My Angel ผมไม่ใช้นางฟ้า(โว๊ยยย)ตอนพิเศษ ของขวัญวันปีใหม่ 1/1/2018
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: My Angel ผมไม่ใช้นางฟ้า(โว๊ยยย)ตอนพิเศษ ของขวัญวันปีใหม่ 1/1/2018  (อ่าน 24220 ครั้ง)

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
 :m20:ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


รีไรท์ใหม่เนื้อเรื่องจะไม่ค่อยเหมือนเดิมนะ.

ฝากติดตามเข้ามาอ่านด้วยนะจ้ะ :กอด1:

มีเพจแล้วนะจ้า
https://m.facebook.com/DreamIY-178142622715046/?ref=bookmarks
----------------------------------------------------------------

 :mew3: :mew1: :mew3:
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-01-2018 20:22:08 โดย Monkey D »

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
                                                      ตอนที่ 1



/ออดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


“นักเรียนทำความเคารพ”

“ขอบคุณครับ/ค่ะคุณครู”


ไชโย  ในที่สุดเสียงออดหมดเวลาเรียนก็ดังสักที  ผมเชื่อว่าเสียงนี้เป็นเสียงสวรรค์ของบรรดาเด็กมัธยมกันแทบทุกคนแง่มๆ

“เลิกเรียนแล้วไปไหนว่ะไอ้ปิ๊น”  เสียงเพื่อนเลิฟนามว่า เจส เอ่ยปากถามขณะที่กำลังเก็บหนังสือเข้ากระเป๋ากัน

“กูว่าจะกลับบ้านเลยว่ะ  แม่งง่วงนอนสัสๆอ่ะ”

“มึงแมร่งขี้เซาตลอดทั้งชาติอ่ะ  ไอ้เวร”

“สัสด่ากู”

“กูไปล่ะไอ้เจส  ไอ้ปอ  เจอกันพรุ่งนี้นะเว้ยเห้ย”   ผมหันไปบอกเพื่อนรักทั้ง2คนที่ยังเก็บของไม่เสร็จ

“เชี้ยปิ๊น  มึงลืมอะไรไปป่ะ”  ไอ้ปอชายผู้เงียบขรึมเรียกผมไว้ขณะที่กำลังก้าวเท้าออกจากห้องเรียน  ผมเลยหมุนคอไปหามันแล้วถามด้วยใบหน้ากวนๆว่า

“ลืมไรหว๊า”  (ทำเสียงกระแดะปานนักเลงอวดเบ่งได้อีก -*-)









“วันนี้เวรกูกับมึงทำความสะอาดโฮมรูมเว้ยยยย”


-*-

.

.
.

.

.
.

“เว้ยยยยย  เสร็จสักที กูจะหลับคาด้ามไม้กวาดอยู่แล้วเนี้ยแมร่ง”  ผมโอดครวญใหญ่   ง่วงโคตรๆครับ ขอร้องมันว่าให้มันทำคนเดียวมันก็ไม่ยอมอ่ะ ใจร้ายชิบหายไอ้เพื่อนเวร   ไอ้เจส แมร่งก็ไม่ยอมอยู่ช่วยบอกนัดแฟนสาวสุดสวยไว้   แฟนไอ้เจสสวยจริงๆนะครับน่ารักมากด้วย  แถมนิสัยดีอีกต่างหาก




ผมอยากมีอย่างงั้นมั้งอ่ะ-3-



“กูว่ามึงหลับไปแล้วล่ะไอ้ปิ๊น  แมร่งกูเห็นมึงหลับตากวาดพื้น ถูพื้นทุกทีอ่ะหันไปทีไร”  ไอ้ปอดุผมใหญ่ทำ
หน้าตาเครียดๆอยู่เรื่อยเลยนะมันอ่ะ  แต่มันมีคนชอบเยอะนะครับทั้งชายหญิงมีมาจีบมันไม่รู้ตั้งเท่าไร  แต่มันก็ชอบทำหน้าตาดุๆเครียดใส่เขาตลอดเวลา  บางทีมันนั้งอยู่เฉยๆแต่มีคนมาหาว่ามันมองหาเรื่องหรอบ่อยไปเวลาออกไปเที่ยวกันเป็นกลุ่มนะครับ  แต่ก็ไม่เห็นว่าใครจะกล้าชกกับมันนะครับ  เป็นผมๆก็ไม่เอาคนหนึ่งล่ะตัวใหญ่อย่างกับยักษ์แถมหุ่นมันบึกบึนมากๆครับ  ตามประสาคนชอบเล่นกีฬาทุกประเภทอย่างมัน    แล้วที่สำคัญ  อันนี้ผมอิจฉามว้ากกกก  ก็คือความเก่งขั้นเทพของมันนะครับ  เป็นตัวช่วยของกลุ่มได้ดีเวลามีสอบ.......ซ่อม -*-




“ไรว่ะไอ้ปอ  ก็กูง่วงอ่ะ มึงเข้าใจป่ะว่ะสาดดด  แม่งกูไม่คุยกับมึงแหละกูจะกลับบ้านไปนอนน๊อนนอน” ผมพูดแล้วหยิบกระเป๋าเดินออกจากห้อง


“สัส รอกูด้วยดิว่ะ” แล้วไอ้ปอก็รีบตามมาง้อผมล่ะครับ 5555+  ง้อป่าวไม่รู้แต่มึงตามกูแสดงว่ามึงง้อกูก็แล้วกันนะ  หุหุหุ





“เออ มึงรถกูมาแล้ว ไปก่อนนะเว้ย” ไอ้ปอบอกแล้วเดินไปขึ้นรถยุโรปสุดหรูของบ้านมันที่มีคนขับรถมารับส่งทุกวัน 




มึงจะเพอร์เฟ็คเกินไปแล้วนะ!



 ส่วนผมพอไอ้ปอไปเสร็จก็เดินกลับบ้านอ่ะครับ  รันทดชิบหาย  ความจริงจะกลับตั้งแต่แรกแล้วอ่ะครับแต่ไอ้ปอมันเลี้ยงน้ำอัดลมก็เลยฟื้นขึ้นมาหน่อยนึงเลยตอบแทนยืนรอรถเป็นเพื่อนมันสักหน่อยนะครับ  ตามประสาเพื่อนที่ดี(มั้ง)


   ระหว่างทางที่เดินกลับบ้านซึ่งก็.....ไม่ไกลมากสักเท่าไรไม่เกิน 1 กิโล อ่ะครับ.......รึเกินหว่า  แหะๆไม่รู้เหมือนกันอ่ะครับ  มันก็มีรถเมล์ผ่านนะครับแต่ผมคิดว่ามันไม่คุ้มอ่ะครับเดินมาไม่เท่าไรเดี้ยวก็ถึง  13 บาทเก็บไว้ทำไรได้ตั้งเยอะ  ก็นะบ้านผมไม่ได้รวยเหมือนบ้านไอ้ปอ นี้หว่า หล่อก็ไม่เท่าพวกมัน  แฟนก็ไม่มี  ตั้งแต่เกิดมายันม.5 ผมยังไม่เคยมีแฟนเลยล่ะ ไม่มีคนมาจีบด้วยล่ะ -*-


“เมื่อไรกูจะสบายๆ มีแฟนรวยๆหน้าตาดีๆ นิสัยดีๆ มั้งว่ะ  สวรรคร์แม่งใจร้ายน่าจะส่งมาให้สักคนหนึ่งก็ยังดี”

ผมบ่นพึมพำคนเดียวพลางดูดน้ำแก้ร้อนจากแดดอันร้อนระอุที่สาดแสงอย่างแรงได้ทุกวันๆ  กูดำหมดแล้วเนี้ย ถ้าไม่ติดว่ามีเชื้อจีนเลยขาวตลอดแต่พอโดนแดดมันก็ออกแดงๆนะครับ


“เฮ้ย กระทืบมันแมร่งให้ตายเลยพวกเรา  แมร่งมึงเก่งนักหรอไอ้สัส ห่ะ  อวดเก่งดีนักนะมึง  กูจะดูสิถ้าไม่มีเพื่อนมึงจะยังทำเก่งได้อีกไหมว่ะ”


เสียงคนมีเรื่องกันนิหว่า 0.0   ผมซึ่งมีนิสัยชอบช่วยเหลือคนอื่น  รึ ชอบเสือกเรื่องชาวบ้าน ตามประชาคนแถวบ้านเรียกผมประจำก็อดใจไม่ได้ต้องหาต้นตอเสียงว่ามันมาจากไหนใด

อยู่ไหนว่ะ  หาๆๆ  แล้วก็รู้สึกว่าเสียงมันจะออกมาจากตรอกเล็กๆระหว่างทางไปบ้านผมนะครับ  ในใจก็นึกกลัวนะครับ ได้ยินเสียงกระทืบ ปั๊บๆๆๆ ออกมาโคตรน่ากลัว แต่ขามันก็สั่งให้ไปแอบชะโงกหน้าดูนะครับ

ไอ๋ย๋า  คนโดนรุมตื้บ คร้าบบบ    แต่โหแมร่งหมาหมู่โคตรๆอ่ะ ไอ้คนที่โดนรุมเป็นเด็กผู้ชายกางเกงสีน้ำเงิน  แหมๆๆ เด็กโรงเรียนไฮโซเขามีเรื่องกับคนอื่นเป็นด้วยหรอว่ะเนี้ยแต่ไอ้พวกที่รุมกระทืบอยู่ก็ใช่ย่อยนะครับดูชุดแล้วน่าจะเป็นพวกเด็กนานาชาติอ่ะครับกางเกงขายาวเครื่องแบบดูมีสกุลอ่ะครับ  แตกต่างกับผมโดยสิ้นเชิงเสื้อขาวกางเกงดำ  -+++-   แต่เห็นแบบนี้ผมผู้ซึ่งมีเลือดทหารอยู่ครึ่งตัว(แม่เป็นทหารหญิงนะครับ) ก็เลยอดไม่ได้ที่จะช่วยเหลือคนโดนรุมคนนั้นโดยการ


วิ่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ







ไปฟ้องตำรวจจราจรที่ป้อมนะครับ

5555555+

แหมผมก็ใช่ว่าตัวจะใหญ่อะไรนิครับตัวผมพ้น175ก็บุญโขแล้วคร้าบ  เรื่องนี้ผมเลยขอบายครับให้ตำรวจจัดการดีกว่า แล้วผมก็วิ่งไปบอกตำรวจที่กำลังตรวจคนเข้าเมืองอยู่ สงสัยดักจับพวกยาเสพติด

“คุณตำรวจครับ แฮ่กๆๆ”

“อะไรไอ้หนูวิ่งมาหน้าตาตื่นเชียว”  นายตำรวจคนหนึ่งที่กำลังนั้งพักอยู่เอ่ยถามขึ้น

“คือ..ค..คือตรงซอยนั้นมีเด็กนักเรียน..แฮ่กๆๆ..กำลังโดนรุมกระทืบอยูครับ”

“ไหนๆตรงไหนเดี๋ยวไปช่วยให้  เฮ้ย ไปช่วยจับเด็กตีกันหน่อยตามผมมาสัก1นายสิ”

แล้วพวกเราก็วิ่งมากันผมอกทางให้ตำรวจวิ่งนำหน้า แต่ผมก็รั้งท้ายมาหน่อยนึงอ่ะครับให้ตำรวจจัดการไปก่อนดีกว่าขืนไอ้พวกนั้นรู้ว่าผมตามแล้วมาเอาเรื่องผมทีหลังล่ะไม่คุ้มหรอกนะครับ  ผมยังต้องเดินกลับบ้านทางนี้อีกนาน


สักแป๊บเดียวก็เหมือนผึ้งแตกรังเลยครับ  พวกเด็กที่รุมกระทืบวิ่งแตกตื่นออกมาจากซอยหนีไปคนละทิศคนละทาง ผมที่เห็นอย่างนั้นก็ทำเป็นแกล้งเดินก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ไปพลางๆ  ไม่ได้กลัวนะครับ แค่ไม่อยากหาเรื่องวุ่นวายมาในชีวิต



“ไอ้หนูมาช่วยกันพยุงเพื่อนหน่อยเร็ว ไอ้พวกนั้นมันหนีไปหมดแล้วล่ะ”  ตำรวจคนเดินวิ่งมาตามผมซึ่งอยู่รอแถวๆตรอกนั้น   

“คือ..คือ..ว.ว่า”

“เอ้าเร็วสิมาช่วยก่อนเดี๋ยวเพื่อนแกก็ตายคากองเลือดกันพอดีหรอก เร็วๆฉันจะรีบกลับไปโทรเรียกรถพยาบาลมาให้”  คุณตำรวจคนนั้นไม่ฟังอะไรก็รีบวิ่งไปที่ตรวจคน  แง คือผมจะบอกว่าผมไม่ใช่เพื่อนมันนะครับแต่เพื่อเห็นแก่เพื่อนร่วมโลกกูไปช่วยก็ได้ว่ะ


เดินเข้าไปก็เห็นคุณตำรวจอีกนายกำลังพยายามแบกร่างใหญ่อ่ะครับ  ผมก็รีบปรี่เข้าไปช่วยทันที


“ผมช่วยครับ”

“เออๆ ไอ้หนูเก็บกระเป๋าเพื่อนแกมาด้วย  ตกอยู่ตรงนั้นนะ”

“ครับๆ”  ผมก็เก็บกระเป๋าหนังใบงามสุดหรูขึ้นมาด้วย  เป็นบุญของผมจริงๆที่ได้ถือ  ฮี่ๆๆ แล้วก็รีบไปช่วยกันพยุงไอ้คนโดนรุมนะครับ แต่...ตัวผมแทบทรุดอ่ะ

0.0   ตัวหนักสัสๆอ่ะครับ คนหรือหมีควายว่ะเนี้ยพอๆกับไอ้ปอเลย  เงยไปมองหน้ามันก็ โอ้พระเจ้าช่วย!!!



เลือดเต็มหน้าเลยอ่ะครับไหลเป็นทางเชียวเนื้อตัวก็สะบักสะบอมนะครับ  โหยไม่กล้ามองหน้าเลยอ่ะครับเลือดเยอะจัดประคองไปก็ต้องหันหน้าไปทางอื่นไปนะครับ




สักพักรถพยาบาลก็มารับอ่ะครับค่อยโล่งหน่อยหมดธุระของผมสักที เฮ้ออออออ

“อ้าวไอ้หนูแกไม่ไปเป็นเพื่อนเพื่อนแกล่ะ  จะปล่อยให้เพื่อนไปคนเดียวได้ไง  ป่ะๆๆรีบขึ้นรถไปซะ” คุณตำรวจรายเดิมพูดไปก็เดินมาดึงผมให้ขึ้นรถพยาบาลไปด้วยกันนะครับ

“คือไม่ได้..”

ปัง

เสียงบุรุษพยาบาลปิดท้ายรถพอดิบพอดี แงไอ้สาดดดดด  ซวยแล้วไหมล่ะโรงพยาบาลนี้ไม่ได้อยู่ใกล้ๆบ้านผมด้วยกลัวขึ้นรถกลับไม่ถูกนะครับแล้วรถพยาบาลก็เคลื่อนตัวออกไปด้วยความเร็ว  พยาบาลก็จัดการเอาเครื่องช่วยหายใจแบบบีบมือให้ไอ้หมอนี้ สักพักก็จัดการเครื่องอะไรต่อมิอะไรให้ไอ้หมอนี้อ่ะครับ  ผมเห็นมันทำหน้าเหมือนเจ็บปวดก็อดสงสารไม่ได้คงจะเจ็บน่าดู  ก็เลยเอามือผมไปกุมมือมันเพื่อให้กำลังใจนะครับ


“อดทนไว้นะเว้ยมึง”  ผมบอกเสียงนิ่ง  แม่งโคตรเท่เลยจริงๆอ่ะ

“ตายล่ะลืมขวดยาระงับความเจ็บปวดไว้หน้ารถ” เสียงพยาบาลพูดขึ้นก่อนที่จะเคาะให้คนขับรถมาเปิดประตูตอนที่กำลังติดไฟแดงแล้วก็ลงไปหาของที่เบาะข้างหน้าผมมองผ่านกระจกที่กั้นไว้ก็เห็นว่าพยาบาลกำลังหาใหญ่เชียวประจวบกับไฟเขียวพอดีรถจึงต้องขับเคลื่อนของไป   

ทิ้งผมกับไอ้หมอนี้ที่จะตายไม่ตายแหล่ไว้ด้วยกัน

เหยดดดดดดดดดดด

“เฮ้ย มึงเดี๋ยวก็ถึงโรงพยาบาลแล้วนะเว้ย ทำใจดีๆไว้นะ”  คือกูไม่อยากนั้งอยู่กับศพอ่ะ แงงงงงงงงงง

“อึ.อือ..โอ๊ยยย...จ..เจ็บ”  เสียงของร่างที่ผมกุมมือไว้ทำให้ผมหันไปมองนะครับ  สัสเป็นไรป่ะเนี้ยผมก็จะชักมืออกแล้วล่ะครับเพื่อมันตายแล้วนิ้วล็อคมือผมจะดึงออกไม่ได้ แต่มือมันเสือกจับผมไว้แน่นซะงั้น  แงๆๆๆกูกลัวผีนะเว้ย  สภาพมึงตอนนี้ยิ่งน่ากลัวๆอยู่   

ปล่อยมือกูออกมาเดี้ยวนี้น้า ฮรืออออออ

“เห้ย เป็นไรว่ะมึง  อย่าตาย..ฮึก.อ..อย่าตายเว้ย..ฮืออออฮึกๆฮือๆๆ”  แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาไม่ได้สงสารหรืออะไรหรอกนะครับแต่กลัวมันตายแล้วผมต้องถูกคนตายจับมือไว้แบบนี้มันสยองนะคร้าบ  ไอ้ปินปิ๊น คนนี้กลัวผีที่สุดในโลกอ่ะครับ

“น..นา..นางฟ้า”

หือ  ใครนางฟ้าว่ะ  ผมหันไปมองรอบรถก็ไม่เห็นอะไร  ไอ้เหี้ยมึงคงใกล้ตายแล้วใช่ม่ะถึงเห็นนางฟ้าเทวดาอะไรที่กูไม่เห็น   แง ปล่อยมือกูเดี๋ยวนี้

“เห้ยมึงทำใจดีๆไว้ อย่า...ฮึกๆๆฮือออออ.อย่าตายยยนะฮือออ”  ผมพูดไปก็ร้องไห้ไปก็พยายามแก้มือออกเท่าไรก็เหมือนว่ายิ่งจับแน่นขึ้นไปอีกนี้ครับ

“นาง...ฟ้า..นางฟ้าอย่า..ร้องไห้สิ” เสียงกระท่อนกระแท่นของคนที่นอนจมกองเลือดพูดขึ้นมองผมด้วยตาจะลอยไม่ลอยแหล่  ตอนนี้ผมชักจะรู้แล้วครับว่าไอ้หมอนี้คงคิดว่าผมเป็นนางฟ้าแง่มๆ  ท่าทางมันจะได้รับความกระทบกระเทือนสมองแล้วครับถึงมองผมเป็นนางฟ้าไปได้

“ฮึกๆๆ.ฮือ..กู.ฮึก..ไม่ใช่นางฟ้าเว้ย..ฮือๆๆไอ้บ้า”  แม่งทำกูตกใจหมดนึกว่ามึงเห็นนางฟ้าจริงๆ

“ใช่สิ..นา..นางฟ้า..น่ารักจัง”ไอ้หมอนี้พยายามยิ้มทั้งๆที่เลือดมันเต็มหน้าเลยดูสยองพิลึก  แต่เอ๊ะ มันว่าผมน่ารักหรอ....แอบดีใจนะเนี้ย555+  ถึงไม่ได้หล่อน่ารักก็ยังดีครับ แหะๆ ตามประสาคนไม่เคยโดนชมนะครับ

“มึงจะบ้าหรอ..ฮึกๆๆ..กูบอกว่ากูไม่ใช่นางฟ้า..ฮือก็ไม่ใช่สิฟระ”  ผมที่เริ่มหายตกใจก็ปาดน้ำตาไม่ร้องไห้แล้ว  ดูท่าไอ้หมอนี้จะอายุยืนอีกยาว

