บนรถไฟฟ้า..ตอนเย็นวันนี้
หนุ่มน้อย ม.ต้น "อยู่บนรถ"
เสียงในโทรศัพท์ "........"
หนุ่มน้อย ม.ต้น "ก็ไปตัดผมมา"
เสียงในโทรศัพท์ "........"
หนุ่มน้อย ม.ต้น " เหม็น ไปอาบน้ำเลย"
เสียงในโทรศัพท์ "........"
หนุ่มน้อย ม.ต้น "ง่วงก็ไปอาบน้ำ แล้วนอนเลยนะ"
เสียงในโทรศัพท์ "........"
หนุ่มน้อย ม.ต้น "ไม่เอา เสียงไม่ดี อาย"
เสียงในโทรศัพท์ "........"
หนุ่มน้อย ม.ต้น "ร้องไม่เพราะ อาย อยู่บนรถ"
เสียงในโทรศัพท์ "........"
หนุ่มน้อย ม.ต้น "ไปอาบน้ำ นอนเลย ไอ่เหม็น"
เสียงในโทรศัพท์ "........"
หนุ่มน้อย ม.ต้น "อืมมม ฝันดี เช้าเจอกัน อย่าไป รร. สาย ไอ่เหม็น"
หุหุ มองชุดนักเรียน เอ๊า...อยู่ รร.ชายล้วน
ถ้าเป็นคนที่นั่งใกล้ ได้ยินหนุ่มน้อยคนนี้คุยโทรศัพท์ล่ะ
จะคิดว่ายังไง..วายมั้ย อาจารย์
me//ฟินเบย ฮ่าฮ่า
'ไอ่เหม็น'
เรียกกันน่ารักเหลือเกิน 55+ ถ้านั่งอยู่ใกล้ๆ คงหูผึ่ง และกัดปากกลั้นเสียงกรี๊ดเป็นแน่แท้ ขอบคุณที่เอามาแชร์นะคะ คุณโบรคแบ็ก
ความจริงแล้ว โมเม้นท์ระหว่างน้องเอกับน้องบีนี้ คงไม่ได้เห็นอีกแล้วล่ะค่ะ เพราะว่าอีกคนก็จะเรียนจบในอีกไม่เกินหนึ่งเดือน ถ้าเกิดว่าสิ่งที่เห็นระหว่างพวกเขามีความเป็นไปได้ก็คงจะไปสานต่อกันภายนอกเอง ซึ่งดิฉันแม้จะอยากรู้และติดตามใจแทบขาด แต่ก็คงได้เพียงฝันหวานเอาเอง
สิ่งที่ชอบมากๆ เกี่ยวกับน้องผู้ชายสองคนนี้คือ น้องเอเป็นคาราเต้สายดำและเป็นครูสอนคาราเต้ด้วย ส่วนน้องบีนั้นเมื่อกลับบ้านวันหยุดเสาร์อาทิตย์ (นักศึกษาที่นี่จะอยู่หอพักในวันจันทร์-พฤหัสฯ) ก็จะทำขนมมาขายที่โรงเรียน แหม...นี่ถ้าเป็นคู่รักกันจริงๆ ก็คงจะช่วยกันทำมาหากินน่าดู (คิดแล้วก็ฟินนะคะ)
คือคิดๆ ดูแล้ว ก็คงไม่มีอะไรในความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขามากไปกว่าความเอาใจใส่ของพี่กับน้อง แต่มันอาจจะแปลกไปหน่อยก็ตรงที่พี่ยอมน้องมากไปนิด ยอมจนออกแนวเอ็นดู ดิฉันก็เลยเหมือนโดยกระตุ้นต่อมจิ้น แล้วก็เลยตามติดชีวิตพวกเขาห่างๆ อีกอย่างก็ดีใจที่ได้มีโอกาสสอนฟุดฟิดฟอไฟให้พวกเขาด้วย ก็เลยได้ค่อยๆ ดูพัฒนาการของอนาคตของชาติไปในตัว พร้อมกับฟินอย่างไม่ให้เสียโอกาส
เมื่อวานดิฉันยังคุยกับสาววายนักเรียนเลยว่า
"เป็นยังไงบ้าง ตกลงน้องเอเขาเป็นมั้ย"
นางก็ตอบมาอย่างที่เคยตอบ "บ้าจริง หนูก็สงสัยค่ะ ความจริงพวกหนูก็เคยถามนะคะ มันก็ไม่ปฏิเสธอะไร พอหนูถามว่าตกลงมึงเป็นไหม มันก็ตอบสั้นๆ ว่า เออ พวกหนูก็เลิกถามไปเอง"
สาววายนางนี้หล่อนเป็นคนสวยทีเดียว และหล่อนมักมานั่งคุยด้วยบ่อยๆ ยามว่างจากการเรียน และมักจะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการช่วยการงานหรือกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นในรั้วโรงเรียน.
ยังมีอีกคู่หนึ่งที่น้องสาววายคนนี้ซึ่งขอเรียกว่าน้องกอเพื่อความสะดวก ได้เล่าให้ดิฉันฟัง
น้องกอบอกว่า
"อย่างปอกับซอไงคะอาจารย์ เขาดูเอาใจใส่กันมากนะคะ อย่างวันนึงหนูซื้อชอคโกแลตมา หนูก็แบ่งให้ไอ้ปอกิน นี่ก็กินไปครึ่งนึงแล้วก็ห่อเก็บไว้เหมือนเดิม พอหนูถาม ก็บอกว่า เก็บไว้ให้ซอ ซ้ำบางครั้งยังถามอีกว่า มีอีกไหม เดี๋ยวจะเก็บไว้ให้ซอ ส่วนอีกคนก็เหมือนกันค่ะอาจารย์ จะเก็บไว้หรือแบ่งไว้ให้อีกคนตลอด ตอนนึงมีสอบโอเน็ต เขาก็คอยรับคอยส่งกันนะคะ อ้อ...อาจารย์คะ มีครั้งนึง หนูเจอไอ้ปอนั่งอยู่คนเดียวมืดๆ ใต้ตึก หนูก็ถามว่า ทำอะไรคนเดียว ปอก็บอกว่าเปล่า แต่พอดีหนูตาดีไงคะ หนูก็เลยเห็นซอกำลังวิ่งรอบๆ สระน้ำ หนูเลยเก็ทว่า แหม...มารอซอออกกำลังกายนี่เอง"
เด็กหญิงกอยังบอกอีกว่า "ขอลิงค์ที่อาจารย์เอาเรื่องไปลงหน่อยสิคะ หนูอยากอ่าน"
วุ้ย ถ้าหล่อนได้อ่าน ฉันก็จบเห่สิคะ "เธอตั้งใจสอบเรียนต่อให้ได้ก่อนเถอะย่ะ"
ที่นี่เป็นคล้ายพวกโรงเรียนอาชีวะ ดังนั้นนักศึกษาชายจะมีมากกว่าแปดสิบเปอร์เซ็น ถ้าจะมีผู้หญิงอยู่บ้างก็คงเป็นพวกที่เรียนบริหาร และเมื่อดิฉันสอนนักเรียนวิศวะฯ ก็จะมีนักเรียนหญิงอยู่ในห้องนั้นไม่สองก็สามคน และส่วนมากแล้วนักเรียนหญิงในห้องเรียนวิศวะฯ เหล่านี้ก็มักจะไม่ใช่หญิงแท้ หรืออาจเป็นหญิงแท้แต่เพราะอยู่กับผู้ชายเยอะๆ ก็เลยไม่มีกิริยาความเป็นหญิงเหลืออยู่เลย น้องกอบ่นเสมอๆ "พวกมันไม่เห็นพวกหนูเป็นผู้หญิงแล้วค่ะอาจารย์"
แล้วทีนี้ มีอยู่วันนึง ดิฉันกำลังสอบฟุดฟิดฟอไฟกับนักเรียนคนนึง พวกนักเรียนที่เหลือรอสอบต่อก็มายืนบ้าง นั่งบ้าง อยู่รอบๆ โต๊ะ (เพราะต้องสอบทีละคน) คือก็จะมีแต่นักเรียนชายใช่ไหมคะ บ้างก็เดินไปเดินมา บ้างก็วิ่งไล่หยอกล้อกัน บ้างก็นั่งอยู่มุมห้องเสียบโทรศัพท์ไอโฟนอ่านการ์ตูนพวก คิงดอม, บลีช, โทริโกะ ฯลฯ ดิฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วทันใดนั้นเอง นักเรียนคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาในห้อง โดยที่เหลือเพียงเสื้อนักเรียนและบ็อกเซอร์สีฟ้าทะเลสดใส ดิฉันสอบๆ อยู่ก็ตาถลนสิคะ
"ว้าย อะไรกันเธอ!"
ไม่เอาไม่มอง
"ผมโดนแกล้งคับอาจารย์" หันไปมองหาเพื่อน "เฮ้ย พวกมึง ใครเอากางเกงกูไปวะ"
ฟังเข้าใจว่าฮีเข้าไปถ่ายหนักและถอดกางเกงไว้ เพื่อนตัวดีเห็นทีก็เลยแกล้ง แต่ปัญหาคือ เดิน/วิ่งโทงๆ ออกมาจากห้องน้ำเลยหรือจ๊ะ ถ้าผู้บังคับบัญชาฉันมาเจอแล้วฉันจะไม่แย่หรือจ๊ะนักเรียนที่รัก!
แล้วอีกอย่างนะคะ ระหว่างที่สอบพูดเนี่ย ก็ไม่ได้ราบรื่นหรอกค่ะ คนที่สอบก็พูดโต้ตอบกับดิฉันไป ส่วนคนที่ไม่สอบก็จะมานั่งกอดคอคนสอบบ้าง จับหัวจับผมบ้าง หรือแม้กระทั่งหอมแก้ม! ซุกหน้าลงซอกคอแล้วดมฟอด! กัดไหล่! คือ...ฮัลโหล...ฉันนั่งอยู่ตรงนั้น! แล้วพวกเธอก็นักเรียนชายทั้งนั้น เข้าใจว่าพวกเขาสนิทกันมาก และเห็นเป็นเรื่องเล่นๆ แต่ดิฉันก็เก็บเอาไปคิดไกลเลยค่ะ ฮ่า ฮ่า เพราะแต่ละคนก็ใช่จะหน้าตาน่าเกลียดอะไร
ประเด็นเรื่องความสนิทสนมกันระหว่างนักเรียนกับครูนั้น ที่นี่ค่อนข้างจะมีระดับความสนิทสนมมากกว่าปรกติ เพราะจะต้องเป็นอาจารย์เวรหอพัก และคอยตามดูแลสารทุกข์สุกดิบของนักเรียนตั้งแต่ตื่นกระทั่งเข้านอน ทำให้เราคุยกันได้ทุกเรื่องและบางครั้งนักเรียนก็จะเข้ามาหาและระบายเรื่องที่พวกเขาอัดอั้นตันใจให้ฟัง บางครั้งยังเคยเห็นนักเรียนชายระเบิดน้ำตาให้เห็นด้วยค่ะ เพราะบางทีเรื่องไหนคุยกับพ่อแม่ไม่ได้ เขาก็คุยกับเราได้
เฮ้อ รู้สึกจะเว่นเว้อ ดิฉันเองก็ไม่มีใครระบายให้ฟังเหมือนกันค่ะ เลยมาเล่าสู่กันฟัง
ทุกวันนี้ก็ได้แต่จิ้นเอาสุข ไม่เคยได้เห็นคู่รักชายชายจริงๆ สักที ไอ้ที่เล่ามาข้างบนก็เป็นแต่เหตุการณ์ที่เหมาะแก่การจิ้นทั้งนั้น
ใครมีอะไรอื่นๆ ก็มาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ
แป้งจี่ฯ
เอวังฯ