล้ว”   ธีร์ขยับตัวเข้าใกล้ผมที่ตัวเย็นเฉียบยังยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าธีร์ที่ยืนพิงระเบียงอยู่เล็กน้อย..ธีร์ดึงร่างผมเข้ามาใกล้ผมก็ไม่ขืนตัว โอนอ่อนตามมาเหมือนตุ๊กตา  ธีร์โอบเอวผมเอาไว้หลวมๆ
“รู้ไม๊ว่าผมมีความสุขมากที่เราได้อยู่ด้วยกันอย่างนี้...พี่นุรู้สึกอย่างผมไม๊ครับ” เสียงธีร์จริงจัง  สายตาของผมจับอยู่ที่แผ่น อกหนากว้างของธีร์....ธีร์หายใจแรง แผ่นอกแกร่งกำยำขยับขึ้นลงเพราะจังหวะหัวใจที่เต้นแรงขึ้น...
“พี่นุมองตาผมสิครับ แล้วจะเห็นว่าผมจริงใจแค่ไหน”  ธีร์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้
“...ธีร์....พี่ขอให้สิ่งที่ธีร์พูดออกมา  เป็นการกระทำด้วยได้มั้ย???”
“ได้สิครับ”
“แต่พี่ขอเวลาอีกซักนิด...ขอเวลาให้พี่ได้ไตร่ตรองเสียก่อน...ธีร์คงเข้าใจพี่นะ...”
“ผมเข้าใจครับ...”
“พี่ขอบคุณธีร์มากนะที่ทำทุกอย่างให้พี่ถึงขนาดนี้...พี่รู้ว่าธีร์ทำให้พี่มันมากเหลือเกิน แต่อยากให้รู้ไว้ว่า สิ่งที่พี่ต้องการมากที่สุดคือความรักที่จริงจัง มั่นคง มันเป็นสิ่งเดียวที่พี่ต้องการ...พี่คงทนไม่ได้หากความรักที่ได้ต้องถูกแบ่งให้คนอื่น เพราะถ้าพี่ตัดสินใจแล้ว ก็หมายความว่าพี่มั่นใจแล้ว”  ผมพูดยาว...ซึ่งไม่บ่อยนักที่ผมจะพูดยาวขนาดนี้
“ผมรักพี่นุนะครับ....หัวใจของผมเป็นของพี่นุคนเดียว”
“กายด้วย ไม่ใช่หัวใจอย่างเดียว” ผมเสียงเข้ม
“ยังไงอย่าให้ผมรอนานนักนะครับพี่นุ...”  ธีร์รัดตัวผมแน่นขึ้น  ใบหน้าก้มลงซุกไซร้ซอกคอของผม พยายามที่จะเลื่อนมาด้านหน้า จมูกโด่งคมบดเบียดกับใบหูผมจนร้อนผ่าว ริมฝีปากของธีร์เผยอ ก่อนจะทาบทับลงบนแก้มซ้าย แล้วย้ายมาจนถึงมุมปาก ลมหายใจอุ่นๆของธีร์กระทบผิวหน้าของผมทำให้รู้สึกราวกับเป็นขี้ผึ้งกำลังถูกไฟลน  ผมใจเต้นแรง หายใจไม่ออก รู้สึกเหมือนจะขาดใจเสียให้ได้ผมแหงนหน้า ปากเผยออ้าเพื่อจะสูดอากาศเข้าไปต่ออายุลมหายใจที่กำลังจะขาดห้วง....ความร้อนในช่องท้องเหมือนลาวากำลังจะพุ่งขึ้นมาถึงกลางอก ลำคอที่ถูกริมฝีปากร้อนผ่าวของธีร์กำลังบดเบียดอยู่เหมือนถูกนาบด้วยเหล็กเผาไฟ....ใจจะขาดแล้ว...ไม่ไหวแล้ว...หากธีร์ไม่หยุดตอนนี้ผมก็คงจะหลอมละลายลงกองบนพื้นในวินาทีนี้นี่เอง...'
“ธีร์...”
“พี่นุ...”  สองเสียงครางประสานกัน...แผ่วเบาแทบไม่ได้ยิน...ผมรู้สึกอ่อนแรงจนต้องยกมือขึ้นมายึดต้นแขนแกร่งที่โอบรัดอยู่เพื่อพยุงตัวเอาไว้  ภาพหลายภาพในความคิดคำนึงเริ่มเลือนจาง ความว่างเปล่าเข้ามาแทนที่...ผมหลับตาลง...รู้สึกถึงอากาศรอบตัวที่ยกให้ลอยขึ้นไปเบื้องบน...เงียบสงัด...กาลเวลาหยุดนิ่ง...เสียงเดียวที่ได้ยินคือจังหวะหัวใจสองดวงเต้นประสานกัน...


   ธีร์อิดออดไม่ยอมกลับบ้านจนผมต้องเอามือดันหน้าอกธีร์ให้ถอยออกไปให้พ้นประตู พร้อมกับขู่ว่าจะไม่ให้มาหาอีกแล้วหากยังดื้อดึงอยู่
“ผมจะคอยอยู่เป็นยามเฝ้าพี่นุอ๊า... กลัวว่าจะมีพวกไม่กลัวบาปมาเกาะแกะแฟนชาวบ้านเค้า”
“โห...ขี้ตู่...พี่ยังไม่ได้รับปากอะไรเราซักหน่อย...ไปเป็นแฟนเราตั้งแต่เมื่อไหร่กัน..”
“ไม่รู้อ่ะ...พี่นุเองยอมให้ผมจูบตั้งหลายครั้งแล้ว...ยังไม่เรียกว่าเป็นแฟนกันอีกเหรอ...พี่นุก็เห็นแล้วนาว่าผมน่ะจริงจัง..จริงใจกับพี่นุขนาดไหน...”  ธีร์พูดแล้วยิ้ม
“ไม่ต้องจริงจังมากก็ได้ เอาแค่จริงใจธรรมดาก็พอ”
“ทำไมเหรอ กลัวผมจริงจังแล้วก็โดนผม...” 
“หยุดพูดนะ....แล้วก็หันหลังกลับเดินไปเดี๋ยวนี้เลย...จะนอนแล้วเว้ย...”   ธีร์ยิ้มทำปากส่งจูบให้ผมแล้วถอยให้พ้นจากประตูไปยืนยิ้มมองผมที่ก้มหน้าปิดประตูช้าๆ  ธีร์เดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีไปตามทางเดิน สลับกับหันหลังไปมองประตูห้องของคนที่เขารัก ระยะทางถึงลิฟท์ใกล้เกินไป จนเขาอยากเดินย้อนกลับไปกลับมาสักร้อยรอบ เพื่อชื่มชมกับความรู้สึกอิ่มเอมเช่นนี้...ผมยืนพิงประตูคิดอะไรอยู่ซักพัก...นี่เท่ากับว่าผมเปิดพื้นที่ให้ธีร์เข้ามายืนอยู่เต็มหัวใจแล้วใช่มั้ย...สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้มันยังคงหยุดอยู่ที่เดิมคือหยุดอยู่ที่รอยจูบของธีร์ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น...ผมกับธีร์ไม่ได้มีอะไรกัน...ถึงไม่เกินเลยไปขั้นนั้นแต่ใจผมก็ปล่อยใจเกินกว่าครึ่งไปแล้ว...ผมมั่นใจอะไรเร็วไปหรือเปล่านะ...กับคนเคยเจ้าชู้มันจะมั่นคงกับผมนานแค่ไหนกันนะ...ถ้าคิดกันแบบร้ายๆ..ช่วงนี้เค้ายังไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการไง...ทุกอย่างเลยยังดูดีอยู่...พูดดี..รับปากต่างๆนาๆถ้าเราเผลอไปมีอะไรกับเค้าล่ะ...ทุกอย่างยังจะสวยงามแบบนี้มั้ย...????....แต่ถ้าคิดในแง่ดี...ถ้าเค้าพร้อมจะปรับตัวเพื่อเรา...ทุกอย่างออกมาจากใจจริงๆอย่างนี้นะเหรอ.....เราถึงจะมอบทุกอย่างให้เค้าด้วยความเต็มใจ..ถึงแม้ตอนนี้ภาพของคนหนึ่งกำลังชัดขึ้นแต่ลึกๆลงไปก็ยังคงมีภาพของอีกคนซ้อนกันอยู่ดี.....



   วันนี้ผมขาดเรียนหนึ่งวันเพราะมันเพลียจริงกับการเดินทางในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา...กว่าผมจะตื่นก็เกือบสิบโมงเช้าแล้วผมมองตารางเรียนที่ติดอยู่ข้างๆเตียง..โอเค..วิชานี้ยังไม่เคยขาดไม่มีปัญหา...ผมหยิบโทรศัพท์มาดูบนหน้าจอปรากฏ 11 สายที่ไม่ได้รับกดดูมีแต่เบอร์ธีร์ทั้งนั้น...คงมารอรับผมเหมือนเดิมล่ะสิ...ผมลุกจากเตียงเดินไปหยิบปฏิทินตั้งโต๊ะมาดูว่าเหลือเวลาซ้อมหลีดอีกเท่าไหร่...นับๆดูแล้ว..เหลือเวลาอีกไม่ถึงสองอาทิตย์แล้วแฮะ...ผมหยิบไม้กวาดมาทำความสะอาดห้องนิดหน่อยหลังจากที่ปล่อยให้รกมานานในช่วงที่ผ่านมา...ทำเสร็จแล้วจึงคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าไปอาบน้ำ...พออาบออกมาก็มีมาม่าเป็นอาหารหลักเหมือนเดิมจะออกไปไหนได้ละครับ...ก็รถไม่มีนี่หว่า...วันนี้แล้วสินะที่ผมจะได้รถคืนมาซักที...ว่าแต่พอผมมีรถเป็นของตัวเองเหมือนเดิมแล้วระหว่างผมกับธีร์มันจะเป็นยังไงต่อไปวะ...อาจจะเปลี่ยนไปหรือเหมือนเดิมอย่างที่ธีร์บอกไว้ก็ได้ใครจะไปรู้...ผมรู้สึกใจหายนิดๆเมื่อนึกถึงเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้...เสียงเคาะประตูดังที่หน้าห้อง...ผมเดินไปเปิดแง้มๆดู...ก็เห็นธีร์ยืนหน้าแป้นแล้นอยู่   ในมือหิ้วถุงบะหมี่มาสองถุง
“อ้าว...ธีร์...เข้ามาก่อนดิ...” ผมบอกแล้วเปิดประตูเข้ามา
“เกโรงเรียนก็ไม่โทรบอกผมซักนิด...”  ธีร์ตัดพ้อเล็กๆแล้วส่งถุงบะหมี่ให้ผม
“พอดีหลับยาวเลยอ่ะ...เพิ่งจะตื่นเหมือนกัน...” ผมบอกแล้วเทบะหมี่ใส่จานแล้วยกมาวางบนโต๊ะญี่ปุ่นที่ใช้นั่งกับพื้น ธีร์ลงจากเตียงเลื่อนลงมานั่งที่โต๊ะมองผมตาแป๋ว
“แล้วนึกยังไงซื้อบะหมี่แห้งมาฝากเนี่ย...อารมณ์ไหนน้ออ” ผมถามแล้วเลื่อนจานบะหมี่ส่งให้ธีร์ 
“เห็นเพื่อนบอกว่าอร่อยอ่ะครับ...แล้วก็คิดว่าพี่นุคงยังไม่ได้ทานอะไรแน่เลย...ก็เลยซื้อมาฝาก..พี่นุไม่ชอบหรือครับ..”
“ไม่...” ผมแกล้งตอบเสียงแข็งทำเอาธีร์หน้าเสียเลย
“งั้นผมออกไปซื้อให้พี่นุใหม่ดีกว่า...” ธีร์บอกแล้วทำท่าจะลุกขึ้นจนผมต้องร้องห้าม
“เฮ้ยธีร์...ล้อเล่นน่า...ที่บอกว่าไม่น่ะไม่ใช่ไม่ชอบ...ไม่พอต่างหาก...” 
“แกล้งผมนะ...เดี๋ยวเจอดี..ขอบอก...” ธีร์พูดแล้วหยิบตะเกียบคีบบะหมี่เข้าปาก...ธีร์คีบลูกชิ้นส่งมาให้ผม
“ลูกชิ้นเจ้านี้อร่อยนะครับพี่นุ...”  ผมหยิบลูกชิ้นจากธีร์ใส่ปากแล้วเราต่างคนต่างทานกันอย่างเงียบๆ...
“เดี๋ยวเราออกไปร้านซ่อมรถกันเลยมั้ยธีร์...ไม่รู้เสร็จรึยัง...” ผมบอก...มือก็กำลังเก็บจานไปล้างโดยธีร์เองก็หยิบผ้ามาเช็ดโต๊ะแล้วพับโต๊ะเก็บไปวางไว้ที่เดิม
“ผมว่า...ออกไปตอนพี่นุไปซ้อมหลีดทีเดียวเลยดีกว่ามั้ยครับ...จะได้ไม่ต้องย้อนไปย้อนมาบ่อยๆ” ธีร์เดินมาเกาะอยู่ที่ขอบประตูห้องน้ำยืนดูผมล้างจาน
“เอาอย่างนั้นก็ได้...เพิ่งจะบ่ายสองเอง...” ผมบอกแล้วล้างจานต่อ...ธีร์ยิ้มๆแล้วเดินกลับมานั่งที่เตียง..ผมเดินเอาจานออกไปคว่ำที่ตะกล้าตรงระเบียง...มองดูแล้วท้องฟ้ามืดครึ้มเหมือนกับฝนกำลังเตรียมจะเทลงมาอย่างหนัก
“เมื่อกี้แดดยังจ้าอยู่เลยนะครับ...” ธีร์เดินตามออกมาที่ระเบียง
“จะได้ซ้อมกันมั้ยนี่วันนี้...” ผมบอกแล้วถอนใจเฮือกนึง
“ก็ดีครับ..ถ้าพี่นุไม่ได้ซ้อม...พี่นุจะได้ติดฝนอยู่กับผมที่นี่...”
“หลีกไปเลย...มายืนขวางประตูอยู่ได้...” ผมพูดแล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง...แต่ไม่ได้นั่งที่เตียงครับป้องกันไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัยของตัวผมเองอยู่กับธีร์สองคนทีไรได้เรื่องทุกทียิ่งบรรยากาศครึ้มๆฝนตกเป็นใจอย่างนี้เหมาะกับการเสียตัวแท้ๆ...เหอๆ...นี่ผมคิดอารายออกปายยยย...!!!! ผมหันไปอีกทีก็เห็นธีร์นอนหลับไปแล้ว  ธีร์อยู่ในลักษณะเอนหลังกึ่งนั่งกึ่งนอนมือกอดหมอนไว้แนบกับอก  ผมนั่งลงกับพื้นแล้วเริ่มมองธีร์นอนหลับบนเตียงอย่างเพลิดเพลินพลางนึกเปรียบเทียบกับอีกคนที่อยู่ในจิตใจ
...ธีร์ดูหล่อกว่า หล่อมาเป็นอันดับหนึ่งคงเพราะธีร์ตาสวยและยิ้มสวยทั้งยังยิ้มกว้างอยู่เป็นประจำ หุ่นก็คงพอๆ กัน แต่เจมส์ดูหนากว่าหน้าตาเป็นรอง...ผมยิ้มกว้าง ตาเหม่อลอยเมื่อนึกถึงอะไรเรื่อยเปื่อย  ธีร์ขยับตัว ผมหันหน้ามามองคนตัวโตดูหลับสนิท อกกว้างสะท้อนขึ้นลงเป็นจังหวะ ตาผมมองต่ำลงไปยังส่วนล่างของธีร์ ตาหยุดมองตรงส่วนนั้นของธีร์ชั่วครู่...อืม ท่าทางไม่ใช่ย่อย ตัวโตขนาดนี้ก็คง...บ้าหรือวะไอ้นุ มาอ่านกินคนนอนหลับอย่างนี้ได้ยังไง...ผมคิดในใจ...ทำไมจะไม่ได้ ก็เราชอบเขานี่นา...ชอบหรือ...เราชอบธีร์แล้วหรือ...ผมถอนหายใจ ความคิดวนกลับมาเรื่องเดิมอีกครั้ง...ผมจะเลือกใครดี...เลือกยากนัก เลือกไอ้กิ๋วไปซะเล๊ย...เฮ้ย...ความคิดนั้นทำเอาผมสะดุ้ง...ผมลองยืนหน้าเข้าไปมองหน้าธีร์ใกล้ๆจนแทบจะแนบชิดกันในใจอดนึกถึงรสจูบของธีร์ไม่ได้
”เฮ้ย...ไม่ได้ๆ...เราจะทำแบบนี้ไม่ได้...” ผมรีบสะบัดหน้ารีบลุกจากตรงนั้นเดินไปยืนที่ประตูออกไประเบียง...โดยที่ผมไม่รู้เลยว่าธีร์หลี่ตามองตามหลังผมไปอย่างยิ้มๆ...ผมยืนเอาไหล่ซ้ายพิงประตูไว้นิดๆ...มองสายฝนที่กำลังเทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา...ผมสะดุ้งเมื่ออ้อมแขนของธีร์สอดเข้ามาโอบเอวผมไว้หลวมๆ
“เมื่อกี้จะลักหลับผมเหรอพี่นุ...” ธีร์พูดแล้วเอาคางซุกลงตรงซอกคอ
“จั๊กกะจี้น่าธีร์...พี่มองดูคนเจ้าชู้ต่างหาก...ใครเค้าจะไปลักหลับเราอ่ะ...”   ผมพูดแล้วหนีบคอ หนีการซุกไซร้
“แล้วทำไมไม่ทำล่ะครับ...ถ้าเป็นพี่นุ...ผมยอม...”  ธีร์จูบใต้ใบหู เผยอปากพยายามจะเม้มใบหูนุ่ม
“พอเถอะธีร์...”
“ไม่...”
“เดี๋ยวใครเห็น ปล่อยเหอะธีร์...”  ผมพยายามดิ้นเพราะไม่รู้ว่าจะห้ามตัวเองได้นานแค่ไหน
“ฮื่อ...เลิกห้ามผมซะทีนะครับพี่นุ...เข้าไปในห้องกับผมนะ...”  ธีร์เสียงอู้อี้
“ไม่เอา...ต้องไปทำงานแล้วเดี๋ยวเค้ารอกันนาน...”  อีกนิดเดียวผมคงต้องแพ้ใจตัวเองแน่ๆ...ธีร์รุกผมหนักเหลือเกิน... “ก็ได้ครับ...พี่นุทรมานผมอีกแล้วนะเนี่ย...” ธีร์หยุดการกระทำแล้วพลิกตัวผมหันมาสบตา...คราวนี้ผมไม่โดนจูบแต่โดนซุกไซร้ซะจนระทวยแทน...เฮ้อออ...รอดไป...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-05-2017 23:04:18 โดย monkey1990 »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่  15_สงครามนางฟ้า...


“อ้าว...ร้านปิดอ่ะครับพี่นุ...” ธีร์หันมาบอกผมขณะจอดอยู่ที่หน้าร้านซ่อมรถ...
“โห...แล้วจะได้รถเมื่อไหร่วะเนี่ย...ไม่ต้องมาทำหน้าดีใจเลย..” ผมหันมาต่อว่าคนข้างๆ
“ใครดีใจ...ผมนะเหรอ...เสียใจจะตายเนี่ยที่รถพี่นุไม่เสร็จอ่ะ...เดี๋ยวผมลงไปเอาเรื่องมันดีกว่า...” ธีร์ทำท่าเปิดประตูรถ
“ไม่ต้องทำเป็นเก่งเลย..ร้านเค้าปิด...เอาไว้ให้ร้านเค้าเปิดก่อนค่อยมาหาเรื่องเค้า...”  ธีร์ขับรถเข้าไปส่งผมที่หน้าคณะเจอน้องหลีดไม่กี่คนนั่งหลบฝนที่ในตึกอยู่...ในนั้นมีวุ้นกำลังนั่งคุยกะใครอยู่หว่า...ไม่เคยเห็นหน้า
“นั่นไอ้แบงค์นี่หว่า...สงสัยมาหาวุ้น...” ธีร์พูด
“รู้จักด้วยเหรอ???....”
“แบงค์เป็นเพื่อนผมน่ะครับ...เรียนเอกเดียวกัน...” ธีร์ตอบ  ผมหลี่ตามอง
“เพื่อนจริงๆครับพี่นุ...เพื่อนกอดคอกินเหล้าเลย...ไม่มีอะไรมากกว่านั้น..” ธีร์เริ่มอธิบาย
“ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย...เพื่อนก็เพื่อนดิ...จะเป็นอะไรกันก็เห็นเกี่ยวกับพี่ซักหน่อย..”  ผมพูดไปไม่รู้ว่าตัวเองเนี่ยเริ่มงอน
“หึงผมเหรอครับพี่นุ...”  ธีร์ยื่นหน้ามาใกล้ๆ
“ป่าว...ไม่ได้เป็นอะไรกันจะหึงทำไม...”
“หึงหน่อยน่า...นะ...” ธีร์ล้อจนผมหน้าเริ่มแดงล่ะ...เสียงเคาะกระจกดัง...
“แหม...สวีทกันจังเลยน๊าค๊าบบบ....”  เสียงคนที่พูดถึงเดินเข้ามาใกล้ๆ  แล้วยกมือไหว้ผม
“หวัดดีครับพี่นุ...น่ารักอย่างนี้นี่เองถึงเอาไอ้ธีร์ซะอยู่หมัดเลย...”  แบงค์แซว  ผมกับธีร์เลยลงมาจากรถ
“ปากดีละเมิงไอ้แบงค์...”  ธีร์เดินมาซัดไหล่แบงค์ดังผลั่ก...แบงค์แกล้งเซแซ่ดๆมาหาผม
“โอ้ย..พี่นุ..ช่วยผมด้วย...”  แบงค์แกล้งกระโดดไปยืนข้างหลังผมทำท่ากลัวธีร์ สองมือจับแขนอผมเหมือนจะยกขึ้นให้เป็นโล่ป้องกันภัย
“มึงออกมาไกลๆพี่นุเลยไอ้แบงค์...” ธีร์ไล่ตาม  แบงค์วิ่งหนีไปรอบๆผม
“แบงค์...แบงค์ใช่มั้ย...”   แบงค์ชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะหันกลับไปดู...สีหน้าตกใจนิดๆ
“ บี...บีเองเหรอ....”   เท่านั้นแหละคุณเธอก็สวมกอดเจ้าแบงค์ซะแน่น
“......คิดถึงจัง...พรหมลิขิตแน่ๆ” 
“ เดี๋ยวๆ บี ปล่อยก่อน เฮ้ย พอแล้วอายเขาตายห่า...” แบงค์พยายามดึงแขนบีออก  บีก็ยังไม่ยอมคลายอ้อมแขน  วุ้นที่กำลังถือแก้วโค้กเดินกลับมาอยู่พอเห็นว่ามีคนเกาะแกะแฟนตัวเองจึงรีบพุ่งมาด้วยความเร็วสูง
“ แหม... กลางบ้านร้านตลาดยังกล้ามากอดแฟนชาวบ้านเค้า....ไม่อายเลยเนอะ”  มาถึงวุ้นก็ใส่เลย  ด้วยความฉลาดหลักแหลม แบงค์จึงรีบเอาตัวรอด
“ เอ่อ บี นี่วุ้นแฟนเรา...”   บีค่อยๆคลายอ้อมกอดอย่างช้าๆแล้วมองวุ้นหัวจรดเท้า
“ อ๋อ...เดี๋ยวนี้ชอบของแปลกหรอแบงค์...ชอบคนที่ดูดีมีเกรดกว่านี้ บีจะไม่ว่าเลยสักคำ...แต่นี่อะไรก็ไม่รู้ แต่งตัวกะเร้อกะรังยังกับบ้านนอก สวยก็ไม่สวย...ตัวก็หยั่งกะหมาชิสุห์..เอ๊ะ..หรือชิวาว่ากันนะ..”   ไม่ต้องเดานะครับว่าแม่วุ้นจะ
ดีใจขนาดไหนที่มีคนชม
“คร่า....อีสวย อีไฮโซ...อิตุ๊ดปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม”  ว่าแล้วก็เหลียวซ้ายแลขวามองหาอุปกรณ์เสริมและโปรโมชั่นที่เหมาะสมจากถังขยะ
“ปากอย่างนี้ตบด้วยเปลือกทุเรียนซักฉาดสองฉาดน่าจะดี”    วุ้นพูด  บีเองก็ไม่น้อยหน้า หล่อนคว้าเอากระบอกข้าวหลามจากในถุงขึ้นมาขู่
“ ก็ลองเข้ามาสิอีเตี้ย กูจะเอากระบอกข้าวหลามนี่ทิ่มหอยมึงซะเลย...”   กระเทยเกรียนทั้งสองทำท่าจะตบกันซะให้ได้จนแบงค์ต้องเข้าไปห้ามแล้วบอกให้บีกลับไปก่อน...แบงค์แยกวุ้นออกมาก่อนออกมายังไม่วายแลบลิ้นปลิ้นตาใส่       บีอีก...
“แบงค์...อีหัวโปกนี่มันคือใคร....” วุ้นหันไปไล่ต้อนแบงค์ที่ทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมอยู่
“มาคุยอะไรกันตรงนี้เล๊า...อายเค้า..นี่..มานี่เลย...”  แบงค์ลากวุ้นไปคุยกันห่างจากผมประมาณนึง...พอที่ให้ได้ยินกันสองคน...ผมยืนมองดูทั้งคู่แล้วหันไปมองธีร์ด้วยหางตา...จนธีร์ต้องรีบออกตัว...
“ทำไมมองผมแบบนั้นอ่ะครับพี่นุ...นั่นไอ้แบงค์นะไม่ใช่ผม..”
“ทำไมต้องร้อนตัวด้วยอ่ะ...ยังไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย...”
“ผมไม่มีทางให้เกิดเรื่องแบบนี้หรอกครับ...” 
“เตรียมตัวมาดี...ว่างั้น..”
“โธ่..พี่นุ...ผมเลิกหมดแล้ว...ตอนนี้ก็เหลือพี่นุคนเดียวเนี่ย...แทบจะเป็นฤาษีอยู่แล้วตั้งแต่จีบพี่นุอ่ะครับ...ช่วยตัวเองก็แทบจะไม่ได้ทำเลย...”  ธีร์พูดแล้วยิ้ม
“บ้า...พูดอะไรไม่รู้เรื่อง...”  ผมพูดอายๆแล้วเดินไปรวมกับทุกคน...สักพักวุ้นก็เดินตามเข้ามาใบหน้ายิ้มแย้มเหมือนก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น...ไม่รู้ตกลงกันว่ายังไง...เหอๆๆ...ส่วนแบงค์ก็เดินไปคุยอะไรกับธีร์นิดหน่อยแล้วธีร์ก็เดินมาหาผม...ธีร์กำลังจะพูดแต่ผมแทรกขึ้นมาซะก่อน
“ไปเหอะ...ตามสบาย...ไม่ต้องเป็นห่วง...”
“พี่นุ...งอนอีกแล้ว...”
“ป่าว...ไม่เห็นมีอะไรต้องงอน...”
“เดี๋ยวผมมา...พอดีต้องไปคุยโปรเจคงานส่งอาจารย์ก่อนอ่ะครับ...” ธีร์พูดแล้วขับรถออกไปกับธีร์...ในใจผมก็คิด...
โปรเจคอะไร๊...ถ้าไม่ใช่ตั้งวงดื่มเหล้าอ่ะ...นี่คงอดมาหลายวันแล้วอ่ะดิ...อีกเสียงหนึ่งขัดแย้งขึ้นมา...บ้าน่า  เค้ามีธุระจริงๆ...เรายังมีงานต้องรับผิดชอบเลย...ทำไมเค้าจะมีบ้างไม่ได้ล่ะ...
“สงสัยจะไม่ได้ซ้อมกันละมั้งพี่นุ...ป่านนี้แล้วยังมากันไม่ครบเลย...”  เสียงปอยบ่นมาแต่ไกลแล้วมานั่งข้างๆผม
“ท่าทางมันคงยังเพลียกันอ่ะพี่นุ...เอาไงดีเนี่ย...” อิ่มบ่น
“เหลืออีกไม่กี่วันก็จะแข่งแล้วด้วยเนี่ย...” เดี่ยวบ่นขึ้นมาบ้าง
“คนไม่ครบก็ต่อตัวไม่ได้ด้วย...” ปอยพูดแล้วมองไปที่สนามที่ตอนนี้เปียกแฉะไปด้วยสายฝนที่เพิ่งหยุดไป
“ตั้งแต่พรุ่งนี้คงต้องเข้มกว่านี้แล้ว...ไม่งั้นไม่ทันแน่ๆ...” ผมบอก
“วันนี้ไอ้เจมส์ไม่มานะค๊าบ...ทุกคน...” ไอ้เต๊ะตะโกนเสียงแจ๋ว
“มันเป็นห่าอะไรอีกล่ะไอ้เต๊ะ...” อิ่มตะโกนถามกลับไปแต่วุ้นพูดแทรกขึ้นมา
“สงสัยมันเป็นโรคหัวใจอ่อนแออยู่มั้ง...”  เดี่ยวซัดเพี๊ยะที่ต้นแขน 
“ปากเสียนะเมิง...หุบรูบนใบหน้ามึงเลย...” เดี่ยวกระซิบกระซาบ
“มันเป็นไข้อ่ะพี่นุ...ว่างๆพี่นุไปเยี่ยมมันมั่งดิ...บางทีมันอาจจะหายเร็วขึ้น...” ไอ้เต๊ะบอก
“ป่วยอีกคนละ...จะได้ซ้อมกันครบๆเมื่อไหร่เนี่ย..ขาดวันละคนสองคน...หลีดมืออ่ะเค้าไม่เคยขาดเลยซักวัน..” ปอยบ่น
“งั้นก็ซ้อมเท่าที่มีกันก่อน...ปอยเอาหลีดมือไปซ้อมไปมาครบแล้ว...ส่วนอิ่มเอาหลีดปอมปอมไปทบทวนท่าเต้นแล้วมาสอบทีละคน...ใครผ่านแล้วปล่อยกลับบ้านเลย...” ผมบอกแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไปซ้อม
“ไอ้กิ๋วมึงขึ้นไปเป็นเพื่อนกูเลย...” ผมเรียกให้ไอ้กิ๋วขึ้นไปเยี่ยมเจมส์บนห้องเป็นเพื่อนผม...แต่มันยังทำท่าอิดออด
“โห...ไอ้นุอยู่ตั้งชั้นสาม...กูจะปีนขึ้นไปไหวมั้ยเนี่ย...เอาอย่างนี้ถ้ามันปล้ำ...มึงก็ตะโกนดังๆละกันเดี๋ยวกูขึ้นไปช่วย”
“กวนตีนละมึง...” ผมหันไปด่าไอ้กิ๋วแล้วคว้าถุงข้าวต้มเดินขึ้นไปที่หอไอ้เจมส์...ผมเดินไปเคาะที่ห้องแต่ก็นึกได้ว่ามันป่วยนี่หว่าแล้วจะลุกมาเปิดได้ยังไงวะ..ผมก็เลยเอื้อมมือจะจับลูกบิดแต่ประตูมันเปิดขึ้นซะก่อน...