“ฮึก..ฮึก.นะ..นางฟ้า..ดุผมหรอ..ฮืออ”  อ้าวไหงมึงดันมาร้องไห้แทนกูซะล่ะเฟ้ย

“ถ้า.ฮึก..ผมตายไป..ฮือออนางฟ้าคงจะดีใจ.ฮึกๆฮืออ”  ป๊าดดด  งานเข้าไอ้หมอนี้ไม่พูดป่าวกลับหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ เวรแล้วไง

“ไม่ๆๆไม่นะ นางฟ้าไม่ได้อยากให้เจ้าตายนะ”  ไอ้ผมก็เลยต้องสวมบทบาทเป็นนางฟ้าจำแลงอ่ะครับก็กลัวมันตายนี้หว่า

“จริง..ฮึกๆ.จริงนะ นางฟ้าไม่ได้อยากให้ผมตายจริงหรอ”  ไอ้หมอนี้ถามหน้าตาดูมีความสุข  ไอเชี้ย ตัวอย่างกับควายเสือกยังเชื่อเรื่องนางฟ้าเทวดาอะไรอยู่อีกนะสัส

“จ..จริงสิ..นายฟ้าอยากให้เจ้าอยู่ไปนานๆเลยนะ”  ใครก็ได้ส่งผมเข้ารับรางวัลออสก้าที  เสียงพูดผมตอแหลเวอร์

“ฮึกๆ จริงหรอ “

“อืม จริงสิ”

“นางฟ้า..ผม..ผมอยากได้พรจังเลย”  ไอ้เวรนี้ก็เล่นไม่เลิก  แม่งจะตายไม่ตายแหล่อยู่แหละยังจะอยากได้อีก

“ได้ดิ เอาพอร์นสีไหนล่ะเดียวซื้อมาให้ สีเขียว สีชมพู สีแดง แต่นายเป็นผู้ชายฉันว่านายไปไปใช้ครีมที่ณเดชโฆษณาดีกว่านะ”  ผมแนะนำไป


-*-  ------------ หน้าไอ้หมอนั่น

*.*  ------------หน้าผม

“นา..นางฟ้าปัญญาอ่อน”

“โหยยยยย  ไอเชี้ยมึงพูดงี้เดียวกูก็กระทืบซ้ำซะดีไหมนิ”  อยู่ๆก็มาว่าผมปัญญาอ่อน  ผมปัญญาอ่อนตรงไหนไม่ทราบก็มันพูดเองว่าอยากได้พอร์นง่ะ -0-

“ฮึกๆ..น..นางฟ้าใจร้าย..ฮือออ ผมอยากตาย”  ไอ้หมอนี้ก็ทำท่าจะร้องไห้อีกรอบ ไอ้เวรเถอะ

“ฮึ๋ยยยย.....นางฟ้าล้อ..เล่นนะ อยากได้พรใช่ไหมเดี๋ยวจัดให้ อยากได้อะไรล่ะบอกมาเลย”  ผมต้องอดทนอดกลั้นเต็มที่ที่จะไม่ระเบิดอารมณ์ออกมา  ท่องไว้ มันได้รับความกระทบกระเทือนสมองมาๆๆๆ





“ผม..ผมอยากเป็นแฟนกับนางฟ้า”


                                           

                                         
                               
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สวัสดีจ้า :3123:

นี้เป็นนิยายที่เคยเอาลงเล้ามาก่อนเมื่อ 4-5ปีที่แล้ว แต่ช่วงนั้นยุ่งเรื่องเรียนมากเลยไม่ได้มาแต่งต่อ
ต้องขอโทษคนอ่านด้วยจริงๆนะ  นิยายจึงโดนลบไป  ตอนนี้เรียนจบแล้ว 555
มีความคิดมาตลอดว่าอยากกลับมาแต่งเรื่องนี้ให้จบ เพราะเรารักเรื่องนี้แล้วก็ตัวละครนี้มาก
เลยอยากกลับทำให้มันสมบูรณ์  แต่ก็คิดว่าถ้ามาลงแล้วหายไปอีกคงไม่ดีแน่ๆ เลยพิมพ์สต๊อกไว้จนครึ่งเรื่องแล้ว
เลยกล้าเอามาลงอีกครั้งหนึ่ง  ครั้งนี้ลงจนจบแน่ๆ โดยจะถยอยลงไม่ให้เกิน 1 อาทิตย์ ต่อ 1 บท
ฝากตัวใหม่อีกครั้งด้วยน้า  :กอด1:


ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
รอตอนต่อไปน้า

ออฟไลน์ zampleCherry

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เราจำเรื่องนี้ได้ ต่อให้จบน๊าา ^^ สู้ๆนะคนแต่ง  :mew1:

ออฟไลน์ เมื่อนั้นฝันว่า

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0

ตอนที่  2     ลืม


“ผม..ผมอยากเป็นแฟนกับนางฟ้า”



“..........................” 0.0

“นะ..นะนางฟ้า”

“มะ..เมิงจะบ้าหรือไงห๊ะ”  ผมที่ตั้งสติได้ก็ด่ามันไป

“ม..ม่..ไม่..ผม.อยากเป็น..แค่ก..แฟนกะนางฟ้า...แค่กๆๆ” อะจ๊ากกกก มันไอพ่นเลือดออกมาเต็มเสื้อเลยอ่ะ  สยองชิบหาย  เห็นอย่างงี้ไม่ไหวๆเลยต้องรีบเคาะกระจกเรียกพยาบาล...ที่คงลืมหน้าที่ตัวเองไปแล้ว

“นะ..นา..ฟ้า..ผมจะ..ตาย...แล้ว แค่กก” 

“เห้ยยยยย อย่าเพิ่งตายนะอย่าเพิ่งตาย เออเป็นแฟนกันนะ เป็นแฟนกับนางฟ้านะ  ห้ามตายนะห้ามตายยย”  ผมรีบพูดตกลงเป็นแฟนกับมันใหญ่   เดี้ยวมันไม่พอใจแล้วช็อคตายขึ้นมาล่ะ  อีกอย่างกูกับมึงคงได้เจอกันแค่วันนี้เท่านั้นแหละว่ะ     แต่ตอนนี้มึงห้ามตายเด็ดขาด!!  ถ้ามึงยังไม่ได้ปล่อยมือกูออกมา >0<

“จริง..แค่ก..จะ..จริงนะ..นา..นางฟ้า ...แค่กกๆๆ”  ไอ้หมอนี้ก็ยังจะพยายามพูดต่ออีกทั้งๆที่สภาพมึงตอนนี้จะไม่ไหวแล้ว   โอยยยยยยอิพยาบาลมึงก็รีบหาที่จอดรถลงมาช่วยกรูหน่อยสิฟระ   ฉี่กูจะแตกแล้วววว แม่ง!!!

“เออ จริงดิ เป็นแฟนกันๆ  แต่เจ้าห้ามตายนะ”  ผมรีบพูดพลางมองไปเบาะหน้าเห็นว่ากำลังเหมือนจะจอดรถข้างทางแล้ว  รอดแล้วตู

“ห..หะ..ห้าม..ค.คืนคำ.นะ”  โหยยย มึงจะปัญญาอ่อนอีกนานไหมกูขี้เกียจปัญญาอ่อนเป็นเพื่อนมึงแล้วนะเว้ยเห้ย

“อื้อ ไม่คืนคำๆๆๆ”  จอดสักทีๆๆ

“ส..สัญ..”

“เออ สัญญาๆๆ  มาๆๆเกี่ยวก้อยกัน  ไม่ต้องพูดอะไรแล้วนะเว้ยเห้ย”

ผมรีบพูดรัวๆแล้วก็เอานิ้วก้อยผมมาสัญญากับนิ้วก้อยมันนะครับ  ต้องทำอย่างรวดเร็วด้วยนะครับก็พยาบาลเดินลงจากรถแล้วอ่ะครับต้องรีบรวบรัด  คือผมไม่อยากมาทำตัวปัญญาอ่อนต่อหน้าคนอื่นนะครับมันทุเรศศศศศ  สิ้นดีเลยง่ะ

มองไอ้หมอนั้นก้เห็นมันพยายามยิ้มเหมือนดีใจอ่ะครับ  แต่สำหรับผมสยองน่าดู ไอ้เชี้ยเลือดเต็มหน้าเมิงเลย


จากนั้นพยาบาลก็กลับมาทำหน้าที่ต่ออ่ะครับ  ผมก็เพิ่งรู้สึกตัวว่า  มือผมแยกจากมือมันแล้ว เย้ๆๆๆ  โล่งใจอยากบอกไม่ถูกเลยล่ะครับ   แล้วรถก็ถึงโรงพยาบาล  ไอ้หมอนั้นก็ถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินอย่างเร่งด่วน  ผมที่รีบลงจากรถพยาบาลก็ยืนงงๆอยู่อ่ะครับว่ากูจะไปทางไหนต่อดีว่ะเนี้ย  จะเข้าไปดูมันสักหน่อยดีไหมนะ  แต่เข้าไปก็ได้แต่ยืนรอข้างนอกแหละ  อีกอย่างมันฟื้นมาใช่ว่าผมจะทำอะไรได้   คิดได้อย่างนั้นผมก็กลับบ้านดีกว่านะครับ  ก็เดินไปถามยามว่าสายไหนผ่านแถวๆบ้านผมมั้งยามแกก็บอกอ่ะครับ  แถมยังบอกว่าให้ผมไปล้างเสื้อที่เปื้อนเลือดนั้นออกซะก่อนด้วยเกือบลืมไปเลย  เกือบจะกลายเป็นไอ้ฆาตกรโรคจิตแล้วไหมล่ะ  หน้ายิ่งให้ๆอยู่ 5555+  -*-


จากนั้นผมก็ไปล้างเสื้อให้เลือดมันหายไปนะครับ  หวังว่ามึงคงไม่เป็นโรคอะไรนะสัส  แล้วก็ไปคอยรถเมล์โชคดีที่มันเป็นต้นๆสายก็เลยได้นั่งอะครับ  ง่วงนอนมากมายแต่ก็ไม่กล้านอนกลัวเลยบ้านผมนะครับ  นึกไปถึงเรื่องบนรถพยาบาลผมก็อดจะขำคนเดียวไม่ได้นะครับ  แม่งเหอะกูทำลงไปได้ยังไงฟระ นางฟ้ามันมีจริงที่ไหนกันเล่า  แถมยังมีขอพงขอพรอีก ไอ้ผมก็บ้าจี้เข้าใจว่าเป็นครีมทาหน้าซะอีก นึกแล้วอยากจะขำกลิ้งจริง

“55555 ตลกว่ะ เอิ้กๆๆ”

“...................”   แล้วผมก็รู้ได้ถึงความเงียบรอบตัวแล้วก็เหมือนมีสายตาหลายคู่จ้องมาที่ผม -*-  เอิ่มมม  สงสัยผมจะหัวเราะดังไปหน่อย  จากนั้นผมก็ทำเป็นเสมองออกไปนอกหน้าต่างแทนอ่ะครับ......



จริงดิเอาการ์ตูนมาอ่านดีกว่าเพิ่งซื้อมาใหม่ๆเมื่อเช้าก่อนเข้าโรงเรียนเลย

นึกขึ้นได้ก็ก้มลงไปเปิดกระเป๋าตัวเองแต่ว่า

.
.

.

.

.

นี้มันกระเป๋าไอ้หมอนั้นนี้หว่า 0.0




แล้วกระเป๋ากูไปอยู่ไหนนน????   การ์ตูนเล่มล่าสุดกูอยู่ในนั้นนะเว้ยเห้ยยยยยยยยย -0-


.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

“กลับมาแล้วคร้าบบบบบ”  ผมเอ่ยเสียงบอกกล่าวกับคนในบ้านซึ่งก็ไม่มีใครนอกจากพี่ชายผม  แม่ผมเป็นทหารไปประจำอยู่ที่ต่างจังหวัดนะครับ แล้วท่านก็ไม่ได้ส่งค่าขนมมาให้พวกผมหรอกนะครับ  ท่านให้แต่ค่าเทอมเท่านั้น  ส่วนค่าขนมของพวกผมก็คือ ค่าเช่าตึกทั้ง4ห้องนะครับ  คือมันเป็นแบบทาวเฮาร์4ชั้นนะครับมีทั้งหมด5ห้องติดกันห้องที่ผมอยู่เป็นตึกริมสุดที่เหลือ4ห้องปล่อยให้คนอื่นมาเช่าขายของกันนะครับเพราะทำเลค่อนข้างดีอยู่ใกล้กับโรงเรียนแถมติดถนนอีกต่างหากก็เลยได้ค่าเช่าแพงหน่อยต้องขอบคุณปะป๊าของผมที่ท่านซื้อตึกนี้ไว้ให้ก่อนที่จะหย่ากับแม่ของผม


          ฉะนั้นค่ากินของผมก็แบ่งกับพี่ชายผมคนล่ะครึ่งนะครับทุกๆเดือนผมกับพี่ก็มีหน้าที่ไปทวงเงินค่าเช่าตึกครับแล้วก็ต้องทวงให้ได้ทุกเดือนเพราะถ้าทวงไม่ได้นั้นก็หมายถึงไม่มีตังค์กินไปทั้งเดือนนะครับ -*-  โชคดีที่ไม่ค่อยจะมีปัญหามากเท่าไรเพราะทำเลดีขายของได้เยอะก็มีตังค์มาจ่ายทุกเดือนนะครับ  ผมกับพี่ก็เลยมีเงินใช้จ่ายไม่ขาดมือแถมตอนนี้ผมมีตังค์เก็บหลายหมื่นเลยล่ะ โฮะๆๆๆๆ*0*(เห็นไหมว่า10บาทผ่านไปหลายๆปีมันก็มีค่านะครับ)

“ปิ่นปิ๊น  ทำไมวันนี้กลับบ้านมืดค่ำเลยล่ะ  ไปทำอะไรมาปกติเลิกเรียนก็แจ้นกลับบ้านก่อนพี่ทุกทีนิ”  พี่ชายผมเดินออกมาถามพร้อมกับตะหลิวในมือคงกำลังทำอาหารอยู่  กำลังหิวพอดีเลยเย้ๆๆๆ

“วันนี้ปิ่นปิ๊นไปช่วยคนโดนรุมไปส่งโรงพยาบาลมาอ่ะ ปูนปู๊น เหนื่อยโคตรๆเลยหิวด้วย” ผมเตะถอดรองเท้าออกอย่างลวกๆแล้วก็เดินไปนอนแผ่รับแอร์ทันที

“แล้วคนที่ปิ่นปิ๊นช่วยเป็นไงมั้งอ่ะ  อาการหนักไหม”

“ก็หนักอยู่นะปูนปู๊น  เลือดงี้เต็มหน้าเลยล่ะ พูดถึงแล้วสยองยังไม่หายเลย”  ผมก็เอ่ยเจื้อยแจ้วตอบคำถามพี่ปูนปู๊นไปด้วยแล้วก็หลับตาไปด้วยนะครับแต่ก็ไม่ได้เล่าเรื่องนางฟ้าหรอกนะครับกลัวพี่เขาหาว่าผมปัญญาอ่อน  สักพักเสียงพี่ปูนปู๊นก็เงียบไปคงไปทำอาหารต่อ  หลายคนที่เคยมาบ้านผมแล้วได้ยินเวลาผมกับพี่ชายคุยกันก็ขำนะครับบอกว่าแอ๊บแบ๊วได้อีกอ่ะ  แต่ผมชินแล้วล่ะครับเพราะผมกับพี่ชายภูมิใจมากๆเลยล่ะที่มีชื่อว่า ปูนปู๊น กับปิ่นปิ๊น  เพราะว่าดูไม่ค่อยจะซ้ำกับใครดีแล้วก็เลยชอบเรียกชื่อแบบเต็มยศเวลาคุยกันนะครับ  ส่วนเพื่อนๆก็จะชอบเรียกว่า ปิ๊น เฉยๆมากกว่า เพื่อนพี่ปูนปู๊น ก็จะเรียก ปูน นะครับ




/ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ/

“ฮัลโหลลลลลล”  ผมกรอกสายไปด้วยเสียงยานๆก็กำลังเคลิ้มๆจะหลับอ่ะครับ 

/โหลๆ ไอ้ปิ๊น มันยังไม่ตื่นอีกหรอว่ะจะ2ทุ่มแล้วนะแสรด/  เสียงไอ้ตง เพื่อนซี้อีกคนสมัยม.ต้น แต่พอม.ปลายมันก็ดันเก่งไปติดที่โรงเรียนต้นๆของประเทศได้อีกก็เลยไม่ค่อยได้คุยกันเหมือนเดิมเพราะมันไม่ได้เดินกลับบ้านเป็นเพื่อนผมแล้ว  ความจริงบ้านมันก็อยู่แถวๆบ้านผมนี้แหละครับแต่ต้องเดินเข้าไปในซอยอีกหน่อยนึง

“กูยังไม่ได้นอนต่างหากเว้ยเห้ยยย  พอกูเคลิ้มๆจะหลับมึงก็เสือกโทรมาขัดจังหวะกูอีกสัส”

  /เห้ยยยยย จริงดิ กูไม่อยากจะเชื่อว่ามึงยังไม่ได้นอนตอนเย็นไปทำไรมาว่ะสาดดด/

แล้วผมก็เล่าๆๆให้มันฟังไปอ่ะครับ รวมไปถึงเรื่องนางฟ้านั้นด้วยเพราะผมกับมันสนิทมากนะครับเลยกล้าเล่าให้ฟัง

/55555555 กร้ากกกก  จริงดิมึงไอ้เหี้ยนั้นมันสมองเบลอถึงขนาดมองลูกหมาอย่างมึงเป็นนางฟ้าสุดน่ารักไปได้เลยหรอว่ะ5555  กูว่ามันคงกระทบกระเทือนอย่างนักว่ะ กร้ากๆๆๆ/

“อ้าวไอ้สัสหลอกด่ากูหรอไอ้เวรนี้  แล้วแม่งมึงโทรมามีเรื่องห่าอะไรว่ะเว้ยเห้ย”  ผมเปลี่ยนเรื่องพูด  เออสิผมมันไม่หล่อน่ารักนี้หว่าเป็นแค่ไอ้ตี๋ตัวซีดหน้าจืดๆอยู่ตลอดเวลา

/เออๆๆ กูลืมเล่าเลยว่ะมัวแต่ฮาเรื่องมึง  กร้ากๆๆ/

“ตกลงมึงจะเล่าไหมสัส ไม่งั้นกูจะวางแล้วนะ”  เริ่มจะโกรธๆมันแล้วครับล้ออยู่เรื่อย

/คือว่าอาทิตย์ถัดไปอ่ะมึง มึงว่างป่าวว่ะกูจะชวนมึงไปดรีมเวิลด์ด้วยกันหน่อยอ่ะกูได้บัตรเล่นฟรีมา2ใบเว้ย  สนป่าวมึง/
“สน กูไปด้วยกูว่างชิบหายวายวอดเลยล่ะวันนั้นอ่ะ”  รีบตอบตกลงมันเลยครับกำลังนึกๆอยากเล่นพอดีของฟรีมาทั้งที่ต้องรีบคว้าไว้ ฮี่ๆๆๆ

/ไวเป็นลิงเชียวนะมึงเรื่องนี้อ่ะ  เออแล้วอาทิตย์ถัดไปว่ะเดี้ยวกูไปเรียกที่หน้าบ้านมึง/

“เออ ดีมากว่าแต่ทำไมมึงไม่ไปอาทิตย์นี้ว่ะนี้เพิ่งจะวันจันทร์เองนะเว้ยเห้ย  รอแม่งอีก10กว่าวันเซงตายห่า”

/อาทิตย์นี้กูไม่ว่างอ่ะดิ ต้องไปทำรายงานกลุ่มกับเพื่อนที่โรงเรียน/

“เออๆงั้นโชคดีเว้ย แค่นี้นะ แล้วเจอกัน”

*เออๆ ฝันดีมึง*


แล้วก็วางสายไปครับ  อย่างน้อยวันนี้ก็ยังดีที่ได้ไปเที่ยวฟรีนะครับ  นอนต่อไปอีกแป๊บหนึ่งพี่ปูนปู๊นก็เรียกกินข้าวครับ  กินเสร็จก็ขึ้นห้องอาบน้ำเตรียมจะเข้านอน   แต่ไอ้โทรศัพท์เจ้ากรรมดันส่งเสียงร้องเตือนว่าให้อ่านหนังสือสังคมทวนก่อนสอบที่ตั้งไว้อ่ะครับ


แล้วหนังสือกูอยู่ในกระเป๋ากูจะเอาที่ไหนอ่านว่ะแมร่ง


ผมคิดว่าผมคงลืมไว้บนรถพยาบาลคันนั้นแน่ๆเพราะตอนนั้นรีบลงแล้วก็คว้ากระเป๋าลงมาแต่กลับเป็นของไอ้หมอนั้นซะอีก

แต่ก็ดีเหมือนกัน  กูอยากจะรู้ว่าเด็กเอกชนเขาเรียนกันแบบไหนนะ หุหุหุ  ค้นกระเป๋าโลดดดดดดด (โคตรมีมารยาทมาก)



แต่พอเปิดกระเป๋าไปนี้แถบตลึงอ่ะครับ0.0

แม่ง มีหนังสือกีต้าร์เล่มบางๆหนึ่งเล่มกับห่อขนมที่หมดแล้วอีกต่างหาก  เหยดดดดดดดด

เมิงไปเรียนรึไปเล่นกีต้าร์ว่ะสาดดด  ยังดียังมีปากกากับสมุดเล่มเล็กๆจดงานอีกนิดนึงทำให้พอรู้ว่ามันไปเรียน -*-

แล้วยังมีหนังสือที่ผมไม่กล้าคิดว่าผู้ชายตัวโตอย่างมันจะอ่านนั้นก็คือ  พวกนิยายการ์ตูนพวก หมีพูยังงี้ เงือกน้อยยังงี้ นางฟ้าแสนสวยยังงั้น  คือเป็นเรื่องสั้นร่วมๆกันอยู่ในเล่มๆหนึ่งนะครับ แถม



สนุกโคตร -*- (แอบอ่านแล้วมันเพลินนะครับ แหะๆๆ)


“แล้วกูจะทำยังไงกับกระเป๋ามึงดีว่ะเนี้ย”  นั้งดูกระเป๋ามันก็คิดไปด้วยอ่ะครับทำไงดี  สุดท้ายก็คิดว่าพรุ่งนี้เอามันไปคืนที่โรงพยาบาลเดิมดีกว่าอาการมันหนักอยู่คงยังไม่ทันกลับบ้านหรอก


แล้วคืนนั้นผมก็ต้องไปค้นหาหนังสือม.5  ของพี่ปูนปู๊นมาอ่านก่อนนะครับ  เพราะพี่ปูนก็เคยเรียนที่โรงเรียนเดียวกันเลยโชคดีไปที่มีหนังสือเหมือนกันก็หมดปัญหาไปอีกหนึ่งเปราะอ่ะครับ




แล้วคืนนั้น

“นางฟ้า”

หืม เสียงใครเรียกกู 0-0

“นางฟ้าของผม”

เห้ยยยยยย เสียงมันคล้ายไอ้หมอนั้นเลยอ่ะ  อ..ย่า..บอกนะว่า

“ผมอยากเป็นแฟนกับนางฟ้า”  เต็มๆ เสียงนี้แหละ!!!




“อร้ากกกกกกกกก ผีหลอกกูแล้วววววววววววววว”




 


:sad4: :sad4: :sad4: :sad4:




ออฟไลน์ เมื่อนั้นฝันว่า

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0


ตอนที่ 3  มาทวง



“เห้ยไอ้ปิ๊น  ไงมึงหายดีแล้วหรอว่ะหายหน้าไปซะนานเลยนะมึง”  เสียงไอ้เจสทักทายเมื่อผมเดินเข้ามาเอากระเป๋านักเรียนวางไว้ในห้อง


“เออ  ดีขึ้นแล้วว่ะมึง”  ผมตอบเสียงเนือยๆ  อย่างคนเพิ่งพ้นจากไข้ สภาพผมตอนนี้โคตรโทรมเลยล่ะครับ หน้าก็ซีด  ขอบตาก็เป็นน้องๆหลินปิงเลยล่ะครับ


“555  กูควรจะสงสารหรือสมน้ำหน้ามึงดีว่ะไอ้ปิ๊น  ชิบหายสัญญาอะไรไม่สัญญาเสือกโง่ไปสัญญาจะเป็นแฟนกับคนที่กำลังจะตายอีก  คิดได้นะมึงอ่ะ”


“ไอ้เหี้ยเจส  มึงอย่าริ้อฟื้นกู  กว่ากูจะทำใจได้มันหลายวันนะเว้ย”


“555  เออกูไม่พูดแล้วก็ได้ว่ะ


ไอ้เจสพอมันเห็นว่าผมเริ่มทำหน้าจริงจังก็สงบปากสงบคำหันไปสนใจเกมในโทรศัพท์มันต่อ  ค่อยดีหน่อยแต่มันจะไม่ดีก็ตรงมันมาพูดให้ผมคิดถึงเรื่องคืนนั้นอีกแล้วนะสิครับ  ผมจำได้แม่นเชียว  ร่างสูงใหญ่ค่อยๆเดินออกมาจากความมืด  ยิ่งเดินออกมามากเท่าไรก็ยิ่งเห็นว่าชุดนักเรียนที่ขาวผ่องนั้นเต็มไปด้วยรอยโดนกระทืบ  เลือดเต็มไปหมดทั้งตัว  ใบหน้าก็มีเลือดไหลหยดมาตลอดทาง  แถมยังมาพร้อมกับเสียงสยองๆ


“นางฟ้า...นางฟ้าของผม....ผมอยากเป็นแฟนกับนางฟ้า”


พร้อมคำริมฝีปากที่กำลังเหยียดยิ้มยาวอย่างน่ากลัวมากกว่าน่ามอง มือที่ค่อยๆยื่นมาเหมือนพยายามจะมาจับตัวผมไว้!!!


“ไอ้ปิ๊น”


“เฮ้ยยยยย  กูกลัวแล้วๆๆๆ  กูจะทำบุญไปให้อย่าตามาหลอกมาหลอนกูเลย ฮือๆๆๆๆๆ”   ผมรีบพนมมือไหว้ใหญ่ขอร้องให้วิญญาณไอ้หมอนั่นอย่ามาหลอกหลอนผมอีกเลย  ถึงครั้งนั้นผมจะฝันไปก็ตามเถอะแต่เป็นฝันที่เหมือนจริงและน่ากลัวมากๆ  เล่นเอาผมจับไข้หัวโกลนไปเป็นอาทิตย์กว่าเลยล่ะครับ


“เห้ยๆๆ กูเองๆๆมึงกูปอเว้ย”  เสียงเรียกของไอ้ปอดังขึ้นพร้อมกับจับตัวผมให้เงยหน้ามอง  เออไอ้ปอจริงๆด้วย


“อ้าว ฮึกๆ ปอหรอ กูนึกว่า”


“เออๆ ไม่ต้องพูดอะไรแล้วรีบลงไปเข้าแถวกันเถอะมึง  แล้วนี้เช็ดน้ำตาซะ”  ไอ้ปอยืนผ้าเช็ดหน้ามาให้ผมเช็ดน้ำตา  ผมก็รับมาเช็ดแต่โดยดีแล้วรีบลงไปเข้าแถว

.

.

.

.

.

“นี้มึงยังไม่หายหลอนอีกหรอว่ะไอ้ปิ๊น”  ไอ้ปอเอ่ยถามขณะที่กำลังเดินออกมานอกโรงเรียน


“เออว่ะ  กูยังกลัวอยู่เลยมันน่ากลัวมากเลยนะมึง ฮึกๆๆ ทุกวันนี้กูต้องไปขอนอนกับพี่ปูนปู๊นตลอดเลยอ่ะ ฮือออๆ”  พอผมพูดเรื่องนี้ทีไรก็อดจะน้ำตาไหลไม่ได้อ่ะครับ  ผมเป็นคนกลัวผีมากอยู่แล้วพอมาเจอแบบนี้ผมช็อคอ่ะครับ


“เออๆ อย่าร้องไห้ดิมึงไปปิ๊น  เดี๋ยวไปทำบุญถวายสังฆทานให้ไอ้นั้นก็แล้วกันดีป่าวว่ะ”  ไอ้เจสเสนอขึ้นพลางลูบหลังปลอบผมไปด้วย  ปกติไอ้เจสมันชอบแกล้งผมตลอดอ่ะครับวันนี้ก็แกล้งแต่คงเห็นว่าผมอาการหนักจริงๆเลยไม่แกล้งมาช่วยปลอบผมแทน


“ฮึกๆ เอาดิ ไปทำกันวันนี้เลยนะฮือออ”  ผมตกลงทันทีคือไม่ไหวแล้วอ่ะครับ  อย่างน้อยทำบุญไปให้มันเพื่อมันจะได้บุญแล้วไปกุดไปเกิด  ผมก็จะได้สบายใจขึ้นด้วย


“เออๆ โอเคงั้นเอาของไปไว้ที่บ้านมึงก่อนล่ะกันแล้วค่อยเดินไปทำบุญวัดใกล้ๆบ้านมึง”  ไอ้เจสเอ่ย 


“อืม ตกลง”  แล้วพวกผมก็พากันเดินไปที่บ้านผมกันครับ  ในเวลาแบบนี้อย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนที่ดีอย่างมันคอยอยู่ข้างผมเสมอๆ  ถ้าไม่มีพวกมันผมก็ยังคงคิดอะไรไม่ออกมัวแต่กลัวไปเรื่อยอ่ะครับ


“มึงเอากระเป๋าพวกมึงไปวางบนโต๊ะเขียนหนังสือกูก่อนไป” ผมพูดเมื่อพาพวกมันมาบนห้องนอนผม


“เออๆ  เดี้ยวกูเข้าห้องน้ำแป๊บนะมึง”  ไอ้เจสก็เดินไปเข้าห้องน้ำที่มีอยู่ในห้องนอนผม


“ปิ๊น  กระเป๋าใครว่ะ”  ไอ้ปอเอ่ยขึ้นแล้วหยิบกระเป๋าหนังขึ้นมา


ลืมไปเลยนะเนี้ยว่ากระเป๋ามันยังอยู่กับผม


“เออ  ของไอ้คนที่กูช่วยนะ  กูลืมไปเลยว่ะ  กูหยิบผิดตอนที่ส่งมันที่โรงพยาบาลตอนแรกว่าจะเอาไปคืนที่โรงพยาบาลแต่..แต่พอกู..ฮึก”  เอาอีกแล้วครับ แง ผมห้ามน้ำตาไม่ได้จริงๆอ่ะ  ปกติผมไม่ใช่คนขี้แยนะครับ


“เออๆๆ กูเข้าใจ  ไหนๆมันก็ตายไปแล้ว กูว่าเอาไปไว้ที่วัดเถอะว่ะ”


“อะไรว่ะ พูดไรกันพวกมึง  นั่นกระเป๋าใครอ่ะ”  ไอ้เจสที่ออกมาจากห้องน้ำก็ถามขึ้น


“กระเป๋าของไอ้คนที่ตาย  ไอ้ปิ๊นมันหยิบผิดมาน่ะ”  ไอ้ปอพูดแทนผมที่กำลังพยายามไม่ร้อง


“โหยยย  ไอ้ควายปิ๊นกูไม่สงสัยเลยว่าทำไมมันถึงมาถามหลอนมึงถึงในฝันอ่ะสัส”  ไอ้เจสพอรู้ก็ด่าผมใหญ่


“ก็ตอนแรกกูก็กะจะเอาไปคืน  แต่มันเสือกตายก่อนนี้หว่า”  ผมเถียงกลับ


“ชิบหาย  ของคนตายอย่าเอามาไว้กับตัวมันไม่ดีกูว่าเอาไปไว้ที่วัดเลยที่เดียวไหนๆพวกเราก็จะไปวัดกันแล้วอ่ะ” ไอ้เจสเอ่ยขึ้น  พวกเราก็ตกลงกันว่าจะเอากระเป๋ามันไปไว้ซึ่งก็ดีแล้ว  เพื่อของรักมันไม่ได้อยู่กับผมแล้วมันจะได้ไม่มาเข้าฝันผมอีก



จากนั้นพวกเราก็ไปทำบุญถวายสังฆทานให้ไอ้หมอนั้นกันกรวดน้ำให้มันไปเกิดแล้วอย่ามาเข้าฝันผมอีกโดยไม่ลืมจะเอากระเป๋ามันไปบริจาคให้วัดด้วย  แล้วก็พวกผมก็ทำบุญกันแทบทุกชนิดอะครับทั้งเติมน้ำมัน บริจาคค่านั่นนี้ของวัด  พอทำไปแล้วผมก็ค่อยสบายใจขึ้นเยอะเลยล่ะครับ



หวังว่ามันจะได้ไปเกิดใหม่นะครับแล้วคืนนี้ผมคงจะได้นอนหลับฝันดีไม่มันเข้ามากวนในฝันอีกแล้วนะครับ


เฮ้อออออออออออออออออออ








“สัสปิ๊น  ดูอารมณ์ดีจังนะมึงอ่ะ”  ไอ้เจสเอ่ยทักขณะที่ผมกำลังพยายามชู๊ตลูกบาสใส่ห่วงอยู่ หลังจากที่เลิกเรียนแล้ว


“เออดิว่ะ เมื่อคืนกูไม่ได้ฝันถึงแล้วเว้ย  มันคงไปเกิดแล้วล่ะว่ะ 55555+” ผมพูดแล้วก็หัวเราะชู๊ตลูกบาสไปเรื่อย....ถึงไม่มีลูกไหนลงห่วงสักลูก  เหอะๆๆ-*-


“มึงรู้ได้ไง  ระวังนะเมิงงงงงงงงง  คืนนี้มันจะมาทวงสัญญาเป็นแฟนมึงอีก  55555  นางฟ้า นางงงงงฟ้าของผม”


“ไอ้เชี้ยเจสหุบปากมึงไปเลยสัส  แม่ง”  ผมหันไปด่ามันทีหนึ่งไอ้เหี้ยนี้ดีกับผมเกิน 3วันไม่ได้หรอกครับต้องแกล้งตลอด


“5555  ทำไมกูแกล้งมึงแล้วมึงจะทำไรกูได้ ตัวอย่างกับลูกหมา”  แล้วมันก็ทำหน้าตากวนตีนใส่ผมอ่ะครับ


“กูจะไปฟ้องมิ้งว่ามึงเบี้ยวนัดดูหนังเพราะมัวแต่นั้งทำเวลเกมอยู่ที่บ้าน”  หึหึหึ  น่ากลัวใช่ไหมล่ะ


“ไอ้ควายมิ้งเขาไม่เชื่อมึงหรอกเว้ย  กูโกหกเนียนจะตายไป กร้ากกกก 555+”  อ้าวไอ้สัสเสือกไม่กลัวกูอีก เวร


แต่ว่า....


“จริงหรอเจส”


“................”


แล้วความเงียบก็เกิดขึ้น พร้อมกับระเบิดที่กำลังจะตามมา....เอิ่มกูไม่เกี่ยวนะเว้ยเห้ย


“ม..มิ้ง  มาตั้งแต่ตอนไหนน่ะ”   ไอ้เจสทำหน้าแหย่ๆ เดินเข้าไปหาแฟนสาวสุดสวยนามว่ามิ้ง


“ก็มาทันที่จะได้ยินว่าเจสโกหกเรา เบี้ยวนัดเราไปเล่นเกมนั้นแหละ”  เหอะๆๆ วันนี้มิ้งดูโหดๆแหะ


“คือมิ้ง..มัน..ไม่จริงนะ...วันนั้นเรา”  ไอ้เจสก็พยายามหาเหตุผลมาอธิบายไปเรื่อย


“มันไม่จริงหรอกมิ้ง  เราแค่พูดล้อเล่นกะไอ้เจสอ่ะ  มันมาแกล้งเราก่อน  ขอโทษนะมิ้งที่ทำให้เข้าใจผิดอ่ะ  แต่เราพูดเล่นจริงๆ”  ผมเอ่ยพูดแทนให้ไอ้เจส  ก็เพื่อนกันอ่ะครับ แล้วผมก็เป็นต้นเหตุซะด้วย


“จริงๆหรอปิ๊น  อย่าโกหกเรานะปิ๊น”  มิ้งหันมาทำหน้าคาดโทษผมไว้   น่ากลัวอ่า-0-


“จริงดิ พูดจริงๆ”


“อืม  งั้นเราจะเชื่อก็ได้  แต่วันพรุ่งนี้เจสอย่าผิดนัดเราอีกด้วยไม่งั้นไม่ต้องมาคุยกันอีกเลยนะ”


“คร้าบๆ เจสไม่กล้าแล้วล่ะคร้าบ  เจสรักมิ้งนะครับ” ไอ้เจสก็จับมือมิ้งมาทำท่าอ้อนซึ่งถือว่าเป็นบุญตาผมมากเลยที่ได้เห็นอ่ะ  ความรักมันทำให้ไอ้เจสเพื่อนผมกล้ายไปลูกไก่ขี้อ้อนไปได้ยังไงเนี้ย





อิจฉาเว้ยยยยยยเห้ยยยยยยยย   


แล้วผมก็เดินกลับไปชู๊ตบาสเหมือนเดิมอ่ะครับ  อยู่ใกล้คู่นั้นมากรู้สึกเหมือนว่าไฟมันลุกที่ตายังไงไม่รู้ *-*




“เมื่อไรฟ้าจะส่งคนมารักกูสักทีวะ”


สุดท้ายผมก็ได้แต่บ่นกับตัวเองไปเรื่อย  จนจะ5 โมง แล้วอ่ะครับผมถึงเลิกเล่นเก็บกระเป๋ากลับบ้านคนเดียวเพราะไอ้เจสก็ไปกับแฟนมัน  ไอ้ปอพ่อมันก็โทรตามให้ไปช่วยงานที่บริษัทตั้งแต่เลิกเรียนแล้วล่ะครับ


/โปรดส่งใครมารักฉันที  อยู่อย่างนี้มันหนาวเกินไป
อยากจะรู้รักแท้มันเป็นเช่นไร  มีจริงใช่ไหม โว โว
โปรดส่งใครมาเป็นคู่กัน ที่ไม่ทำให้ฉันเดียวดาย
ช่วยมาทำให้ฉันเข้าใจ และได้รักใครกับเขาสักครั้ง/     


ผมเดินฟังเพลงจากโทรศัพท์ไปเรื่อย  ยิ่งฟังเพลงแบบนี้ก็ยิ่งเซงครับ  เฮ้อออ  ไอ้จืดอย่างผมจะมีแฟนกับเขาบ้างไหมเนี้ย


“นางฟ้า”


“เห้ย พวกมึงคนนี้แหละนางฟ้ากู”


“เห้ย  มึงอ่ะ”


“........”


“เห้ยมึงกูเรียกไม่ได้ยินหรอว่ะ”


แล้วผมก็รู้สึกถึงแรงกระชากที่ต้นแขน  หันไปก็เจอกันเด็กนักเรียนตัวสูงๆหน้าตาออกลูกครึ่งๆนะครับ  ไม่อธิบายอะไรมาก หล่อ เพอร์เฟค ดูดี   3คำครับรวมอยู่ที่ตัวมันนี้แหละ -0-


“อะไร เรียกเราหรอ”  ผมเงยหน้าถามมันงงๆพลางถอดหูฟังออก


“เออสิ เรียกตั้งนานแล้วไม่ได้ยินรึไง”  ไอ้ฝรั่งนี้ถามเหมือนจะหาเรื่องนะครับ  แต่ผมว่าหน้ามันเหมือนจะยิ้มแต่พยายามไม่ยิ้มอ่ะครับ คือในตามันดูดีใจๆไงไม่รู้


“แล้วเรียกเราทำไมอ่ะ”   ผมงงครับ เพราะผมไม่มีเพื่อนที่เรียนโรงเรียนเอกชนกางเกงน้ำเงินสักคนเดียว


“นี้..นี้..จำไม่ได้หรอว่ะ”  ไอ้ฝรั่งนี้ดูท่าทางหงุดหงิดหน้าบึ้งขึ้นมาทันที


“จำอะไรได้อ่ะ”  ผมก็งงอยู่ดีแหละ


“ไอ้เชี้ย  มึงจำไม่ได้หรอว่ะว่ามึงทำอะไรกับกูไว้อ่ะ”  ไอ้ฝรั่งนี้ก็พูดเสียงดังใหญ่เลยครับ  กูไปทำไรให้มึงว่ะ


“ทำอะไรอ่ะ กูไปทำให้มึงไม่ทราบ  หน้ามึงกูยังไม่เคยเห็นเลยด้วยซ้ำนะเว้ยเห้ย”  ผมก็กูมึงกลับอ่ะครับอยากพูดก่อนทำไมล่ะ  ถึงผมจะตัว..เตี้ย-*- ปอดแหก  แต่ถ้ามีใครมาหาเรื่องผมก่อนผมก็สู้ไม่ถอยอ่ะครับ


“ไอ้ปลาทองเอ๊ย..ม..มึง..มึงจำไม่ได้หรอที่มึงหลอกกูว่ามึงเป็นนางฟ้าอ่ะสัส!!”  ไอ้ฝรั่งก็ตะโกนหน้าตาโมโหมากมาย  แต่อะไรนะนางฟ้างั้นหรอ.....อย่าบอกนะว่าไอ้นี้คือคนที่เลือดเต็มหน้าวันนั้น


0.0

0.0

0.0

มาหลอกกูกลางวันแสกๆเลยหรอว่ะเนี้ยยยยยยยยยย



“เห้ยยยยยยยยยยยยยย  มึงตายไปแล้วไม่ใช้หรอว่ะ”  ผมตกใจตะโกนถามเลยทีเดียว


“ตายห่าอะไรของมึงล่ะ  กูยังไม่ตายเว้ย”  ไอ้ฝรั่งนี้ทำหน้าหงุดหงิดหนักไปอีก


“ก็..ก...ก็มึง..มึงมาเข้าฝันกูนี้หว่า  กูคิดว่ามึงตายไปแล้วซะอีก”  ผมพูดไปตามตรง


“ไอ้เชี้ย  นี้มึงแช่งกูหรอว่ะ  อยากโดนใช่ไหมห่ะ”  ไม่พูดเปล่ามันกระชากคอเสื้อผมด้วย  ตัวผมแทบลอยแน่ะ


“กูไม่ได้แช่งโว้ยยยยย ก็คิดว่ามึงตายไปจริงๆแล้วนี้หว้า  วันนั้นมึงแม่งก็เลือดไหลเต็มตัวอ่ะ”  ผมพยายามธิบาย ขาก็เขย่งไปด้วย


“ก็กูยังไม่ตาย...แต่มึงแหละที่จะตายอ่ะไอ้เวร”   โหยยยย หน้ามึงน่ากลัวได้อีก


“แล้วทำไมกูต้องตายด้วยเล่า!! กูเป็นคนช่วยชีวิตมึงไว้นะเว้ยยยยย  สำนึกบุญคุณกูหน่อยสิไอ้บ้า!!”


“ก็...ก็มึงเสือกมาหลอกกูทำไมห่ะ”


“กูไปหลอกอะไรมึงว่ะ”  ผมถามพยายามจะดึงมือมันออกจากเสื้อผม


“ก..ก็..ก็มึงหลอกกูว่ามึงเป็นนางฟ้าอ่ะ ไอ้สัส”   โหยยยยยยนี้มึงจริงจังกับเรื่องนางฟ้ามากเลยนะเนี้ย


“ใครหลอกมึงว่ะ  มีแต่มึงนั้นแหละปัญญาอ่อน อยู่ๆก็มาเรียกกูว่านางฟ้าเองอ่ะ”  เถียงครับเถียง


“ไม่จริงมึงแหละโกหกกู กูไม่มีทางมองลูกหมาขี้เหล่อย่างมึงเป็นนางฟ้าไปได้หรอกเว้ยยยย”  โหยยยยยพูดงี้ผมปรี้ดดดดดด  ขึ้นมาทันทีเลยล่ะครับ  ว่ากูขี้เหล่เลยหรอ กูแค่หน้าตาธรรมดาเฉยๆหรอกมั้ง


“ไม่จริงเหี้ยอะไรล่ะมึงอ่ะจับมือกูบอกว่ากูเป็นนางฟ้า  กูบอกว่ากูไม่ใช่ๆๆๆ  มึงก็บอกว่าจะตายๆๆ  แล้วแถมยังมาขอพรขอกูเป็นแฟนมึงอีกอ่ะ ไอ้สัส  พอกูบอกว่ามึงจะบ้ารึไง มึงก็บอกว่าอยากจะเป็นแฟนกับนางฟ้า  ถ้าไม่ได้เป็นแฟนกับนางฟ้า มึงก็ทำท่าจะขาดใจตายซะให้ได้กูก็เลยต้องตกลงไปกับมึงอ่ะ คิดว่ากูอยากเป็นแฟนกับลูกครึ่งฝรั่งขี้แตกอย่างมึงนักหรอ ไอ้เหี้ยยยยยยยย”


แฮ่กๆๆๆๆ โอยยยยยเหนื่อยครับหมดลมเลยด่ามันชุดนี้


“อ..อ.ก็..”  ไอ้ฝรั่งนี้ก็ทำท่าไม่ถูกเลยล่ะครับคงช๊อคที่ผมด่าน้ำไหลไฟดับขนาดนี้  มองไปรอบตัวผมก็ชักจะรู้สึกอายแล้วล่ะครับก็คนมองเต็มเลยอ่ะแถมไฟแดงอีกตะหากคนในรถหันมามองกันเต็ม  แง 


กูพลาดแล้วล่ะ -*-


“ไงมึง ปล่อยกูได้แล้วสัส”  แล้วผมก็กระชากมือมันออกอย่างง่ายดายคงเป็นเพราะตอนนี้มันกำลังอึนอยู่ด้วย  งั้นกูกลับบ้านตอนนี้เลยล่ะกัน หึหึ ให้มันรู้ซะบ้างว่าปินปิ๊นคนนี้ไม่ธรรมดานะเว้ยยยยเห้ยยยยย


“เดี้ยว  มึงยังไปตอนนี้ไม่ได้นะเว้ย”  ไอ้ฝรั่งตามมาดึงแขนผมไว้อีก  จะอะไรกันหนักหันหนาว่ะ


“อะไรอีกล่ะ”  ผมแว๊ดใส่


“ก..อ่อ..กระเป๋า..กระเป๋ากูล่ะ  มึงเป็นคนเอากระเป๋ากูไปใช่ไหม”  ไอ้ฝรั่งพอตั้งตัวได้ก็เริ่มทำตัวหาเรื่องผมอีก


“เออกูเอาไปเองแหละวันนั้นกูหยิบผิด”  ผมที่โมโหยังไม่หายก็ตะคอกใส่โดยลืมไปว่า.....




“แล้วไหนล่ะกระเป๋ากู  เอามาคืนกูเดี้ยวนี้เลย”






ชิบหายแล้วไงผม



รูปปลากรอบ


------------------------------------------------------------------------------------------------
รีไรท์ใหม่จะไม่ค่อยเหมือนต้นฉบับเดิมน้า  เพราะเราไม่ได้เซฟไว้ก่อนโดนลบTT
มีแค่ 3 ตอนแรกที่เซฟไว้  หลังจากตอน 3 นี้ไปก็จะไม่เหมือนเดิมแล้ว
อภัยให้กับสมองปลาทองของเราด้วย :z3: :z3: :z3: :z3:




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-06-2017 12:28:20 โดย Monkey D »

ออฟไลน์ เพียงเพื่อน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
-0- พ่อฝรั่งน้อยฮาร์ดคอจังลูก  :m20:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ 3 words 8 letters

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เพิ่งอ่านเรื่องนี้ สนุกดีค่าาา :katai2-1:

ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
เพิ่มรูปประกอบจ้า

เกรี้ยวกราดกันเหลือเกิ๊น.  :laugh:


ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
มีรูป ปลากรอบด้วย
ว่าอยู่คุ้นๆนิยายนี่มาเลย คือ เริ่มเรื่อลเหมือนเียอ่านมาแล้ว พอมาอ่าน ทอร์คเลย อ๋ออออ
ตอนนั้นอยากอ่านต่อ แต่เหน ว่าจะมา6าอให้จบและก็ดีจายยยย

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
โถ ทำยังไงละทีนี้ ดันเอาของเขาไปถวายวัดไปแล้วด้วย ฮา

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
ตอนที่4   รับผิดชอบ





“แล้วไหนล่ะกระเป๋ากู  เอามาคืนกูเดี้ยวนี้เลย”






ชิบหายแล้วไงผม




“........”   เอาไงดีว่ะกรู    _*_


“เงียบทำไมว่ะ  ไปเอากระเป๋ามาคืนกูเร็วๆเลย”  ไอ้ฝรั่งทำท่ายืดขึ้นมาหน่อยอย่างเป็นต่อ


เออออออ ใช่! กระเป๋าไง


“แล้วไหนล่ะกระเป๋ากูอ่ะ  มึงมีกระเป๋ากูมาคืนไหมล่ะ  ถ้าไม่มีมาคืนกู  กูก็ไม่คืนกระเป๋ามึงหรอกนะ  เสียเปรียบหมด เหอะ”

ในที่สุดผมก็คิดได้ว่าหน้าไอ้ฝรั่งมันไม่สนใจกระเป๋านักเรียนเก่าๆของผมหรอก   แน่ใจล้าน% ว่ามันไม่มีทางเอามาด้วยแน่นอน ฮ่าๆๆๆๆๆๆ กร้ากกกกก  ปิ่นปิ๊น คนนี้ฉลาดจุงเบยยยยย  อิอิอิ


“เห้ย!  ไอ้แวนเอากระเป๋าไอ้ลูกหมานี้มาเดะว่ะ” 


0______0     หืมมมมมมมม   มึงไปเอามาจากไหนนนนนนนนนนน   เห้ยยยยยยยยยย



เพื่อนไอ้คริสที่คงชื่อแวนเดินเอามากระเป๋ามาแล้วก็โยนให้ไอ้ฝรั่งนี้  ก่อนจะเดินกลับเข้าไปนั่งกินก๋วยเตี้ยวในร้านต่อ............เอิ่ม  อร่อยไหมมึง  ถ้าอร่อยมาลากเพื่อนมึงไปกินด้วยเถอะ   แมร่งงงงงง


“นี้ไงกระเป๋ามึงของข้างในยังอยู่ครบ การ์ตูนเถื่อนๆก็ยังอยู่เหมือนเดิมนะ”  ไอ้ฝรั่งยักคิ้วข้างเดียว โด่ นึกว่าเท่นักไงว่ะ  กูยักคิ้วได้สองข้างพร้อมกันยังไม่อวดเลย ชิ

“อะไร การ์ตูนบลีซ เทพมรณะสนุกจะตายไม่เห็นจะเถื่อนตรงไหน คนแมนๆเขาอ่านกันทั้งนั้นล่ะโว้ยยยยย  ใครจะเหมือนนายล่ะอ่านการ์ตูนดิสนีย์หมีพู เงือกน้อยไรก็ไม่รู้ เด็กน้อยว่ะ โถๆๆๆๆ”

“มันก็เรื่องของกู มึงยุ่งไรด้วย  เร็วๆไปเอากระเป๋ากูมาแลกกับกระเป๋ามึงคืนเดี้ยวนี้เลย”

     เอาไงดีว่ะเรากระเป๋าแม่งก็เอาไปบริจาควัดซะแล้ว แต่ก็อยากได้กระป๋าผมคืนอยู่นะ สมุดที่จดเลคเชอก็อยู่ในนั้น ที่สำคัญคือการ์ตูนที่ยังไม่ได้อ่านเลยอ่า  ทำไงดีๆๆ

“กูไม่อยากได้คืนสักหน่อย  อยากเก็บไว้ก็เก็บไปดิ กูไปละ”  ไม่รู้จะทำไงชิงเดินหนีดีกว่าครับ   แต่ยังเดินไปไม่ทันไรก็โดนดึงปกเสื้อหิ้วมาอยู่ที่เดิม T_T

“จะหนีไปไหนนนน มึงไม่อยากได้คืนก็เรื่องของมึงแต่กูอยากได้กระเป๋ากูคืน แล้วมึงต้องเอามาคืนเดี้ยวนี้ด้วย  หนังสือในนั้นมันสำคัญกับกูมากนะเว้ย  มันเป็นหนังสือรุ่นลิมิเต็ดที่หายากมากทำแค่พันเล่มทั่วโลก ในไทยมีไม่ถึงห้าคนหรอกที่ได้ครอบครองอ่ะ  ไปเอามาคืนกูเดี้ยวนี้เลย!”  สีหน้าไอ้ฝรั่งนี้จริงจังขึ้นเรื่อยๆ ผมพอได้ฟังอย่างนั้นก็รู้สึกผิดนิดๆนะที่เอาของๆมันไป ถึงแม้จะเอาไปบริจาคก็ตามเถอะ 

“ค...คือกู...เอาไปบริจาควัดแล้วอ่ะ” ( . . ) ผมบอกมันไปอย่างเจี๋ยมเจี๊ยม

“ห่ะ!!! อะไรนะ มึงเอาหนังสือสุดรักสุดหวงของกูไปบริจาคคคค” 

“อื้อออ” 

“ม.มึง..มึงพากูไปเอาคืนเดี้ยวนี้เลย”
.
.
.
    ผมก็เดินพามันและพ้องเพื่อนมาวัดเดิมแถวบ้านที่ผมเคยเอามาบริจาคนั้นแหละครับ  รู้สึกกระดากใจสุดๆที่บริจาคของไปแล้วแต่ต้องมาขอคืนเนี้ย  จะบาปไหมกรู

“สวัสดีครับหลวงพ่อ  จำผมได้ไหมครับ ที่ผมกับเพื่อนมาถวายสังฆทานแล้วก็บริจาคกระเป๋าไปนะครับ” ผมยกมือไหว้หลวงพ่อก่อนจะเอ่ยถาม  ตอนนี้ผมและพวกมันเข้ามานั่งอยู่ในวัดตรงที่เคยมาถวายสังฆทานกันครับ

“จำได้สิโยม  ว่าแต่วันนี้มีอะไรรึ ถึงได้มาหาอาตมา”

“คือ..คือว่า..ผมจะมาขอกระเป๋าที่บริจาค..ไป..คืนนะครับ”  ผมพูดเสียงอ่อยๆตอนท้าย รู้สึกผิดสุดๆ

“อ้าวทำไมรึโยม  เกิดอะไรขึ้นรึ ถึงต้องมาขอของที่บริจาคแล้วคืน”

“คือว่า  ตอนแรกที่เอาของมาบริจาคมันไม่ใช่ของผมหรอกครับ แต่มันเป็น..เป็นของคนนั้นนะครับ” ผมชี้ไปที่ไอ้หน้าฝรั่งลูกครึ่งนั่น

“คือตอนแรกผมเจอเขาโดนกระทืบปางตาย พอพาไปส่งโรงพยาบาลผมก็เก็บกระเป๋าเขามา ผมคิดว่าเขาตายไปแล้ว เลยเลือกเอาของที่เก็บได้มาบริจาควัดเพื่อความสบายใจ แต่เขายังไม่ตายแล้วเขาก็อยากได้ของคืนนะครับ  หลวงพ่อพอจะคืนให้ได้ไหมครับ  แล้ววันหลังผมจะซื้อของมาบริจาคใหม่แทนนะครับหลวงพ่อ”

“อ่อๆ เรื่องเป็นอย่างนี้เอง  ไม่เป็นไรหรอกหนุ่ม เดี้ยวอาตมาจะคืนให้นะ   ไอ้จุก ไอ้จุก เอ็งไปเอากระเป๋าหนังที่ทรงมันเหมือนกระเป๋าที่เด็กนักเรียนกางเกงน้ำเงินนั้นถือมาให้หน่อยสิ เร็วๆหน่อยล่ะ”   หลวงพ่อหันไปสั่งเด็กวัดก่อนจะยิ้มให้อย่างใจดี  ผมที่ได้ยินอย่างนี้ก็เบาใจครับ  เอาของคืนมันเรื่องจะได้จบๆ เฮ้ออออ


“นี้ครับหลวงพ่อ กระเป๋า”  เด็กวัดเอากระเป๋าที่เหมือนกับที่ผมมาบริจาคให้เป๊ะๆมาให้หลวงพ่อ

“นี้ใช่ไหมพ่อหนุ่ม  มารับกลับคืนไปสิ”  ผมยิ้มก่อนจะยื่นมือไปรับคืนและส่งไปให้ไอ้หน้าฝรั่งนั่น

“กราบขอบพระคุณหลวงพ่อมากครับ ไว้วันหลังผมจะมาทำบุญอีกนะครับ”

“เดี้ยวก่อนครับ  คือหนังสือในกระเป๋าผมมันหายไปไหนหรอครับ”  ไอ้ฝรั่งที่เพิ่งเงยหน้าจากการสำรวจกระเป๋าพูดถามขึ้น

“อาตมาลืมบอกไป  ว่าเมื่อวานมีรณรงค์เอาหนังสือที่ไม่ใช่แล้วไปบริจาคให้เด็กด้อยโอกาสนะ  อาตมาเลยให้เด็กวัดช่วยรวบรวมหนังสือไปบริจาคนะ หนังสือของโยมอาตมาก็เก็บไปบริจาคแล้ว  หวังว่าโยมคงจะไม่โกรธเคืองอาตมานะเพราะอาตมาก็ไม่รู้ว่าโยมจะมาขอคืน อาตมาต้องขออภัยจริงๆ”

      ไอ้ฝรั่งทำหน้าช็อคไปดูแล้วคงทั้งช็อคทั้งแค้นผมอ่า  โอยยยยย ทำไมมันซวยซ้ำซวยซ้อนอย่างงี้ว่ะ!

“ไม่เป็นไรหรอกครับหลวงพ่อ เรื่องแค่นี้เอง  พวกผมไม่นึกโกรธเคืองอะไรหรอกครับ ถือว่าทำบุญ ถ้ายังไงขอรบกวนหลวงพ่อเพียงแค่นี้ล่ะครับ กราบลาล่ะครับหลวงพ่อ”.........คุณคงคิดว่าไอ้หน้าฝรั่งนั้นพูดสินะ  แต่จริงๆแล้วไม่ช่ายยย ผมนี้แหละพูดเองประนึงเป็นเจ้าของ  แต่ผมไม่อยากรบกวนหลวงพ่อท่านมากไปกว่านี้แล้ว  ปัญหาผมเป็นคนก่อเอง ผมก็จะจัดการเองให้ได้

“เจริญพรโยม”

   หลังจากกราบลาเสร็จผมและพวกมันก็รีบเดินออกจากวัด

“เรื่องมันจะจบง่ายๆแบบนี้ไม่ได้นะโว้ย  กูยังไม่ได้หนังสือกูคืนเลย  ยังไงมึงก็ต้องรับผิดชอบ!”

“เออรู้แล้วนะ กูรับผิดชอบแน่ๆกูจะพยายามหาซื้อมาคืนให้นะ”  ผมพูดออกไปทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีทาง  ไอ้หนังสือกีต้าร์นั้นก็พอหาซื้อคงได้อยู่หรอกแต่ไอ้หนังสือลิมิเต็ดนั้นผมจะหาจากไหนได้เนี้ย

“มึงแน่ใจหรอว่ามึงจะหามาคืนให้ได้นะ”

“จริงๆก็ไม่แน่ใจอ่ะ” _*_

“มึงไม่มีทางหาได้แน่ๆกูพนันได้เลย แต่ยังไงมึงก็ต้องรับผิดชอบๆๆๆๆๆๆ” ไอ้หน้าฝรั่งรัวคำว่ารับผิดชอบๆๆๆใส่จนผมหงุดหงิด

“โวยยยยย เรียกร้องให้กูรับผิดชอบอยู่นั่นแหละกูไม่ได้ไปทำมึงท้องนะเว้ย  แค่ทำหนังสือมึงหาย ไอ้ห่า! อย่าเวอร์ขอร้อง”

“ฮ่าๆๆๆๆๆ ด่าโดนใจว่ะมึง”  เพื่อนมันที่ชื่อแวนหลุดหัวเราะออกมา แต่ก็ต้องเงียบไปเมื่อไอ้หน้าฝรั่งหันไปทำหน้ายักษ์  โกรธจนหน้าแดงไปหมดเลยอ่ะ โถ โดนด่าแค่นี้ทำเป็นโกรธ ไรฟระ

“เอาเป็นว่ากูขอรับผิดชอบเป็นเงินแทนได้ไหมล่ะ กูให้สองเท่าของราคาหนังสือมึงเลยอ่ะ”  ผมต่อรองถึงแม้จะแอบเสียดายตังค์ก็ตามเถอะ

“เงินมันไม่สำคัญหรอกโว้ย  ถึงมีเงินก็หาซื้อไม่ได้อีกแล้ว ไม่ว่าเงินมากแค่ไหนก็แทนไม่ได้ มันเป็นเรื่องของจิตใจและความรู้สึกด้วยเว้ย”

“แล้วจะให้รับผิดชอบยังไงว่ะ พูดมาตรงๆเลยดีกว่า”  ผมล่ะจนใจจะเถียงกับมันแล้ว

“ก็ไม่มีไรมาก...ถ้ามึงหาหนังสือมาคืนกูไม่ได้  มึงก็...ต้องทำพรที่กูขอให้มันเป็นจริงสิ”

“พรอะไรว่ะ?”

“ไอ้สมองปลาทองเอ๊ยยย ก็พรเรื่องที่จะเป็นแฟนกูไง”

“เห้ย!!! จะบ้าหรอจะให้กูไปเป็นแฟนมึงเนี้ยนะ ไม่มีทางอ่ะ”  ผมเถียง ถึงผมจะไม่เคยมีแฟนแต่ผมก็ไม่คิดที่จะมีแฟนเป็นผู้ชายเลยนะครับ ขนลุกอ่ะ

“ไอ้คนไม่มีความรับผิดชอบ! พูดสัญญาอะไรไว้ก็ทำไม่ได้ บอกจะเอาของมาคืนให้ก็ทำไม่ได้อีก กากว่ะ!”  ไอ้ฝรั่งด่าผมอีกรอบ 

“คำก็ไม่มีความรับผิดชอบ สองคำก็ไม่มีความรับผิดชอบ  นี้มึงอยากได้กูเป็นแฟนขนาดนั้นเลยไงว่ะ”  ผมถามมัน

“เออ กูอยากได้มึงเป็นแฟน!” ไอ้ฝรั่งตอบกลับ ทำเอาผมนิ่งไปชั่วขณะ  หัวใจเต้นแรงแปลกๆ อาจเป็นเพราะตั้งแต่โตมาไม่เคยมีใครมาพูดแบบนี้กับผมเลย

“ท..ทำไม?”

“....กูชอบของแปลก”  (-.,-)

“(- -)”  จบครับ ไอ้อาการหัวใจเต้นแรงหยุดทันที  ไอ้เชี้ยยยยยย กูแปลกตรงไหนนนน

“กูแปลกตรงไหนไม่ทราบ  มึงตอบมาก่อนดิ๊”

“ก็คนปกติเขาคง ไม่มาเล่นเป็นบทนางฟ้าให้พรบ้าบอกับคนที่ไม่รู้จักกันหรอกนะ หึหึหึ”   โอ้โห  พูดงี้อย่างกับมึงปกติตายล่ะ

“เอ้า ก็มึงเป็นคน..” ผมอ้าปากจะเถียงกลับอีกรอบๆ

“หยุด ไม่ต้องพูดถ้าหาหนังสือมาคืนไม่ได้ก็ต้องมาเป็นแฟนกู กูไม่ชอบให้ใครมาผิดสัญญากับกูเว้ย ถือซะว่าเป็นการชดใช้ทางจิตใจที่มึงทำของรักของหวงกูหายไป ถ้าหาหนังสือมาคืนให้ได้เมื่อไรก็ค่อยเลิกกัน”  ไอ้หน้าฝรั่งพูดด้วยท่าทีเป็นต่อ

“เออก็ได้ว่ะ แต่กูต้องหามาคืนมึงได้แน่ๆกูมั่นใจ” ผมพูดอย่างแน่วแน่แล้วจ้องตามัน  จะลองให้เพื่อนๆช่วยดูไอ้เจสไอ้ปอ มันก็น่าจะช่วยผมได้ไม่มากก็น้อยล่ะนะ

“ดี ดีมาก” ไอ้ฝรั่งนั้นยิ้มออกมา

“แต่มีข้อแม้นะเว้ย  ถ้ากูหาหนังสือมาคืนไม่ได้ กูก็ยอมเป็นแฟนกับมึงแค่สามเดือนเท่านั้นพอ  ถ้าครบสามเดือนถือว่ากูชดใช้ให้มึงแล้ว มึงกับกูก็เลิกกันแยกย้ายกันไปนะเว้ย”   ผมบอกข้อแม้ออกไป ใจจริงก็กลัวจะหามาคืนมันไม่ได้แต่ผมก็ไม่ยอมเป็นแฟนมันไปตลอดหรอกนะครับ ถือว่าเป็นแผนสำรองล่ะกัน  ภูมิใจในความฉลาดของตัวเองจริงๆเลย ฮ่าๆๆๆ

“ไม่! สามเดือนมันน้อยไป อย่างน้อยก็ต้องหกเดือน ตามนี้แหละ หกเดือน!” ไอ้ฝรั่งยื่นคำขาดมือกอดอกอย่างคนเอาแต่ใจ

“หึ่ยยยยย เออก็ได้ว่ะหกเดือนก็หกเดือน  แค่นี้ใช่ไหมเอากระเป๋ากูคืนมากูจะกลับล่ะ อยู่กับมึงแล้วปวดกระบาลชิป”   ผมกระชากกระเป๋านักเรียนกลับมา

“เดี้ยวก่อนดิ มึงยังไม่บอกกูเลยว่าชื่ออะไร”  มันจับมือผมไว้ไม่ให้ไปไหน

“กูชื่อปิ๊น”   ผมบอกมันไปง่ายๆ คือขี้เกียจจะต่อปากต่อคำกับมันล่ะครับ หิวด้วยแหละ

“กูชื่อคริสนะ  เอาเบอร์มึงมาดิ บอกชื่อเฟสบุคมึงมาด้วย ไลน์ด้วย ไอจีเอามาให้หมด”

“ขอขนาดนี้มึงเอาโทรศัพท์กูไปจัดการเองเลยไหม?”  ผมถามกวนๆ

“เออ ดี เอามากูจัดการแอดเอง”  ไม่พูดเปล่ามันเอามือล้วงเข้ามาในกระเป๋ากางเกงผมทันที

“เห้ยยยยไอ้บ้าเอาจริงหรอ” ผมสะดุ้งทันทีที่มันเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง

“กูจริงจังตลอดล่ะ” มันพูดก่อนจะหยิบโทรศัพท์ผมมาจัดการกดอะไรต่อมิอะไรเอง

“เห้ย กดอะไรนักหนาว่ะ เอาคืนมาได้แล้ว” ผมจะคว้าคืนแต่ไอ้คริสมันก็ชูโทรศัพท์ผมหนี

“เห้ยเอามานะ เอามา” ผมพยายามแย่งทั้งเขย่งทั้งกระโดด

“ฮ่าๆๆๆ เปี๊ยกเอ้ยยยย แค่นี้ก็คว้าไม่ถึง กร๊ากกกก กากๆๆๆจริงๆ” ไอ้คริสหัวเราะอารมณ์ดีทั้งที่มือมันยังกดอะไรต่อมิอะไรที่โทรศัพท์ผอยู่

“แฮ่กๆๆ เอาคืนมาสักทีสิ”  ชักเหนื่อยล่ะครับ พยายามแย่งยังก็ไม่ได้คืนสักที

“อ่ะ เสร็จล่ะเปี๊ยก กูจัดการหมดทุกอย่างล่ะ” ไอ้คริสพูดยิ้มๆก่อนจะส่งโทรศัพท์คืนให้  ผมรีบคว้าแล้วเอาเก็บใส่กระเป๋าทันที

“เห้ยไอ้แวนเอาโทรศํพท์มึงมาถ่ายรูปกูกับแฟนกูให้หน่อยดิว่ะ” ไอ้คริสหันไปบอกไอ้แวนก่อนจะเอาแขนมาพาดคอผมดึงให้ยืนติดกับมัน

“เห้ยอะไรเนี้ย” ผมพยายามเอาแขนมันออกจากคอ

“ยิ้มหน่อยสิว่ะเปี๊ยก”  ไอ้คริสหันมาบอกก่อนจะหันไปยิ้มให้โทรศัพท์แล้วชูนิ้วไอเลิฟยู

“กูชื่อปิ๊น ไม่ใช่เปี๊ยก ไอ้บ้านิ”

“ห๊ะ อะไรนะเปี๊ยก เปี๊ยกพูดอะไรอ่ะ” ไอ้คริสหันมาทำหน้าเอียงหูล้อเลียนจนผมหมั่นไส้

กัดหูแม่ง!!!

“โอ๊ยยยยยยย”  ไอ้คริสร้องลั่นเพราะผมกัดหูมันอย่างเต็มฟัน  หมั่นไส้อยากทำท่ากวนตีนดีนัก

“สมน้ำหน้า ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”  ผมที่สลัดมันออกจากตัวได้ก็วิ่งหนีทันที   โอ๊ยยย สะจายยยยยจริงๆครับ อยากแกล้งกูดีนัก รู้จักปิ่นปิ๊นคนนี้น้อยไปซะแล้ว หึหึหึ  (^0^)


“แสบจริงๆนะไอ้เปี๊ยก  แบบนี้ดิ...สเปคเลย”   คริสที่ยืนกุมหูมองตามปิ๊นที่วิ่งไปไกลด้วยรอยยิ้มมุมปากด้วยความถูกใจ



 :hao7: :hao6: :hao3:

นังคริสชอบความรุนแรงหรออออ

555555+


ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Laliat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
 :hao7: คริสนางเป็นมาโซ?

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
คริส บ๊องพอๆกับปิ๊น
ถูกรุมกระทืบซะเลือดสาดขนาดนั้น
ยังเห็นปิ๊นเป็นนางฟ้า แสดงว่าปิ๊นหน้าหวานสวยเหมือนผู้หญิงแน่ๆ
แล้วปิ๊นถูกคริสขอเป็นแฟน ก็ยอม เพราะกลัวคริสตาย
ถึงว่าสองคนนี้แปลกเหมือนกัน
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
จริงๆครอสหาข้ออ้างเนียนจีบสินะ...

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
บทที่ 5 คนเป็นแฟนกันก็ทำแบบนี้แหละ


“โอยยยยยยย ซวยอะไรของกูว่ะเนี้ย แม่งๆๆๆ”   ผมที่หนีจากมันพ้นก็เข้าบ้านเปิดหาของกินทันที  อยู่กับมันเหมือนพลังงานจะหมดประสาทจะกินครับ ต้องกินๆโด๊ปๆหน่อย  พี่ปูนก็ยังไม่กลับ  ผมทำได้มากสุดก็แค่เอาอาหารที่แช่เย็นไว้มาเวฟกิน เฮ้ออออออ  มองนาฬิกาก็ทุ่มกว่า ผมก็รีบกินข้าวก่อนจะขึ้นไปบนห้องนอนอาบน้ำให้ชื่นใจ แล้วก็นั่งทำการบ้านไปครับ


 ผมเป็นคนประเภทเรียนไม่ค่อยเก่งนะ กลางๆอาศัยว่าทำการบ้านทำงานให้มันออกมาดีๆนะครับ ไม่อยากให้เกรดตกเพราะปีนี้ผมก็ม.5 เทอม 2 แล้วด้วย ต้องตั้งใจทำเกรดให้เยอะๆไว้ก่อนครับเพื่อจะติดโควต้าหรือเข้าคณะที่อยากเรียนได้ง่ายๆหน่อย   ทำไปเรื่อยๆจนเสร็จมองนาฬิกาก็สี่ทุ่มกว่าแล้วเลยยืดเส้นยืดสายสักหน่อย  สายตาเหลือบไปมองกระเป๋าผมที่ได้คืนมาวางไว้อยู่บนเตียงพอดี


“ทำไมมันถึงเก็บไว้ว่ะ”  ผมพูดขึ้นยังงงๆ ก่อนจะเดินไปเปิดกระเป๋าตรวจสอบว่าของครบหรือเปล่า ยังดีครับที่อยู่ครบ โดยเฉพาะการ์ตูนเล่มล่าสุด ^^  ว่าแล้วก็เอามานอนเปิดอ่านดีกว่า  ได้อ่านสักที


ครืดดดดด ครืดดดดดด


เสียงโทรศัพท์ที่ตั้งค่าสั่นที่เอาไว้ในกระเป๋าดังขึ้นผมหยิบออกมาดูพอเห็นว่าเป็นเบอร์ไอ้ตงก็เลยกดรับครับ


“ว่าไงว่ะไอ้ตง”


/ไอ้ปิ๊นนนนนน  เมิงไปมีแฟนตอนไหน ไอ้เชี้ย แถมแฟนมึงยังทำกูช็อคอีก กูไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามึงจะเป็นเกย์ ไอ้เชี้ยปิ๊น มึงเป็นตอนไหน เมื่อไร อย่างไง เล่ามาให้ไวๆเลย/     ไอ้ตงที่รัวคำถามยิงใส่ผมไม่ยั้งด้วยเสียงดังจนผมต้องเอาโทรศัพท์ออกจากหู


“อะไรว่ะ กูไม่มีแฟน มึงมั่วป่ะเนี้ย”  ผมตอบมันไปงงๆ


/มั่วเชี้ยไรล่ะ  เฟสบุคขึ้นสถานะว่าครบกับไอ้เด็กเอกชนหน้าหล่อหราฟีดข่าวกูขนาดนั้น  กูถามมึงในแชทมึงก็ไม่ตอบจนกูต้องยอมเสียสละค่าโทรมาถามมึงเนี้ย  ไม่พอนะเว้ยรูปโปรไฟล์ไอ้หน้าหล่อนั้นก็เป็นรูปคู่มึง  นี้ๆ มันกำลังรัวสเตตัสแล้วแท็คเฟสมึงด้วยเนี้ย/


“เห้ย!!! จริงดิ กูเข้าเฟสก่อนนะแค่นี้ก่อนนะมึง”


        ชิปหายแล้ววววววว  ผมวางสายเสร็จก็เพิ่งเห็นหน้าจอที่แจ้งเตือนว่าสายไม่ได้รับสี่สิบกว่าสาย!!! กดเข้าไปดูก็ขึ้นว่า


-แฟนมึง-  ไม่ได้รับ29 สาย 


-ตง-    ไม่ได้รับ5 สาย


-พี่ปูน- ไม่ได้รับ2 สาย


-เจส- ไม่ได้รับ3สาย


-ปอ-  ไม่ได้รับ1สาย


โหยยยยย ผมนี้แถบจะจดบันทึกสถิติที่มีคนโทรหามากขนาดนี้ถ้าไม่ติดว่าต้องรีบไปจัดการเฟสผมก่อน  ผมรีบกดเชื่อมไวฟายแล้วเข้าแอปเฟสบุคทันที  แล้วก็ช็อคครับ

ผมกับไอ้คริสขึ้นสถานะกำลังคบกันอยู่ไอ้คริสใช้รูปโปรที่มันกอดคอผมที่กำลังหน้าหวอๆส่วนมันชูสองนิ้วยิ้มแฉ่ง ไม่พอสเตตัสที่แท็คผมแต่อย่างทำให้ผมนี้ปรี้ดๆๆๆทันที


-แฟนผมครับรักมากอ่ะคนนี้-


-คริสถึงบ้านแล้วนะเปี๊ยก ไม่ต้องเป็นห่วง เดี้ยวจะไลน์ไปหานะครับ-


-น้อยใจว่ะ อุตส่าห์ไลน์ไปหากลับบอกก็ไม่ตอบ พอโทรไปเปี๊ยกก็ไม่รับสายอีก แอบชักว่าวใช่ไหมเปี๊ยก!-


    ไอ้เหี้ยคริสสสสสสสสสสส  อร๊ากกกกกกกกก ผมได้แต่กรีดร้องครวญครางในใจ เชี้ยมาก เชี้ยจริงๆ ที่มึงเอาโทรศัพท์กูไปกดนานเพราะแบบนี้ใช่ไหม เชี้ยเถอะ แม่งๆๆๆ  ตอนนี้ผมเหมือนเจ้าเข้า โกรธจนตัวสั่นไปหมดเลยล่ะครับ   


    แล้วก็กดไปดูตรงช่องข้อความก็เห็นว่ามีไอ้ตง ไอ้ปอ ไอ้เจส เข้ามาถามล่ะครับ แต่ผมไม่ได้กดเข้าไปตอบหรอก ผมต้องจัดการมันก่อน!!!


    ว่าแล้วผมก็นั่งลบแท็คที่มันแท็คผมครับ  รวมถึงยกเลิกสถานะว่าผมคบกับมันด้วย ก่อนจะเข้าไปตั้งค่าการอนุมัติแท็คด้วยว่าต้องถามก่อนว่าอนุญาติให้แท็คหรือเปล่า  จัดการเสร็จไอ้คริสก็โทรมา คราวนี้ผมกดรับครับ


/นี้ เปี๊ยกลบแท็คทำไม/


“ลบดิแท็คบ้าบออะไรของมึงว่ะ กูเสียหายนะเว้ย ไอ้เชี้ยคริส กูไม่ได้ชักว่าวสักหน่อย!”


/ฮ่าๆๆ อ้าวหรอ ไม่ได้ชักว่าวแล้วทำไรล่ะ ทำไมไม่ตอบไลน์กูอ่ะ กูโทรไปก็ไม่รับอีก/


“กูทำการบ้านอยู่ ไม่ได้เอาโทรศัพท์ออกมาดูด้วย ตั้งสั่นอีกต่างหากเข้าใจม่ะ แต่ถึงกูจะตอบไม่ตอบก็สิทธิ์ของกู แต่มึงอ่ะไม่มีสิทธิ์จะไปโพสอะไรแบบนั้นแล้วเสือกแท็คกูนะเว้ย กูไม่ชอบ มึงจะก้าวก่ายเกินไปล่ะสัส”  ด่ามันครับ หงุดหงิดโคตรๆ


/ฮ่าๆๆ เอาน่า กูก็แค่แกล้งเล่นเฉยๆ/


“กูไม่ขำ! ไปลบสเตตัสเดี้ยวนี้ ถ้าไม่ลบ กูจะบล็อคเฟสมึง กูพูดจริงด้วย ถ้าเข้าไปยังเห็นอยู่กูบล็อคมึงแน่ไอ้คริส”


/เออๆ ก็ได้ว่ะ แต่ทีหลังมึงก็ต้องตอบไลน์กูดิ กูโทรไปก็ต้องรับด้วย แฟร์ๆ เคป่ะ/


“เออ ก็ได้ว่ะ เร็วๆเลยมึงรีบไปลบเร็วๆเลย แค่นี้แหละ กูจะอ่านการ์ตูนต่อ อย่ารบกวนอีกล่ะ เข้าใจ๊?”


/เออๆ กูกำลังนั่งไล่ลบในคอมอยู่เนี้ย  แต่รูปโปรไฟล์กูไม่ลบนะเว้ย ถือว่าเป็นหนึ่งเรื่องที่คนเป็นแฟนควรจะทำ หึหึหึ/


“อะไรว่ะ  มึงแม่งเอาแต่ใจตัวเองโคตรๆอ่ะ”  ผมบ่น


/เออ กูก็เป็นแบบนี้แหละ  นี้กูเพิ่งคิดได้ว่าเราควรจะสร้างข้อตกลงในการเป็นแฟนกันนะ/


“อะไร ข้อตกลงอะไรอีกว่ะ”


/ก็แบบ กูโทรไปมึงต้องรับทุกครั้งถ้าไม่รับกูจะไปทำโทษมึงเป็นต้น/


“เห้ยอะไรเนี้ย แล้วถ้ากูเรียนอยู่ล่ะหรือถ้ากูกำลังนอน กูไม่ว่างมารับโทรศัพท์มึงหรอกนะเว้ย ไม่ๆๆไม่ตกลงเด็ดขาดอ่ะ” (-3 -)


/เออ มันก็จริง  งั้นเอางี้คืนนี้นั่งคิดข้อตกลงในการเป็นแฟนครั้งนี้มาล่ะกัน คนล่ะห้าข้อโอเคไหมเปี๊ยก/


“ไม่เอา!  ปัญญาอ่อน” 


/มึงแม่งไม่โรแมนติก รักวัยรุ่นใสๆเลยว่ะ/


“ห๊ะไรนะ งง”


/ก็แบบมึงไม่เคยดูซีรี่ย์ญี่ปุ่นเกาหลีหรอวะ  ที่เวลาเป็นแฟนกันเขาจะมีข้อตกลงกันอ่ะ ว่าห้ามนั่นนู่นนี้ ถ้าทำผิดจะโดนทำโทษแบบนั้นแบบนี้อ่ะ/


“โว้ย  อย่างนั้นกูไม่เรียกว่าแฟน กูเรียกว่าคนบ้าอำนาจชอบบังคับคนอื่น”


/เออ งั้นก็ช่างแม่ง ไม่มีข้อตกลงก็ได้/


/แล้วเจอกันพรุ่งนี้หลังเลิกเรียนนะ กูจะไปหามึงที่โรงเรียน รอกูด้วยล่ะ ถ้าไม่รอกูจะทำโทษมึงจริงๆด้วย/  ดูมันขู่สิครับ คนเป็นแฟนเขาทำกันแบบนี้หรอครับ ผมไม่เข้าใจจริงๆนะ


“เออ งั้นแค่นี้แหละนะ”  หมดธุระก็จะกดวางสายครับ


/เห้ยยยย อย่าเพิ่งวางดิรีบวางไปไหนว่ะ/  ไอ้คริสรีบตะโกนเรียกครับ อะไรของมันนักหนา


“ก็หมดธุระจะพูดแล้วไม่ใช่หรอก็จะวางไง ไม่รู้จะคุยอะไรด้วยแล้ว”  ผมบอก


/คนเป็นแฟนกันเขาก็ต้องคุยกันได้ทุกเรื่องดิว่ะเล่าเรื่องที่ไปเจอมาของแต่ล่ะคนไรงี้”


“ไหนมึงยกตัวอย่างมาสักเรื่องดิ”  ผมถามมัน


/ก็วันนี้เปี๊ยกไปทำอะไรมาบ้าง/


“เอ้า ถามไมเนี้ย ก็เจอมึงทะเลาะกับมึงไปทวงของที่ถวายพระไปแล้วกับมึงบลาๆๆๆไง บ้าป่ะ”  (--*)


/เออว่ะ  แต่เอาก่อนหน้าที่จะเจอกูดิ กูอยากรู้/


“อยากรู้เพื่อ?  ไม่เอาอ่ะ กูขี้เกียจเล่า กูจะรีบอ่านการ์ตูนแล้วก็รีบนอนด้วย”  ผมบอกไปเอนหลังลงไปกับที่นอนด้วยยิ่งอยากหลับครับ


/มึงนี้ไม่มีความโรแมนติกเลยจริงๆ  แฟนคนไหนๆของกูเขาก็อยากคุยกับกูทั้งวันทั้งคืนทั้งนั้นแหละจะบอกให้/


“เหอะ ใช่เรื่องที่กูต้องรู้ไหมล่ะ ไม่มีอะไรแล้วกูวางจริงๆแล้วนะ”


/เห้ยยยย เดี้ยวๆ บอกฝันดีกูก่อนดิว่ะ นะๆ/  ไอ้คริสมันทำเสียงอ้อนครับ เป็นครั้งแรกที่มันทำให้ผมรู้สึกขนลุกจริงๆ ผู้ชายตัวควายๆอย่างมันมาทำเสียงอ้อนเนี้ย


“อะไรของมึง บ้าป่าว ไม่เอาด้วยหรอก ขนลุกว่ะ” ผมบอกพร้อมขนลุกชันจริงๆ


/ไม่มึงต้องบอกกูไม่งั้นกูจะโทรมากวนมึงทุกนาทีเลยจริงๆ เร็วบอกมา มึงพูดช้ากูก็ไปลบตัสช้านะเว้ย/  แมร่งๆๆๆดูมันขู่ผมสิครับ


“เออๆ ฝันดี แค่นี้นะ ไอ้บ้า” ผมบอกฝันดีส่งๆ รู้สึกร้อนๆที่หน้า หน้าร้อนประเทศไทยนี้ร้อนจริงๆนะครับถึงจะกลางคืนแล้วก็เหอะ


/ฮ่าๆๆ พูดง่ายแบบนี้รักตายเลยว่ะ ฝันดีนะเปี๊ยก ระวังฝันเปียกล่ะคืนนี้ ฮ่าๆๆ/


“ไอ้.”


/ตู้ดๆๆๆๆ/  กะจะด่ามันกลับสักหน่อยแต่มันก็ดันตัดสายไปก่อน และแน่นอนว่าผมไม่โทรกลับไปหามันหรอก เปลืองตังค์ครับ   แต่น่าแปลกที่ผมนี้แหละที่ยังมองหน้าจอโทรศัพท์อยู่  รู้สึกแปลกๆนะครับ มันเป็นครั้งแรกด้วยล่ะมั้งที่มาทำอะไรแบบนี้อ่ะ  ปกติ ผมก็กลับบ้านนอนไม่ก็ทำการบ้านอ่านหนังสือการ์ตูนอะไรก็ว่าไป  ไม่เคยมีหรอกครับที่ใครจะโทรมาคุยกันนานๆแบบนี้
    

ก๊อกๆๆ


“ปิ่นปิ๊น  นอนรึยัง”  เสียงพี่ปูนดังขึ้นจนผมหลุดออกจากความคิด


“ยังไม่นอนคร้าบ...วันนี้กลับดึกจัง”  ผมพูดแล้วเดินไปเปิดประตูให้ปูนปู๊น 


“ปิ่นปิ๊น  พี่จะไม่อ้อมค้อมนะ  ในเฟสบุคมันขึ้นว่าปิ่นปิ๊นคบกับผู้ชายอีกคนหนึ่งนั้นเรื่องจริงหรอ? หรือว่าโดนเพื่อนแกล้ง บอกพี่หน่อย”  พี่ปูนถามสีหน้าเคร่งเครียดนั้นทำให้ผมรู้สึกแย่ขึ้นมานิดๆนะ  เพราะปกติพี่ปูนจะแทบไม่เคยดุหรือโมโหใส่ผมเลย  พี่ปูนเป็นคนมีเหตุผลครับมีเรื่องอะไรก็จะพูดกันดีๆตลอด อาจเพราะเรามีกันอยู่สองพี่น้องด้วยล่ะครับ


“คือเรื่องมันยาวอ่ะปูนปู๊น...”  ผมเองก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง


“ยาวแค่ไหนพี่ก็จะฟัง  ปิ่นปิ๊นเป็นน้องชายคนเดียวของพี่นะ เราไม่ควรมีเรื่องปิดบังกันไม่ใช่หรอ”  พี่ปูนพูดขึ้นอีกแต่เสียงเย็นลงกว่าเดิมหน่อย (เอ๊ะยังไง งง)


“....”  คือผมไม่รู้จะอธิบายเรื่องบ้าบอที่เกิดขึ้นนี้ให้พี่ปูนฟังยังไงอ่ะครับ อายก็อาย ทุเรศก็ทุเรศ


“ปิ่นปิ๊น ไม่ปฏิเสธแสดงว่าเป็นเรื่องจริงใช่ไหม?”


“....”  อยากปฏิเสธนะแต่ไม่รู้จะพูดยังไง  ตอนนี้ที่ทำได้ก็คือก้มหน้าอย่างเดียว


“ปิ่นปิ๊น...”


“....”


“พี่ก็มีแฟนเป็นผู้ชายเหมือนกัน”



“ห๊ะ!?!?”



------------------

เราตั้งใจให้คริสกับปิ๊นเป็นวัยรุ่นทั่วไป ที่มีความคิดเด็กๆอยากทำอะไรก็ทำ
ไม่คิดหน้าคิดหลัง

คริสก็จะคิดว่าสิ่งที่ทำมันเจ๋งมากในตอนนั้น

ส่วนปิ๊นก็ไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย อยู่ๆมาเจอคนแบบคริสที่เป็นผู้ชายด้วยกัน ยิ่งมีความต่อต้านไปใหญ่

ของอย่างนี้ต้องใช้เวลาเนอะ  :-[

ขอบคุณทุกคนที่ยังมาอ่านมาเม้น. ไม่ทิ้งกันไปไหนน้า
เราอ่านทุกเม้นแล้วมีความสุขและดีใจมากๆเลย  :mew1:

เราอัพจากโทรศัพท์อาจมีแบ่งย่อหน้าแปลกๆไปนิดนะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
อ้าววววว พี่ปูนมีแฟนตัดหน้าน้องๆได้ไง   :ling1:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
ตอนที่ 6  เรื่องของพี่ปูน



“พี่ก็มีแฟนเป็นผู้ชายเหมือนกัน”


“ห๊ะ!?!?”


“พ..พี่..พี่ปูนปู๊นมีแฟนเป็นผู้ชายหรอ ใคร มันเป็นใคร ตั้งแต่เมื่อไร ตอนไหน ยังไง ตอบบบบบบ” ผมพูดรัวพลางเขย่าแขนพี่ปูนปู๊น ตกใจก็ตกใจนะแต่ความเสือกมาเต็มกว่าเยอะ


“จ..ใจเย็นๆปิ๊น ปิ๊นต้องตอบเรื่องที่พี่ถามมาก่อนนะ ไม่งั้นพี่ก็ไม่บอกหรอกนะ”


“ไม่เอาอะ พี่ปูนต้องตอบปิ๊นมาก่อน นี้โกรธจริงๆนะ ทำไมไม่บอกอะไรปิ๊นบ้างเลย!”  ผมตะคอกไป เคืองครับเคืองบอกว่าเป็นพี่น้องไม่ควรมีความลับต่อกัน แต่ไหงตัวเองกลับทำเองซะงั้นอ่ะ


“ปิ๊น....รังเกียจพี่หรอ”  พี่ปูนพูดเสียงเบา หน้าเริ่มซึม


“เห้ยยยยย อย่าร้องไห้นะ  ปิ๊นไม่ได้รังเกียจเว้ย แต่ปิ๊นโกรธอ่ะ เคืองอ่ะ ทำไมมีไรไม่บอกกันเลย ถ้าไม่มีเรื่องนี้ พี่ปูนคิดจะบอกปิ๊นตอนไหนหรอวะ”


“พี่ขอโทษ ก็พี่กลัวปิ๊นรังเกียจพี่อะ กลัวจะไม่ใช่ฮีโร่ของปิ๊นอีก”  พี่ปูนพูดเสร็จก็ก้มหน้า น้ำตาร่วง เผาะๆ เดือดร้อนไอ้น้องอย่างผมต้องโผเข้ากอดปลอบอีก


“อย่าร้องดิวะ จริงอยู่ว่าปิ๊นตกใจ แต่ปูนเป็นพี่ชายคนเดียวของปิ๊นนะ ยังไงก็เกลียดไม่ลงหรอก” พูดไปก็กอดไป พี่ปูนตัวนิ่มและขาวมากครับ นุ่มน่ากอดเลยทีเดียว


“อืม ขอบคุณนะปิ๊น”


“ถ้าอยากให้น้องหายโกรธก็เล่าเรื่องของพี่มาให้หมดตั้งแต่เริ่มเลยนะ ไม่งั้นเคืองจริงๆด้วย”


“ก็ได้....”


   แล้วพี่ปูนก็เล่าให้ฟังตั้งแต่ต้น สรุปได้ว่า แฟนพี่ปูนชื่อพี่เอกเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย พี่เอกจีบพี่ปูนตั้งแต่พี่ปูนอยู่ม.6 แล้วพี่เอกมาแนะนำน้องเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยให้ฟังในงานที่โรงเรียนจัดขึ้น ซึ่งจะมีรุ่นพี่จากหลายมหาวิทยาลัยมาแนะนำรุ่นน้อง  แต่พี่ปูนก็ยังไม่เล่นด้วยหรอกครับ คิดว่าพี่เอกคงแค่เล่นๆ 

แต่พี่เอกก็ยังตามจีบพี่ปูนแถมตามดูแลตามโอกาสที่เอื้ออำนวยจนกระทั่งพี่ปูนเข้ามหาวิทยาลัยพี่เอกก็ยังไม่เลิกตามจีบ ยังคอยดูแลพี่ปูนเสมอต้นเสมอปลายมาตลอด ซึ่งหายากมากนะในยุคนี้ที่จะมีคนที่ยังรักใครรักจริงตามตื้อเป็นปีๆได้ขนาดนี้  พี่ปูนเลยลองให้โอกาศพี่เอกดูสักครั้ง แล้วพี่เอกก็ยังไม่เคยทำให้พี่ปูนต้องเสียใจเลยสักครั้งเดียว  จนพี่ปูนก็รักพี่เอกเข้าเต็มหัวใจแล้วเหมือนกัน


“เรื่องก็เป็นแบบนี้แหละปิ๊น...อ้าวหลับแล้วหรอปิ๊น ปิ๊น” พี่เรียกชื่อผมพร้อมเขย่า ดูจนแน่ใจว่าผมหลับก็จัดท่าจัดทางให้ผมนอนดีๆก่อนจะห่มผ้าให้แล้วปิดไฟเดินออกไป....


O_O    ผมก็ลืมตาขึ้นทันที  เมื่อกี้แค่แสดงอะครับ ฮ่าๆๆ ก็ยังไม่รู้จะตอบเรื่องของผมยังไงเลยเนียนทำเป็นหลับไปก่อน 


   มาคิดๆดูพี่ผมนี้ก็ใจแข็งเหมือนกันนะครับ  โดนตามจีบเป็นปียังไม่ยอมเป็นแฟนอีก  เป็นผมไม่ได้ตอบตกลงแมร่ง ฮ่าๆๆๆ  ชะอุ๊ย เข้าตัววะ  --*  แต่พี่ปูนก็ยังโชคดีนะที่มีเวลาดูใจก่อนจะตกลงเป็นแฟนตั้งเป็นปี  แล้วดูผมดิ ไอ้บ้าคริสมัดมือชกบังคับให้เป็นแฟนมันอย่างหนีไม่ได้ ผมล่ะเซงเป็ด


       เฮ้อออออ จะเอายังไงกับมันต่อไปดีว่ะ  จะหาหนังสือเจอไหม แล้วต้องทนเป็นแฟนมันถึง 6 เดือนจริงหรอ  มีความคิดหลากหลายพุ่งเข้ามาเต็มไปหมดในสมองน้อยๆของผม


“เฮ้อ นอนดีกว่าเว้ยคิดไปก็ปวดหัว”


15.25 น.

15.26 น.

15.27 น.

15.28 น.

15.29 น.

15.30 น.  !!!

ออดดดดดดดดดดดดดดด

   เสียงออดบอกเวลาเลิกเรียนสักที เยสสสสส  ผมรีบกวาดทุกอย่างลงกระเป๋านักเรียนเตรียมพร้อมพุ่งออกจากห้องทันที
   

   “นักเรียนทำความเคารพ”


   “ขอบคุณครับ/ค่ะ”


   นั่งรอแป๊บนึงจนครูเดินออกไปผมก็พุ่งออกจากห้องทันที


   “เห้ย ไอ้ปิ๊นรีบไปไหนของมึงวะ”  ไอ้เจสตะโกนถามตามหลัง


   “กูมีธุระ  เจอกันวันจันทร์นะโว้ย”  ผมหันหลังไปบอกก่อนจะรีบวิ่งออก  เหตุผลที่รีบออกจากโรงเรียนก็ไม่พ้นไอ้บ้าคริสนั่นแหละครับ  ผมยังไม่พร้อมเผชิญหน้ามันกะชิ่งหลบหน้าก่อน 


วันนี้เป็นวันศุกร์ถ้าหลบพ้นก็ไม่ต้องเจอมันจนกว่าจะวันจันทร์เลยนะ ผมออกตรงเวลาเป๊ะขนาดนี้  ไอ้คริสมันคงยังไม่มารอหน้าโรงเรียนอย่างที่บอกไว้หรอกมั้ง  ถึงมันจะบอกให้ผมรอแต่แน่นอนครับว่าใครจะบ้ารอมันล่ะ


   ผมหลบๆซ่อนๆมองไปทางหน้าโรงเรียน  มองหาไอ้บ้านั่นว่ามารอรึยัง ถ้าเห็นมันยืนอยู่หน้าโรงเรียนผมก็คิดว่าจะไปออกทางหลังโรงเรียนแทน  แม้ว่ามันจะไกลมากก็ตามแต่เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ต้องพบเจอไอ้บ้านั่นผมยอมครับ มองจนแน่ใจว่าไอ้คริสคงยังมาไม่ถึงแน่ๆ คราวนี้ก็เดินออกจากโรงเรียนอย่างสบายใจสิครับ โฮะๆๆๆ


   “ไงเปี๊ยก  ออกมาช้าจังวะกูยืนรอมึงนานแล้วเนี้ย”  เสียงคุ้นๆพูดเสร็จก่อนจะเอาแขนมารัดคอผมดึงไปชิดตัวมัน


   ไอ้บ้าคริส!


   “เห้ย! มาได้ไงวะ  มึงมาทันได้ไงอ่ะ” 0o0


   “กูกลัวมึงจะหลบหน้ากู เลยโดดเรียนมาดักรอมึงเนี้ย  มึงแม่งก็ออกมาช้าชิบหาย”  ไอ้คริสบ่นพลางทำหน้างอน?


   “ช้าไรวะ กูรีบพุ่งออกมาทันทีหลังจากเสียงออดดังเลยเนี้ยยยย”  ผมว่าผมไวแล้วนะ  แต่ไม่คิดว่าไอ้คริสจะลงทุนโดดโรงเรียนมารอดักผมแบบนี้อะ


   “โห นี้มึงอยากเจอกูมากถึงขนาดรีบวิ่งออกมาเลยหรอ ดีใจวะ ทำตัวน่ารักแบบนี้กูรักตายเลย” ^o^


   “-_-  เอาที่มึงสบายใจเลย ไอ้บ้า”


   “ฮ่าๆๆๆๆๆ  ยอมรับสินะ  ไปๆ เดี้ยวเสี่ยคริสจะเลี้ยงขนมหนูเปี๊ยกนะอีหนู อยากกินอะไรบอกมาเลย แต่อย่าเกิน 20 บาทนะมึง เปลือง”   มันพูดไปพลางลากคอผมเดินไปด้วย


   ถุย!  แล้วพูดเริ่มต้นซะดิบดี -_-


   “มึงเก็บ 20 บาท ของมึงไว้เหอะ ยังไม่พอซื้อน้ำปั่นแก้วเดียวด้วยซ้ำ”


   “เออ ตามใจมึง งั้นกูจะเอาไปหยอดน้องเคโระแล้วกัน”


   “ใครวะ น้องเคโระ?”


   “เคโรโระไงมั้ง กบเขียวอ่ะ มันเป็นกระปุกออมสินเว้ย นี้นะที่บ้านกูมีครบทุกตัวเลยนะเว้ย เคโรโระ ทามามะ บลาๆๆๆ”   แล้วผมก็ปล่อยให้ไอ้คริสพล่ามเรื่องเหล่าตุ๊กตาน้อยน่ารักของมันไป  จะบอกให้มันหยุดพูดก็สงสารเพราะหน้าตาตอนมันเล่าเกี่ยวกับคอลเลคชั่นตุ๊กตาดูมีความสุขมากกกกก  เอาที่มึงสบายใจเลย
   .

   .

   .


   “มึง  ถึงบ้านกูแล้วอะ กลับไปได้แล้ว”  ผมบอกทันทีที่เดินถึงหน้าบ้านผม


   “อ้าวหรอ ถึงเร็วจังว่ะกำลังคุยกับมึงเพลินๆเลยอ่ะ”  ไอ้คริสทำหน้าเซง


   “จ่ะ เพลินคุยกันเพลินมากกกกกก”  ได้ข่าวว่ามันคุยของมันคนเดียวตลอดทางนะ


   “ใช่ไหมละ  กูก็ว่ามันเพลินจริงๆอะ”  กูพูดประชดเฟ้ย  ไอ้บ้านี้ มึนจริง


   “เออ  กลับไปได้แล้วโว้ย ไป๊ ชิวๆๆๆ”  ผมยกแขนมันออก แล้วทำท่าไล่หมา


   “จิ๊  รีบไล่กูจัง  กูยังคุยกับมึงไปแป๊บเดียวเองนะ”


“เรื่องของมึงโว้ย กูจะเข้าบ้านแล้ว”


“มึงมันใจร้าย ใจดำ  กูอุตส่าห์โดดเรียนวิชาอาจารย์อลิซาเบท อาจารย์ที่โหดที่สุดของโรงเรียนเพื่อมาเจอมึง  อุตส่าห์ปีนรั้วโรงเรียนที่สูงหลายเมตร  อุตส่าห์จ้างพวกเด็กม.2 คนละตั้ง 5 บาท เพื่อให้ช่วยยกขาดันตูดให้กูพ้นจากรั้วโรงเรียน  อุตส่าห์ไปตากแดดรอรถเมล์ฟรีเพื่อจะเอาตังค์ค่ารถเมล์มาเลี้ยงขนมมึง อุตส่าห์..”


“โอเค พอ หยุดพูดได้แล้ว กูซึ้งใจในความพยายามของมึงมาก  ไปนั่งกินบิงซูในร้านข้างๆก่อนก็ได้ว่ะ กูเลี้ยงเอง” พูดเสร็จผมก็จับมือมันลากเข้าร้านบิงซูที่เปิดใกล้ๆบ้านผม  ก่อนจะอายสายตาประชาชนมากไปกว่านี้ 

ทำไมป๊าต้องมาซื้อตึกที่ติดถนนใหญ่ด้วยว่ะ  ไฟแดงทีแม่งมองกันเป็นแถว  ไอ้คริสก็ตัดพ้ออย่างไม่อาย แต่ผมนี้อ๊ายอาย เหมือนผมไปซั่มมันแล้วทิ้งแล้วมันก็มายืนพูดตัดพอผมว่าไม่รับผิดชอบได้แล้วทิ้งอะไรประมาณนั้น


“^_^  ใจดีจัง เลี้ยงกูด้วย”


“เออ!”



“รับอะไรดีคะ” พนักงานเข้ามายื่นเมนูขนมให้ทันทีที่พวกผมนั่งลง  โดยผมเลือกนั่งมุมในสุด  เพราะกลัวพวกเพื่อนในห้องจะเห็นนะครับ  ขี้เกียจตอบคำถาม


“มึงอยากกินไร  เลือกเอา  แต่กูไม่กินแคนตาลูปนะ ที่เหลือได้หมด”  ผมส่งเมนูให้มัน ผมกินง่ายอยู่ง่ายครับแต่กับอะไรที่ไม่ชอบก็จะไม่กิน


“มึงชอบกินชอคโกแลตไหม?”


“อืมก็กินได้นะ สั่งดิ”  ผมตอบ


“โอเค   งั้นเอาบิงซูสตรอเบอร์รี่ครับ อันนี้อะ”  ไอ้คริสพูดแล้วชี้ไปที่รูป   แล้วมึงจะถามว่ากูชอบกินชอคโกแลตทำเพื่อ?????


“คุณลูกค้ารอสักครู่นะคะ”  พนักงานรับเมนูแล้วก็เดินจากไป


ผมก็หลับตาเอนหลังพิงไปกับโซฟาตัวนิ่มอย่างอ่อนล้า   อยู่กับมันไม่ถึงชั่วโมง ทำผมสูญเสียพลังงานชิบหาย”


“เออ กูมีของมาให้มึงด้วยนะเว้ย”


“.....”   ช่วยเงียบสัก 5 นาทีได้ไหมว่ะ


“เห้ย มึงลืมตาดิ ตื่นๆๆ มาดูก่อน”   ไอ้คริสเรียกแล้วเขย่ามือผมแรง


“อะไรวะ?”  ผมลืมตามองมันอย่างหงุดหงิด  จริงๆตอนนี้ควรจะเป็นเวลานอนตอนเย็นของผมแล้ว ง่วงชิบ


“เคสโทรศัพท์คู่  กูเห็นมึงใช้รุ่นเดียวกับกูเลยซื้อมา  เอาโทรศัพท์มึงมาเลยเดี้ยวกูเปลี่ยนให้”


“อะไรรรรร ไม่เอาไม่ต้อง กูไม่ใช้เว้ย”


“ไม่ได้ คนเป็นแฟนกันก็ต้องใช้ของคู่กันสิว่ะ  กูเห็นเพื่อนๆกูก็ทำแบบนี้ทั้งนั้นอ่ะ”


“แล้วแฟนเพื่อนมึงเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง”


“ผู้หญิง”


“นั่นไง  แต่กูนี้ผู้ชายเว้ย  ไม่ใช้ของคู่กันเด็ดขาดอ่ะ!”


“ต้องใช้ เพราะถ้ามึงไม่ใช้กูจะไปแจ้งความว่ามึงขโมยหนังสือกู  ไอ้คนไม่มีความรับผิดชอบ!”  มึงพูดแล้วมองหน้าผมนิ่ง ผมก็จ้องมันกลับไปอย่างไม่ยอม   กลายเป็นเหมือนตอนนี้เราเล่นเกมแข่งกันใครกระพริบตาก่อนคนนั้นแพ้


“แก คู่นี้น่ารักอะ จ้องตากันหวานเชียว” 


“ใช่ๆๆ แอร๊ย ฟินอะแก” ห่ะ เสียงผู้หญิงที่ไหนซุบซิบกัน อยากหันไปมองมากเลย ถ้าไม่ติดว่ากลัวแพ้มัน


“แกว่าใครเคะ ใครเมะ”


“ฉันว่ากางเกงน้ำเงินเมะนะ  ส่วนกางเกงดำก็เคะว่ะแก”


“เออคิดเหมือนฉันเลยอะ  กางเกงน้ำเงินหล่อมากกกก”


“กางเกงดำก็น่ารักนะเว้ย แอร๊ย”


ผมพยายามจะคิดว่าพวกผู้หญิงกลุ่มนั้นไม่ได้พูดถึงผมหรอก  แต่ทำไมไอ้คนตรงหน้าต้องยกยิ้มมุมปากด้วยว่ะ!


“มึงแพ้ มึงกระพริบตาแล้ว”


“ห๊ะ?”  ผมงงตกลงกันตอนไหนว่ะว่าแข่งกัน -_-?


“เอาโทรศัพท์มึงมาเร็วๆเลย”


“อะไรว่ะ แม่ง”  ผมบ่น ไอ้คริสไม่พูดอะไร แต่แบมือรอเอาโทรศัพท์ผม  ผมก็ยื่นโทรศัพท์ให้มันไปอย่างรำคาญ  ไอ้คริสรับไปแล้วรีบใส่เคสยิ้มอย่างพอใจ   


“เป็นไงมึงน่ารักเนอะ”  ไอ้คริสชูโทรศัพท์ของผมและของผมคู่กันมันเป็นลายกราฟฟิกครับ ถ้าเอามาวางติดกันจะเป็นรูปต้นไม้อาร์ตๆ ผมละสงสัยจริงๆว่ามันไปหามาจากไหน  แต่ก็เท่ดี  ผมจะคิดซะว่ามันไม่ใช่เคสคู่ก็แล้วกัน


รอไม่นานพนักงานก็เอาบิงซูมาเสิร์ฟครับ  ทั้งผมและมันก็พากันจ้วงตักกินอย่างหิวโหย  อร่อยดีครับ อากาศร้อนแบบนี้ได้กินอะไรเย็นๆก็ชื่นใจ  สตรอเบอร์รี่ก็หวานๆเปรี้ยวๆกำลังดีสดชื่นครับ


“อ้าวไอ้ปิ๊น  มากินบิงซูกับใครว่ะ?”


พรวดดด!


“แค่กๆๆๆ”  สำลักกบิงซูจนน้ำหูน้ำตาไหลเลยครับ  ใครมาว่ะ คนในห้องหรอ


“ใจเย็นๆเว้ย”  หันไปมองก็เป็นไอ้ตงครับ มันลูบหลังผมเบาๆ จนดีขึ้นก็ส่งน้ำให้ดื่ม


แม่ง ตกใจหมดนึกว่าคนในห้อง  เฮ้อ รับน้ำมาดื่มไปไอ้ตงก็ลูบหลังผมไป  แต่ทำไมจู่ผมถึงขนลุกซู่ก็ไม่รู้ครับ  หันไปมองคนข้างหน้าก็พบกับสายตาที่เหมือนมีไฟฟ้าไหลผ่านอย่างรวดเร็วจนได้ยินเสียง เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ   


“พอแล้วๆไอ้ตง  มึงไปนั่งข้างๆกูไป”  ก็ไม่รู้ว่าผมจะร้อนตัวอะไร  แต่สัญชาตญาณมันบอกว่า ถ้ายังไม่แยกที่แม่งหมี่เหลืองแน่นอน!


“แล้วตกลงนี้ใครว่ะ  แฟนมึงหรอ?”


พรวดดด   สำลักอีกรอบครับ  โอยยยยยแสบคอแสบจมูกไปหมดแล้ว


“หึหึหึ”   ไอ้คริสยิ้มแล้วครับ  ดูเหมือนมันจะพึงพอใจมาก


“ก็คนที่กูเล่าให้มึงฟังอะ”  ผมตอบไอ้ตงมัน


“อ๋อออออออ กูจำได้แล้ว  โห ตัวจริงหล่อกว่าในเฟสบุคอีกนะ บุญของมึงแล้วไอ้ลูกหมาได้แฟนเป็นเทพบุตรเนี้ย ดีใจด้วยๆๆ” ไอ้ตงทำท่าตื่นแล้วจับมือผมเขย่าอย่างกวนตรีนมากมาย


“ซาตานสิไม่ว่า มึงไม่ต้องมาแกล้งล้อกูเลย”  ผมสะบัดมือออกจากไอ้ตง


“ฮ่าๆๆๆๆ ฝากดูแลเพื่อนกูหน่อยนะ ไอ้ลูกหมามันขี้งอนไปหน่อยแต่มันก็โง่ด้วยนะเว้ย”  ไอ้ตงหันไปบอกสรรพคุณผมให้ไอ้คริสฟัง


“ได้ดิ จะดูแลให้อย่างดีเลย”  ไอ้คริสพลางทำหน้ากระหยิ้มกระย่องใส่ผม


“เออ  เจอมึงก็ดีเลย วันอาทิตย์อย่าลืมนะเว้ย  ออกสัก 9 โมงเช้า นั่งรถตู้ไปถึงดรีมเวิลด์น่าจะ 10 โมงเช้าพอดี  จะได้เล่นทั้งวันให้คุ้มค่าตั๋ว  อย่าเลทๆ”  ไอ้ตงที่ตอนนี้เนียนหยิบช้อนผมไปตักบังซูกินอย่างเอร็ดอร่อย พูดนัดวันเวลาที่จะไปเที่ยวกัน


“เออๆ กูไม่เลทหรอกน่า” ผม


“จะไปเที่ยวทำไมไม่เห็นบอกกูมั้งเลย”  ไอ้คริสพูด


“ก็จะไปเที่ยวกับเพื่อนเว้ย  คนนอกไม่เกี่ยว”   ผมเน้นคำว่าคนนอกตอกย้ำสถานะมัน


“กูเป็นแฟนมึง  กูจะไปด้วย”


“ไม่ให้ไป”


“จะไป”


“ไม่ให้ไป”


“จะไป”


“ไม่..”


“ตงถ้าให้กูไปด้วย กูจะขับรถพาไปส่งถึงที่แล้วพากลับถึงบ้าน” ไอ้คริสหันขวับไปพูดกับไอ้ตง


“งั้นไปด้วยกันเลยเพื่อนนนน ห่าปิ๊นอย่าทำใจแคบดิว่ะ  ไปเที่ยวด้วยกันพัฒนาความสัมพันธ์ไงมึง ไอ้คริสอุตส่าห์จะขับรถพาไปเลยนะเว้ย มีแต่ได้กับได้”


“ไอ้ตง ไอ้กิ้งก่าเปลี่ยนสี!”


“ฮ่าๆๆ งั้นตามนี้นะ  แต่ค่าตั๋วเข้ามึงซื้อเองนะเว้ยกูมีตั๋วฟรีแค่ 2 ใบ ไปละ บาย”  ไอ้ตงพูดเสร็จชิ่งออกจากร้านทันที  ไอ้เพื่อนชั่วขายเพื่อนไม่พอ  แดกบิงซูกูหมดเกลี้ยง!



“วันอาทิตย์นี้กูต้องสนุกมากแน่ๆเลยวะ”  ^_^


--------------------
จะสนุกหรือจะวุ่นวายกันแน่
 :laugh: :laugh: :laugh:

ขอบคุณทุกคอมเมนต์จ้า :กอด1:  :hao5:

อัพผ่านโทรศัพท์อาจแปลกๆไปหน่อย
พยายามจัดหน้าแล้วจริงๆ


ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0

   ตอนที่ 7  บ้านผีสิง

ณ  สวนสนุก


แล้ววันอาทิตย์ที่สุดเซงก็มาถึง  เมื่อเช้าไอ้คริสขับรถมารับผมตรงเวลาเป๊ะ  ไอ้ตงนี้ลั้นลามากพอเห็นไอ้คริสขับซีวิครุ่นใหม่มาจอดรับ  แทบกระโดดพุ่งเข้าทางหน้าต่างรถเลยทีเดียว


ตอนแรกผมจะนั่งเบาะหลังกับไอ้ตงแต่ไอ้คริสดันกวนตรีนไม่ยอมออกรถ ผมต้องไปนั่งข้างกับมันเท่านั้น  เรื่องมากฉิบหาย


แถมไอ้ตงยังไล่ผมให้ไปนั่งข้างหน้าเร็วๆ  ผมละสับสนตกลงไอ้ตงนี้เพื่อนใครกันแน่ .\/. จากนั้นก็พากันขับหาทางมาถึงสวนสนุกนี้แหละครับ  แต่กว่าจะมาถึงได้ผมนี้อยากจะบ้าตาย!


ย้อนไป  2 ชั่วโมงก่อนหน้า


หลังจากที่ออกรถปุ๊บ  ไอ้คริสก็ขับไปเรื่อยๆ.....


“เห้ย  ไอ้คริสทำไมมึงไม่เลี้ยวยูเทิร์นกลับรถสักทีวะ ผ่านมา 2 ยูเทิร์นแล้วนะเว้ย” ไอ้ตงเอ่ยทัก ผมเลยเงยหน้าจากโทรศัพท์หันไปมองตาม


“อ้าว ต้องยูเทิร์นด้วยหรอวะ"


“เอ้า ไอ้นี้ทางนี้มันใช่ทางไปซะเมื่อไรเล่า  ต้องยูเทิร์นกลับแล้วขับออกไปนอกกรุงเทพนู่นน” 


“นี้มึงขับไปถูกหรือเปล่าเนี้ยไอ้คริส”  ผมถาม


“อ่อ..เออถูกดิวะ แหมกูขับเพลินไปหน่อย  เดี้ยวยูเทิร์นข้างหน้านี้แหละ”  ไอ้คริสตอบ ก่อนจะตบไฟเลี้ยวเตรียมยูเทิร์น

.

.

“เห้ย  ทำไมมึงไม่ขึ้นทางด่วนว่ะจะได้ไวๆ”


“อ้าวหรอ ไม่รู้อะ แหะๆ” 


“โอยยย กูจะถึงชาติไหนวะเนี้ย รถก็ติดแม่ง”  ผมบ่น


“เอาน่า ใจเย็นดิมึง ดีซะอีกมึงกับกูจะได้ใกล้ชิดกันนานๆไง ฮ่าๆๆ”   


“ฮิ้วววววววว”    ดูความกวนตรีนของพวกมันสิครับ  อยากจะเอามือโบกให้หายเซงเหลือเกิน  รู้งี้ไม่น่าเห็นแก่บัตรฟรียอมมากับพวกมันเลย


“หุบปาก!”   


“อุ๊บ”  -x-  -x-

.

.
“เห้ยยยย ไอ้คริสทำไมมึงไม่ขึ้นวงเวียนกลับรถเล่า  จะขับเลยทำไม!”  ไอ้ตงตะโกน


“อ้าวหรอ  ก..กูลืม”


“ไอ้คริส มึงเคยขับไปดรีมเวิลด์ไหมเนี้ย”  ผมถามเพราะรู้ว่ามันทะแม่งๆ


“......ครั้งนี้  ครั้งแรก”  มันพูดเสียงเบา 


“กูว่าแล้วววว ไอ้บ้านี้ ไม่เคยขับมาก็ไม่บอกจะได้เปิดจีพีเอส”  ผมว่ามันแทบจะเอามือบีบคอ


“ก็กูไม่กล้าบอกนี้หว่า  เดี้ยวไม่เท่”  ดูเหตุผลมันสิครับ  น่าถีบให้ร่วงจริงๆ


“เออโคตรไม่เท่เลย ไอ้บ้า”


“มึงกลับรถเร็วๆเลย  แล้วขับตามทางที่กูบอก”  คราวนี้ไอ้ตงเป็นคนพูดครับ  แล้วก็คอยบอกทางมาตลอด  ผมนี้ลุ้นเหลือเกินว่าวันนี้จะขับถึงไหม เหอๆ


สรุปกว่าจะถึงก็ปาไป 11 โมงเช้าครับ  -_-




“เริ่มเล่นอะไรก่อนดีว่ะ ไวกิ้งไหม”


“เออๆ  เอาดิไปๆๆ”  ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับไอ้ตง  ผมเป็นคนชอบเล่นเครื่องเล่นมากครับ  มันตื่นเต้นดี


แล้วจากนั้นเราก็พากันเล่นมันทุกอย่างเลยครับ  สนุกมากๆ  ลืมเรื่องก่อนหน้านี้ไปแทบหมด
หัวเราะเสียงดังสะใจทุกครั้งที่เห็นไอ้ตงกับไอ้คริสร้องโหยหวนเวลาเล่นเครื่องที่มันโหดๆ
 ตลกหน้าพวกมันโคตรๆ  ทำหน้าอย่างฮา


“อ๊ากกกกกกกกก  เอากูลงไปเดี้ยวนี้  กูจะอ้วกแล้ววว”


“อ๊ากกกกกกก  หยุดตีลังกาสักที!!!”


“ฮ่าๆๆๆๆ”   


แต่ถึงอย่างนั้นผมก็หาได้เห็นใจพวกมันไม่   พาเล่นหลายเครื่องต่อจนเริ่มหมดแรง  เราก็หาอะไรง่ายๆทานกัน  ผมเลี้ยงพวกมันอีกแล้วครับ  สงสารหน้าซีดเป็นไก่ต้มกันทั้งคู่


“ไอ้ลูกหมาแม่งแบ๊วแต่หน้า เล็กแต่ตัวว่ะ กูไม่เห็นมึงจะกรี้ดกลัวอะไรสักอย่าง นับถือๆ”  ไอ้ตงพูดขึ้น พร้อมกับกินข้าวอย่างหิวโหย


“แน่นอน นี้ปิ่นปิ๊นนะเว้ย ไม่เคยกลัวอะไรในโลกใบนี้เว้ย!”  ผมยืดอกพูดอย่างภูมิใจ


“ยกเว้น ผี!”  ไอ้ตงขัด


“เออ สงวนไว้เรื่องเดียวเว้ย”  ยอมรับอย่างเสียไม่ได้


“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”  แล้วพวกมันสองคนก็พากันรุมหัวเราะผมซะงั้น


“ตง ใช่ป่ะ”  แล้วเสียงเล็กๆก็เอ่ยทักขึ้นด้านหลัง  หันไปมองก็พบกับสาวน้อยน่ารัก ผิวขาววิ๊งค์มากครับ


“อ้าว บลิงค์มาเที่ยวหรอ”  ไอ้ตงตอบไป สงสัยคงเป็นเพื่อนกัน


“อืม  เรามาถ่ายรูปเล่นคนเดียว  จริงๆนัดเพื่อนไว้แต่นางดันเบี้ยวนัดอะ”  โถ น่าสงสารให้ปิ่นปิ๊นเดินเป็นเพื่อนไหมคร้าบ ^_^


“อ้าวหรอ  เฮ้ย แต่เราว่างนะเดี๋ยวไปเดินถ่ายรูปให้เอาไหม”


หือ  ใครพูดตัดหน้ากูว่ะ กำลังจะอ้าปากพูดอยู่เลยเชียว!


“จริงหรอตง  ดีใจจัง  แล้วเพื่อนตงไม่ว่าอะไรหรอ”  โถ แม่นางฟ้ายังจะห่วงผมอีก ขนาดเพิ่งเห็นหน้ากันแท้ๆ


“เออ ลืมแนะนำเลยนี้เพื่อนเรา ไอ้หล่อๆนี้ไอ้คริส ไอ้เตี้ยนั่นไอ้ปิ๊น  มัน 2 คนไม่ว่าอะไรหรอก  ดีใจสิไม่ว่าไม่มี กอ ขอ คอ ใช่ไหมไอ้คริส”  พูดเสร็จหันไปยักคิ้วให้ไอ้บ้าคริสอย่างรู้ความหมาย


“รู้ใจมากเพื่อน”  แล้วพวกมันสองคนก็ชนกำปั้นกันแบบเท่ซะเต็มประดา 


ถุยยย  สรุปมึงเพื่อนไอ้คริสใช่ไหมไอ้ตงฉิน!


“เฮ้ย มึงชวนกูมา มึงจะทิ้งกูไปง่ายๆอย่างงี้หรอว่ะ”  ผมซึ่งไม่อยากอยู่กับไอ้คริสสองคนก็ประท้วงไอ้ตง


“เอ่อ  งั้นเราไปเดินคนเดียวก็ได้นะ ไม่เป็นไร” บลิงค์พูดขึ้น 

“เฮ้ยๆ เราไม่ได้หมายความว่ายังงั้น บลิงค์อย่าเข้าใจผิด  แบบอยากชวนมิ้นมาเดินกับพวกเราไง จะได้ไม่ต้องแยกกัน”  เห็นคนสวยหน้าเสียแล้วใจผมมันสั่นครับ อ่อนยวบยาบเลย


“แป๊บนะบลิงค์” ไอ้ตงหันไปยิ้มบอกบลิงค์แล้วเดินเข้ามากระซิบที่หูผม


“มึง  กูอยากอยู่กับบลิงค์แค่ 2 คนอ่ะ  กูแอบชอบเขา ขอเถอะนะปิ๊น”  แล้วมันก็ทำหน้าอ้อนวอน ตาปริบๆ ซึ่งแม่งน่าขนลุกสุดๆ


"แล้วมึงจะทิ้งกูไว้กับไอ้คริสสองคนเนี่ยนะ"


"ไอ้คริสมันไม่ทำอะไรมึงหรอกน่า นะๆๆมึง กูได้แต่เจอเขาแค่เรียนพิเศษตอนเย็นเอง นี้มันเป็นโอกาสของกูแล้วนะเว้ยที่จะทำคะแนนอ่ะมึง"


“เออๆ มึงก็ไปเป็นเพื่อนบลิ๊งแล้วกัน”  สุดท้ายก็ใจอ่อนจนได้


“โอเค  จะกลับก็โทรบอกนะเว้ย”    แล้วมันก็เดินไปกับบลิงค์ทิ้งผมไว้กับไอ้บ้าคริสแค่สองคน


“เราจะไปไหนกันต่อดี”  ไอ้คริสถามขึ้นหน้าตาลั้นลามาก  ไอ้คนหน้าซีดเป็นไก้ต้มเมื่อตะกี้มันหายไปไหนวะ


“แล้วมึงอยากไปไหนล่ะ ตามใจมึงละกัน” 


“กูอยากไปบ้านผีสิง”


“ห๊ะ!”


“อุ้ยยย ลืมไปเปี๊ยกกลัวผีนี้หว่า คงจะกลัวทั้งผีจริงแล้วก็ผีปลอมเลยใช่ไหมล่ะ”


“กูแยกแยะได้เถอะ  ไม่ได้กลัวหมดสักหน่อย!”  ใช่ครับ แค่ผีปลอมผมไม่กลัวหรอก โด่


“งั้นนั่งเฉยทำไม  ไปลุยกันเลย”


“ห๊ะ ไปตอนนี้เลยหรอ”  เหวอสิครับผมก็ไอ้คริสเล่นลากผมลุกขึ้นทันที  กูยังไม่ได้เตรียมใจเลยนะเว้ย  ฮืออออออ


“เออตอนนี้แหละ”



แล้วตอนนี้ผมกับมันก็มายืนต่อแถวรอคิวเข้าบ้านผีสิงกันครับ


“จะเปลี่ยนใจหรือเปล่าเปี๊ยก  หึหึหึ”


“ลูกผู้ชายอย่างกูไม่เปลี่ยนใจง่ายๆอยู่แล้ว” ผมกอดอกเชิดหน้าตอบด้วยความมั่นใจ....ซะที่ไหนละครับ มือสั่นหงึกๆๆๆคุมไม่อยู่ต้องเอามากอดอกไว้ อ๊ายอาย -///-


“โอเค  สนุกแน่มึงกูรับรอง”   กูควรจะเชื่อมึงดีไหมว่ะ


“เชิญเข้าได้ครับ”  เสียงพนักงานเปิดช่องให้เดินเข้าบ้านผีสิง 

คนก็ถยอยเดินเข้ากันครับพอผมเดินเข้าไปประตูด้านหลังก็ปิดเพราะผมเป็นคนสุดท้ายจากจำนวนจำกัดของแต่กลุ่มที่เข้าไป 


เหี้ยแม่ง!  ทำไมกูต้องรั้งท้ายสุดว่ะไม่ชอบเลยอ่ะ 


  แล้วข้างในแม่งก็มืดชิป มืดมาก


“กรี้ดดดดดดด”


“ว๊ากกกกกกก”


“อ๊ากกกกกกก”


 เสียงกรี้ดคนข้างหน้าๆเริ่มส่งเสียงดัง  แม่งเขาเห็นอะไรกันวะ


“กลัวหรอมึง”  เสียงไอ้คริสถาม


“ใครกลัว  ไม่มี๊”  ปิ่นปิ๊นคนแมนซะอย่าง  แยกแยะผีจริงผีปลอมได้น่า


“หร๊า  มือมึงดึงเสื้อกูแน่นจนกูเดินไม่ได้แล้วเนี้ย”   ไอ้คริสเอามือมาจับมือผมที่ไปเกาะเสื้อมันแน่นตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ 


เฮ้ย ผมไม่รู้ตัวจริงๆนะ


“กลัวหลงไงมึงมันมืดๆ”


“จ้าาาา”


“พูดมาก รีบเดินเลยมึงเดี๋ยวตามคนอื่นไม่ทัน”  ผมบอกแล้วเอามือดันหลังมัน


และก็ไม่ปล่อยมือจากเสื้อมันเด็ดขาด! 



ก็กลัวหลงอ่ะ...



และเมื่อเดินไปสักนิด สัญชาตญาณก็บอกว่าข้างหน้าแม่งมีสิ่งน่ากลัวแน่ๆ


“กรี้ดดดดดด ผีข้างๆกำแพง”  เสียงข้างหน้าตะโกนออกมา  ผมนี้รีบย้ายตำแหน่งให้ออกห่างจากกำแพงทันที  แถมก้มหัวด้วย   ก้มไปก็เห็นลูกศรชี้ทางเดินเรืองแสงครับ  ผมก็คิดได้ทันทีว่า....


กูจะมองแต่ไอ้ลูกศรเรืองแสงนี้เท่านั้น  เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่พาผมไปเจอทางออก ฮือออ เก๊าอยากออกจากที่นี้แล้วอะ T^T


“กลัวไหมมึง”


“ไม่กลัว!” 


“ไม่กลัวแล้วจะก้มหน้าทำไมวะ”


“กูพอใจ หยุดพูดแล้วรีบเดินเดี้ยวนี้เลยนะเว้ยยยยยย”


“ฮ่าๆๆๆ เฮ้ย! ผีๆๆๆห้อยจากเพดานจะจับหัวมึงแล้วไอ้ปิ๊น!”


“อร๊ากกกกกกกกกกกก เชี่ยคริสรีบเดินนนนน”  ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็หลับตาปี้ ย่อขาให้เตี้ยที่สุดหวังว่ามันคงจับไม่ถึงนะ


 แงงงงง แมร่งกูอยากร้องไห้


“ฮ่าๆๆๆ ตลกว่ะ นี้มึงจะนั่งติดพื้นทำไม”


“กูไม่ได้นั่งกูแค่ย่อขา!”


“โอ้ยยยย กูฮาท่าย่อมึง5555”


“เดินๆๆๆๆ”  ผมเร่งมัน โคตรอยากออกจากที่นี้ไวๆ   เสียงร้องกรี้ดโวยวายทางด้านหน้าก็ดังไม่หยุดหย่อน ไซโครผมชิบหาย  กูกลัวจนขี้จะขึ้นสมองแล้วเนี้ย


“หมับ!”


“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”


“เฮ้ย ปิ๊นแหกปากทำไมวะ”


“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  ใครจับขากูไว้ไม่รู้  ฮืออออออออออ”


เดินอยู่ดีๆก็มีมือปริศนามาจับขาผมไว้ข้างหนึ่ง  เชี่ยแม่งจับแน่นไม่ยอมปล่อยด้วย ฮือออออออ พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยลูกด้วย


“ผีห้องขังจับขามึงไว้  หันไปดูดิๆ”  เสียงไอ้คริสพูด


“ไม่ กูไม่ดู ฮืออออ ปล่อยขากูเดี้ยวนี้นะเว้ยยย”  ผมแหกปากลั่นหลับตาปี้ยิ่งกว่าเก่า  พยายามจะดึงขาให้หลุดจากมือนั้นให้ได้


“กู...ม่ายยยย..ปล่อยยยย”  เสียงไอ้ผีจำแลงพูดขึ้น แม่งทำเสียงซะหลอน


“ว๊ากกกกกกกกก  ปล่อยๆๆๆ ไอ้คริสช่วยกูด้วยยยย”   ผมดึงเสื้อไอ้คริสแน่น กลัวจริงๆนะโว้ย


“ไหนมึงบอกว่าแยกแยะผีจริงผีปลอมได้ไง  นี้ผีปลอมมึงจะกลัวอะไรรรรร  ฮ่าๆๆๆๆ”  เชี่ยคริสแม่งเสียงโคตรมีความสุข   เกลียดมัน!


“เลิก!!!”


“ห๊ะ มึงพูดว่าอะไรนะ”


“ถ้ามึงไม่พากูออกไปภายใน 10 วินาที กูเลิกคุยกับมึงแน่!!”


“เห้ย พี่ผีผมขอโทษนะครับ”    มึงจะไปขอโทษผีทำไม  ขอโทษกูสิว่ะ


ป๊าบ ๆ ๆ ๆ


“อ๊ากกกกกกกก แขนกูไอ้เด็กเวร”


"ผมขอโทษ แต่ผมกลัวแฟนผมโกรธมากกว่า" ได้ยินเสียงกระทืบอะไรสักอย่างก่อนจะมีเสียงร้องตามมา  แล้วไอ้คริสก็ลากผมอย่างไวมากกกกก  ออกมาจากบ้านผีสิงในที่สุด


“แฮ่กๆๆ  ยังไม่เกิน 10 วินาทีนะเว้ย กูนับเวลาในใจอยู่แค่ 8 วินาทีเอง”  ไอ้คริสรีบบอกทั้งที่ยังเหนื่อยหอบอยู่  ผมมองหน้ามันนิ่งๆก่อนจะเดินหนีแม่ง  โกรธครับโกรธมากๆผมกลัวแทบตาย  มันดันหัวเราะ


“โกรธหรอ  เฮ้ย อย่าเดินหนีดิ มีอะไรก็คุยกันก่อนดิวะ”


“...”  ผมยังทำหูทวนลมแล้วเดินหนีมันต่อไป


“ขอโทษ”


“...”  ไม่สนใจหรอกครับ  ไม่รับคำขอโทษด้วย


“อย่าเป็นอย่างงี้ดิ เราขอโทษ  ขอโทษจริงๆ”  ไอ้คริสวิ่งยืนดักหน้าผม พูดขอโทษเสียงอ่อย


“กูกลัวจะตายห่า  มึงดันยืนหัวเราะ มันใช่ป่ะวะ!”


“แต่ตอนมึงหัวเราะที่กูกลัวเครื่องเล่น  กูไม่เคยคิดจะโกรธมึงเลยนะปิ๊น” 


“...” 


สตั๊นไปเลยครับ   มันเป็นความจริงที่ผมลืมนึกถึง  ว่าตอนนั้นมันเองก็อาจรู้สึกแย่ 

ทั้งที่กลัวเครื่องเล่นโหดๆแต่ก็ยังตามมาเล่นเป็นเพื่อนผม  แถมยังโดนผมหัวเราะใส่ตั้งหลายครั้ง


แม่ง  เหมือนคดีจะพลิก กลายเป็นผมผิดซะงั้น _*_
.
.
.

“งั้นก็ถือว่าหายกัน”  ยอมก็ได้ครับ


“งั้นไปเดินเล่นกันต่อนะ  คราวนี้อยากเล่นอะไร”


“ไม่เล่นแล้วเหนื่อย หิวด้วย”


“เดี๋ยวไปซื้อไอศครีมให้  นั่งรอแถวนี้ก่อน อย่าหนีไปไหนนะเว้ย”  ไอ้คริสชี้ให้ไปนั่งม้านั่งใกล้แล้ววิ่งไปซื้อไอศครีม  ผมก็เลยไปนั่งรอ  ยังรู้สึกทั้งโกรธ ทั้งเหนื่อย ทั้งร้อน แล้วก็ทั้งรู้สึกผิดด้วยที่ไปว่าไอ้คริสโดยไม่มองดูการกระทำของตัวผมเองเลยว่าก็ไม่ต่างกัน


“อ่ะ รสชอคโกแลตที่มึงชอบ”  ไอ้คริสยื่นไอศครีมโคนรสชอคโกแลตให้ผม ส่วนของมันก็รสสตรอเบอร์รี่ครับ  ผมรับมานั่งกินไปเรื่อยๆ  ไม่มีใครพูดอะไร จนกินหมด


“ต่อไป  กูจะจำไว้ว่ามึงกลัวผีมาก แล้วกูจะไม่แกล้งมึงแบบนั้นอีก กูสัญญา”


ผมหันไปมองไอ้คริสที่จู่ๆก็พูดขึ้น  ไม่รู้ทำไมได้ยินอย่างนั้นผมรู้สึกดี  รู้สึกดีกว่าตอนที่มันบอกขอโทษอีก


“อืม  ต่อไปกูก็จะไม่ชวนมึงเล่นเครื่องเล่นโหดๆแล้วเหมือนกัน”


“แต่กูยังอยากเล่นเครื่องเล่นกับมึงอยู่นะเว้ย”


“งั้น...กูจะไม่หัวเราะใส่เวลาหน้ามึงซีดเป็นไก่ต้มแล้วกัน  โอเคม่ะ”


“โอเค  หึหึหึ”


“หัวเราะไร”


“เปล๊า  แค่คิดว่ากูกับมึงอนาคตต้องเป็นแฟนที่เข้ากันได้ดีแน่ๆ  ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่”


“เป็นยังไงว่ะ”  กูจะได้ไม่ทำอีก  เพราะกูไม่อยากเข้ากับมึงงงงง


“ก็เรียนรู้ตัวตนของอีกฝ่าย ขอโทษถ้าทำผิด ปรับปรุงให้มันดีขึ้น....แล้วก็”


“ก็อะไร”  หยุดให้กูอยากเสือกรึไงวะ


“ก็..อยู่ด้วยแล้วมีความสุข”


“อ้วกกกกกกกกกก”  ผมทำท่ามองบนแล้วอ้วกใส่แม่ง น้ำเน่าจริงๆ


“ฮ่าๆๆๆๆๆ  กูชอบที่มึงเป็นแบบนี้แหละ” ^_^


“ขณะนี้ขบวนพาเหรดกำลังใกล้เข้ามาแล้วนะครับ  ขอเชิญผู้ที่สนใจมายืนรอรับชมขบวนพาเหรดของสวนสนุกเราได้แลยนะครับ”


“ขบวนพาเหรดมาแล้ว ไปเร็วปิ๊น  กูอยากดู”  แล้วเด็ก 7 ขวบในร่างสูงก็ลากผมไปดูขบวนพาเหรดทันที


“น่ารักว่ะ”  ไอ้คริสพูดพร้อมตาเป็นประกายขณะมองไปยังตัวมาสคอสตุ๊กตาต่างๆ  มีโบกไม้โบกมือตอบเขาอีก  โคตรเด็กน้อย ฮ่าๆๆ  น่ารักฉิบหาย


น่ารัก

น่ารัก

น่ารักกกกกก


ไอ้เชี่ยยยยยยยยย นี้ผมชมมันไปว่าน่ารักได้ยังไงว่ะ O0O  เป็นบ้าอะไรไอ้ปิ่นปิ๊นนนนน


“ปิ๊น ถ่ายรูปกันๆ ไว้เป็นที่ระลึก”  ขณะที่ผมยังตกใจกับความคิดของตัวเองอยู่ไอ้คริสก็จัดการหันกล้องโทรศัพท์เซลฟี่รูปคู่ผมกับมัน


   แชะ แชะ แชะ


   “น่าร้ากกกก”  เออดี ถ่ายเอง ชมเอง กูละทึ่งมันจริงๆ

   แล้วเราก็ดูพาเหรดจนหมดขบวนครับ  ผมเองก็ถ่ายรูปพาเหรดไปเหมือนกันแล้วก็...แอบถ่ายไอ้คริสไปนิดหน่อย  คือมันเหมือนเด็กน้อยที่มองดูเหล่าฮีโร่การ์ตูนตัวโปรดแล้วอยากจะเป็นแบบฮีโร่ตัวนั้นๆอะครับเห็นแล้วเอ็นดู ฮ่าๆๆๆ


   “กลับเลยนะมึง เดี๋ยวถึงบ้านมืด พี่กูรอกินข้าว”


   “โอเค  แล้วโทรตามไอ้ตงยัง”


   “เออ เกือบลืมมันไปล่ะ”


   ติ๊ง     


   เสียงไลน์ไอ้ตงเด้งขึ้นมาพอดี  ผมจึงกดเข้าไปอ่าน


   - กูกลับรถตู้เป็นเพื่อนบลิงค์แล้วนะจะไปดูหนังต่อด้วยกัน อิอิ –


   อิอิ พ่องงงง


   “เป็นไรหน้ายู่เชียวเปี๊ยก”


   “ไอ้ตงมันชิงกลับไปแล้ว แม่ง”


   ไอ้คริสไม่พูดอะไรแค่ยิ้มนิดๆแล้วพากันเดินกลับไปที่รถกัน


   สรุปวันอาทิตย์นี้ก็เป็นวันที่แสนวุ่นวายตั้งแต่เช้ายันเย็น  แต่มันก็ทำให้ผมได้เห็นหลายๆมุมของไอ้คริส

        ที่หล่อแต่หน้า ส่วนนิสัยแม่งโคตรกาก โคตรเด็กน้อย  แต่ก็น่ารักดี...มั้ง


   “ยิ้มไรวะ”


   “หือ  ใครยิ้ม เปล่าสักหน่อย”   หรือกูเผลอยิ้มวะ


   “คิดเรื่องกูอยู่อะดิ” 


   “ไม่ได้คิดสักหน่อยโว้ยยยย”


   “เริ่มชอบกูแล้วใช่ป่ะ”


   “ชอบพ่องงง  เลิกพูดแล้วขับรถไปเลย กูจะนอนแล้วเหนื่อยชิบหายอยู่กับมึงเนี้ย ถึงบ้านกูแล้วปลุกด้วย  อย่าหลงอีกล่ะ เปิดgpsไว้เลย”   พูดเสร็จผมก็หลับตานอนเอนหลังเต็มที่


   “รับทราบครับนางฟ้า”  ^_^



   “ก็บอกว่าไม่ใช่นางฟ้าโว้ยยยย”



                    -ค่อยๆเรียนรู้กันไป เพราะฉันก็ไม่ใช่ผู้วิเศษที่จะเสกให้เธอมารักฉันได้ในวันเดียว-




คริสเป็นคนกากๆแต่รักจริงนะคร้าบผม╮(╯3╰)╭


ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ก็น่ารักดีนะ

ออฟไลน์ Laliat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
 :เฮ้อ: คู่รั่วแห่งปี

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด