ลงตอนนี้ใน RAW มาเดือนกว่าแล้ว เพิ่งนึกได้ว่าลืมลงในนี้ ขอโทษด้วยค่าาาา
---- มื้อค่ำพร้อมเสิร์ฟแล้วครับ ----
“เจจ๊ะ อ้าว ไปไหนแล้วล่ะ?”
ฆาเบียร์ถามอย่างงง ๆ เมื่อออกจากห้องน้ำมาแล้วไม่เจอเจนยุทธอยู่ที่เคาเตอร์บาร์ เขาใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมตัวเองที่เปียกหมาด ๆ พลางเดินมายังส่วนครัว
“สงสัยจะทำงานเสร็จแล้ว”
คนตัวโตรำพึงเบา ๆ เมื่อเห็นแล็ปท็อปที่ปิดไว้แล้วบนเคาเตอร์บาร์ เขารู้ได้ว่าเจคงกำลังอาบน้ำจากเสียงน้ำที่ดังออกมาจากห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ ฆาเบียร์เดินเข้าไปในห้องนอนและหยิบชั้นในตัวใหม่มาสวมก่อนจะพันผ้าเช็ดตัวทับตามเดิม จากนั้นเปิดกระเป่าแล้วหยิบแล็ปท็อปของตนออกมาเพื่อเช็คดูงานที่ต้องสะสางต่อบ้าง
“ตัวเย็นมาเชียว”
ฆาเบียร์บ่นเบา ๆ เมื่อสัมผัสถึงเนื้อตัวเย็น ๆ ของคนเพิ่งอาบน้ำเสร็จที่ทาบลงบนแผ่นหลังเปลือยของเขา เจหอมแก้มเมียตัวโตของเขาฟอดใหญ่แล้วใช้คางเกยไหล่ของอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อดูว่าฆาเบียร์กำลังทำอะไรอยู่
“อะไรจ๊ะ จะมาสอดแนมอะไร?”
คนตัวโตพูดแล้วยกมือขึ้นปิดหน้าจอ เจนยุทธใจหายวาบแล้วรีบถอยกายออกอย่างรวดเร็ว
“โอ๊ะ ขอโทษครับ ผม เอ่อ ผมไม่ได้ตั้งใจจะดูนะ”
เจพูดเสียงอ่อย ๆ แล้วทรุดตัวลงนั่งจ๋องบนเก้าอี้บาร์ข้าง ๆ คนรัก ฆาเบียร์หัวเราะเบา ๆ แล้วยกมือขึ้นลูบผมนิ่มที่ยังเปียกชื้นอยู่บ้าง
“ฉันพูดเล่น ไม่ใช่ความลับอะไรหรอก”
คนตัวโตพูดยิ้ม ๆ แล้วหันหน้าจอคอมให้เจดู
“เอ้า ดูได้ตามใจเลย ไม่มีอะไรมากมายหรอก”
เจมองกราฟและตัวเลขเป็นแผงบนจอแล้วทำหน้าเบ้
“ดูหุ้นอยู่เหรอครับ?”
“จ้ะ แค่เช็ค ๆ ข้อมูลหุ้นที่โบรคเกอร์เขาเสนอมาให้น่ะ ลองอ่านดูหน่อยไหม?”
เจนยุทธกวาดตาดูบรรดาข้อมูลอย่างผลประกอบการย้อนหลัง สถิติของหุ้นและอื่น ๆ ที่แสดงบนหน้าจอแล้วก็ส่ายหน้า
“ไม่ดูดีกว่าครับ เดี๋ยวยาว”
เจที่เพิ่งหัดเล่นหุ้นหัวเราะแหะ ๆ ในอดีตเขามักซื้อและขายตามคำแนะนำของเพื่อนที่มีประสบการณ์สูงอย่างปรินซ์กับอดีตคู่ขาอย่างแตงโม ส่วนในปัจจุบันแม้จะขยับไปเล่นตลาดต่างชาติบ้าง เขาก็จะใช้บริการโบรคเกอร์ที่คนรักเป็นฝ่ายแนะนำให้แทนที่จะมานั่งเฝ้าหน้าจอดูเองตลอดเวลา
“นั่นสินะ ฉันก็เปิดดูฆ่าเวลารอเจแค่นั้นแหละ”
ฆาเบียร์ส่งยิ้มละไมให้คนรัก เขากดปิดเครื่องแล้วดึงอีกฝ่ายให้ขึ้นนั่งคร่อมตัก
“นายมาแล้ว จะเสียเวลาไปกับอย่างอื่นทำไม”
คนตัวโตพูดแล้วจรดจูบแผ่ว ๆ ลงไปบนริมฝีปากแดงระเรื่อที่เผยอน้อย ๆ เหมือนรอคอยเขา เจนยุทธจูบตอบอย่างอ่อนโยน สักพักจูบอย่างแผ่วเบาก็กลายเป็นจุมพิตดูดดื่ม เจส่งลิ้นของเขาเข้าไปพันพัวกับลิ้นร้อนผ่าวของอีกฝ่าย ฆาเบียร์เองก็ดูดดึงขบเม้มริมฝีปากอันหอมหวานของคนรัก เสียงครางเครือเบา ๆ ในลำคอของเจกระตุ้นอารมณ์ของเขาจนแทบทนไม่ไหว
“ผมคิดถึงคุณ”
เจกระซิบเสียงกระเส่าหลังจากอีกฝ่ายถอนจูบออก
“ฉันก็ ‘kid tueng’ เจนะ”
เจเลิกคิ้วเมื่อได้ยินคำว่า “คิดถึง” เป็นภาษาไทยชัดแจ๋วดังออกมาจากปากคนรัก
“พูดชัดเชียว ใครสอนมาล่ะครับเนี่ย?”
“บูมสอนจ้ะ”
ฆาเบียร์ยิ้มอย่างภูมิใจเมื่อได้ยินคำชมจากคนรัก
“ไหน พี่บูมสอนอะไรอีก พูดให้ฟังหน่อยครับ”
เจนยุทธดันกายออกจากอ้อมกอดของคนรักแล้วนั่งกอดอกตัวตรงบนเก้าอี้บาร์ ฆาเบียร์ทำท่าครุ่นคิดก่อนจะพูดคำหวานที่ลูกพี่ลูกน้องของเจนยุทธเป็นคนสอน
“Chan rak Jay”
“คำนี้เคยพูดบ่อยแล้ว ผ่าน”
“Jay narak tee sood”
“อ่ะ ‘หล่อ’ สิ น่ารักอะไรล่ะ ไม่ก็ ‘เท่’ อ่ะ ไหน พูดตามซิ”
เจนยุทธย่นจมูกให้คนรัก แล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อคนตัวโตพูดเป็นภาษาไทยว่าเขานั้นหล่อและเท่
“Yark gord Jay”
“ครับ ๆ เดี๋ยวให้กอด พูดต่อสิ”
เจปัดมือคนตัวโตที่ทำท่าจะเอื้อมมาคว้าตัวเขาเข้าไปกอด ฆาเบียร์พูดต่ออีกสองสามประโยคก่อนจะยกยิ้มร้าย เขาเอนกายเข้าไปใกล้คนรักแล้วกระซิบบางอย่างเบา ๆ
“เฮ้ย! อันนี้พี่บูมก็สอนคุณด้วยเรอะ?”
เจนยุทธสะดุ้งเฮือกแล้วโวยลั่น ฆาเบียร์กลั้นหัวเราะเมื่อเห็นเจโคลงหัวและบ่นพี่ชายเป็นภาษาไทยยาวเหยียด เขาลุกขึ้นแล้วขยับกายเข้าใกล้คนรัก
“Please!”
คนตัวโตโอบแขนทั้งสองรอบเอวของเจและร้องขอซ้ำด้วยน้ำเสียงเว้าวอน เจกัดปากน้อย ๆ แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
“อุตส่าห์ขอเป็นภาษาไทยแล้ว ได้ครับได้”
เจนยุทธลุกจากเก้าอี้แล้วทำท่าจะดึงฆาเบียร์เข้าไปในห้องนอน แต่คนตัวโตขืนกายไว้
“ที่นี่ก็ได้น่า”
ฆาเบียร์พูด เจย่นจมูกแล้วดันคนรักให้ยืนพิงเคาเตอร์ครัว ส่วนตัวเองลงไปนั่งคุกเข่าต่อหน้า เขาเลิกชายผ้าเช็ดตัวที่พันกายของคนรักขึ้นแล้วดึงขอบชั้นในของอีกฝ่ายลงก่อนจะค่อย ๆ ใช้มือโลมไล้แท่งลำของฆาเบียร์จนมันค่อย ๆ ผงาดง้ำขึ้น เขาจรดริมฝีปากลงที่ส่วนปลายแล้วตวัดลิ้นเขี่ยวนรอบส่วนปลายที่แดงก่ำ คนตัวโตพริ้มตาลงและปล่อยใจไปกับความเสียวซ่านที่ได้รับจากปลายชิวหาของคนรัก
“เจ ทำอะไรของเจน่ะ?”
คนตัวโตลืมตาขึ้นและถามอย่างงงงวยเมื่อเจหยุดการเคลื่อนไหวหลังจากห่อปากรับแก่นกายเขาเข้าไปแล้วปล่อยมันออกมาเพียงหนึ่งครั้ง จากนั้นจัดการดึงกางเกงชั้นในกลับขึ้นห่อหุ้มแก่นกายที่ชูชันจนน่าสงสารของเขา
“อ้าว ก็คุณบอกว่า ‘Om hai tee’ ไม่ใช่เหรอ? ผมก็ทำแล้วไง อม ‘ที’ เดียว”
คนหัวหมอหัวเราะคิกคักอย่างถูกใจเมื่อสามารถใช้การพลิกแพลงคำมาหยอกเย้ากับคนรักได้ ฆาเบียร์เกาหัวแกร่กเมื่อรู้ว่าสิ่งที่บูมสอนนั้นถูกคนรักตีความเป็น put it in your mouth once ไปเสียเรียบร้อย
“เจ้าเล่ห์นักนะเรา”
ฆาเบียร์คำรามเบา ๆ แล้วคว้าคนรักเข้ามาปล้ำจูบและจั๊กจี้ด้วยความมันเขี้ยว เจหัวเราะลั่นแล้วพยายามดิ้นหนีจนมือไปปัดโดนถุงผ้าที่อิ่มให้มาจนตกจากโต๊ะ
“เวร เดี๋ยว ๆ หยุด ๆ เก็บของก่อน...”
เจรีบดันกายออกจากอ้อมอกของคนรักแล้วทรุดกายลงเก็บหนังสือการ์ตูนที่ตกกระจัดกระจายอยู่บนพื้นครัว
“ยับมาพี่อิ่มด่าผมตาย”
เจบ่นเบา ๆ ฆาเบียร์ก้มกายลงช่วยหยิบการ์ตูนเล่มน้อยขึ้นมาส่งให้เจ แต่ก็ต้องชักมือกลับเมื่อเห็นภาพบนหน้าปก
“เดี๋ยว เจ นี่มันอะไรน่ะ?”
คนตัวโตถามพร้อมกับพลิกดูอย่างสนใจ ภาพวาดสีสันสดใสบนหน้าปกนั้นเป็นภาพของชายหนุ่มกึ่งเปลือยที่ทอดกายอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่มอีกคนด้วยท่าทีล่อแหลม
“เจ นี่มัน porn ไม่ใช่เหรอ?”
ฆาเบียร์อุทานเมื่อเห็นภาพฉากเซ็กส์โจ๋งครึ่มภายในการ์ตูนเล่มนั้น เขาหยิบเล่มอื่น ๆ มาดูแล้วก็พบว่าแทบทั้งหมดมีฉากติดเรทสอดแทรกอยู่ไม่มากก็น้อย
“นี่อิ่ม อิ่มอ่านอะไรแบบนี้เหรอ?”
คนตัวโตที่เพิ่งนึกได้ว่าเจได้การ์ตูนถุงนี้มาจากไหนถามอย่างงง ๆ สำหรับเขาแล้ว อิ่มใจดูเรียบร้อยเกินกว่าที่จะอ่านการ์ตูนที่มีฉากติดเรทสุดวาบหวามขนาดนี้
“ก็บอกแล้วไง ว่าเจ๊เขาเป็นสาว y อ่ะ การ์ตูนวายมันก็ประมาณนี้แหละคุณ”
เจนยุทธหัวเราะหึ ๆ พลางพลิก ๆ ดูการ์ตูนที่พี่สาวส่งมาให้เขาได้ศึกษา
“คุณไม่เคยอ่านการ์ตูนพวกนี้มาก่อนเหรอครับ?”
เจถามเมื่อเห็นคนรักเปิดดูภาพลายเส้นในเล่มอย่างสนใจ
“ไม่เคยเลยจ้ะ ฉันก็รู้นะว่าทางเอเชียเขานิยมอ่าน manga แบบนี้ แต่ฉันไม่เคยได้อ่านแบบจริงจังสักที จะว่าไปฉันก็ไม่ค่อยได้อ่านอะไรแบบนี้มากเท่าไหร่ จะมีก็อ่านที่เป็นนิยายเกย์บ้าง แต่ก็ไม่มาก”
“หึ ก็แหงล่ะครับ ชีวิตคุณมันก็เหมือนกับนิยายอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องอ่านเพื่อเติมเต็มแฟนตาซีของตัวเองแล้วนี่นา”
“แหม เจจ๊ะ นิยายเกย์มันก็ไม่ได้มีแค่เรื่องเซ็กส์อย่างเดียว มันก็มีพล็อตเรื่องหลากหลายเหมือนกับนิยายทั่วไป แค่ว่าตัวเอกเป็นเพศเดียวกัน ไม่ใช่เป็นชายกับหญิง...”
ฆาเบียร์พูดแล้วหยิบการ์ตูนอีกเล่มมาเปิดผ่าน ๆ แล้วก็ทำตาโต
“อื้อหือ เล่มนี้แรงไม่ใช่เล่นเลยนะ”
คนตัวโตเดาะลิ้นเมื่อเปิดไปไม่กี่หน้าก็เจอฉากบนเตียงที่เร่าร้อนรุนแรง เขาพลิก ๆ ดูหน้าต่อไปอย่างสนใจ เจนยุทธยื่นหน้าไปดูหน้าปกของการ์ตูนเล่มที่ฆาเบียร์บอกว่าแรง
“อ๋อ เรื่องนี้...ฮ่ะ ๆๆ”
เจนยุทธหัวเราะร่าออกมาเมื่อเห็นการ์ตูนวายชื่อดังที่อยู่ในมือของฆาเบียร์
“นี่เรื่องโปรดของพี่อิ่มเลยนะคุณ เห็นเจ๊แกว่าเป็นหนึ่งในตำนานการ์ตูนวายเลยนะ”
เจหยิบมือถือของเขามาจิ้ม ๆ หาข้อมูลของการ์ตูนเรื่องนั้นแล้วส่งให้ฆาเบียร์ดู
“Viewfinder งั้นเหรอ?”
ฆาเบียร์อ่านชื่อเรื่องที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ เจนยุทธพยักหน้าแล้วบอกฆาเบียร์ว่ามีคนนำการ์ตูนเรื่องนี้ฉบับแปลภาษาอังกฤษไปสแกนลงในอินเตอร์เน็ตเรียบร้อยแล้ว
“แต่ถ้าคุณอยากอ่านจริง ๆ แล้วหาเล่มลิขสิทธิ์ได้ คุณก็ซื้อเล่มเถอะนะ อุดหนุนคนขายเขาหน่อย แต่ของไทยน่ะ เห็นออกมาเป็นเล่ม ๆ แบบนี้ก็ยังน่าจะเถื่อน แหะ ๆๆ”
เจนยุทธเล่าว่าอิ่มใจเคยพูดให้ฟังว่าการ์ตูน Yaoi หรือ Boy’s Love ที่ขายในไทยตั้งแต่สมัยเธอเริ่มอ่านใหม่ ๆ เมื่อยี่สิบปีที่แล้วนั้นมักเป็นแบบไพเรทหรือแบบที่ไม่ได้รับลิขสิทธิ์ถูกต้องจากสำนักพิมพ์ต้นฉบับ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะยังไม่เป็นที่ยอมรับแพร่หลาย
“เจ๊บอกว่าสมัยก่อนนี่แทบจะเป็นหนังสือใต้ดินกันด้วยซ้ำ เพราะอย่างที่เห็นว่าภาพมันล่อแหลมมาก โดนจับทีก็เปลี่ยนชื่อสำนักพิมพ์กันที แถมโดยมากก็ตีพิมพ์เถื่อนแบบไม่ได้ขอลิขสิทธิ์จากสำนักพิมพ์ที่ญี่ปุ่น มีช่วงหลังนี่แหละครับที่มีการขอลิขสิทธิ์กันมาอย่างถูกต้อง แต่ก็จะแพงกว่าแบบที่เป็นไพเรทเยอะเหมือนกัน”
“แหม รู้เยอะเชียวนะ อ่านจนปรุแล้วล่ะสิท่า”
คนตัวโตกระเซ้าคนรัก เจนยุทธหน้าแดงซ่าน
“ไม่ได้อ่านเยอะอะไรขนาดนั้นซักหน่อย...”
คนตัวเล็กบ่นอุบอิบ
“เมื่อก่อนผมก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอก รู้แค่เจ๊อ่านการ์ตูนวาย แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร จนกระทั่ง เอ่อ กระทั่ง...”
“กระทั่งอะไรจ๊ะ?”
ฆาเบียร์ถามยิ้ม ๆ เขาพอจะนึกออกแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนรัก
“ก็ตั้งแต่พาคุณไปหาแม่วันนั้นแหละ! ฮึ่ย!”
เจนยุทธกระแทกเสียงเบา ๆ นับตั้งแต่วันที่พี่สาวของเขาได้พบหน้าฆาเบียร์และรู้ว่าน้องชายมีชายหนุ่มมาติดพัน อิ่มใจก็ขนการ์ตูนตั้งใหญ่มาให้เขาแทบจะทันทีที่เจอหน้ากันอีกครั้ง
“เจ๊บอกว่าให้ศึกษาไว้ ผมเปิดดูแล้วแทบช็อค”
“ขนาดนั้นเชียว? นายตกใจกับเรื่องความสัมพันธ์ของผู้ชายขนาดนั้นเลยเหรอ?”
คนตัวโตที่ยังไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่คนรักต้องการสื่อถามอย่างสงสัย หากเจนยุทธส่ายหน้า
“ผมไม่ได้ช็อคเรื่องนั้น แหม มันการ์ตูนวาย ผมก็รู้แหละว่าตัวเอกมันต้องเป็นผู้ชายทั้งคู่ แต่ที่ช็อคคือ เล่มที่ผมเปิดอ่านก็ไอ้เจ้าเรื่องที่คุณอ่านอยู่นี่แหละ เปิดมาก็เจอฉากปั่มปั๊มกันแล้ว...”
เจถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาที่เคยอ่านแต่การ์ตูนผู้ชายไม่เคยนึกเลยว่าการ์ตูนที่ตีพิมพ์มาเพื่อให้สาว ๆ อ่านจะมีฉากบนเตียงที่โจ๋งครึ่มและรุนแรงได้แบบนี้
“ผมก็นึกว่าการ์ตูนที่พวกผู้หญิงอ่านนี่คือใส ๆ รักวัยไฮสกูล ทำยังไงจะได้จูบแรกกันนะ อะไรแบบนี้...”
คนตัวเล็กโคลงหัว
“เออ นั่นสินะ ฉันเปิดมาก็งงเหมือนกัน ปกติการ์ตูนแนวนี้จะเน้นฉากแบบนี้เหรอ?”
ฆาเบียร์ถามแล้วหยิบเล่มอื่นที่ไม่ได้อยู่ในซีรีส์ Viewfinder ขึ้นมาดู
“ตอนแรกผมก็คิดว่างั้นครับ แต่พออ่าน ๆ ไปหลาย ๆ เรื่องก็ได้รู้ว่ามันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากการ์ตูนทั่วไปนะ จริงอยู่ที่มีหลายเรื่องที่เน้นขายความฟิน บางเรื่องคือแทบไม่มีตอนใส่เสื้อใส่ผ้า เนื้อเรื่องแทบไม่มี แต่ก็มีอีกหลายเรื่องที่เน้นเนื้อเรื่อง เน้นพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวเอกโดยแทบไม่มีเรื่องเซ็กส์โจ๋งครึ่ม มันก็เหมือนที่คุณบอกว่านิยายเกย์ก็คือนิยายทั่วไปแค่เปลี่ยนตัวละครแค่นั้นแหละ...”
เจหยุดแล้วค้น ๆ กองการ์ตูนที่พี่สาวให้ยืมมาแล้วดึงออกมาเล่มหนึ่ง
“อย่างเรื่องนี้ เป็นการ์ตูนทำอาหารที่มีตัวเอกเป็นคู่เกย์ เรื่องนี้ดีมาก ๆ ครับ ถ้าคุณจะหาอ่านผมขอแนะนำเลย คุณลอง search หา What Did You Eat Yesterday? ดูนะ”
เจนยุทธส่งการ์ตูนเรื่อง “เมื่อวานเจ๊ทานอะไร” ที่เขากำลังอ่านติดพันให้คนรักดู เขาบอกว่านอกจากเรื่องอาหารแล้ว นิยายเรื่องนี้ยังนำเสนอเรื่องปัญหาและความสัมพันธ์ของคนที่เปิดตัวเป็นเกย์กับสังคมรอบข้างในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
"ว้าว นี่มันแทบจะเป็นการ์ตูนทำอาหารอยู่แล้วนี่ เจ ไม่เห็นมีฉากโรแมนติกหรืออะไรเท่าไหร่นะ"
ฆาเบียร์เปิดดูการ์ตูนที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของอาหารมื้อค่ำประจำวันของเกย์หนุ่มสองคนอย่างสนใจ
"ครับ การ์ตูนเล่มนี้ตีพิมพ์ในไทยโดยสำนักพิมพ์ที่ตีพิมพ์การ์ตูนแนวทั่วไป ไม่เน้นวาย จริง ๆ ผมก็เคยอ่านเรื่องนี้นานแล้วด้วย ในฐานะการ์ตูนทำอาหารนะ ไม่ใช่การ์ตูนวาย ตอนนั้นอ่านเพราะชอบงานเรื่องอื่นของนักเขียนคนนี้ที่เขาเอาไปทำเป็นซีรีส์ครับ"
เจเล่าต่อว่าก่อนหน้านี้เขาเคยติดซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่อง Antique Bakery อย่างงอมแงมจึงได้มาหาการ์ตูนที่เป็นต้นฉบับของ Yoshinaga Fumi อ่าน ในตอนหลัง เมื่อเห็นลายเส้นอันคุ้นตานี้บนแผงหนังสืออีกครั้งเขาจึงไม่ลังเลเลยที่จะซื้อ "เมื่อวานเจ๊ทานอะไร" เพราะรู้ว่าเขาจะไม่มีวันผิดหวังแน่นอน
"เรื่อง Antique Bakery ที่ผมว่านั้นมีการเอาไปทำเป็นแบบใช้คนแสดงอยู่ 2 เวอร์ชั่นครับ ของญี่ปุ่นเป็นทีวีซีรีส์ จะมีการดัดแปลงจากต้นฉบับไปพอสมควร หลัก ๆ คือไม่เน้นว่าตัวเอกที่เป็น patissier นั้นเป็นเกย์ ไม่พูดถึงปมความสัมพันธ์ของเขากับคนอื่น ๆ ในร้าน แต่เน้นเรื่องราวของลูกค้าที่มาที่ร้านและมิตรภาพของคนในร้านมากกว่า..."
เจหยุดพักเพื่อเปิดข้อมูลในมือถือแล้วส่งให้ฆาเบียร์อ่าน"
"...แต่เวอร์ชั่นเกาหลีที่เป็นหนังและใช้ชื่อว่า Antique นั้นแทบจะตรงกับต้นฉบับเป๊ะ ๆ เกย์ก็บอกว่าเกย์ มีฉากเลิฟซีนด้วย แต่ที่เหมือนกันของทั้งสองเวอร์ชั่นคือทำตัวร้านขนมออกมาได้สวยมาก ขนมก็น่ากินจนผมแทบจะเลียจออยู่แล้ว"
เจพูดว่าอิทธิพลของซีรีส์เรื่องนั้นทำให้เขาต้องแวะเวียนไปเบเกอรี่ของโรงแรมดาราเทวีที่ในตอนนั้นมีขนมหน้าตาใกล้เคียงกับขนมฝรั่งเศสในเรื่องที่สุดอยู่บ่อยครั้ง
"นายก็หาเรื่องกินตลอดนั่นแหละ"
ฆาเบียร์พูดกลั้วหัวเราะพลางอ่านข้อมูลที่เจส่งให้
"เฮ้ ๆ ฉันว่าฉันเคยดูเวอร์ชั่นเกาหลีนะ ใช่ ๆ ฉันจำคนที่เป็นคนทำขนมได้"
คนตัวโตโพล่งออกมาหลังจากได้ดูทีเซอร์หนังที่เจหามาให้ดู เขาจำดาราหนุ่มคิมแจอุคในลุคของปาติซิเยร์หนุ่มผมยาวที่ดูเซื่อง ๆ ยามอยู่ที่ร้าน แต่จะแปลงร่างเป็นควีนแสนแซ่บในยามออกท่องราตรีได้
"ตอนนั้นฉันกำลังคบ เอ่อ อ่า เพื่อนเกาหลีอยู่คนนึง แล้วเขาเคยเอาดีวีดีเรื่องนี้มาเปิดให้ดู"
"ครับ ๆ เพื่อนก็เพื่อน"
เจหัวเราะคิกเมื่อเห็นท่าทีอึกอักของคนที่หลุดปากพูดถึงคนที่เคยควงในอดีตออกมา เขาตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อไม่ให้คนตัวโตรู้สึกเก้อเขินไปมากกว่านี้
“อีกเรื่องที่พี่อิ่มแนะนำให้ผมก็เรื่องนี้เลย ผมไม่แน่ใจว่าภาษาอังกฤษใช้ชื่ออะไร”
เจหยิบการ์ตูนเล่มหนาอีกเล่มหนึ่งมาให้ฆาเบียร์ดู ชื่อภาษาไทยของมันคือ “ตราบสิ้นอรุณโศก” โดย Hidaka Shoko
“เรื่องนี้ดราม่าจัด ๆ เลยครับ เป็นเรื่องขุนนางญี่ปุ่นช่วงยุคไทโช เอ่อ ก็ช่วงต่อระหว่างยุคเมจิกับโชวะอ่ะนะ ตัวเอกเป็นขุนนางหนุ่มวัยเรียนที่ต้องขึ้นสืบทอดตำแหน่งแทนพ่อกับพ่อบ้านที่อายุมากกว่า นอกจากดราม่าเรื่องความสัมพันธ์ของตัวเอกสองคนกับเรื่องการเติบโตของตัวละครแล้ว ยังมีเรื่องการเมืองในยุคนั้น การสืบทอดและแย่งชิงอำนาจในตระกูล การเอาตัวรอดของตระกูลขุนนางและเรืองอำนาจของตระกูลพ่อค้าในสังคมที่ระบอบศักดินาเริ่มเสื่อมอำนาจแล้ว สนุกครับ”
เจนยุทธร่ายยาวพร้อมกับเปิดหาชื่อเรื่องภาษาอังกฤษไปด้วย
“อ้อ เรื่องนี้ครับ Blue Morning ลองหาอ่านดูนะ แล้ว...อิอิ”
คนตัวเล็กทำท่ากรุ้มกริ่ม
“...ฉากบนเตียงเรื่องนี้ก็เด็ดอยู่ครับ”
“จ้ะ ๆ ไว้จะหาดู ไว้นายลิสต์ ๆ มาให้ฉันหน่อยแล้วกันว่าเรื่องไหนน่าสนใจ เผื่อฉันเอาไว้อ่านแก้เครียด”
“คุณจะอ่านจริงอ่ะ? ผมก็แนะนำไปงั้นนะนั่น นึกว่าคุณจะอ่านการ์ตูนแบบนี้ไม่เป็นซะอีก”
เจนยุทธทำตาโต เขาไม่นึกว่าชาวตะวันตกอย่างฆาเบียร์จะมีความสนใจจริงจังกับการ์ตูนแบบมังงะของญี่ปุ่น
“โธ่ เจ ฉันก็โตมากับ comics นะ แล้วฉันเป็นเด็กสายคอมพ์ ถึงตัวฉันจะไม่เคยอ่าน manga อย่างจริงจัง แต่ก็มีเพื่อนและลูกน้องที่ติดการ์ตูนญี่ปุ่นแบบที่ถ้ามีออกมาเมื่อไหร่ก็ตามซื้อเมื่อนั้น ฉะนั้นก็จะผ่านตามาบ้าง”
ฆาเบียร์บอกว่าที่ออฟฟิศของเขาที่สหรัฐฯ ก็มีคนที่ติดการ์ตูนญี่ปุ่นทั้ง manga และ anime อยู่จำนวนมาก
“ที่ดัง ๆ เลยก็ Naruto One Piece Dragonball Z หรือกระทั่งการ์ตูนผู้หญิงอย่าง Sailor Moon”
คนตัวโตยิ้มเมื่อนึกถึงโต๊ะทำงานของหนุ่มฝรั่งหัวใจญี่ปุ่นเหล่านั้นที่เต็มไปด้วยฟิเกอร์และของสะสมจากอนิเมชั่นญี่ปุ่น
“ฉะนั้น ส่งลิสต์มา รับรองว่าหาอ่านได้แน่จ้ะ”
ฆาเบียร์พูดพลางหยิบ Viewfinder เล่ม 3 ซึ่งเป็นการ์ตูนเล่มแรกที่เขาเปิดดูค้างไว้ขึ้นมาอ่านต่อ เจหัวเราะคิกเมื่อเห็นคนรักทำท่าทางอ่านการ์ตูนที่มีชื่อไทยว่า "ล่ารักอันตราย" อย่างจริงจัง
“แล้วนี่อ่านรู้เรื่องเหรอครับ?”
เจขยับเก้าอี้ของตนเข้าไปชิดกายคนรักแล้วเอาคางเกยไหล่อีกฝ่ายไว้พร้อมยกมือโอบเอวไว้หลวม ๆ
“อ่านไม่ออกหรอก แต่เดาได้”
ฆาเบียร์ไล่นิ้วไปตามลายเส้น ชายหนุ่มร่างเพรียวบางถูกกดหน้าลงกับโต๊ะโดยมีชายหนุ่มผมยาวดำในชุดสูทยืนประกบด้านหลัง
“He is raped”
คนตัวโตพลิกผ่านไปอีกสองสามหน้า แม้จะมีการเซ็นเซอร์ส่วนเครื่องเพศ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าฉากที่เขากำลังดูอยู่นี้คือฉากข่มขืน
“อ๊ะ มีปืนด้วย? น่าสนใจ”
ฆาเบียร์ถามอย่างสนใจเมื่อเห็นชายหนุ่มหน้าสวยผมยาวดำขลับคนนั้นเล็งปืนไปที่อีกฝ่าย เขาพลิกไปอีกหน้าหนึ่งก็เจอหนุ่มผมดำร่างกำยำในชุดสูทอีกคนเข้าประตูมาพร้อมกับเล็งปืนมาที่หนุ่มผมยาวคนนั้น
“อ้อ คนนี้พระเอก?”
คนตัวโตพูดงึมงำ เขาจำได้ว่าคนที่มาทีหลังคนนี้คือคนเดียวกับที่อยู่บนเตียงในตอนต้นเล่มกับหนุ่มร่างเพรียวที่โดนข่มขืนไปคนนั้น
“อ่ะ เดาเก่ง ใช่ครับ คนนี้พระเอก แล้วพอจะเข้าใจเนื้อเรื่องไหมครับ?“
“อืมม์ ไม่เข้าใจหรอกนะว่ามันเกิดอะไรขึ้นแน่ ๆ แต่นี่น่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับพวกมาเฟียใช่ไหม?”
“ครับ คนนี้มาเฟียฮ่องกง ส่วนคนนี้ก็มาเฟียญี่ปุ่น ในเรื่องไม่ได้บอกว่าเป็นยากูซ่านะ เพราะไม่ได้มีแก๊ง แต่ว่าเป็นพวกเจ้าพ่อคุมโลกใต้ดิน อะไรประมาณนี้”
“อ๋อ เป็นพวก triads นี่เอง โอ๊ะ เปลี่ยนใส่ชุดจีนแล้ว”
ฆาเบียร์พูดงึมงำเมื่อเปิดไปเจอภาพชายหนุ่มผมยาวในชุดกางเกงและเสื้อคลุมตัวยาวแบบจีนปักลายหงสา
“แหม แต่หนุ่มผมยาวคนนี้ฉันดูแล้วคุ้น ๆ ยังไงก็ไม่รู้”
คนตัวโตพูดยิ้ม ๆ มันทำให้เขาอดคิดถึงหนึ่งในหยกแฝดตระกูลจิวขึ้นมาไม่ได้ เพียงแต่ลู่ฟางไม่ได้มีสีหน้าเย็นชาตลอดเวลาเหมือนกับมาเฟียหนุ่มผมยาวคนนั้นเลย
“นี่ ๆ เล่มนี้มีตอนไปฮ่องกงด้วยนะ”
เจนยุทธส่งการ์ตูนเล่มต่อให้ฆาเบียร์ คนตัวโตรับมาเปิด ๆ ดูพอให้เห็นแล้วหันไปหยิบเรื่องอื่นมาดูต่อ เจอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นทีท่าเหมือนเด็กเจอของเล่นใหม่ของคนรัก เขาปล่อยให้ฆาเบียร์อ่านนั่นนี่ไป ส่วนตัวเองก็ลุกไปเปิดตู้แล้วหยิบแก้วแบบสั้นออกมาสองใบ
“Neat, straight up or on the rock?”
ฆาเบียร์เงยหน้าขึ้นมาดูเมื่อเจถามว่าเขาต้องการเหล้าแบบไหน
“Hibiki? Neat, please…umm, make it double”
“ครับ ๆ ดับเบิลช็อตนะ ผมกะ ๆ เอา ไม่ตวงนะ ขี้เกียจล้าง jigger”
เจนยุทธพยักหน้าหงึกหงักรับคำคนรักที่บอกมาว่าเขาต้องการเหล้าเพียว ๆ ปริมาณ 2 ถ้วยตวงเหล้า หรือเท่ากับ 3 ออนซ์ เจจัดการเทเหล้าวิสกี้สัญชาติญี่ปุ่นที่อยากลองมานานลงในแก้วสั้นให้เมียตัวโตของเขา ส่วนแก้วของตัวเองนั้น เขาได้เอาน้ำแข็งใส่ลงไปสองก้อน จากนั้นเทเหล้าปริมาณเท่า ๆ กับที่เทให้ฆาเบียร์ลงไป เขายกแก้วขึ้นแกว่งเบา ๆ สองสามทีแล้วจึงคีบน้ำแข็งออกทิ้งในอ่างล้างจาน
“เล่นง่ายนี่เรา”
คนตัวโตที่หยุดอ่านการ์ตูนชั่วคราวกระเซ้าเจนยุทธ วิธีเสิร์ฟแบบ straight-up ที่ถูกต้องนั้นเจควรที่จะรินกรองเอาแต่น้ำเหล้าลงในแก้วใบใหม่ ไม่ใช่คีบน้ำแข็งออกแบบนี้
“เอาน่า เย็นเหมือนกัน เป็นอาจารย์วิชาการจัดการเครื่องดื่มเหรอครับ ฮึ่ย!”
เจแกล้งทำท่ากระฟัดกระเฟียดจนอีกฝ่ายอดหัวเราะเบา ๆ ออกมาไม่ได้ คนตัวเล็กหันไปแลบลิ้นให้คนนั่งเท้าคางดูเขาอย่างเพลิดเพลินแล้วจึงหันกลับมาจัดการกับเครื่องดื่มของตนต่อ เจจัดแก้วทั้งสองใบใส่ในถาดใบใหญ่ จากนั้นหยิบจานใบเล็กสองใบกับส้อมสองคันมา
“หืมม์? เอาจานมาทำอะไร?”
ฆาเบียร์เลิกคิ้ว ตัวเขานั้นยังไม่ได้รู้สึกหิวสักนิด เจไม่ตอบแต่หันไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิบกล่องเค้กที่เหลือจากมื้อเย็นมา
“ของแกล้มเหล้าครับ เห็นเค้กในเรื่อง Antique เมื่อกี้แล้วหิว”
เจนยุทธพูดหน้าตาเฉย ฆาเบียร์โคลงหัวอย่างอ่อนใจ
“เจ เค้กกับวิสกี้นี่จับคู่กันยากหน่อยนะ”
“ก็ผมอยากกินอ่ะ เก็บไว้หลายวันมันจะไม่อร่อยกันพอดี”
เจพูดแล้วแลบลิ้นเลียปาก
“โอเค ๆ กินก็กิน มะ ยกมาเลยจ้ะ”
ฆาเบียร์เก็บการ์ตูนที่วางเกลื่อนบนโต๊ะออกแล้วนำมาตั้งซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบ เจวางถาดลงบนโต๊ะแล้วส่งแก้วเหล้าให้ฆาเบียร์
“Salud!”
ทั้งสองยกแก้วขึ้นชนกันเบา ๆ
“หูย รสมันนุ่ม”
เจนยุทธส่งเสียงอืออาอย่างพึงใจออกมาเบา ๆ วิสกี้ชั้นดีจากญี่ปุ่นขวดนี้ทำให้เขาพึงใจอยู่มิน้อย
“ดีใช่ไหม? ไว้วันหลังฉันจะหาแบบที่ดีกว่ามาให้”
ฆาเบียร์พูดแล้วก็บ่นกะปอดกะแปดว่าเขาน่าจะเลือกแบบที่หมักบ่มนานกว่านี้มาให้เจนยุทธ
“ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร แพงเกินไปเสียเปล่า สำหรับผมแค่นี้ก็อร่อยแล้วน่ะ”
เจรีบห้ามคนรัก สำหรับเขา วิสกี้ฮิบิกิแบบธรรมดาที่สุดอย่าง Japanese Harmony ที่กรุ่นกลิ่นไม้โอ๊คจากถังบ่มก็ถือว่าดีกว่าเหล้าที่เขากินกับเพื่อน ๆ อยู่อักโขแล้ว
“เค้กไหมครับ?”
เจนยุทธเลื่อนจานที่มีเค้กชิ้นสวยวางอยู่สองชิ้นไปให้คนรัก ฆาเบียร์ส่ายหน้า เขายังอิ่มจากมื้อเย็นอยู่มาก เจยักไหล่แล้วจัดการกินเค้กทั้งสองชิ้น
“เจจ๊ะ ครีมติดปาก”
ฆาเบียร์เรียกคนรักที่นั่งเคียงข้างให้หันหน้ามาหา เขาใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยครีมที่ติดขอบปากของอีกฝ่ายออกอย่างแผ่วเบา หากเมื่อเขาจะดึงมือกลับ เจนยุทธกลับฉุดรั้งข้อมือของฆาเบียร์ไว้ เขาจรดริมฝีปากลงบนนิ้วที่เลอะครีมแล้วแลบลิ้นออกเลียครีมนั้นกลับเข้าปากของตน
“เสียดายของอ่ะ”
เจนยุทธพูดยิ้ม ๆ แล้วเงยหน้าขึ้นสบตาคนรักอย่างท้าทาย เขายิ้มอย่างสมใจเมื่อเห็นไฟที่ลุกโชนในตาของอีกฝ่าย
“อ๊ะ เค้กผม คุณจะทำอะไรอ่ะ...อืมม์”
เจร้องออกมาเบา ๆ เมื่อคนรักใช้นิ้วป้ายครีมบนเค้กขึ้นมาอีก เขาต้องส่งเสียงแผ่ว ๆ ออกมาเบา ๆ เมื่อฆาเบียร์ใช้นิ้วเปื้อนครีมค่อย ๆ ถูไล้ไปบนริมฝีปากของเขา เจส่งลิ้นออกมากวาดเลียครีมที่ริมฝีปากรวมไปถึงปลายนิ้วที่ขยับเย้าแหย่อยู่ ฆาเบียร์ค่อย ๆ ดันนิ้วของเขาเข้าไปทีละนิ้วจนโพรงปากของเจเต็มแน่นไปด้วยนิ้วยาว ๆ กายของคนตัวโตค่อย ๆ ร้อนผ่าวขึ้นตามความปรารถนาที่ลุกโชนขึ้นเมื่อเรียวลิ้นของเจเลียไล้วนรอบนิ้วที่เขาชักเข้าออกปากของอีกฝ่าย
(ต่อคอมเมนท์ถัดไปค่ะ)