“พี่นุ  /  เจมส์...” ผมทั้งคู่พูดพร้อมกัน...
“ไหนไอ้เต๊ะบอกว่าป่วย..แล้วทำไมเดินได้...” ผมถาม
“แหม!พี่นุ...ผมเป็นไข้ไม่ใช่รถชนจะได้เดินไม่ได้อ่ะ...เข้ามาก่อนมั้ย..” เจมส์พูดแล้วเปิดประตูให้กว้างขึ้นผมเดินเข้ามา
“ก็เป็นห่วง...นึกว่าเป็นเยอะซะอีก...” ผมวางถุงข้าวต้มไว้ที่โต๊ะ
“งั้นผมอยากเป็นหนักกว่านี้ซะแล้ว...พี่นุจะได้เป็นห่วงผมเยอะๆ...” เจมส์เลื่อนเก้าอี้มานั่งข้าง...เอามือวางแล้วคางเกยอยู่บนพนักเก้าอี้...
“แล้วนี่มียากินมั้ยเนี่ย...ถึงกับต้องไปหาหมอมั้ย...”
“นอนมาทั้งวัน...ก็ค่อยยังชั่วแล้วล่ะพี่นุ...ผมขอโทษที่ทำให้ไม่ได้ซ้อมกันเลย...”
“ไม่เป็นไรหรอก...วันนี้ขาดกันตั้งเยอะแยะ  ก็รีบๆหายป่วยละกันขาดไปคนนึงก็ต่อตัวกันไม่ได้แล้ว...”
“พี่นุมาให้กำลังใจถึงหอแบบนี้...รับรองพรุ่งนี้หายแน่นอน...”
“งั้นก็โอเค..พี่กลับก่อนแล้วกัน...ไอ้กิ๋วจอดรถไว้นานไม่ได้...ไปนะ..”  ผมบอกแล้วลุกไปเปิดประตูเจมส์เดินตามผมไป
“พี่นุ...” เจมส์เรียก  ผมหันไป   แก้มตรงกับริมฝีปากไอ้เจมส์พอดี...ฟอดดดดดด....โดนอีกแล้วกู......
“ได้ยาดีแบบนี้...หายขาดเลย...” เจมส์พูดแล้วยิ้ม...ผมก็มองหน้าเคืองๆ
“ทำแบบนี้อีกแล้วนะเจมส์...เห็นพี่เป็นอะไรวะเนี่ย...” จะโกรธก็โกรธไม่ลง..ผมอ่ะ...ผมรีบหันหลังเดินลงบันไดไปทันที...เดินลงมามือก็ลูบแก้มไป...แก้มกูมันน่าหอมอะไรนักหนาว๊า...หอมกันอยู่นั่นแหละ...
“เอ้า...จะลูบอีกนานมั้ยไอ้นุ...เดี๋ยวก็เห็นตัวเลขขอหวยกันได้พอดี...ทำมะ...โดนไอ้เจมส์หอมมาอีกรึไงวะ...5555”
ไอ้กิ๋วขำหลังจากที่เห็นผมขึ้นรถมาแล้วมือก็ยังลูบแก้มอยู่
“ป่าวเว้ย...กะกะ..กูคันอ่ะ..สงสัยผื่นจะขึ้น...”  ผมตอบเลี่ยงๆ
“แล้วจะให้กูไปส่งที่หอเลยป่ะ...หรือจะรอไอ้ธีร์...”  ไอ้กิ๋วถาม ผมมองนาฬิกาเกือบสามทุ่มแล้ว...
“ไม่รอแล้วว่ะ...แต่มึงพากูไปกินข้าวหน่อยดิ..กลับหอไปกูไม่มีรถออกมาว่ะ..เบื่อมาม่าจะแย่อยู่แล้ว...”
“โถ...เพื่อนกู...น่าสงสารเนอะ...”  ไอ้กิ๋วพูดแล้วขับรถพาไปกินที่ร้านข้าวต้มข้างทางธรรมดาๆระหว่างกินไป...โทรศัพท์ดัง...ธีร์นั่นเอง...แต่ทำไมเป็นเสียงคนอื่นฟะ...
“พี่นุ ...ผมแบงค์นะครับ....พี่นุฟังผมอยู่หรือเปล่า”  เสียงอ้อแอ้ดังมาตามสาย
“ฟังอยู่....แบงค์มีอะไรเหรอ...”
“พี่นุช่วยมารับไอ้ธีร์ด้วย...เอ่อ...ตอนนี้มาวฟุบหลับไปแล้ว...ไก่อ่อนเจ็งๆ” แบงค์เองก็ท่าทางเมาไม่แพ้กัน
“แล้วทำไมแบงค์ไม่พาเพื่อนแบงค์กลับบ้านหล่ะ” ผมตอบเสียงเรียบ...แต่ในใจเริ่มหงุดหงิดล่ะ ไม่นึกว่าตัวเองจะได้รับประสบการณ์เช่นนี้....มีคนโทรมาให้ไปรับตัวคนเมากลับบ้าน..นึกแล้วไม่มีผิด..ขอตัวไปเมาจริงๆด้วยแล้วมาอ้างงาน
“ผมปายม่ายไหว เมาจะแย่เหมือนกัน...ผมมีภารกิจต่อ...”
“แล้วทำไมไม่นอนกันที่โน้น....”  ผมยังต่อรอง

“ม่ายด้ายหรอกคับ...พ่อไอ้คิมมันด่าแล้ว....พี่นุรีบมานะครับ เดี๋ยวใครคาบไอ้ธีร์ไปจะหาว่าม่ายเตือน...พี่นุเป็นแฟนมันก็ต้องมาเก็บมันไป”
“พี่ไม่ใช่แฟนธีร์....”  เริ่มฉุนละผมอ่ะ...โมโหคนเมา
“แต่ไอ้ธีร์มันบอกว่ามันเป็นแฟนพี่นุ”
”งั้นแบงค์ก็จับใส่รถของธีร์ไว้ละกัน...ให้นอนในนั้นแหละ..ดี...อยากเมานัก”  ผมหาทางออกให้
“ม่ายด๊าย...หากูนแจม่ายเจอ.......เฮ้ย...เฮ้ย...เฮ้ย”  เสียงขาดหายไปผมได้ยินแต่เสียงกุกกักๆ จากปลายสายเหมือนแบงค์กำลังทำอะไรซักอย่าง
“พี่นุมารับไอ้ธีร์ที่หอศุภาวรรณ...แถวๆประชาอุทิศนะครับ ผมม่ายหวายแล้ว”  ผมวางโทรศัพท์ลงอย่างอ่อนใจ ไม่นึกว่าจะโดนมัดมือชกเช่นนี้ เกิดมาไม่เคยที่จะต้องไปแบกคนเมากลับบ้านมาก่อน
“มีไรวะไอ้นุ...หน้าหงิกเชียว...” ไอ้กิ๋ววางตะเกียบแล้วถาม
“ไอ้กิ๋ว...มึงรู้จักหอศุภาวง..ศุภาวรรณอะไรนั่น...แถวประชาอุทิศมั้ยว่ะ...”  ไอ้กิ๋วทำท่านึก
“อ๋ออออ....รู้จัก...ทำไมวะ...”
“กูต้องไปลากธีร์มันกลับหอ...มันเมาหลับไปแล้ว...”  ยิ่งพูดก็ยิ่งหงุดหงิดไม่กงไม่กินมันแล้วข้าวต้มเนี่ย...เบื่อ...
“มีแฟนเพลย์บอยก็แบบนี้แหละว๊า...ต้องทำใจ...” ไอ้กิ๋วแซว
“กูยังไม่ใช่แฟน....”
“นั่นแน่...ยังไม่ใช่..เดี๋ยวต่อไปก็ใช่ช่ายม๊าาา...”
“หุบปากไปเลยนะไอ้กิ๋ว...ไม่งั้นกูจะขอให้มึงเป็นคนไปรับธีร์แทน”
“ไม่เอานะเว้ยนุ...ของๆ ใครคนนั้นก็รับผิดชอบเอาดิ” ไอ้กิ๋วกวน  พอจ่ายเงินผมกะไอ้กิ๋วก็ออกจากร้านตรงไปยังหอ
ศุภาวรรณที่ไอ้ตัวแสบเมาหลับอยู่...ในใจนึกว่าขอให้เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย...ไม่มีวันเสียหล่ะที่จะต้องออกไปทำ ‘ภารกิจ’ เช่นว่านี้บ่อยๆ ตามที่ไอ้กิ๋วล้อ...พรุ่งนี้ผมจะยื่นคำขาดกับธีร์ หากจะยังคบกันต้องห้ามเมาหมดสภาพอย่างวันนี้
ไปถึงหน้าหอศุภาวรรณผมก็พบว่าธีร์นอนพาดอยู่บนม้านั่งหน้าหอตรงป้อมยาม มียามนังพัดวีไล่ยุ่งให้อย่างเอื้ออารีย์...ดูแล้วผมไม่แปลกใจอ่ะครับเพราะท่าทางเป็นขาประจำ...ผมตบแก้มไอ้ตัวดีเบาๆ เพื่อเรียกสติ...คนเมางัวเงียลุกขึ้นมามองตาปรือถามว่า
“ครายอ่ะ...พี่นุหรือ...คิดถึงจัง”
“หมดสภาพขนาดนี้แล้วยังปากดีอีกนะมึง...” ไอ้กิ๋วบ่นแล้วก็ช่วยผมหิ้วปีกไอ้ธีร์คนละข้างเข้ารถ...ก่อนกลับผมต้อง  ขอโทษขอโพยลุงยามกันใหญ่ที่สร้างความลำบากให้
“เอาไงเมิง...ต้องไปส่งไอ้ธีร์ที่ไหนเนี่ย...ที่หอมันเหรอ...” ไอ้กิ๋วถามก่อนออกรถ
“กูเองก็จำไม่ได้ว่ะทางเข้าอ่ะ...ธีร์มันเคยบอกครั้งนึงแต่ลืมไปแล้ว...”
“งั้นก็เอาไปไว้หอมึงเลยไอ้นุ...กูง่วงแล้ว...” ไอ้กิ๋วบอกแล้วขับรถตรงไปยังหอผม...

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เอาหล่ะวุ้ย!! พี่นุจะรอดมั้ย ลุ้น....นนน    :ling1:

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่ 16_ข้อตกลง...


   เช้าวันรุ่งขึ้นโชคดีวันนี้ผมไม่มีเรียนเพราะอาจารย์ติดสัมมนา...ไอ้นัทตี้โทรมาบอกผมเมื่อคืน...ก็ดีผมจะได้มีเวลาจัดการไอ้ตัวดีที่นอนหลับใหลเมาหมดสภาพอยู่ในห้อง...ผมกดน้ำร้อนใส่ลงในคนอร์โจ๊กคัพสองถ้วย...ถ้วยหนึ่งของผมเอง...อีกถ้วยนึงเป็นของผู้ต้องหา....เหอๆ...เดี๋ยวก่อนชอบว่าผมใจร้ายนักคราวนี้แหละจะได้เห็นผมใจร้ายจริงๆ
ธีร์ค่อยๆ ยกหัวขึ้นมาจากที่นอนโผล่หัวขึ้นมามองไปยังต้นทางของเสียงและกลิ่นนั้น  สัญชาตญานของผมคงบอกว่ามีใครจ้องผมเงยหน้าขึ้นมา เห็นธีร์กำลังทำตาหวานมองอยู่  ผมยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าลงทำอาหารเช้ามื้อพิเศษต่อ...มื้อแรกและมื้อเดียวที่จะทำบริการคนเมา
“หอมจัง” ธีร์ทำท่าสูดดม
“รีบไปล้างหน้าล้างตาสิ...จะได้มาทานอาหารพิเศษ...”  ธีร์ยิ้มบางๆยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง
“ครับ ครับ...แต่ผมไม่มีแปรงสีฟัน”
“เตรียมไว้ให้แล้ว....ห้องน้ำอยู่ทางโน้น”
“ล้างหน้าแปรงฟันอย่างเดียวก็พอนะ”  ธีร์เดินโซเซไปที่ห้องน้ำ  ธีร์ยังอยู่ในชุดนักศึกษาตั้งแต่เมื่อวานไม่ได้ติดกระดุมเสื้อ..ผมเองก็ไม่กล้าเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เพราะใจไม่ถึงหรือว่า..จะกลัวห้ามใจตัวเองไม่ได้ก็ไม่รู้...
“เรียบร้อยแล้วครับ ผมทานได้หรือยัง”  ธีร์นั่งกับพื้นที่โต๊ะญี่ปุ่นตัวเดิม...
“โจ๊กท่าทางจะอร่อยนะครับ...”  ธีร์ตักขึ้นมาดมกลิ่น...
“อืมม...เจมส์เค้าซื้อมาให้เมื่อวันก่อน...”  ผมแกล้งพูดแล้วตักโจ๊กเข้าปาก
“ใจร้าย กะจะแกล้งผมให้ทานไม่ลง” ธีร์ทำหน้างอนแต่ก็ตักโจ๊กเข้าปาก
“เมื่อคืนธีร์เมามากจนหมดสภาพ...” ผมเริ่มเมื่อเห็นว่าทานโจ๊กไปบ้างแล้ว  หลังจากล้างหน้าล้างตาจนสดชื่น สติของธีร์ก็เริ่มกลับมาเป็นปรกติ จำได้แล้วว่าเมื่อคืนอะไรเกิดขึ้นบ้าง
“กินโจ๊กให้หมดก่อนสิครับ กำลังอร่อย”
“อร่อยเหรอ?...งั้นธีร์กินให้อิ่มๆเพราะอาจไม่ได้กินอีก”  ผมยังหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงอารมณ์แต่ดูแล้วธีร์คงเริ่มอึดอัดละ
“ไอ้แบงค์ไม่น่าหวังร้ายเลย ทำให้พี่นุลำบาก ให้คนอื่นไปส่งผมก็ได้ ที่จริงมันนั่นหล่ะควรไปส่งผม”
“ให้พี่จินตนาการนะ ทุกคนคงเมาฟุบกันหมด แบงค์เองก็ท่าทางไม่แพ้กัน แต่ยังดี...พอเดินได้พูดรู้เรื่องบ้าง”
“โธ่พี่นุ นานๆครั้งนะครับ...ผมหยุดดื่มมาตั้งนานแล้วแต่เมื่อวานพอทำงานกันเสร็จพวกมันก็ตั้งวงกันต่อ...ผมจะขอตัวกลับมาหาพี่นุ...แต่พวกมันก็ไม่ให้กลับคะยั้นคะยอให้ดื่ม...บอกว่าแก้วเดียวๆ...”
“แก้วเดียวแต่หลายรอบ...เลยออกมาในสภาพแบบนี้...” ผมพูดต่อแทน
“โธ่...พี่นุครับอย่าโกรธเลยน่า ผมไม่เมาให้พี่นุต้องออกไปแบกตัวกลับบ้านอย่างนั้นอีกหรอก จะไม่ดื่มเหล้าจนเมาหมดสภาพแบบนั้นอีกแล้วนะ...นะครับ”
“ดื่มก็ดื่มไปดิ...เรื่องปกติพอรวมกลุ่มกันก็ดื่มหนักกันอยู่แล้ว...แต่พี่จะไม่ออกไปรับธีร์อีกแล้ว...ไม่ว่าจะกลับมาที่นี่หรือไปไว้ที่ไหน”  ผมจ้องตาธีร์นิ่งๆ  ธีร์เองก็ยิ้มแหยๆ ผมหันหลังเอาถ้วยโจ๊กไปทิ้งแล้วถอนใจเฮือกใหญ่.....
ธีร์เอ้ย....อย่าให้ผมต้องมารบรากับความเจ้าชู้และความเจ้าสำราญของธีร์เลย...ภารกิจนี้ผมรับไม่ได้...ผมคิดในใจ....
ส่วนไอ้ตัวดีของผมนั่งหงอเป็นลูกแมวเซื่องๆเลยเพราะงานนี้ผิดซะเต็มประตู...





“สามวันเลยเหรอครับพี่นุ....ลดลงหน่อยไม่ได้เหรอ...” ธีร์ต่อรองตอนที่ผมเดินลงมาส่งที่รถ
“ไม่ได้หรอกธีร์...พี่ว่าสามวันมันยังน้อยไปด้วยซ้ำ...ธีร์ลองใช้เวลาสามวันที่ไม่ได้เจอกันนี่คิดดูว่าธีร์เองจะทำตามที่ธีร์เคยพูดกับพี่ไว้ได้หรือเปล่า...”  ผมพูดแล้วพยายามจะปิดประตูรถให้แต่ธีร์เองยังดันไว้...
“แค่เรื่องเมื่อคืนพี่นุโกรธผมขนาดนี้เลยเหรอ...ผมก็ขอโทษแล้วอ่ะครับพี่นุ...น๊าๆ...อย่าทำกับผมแบบนี้เลย...”
“เชื่อพี่เถอะธีร์...ถ้าในสามวันที่ไม่ได้เจอกันแล้วเราคิดถึงกัน...เราก็กลับมาคุยกัน....บางทีธีร์อาจจะตัดสินใจอะไรได้บ้างก็ได้ในช่วงที่เราไม่เจอกัน...บางทีพี่เองก็อาจจะตัดสินใจอะไรได้บ้างในสามวันนี้เหมือนกัน...”
“ตัดสินใจ...พี่นุจะตัดสินใจอะไรอ่ะครับ...” ธีร์รีบผลักประตูรถลงมาจับไหล่ผมทันทีที่ได้ยินผมพูด
“ธีร์อย่าลืมนะว่าชีวิตเราเดินสวนทางกัน...ชีวิตพี่ค่อนข้างเรียบ..จืดชืดและหน้าเบื่อแต่ชีวิตธีร์มีสีสัน..โลดโผนอยู่ตลอด
...บางทีเราอาจจะไม่ใช่คู่กันก็ได้...” ผมพูดเองก็ยังใจหายเองเลย...พูดไปได้ไงวะ...
“ไม่นะครับพี่นุ..อย่าพูดแบบนี้...พี่นุจะให้ผมทำอะไรก็ได้แต่พี่นุอย่าพูดอย่างนี้นะครับ...” ธีร์เสียงสั่น
“ธีร์...พี่ไม่ได้หมายความว่าจะให้ธีร์ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อพี่...แต่พี่อยากให้ธีร์ใช้หัวใจในการที่จะทำอะไรเพื่อใครซักคนต่างหาก....นะธีร์...ถ้าเราไม่ได้เจอกันซักพักแล้วเราคิดถึงกันจริงๆ...ทำได้อย่างที่เราพูดกันจริงๆ...เราก็จะเดินไปด้วยกัน...ลองปล่อยให้หัวใจคิดถึงกันดูบ้างนะธีร์...”
“พี่นุ...” เสียงของธีร์ผ่านริมฝีปากออกมาแผ่วเบา แทบไม่ได้ยิน  ผมตัดใจเดินหันหลังกลับเข้าไปในหอปล่อยให้ธีร์ยืนอยู่อย่างนั้น...ธีร์มองตามผมไปจนสุดสายตา...ผมกดลิฟท์กลับขึ้นมาในชั้นของตัวเองรู้สึกตัวหวิวๆพิกลที่พูดอะไรแบบนี้ออกไป...ซึ่งก็ถือว่าวัดใจพอสมควรหากมันไม่เป็นไปตามที่ผมคิด...ผมคาดโทษธีร์ด้วยการไม่ต้องมาเจอกันสามวัน
ห้ามโทรศัพท์...ห้ามอะไรต่างๆทั้งสิ้นเพื่อแก้นิสัยเพลย์บอยของธีร์..อย่างที่บอกถ้าคิดจะคบกันก็ต้องห้ามเมาบวกกับอีกเหตุผลนึง...ผมต้องการให้ธีร์รู้จักรับผิดชอบในสิ่งที่พูดกับใครสัญญาอะไรกับใครไว้ว่าตัวเองจะทำได้อย่างที่รับปากหรือเปล่า...ผมไม่อยากให้ธีร์เอาแต่พูดจาหวานๆหว่านล้อมให้ผมหลงคารมอะไรไปเรื่อยจนให้ธีร์ได้ในสิ่งที่ต้องการ...ผมไม่อยากดูไร้ค่าขนาดนั้น...แต่ผมเองอยากดูมีค่าในสายตาของธีร์จริงๆอย่างที่ธีร์พูดต่างหาก...ไม่ใช่มองว่าผมเป็นของเล่น...คิดอยากจะเข้ามาจับดูเมื่อไหร่ก็มา..พอซื้อไปแล้วเล่นเบื่อก็โยนมันทิ้งไปอย่างไร้ความหมาย...อย่างที่บอกการยื่นคำขาดของผมในครั้งนี้ค่อนข้างจะวัดใจพอสมควร...คนหน้าตาดีสมบูรณ์แบบอย่างธีร์อาจจะไม่มาสนใจคนธรรมดาจืดชืดอย่างผมก็ได้..แต่ถ้าธีร์ทำได้อย่างที่ผมบอก...ผมก็จะรับผิดชอบคำพูดของตัวเองด้วยการให้ผมกับธีร์...เราสองคนเดินไปด้วยกัน...



“ไอ้กิ๋วเย็นนี้มึงมารับกูไปซ้อมด้วยนะ...เออ....รถน่าจะได้พรุ่งนี้ว่ะ....” ผมโทรไปหาไอ้กิ๋ว
“อ้าว...แล้วไอ้ธีร์ล่ะยังเมาไม่ตื่นรึไงวะ...”
“กูสั่งมันไม่ให้มาหากูสามวัน...โทษฐานที่เมา...”
“โห...แม่งโหดว่ะ...จะขาดใจตายมั้ยไอ้นั่นน่ะ...ไม่ได้เห็นหน้าพี่นุสุดที่รักของมันตั้งสามวัน...” ไอ้กิ๋วแซว
“ไม่หรอก...บางทีธีร์มันอาจจะดีใจก็ได้ที่ไม่ต้องมาวุ่นวายกับกู...” ผมพูดเสียงอ่อยๆ
“ไม่ม้างไอ้นุ...กูดูแล้วมันก็รักมึงดีนี่หว่ามันคงไม่คิดอย่างนั้นหรอก..ไม่งั้นมันจะขับรถตามมึงไปชะอำหรือวะ..”
“ไม่รู้ดิวะ...ใหม่ๆอะไรก็ดีหมด..มึงก็รู้...คนเจ้าชู้อ่ะทำได้หมดแหละเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ...”
“มึงกลัวไอ้ธีร์จะฟันแล้วทิ้งว่างั้น...”
“ก็ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก..ไม่รู้อ่ะ...กูยื่นคำขาดไปแล้วถึงกูยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกะมันแต่ถ้าอยากคบกะกูจริงก็ต้องทำให้ได้...”
“แล้วถ้ามันทำไม่ได้หรือไม่ทำขึ้นมา...มึงอย่ามานั่งร้องไห้ขี้มูกโป่งนะเว้ยไอ้นุ...ความผิดมึงเต็มๆเลยนะเที่ยวนี้”
“ช่างมันเหอะ...วัดใจเว้ย...กูก็เผื่อๆใจไว้บ้างแหละ...อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด”
“อ๋อ..ลืมไป...พลาดจากไอ้ธีร์ก็ยังมีไอ้เจมส์รอซับน้ำตาอยู่นี่หว่า....พี่นุของเจมส์....5555”
“หุบปากเลยไอ้กิ๋ว...อย่าลืมมารับกูก็แล้วกัน...”  ผมวางโทรศัพท์แล้วหันกลับไปมองที่เตียงที่เมื่อคืนมีใคนคนหนึ่งนอนหลับใหลอยู่....ใครคนหนึ่งที่ผมนั่งอยู่ข้างๆ...ใครคนหนึ่งที่ผมเช็ดหน้าเช็ดตาให้แล้วนั่งมองเค้าทั้งคืนจนหลับไป...
นี่ใจของผมกำลังเต็มไปด้วยธีร์แล้วใช่มั้ยตอนนี้...ผมเปิดรับธีร์เข้ามาในใจเต็มที่แล้วเหรอ...ผมถามตัวเอง...





“เพราะมึงเลยไอ้แบงค์...ลากกูไว้ให้กินเหล้าอ่ะ...พี่นุเค้าโกรธกูใหญ่เลยไม่ยอมให้กูไปหาตั้งสามวัน...”  ธีร์ใส่เป็นชุดหลังจากบุกเข้าไปหาแบงค์ที่หอ...แบงค์สะดุ้งตื่นแทบจะไม่ทัน...ทั้งคู่ยังอยู่ในชุดนักศึกษาเมื่อวานเหมือนกันเดี๊ยะ...
“อะไรว๊า...แค่กินเหล้าไม่เห็นจะต้องอะไรเลยจะโกรธอะไรนักหนาเลย...ปกติมึงก็กินนี่...”  แบงค์ลุกขึ้นนั่ง
“นั่นมันเมื่อก่อนเว้ย...พี่นุไม่ชอบคนกินเหล้า...”  ธีร์นั่งลงข้างๆ
“แหม...ท่าทางหงอไปเลยนะมึง...มึงจะใส่ใจทำไมวะเค้าเล่นตัวนักมึงก็สลัดๆไปเลยดิ...อย่างมึงหาใหม่เมื่อไหร่ก็ได้...จะเอาให้เหนือกว่าพี่นุเท่าไหร่ก็มีอยู่แล้ว...มึงยังจะแคร์อะไรอีกวะ...” แบงค์ตบไหล่ธีร์เบาๆ
“แสดงว่ามึงยังไม่รู้จักความรัก...กับพี่นุ...กูรักเค้าว่ะ...กูทำไมลงหรอก...” ธีร์ตอบเสียงเศร้าๆ
“นี่มึงรักเค้าขนาดนี้จริงเหรอวะ...แล้วเค้ารักมึงขนาดนี้มั้ย...” 
“เค้ายังไม่เคยบอกรักกูซักคำ...”
“คนบางคนเค้ารัก....แต่เค้าก็ไม่พูดออกมาก็มีนะโว๊ย”
“กูเองคงยังดีไม่พอให้พี่นุเค้าบอกรักกูว่ะ...”
“งั้นมึงก็ต้องพยายาม...ถ้ามึงรักเค้าจริงๆมึงก็ต้องทำให้เค้าเห็นให้ได้ว่ามึงดีพอที่เค้าจะบอกรักมึง...กูรู้มึงทำได้...กูเอาใจช่วยเว้ยธีร์...แต่งานนี้กูว่าเราต้องหากำลังเสริมว่ะลุยด้วยตัวมึงคนเดียวกะกูไม่พอแน่ๆ...”
“กำลังเสริม....” ธีร์ทำหน้างงๆ
“ใช่กำลังเสริมไง...คิดดูดิ.....ช่วงสามวันที่พี่นุห้ามมึงไปหาเนี่ย...ช่วงอันตรายนะเว้ยมึงเคยได้ยินมั้ย...ไม่เจอกันสามวันนารีเป็นอื่นอ่ะ...”
“เฮ้ย..พี่นุไม่ใช่นารีนะเว้ย...”
“นั่นแหละ....กูเปรียบเทียบให้ฟัง...เราต้องหากำลังเสริมไว้คอยสังเกตการณ์ทุกฝีก้าวว่ามีใครไปเกาะแกะพี่นุเวลาห่างกับมึงบ้างหรือเปล่า....แล้วมีมั้ยวะ..” แบงค์ถามธีร์ในประโยคสุดท้าย
“ก็มีอยู่คนนึงในหลีดนั่นแหละ...ชื่อไอ้เจมส์...กูเคยเจอตอนไปชะอำ...แม่งแสดงท่าทางหวงพี่นุออกหน้าออกตา...”
“นั่นแหละยิ่งไม่ปลอดภัย...เราต้องตีซี้กับใครซักคนที่สนิทกับพี่นุ...” แบงค์ทำท่าคิด
“มีพี่กิ๋วไง...แต่พี่เค้าจะยอมช่วยกูเหรอวะ...พี่เค้าอาจจะเชียร์ไอ้เจมส์อยู่ก็ได้”
“ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้ว่ะ...ต้องวัดใจดู...”
“แล้วถ้าสามวันแล้ว...พี่นุไม่เหมือนเดิมล่ะวะ...กูกลัวว่ะ...”
“กูว่าคนที่จะกลัวน่าจะเป็นพี่นุกลัวมึงไม่เหมือนเดิมมากกว่าว่ะ...เสือกไปเมาให้เค้าเห็น...”
“ก็นั่นแหละเพราะมึงไง...เรื่องถึงยุ่งยากแบบนี้..”
“ก็นี่ไง...กูก็กำลังช่วยมึงอยู่เป็นการไถ่โทษนี่ไง...ยังจะมาด่ากูอีก...ไอ้สาดดดด...”
“คอยดูนะ...ถ้าพี่นุไม่ยอมคุยกับกู...กูจะฆ่ามึง...” ธีร์หันไปชี้หน้า  แบงค์แกล้งทำตัวสั่นรับมุก
“กลั๊วกลัว...กลัวแล้วค๊าบบบบ”




“พี่กิ๋วช่วยผมหน่อยนะค๊าบ...” ธีร์วางขวดเหล้านอกชั้นดีตรงหน้าไอ้กิ๋วแล้วทำท่าอ้อนวอน ไอ้กิ๋วเหล่ตามองขวดแล้วตาโตนิดๆแต่ยังวางฟอร์มอยู่ ธีร์กับแบงค์บุกมาหาไอ้กิ๋วถึงหอหลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อมากันมาแล้ว
“ของแบบนี้มันอยู่ที่แกสองคนนะเว้ยธีร์...พี่คนนอกพี่จะช่วยอะไรได้ว๊า...”
“ช่วยได้สิพี่กิ๋ว....ช่วยเป็นหูเป็นตาให้ไอ้ธีร์มันไงว่ามีใครไปเกาะแกะพี่นุบ้างหรือเปล่า...” แบงค์ช่วยเสริม
“โอ้ยยยย...จะมีอยู่ก็แค่ไอ้เจมส์นั่นแหละที่คอยเป็นก้างขวางไอ้ธีร์อยู่อ่ะ..” ไอ้กิ๋วบอก
“นั่นแหละก้างชิ้นใหญ่ที่อยากจะให้พี่กิ๋วช่วยเขี่ยออก...” แบงค์พูดแล้วเลื่อนขวดเหล้าเข้าไปใกล้ไอ้กิ๋วมากขึ้น
“พี่กิ๋วไม่ต้องทำอะไรมากเลยครับแค่พูดถึงผมให้พี่นุได้ยินบ้างในช่วงสามวันที่ผมเข้าไปหาพี่นุไม่ได้อ่ะ...นะครับ...”
ธีร์เขย่าแขนไอ้กิ๋วเชิงขอร้อง
“พูดอย่างเดียวไม่พอนะพี่กิ๋ว..พี่กิ๋วต้องช่วยเข้าไปขวางไอ้เจมส์ด้วยอย่าให้มันเข้าใกล้พี่นุบ่อยๆ” แบงค์เสริมอีก
 “นะครับ...ถ้าพี่กิ๋วไม่ช่วยผมก็ไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว...” ธีร์บอกเสียงอ่อยๆ
“ก็ดั๊นไปเมาเหล้าให้ไอ้นุมันเห็น...มันก็โกรธอ่ะดิไอ้นุไม่ชอบคนกินเหล้าอย่างกะอะไรดี...คนอย่างไอ้นุนะธีร์พี่จะบอกให้รู้...คารมคำพูดต่างๆซื้อใจนุมันไม่ได้หรอก...ต้องซื้อใจไอ้นุด้วยความจริงใจเท่านั้นแหละ...แล้วทุกอย่างก็จะดีเอง..”
“แล้วพี่กิ๋วว่าหลังจากสามวัน...พี่นุจะเหมือนเดิมกับผมมั้ย...”
“ถ้าจะให้เดานะ...นุมันควรจะกลัวเราไม่เหมือนเดิมมากกว่าว่ะธีร์...” ไอ้กิ๋วพูด  แบงค์เลยแทรกขึ้นมา
“เห็นมะ...ขนาดพี่กิ๋วยังพูดเหมือนกูเลย...”
“มึงเงียบไปเลยไอ้แบงค์...”
“ไอ้นุมันก็คงกำลังใช้ความคิดทบทวนอย่างหนักแหละ...นุเองมันไม่ใช่คนที่จะเปิดรับใครเข้ามาง่ายๆแต่พอจะเข้ามาก็เสือกมาพร้อมๆกัน...โดยเฉพาะแกไอ้ธีร์...เข้ามาหามันโดยวิธีแปลกๆ...แถมยังเสือกประวัติไม่ดีมาก่อนอีกต่างหาก...
ก็สมควรแล้วที่ไอ้นุมันยังไม่ตัดสินใจอะไรอ่ะ...”
“แต่ผมก็เลิกแล้วนะพี่กิ๋ว...เพียงแค่พี่นุพูดมาคำเดียวว่าพี่นุไม่รักผม...เท่านั้นแหละผมจะไปเอง...”
“ไม่หรอก...ดูๆแล้วไอ้นุมันน่าจะโอเคกับแกอยู่นา...สังเกตดูเวลามันอยู่กะแกอ่ะท่าทางมันก็มีความสุขดี...ไม่เหมือนตอนอยู่กับไอ้เจมส์ที่ดูเหมือนไอ้นุมันจะเกร็งๆ...กังวลๆ...”
“แสดงว่าพี่นุเองก็รักไอ้ธีร์ใช่มะพี่กิ๋ว...” แบงค์พูด
“อย่าเพิ่งสรุป...พี่ไม่ได้หมายความอย่างนั้นของอย่างนี้มันต้องอยู่ที่เจ้าตัวเค้าสิวะว่าเค้ารู้สึกยังไง...ต่อให้พี่ช่วยพูดให้แกแทบตายก็เหอะธีร์แต่ถ้าแกทำให้ไอ้นุมันเห็นว่าแกรักมันจริงๆไม่ได้อ่ะ...เทวดาหน้าไหนก็ช่วยไม่ได้นะเว้ย...”
“เห็นหงิมๆแบบนี้...ท่าทางโหดเอาการอยู่นะเว้ยธีร์...” แบงค์หันไปบอกธีร์
“โอกาสของคนผิดมีให้แก้ตัวไม่บ่อยนะเว้ยธีร์...เมื่อมีโอกาสแล้วก็ทำให้ดีที่สุด...ลองไอ้นุมันพูดแบบนี้โอกาสของแกก็ยังมีอยู่...ถ้านุมันโกรธจริงๆมันคงตัดขาดกันไปแล้วแหละ...แต่นี่มันก็ยังคงวัดใจแกอยู่นั่นแหละว่าจะทำได้อย่างที่พูดมั้ย...เอาเป็นว่าพี่จะลองช่วยเท่าที่ทำได้นะ...แต่ไม่รับปากว่าจะสำเร็จนะเว้ย...” ไอ้กิ๋วพูดแล้วหยิบขวดเหล้านอกชั้นดีมากอดไว้
“แหม...ไม่เท่าไหร่เลยนะพี่กิ๋ว..” แบงค์แซวแล้วยิ้มๆ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ธีร์มีติดสินบน แบบนี้พี่นุจะไปไหนรอด..ดดด  :hao6:

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่  17_หมัดแลกหมัด...ใจแลกใจ...


   ตลอดสามวันที่ไม่เจอธีร์ผมซ้อมหลีดอย่างหนักเพื่อที่จะได้ไม่ต้องฟุ้งซ่าน...ผมไปรับรถมาแล้วจึงไปไหนมาไหนเองเหมือนเดิม...หลายคืนที่ผ่านมาเวลาผมออกไปยืนที่ระเบียงผมก็จะเห็นซีอาร์วีสีดำคนหนึ่งจอดดูอยู่ไกลๆทุกคืนในช่วงสามคืนที่ผ่านมา...ธีร์ทำตามที่ผมพูดทุกอย่างคือไม่มาหาให้เห็น...ไม่โทรมา...ไม่ส่ง SMS...ผมเองรู้สึกเหมือนกับว่าขาดอะไรไปสิ่งหนึ่งในชีวิต...รู้สึกเหงาๆแบบบอกไม่ถูกไม่รู้ว่าธีร์มันจะเป็นเหมือนผมบ้างมั้ย...
“ไอ้ห่าเล่นเอาซะน้องมันลิ้นห้อยเลยนะเมิงไอ้นุ...” ไอ้กิ๋วแซวผมหลังจากปล่อยให้น้องๆพัก
“ก็ใกล้จะแข่งแล้วนี่หว่า...ก็ต้องเข้มกันหน่อย...” ผมบอกแล้วยกน้ำดื่ม...
“ก็นึกว่าซ้อมกลบเกลื่อน...เหอๆๆ...”
“กลบเกลื่อนห่าไรไอ้กิ๋ว...อย่ากวนว่ะ...”
“นี่ไอ้นุ...วันนี้ก็ครบสามวันแล้วไม่ใช่เหรอวะ...แล้วจะทำยังไงต่อไป...กูว่าป่านนี้ไอ้ธีร์ก็ใจจะขาดรอนๆแล้วม้าง”
“นี่...มึงเลิกพูดถึงธีร์ซะทีได้ป่ะ...เป็นไรเนี่ยเห็นพูดถึงจังเลยไม่กี่วันมาเนี่ย...ไปเป็นพวกเค้าตั้งแต่เมื่อไหร่วะ...”
“ป่าวววว....กูก็แค่สงสารน้อง...ไม่อยากเห็นคนแก่ทรมานมัน...”
“แล้วมึงคิดว่ากูไม่ทรมานเหรอ...”  น้านนน...เผลอหลุดปากไปซะแล้วผม...ไอ้กิ๋วยิ้มกริ่มทันที
“กู...ไปซ้อมต่อดีกว่า...” ผมบอกแล้ววิ่งกลับไปที่เดิมโดยที่ไม่เห็นว่าไอ้กิ๋วยกโทรศัพท์ขึ้นมา....
“ได้ยินแล้วใช่ป่ะธีร์....”  เสียงไอ้กิ๋วบอก...ธีร์ที่ฟังโทรศัพท์อยู่อีกด้านหนึ่งยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
“เห็นมั้ยไอ้ธีร์...พี่นุเค้าก็ทรมานเหมือนกับมึงเลย..ทีนี้มึงต้องทำให้เค้าเห็นนะเว้ยว่ามึงเป็นคนปากกับใจตรงกัน...
พูดยังไงก็ทำได้อย่างที่พูดอยู่แล้ว...กูดีใจด้วยนะเว้ย...” แบงค์ยื่นมือไปจับกับธีร์
“อย่าเพิ่งดีใจเว้ย...ให้กูได้เจอพี่นุก่อน...”




“วันนี้เลิกซ้อมแล้วไปกินนมกันนะพี่นุ...วันนี้มันเกิดอีปอยมัน...” อิ่มเดินเข้ามาชวนตอนก่อนจะปล่อยกลับ
“มีใครไปบ้างอ่ะ...” ผมถาม
“ก็มีไม่กี่คน...เซ็ตเดิมแหละพี่นุ...มีพี่นุ..พี่กิ๋ว...ปอย...อีอิ่ม...อีวุ้น...อีเดี่ยว...ไอ้เต๊ะแล้วก็ไอ้เจมส์..” ปอยพูดให้ฟัง
“ไปร้านไหนกันดีละจ๊า....”  ไอ้กิ๋วเดินเข้ามาแจม
“ร้านเดิมดีกว่าพี่กิ๋ว....ยำไวไวอร่อยดี...”  อิ่มบอกแล้วเราแต่ละคนก็แยกย้ายไปที่รถของตัวเองเป้าหมายคือร้านนม
หน้ามอ...เจมส์เดินมาหาผมเหมือนในมือซ่อนอะไรไว้ด้านหลัง...
“พี่นุ...” เจมส์เรียกผมแล้วส่งกล่องแบนๆให้ผมใบนึง...กว้างยาวประมาหนึ่งฟุตเห็นจะได้
“อะไรอ่ะเจมส์...” ผมรับมาทำหน้างงๆ
“ลองแกะดูก่อน...ไม่รู้ว่าพี่นุจะชอบหรือเปล่า....” ผมค่อยๆแกะกระดาษที่ห่อไว้ออกแล้วเปิดกล่องดูก็พบ...
ภาพปักครอสติส...เป็นรูปตัวการ์ตูนเด็กผู้ชายสองคนยืนจูงมือกันอยู่...เหนือรูปภาพปักเป็นตัวหนังสือเรียงกันเป็น
เส้นโค้งคล้ายสายรุ้ง....
“เนื่องในโอกาสอะไรเนี่ย....”
“ก็เนื่องในโอกาสที่ผมรู้จักพี่นุ...รักพี่นุมาครบสามเดือนแล้วไงครับ...” เจมส์พูด...ช่วงสองสามวันมานี้พอรู้ว่าธีร์หายไป...เจมส์ทำคะแนนอย่างหนักเมื่อเห็นว่าธีร์ไม่เข้ามาเกาะแกะผม...
“แหม...ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้มั้งเจมส์...เปลืองเงินเปล่าๆ...” 
ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรต่อผมก็ได้ยินเสียงรถเบรกเอี๊ยดหน้าคณะตรงทางออก...ซีอาร์วีสีดำคันใหญ่เบรกชิดแทบเบียดกับบันไดคนขับยังไม่ลงจากรถซึ่งผมกับเจมส์ก็รู้ว่าเป็นใคร
“ธีร์...”  ผมเรียกชื่อนั้นเบาๆ.. เจมส์หันมามองผม
“พี่นุรออยู่ตรงนี้นะ...ไม่ต้องตามเข้าไป.....” เจมส์บอกผมแล้วเดินตรงไปที่รถของธีร์...ผมอยากจะตามไปแต่ทำไมขามันก้าวไม่ออกวะ...

“กลับมาอีกทำไมวะ...”  เจมส์เดินหน้าบึ้งเข้ามา ท่าทางเอาเรื่อง  ธีร์ถอนหายใจเบาๆมองผมชั่วอึดใจราวกับจะบอกให้ว่าไม่ต้องกังวลแล้วเปิดประตูรถลงมาช้าๆใบหน้ายังเคร่งขรึม สองตาจับอยู่ที่ใบหน้าของเจมส์
“หายไปตั้งหลายวัน...แล้วกลับมาอีกทำไมไม่ทราบ...”  เจมส์พยายามควบคุมเสียงของตัวเองไม่ให้ดังเกินกว่าที่จะได้ยินกันเพียงสองคน 
“ไม่รู้เรื่องอะไรอย่ามาพูดดีกว่า...เราไม่ได้มาหาเรื่องใคร...” ธีร์ก็พูดได้ไม่เต็มเสียง
“เรากำลังอยู่กับพี่นุดีๆ...จู่ๆก็มีแกเข้ามา....ไม่รู้หรือไงว่ากำลังแย่งของของคนอื่นน่ะ...”  เจมส์ขบกรามแน่น
“เราไม่เคยแย่งใคร...พี่นุเค้าบอกแกอย่างนั้นรึไง..”
“แล้วที่กำลังทำอยู่นี่มันคืออะไร....เรารักพี่นุมาก่อน..แกมันมาทีหลัง..แย่งคนอื่นชัดๆ...ถ้าไม่มีแกซักคนพี่นุคงไม่ลังเลอย่างนี้...”  เจมส์เสียงกร้าว ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ธีร์  ผมลุกขึ้นตั้งใจเงี่ยหูฟังที่สองคนคุยกัน เจมส์ดูพยายามควบคุมอารมณ์อย่างมาก แต่นัยน์ตาลุกโชนเริ่มแดงก่ำ ขณะที่ธีร์ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงนิ่ง
“ของอย่างนี้มันอยู่ที่คนกลางว่าจะเลือกใคร...สามวันที่ผ่านมามันเป็นข้อตกลงระหว่างพี่นุกับเราสองคน....แกเองก็รอโอกาสอยู่ล่ะสิ พอเราแยกกับพี่นุก็รีบกระโดดเข้ามาเสียบแทน..รีบทำคะแนน...”  ธีร์พูดแล้วสูดลมหายใจลึก
“ไอ้ธีร์....”   เจมส์ปากเม้มตรง คิ้วขมวดแน่น นัยน์ตาลุกวาว
“แล้วที่เดินเข้ามาหาเราวันนี้ต้องการอะไร...”
“ออกไปจากชีวิตพี่นุซะ...”  เจมส์สั่ง
“พูดในฐานะอะไร...”
“ฐานะแฟนสิวะ”
“เหรอ...พี่นุเค้ารับแกเป็นแฟนแล้วเหรอ...ไปบอกพี่นุสิ...”  ธีร์ท้าเริ่มจะกรุ่นขึ้นมาเหมือนกัน
“แกหมายความว่าไง” เจมส์เค้นเสียงออกมาตามไรฟัน คิ้วขมวด
“ก็หมายความอย่างที่พูด ถ้าแกบอกว่าให้เราออกไปจากชีวิตพี่นุแล้วสั่งเราในฐานะแฟนพี่นุ ถ้างั้นเราก็เป็นชู้...ถ้าอย่างนั้นให้พี่นุมาไล่เราเอง...แล้วเราจะไปทันที...”  ธีร์เน้นเสียง ใบหน้าเรียบนิ่ง จ้องตาเจมส์อย่างท้าทาย
“ไอ้ธีร์...." เจมส์ทนไม่ได้แล้วมือที่กำอยู่ยิ่งกำแน่นมากกว่าเดิม หูอื้อตาลายไปหมด สิ่งเดียวที่มองเห็นตอนนี้คือใบหน้าขาวๆเรียบนิ่งของธีร์  เจมส์ยกมือขึ้นสวนหมัดชกเข้าที่หน้าของธีร์สุดแรง ใบหน้าของธีร์เหวี่ยงไปตามแรงต่อย ร่างสูงของธีร์เซไปปะทะกับพุ่มไม้เล็กๆ ที่อยู่ด้านข้าง  ผมตะลึง ไม่นึกว่าจู่ๆ สองคนที่ยืนคุยกันจะชกกันจนหน้าหงายเช่นนี้
ธีร์ยืดตัวขึ้นเตรียมพร้อมแต่เจมส์เร็วกว่า ส่งหมัดหนักๆ ต่อยฮุกเข้าที่ท้องของธีร์จนตัวงอ ธีร์รีบยกมือขึ้นผลักเจมส์ให้ออกห่าง แต่อีกฝ่ายไม่ยอม เคลื่นตัวเข้าประชิด มือซ้ายกระชาดคอเสื้อธีร์ดึงเข้ามาใกล้ ตั้งใจจะจับยึดให้นิ่งเมื่อยกหมัดขวาต่อยให้หายแค้น  ธีร์ไม่สู้...เขาไม่ต้องการสู้ เขาต้องการให้เจมส์ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ทนเจ็บอีกซักหน่อย เดี๋ยวเจมส์ก็หยุด อย่างน้อยพี่นุอยู่ตรงนี้เจมส์คงต่อยได้อีกแค่หมัดเดียวหรือสองหมัด...นี่ล่ะ วิธีเอาชนะเจมส์
...นี่ล่ะ วิธีเอาใจพี่นุกลับมา...ธีร์คิดในใจ



“เจมส์....หยุดเดี๋ยวนี้”  ผมกระโจนถึงตัวเจมส์ สองมือคว้าแขนเจมส์ไว้ได้ทัน หลังจากชกหน้าธีร์ได้อีกหนึ่งครั้ง
“พี่นุ...”
“เจมส์...เรามีการศึกษานะเว้ยทำไมไม่คุยกันดีๆอ่ะ...อย่ามาทำตัวเป็นอันธพาล..” ผมจ้องหน้าเจมส์นิ่ง  เจมส์ปล่อยมือที่กำคอเสื้อของธีร์จนเซถอยหลับไปสองสามก้าว แล้วพยายามทรงตัวให้ยืนตรง
“กูนึกแล้วว่าต้องมีเรื่องแน่ๆ...” เสียงไอ้กิ๋วดังวิ่งเข้ามาแต่ไกลตามมาด้วยไอ้เต๊ะ...พอมาถึงไอ้กิ๋วหันไปมองธีร์ที่ยืนมองอยู่เงียบๆ เลือดกลบปาก
“ถึงขั้นลงไม้ลงมือกันเลยเหรอวะไอ้เจมส์...กูเคยเตือนมึงแล้วใช่มั้ยทำไมมึงไม่ฟังบ้างวะ...” ไอ้กิ๋วด่าลั่น ผมปล่อยแขนเจมส์แล้วเดินกลับไปที่รถของผม เจมส์ขยับตัวจะก้าวตาม แต่ต้องชะงักเมื่อหันไปเห็นธีร์ขยับตัวตามไปด้วย
“ไอ้เต๊ะ..มึงเอามันกลับบ้านไปก่อนเลย...” ไอ้กิ๋วหันไปบอกไอ้เต๊ะ
“พี่กิ๋ว...คือว่าผม...” เจมส์พยายามจะอธิบาย
“กูว่ามึงพลาดอย่างแรงแล้วเจมส์...มึงพลาดโอกาสสุดท้ายที่ไอ้นุให้มึงไปแล้ว...กูว่ามึงน่าจะรู้คำตอบไอ้นุแล้วนะ..”
“พี่กิ๋ว...ผะผะ...ผมขอโทษ...” เจมส์พูดน้ำตาคลอเบ้า...ไอ้เต๊ะพยายามลากไอ้เจมส์ออกไปจากตรงนั้น
“กูไม่รู้จะช่วยมึงยังไงแล้วว่ะเจมส์...ครั้งนี้มึงวู่วามเกินไป...กลับหอไปซะกลับไปคิดทบทวนถึงการกระทำของตัวเอง”
ไอ้กิ๋วพูดแล้วเดินเข้ามาหาผมกับธีร์
“โห...หมดหล่อซะละมั้งงานนี้...” ไอ้กิ๋วแซว  ธีร์ยกมือขึ้นเช็ดเลือดแดงๆ ที่กลบปาก  ผมส่งผ้าเช็ดหน้าให้ธีร์
“หวังว่าคงไม่มีผืนที่สามนะ...” ผมพูด  ธีร์รับไว้แล้วมองหน้า
“พี่นุ...ผม...”
“ยังไม่ต้องพูดหรอก...ไปล้างหน้าล้างตาก่อนไป...”  ผมบอกแล้วธีร์ก็เดินไปล้างหน้าที่ห้องน้ำ
“เป็นไง...เกิดศึกชิงนายจนได้นะมึง...” ไอ้กิ๋วพูด
“ใครจะไปรู้ว่ามันจะเกิดขึ้นวะ...ก็คิดว่าเจมส์มันจะวู่วามขนาดนี้”
“แล้วยังไงทีนี้...คงเลือกได้ซะทีนะ...ไอ้เจมส์เองก็คงตัดไปได้แล้ว...ก็คงเหลือแต่ไอ้ธีร์แล้วที่นี้...มึงจะเอาไงวะนุ”
“กูก็กำลังคิดอยู่...”
“มึงควรได้คำตอบแล้วไม่ใช่มามัวคิดเอาตอนนี้...ความรู้สึกคนไม่ใช่สิ่งที่จะเอามาล้อเล่นนะเว้ยไอ้นุ...” ไอ้กิ๋วบอก
ผมพยักหน้ารับ  สักพักธีร์ก็เดินออกมา....ใบหน้าสะอาดขึ้น ไรผมเปียกระหน้าผาก แสดงให้เห็นว่าเพิ่งจะล้างหน้าล้างตา แต่ปากยังบวมเจ่อ โหนกแก้มแดงช้ำเพราะโดนเจมส์ต่อยไปหลายหมัด
“งั้นกูกลับก่อนนะ..ป่านนี้วันเกิดไอ้ปอยวงแตกไปแล้วมั้ง...” ไอ้กิ๋วพูดแล้วลุกไป
“ฝากขอโทษปอยมันด้วยแล้วกัน...” ผมบอกแล้วหันมามองคนข้างๆแต่ก็ยังไม่พูดอะไร...ผมจูงมอ’ไซด์ไปจอดแอบไว้ที่หน้าตึกล๊อกคอเรียบร้อยแล้วเดินกลับมาหาธีร์ที่นั่งมองผมตาละห้อยอยู่
“ไปเหอะ...ขับรถไปส่งไหวมั้ยเนี่ย...” ได้ยินผมพูดธีร์ถึงยิ้มออกมาได้  เดินไปลูบโหนกแก้มตัวเองไป
“เจ็บมั้ยนั่นน่ะ...”
“เจ็บสิครับ...เจ็บแต่คุ้ม...”  ธีร์พูดแล้วหันมายักคิ้ว  ผมชะงักเมื่อธีร์เดินเข้าใกล้ผมเห็นธีร์ขอบตาคล้ำเหมือนคนไม่ได้นอนมาทั้งคืนตาเรียวเล็กคู่นั้นแดงระเรื่อ
“แล้วทำไมไม่สู้เจมส์มันบ้าง...ปล่อยให้เค้าต่อยอยู่ได้....” 
“ไม่รู้จะสู้ทำไมครับ...กลัวจะเป็นอันธพาลในสายตาพี่นุเข้าไปอีก...ซวยคูณสองเลยทีนี้...”  ธีร์บอก  แล้วผมเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งแล้วขับรถไปส่งผมที่หอ...ผมไขกุญแจเปิดประตูเข้าไปในห้อง...ธีร์นั่งลงที่เตียงผมเดินไปเอาน้ำแข็งแล้วห่อด้วยผ้าส่งให้ธีร์ประคบบริเวณที่ถูกต่อย...
“ไม่ได้เจอกันตั้งสามวัน...พี่นุคิดถึงผมมั้ยครับ...”  ธีร์พูดแล้วทำแววตาน่าสงสาร...แต่ผมยังคงทำโน่นทำนี่ไปเรื่อยเป็นการกลบเกลื่อนจะดูสิว่าธีร์จะพูดอะไรต่อไป...
“ผมคิดถึงพี่นุมากเลยนะครับ...ผมลองคิดตามที่พี่นุบอกแล้วนะครับ...ผมคิดถึงพี่นุจริงๆ...”  ผมวางมือจากสิ่งที่ทำอยู่แล้วเดินไปนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงหน้าธีร์แต่ก็ยังไม่พูดอะไร...ธีร์ก้มหน้ามองผมพยายามมองเข้ามาในแววตา
“พี่นุจะไม่พูดอะไรซักคำเลยหรือครับ...ผมอึดอัดจะตายอยู่แล้ว...อยู่ห่างกันแค่นี้แต่ผมกอด...ผมจูบ..ผมหอมพี่นุไม่ได้มันก็ไม่ต่างจากอยู่ไกลกันคนละสุดขอบโลกเลยนะครับ...”
“พี่นุใจร้ายกับผมมากเลยนะครับ...รู้มั้ยว่าผมทรมาน...พี่นุจะทรมานผมไปอีกนานแค่ไหนครับพี่นุ..”
“ธีร์จำที่พี่เคยพูดกับธีร์ได้มั้ย...” ผมพูดหลังจากที่เงียบฟังอยู่นาน
“ได้สิครับ....พี่นุบอกว่าสิ่งที่พี่ต้องการมากที่สุดคือความรักที่จริงใจ มั่นคง...”
“ใช่ธีร์....มันเป็นสิ่งเดียวที่พี่ต้องการ...เพราะถ้าพี่ตัดสินใจแล้ว ก็หมายความว่าพี่มั่นใจแล้ว”   
“ผมรักพี่นุนะครับ....หัวใจของผมเป็นของพี่นุคนเดียว”
“กายด้วย ไม่ใช่หัวใจอย่างเดียว..พี่คงทนไม่ได้หากความรักที่ได้ต้องถูกแบ่งให้คนอื่น” ผมเสียงเข้ม  ธีร์เอื้อมมือมากุมมือผมแล้วก้มหน้าลงจนจะชิดหน้าผมแต่แล้วก็ต้องสะดุ้ง...ซี๊ด..ปากซะก่อน...
“สมน้ำหน้า....อยากเรียกคะแนนสงสารดีนัก..”  ผมแซว  ธีร์เอามือไปกุมที่ปาก
“ถ้าไม่เรียกคะแนนสงสารแล้วผมจะได้ใจพี่นุเหรอครับ...”  ธีร์เปลี่ยนมาทำเสียงร่าเริงทันที
“ใคร...ใครบอกว่าให้หัวใจไปแล้ว...ขี้ตู่...คิดเอาเองรึเปล่า...พี่ยังไม่ได้อะไรซักหน่อย..” ผมทำหน้าตาย
“อ้าว...ได้ไงอ่ะพี่นุ...ก็เมื่อกี้พี่นุบอกว่า...”
“ถึงบอกว่าจะคบ...แต่ก็ยังไม่ได้หมายความว่าเป็นแฟนกัน....เกิดดีแตกขึ้นมาก่อนใครจะรับผิดชอบ...เพื่อนแต่ละคนแสบๆทั้งนั้น...พากันไปดีๆทั้งนั้นโดยเฉพาะเจ้าแบงค์..”
“ผมเลิกหมดแล้วจริงๆน๊าค๊าบบบ...พี่นุ...” ธีร์ทำเสียงอ้อน
“นั่นแหละ..จะไม่ตกลงกันก็ได้นะไม่ได้ว่าอะไรก็ถือซะว่าคนเหงาสองคนมาเจอกันธีร์ก็คงหาใหม่ได้ไม่ยากอยู่แล้วนี่”
“น่านน...งอนผมอีกแล้ว...”
“ไม่ได้งอน...แต่พูดจริงๆถ้าระหว่างคบกันอยู่ในสถานะแบบนี้แล้วธีร์เกิดดีแตกขึ้นมา...อย่าหวังไปถึงคำว่าแฟนเลย..
แม้แต่ความเป็นเพื่อนธีร์ก็จะไม่ได้นะ...ขอบอก...”
“ใจร้าย....”  ธีร์ยังพูดคำเดิมที่ชอบว่าผมเหมือนเคย
“ก็บอกแล้วว่าใจร้าย...ใครใช้ให้มาชอบล่ะ...”  ผมยักไหล่ ทำท่าไม่ใส่ใจ
“ไม่ได้ชอบสักหน่อย...” ธีร์พูดผมรีบหันขวับไปมองหน้าธีร์ที่นั่งกอดอกอมยิ้มอยู่
“อ้าวถ้าไม่ได้ชอบแล้วมาบอ.....” ยังพูดไม่จบธีร์พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน
“ไม่ได้ชอบ...แต่รักไปแล้วต่างหาก...”


เมฆก้อนใหญ่ดำทะมึนลอยต่ำ ฝนตั้งเค้ากำลังจะตกในไม่ช้า ลมเริ่มพัดแรงสายฝนเริ่มโปรยปราย
“ไอ้เจมส์...มึงจะยืนทำมิวสิคแบบนี้อีกนานมั้ยวะ...ฝนเริ่มตกแล้วนะเมิง...”  ไอ้เต๊ะนั่งโวยวายอยู่บนรถจอดรถชิดขอบสะพาน....เจมส์ยืนเกาะราวสะพานเหม่อมองสายน้ำเบื้องล่าง...เจมส์ยังอยากจะยืนอยู่อย่างนี้ไม่ไปไหน ละอองฝนที่พร่างพรมทำให้ผิวถนนว่างเปล่าส่องเป็นประกาย
“อย่าคิดสั้นนะเมิง...กูกลัวผีนะเว้ย...” ไอ้เต๊ะเอามือป้องใบ้หน้าเดินเข้ามายืนข้างๆไอ้เจมส์  เจมส์หลับตาลง...คิดถึงคนที่เคยอยู่ในอ้อมกอด ...คนที่เคยกระซิบกระซาบคำบอกรักกัน...สัมผัสกายแน่นๆ ของคนที่เขารัก แต่เจมส์รู้ดี...เมื่อลืมตาขึ้น ภาพที่อยู่ในหัวก็จะมลายไปสิ้น สิ่งที่เหลืออยู่ที่จะมองเห็นคือโลกแห่งความจริง...ความจริงที่ต้องอยู่คนเดียว...ความจริงที่ว่าชีวิตมันว่างเปล่าเหลือเกิน...



“คืนนี้ผมขอนอนที่นี่ไม่ได้เหรอครับพี่นุ...”  ธีร์ทำท่างอแงขืนตัวหลังจากที่ผมพยายามฉุดมือธีร์ให้ลุกขึ้นจากเตียง
“ไม่ได้...กลับไปนอนที่หอตัวเองเลยไป๊.....” ผมฉุดอย่างสุดแรงแต่ธีร์ก็ขืนตัวอย่างสุดแรงเหมือนกันแล้วแกล้งล้มลงบนที่นอน...นอนหดแขนหดขาไม่ให้ผมดึงได้...
“โธ่!พี่นุ ผมเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ง่วงนอนเหมือนกัน รู้ไม๊สองคืนที่ผ่านมาแทบไม่ได้นอนเลย ห่วงพี่นุ คิดถึงพี่นุจนนอนไม่หลับเลย...” ธีร์พูดจริงจัง
“ไม่ต้องมาปากดีเลย...”
“นะพี่นุ...ขอผมนอนด้วยหน่อย บนพื้นก็ได้...ไม่บ่นหรอก...รับรองความปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีตุกติก ด้วยเกียรติของเด็กนิเทศฯเลย... ถ้าพี่นุไม่มั่นใจมัดผมไว้ด้วยก็ได้”
“จะนอนทั้งๆที่ไม่อาบน้ำเนี่ยนะ...” 
“งั้นเดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อน...”
“เสื้อผ้าไม่มีเปลี่ยน....” ผมหาข้ออ้าง
“ผมใส่ของพี่นุก็ได้....”
“อ๊ะ..ได้ไง...
“งั้นผมก็จะนุ่งผ้าเช็ดตัวนอนแทน...”  ธีร์พูดแล้วเหล่ตามองยิ้มๆ
“ตามใจละกัน...เถียงคำไม่ตกฟาก...” ผมพูดแบบฉุนๆแล้วเดินออกไปที่ระเบียงแล้วแอบอมยิ้ม...เสียงฝักบัวดังซ่าอยู่พักใหญ่...เอาหล่ะ...คืนนี้คงต้องนอนห้องเดียวกันกับธีร์เป็นครั้งแรกเสียแล้ว..ผมคิดในใจ...ผมกลับเข้ามาในห้องธีร์นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว แผ่นอกเปลือยเปล่าเดินออกมา...นั่งดูทีวีอยู่...ผมส่ายหน้าเบาๆแล้วเดินไปหยิบเสื้อยืดกับกางเกง
ขาสั้นส่งให้ธีร์...
“ขอขาสั้นตัวเดียวก็พอครับพี่นุ...”
“แล้วใครเค้าให้สองตัวล่ะ...”  ผมกวนบ้าง
“พี่นุ...” ธีร์หันมามองผมงอนๆแล้วตามด้วยคำพูดเดิม...
“ใจร้าย...”   ผมมองธีร์เคืองๆแล้วเดินไปหยิบที่นอนปิกนิกกับหมอนออกมาปูให้ธีร์...
“พี่ปูที่นอนให้แล้วนะ...”  ผมบอกแล้วกระโดดขึ้นไปบนเตียงประมาณว่ากลัวโดนแย่ง
“ครับ” ธีร์พยักหน้าช้าๆ ตายังจับจ้องดูทีวี  ผมเริ่มฉุนคนที่กำลังพยายามเล่นเกมกวนประสาท
“แล้วไม่ใส่เสื้อผ้าหรือไง...นั่งโชว์หุ่นอยู่ได้...”  ผมถาม  ธีร์ส่ายหน้าช้าๆยังคงมองทีวีอยู่อย่างสนใจ  ผมหรี่ตามอง สงสัยว่าธีร์จะมาไม้ไหนในใจอดนึกไม่ได้ว่าธีร์อาจจะกำลังงอน น้อยใจที่ผมบอกให้นอนพื้นก็ได้...
“นี่ดึกใกล้เวลานอนแล้ว...ง่วงนอน...พรุ่งนี้ยังต้องไปเรียนอีก”  ผมพึมพำ
“พรุ่งนี้วันเสาร์นะครับพี่นุ...” ในที่สุดธีร์ก็พูดขึ้นมาหันหน้ามาทำตากรุ้มกริ่มจนผมหลบตารู้สึกขัดเขินบอกไม่ถูก
ธีร์ก็คือธีร์คนเดิมกวนอารมณ์...ชอบยั่วเย้า...เจ้าเล่ห์เป็นที่สุดที่สำคัญตอนนี้นั่งอยู่ใกล้ๆผม  ธีร์ในสภาพเช่นนี้เพียงปลดผ้าขนหนูออกธีร์ก็เปลือยกายแล้วอยู่ใกล้กันขนาดนี้ทำให้หัวใจผมเต้นแรง ใจหนึ่งก็นึกกังวลว่าคืนนี้ธีร์จะทำอะไร    อีกใจหนึ่งก็ตื่นเต้นว่าสงสัยคืนนี้ผมคงจะไม่รอด...มีหรือธีร์จะนอนอยู่เฉยๆ...
“งั้นพี่นอนก่อนนะ...”  ผมพูดเบาๆ ก่อนเอื้อมมือไปปิดไฟหัวเตียงเหลือไฟบางดวงเปิดทิ้งไว้ผมดึงผ้าห่มคลุมถึงคอ นอนตะแคงหันหน้าไปทางประตูกระจกเลื่อนที่เปิดออกสู่ระเบียง  เสียงธีร์ปิดทีวีแล้วเดินเอาผ้าเช็ดตัวไปตากที่ระเบียงน่าจะใส่กางเกงขาสั้นแล้วนะ...ผมเดาเอา...ธีร์เดินเข้ามาใกล้ๆผม..
 “ราตรีสวัสดิ์ครับ ผมอยากจูบราตรีสวัสดิ์แต่พี่นุคงไม่ยอม”  ธีร์พูดเสียงนุ่มแล้วเอื้อมมือมาปิดไฟที่แผงควบคุมไฟข้างหัวเตียง...ชิ...ทำเป็นไม่กล้าจูบทำอย่างกะไม่เคยทำ..จะหลอกผมให้ตายใจล่ะซี๊...
“นอนหลับฝันดีนะครับพี่นุ....ฝันถึงผมด้วย...”  ธีร์กระซิบเบาๆข้างหูผมด้วยคำพูดที่คุ้นเคย...แล้วเดินกลับไปนอนที่พื้นแล้วเอนตัวลงนอน ดึงผ้าหุ่มขึ้นคลุมถึงหน้าอกกว้างแกร่ง...ธีร์นอนลืมตาโพลงในความมืด ในใจคิดคำนึงถึงคนที่นอนอยู่ใกล้ๆ ความรู้สึกเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข...คืนนี้...ได้นอนอยู่ในห้องเดียวกัน ใกล้กันเสียจนมือเอื้อมถึงได้...

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
สงสารเจมส์..ยิ่งแข่งยิ่งแพ้  :mew6:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
หลงรูปหลงกลิ่น
แล้วจะเสียใจไม่รู้ตัวนะพี่นุ

รักเธอทั้งหมดของหัวใจ#เจมส์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่  18_คนคนเดียว(กัน)...


   กลางดึก เสียงแอร์ยังดังอย่างต่อเนื่องผมขยับจะพลิกตัวจากการนอนตะแคงขวา แต่รู้สึกว่าถูกตรึงไม่ให้ขยับตัวได้ แผ่นหลังพิงกับอะไรสักอย่างอุ่นๆ มีแขนของใครกอดผมไว้แน่น ผมงัวเงียรู้สึกตัว...มีใครอยู่บนเตียงของผม...ผมกำลังถูกกอด!...ธีร์!!!!!
“ธีร์...ปล่อยนะ...”
“ฮื่อ...” ธีร์เสียงอู้อี้ หน้าซุกอยู่กับต้นคอของผม ลมหายใจอุ่นราดรดจนผมรู้สึกสะท้าน ธีร์ส่ายหน้า พลางกระชับอ้อมแขนให้แน่นเข้า ขยับตัวผมมาชิดมากขึ้น
“ธีร์...ปล่อย...”
“ไม่...”  ผมเริ่มขยับดันตัวออกห่าง แขนแข็งแรงของธีร์ยังรัดแน่น เบียดตัวเข้ามาชิด ขาสอดเข้ามาระหว่างขาของผมเกี่ยวพันเอาไว้ ผมรู้สึกถึงความร้อนผ่าวกำลังบดแนบต้นขาด้านหลัง
“ธีร์ลงไปเดี๋ยวนี้เลย...เราตกลงกันแล้วนะ...” ผมเริ่มดิ้นพยายามหนีการถูกรุกรานตอนกลางดึก
“พี่นุอย่าดิ้นสิ....”
“ปล่อยนะ....”
 “ไม่....”  ธีร์ไม่ยอมปล่อย...เขาง่วงและไม่อยากจะทนนอนคุดคู้อยู่บนพื้นอีกแล้ว
“ผมนอนไม่สบาย ขอกอดหน่อยสิครับ...”
“ไม่เอานะ...” ผมพึมพำเบาๆ ง่วงนอนเป็นที่สุด  ผมขยับศรีษะบนหมอนให้เข้าที่...ตอนนี้รู้สึกอบอุ่นเหลือเกิน...แม้อากาศจะเย็นชื้นเพราะหยาดฝนแต่ผ้าห่มนวมผืนใหญ่และแผ่นอกกว้างที่ผมนอนพิงอยู่ โอบรัดด้วยท่อนแขนแข็งแรงของธีร์ทำให้ผมรู้สึกอุ่นสบาย และไม่อยากขยับตัวอีกแล้ว
“พี่นุ...เป็นแฟนกับผมนะ...ผมรักพี่นุนะครับ...พี่นุรักผมบ้างนะ”  ธีร์กระซิบแผ่วเบา ซุกหน้าเข้ากับต้นคอของผม...


ผ่านไปอีกพักใหญ่ๆผมรู้สึกคอแห้งขึ้นมาจึงค่อยยกแขนของธีร์ออกจากตัวพลิกให้นอนหงายเบาๆแล้วลุกไปดื่มน้ำ  ผมเดินกลับมานั่งลงบนขอบเตียงมองชายหนุ่มหน้าตาคมสันที่กำลังหลับสนิทตรงหน้า  จมูกโด่งคม ปากเผยอนิดๆ หายใจสม่ำเสมอ อกหนากว้างขยับเป็นจังหวะ แขนแข็งแรงพับวางอยู่บนหน้าท้องแบนราบ อีกข้างแผ่กว้างบนที่นอน ผ้าห่มคลุมตั้งแต่เอวลงมา
คิดถึงเรื่องราวของเราตั้งแต่เริ่มต้น....ธีร์เว้าวอนขอคืนดีตั้งแต่เมื่อคืน...ผมเองก็ใจอ่อนและเช่นเดียวกัน ตอนนี้ผมก็กำลังมองอยู่ด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความ...
“ธีร์....”  ผมอุทาน เมื่อจู่ๆคนที่นอนหลับไหลก็ลืมตา ยื่นแขนแข็งแรงมาคว้าเขา ดึงตัวล้มลงทาบทับแผ่นอกแกร่งกำยำ
“ปล่อยนะ...”
“ไม่...”
“บอกให้ปล่อย....”
“คำก็ปล่อยสองคำก็ปล่อยตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว....ถ้าลองดิ้นอีกที ผมจะพลิกตัวขึ้นทับกดให้นอนลงบนที่นอนเดี๋ยวนี้”
ธีร์มองขึ้นมายิ้มๆ ตากรุ้มกริ่ม  ผมจ้องตาธีร์ไม่หลบ
 “คิดว่ากลัวเหรอ...”  เท่านั้นเอง...ธีร์ก็ตวัดร่างผมลงนอนบนเตียง ร่างของธีร์พลิกตัวขึ้นทับ บดเบียดตัวลงมาทับผมที่กำลังดิ้นอยู่ข้างล่าง
“ปล่อยนะ...”   ไม่รอดแล้วแน่ไอ้นุเอ๊ยยยย...เอาวะ...เป็นไงเป็นกัน
“ไม่....” ธีร์พูดสั้นๆ แล้วก้มหน้าลงมาประกบปากของคนที่กำลังถูกรังแก...ปิดปากไม่ให้พูด..ผมยังดิ้นไม่หยุด...แม้จะแทบขยับตัวไม่ได้...ร่างของธีร์กดทับผมไว้เหมือนจะจมหายลงไปในที่นอน มือทั้งสองดันหน้าอกของธีร์ไว้ ใบหน้าส่ายไปมาแต่ก็ไม่พ้นจากการถูกคุกคาม พยายามยกสองขาขึ้นดันแต่ถูกขาแข็งแรงของธีร์เกี่ยวกระหวัดรัดเอาไว้แน่น
ผมหายใจไม่ออก พยายามเบี่ยงหน้าหลบธีร์เพื่ออ้าปากสูดลมหายใจที่กำลังจะขาดห้วง
“ธีร์......”
“พี่นุ..พี่นุครับ เป็นของผมเถอะนะ”   ธีร์สอดมือเข้าไปใต้เสื้อยืดสีขาวของผมลูบไล้ผิวกายส่วนมืออีกข้างหนึ่งอ้อมไปด้านหลัง เกาะกุมบั้นท้ายเกร็งแน่นของผมแล้วบีบเค้นเบาๆ  ก่อนที่ผมจะบิดตัว แอ่นร่างเมื่อปลายนิ้วของธีร์เขี่ยจุดเล็กๆ บนหน้าอกที่ไวต่อความรู้สึก ลิ้นของธีร์สอดเข้าไปในหูของผม ตวัดดุนแล้วเม้มติ่งหูนุ่มๆ จนต้องส่ายหน้าไปมา มือดันอกกว้างบึกบึนของธีร์ให้ออกห่าง แต่อีกฝ่ายไม่ยอม กลับบดเบียดตัวเข้าแนบชิดมากกว่าเดิม
“พี่นุครับ ผมจะไม่ไหวอยู่แล้ว...” ธีร์เสียงกระเส่า มือที่อยู่ด้านหลังสอดเข้าไปในกางเกงของผม นิ้วสอดไล้เข้าไปในจุดที่เขาโปรดปรานที่สุด ผมสะดุ้งเฮือก มือที่เคยผลักหน้าอกเปลี่ยนเป็นขย้ำราวจะหาที่ยึด  ธีร์ส่งเสียงครวญครางอยู่ในลำคออย่างชอบใจ บดปากเข้ากับปากอิ่มเต็มของผมแล้วสอดลิ้นเข้าไป    ไม่นานทั้งผมและธีร์ก็อยู่ในสภาพเปล่าเปลือย  สองร่างบดเบียดเข้าหากันจนเกือบกลายเป็นเนื้อเดียว เกลือกกลิ้งไปหาบนที่นอนนุ่มสบาย เสียงครวญครางสอดประสานกัน

“พี่นุ ผมจะขาดใจอยู่แล้ว อย่าทรมานกันเลยครับ...” ธีร์ขอร้องเสียงกระเส่า

“พี่นุครับ....”  ธีร์หลับตาพริ้ม กลั้นหายใจ ผมหยอกล้อด้วยปลายลิ้นจนธีร์แทบดิ้นพรวดพราด  สะดุ้งเฮือก สูดปากเสียงลั่น หน้าท้องแกร่งเด้งขึ้น ธีร์พลิกตัวขึ้นมาอยู่บนตัวผมแล้วแทรกไปอยู่ตรงกลาง....

“อูยซซซ ดะ...เดี๋ยวนะธีร์...” ผมเอามือมาดันหน้าท้องของธีร์ไว้

“พี่นุอย่าเกร็งสิครับ...” ธีร์กระซิบ...

“พี่นุที่รัก....ผมรักพี่นุนะครับ...พี่นุเป็นของผมนะ” ธีรครางเสียงกระเส่า

“ธีร์....”   ผมเสียงขาดห้วง มือเปลี่ยนจากการผลักหน้าอกแฟนหนุ่มเป็นโอบรัดต้นคอ

“พี่นุ อย่าหลับตานะครับ...”  ธีร์ล้อเล่นยิ้มๆ

 “ฮื่อ...ธีร์...แน่น..”  ผมร้อง กัดฟันแน่น

“เมื่อกี้ไม่เห็นบ่น....”  ธีร์เสียงกระเส่า 

“ธีร์...สงสารพี่บ้างนะ”  ผมบอก...ธีร์ยิ้มหวาน

“พี่นุ ผมเร่งแล้วนะ...” ธีร์ก้มหน้าลง เม้มติ่งหูของผมสลับกับไล้ลิ้นโลมเลีย

“นะครับ นะ นะ”

“พูดอยู่นั่นแหล่ะ....จะทำ...อะไร...ก็...ทำ...โอ๊ย” สิ้นเสียง ธีร์ขยับตัวเร่งแรงและเร็วขึ้น สลับกับบดเบียดเชื่องช้าให้โอกาสผมได้หายใจพัก ก่อนจะพาผมทะยานไปด้วยกัน เสียงร้องผสมผสานกับเสียงหอบหายใจถี่กระชั้น ต่างฝ่ายต่างเรียกชื่อกัน พร่ำรำพันถ้อยคำต่างๆ ขยับลีลาท่วงท่าพลิกแพลง ทำราวกับว่าบนเตียงเป็นสมรภูมิรบที่ต้องกระหน่ำแทงห้ำหั่นกันให้ขาดใจตายกันไปข้างหนึ่ง 
 
“ธีร์...เร็วๆ สิครับ...พี่...จะไม่ไหวแล้ว”  ผมเรียกคนรัก หอบหายใจถี่ราวกับอากาศรอบข้างกำลังจะหมดไป ต้องอ้าปากกว้างสูดเข้าไปเพื่อต่อชีวิต   
 
“พี่นุครับ....ผมรักพี่นุที่สุด...พี่นุรักผมไม๊ครับ”  ธีร์ออดอ้อน ผมส่ายหน้า หลับตาปี๋ หอบหายใจแรง

“นี่แน่ะ...” ธีร์ยิ้มมุมปากแล้วทำโทษผมที่ไม่ยอมรับว่ารักเขา แล้วเร่งจังหวะเร็วขึ้น
 
“รักไม๊ครับ...”  ผมพยักหน้า ทุกอย่างดำเนินต่อไปจนในที่สุด..........

ธีร์จึงค่อยปล่อยขาผมวางลงกับที่นอนแต่ส่วนนั้นของธีร์ยังตรึงแน่นอยู่ในตัวผมอยู่แล้วทาบตัวลงประกบกับผม...จุ๊บที่ปลายจมูกชื้นเหงื่อเบาๆ
“มีความสุขมั้ยครับพี่นุ....”  ธีร์โอบกอดผมไว้อยู่หน้าซุกอยู่ตรงซอกคอ
“สุข...จนจะออกปากอยู่แล้วละ...ธีร์...” ผมหอบเบาๆกอดธีร์แน่น จนกระทั่งลมหายใจเข้าสู่ปรกติ...
“ต่ออีกมั้ยครับ...” ธีร์ซุกไซ้อีกครั้ง 
“เอาออกไปนะ...” ผมสั่ง
“ไม่...”
“ฮื่อ...ธีร์....”
“ได้เค้าแล้วจะให้เค้าออกเร็วๆได้ไง....ขออยู่ต่อนานๆหน่อยนะครับพี่นุ...”  ธีร์ยิ้มวาบหวามแล้วดึงตัวผมเข้าไปกอดแน่นขึ้นก่อนจะอุทธรณ์เสียงอ่อนเมื่อผมขยับตัวหนีจากส่วนนั้นของธีร์
“...ฮื่อ...พี่นุ...รีบออกทำไมล่ะครับ...”
“เจ็บ...”
“เจ็บจริงเหรอ....เมื่อกี้ครางเสียงหลงบอกว่าชอบ บอกว่าเร็วๆ แรงๆ”  ธีร์เย้าก่อนจะรีบพลิกตัวออกห่างเพราะรู้ทันผมที่รีบหันมาเงื้อมือเตรียมฟาดคนปากดี
“กวนอยู่ได้..” ผมพึมพำ ยันตัวลุกขึ้นนั่ง
“ก็คนมันรักนี่ครับ....รักหรอกถึงหยอกเล่น...รู้ไม๊ ถ้าไม่รักผมไม่ยอมให้รีดน้ำจนหมดตัวหรอก...โอ๊ยย...” คราวนี้ธีร์หนีไม่พ้น พูดเสร็จจึงต้องร้องลั่นเพราะผมโถมตัวเข้าหา ฟาดฝ่ามือทั้งสองข้างบนหน้าอกกว้างแกร่ง แล้วฟาดซ้ำอีกครั้งจนคนหวงน้ำหงายหลังลงกับพื้น หากไม่ยอมแพ้ดึงตัวผมตามลงไปด้วย
“ฤทธิ์มากนัก เดี๋ยวก็โดนแทงอีกรอบ”  ธีร์ขู่
“ก็ลองดูสิ...” ผมไม่ยอมเหมือนกัน
“ขอพักซักห้านาทีนะ..” ธีร์ต่อรอง
“ไม่มีน้ำยา ห้านาทีเลยเหรอ เก่งจริงทำตอนนี้เลยสิ...”
“อ๊ะ อ๊ะ อย่ามาท้านะ...”
 “...ธีร์....ง่วงแล้วปล่อยทีเถอะ”  ผมเลิกเล่นกับธีร์ ยอมนิ่งปล่อยให้ธีร์กอดผมแน่น
“บอกก่อนสิว่ารักผมและขอโทษที่สบประมาท....บอกว่าพี่นุจะไม่พูดแบบนี้อีกแล้ว”  ธีร์เสียงนุ่ม
 “ไม่...”
“งั้นก็โดน...”  ธีร์ทำตาลุกวาบ ขยับตัวจะพลิกผมให้นอนราบกับที่นอน
“นี่มันดึกแล้วนะธีร์...พี่ง่วงนอนแล้ว..” ผมทักท้วง  ทำปากยื่นอย่างไม่พอใจ
“ถ้าง่วงก็หลับไป ผมทำของผมเอง” ธีร์หัวเราะ ไม่ยอมเลิกหยอกล้อเลียนผม
“รักพี่นุจัง....รัก รัก รัก”
“รู้แล้ว...แล้วนี่จะลุกได้หรือยัง...” ผมพูด  ธีร์ก้มจูบผมอย่างเร่าร้อนอีกครั้งแล้วดึงตัวผมให้ลุกขึ้นเข้าไปในห้องน้ำ
“งั้นผมไปอาบน้ำด้วยคนนะ”  ผมมองร่างเปลือยเปล่าของธีร์ที่ยืนอยู่ข้างเตียงแล้วก็เบือนหน้าหนี ถึงแม้ว่าบางส่วนมันจะสงบลงแล้ว...ผมรู้สึกเขินอายขึ้นมาทันทีที่จู่ๆเราต้องมาอาบน้ำด้วยกันสองต่อสอง แถมยังหลังจากที่เพิ่งเสร็จสิ้นการมีอะไรด้วยกันอีก  ผมเปิดฝักบัว...ธีร์ก้าวตามผมไปยืนอาบน้ำอยู่ใต้ฝักบัวด้วยกัน  ธีร์พยายามจะช่วยผมด้วยการฟอกเนื้อฟอกตัวให้ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ...ธีร์ดึงสบู่เหลวไปจากมือผมเทลงบนฝ่ามือ แล้วละเลงทำความสะอาดให้ผมทั่วตัว อ้อยอิ่งเนิ่นนานอยู่แถวร่างกายท่อนล่างของผม  ธีร์ทำหน้าทะเล้นมองผมด้วยดวงตายวนยั่วแล้วใบหน้าหล่อเหลาก็ก้มต่ำลงมาแนบชิดกับใบหน้าของผม ธีร์ใช้สองนิ้วเชยคางผมแหงนหงายขึ้นเพื่อรับจุมพิตจากธีร์แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามธรรมชาติเรียกร้อง

"พี่นุ...เป็นของผมแล้วนะ...."

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เค้ามีอะไรกันแล๊ว..วววววววว    :hao7:

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เค้ามีอะไรกันแล๊ว..วววววววว    :hao7:
   นี่เซนเซอร์แล้วนะคับเนี่ย...ไม่งั้นอ่านไปเลือดกำเดากระฉูด..555

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ขอให้โชคดีขอให้มีความสุข


เจมส์ป่ะกลับบ้านเราเหอะ
จะไม่หวนกลับมาเช็ดน้ำตาให้ใคร

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่  19_ความหวังดีของมือที่สาม...


   ผมบอกตัวเองว่าต้องอดทน ต้องหนักแน่น ต้องมั่นคง ในเมื่อยอมรับธีร์เป็นแฟนแล้วถึงจะยังไม่ออกจากปากแต่โดยพฤตินัยก็คงเลี่ยงคำนี้ไปไม่ได้ก็ต้องเชื่อใจกัน แต่อีกเสียงหนึ่งในหัวก็ยังรบกวนผมเป็นบางครั้ง...คนที่เคยเจ้าชู้ จะ “เลิก” ได้จริงๆ หรือ....ผมเคยได้ยินใครก็ไม่รู้พูดไว้ว่า คนที่เจ้าชู้นั้น มันเหมือนฝังอยู่ในสายเลือด ต่อให้ลดหรือเลิกไป ก็เพียงชั่วขณะหนึ่งเท่าน้น จะช้าจะนาน สักวันก็จะกลับเป็นเหมือนเดิม ความจริงก็คือว่า ใครเคยเป็นอย่างไรก็มักจะยังคงเป็นอย่างนั้น คนบางคน หรือแทบจะทุกคน เปลี่ยนแปลงได้ยากจริงๆ หรือบางทีอาจจะไปเปลี่ยนเลย คนที่บอกเลิกเจ้าชู้ไม่แน่อาจจะมีเผลอไผล ออกนอกลู่นอกทางไปบ้าง  ผมถามตัวเอง...หากธีร์เป็นเช่นนั้นเล่า...ผมจะยอมรับได้หรือไม่... คำตอบสำหรับเรื่องของผมกับธีร์ไม่ใช่บทสรุปแต่มันกำลังจะเริ่มต้นต่างหาก...ทางข้างหน้าอาจจะไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่อย่างน้อยผมก็ยังอุ่นใจที่มีใครเดินเคียงข้างคู่ไปกับผมถึงแม้มันอาจจะไม่ตลอดไปแต่แค่เพียงช่วงหนึ่งของความทรงจำก็ยังดี....
“แหม...ไอ้นุไปทำอะไรมาวะดูมีน้ำมีนวล...สงสัยได้ยาดียี่ห้อไอ้ธีร์มาละสิเมิงงงงง....” พอเห็นผมเดินเข้าไปไอ้กิ๋วก็ตะโกนแซวแต่ไกล...ผมนั่งลงตรงข้ามมันแล้วมองไปรอบๆเห็นน้องหลีดกำลังวิ่งอยู่..เจมส์หันมามองผมแว่บนึง    ตอนวิ่งผ่านตรงที่ผมนั่ง...
“เจมส์มันเป็นยังไงมั่งวะ...” ผมหันไปถามไอ้กิ๋ว
“ก็อย่างที่เห็น..ตั้งแต่มันมากูยังไม่เห็นมันพูดจากะใครเลย...นั่งทื่อเป็นสากกะเบืออยู่...”
“มะรืนนี้จะแข่ง...งานจะล่มมั้ยว่ะ...กูกลัวว่ะไอ้กิ๋ว...”
“คงไม่ม้าง...กูว่ามันน่าจะแยกออกระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวนะเว้ย...”
“กูก็หวังไว้อย่างนั้น...มึงว่า...กูควรจะพูดอะไรกับเจมส์มันหน่อยมั้ยวะ...”
“มึงจะพูดอะไรล่ะ... พูดอีกจะเป็นการซ้ำเติมมันป่าว....”
“แต่กูก็เป็นห่วงความรู้สึกมันนะเว้ย...กูก็รู้ว่ามันรู้สึกยังไงกับกู...แต่กู....”  ผมพูดแล้วหยุด
“มึงก็ไม่น่าไปให้ความหวังมันตั้งแต่แรก...แต่ละอย่างอ่ะมึงทำให้มันคิดเข้าข้างตัวเองทั้งนั้นว่ามึงก็ชอบมันอ่ะ...ยอมให้กอดงี๊ ...ยอมให้จูบงี๊...เป็นกู..กูก็คิดวะ...”
“กูยอมรับว่าแรกๆกูก็รู้สึกดีกับมันนะ...แต่คนไม่ใช่อ่ะยังไงมันก็ไม่ใช่...มึงเข้าใจมั้ย???...”   
“แล้วมึงรู้สึกว่ามันไม่ใช่ตอนไหนล่ะ...ตอนที่ไอ้ธีร์เข้ามาใช่มั้ย??....แล้วทำไมมึงไม่บอกมันตั้งแต่ตอนนั้นวะปล่อยให้มันเรื้อรังมาซะขนาดนี้...กูถามจริง...ถ้าไม่มีไอ้ธีร์...มึงจะเลือกไอ้เจมส์มั้ย...”
“ถึงธีร์ไม่เข้ามาในชีวิตกู...กูกับมันก็ไปด้วยกันไม่ได้อยู่ดีแหละ...กูยอมรับว่ากูผิดที่ไม่อยากเสียใครไปซักคนแต่กูผิดหรือวะที่กูไม่อยากเสียเพื่อนดีๆไปซักคนอ่ะ...”
“แต่นี่มันไม่ได้คิดเป็นเพื่อนกะมึงเลยซักคนนี่ไงไอ้นุ...มันรักมึงแบบคนรักทั้งสองคนเลยไง...กูรู้ว่ามึงไม่เคยบอกอะไรกับไอ้เจมส์หรอกแต่บางทีการกระทำของมึงอ่ะทำให้มันหวั่นไหวเอาการอยู่นา...”
“แต่ยังไงกูก็ต้องขอปรับความเข้าใจกับมันหน่อยว่ะ...ส่วนมันจะเข้าใจกูหรือเปล่าก็เป็นเรื่องของเจมส์มันเพราะกูถือว่ากูได้พูดไปแล้ว....มึงว่าดีมั้ย...”
“ก็ดี...เคลียร์ชัดๆไปทีเดียวจะได้จบ...แล้วนี่ระหว่างมึงกับไอ้ธีร์...คือ....ยังไง...” ไอ้กิ๋วถามแล้วเหล่ตามอง
“ก็...ไม่ยางงาย...” ผมตอบอย่างอายๆ
“ไม่ยังไงอ่ะคือยังไง...สรุปคือรับไอ้ธีร์เป็นแฟนเรียบร้อยโรงเรียนจีน...”
“ไม่อ่ะ...กูก็ยังไม่เคยรับปากว่าจะเป็นแฟนนะ..ก็ขอดูความประพฤติกันไปก่อน...เกิดดีแตกขึ้นมากูจะได้กลับไปตั้งหลักทัน...”
“กลัวเสียตัวฟรีว่างั้น...ระวังเถ๊ออ...ข้อตกลงเยอะมากๆแบบนี้..ไอ้ธีร์มันทนไม่ไหวแล้วอย่ามานั่งน้ำตาตกนะเมิง...”
“กูบอกแล้ว...ทนไม่ไหวก็บอก...จะได้ไม่ต้องถลำลึกกันไปมากกว่านี้...”
“อ่ะจ๊า....แล้วนี่มันไปไหนแล้วล่ะไอ้ธีร์น่ะ...”  ไอ้กิ๋วถามแล้วหันซ้ายหันขวามองหา
“ไปทำงาน...มีพรีเซ้นงานอาทิตย์หน้า...”
“ทำงานอีกแล้ว...เดี๋ยวก็ได้ไปลากคอมันกลับหออีกหรอก...คราวนี้กูไม่ไปด้วยแล้วนะเว้ย...”
“ก็ลองเมามาอีกดิเที่ยวนี้...จะได้กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้เลย...อย่าได้พบได้เจอกันอีก...”
“ทำให้ได้อย่างที่พูดละกัน...”




“ชุดมาแล้วพี่นุ...ช่างเค้าโทรเข้าเบอร์หนูเมื่อเช้าว่าให้ไปรับชุดได้เลย...หนูกะอีอิ่มก็เลยไปเอามา...” ปอย  อิ่ม  วุ้นและเดี่ยวช่วยกันแบกถุงชุดหลีดมาที่สนามแล้วหยิบส่งให้แต่ละคนแยกกันไปลอง...
“น้ำหนักหนูขึ้นอ่ะ...หนูจะใส่ได้มั้ยเนี่ย...สงสัยจะท้อง...” วุ้นพูดแล้วลูบพุงตัวเอง
“แหม...ท้องผูกสิอย่างมึงอ่ะอีผี....” เดี่ยวหันไปเอานิ้วชี้จิ้มหน้าผากจนวุ้นหน้าหงาย
“อีชิสุ...มึงรีบไปลองเลยอย่าสะดีดสะดิ้งให้มากนัก..เดี๋ยวโดนตีนกู...” ไอ้กิ๋วพูด
“แหม..พี่กิ๋วอ่ะ...พูดกับสุภาพสตรีศรีสยามพูดเพราะๆหน่อยก็ไม่ได้...” วุ้นแลบลิ้นใส่ไอ้กิ๋วแล้วเดินไปลองชุด  ผมเห็นเจมส์มันถือชุดไปลองให้ห้องน้ำผมเลยเดินตามเข้าไป...ผมเปิดประตูเข้าไปเจมส์กำลังถอดเสื้อยืดออกหันมามองผมอย่างตกใจ...


“พี่นุ....”  เจมส์เรียกชื่อผม...เบาจนแทบจะไม่ได้ยิน ผมเดินเข้าไปใกล้เจมส์เอาเสื้อยืดที่ถอดอยู่พาดไหล่โดยที่ยังเปลือยอกอยู่...ผมสูดลมหายใจให้เต็มปอดแล้วเดินเข้าไปยืนตรงหน้า
“เจมส์....ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย....”
“คนที่แพ้จะเป็นอะไรได้ละพี่นุ...นอกจากเจ็บอ่ะครับ...” เจมส์ตอบเสียงเศร้า
“เจมส์...พี่รู้ว่าพี่ผิด...ผิดที่คบกับเจมส์เป็นแฟนไม่ได้...ผิดที่ให้ความหวังเจมส์มาตั้งแต่แรก..”
“พี่นุไม่ผิดหรอกครับ...เพราะพี่นุไม่เคยบอกอะไรเกี่ยวกับความรู้สึกพี่นุซักอย่าง...พี่นุเองก็ไม่เคยบอกรักผมด้วยซ้ำ...
พี่นุพูดถูกแล้ว...เราห้ามจิตใจกันไม่ได้หรอก...เราบังคับมันไม่ได้...บางครั้งจิตใจคนเรามันอยู่เหนือการควบคุม...”
“เจมส์...พี่อยากให้เราคบกันเป็นเพื่อน..เป็นพี่เป็นน้องกันดีกว่านะมิตรภาพแบบนี้มันจะไม่บุบสลายไปไหน...ที่พี่เคยบอกเจมส์ว่าพี่ไม่อยากตัดสินใจก็เพราะพี่กลัวว่าถ้ามันไม่ได้เป็นอย่างที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคิดแล้วมันจะเสียมิตรภาพของเราไปแบบนี้ไง...พี่ไม่อยากให้เราเลิกคบกันด้วยเรื่องแบบนี้เลยนะเจมส์...”
“พี่นุ...คนอย่างผม...ถ้ารักไปแล้วจะให้กลับมาเป็นเพื่อน..ผมทำไม่ได้หรอกครับ...” เจมส์เดินเข้ามาใกล้ชิดผมมากขึ้น
“เจมส์....” เสียงผมแหบพร่า
“พี่นุไม่ต้องห่วงนะ...รับรองผมจะไม่ทำให้งานส่วนรวมเสีย...เหลืออีกไม่กี่วันพอภารกิจหลีดเสร็จ...เราก็คงเจอกันน้อยลง...บางทีถ้าผมไม่ต้องเจอพี่นุทุกวันแบบนี้ผมอาจจะหายเจ็บเร็วขึ้นก็ได้..พี่นุจะว่าอะไรมั้ย...ถ้าผมจะขอกอดพี่นุอีกครั้ง....เป็นครั้งสุดท้าย..แล้วจากนี้ไปผมคงไม่มีโอกาสได้กอดพี่นุอีก...” 
ผมพยักหน้าช้าๆน้ำตาคลอเบ้าเจมส์เดินเข้ามาสวมกอดผม  เจมส์กอดผมแน่น น้ำตาคลอเบ้าเหมือนกัน กล้ามเนื้อเจมส์แน่นเกร็งเหมือนคนพยายามอดกลั้นความรู้สึก อ้อมแขนแข็งแรงที่กอดผมอยู่กระชับแน่นเข้าจนแทบจะบีบอัดให้ผมหายเข้าไปในตัวเจมส์และขังผมไว้ในกายและหัวใจไม่ให้ออกมาได้
“ขอบคุณนะพี่นุ..ต่อไปนี้ถ้าพี่นุเมา...ไม่มีผมคอยพากลับหอแล้วนะ...” เจมส์พึมพำใกล้หูของผมแล้วจูบแก้มของผมอย่างอาลัยอาวรณ์ตอนนี้กลายเป็นผมกลับมาเป็นคนที่รัดแขนที่กำลังกอดเจมส์ให้แน่นขึ้นผมต้องการสัมผัสอันอบอุ่นของเจมส์ไว้ครั้งสุดท้ายและในขณะเดียวกันผมก็คิดว่าเจมส์ก็คงอยากได้สัมผัสจากตัวผมเช่นกัน...เพื่อเก็บไว้ในความทรงจำ...


               ผมเดินออกมาจากห้องน้ำก่อนเพื่อจะได้ไม่มีใครสงสัย...ครู่ใหญ่ๆเจมส์ถึงเดินออกมา...พอหลีดทุกคนลองชุดเสร็จก็เข้ามาให้ปอยกับอิ่มดูว่าพอดีมั้ย..ต้องแก้ตรงไหนรึเปล่า...พอดูจนครบก็สรุปว่าไม่ต้องแก้ของใครเลย...ผมจึงให้ลองซ้อมโดยที่ใส่ชุดอยู่ซักสองรอบ...
“โอเคมั้ยวะไอ้นุ...โห...ตาช้ำมาเคยนะมึง...มีร้องไห้กันด้วยเหรอวะ...” ไอ้กิ๋วถามพอน้องๆลุกไป
“อืมม...” ผมพยักหน้าตอบสั้นๆ
“ตกลงเจมส์มันว่าไง...”
“เจมส์บอกว่า...ถ้ารักไปแล้วจะให้กลับมาเป็นเพื่อน..มันทำไม่ได้หรอก...” ผมพูดแล้วน้ำตาจะคลออีกแล้ว
“แม่งใจเด็ดชิบ...แต่ก็ดีแล้วที่มันเลือกแบบนั้นอ่ะ...แผลมันอักเสบกัดฟันกรีดเอาหนองออกไปทีเดียวจะได้หายเจ็บ...
มึงก็อย่าคิดมากไอ้นุ...เรื่องมันผ่านไปแล้วเราเองแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วเว้ย...สักวันกูว่าเจมส์มันเข้าใจมึง...”
ไอ้กิ๋วตบบ่าให้กำลังใจผม...




“ทำไมตาช้ำอ่ะครับ...พี่นุร้องไห้มาเหรอ...” ธีร์เบรกรถเอี๊ยดทันทีที่หันมามองหน้าผม
“ป่าววว...พอดีน้องมันตีลังกาพลาดมาโดน...ไม่มีอะไรหรอก...” 
“อ้าวไป...นึกว่ามีใครเข้ามากวนใจพี่นุอีก...” ธีร์พูดแล้วขับรถต่อ
“แล้วมาทางนี้จะพาไปไหนเนี่ย...”
“ผมอยากได้เสื้อนักศึกษาสักตัวอ่ะครับ...พี่นุไปช่วยเลือกเสื้อให้ผมหน่อยนะ...” ผมกับธีร์จอดรถไว้ที่ชั้นสามแล้วเดินลงไปชั้นสองล๊อกเสื้อผ้าผู้ชาย...ธีร์ให้ผมเลือกเสื้อให้สองสามตัว...
“พี่นุเลือกให้หน่อย...เอาหล่อๆนะใครเห็นจะได้หลง...”  ธีร์พูดทำเอาผมมองตาขวางเลยแต่มือก็ยังเอาเสื้อมาทาบบนตัวธีร์วัดขนาดอยู่โดยที่ไม่ได้สังเกตเลยว่ามีใครคนหนึ่งกำลังจ้องมองผมทั้งสองคนอยู่
“ใส่แบบพอดีตัวดีกว่าเนอะ...ใส่ใหญ่เกินเดี๋ยวแก่...เอาไซด์เล็กกว่านี้เบอร์นึงครับ...” ผมหันไปบอกพนักงาน
“วันนี้ผมขอนอนด้วยนะพี่นุ...” ธีร์กระซิบข้างๆ
“ไม่ได้...หอตัวเองก็มีก็ไปนอนดิ...” ผมพูดแล้วอมยิ้มมองเลยไปยังด้านหลังของธีร์เห็นชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งจ้องมองผมทั้งสองคนไม่วางตาแล้วเดินเข้ามาหาพวกผม..
“ธีร์....หนีมาอยู่นี่เอง...มาทำอะไรที่นี่เนี่ย...”  เสียงทักของชายหนุ่มดังขึ้น ธีร์หันไปมองแล้วตกใจขยับตัวมายืนอยู่ข้างหลังผมเหมือนหาที่หลบภัย
“หวัดดี...นี่คงเป็น...นุ....” ชายหนุ่มคนนั้นยื่นมือมาจับมือทักทาย
“เรานวินนะ...เป็นพี่รหัสของธีร์...ในที่สุดก็เห็นนุตัวจริงซะที..ได้ยินแต่ธีร์พูดถึงหลายครั้งแล้ว” 
...ไปพูดให้กันฟังตอนไหนวะ...ผมสงสัยแต่ก็เก็บเอาไว้ในใจ
“ธีร์ก็พูดถึงคุณบ่อยๆเหมือนกัน” ผมตอบยิ้มๆ ปรายตามองธีร์ที่ทำหน้าแหยๆ
“จริงเหรอ” นวินหันไปมองธีร์ ยิ้มหวานไม่เกรงใจผมเลย...เดี๋ยวมีเฮงานนี้...
“ไม่น่าเชื่อนะตั้งแต่หมดรับน้องคราวนั้น เราก็ไม่เคยเจอกันอีกเลยคิดถึงอยู่เหมือนกันนะเนี่ย...”
“พี่นวิน...” ธีร์เรียกเสียงเบา...ผมอึ้งที่ได้รับรู้ข้อมูลใหม่...อ๋อ..นวินคือคนสุดท้าย......แต่เอ๊ะ...เรียกว่าคนล่าสุดของธีร์ดีกว่า.....คนล่าสุดก่อนที่จะมาเจอผมเพราะรับน้องมันก็ตอนต้นเทอมนี่เอง...คิดแล้วอยากจะยกศอกขึ้นกระแทกท้อง
คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผมนัก
“งั้นไว้ว่างๆ ก็นัดทานข้าวกันสิ..เผื่อมีเรื่องจะต้องคุยกัน...”  ผมพูดยิ้มๆ หันมองธีร์สลับกับนวิน
“ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่างหรอก...โปรเจคเยอะแยะ...” ธีร์ตอบ  นวินยิ้มกว้างทำตาเชื่อมใส่ธีร์ทำราวกับว่าผมไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้น
 “ยังเหมือนเดิมเลยนะธีร์...เคยเป็นยังไงก็เป็นยังงั้น...นุรู้ไม๊....ตอนเค้าเฉลยว่าใครเป็นพี่รหัสนะไอ้เราดีใจแทบตายที่ได้นอกรหัสหล่อก็เลยจะพาไปฉลอง...แต่ก็ยังมาห่วงงานอีก   ทั้งๆที่เพิ่งจะเปิดได้ไม่กี่วันแล้วในที่สุดเราก็ลากธีร์ไปฉลองกันสองต่อสองยันเช้าจนได้...”
“เหรอ...ท่าทางจะสนุกกันดีนะ...”  ผมพูด
“ได้ใหม่แล้วลืมเก่า ปรัชญาคนเจ้าชู้...นุเองก็คงเห็นด้วยกับคำพูดนี้”  ผมยักไหล่ทั้งที่ลึกๆ ก็เห็นด้วย
“อดีต...ถ้าน่าจำก็ควรจำ  แต่ว่าปัจจุบันสำคัญกว่าเพราะอดีตผ่านมาแล้วไม่มีประโยชน์ที่จะดึงกลับมาใช่ไหมธีร์” ประโยคหลัง ผมหันไปถามความเห็นธีร์ที่พยักหน้าช้าๆพร้อมกับยิ้มประจบ
“แต่เราว่าอนาคตสิสำคัญกว่า อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน เราไม่รู้ว่ามันจะออกหัวหรือออกก้อย” นวินยังไม่ยอมแพ้
พูดเน้นช้าๆ ด้วยเสียงเข้ม
“เราขอตัวก่อนนะ....เดี๋ยวคงได้เจออีก...” นวินยิ้มมุมปากยกมือขึ้นอำลาเหมือนฝรั่ง นัยน์ตามองธีร์นั้นพราวระยับ เหมือนจะส่งสารอะไรกันสักอย่างแล้วหันหลังเดินจากไปช้าๆอย่างมั่นใจ...นวินเดินจากไปแล้วแต่ผมยังคงเงียบอยู่..จนธีร์เองคงทนไม่ไหวเลยพูดทำลายความเงียบขึ้นมา...
“พี่นุ..จะว่าผมยังไงก็ได้แต่อย่าเงียบสิครับ...เค้าเข้ามาทักผมเองนะครับพี่นุ...” ธีร์พูดเสียงอ่อยๆ
“รับปากกันไม่กี่วัน...อดีตของธีร์ก็โผล่พรวดเข้ามาเลยนะ...ไม่รู้ว่ารับน้องกันยังไงเนอะถึงมองกันตาเยิ้มแบบนั้นน่ะ....มาถึงห้างยังไม่ถึงห้านาทีเลย...” ผมบ่น
“เอาอีกแล้วประชดอีกแล้ว...นี่หึงผมใช่มั้ยเนี่ย...” ธีร์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ  ผมยักไหล่ ทำท่าไม่สนใจ เร่งฝีท้าวเดินตรงไปที่ลิฟท์ ยื่นมือไปกดเรียกลิฟท์แล้วยืนมองมองเครื่องหมายหน้าลิฟท์อยู่เงียบๆ
“ถ้ามัวแต่หึงธีร์....คงไม่ต้องทำอะไรพอดี...”
“หึงหน่อยน่า” ธีร์เซ้าซี้ก้มลงให้ใช้ไหล่ซ้ายกระแทกไหล่ของผมเบาๆ   เมื่ออยู่สองต่อสองในลิฟท์
“ผมมีพี่นุคนเดียวนะครับ คนอื่นๆเลิกหมดแล้วเลิกตั้งแต่ก่อนมารับส่งพี่นุแล้ว...”
“อ๋อ แสดงว่าตอนที่เริ่มโทรจีบพี่ใหม่ๆ....ธีร์ก็ยังมีคนอื่นอยู่ใช่ไม๊”
“ไม่นะ ไม่ ไม่ ไม่ ก่อนที่จะโทรจีบพี่นุผมก็เลิกๆ ไปแล้ว” ธีร์รีบปฏิเสธ  ผมหยุดการสนทนาเมื่อมีคนเข้ามาในลิฟท์เพิ่งจนลงมาถึงชั้นล่าง...ธีร์ให้ผมเข้าไปเดินดูของก่อนแล้วขอตัวไปเข้าเข้าห้องน้ำ...ผมเดินตรงไปที่มุมขายซีดี




“น่าอิจฉานะ...ที่ได้เป็นเจ้าของเดือนคณะรูปหล่อที่เป็นขวัญใจของอีกหลายคน ขวัญใจที่ใครก็ลืมไม่ลง” 
เสียงนวินดังขึ้นข้างๆหู ผมหันไปมองนวินเองก็กำลังมองมาด้วยสายตาแปลกๆคราวนี้นวินไม่ทำหน้ายิ้มๆเหมือน
ตอนที่คุยกันก่อนหน้านี้กับธีร์ ใบหน้าของชายหนุ่มร่างสูงโปร่งดูเรียบตึงผิดกับเมื่อครู่ราวเป็นคนละคน......
นี่มันจะมาไม้ไหนวะ...ผมถามตัวเอง...ทำไมยังจะต้องเข้ามาคุยกับผมอีก...ธีร์ก็ไม่ได้อยู่ตรงนี้

“ตั้งใจจะบอกอะไร” ผมตัดสินใจถามตรงๆ
“ในเมื่อถามเราตรงๆ เราก็จะบอกตรงๆ” นวินเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย
“ธีร์กับเรา...มีอะไรกันลึกซึ้ง...ก่อนที่จะเจอ” นวินพูดแล้วชี้มาที่ผม  ผมรู้สึกจี๊ดๆที่หัวใจทั้งที่เตรียมใจไว้ก่อนหน้านี้แล้วนะ
“ธีร์บอกว่าอดีตผ่านไปแล้ว”
“แน่ใจเหรอ?” นวินเลิกคิ้ว เอียงหน้าท้าทาย
“เรากับธีร์ไม่ได้เลิกกัน เราแค่ห่างกัน...ธีร์ไม่ได้ทิ้งเรา...ตอนนั้นเรายังรักกันอยู่ เราเองต้องยุ่งเรื่องกิจกรรมมากไปหน่อย...จนไม่มีเวลาให้ธีร์...เลยต้องห่างธีร์ไป”
“แล้วมาบอกเราทำไม” ผมถามเสียงเข้ม  พนักงานที่อยู่ในร้านเริ่มหันหน้ามามอง
“เราแค่ต้องการให้รู้ว่า เรายังรักธีร์อยู่....ธีร์ก็คงไม่ต่างกัน  เรากับธีร์รักกันมาก เรา2คนใช้เวลาอยู่ด้วยกันจนเรียนรู้กันและกัน เขารู้ใจผม ผมก็รู้ใจเขา เราเข้ากันดีทุกๆ เรื่องหรือแม้แต่กิจกรรมบนเตียงเราก็เข้ากันได้อย่างเพอร์เฟค” นวินพูดตรงๆไม่รู้สึกอาย ผมเสียอีกรู้สึกหน้าชา ไม่นึกว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้...รู้ทั้งรู้ว่าผมเป็นแฟนธีร์...นวินยังกล้าพูดแบบนี้
“เราไม่รู้นะว่าที่มาบอกเนี่ย...ต้องการอะไร ถ้าจะมาเล่าเรื่องไร้สาระให้ฟัง ขออนุญาตไม่ฟังเนาะไม่อยากรับรู้” ผมตัวเดินหนี   นวินเดินตาม
“นุ...” นวินเอื้อมมือมาแตะแขนของผมให้หยุด ผมชะงักแล้วหันกลับไปมอง นวินยิ้มมุมปากแล้วพูดเน้นเสียงว่า
“เราอยากได้ธีร์คืน”...หน้าด้าน...คำเดียวที่ผมนึกออกตอนนี้คือคำนี้เท่านั้น
“ก็ไปคุยกับธีร์ ไม่ใช่คุยกับเรา” ผมไม่ต้องการคุยกับนวินอีกแล้ว ไม่มีประโยชน์ ท่าทางนวินไม่ยอมรับอะไรทั้งนั้นนอกจากสิ่งที่ตัวเองต้องการ  ผมก้าวเท้ายาวขึ้น ตั้งใจว่าจะออกไปรอธีร์ที่บริเวณชั้นหนึ่งอย่างน้อยก็ขอให้ไกลจากตรงนี้ก่อน...ก่อนที่ความอดทนของผมจะหมด...นวินเดินตามมาถึงตัวแล้ว ไม่รีรอ พูดสิ่งที่ตัวเองต้องการจะพูดทันที

“เรามาขอธีร์คืน...”
“เฮ้ยนวิน...กลับไปซะเถอะ...ธีร์ไม่ใช่สิ่งของที่เราจะได้ยื่นส่งให้ใครได้ง่ายๆ”  ผมเสียงเข้มความอดทนเริ่มหมด
“ถ้าขอดีๆแล้วไม่ให้ เราก็จะแย่งเอามา....เราผิดตรงไหนเราอยากได้เราก็จะขอ ถ้าไม่ให้เราก็จะแย่ง ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ได้ เรารักธีร์...เราก็ต้องบอกว่ารัก” นวินมองตาผมอย่างท้าทาย
“งั้นก็แล้วแต่แล้วกัน...”  ผมบอกเดินตามตรงไปยังประตูทางออก ไม่สนใจนวิน ปล่อยให้มันยืนบ้าอยู่อย่างนั้นแหละ...นวินยืนจ้องมองตามอย่างขุ่นเคือง


“พี่นุขึ้นมาอยู่ตรงนี้นี่เอง...ผมเดินหาตั้งนาน...โทรหาแล้วทำไมไม่รับละคับ...พอดีออกจากห้องน้ำมาเห็นเสื้อมันสวยดี..พี่นุน่าจะใส่ได้ผมเลยซื้อมาอ่ะครับพี่นุ...” ธีร์ส่งถุงเสื้อให้ผม...ผมก็รับมาทำตาขวางๆ
“อ้าว!!!....โกรธผมอีกแล้วเหรอครับพี่นุ...”
“แฟนเก่าธีร์อยู่ดีๆ....ก็เข้ามาขอธีร์ไปจากพี่หน้าด้านๆ” ผมบอกอย่างหัวเสียแล้วถอนใจเฮือกใหญ่
“ใคร ใครกันแฟนเก่าผม ใครมาขอผมจากพี่นุ” ธีร์ถามเสียงร้อนรน
“จะใครซะอีกล่ะ..ถ้าไม่ใช่ไอ้นวิน...พี่รหัสของเราน่ะ...”  ผมบอกแล้วเดินขึ้นบันไดออกไปที่อาคารจอดรถ...ธีร์รีบวิ่งตาม
“พี่นุ..รอผมก่อน..พี่นุครับ...ผมยอมรับว่าผมกับพี่นวินเคยคบกันแต่มันก็เพียงช่วงสั้นๆ...เราต่างก็จบกันไปแล้ว...
ผมก็ไม่รู้ว่าเค้าทำแบบนี้เพื่ออะไร...”
“เพื่ออะไรเหรอ...เค้าก็บอกอย่างชัดเจนว่าอยากได้ธีร์กลับไป...”
“พี่นุอย่าโกรธผมเลยนะครับ...เราเพิ่งจะดีกันไม่กี่วันเอง...พี่นุจะเคอร์ฟิวส์ผมอีกแล้วเหรอ...อย่าเลยนะครับพี่นุ”
ธีร์พูดอย่างอ้อนวอน...ผมเดินนำหน้าไป แต่นึกอะไรได้บางอย่างจึงหันกลับมาพูดกับธีร์ว่า
“คืนนี้ธีร์กลับไปนอนหอตัวเองนะ...”
“โธ่พี่นุ ไหงเป็นงั้น” ธีร์โอดครวญ
“พี่อยากคิดอะไรเงียบๆ”
“คิดอะไร...คิดเรื่องเมื่อกี้หรือครับ...” ธีร์ทำหน้ามุ่ย....เสียงรีโมทปลดล๊อครถยนต์ดังขึ้น  ผมขึ้นนั่งบนรถ เอนตัวลงพิงกับเบาะอย่างเหนื่อยอ่อน...รู้สึกเพลียกับเรื่องในวันนี้จะแย่แล้ว...อะไรกันนักกันหนาวะเนี่ย...เป็นแฟนธีร์ต้องอดทนอย่างเนี๊ยะนะเหรอ?... ผมต้องใช่คตินี้ยึดเหนี่ยวจิตใจหรือไงนะ...แม้จะขึ้นรถแล้ว ธีร์ก็ยังไม่ยอมหยุดเซ้าซี้ผมเรื่องการนอนคืนนี้

“ผมจะไม่กวนเลย สัญญา” ธีร์ทำตาละห้อย...เชื่อได้หรอก พอได้อยู่สองต่อสอง...ธีร์ก็จะกวนผมอีกเหมือนเมื่อคืน
“พี่อยากอยู่เงียบๆ” 
“นะครับพี่นุ...ผมอยากอยู่กับพี่นุจริงๆนะครับ...”  ผมถอนหายใจเบาๆ แล้วจึงพูดว่า
“นวินมันบอกว่าไม่ได้เลิกกับธีร์...มันกับธีร์เพียงแค่ต้องห่างกันไป”
“พี่นุไม่เชื่อเขาใช่ไม๊” ธีร์ถามเสียงเบา
“ผมไม่ได้รักพี่นวิน ไม่เคยรัก ส่วนเรื่องคบกันน่ะผมไม่ปฏิเสธเพราะคบกันจริงๆ…แต่ตอนนี้นาทีนี้ผมไม่ได้รักเขา   ผมรักพี่นุคนเดียว” ธีร์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วพูดต่อว่า
“พี่นุต้องหนักแน่นนะครับ อย่าไปเชื่อ อย่างไปสนใจ พี่นวินคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ ผมไม่มีอะไรกับใครที่ไหน เชื่อผมนะ”  ผมเหลือบตาไปมองคนที่กำลังเว้าวอนอยู่ข้างๆ ธีร์ท่าทางจริงจังมาก ผมรู้ว่าธีร์ไม่ได้มีอะไรกับนวินแล้ว แต่ก็อดฉุนไม่ได้ที่จู่ๆคนรักเก่าของธีร์โผล่มาขอแฟนผมคืนดื้อๆ
“นะ พี่นุที่รัก...ผมเลิกเจ้าชู้แล้วพี่นุก็รู้ ไม่เคยคิดถึงใครเลย” ธีร์ออดอ้อนไม่ยอมหยุด 
“มันคิดว่าของแบบนี้มันขอกันง่ายๆรึไงฟะ...สาดดดเอ้ย...” ผมบ่นเบาๆพอให้ตัวเองได้ยิน
“ตกลงคืนนี้ตามเดิมนะครับพี่นุ...ถ้าไม่ได้นอนด้วยกันผมคงนอนไม่หลับ...ยิ่งกำลังโกรธผมอยู่แบบนี้ ยังไม่เข้าใจกัน เขาว่าไม่ควรจะแยกกันนอนนะครับพี่นุ...อย่าปฏิเสธผมเลย” น่านนน...ใช้ประโยคไม้ตายกับผมอีกแล้ว
ผมบอกตัวเองว่า...หนทางระหว่างผมกับธีร์ยังเหลืออีกยาวไกล นวินอาจเป็นบททดสอบแรกๆ ของความสัมพันธ์
จะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้างผมยังไม่รู้...ขออย่างเดียว...ขอให้ธีร์รักผมคนเดียวและไม่นอกใจผมก็เป็นพอ...

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
บวกเป็ด บวกหนึ่ง


ไม่ใช่ใคร จะไปถึง ดึงความรัก
ไม่ใช่ใคร จะแน่นหนัก หักเสน่หา
ไม่ใช่ใคร จะไร้ค่า ใช้น้ำตา
ไม่ใช่ใคร จะมองหา รักของกรู
#เจมส์

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
พี่นุต้องหนักแน่น ว่าแต่ธีร์จะดีแตกมั้ย ไม่อยากจะคิด  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่  20_มรสุม (1)...


“ธีร์....พี่อยากขอคุยด้วย พี่จะมาขอโทษ...” ธีร์เจอกับนวินโดยบังเอิญที่ศูนย์วิทยบริการหลังจากที่ธีร์เอางานเข้ามาให้เพื่อนที่มอ...สูดลมหายใจช้าๆ แล้วปรับสีหน้าให้ยิ้มอ่อนโยน
“พี่นวิน...ขอโทษเรื่องอะไรครับ”
“ก็เรื่องคืนนั้น ไม่รู้ว่านุเล่าให้ธีร์ฟังยังไง...พี่กลัวจะเข้าใจผิดก็เลยมาอธิบาย”
“พี่นุก็ไม่ได้เล่าอะไรมากนี่ครับ...”  ธีร์บอกไม่หมดเพราะไม่มั่นใจว่านวินมาด้วยเหตุใดกันแน่
“วันนั้นพี่พูดอะไรไปไม่คิด อาจทำให้แฟนธีร์เข้าใจผิด..พี่กลัวว่าธีร์จะเกลียดพี่ เห็นว่าพี่เป็นคนไม่ดี” ธีร์ถอนหายใจช้าๆ แล้วกล่าวว่า
“ช่างเถอะครับพี่นวิน...ผมเข้าใจ”
“เข้าใจว่ายังไงเหรอธีร์...”
“พี่นวิน...พี่ต้องยอมรับนะครับว่าเรื่องของเรามัน....”
“จบลงแล้ว พี่รู้...เพราะธีร์พบนุ.....หรือเพราะธีร์พบคนที่พี่เฝ้าไฝ่ฝัน ค้นหารักแท้ ธีร์ก็เลยเลิกเจ้าชู้อย่างนี้นะเหรอ?
รู้ทั้งรู้ว่าธีร์ไม่รัก...รู้อยู่เต็มอก...แต่พี่ก็ยังตัดใจจากธีร์ไม่ได้”
“ผมเปลี่ยนไปแล้ว....ยังไงก็ตามตอนนี้ผมรักกับพี่นุ...ผมก็ควรมีพี่นุคนเดียว..ถ้าพี่นวินยังไม่ลืม คงจำได้ว่าผมมีใครทีละคน...ไม่ได้คบกับใครพร้อมๆ กันหลายคน”
“จำได้สิ...พี่จำได้ไม่ลืม...พี่เป็นคนไม่ลืมอะไรง่ายๆหรอก  พี่จำได้ว่าธีร์บอกรักพี่หลายครั้ง คำพูดหวานๆพี่จำได้หมด...พี่ขอให้ธีร์โชคดีก็แล้วกัน...”  นวินเดินจากไปทิ้งให้ธีร์มองตามอย่างครุ่นคิด  โชคดีของนวินหมายความว่าอย่างไร อะไรบางอย่างบอกธีร์ว่า นวินไม่ได้หมายความอย่างที่พูดเสียทีเดียว แววตาของนวินซ่อนอะไรบางอย่างเอาไว้
...อะไรบางอย่างที่ค่อยน่าไว้ใจ...


   วันนี้ทั้งวันผมนัดน้องหลีดมาซ้อมตั้งแต่เก้าโมงจนถึงตอนนี้เวลาเกือบทุ่มนึงแล้ว...ท่าท่างแต่ละคนกระปลก
กระเปลี้ยกันหมดเพราะวันอังคารนี้เราก็จะแข่งกันแล้ว...ผมก็เลยยิ่งต้องเคี่ยวหนักไม่ใช่เพื่อต้องการชนะคณะอื่นแต่เพื่อชนะใจตัวเราเองต่างหากแต่ถ้ามันจะชนะคณะอื่นด้วยก็ถือซะว่าเป็นผลพลอยได้...ซ้อมเสร็จผมรีบกลับมาเคลียร์งานที่หอเพราะพรุ่งนี้มีงานต้องส่งอาจารย์ต้องทำให้เสร็จภายในคืนนี้...เฮ้อ..ธีร์ก็ยังคงอยู่กวนใจผมที่หอเหมือนเคย...ไล่ให้กลับหอตัวเองก็ไม่กลับ...ผมบอกให้ธีร์ไปอาบน้ำ แต่คนช่างยั่วก็ไม่ยอมผละจากผมเสียที มาตอแยผมจนชักจะใกล้หมดความอดทนละ...
 “นี่...หยุดกวนซะทีด๊ายม๊าย...ปวดหัว...” ผมลากเสียง  วางปากกา ถอนหายใจแรงๆ มองธีร์ตาขวาง
“จะกินยาไหมล่ะ ผมจะไปเอามาให้” อีกฝ่ายทำหน้าห่วงใย แต่นัยน์ตาวิบวับขัดกับคำพูด  ผมหรี่ตา...ท่าทางเอาเรื่อง หากธีร์ยังไม่หยุด ผมจะฟาดด้วยแฟ้มงานที่กำลังถืออยู่ในมือนี่แหละ...ทีเดียวสลบ..เหอๆๆ
“ขออยู่เงียบๆ ซักพัก ธีร์อย่ากวนใจ ไม่ต้องมาแตะเนื้อต้องตัว ไม่ต้องมาหยอกเย้าอะไรทั้งสิ้น อยู่เฉยๆ”
“ครับๆ...ได้...ให้ทำอะไรยากจริงน๊อ” ธีร์รีบรับคำ ถอยออกห่างไปอยู่บนเตียง นัยน์ตาตั้งเต้นระริก  เวลาผ่านไปไม่ถึงห้านาที ผมก็หมดความอดทน ธีร์ทำตามคำสั่งที่ให้อยู่เฉยแต่ความเป็นจริงแล้วจ้องมองผมอยู่แทบไม่กะพริบตา
“เลิกจ้องได้แล้ว...เดี๋ยวก็ไล่กลับหอจริงๆซะเลยนี่...”
“อ้าว บอกให้ผมอยู่เฉยๆ ผมก็นั่งอยู่เงียบๆ ของผม พี่นุนี่พาลจริง” ธีร์ทำหน้าเหรอหรา
“อยู่เฉยๆ ไม่ได้ให้มานั่งจ้องกันแบบนี้ พี่ไม่มีสมาธิ”
“มองหน่อยก็ไม่ได้...” ธีร์หน้ามุ่ย ทำเสียงราวกับกำลังงอน
“จะมองอะไรกันหนักหนา...” ผมส่ายหน้า หันมาก้มลงทำงานต่อ
“ก็คนมันรักนี่นา ห้ามกันได้หรือ” ธีร์ลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้ามาใกล้ ผมรีบเงยหน้าขึ้นทำตาขวางเพื่อบอกว่า...ห้ามแตะเนื้อต้องตัว แต่ธีร์ไม่สนใจ รวบร่างผมไว้ แล้วซุกหน้าเข้ากับซอกคอของผมพร้อมกับพูดว่า
“รักพี่นุจังเลย รักที่สุด รักจนไม่อยากห่างไปไหน”  ธีร์ซุกไซร้ใบหูขาวของผมจนทำให้ขนลุกซู่ เลือดสูบฉีดไปทั่วกาย
“พี่นุ...รักผมบ้างไหมครับ...” ธีร์ถามเสียงอู้อี้เพราะใบหน้ายังซุกไซร้อยู่ไม่ยอมหยุด 
“ไปอาบน้ำให้สะอาดๆ ซะไป๊” ผมผลักธีร์ให้ออกห่าง อีกฝ่ายยินยอมโดยดี พร้อมกับส่งสายตาหวานฉ่ำให้ ก่อนจะหันหลังเดินไปยังห้องน้ำแต่ก่อนที่จะถึงประตูกลับหันมาย้ำว่า
“เร็วๆ นะครับ รอนาน ผมใจจะขาด...ถ้านานมากจนทนไม่ไหว ผมจะแก้ผ้าเดินมาอุ้มพี่นุไปทำอะไรกันที่ระเบียง”
“ไอ้ลามก...” 


   ผมใช้เวลาไม่ถึงสี่สิบห้านาทีก็ทำงานเสร็จ  ผมลุกขึ้นบิดตัวอย่างอ่อนล้าหันไปบนเตียงนอนธีร์นอนคว่ำหน้ากางแขนหลับไปแล้ว...เสื้อก็ไม่ใส่...ขาสั้นตัวเดียวอีกตามเคย
“ธีร์...ตื่นมาใส่เสื้อก่อน....เดี๋ยวได้เป็นปอดบวมหรอก..” ธีร์ยังไม่ไหวติง  ผมเขย่าตัวอีกครั้งธีร์ครางอืออาเช่นเคย แล้วพลิกตัวขึ้นนอนหงาย ยิ้มบางๆ ให้ผมแล้วพูดเสียงนุ่มว่า
“รอตั้งสองชั่วโมงกว่า”
“น้อยๆหน่อย อย่ามามั่วนิ่มนะ” ธีร์ยิ้มกริ่มแล้วดึงตัวผมให้ซบลงบนอกผมขืนตัวเอาไว้มือดันหน้าอกแกร่งของคนขี้เซา
“ใส่เสื้อก่อน เดี๋ยวเป็นหวัด”
“ใส่ทำไม จะแก้ผ้ากันอยู่แล้ว ค่อยใส่ทีเดียวตอนเสร็จสิ้นภารกิจ”  ธีร์ตอบแล้วหัวเราะชอบใจ พลิกตัวผมให้ลงอยู่ข้างล่าง ตรงไว้ไม่ให้ขยับ
 “หนัก”
“เดี๋ยวก็หายหนักแล้ว รับรองว่าสบายตัว...”
“มะอาวววว...” ผมพยายามดิ้น
“น่า..นะครับพี่นุ...”  ธีร์ไม่รอคำตอบแล้วก้มหน้าลงมาประกบปากผมทันที...ผมยังดิ้นไม่หยุด...แม้จะแทบขยับตัวไม่ได้  มือแข็งแรงของธีร์สอดเข้าใปใต้เสื้อยืดบางๆของผม ลูบไล้ที่หน้าอก มืออีกข้างเลื่อนต่ำลง ช้อนตัวผมยกขึ้น สอดมือเข้าไปด้านหลัง นิ้วเกี่ยวกางเกงแพรเนื้อบางให้หลุดไปผมก็ยิ่งดิ้น แอ่นกายขึ้นโดยไม่รู้สึกตัว เผลอเปิดทางให้ผู้รุกรานได้กระทำการอย่างสะดวกยิ่งขึ้น มือทั้งสองที่ผลักดันหน้าอกของธีร์เปลี่ยนมาเป็นกอดรัด ป่ายไปมาบนแผ่นหลังแกร่ง
“ธีร์....ยะ..อย่า...” ผมครางเสียงกระเส่า
“ที่รักครับ...ที่รักของผม...”  ธีร์เองก็ครางเสียงกระเส่า...หายใจแรง ระดบจูบบดเบียดซอกคอของผม สลับกับไล้ลิ้นโลมเลียผิวเนื้อ  ใบหน้าเคลื่อนต่ำลงจนถึงแผ่นอกแน่นขาวสะอาด ก่อนจะตวัดลิ้นลิ้มรสเนินเนื้อให้สมปรารถนาจนผมสะดุ้งเฮือกเผลอร้องคราง มือแข็งแรงของธีร์กำลังเค้นคลึงแผ่นอกของผมนิ้วสะกิดติ่งเล็กชูชันบนหน้าอก พลางขยับใบหน้าคมเข้มเลื่อนไปอีกข้าง ขบเม้มเบาๆ ...หยอกเย้า...ยั่วยวน จนผมต้องแอ่นอกตามเมื่อคนที่กำลังเชยชมอยู่แกล้งถอนปากออกจากการโลมเลีย มือที่เหลืออยู่ของธีร์ซุกไซร้อยู่เบื้องล่าง บีบเค้นบั้นท้ายผมอยู่ไม่คลาย ก่อนสอดมือเข้าไปตรงซอกขา ดันให้แผ่กวางออก แล้วไล้นิ้วไปตามผิวเนื้อของต้นขาด้านในที่ไวต่อการสัมผัส...
ผมแหงนหน้า ส่ายหน้าไปมา รู้สึกซาบซ่านแทบจะทนไม่ไหวผมขยับแขนขึ้นรัดต้นคอของธีร์ มือตะกุยตะกายขยี้ผมของธีร์อย่างรัญจวน...ร่างกายร้อนเร่า...ความเสียวซ่านแทรกผ่านทุกอณูเนื้อของร่างกาย...กระตุกเกร็ง สั่นสะท้าน...ธีร์จับขาผมงอเข่ากางออกแล้วจับขาผมยกขึ้นพาดไหล่แล้วจัดการค่อยๆดันส่วนนั้นเข้ามาช้าๆ...ธีร์เริ่มกดสะโพกดันเข้ามาในตัวผมทีละน้อยๆพร้อมกับการซอยเข้าออกสั้นๆช้าๆจนทั้งหมดก็ถูกดันเข้าไปจนสุด  ธีร์ใช้มือยันลำตัวไว้แต่ก็ก้มหน้าลงไปจูบกับผม  ธีร์เริ่มโยกเข้าออกแบบยาวๆช้าๆผมก็กระดกก้นรับสัมผัสกับการกระแทกของธีร์จนธีร์ต้องเร่งความเร็วของสะโพก
“อาร์……ซี๊ด…พี่นุครับ...”  ธีร์ก้มหน้าลงไปจูบกับผมอีกครั้งเอวก็ทำงานขยับเข้าออกอย่างต่อเนื่อง  การโยกกระหน่ำของธีร์ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง.....จนธีร์ทนไม่ไหว
“เร็วอีก...ธีร์...พี่จะไม่ไหวแล้ว...ซี๊ดซซซดดดด” 
“อาซซซ พี่นุครับ... ผมเสร็จแล้ว... ซี๊ดซซซซซ”  ธีร์ครางเสียงดังขึ้นแล้วกระแทกเข้ามาในตัวผมแบบถี่ๆเน้นๆ เสียงดังผับ ผับ ผับ...ธีร์เร่งกระหน่ำโยกเอวหนักๆเข้ามาอีกสองสามที     ธีร์ฟุบลงกอดกับผมแน่นพลางซุกไซร้ใบหน้าจูบและหอมแก้มผมอีกครั้ง... เราสองคนนอนหายใจระทวยบนที่นอน ผมหลับตาหายใจลึกๆยาวๆ เข่าอ่อนเลยครับ พลางนึกถึงความสุขสุดยอดที่เพิ่งผ่านพ้นไปที่ธีร์มอบให้กับผมซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อยากให้มันอยู่กับผมให้เนิ่นนานที่สุด.....


   แล้วการแข่งขันกีฬาระหว่างคณะก็มาถึง...โดยวันนี้จะเป็นพิธีเปิดและจะมีการโชว์หลีดมือและแข่งหลีดปอมปอมของแต่ละคณะด้วย...พวกผมนัดน้องหลีดผู้หญิงมาแต่งหน้าทำผมที่ร้านกันตั้งแต่แปดโมงเช้า    ส่วนผู้ชายให้มาเจอกันตอนเที่ยงซึ่งกว่าจะแต่งตัวกันเสร็จทุกคนก็ปาเข้าไปเกือบบ่ายสอง...หลีดผู้หญิงขึ้นรถไปกับไอ้กิ๋วส่วนหลีดผู้ชายให้บิดมอ’ไซด์เข้าไปเอง...เราไปสแตนด์บายรอกันที่ใต้ถุนอัฒจรรย์ของคณะเราวันนี้ผมไม่ได้มาพร้อมกับธีร์เพราะธีร์เองก็ติดภารกิจที่คณะธีร์เหมือนกัน...ระหว่างรอผมก็จะเดินไปดูว่าในสนามเค้าถึงไหนกันแล้วแต่ทันใดก็มองเห็นร่างสูงโปร่งของคนที่ผมไม่อยากพบเจอเดินตรงรี่เข้ามาหา...นวิน...จองล้างจองผลาญกันจริงๆ สนามกีฬาก็ออกกว้างขวางแต่ก็ยังมาเจอกันอีกจนได้
“ไง...เจอกันอีกแล้ว...เคลียร์ปัญหารักสามเศร้าเรียบร้อยแล้วเหรอ...แบบนี้นี่เองถึงไม่ยอมคืนธีร์ให้เรา...อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองตนนี่เอง...พวกนกสองหัว...” นวินไม่ทักทาย เปิดฉากทันทีที่เดินมาถึงตัว...มันรู้เรื่องของผมได้ไงวะ
“หยุดพูดนะนวิน...พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง...อย่ามาปรักปรำ อย่ามาเป็นอันธพาล กล่าวหากันแบบนี้"
ผมเสียงแข็งเริ่มอารมณ์คุกรุ่น นวินไม่ยอมแพ้ เสียงแข็งไม่แพ้กัน
“จำไว้ด้วยนะ....เราเสียธีร์ไป...เราจะเอาของของเราคืนกลับมาให้ได้...”
“แกมันบ้า...ธีร์ก็ชัดเจนว่าไม่เคยรักแก เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาคร่ำครวญว่าเสียธีร์ไปเหมือนกัน คนแบบนี้มันไม่เคยได้ใครทั้งนั้น ไม่เคยเป็นของใคร ไม่ต้องมา..”
“พี่นุ...”  เสียงธีร์เรียกชื่อผมอย่างตกใจแล้วรีบวิ่งเข้ามาหา
“เรารักธีร์....แกเองแย่งธีร์ไปจากเรา...” นวินเสียงดังจนคนรอบข้างเริ่มหันมาดู
“พี่นวิน....เมื่อไหร่จะเลิกเสียที...ผมว่าเราคุยกันรู้เรื่องไปแล้วนะ...” ธีร์เสียงห้วน  ส่วนนวินนัยน์ตาแดงก่ำ 
“ธีร์ไปกันเถอะ อย่าสนใจคนพูดไม่รู้เรื่องเลย” ผมพูดแล้วหันหลังดึงแขนธีร์ให้เดินออกจากตรงนั้น
“พี่ต่างหากที่รักธีร์มาตลอด...เค้าก็เห็นธีร์เป็นแค่ตัวเลือก...ธีร์จะไปรักคนที่เขามีสองใจทำไม”  นวินเสียงกร้าว 
ธีร์หันขวับแล้วยกนิ้วขึ้นชี้หน้านวิน
“จำเอาไว้นะ ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ถ้าเห็นว่าพี่นวินมาระรานพี่นุอีก...ผมจะไม่ใจดีอีกแล้ว..” ธีร์เน้นเสียงผ่านไรฟัน ใบหน้าบึ้งตึงก่อนจะดึงแขนผมรีบผละออกไป
“ธีร์ห้ามพี่ไม่ได้หรอก ยังไงพี่ก็ไม่ยอม" เสียงนวินดังตามหลังมา...ธีร์จูงแขนผมเดินออกมาจากใต้ถุนอัฒจรรย์...
ผมหน้าชาไปหมด....รู้สึกอายอย่างบอกไม่ถูก...ผมหยุดเดินยืนทำอารมณ์อยู่พักนึงแล้วหันมาหาธีร์
“คราวที่แล้วก็ที่ห้าง...คราวนี้ก็ในงานกีฬา...คราวหน้าจะที่ไหนอีกอ่ะธีร์...” ผมระเบิดอารมณ์ใส่ธีร์
“พี่นุ...”  ธีร์หันไปทำเสียงโอดครวญ
“พี่อายเค้านะธีร์..โดนด่าหน้าชาว่าแย่งธีร์มาจากคนอื่นแบบนี้อ่ะ...”
“พี่นุ...ผม...”
“พี่จะต้องเจออะไรแบบนี้อีกกี่ครั้งเหรอธีร์...บอกมาซิ...บอกม๊า...” ผมจ้องธีร์ตาเขม็ง ธีร์ยังไม่ทันตอบก็มีเสียงเรียกดังขึ้นข้างหลังผมทั้งสองคน...
“ธีร์...”  ทั้งผมและธีร์หันตามก็เห็นชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกล  ร่างสูงกล้ามเนื้อเป็นมัดเพราะใส่เสื้อสีขาวพอดีตัวเดินเข้ามาทักพร้อมส่งยิ้มกว้าง    ผมถอนหายใจหันไปมองธีร์ ฝ่ายนั้นทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก...ท่าทางผมจะเจออดีตของธีร์เข้าให้อีกละมั้ง...อะไรกันนักหนาวะ...ความวัวยังไม่ทันหายความควายเข้ามาแทรกอีกแล้ว
“ว่าไงเป้...”  ธีร์ทักทายไม่เต็มเสียงนัก
“ตกลงธีร์เรียนที่นี่เหรอ...ไม่คิดว่าจะเจอธีร์ที่นี่นะเนี่ย...”
“แล้วเป้มาทำอะไรที่นี่อ่ะ...”
“เรามาดูเพื่อนแข่งหลีดอ่ะ...แล้วธีร์เป็นไงสบายดี...ตั้งแต่วันประกาศผลสอบแล้วก็ไม่เจอกันอีกเลยนะ..”
เป้พูดใบหน้ายิ้มๆ
“ตั้งแต่วันประกาศผลสอบ...”  ผมพึมพำ
“พี่นุ....”   ธีร์หันมาทำเสียงโอดครวญ กลัวว่าผมจะเข้าใจผิดอีก
“ ไปก่อนนะ..เดี๋ยวก็คงจะแข่งแล้ว..” ผมบอกเสียงเรียบแล้วหันหลังเดินตรงไป   ธีร์รีบเดินตามแต่เป้คว้าแขนไว้
“เดี๋ยวก่อนสิธีร์...นี่เป้นะ...ไม่ใช่ผีที่ไหนทำไมรีบเดินหนีล่ะ ไม่อยากให้เราเห็นแฟนใหม่ธีร์หรือไง...”
“เราต้องไปแล้ว...”  ธีร์สลัดแขน เดินตามผมไปโดยเร็ว แต่เป้ยังเดินตาม
“จะรีบไปไหน คุยกันก่อนสิธีร์...”  เป้ร้องเรียก  ธีร์ส่ายหน้าพ่นลมหายใจออกมาแรงๆแล้ววิ่งเหยาะๆตามหลังผมไป...ธีร์รู้สึกหนักใจกับปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้น...
“บ้าจริงๆพี่นวินเพิ่งลุยพี่นุไปหมาดๆ...ยังไม่ไปถึงไหนเจอเป้ที่หน้าสนามอีก...ทำไมวันนี้ถึงซวยแบบนี้วะ..ซวย...ซวยจริงๆ” ธีร์บ่นกับตัวเองส่ายหน้าหงุดหงิด
“แล้วพี่นุหายไปไหนแล้ววะ...”  ธีร์หันซ้ายหันขวามองไปรอบๆ



ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
น้ำมันร้อน
โดนเข้าไป
มือถึงพอง
หึหึ

ชอบของร้อน
คิคิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่  21_เพราะว่าฉันนั้นยังไม่แข็งแรงพอ...


“ไอ้กิ๋ว...กูฝากดูน้องมันด้วยนะ...กูไปละ...”  ผมเดินไปบอกไอ้กิ๋วแล้วรีบจ้ำพรวดเดินออกจากตรงนั้นทำเอาไอ้กิ๋วหน้าตาตื่นวิ่งตามผมมาทันที
“เฮ้ยๆๆ...ไอ้นุ..เดี๋ยวก่อน...”  ไอ้กิ๋ววิ่งไปขวางผมไว้
“มีปัญหาอะไรรึเปล่าไอ้นุ...หน้ามึงไม่ดีเลยนะ...แล้วนี่น้องมันจะลงสนามแล้วนะเว้ย...ต่อไปก็คณะเราแล้วมึงจะไม่อยู่เชียร์น้องมันหน่อยหรือวะ...พวกมันต้องการมึงนะเว้ย...”  ไอ้กิ๋วบอก...ผมก็สองจิตสองใจเอาไงดีวะ...อีกใจก็อยากอยู่ดูผลงานของตัวเอง...แต่อีกใจก็คิดถ้าผมยังอยู่ที่นี่ต่อผมจะต้องเจอปัญหาแบบนี้อีกเท่าไหร่ก็ไม่รู้....ผมไม่มีแรงพอที่จะสู้รบปรบมือกับพวกนั้นหรอกนะ...ทำไมเป็นแฟนคนเจ้าชู้มันลำบากอย่างนี้วะ...
“ก็ได้...แต่กูไม่รู้ว่ากูจะทนอยู่ได้นานแค่ไหนนะเว้ย...”
“ไอ้นุ...กูไม่ได้สอนนะแต่กูจะบอกมึงไว้อย่างนึง...เมื่อมึงตัดสินใจคบกับไอ้ธีร์เป็นแฟนแล้วน่ะ...มึงก็ต้องมั่นใจในตัวมันด้วย...”
“แต่กูเจอกับคนเก่าๆของธีร์ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันถึงสองคนเลยนะเว้ย...กูทนไม่ได้ว่ะ...”
“นั่นก็ใช่...แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าธีร์มันยังรักพวกนั้นนี่  อีกอย่างมึงก็ยังไม่ได้ฟังมันอธิบายยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยแล้วที่สำคัญมึงเจอพวกมันข้างนอก...ไม่ใช่บนเตียง...”
“แสดงว่ากูไม่หนักแน่นพอใช่ไม๊ไอ้กิ๋ว...” ผมเสียงเบา
“นุมึงก็มีสิทธิ์จะคิดแบบนั้นนะ คนเรามันก็มีอารมณ์น้อยใจ เสียใจได้เป็นธรรมดา...ของแบบนี้ มันน้อยใจกันได้ แต่เมื่อมีอะไรแบบนี้ขึ้นมา มันต้องหันหน้าเข้าคุยกัน และเชื่อมั่นในตัวของกันและกัน...ถ้า...ถ้าเรารักเขาและเขารักเรา”
“กูรู้...แต่ว่ากู...กูควบคุมตัวเองไม่ได้...ทั้งๆที่กูก็เตรียมใจไว้บ้างแล้วนะ...พอเจอเข้าจริงๆก็ยังอึ้งเลย..”
“ไม่มีใครควบคุมตัวเองได้ตลอดเวลาหรอกไอ้นุ...คนเรารักกันก็ควรจะให้อภัยกันได้แต่ก่อนอื่นต้องฟังเขาอธิบายก่อนสิวะ...ไปเหอะ...เค้าเรียกคณะเราลงสนามแล้ว....”



   เสียงพิธีกรในสนามประกาศเรียกชื่อทีมหลีดปอมปอมคณะศึกษาศาสตร์ลงสนามหลังจากการแสดงของคณะมนุษย์ศาสตร์จบลง...ผมเดินมารวมมือกับน้องก่อนจะเดินลงสนามบอกให้ทำเต็มที่ไม่ต้องคิดถึงผลแพ้ชนะ...พวกเราตะโกนดังเฮ้!!!!...ผมมองจนน้องๆเดินลงสนามท่ามกลางเสียงเชียร์ลั่นของกองเชียร์บนแสตนด์...ผมเดินเลี่ยงไปหาที่ยืนดูอีกที่หนึ่งให้ไกลจากตรงที่คณะผมนั่งเพราะถ้าอยู่ตรงนั้นธีร์ต้องหาผมเจอแน่นอนเพราะตอนนี้ผมยังไม่อยากเจอกับธีร์...ไม่อยากอารมณ์เสียระหว่างดูการแข่งขัน...
“ขอเสียงเชียร์และเสียงปรบมือต้อนรับ...คณะเกษตรศาสตร์...เอ้ย...ขอโทษครับ...คณะศึกษาศาสตร์...”  เสียงพิธีกรชายในสนามประกาศ
“แม่งเอ้ย...ยังเสือกประกาศผิดอีกไม่ได้ดูโพยรึไงวะ...”  ผมบ่นแล้วยืนดูต่อ...เสียงเพลงเริ่มต้นดังขึ้นกระหึ่มท่ามกลางการต่อตัวที่เร้าใจคนดู...อิ่มกับปอยถูกจับโยนตีลังกาแล้วพลิกตัวมาถูกยกขึ้นยืนขาเดียวเหนือหัวจนสุดมือแล้วเตะขา นอนลงมาอย่างไม่ผิดพลาด....ย้ายโซนไปรวมกลุ่มเต้นซึ่งแต่ละคนก็ทำมันได้อย่างดีกว่าที่ผมคิด...ปอยถูกจับโยนขึ้นกลางอากาศแล้วฉีกขานอนลงมาท่ามกลางความตื่นเต้นของผู้คนในสนาม...จนมาถึงในช่วงสุดท้าย...อิ่มกับปอยม้วนหลังกลางอากาศแล้วถูกจับฉีกขายืนขึ้นเป็นปิรามิดเป็นการจบอย่างสมบูรณ์แบบ...เสียงปรบมือดังลั่นสนาม....
“เฮ้อออ....จบซะที...นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว...” ผมพึมพำกับตัวเอง...



“พี่เป็นผู้ควบคุมทีมนี้เหรอครับ...” เสียงชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นใกล้ๆ...ผมหันไปมอง...ไอ้เป้อีกแล้ว...
“ใช่...พี่เป็นผู้ควบคุมทีมของคณะนี้..มีอะไรรึเปล่า..???”
“คนเก่งอย่างนี้....เดี๋ยวคงมีใครติดต่อไปซ้อมให้จนรับงานแทบไม่ไหวแน่เลยนะครับ....” เป้พูด  ยืนเอามือล้วงกระเป๋า
“ก็ทำเฉพาะงานของคณะอ่ะ...ถ้าไปที่อื่นกลัวจะไม่คุ้นเคยและคงไม่ถนัด...คนเก่งๆในมอมีตั้งหลายคนเค้าน่าจะทำได้ดีกว่า...”
“จริงสินะ อะไรที่ไม่เหมาะกับตัวเองนี่ก็เปลี่ยนไปให้คนอื่นได้” เป้พยักหน้าเห็นด้วย  ผมเริ่มรู้สึกว่าคำพูดของเป้นั้นแฝงนัยอย่างอื่นซะแล้วดิ...เอาไงดีวะ..
“เหมือนคนที่ใส่เสื้อผ้า พอเห็นว่าไม่เหมาะกับตัวเอง ก็ต้องถอดให้คนที่ใส่แล้วดูเหมาะกว่าใช่ไหมครับ”  เป้พูด
“ใช่....ถ้างานชิ้นไหนไม่ถนัดพี่ก็คงทำออกมาไม่ดี แต่ถ้าเค้ายืนยันจะให้ทำ ก็แสดงว่าเค้าไว้ใจเราจริงๆ ก็ต้องพยายามทำให้ดีที่สุด ถ้าทำสุดความสามารถแล้ว ผลงานก็ต้องออกมาได้ดีแน่”  ผมพูด...เป้กลั้นหายใจแล้วยิ้มๆ...
“ขอตัวนะครับ....”  ผมพูดแล้วรีบออกจากตรงนั้นให้ไว...อีกแล้ว..ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงผมได้ปะทะคารมกับไอ้พวกนี้อีกแล้ว...ทั้งนวินทั้งเป้...นี่มันแท๊กทีมกันเข้ามาเล่นงานผมรึไงวะถ้าสองคนมันร่วมมือกัน...ผมเองจะตั้งรับไหวมั้ยเนี่ย
เอาไงดีวะ...จะอยู่ต่อหรือไปไหนดี...หนีก่อนดีกว่าเว้ย  ผมสะพายกระเป๋าเป้เดินฉับๆไปรอรถที่ป้ายรถเมล์เวลามาดันมากับไอ้กิ๋ว...แล้วจะกลับยังไงละทีนี้..



   ธีร์เดินตามหาผมจนรอบสนามแต่ก็ยังไม่เจอ...ธีร์หันไปเจอนวินกำลังชี้มือชี้ไม้สั่งน้องๆในคณะเตรียมอุปกรณ์เพื่อโชว์กองเชียร์อยู่..ธีร์จึงเดินเข้าไปหาเพื่อที่จะเคลียร์ทุกอย่างให้จบ...
“พี่นวิน...ผมอยากคุยด้วย...”  ธีร์เดินเข้ามาใกล้ ยืนตรงหน้านวินโดยไม่รีรอ
“คุยเรื่องเดิมใช่ไหม.. ธีร์จะคุยให้ได้อะไรขึ้นมา” นวินทำไก๋...รู้อยู่ว่าธีร์ต้องการอะไรจากการมาครั้งนี้
“ดูเหมือนว่าพี่นวินจะไม่ฟังที่ผมพูดไปสองสามครั้งที่แล้ว...พี่ไม่ยอมเลิกลายังจะพยายามทำร้ายพี่นุ ข้อนี้ล่ะที่ผมทนไม่ได้...”   นวินสะอึก รู้ทั้งรู้ว่าธีร์จะพูดกับเขาแบบนี้แต่พอได้ยินจริงๆก็ยิ่งปวดใจ
“พี่ไปทำร้ายนุมันยังไง...พี่แค่พูดอย่างที่พี่....”
“อย่างที่ตัวพี่เองอยากจะพูดไง...จะทำลายความรักผมกับพี่นุให้ได้เลยใช่ไหม....เพื่ออะไรครับพี่นวิน....เพื่ออะไร อย่ามาบอกว่าเพื่อต้องการอยากได้ผมนะ....เพราะไม่มีทางเป็นไปได้หรอกและผมจะบอกไว้เอาบุญนะว่า..ผมรักพี่นุ พี่นุ
คนเดียวเท่านั้นที่ผมรัก คนแรก คนเดียว และคนสุดท้าย...”  ธีร์พูดยืดยาว ตลอดเวลาจ้องตานวินอย่างแน่วแน่ ตั้งใจให้คำพูดทุกคำ แทรกเข้าไปในความรับรู้ของชายหนุ่มหน้าขาวที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีซีดเผือด นัยน์ตาแดงก่ำ ปากเม้มแน่น
มือกำจนเห็นเส้นเลือดปูดโปน
“พอเหอะธีร์....ไม่ต้องย้ำขนาดนั้น” นวินเสียงเบา...
“ผมขอเถอะนะพี่นวิน...ให้มันจบแค่นี้จะดันทุรังไปก็ทรมานกันเปล่าๆ พี่นวินเองก็คงไม่มีความสุขหรอกพอเถอะพี่...
อย่าให้จากกันอย่างคนเกลียดกันเลยนะ”
“ธีร์ไปซะเถอะ....ไปซะ....”   นวินเริ่มสะอึกสะอื้นท่าทางจะเลิกพยายามที่จะควบคุมตัวเอง นวินร้องไห้จนน่าสงสาร ธีร์ยืนมองนวินอยู่ชั่วครู่ ถอนหายใจเบาๆ แล้วเดินออกห่างตรงไปยังทางออก....ธีร์แหงนหน้ามองท้องฟ้า...เมฆดำทะมึนเริ่มตั้งเค้าว่าจะตก...ลมเริ่มพัดแรง...
“พี่นุหนีไปอยู่ไหนวะ...” 
“อ้าว...ไอ้นุไม่ได้อยู่กะเราเหรอ...”  ไอ้กิ๋วหันมาถามมือก็กำลังขนของกลับไปที่รถ...
“ไม่อยู่ดิพี่...ผมหาจนทั่วแล้วหาไม่เจอก็เลยวิ่งมาหาพี่กิ๋วนี่แหละ...นึกว่าอยู่ด้วยกัน...”  ธีร์พูดแล้วมองไปรอบๆ
“ชิบหายละ...ฝนก็จะเทแล้ว...จะไปหามันตรงไหนได้วะ...ตกลงมีเรื่องอะไรกันวันนี้อ่ะ..”
“คือว่า...พี่นุเจอกับคนเก่าๆของผมอ่ะครับพี่กิ๋ว...”  ธีร์ตอบเสียงอ่อยๆ  ไอ้กิ๋วส่ายหน้าช้าๆ
“คราวที่แล้วแค่เรื่องกินเหล้าไอ้นุมันยังเคอร์ฟิวส์เอ็งซะสามวัน...แล้วนี่เจอกะอดีตกิ๊กเก่าทั้งหลายนี่ไม่ล่อเข้าไปเป็นอาทิตย์รึไงวะเนี่ย...ตายแน่ไอ้ธีร์คราวนี้อ่ะ...”  ไอ้กิ๋วบอก  ธีร์เห็นว่าน้องหลีดนั่งอยู่ในรถไอ้กิ๋วนานแล้วเลยบอกให้
ไอ้กิ๋วไปก่อน...
“งั้นพี่กิ๋วไปก่อนเหอะ...เดี๋ยวผมลองวนรถดูรอบๆมอก่อน...หวัดดีครับ..” ธีร์ยกมือไหว้ไอ้กิ๋วแล้วเดินมาที่รถ...
ก็เจอเป้ยืนกอดอกพิงรถไว้อยู่...ธีร์ถอนใจอีกครั้ง...เอาวะจัดการทีเดียวให้หมด...ธีร์คิดในใจ..
“เดี๋ยวออกจากนี่แล้วเราไปต่อกันนะธีร์...นานๆจะเจอที...ไปรำลึกความหลังกันหน่อยนะ..” เป้พูดแล้วยืนรอให้ธีร์ปลดล๊อกรถแต่ธีร์ยังยืนอยู่...ฝนก็เริ่มลงเม็ด
“เราคงไปต่อไม่ได้หรอกเป้...เราต้องไปตามหาแฟนเรา...” ธีร์พูดทำเอาเป้หน้าเสีย
“พี่ที่ท่าทางจืดชืดคนนั้นน่ะเหรอ...ธีร์เปลี่ยนรสนิยมไปนะ เคยชอบเพลงร๊อค ไหงกลับมาชอบเพลงคลาสสิคล่ะ”
“เรื่องของเรามันจบไปแล้วนะเป้ให้มันจบไปเหอะ...ตอนนั้นเราสองคนต่างก็ยังเด็กด้วยกันทั้งคู่...อย่าไปคิดมากเลยนะ
วันนั้นเราก็ต่างคนต่างไปแล้ว...มีอนาคตที่ดีเป็นของตัวเอง..เป้ก็มีคนของเป้แล้วไม่ใช่เหรอ??...”
“แต่ว่า...เรายังรักธีร์นะ....” เป้พยายามเดินเข้ามาชิดแต่ธีร์ถอยห่าง...เห็นชายคนหนึ่งกำลังยืนมองอยู่
“เรื่องของเรามันนานมากแล้วเป้...แล้วเราคิดว่าคนที่มากับเป้วันนี้เค้าคงไม่พอใจแน่ๆที่เห็นเป้มาคุยกับเราแบบนี้...
คงไม่ต้องบอกหรอกนะว่าที่เป้มาที่มอเรา...เป้มาเชียร์ใครวันนี้..เป้น่าจะรู้ดีแก่ใจ...โชคดีนะ..” ธีร์พูดแล้วขับรถออกไปทิ้งให้เป้ยืนมองตามตาละห้อย...พอเห็นแฟนตัวเองเดินเข้ามาเป้ก็ปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วเดินกลับไปด้วยกัน...



   ผมเดินทอดน่องจากป้ายรถเมล์มายังร้านค้าตรงประตูทางเข้ามอ…เสียงกองเชียร์แต่ละคณะที่กำลังทำการโชว์ยังดังลั่นอย่างต่อเนื่องท่างกลายสายฝนที่กำลังโปรยปรายลงมา...บางคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานก็เริ่มขี่รถทยอยกันออกมา...ผมเดินไปนั่งที่ม้านั่งหน้าร้านค้าที่ปิดไปแล้ว....เก็บสิ่งที่ไอ้กิ๋วพูดไปคิดรวมทั้งที่เคยอ่านจากหนังสือ หรือได้ยินจากที่อื่นๆ ประมวลเข้าด้วยกันเพื่อช่วยในการไตร่ตรอง ตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไปแต่ประโยคเดียวที่ก้องอยู่ในหัวผมชัดเจนกว่าคำพูดอื่นๆ สารพัด คือเสียงของธีร์...พี่นุ ผมรักพี่นุ ผมรักพี่นุคนเดียว...ผมทรุดตัวลงนั่งอย่างเหนื่อยแรง ตาเหม่อลอยไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย ผมถอนหายใจเบาๆยกมือขึ้นกอดอกราวจะปลอบใจตัวเองว่ามีอ้อมแขนที่อบอุ่นกำลังปลอบโยนอยู่...อ้อมแขนของตัวเอง...แทนที่จะเป็นอ้อมแขนของคนที่ผมรัก...ตั้งแต่คบกับธีร์ผมเคยพร่ำบอกตัวเองเสมอว่าเมื่อตัดสินใจเป็นแฟนของคนที่เคยเจ้าชู้และตอนนี้เลิกเจ้าชู้แล้วผมต้องอดทนและหนักแน่นมากพอสมควรบอกตัวเองว่าอย่าคิดมาก อดีตของธีร์ที่เคยเจ้าชู้ อย่างน้อยก็ต้องมีบ้างที่คนเก่าๆจะโผล่ขึ้นมาทำให้รู้สึกหึงหวงบ้าง...ทั้งที่เตือนตัวเองเสมอ แต่ผมไม่เคยนึกว่าจะพบพร้อมกันทั้งสองคนอย่างที่เห็นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
แสงไฟสว่างจ้าจากรถมอ’ไซด์คันหนึ่งสาดส่องมากระทบใบหน้าผมเงยหน้าขึ้นมองแต่รถคันนั้นไม่ได้ขับผ่าน
“พี่นุ...”  เสียงที่คุ้นเคยเรียกอยู่ข้างๆ
“เจมส์.....”  ผมเรียกชื่อนั่นเบาๆ...เจมส์เดินเข้ามาหาผมพร้อมกับไอ้เต๊ะ
“โห...ฝนก็ตกมานั่งทำไมตรงนี้อ่ะพี่นู๊...” ไอ้เต๊ะทำเสียงสูงเอามือป้องใบหน้า....
“นี่เรียบร้อยแล้วเหรอ...ถึงกลับกันน่ะ...” ผมเลี่ยงที่จะไม่ตอบ  เจมส์นั่งลงข้างๆผม
“พี่นุหนีอะไรมา...มีอะไรรึเปล่า...” เจมส์ถามจ้องผมตาเขม็ง....ผมยังไม่ทันตอบไอ้เต๊ะพูดแทรกเข้ามาซะก่อน...
“หิวน้ำชิปเป๋ง...กูลืมเอาตังค์มาว่ะไอ้เจมส์..มึงมีติดมาเปล่า...กูจะเดินไปซื้อน้ำ..”  เจมส์สายหน้า
“เอ่อ...งั้นเดี๋ยวพี่ซื้อให้ละกัน...” ผมบอกแล้ววางกระเป๋าเป้เดินไปที่ร้านขายของชำข้างๆที่ยังเปิดอยู่


   ธีร์ขับรถวนรอบมอแล้วหาผมไม่เจอเลยขับรถออกมาเพื่อจะไปดูที่หอ...ในช่วงทางออกรถค่อนข้างติดธีร์จึงขยับไปได้ทีละนิดจนเมื่อกำลังจะผ่านตรงประตูทางออก...ที่ร้านค้าด้านข้างมีผู้ชายแต่งชุดหลีดปอมปอมยืนอยู่สองคน
ธีร์กำลังจะขับผ่านแต่บังเอิญเห็นกระเป๋าเป้ใบคุ้นเคยวางอยู่ที่ม้านั่งหน้าร้านขายของชำ...ธีร์จึงรีบจอดรถข้างทางมองผ่านกระจกหลังเห็นผู้ชายตัวสูงใหญ่ยืนเหมือนรอใครอยู่...ธีร์ก็จำได้ถนัดตาแล้วตรงรี่เข้าไปหาและเปิดฉากทันที...
“เจมส์...พี่นุอยู่ที่ไหน”  เจมส์เงยหน้าไม่มีท่าทีตกใจหากทำหน้าเรียบนิ่งต่างไปจากที่เคยเห็น
“จะรู้ไปทำไม....” เจมส์ตอบ
“บอกมา....” ธีร์เสียงกร้าว
“แกเป็นเจ้าของพี่นุไม่ใช่เหรอ?...แล้วทำไมไม่ดูแลพี่นุให้ดีๆวะปล่อยให้แฟนเก่าของตัวเองมาระรานพี่นุอยู่ได้”
“พูดยังงี้หมายความว่าไงเจมส์....”
“ก็หมายความตามที่พูด....ถ้าพี่นุเป็นแฟนแกแล้วต้องมาโดนแบบนี้ เราก็เสียดายคนดีๆ ที่ต้องมาตกระกำลำบาก พี่นุสู้กับบรรดาคนเก่าๆของแกไม่ไหวหรอก” เจมส์เสียงเข้ม
“เจมส์....แกเลิกมาตอแยกับพี่นุเสียเถอะเป็นชู้ทางใจกับแฟนคนอื่นน่ะ มันบาป”
“ก็ยังดีกว่าชู้ทางกายเราเคยรักพี่นุของเรายังไงเราก็ยังรักอยู่แกมาห้ามเราไม่ได้หรอก ที่สำคัญแกดูแลพี่นุให้ดีก็แล้วกัน”
“ทำไม คิดจะแย่งหรือไง”   
“ไม่ได้แย่ง...แต่แกกลับไปเหอะพี่นุไม่ได้อยู่ที่นี่...”
“ไม่อยู่เหรอ....แล้วนี่อะไร...”  ธีร์ชี้ไปที่กระเป๋าเป้ที่วางอยู่
“ก็บอกให้กลับไปไงวะ...”  เจมส์ขึ้นเสียงแล้วยกมือขึ้นผลักธีร์จนเซไปปะทะผนัง
“ไม่กลับ...นี่มันเรื่องของเรากับพี่นุ...ไม่เกี่ยวกับแก...”  ธีร์โต้กลับเสียงแข็ง นัยน์ตาลุกวาบพยายามมองเข้ามาในร้าน
ความโกรธของเจมส์พุ่งขึ้นจนควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ผลักอกธีร์อีกครั้งแรงกว่าเดิมจนเสียหลักล้มลงกับพื้นจนไอ้เต๊ะต้องเข้าไปห้าม....เจมส์ผลักไอ้เต๊ะออกแล้วเจมส์ย่างสามขุมเข้าหาธีร์ พลันต้องสะดุดกึกเมื่อเสียงหนึ่งดังขึ้น...
“เจมส์...อย่า!!! ”  ทั้งสองคนหันขวับไปยังต้นเสียง ผมยืนหน้าเข้มอยู่ไม่ไกล จ้องมองทั้งสองนิ่ง ก่อนจะก้าวเท้าเร็วๆ เข้ามาหา
“นี่กำลังจะมีเรื่องกันอีกแล้วรึไง...” 
“ก็ผมปกป้องพี่นุ...จากแฟนเก่าไอ้ธีร์...ที่อยู่ดีๆ ก็มาขอไอ้ธีร์ไปจากพี่นุหน้าด้านๆ”
“เจมส์....เรารู้ด้วยเหรอ???” ผมถาม..เพราะงงจริงๆว่าเจมส์มันรู้ได้ยังไงก็ผมเองยังไม่ได้เล่าอะไรเลย
“ทำไมผมจะไม่รู้...ผมเห็นเหตุการณ์ตลอด...” เจมส์จ้องธีร์ตาขวาง...ธีร์ก็จ้องกลับมาไม่แพ้กัน..ผมหันไปบอกธีร์
“ธีร์...กลับ!!!....เจมส์...ขอบใจนะ” ผมพูดแล้วดึงแขนธีร์ออกมาจากตรงนั้นธีร์เองก็ยังขืนๆตัวไว้ไม่ค่อยจะยอมเดิน
“พี่นุ...ผะ..ผม...” เจมส์ทำท่าจะเดินตามแต่ไอ้เต๊ะรั้งตัวไว้...
“เฮ้ย..เจมส์เวลาของมึงมันหมดแล้วนะเว้ย...มันเป็นเรื่องของเค้าสองคน..ตอนนี้มึงมันเป็นคนนอกแล้วรู้ไว้ด้วย...”

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
มาม่าชามโต เข้มแข็ง หนักแน่น ท่องไว้นะทุกๆคน  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เวลาของหมาหัวเน่า#เจมส์
#อย่าให้มีคนอื่นเน่าด้วยทีหลัง

หึหึ
สู้เพื่อรัก


กร๊ากกกกกก

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่  22_เสียงหัวใจเรียกร้อง... (18++++)


“พี่นุ....พูดอะไรกับผมซักคำสิครับ...” ธีร์ถามผมหลังจากที่นั่งเงียบกันอยู่นาน...
“พี่เหนื่อยอ่ะธีร์...อย่าเพิ่งให้พี่พูดอะไรเลยนะ...ปวดหัวแล้ววันนี้..”  ผมบอกแล้วเอามือกุมขมับ
“ผมขอโทษนะครับที่ปล่อยให้สองคนนั้นเข้ามาหาเรื่องพี่นุแบบนี้...รับรองครับว่าผมจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก..นะครับพี่นุ”
“ธีร์ไม่ต้องขอโทษหรอก...พี่เองก็ผิดที่โมโหไปลงเอากับธีร์น่ะสองคนนั้นเค้าเข้ามาเองไม่เกี่ยวกับธีร์หรอก..”
“พี่นุอย่าประชดผมสิครับ...” ธีร์จอดรถข้างทางแล้วยืนหน้าเข้ามาใกล้ๆ
“พี่ไม่ได้ประชด...แต่พี่พูดจริงๆ...แต่พี่ไม่รู้นะว่าพี่จะทนเรื่องแบบนี้ได้อีกซักกี่ครั้ง...พี่เป็นคนไม่ค่อยชอบเจอเรื่องตื่นเต้นบ่อยๆหรอกธีร์...รถไฟเหาะพี่ไม่ชอบเล่น...พี่อยากเดินเล่นเงียบๆมากกว่า...ธีร์เข้าใจนะ..”
“เข้าใจครับพี่นุ...ผมคุยกับพวกเค้าไปแล้วคงไม่มีเรื่องอะไรแล้วล่ะครับ..”
“ก็อย่าให้มีคนที่สามโผล่เข้ามาแล้วกัน...ถ้ามี...ก็ทางใครทางมันละกันนะ...” ผมบอกแล้วถอนใจยิ้มๆ
“ผมขอสัญญาว่าจะทำตัวให้ดีที่สุด ไม่ให้ต้องพี่นุหึงหวง.....พี่นุ...คืนนี้นอนที่หอผมนะ ฉลองที่เราคืนดีกัน...พี่นุไป
ค้างหอผมซักครั้งเถอะผมไม่อยากนอนคนเดียว” ธีร์ทำตาซึ้ง เสียงจริงจัง
“ทำยังกับว่าไม่เคยนอนด้วยกัน”
“เคย แต่ว่าพี่นุไม่ยอมไปนอนที่หอผมซักที”
“แสดงว่าธีร์ไม่ชอบนอนที่หอพี่”
“ไม่ใช่อย่างนั้น ชอบสิครับ ชอบจะตาย อยากจะนอนทุกคืน แต่ผมอยากให้พี่นุไปนอนหอผมบ้าง หรือไม่ก็เราก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันเลย...ดีมั้ย”  ธีร์หันมายิ้มหวานแล้วขับรถออกไป




“เฮ้ย...รีบหน่อยสิวะ...กว่าจะมาครบแม่ง..ผับปิดพอดี...”  ไอ้กิ๋วกวักมือเรียกไอ้เต๊ะกับไอ้เจมส์ที่หน้าผับThe voice คืนนี้ไอ้กิ๋วนัดน้องหลีดมาฉลองที่แข่งรอบแรกเสร็จแล้วคะแนนนำมาเป็นอันดับหนึ่ง...ไอ้กิ๋วจองไว้ห้าโต๊ะอยู่มุมในสุด...
แต่ละคนส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่
“ท่าทางวันนี้..จะกวาดผู้ชายกลับไม่หวาดไม่ไหวนะเนี่ย...” วุ้นพูดแล้วกระดกสปายเข้าปากอั่กๆ
“ชั้นว่าคืนนี้เรามาแข่งเก็บแต้มกันก่อนดีกว่าอีวู้นนนนน...อ๊ายยยย...” เดี่ยวพูดแล้วหันไปชนแก้ววววว...ไอ้เจมส์เป็นอีกหนึ่งคนที่กระดกเหล้าพรวดๆจนไอ้หนึ่งต้องร้องห้าม...
“แม่ง...ดื่มเป็นน้ำเลยนะเมิง...เบาๆหน่อย...เหล้าแพงนะเมิง...”  พอแอลกอฮอล์เข้าปากแต่ละคนก็วาดลีลาแดนซ์ไม่แพ้กันซักคน...จนเวลาล่วงเลยไปตีสอง...น้องผู้หญิงเริ่มทยอยกลับกันไปหมดแล้วเหลือแต่บรรดาหลีดผู้ชาย...ส่วนวุ้นกับเดี่ยวก็หายไปพร้อมกับหนุ่มล่ำกล้ามใหญ่ตั้งแต่ตีหนึ่ง...ไอ้กิ๋วเป็นคนเดียวที่ประคองสติได้อยู่เพราะมันต้องขับรถ...
“เฮ้ย...กลับกันได้แล้วเว้ย...พรุ่งนี้ซ้อมกันไม่ได้เดี๋ยวไอ้นุด่ากูอีก...” ไอ้กิ๋วสะกิดให้แต่ละคนลุกเดินตามมันมาที่รถ...
“เดี๋ยววานนี้...ปายนอนน...บ้านโผมมมมกานโหมดนี่แหละ...ม่ายมีครายอยู่...” ไอ้เต๊ะบอกกับไอ้กิ๋ว....โดยมีไอ้เจมส์...         
 ไอ้หนึ่ง...ไอ้เอก...ไอ้แซค...ตามมาด้วยทั้งหมด
“ดี...กูจะได้ไม่ต้องตะเวนส่ง...” ไอ้กิ๋วบอกแล้วขับรถออกจาก The voice ไปยังบ้านไอ้เต๊ะ....พอถึงบ้านไอ้เต๊ะไขกุญแจเข้าไปในบ้าน...แต่ละคนก็เดินโซเซเข้าไปในบ้าน...แยกกันไปนอนตามห้องนอนไอ้เต๊ะบ้าง...ห้องรับแขกบ้าง....
ไอ้เจมส์ทำท่าจะอ๊วก..ไอ้หนึ่งต้องพยุงไปห้องน้ำแต่กว่าจะถึงห้องน้ำได้ก็แทบคลานเพราะเมาแอ๋ทั้งคู่...
“มาววววแล้วว...ปายนอนเลยเมิงอ่าอ้ายยเจมส์...” 

พอออกมาจากห้องน้ำไอ้เจมส์จะเดินไปเองแบบเบลอๆแล้วเซจะล้มลงไอ้หนึ่งเลยช่วยพยุงไปที่โซฟาแต่ว่ามันก็ล้มลงที่โซฟาทั้งคู่...ไอ้เจมส์ทับอยู่บนตัวไอ้หนึ่ง....                                                                                                           

“เพ่นู๊...” เจมส์เรียกไอ้หนึ่งที่เมาหลับใหลไปแล้วแต่ยังนอนทับอยู่บนตัวหนึ่งอยู่...ด้วยความเมาไอ้เจมส์คิดว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือคนที่เรียกชื่อก็เลยก้มลงไปจูบปากกับไอ้หนึ่งอย่างหื่นกระหาย ปรากฎว่าไอ้หนึ่งตอบรับกับริมฝีปากไอ้เจมส์เหมือนกันจึงจูบซุกไซร้ซอกคอมาจนถึงหัวหัวนมที่เป็นสีชมพูน่าดูด จนไอ้หนึ่งครางออกมาซี๊ดซ๊าด...หนึ่งเริ่มรู้สึกตัวแล้วแต่ก็สลึมสะลือมากพยายามที่จะลุกขึ้นมาปฏิบัติการเอง  เจมส์เลยจัดการถอดเสื้อผ้าทั้งของตัวเองและไอ้หนึ่งออก...เจมส์เลยรีบเอามือจับส่วนนั้นของหนึ่งที่แข็งเต็มที่ชักขึ้นชักลงแบบกำมือเน้นๆจนหนึ่งตัวอ่อนลงครางซี๊ดซ๊าดต่อ ปากก็ดูดดุนหัวนมกระตุ้นอารมณ์ต่อเนื่องแล้วจึงเลื่อนตัวลงมาค่อยๆครอบปากลงไป หนึ่งครางซี๊ดซ๊าดไม่เป็นภาษาแล้วกระดกบั้นท้ายส่งส่วนนั้นเข้าปากเจมส์อย่างมีอารมณ์เต็มที่ เจมส์คว้าเอาโลชั่นที่วางอยู่ข้างทีวี    เจมส์จับใบหน้าหนึ่งมาจูบปากแลกลิ้นอย่างหื่นกระหายแล้วเจมส์ก็จับตัวหนึ่งให้นอนคุกเข่าโก้งโค้ง 4 ขา ส่วนตัวเองยืนคุกเข่าอยู่ด้านหลัง เจมส์คว้าโลชั่นทาที่ปากถ้ำของหนึ่ง...แล้วก็ทาที่ส่วนนั้นของตัวเองที่ขนาดพอดีกับส่วนสูง เจมส์ใช้มือซ้ายจับเอวหนึ่งไว้ มือขวาจับน้องชายที่แข็งปั๋งแล้วค่อยๆปักหัวเข้ามาในรูของหนึ่งแล้วค่อยๆดันเข้าไปจนสุดเสียงหนึ่งอืออาๆในลำคอ...  เจมส์เอา 2 มือจับเอวหนึ่งไว้แน่นแล้วเริ่มซอยถี่ขึ้นเจมส์และหนึ่งครางแทบไม่เป็นภาษาเสียงครางยิ่งกระตุ้นให้เจมส์ซอยถี่ขึ้นอีก   
                                                                                                                                             
“อะ...อะ...ไม่ไหว...โอะ..ไม่ไหวแล้ว”  เจมส์ครางเสียงดังขึ้น เจมส์กดส่วนล่างแนบแน่นกับก้นหนึ่งแล้วพุ่งกระฉูดต่อจนล้นออกมาข้างนอกแล้วจึงล้มตัวลงนอนหอบกันอยู่นานด้วยความเหนื่อย   หนึ่งพลิกตัวนอนหงายคว้าโลชั่นทาที่ส่วนของตัวเองและที่ปากถ้ำของเจมส์แล้วดึงเจมส์ขึ้นคร่อมเจมส์จับเอาส่วนหัวจ่อเข้าในรูของตัวเองแล้วกลั้นหายใจหย่อนกตัวลง ปล่อยให้ส่วนนั้นของหนึ่งแทรกผ่านเข้าไป แต่หนึ่งมันกลับเด้งสวนขึ้นมา เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เจมส์ทิ้งตัวลง ปล่อยให้เจ้าน้องชายของหนึ่งเสียบทะลวงเข้ามาจนเกือบมิด...แม้ความสูงจะไม่เท่าเจมส์แต่ว่าส่วนนั้นกลับแข็งขันขนาดพอๆกัน                                                     

“ ซื้ด...อา...” เจมส์สูดปากร้องเบาๆ เพราะความเจ็บปนเสียว                                       

“อะ...อา.....” หนึ่งครางเสียงกระเส่าพร้อมกระเด้งตัวขึ้นรับ   เจมส์เริ่มขย่มเบาๆทั้งๆที่ยังเจ็บอยู่                         

“อา..ดี...อา....” หนึ่งครางเป็นระยะ เจมส์ทนเจ็บไม่ไหวต้องชักให้ตัวเองไปด้วยจึงค่อยยังชั่ว  พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทางกันแล้วเจมส์จึงเริ่มกระแทกแรงขึ้น หนึ่งเสียวมากกัดฟันกระเด้งตัวขึ้นรับเป็นระยะๆ  เจมส์กดบั้นท้ายลงจนส่วนนั้นของหนึ่งเข้าไปได้มิดอันแล้วถูกแรงเด้งของหนึ่งทำให้ก้นเจมส์ลอยขึ้น สาวส่วนนั้นออกมาเกือบสุดปลายแล้วลดตัวลงไปหามันอีกครั้งจนสุดแต่ก็ถูกแรงเด้งจนก้นลอยขึ้นอีก  สองมือเจมส์ยันไว้กับหน้าอกหนึ่งขณะที่หนึ่งเอามือมารวบรัดบั้นท้ายเจมส์ไว้แน่น  หนึ่งกระดกเอวและเร่งบั้นท้ายหนักขึ้นตามจังหวะเอวของเจมส์...ทั้งสองครางซี๊ดซ๊าดอือออาร์เสียงดัง...หนึ่งผลักเจมส์ลงนอนหงายเพื่อที่จะเป็นคนกระทุ้งเอง  หนึ่งยกขาเจมส์ขึ้นพาดบ่า แล้วจับส่วนนั้นของตัวเองยัดกลับเข้าไปที่เดิมหนึ่งเร่งควบกระเด้าอัดลูกสูบเต็มกำลัง ร่างของเจมส์ส่ายร่อนเอวโคลงไปมาหนึ่งเบียดซ้ายทีขวาที เงยหน้าซู๊ดปากเสียงดัง….สวรรค์รออยู่รำไรเพียงอึดใจเดียวทำนบเจมส์ก็พังทลาย สายน้ำไหลทะลักพุ่งกระเซ็นเต็มหน้าท้องและอก ไม่ทันไรหนึ่งก็ร้องเสียงหลงอัดท่อนลำบดเบียดหัวเหน่าชิดติดกับก้นของเจมส์ เงยหน้าอ้าปากซี๊ดปากเสียงดัง ร่างของหนึ่งโดยเฉพาะส่วนสะโพกกระตุกตัวสั่นหลายทีพร้อมกับฉีดน้ำสีขาวขุ่นเข้าไปในตัวเจมส์  หนึ่งฟุบตัวลงมาหาเจมส์แบบไม่ลืมหูลืมตา เจมส์คว้าทิชชู่มาเช็ดตัวของหนึ่งและของตัวเองจนสะอาดแล้วใส่เสื้อผ้าให้หนึ่งและตัวเองแบบลวกๆแล้วพลิกตัวลงไปนอนกับพื้น...


เช้าต่อมา ไอ้เจมส์ตื่นก็บ่ายกว่าๆ ไปดูห้องไอ้เต๊ะ แต่ละคนก็เห็นยังหลับอยู่ในสภาพเสื้อชุดเมื่อวาน แป๊บเดียวก็ได้ยินเสียงชักโครก ไอ้หนึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ มันยังอยู่ในชุดเมื่อวานเหมือนกันแต่ไม่ได้สวมเสื้อ ท่าทางดูสลึมสลือ

“เป็นไง เมาหนักเลยซิมึง”  ไอ้หนึ่งถามแล้วเดินมานั่งที่โซฟาข้างๆไอ้เจมส์ที่นั่งเอามือกุมขมับอยู่...                                                       

“แม่ง...ปวดหัวชิบหาย...มึงกะกูนี่เหมือนกันเลย..เมาแล้วแม่งไม่ชอบใส่เสื้อ...” เจมส์หันไปมองไอ้หนึ่ง..                           

“เช้านี้ไม่รู้เป็นไร...แม่งแสบก้นชิบหาย...เมื่อคืนที่งานเรากินอะไรแสลงๆกันมั้งป่าววะ..”  หนึ่งถาม  เจมส์ทำหน้างงๆ         
 
“เดี๋ยวก็หาย มึงแดกเยอะล่ะมั้ง...จะว่าไปกูก็รู้สึกแสบๆเหมือนกันนะเว้ย...กูก็ลางๆว่ะแต่ยังนึกไม่ออก...”                         

“งั้นเดี๋ยวกูไปเข้าอีกทีดีกว่าว่ะ..แม่ง...ทีหลังกูไม่เมาแล้ว...ลำบากชิบ..”  ไอ้หนึ่งพูด  เอาเสื้อยืดพาดบ่าแล้วเอามือคลำก้นเดินไปเข้าห้องน้ำ...เจมส์ลุกขึ้นยืนแล้วก็เหลือบไปเห็นกองทิชชู่ที่ข้างๆโซฟา..เจมส์ก้มลงดูแล้วทำหน้าตกใจพยายามนึกถึงเรื่องเมื่อคืน...ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง...ความทรงจำที่ลางเลือนเริ่มกลับมา...ชัดขึ้น...ชัดขึ้น...                                           
 
“หมายความว่าเรากับไอ้หนึ่ง.....” เจมส์พูดกับตัวเองแล้วเอาทิชชู่ไปทิ้งถังขยะแล้วจึงรับออกจากบ้านไอ้เต๊ะไป.... 

           กลับมาถึงหอ...เจมส์รีบเข้าไปในห้องน้ำล้างสบู่ออกจากตัว ลูบไล้เรือนกายของตน อดนึกถึงเมื่อคืนที่ผ่านมาไม่ได้ แม้ความจำจะไม่คมชัดเพราะสติถูกครอบคลุมด้วยความเมา แต่ก็พอจำได้ถึงความหฤหรรษ์ที่ได้รับ...ในใจนึกตำหนิตัวเองที่ปล่อยให้อะไรๆเกิดขึ้น เขาโทษเหล้า..เขาโทษความเหงา...ความผิดหวัง...ความเสียใจ...แต่ลึกๆ เขาอยากจะโทษตัวเองนักที่สับสนจนควบคุมตัวเองไม่ได้


ประตูกระจกบานใหญ่เปิดออก ผ้าม่านสีขาวนวลพริ้วไหวเพราะแรงลมสัมผัส ผมเดินเปลือยอกออกมาสูดอากาศเข้าไปเต็มปอด มองไกลไปยังเส้นขอบฟ้าสีคราม...ผมลืมความหม่นมองที่เพิ่งเจอมาเมื่อวานหมดสิ้น...ธีร์ให้ความรักแก่ผมจนผมรับไว้แทบไม่หมด...หัวใจพองโตอัดแน่นไปด้วยความสุข ความน้อยใจที่มีอยู่มลายหายไปสิ้น                               
“แอบหนีมาอยู่ตรงนี้เอง...ใจร้าย....ปล่อยให้ผมนอนหลับอยู่คนเดียว...”   อ้อมแขนแข็งแรงของธีร์สอดเข้ามาโอบเอวผมหลวมๆใบหน้าซุกลงตรงซอกคอ แผ่นอกกว้างเปลือยเปล่าแนบชิดกับแผ่นหลังของผม....เนื้อแนบเนื้อ...เหมือนถ่ายทอดความอบอุ่นให้กัน...
                                           
“พอเถอะ....”

“ไม่....”
 
"เมื่อคืนก็เพิ่ง... ธีร์...ไม่เบื่อหรือไง"

"ไม่"  ธีร์ประทับจูบใต้ใบหู เผยอปากพยายามจะเม้มใบหู

"เดี๋ยวใครเห็น ปล่อยนะ"

"ไม่...อยู่ตั้งสูง...แถมมองออกไปยังเป็นทุ่งกว้างอีกต่างหาก...ถ้ากลัวใครเห็นก็เข้าไปในห้องกับผมนะครับพี่นุ"

"ไม่เอา ต้องไปทำงานแล้ว...ต้องไปซ้อม....เค้าคงรอกันนานแล้ว"

"ให้เค้ารอไป...นะครับพี่นุ...อย่าปฏิเสธผมเลย..."

"ธีร์....ไม่เอานะ"  ผมเสียงอู้อี้ ธีร์ปากเม้มใบหูเน้นน้ำหนักเบาๆ อ้อมแขนกอดกระชับแน่นเข้า หน้าท้องบดเบียดอยู่กับด้านหลังแน่นๆ ของผม

"เข้าข้างในเถอะ อายเค้า" 
                                 
"ฮื่อ..." ผมหมดแรงขัดขืน...ยอมถูกรั้งเข้าไปในห้อง...อีกเหมือนเดิม...

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เจมส์#หมดหวังแล้วซินะ#คนแต่งพิพากษาแล้ว


คนไม่ใช่ยังไงก็ไม่ใช่ คนจะใช่ก็ใช่ทั้งวันทั้งคืน
ก็แล้วแต่นะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เจมส์กับหนึ่งเป็นอะไรที่..เข็มขัดสั้น แถมเป็นโบ้ทด้วย เซอร์ไพรส์!!!!!!   o22

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ขอบคุณที่เม้นติดตามให้กำลังใจกันมาโดยตลอดนะคับ...อีกไม่กี่ตอบก้อจบแล้ว.... :mew4:

ออฟไลน์ monkey1990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่  23_มรสุม (2)                                                                  


“เฮ้ย...ไอ้กิ๋ว...น้องหายไปไหนกันหมดวะ...”  ผทรีบกดเบอร์ไอ้กิ๋วหลังจากมาที่หน้าคณะแล้วเงียบกริ๊บบบบ....   
 
“สงสัยแม่ง...ยังไม่ฟื้นกันว่ะ...”  ไอ้กิ๋วบอกเสียงอ่อยๆ   
                                 
“ยังไม่ฟื้น...แล้วเมื่อคืนมึงพาพวกน้องไปไหนกันมาวะ...”
                                           
“กูพามันไปฉลองกันที่ The voice ว่ะ...กูเห็นมึงกะลังมีเรื่องเลยไม่ได้บอก...”
                        
“แล้วไง...ตกลงคงไม่มีใครมาซ้อมกันแล้วใช่มั้ยเนี่ย...กูจะได้กลับ...ศุกร์นี้ก็แข่งรอบชิงแล้วนะเมิง...”
                      
“เอ่อ..น่า...กูขอโทษถือว่าวันนี้ให้มันพักผ่อนละกัน...พรุ่งนี้มึงก็อัดเต็มที่เลย...จะว่าไปมึงเองก็หายหัวไปเลยนี่หว่าตั้งแต่แข่งเสร็จอ่ะ...ตกลงเคลียร์กันเรียบร้อยยังอ่ะ...”   
                                       
“อืมมม...เรียบร้อยแล้ว...ขอบใจมึงด้วยที่เตือนสติกู....”   
                                                     
“นั่นแน่...เรียบร้อย....โดนไอ้ธีร์อ้อนจนตัวเบาหวิวอีกแล้วอ่าดิ๊...ระวังฟ้าเหลืองนะเมิง...คนเจ้าชู้อ่ะเค้าว่าเซ็กส์จัด...”
       
ไอ้กิ๋วแซวแล้ววางสายทำเอาผมหัวเราะ..หึหึ...แม่งพูดเหมือนตาเห็น...รู้ได้ไงคนเจ้าชู้เซ็กส์จัด...เหอๆ...ท่าจะจริงแฮะ...


อาหารมือค่ำผ่านไปอย่างอ้อยอิ่ง ผมอารมณ์ดีขึ้นมากที่ได้ทานอาหารอร่อยถูกใจผมอมยิ้ม เมื่อเห็นมองไปยังคนตรงหนัาที่เคี้ยวอาหารตุ้ยๆ                                                  
“นี่...ไปตายอดตายอยากมาจากไหนเนี่ย...”   
                                        
"อร่อยอ่ะ....แถมพี่นุยังใช้งานผมจนแทบไม่ได้พัก เหนื่อยจะแย่ " ธีร์พูดทั้งที่ยังเคี้ยวอาหารอยู่  ผมตาโต
                              
“ใช้งานอะไรพูดดีๆนะ...ไม่เคยใช้อะไรซักหน่อย...”
                                                   
“ใช้สิครับ...ใช้ผมอยู่ทุกคืน....จะไม่ให้หมดแรงได้ไงแต่เพื่อพี่นุ...ผมยอม..โอ๊ย"  ธีร์ร้องเบาๆ เมื่อผมเคาะมือด้วยส้อมแล้วเอนตัวพิงเก้าอี้ หยิบทิชชู่เช็ดปากที่ไม่เปื้อนเลยช้าๆ แล้วมองซ้ายมองขวา ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำ  สายตาปะทะเข้ากับร่างของใครคนหนึ่ง  ธีร์เห็นผมเงียบจึงหันไปมองตาม...
                          
“โอยยย....พี่นวิน...”  ธีร์ครางเสียงเบา   ผมอมยิ้ม มองคนที่ก้มหน้าแล้วยกมือกุมขมับ
                             
“จะกุมขมับทำไมอ่ะ...เคลียร์กะเค้าแล้วไม่ใช่เหรอ??...”  ผมพูด  ธีร์ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้น  ผมเลยยื่นมือไปแกะมือของธีร์ที่กำลังกุมขมับออก แล้วใช้อุ้งมือตบแก้มเบาๆ แล้วปรายตาไปมอง "อีกคน" ที่กำลังนั่งมองอยู่จากโต๊ะที่ติดกับหน้าต่าง จงใจให้ฝ่ายนั้นเห็นว่า "นี่คือคนของผม อย่าคิดจะเข้ามายุ่ง"
                                 
"ไม่ต้องหันไป เดี๋ยวเค้าอดใจไม่ได้อีกหรอก.."

"พี่นุอ๊า...ประชดอีกแล้ว....ใจร้าย...ถ้าเขาเกิดเข้ามาเกาะแกะผม พี่นุตบเลยนะ"
                              
"ได้เลย" ผมรับคำสั้นๆ แต่ธีร์รีบพูดว่า
                                                                                                                             
"ตบเขานะ ไม่ใช่ตบผม ไม่ต้องมาทำตาร้ายกาจแบบนี้หรอก"
                                                                                  
“ถามจริง...นึกยังไงฟาดพี่รหัสตัวเองเนี่ย...หึ๊???...”   ผมถามแล้วมองไปทางนวินที่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าแอบมองผมกับธีร์บ้างเป็นบางครั้ง
                                                                                                                  
“โธ่...เรื่องมันนานมาแล้วนะครับพี่นุ...อย่าไปรื้อฟื้นเลย...”  ธีร์ตอบตาละห้อย ราวจะอ้อนวอนให้ผมอย่าสนใจ
                        
“นึกว่าจะชอบแต่ขาวๆ หน้าคมๆ หวานๆ เด็กๆรุ่นเดียวกันซะอีก”
                            
“ขนาดอายุมากกว่าที่อยู่ตรงหน้า...ยังชอบเล้ย...”  ธีร์พูดแล้วรีบเอนตัวชิดผนังเก้าอี้ให้ห่างจากรัศมีมือผมเอื้อมถึง แต่ผมไม่ขยับ นั่งนิ่งเฉยๆ แล้วหันไปเรียกเด็กเก็บเงิน
                                          
"ล้อเล่นน่าพี่นุ..รักพี่นุที่สุด ไม่เคยเห็นว่าแก่เลยนะ แต่ถึงแก่ผมก็จะยังรัก" ธีร์ทำหน้าตาออดอ้อน
                        
“ผมรักพี่นุมาก พี่นุก็รักผม เรารักกัน เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปกลัวว่าใครจะมาทำให้เราแยกกันนะครับ...จริงมั้ย..."

“พี่ไปบอกรักธีร์ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน..ขี้ตู่รึเปล่า...”
                                                         
“พี่นุอ๊ะ...ใจร้าย...ทีเมื่อคืนยังบอกว่ารักผมอยู่เลยตอนอยู่บนเตียงอ่ะ...อะไรก็ไม่รู้อย่าหยุดๆ...” ธีร์ก้มหน้ามาพูดเบาๆให้ได้ยินแค่เราสองคน  แววตากรุ้มกริ่ม
                                              
"เซ้าซี้เรื่องไม่เป็นสาระอยู่ได้"

"ถ้างั้นเอาเรื่องที่เป็นสาระ" ธีร์ยิ้มกริ่ม
 
"คืนนี้เราทำอะไรกันในห้องน้ำนะ ผมอยากชุ่มชื่นใต้ฝักบัว...นะๆๆ"  พูดเสร็จธีร์ก็เอนตัวออกห่างผมเพราะกลัวโดนตี แต่ลืมไปว่าเท้ายังวางอยู่ใต้โต๊ะ และผมก็ "เหยียบ" ได้แม่นเหมือนมีตาอยู่ที่เท้า

"อูย"   ธีร์ครางเสียงอ่อย ก่อนจะตามมาด้วยคำว่า    
                                     
"โหดร้าย"
   

   สายๆของวันพฤหัส...เป็นวันสุดท้ายของการซ้อมเพราะพรุ่งนี้ในพิธีปิดกีฬาจะเป็นการโชว์กองเชียร์และแข่งหลีดปอมปอมในรอบสุดท้ายแล้วจะประกาศผล....วันนี้เราซ้อมกันอย่างหนักเปลี่ยนแปลงในบางจุดนิดๆหน่อยๆเพราะในรอบแรกเราทำคะแนนไว้ดีอยู่แล้วแต่ถ้าเปลี่ยนใหม่หมดเลยในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน..ผมคิดว่าไม่เสี่ยงเกินไปแต่จนป่านนี้เกือบจะหกโมงเย็นแล้วการซ้อมก็ยังไม่สมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์...
.                                                                     
“นี่ใครเห็นรู้บ้างว่าอีหมาชิสุห์มันหายหัวไปไหนไม่มาซ้อมเนี่ย...ว่าไงอีเดี่ยว..”  ไอ้กิ๋วตวาดลั่น                          
 
“หนูก็ไม่รู้อ่ะพี่กิ๋ว...โทรหามันเป็นร้อยรอบแล้วก็ไม่ติด...แยกกันตั้งแต่คืนนั้นแล้วหนูก็ยังไม่เคยเจอกันอีกเลยอ่ะ..”  เดี่ยวตอบทำหน้าคว่ำแล้วต่อโทรศัพท์ถึงวุ้นอีก..                                     

“แล้วจะเอายังไงดีอ่ะพี่นุ...นังวุ้นยังไม่มาเราก็ซ้อมของใหม่ไม่ได้...”  ปอยพูด                            

“หรือว่าเราจะใช้ของเดิมทั้งหมด...”  อิ่มเสนอ                                       

“ถึงใช้ของเดิม...ก็ไม่ได้อยู่ดีเพราะส่วนใหญ่วุ้นจะอยู่ชั้นสองตลอด..ถ้าวุ้นมันไม่มาจริงๆเราก็ต้องรื้อต่อตัวใหม่หมดเลย...แต่พี่ไม่แน่ใจนะว่ามันจะออกมาดีหรือเปล่ากับระยะเวลาแค่นี้...”  ผมบอกแต่ละคนถอนใจกันเป็นแถว...                 

“งั้นให้เวลาอีชิสุห์แค่หนึ่งทุ่ม..เดี๋ยวแยกย้ายกันไปกินข้าวเลยแค่ครึ่งชั่วโมงพอแล้วกลับมาเจอกัน...แล้วซ้อมกันจนถึงเที่ยงคืนไปเลยไอ้นุ...เดี๋ยวกูกะอีเดี่ยวจะไปตามมันที่หอเอง...”  ไอ้กิ๋วบอกแล้วน้องแต่ละคนก็แยกย้ายกันไปกินข้าว  ผมเดินมาที่ม้าหินอ่อนที่ธีร์กำลังนั่งทำการบ้านรอผมอยู่
                            
“มีอะไรรึเปล่าพี่นุ..ท่าทางเครียดๆกัน..”  ธีร์เงยหน้าถาม  ผมนั่งลงตรงหน้า
                          
“ติดต่อวุ้นไม่ได้....หายตัวไปไหนก็ไม่รู้...นี่ก็ยังไม่ได้ซ้อมต่อตัวกันเลย..”   
               
“อยู่กับไอ้แบงค์รึเปล่าไม่รู้...เดี๋ยวผมลองโทรถามให้...” ธีร์บอกแล้วกดโทรศัพท์ไปหาแบงค์...


เสียงร้องครวญครางของชายหนุ่มสองคนดังประสานกัน สลับกับเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดของเตียงนอนเป็นจังหวะสัมพันธ์กับการขยับกายของร่างบึกบึนสองร่างที่อยู่บนเตียง แอร์ในห้องเปิดจนเย็นฉ่ำ แต่ร่างแกร่งที่กำลังระเริงรักกันอยู่กลับเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ  แบงค์สูดปากใบหน้าเหยเกเพราะใกล้จะทนไม่ไหว ขยับเอวเป็นจังหวะต้านแรงกระแทกจากเต้ย ดีเจหนุ่มของผับ The voiceที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาขย่มกายของเขาดังควบม้าศึกอาระเบียเช้าห้ำหั่นกับศัตรู
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นแบงค์ขมวดคิ้ว ยกมือขึ้นเป็นสัญญาณให้เต้ยหยุดชั่วครู่ พร้อมกล่าวขึ้นด้วยเสียงหอบกระเส่าว่า

"เต้ย...พะ...พอก่อน เดี๋ยว...อูย...เดี๋ยวขอผมรับโทรศัพท์"

"บ้าเหรอแบงค์ กำลังมันส์...ซี๊ดส์... ผมใกล้แล้ว" เต้ยเสียงกระเส่าไม่แพ้กัน เอวยังขยับเด้งไปมาไม่ยอมหยุด

"น่านะ เดี๋ยวผมกลับมาทะลวงให้ถึงใจ ขอเวลาเดี๋ยวเดียว"

"แบงค์อ่ะ ไม่ยอมนะครับ" เต้ยส่ายหน้าอย่างขัดใจ

"อย่าดื้อสิจ๊ะ" แบงค์จับเอวของชายหนุ่ม พลิกตักดีเจตี๋ห้าวลงข้างล่าง กระแทกสุดแรงหนึ่งครั้งจนชายหนุ่มร้องเสียงหลง แล้วจึงถอดถอนท่อนลำของตัวเองออก เต้ยสะดุ้งเฮือก มือใขว่คว้าสิ่งที่เขาหลงใหล  แบงค์จับข้อมือของดีเจหนุ่มเพื่อไม่ให้คว้าส่วนนั้นของเขาเอาไว้ รีบโหย่งตัวออกห่าง แล้วก้าวขาลงจากเตียง เดินโทงๆ ไปคว้าโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะชิดผนังเขากดรับสาย ทักทายด้วยเสียงร่าเริง                                   

“ไอ้ห่าธีร์...โทรมาทำไมตอนนี้วะ...ขัดจังหวะกู..กูกะลังเข้าด้ายเข้าเข็ม..”                                        

“กว่าจะรับได้นะเมิง...กูนึกว่าตายห่าคาอกกันไปแล้วนี่กะลังเข้าด้ายเข้าเข็มเหรอวะ...รีบๆทำแล้วปล่อยตัวไอ้วุ้นมาได้แล้ว...พี่นุกับพวกหลีดเค้ารอซ้อมกันอยู่..”                                                                      
 
“เฮ้ย...ไม่ได้อยู่กับกู...ไม่เจอกันหลายวันแล้ว...อู๊ยยย...”  แบงค์ตอบแล้วตามด้วยเสียงอุทานเบาๆ เมื่อมีมือซุกซนของคนที่ควรจะรอเขาอยู่บนเตียง สอดแทรกมากลางหว่างขาจากด้านหลังแล้วเกาะกุมสิ่งที่อยู่ตรงกลางลำตัวเบื้องหน้า   

“แน่ะนะเว้ย..สาระนะเนี่ย...อย่าโกหกนะเมิง...เค้าตามหากันให้วุ่นไปหมด..”                  

“อะ..เออ...ดะ..เดี๋ยวๆ”  แบงค์ตอบ ลดมืออีกข้างลงไปปัดป้อง ง้างมือของเต้ยออกจากการเกาะกุมส่วนนั้นของเขา   

“เดี๋ยวอะไรวะ...มึงพูดกับกูรึเปล่าเนี่ย...”                                        

"เดี๋ยว...เอ่อ...อูย...เดี๋ยวกูไปช่วย...หา" แบงค์เสียงกระท่อนกระแท่นเพราะเต้ยไม่ยอมหยุด กลับขยับมือขึ้นลงแรงและเร็วขึ้น ปลายนิ้วเขี่ยส่วนปลายเบาๆ                                                   
 
“เออๆ...แค่นี้แหละ..ท่าทางมึงกำลังยุ่งอย่าหักโหมมากละกันมึง..” ธีร์พูดแล้ววางสาย ส่วนอีกทางแบงค์ก็รีบวางสาย โยนโทรศัพท์ไปบนไว้บนโต๊ะ แล้วดันหน้าของดีเจหนุ่มออกจากการรุกรานของรักของหวงของเขาแบงค์ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ผลักหนุ่มหล่อให้นอนราบกับพื้นห้อง แล้วรีบปฏิบัติการทำโทษคนหัวดื้ออย่างรุนแรงและรวดเร็ว ไม่สนใจคำบ่นกระท่อนกระแท่นของเต้ยว่าเจ็บหลังที่โดนเขากระหน่ำอย่างไม่ปราณี  แบงค์ใช้เวลาไม่ถึงสามนาทีก็เสร็จสมอารมณ์หมาย ส่วนเต้ยนั่นพุ่งกระฉูดไปตั้งแต่ในนาทีแรกที่แบงค์กระแทกกระทั้นชายหนุ่ม แบงค์ทิ้งให้เต้ยนอนหายใจหอบอยู่บนพื้นห้อง ตัวเองรีบถอดกายออก เดินตรงไปยังห้องน้ำเพื่ออาบน้ำแบบเร่งด่วนสุดชีวิต ดีเจหนุ่มน้อยร่างแกร่งบ่นตามหลังว่า                                                           

"ทำไมเร็วจัง"                                     

“พอดีคนหาย...ผมต้องไปช่วยตามหา...” แบงค์ปิดประตูห้องน้ำแล้วจัดการอาบน้ำอย่างรวดเร็ว




“วุ้นก็ไม่ได้อยู่กับไอ้แบงค์อ่ะครับพี่นุ...”  ธีร์เดินกลับมานั่งที่เดิม
                  
“คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกเนอะ...”  ผมปลอบใจตัวเองแล้วถอนใจเฮือกใหญ่
                              
“ใจเย็นๆครับพี่นุ...ทุกอย่างต้องคลี่คลายไปได้นะ...อย่าคิดมากนะครับพี่นุ...”  ธีร์กุมมือผมเบาๆให้กำลังใจสักพักโทรศัพท์ดัง...ผมดูเบอร์..อ้าวไอ้กิ๋วนี่หว่าอาจจะได้ข่าววุ้นแล้ว....   
                              
“ฮัลโหลว่าไงกิ๋ว...”
                                            
“เฮ้ยไอ้นุ...เจออีวุ้นแล้วว่ะ...”



   ผมรีบเดินตรงไปที่ประชาสัมพัน์ของโรงพยาบาลถามหาชื่อคนเจ็บว่าอยู่ที่ไหน...ธีร์วิ่งตามเข้ามา...ผมกดลิฟท์ขึ้นไปยังห้องพักที่เจ้าหน้าที่บอก...ระหว่างอยู่ในลิฟท์ธีร์กุมมือผมแน่น..ธีร์ดึงผมไปยืนใกล้ๆจนไหลเราชิดกัน พอลิฟท์เปิดผมเดินตรงไปตามทางเดินจนสุดก็เห็นไอ้กิ๋วยืนโทรศัพท์อยู่หน้าห้อง...                                       

“เรื่องมันเป็นมายังไงวะกิ๋ว..”                                              

“พยาบาลเค้าบอกว่าวุ้นมันถูกข่มขืนว่ะ...คงเป็นไอ้คนที่มันออกไปด้วยคืนไปเที่ยวอ่ะ..มันคงหลอกไปให้เพื่อนมันรุมโทรมว่ะ...คนที่เค้าเจอแล้วพามาส่งเค้าเล่าว่าเจอวุ้นกำลังโดนมันร่วมด้วยช่วยกันอยู่แถวๆแยกบายพาสนอกเมือง...พอพวกมันเห็นรถขับเข้าไปก็คว้าเสื้อผ้าวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น..จะเหลืออยู่ก็แค่วุ้นนอนเปลือยสลบเหมือดอยู่นี่แหละ..”           
ไอ้กิ๋วเล่าเป็นฉาก  ผมใจหายวาบกับสิ่งที่ได้ยิน                                 

“แล้วนี่วุ้นมันรู้สึกตัวรึยัง..”                                                                     

“นี่ก็ยังไม่ฟื้นเลยว่ะ...ไอ้นุ..ท่าทางมันจะลงแข่งพรุ่งนี้ไม่ทันแล้วว่ะ...แล้วมึงจะเอาไงต่อไปทีนี้”                          

“กูยังไม่รู้เลยว่ะ...ตื้อไปหมดแล้วตอนนี้..”   สักพักแบงค์ก็ถามมาถึง  แบงค์ยกมือไหว้ผมกับไอ้กิ๋ว                 

“วุ้นเป็นไงบ้างวะธีร์...”                                            

“มึงเข้าไปเยี่ยมเองในห้องดีกว่า..”  ธีร์บอก  แบงค์ผลักประตูเข้าไปก็เจอเดี่ยวนั่งน้ำตาซึมอยู่ข้างเตียง                                

“แบงค์...นั่งก่อนสิ...” เดี่ยวเช็ดน้ำตาแล้วลุกขึ้นให้แบงค์มานั่งแทน                  

“หมอว่าไงบ้างอ่ะเดี่ยว...”   แบงค์หันมาถาม                           

“หมอเค้าบอกว่าร่างกายวุ้นอ่อนเพลียอย่างหนัก...บาดแผลที่ถูกข่มขืนอักเสบอย่างหนักแต่ก็ปลอดภัยแล้ว...ภายนอกก็อย่างที่เห็น..ฟกช้ำนิดๆหน่อยๆ...โดนเข้าไปอย่างนี้คงหายแร่ดไปอีกนาน”  เดี่ยวพูดขำๆแต่น้ำตาซึม           

“เดี่ยวพอจะรู้มั้ยว่าวุ้นไปพลาดท่าเรื่องนี้ยังไงได้...”                                   

“ถ้าจะให้เดานะคงเป็นไอ้หน้าหล่อคนนั้นที่เจอกันคือไปเที่ยวนี่แหละ...ก็ไม่นึกว่าเรื่องมันจะกลายเป็นแบบนี้....ปกติก็นึกว่ามันจะพาขึ้นสวรรค์แต่ที่ไหนได้กลับพาลงนรกซะได้...”                                                   

“ทีหลังก็ระวังตัวกันหน่อยละกัน...อย่าไว้ใจกับคนที่เพิ่งเจอกันโดยเฉพาะที่เที่ยว...”                           

“จะพยายาม...”  เดี่ยวบอกเสียงค่อย  ไอ้กิ๋วเปิดประตูเข้ามา...                          

“ไป..อีเดี่ยวกลับไปซ้อมกันก่อน...ไปคุยกันว่าจะเอายังไงดีทางนี้ให้ไอ้แบงค์อยู่เฝ้าไปก่อน...”  แบงค์พยักหน้ารับ  เดี่ยวจึงเดินตามไอ้กิ๋วออกไป

 

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
รักกันซะขนาดนี้
ต่อให้มีมรสุมเข้ามาซักกี่ลูก
ก็คงไม่มีทางพังแล้วล่ะ

บทเรียนของวุ้น
อย่าไว้ใจคนแปลกหน้า

+1 ฮับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด