เป็นมื้อเช้าที่ต่างคนต่างกิน ต่างคนต่างเงียบ และพอกินกันเสร็จแล้ว นภศรก็เพียงแค่พูดสั้นๆว่าจะไปทำงาน แล้วก็หายออกจากห้องไปเลย ทิ้งภูผาเอาไว้เพียงลำพังกับจานชามที่ต้องล้างซึ่งเป็นหน้าที่เขา
…หน้าที่…นานเท่าไหร่แล้วที่การอยู่ด้วยกันของพวกเขาสองคนแบ่งปันหน้าที่และความรับผิดชอบร่วมกัน แชร์กันออกค่าคอนโด แชร์กันออกค่าน้ำค่าไฟ แชร์กันออกค่ากินค่าอยู่ หรือถึงขนาดแชร์เตียงนอนด้วยกัน…นั่นสิ…มีเพื่อนผู้ชายคู่ไหนในโลกอีกมั้ยที่ถึงขนาดแชร์เตียงนอนด้วยกันมาเกือบจะสิบปีเข้าไปแล้ว โดยที่ไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยันอีกฝ่ายตกเตียงตายไปซะก่อน
“เอาไงดีวะกู…” ภูผาพึมพำกับตัวเอง แล้วค้ำสองแขนลงกับขอบอ่างล้างจาน เขารู้สึกว่าตัวเองแปลกไป อย่างน้อยก็ตรงที่เมื่อตอนนั้นเขากำลังจะ…กำลังจะจูบนภศร…
“ไอ้น้องก็ไม่ได้หน้าตาเหมือนผู้หญิงสักหน่อย ไอ้บ้าภูเอ้ย!! จะเสียเพื่อนก็วันนี้แหละวะ!” เขายังบ่นกับตัวเองเพราะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เรื่องนี้จะให้นภศรรู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าเมื่อกี้เขาคิดจะจูบมัน ไม่อย่างนั้นมีหวังฝ่ายนั้นต้องให้ป๊ามันมา ‘เจี๋ยน’ เขาแน่ๆ
……………………..
‘วันนี้วันเสาร์ กูไปกินเหล้ากับมึงไม่ได้หรอก วันนี้เป็นวันของกูกับแยม’ เสียงของเพื่อนรักนามว่าสหรัฐว่าอย่างนั้น ทำเอาภูผาอยากจะถอนหายใจใส่โทรศัพท์
“แต่คราวนี้กูมีเรื่องด่วนจะปรึกษามึงนะเว้ย! มึงช่วยทำเพื่อเพื่อนบ้าง! ไอ้เสือ!!” วันนี้ภูผาทำงานไม่รู้เรื่อง ทั้งๆที่วันนี้เขาอุตส่าห์ถ่อออกจากบ้านมาบริษัทเพื่อหาอะไรทำเป็นชิ้นเป็นอันในวันเสาร์ แต่สติ สมาธิไม่มีมากพอจะจับงานได้สักอย่าง เลยต้องโทร.หาเพื่อนเพื่อจะเรียกมันไปปรับทุกข์ เขาคิดจะทำอะไรสักอย่างกับตัวเอง เพื่อที่จะได้มั่นใจว่าจะไม่มีวันคิดจะไปจูบนภศรอีก ขืนปล่อยไว้แบบนี้ เกิดเขานึกหื่นจับไอ้น้องกดขึ้นมาตอนนอนอยู่ข้างๆกัน มีหวังจะสิ้นเพื่อนก็คราวนี้
‘ก็แล้วทำไมมึงต้องเอาวันนี้ด้วยล่ะ! เมี่อคืนมึงก็กวนกูมารอบนึงแล้ว นี่มึงจะกวนกูวันนี้อีกเหรอวะ?!’
“แต่เรื่องด่วนของกูมันรอไม่ได้แล้ว! เอาอย่างงี้ก็ได้ เดี๋ยวเย็นนี้กูเข้าไปหามึงที่คอนโด…”
‘กูให้เวลามึงถึงแค่ 2 ทุ่ม โอ.เค.มั้ย ถ้าดึกกว่านั้น กูไม่ว่าง!’
“มึงไม่ว่างอะไรของมึงวะ?! คืนนี้ไม่มีบอล…”
‘ไม่มีบอลแต่กูมีแยม เข้าใจ๊?! กูจะอยู่กับแยม!’ ภูผาทำเสียงขึ้นจมูกอย่างหงุดหงิด ให้มันได้อย่างงี้เถอะ ไม่รู้จะสงสารตัวเองก่อนหรือสงสารคุณแยมก่อนดี!
“ก็ได้ๆ! สองทุ่มก็สองทุ่ม! แม่งเอ้ย! เพื่อนประเสริฐจริงๆนะมึงเนี่ย!!!”
‘แน่นอน! และกูต้องเป็นผัวประเสริฐของแยมด้วย เพราะงั้นสองทุ่มคือเวลาสุดท้ายที่กูจะให้มึงอยู่บ้านกู!’
สหรัฐวางสายไปแล้ว คาดว่ารายนั้นคงพยายามทำงานไล่บี้ลูกน้องทั้งโรงงานเพื่อจะได้กลับบ้านไปอยู่กับคนรักโดยเร็ว ภูผาคิดแล้วอดอิจฉาเพื่อนไม่ได้ ในขณะที่มันอยากกลับบ้านใจแทบขาด แต่เขาต้องระหกระเหินไม่กล้ากลับไปสู้หน้าคนที่บ้าน…
…เอาเถอะ! จะมีแค่วันนี้วันเดียวเท่านั้นแหละ! วันนี้วันเดียวเท่านั้น!...เขาจะไม่ปล่อยให้เกิดความรู้สึกแบบนี้อีก!!!…
………………………
“อะไรนะ!! มึงจะจูบไอ้น้อง!!!”
“เบาๆสิวะไอ้เสือ! มึงจะตะโกนให้ยามข้างล่างได้ยินรึไงล่ะ!!” ภูผาหน้าตื่น เหลือบมองคนรักของเพื่อนที่กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัวแล้วก็โล่งใจขึ้นมาหน่อย ถึงแม้ว่าญาณธรจะเป็นคนรักของสหรัฐ และไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไรกับเรื่องที่เขาจะจูบไอ้น้อง แต่เขาก็ยังเขินอยู่ดีถ้าหากคุณแยมจะรู้เรื่อง
“ก็มึง!...มึงจะ…จะจูบ…ไอ้น้อง…” ภูผาลูบหน้าตัวเองอย่างอัดอั้น เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงมีความรู้สึกแบบนั้นกับนภศร เพื่อนรักที่คบกันมาตั้ง 10 ปี
“มึงไม่ได้หลอกกูเล่นใช่มั้ยไอ้ภู…มึงอยากจูบไอ้น้องจริงๆใช่มั้ย?” สหรัฐแทบอยากจะกราบไหว้ฟ้าดินที่ 10ปี แห่งความรักของไอ้น้องจะประสบความสำเร็จเอาก็วันนี้ ถึงมันจะช้าไปสักหน่อย แต่อย่างน้อยก็ยังดูมีความหวังว่าเพื่อนเขาจะไม่ต้องรักข้างเดียวไปจนตาย
“วะ! ย้ำจริง ไอ้เสือ! มึงอย่าย้ำบ่อยได้มั้ย! กูรู้ว่ามัน…มันประหลาด…กู…กู…กูเลยจะมาขอให้มึงช่วยเนี่ย! กูจะทำยังไงดีวะ หาแฟนสักคนดีมั้ย”
“หาแฟน?” สหรัฐทวนคำ ขอคืนคำพูดว่าจะกราบไหว้ฟ้าดินเมื่อกี้ เพราะท่าทีระทมทุกข์ของภูผาทำให้ความหวังริบหรี่ที่เขาคิดว่านภศรจะได้สมหวังเสียทีต้องดับวูบลง
“ใช่ กูว่าคงเป็นเพราะกูไม่มีแฟนแน่ๆเลยว่ะ ถึงได้ไปลงกับไอ้น้อง…”
“หมายความว่ามึงคิดว่ามึงอดอยากมึงเลยหื่นแตกงั้นสิ!” สหรัฐชักจะไม่พอใจ แม้จะพยายามเก็บอารมณ์เอาไว้ แต่น้ำเสียงก็เริ่มบ่งบอกว่าหงุดหงิด
“ก็…ก็…พักหลังๆมานี่กูก็ไม่ได้ไปมีอะไรกับใครเลยด้วย…” แต่ภูผาเองก็กำลังเครียด เลยไม่ทันรู้ตัวว่าเขากำลังทำให้เพื่อนสนิทหงุดหงิดเอาเสียแล้ว
“พี่เสือ คุณภู ทานข้าวได้แล้วครับ” โชคยังดีว่าญาณธรทำกับข้าวเสร็จพอดี และส่งเสียงเรียกออกมาจากในครัว สหรัฐจึงพ่นลมหายใจแรงๆ ก่อนจะลุกพรวดเตรียมตัวเดินไปกินข้าว
“กูจะบอกอะไรให้นะไอ้ภู กูไม่เคยคิดอยากจะจูบแยมเพราะว่ากูอดอยาก แต่ที่กูจูบแยมเพราะว่ากูรักแยม…” ภูผาเงยหน้ามองเพื่อน ถึงเขาจะเรียนไม่เก่งเท่าสหรัฐและนภศร…แต่ภูผาเข้าใจในความหมายที่เพื่อนต้องการจะสื่อ
‘กูจูบแยมเพราะว่ากูรักแยม’ …แต่นั่นก็เป็นเพราะมึงกับคุณแยมเป็นคนรักกัน แต่กูกับไอ้น้องไม่ใช่…
…กูกับไอ้น้องเป็นเพื่อน…เพื่อนที่คบกันมานาน…เพื่อนที่รู้ใจกันไปหมดทุกอย่าง…เพราะฉะนั้น…ไม่มีวันที่กูจะอยากจูบไอ้น้องเพราะกูรักมันผิดไปจากที่กูรักเพื่อน…ไม่มีวัน…
………………………..
…ซื่อบื้อที่สุดในสามโลก…
ภาษาวัยรุ่นว่าอย่างนั้น สหรัฐเลยวัยรุ่นมามากแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีคำนิยามใดจะเหมาะกับไอ้คนที่กำลังขับรถออกจากอาณาเขตของคอนโด หลังจากมันมาปรึกษาเรื่องบ้าๆ แล้วก็กลับไปพร้อมกับความผิดหวังเพราะเขาปฏิเสธที่จะช่วยมันหาแฟน
…ไม่ปฏิเสธก็บ้าแล้ว! สหรัฐไม่บ้าพอจะแนะแนวให้ไอ้ภูไปมีแฟนแล้วทิ้งไอ้น้องไว้ให้หัวเดียวกระเทียมลีบหรอก!…
“คุณภูดูท่าทางจะกลุ้มใจมากนะครับ พี่เสือ” ญาณธรเดินออกมาที่ระเบียงพลางเอ่ยปาก ทำเอาคนที่กำลังมองตามไฟท้ายสีแดงของรถเพื่อนที่กำลังออกสู่ถนนใหญ่ต้องเบี่ยงสายตากลับมามอง
“ให้มันกลุ้มบ้างแหละดีแล้ว ปล่อยให้ไอ้น้องกลุ้มมาตั้ง 10 ปี…” เรื่องนี้สหรัฐเข้าข้างนภศร อย่างน้อยก็เพราะเห็นใจที่นภศรเก็บความรู้สึกมานาน
“แต่ไอ้น้องก็เกินคนเหมือนกันแหละ…มีอย่างที่ไหนเก็บมาได้ตั้ง 10 ปี เป็นพี่นะ 10 วันก็ไม่ไหวแล้ว…” ท้ายประโยค สหรัฐโชว์คำว่า ‘ไม่ไหว’ ด้วยการกวาดมือไปคว้าเอาเอวญาณธรเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน พร้อมด้วยรอยยิ้มกริ่ม
“เชื่อครับพี่เสือ เพราะงั้นปล่อยแยมก่อน…” เพื่อนตัวเองเครียดอยู่แท้ๆ แต่สหรัฐก็ยังไม่วายหาเศษหาเลยเอากับเขา
“เรื่องสิ วันนี้วันเสาร์ อย่ามามั่วนะแยม เมื่อคืนก็ชิงหลับก่อน พี่แค่ลุกไปรับโทรศัพท์ไอ้ภูแปบเดียว หันมาอีกทีแยมหลับไปแล้ว แบบนี้ใช้ไม่ได้…” สหรัฐกำลังจะก้มลงจูบที่ริมฝีปากของคนรัก ทว่าเสียงโทรศัพท์ดังมาจากในห้องพาเอาสะดุ้งโหยงกันทั้งคู่
“ใครอีกวะ?!! เพิ่งส่งไปหนึ่ง อีกหนึ่งก็โทร.มา!” สหรัฐบ่นอุบ ยอมเดินไปรับโทรศัพท์ แต่ก็ลากเอาเอวของญาณธรไปด้วย
“ฮัลโล…ไอ้น้องเหรอ? ไอ้ภูเพิ่งออกจากคอนโดกูเมื่อกี้…” สหรัฐเงียบไปเหมือนชั่งใจว่าควรจะพูดเรื่องที่ไอ้ภูมาปรึกษาเขาดีมั้ย…ควรจะให้ไอ้น้องรู้ดีรึเปล่าเรื่องที่ไอ้ภูอยากจะจูบมัน…แต่ถ้าไอ้น้องรู้แล้วจะได้อะไร ในเมื่อไอ้ภูไม่คิดจะยอมรับเรื่องนี้ แถมยังหาวิธีหนีด้วยการจะไปมีผู้หญิงคนอื่น!...
“เปล่า…มัน…แวะมาเยี่ยมน่ะ…มึงไม่ต้องทำกับข้าวหรอก มันกินจากที่นี่ไปแล้ว…” นภศรโทร.มาเรื่องแค่นั้น คืออยากรู้ว่าภูผาอยู่กับเขาหรือไม่…ดูเอาเถอะ มันห่วงไอ้ภูมากแค่ไหน ส่วนไอ้ภู…ไอ้เวรนั่นก็ห่วงแต่ตัวเอง! สมน้ำหน้าแล้วล่ะ ถ้ามันจะกลุ้มใจบ้าง!!
“เออ…น้อง…เรื่องไอ้ภู กูขออะไรมึงอย่างได้มั้ย” แม้ฝ่ามือที่โอบเอวญาณธรอยู่จะเริ่มอยู่ไม่สุข แต่สหรัฐกลับมีสีหน้าจริงจังขณะพูดโทรศัพท์
“…ถ้ามึงรู้สึกว่าไม่ไหวเมื่อไหร่ กูขอให้มึงปล่อยมือจากมันได้รึเปล่า…กูรู้ว่ามันยาก แต่ว่า…อย่างน้อยก็เพื่อตัวมึงเอง…” นภศรไม่ได้รับคำ ทว่ากลับมีแต่ความเงียบตอบกลับมา สหรัฐรู้หรอกว่าที่เขาขอไปมันยากแค่ไหนที่จะทำ แต่…เขาสงสารมัน สงสารที่มันตามรัก ตามห่วง ในขณะที่ไอ้ภูไม่ได้รับรู้แม้แต่นิดเดียว
สหรัฐวางหูโทรศัพท์ลง ก่อนจะหันมามองคนรัก ญาณธรรับรู้จากดวงตาคมดุของอีกฝ่ายที่ส่อแววสงสารอาดูรเพื่อนสนิท เขาลูบไหล่เบาๆ
“พี่สงสารไอ้น้อง”
“ครับ แยมรู้…” สหรัฐพลิกตัวมากอดคนรักเอาไว้ ใจนึกสงสารเพื่อน แต่มือตัวเองล้วงต่ำลงเกินกว่าเอวญาณธรไปเรียบร้อย
“พ…พี่เสือ!...ไหนว่าสงสารเพื่อนไงครับ!”
“ก็สงสาร…แต่สงสารก็ส่วนสงสารสิ ไม่เกี่ยวกับเรื่องของพี่กับแยมนี่นา…” เสือตัวโตว่าอย่างนั้น แล้วจากแววสงสารบนใบหน้าดุก็กลายเป็นรอยยิ้มกว้างแบบที่ทำเอาญาณธรตามไม่ทัน และกว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร คนรักที่ชื่อว่า ‘เสือ’ ก็ลากเขาเข้าห้องนอนไปเรียบร้อยแล้ว
ภูผาไม่ได้ตรงกลับไปที่คอนโด ในเมื่อเพื่อนเขาให้คำแนะนำอะไรไม่ได้ ซ้ำยังออกปากไล่ให้ออกจากห้องมันตั้งแต่ยังไม่ทุ่มครึ่ง ภูผาก็จำเป็นต้องหาทางช่วยตัวเอง…เขาจะไม่มีวันคิดจะไปจูบไอ้น้องอีกเด็ดขาด…ไม่มีวัน…
ชายหนุ่มขับรถเข้าย่านสถานเริงรมย์ของเมืองหลวง ถ้าหาใครแก้เหงาได้ ก็น่าจะดีกว่าไปลงเอากับเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตแบบไอ้น้อง…ใช่…ถ้าหาคนแก้เหงาได้สักคน เขาก็น่าจะ…น่าจะไม่คิดแบบนั้นกับมันอีก…
ร่างสูงตัดสินใจเด็ดเดี่ยว…คืนนี้ล่ะ…คืนนี้…คืนนี้เขาจะกลับไปหาคู่ขาเก่าๆสักคน แล้วเขาจะลืมให้ได้ว่าตัวเองเคยคิดบ้าๆกับมัน…
……………………………….
ภูผากลับเข้าคอนโดอีกทีตอนเกือบรุ่งสางแล้ว เขาชะงักไปนิดเมื่อเห็นว่าคนที่ควรจะนอนในห้องนอนกลับมานอนคู้อยู่บนโซฟา ชายหนุ่มเดินเข้าไปหา นภศรกำลังหลับสบาย ลมหายใจสม่ำเสมอ มันไม่ได้อาบน้ำเพราะเสื้อผ้าเป็นชุดเดียวกับตอนเช้าที่มันออกจากห้องไป
…มันนอนรอเขาอย่างนั้นหรือ?...
…ไม่! ไม่ใช่…มันคงเหนื่อยกลับมาแล้วก็หลับเสียตรงนี้นั่นแหละ! อย่างไอ้น้องจะมานั่งรอเขาทำไมกันล่ะ…
ภูผากำลังจะเบือนหน้าหนีแต่สายตากลับไปหยุดอยู่ที่ริมฝีปากของนภศรที่เผยอน้อยๆ หัวใจเขาเริ่มเต้นระส่ำอีกครั้ง…เขารู้…นภศรเป็นคนที่ริมฝีปากสวย มุมปากยกขึ้นนิดๆ เวลายิ้มยิ่งแล้วใหญ่ ดูดีทุกองศา…แต่มันยิ้มยาก มันไม่ค่อยชอบยิ้ม มันชอบทำหน้านิ่ง ชอบเงียบ…เขาเคยนึกอยากทำอะไรก็ได้ให้มันยิ้มทั้งวัน ยิ้มทุกเวลา แต่…ความปรารถนานี้ นานเท่าไหร่แล้วที่มันกลายเป็นความเคยชินกับที่ ‘ไอ้น้อง’ ของเขาจะทำหน้าขรึม
“ทำยังไงมึงถึงจะยิ้มนะ น้อง…” มือสากแตะเบาๆบนริมฝีปาก ความเผลอไผลเข้าครอบงำจิตใจเมื่อปลายนิ้วแตะสัมผัสกับความนุ่มหยุนของริมฝีปาก เหมือนจะมีอะไรบางอย่างดลใจให้ร่างสูงก้มหน้าลงไปใกล้ ใกล้จนรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆของคนที่นอนอยู่ ไออุ่นที่ปะทะกับแก้มเขา ทำเอาภูผาได้สติเฮือก! แล้วผงะถอยหลังจนไปชนเข้ากับโต๊ะกระจกตัวเล็กหน้าโซฟา
เขาลูบหน้าตัวเองอย่างตกตะลึง…เมื่อกี้เขากำลังจะ…กำลังจะ…ทำไมล่ะ?!! ทั้งๆที่เขาก็หาทางปลดปล่อยได้แล้ว แล้วทำไมยัง…
“ภู…กลับมาแล้วเหรอ” นภศรตื่นขึ้นมาเพราะเสียงชนเมื่อครู่นี้ เขาลุกขึ้นนั่งสลึมสลือ ก่อนจะยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา
“ตีห้าแล้วเหรอเนี่ย”
“เอ่อ…เอ่อ…” ภูผาพูดไม่ออก คำว่า ‘ตีห้า’ ของนภศรทำให้เขารู้สึกผิดอย่างน่าประหลาด เหมือนกังวลว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกแย่ที่เขากลับมาเสียเช้าแบบนี้…ทั้งๆที่เป็นแค่เพื่อน…เป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นเอง…
“ได้นอนบ้างรึเปล่า” นภศรหันมาถามคนที่กำลังยืนจังก้าพูดอะไรไม่ออกอยู่ตรงหน้า
“เอ่อ…เปล่า…ไม่…ไม่ได้นอนเลย…”
“งั้นมึงก็เข้าไปนอน ตาโหลแล้ว เดี๋ยวก็ไม่หล่อหรอก” นภศรยังยิ้มให้ ก่อนจะหมุนตัวเดินตรงไปยังห้องน้ำ ทว่า…เสียงของภูผากลับดังขึ้นเสียก่อน
“น้อง…”
“…กู…กูจะมีแฟน…กูจะแต่งงาน…” ร่างโปร่งยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่แม้แต่จะขยับสักนิด คำพูดของภูผาเข้ามาอื้ออึงอยู่ในหูของเขาราวกับจะกระแทกเข้าไปในจิตใจ
…แต่งงาน…ถึงขั้นแต่งงาน…ภูผาเคยมีแฟนมาแล้ว เรื่องนี้เขาเคยเสียใจ จนกลายเป็นการพยายามเข้าใจและทำใจยอมรับมาตลอด แต่เรื่องแต่งงาน…แต่งงาน…นภศรไม่เคยคิดว่าวันนึงเพื่อนที่ตัวเองแอบรักจะหนีหน้าไปแต่งงาน…แต่งงาน…เขาควรยินดีใช่ไหม ควรยินดี…
“อย่างนั้นเหรอ…แต่งเมื่อไหร่บอกกูนะ…” พักหนึ่ง นภศรถึงสามารถหันกลับไปยิ้มให้ เขาได้แต่ยิ้มบางก่อนจะรีบหมุนตัวเดินเข้าห้องน้ำด้วยหัวใจที่ไม่ได้อยู่ตรงตำแหน่งเดิมของมันอีกแล้ว…
…ใจ…แหลกไปแล้ว… 10 ปีที่ผ่านมา ความรักสูญเปล่าแต่มิตรภาพยังคงอยู่…นี่ไม่ใช่หรือ ที่ต้องการ…ตัวเองเรียกร้องความสัมพันธ์แบบนี้เอง แล้วมีสิทธิ์อะไรที่จะเสียใจ…
ติดตามตอนต่อไปปปปปป (เจอกันศุกร์หน้าเน้อออออ)
จะลงตั้งแต่ต้นสัปดาห์ แต่แอบงานเข้านิดหน่อย เลยมาลงเอาได้วันนี้ แหะๆ
ผิดนัดด้วยอ่ะ บอกว่า 2 สัปดาห์หลังเรื่องติ่มซำจะมาต่อ ดันลากยาวมาถึง 3 สัปดาห์แหน่ะ
ขอโทษด้วยนะคะ ขอบคุณคนถามถึง คนห่วงใย และทุกๆการอ่านเลยค่ะ ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยนะคะ