10-11-59 |*จบแล้ว*| พันธะร้าย กลายรัก || ตอนที่ ๑๖(จบ) อัพแล้ว*
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 10-11-59 |*จบแล้ว*| พันธะร้าย กลายรัก || ตอนที่ ๑๖(จบ) อัพแล้ว*  (อ่าน 38260 ครั้ง)

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

**************************************



***นิยายเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งทั้งสิ้น
ไม่มีเจตนาพาดพิงถึงบุคคลใด
หากชื่อตัวละครไปตรงกับผู้ใด อันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและก่อให้เกิดความขัดแย้ง
ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง


ยินดีต้อนรับ
พันธะร้าย กลายรัก



แทนคุณ
ฝ่ายปกครองวิทยาลัย
27 ปี
"จะบอกอะไรให้รู้ไว้ ที่ผมนอนกับคุณคืนนั้นเพราะมันไม่มีทางเลือก..."



มาวิน
ว่างงาน
29 ปี
"คนรวยนี่ดีเนอะ..."


         
        เรื่องย่อ

          เพราะไม่ได้เรียนสูงและต้องการใช้เงิน ทำให้มาวินต้องเลือกที่จะใช้วิธีการเป็น "แมงดา" หากินเพื่อเลี้ยงปากท้อง หลังจากถูกขุมทรัพย์ที่เคยแบ่งกินแบ่งใช้ไล่ออกจากชีวิต เขาก็ต้องดิ้นรนหาคนเกาะใหม่ ได้มีโอกาสรู้จากผู้ชายสมบูรณ์แบบคนหนึ่งซึ่งมาจากตระกูลใหญ่ ร่ำรวย มีความภูมิฐาน และหล่อเหลาเป็นที่ต้องการของใคร แทนคุณ

          แต่ใครจะไปรู้กันเล่า ว่านอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่เห็นว่าดีเลิศแล้ว ชายอย่างแทนคุณต่างจากที่ทุกคนเห็นอย่างสิ้นเชิง ภายใต้ใบหน้ารูปหล่อนั้น แฝงไปด้วยอะไรต่างๆ นานาที่ไม่น่าปลื้มเลยสักนิด...

-------------------------------------

ขอโทษทีนะคะ เพิ่งเข้ามาใหม่ไม่ชินซักที :hao5:



     http://<iframe src="https://www.facebook.com/plugins/page.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fwriternoonaa%2F&tabs=timeline&width=340&height=500&small_header=false&adapt_container_width=true&hide_cover=false&show_facepile=true&appId" width="340" height="500" style="border:none;overflow:hidden" scrolling="no" frameborder="0" allowTransparency="true"></iframe>   



[/size]
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2016 15:44:41 โดย noonaaRP »

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa


ตอนที่ ๑

คงไม่มีใครปฏิเสธว่าความสุขคือปัจจัยหนึ่งที่มนุษย์ต้องการในชีวิต ต้นเหตุของการดิ้นรนทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นมาได้ด้วยสิ่งนี้ทั้งสิ้น แต่เพราะต้นทุนชีวิตต่างกัน จึงเป็นผลให้ต้องมีใครสักคนยอมใช้ทางลัดเพื่อมัน แต่อย่างน้อยก่อนที่จะจบชีวิตลง การใช้ทางลัดเพื่อให้สิ่งนั้นมาครองจึงถือไม่เป็นการกระทำที่ไม่เลวไปเสียทีเดียว

“พี่! พี่แทน ทางนี้พี่”

ใครสักคนร้องเรียกเขา เจ้าของสายตาอันเป็นจุดสนใจของสาวผู้เมียงมองมาเห็นกวาดไปตาม เขายกยิ้มรับ พยักหน้าว่าได้พบผู้ยืนโบกมือหย็อยๆ เรียกทักทายแล้ว ท่ามกลางเสียงดนตรีอึกทึกในคลับแห่งหนึ่งกลางย่านดัง ครั้นทรุดกายร่วมวงแล้วผู้เป็นรุ่นน้องก็เดินวนมาทิ้งลำแขนบนบ่า แทนคุณ ด้วยความสนิทสนม “คิดว่าจะชวดเสียแล้ว คุณแทนคุณ ไม่ยักจะรู้ว่ามาที่แบบนี้เป็นกับเขาด้วยนะ”

“ถ้าให้ฉันมาเพื่อแขวะกันแบบนี้ล่ะก้อนะไอ้พล...”

“โอ๋ๆ ไม่เอาน่าพี่แทน ผมล้อเล่นน่าพี่” หนุ่มจอมเย้านามนพพลฉีกยิ้มขันตบบ่าเขาหนักอยู่หลายที พลอยให้คนแสร้งโมโหยกยิ้มรับได้เล็กน้อย “

พวกแกมานานแล้วหรือ แล้วพวกไอ้ธัญ ไอ้ปอยังไม่มาเลยหรือไง”

ดวงตาคมกวาดมองโดยรอบดูลาดเลาถึงบรรยากาศ สะดุดตรงเห็นใครสักคนในกลุ่มหญิงสาว กำลังพูดคุยกันอย่างออกรส จำได้ว่าพวกเธอคือเพื่อนร่วมสมัยเรียนเดียวกันกับเขา ทว่าชายผู้นั้นไม่รู้สึกคุ้นหน้าเท่าใดนัก ที่จริงเรียกได้ว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

“อ๋อ สักพักก็คงถึงแหละพี่ รายนั้นเขาเป็นพวกมีครอบครัว”

“เออ ก็คงจริง ต้องเจียดเวลามานี่นะ”

ชายหนุ่มเอ่ยอือออ มองแขกผู้แปลกหน้าแววสำอางในกลุ่มเพื่อนอย่างครุ่นคิดว่าเป็นใคร ท่าทางจะอายุมากกว่าเขาสักสองสามปี หรืออาจเป็นคนรู้จักของกลุ่มเพื่อนที่นัดเลี้ยงรุ่นกันนี้ แทนคุณกอดอก ผละสายตากลับมายังโต๊ะเมื่อกลุ่มหญิงสาวร่วมรุ่นรับทราบว่าเขามาแล้ว เธอทั้งหลายต่างละความสนใจเขาคนนั้น ตรงดิ่งมาด้านนี้อย่างไม่ต้องนัดแนะกัน

“คุณแทน มาแล้วหรือคะ พวกเรารอตั้งนานรู้ไหม ในบรรดาเพื่อนร่วมรุ่นพวกเรารอคุณคนเดียวนะ”

“งั้นหรือ ทำไมกัน” ชายหนุ่มแสร้งไม่รู้ไม่เห็น แต่โดยจริงแล้วเหตุใดคนฉลาดรู้ทันคนอย่างเขาจะไม่ทราบ

“เพราะพี่รวยไง” นพพลโพล่งขึ้น

“ว้าย! ปากเสียน่าพล เพราะว่าคุณแทนฮอตตั้งแต่สมัยเรียนแล้วน่ะซี ยิ่งประสบผลสำเร็จจนโด่งดังในฐานะอาจารย์ฝ่ายปกครองโรงเรียนที่หล่อที่สุดในประเทศ พวกเรายิ่งอยากเจอ” สาวสวยวัยยี่สิบหกปีเท่ากันทำหน้าตาตื่นเต้นขณะกล่าว

ทว่าผู้ฟังเพียงยกมุมปากยิ้มตามการกล่าวของเธอเท่านั้น แม้เหตุผลหลักของการหลีกหนีมาในที่ที่เขาคิดว่าไร้สาระนี้เป็นเพราะงานที่ตนประสบพบเจอ เขาเหนื่อยจากปัญญาที่บ้าน และการแบกรับความหวังเดียวทั้งหมดจึงอยากหนีออกมาที่ไหนสักที่

“ดื่มอะไรไหม” สาวคนหนึ่งยื่นแก้วให้ อีกคนก็ทรุดลงนั่งข้างมาจ้องหน้าพร้อมโปรยยิ้มหวาน

“ขอบคุณ”

นี่เป็นการออกนอกลู่นอกทางครั้งแรกของเขา ดื่มสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ไวน์ครั้งแรก แทนคุณเหลือบไปเห็นสายตาของชายผู้ถูกเขาแย่งสาวๆ มาโดยมิได้ตั้งใจ เหตุนี้กระมังทำให้เขาถูกอีกฝ่ายเพ่งมอง แต่ด้วยแววตาของอีกฝ่ายที่ส่งมากลับมิใช่เคืองขุ่นแต่อย่างใด มันเจือปนด้วยรอยยิ้ม ทำให้เขาต้องปัดความคิดมากออกไปด้วยรู้ดีว่าอีกฝ่ายคงไม่ต่างจากผู้อื่น เข้าหาเขาเพราะอะไร

ริมฝีปากหนาเหยียดยิ้ม ครั้นเห็นเจ้าของร่างมุมนั้นเดินหายไปหลังถูกแย่งความสนใจก็ส่ายหน้า

ต้นทุนน้อยกว่า ก็น่าสมเพชแบบนั้นแล

“พี่แทน ผมลืมแนะนำไปสนิทเลย ตามมานี่สิ” นพพลตบบ่าเขาอีกรอบ เรียกความฉงนสนเท่ห์แก่ชายหนุ่มผู้เพิ่งมาถึง ครั้นเห็นรุ่นน้องขยิบตาให้หลังกวาดมองหญิงสาวผู้นั่งล้อมรอบเขาแล้วแทนคุณจึงเข้าใจ ลุกเดินตามนพพลไป แม้เสียงหล่อนทั้งหลายจะบ่นให้ได้ยินไล่หลังก็ตามที

“เฮ้อ พวกนี้นี่ยังไงยังงั้นเลย พี่ต้องระวังตัวให้ดีนะ พวกผู้หญิงหิวเงินสมัยนี้มันเยอะ รู้ไหม”

“นี่ใครเป็นพี่ใครเป็นน้องกันแน่หา สอนฉันอย่างกับเด็กอนุบาลไปได้”

“แต่พี่ควรเชื่อผมนะ” นพพลแย่งแก้วจากมือเขาไปอย่างจริงจัง “รวยไม่ใช่หรือ ไปรับแก้วคนอื่นสุ่มสี่สุ่มห้าได้ยังไงกัน แล้วนี่ดื่มไปแล้วใช่ไหม หา!”

“เออ แล้วจะทำไม” ชายหนุ่มพยักหน้ารับเล็กน้อย มองนพพลถอนใจเดินนำหน้าไปยังอีกฝั่งของคลับอันเป็นที่หนุ่มๆ นั่งอยู่กลุ่มใหญ่ หนึ่งในนั้นเป็นชายแปลกหน้าที่เห็นก่อนหน้าได้เงยมองสบตาเขา ยิ้มอย่างเป็นมิตร แทนคุณเสตาไปทางอื่นอย่างอัตโนมัติโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกอย่างไร

“โอ้ เจ้ามือเรามาแล้ว มาๆ คุณชายแทนคุณ มานั่งตรงนี้เลยครับ”

“อะไร ใครบอกว่าฉันจะเลี้ยงพวกแกกัน”

“อ้าว...” นพพลมองหน้าแทนคุณอยู่ครู่หนึ่ง “ช่างมันเถอะพี่ แล้วนี่พี่ยังไม่รู้จักพี่วินใช่ไหม เขามากับพี่เอก”

“แล้วไอ้เอกมันไปไหนแล้วล่ะ”

“เข้าห้องน้ำมั้ง เพิ่งเดินออกไปเมื่อกี้นี่เอง พี่วินครับ นี่พี่แทน เขาหล่อแล้วก็รวยด้วยน้า แบบว่ารวยที่สุดในรุ่นเลย”

“พอได้แล้ว แกจะโม้อะไรนักหนา”

แทนคุณผลักหัวคนแนะนำไปที อีกข้างก็ยื่นมือขอทักทายทำความรู้จักอย่างเคยชิน อีกฝ่ายจึงยิ้มรับ เอื้อมมือมาสัมผัสกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะผละออกไปสนใจโทรศัพท์ตัวเอง ไม่พูดจาหรือเริ่มประเด็นร่วมกับผู้อื่นอีก เพราะบรรยากาศระหว่างกันเปลี่ยนไป แทนคุณนึกฉงนอยู่ไม่น้อย ด้วยคราแรกดูเหมือนอีกฝ่ายอยากรู้จักกับเขาเต็มที

ดูหยิ่งยโสดีแฮะ

“ว่าแต่ว่าวันนี้แปลกนะที่มีแกมาร่วมด้วย ทุกปีหรือทุกทีที่นัดกันไม่เคยมีแกเลย” เพื่อนร่วมรุ่นคนหนึ่งเปิดประเด็น

“ก็เพราะมันบ้างานไงล่ะ จะรวยไปถึงไหนก็ไม่รู้ แค่สมบัติเก่าทั้งชาตินี้จะใช้หมดหรือเปล่า พูดก็พูดเถอะ วันนี้แกจะไม่เลี้ยงพวกเราจริงๆ ใช่ไหมวะไอ้แทน นี่เพื่อนนะเว้ย”

แทนคุณกวาดสายตามองเหล่าเพื่อนต่างเออออกันราวกับนัดไว้ บางที การไม่กลับมาพบคนพวกนี้ก็อาจรู้สึกดีกว่า แม้จะต้องทนอยู่ในบ้านเงียบเชียบคนเดียว

“นานๆ จะเจอกันที แค่นี้เองน่า”

“ใช่ กับเพื่อนกับฝูงทำไมแล้งน้ำใจอย่างนี้วะ”

“กินด้วยกันก็ต้องช่วยกันออกสิ ยิ่งเป็นเพื่อนยิ่งควรจะเกรงใจกัน พวกนายก็รู้ใช่ไหมว่าเพื่อนนายเขาทำงานหนักพอแรงแล้ว แล้วจะยังมีเห็บหมัดมาเกาะตัวเวลาพักอีก เป็นพวกนายจะรู้สึกยังไง”

เสียงใครสักคนเอ่ยขึ้น ได้เรียกให้แทนคุณหันไปสบ เป็น มาวิน ที่เลิกสนใจโทรศัพท์มือถือแล้ว “ฉันยังนับถือที่แทนอยู่ในระเบียบวินัยตัวเองจนสำเร็จเรื่องต่างๆ ตอนอายุแค่นี้ ดูซี... ฉันอายุสามสิบแล้วยังไม่มีอะไรเลย”

“เพราะพี่มีภาระไง แต่ไอ้แทนน่ะ แค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก พี่ไม่รู้ว่ามันรวยแค่ไหน บ้านของพี่นี่เป็นได้แค่ห้อนอนของพักคนรับใช้มันแค่นั้นแหละ”

“แกก็พูดแรงเกินไปนะ” แทนคุณมุ่นคิ้วมองเพื่อนคนหนึ่งขณะกล่าว

“แกคิดได้ยังไงวะ คนจนคนรวยก็ล้วนมีปัญหาของใครของมันแตกต่างกันออกไป ไม่มีปัญหาเรื่องเงินก็จริงแต่ต้องปวดหัวเรื่องอื่นเหมือนกัน” แทนคุณหันมองมาวินทั้งถอนใจ กลับเป็นผู้อื่นขึ้นเสียงแทนเขาเสียอย่างนั้น

“พี่ไม่เข้าใจหรอก พี่วิน”

“พวกแกนั่นแหละไม่เข้าใจ...”

“พี่วิน มาคุยกับผมตรงนี้...”

มาวินชะงัก หันมองเอกณรงค์ผู้ที่พาเขามาด้วยความฉงนอยู่ครู่หนึ่งจึงลุกเดินตาม ให้หลังรุ่นพี่อายุสามสิบแล้วแทนคุณจึงทอดถอนใจ จริงอย่างที่มาวินกล่าวทุกอย่าง ไม่มีความสุขหากพบเจอแต่เหลือบริ้นคอยจะจับเขาเป็นบ่อเงิน ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นยืนเตรียมตัวจะกลับ หากไม่สนุกก็ไม่ทราบว่าจะอยู่ต่อไปทำไม

“อ้าว พี่แทน จะกลับแล้วหรือพี่ อย่าไปสนใจเรื่องที่พี่ๆ เขาพูดเลย”

“อืม แต่ฉันจะจ่ายเองไอ้นพ จะได้ไม่ต้องเถียงกัน” แทนคุณเหลือบมองเพื่อนร่วมวง นอกจากจะไม่สำนึกในบุญคุณแล้วยังเหน็บแนมเขาซ้ำอย่างไร้ความคิด “เออ รู้จักคิดซะบ้าง มาทั้งทีก็ควรป๋าหน่อย ทำแบบนี้มันรวยไม่จริงนี่หว่า”

“พี่แทนเขาไม่เคยอวดรวย พวกพี่นั่นแหละคิดว่ารวยไปเอง”

“ไอ้พล พอได้แล้ว” แทนคุณถอนหายใจ เลือกจะเดินผ่านออกมา ฝ่าความชุลมุนของบทเพลงปลุกเร้าใจให้เต้นโครมครามมาหยุดอยู่หน้าห้องน้ำ เหตุเพราะโทรศัพท์ในกระเป๋ามันเริ่มสั่นตั้งแต่ย่างเท้าเข้ามาด้านในนี้แล้ว ชายหนุ่มงุดลงมองเบอร์ ไม่พ้นสายจากทางบ้านอันเป็นแหล่งที่เขาอยากหลบหนีมาถึงที่นี่

“ไม่รับหรือ”

เจ้าของเสียงทุ้มหนึ่งเอ่ยขึ้น แทนคุณเบิกตา ผละจากหน้าจอทัชสกรีนตรงหน้าไปเหลือบมองชายผู้สวมเครื่องแต่งกายดูอ่อนกว่าวัย และรอยยิ้มยามอีกฝ่ายเหลือบมองเป็นเหตุให้เขาต้องเก็บมือถือเข้ากระเป๋าเช่นเดิม มาวิน ชายรุ่นพี่ผู้เพิ่งพบกันยังไม่ถึงชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ

“อ้าว ไม่รับจริงๆ ด้วยแฮะ” อันที่จริงยังไม่ถึงยี่สิบนาทีเลยต่างหาก

ชายหนุ่มถอนใจ เบี่ยงกายจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ ใจจริงก็เพียงหาที่สงบและหลบหลีกจากคนจอมตอแยน่าสมเพชด้านหลังมากกว่า “เฮ้ ทำไมไมตอบกันบ้าง ฉันไม่ได้บ้าคุยกับผนังใช่ไหม”

“ถ้าจะคิดอย่างนั้นก็แล้วแต่คุณสิ”

“ไม่เอาน่า เรียกฉันว่าพี่สิแทน”

“เราไม่ได้สนิทกันถึงขนาดนี้นั้นสักหน่อย หยุดตามผม”

“แต่เมื่อกี้ฉันเถียงช่วยนายเชียวนะ นี่พูดกับคนมีพระคุณแบบนี้หรือ” มาวินเดินตามหลัง

แทนคุณลอบถอนหายใจหยุดอยู่ตรงอ่างล้างหน้า หันไปประจันกับรุ่นพี่อายุห่างกัน วินาทีหนึ่งชายหนุ่มนึกแปลกใจเล็กน้อยกับภาพระยะใกล้ และฉงนใจอยู่ว่าเขาอายุถึงเลขสามเพราะนับผิดหรือเปล่า เหตุเพราะยังดูเยาว์วัยกว่าอายุมากโข นั่นอาจเกิดจากใบหน้าซึ่งดูมีแก้มและผิวพรรณสะอ้านเป็นต้นเหตุกระมัง

ชายหนุ่มปรับสีหน้า ถอยกรูดออกห่างอย่างต้องการตีตัวหลบ “คุณไม่ได้ช่วยผมสักหน่อย ผมไม่ได้ขอร้องและที่สำคัญผมจ่ายเงินไปให้เขาไปแล้ว” แทนคุณแจง

“เฮ้อ นายนี่หัวอ่อนกว่าที่คิดอีกนะ ทำไมต้องยอมด้วยล่ะ”

“ไม่ทราบว่าคุณเป็นผู้จัดการทรัพย์สินของผมเมื่อไร สมบัติของผม เงินของผมจะใช้อะไรก็ได้ ไม่ต้องมาหวงแทนหรอกนะ เงินแค่นั้นแลกกับการให้ทุกอย่างจบผมยอมได้” แทนคุณมุ่นคิ้วขณะกล่าว ยิ่งยามมือถือในกระเป๋าสั่นยิ่งรบกวนความคิดของเขามากขึ้น “ขอโทษที ผมต้องการเวลาส่วนตัว ไม่ต้องมายุ่งกับผม”

มาวินเบิกตาอย่างแปลกใจหลังได้ยิน แต่ไม่วายที่จะกระเซ้าด้วยความคะนองใจ “อ้อ ที่แท้อาจารย์ฝ่ายปกครองสุดหล่อเป็นพวกมีปมเพราะถูกเพื่อนไถเงินนี่เอง ถึงเอาความกดดันไปลงกับนักเรียนที่น่าสงสารของตัวเอง”

“ไร้สาระ”

“อ้าว…”

มาวินหน้าเหวอเล็กน้อย เมื่อคนที่ตนเพิ่งทำทีดูถูกเดินย้อนกลับมาประจันหน้า แล้วก็ออกไปจากห้องน้ำราวไม่ต้องการพูดคุยกันอีก นี่มันไม่มีความเคารพกันเลยใช่ไหม เขาอายุมากกว่าหมอนี่ตั้งกี่ปี มาวินขบฟันทั้งรีบสาวเท้าตามหลัง ถึงจะเป็นคนร่ำรวยที่เขามองหา แต่มาวินไม่ใช่พวกจับปลาสองมือ

“พี่จะไปไหน เราคุยกันแล้วไงว่าพี่จะอยู่กับผมตลอด” มือของคนด้านหลังฉุดให้มาวินชะงัก เป็นเอกณรงค์อีกครั้งที่เข้ามาปราม มาวินชักรู้สึกไม่พอใจกับการบังคับขู่เข็ญของอีกฝ่ายเต็มที “มากเกินไปแล้วนะเอก แกทำอย่างกับฉันเป็นนักโทษ”

“แล้วพี่คิดจะทำอะไร”

“ทำอะไร แกนั่นแหละคิดว่าฉันจะทำอะไร”

“ผมเห็นนะว่าพี่กำลังจะเดินตามไอ้แทนไป ทำไม...เห็นมันรวยกว่างั้นเหรอ”

“พอกันที...แกนี่มันหมาบ้าว่ะ คิดอะไรของแก”

“เออ คิดว่าจะง้อหรือ คอยดูว่าหมาตัวไหนมันจะซมซานกลับมาขอให้ผมช่วยอีก นอกจากผมมีใครเขายอมให้หมดทุกอย่างบ้าง บอกไว้เลยว่าไม่มีไอ้โง่ไหนจะดีเท่าผมหรอก!” สิ้นคำคนกล่าว มาวินหน้าชายามนิ้วชี้เรียวของเอกณรงค์จิ้มลงบนอก ใช่แล้ว หมาตัวนั้นซมซานกลับมาตายรังที่นี่ตลอดตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่ครั้งนี้หมามันได้รู้ว่านายมันเป็นยังไง มันคงต้องหานายใหม่ที่ดีและโง่กว่า

มาวินกำหมัด “คอยดู ฉันจะไม่กลับมาหาแกอีก ไอ้เอก...”

มาวินเป็นจำพวกคนไม่เอาไหน การงานไม่ทำ ดีแต่ออกเที่ยวเตร่ไปทุกวันอย่างไร้จุดหมาย แต่เพราะทางบ้านมีภาระให้แบกรับ เขาจึงเลือกใช้วิธีที่ผู้ชายคนอื่นไม่ทำกัน นั่นคือแมงดา เพราะเห็นว่าเป็นความสุขสบายที่ไม่ต้องขวนขวายอะไรนอกจากเอาอกเอาใจ ไม่ต่างจากหมาอย่างที่เอกณรงค์นิยามให้

เอกณรงค์ไม่ใช่คนดี แต่มีดีที่รักและหวงแหนมาวินมากกว่าใครอื่น ยินยอมหยิบยื่นให้ตามที่เขาต้องการ แม้ว่าจะถูกตอบแทนด้วยนิสัยไม่ดีด้านอื่นก็ตาม มาวินเลิกกับเขาหลายครั้ง หากทว่าไม่เคยหนีพ้นอีกฝ่ายได้เลย

แต่ตอนนี้เขาได้ให้คำสัตย์แก่ตนเองแล้วว่า “หมาอย่างฉันจะหาเจ้านายคนใหม่ คนที่ดีและโง่กว่าแก”

“เออ จะรอดูอย่างใจจดใจจ่อว่าจะไปเกาะใครอีก แล้วก็จะรอดูว่าจะไปได้เท่าไร”

แม้คราแรกต้องการพูดจาให้เอกณรงค์สำนึกได้ที่ต่อว่าเขารุนแรงเกินไป แต่เมื่อพูดแล้วและเห็นธาตุอันเลวร้ายของอีกฝ่าย ทำให้มาวินต้องขบคิดแล้วว่าผู้ชายทั้งดีทั้งโง่นั้นอยู่แห่งหนไหน ครั้นคนดูถูกเดินจากไปไม่สนใจใยดีกันแล้วนั้นชายหนุ่มจึงคิดได้

เขาพูดอะไรลงไป เอกณรงค์คือขุมเงินที่เขามีตอนนี้!

แม้แต่เงินที่จะขึ้นแท็กซี่กลับบ้านยังไม่มีเสียด้วยซ้ำ ชายหนุ่มพ่นลมหายใจขณะสาวเท้าเดินออกมาสูดลมหายใจด้านนอก ริมถนนมีกลุ่มวัยรุ่นกลายกลุ่มยืนอยู่หน้าสถานบันเทิง บ้างก็เพิ่งมา บ้างก็ชวนกันไปต่อที่อื่น เหตุเพราะย่านนี้เป็นย่านรวมสถานบันเทิงชื่อดังหลายแห่ง แต่ตอนนี้เขาไม่มีที่ไป มาวินก้มลงมองเศษซากบุหรี่ของใครสักคนบนพื้น สภาพไม่ต่างจากตัวเขาเองมากนัก

ยับเยิน และไม่น่าจับต้อง

หากทว่าสายตากวาดไปเห็นใครสักคนเดินซวนเซอยู่ข้างลานจอดรถ เป็นร่างสูงหนา แต่งตัวคุณชายสุดเนี้ยบมาเที่ยวคลับอย่างนั้นคงเป็นใครไม่ได้แน่ มาวินมุ่นคิ้วพาร่างสูงโปร่งตัวเองไปมองสังเกตท่าทีแปลกไปของอีกฝ่าย

“นี่ เป็นอะไรไหม แทน!”

“ไม่ต้องมายุ่ง ผมช่วยเหลือตัวเองได้”

คนช่วยผู้ผลักออกห่างไปชิดกับรถยนต์ที่คาดว่าผู้กระทำกำลังจะเปิดขึ้น มาวินฉงน มองมือของผู้อายุน้อยกว่าหยิบกุญแจสั่นเทาราวกับมีไข้ แม้เพิ่งจะรู้จัก แม้แทนคุณจะไม่รู้สึกชอบเขาเท่าที่ควรนัก หากปล่อยให้เผชิญปัญหาคนเดียวเขาก็แล้งน้ำใจเกินทน ชายหนุ่มอังหน้าผากอีกฝ่ายตรวจเชคความร้อน “ไม่ร้อนนี่  เหงื่อท่วมตัวเลย ฉันว่านายควรถอดสูทออกนะ”

“ออกไป”

“ฉันหวังดีนะแทน”

“ออกไป ผม... ขอร้อง” คาดว่าปัญหาของแทนคุณคงยากที่ใครอื่นจะเข้าใจได้ ร่างสูงเข่าทรุดซวนเทนอนลงพื้นราวคนเมาจะสิ้นสติ ทว่าดูเหมือนจะไม่ใช่เช่นนั้น มาวินมองร่างกายสั่นเทาของอีกฝ่ายด้วยความตื่นตระหนก พยุงเขาขึ้นไปนั่งบนรถหลังนึกคิดได้ว่าอีกฝ่ายประสบปัญหาอะไร

“นายแย่แล้วแทน”

มาวินหันมองคนกระสับกระส่ายบนเบาะขณะบังคับยานพาหนะแสนแพงของเจ้าตัวแล่นบนท้องถนน ใจจริงอยากจะพาไปหาใครสักคน แต่เพราะเสียงต่อว่าของแทนคุณยังไม่หายจากลำคอ มาวินจึงทราบดีว่าควรพาไปแห่งไหน ประจวบกับนึงถึงสภาพของตนเองและสถานะความเป็นอยู่ตอนนี้ มาวินคิดได้แล้วว่าต้องทำอย่างไรให้ตนพบเจอผู้ชายที่ดีและโง่แทนเอกณรงค์

มันจะดีต่อตัวเขา... นี่มันผลพลอยได้ที่ล้ำค่า...

แม้นว่าจะเป็นการดูหมิ่นศักดิ์ศรีตนเองก็ตาม





--------------------------------------------

มาวินเอ้ย จะจับอาเสี่ยโง่ๆ ดันเจองูซะได้ ที่สำคัญดันเป็นงูพิษซะด้วย 55555

เรื่องนี้ออกเป็นแนวผู้ใหญ่ค่ะ แซ่บลืม มีความเอสเอ็มด้วยนิดหน่อยพอหอมปากหอมคอ

เรื่องนี้พระเอกแมน นายเอกเป็นเกย์อยู่แล้วนะคะ

จะอัพก็วันเว้นวัน นานสุดก็สามวันค่ะ

อย่าลืมคอมเม้นด้วยเน้อ (รออ่าน)

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa


ตอนที่ ๒

ความปวดหนึบแล่นเข้ามาปลุกให้ชายผู้เอนหลังแนบบนเตียงรู้สึกตัวตื่น เจ้าของร่างหนาพลิกกายทั้งยังพริ้มไปกับความสบายหลังจากนั้น แต่เพียงไม่นานเท่านั้นที่หลงลืม ในสมองมีคำถามแล่นเข้ามาไม่หยุดยั้ง ครั้นเคลื่อนมือปัดป่ายบนเตียงอันเป็นสวรรค์ของตนจึงเกิดความสนเท่ห์ เหตุใดวันนี้มันแคบกว่าทุกวัน

แทนคุณลืมตาตื่น แน่แล้ว คำตอบที่ได้มันอธิบายทั้งหมดได้ดีหลังเห็นว่าตรงนี้มิใช่ผนังบ้านของเขา ชายหนุ่มกะพริบตาพริบมองพัดลมเพดานสีฟ้าต่อหน้าตนเองอยู่ครู่หนึ่ง บ้านไม้ มีหยากไย่ตรงมุมเพดานปลิวไปตามแรงลมด้านนอกยามพัดเข้ามาจากหน้าต่าง เขาไม่ได้เมาจนถึงขั้นแฮงค์ จำได้ว่าเหตุใดจึงมาที่นี่

นัยน์ตาคมเบนไปอีกฝั่ง พบร่างเปล่าเปลือยของชายผู้พาเขามาที่นี่นอนหันหลังจนเห็นแนวซี่โครงเรียงกัน ความรู้สึกแรกยามพบคือความอุจาดตาจนต้องยกผ้าขึ้นไปปิดให้ ครั้นร่างเขาสิ้นอะไรปกปิดจึงลุกขึ้นไปหยิบผ้าผ่อนที่ตกอยู่แถวนั้นขึ้นมาสวมทดแทน

เขาเพิ่งจะนอนกับหมอนี่ ชายหนุ่มส่ายศีรษะปัดภาพทั้งหมดออกอย่างนึกอุจาด

เมื่อคืนมันคืออุบัติเหตุ แทนคุณไม่ทราบว่าเพราะอะไรเขาจึงกระสับกระส่ายจนควบคุมตนเองไม่ได้เช่นนั้น หวังว่ามาวินคงจะไม่ถือสา ชายหนุ่มคิดทั้งล้วงกระเป๋าหยิบธนบัตรทั้งหมดในกระเป๋าวางไว้ให้ ไม่ใช่เพราะว่าอยากจะใช้เงินฟาดหัว เพราะเมื่อคืนมาวินต่างวิ่งวุ่นดูแลเขาไม่ห่าง เขาจากไปทั้งอย่างนี้ไม่ได้

แม้ความรู้สึกเมื่อคืนยังติดค้าง แต่ขอให้ทุกอย่างมันจบลงไปอย่างที่เขาหวัง

 

โต๊ะอันประกอบไปด้วยอาหารหรูไม่ได้เรียกรอยยิ้มให้ชายที่นั่งอยู่มุมนี้ หากทว่าเป็นเพราะหญิงสาวผู้มีความสุขในการกินตรงหน้ามากกว่า มาวินคลี่ยิ้ม เคลื่อนมือปาดเศษอาหารให้เจ้าหล่อนด้วยความเอ็นดูท่าทีที่แสดงออกของเธอยามเจริญอาหาร

ผ่านมาหลายอาทิตย์แล้วหลังจากแทนคุณหนีไปโดยไม่ทันให้เขารู้ตัว นั่นคงทำให้อีกฝ่ายวางใจได้ว่าจะไม่ต้องเหนื่อยยากอะไรกับพันธะ มาวินเคยคิดว่าเขาจะดีและโง่ แต่ไม่ใช่เลย แย่กว่าเอกณรงค์ในเรื่องความรับผิดชอบเสียอีก ดีแล้วที่แทนคุณเลือกที่จะใช้เงินทำลายทุกอย่าง เขาควรกลับไปหาเอกณรงค์ แม้เงินที่แทนคุณทิ้งไว้จะมากมายแต่สุดท้ายมันต้องหมดไป

แต่เอกณรงค์หมิ่นศักดิ์ศรีเขาถึงเพียงนั้น จะกลับไปทำไม ชายหนุ่มตรองอยู่ในใจ อีกทั้งภาพคืนนั้นแทรกเข้ามาในศีรษะ เขาค้นพบคนที่ดูหมิ่นเกียรติเขาเพิ่มอีกคนแล้ว “ทำแบบนี้เพราะต้องการเงินฉันไม่ใช่หรือไง ฉันรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่านายมันพวกหิวเงิน!”

“ฉันเปล่า” มาวินมองตาคนอารมณ์ร้อน “ที่ทำไปก็เพราะอยากรู้จักนายจริงๆ ฉันนับถือที่นายเก่ง...”

“ฉันเกลียดพวกขี้ประจบ พวกเลียแข้งเลียขา และนายก็ดูเป็นคนแบบนั้น”

คิดแล้วก็โมโห เวลาแทนคุณไม่ได้ดังใจหมอนี่จะลืมว่าเขาอายุมากกว่าอย่างนี้ทุกครั้งหรือ น่าต่อยปากให้เลือดกลบเสียจริง

มาวินมุ่นคิ้ว แต่ตอนนั้นเพราะเขาต้องการเงิน เงินที่ได้มาง่ายๆ โดยไม่ต้องทำอะไรเลยอย่างที่แทนคุณกล่าว คืนนั้นแม้ดูเหมือนมาวินยินยอมพร้อมใจให้จบลงบนเตียง แต่ถ้อยคำที่แทนคุณดูถูกยังหลอกหลอนว่าเขาไม่ควรเอื้อมจับคนที่สูงส่งเช่นนั้น แทนคุณคิดว่าตนเองมีค่าเกินกว่าจะเกลือกกลั้วกับคนอย่างเขา

“พี่วิน เอมอิ่มแล้วค่ะ ไปกันเถอะ อยากได้เสื้อผ้าตัวใหม่”

“ได้ซี อยากได้ชุดไหนพี่จะตามใจเอมทุกอย่าง ขอแค่หายโกรธก็พอ”

“จริงนะ”

ชายหนุ่มยกยิ้มทั้งเคลื่อนไปยีเส้นไหมสีน้ำตาลของอีกฝ่ายด้วยความรักใคร่ ไม่นานก็จูงเมื่อหญิงสาวเดินไปยังที่หมายเพื่อเอาอกเอาใจเอมมิกา หวังว่าเธอจะหายเคืองโกรธที่เขาเคยผิดนัดก่อนหน้า

แต่เพราะโชคชะตาหรือสวรรค์ต้องการกลั่นแกล้ง ขณะคลี่ยิ้มพูดคุยกับสาวสวยยิ้มหวานข้างกาย มาวินเหลือบไปเห็นชายผู้หนึ่งเดินสวนกันมา และอีกฝ่ายเองคล้ายแปลกใจที่เห็นเขาเช่นกัน

แทนคุณ ดูเหมือนหมอนี่จะตายยากพอควร

“เอมอยากได้ชุดนั้น คราวที่แล้วพี่วินสัญญาว่าจะซื้อให้ จำได้ไหม” สาวหวานกล่าวขณะกอดแขนเขา หากทว่าไม่ได้เข้าในโสตประสาทมาวิน ชายหนุ่มละสายตาจากคนตัวสูงกว่ายามเดินสวนกันลงมองพื้น “พี่วิน!”

“หืม”

“ได้ยินที่พูดไหมเนี่ย เอมบอกว่าอยากได้ชุดนั้น เอมใส่แล้วสวยจริงๆ นะ”

“อื้ม เดี๋ยวพี่ซื้อให้ ไม่ผิดสัญญาหรอกน่า”

“รักพี่วินที่สุดเลย...” สาวร่างเล็กกระชับกอดคนเดินนำแนบแน่นยิ่งกว่าเดิม เรียกให้สายตาทุกคนในกลุ่มหันไปมองคนทั้งสองเป็นจุดเดียว

“ตายแล้ว คนสมัยนี้หาคนเกาะตั้งแต่เด็กขนาดนี้เลยหรือ ดูสิพี่แทน น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับทายเลยไม่ใช่หรือผู้หญิงคนนั้นน่ะ โห... เล่นอ้อนกันขนาดนั้นเลยหรือ” เด็กสาวผู้จูงแขนเขามองตามสองร่างนั้นขณะเอ่ย ชายหนุ่มผู้ครุ่นคิดตามภาพที่เห็นทำได้เพียงทอดถอนใจ “ตั้งแต่เกิดมาทายเพิ่งจะเห็นเด็กเสี่ยออดอ้อนขอของจริงๆ ก็วันนี้ เก่งไม่หยอกเลยนะ”

“เขาอาจเป็นพี่น้องกันก็ได้นะทาย” เด็กหนุ่มผู้มาด้วยอีกคนออกความเห็น

“พี่น้องอะไรไม่เห็นเหมือนกันเลย ใช่ไหมพี่แทน ทิมน่ะมองโลกในแง่ดีเกินไป ระวังโดนผู้หญิงหลอกไม่รู้ด้วยนะ” เด็กสาวยักไหล่อวดรู้

ดูเหมือนมาวินจะไม่ชอบใจที่เห็นเขาที่นี่ อาจเกิดจากคืนนั้น แต่เพราะสิ่งที่เขาทราบหมาดๆ ทำให้แทนคุณใจชื้นขึ้นมาว่าเขาไม่ควรคิดมากเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น มาวินไม่ใช่คนดีพอที่เขาจะรู้สึกผิดที่ทิ้งมาโดยไม่บอกไม่กล่าว หมอนั่นเลว เป็นนักต้มตุ๋นผู้หลอกเอาเงินคนอื่นด้วยการมีเซ็กส์ และนำมาปรนเปรอผู้หญิงให้รักและหลง

สาสมแล้ว หลอกลวงเงินจากผู้ชายเพื่อมาซื้อความรักจากคนที่หลอกใช้ตนเองอีกที

มาวินมิใช่คนดี ภาพคืนนั้นก็แค่กลโกงเพื่อโก่งค่าเสียหายก็เท่านั้น เขาควรหยุดความคิดระหวาดระแวงว่ามาวินจะกลับมาเรียกร้องค่าเสียหายหรืออะไรอีก อย่างน้อยก็ทำให้เขารู้จักวิธีสวนคืนได้แล้วว่าทุกอย่างมันจบตั้งแต่คืนนั้นไปแล้ว

แทนคุณยกมุมปากเหยียดยิ้ม เขารู้สึกดีที่มาวินไม่ทักทายหรือรู้จักเขาในที่สาธารณะ นั่นทำให้แทนคุณฉุกคิดได้ว่าควรเตรียมรับมือกับนักเรียนทั้งหลายในหน้าที่ของตนเองจะดีกว่า อีกไม่นานโรงเรียนจะเปิดภาคเรียนแล้ว

สนใจอย่างอื่นดีกว่า...

 

เวลาก่อนเปิดภาคเรียนเป็นช่วงรับสมัครนักเรียนใหม่ในทุกชั้นปี ชายหนุ่มผู้เป็นอาจารย์ฝ่ายปรึกษารับพ่วงอีกหน้าที่คือผู้รับใบสมัคร วันนี้ชายหนุ่มเข้ามาในห้องทำงานเช้ากว่าทุกวันเพราะเห็นเป็นวันธรรมดา วันจันทร์มักมีนักเรียนใหม่เข้ามาเสมอ เช้านี้หลังดื่มกาแฟ แทนคุณก็เก็บใบสมัครเตรียมส่งฝ่ายวิชาการคีย์ข้อมูลนักเรียนลงคลังข้อมูลใหญ่ของโรงเรียน

เสียงเคาะประตูเรียกให้ชายหนุ่มเหความสนใจไปมองขณะเก็บข้าวของบนโต๊ะ เวลาบนนาฬิกาบ่งบอกว่าเก้าโมงกว่า แทนคุณจึงเอ่ยปากอนุญาตให้คนด้านนอกเข้ามาได้

“เชิญครับ”

สิ้นคำ อาจารย์น้อยฉีกยิ้มให้หลังเปิดประตู “มีนักเรียนมายื่นใบสมัครค่ะอาจารย์”

“อ้อ เชิญเข้ามาด้านในเลยครับ”

“เชิญค่ะ” อาจารย์น้อยผายมือเข้ามาด้านในให้แขกก้าวเท้าตาม วินาที่แรกที่เห็นหญิงสาวเดินเข้ามาในห้องทำงาน แทนคุณนึกประหลาดใจอีกรอบกับความบังเอิญที่เกิดขึ้น เธอคือเด็กสาวคนนั้น ผู้ออดอ้อนมาวินให้ซื้อของที่อยากได้ แต่ความประหลาดใจยังถาโถมเข้ามาไม่หยุดยั้งเมื่อเหลือบเห็นร่างสูงโปร่งของชายในความคิดย่างเท้าเข้ามาทีหลัง

มาวิน...

เป็นผู้ปกครองของเด็กสาวคนนี้หรือ

หลังจากรับไหว้จากเด็กสาวแล้ว แทนคุณผายมือให้ทั้งคู่นั่งอยู่ตรงข้ามพร้อมก้มลงอ่านใบสมัครและได้ทราบว่าเธอชื่อเอมมิกา อายุสิบแปดปี มีความประสงค์ที่จะกู้เงินเพื่อการศึกษา หลังพูดคุยเกี่ยวกับเอกสารแล้วนั้นแทนคุณจึงให้เธอออกไปถ่ายรูปด้านนอกเพื่อทำบัตรนักศึกษา ไม่ทันได้คิดว่าบรรยากาศระหว่างเขากับมาวินจะเป็นเช่นไรหากอยู่เพียงลำพังสองคน

หลังพลิกดู รู้แล้วว่าทั้งสองนามสกุลเดียวกันแล้วนั้น แทนคุณผละสายตาไปยังชายหนุ่มตรงหน้าผู้ฆ่าเวลาในการรอด้วยการเล่นโทรศัพท์มือถือ ไม่รับรู้ว่าความรู้สึกของเขาพลิกผันใหม่อีกครั้ง หลังรู้ว่าตนเองเข้าใจอีกฝ่ายผิดไป

“คุณต้องหาข้าราชการที่น่าเชื่อถือเซ็นรับรองเอกสารให้เอมมิกา ไม่อย่างนั้นเอกสารจะไม่ผ่าน”

อีกฝ่ายละมาสบตาเขา ผละมือจากโทรศัพท์ “งั้นหรือ แต่ว่าผมไม่รู้จักใครที่นี่เลย”

“นั่นเป็นปัญหาของคุณ”

“อ้อ ใช่... ก็จริงของคุณ” คนกล่าวเอนหลังพิงพนัก แทนคุณนิ่งไป หลังได้ยินว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตีตัวสนิทสนมกับเขา ทำเหมือนว่าเพิ่งรู้จักกันอย่างสมจริงแม้ไม่ได้อยู่ในสายตาใคร ดีแล้วนี่ ชายหนุ่มคิดทั้งก้มลงอ่านทวนเอกสารอยู่ครู่หนึ่ง

“เอมมิกาไม่ยอมใส่เบอร์โทรศัพท์ผู้ปกครอง ขอเบอร์หน่อยซี”

“ผมไม่ค่อยได้ใช้เบอร์เดิมนานๆ นัก แต่แค่ให้ไปก็พอใช่ไหม”

“อืม...”

หลังได้ฟังคำตอบ มาวินรับกระดาษไปจดหมายเลขลงบนเส้นประที่ถูกเว้นว่างอย่างตั้งอกตั้งใจ บางที แทนคุณก็คิดว่าเขาคงจะนับอายุตนเองผิดไปจริงหากเทียบกับการกระทำและวางตัว หากไม่ได้เห็นปีเกิดของมาวินบนเอกสารชายหนุ่มคงคิดเช่นนั้น “คุณควรลงที่อยู่ปัจจุบัน ไม่ใช่ที่อยู่ในทะเบียนบ้าน เพราะทางโรงเรียนจะรายงานพฤติกรรมและผลการเรียนไปทางจดหมายให้ทราบตลอดระยะเวลาที่เรียนที่นี่”

“ขอบคุณที่บอกครับ อาจารย์”

นัยน์ตาคมเพ่งพิศคนกล่าวขณะก้มหน้าก้มตาแก้เอกสาร “เป็นการแสดงละครที่ดีนี่ ว่าไหม”

“มันก็ดีแล้วนี่ ว่าไหม...” มาวินย้อนราวกับรู้ทัน เงยขึ้นมามองเล็กน้อย

“แต่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ต่อหน้าใคร คุณไม่จำเป็นต้อง...”

“แล้วไม่คิดว่ามันดีหรือที่มันจบลงแค่นั้น”

คนฟังนิ่งคิดอยู่ครู่ “แน่นอน นั่นเป็นสิ่งที่ผมต้องการถึงแม้ว่าจะกังวลอยู่ลึกๆ ว่ามันจะไม่จบถ้าหากผมพบคุณอีก”

“โอ้... ตรงกันข้ามกับความคิดผม” มาวินหัวเราะในลำคอยามเห็นคำตอบของอาจารย์ผู้อ่อนวัยกว่า “ผมกลับคิดว่าคนอย่างคุณไม่มีความรับผิดชอบพอที่จะรู้สึกผิดอะไร ไม่ต้องกังวลหรอกนะอาจารย์ว่าผมจะมาเรียกร้องอะไร ยังไงผมก็เป็นผู้ชายอย่างที่คุณพูด ผมไม่มีทางเสียหาย...”

“นายมันเป็นผู้ชาย นายไม่เสียหายอะไรหรอก”

คนฟังชะงักงัน เมื่อภาพคืนนั้นแล่นเวียนเข้ามาในหัวช่วงวินาทีที่มาวินกล่าวจบ ความรู้สึกคุกรุ่นในโสตประสาทยามใช้กำลังข่มเหงคนตรงหน้าให้เป็นเบี้ยล่างของเขานั้น แทนคุณจำสีหน้าของอีกฝ่ายได้แม่นยำ ภาพมาวินไม่พอใจ ไม่ยินยอมในคราแรก

“พาฉันมานี่เพราะอยากให้มันจบอย่างนี้ไม่ใช่หรือ อยากได้เท่าไรบอกฉันมา!”

มาวินถูกเขาบังคับให้ยินยอม ระคนกับการใช้กำลัง ภาพและเสียงคนใต้ร่างในเงามืดส่งเสียงอันผิดแปลกจากครั้งก่อนไหนที่แทนคุณเคยได้ยิน แม้เห็นไม่ชัดแจ้ง ทว่านั่นยังสะท้อนในโสตชายหนุ่มไม่จางหาย เป็นเสียงผู้ชายแหบแห้ง เปล่งออกมาจากความเจ็บหรือสุขสมแทนคุณไม่สามารถแยกแยะได้ถนัดถนี่นัก หากคืนนั้นเขาถึงฝั่งฝันได้สุขสมอารมณ์หมายจนพอใจอยู่หลายครั้งในความรู้สึกอันแปลกใหม่

ทว่าในความมืดมิด ยามครึ่งหลับครึ่งตื่น สัมผัสจากมือของมาวินไม่ห่างหายจากแทนคุณไปนานนัก ไล่วัดความร้อนบนใบหน้าของเขาอยู่เสมอราวกับห่วงใย ยามนั้นเขาทั้งระแวงระวังและอุ่นใจในคราเดียวกัน เป็นหนึ่งคืนที่ชายหนุ่มจดจำมาจนถึงตอนนี้

ดูเหมือนไม่ใช่แค่แทนคุณที่มองอีกฝ่ายในแง่ร้าย มาวินเองก็คงเป็นเช่นกัน เพราะเขาคุมสติตนเองไม่ได้ พูดจาหยาบคายและใช้วิธีป่าเถื่อนเหลือเกิน ไม่ผิดที่มาวินจะเคืองโกรธที่ตื่นขึ้นมาไม่พบเขา

“แต่ผมไม่ใช่คนแบบนั้น” แทนคุณกล่าวไม่ชัดเจนเต็มปากเต็มคำเท่าใดนัก เหตุเพราะตนเองทำเลวไว้อยู่หลายอย่างให้อีกฝ่ายเคืองขุ่น ชายหนุ่มจึงทำได้เพียงทอดถอนใจ “นั่นเพราะตอนนั้นผมไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหายังไง”

“ไม่ต้องห่วง คุณเลือกใช้วิธีที่ถูกใจผมที่สุดแล้ว”

“เงิน...”

“ใช่ ผมชอบเงิน”

ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจประชดประชันเขาให้เจ็บจุกหรือเอาจริงแน่ ทว่าแทนคุณรู้สึกชาไปทั่วทั้งหน้ายามเห็นมาวินคลี่ยิ้มขณะบอกอย่างหน้าตาเฉย ไม่ทันได้พูดอะไร เอมมิกาก็เดินเข้ามาในห้องเรียกให้มาวินหันเหความสนใจไปหาเจ้าหล่อน อาจารย์ฝ่ายปกครองหนุ่มปรับสีหน้าอยู่ชั่วอึดใจหนึ่งมองเด็กสาวยามมือเรียวยาวของมาวินเคลื่อนแตะปอยผม พูดจาเอาอกเอาใจเธอ

“พี่วิน ทั้งหมดแปดพันสองร้อยบาท”

ขณะที่เอมมิกาถูกเรียกไปรับชุดนักเรียนในสหกรณ์ มาวินซึ่งกำลังเปิดดูกระเป๋าสตางค์ก็จำต้องมุ่นคิ้วกับค่าใช้จ่ายแรกเข้าแสนแพง “มันไม่แพงเกินไปหน่อยหรือคุณ นี่น้องสาวผมยังไม่ได้เรียนเลยนะ”

“ประสาทหรือไงครับ นี่ไม่ใช่ตลาดสดนะจะมาพูดจาต่อราคาได้น่ะ”

“เฮอะ...” มาวินเก็บกระเป๋าสตางค์เข้ากระเป๋าทั้งหัวเราะไปพลาง “งั้นผมยังไม่จ่าย เพราะว่าตอนนี้เอมยังไม่ได้เรียน เปิดเทอมเมื่อไรค่อยเจอกัน”

“นี่...”

อาจารย์หนุ่มจะพูดให้หลัง หากทว่าแทนคุณไม่อาจสรรหาถ้อยคำไหนมาเอ่ยให้มาวินหันกลับมาได้ อีกฝ่ายเลือกเดินจากไปพร้อมกับคำครหาที่เขายังไม่ทันได้อธิบาย ต่างจากตัวมาวินเองที่ไม่คิดหาคำไหนเพื่อแก้ตัวในสิ่งที่เขาคิดในแง่ลบ ปล่อยให้กาลเวลาตอบทุกอย่างเอง แทนคุณหวังว่าสักวันกาลเวลาจะทำให้อีกฝ่ายมองเขาในแง่อื่นบ้าง แม้นความรู้สึกติดค้างในใจจะเป็นเหตุให้เขานึกหงุดหงิดทั้งวันก็ตาม

 

มาวินพาเอมมิกากลับไปมาบ้านพักในช่วงบ่าย ยามเห็นรอยยิ้มน้องสาวขณะลองสวมชุดนักศึกษาโรงเรียนเอกชนชื่อดังอย่างน่ารักสมอายุ พลอยให้เขามีความสุขไปด้วย แม้จะนึกหน่ายใจที่บังเอิญเจอแทนคุณที่นั่นก็ตาม แต่เพราะโรงเรียนนั้นเป็นที่หมายของนักเรียนส่วนใหญ่ในจังหวัดนี้ มาวินไม่อาจฝืนความต้องการของเอมมิกาได้

แต่ได้ร่วมเชยชมความน่ารักของเธอเพียงไม่นาน เสียงรถยนต์คันหนึ่งเรียกให้เขาหันความสนใจทดแทน ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินออกไปนอกบ้าน วินาทีแรกที่เหลือบไปเห็นรถยนต์คันคุ้นชินจอดเทียบอยู่หน้ารั้วชวนให้เขานึกประหลาดใจไม่น้อย แต่เพราะสิ่งที่อีกฝ่ายกระทำต่อเขาเป็นเหตุให้มาวินไม่รีบร้อนจะเดินเข้าหา

ไม่นาน ร่างสูงของชายรุ่นน้องผู้เคยดูถูกเขาก็ออกมาจากรถยนต์คันนั้น หยุดอยู่หน้ารั้วต่ำขนาดหน้าอกมองเข้ามาด้านใน ไม่มีอะไรที่จะต้องเสียอีก มาวินจึงเดินออกไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าอีกฝ่าย ถามไถ่ด้วยความใคร่รู้

“มีอะไร มาทำไมอีก”

เอกณรงค์ขยับริมฝีปากยิ้ม มองคนถามขณะก้มลงมองอีกฝ่ายหัวจรดเท้า “อยู่ได้นานกว่าที่คิดนี่”

ได้ยินประโยคเมื่อครู่ สีหน้ามาวินกึ่งหัวเราะกึ่งรำคาญราวกับรู้ดีว่าเพราะนี้คือเอกณรงค์ จึงพูดและกระทำตัวเช่นนี้ ชายหนุ่มส่ายศีรษะอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวตัดบทสนทนา “ถ้าจะมาพูดเรื่องไร้สาระแค่นี้ก็กลับไปซะ”

“ไม่เอาน่า... นี่พี่คิดจริงๆ หรือว่ามีคนอื่นยอมจ่ายให้พี่ทุกอย่างได้เหมือนผม”

“เฮอะ! ที่แกมาที่นี่ไม่ใช่ว่าเพราะเสียดายฉันหรือ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เห็นต้องมาพูดแดกดันกันเลยนี่ แค่คุกเข่าอ้อนวอนให้ฉันกลับไปก็พอ มันง่ายแล้วก็ตรงไปตรงมาดี” มาวินกอดอก

“ขอโทษทีนะ พี่ไม่ได้มีค่าขนาดนั้นว่ะ” ชายผู้ยืนอยู่นอกรั้วไม้ยกแขนเท้าข้างบนของมันอย่างไม่รู้สึกรู้สา ชวนให้คนมองใจร้อนกับท่าทียียวนตรงหน้า “อีกอย่าง ถ้าหมามันไม่เชื่อง ก็ไม่รู้ว่าจะเลี้ยงให้มันมากัดเจ้าของทำไม จริงไหม”

“ไอ้เอก...”

“ตัดหางปล่อยวัดมันบ้าง แบบนี้ค่อยเบาตัวหน่อย” คนกล่าวหมุนกุญแจรถในมือยามเอ่ย ไม่บอกก็ทราบดีว่าที่เอกณรงค์มาหาถึงบ้านนี้หมายความว่าอย่างไร และแน่นอน มาวินขบกรามแน่นด้วยความโกรธกับสิ่งที่หมอนี่กล่าว แต่อย่างน้อยก็ทำให้เขาทราบดีว่าไม่ควรเสียเวลาไปเล่นกับอีกฝ่าย

หากจะเล่นสงครามประสาทกับเขา มาคอยดู...

“ฉันจะบอกอะไรให้แกรู้ไว้นะเอก ฉันเป็นฝ่ายทิ้งแกไม่ใช่แกเป็นฝ่ายทิ้งฉัน ตลอดเวลาที่ออกมาจากชีวิตแกและกำจัดแกออกจากชีวิตได้ ฉันรู้สึกมีความสุขขึ้นมาก ฉันไม่เคยนึกถึงแก เพราะว่าฉันเจอคนที่สามารถให้ฉันได้มากกว่าแกแล้ว” ชายหนุ่มยกยิ้มทั้งยักไหล่ขณะกล่าว ให้เห็นว่าการใช้คำพูดส่อเสียดเขาไม่มีผลอย่างที่เอกณรงค์กำลังคิด

“ไม่จริง...”

“จริง เขาทั้งดีและโง่กว่าแกเป็นร้อยเป็นพันเท่า ให้ทุกอย่างที่ฉันต้องการ ทั้งฐานะเงินทอง ชาติตระกูล ไม่มีอะไรที่แกเทียบเขาได้เลย แล้วแกรู้ไหมว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร...” มาวินแยกเขี้ยวยิ้มราวกับเหนือกว่า ขณะยกนิ้วชี้จิ้มหน้าอกย้ำซ้ำๆ ลงให้อีกฝ่ายเข้าใจถึงความจริง ยิ่งเอกณรงค์ขบฟันกรอดด้วยความขุ่นขึ้งแล้วเขายิ่งมีความสุข เมื่อเกมนี้ฝ่ายเขาเป็นคนนำชัยไปก่อน

แม้เรื่องที่พูดออกไปจะเป็นการกุขึ้นมาก็ตาม

“ไอ้โง่คนนั้นคือแทนคุณ เพื่อนแกยังไงล่ะ”





-------------------------------------------



มาวิน 55555



เป็นการเริ่มพันธะด้วยการมองอีกฝ่ายในแง่ลบ

เรื่องนี้จะไม่เกิดปัญหาถ้านายเอกเป็นแบบนี้ จะไม่เกิดปัญหาถ้าพระเอกไม่ชอบคิดเองเออเอง

เพราะนิสัยแย่ๆของสองคนนี้แหละทำให้ปมเกิดค่ะ

วันนี้ช่วงโควตา อัพเดตให้อ่านกันเลยทีเดียวสองตอน มีคนชอบแนวนี้มั้ยเอ่ย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-10-2016 01:13:34 โดย noonaaRP »

ออฟไลน์ blur

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ชอบแบบเน้ !

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa


ตอนที่ ๓

“จำไว้เลยนะ!”

ทราบดีว่าแทนคุณรวยนักรวยหนาในหมู่เพื่อนรุ่นเดียวกัน หลังกล่าวถึงเพียงแค่ชื่อแล้ว เอกณรงค์ก็หันหลังขวับเข้าไปในรถและบึ่งออกไปอย่างเร็วรี่ ไม่อาจทราบว่าเพราะอะไร อาจเป็นความเสียหน้าจนทนยืนให้เขาดูไม่ได้ มาวินเดินเข้ามาด้านในได้แล้วนั้นก็เขกศีรษะตนเอง เตือนสติให้คิดก่อนจะพูดออกไปเสียบ้าง แล้วอย่างนี้คำพูดของเขาอาจทำให้แทนคุณลำบากได้ ชายหนุ่มฟุบกายลงนอนบนเตียงไม่รู้จะหาวิธีไหนแก้ในสิ่งที่เผลอพูดออกไป

ชายหนุ่มฉุกคิด หรือเขาจะทำอย่างที่พูดจริงๆ

“ทนไปเถอะไอ้วิน ถึงไอ้หมอนั่นมันจะปากหมา แต่มันรวย” ชายหนุ่มนอนแหงนมองเพดานไม้ซึ่งถูกทาสีฟ้าทั่วทั้งห้อง ต่อหน้ามีพัดลมเพดานสีเดียวกันหมุนอยู่เชื่องช้า อย่างไรเสียเขาก็ไม่เคยรักคนที่ตัวเองเกาะอยู่แล้ว แม้ว่าแทนคุณจะมีข้อเสียที่เขาไม่ต้องการอยู่หลายข้อก็ตาม

แต่ไหนจะค่าใช้จ่ายของเอมมิกา ไหนจะเงินที่จะต้องส่งให้ทางบ้าน เขาไม่ได้ส่งให้ท่านสองเดือนแล้ว

และหากแทนคุณรู้เรื่องที่เขาพาดพิงถึง หมอนั่นได้มาบีบคอเขาให้ตายคามือแน่

 

แสงดวงอาทิตย์สาดลอดผ่านป่าซีเมนต์สูงระฟ้าจะเกิดเงาสะท้อนใหญ่ แทนคุณบังคับยานพาหนะอันโดยสารอีกสองบุคคลด้านหลังในยามเช้ามาจอดริมฟุตบาธ ดูเหมือนวันแรกของภาคเรียนฝาแฝดคู่นี้ไม่ตื่นเต้นเท่าที่ควรนัก หากทว่าผู้เป็นพี่ชายก็ย้ำเตือนอยู่เสมอว่าไม่ควรที่จะหยุด สองแสบจึงจำต้องมาด้วย ทิวากรกับเพหายเป็นแฝดชายหญิงที่นิสัยต่างกัน คนหนึ่งจ้อไม่หยุด คนหนึ่งดูเงียบขรึม

เพทายชอบคิดคำนวณ ส่วนทิวากรชอบดนตรี วันแรกของวันแม้ดูเหมือนจะไม่อยากมาเท่าใดนัก ทั้งคู่ยังขนข้าวของสัมภาระมาเต็มประเป๋า

“ดูนั่นสิ ใช่ผู้หญิงที่เราเจอหน้าร้านอาหารวันนั้นหรือเปล่า เรียนที่นี่ด้วยแฮะ” เพทายชี้ไปยังริมฟุตบาธฝั่งตรงกันข้าม ให้พี่ชายและน้องชายหันไปมอง เห็นมาวินยืนโบกมือลาเอมมิกาด้วยรอยยิ้มสดใส เด็กสาวกอดพี่ชายก่อนจะเดินจากไปยังตึกเรียน ก่อให้เกิดเสียงตามมาว่า “ตายจริง แม่คนนี้ หน้าไม่อายแฮะ...”

“ไปเถอะ ไม่ต้องไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวเขาหรอก”

“เปล่าเสียหน่อย งั้นหนูไปแล้วนะคะอาจารย์”

น้องสาวฉีกยิ้มหวานยกมือไหว้ ก่อนจะพากันทยอยลงจากรถ เป็นประจำทุกวันที่แทนคุณจะต้องจอดส่งน้องๆ ลงหน้าโรงเรียน ก่อนตนเองจะเคลื่อนขับเข้าไปด้านในเพื่อจอดในโรงจอดรถประจำตำแหน่ง ชายหนุ่มทอดถอนใจหลังขนแฟ้มเอกสารและแลบท็อปวางไว้บนโต๊ะแล้วเสร็จก็ได้ยินเสียงออดเรียกนักเรียนเข้าแถว

เป็นประจำทุกภาคเรียนที่อาจารย์ฝ่ายปกครองจะขึ้นไปให้โอวาทกับเรียนทั้งหลาย แทนคุณไม่ใช้เวลานานเท่าใดนักหน้าเสาธง เพียงแค่กล่าวถึงกฎระเบียบที่บัญญัติอย่างเคร่งครัดให้นักเรียนใหม่ทั้งหลายทราบและทำตาม ครั้นบทบาทหน้าที่จบลง กิจกรรมหน้าเสาธงสิ้นสุดจึงกลับมาที่ห้องทำงาน ทราบว่ามีคนมารออยู่ก่อนแล้ว

ดูเหมือนว่าเขาจะเดาได้ว่าเป็นใคร

“อา... อาจารย์มาแล้วหรือ”

เป็นมาวินนั่งรออยู่ “ทำไม คุณมีธุระไรกับผม” แสร้งถามไปอย่างนั้น ทั้งที่ทราบอยู่แล้วว่าเพราะเหตุใด

“แหม... ไม่มีแล้วจะมาไม่ได้งั้นหรือ บางทีผมก็คิดถึงผู้ชายที่มอบเซ็กส์อันร้อนแรง...”

“เงียบไปเลย” สิ้นคำปรามมาวินถึงกับต้องหลุดยิ้มขัน ยามเห็นคนนิ่งๆ แสดงความไม่พอใจออกมามันชวนให้รู้สึกสนุกและอยากแกล้งมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะการตัดปัญหาด้วยการพูดสวนขึ้นมาเช่นนี้ ชายหนุ่มยกยิ้ม ยกมือเท้าคางมองชายผู้มีใบหน้าเรียบนิ่งกำลังค้นเอกสารในลิ้นชัก แม้จะดูเหมือนไม่ได้ติดใจถือสาเรื่องที่เขาพูดถึง ทว่ามาวินทราบถึงกลิ่นอายความไม่พอใจลอยอยู่แถวนี้

“ทั้งหมดเก้าพันบาท” แทนคุณเปรยขึ้น

“โห อีกแปดร้อยคุณคิดจะโกงผมงั้นหรือ ผมจำได้นะว่าวันนั้นยังแปดพันสองอยู่เลย” ชายหนุ่มเถียงตาแทบจะถลนออกจากเบ้า เรื่องเงินมาวินจำได้ไม่มีทางลืมแน่ “โรงเรียนนี้มันจะขูดเลือดขูดเนื้อผู้ปกครองมากเกินไปแล้วนะ หากินกับนักเรียนหรือไงกัน”

“แล้วทำไมไม่ไปต่อมหาวิทยาลัยที่เสียค่าเทอมไม่แพงล่ะ ไม่ได้ขอร้องให้อยากมาเสียหน่อย”

“แทนคุณ...” มาวินกอดอกหน้าจริงจัง “ผมรู้ว่าที่นี่มันโรงเรียนหรูที่พวกลูกท่านหลานเธอเขาเรียนกัน แต่เพราะมันขึ้นชื่อเรื่องจบแล้วมีบริษัทรองรับ มีงานทำแน่ไม่ต้องเตะฝุ่น มีบริษัทหลายแห่งรอรับบุคลากรจากโรงเรียนนี้ ผมเองก็อยากให้น้องสาวผมมีชีวิตที่ดี ไม่เหมือนผม”

“อีกแปดร้อยเป็นค่าชุดพละกับชุดว่ายน้ำ” อาจารย์หนุ่มทอดถอนใจอธิบายความจริง “แล้วก็เลิกแดกดันโรงเรียนด้วยคำพูดพวกนี้สักทีนะ ถ้านี่เป็นลูกเรียนคุณหนูจริงค่าเทอมไม่แค่นี้หรอก คนอย่างคุณไม่มีทางพาน้องสาวเข้ามาเรียนได้แน่”

“โคตรใจร้ายเลย” สิ้นประโยค แทนคุณกระตุกยิ้มอย่างอดไม่ไหวขณะมองคนอายุมากกว่ามุ่นคิ้วเปิดกระเป๋าสตางค์นับเงินอย่างตั้งอกตั้งใจ นัยน์ตาคมเพ่งพิศไปยังมือเรียวของอีกฝ่ายขณะถูธนบัตรสีเทาย้ำให้แน่ว่าไม่ซ้อนกัน ก่อนจะส่ายหน้าให้กับความเหนียวหนืดของอีกฝ่าย

 คงเพราะการวางตัวไม่ตรงกับวัยนั่นมันน่าขำกระมัง อย่างไรเสียมาวินก็ยังดูเด็กกว่าอายุจริงอยู่มากโข ดูเด็กกว่าเขาเสียด้วยซ้ำ เพราะดูตัวเล็กกว่า ผิวพรรณสะอาดสะอ้านหมดจดและผมที่ไม่เซทให้เป็นทรง มันพลิ้วยามขยับ

“เฮ้อ... ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือที่ผมเอาเงินคุณมาจ่ายให้คุณเองแบบนี้น่ะหา” คนกล่าวมุ่นคิ้วมองธนบัตรปึกหนึ่งอย่างอาลัยอาวรณ์มัน เรียกให้แทนคุณรีบเอื้อมไปหยิบมาใส่ลิ้นชักแต่เดี๋ยวนั้น ก่อนที่อีกฝ่ายจะนึกเปลี่ยนใจขอคืน

“ผมว่าควรเป็นฝ่ายคุณเสียมากกว่าที่จะรู้สึก เอาเงินของผมมาให้ผมเอง ไม่รู้สึกอะไรหรือไง”

“มันก็จริงนะ แต่...” ชายเจ้าของนัยน์ตาคมผละไปมองคนตรงหน้าขณะเขียนใบเสร็จให้ ท่าทีอันเป็นแววกังวลข้องใจมาวินจางหายไปก่อนที่แทนคุณจะได้เห็น ก่อนเจ้าตัวจะลุกขึ้นยืน รับใบเสร็จไป

“ขอบคุณนะอาจารย์ อ้อ...” แทนคุณนิ่ง มองชายผู้ยืนอยู่ตรงหน้าคล้ายมีเรื่องสำคัญอะไรจะพูดคุยด้วย ชายหนุ่มจึงแหงนมองอีกฝ่ายราวกับต้องการทราบ หากทว่าใบหน้าหมดจดของมาวินกลับเปื้อนยิ้มกระเซ้า ขยิบตาให้ราวกับต้องการแกล้ง “ได้เบอร์ไปแล้ว อย่าลืมโทรหาผมด้วยนะ”

แทนคุณเบิกตากับสิ่งที่ได้ยิน

ชายหนุ่มส่ายหน้าครั้นร่างสูงโปร่งของคนกล่าวเดินทำหน้าเย้าแหย่ออกไป แต่เพราะทราบแล้วว่ามาวินไม่ได้ติดใจเรื่องครั้งเก่าก่อนและวางตัวปกติด้วยแล้ว เหตุใดไม่ทราบ ชายหนุ่มรู้สึกสบายใจกว่าเดิมขึ้นมากยามทำงาน คงเพราะแทนคุณเป็นคนจำพวกย้ำคิดย้ำทำ หากผิดพลาดแล้วเขาจะคิดทบทวนครั้งแล้วครั้งเล่าหาเหตุผลกระมัง ใบหน้าหล่อเหลาส่ายไปตามอารมณ์ ขณะก้มลงอ่านเอกสาร

และรอยยิ้มที่ยังไม่เจือจางลง

หลังจากมาวินไปแล้ว แทนคุณก็ออกไปตรวจระเบียบนักเรียนแต่ละช่วงชั้นตามหน้าที่ กล่าวตักเตือนและให้เวลาทุกคนแก้ไข จากนั้นชายหนุ่มก็กลับมาที่ห้องพักอาจารย์ ทำงานต่อจนถึงเวลาพักเที่ยง แต่ยามคาดว่าจะไปพักแบบสบายกลับเกิดเรื่องขึ้น จู่ๆ อาจารย์พละวิ่งตึงตังมาหาเขาสีหน้าตื่นตกใจ “อาจารย์ครับ แย่แล้ว นักเรียนทะเลาะกันครับ”

“ที่ไหน เรื่องอะไรครับ”

“ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่เพทายเจ็บจนถึงขั้นเลือดตกยางออก ตอนนี้อยู่โรงอาหาร” ได้ฟังชื่อเพทายแล้วชายหนุ่มใจหาย รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังสถานที่เกิดเหตุซึ่งอาจารย์พละเป็นคนนำไป ไม่นานก็เห็นกลุ่มนักเรียนมุงดูกลุ่มใหญ่และคู่กรณีนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างสงบเสงี่ยมรอรับความผิดเพราะอาจารย์คนอื่นห้ามทัพกันแล้ว นั่นคือเอมมิกาที่นั่งก้มหน้าก้มตาอยู่ และเพทายที่กำลังทำแผล

“เกิดอะไรขึ้น ใครจะอธิบาย!” ชายหนุ่มโพล่งถามเมื่อไปถึง

“แม่คนนี้ทำร้ายหนูค่ะ” ฝ่ายน้องสาวชี้ไปยังเอมมิกา

คนถูกกล่าวหาจึงรีบแถลงไข “เพราะเธอมากล่าวหาฉันก่อนไงล่ะ ถ้าอยู่ดีๆ ไม่ปากพล่อยก็ไม่โดนหรอก”

“ก็มันจริงนี่ ฉันเห็นกับตาของฉันถึงได้พูด”

“เธอมันปากเสีย หน้าตาก็ดีแต่ปากเสีย...”

“ฉันไม่ยอมแน่ที่มาทำกับฉันแบบนี้ จะเอาเรื่องเธอให้ถึงที่สุด เธอต้องเสียใจแน่ที่ทำร้ายฉัน!” เพทายกุมร่างตัวเองขึ้นเสียงชี้ไปยังคู่กรณีไม่ยอมหยุด หากปล่อยให้พูดคุยอย่างนี้คงไม่ดีแน่ แทนคุณมุ่นคิ้วมองไปยังเด็กสาวผู้ทำร้ายเพทายนิ่ง เธอไม่เงยขึ้นมาสบตา แม้สีหน้ารู้สึกผิดแต่ก็ไม่ยอมเช่นกัน “ทายไม่ยอมจริงๆ นะพี่แทน พายเจ็บ ไม่รู้กระดูกจะหักหรือเปล่า”

เอมมิกาเงยขึ้นมาสบตาเขาแทบทันที ทำราวกับรู้แล้วว่าคู่กรณีของตนนั้นมีเส้นสายและเกี่ยวข้องกับอาจารย์ฝ่ายปกครอง หากทว่าฝ่ายแทนคุณเองที่รู้สึกกระดากอายแทนน้องสาวที่ทำเช่นนี้ ชายหนุ่มไม่อาจปล่อยเลยตามเลยและต้องถามไถ่ให้ชัดเจนถึงปัญหาอันก่อให้เกิดเรื่องขึ้น แน่นอนว่าจะไม่มีการเข้าข้างฝ่ายเพทายอย่างแน่นอน “แยกกันให้หายอารมณ์ร้อนทั้งคู่ ฉันจะแจ้งผู้ปกครองให้มาพบพรุ่งนี้”

เพทายส่ายหน้า “แต่ว่า...”

“ไม่มีแต่ ฉันจะเอาผิดตามความผิด ไม่มียกเว้นอะไรทั้งนั้น” ดูเหมือนเพทายจะไม่พอใจที่พี่ชายตัดสินใจเช่นนี้ ทว่าหากเขาเป็นพี่ชายที่ตามใจน้องแล้วทำให้งานเสีย ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือที่มีทั้งหมดมันจะสูญเปล่า อย่างน้อยเขาก็อยากตักเตือนพฤติกรรมเธอเสียบ้าง แน่นอนว่าที่บ้านจะต้องไม่พอใจที่ชายหนุ่มตัดสินเช่นนี้ แทนคุณทราบดีถึงเรื่องนั้นว่าจะตามมาในไม่ช้า

อย่างน้อยเขาก็อยากให้ความเป็นธรรมกับเอมมิกาในแง่อาจารย์ฝ่ายปกครองผู้เป็นกลาง แน่นอนว่าเขาก็เคืองขุ่นที่น้องสาวถูกทำร้ายถึงขั้นเลือดตกยางออก ถึงอย่างนั้นแล้ว อย่างไรเสียเขาก็อยากทราบถึงต้นเหตุว่าเพราะอะไรแน่

เพทายถูกพาตัวไปห้องพยาบาลแล้ว แทนคุณให้นักเรียนที่มุงดูออกไปจากบริเวณนี้ หลงเหลือเพียงแค่เอมิกาที่ยังนั่งก้มหน้าก้มตาอยู่ ซึ่งดูเหมือนเธอจะรู้สึกผิดที่ทำ ทว่าก็ยังไม่ยอม ชายหนุ่มจึงเอ่ยขึ้นว่า “ไปพักได้แล้ว นี่เพิ่งเปิดเทอมวันแรกเองนะเอมมิกา ไม่ชอบอยู่แบบเงียบๆ หรือ”

เธอเงยขึ้นมาสบตา “เพราะเขารู้จักกับอาจารย์หรือคะ”

“ฉันไม่ลำเอียงเพราะว่าทายเป็นน้องสาวฉันหรอก”

“แต่หนูก็อยู่เงียบๆ แล้วนะคะ ก็เขามาก่อกวนหนูก่อน...” เด็กสาวแจงทั้งส่ายหน้าตาใส ยิ่งได้รู้จักใกล้ชิด ดูเหมือนความรู้สึกระหว่างเขาต่อเด็กคนนี้ยิ่งเปลี่ยนไปเรื่อย ตอนแรกคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงเจ้าเล่ห์หลอกเงินจากมาวิน หนสองคิดว่าช่างเป็นน้องสาวที่เอาแต่ใจและเห็นแก่ได้ ให้พี่ชายดิ้นรนหาเงินปรนเปรอความอยากได้อยากมีของตนเองโดยไม่สนว่ามาวินจะเหน็ดเหนื่อยเพียงไหน

แต่ตอนนี้ ดูเหมือนเธอจะเป็นเพียงเด็กสาวจอมซื่อที่มีความแข็งแกร่งซ่อนอยู่ภายใน แทนคุณทรุดกายนั่งลงข้างเด็กสาว มองมือบอบบางของเธอกุมข้อศอกที่เลือดซึมเปื้อนออกมา “ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่เพราะต้องเป็นกลาง ฉันก็เลยอยากให้เธอกับทายปรับความเข้าใจกัน”

“หนูก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ หนูไม่เข้าใจเลยสักนิด หล่อนเอาเรื่องที่หนูขายตัวมาจากไหน คนสมัยนี้ทักทายคนอื่นด้วยวิธีนี้หรือคะ” คนกล่าวเงยขึ้นสบตา “หนูอยากรู้ว่าที่เห็นกับตาของเขาน่ะ หมายความว่ายังไง”

วินาทีนั้นแทนคุณใจหาย มองแววตาของนักเรียนในการดูแลด้วยความรู้สึกผิดกึ่งโมโหเพทายอยู่ในที จากนึกเคืองขุ่นที่เธอถูกทำร้าย เขาอยากดึงน้องสาวเข้ามาสั่งสอนเรื่องคำพูดคำจาเสียใหม่ต่อหน้ามารดา เหตุใดเธอจึงทำร้ายเอมมิกาเช่นนี้ ด้วยการกล่าวหาว่าเป็นผู้หญิงขายตัว ชายหนุ่มทอดถอนใจก้มมองข้อศอกเปื้อนเลือดของเด็กสาวอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าไปยื่นให้

“เช็ดเลือดออกหน่อยซี ไม่เจ็บใช่ไหม”

“ขอบคุณค่ะ” เด็กสาวรับไปถือ ระบายรอยยิ้มเล็กน้อย แม้ร่างกายจะผอมบางทว่าเอมมิกาดูแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิด ดูเหมือนเธอจะเป็นน้องสาวในอุดมคติของเขาด้วย ไม่เว้นแต่มาวินที่เฝ้าเอาอกเอาใจ “ไม่ต้องกังวลเรื่องที่เกิดขึ้นหรอก ฉันจะบอกกับผู้ปกครองเธอเอง แล้วจะอธิบายให้เขาเข้าใจ”

“พี่วินต้องโกรธมากแน่”

“ไม่หรอก ฉันจะอธิบายให้เขาเข้าใจเอง เธอไปพักเถอะ” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน ก้มลงมองเด็กสาวตรงหน้าขณะขยับกายจะลุก วินาทีแรกนึกประหลาดแก่ใจกับใบหน้าซีดเผือดของเธอ แม้คราแรกจะยังปกติดีอยู่ แทนคุณใจหาย หลังเห็นเอมมิกาฟุบลงกุมท้องตนเองส่ายหน้าบอกว่าลุกไม่ไหว

สุดท้าย ร่างบอบบางนั้นก็ทรุดลงกองกับพื้นร้องบอกว่าเจ็บและไม่มีแรง

แทนคุณใจหายอีกครั้ง อุ้มเอมมิกาวิ่งไปยังห้องพยาบาล

ท่ามกลางสายตานักเรียนกลุ่มหนึ่ง

แน่แล้ว อาจารย์ฝ่ายปกครองหนุ่มหวังเพียงว่าให้เอมมิกาปลอดภัยและอยากทราบว่าเธอเป็นอะไร ชายหนุ่มทรุดลงนั่งสอบถามอาจารย์ประจำห้องพยาบาล ขณะปรายตามองนักเรียนสาวนอนหลับบนเตียง “แล้วเอมมิกาเป็นอะไรครับอาจารย์ ดูเหมือนจะปวดท้องมาก”

“คงจะเป็นโรคกระเพาะน่ะค่ะ นี่ทานข้าวไม่ตรงเวลาเลยปวดขึ้นมา”

แทนคุณพยักหน้ารับ นึกถึงหน้าพี่ชายของเจ้าตัวแล้วก็ทอดถอนใจ คงถูกอีกฝ่ายตำหนิยกใหญ่แน่ที่ดูแลเอมมิกาไม่ดี เพียงแค่จ่ายค่าเทอมมาวินยังบ่นอยู่ไม่ยอมพัก แล้วนี่ถึงขั้นเจ็บปวดและปล่อยให้โรคกระเพาะกำเริบอีก แทนคุณครุ่นคิดก่อนจะทอดถอนใจ ขณะก้มลงมองเบอร์โทรศัพท์บนหน้าจอ ตรองว่าจะโทรหามาวินตอนนี้ดีหรือไม่

เขาพร้อมจะหูชาแล้วหรือยัง

 

เสียงนักเรียนชายเล่นบาสเกตบอลด้านล่างของตึกดังสะท้อนก้องโสตเด็กสาวให้รู้สึกตัวตื่น เอมมิกาพลิกกายนอนตะแคง มองเห็นพระอาทิตย์ฉายแดดสีส้มลอดผ้าม่านเข้ามาด้านใน เด็กสาวนึกตกใจแหงนมองนาฬิกา บ่งบอกเวลาใกล้พลบค่ำเต็มทีก็รีบกุลีกุจอลุกขึ้นนั่ง เหตุใดจึงไม่มีใครมาปลุกให้เธอกลับบ้านกัน เอมมิกาปัดป่ายปอยผมออกจากใบหน้าขณะกำลังลุกออกจากเตียง

ย่ำเท้าไม่กี่ก้าวก็ถึงประตู หากทว่าใจนึกหายครั้นมันเปิดไม่ออก เอมมิกาออกแรงเปิดเต็มที่หากทว่าไม่สามารถเปิดประตูบานนี้ได้ เกิดอะไรขึ้นกัน “ใครอยู่ข้างนอก อาจารย์คะ เปิดประตูทีค่ะ!”

เด็กสาวเบิกตา เธอได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของใครสักคนอยู่หลังประตู ร่างบอบบางวิ่งกลับไปยังหน้าต่างมองลอดกระจกไปเห็นนักเรียนบางกลุ่มกำลังจะกลับกันแล้ว เธอหอบหายใจด้วยความตกใจ ทำอะไรไม่ถูก ท้ายที่สุดก็กลับไปพยายามเปิดประตูอีกครั้ง

ใครกัน ใครกันที่แกล้งเธอ!

“เปิดประตู ใครอยู่ข้างนอก เปิดประตูเดี๋ยวนี้!” ภายในห้องเงียบกริบหลงเหลือเพียงเอมมิกาคนเดียว เด็กสาวกลั้นความหวาดกลัวในใจออกแรงทุบประตูเรียกคนช่วย เธอไม่อยากนอนในห้องนี้คนเดียวตลอดทั้งคืน “ช่วยด้วยค่ะ มีคนอยู่ในนี้!”

“ใครน่ะ...”

“ช่วยด้วยค่ะ มีคนอยู่ในนี้!” เอมมิกาทุบประตูสุดแรงเมื่อได้ยินเสียงของใครสักคน ใจเธอชื้นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงคนเปิดประตู วินาทีแรกที่เห็นว่าเป็นแทนคุณ เด็กสาวตัวสั่นพุ่งเข้าไปสวมกอดแน่นด้วยความกลัวทั้งร้องไห้ “หนูคิดว่าต้องอยู่ที่นี่คนเดียวแล้ว ฮือ... อาจารย์”

“ฉันคิดว่าเธอกลับไปแล้วเสียอีกตอนเดินผ่านรอบแรกแล้วเห็นประตูล็อก เธออยู่ในนี้ ทำไมไม่มีใครปลุก ยังดีที่ฉันยังไม่ได้กลับบ้านแล้วเดินผ่านมาพอดี” มือหนาลูบบ่าเด็กสาวอยู่ครู่หนึ่งอย่างนึกข้องใจว่ายังมีใครต้องการแกล้งเอมมิกาอีก ทว่ามิใช่เพทายน้องสาวของเขาแน่ เธอกลับบ้านไปแล้ว

ดูเหมือนว่าเขาจะต้องจริงจังกับการจัดการเรื่องนี้!

 “ไปเอมมิกา ฉันจะไปส่งที่บ้าน จะได้คุยกับผู้ปกครองเธอเรื่องนัดพรุ่งนี้ด้วย” ชายหนุ่มเดินนำหน้า แม้หางตาจะชำเลืองไปเห็นเงาของอะไรบางอย่างหลังผนังมุมหนึ่งของอีกฝั่ง

แต่ยัง...แทนคุณจะจัดการต้นสายปลายเหตุที่ก่อเรื่องนี้ขึ้นมาในอีกไม่ช้า





--------------------------------------------

มาอัพให้อ่านแล้วจ้า

ออฟไลน์ blur

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตามอ่านอยู่น้า ชอบแนวนี้อะ

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
ตามอ่านอยู่น้า ชอบแนวนี้อะ
จ้าาา จะขยันอัพเดตนะคะ

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa



ตอนที่ ๔


หลังจากเห็นว่ามีใครซ่อนอยู่อีกมุม แทนคุณแสร้งมองไม่เห็นเพื่อจบเรื่องของวันนี้ไปก่อน ร่างสูงย่างเท้าเดินต่อไปอย่างแนบเนียน ให้เอมมิกาเดินตามหลังมายังรถคันประจำตำแหน่งที่จอดอยู่ในโรงรถ วินาทีแรกเด็กสาวดูมึนงง ก้มลงมองรถของเขาอยู่ครู่หนึ่งราวกับครุ่นคิดบางอย่าง ก่อนจะเอ่ยถามในที่สุด

“นี่รถอาจารย์หรือคะ เหมือนหนูเคยเห็นมันจอดที่บ้านมาก่อน อาจารย์รู้จักกับพี่วินด้วยหรือ”

แทนคุณมองสีหน้าคนถาม ทำเป็นเดินมาเปิดประตูรถให้เธอขึ้นนั่ง “เปล่า เธอคงจะจำคันผิดแล้วแหละ”

“แต่...”

“ขึ้นรถไปเถอะ เดี๋ยวผู้ปกครองเธอได้โมโหที่กลับบ้านช้าพอดี” เด็กสาวเก็บข้อโต้เถียงไว้ในใจกับความขุ่นข้อง เธอทรุดกายนั่ง มองตามร่างสูงใหญ่ของแทนคุณเดินวนไปนั่งอีกฝั่งบังคับรถเคลื่อนออกไปจากโรงเรียน

ที่จริงแทนคุณอายุน้อยกว่ามาวินก็หลายปี ทว่าดูเหมือนแทนคุณจะมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าพี่ชายเธอเป็นเท่าตัว เด็กสาวเอนกายพิงพนักเบาะชำเลืองมองคนขับพร้อมระบายยิ้มยามนึกถึงสีหน้าเง้างอนของพี่ชาย ยามขอความรักจากเธอ ถึงแทนคุณจะดูเป็นพี่ชายที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติก็จริง หากไม่มีใครเทียบเท่ามาวินของเธอได้ เขาคือฮีโร่ของเอมมิกาอย่างแท้จริง

ความเงียบกัดกินระหว่างทั้งคู่กว่าสิบนาที ชวนให้เอมมิกาอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย หรือเป็นเพราะเด็กสาวถามถึงความจริงที่เขารู้จักกับมาวินหรือเปล่า เธอลอบถอนใจวางตัวไม่ถูก ทว่าก็คิดอยู่ในใจว่าเหตุใดแทนคุณต้องปกปิดด้วย รู้จักกับพี่ชายเธอก็ไม่ได้แย่ไปเสียทีเดียวนี่

“แล้วนี่เธออยู่กับพี่ชายเพียงสองคนเท่านั้นเองหรือ”

เสียงทุ้มเปรยขึ้นขณะมองทอดออกไปยังท้องถนนยามค่ำ

“ค่ะ เราเป็นคนต่างจังหวัด พี่วินไปรับหนูมาอยู่ด้วยเมื่อสามปีก่อน ที่จริง... เราเป็นพี่น้องคนละแม่น่ะค่ะ”

“ไม่แปลกหรอก” แทนคุณตอบ เรียกให้เด็กสาวเงยไปมอง “ฉันเองก็เป็นลูกคนละพ่อกับทายเหมือนกัน”

“ว่าแล้วเชียว...” สิ้นคำของเด็กสาว แทนคุณเข้าใจความรู้สึกของเอมมิกาที่เอ่ยคำนี้อย่างไม่ต้องนึกสงสัยว่าเพราะเหตุใด “คือ... หนูหมายถึง อาจารย์กับเขาดูไม่เหมือนกันสักนิดเดียวเลยน่ะค่ะ ไม่ว่าจะหน้าตา และนิสัย หนูเองก็เป็นเหมือนกัน ต่างกับพี่วินไปคนละโยชน์เลย”

“ยังไง”

“ก็พี่วินเขาเป็นพวกแบกรับความรู้สึกเก่ง กล้าหาญที่จะเผชิญปัญหาเพียงคนเดียว ส่วนหนูเป็นพวกบ้า หนูทนไม่ได้ที่ใครจะมาดูถูก ถ้าดูถูกหนูเพียงคนเดียวไม่เป็นไร แต่สำหรับพี่วินแล้วหนูไม่ยอมให้ใครว่าเขาเด็ดขาด พี่วินเป็นเหมือนทุกอย่างสำหรับหนู” เด็กสาวคลี่ยิ้มยามเล่าถึงคนที่บ้านอย่างภาคภูมิ หากทว่ายิ่งทำให้แทนคุณมองหน้าอีกฝ่ายไม่ติด

เอมมิกาคงไม่รู้ เขาเป็นหนึ่งในคนที่ดูถูกพี่ชายเธอ

“เขาดูภูมิใจที่ได้ดูแลเธอนะเอมมิกา ฉันหวังว่าเธอจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง” ชายหนุ่มปรายตามองเด็กสาว ขณะเคลื่อนรถไปจอดหน้ารั้วอันเป็นเอกลักษณ์ ตรงหน้ารั้วไม้สีฟ้าตั้งล้อมรอบตัวบ้านสีฟ้าทั้งหลัง ที่เดิมที่เขาเคยขับรถจากมา

ไม่แปลกที่แทนคุณจะจำได้ ชายหนุ่มดับเครื่องยนต์มองทอดออกไปนอกรถเห็นไฟบ้านเปิดทิ้งไว้ ไม่นานก็พบร่างสูงโปร่งของมาวินวิ่งออกมายืนรอ ทำราวกับรู้ว่าน้องสาวตนเองมาถึงแล้ว

“ขอบคุณนะคะอาจารย์ แล้วก็... อาจารย์โกหกไม่เนียนเลยนะคะ” เอมมิกาฉีกยิ้มกล่าว ชวนให้ชายหนุ่มนึกประหลาดใจในสิ่งที่ได้ยิน โครงหน้าหล่อฉายความฉงนอยู่ครู่หนึ่งขณะมองเด็กสาวยกนิ้วชี้ชี้ล้อเลียน “อาจารย์รู้ทางมาบ้านหนูได้ยังไงถ้าไม่เคยมาที่นี่คะ อีกอย่าง รถของอาจารย์แพงแล้วก็เป็นรถนอกด้วย หนูว่าในจังหวัดนี้อาจมีแค่รถอาจารย์คนเดียวเท่านั้นแหละค่ะ”

สิ้นคำเด็กสาวแล้ว ชายหนุ่มปรับสีหน้าอยู่ชั่วอึดใจหนึ่งเพราะลืมฉุกคิดถึงเรื่องนั้น ไม่คิดว่าเอมมิกาจะฉลาดเกินวัย แทนคุณมองตามร่างบอบบางในชุดนักเรียนลุกเดินอ้อมไปกอดแขนพี่ชาย ก่อนจะเปิดประตูรถออกไปสมทบ

“อาจารย์นี่เอง”

มาวินทักทายขณะมองตามร่างสูงเดินเข้ามายืนขนาบข้าง อันที่จริงชายหนุ่มอยากบอกมาวินว่าไม่จำเป็นแล้วที่จะแกล้งไม่รู้จักกัน “เอม ขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าก่อนไป จะได้ลงมากินข้าว อาจารย์เองถ้าไม่รังเกียจก็เชิญมาทานมื้อเย็นด้วยกันซี”

“จริงสินะคะ ถึงกับข้าวที่นี่จะเป็นเมนูบ้านๆ แต่ฝีมือพี่วินก็เก่งไม่หยอกนะ” เอมมิกาเชิญชวน

“ไม่ดีกว่า จะเป็นการรบกวนเกินไป”

“งั้นดีแล้ว จะได้ไม่เปลือง” มาวินกอดอก น้องสาวหัวเราะร่วนครั้นได้ฟังพี่ชายขณะวิ่งเข้าไปในบ้าน หลงเหลือเพียงสองหนุ่มยืนมองหน้ากันตรงนี้

“ขอบคุณที่ชวน”

แทนคุณเดินไปพิงกายบนรั้วสีฟ้าของบ้านปล่อยให้ความเงียบดำเนินเข้ามาระหว่างคนทั้งสอง ไม่เพียงแค่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน มาวินเองก็ชอบที่จะเงยมาแอบมองราวกับต้องการกระเซ้าเย้าแหย่เขาอยู่ในที

มองรอบกาย เห็นเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ สำหรับคนฐานะปานกลางเรียงกันอยู่หลายหลัง ถนนตรงนี้อยู่ในซอยแคบพอให้รถสวนกันได้ มีต้นไม้น้อยใหญ่ร่มรื่นในบ้านแต่ละหลัง และไม่ห่างไกลโรงเรียนมากนัก แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่เขามาที่นี่เสียหน่อย ชายหนุ่มคิดแล้วจึงหันไปเริ่มประเด็นเมื่อนึกถึงโรงเรียน

“ผมโทรหาคุณเมื่อตอนบ่าย แต่ดูเหมือนคุณจะไม่ว่างที่จะคุย”

“ผมติดธุระก็เลยยังรับไม่ได้ แล้วนี่แค่ไม่รับสาย คิดถึงผมจนต้องมาหาถึงบ้านเลยหรือไงครับอาจารย์”

แทนคุณส่ายหน้า “ไร้สาระน่า”

“มันก็ไม่ได้ไร้สาระขนาดนั้นสักหน่อยนี่” คนตอบชะโงกหน้าเข้ามาใกล้อีกทั้งฉีกยิ้มกว้าง “โอ้ ขยับเข้ามาใกล้ ๆ แบบนี้กลิ่นตัวคุณหอมใช้ได้เลยแฮะ นี่แหละน้าคนทำงานสบาย วัน ๆ ก็อยู่แต่ในห้องแอร์ไม่ต้องไปตากแดดตากลมทำงานหนัก”

คนกล่าวแสร้งโน้มลงสูดลมใกล้กว่าเดิมก่อนจะเงยขึ้นมาสบตา เห็นเพียงสีหน้าเดิมของผู้ถูกกระทำก็จำต้องกระถดออกเว้นระยะห่าง “เฮ้อ... ไปกินรังแตนมาจากไหนนะ ดุชะมัด”

ได้ฟัง แทนคุณจึงจำต้องถอนใจ “เพราะผมไม่ชอบที่คุณมาทำแบบนี้ คุณทำเหมือนตัวเองถือไพ่เหนือกว่าอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่พูดว่าทุกอย่างจบลงไปแล้ว แล้วคุณพยายามจะรื้อฟื้นมันขึ้นมาอีกทำไม”

“เพราะผมยังไม่อยากให้มันจบไง”

“คุณต้องการอะไร เงินหรือ...” แทนคุณมุ่นคิ้ว อันที่จริงเขามาที่นี่ไม่ได้ต้องการพูดคุยเรื่องนี้ ชายหนุ่มทอดถอนใจกับคำถามของตัวเองที่เผลอพ่นคำพูดหมิ่นเกียรติมาวินอีกครั้ง ชายหนุ่มส่ายหน้า อยากจบกับเรื่องไม่เป็นเรื่องพวกนี้ “แต่ช่างมันเถอะ ที่ผมมาหาคุณเพราะว่าเอมมิกาไปมีปัญหากับนักเรียนคนอื่น ผมอยากให้คุณพาเอมมิกาไปฟังคำขอโทษจากปากเด็กคนนั้น เจอกันพรุ่งนี้แล้วกัน”

“เดี๋ยวซี...” คนฟังมุ่นคิ้วร้องเรียก มองตามคนตัวสูงใหญ่เดินดุ่มๆ ไปยังรถคันหรู “นี่ ที่ผมหมายถึงน่ะไม่ใช่ว่าอยากจะทำให้คุณลำบากหรอกนะ แล้วก็ไม่ได้จะแกล้งอะไรด้วย ผมแค่อยากจะไปต่อ... ผมอยากให้เรื่องของเรามีมากกว่าแค่คืนนั้น”

มือหนาสะดุดกับประโยคเมื่อครู่ขณะจะเปิดประตูรถ นัยน์ตาก้มลงมองมือที่เอื้อมมาดันมือเขาไว้ไม่ให้เปิดประตูออก “อะไร หมายความว่ายังไง”

“คือ... ผมรู้ว่ามันแปลก แต่ผมยังไม่อยากให้มันจบลงแค่เราทำเป็นไม่รู้จักกัน”

มาวินกลืนน้ำลายเอ่ยเสียงเบา สร้างความสนเท่ห์แก่ผู้ฟัง

เจ้าของร่างสูงก้มลงมองมืออีกฝ่ายที่เคลื่อนรั้งเขา ก่อนจะเบี่ยงสายตาไปมองว่าอีกฝ่ายมีสีหน้าจริงจังเพียงไหน แต่ทว่านอกจากความเงียบกริบแล้ว แทนคุณยังไม่สามารถหาคำตอบไปตอบอีกฝ่ายได้ในทันที แทนคุณไม่อาจหาเหตุผลมาแจงตนเองได้ว่าเพราะอะไรอีกฝ่ายจึงพูดกับเขาเช่นนั้น และตนเองควรเชื่อใจคนอย่างมาวินได้หรือไม่ อันดับแรกยอมรับเลยว่าไม่

เพราะมาวินเพียงพบกับเขาแค่ไม่กี่ครั้ง

และอีกหนึ่งอย่างเหนือสิ่งอื่นใด คือเขาทั้งคู่เป็นผู้ชาย

 

สายน้ำประสมฟองสบู่ไหลเอื่อยลงไปตามร่างหนาเปลือยเปล่า มือเรียวยกขึ้นสางผมซึ่งตกมาปรกหน้าขึ้นขณะแหงนล้างฟองสบู่ออกจากร่างกาย ยามหลับตา ชายหนุ่มผู้เผชิญปัญหาก็ขมวดคิ้วมุ่นกับภาพบางภาพที่แล่นซ้อนเข้ามาในสมอง

หลังจากแยกจากกับมาวินวันนั้น มาวินไม่ได้มาพบเขาอย่างที่นัดแนะกันไว้ในวันถัดไป แต่เพราะอีกฝ่ายคงทราบดีว่าน้องสาวตนเองไม่ได้มีความผิดที่ก่อเรื่องก่อนกระมัง แทนคุณให้เพทายขอโทษเอมมิกาก่อนเรื่องที่กล่าวหาให้ร้าย และดีที่เอมมิกาไม่ถือโทษเอาความ ซ้ำยังเอ่ยขอโทษที่โมโหจนต้องไปทำร้ายร่างกายอีกฝ่าย ทั้งที่ต่างฝ่ายต่างก็ใช้กำลังกัน

แทนคุณคิดว่ามาวินคงไม่พอใจ อีกนัยหนึ่งคือคงไม่อาจหาญมาพบหน้าเขา แทนคุณจำได้ว่าวันนั้นเขาตกใจไม่น้อยที่ได้ยินมาวินพูดว่าอยากจะสานสัมพันธ์ต่อกับเขา ใบหน้าของอีกฝ่ายคล้ายกังวลขณะพยายามกล่าวอธิบาย

แต่มันเป็นเรื่องที่สิ้นคิด

“นี่เป็นบ้าอะไร” แทนคุณไม่รู้จะพูดอะไรตอบกลับไป เขาอยู่ในช่วงวินาทีสรรหาคำมากล่าว และมาวินดูเหมือนจะหน้าถอดสีลงไปเมื่อได้ฟัง “ถึงผมจะเคยนอนกับคุณ นั่นไม่ได้หมายความว่าผมชอบคุณหรือว่ามีรสนิยมเรื่องเพศแบบเดียวกับคุณหรอกนะมาวิน ดูปากผมให้ดีนะ ผมไม่ได้เป็นเกย์!”

“แต่... ฉันหมายถึง...”

“วันนั้นผมก็แค่ไม่มีทางเลือก แล้วคุณก็เปิดโอกาสให้ผม รู้ไว้ซะ...”

แน่นอนแล้ว มาวินนิ่งอึ้งกับคำที่เขาเอ่ยเป็นคำตอบในวันนั้น แต่เพียงเพราะแทนคุณอยากจบปัญหาที่ค้างคามาทั้งหมด เขาจึงต้องบอกกับอีกฝ่ายไปตรงๆ ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น กล่าวจบเขาก็เลือกเดินจากมาไม่ฟังคำพูดของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย

แต่สีหน้าของมาวินวันนั้นยังตราตรึง ทับซ้อนความคิดเขาแม้จะผ่านมาหลายวันแล้ว

เขาควรจะลืม

ชายหนุ่มพ่นลมหายใจ เดินออกจากห้องน้ำพลางเช็ดทำความสะอาดเส้นผมที่ปรกหน้าปรกตาขณะสวมเพียงผ้าขนหนูผืนเดียว เพราะต้องการทำให้ตนเองหลุดพ้นจากเงื้อมมือมาวิน กลับชักจูงตนเองให้มาติดแหงกกับความคิดบ้าๆ ยามนึกถึงสีหน้าของอีกฝ่าย ชายหนุ่มทรุดกายลงมองหน้าจอโทรศัพท์ เห็นเป็นเบอร์ของนพพล รุ่นน้องคนสนิทติดต่อมาก็กดรับสาย

“มีอะไรไอ้พล”

ในสายเสียงดังคล้ายอยู่ในสถานบันเทิงที่ไหนสักแห่ง รุ่นน้องตะโกนแทรกเข้ามาว่า “พี่แทน อยู่ไหน เลี้ยงเหล้าหน่อยสิพี่!”

“แกโทรหาฉันเพระเรื่องไร้สาระนี่น่ะหรือ”

“โธ่พี่ ผู้ชายเราจะเจอกันได้ก็ต้องเป็นที่แบบนี้แหละน่า มาเจอกันหน่อยสิพี่ ผมจะรอที่เดิม ห้ามเบี้ยวด้วย โอ้! พี่วิน...” นพพลตัดสายไปเสียแบบไม่รอให้เขาเอ่ยปฏิเสธ แทนคุณมุ่นคิ้วขณะสางผมยุ่งให้เขาทรง เพราะท้ายบทสนทนาก่อนจะวางสายไป นพพลได้เอ่ยชื่อของใครสักคน

หวังว่าเขาจะไม่เจอมาวินที่นั่น ขอให้คนที่นพพลเรียกไม่ใช่คนเดียวกันกับคนที่แทนคุณไม่อยากพบทีเถิด

ครั้นเดินทางมาถึง แทนคุณรู้สึกโล่งใจที่เห็นว่าไม่มีมาวินนั่งร่วมวงด้วย เป็นนพพลและกลุ่มเพื่อนรุ่นเดียวกันเท่านั้น ทั้งหมดยกมือไหว้เขาราวกับรู้ว่านี้คือเจ้ามือใหญ่ในวันนี้ ชายหนุ่มไม่เพียงไม่เคืองขุ่นใจ อย่างน้อยนพพลก็บอกไว้ล่วงหน้าและรู้จักพอประมาณ

ชายหนุ่มทั้งโล่งใจและอึดอัดอยู่ในที ขณะมองท่ามกลางแสงสีและความมืดสลัวของบรรยากาศโดยรอบ ไม่รู้ว่านานเท่าไรที่เขากวาดสายตา นอกจากจะเห็นกลุ่มหญิงสาวที่ส่งยิ้มทักทาย ชายหนุ่มก็เพียงแค่ยิ้มรับขณะยกแก้วดื่ม อย่างน้อยประสบการณ์ก็ทำให้ทราบแล้วว่าไม่ควรรับแก้วจากใครง่ายๆ แต่เพราะแทนคุณก็คือแทนคุณ ชายหนุ่มยกมือถือในกระเป๋าขึ้นมาดูด้วยความไม่สบายใจ

สายจากที่บ้านยังขึ้นเตือนอยู่ แม้นว่าเขาจะออกมาได้นานโข

หลังจากควบคุมสติไม่ให้ดื่มมากจนเกินขับรถได้ แทนคุณขอละออกมาเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นขึ้นกว่าเดิม ขณะเดินออกมาด้านนอกก็ถูกร่างหนึ่งปะทะเข้าอย่างจัง ไม่เพียงไม่ล้มแล้ว อีกฝ่ายที่เป็นคนทรุดลงนอนกับพื้นยังขึ้นเสียงใส่ “เดินไม่แหกตาดูทางหรือไงวะ!”

“ขอโทษครับ”

แต่เสียงของอีกฝ่ายเมามายเกินจะพูดรู้เรื่อง เรียกว่าฝ่ายตนเองเมาจนเซถลามาใส่ผู้อื่นจะถูกมากกว่า แต่เมื่อนึกได้ว่าเสียงนี้คุ้นชินนัก และทราบว่าเป็นมาวินแน่แล้ว แทนคุณนึกประหลาดใจมองเจ้าตัวกำลังพยายามจะกุมจัดแจงกางเกงตนเองให้ไม่หลุดลุ่ย นัยน์ตาคมจึงมองไปยังอีกมุมที่คู่กรณีวิ่งมา ก่อนจะช่วยพยุงให้มาวินลุกขึ้น ไม่นานก็เห็นร่างสูงของเอกณรงค์วิ่งตามออกมา

“แกทำอะไร!” แทนคุณร้องถาม ขณะพยุงให้มาวินลุกขึ้นยืน

อีกฝ่ายมีสีหน้าตกใจ “ฉะ ฉันเปล่า...”

“แล้วนี่อะไร!”

“ก็มันยั่วฉันเองนี่หว่า แกเองก็ระวังให้ดีเถอะไอ้แทน ไอ้พี่วินมันหิวเงินจะตาย ซักวันจะโดนมันหลอกจนหมดตัว!” เอกณรงค์เดินจากไปโดยทิ้งประโยคแปลกๆ ให้แทนคุณรับฟัง หลงเหลือเพียงแค่เขาและมาวินที่ยืนอยู่มุมนี้ ชายหนุ่มผละไปมองคนดิ้นพล่านผลักเขาออก ท้ายสุดอีกฝ่ายใช้กำลังจนร่างเขาเซพิงกำแพง

“โอย นี่!”

ชายหนุ่มยกมือลูบศีรษะที่โขกกับผนังด้วยความเจ็บ อีกอย่างก็อยากจะเอาคืนขณะที่ฝ่ายเมาบ้าง แต่ครั้นจะแตะต้องอะไรมาวินก็เอาแต่ส่ายหน้า บ่นพึมพำไล่ให้เขาออกห่าง วินาทีที่ได้ฟังแทนคุณก็นึกอยากจะทำอย่างนั้นจริง แต่หากทิ้งอีกฝ่ายไว้ด้วยสภาพเช่นนี้ เขาคงเป็นคนรู้จักที่ใจจืดใจดำเกินไป อย่างน้อยมาวินก็เคยดูแลเขาคืนหนึ่งอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

วินาทีที่หามคนอายุมากกว่าลงนั่งบนเบาะ แทนคุณสัมผัสถึงความกระหายบางอย่างในลมหายใจที่พ่นออกมารดใบหูเขา ยิ่งอีกฝ่ายไม่ยอมปล่อย ดึงรั้งให้เขากอดไว้อย่างแนบแน่นยิ่งย้ำเตือนกับแทนคุณว่า มาวินกำลังเผชิญปัญหาเดียวกันกับวันแรกที่ทั้งคู่ได้พบกัน

ชายหนุ่มครุ่นคิดด้วยความเป็นกังวล เกรงว่าหากพากลับไปบ้านให้เอมมิกาเห็นพี่ชายในสภาพนี้คงไม่ดีแน่

นัยน์ตาคมชำเลืองมองร่างของอีกฝ่ายซึ่งกอดกุมตัวเองแน่น หลังคิดได้ว่าต้องพามาวินไปที่ไหน

บ้านพักที่เขาซื้อทิ้งไว้มิให้ใครรู้แม้แต่แฝดผู้เป็นน้องทั้งคู่ หวังว่าจะปลีกตัวออกมาใช้ชีวิตเพียงลำพัง ไม่คิดว่าคนที่รู้แหล่งกบดานของเขาคนแรกจะเป็นมาวินเสียได้ ชายหนุ่มพยุงกายคนเมาไปทิ้งตัวนอนบนโซฟากลางบ้าน เดินไปเปิดไฟแล้ววกไปหยิบผ้าชุบน้ำเช็ดตัวให้ ซึ่งดูเหมือนมาวินจะได้สติขึ้นมาบ้างแล้ว

“ที่นี่... ที่ไหน”

อีกฝ่ายถามขึ้นพร้อมสางผมยุ่งของตัวเองขยับลุกขึ้นนั่ง มองตามเจ้าของสถานที่เดินมาใกล้ “บ้านผมเอง มานี่... มาเช็ดตัวก่อน...”

“ไม่จำเป็น! เอม! ฉันจะไปหาเอม”

แทนคุณระอาแก่ใจเล็กน้อยยามเห็นอีกฝ่ายสิ้นสภาพ ล้มลุกคลุกคลานจะออกไปหาน้องสาว “นี่คิดจริงๆ หรือว่าเอมมิกาจะภาคภูมิใจที่เห็นพี่ชายตัวเองอยู่ในสภาพนี้น่ะ” ชายหนุ่มย่างสามขุมไปดึงให้กลับมานั่งที่เดิม นัยหนึ่งก็รู้สึกหวิวโหวงกับภาพที่เห็น “มานี่มาวิน...”

“ปล่อย ฉันจะไปหาเอม!”

“ผมจะไปส่งคุณพรุ่งนี้ เอมนอนหลับไปแล้ว...” มือหนากำบ่าสองข้างผู้ฟังแน่นอย่างนึกใส่อารมณ์ เมื่อเห็นว่าคนเมาไม่ฟังความอะไรทั้งสิ้น

“มันเจ็บนะโว้ย!”

“ก็หัดฟังกันบ้างสิ”

“นายรู้ใช่ไหมว่าฉันเป็นอะไร ถ้าอยากจบทุกอย่างก็ควรปล่อยให้ฉันออกไป ไอ้แทน!”

แทนคุณกัดฟันกรอด มาวินถูกวางยาข้อนี้เขาทราบดี และแทนคุณเองก็ทราบว่ามันเป็นอย่างไร แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะระงับอารมณ์ความอยากของตัวเองได้ด้วยการหนีออกไป ชายหนุ่มเบิกตา มองใบหน้าแดงก่ำของอีกฝ่ายขณะถูกผลักให้ทรุดนั่งลงบนโซฟา รับจูบแบบกะทันหันของเจ้าตัว

ทั้งหักห้ามตัวเอง อดกลั้นไปกับความต้องการ

ดูเหมือนมาวินจะเก็บกลั้นความรู้สึกเก่งอย่างที่เอมมิกาพูด แต่ตอนนี้การเห็นสิ่งที่อีกฝ่ายค่อยๆ เผยออกมามันทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเหนือกว่า แทนคุณไม่อาจเล่นกับความรู้สึกของอีกฝ่ายได้ แม้ใจจะเต้นโครมครามกับจูบเร่าร้อนของคนที่นั่งอยู่บนตักนำจูบด้วยความอยากรู้ว่าอีกจะทำอย่างไรต่อไป

“นายจะทำอะไรก็ทำซี” คนบนตักบอกขณะกระสับกระส่าย

“ใครบอกว่าผมจะทำ” การได้เห็นมาวินทุรนทุรายทำให้แทนคุณนึกถึงคืนนั้น เพราะความกระหายและอยากได้สมใจ เขาใช้กำลังข่มเหงมาวิน แล้ววันนี้มาวินจะทำอะไรเพื่อให้ได้ดังใจหวัง ชายหนุ่มเบิกตา มองตามร่างสูงโปร่งที่เกิดเปลี่ยนใจไม่อยากสานต่อ ลุกขึ้นเดินซวนเซก้าวขามุ่งหน้าไปยังประตูแทนการจู่โจมเขา หากทว่าไม่นานก็ล้มลงโครมใหญ่

“จะไปไหน” ชายหนุ่มรีบไปพยุงให้ลุกขึ้น

“แล้วทำไมฉันจะต้องอยู่ที่นี่อย่างที่นายพูด พอกันที ปล่อยโว้ย” แน่แล้ว มาวินยังไม่ลืมประโยคที่เขาพูดด้วยวันนั้นจึงพยายามออกห่าง ชายหนุ่มปรับสีหน้าอยู่ช่วงหนึ่ง มองคนก้มหน้าก้มตาผลักให้ออกจากกัน

“ถ้าออกไปคุณจะเจอกับอะไร หัดคิดบ้างซี”

“ไม่ต้องมาสมเพชหมาไร้น้ำยาอย่างฉันหรอก ฉันรู้ตัวเองดี แกมันไอ้คุณชายผู้สูงส่งที่บังเอิญนอนกับฉันเพราะไม่มีทางเลือก เฮอะ! ไอ้คนไม่มีความรับผิดชอบ!”

“โอ๊ย!” แทนคุณส่ายหน้า กระชากพาคนเมาไปนั่งบนโซฟาอีกครั้งหลังถูกเขกหัวมาที “อยากโดนดีนักใช่ไหมมาวิน ผมบอกให้อยู่เฉยๆ ไง นอนหลับไปแล้วพรุ่งนี้ผมจะไปส่งที่บ้าน!”

“นายก็รู้ว่าฉันไม่ควรอยู่ที่นี่ แทน”

“ผมรู้น่า ผมรู้ว่าคุณไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก แต่มันช่วยไม่ได้นี่ที่คุณโดนยา คิดว่าจะกลับไปหาน้องสาวทั้งอย่างนี้น่ะหรือ” แทนคุณกดร่างคนเมาให้นั่งลงบนโซฟาข้างกัน

“แทน... นี่มันทรมานนะ” มาวินกอดตัวเองขดไปทั้งตัว มือเกาะกุมมือหนาของผู้ที่ใช้กำลังกดให้เขานั่งตามคำสั่งอย่างไม่รั้นอย่างคราแรก “ถ้านายอยากให้จบฉันก็จะจบ ฉันจะไม่มาให้นายเห็นหน้าอีก ฉันรู้ว่านายไม่ชอบเรื่องแบบนี้ แต่ช่วยทำเหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้นได้ไหม”

ชายหนุ่มชะงัก เมื่อร่างสูงโปร่งของคนกล่าวขึ้นมานั่งบนตักเขาอีกครั้ง ไม่ฟังคำตอบ มาวินฉกริมฝีปากเขาไปจูบด้วยความกระหาย ก่อนจะผละถอดเสื้อตนเอง “นายแค่ปล่อยเลยตามเลยไป แค่ครั้งเดียว ฉันจะทำมันเอง นายแค่อยู่เฉยๆ”

คนกล่าวเคลื่อนไปคุกเข่าลงกับพื้น มือสั่นไหวปลดกางเกงแทนคุณ ไม่ทันที่ชายหนุ่มจะปราม มาวินก็ปรนเปรอให้ด้วยความช่ำชอง วินาทีแรกชายหนุ่มรู้สึกกระดากอาย แต่เมื่อเห็นสีหน้าของมาวิน เขากลับรู้สึกผิดมากกว่าที่รังแกอีกฝ่ายให้ทุรนทุรายกระเสือกกระสนถึงเพียงนี้ มือหนาเคลื่อนไปไล้เรือนผมของอีกฝ่าย ได้ยินเสียงไอ สำลักเพราะความรีบร้อน

“พอเถอะ” ชายหนุ่มบอก ทว่าดูเหมือนมาวินจะไม่ยอม

“ไม่ นายแค่อยู่เฉยๆ มองฉัน หรือถ้าไม่ชอบก็หลับตาลงซะ” คนกล่าวส่ายหน้า ช่วยให้เขาตอบสนองก่อนจะครอบปากซ้ำลงให้คนถูกกระทำเครื่องติด ด้วยความเมา ความอารมณ์คุกรุ่นที่มาวินทำ ส่งผลให้เขาตอบรับอย่างไม่ยากเย็นนัก

ความรู้สึกแรกคือแปลกประหลาดหลังสัมผัสมันในยามยังมีสติครบถ้วน และภาพเบื้องหน้า ดูเหมือนคนทำกำลังเจ็บและโหยหาอยู่ในที ประจวบกับร่างกายของเขาเองที่ทวีความรุมร้อนขึ้น ชายหนุ่มกัดริมฝีปากแน่นเมื่อร่างเปล่าเปลือยคนบนตักอ่อนระทวย ทิ้งกายลงให้ร่างกายเขาจมไปกับความล้ำลึก

มือหนาอยู่ไม่ติดเมื่อได้ฟังเสียงของคนด้านบนชัดแจ้ง ยามเคลื่อนไหวกระทบกับเข็มขัดจนเกิดเสียง

ภาพทุกอย่างมันชัดเจนเสียงยิ่งกว่าชัด ความรู้สึกเดียวกับคืนนั้นแล่นเข้าสู้ร่างหนาจนหน้าท้องหดเกร็งอย่างไม่รู้ตัว แทนคุณหอบหายใจทานอารมณ์ตนเองไม่ไหว มองใบหน้าแดงก่ำของมาวินว่าเป็นเช่นไร อีกฝ่ายกำลังเจ็บหรือสุขสมกันแน่

ให้ตายซี “หยุดทำหน้าแบบนี้นะมาวิน บอกให้หยุด!”

ชายหนุ่มบีบกรามคนบนตักแน่น กระชากลงมามอบจูบให้หลังเห็นว่าอีกฝ่ายช่างสวยงามยามแสดงถึงความเจ็บปวด ดึงดูดให้แทนคุณเผลอไผลลอยละล่องบนท้องฟ้า มารู้ตัวอีกที เป็นฝ่ายเขาเองที่พลิกให้คนด้านบนลงนอนบนโซฟา เป็นเขาเสียเองที่กระทำอีกฝ่ายด้วยความรุนแรง

ชายหนุ่มไม่หลงเหลือความอดทนอดกลั้น บันดาลโทสะไปตามอารมณ์ถี่รัว ทั้งกวาดสายตามองร่างที่นอนอยู่ด้านใต้ มาวินแนบหน้าอิงแอบกับหมอน ภายใต้ความรู้สึกบิดเบี้ยวที่ยังไม่สามารถแยกแยะระหว่างความกลัวและความสุขสมได้ ชัดแจ้งจนแทนคุณจำได้ทุกรายละเอียด

“ทะ แทน! เดี๋ยว...”

ดูเหมือนอีกฝ่ายเสียงจะแหบ

“หยุดไม่ได้หรอก คุณยั่วผมเอง!” ร่างหนาทรุดกายไปแนบ ฟังเสียงร่ำไห้หวานหูและท่าทางยั่วยวนต่อหน้าเสริมความกระสันในกายขึ้นเท่าตัว ความดิบเถื่อนในกายพลุ่งพล่านไม่เหลือสติขณะปลดปล่อยความสุขสมเต็มความอยาก

ไม่มีคำพูดใดนอกจากริมฝีปากที่แนบจูบกัน และเป็นฝ่ายแทนคุณเสียเองที่เครื่องยังติดไม่ยอมดับลงไปง่าย ๆ

ชายหนุ่มเป็นผู้ชาย ความอยากดิบเถื่อนแบบผู้ชายก็ไม่จางหายไปจากความคิดช่วงเวลานั้น ตลอดทั้งคืนมาวินยังวอแวไม่ยอมหลับเพราะอยากกลับบ้าน และแทนคุณก็สนองความอยากเฉกเช่นสัตว์ป่าของตนเองอย่างเต็มอิ่ม ตักตวงจนพอใจ จากรู้สึกกระดากรังเกียจ กลายเป็นแก้วน้ำที่เติมอย่างไรก็ไม่มีวันเต็มเสียแล้ว

ชายหนุ่มให้ในสิ่งที่มาวินต้องการ และสนองความใคร่ตนเองอย่างอิ่มหนำสำราญไม่ห่างหาย

ลืมในสิ่งที่ได้พูดจาร้ายกาจกับมาวินก่อนหน้าไปเสียสนิท

 



---------------------------------------------------------



มาอัพแล้วค่ะ

คือรีบอัพ เพราะหลังจากนี้จะมีเรื่องราวเกิดขึ้นให้ทุกคนติดตาม

ฉากสุดท้ายนี่ ไม่รู้ว่าแรงไปไหมนะ แต่พยายามไม่ทำให้มันประเจิดประเจ้อเกินไป

งั้นเดี๋ยวเจอกันตอนหน้านะคะ

ออฟไลน์ princeofdark

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ต่างคนก็ต่างเหตุผลเน้อ ทำความเข้าใจกันให้ได้น้า

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa




ตอนที่ ๕

แสงสีขาวของดวงอาทิตย์ทอดลาดผ่านผ้าม่านสว่างก่อให้คนที่นอนกลับรู้สึกแสบตาจนต้องพลิกตัวหันไปอีกฝั่ง หากทว่าเพียงไม่นานกับความสบายบนเตียง ชายหนุ่มควานหาอะไรสักอย่างที่อยู่ข้างกาย กลับไปไม่พบ ทั้งที่เขานอนกอดไว้อยู่ทั้งคืน แทนคุณชะโงกหัวขึ้นจากหมอนกลับไปยังอีกฝั่งด้วยความใคร่รู้ พบเพียงความว่างเปล่าภายใต้ผ้าห่มนวมผืนใหญ่

ร่างหนาลุกขึ้นนั่งบนโซฟาเบ้ดกวาดมองรอบกาย เมื่อคืนเขาไม่ได้ฝันและจำได้ชัดแจ่มแจ้งว่ามาวินมอบอะไรไว้ให้บ้าง ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน เดินรอบบ้านตามหาด้วยคิดว่าอีกฝ่ายกำลังทำธุระส่วนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง

น่าแปลก ที่นี่ไม่มีร่องรอยของอีกฝ่ายเลย ทำราวกับมาวินตื่นมาและจากไปเสียเฉยๆ

ชายหนุ่มทรุดกายนั่งบนโซฟาเช่นเดิม หรือมาวินจะเอาคืนเขา หนีไปโดยไม่บอกไม่กล่าวเหมือนวันนั้น

แทนคุณรีบหันไปค้นหากระเป๋าสตางค์ พบว่ามันยังอยู่ดีไม่มีอะไรหายไป ความรู้สึกแรกราวกับถูกใครสักคนทรยศหักหลัง ร่างสูงเดินวนรอบบ้านมองโทรศัพท์ของตนเอง คิดว่าอีกฝ่ายคงไปหาเอมมิกาที่บ้าน เพราะมาวินดูห่วงใยน้องสาวเหลือเกินแม้จะเมาไม่ได้สติ เขาควรโทรไปถามมาวินไหมว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือเปล่า หากทว่าความคิดหนึ่งก็แทรกขึ้นมาในหัว

เขาควรจบมันไปได้หรือยัง

เมื่อคืนก็แค่เรื่องสุดวิสัยเท่านั้น

มือหนาวางมือถือลงบนโต๊ะ ขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวไปทำงานและเลิกคิดถึงเรื่องอื่น แต่เอาเข้าจริง แทนคุณกลับไม่มีสมาธิที่จะจดจ่อกับงานของตนเอง เมื่อทราบว่าเอมมิกาไม่ได้มาโรงเรียน ชายหนุ่มก้มลงจ้องโทรศัพท์อีกครั้ง พร้อมกับภาพมาวินขยับมาซุกกายกอดเข้าแทรกเข้ามาในความคิด

ไม่รู้นานเท่าไรที่แทนคุณออกคำสั่งตัวเอง แต่ชายหนุ่มก็กดโทรออกไปในที่สุด ความชื่นใจมลายหายไปสิ้นเมื่อท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ไม่สามารถติดต่อมาวินได้

หนที่สองที่มีเซ็กส์กัน มาวินคงแขยงเขาไปอีกนาน

มันไม่ได้แย่สำหรับแทนคุณนัก แต่สิ่งที่เขาปฏิบัติต่อมาวินมาโดยตลอดมันแย่ยิ่งกว่า



หนึ่งสัปดาห์แล้วที่ติดต่อมาวินไม่ได้ และเอมมิกาก็ไม่มาโรงเรียนด้วย คำถามที่แล่นวนในศีรษะชายหนุ่มตอนนี้คือเกิดอะไรขึ้นกับคนทั้งคู่ ระหว่างที่มาวินหายไป ชายหนุ่มตระหนักต่อใจตนเองได้แล้วว่าฝ่ายเขาต่างหากที่ผิด เขาไม่เคยคิดแม้แต่จะขอโทษมาวินเสียด้วยซ้ำกับเรื่องเกิดขึ้น

“ถ้านายอยากจบฉันก็จะจบ ฉันจะไม่มาให้นายเห็นหน้าอีก”

รถยนต์คันหรูแล่นไปจอดหน้ารั้วสีฟ้าอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเจ้าของของมันจะชะโงกมองออกไปยังประตูบ้าน เห็นว่าปิดสนิทและถูกล็อคจากด้านนอกทิ้งไว้ ชายหนุ่มนิ่งไปชั่วครู่ ทุกอย่างสายไปหมดแล้วกับสิ่งที่เขาได้ตัดสินใจไป เพราะอะไรต่อมิอะไรทำให้มันช้าไปหมด เขาควรมาหามาวินตั้งแต่วันแรกที่อีกฝ่ายออกจากบ้านเขาโดยไม่บอกไม่กล่าว ควรพูดคุยกับมาวินว่าจะเอาอย่างไรแน่

แทนคุณถามตนเอง ว่าตอนนี้รู้แล้วหรือยังว่าจะเอาอย่างไร

ในเมื่อตนเองไม่ใช่เกย์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเซ็กส์กับมาวินนั้นเขาได้รับความสุขอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

หรือเขาเป็นเกย์...

ไม่ใช่ ไม่ใช่อย่างแน่นอน แทนคุณส่ายหน้าก่อนบังคับยานพาหนะแสนแพงของตนเองเคลื่อนบนท้องถนน ปัดความคิดเกี่ยวกับมาวินออกไปเสียให้หมด ทุกอย่างมันจบลงไปแล้วตั้งแต่มาวินหนีออกมาโดยไม่บอกเขาสักคำ...

 

เสียงรถราหลังจากเปิดประตูรถคืออันดับแรกที่สัมผัสได้ หลังจากนั้นชายหนุ่มยกมือขึ้นป้องแสงแดดมิให้สาดเข้ามาแยงตา ปล่อยให้แท็กซี่ด้านหลังเคลื่อนออกไปพร้อมที่ชายหนุ่มเปิดประตูรั้วจ้ำอ้าวเดินเข้าร่มภายในบ้านอย่างเร็วรี่หลบความอบอ้าว ขณะพยายามหาลูกกุญแจไขประตู ชายหนุ่มปรายตายิ้มให้คุณนายข้างบ้านอยู่ครู่หนึ่งยามเห็นนางส่งไมตรีมา

เกือบสองอาทิตย์ที่เขาไม่อยู่เพราะเรื่องฉุกละหุกที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมา เรื่องราวความเคลื่อนไหวจะถูกบอกจากเพื่อนบ้านเสมอหากมีใครหรืออะไรเกิดขึ้นยามเขาไม่อยู่

“หนูเอมเป็นยังไงบ้างจ๊ะ” นางร้องถามขณะรดน้ำต้นไม้ มองลอดรั้วสูงโปร่งด้วยเหล็กดัดเข้ามาด้านใน

“ดีขึ้นแล้วครับป้า”

“เอ้อ ช่วงที่วินไม่อยู่ มีคนมาป้วนเปี้ยนแปลกๆ ที่บ้านด้วยล่ะ”

“ท่าทางอย่างไรหรือครับ เผื่อเป็นคนที่ผมรู้จัก” มาวินย้อนขณะเปิดประตูบ้านออกให้ลมพัดเข้า อีกประสาทสัมผัสหนึ่งก็เงี่ยหูฟังได้ความว่า

“ตั้งแต่สองสามวันก่อนแล้วนะ เห็นว่าเป็นรถนอกราคาแพงเชียวแหละ ป้าไม่เคยเห็นมาที่บ้านวินสักที นี่ไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อนมาใช่ไหม หืม...”

สิ้นคำนาง มาวินยกมุมปากยิ้มแก้เก้อด้วยเพราะไม่อาจเอ่ยคำไหนมาอธิบายหรือโกหก คงเพราะในใจคิดถึงสิ่งที่ทำไว้  นั่นมันแทบล้นปรี่ออกมาจากสีหน้าให้คนมองแทบจะเดาได้ หนึ่งในนั้นคือแทนคุณ คนที่เขารู้สึกว่าควรก้าวออกมาอย่างเร็วรี่

“ผมไม่รู้จักคนรวยๆ แบบนั้นหรอก เขาอาจบังเอิญมาจอดหน้าบ้านผมก็ได้”

“งั้นหรือ แล้วเมื่อไรเอมจะออกจากโรงพยาบาลล่ะ”

คนฟังรู้สึกดีใจเมื่อนางเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่อง ชายหนุ่มคลี่ยิ้ม กระตือรือร้นที่จะตอบ “อีกไม่กี่วันครับ หมออยากให้น้องมีแรงกว่านี้ แต่ไม่ได้เป็นอะไรมากนักหรอก”

“โล่งใจจริง คุณพระคุ้มครอง ไว้คราวหลังป้าจะทำของไปเยี่ยมนะ”

“ขอบคุณครับป้า” ครั้นกล่าวทักทายกันจบ มาวินพ่นลมหายใจเดินขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าผลัดเสื้อผ้า คงเพราะเหน็ดเหนื่อยกับการเฝ้าไข้น้องสาวมาตลอด ไม่นาน หลังพยายามปัดความคิดของตัวเองให้หลุดจากหลุมดำอะไรสักอย่าง ชายหนุ่มกลับตกอยู่ในภวังค์แห่งการหลับใหลทดแทน

เหตุใดเรื่องแบบนี้จึงเกิดกับเขา

หลังจากคืนนั้นมาวินไม่มีโอกาสอธิบายว่าเหตุใดจึงจากมาอย่างไม่บอกกล่าวกับแทนคุณ คงเพราะประการแรก เขาไม่อยากเอาตัวเองไปพัวพันกับแทนคุณ หมอนั่นดูเหมือนจะเป็นคนดีแต่ไม่ใช่ ประการที่สอง ชายหนุ่มผิดหวังเล็กน้อยที่แทนคุณเผลอไผลให้เซ็กส์ระหว่างทั้งคู่เกิดเป็นรอบที่สอง ทำให้มาวินทราบว่าอีกฝ่ายไม่อาจยับยั้งความรู้สึกนึกคิดของตัวเองได้

และประการที่สาม แน่นอนว่าแทนคุณไม่ใช่เกย์ แต่ทว่าหมอนั่นกลับกล้าใช้เขาเป็นสิ่งของบำเรอความใคร่โดยปราศจากความรู้สึกใดๆ เจือปน คนประเภทนี้ไม่ใช่คนน่าไว้ใจเท่าใดนัก

แทนคุณกระด้าง เย็นชาและกระทำหยาบคายภายใต้ความสมบูรณ์แบบที่เห็น

นั่นทำให้มาวินรู้สึกถึงความอันตรายหากยังยุ่งกับหมอนี่ต่อไป รับรองว่าหมอนี่ต้องเลวกว่าที่เขาเห็น

“ฉันบอกให้อยู่นิ่งๆ ไง...”

“ปล่อย...”

“เป็นคนขอเองนี่ ก็ทำให้อยู่นี่ไง...”


เสียงหอบเหนื่อยของคนบนร่างอยู่ไม่ห่างจากใบหูมาวินนัก  เขารู้สึกอึดอัด... ชายหนุ่มพยายามถอนลมหายใจเต็มปอด เบี่ยงกายพลิกตะแคงมายกมือกุมศีรษะด้วยความปวดหนึบ เกลียดภาพป่าเถื่อนในสมองยามตามหลอกหลอนถึงความฝัน มาวินยกศีรษะขึ้นมองหน้าต่าง ค่ำแล้ว ทั้งที่เขาไม่ทันได้เห็นพระอาทิตย์ตกดิน อาจเป็นเพราะความเหน็ดเหนื่อยทำให้ชายหนุ่มหลับยาวจนถึงตอนนี้

ร่างสูงโปร่งลุกขึ้นจากเตียง ความวิงเวียนยังไม่จางหายไปจากสมองยามนี้ หากได้ไปอาบน้ำร่างกายคงสดชื่นขึ้นกว่าเดิมมาก คิดแล้วมาวินก็ลุกไปหยิบผ้าขนหนูขึ้นพาดบ่า เพราะเป็นบ้านหลังเล็กและทำด้วยไม้ ห้องน้ำจึงอยู่ด้านล่าง ชายหนุ่มถอดเสื้อและย่างเท้าลงไปอย่างเร็วรี่

ตอนนี้น้าอร มารดาของน้องสาวกับคนที่บ้านนอกช่วยเฝ้าไข้แทนเขาแล้ว มาวินไม่ห่วงเมื่อเห็นรอยยิ้มของเอมมิกาหลังฟื้นไข้

เอมมิกาเป็นลูกคนละแม่กับเขา หลังจากมารดาของมาวินเสียชีวิตด้วยโรคร้ายแล้วนั้น บิดาของเขาก็มีภรรยาใหม่คือน้าอร ผู้ให้กำเนิดน้องสาวที่น่ารักแก่เขา แต่เพราะความไม่พอของผู้เป็นบิดาและความเป็นคนดีของน้าอร ทำให้ครอบครัวสมบูรณ์แบบของเอมมิกาพังทลาย บิดามีภรรยาน้อย น้าอรระทมใจหนีกลับไปอยู่บ้าน ปล่อยให้เมียน้อยคอยรังแกเอมมิกา

มาวินถึงขั้นมีปากมีเสียงกับบิดาเพราะน้องสาวยังเด็ก ถูกแม่เลี้ยงรังแก เขาอยากให้เอมมิกากลับไปอยู่กับน้าอรหากทว่าผู้เป็นบิดาไม่ยอม บังคับให้แค่ไปมาหาสู่กันได้ก็เพียงพอแล้วหากอยากให้ส่งเสียเลี้ยงดู เพราะน้าอรไม่มีเงิน ซ้ำตอนนั้นเสียใจจนเจ็บป่วยออดๆ แอดๆ มาวินจึงแตกหักกับบิดาตั้งแต่นั้น ขออาสารับน้องสาวมาส่งเสียเอง และจะส่งเงินไปให้น้าอรผู้เลี้ยงดูเขาทุกเดือนด้วยความกตัญญูรู้คุณ นางให้ความรักแก่เขาอย่างที่บิดาไม่มีวันจะให้ได้

นั่นเป็นเหตุให้มาวินรักเอมมิกาเหลือเกิน น้าอรฝากความหวังไว้แก่เขา

แน่นอนว่าชายไร้น้ำยาการศึกษาต่ำอย่างเขาจะทำอะไรได้ สามปีที่ส่งน้องสาวเรียนเพื่อไม่ให้น้อยหน้าใคร มาวินไม่ต่างจากหมาอย่างที่เอกณรงค์นิยามเท่าใดนัก

เขาเครียด เขาเหน็ดเหนื่อย แต่จำต้องคลี่ยิ้มกว้างให้เอมมิกาเห็น ให้เธอไม่ลำบากใจยามเห็นเขาผิดหวังและเสียใจ ตอนนี้มาวินยังหาทางออกให้ตนเองไม่ได้ อันดับแรกค่ารักษาพยาบาลที่จะต้องจ่าย ชายหนุ่มจัดแจงสวมเสื้อผ้าเตรียมออกไปข้างนอกหลังอาบน้ำเสร็จ หวังว่ามันจะผ่อนคลายลงไปบ้างเมื่อไปที่ใดที่หนึ่ง พูดคุย ยิ้มแย้ม ปรับทุกข์ให้อีกฝ่ายฟัง

หากทว่ามาวินไม่รู้จะพูดคุยกับใครเมื่อมาถึง ชายหนุ่มลงมองแก้วเหล้าในมือขณะผู้อื่นกำลังสนุกสนาน ที่นี่สถานบันเทิง เขาควรเล่าให้ใครฟังงั้นหรือในเมื่อทุกคนมาที่นี่เพื่อความสนุก ชายหนุ่มกวักมือเรียกบาร์เทนเดอร์อีกครั้งและสั่งเหล้าเพิ่ม หันมองยามแสงโลดเล่นตามจังหวะและผู้คนสนุกสนานกับกลุ่มเพื่อน

วินาทีหนึ่งก็นึกหัวเราะเยาะตัวเองขึ้นมา ยามนึกที่จะย้อนกลับไปหาเอกณรงค์ รู้สึกขันกับความหน้าไม่อายของตัวเองเสียเหลือเกินที่จะกลับไปทำอย่างนั้น

“คิดอะไรอยู่หรือเปล่าครับ น่าเคร่งเชียว ดูเหมือนคุณอยากให้ใครสักคนฟังสิ่งที่คุณพูดนะ”

มาวินหันไปมองคนถาม นึกแปลกใจว่าอีกฝ่ายมานั่งข้างเขาตั้งแต่เมื่อไร ชายหนุ่มปรับสีหน้าตนเองอยู่ครู่หนึ่งระบายยิ้ม “มันคงไม่สนุกนะถ้าผมเล่าให้คุณฟัง”

“ไม่เป็นไร ดูเหมือนมันจะเป็นเรื่องน่าสนใจทีเดียว ผมเดาถูกไหมครับคุณ” 

คนกล่าวพยักหน้าพร้อมกับยกยิ้มให้ ชายหนุ่มผู้นี้น่าจะอ่อนกว่าเขาสักสองสามปี สวมเสื้อผ้าทันสมัย ดูภูมิฐาน มีรสนิยมในด้านการแต่งตัวจนหญิงสาวทุกคนเหลียวมองด้านนี้ แต่นั่นไม่ได้ทำให้มาวินนึกลิงโลดอะไร อาจเพราะเขาเจอคนแบบนี้มามากแล้วกระมัง

“ไม่ดีกว่า ผมอยากเลิกเอาความทุกข์ของตัวเองไปให้คนอื่นแบกรับเสียที”

“งั้นคุณช่วยฟังผมระบายทีได้ไหม ผมต้องการทำในสิ่งที่คุณพูดเมื่อกี้ ผมอยากให้มันหายไป”

“คุณดูไม่เหมือนคนกลุ้มใจสักนิดเลยนะ”

“ไม่... อย่าตัดสินเพียงเพราะเห็นผมยิ้มซีคุณ ตอนนี้ผมอยากจะร้องไห้เต็มทน”

“ดูพูดเข้า”

มาวินหลุดหัวเราะยามอีกฝ่ายหันมาจ้องตาพูดความในใจ นั่นอาจเป็นความประสงค์ของชายแปลกหน้าคนนี้จริงๆ ก็ได้ อีกฝ่ายเพียงยกมือเท้าคางมองมาด้านนี้ยามยกแก้วขึ้นดื่ม ก่อนจะอธิบายให้มาวินได้ฟังว่า “ผมเบื่อปัญหาตอนนี้จนแทบจะบ้า ผมอยากให้ใครสักคนเข้าใจความรู้สึกของคนที่แบกรับความหวังคนอื่นไว้กับตัว มันท้อไม่ได้ มันหยุดไม่ได้ แม้ว่าเราจะรู้สึกเหนื่อยขนาดไหน”

“นี่...” มาวินหันไปมองคนข้างกาย “ผมว่าแทนที่เราจะพูดถึงเรื่องแย่ๆ เราเปลี่ยนมาพูดเรื่องที่เรามีความสุขไหม”

อีกคนก้มลงมองแก้วในมือชั่วอึดใจหนึ่ง ก่อนจะหันมาสบตา

“ผมชอบตอนที่คุณยิ้ม...”

“หืม อะไรของคุณ...” คนฟังเลิกคิ้วฉงน มองนัยน์ตาคนกล่าวขณะหันมาจ้องตากัน อาจเป็นเพราะฤทธิ์เหล้าทำให้มาวินเห็นว่าเขาคนนี้เพ่งมองเขาอยู่ กระทั่งอีกฝ่ายได้เฉลยเกี่ยวกับสิ่งที่พูดด้วยหน้าตาเฉยนั้น

“ก็คุณบอกให้ผมพูดเกี่ยวกับเรื่องที่เรามีความสุขไม่ใช่หรือ”

“อ้อ...” มาวินยิ้มอีกครั้ง “ผมก็ชอบตอนที่คุณยิ้มเหมือนกัน”

“ผมไม่ได้แกล้งพูดนะ”

“แล้วทำไมคุณถึงคิดว่าผมแกล้งพูดเล่า” มาวินยักไหล่

“อา คุณนี่มันเหมือนเด็กชะมัดเลย ผมพูดเรื่องจริงนะ แต่ผมไม่คิดว่าตัวเองตอนนี้น่ามองซักเท่าไรหรอก” ชายผู้แปลกหน้าส่ายศีรษะก่อนจะยกแก้วดื่มแก้ขัด ยามเห็นรอยยิ้มกริ่มของคนที่ตนชมมองมา

“ผมก็ไม่ได้บอกว่ามันน่ามอง ไม่ได้ชมว่าคุณหล่อด้วย ผมเพียงแค่บอกว่าผมชอบเท่านั้นเองนะ”

คนฟังหันขวับมาหลุดหัวเราะ “ให้ตายซี!”

“ผมล้อเล่นน่ะ... คุณนี่แกล้งสนุกชะมัด”

ชายหนุ่มตบบ่าอีกฝ่ายเปาะๆ กระเซ้าอยู่ในที ยามเห็นรอยยิ้มอีกฝ่ายมองเขากลับมา หากแม้นว่าอีกฝ่ายจะเด็กกว่ามาวิน ทว่าดูเหมือนสายตานั้นกำลังมองมาที่เขาเสมือนมองลูกชาย น้องชาย หรือคนสนิทกำลังสนุกสนาน มองด้วยความสนิทใจและรักใคร่เอ็นดู

มาวินลืมไปแล้วว่าใครใช้สายตานี้มองเขา บังเอิญว่าเขาก็ชอบเสียด้วย มันทำให้ชายหนุ่มเชื่อใจ

นานเท่าไรไม่รู้ที่ทั้งคู่พูดคุยกัน ดูเหมือนอีกฝ่ายแค่ตั้งใจเข้ามาทำให้มาวินคลายความกังวลใจไปเท่านั้น

“นี่ เกรงว่าผมจะต้องไปแล้วนะ แล้วเจอกัน...” อีกฝ่ายยื่นมือมาจับ แต่แค่สัมผัสทักทายกันธรรมดามาวินคงไม่ตกใจเท่านี้ เมื่อร่างสูงของอีกฝ่ายดึงเขาเข้าไปหอมจนได้ยินเสียงลมหายใจ ก่อนเจ้าตัวจะผละมาคลี่ยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าของเขา

“อย่าลืมที่จะยิ้มให้ผมนะ”

มาวินเบิกตา “อะไรนะ”

“ไว้เจอกันวันหลังนะวิ...”

“พี่วิน!”

ไม่ทันจะได้ถามไถ่ เสียงใครสักคนตะโกนเรียกผ่านเสียงเพลงสอดแทรกเข้ามาเสียก่อน ชายหนุ่มจึงหันไปด้วยใคร่จะทราบว่าเป็นใคร ครั้นเห็นว่าเป็นนพพล ชายหนุ่มจะละสายตามาหาอีกคน หากทว่าชายที่สนทนากับเขาก่อนหน้าหายไปเสียแล้ว ดูเหมือนอีกฝ่ายรีบมากจริงๆ รีบเสียจนไม่บอกว่าตนเองชื่ออะไร

แต่ดูเหมือนทางนั้นจะรู้ชื่อเขา แน่แหละ เขาคนนั้นกำลังจะเอ่ยชื่อเขาไม่ผิดแน่

“พี่ ทำไมไม่รั้งเขาไว้ก่อน โห... นานๆ จะได้เจอกันที”

“อะไร” ชายหนุ่มมองนพพลขณะควงสาวคนหนึ่งด้วยความสงสัย

“เอ้า ก็พี่กายไงครับ เมื่อกี้พี่คุยกับพี่กายอยู่ไม่ใช่หรือ”

“เขาชื่อกายหรือ นายรู้จักทุกคนเลยแฮะ” มาวินย้อน

“ระดับพี่กายใครไม่รู้จักนี่เชยมากในรุ่นผม พี่รู้ไหม... ถ้าพี่แทนคือท็อปของรุ่น พี่กายก็คือท็อปในตำนานของโรงเรียน พี่แทนมีเท่าไรมีกายมีมากกว่าสองเท่าน่ะ”

มาวินนิ่ง แล้วคนอย่างกายผู้เพียบพร้อมคนนั้นจะมาคุยกับเขาทำไม ยิ่งเป็นคนจากโรงเรียนผู้ดีอันเป็นศูนย์รวมคนร่ำรวยแล้ว มาวินยิ่งไม่อยากจะเชื่อว่าชายคนที่พูดกับเขาคือคนเดียวกัน

คุณกายที่พูดคุยกับเขาดูเป็นคนธรรมดา สนุกสนาน และดูดี ไม่แปลกประหลาดเหมือนนพพลผู้รอบรู้ไปเสียทุกอย่าง และไม่เห็นแก่ตัวเหมือนแทนคุณด้วย

“ฉันว่านายอาจจำคนผิด เขาแค่หน้าคล้ายก็เท่านั้นแหละ”

“ผมก็คิดอย่างนั้นแหละ คิดๆ ดูแล้วเขาจะมารู้จักพี่วินได้ยังไง ขนาดพวกเราพี่เขายังเลือกคบเลย โดยเฉพาะพี่น่ะที่เป็นคนของพี่แทน คนแบบพี่กายยิ่งไม่เหลียวมองไปกันใหญ่” นพพลยักไหล่ ยามเห็นสายตาอยากรู้ของมาวินเมื่อหลุดเปรยเรื่องนี้ขึ้นมา

“แกหมายถึงอะไร”

คนฟังเบี่ยงสายตาหลบไปช่วงหนึ่ง ราวกับกำลังต่อว่าตนเองที่เผลอปากพล่อยพูดออกมา “เอ่อ... พวกเขาไม่ค่อยถูกกันน่ะ สองคนนี้เป็นไม้เบื่อไม้เมามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว”

“ไม่ใช่! ใครบอกแกว่าฉันเป็นคนของแทน” มาวินมุ่นคิ้ว

“เอ้า ก็วันนั้นเขาเห็นกันทั้งบางว่าพี่กับพี่แทนออกไปด้วยกัน แล้วพี่ก็พูดเองไม่ใช่หรือว่าพี่กับพี่แทนเป็นอะไรกัน กับพี่เอกน่ะ”

ได้ฟังแล้วมาวินลมออกหูยามนึกถึงเอกณรงค์ วันนั้นเพราะหมอนั่นเป็นต้นเหตุจึงทำให้เขาถูกวางยาจนไปจบบนเตียงกับแทนคุณ ทำให้เรื่องราวต่างลุกลามใหญ่โตกู่ไม่กลับ ชายหนุ่มเดินย่ำเท้าออกมาด้านนอกด้วยความเสียอารมณ์ บอกตัวเองให้หยุด ผ่อนปรนให้ความโมโหลดลงกว่านี้ก่อนจะไปหาเรื่องใครเข้า

ไอ้เลวเอก! จะเล่นแบบนี้ใช่ไหม!



------------------------------------------------------

เจอกันตอนหน้าค่ะ

อย่าลืมคอมเม้นเป็นกำลังใจหนูนาด้วยนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ blur

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เป็นกำลังใจให้ครับ เล่าเรื่องได้ลื่นดี แต่เริ่มติดขัดนิสัยนายเอก ว่าจะดีหรือจะชั่วกันแน่มันยังไม่ชัด จะจับพระเอกแต่ก็กั๊กแปลกๆ ติดตามอยู่นะครับ

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
เป็นกำลังใจให้ครับ เล่าเรื่องได้ลื่นดี แต่เริ่มติดขัดนิสัยนายเอก ว่าจะดีหรือจะชั่วกันแน่มันยังไม่ชัด จะจับพระเอกแต่ก็กั๊กแปลกๆ ติดตามอยู่นะครับ
ขอบคุณจ้า นิยายเรื่องนี้ตัวละครไม่ดีไม่เลวจ้า

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
สนุกอะ. ติดตามๆๆ :hao7:

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
สนุกอะ. ติดตามๆๆ :hao7:
ขอบคุณจ้า จะรีบอีพน้า

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa


ตอนที่ ๖

ให้ตายซี แล้วอย่างนี้ระหว่างเขากับแทนคุณจะจบลงไปได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าหมอนั่นได้ยินข่าวจากความปากพล่อยของเขาไปแล้วหรอกนะ มาวินครุ่นคิดทั้งถอนใจด้วยความกลัดกลุ้ม เดินวนอยู่แถวลานจอดรถอยู่เช่นนั้นกว่าสิบนาทีราวกับหาทางออกไม่ได้

“มาวิน...”

ชายหนุ่มชะงัก เหลือบไปเห็นร่างหนาเจ้าของเสียงทุ้มนุ่มผู้เอ่ยนามเขา เป็นกาย การุณ ส่งรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรให้ขณะเคลื่อนรถมาเทียบใกล้ ระยะนี้ให้ชายหนุ่มเห็นชัดแจ้งถึงความมั่งคั่งร่ำรวยของอีกฝ่ายได้ถนัดตา ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ รถยนต์ที่นั่ง ทว่าอีกนัยหนึ่งก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายเข้าหาเพราะเป็นคนอัธยาศัยดีแน่

นพพลบอกว่าคุณกายคนนี้เป็นไม้เบื่อไม้เมากับแทนคุณมานานแล้ว แต่ไม่รู้จนถึงขั้นเป็นอริกันไหม

ชายหนุ่มปรับสีหน้า “คุณยังไม่กลับหรือ เห็นว่ารีบ...”

“พอดีผมเห็นคนรู้จักก็เลยแยกตัวออกมาก่อน ไม่อยากมีปัญหา”

ดูเหมือนที่มาวินคิดจะซับซ้อนเกินไป “นพพลน่ะหรือครับ”

“ใช่... มีบางเรื่องที่ผมไม่อยากพูดกับมัน ก็เลยเลือกที่จะไม่เผชิญหน้าจะดีกว่า แล้วนี่คุณกำลังจะกลับหรือ ขึ้นมาสิ ผมจะไปส่ง...” การุณเปลี่ยนเรื่อง พร้อมกันกับผู้ฟังซึ่งเงยขึ้นจ้องตาหาความหมายว่าแท้จริงแล้วคนเชิญชวนต้องการอะไร ชายหนุ่มคลี่ยิ้มทั้งส่ายหน้าตอบ

“มะ ไม่เป็นไรครับ ผมกลับเองได้”

“ไม่ได้”

“เอ่อ...” ท้ายที่สุดแล้ว มาวินยังไม่ทราบความต้องการจริงแท้ของอีกฝ่ายนัก แต่เพราะเขาเป็นผู้ชาย ไม่มีความเสียหายอะไรที่จะต้องระหวาดระแวงปานนั้น ชายหนุ่มเพียงแต่คลี่ยิ้ม มองตามชายผู้อยู่บนรถลุกมาดุนหลังเขานั่งเบาะข้างกัน

“ผมไม่ใช่พวกไม่น่าไว้ใจหรอกน่า อย่าปฏิเสธเลย”

“ผมไม่ได้คิดกับคุณแง่นั้นสักหน่อย”

“ดูตาก็รู้แล้ว...ลำบากใจใช่ไหมล่ะ” มาวินพูดไม่ออกเมื่อเห็นรอยยิ้มหลังประโยคนี้ของอีกฝ่าย หรือเขาคนนี้จะแฝงเร้นไปด้วยความเลวอะไรบางอย่างที่เขาไม่รู้อยู่

ถึงจะคิดไปไกล หากทว่าภายในยานพาหนะกลับเงียบเชียบไม่มีเสียงพูดคุยกัน นอกเสียจากฝ่ายการุณเองที่หันมาเหลือบมองเขาอยู่บ่อยครั้ง มาวินหันไประบายยิ้มเล็กน้อยแก้เก้ออยู่ในที ขณะชี้นิ้วบอกทางกลับบ้าน และดูเหมือนอีกฝ่ายก็ตั้งอกตั้งใจที่จะมาส่งเขาจริงอย่างที่พูดด้วย มีเพียงฝ่ายมาวินเท่านั้นที่ยังรู้สึกค้างคาหากไม่ได้รู้

“ผมขอถามอะไรหน่อยสิ”

ท้ายที่สุดก็ยอมเอ่ยฝ่าความเงียบ เพราะไม่นานจะถึงที่หมาย มาวินไม่อยากเสียเวลาเปล่า ชายหนุ่มหันไปสบตากับการุณที่สบมองด้วยแววสงสัย

“มีอะไรหรือ ดูท่าคุณคงอึดอัดใจน่าดู”

“เปล่าหรอกครับ แต่ตอนที่ไอ้พลมันเห็นคุณ...”

“เขาเล่าอะไรให้ฟังล่ะ ท่าทางคุณเลยดูแปลกไปขนาดนี้” การุณย้อน

“ไม่ได้เล่าอะไรหรอกครับ แล้วผมก็ไม่ได้เปลี่ยนท่าทีด้วย ผมแค่แปลกใจว่าคุณ...ไม่ถูกกับแทนจริงหรือเปล่า แล้วที่เข้าหาผมเพราะอะไรกันแน่”

“อย่าตัดสินผมเพราะฟังจากปากคนอื่นสิ ผมกับแทนไม่ได้เกลียดกันหรือทะเลาะอะไรกันร้ายแรงอย่างที่คนอื่นเขาพยายามเต้าข่าวสักหน่อย ส่วนตัวผมไม่มีอะไรกับหมอนั่นหรอก ไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำ เรื่องของเรื่องคือแค่เขาเกลียดผม ที่ผมคบต่อแฟนจากเขาเท่านั้นเอง ดูเหมือนเขาอยากจะคืนดีแต่เธอปฏิเสธเพราะมาคบกับผมแล้ว”

“โอ้...ดราม่าจัง” มาวินพยักหน้าหงึกอย่างเข้าใจ

“แล้วที่ผมเข้าหาคุณ ยอมรับนะว่าแปลกใจที่หมอนั่นเปลี่ยนรสนิยมมาชอบผู้ชาย ก็แค่อยากรู้ว่าคุณเป็นคนยังไงถึงทำให้ทุกคนพูดถึงได้ขนาดนี้”

“อะไรนะครับ” ทุกคนพูดถึงอย่างนั้นหรือ มาวินรู้สึกถึงเหงื่อที่ชื้นเต็มหลัง หลังจากรถยนต์คันงามของการุณเคลื่อนมาจอดริมรั้วหน้าบ้าน พร้อมหันมาระบายยิ้มถามอีกว่า “บ้านไม้รั้วสีฟ้า หลังนี้ใช่ไหมครับ”

“อะ...ใช่ครับ”

ชายหนุ่มกลืนคำถามมากมายของตัวเองผละสายตามองบ้าน นึกแปลกใจที่ด้านในมีแสงไฟเปิดทิ้งไว้ แต่เพราะสติสตังของเขากระเจิดกระเจิงไปแล้ว ตั้งแต่รับรู้ว่าข่าวของเขากระจายไปเร็วไวด้วยฝีปากของเอกณรงค์และนพพลนั้น มาวินรู้สึกเหมือนไม่มีเรี่ยวแรงขึ้นมาเสียเฉยๆ เขาจะต้องตายแน่ เพราะไม่ว่าจะพยายามถีบตัวเองหนีจากแทนคุณอย่างไร ทุกอย่างกลับมัดแน่นขึ้นไปอีกเท่าตัว

ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนซวนเซข้างรถ กระทั่งการุณลุกออกมาช่วยพยุง แม้จะดื่มมาเยอะ หากมิใช่เพราะฤทธิ์ของสุราที่ดื่มแน่ แต่เพราะปัญหาที่รุมเร้าเขาทุกทางมากกว่า และทุกอย่างดูเหมือนจะดีแล้ว หากทว่าทั้งคู่ไม่เหลือบไปเห็นใครคนหนึ่งกำลังเปิดประตูรั้วบ้านเดินออกมา คนที่มาวินพยายามปัดทิ้งออกไปจากความทรงจำ

“อ้าว นึกว่าใคร รุ่นน้องโรงเรียนเก่านี่เอง...”

แทนคุณ

มาวินมองร่างตรงหน้าด้วยความไม่เข้าใจ เหตุใดหมอนี่จึงออกมาจากบ้านพักของเขา ทั้งที่ไม่ได้พบหน้ากันร่วมสองอาทิตย์ เขาคิดว่าต่างคนต่างอยู่กันไปเรียบร้อยแล้วแท้ๆ ชายหนุ่มตัวชาไม่รู้จะวางตัวอย่างไรในความเงียบ ทำเพียงหันมองการุณอยู่ครู่หนึ่งสลับกับแทนคุณในความมึนงง

“ผมว่าเขาอยากคุยกับคุณนะ นี่ก็ถึงบ้านคุณแล้ว ผมว่าผมควรกลับไปจะดีกว่า”

มาวินอึกอัก “เอ่อ...”

“คุณก็รู้ แทนเขาไม่ค่อยชอบขี้หน้าผม แล้วยิ่งเห็นผมอยู่กับคนของเขาด้วยแล้ว ผมไม่อยากพลอยทำให้คุณลำบากไปด้วย”

“ไม่ใช่...”

มาวินอยากตะโกนให้เต็มปากเต็มคำว่าเขากับแทนคุณไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้น ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาเพราะความปากดีของเขาทั้งสิ้น นอกเสียจากมีเซ็กส์อย่างไม่ได้ตั้งใจถึงสองครั้ง มาวินและแทนคุณไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรลึกซึ้งกันทั้งนั้น แต่พอเอาเข้าจริง ชายหนุ่มพูดไม่ออกเมื่อเห็นแววตาอันประกอบไปด้วยคำถามมากมายของการุณ ทำได้เพียงก้มลงพยักหน้ารับ

ปล่อยให้อีกฝ่ายเข้าใจอย่างนี้มันก็ดีแล้วนี่ นี่มันหนูตกถึงข้าวสารชัดๆ

“ขอบคุณที่มาส่ง ไว้เจอกันวันหลังนะครับ” มาวินทำได้เพียงพูดคำพวกนี้ มองการุณยิ้มรับ ก่อนร่างสูงของผู้มาส่งจะเดินวนไปนั่งบนเบาะ บังคับรถยนต์คันงามเคลื่อนออกจากหน้าบ้านไป

มาวินระบายยิ้มขณะโบกมือลา ไม่สนฝีเท้าของคนด้านหลังที่เดินมาหยุดขนาบข้างภายใต้ความสลัว แม้ภายในศีรษะอยากจะไต่ถามความเป็นจริงก็ตาม

เพียงไม่กี่นาทีที่หยุดยืนมองจนรถยนต์ของการุณเคลื่อนหายไปในความมืดจนเหลือเพียงไฟท้ายสีแดง ทุกอย่างเงียบกริบไปชั่วอึดใจหนึ่ง มาวินทอดถอนใจ เบี่ยงกายหันมาสบตาคนที่ยืนอยู่ใกล้อย่างไม่ปิดบังความรู้สึก วินาทีนั้นแทนคุณเองก็ยังมิทันได้เอ่ยปากพูดอะไร นอกเสียจากสบตากันอยู่เช่นนั้น ด้วยแววที่มาวินไม่อาจเดาออกว่ารู้สึกอย่างไรอยู่

“คุณมาทำไม”

คนตรงหน้าเริ่มถาม ให้แทนคุณคุณหวนนึกสิ่งที่ตนคิดมานานในขณะที่รออยู่นี่ “ผมขอกุญแจสำรองจากคนให้เช่าบ้านข้างๆ เขาบอกว่าคุณเพิ่งจะออกไป แล้วก็เพิ่งรู้ข่าวเรื่องเอมมิกาที่ต้องเข้าโรงพยาบาล ทำไมคุณไม่ยอมบอกผม”

“มันไม่จำเป็น ถ้าจะมาเพราะหน้าที่ฝ่ายปกครองของน้องสาวผม กรุณาอย่ามาลำเส้น...”

ชายหนุ่มหมุนตัวเดินเข้าไปในบ้าน อีกนัยหนึ่งคือต้องการจบสนทนาเพียงแค่นี้ แต่ย่างเท้าห่างอีกคนออกมาได้เพียงไม่กี่ก้าว เขาจำต้องชะงัก เมื่อร่างด้านหลังกระตุกแขนดึงเขาให้หยุดอย่างไม่ยินยอม

“อย่ามาทำวางท่าใส่กันนะมาวิน หรือว่าเจอขุมทรัพย์ใหญ่กว่าผมแล้วงั้นหรือ!” แทนคุณเพิ่มระดับเสียง

คนฟังใจหาย หันขวับมองหน้าแทนคุณทั้งสีหน้าอย่างนั้น “คนแบบนายนี่มัน...ไม่รู้จักคิดจริงๆ”

“หรือมันไม่จริง ไอ้คนเมื่อกี้ก็คู่ขาคุณอีกคนงั้นสิ” คนกล่าวบีบต้นแขนในมือแน่นขณะเอ่ยถาม แสร้งหัวเราะแม้จะทำหน้าอย่างกับมาวินไปทำอะไรร้ายแรงไว้ให้ เป็นฝ่ายเขาเองมิใช่หรือที่สมควรจะโกรธที่ถูกรังแก ถูกข่มเหง ถูกใช้คำพูดกดขี่เหยียบย่ำให้ต่ำเช่นนี้!

“บังเอิญจริงนะ ที่คนเช่าบ้านเก่าๆ โกโรโสอย่างนี้มีโอกาสรู้จักแต่คนระดับมหาเศรษฐีทั้งนั้น คุณว่าไหม...”

“หุบปากนะ” มาวินสะบัดต้นแขนออกอย่างไม่อยากจะเชื่อ จ้องตาอีกฝ่ายเขม็ง “ฉันรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ฉันรู้ตัวดี ไม่ต้องมาพูดกระแทกแดกดันกันหรอก ใช่...ฉันมันพวกหน้าเงิน หิวเงิน ฉันพยายามจะขอเงินจากคนรวยที่ฉันตีสนิท ทั้งกับนาย กับพวกเขา แต่แล้วยังไงล่ะ ฉันรู้ว่าตัวเองต้องการอะไรเสมอ แล้วนายล่ะรู้ไหมว่าตัวเองต้องการอะไร!”

ชายหนุ่มตะเบ็งเสียง ก่อนจะผละไปมองรั้วข้างบ้านเพราะเห็นว่าดึกแล้ว

“ถ้าจะคุยเรื่องเอมก็คุยวันหลัง วันนี้ดึกแล้ว นายกลับไปก่อน...”

นี่จะไม่เป็นการดีแน่ที่มาเสียงดังอยู่หน้าบ้านในเวลาหลับนอนของเพื่อนบ้าน มาวินกลืนน้ำลายเก็บกลั้นความขุ่นเคืองในอก ความมึนของศีรษะหายไปเป็นปลิดทิ้งหลังจากได้ปะทะอารมณ์กับคนด้านหลัง หลงเหลือเพียงความโกรธขึ้งที่ยังวนเวียนภายในใจ กับประโยคที่อีกฝ่ายใช้กล่าวถึงตนเอง จึงเลือกที่จะสาวเท้าเข้ามาด้านใน

มือหยาบโลนของแทนคุณกระตุกแขนรั้งเขาอีกครั้ง

“ฉันบอกว่าเอาไว้คุยกันทีหลัง...”

“มันยังไม่จบมาวิน มันแค่เพิ่งจะเริ่ม!” จากกระตุกให้หันกลับไป “จะมาทำเมินผมอย่างนี้ไม่ได้” แทนคุณเป็นฝ่ายกระชากแขนพาเขาเดินนำ เปิดประตูย่ำเท้าตึงตังเข้าไปด้านในที่เปิดไฟไว้รอเรียบร้อยแล้วอย่างถือวิสาสะ มาวินยื้อแขน ไม่เข้าใจในสิ่งที่แทนคุณต้องการจะสื่อ

“พูดเรื่องอะไร ปล่อย...นายจะทำบ้าอะไร!”

“ก็จะทำให้รู้ไง ว่าผมต้องการอะไรแน่”

คนฟังใจหายวาบ

มาวินรู้ว่าแทนคุณเลว เลวพอที่จะสามารถทำอะไรตามใจตัวเองได้อย่างไม่สนใจว่าใครที่ไหนจะไม่พอใจ ร่างของเขาปลิวว่อนลงบนโซฟาตัวยาวโดยง่ายจากแรงของผู้กระทำ ชายหนุ่มเบิกตาโพลงเมื่อร่างสูงใหญ่ตรงหน้าโน้มลงมาใกล้ ยามนั้นมาวินเอาแต่พยายามขืนแรงสู้ แต่ไม่เพียงเพราะความมึนเมาจากสุราทำให้ไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว เพราะคนด้านบนรู้จักเอาเปรียบด้วยการใช้กำลังอย่างดีเยี่ยมด้วย จึงทำให้เขาพ่ายแพ้

หากทว่ามาวินเข้าใจผิดไป แทนคุณไม่ได้ตั้งใจจะบังคับขืนใจ ในแววตาไม่มีอารมณ์พิศวาสมาวินแน่ เพราะหมอนี่ไม่ใช่เกย์

มือหนาของอีกฝ่ายกดคอเขาลงไม่ให้ลุกขึ้นนั่ง บีบแน่นเสียจนหายใจไม่ออก ไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายต้องการจะใช้กำลังเหมือนก่อนหน้า แต่กำลังทดสอบจิตใจของมาวินราวกับนึกคิดเรื่องเลวร้ายอยู่ เขารู้...เมื่อหนังหัวถูกมือหนาใหญ่กำกลุ่มผมกระชากให้เงยหน้าขึ้นสบตากันตรงๆ

ชายหนุ่มเห็นแววตาของแทนคุณยามนี้ มิใช่คนเดิม ไม่มีแววสุขุมหรือสุภาพอย่างที่พบกันก่อนหน้า หมอนี่...คือชายคนเดียวกันที่ใช้กำลังข่มเหงเขาให้มีเซ็กส์ด้วย หมอนี่...คือธาตุแท้อันสารเลวของแทนคุณที่เผยออกมา ภายใต้ความสมบูรณ์แบบของคุณชายผู้สูงส่งแสนดี

ที่จริงแล้ว หมอนี่ดิบเถื่อนกว่าใครที่เขาเคยเห็นเสียอีก!

มาวินตัวสั่น ไม่รู้เพราะอะไรทำให้เขาเลือกที่จะยอมจนตรอก ยอมนิ่งมองอีกฝ่ายเช่นนั้นอย่างช่วยไม่ได้ ชายหนุ่มไม่เพียงไม่กระเสือกกระสนดิ้นรนเอาชีวิตรอด ยามหยุดนิ่งมองอีกฝ่ายหลังจากได้พบเห็นใบหน้าจริงแท้ หลงเหลือเพียงแววตาเท่านั้น ที่บอกผู้กระทำได้รู้ว่าผู้อยู่ใต้ร่างยังไม่ยอมแพ้ ถึงแม้ว่าชั่วอึดใจหนึ่งจะนึกหวั่นกลัว ยามคนบนร่างคลี่ยิ้มเย็นเยียบมาให้

“ดี ตอบรับดีนี่...”

คนฟังนิ่งอย่างนึกตกใจ มองมือหนาเคลื่อนออกจากลำคอ หลงเหลือเพียงความเจ็บแปลบราวหนังหัวจะหลุดด้านบนด้วยมือของคนบนร่าง เจ็บจนน้ำตาเอ่ออย่างไม่ได้ตั้งใจ “ไม่ต้องกลัวหรอก ผมไม่ทำอะไรคุณทั้งนั้นแหละมาวิน แค่อยากเห็นคุณทำหน้าแบบนี้ก็แค่นั้นเอง”

“นายมันไม่รู้จักสำนึก แทน นายมันเลว...”

ผู้ถูกกระทำหลับตาปี๋ มือที่เพิ่งคลายออกตบลงเปาะบนแก้มไม่หนักไม่เบา ท้ายที่สุดก็รู้แล้วว่าคนที่ควรจะถอยห่างออกมาอย่างแทนคุณที่เขาเคยนึกมีลางสังหรณ์ ได้เผยออกมาให้ชายหนุ่มเข้าใจแล้วว่าเพราะเหตุใดตนจึงรู้สึกเช่นนั้น

“นายต้องการอะไร ฉันก็ไม่ไปยุ่งกับนายแล้วไง”

“เลิก...เพราะเจอพี่กายงั้นหรือ”

“แทน!” มาวินร้องเสียงดัง ยกลำขาถีบพื้นนุ่มของโซฟาสุดแรงลุกขึ้นผลักให้คนด้านบนขยับออก “นายจะบอกว่าตอนนี้กำลังหวงฉัน เพราะคุณกายเขากำลังให้ความสนใจกับฉันงั้นซี เหมือนกับคนก่อนที่นายเขี่ยเธอทิ้ง แต่พอคนที่นายไม่ชอบให้ความสนใจกับเธอขึ้นมา นายก็อยากเอาชนะเขา เป็นอย่างนั้นใช่ไหม ทำตัวแบบนี้ไม่รู้รู้สึกอายบ้างหรือ ไอ้ขี้แพ้!”

แทนคุณนิ่งไป ราวกับความร้อนระอุเมื่อครู่ถูกเคลือบไปด้วยความเย็นจากประโยคของมาวิน

“ไปได้ยินมาจากไหน”

“แล้วมันถูกต้องไหมล่ะ เพราะเห็นว่าฉันกำลังถูกศัตรูตัวเองสนใจ เลยกลัวตัวเองจะเสียหน้าเหมือนคราวที่แล้วงั้นหรือ!”

มาวินใจหาย เมื่อมือหนาของผู้ฟังเคลื่อนมาบีบกรามของเขาแน่นจนบิดเบี้ยว พร้อมทั้งกล่าวกับเขาว่า “อย่ามาท้าทายฉัน...”

“แล้วจะทำไม นายมันพวกมีปม แทน...”

“ไม่เห็นเกี่ยวกัน”

สิ้นคำ มาวินเบิกตากว้างด้วยความเจ็บจุกกับหมัดที่ทิ้งลงบนหน้าท้องของเขา ชายหนุ่มไอตัวโยน ร่างอ่อนระทวยลงนอนที่เดิม หลังถูกต่อย มาวินไม่ถึงขั้นสิ้นสติในตอนนั้น สัมผัสได้ว่าการกระทำอีกฝ่ายเปลี่ยนไปยามเขาไม่มีเรี่ยวแรงจะขืน แต่เพียงไม่นาน หมัดที่สองก็กระทุ้งเข้ามาซ้ำอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้

ลำคอของมาวินอื้ออึงไปด้วยเสียงตนเอียงครวญเพราะเจ็บจุก และความอุ่นร้อนของน้ำตาที่ไหลอาบลงหู ยามเห็นแววตาสะท้อนแสงจากหลอดไฟด้านนอกของคนด้านบนมองลงมา

“ไอ้...ไอ้โรคจิต ทำแบบนี้ทำไม...”

ชายหนุ่มไม่มีแรงพอจะขัดขืนขณะที่ร่างด้านบนทำอะไรตามใจ

“เพราะฉันเจอของเล่นชิ้นใหม่แล้วยังไงล่ะ มาวิน”

“ไอ้ชั่ว ไอ้วิปริต”

มาวินไม่มีเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้กับอีกฝ่ายเลยแม้แต่นิด ยามสติสัมปชัญญะกำลังเลือนราง ภาพที่เขาเห็นและสัมผัสได้คือใบหน้าของแทนคุณขณะโน้มลงเข้ามาใกล้ ใกล้จนรู้สึกอุ่นร้อนเพราะลมหายใจ ขยับมาช้อนร่างเขาอุ้มขึ้นพาดบ่าราวกับตุ๊กตา พาเดินไปปิดไฟภายในบ้านทีละดวงอย่างไม่รีบร้อน และเมื่อแสงไฟทุกดวงดับลง ทุกอย่างมืดมิดไปพร้อมกับความจริงที่เขาเพิ่งได้รับรู้

“ฉันกำลังหาคนที่แข็งแกร่งแบบนาย คนที่กล้าท้าทายฉันในขณะที่กำลังกลัว...”

ไม่อาจรับรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับมาวินต่อ...

 

เสียงสตาร์ทรถด้านนอกปลุกให้คนหมดสติบนเตียงได้ยิน ดวงตาที่ปิดสนิทขยับไปมาก่อนจะเปิดขึ้นมอง วินาทีแรกจำต้องหรี่ลงเพราะแสงสีขาวจากผ้าม่านริมหน้าต่างสว่างเกินไป แต่นอกจากนั้น ความตกใจทำให้เขาต้องดีดตัวขึ้นผึงมองรอบกายพร้อมกับถามตนเองอยู่เช่นนั้นว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน

เช้าแล้ว มาวินกลืนน้ำลายขยับตัวสำรวจร่างกายตนเองเป็นอันดับแรก ทุกอย่างยังอยู่ครบถ้วน จากนั้นมองออกไปยังหน้าต่าง เห็นรถยนต์ของเจ้าของบ้านเพิ่งขับออกไป

หากต้องให้เดา ที่นี่คงเป็นบ้านพักของอีกฝ่ายไม่ผิดแน่ ตอนนี้เช้าแล้วและหมอนั่นคงกำลังเดินทางออกไปทำงาน

ชายหนุ่มรีบลุกขึ้น หยิบกระเป๋าสตางค์ของอีกฝ่ายที่วางทิ้งไว้แล้วมุ่งตรงไปยังประตูห้องนอนอย่างไม่ต้องคิดให้เสียเวลา ก่อนที่ไอ้โรคจิตนั่นจะเปลี่ยนใจกลับมา หากทว่าใจที่ชื้นอยู่ดีก็หล่นวูบ เมื่อยังไม่ทันถึงขอบประตูแรงจากด้านหลังก็กระตุกเขากลับจนล้มหงายท้อง เจ็บแปลบตรงข้อเท้าราวกับว่ามันจะหลุด

นี่มันอะไรกัน

เสียงวัตถุกระทบดังกรุ๊งกริ๊งเรียกให้มาวินลุกขึ้นตรวจเชคที่ข้อเท้าตนเอง ใจหายวาบ เมื่อเห็นโซ่ขนาดใหญ่ล่ามขาเขาอยู่ ราวกับตอนนี้ชายหนุ่มเป็นสัตว์เลี้ยงน่าสมเพชของไอ้หมอนั่น มาวินมือสั่นไหว มองไปยังเสาต้นหนึ่งที่ล่ามเขาไว้ด้วยความไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น!

แทนคุณ ไอ้วิปริต!



--------------------------------------

ในที่สุดมาวินก็จนมุม ถูกจับได้เสียที

ไม่ต้องตกใจไปนะคะ ตอนหน้าก็ถูกปล่อยแล้ว พร้อมกับตำแหน่งการเป็นคนของแทนคุณจริงๆ ที่พ่วงมาด้วย อิอิ

มาวินเอ้ย มีสามีทั้งทีก็ได้คนโรคจิต

ตอนนี้ ทุกคนก็เข้าใจแล้วเนอะว่าทำไมแทนคุณที่ไม่ได้เป็นเกย์ถึงรู้สึกดีเวลามีเซ็กส์กับมาวิน เพราะนางโรคจิตไง 555555 ประมาณว่าให้เลือกความรู้สึกกับเพศนางเลือกความรู้สึกมากกว่า เพราะนางชอบคนที่ท้าทาย

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
แทนคุ๊ณณณณณณณณณณณ~!! :katai1:

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
แทนคุ๊ณณณณณณณณณณณ~!! :katai1:

55555 ทุกคนที่อ่านถึงตอนนี้ อารมณ์แบบนี้ทุกคนค่ะ
แต่ตอนหน้าก็ดีขึ้น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa



ตอนที่ ๗

ในโลกของความเป็นจริงของผู้ที่อยากมีจุดยืนบนสังคม คงมีใครสักคนเห็นด้วยกับการสวมหน้ากากเข้าหาผู้อื่นเพื่อปกป้องตัวเอง มิให้ใครเขาเหยียดหยามได้ หากแม้นต้องกล้ำกลืนฝืนทนและไม่เป็นตัวของตัวเอง เพื่อแลกกับการถูกสังคมยอมรับแล้วก็ต้องจำใจทำ ชายหนุ่มบังคับรถยนต์เข้าไปเทียบจอดบริเวณโรงรถที่ถูกจัดประจำตำแหน่งอย่างไม่รีบร้อน ก่อนจะยกมือดูนาฬิกาหลังมือตนเองอยู่ครู่หนึ่ง

“ไอ้บ้า ไอ้วิปริต...”

วินาทีที่นึกถึงร่างของมาวินยามนอนหลับบนเตียง ใบหน้าสุขุมเรียบเผยมุมปากยิ้มได้ไม่ยาก

เขายอมรับว่าการถูกสังคมยอมรับเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะชายผู้มาจากตระกูลสูงส่งเพียบพร้อมอย่างเขา แต่ใครจะไปคิด ว่ารูปลักษณ์อย่างนี้จะมีรสนิยมทางเพศที่รุนแรง ป่าเถื่อน ชอบเห็นสีหน้าเจ็บปวดและหวาดกลัวของผู้อื่นยิ่งกว่าสิ่งไหน

ซึ่งบังเอิญว่ามีคนได้พบเห็นมุมนั้นของชายหนุ่มแล้ว เขาคนนั้นคือมาวิน ผู้ผ่านการมีเซ็กส์กับเขามาถึงสองครั้งสองครา แม้ว่าแทนคุณจะยังไม่เอาจริงกับความรุนแรงทั้งหมด แต่เพียงแค่นี้ ชายหนุ่มคิดได้แล้วว่าจะปล่อยคนที่เห็นธาตุแท้ของเขาขณะถอดหน้ากากให้รอดไปไม่ได้ มาวินคือคนแรกที่คิดจะสานสัมพันธ์ต่อ คือคนแรกที่เมินเฉยเขา คือคนแรกที่ยังจ้องตาเขาไม่ละในขณะที่ตัวเองกลัวจนตัวสั่น

มันทำให้แทนคุณรู้สึกท้าท้าย และคิดว่าไม่ควรจะปล่อยอีกฝ่ายให้หลุดมือ

หมอนั่นเป็นสิ่งที่น่าสนใจ

ขณะสาวเท้าเดินเข้าอาคารเรียน สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือสายตาของนักเรียนยามเดินสวนกันที่เปลี่ยนไป ทุกวัน ทุกคนจะหันมาทำความเคารพและทักทาย หากทว่าวันนี้มีเพียงส่งคำถามมาทางสายตากันเท่านั้น อาจารย์ฝ่ายปกครองหนุ่มรู้สึกแปลกใจ กวาดสายตามองโดยรอบไปพลาง สบตาของนักเรียกที่หันมามองเขาด้วยความฉงนภายในใจไปพลาง

ท้ายที่สุด ชายหนุ่มจึงเดินรี่ไปถามนักเรียนคนหนึ่งที่เดินสวนกันมา “เธอ มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับฉันงั้นหรือ”

นักเรียนตรงหน้าส่ายศีรษะ “มะ ไม่มีค่ะอาจารย์”

“แล้วทำไมทุกคนถึงมองมาที่ฉัน”

“ก็...” เด็กสาวหันกลับเข้าไปในตัวอาคาร “ที่บอร์ดโรงเรียน...”

ไม่รอให้นักเรียนกล่าวจบให้เสียเวลา แทนคุณย่างสามขุมไปยังจุดหมายเพื่อหาคำตอบให้ตนเองอย่างเร็วรี่ จากมุมนั้น เห็นกลุ่มนักเรียนชายหญิงยืนมุงดูอยู่หลายชีวิต บอร์ดโรงเรียนที่มีไว้เพื่อแปะข่าวคราวทุกอย่างของกิจกรรม เหตุใดจึงถูกใช้เป็นแหล่งจู่โจมคนอื่นด้วยการประจานกัน หลังไปถึง นักเรียนทุกคนดูเหมือนแตกตื่น ร่างสูงหยุดยืนดูอยู่ครู่หนึ่ง

หลังเห็นตัวหนังสือเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับตัวแทนคุณ ซึ่งแอบมีความสัมพันธ์กับนักเรียนหญิงคนหนึ่งหลังเลิกเรียน

นัยน์ตาคมกวาดมองรูปประกอบ เผยให้เห็นร่างของเขาขณะกอดประโลมเอมมิกาที่ตื่นกลัวอยู่หน้าห้องพยาบาล โดยคำบรรยายยังเล่าแต่งเติมบิดเบือนไปอีกว่าเขากอดรัดฟัดจูบนักเรียนตรงนั้นอย่างไม่อาย แล้วยังพากันขึ้นรถไปต่อกันที่โรงแรมอีกด้วย

หลังอ่านจบ แทนคุณรู้สึกอยากจะฆ่าคนที่ทำจนมือสั่นไหว เอื้อมดึงข้อความและรูปภาพเหล่านั้นมาฉีกทิ้งตามอารมณ์

“ใครเป็นคนทำ!”

ชายหนุ่มหันกลับไปมองเหล่านักเรียน ถามทั้งยังรู้อยู่แล้วว่าคงไม่มีใครยอมรับ สิ่งแรกที่นึกถึงคือกลุ่มนักเรียนที่แอบมองเขากับเอมมิกากลุ่มนั้นขึ้นมา ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เหตุใดจึงเกลียดเพื่อนร่วมสถาบันและทำร้ายกันด้วยวิธีนี้ด้วย แทนคุณไม่เข้าใจ

นั่นทำให้ชายหนุ่มลำบาก อาจกระทบถึงภาพลักษณ์ของโรงเรียนเลยก็ว่าได้

“อะไรนะ กล้องวงจรปิดเสีย!” แทนคุณทุบโต๊ะเสียงดังยามสบตาของหัวหน้ารักษาความปลอดภัยของโรงเรียน “พวกคุณทำงานประสาอะไรถึงไม่ตรวจสอบ มัวแต่นอนหลับกันหรือไง”

“ขอโทษจริงๆ ครับอาจารย์ พวกเรายื่นของบแล้วแต่ท่านรองไม่ยอมอนุมัติให้สักที” สิ้นคำ แทนคุณพูดสิ่งไหนไม่ออกเมื่อจนปัญญาที่จะต้องหากลุ่มเด็กพวกนั้นด้วยตัวเอง เขาอาจถูกเรียกไปสอบสวนและหากไม่มีหลักฐานชัดเจน อาจแย่ถึงขั้นพักงานด้วยซ้ำ นี่มันเป็นข่าวลือที่ถือว่าร้ายแรงที่สุดเลยก็ว่าได้ ที่อาจารย์ฝ่ายปกครองเสียเองแอบมีอะไรกับนักเรียน

ชายหนุ่มทิ้งกายนั่งลงบนเก้าอี้ภายในห้องพักอย่างเหนื่อยอ่อน ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เปลี่ยนความคิดของนักเรียนผู้รับสารไม่ได้ เขาจะทำอย่างไร หลังจากเอมมิกาหายป่วยแล้วกลับมาเรียน เธอคงรู้สึกแย่ที่ทุกคนมองเธอในแง่ร้ายอีกครั้ง

เสียงประตูเปิดแบบหุนหันพลันแล่นเรียกให้ชายหนุ่มหันไปดู พบเห็นน้องสาวตัวดียืนหอบตรงหน้า อธิบายได้เป็นอย่างดีว่าคงจะรีบวิ่งหน้าตั้งมาฟังเขาพูดความจริงเป็นแน่ “พี่แทน ที่เขาพูดกันมันไม่จริงใช่ไหมคะ พี่แทนกับแม่คนนั้นไม่ได้เป็นอะไรกัน...”

ชายหนุ่มทอดถอนใจ “

คิดว่าพี่เป็นคนแบบนั้นหรือ ไม่รู้จักพี่ชายตัวเองหรือไง”

“พี่แทนไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ นอกเสียจากว่า...” เด็กสาวกลอกตาไปมาครุ่นคิด ก่อนจะสบตาพี่ชายอย่างไม่อยากจะเชื่อ “นอกเสียจากว่ายายนั่นจะเป็นฝ่ายยั่วพี่แทนก่อน แล้วบังเอิญมีคนมาเห็นพอดี”

“ทาย เธอนี่มันแย่ยังไงก็แย่อย่างนั้นเลยนะ” พี่ชายเหว

“ก็...” เด็กสาวหลบตา

“เอมมิกาไม่ใช่คนประเภทนั้น เธอควรจะสงสารเขานะทาย รู้ไหม...เด็กคนนั้นต้องลำบากแค่ไหน ที่ต้องมาแบกรับอะไรแย่ๆ เพราะคำพูดของคนที่ไม่รู้จักเขาดีพอ ถ้าเป็นเธอ เธอจะรู้สึกยังไงที่ถูกมองในแง่ลบทั้งที่ไม่มีโอกาสอธิบายอะไรเลย” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนหลังกล่าวจบ ยามเห็นน้องสาวก้มหน้าลงมองพื้นอย่างสำนึกผิด ก่อนเจ้าตัวจะเงยขึ้นมารั้งแขนเขาด้วยต้องการทราบ

“พี่แทนจะไปไหนคะ ก็ไหนบอกว่าตัวเองไม่ผิดไง จะหนีทำไม”

“เปล่าสักหน่อย แต่มีที่ที่หนึ่งที่พี่จะต้องไป” เด็กสาวไม่รั้นอย่างเคย ก้มหน้าลงยามมือสากของพี่ชายวางลงบนศีรษะประโลมใจหลังเอ็ดจบ แม้อยากจะถามอีกหนึ่งข้อ ว่าเมื่อคืนแทนคุณไปพักที่ไหนกับใครด้วยความเป็นห่วง หากเธอก็จำต้องกลืนมันลงไป ทำได้เพียงมองตามร่างสูงย่างเดินไปข้างนอกด้วยความเงียบเชียบอย่างเคย แม้อยากจะบอกเต็มทนว่ามารดาพูดอะไรไว้บ้าง เมื่อคืน...

แทนคุณเบื่อที่บ้าน ไม่อยากกลับ เด็กสาวทราบดี

พี่ชายของเธอรู้สึกเหมือนตัวคนเดียวและเป็นคนนอกเสมอ เมื่ออยู่ร่วมกันกับครอบครัว มารดาของทั้งคู่เองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน จึงได้พูดถึงการแต่งงานของแทนคุณขึ้นมากลางโต๊ะอาหารอย่างไม่มีสาเหตุ แม้พี่ชายคนโตจะไม่อยู่รับฟังก็ตาม

หากแทนคุณทราบ คงปฏิเสธแน่

 

ผ่านมาทั้งวันโดยที่มาวินไม่ได้ทานอาหารสักมื้อ อาศัยดื่มน้ำที่ถูกวางทิ้งไว้บนหัวเตียงแก้กระหาย ชายหนุ่มทิ้งหายนอนลงบนเตียง มองแสงสีส้มของดวงอาทิตย์ซึ่งกำลังจะลับขอบฟ้าเต็มทีด้วยความรู้สึกที่ว่างเปล่า คงเพราะความหิว คงเพราะความล้าทำให้สมองไม่สามารถคิดอะไรได้ ไม่มีแม้แต่แรงจะเดินเสียด้วยซ้ำในยามนี้

แทนคุณ หมอนั่นใจไม้ไส้ระกำทิ้งเขาให้อดอยากที่นี่ เท่านี้ก็พิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่าสมควรจะเข้าโรงพยาบาลบ้าไปได้แล้ว เหตุใดจึงไปเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครองโรงเรียนได้กันหนอ

ในระหว่างที่นอนเอื่อยเฉื่อยรอความตายบนเตียง มาวินได้ยินเสียงรถยนต์แล่นเข้ามาภายในบ้าน แน่นอนว่าเป็นคนที่ชายหนุ่มกำลังสาปแช่งอยู่ตอนนี้ไม่ผิดแน่ ขณะที่ยังไม่มีแรงลุก มาวินเงี่ยหูฟังฝีเท้าอีกฝ่ายซึ่งยังย่างเดินไม่รีบร้อนขึ้นมาด้านบน ก่อนจะหยุดที่ประตู

มือของเขาเอื้อมไปหยิบแจกันข้างกายมาแนบกับล้ำตัว วินาทีที่ประตูเปิดออก เรี่ยวแรงที่มีถูกรวมไปไว้ที่แขน เหวี่ยงมันไปยังทิศนั้นสุดแรงเกิด ไม่นาน เสียงแจกันกระทบกับฝาผนังดังลั่นบ้าน พร้อมกับมาวินที่ยังหอบหายใจกับพละกำลังอันอ่อนล้าของตัวเอง และผิดหวังที่มันไม่ตรงตำแหน่งที่คาดไว้

“น่าจะโดนกลางหน้าผากทีนะ ฉันนี่ไม่แม่นเอาเสียเลย!” ชายหนุ่มกำหมัด มองตามร่างสูงของผู้มาใหม่ถือข้าวของพะรุงพะรังมาหยุดตรงหน้า คงเพราะรู้ดีอยู่ว่าไม่มีสิทธิ์เคืองโกรธที่มาวินทำเช่นนี้ “นายจะทำบ้าอะไรของนายกันแทน เห็นฉันเป็นสัตว์เลี้ยงหรือไงถึงต้องทำขนาดนี้ ฉันเป็นคนนะ ทำไมไม่พูดกันดีๆ ให้เข้าใจ!”

“ใครกันที่ไม่ยอมพูดดีๆ ก่อน นี่ผมยังไม่ทันทำอะไรคุณก็จะฆ่าผมแล้ว ทำให้มันแย่ลงไปเอง”

“นายจะบ้าหรือไง จะให้ฉันทนใจเย็นทั้งที่ตัวเองอยู่ขังอยู่ในนี้นี่น่ะหรือ!”

ทั้งสองจ้องตากันนิ่ง หลังมาวินเห็นแล้วว่าแทนคุณยอมรับในสิ่งที่เขาต่อว่า

“ผมไม่ได้อยากทำแบบนี้สักหน่อย แต่เพราะอยากมั่นใจว่าคุณจะไม่แอบไปตอนที่ผมหลับอีกเป็นครั้งที่สองเท่านั้นเอง” มาวินกำหมัด อยากซัดหน้าหมอนี่ให้หงายไปตามอารมณ์ตอนนี้เสียจริง เพราะภาพเบื้องหน้าที่เห็นคือแทนคุณกำลังทำอะไรต่อมิอะไรอย่างใจเย็น แกะกล่องพิซซ่าอย่างไม่รู้สึกรู้สาขณะกล่าวต่อกับเขา “ผมมีเรื่องจะต่อรองกับคุณ เราจะคุยไปด้วยกินพิซซ่าไปด้วยก็แล้วกัน อ้าปากสิ...หน้านี้อร่อยนะ”

ถึงจะนึกโกรธแต่มาวินก็ยอมอ้าปากรับ ถึงแม้ว่ามือจะไม่ได้ถูกล่ามหรือมัดไว้ก็ไม่ปฏิเสธทั้งสิ้น คงเพราะตอนนี้เขาไม่มีแรงเอาเสียเลย และมันก็อร่อยจริงอย่างที่แทนคุณว่า ได้กินร้อนๆ จากเตาใหม่ เนื้อแป้งนุ่มหนึบยากที่จะอธิบาย ห้านาทีแรกทุกอย่างเงียบเชียบ มีเพียงเสียงมาวินกินด้วยความหิวโหยไม่พูดไม่จา

“ช้าๆ สิคุณ”

เขาคิดว่าตัวเองต้องหิวตายเสียแล้ว “ฉันอดข้าวมาทั้งวันนะ นายทำแบบนี้ได้ยังไง”

“ขอโทษที ผมคิดว่าจะกลับมาตอนเที่ยงน่ะ พอดีเกิดเรื่องที่โรงเรียนนิดหน่อยก็เลยไม่ได้ออกมา แต่อย่ารีบกินขนาดนั้น เดี๋ยวได้ติดคอตายกันพอดี”

“เมื่อกี้ก็เกือบจะตายแล้วแหละวะ ถ้านายไม่มาเสียก่อน” คนถูกขังพ่นคำที่อัดอั้นออกมาขณะยังง่วนอยู่กับของกินเบื้องหน้า ไม่ทันมองรอยยิ้มของผู้ฟัง ที่ยังไม่ละไปจากใบหน้าของมาวินยามตั้งอกตั้งใจเคี้ยวของในปาก

หลังจากใช้เวลากับพิซซ่าแล้วมาวินจึงเริ่มรู้สึกตัวได้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสถานะใด เมื่อเริ่มอิ่ม ชายหนุ่มชำเลืองมองคนป้อนอยู่แวบหนึ่งด้วยความระแวดระหวัง ขณะที่เขากิน แทนคุณก็ยกชิ้นเดียวกันกับเขากัดกินพร้อมกันไปด้วย สลับกันไป ตอนนี้ ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะยังไม่ปรี๊ดแตกหรือเคืองโกรธเขาเฉกเช่นเมื่อวาน อาจเพราะมาวินยังไม่ได้พูดจากวนประสาทก็เป็นได้

ถึงแม้จะใช้วิธีฆ่าอีกฝ่ายแทนก็เถอะ

“อิ่มแล้วหรือ” และดูเหมือนว่า คนตรงหน้าก็กำลังสังเกตมาวินอยู่เช่นเดียวกัน เห็นเช่นนั้น ชายหนุ่มจึงรีบหลุบตามองพื้นเตียง

“อะ อืม...”

“งั้น เรามาคุยธุระของเรากันดีกว่า” ม

าวินถอยกรูด ขณะร่างสูงใหญ่ขยับเบี่ยงตัวล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงทำงานของตนเอง วินาทีนั้น เข้าใจว่าแทนคุณกะจะขุนให้เขาอิ่มหนำสำราญแล้วก็เชือดด้วยแส้ หรือกุญแจมือที่พกติดตัวมาด้วยเป็นแน่ คิดอย่างนั้นแล้วชายหนุ่มก็ร้องว้าก

“นายจะทำอะไร...”

“เมื่อตอนกลางวันผมไปเยี่ยมน้องสาวคุณมา อีกไม่กี่วันก็จะออกจากโรงพยาบาลแล้วใช่ไหม”

นี่มันเรื่องบ้าอะไร มาวินไม่เข้าใจสิ่งที่ตนเองกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้เลยสิพับผ่า เมื่อกี้แทนคุณยังดีๆ อยู่เลย แล้วไหงจะมาจับเขาเล่นซาดิสม์อะไรกันอีก ชายหนุ่มคิดทั้งกระถดกระถอยไปติดผนัง มองร่างสูงใหญ่ของคนตรงหน้าลุกขึ้น ย่างเท้าเข้ามาใกล้ขณะที่ยังล้วงกระเป๋ากางเกง ราวกับกำลังควานหาอะไรสักอย่าง จะเป็นโซ่ เป็นแส้ เป็นเทียนหรืออะไรมาวินก็ไม่ชอบอยู่ดี!

แล้วนี่พูดถึงเอมมิกาขึ้นมาทำไม มาวินอยากจะบ้า

“ชอบคุณทำหน้าแบบนี้จริงเลย” คนกล่าวระบายยิ้ม มาวินยอมรับเลย ว่าแทนคุณเป็นคนที่ยิ้มได้น่ากลัวที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ถึงแม้จะยังไม่ทิ้งลายสุขุมใจเย็น แต่พอได้รู้จักตัวตนของคนอายุน้อยกว่าอย่างหมอนี่แล้ว อย่างไรก็ไม่มีทางอยู่ใกล้อย่างสนิทใจได้อีกแล้ว

“จะ จะทำอะไร!”

มาวินกุมข้อเท้า ขณะถูกกระชากจนร่างไถลไปตามแรง หยุดอยู่ปลายเตียงที่แทนคุณยืนอยู่

“กลัวหรือ หืม...”

คนฟังนึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะเสียง...ฟังดูอบอุ่นต่างจากที่คิดไปไกล

ต่างจากที่มาวินคิดราวกับหนังคนละม้วน ชายหนุ่มกุมข้อเท้า ชำเลืองมองคนตัวโตกว่าทรุดกายนั่งข้าง เผยมือที่ผละออกจากกระเป๋ากางเกงให้เขาเห็นว่าสิ่งที่แทนคุณหยิบออกมาเป็นอะไร อีกมือก็จับที่เท้าของเขาราวกับกำลังจะทำอย่างที่มาวินคิดจริง แทนคุณถือลูกกุญแจ กำลังจะปลดมันออกจากเท้าของเขา

“ไม่ต้องกลัวหรอก ผมไม่คิดจะขังคุณไว้ตลอดหรอกนะมาวิน แค่ตอนนี้...”

ชายหนุ่มเงียบฟัง ขณะที่คนนั่งข้างกระซาบ “ผมไม่ได้ร้ายตลอดเวลาหรอกนะ ถ้าคุณทำตัวดี ผมก็จะดีจนคุณใจหาย ขอแค่อย่าทำให้ผมโกรธ และคุณควรคิดด้วยว่าสิ่งไหนบ้างที่ทำให้ผมโกรธ แล้วก็อย่าทำ”

นี่มันบ้าอะไร...มาวินได้แต่ถามคำถามนี้กับตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ขณะก้มหน้าก้มตามองมือหนาปลดกุญแจให้อย่างไม่นึกกลัวว่ามาวินจะหนีไปเดี๋ยวนั้น แต่เอาเข้าจริง คงเพราะแทนคุณรู้กระมัง ว่าคนอย่างมาวินเป็นพวกขี้ขลาดแต่ทำเป็นเก่ง อย่างไรเสียเขาก็ไม่กล้าแม้แต่กระดิกตัวไปไหน

สรุปแล้ว เขากลายเป็นสัตว์เลี้ยงของอาจารย์ฝ่ายปกครองโรคจิตนี่ไปแล้วจริงๆ น่ะหรือ

“นายจะปล่อยฉันไปใช่ไหม” มาวินเงยขึ้นสบตา “ฉัน...ค่อนข้างงง ไม่เข้าใจว่านายกำลังคิดอะไรอยู่”

คนกล่าวมองแทนคุณเอื้อมมือไปหยิบถุงยา ทำแผลให้อย่างเงียบเชียบ ก่อนจะพูดเปรยออกมาอย่างไม่นึกใส่ใจความหมายว่า “ผมได้ยินมาว่าคุณป่าวประกาศกับคนอื่นไปทั่วว่าเป็นคนของผม...”

“ดะ เดี๋ยวสิ ตอนนั้นฉันแค่พูดไปเพราะอยากเอาชนะไอ้เอกแค่นั้นเอง”

“ผมไม่สนหรอกว่าคุณจะพูดไปเพราะอะไร แต่ตอนนี้คุณอยู่ในฐานะนั้นเรียบร้อยแล้ว คุณเป็นของผม ทุกอย่างที่เป็นของคุณล้วนแล้วแต่เป็นของผม”

“บ้าหรือไง ไม่ใช่...”

มาวินลุกขึ้นยืนด้วยความฉุน มุ่งหน้าจะเดินออกจากห้อง หากทว่าแรงดึงจากด้านหลังเกี่ยวเอวเขาให้หันกลับไป ทิ้งก้นลงนั่งบนตักของคนกระทำอย่างเหมาะเจาะ ชายหนุ่มเบิกตา ดื้อดึงอยู่พักหนึ่งอย่างไม่ยินยอมโดยง่าย ทว่าครั้นได้สบตาแทนคุณ จิตใจที่คิดขัดขืนก็มลายหายไป คงเพราะยามนี้ที่มาวินเห็นมิใช่แทนคุณคนเลวที่เจอเมื่อวาน ชายตรงหน้าไม่มีแววเคืองโกรธใดใดเจือปนในแววตา

“ผมรู้ว่าคุณกลัวผม มันยากที่คุณจะเข้าใจว่าทำไมผมถึงต้องบังคับให้คุณทำแบบนี้”

ใช่...

“แต่ผมไม่ใช่ประเภทหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่ตลอดเวลา ผมมีเหตุผลที่จะโกรธเหมือนคุณ คงบอกคุณอย่างเต็มปากไม่ได้ว่าผมเองก็เป็นคนปกติเหมือนกัน” แทนคุณคงกำลังหมายความว่าหากมาวินไม่อยากมีปัญหาเสียเอง ก็ไม่ควรทำให้แทนคุณโกรธอย่างนั้นซีนะ

หากแม้นว่าชายหนุ่มไม่ชอบที่แทนคุณทำต่อเขาเมื่อวานก็จริง มันน่าตกใจเมื่อได้รู้ว่าแท้จริงแล้วหมอนี่เป็นคนอย่างไร หากให้เขาคิด แทนคุณก็เพียงแค่เห็นมาวินเป็นคนเดียวที่สามารถยอมรับในสิ่งที่อีกฝ่ายเป็นได้ นอกเสียจากคิดจะใช้กำลัง แทนคุณยังแสดงให้เห็นด้วยว่าสามารถสงบสติอารมณ์ได้ดีกว่าที่คิด เพียงแต่ คนที่เห็นแล้วว่าแท้จริงเป็นอย่างไรอย่างมาวินเสียเองที่ไม่สามารถสงบสติตัวเองได้

ที่พูดถึงเอมมิกา เพราะอยากขู่เขาให้ยอมทำตามอย่างนั้นหรือ

ชายหนุ่มเงยขึ้น สบมองคนด้านใต้อย่างไม่อาจไว้วางใจ “ทำแบบนี้ หมายความว่านายต้องให้ฉันยอมให้ได้ใช่ไหม ทำไมถึงเป็นฉันกันล่ะ”

“ไม่ต้องถามหรอก เอาเป็นว่าผมให้เท่าที่คุณต้องการได้”

สิ้นคำของแทนคุณแล้วนั้น ดุจถูกคำสาปร่ายมาสะกดใจของผู้ฟังให้รู้สึกเจ็บหนึบ เพราะอย่างนี้นี่เอง เพราะเห็นว่าเขาต้องการใช้เงินจึงรู้ว่าอย่างไรเสียมาวินต้องยอมรับ ที่กล่าวถึงเอมมิกา เพราะอยากให้ชายหนุ่มรำลึกถึงข้อนี้เป็นแน่

จะได้ไม่ปฏิเสธ

ความรู้สึกแรกคือรู้สึกสมเพชตัวเองอย่างหาที่เปรียบมิได้ เพราะถึงแม้อยากจะปฏิเสธอย่างไร ศักดิ์ศรีของเขาก็มีไม่พอที่จะกล้าเอ่ยคำนั้น ชายหนุ่มลอบพ่นลมหายใจ จำต้องพยักหน้าตกลงในท้ายที่สุด แม้ว่าเขาจะต้องทิ้งศักดิ์ศรีให้แทนคุณเหยียบย่ำด้วยคำพูดและการกระทำ หากแลกด้วยความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของน้องสาว และอุ้มชูให้น้าอรอยู่ดีกินดีมากขึ้นกว่าเดิม

เขายอม

 

อันที่จริง นอกเสียจากสิ่งที่แทนคุณตกลงกับเขาด้วยคำพูดวันนั้นแล้ว ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเท่าใดนัก นอกจากระหว่างมาวินกับแทนคุณจะรับรู้อยู่ในใจเสมอว่าตนเกี่ยวข้องและมีพันธะอะไรมัดไว้อยู่ นี่ก็ปามาสามวันแล้วที่อีกฝ่ายยังทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกเสียจากบัตรเครดิตที่ให้ไว้สองใบ และกุญแจรถไว้ใช้ อีกทั้งบ้านหลังนั้นที่พร้อมให้เขาพาเอมมิกาย้ายเข้าไปอยู่

ใจจริงมาวินก็รู้สึกหายเครียดเรื่องการเงินของตัวเองขึ้น หลังจากได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้น้องสาวได้แล้วและสามารถจุนเจือไปใช้ด้านอื่นได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทว่าสิ่งเดียวในยามนี้ที่ชายหนุ่มคิดไม่ตก คือเรื่องนั้น...

แทนคุณจะกลับมาร้ายเมื่อไร

“พี่วิน คิดอะไรอยู่หรือคะ ทำไมเงียบจัง” น้องสาวหันมาสบตาชายหนุ่ม นั่นทำให้มาวินฉุกคิดได้ว่าเขาไม่ควรแสดงออกมาทางสีหน้าเช่นนี้ ชายหนุ่มระบายยิ้ม ยกมือเคลื่อนขึ้นไปปัดปอยผมที่ตกมาระหน้าผากน้องสาวอย่างอ่อนแผ่ว โล่งใจที่เอมมิกาออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นที่บ้านได้แล้ว

“พี่กำลังเป็นห่วงเอมน่ะ”

เธอเผยรอยยิ้มสดใส “ไม่ต้องห่วงหรอกน่า เห็นไหมเอมเดินคล่องแล้ว”

“เอมอายไหมที่จะต้องมาอยู่ในบ้านแบบนี้ ถ้าเอมได้อยู่กับพ่อ เอมจะมีทุกอย่างเลยนะ”

“ทำไมพี่วินพูดแบบนี้ล่ะ ไม่รักเอมแล้วหรือ” เด็กสาวเคลื่อนมือมากุมมือที่วางบนตักเขาแน่น ดวงตาเริ่มแดงขึ้น

“พี่คิดว่าบางทีตัวเองก็พาเอมมาลำบากอย่างที่ไม่ควรจำเป็นเลย ทั้งที่อยู่โน่นก็สบายดีแล้ว”

“เอมไม่เอาสบาย เอมอยากมีความสุขมากกว่า พี่วินอย่าทิ้งเอมเลยนะ อย่าคิดที่จะพาเอมกลับไปอยู่กับพ่อเลย”

ใจมาวินเจ็บจนรู้สึกจุก ยามน้องสาวกอดเขาแน่นร้องไห้คิดเองเออเองว่าเขาจะทอดทิ้งเธอเพราะความเหน็ดเหนื่อย มือหนากอดเธอแน่นไว้แนบอก ทั้งปลอบประโลม และเป็นคำมั่นสัญญาว่าจะไม่มีทางทอดทิ้งน้องสาวให้กลับไปนรกแห่งนั้นแน่ ไม่มีวัน

ถึงแม้ว่าเขาจะกลายเป็นแมงดา ในสายตาคนอื่นก็ตาม

สองพี่น้องกอดกัน แม้อยู่ภายในบ้านที่เล็กโกโรโกโสไม่โก้หรูเหมือนใคร แต่คงไม่มีใครแล้วที่จะรับรู้และคิดได้ว่าอย่างไรเสีย องค์ประกอบพวกนั้นไม่สามารถมอบความอบอุ่นให้คนในครอบครัวรู้สึกเฉกเช่นเดียวกับที่ทั้งสองคนสัมผัสได้ หากไม่มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน

ตาคมมองทอดออกไปยังหน้าบ้านเรื่อยเปื่อย ด้วยอารมณ์ที่ยากนักจะหยั่งถึงความคิดตนเอง ประจวบเหมาะกับเหลือบไปเห็นรถยนต์นอกคันหนึ่งแล่นมาจอดเทียบหน้ารั้วบ้าน คันเดิมที่เขายังจำได้ว่าเจ้าของของมันคือใคร มาวินหันมองน้องสาวที่ยังคงสวมกอดเขาร้องไห้สะอึกสะอื้น เว้าวอนให้เขาอยู่เคียงข้าง โดยไม่รู้จะเริ่มจัดการตัวเองที่ตรงไหนก่อน ระหว่างน้องสาว กับชายคนหนึ่งที่มีอำนาจต่อชีวิตเขาทั้งชีวิต

ใจมาวินหาย เมื่อแทนคุณเลือกที่จะเปิดประตูออกมายืนอยู่ข้างรั้ว มองเข้ามาด้านในอย่างไม่รีบร้อนให้เขาเดินออกไปต้อนรับ

“อาจารย์แทนนี่นา พี่วิน...อาจารย์แทนมาหาเราค่ะ”

“พี่เห็นแล้ว เอมไปนอนพักก่อนนะ เขาคงมาคุยธุระเรื่องที่เอมขาดเรียนน่ะ”

แทนคุณสวมชุดสูท หากทว่ายามนี้หลงเหลือเพียงเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีอ่อนเท่านั้น ราวกับว่าจะไม่กลับไปโรงเรียนอีกแล้ว มาวินเปิดประตูรั้วไปหยุดยืนตรงหน้าอีกฝ่ายด้วยความใคร่รู้ ว่าแท้จริงแล้วเหตุผลที่แทนคุณมาหาเขาวันนี้ด้วยเพราะเหตุใด

“ดูหน้าคุณเหมือนจะเหนื่อยนะ มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า”

คนฟังสบตา เหตุใดแทนคุณจึงกล้าถาม “นายนั่นแหละ ไม่ไปทำงานหรือไง”

“ผมมารับคุณ”

ว่าแล้วเชียว มาวินหันกลับไปมองเอมมิกาที่ยังนั่งเล่นอยู่หน้าบ้านพักครู่หนึ่ง ก้าวเข้าไปใกล้คนตรงหน้าพูดเสียงเบากว่าเดิมด้วยกลัวน้องสาวจะได้ยิน “ยังไม่ใช่วันนี้แทน น้องสาวฉันยังไม่ทันหายดีเลย ฉันไม่อยากทิ้งเอมไว้ที่นี่คนเดียว”

“งั้นก็พามาอยู่ด้วยกันซี ลืมไปแล้วหรือไงว่าคุณเป็นใคร คุณเป็นคนของผม” แทนคุณกุมต้นแขนเขาขณะกล่าว เล่นเอาคนฟังหูผึ่งไปชั่ววินาทีนั้นทันทีที่ได้ฟัง ยามจะดีก็ดีจนใจหายอย่างที่เคยพูดกับเขาไว้จริงเสียด้วย

“เอ่อ...แค่นี้มันก็มากเกินไปแล้ว ฉันไม่รู้จะตอบคำถามเอมยังไงดีน่ะ ที่จู่ๆ ก็มีของพวกนี้ขึ้นมา”

“ก็ตอบตามความเป็นจริงไปซี ยังไงบ้านหลังนั้นผมก็ไม่ค่อยได้กลับอยู่แล้ว”

“ฉันดีใจนะที่นายอยากให้ฉันอยู่ดีกินดี แต่แค่นี้มันก็มากพอแล้ว”

“กับคนที่แล้วคุณพูดแบบนี้กับพวกเขาด้วยหรือเปล่า”

คนฟังเงยขึ้นสบตา อยากรู้ความหมายของคำถามเมื่อครู่ ใจหนึ่งก็คิดว่าอย่างไรเสียคนอย่างแทนคุณก็ยังไม่ทิ้งนิสัยเดิม คนที่คอยใช้วาจาเหยียบย่ำศักดิ์ศรีคนอื่น มาวินกลืนน้ำลาย ยื้อแขนตนเองกลับมาอย่างนึกขุ่นข้อง “หมายความว่ายังไง นายจะบอกว่าไม่อยากเชื่อที่ฉันจะปฏิเสธสิ่งที่นายหยิบยื่นมาให้งั้นหรือ”

มาวินจ้องตาคนตรงหน้า ไม่ชอบใจเมื่อเห็นว่าแทนคุณจะไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดใด ราวกับยอมรับอยู่กลายๆ ว่ากำลังคิดเช่นนั้นต่อชายหนุ่ม ไม่อยากเชื่อ เขาต้องตกอยู่ใต้เงื้อมมือของไอ้หมอนี่ไปอีกนานเท่าไร ขณะที่กำลังตกอยู่ในภวังค์แห่งความโกรธขึ้ง มาวินสะบัดแขนอีกครั้ง หลังรู้สึกได้ว่ากำมือหนาของอีกฝ่ายเคลื่อนมากุมต้นแขนเขารั้งเข้าไปหา

ให้มาวินได้ยินสิ่งที่คนตรงหน้ากล่าวถนัดถนี่ชัดเจนขึ้น

“จะตอบแทนผมอย่างที่ตอบแทนคนพวกนั้นหรือเปล่า”

คนฟังกัดฟัน “หมายความว่าไง”

“ก็อย่างที่คุณเข้าใจนั่นแหละ”

“มะ ไม่ได้!” มาวินเบิกตาโพลงยื้นแขนตัวเองกลับหลังรับรู้แล้วว่าเหตุผลที่แท้จริงของแทนคุณคืออะไร ที่จริง ชายหนุ่มเคยคิดว่าตัวเองไม่ได้เสียหายอะไรที่จะนอนกับแทนคุณ หากหมอนี่รวยพอที่จะเลี้ยงเขาได้ ทว่านี่มันผิดจากที่มาวินคาดไว้ไปคนละโยชน์

แทนคุณเป็นพวกชอบความรุนแรง ต่างจากเอกณรงค์ที่เป็นคนดิบ ไม่สุภาพเพียงแค่ภายนอก แต่ยามอยู่ด้วยกันสองคนก็ยังรู้จักอ่อนโยนกับเขา มันต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่มาวินกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้

“ไม่มีทาง ฉันจะไม่นอนกับไอ้ซาดิสม์อย่างนายแน่!”

คนฟังชะงัก นิ่งไป ก่อนจะยอมผละมือออกไปในท้ายที่สุด

“ไม่เป็นไร ผมเข้าใจ...”

สิ้นคำ มาวินนึกแปลกประหลาดใจไปกับท่าทีตอบรับของอีกฝ่าย นี่อาจชี้วัดได้แล้วว่าแทนคุณมีเหตุผลที่จะไม่โกรธด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง หรือไม่ คำพูดของมาวินอาจกำลังทำร้ายแทนคุณให้เสียใจอยู่ หรือไม่...ลึกๆ แล้วแทนคุณไม่ได้อยากเป็น ‘ไอ้ซาดิสม์’ อย่างที่มาวินจี้ใจดำไปก็ได้

ตอนนี้มาวินรู้สึกราวกับตัวเองเป็นคนเลวเสียเองที่เอาปมด้อยของคนอื่นมาล้อเลียน เขาอาจตีความในสิ่งที่แทนคุณกระทำผิดไปก็เป็นได้ หรือที่จริงแล้วแทนคุณอาจกำลังเจ็บปวดกับปมด้อยของตัวเองอยู่ลึกๆ และกำลังมีความหวังขึ้นมา เมื่อพบใครสักคนที่สามารถยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นได้โดยไม่นึกรังเกียจ ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่เก่งเรื่องเข้าหาคนอื่นแม้จะอยากพูดคุยด้วยเท่าไร ก็ยังสรรหาคำออกมาได้เลวร้ายอยู่ดี

แต่ก้นบึ้งภายในใจ แทนคุณกำลังคาดหวังในตัวมาวินอยู่...

ชายหนุ่มทำได้เพียงจ้องตาชายตัวสูงเบื้องหน้า ขณะที่อีกฝ่ายเคลื่อนมือมาสัมผัส เกาะกุมมือของเขาด้วยความเบาและระแวดระวัง ราวกับกำลังอ้อนวอนและสิ้นหวังอยู่ในที...

นี่กระมัง คือคำอธิบายทั้งหมด

“ถ้าอย่างนั้น ฉันมีสิทธิ์ที่จะหวงนายใช่หรือเปล่า...แทน”





-------------------------------------------------------

เรื่องเริ่มเข้มข้นขึ้นแล้ว ในขณะที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่กำลังเติบโต

ปัญหาของแต่ละฝ่ายเริ่มเข้ามาแล้ว

อันที่จริงแทนเป็นคนที่มีความจิตนิดๆ ถ้าได้เริ่มอ่านจะรู้ว่าต้นเหตุมาจากครอบครัว แม่ ที่ชอบตั้งความหวังให้พี่ชายคนโตของบ้าน ว่าอยากให้เพียบพร้อมทุกอย่าง เป็นตัวอย่างที่ดีให้น้องๆ และการถูกสั่งสอนมาแบบผิดๆ ถ้าได้เปิดใจอ่าน ทุกคนจะรักนาง

ส่วนมาวิน นี่มีความแสบสันต์ แต่เคยเป็นคุณหนูมาก่อน ไม่เคยรู้จักความลำบากเลย ก่อนที่จะรับน้องมาเลี้ยงก็เอาแต่เที่ยวไปวันๆ นี่ต้องปรับตัวครั้งใหญ่ตั้งแต่ทะเลาะกับพ่อและรับน้องมาเลี้ยง หนูนาจะเล่า เน้นปัญหาทางบ้านของทั้งสองคนมากกว่านะคะ ว่าทำไมทั้งสองคนถึงได้กลายเป็นคนแบบนี้

แต่หลังจากนี้ ทั้งแทนคุณกับมาวินกำลังเติบโตไปพร้อมกันค่ะ เรื่องนี้เบากว่าน้องมิณทร์ลุงอ้ายมากเลยนะคะ

อย่าลืมคอมเม้นเป็นกำลังใจด้วยน้า ขอบคุณค่ะ

เจอกันตอนหน้าเน้อ

ออฟไลน์ princeofdark

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอดูทั้งคู่ค่ะ เริ่มเข้าหากันแล้วเย่ๆ
ใครนะที่จ้องเล่นงานแทนคุณ พี่กาย?

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
อย่างเรียกได้ว่าแทนคุณเป็นคนสองบุคลิกหรือป่าวนะ? :hao4:

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
อย่างเรียกได้ว่าแทนคุณเป็นคนสองบุคลิกหรือป่าวนะ? :hao4:
จะเรียกแบบนั้นก็ได้ จะเรียกนางว่าจิตก็ได้ค่ะ เพราะนางมีปม

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
รอดูทั้งคู่ค่ะ เริ่มเข้าหากันแล้วเย่ๆ
ใครนะที่จ้องเล่นงานแทนคุณ พี่กาย?
ต้องรอลุ้นด้วยกันจ้า

ออฟไลน์ blur

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เนื้อเรื่องเข้าที่ละ มาต่อให้จบนะคนแต่ง 5555555 (กดดันๆ)

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
เนื้อเรื่องเข้าที่ละ มาต่อให้จบนะคนแต่ง 5555555 (กดดันๆ)

ไม่กดดันเพราะเขียนจบแล้ว อิอิ
 :katai5:

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa


ตอนที่ ๘

เสียงพริกแกงประสมกับน้ำมันร้อนกระทบกันดังซ่าอยู่ภายในครัว ไม่นาน ผู้ที่นั่งอยู่ข้างนอกจำต้องจามออกมากับความฉุนของมันจนน้ำหูน้ำตาไหล แทนคุณยกผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตา เดินกุมจมูกพาร่างของตัวเองไปชะโงกหน้าดูว่าเจ้าบ้านกำลังทำเมนูอะไรอยู่ เห็นมาวินจับตะหลิวผัดปลาดุกที่ผ่านการทอดจนฟูกับพริกแกงอย่างกระฉับกระเฉง

หลังหยิบจับเครื่องปรุงโน่นนี่เทใส่กระทะแล้วเสร็จก็หยิบใบมะกรูดที่ซอยทิ้งไว้โรยใส่ คนให้เข้ากัน จากกลิ่นฉุนแสบจมูกก็หอมหวนชวนให้ลองชิม คนยืนมองเห็นท่าแล้วก็เข้าใจได้เลยว่ามาวินเก่ง หลังมองเมนูอื่นที่วางไว้อยู่บนโต๊ะอาหาร แม้นว่าจะเป็นธรรมดาชาวบ้าน แต่สำหรับชายหนุ่มที่ต้องดูแลน้องสาวด้วยตัวคนเดียว หนำซ้ำเป็นพวกชอบเที่ยวกลางคืนเป็นชีวิตจิตใจ ค่อนข้างยากที่จะทำอาหารเป็นชิ้นเป็นอันเช่นนี้

ขณะที่อีกฝ่ายกำลังบรรจงตักกับข้าวใส่จาน แทนคุณจึงเดินเข้าไปขนาบข้าง ชะโงกเข้าไปดูให้ชัดเจนว่าฝีมือของมาวินเก่งกาจจริงหรือไม่ อีกฝ่ายเงยขึ้นมาสบตา เผยรอยยิ้มอยู่วินาทีหนึ่งราวกับรู้ทันว่าแทนคุณกำลังนึกดูถูกเขาอยู่ หากมาวินไม่มั่นใจ จะหาญชวนแทนคุณมาร่วมโต๊ะด้วยหรือ

“เอ้า ยกกับข้าวไปเรียงบนโต๊ะซี มัวยืนมองอะไร” พ่อครัวยื่นจานให้ พร้อมทั้งทำยื่นปากไปยังโต๊ะอาหารขนาดพอดีกับประชากรใกล้ประตูครัว แทนคุณรับไปถือ จำต้องเดินเอาไปวางอย่างที่อีกคนสั่ง “แล้วก็จัดจานรอด้วยนะ จัดเป็นใช่ไหม”

แทนคุณเงยมองร่างสูงโปร่งของคนสั่ง ขณะถอดผ้ากันเปื้อนแล้วหันไปจัดแจงข้าวของหน้าเตา นี่มาวินคิดจริงหรือว่าเขาจะทำอย่างที่สั่ง

“ชักจะเกินไปแล้วนะ ผมเป็นแขกนะ”

“แขกก็ควรจะรู้จักมารยาทสิ นี่มากินข้าวบ้านเขาจะนั่งรอให้เขาเอามาป้อนหรือไง” มาวินเดินมาหยุดอยู่ข้างแทนคุณ มองมือหนาขณะหยิบจับจานพลาสติกเกรดต่ำวางเรียงกันบนโต๊ะอย่างไม่พูดไม่จา ก่อนจะหยิบช้อนส้อมวางไว้ให้อย่างเหมาะเจาะครบจำนวนสมาชิก

ดูเหมือนจะชำนาญ หากทว่ามาวินแอบระบายยิ้มยามเจ้าตัวคอยเงยขึ้นมามองเขา ราวกับต้องการขอความเห็นว่าที่ทำอยู่นั้นถูกต้องหรือเปล่า มาวินทำได้เพียงพยักหน้ารับอยู่เนืองๆ

“ก็ทำได้นี่นา”

คนฟังดูเหมือนจะพอใจ ยามถูกมาวินชมพร้อมตบบ่าเขาเปาะอย่างสนิทใจ

คนชมชะงัก ก้มลงมองมือตนเองบัดนี้ถูกอีกฝ่ายเคลื่อนมือหนาขึ้นมากุมมือเขาอีกที ทำเอามาวินใจไม่ดียามเห็นแทนคุณแสร้งเป็นคนไม่รู้สึกรู้สา ขณะที่หูแดงฉ่า หากแม้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้เงยขึ้นมาสบตามาวินแม้แต่น้อย เหตุใดชายหนุ่มจึงรู้สึกเขินจนทำตัวไม่ถูกเช่นนี้

ให้ตายซี หมอนี่ก็มีมุมน่ารักอยู่เหมือนกัน

“กับข้าวหอมไปถึงข้างบนเลยค่ะพี่วิน เอมมาช้าเกินไปไหม ปล่อยให้รอแย่เลย” เสียงของผู้มาให้ทำให้ทั้งสองที่ยังตกอยู่ในช่วงอารมณ์แปลกหลุดออกมาได้ มือของทั้งคู่ถูกผละออกอย่างรวดเร็วอย่างไม่ต้องนัดหมาย พร้อมกับความรู้สึกที่คุกรุ่นเมื่อครู่หายไป

“ไม่หรอก นี่พี่ก็เพิ่งทำกับข้าวเสร็จ”

มาวินทรุดนั่งข้างแทนคุณ อีกมุมเป็นเอมมิกาที่รีบนั่งลงอย่างไม่ต้องบอก มองเหล่าอาหารอย่างตื่นตาดีใจ “มีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลย เอมนอนโรงพยาบาลมาหลายวัน คิดถึงกับข้าวฝีมือพี่วินมากเลยค่ะ ดูน่าอร่อยใช่ไหมคะอาจารย์” ประโยคสุดท้ายหันไปถามแทนคุณ

แขกตัวสูงพยักหน้ารับ ขณะที่มาวินกำลังตักข้าวใส่ชามให้ แน่นอนว่าเจ้าตัวที่นั่งฟังย่อมมีความสุขยามถูกชมถึงฝีมือ แทนคุณไม่ได้โกหกแต่อย่างใด ยิ่งได้ชิม ยิ่งเข้าใจแล้วว่าเหตุใดเอมมิกาจึงมั่นอกมั่นได้และกล้าที่จะอวดเขาได้ว่าพี่ชายเธอเก่ง

และอีกหนึ่งอย่างที่ชายหนุ่มสัมผัสถึงตั้งแต่ย่างเท้าเข้ามาด้านใน คือไออุ่นของความรักที่ยังอบอวลไปทั่วบ้านหลังเล็กนี้ เป็นสิ่งเดียวซึ่งเขาไม่เคยจับต้องในบ้านที่ตนเองเติบโตมา ไม่ว่ามันจะกว้างใหญ่เพียบพร้อมอย่างใครฝันถึงก็ตาม

“ว่าแต่อาจารย์มาอยู่นี่ทั้งวัน ที่โรงเรียนไม่ว่าหรือคะ”

เอมมิกาถามขึ้น เรียกให้มาวินชำเลืองตามอง

“ก็...วันนี้คงได้ทำงานที่โรงเรียนเป็นวันสุดท้ายแล้ว”

“หมายความว่าไง” มาวินย้อนอย่างไม่อยากเชื่อ ครั้นเห็นสีหน้าของแทนคุณคล้ายลำบากใจที่จะพูดถึง นั่นทำให้ชายหนุ่มเดาได้เลยว่าอาจจะเป็นเรื่องใหญ่พอควร ยามแทนคุณถอนใจก่อนจะเอ่ยตอบ “ครูถูกสอบสวนน่ะ ตอนนี้ต้องพักงานไปก่อน อย่างไม่มีกำหนด”

“เรื่องอะไรคะ ร้ายแรงหรือเปล่า”

“เอม...” เอมมิกาหันไปสบตามาวิน เด็กสาวเข้าใจดีว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาของผู้ใหญ่ จึงเงียบไปเมื่อมาวินเลือกที่จะปรามมิให้เธอซักไซ้แทนคุณเสียจนลำบากใจ เธอหันไปก้มหน้าก้มตาตักอาหารเข้าปาก ลอบกวาดสายตามองบรรยากาศระหว่างทั้งสามอย่างเงียบเชียบ

“แล้วนี่ นายก็ต้องอยู่เฉยๆ ระหว่างรอผลสอบสวนน่ะหรือ”

“อาทิตย์นี้ผมคงต้องเร่งรวบรวมหาหลักฐานให้ตัวเองพ้นผิดไปก่อน” แทนคุณวางช้อนส้อมในมือ หันไปสบตาคนถามขณะเล่าอย่างไม่นึกปกปิด นั่นทำให้เด็กสาวที่นั่งมองอยู่รู้สึกถึงความผิดปกติ “พูดง่ายๆ ผมต้องหาข้อมูลมาแก้ตัวให้ตัวเอง เพื่อลบคำสบประมาทของคนอื่น”

“นี่คือเหตุผลที่นายไม่ติดต่อฉันมาใช่ไหม”

เอมมิกาหันขวับไปมองพี่ชายอยู่ชั่วอึดใจหนึ่ง แม้นภายในใจไม่อยากคิดเช่นนั้น หากทว่าระหว่างมาวินกับแทนคุณที่เธอเคยพบเจอเมื่อก่อน บรรยากาศไม่เรียบง่ายเช่นนี้ มันต่างครุกรุ่นไปด้วยความน่าอึดอัด

เหตุใดวันนี้จึงดูเหมือนคุยกับคนสนิทเช่นนี้ พี่ชายเธอ กับฝ่ายปกครองของโรงเรียน...

“จะกลับเข้าไปเรียนวันไหน เอมมิกา” แทนที่จะตอบคำถามของมาวิน แทนคุณผละไปสบตาของผู้เป็นน้องสาวแทน

มาวินเข้าใจได้เลยว่านี่คือแทนคุณคนเดิมก่อนที่จะเผยธาตุแท้ให้เขารู้จักอย่างไม่มีผิดเพี้ยน ยังดูเหมือนจะกลบเกลื่อนความสัมพันธ์ ทั้งที่ปากก็พูดว่าอยากจะบอกให้เอมมิกาทราบ หากทว่าชายหนุ่มไม่ถือสาสักนิด เพียงแค่เบี่ยงประเด็นไปยังน้องสาว

“ก็อีกสองสามวันค่ะ ที่จริงหนูอยากไปพรุ่งนี้เลย” เธอคลี่ยิ้ม หันมองมาวินราวกับทราบว่าพี่ชายต้องส่ายหน้าไม่ยินยอมแน่

“ที่จริง ครูคิดว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องบอกเธอก็ได้ แต่เห็นว่าเธออยากจะไปโรงเรียนก่อนที่ครูจะถูกสอบสวนอีกครั้ง ก็เลย...”

ในเมื่อทุกอย่างไม่กระจ่าง แทนคุณห่วงความรู้สึกของเอมมิกายามเดินทางไปถึงโรงเรียน ไม่อยากให้เด็กสาวต้องแบกรับความเลวร้ายที่คนอื่นสาดเทใส่ แม้ความเป็นจริงเอมมิกาจะไม่ผิดก็ตาม แต่ผลกระทบที่ตามมาอาจทำร้ายจิตใจเธอกว่าที่คิด

“ครูอยากบอกเธอ ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจนเป็นเรื่องใหญ่นี่ มันเกี่ยวข้องโดยตรงระหว่างครูกับเธอ ถ้าเธอจะไปโรงเรียนทั้งที่ทุกอย่างยังไม่กระจ่างดี เธอจะลำบากและได้รับผลกระทบแน่นอน”

สองพี่น้องหันมามองแทนคุณเป็นจุดเดียว หากเป็นมาวินที่สอบถามเขา มิใช่เอมมิกา “หมายความว่ายังไง เกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมนายไม่บอกฉันตั้งแต่แรก”

“ผมคิดว่าจะจัดการได้เอง เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเพราะผม ผมไม่อยากโยนปัญหามาให้คุณ แค่ปัญหาของคุณเองก็ทำให้คิดมากพอแล้ว” แทนคุณสบตาคนฟัง ดูเหมือนมาวินเองก็ไม่ใจร้อนที่จะผลีผลามต่อว่าเขาก่อนฟังเหตุผล เพราะอยากรู้ความจริง ชายหนุ่มจึงเล่าให้ฟังทั้งหมดตั้งแต่ต้นว่าเรื่องเป็นมาอย่างไรไปพร้อมกันกับเอมมิกา

ครั้นฟังจบ มาวินก็ถึงกับตีหน้าตักตัวเองฉาดใหญ่ด้วยความโมโห “เด็กสมัยนี้ ทำไมแกล้งกันรุนแรงจังเลย ไม่คิดถึงจิตใจคนถูกแกล้งบ้างหรือว่าจะรู้สึกยังไง อย่าให้รู้นะว่าใครเป็นคนทำ พ่อจะจับสอนให้”

“ถ้าอย่างนั้น เอมขอไปโรงเรียนพรุ่งนี้เลยได้ไหมคะ”

“เอม! ก็รู้อยู่ว่ามีคนคอยจะแกล้งจะรีบไปโรงเรียนอีกทำไม” มาวินหันไปหาน้องสาว

“ก็อาจารย์ถูกพักงานอย่างนี้แล้วจะไปหาหลักฐานให้ตัวเองที่ไหนเล่าคะ เอมต้องไปโรงเรียนค่ะ จะได้รู้ว่าใครเป็นคนทำเรื่องพวกนี้ มันเป็นเรื่องใหญ่มากนี่คะ กระทบกับงานอาจารย์โดยตรงเลย อีกอย่าง...เอมก็อยากทำให้ตัวเองบริสุทธิ์ในสายตาคนอื่นเหมือนกัน” น้ำเสียงของเด็กสาวมุ่งมั่นตั้งใจเวลากล่าว ในขณะที่ชายหนุ่มทั้งสองยังสิ้นหวังกับสิ่งที่เผชิญ ครั้นเห็นสีหน้าที่มีความตั้งใจของน้องสาวแล้ว

มาวินจำต้องทอดถอนใจ ยอมแพ้กับความแข็งแกร่งของเธออย่างเสียมิได้ “ก็ได้ พี่ยอมให้ไป” ในขณะที่เธอเผยรอยยิ้มดีใจ พี่ชายก็ชี้นิ้วบอกข้อแม้ว่า “แต่อย่าหาเรื่องให้ตัวเองลำบากนะ”

แทนคุณมองระหว่างสองพี่น้องนิ่ง คงเพราะกำลังรู้สึกดีที่ทั้งสองคนคิดช่วยเหลือเขาอย่างไม่นึกถึงความปลอดภัยของตนเอง ทำให้สรรหาคำไหนมาพูดแทรกไม่ได้ ความรู้สึกพวกนี้ชายหนุ่มไม่ค่อยได้รับจากใครที่ไหนมาก่อน

หลังทานมื้อเย็นแล้วก็เป็นเวลาที่จะต้องลากลับ มาวินเห็นเอมมิกาจะลุกเดินไปส่งแทนคุณด้วยก็รีบปราม อยากให้เธอนั่งพักอยู่ในบ้านมากกว่า “รอตรงนี้ก็ได้เอม ไม่เสียมารยาทหรอก เดี๋ยวพี่ไปส่งอาจารย์ให้เองนะ ใช่ไหมคุณ...”

ท้ายประโยคคนกล่าวหันไปกระทุ้งศอกใส่สีข้างแทนคุณ

“ใช่ ครูไม่ว่าหรอก”

เอมมิกามองทั้งสองคนสลับไปมาด้วยรอยยิ้ม “งั้น ขับรถดีๆ นะคะอาจารย์”

ได้ฟัง ทั้งสองส่งยิ้มให้ ก่อนจะหมุนตัวจะเดินออกจากบ้านไปเพราะสายตาที่เด็กสาวกำลังสบมองนั้น ดูเหมือนจะจับผิดไปเสียหมดทุกอย่าง ยิ่งอยู่ด้วยกันนานเท่าไร มาวินสัมผัสได้ว่าอีกไม่นานคงต้องลำบากอธิบายกับเอมมิกาให้เข้าใจแน่

“นี่!” แต่ไม่ทันจะก้าวเท้าออกจากบ้าน เสียงแหลมของเธอก็สาปให้ทั้งสองชะงักเท้ากึก หันไปมองคนกล่าวพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย “ทั้งสองคนน่ะ กำลังคบกันใช่ไหมคะ!”

สิ้นคำ มาวินเบิกตาโพลงเพราะไม่คิดว่าน้องสาวจะรู้ทัน คงเพราะเธอใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาลหลายวัน ชายหนุ่มจึงคิดว่าเอมมิกาอาจไม่รู้ก็เป็นได้ ผิดกันกับแทนคุณ ที่พอจะรับได้ระดับหนึ่งว่าเอมมิกาฉลาดกว่าที่ใครคิด ชายหนุ่มมองร่างผอมบางของเธอเดินมาหยุดตรงหน้า ไม่มีแววเคืองโกรธ ไม่มีแววผิดหวังอะไรฉายให้ชายหนุ่มทั้งสองเห็น

“หนูรู้แล้วค่ะ หลายเดือนแล้วที่พี่เอกไม่มาที่นี่ มันหมายความว่าพี่วินอาจเลิกกับเขาไปแล้วก็ได้ แล้วก็...อาจารย์ก็เคยมาค้างที่บ้านด้วย ทั้งสองปิดหนูไม่มิดหรอกนะคะ แอบคบกันทำไมคะ กลัวหนูเสียใจงั้นหรือ หนูไม่ใช่เด็กนะ ถึงพี่เอกจะคบกับพี่วินหลายปีและดีกับหนูมาก แต่ถ้าเป็นสิ่งพี่วินตัดสินใจหนูก็ต้องยอมรับได้อยู่แล้ว...”

“เอม คือ...” มาวินกุมบ่าน้องสาว เขาพูดไม่ออกเพราะความคิดของเอมมิกาเต็มเปี่ยมไปด้วยความจริงใจ

เธอไม่รู้ถึงความสัมพันธ์จริงแท้ของเขากับแทนคุณ

“พี่กะจะบอกเอมแล้ว แต่เอมกำลังป่วยน่ะ ตอนนี้ก็รู้แล้วนี่...”

“แต่ก็ดูเหมาะเหมือนกันนะคะ แบบนี้ก็น่ารักดีค่ะ...”

คำพูดสุดท้ายของเอมมิกา สะท้อนใจให้สองหนุ่มหันไปสบตากันอย่างนึกตกใจและคลายความกังวลไปได้เปราะหนึ่ง ไม่นาน เห็นว่ามืดค่ำแล้วแทนคุณจึงขอตัวกลับบ้าน ตลอดทาง ขณะบังคับยานพาหนะเคลื่อนแล่นบนท้องถนน ชายหนุ่มยังจดจำถ้อยคำของเด็กสาวยามกล่าวถึงพี่ชายตัวเองและเขาอยู่เลยว่า ทั้งคู่ดูเหมาะสมกัน

เหตุใดไม่ทราบ ทำให้ใจของแทนคุณชื้นขึ้นหลังประสบปัญหา และไม่สามารถห้ามให้ตนเองหยุดยิ้มได้เลย

กว่าสองทุ่ม แทนคุณฝ่ารถติดเดินทางถึงบ้านพักของตนเอง จากอารมณ์เคยดีพลันหม่นหมองลงเมื่อเหลือบไปเห็นใครสักคน ยืนกระวนกระวายใจทั้งที่สวมชุดนอนอยู่หน้าบานประตูใหญ่ของบ้าน ครั้นหล่อนเห็นเขา ก็ย่ำเท้าตรงดิ่งมาหาแทนคุณทันที “คุณแทน! หายไปไหนมาทั้งวัน แม่โทรหาคุณตั้งหลายรอบ ทำไมเป็นคนแบบนี้กันหา”

ชายหนุ่มถอนใจ “มีเรื่องอะไรครับ”

“ยังจะถามอีกว่ามีเรื่องอะไร แม่บอกคุณแทนไปแล้วนี่ว่าวันนี้มีนัดดูตัว แล้วหายไปไหนมา ทำไมถึงปิดเครื่องหนี รู้ไหมนี่จะเป็นหนทางเดียวที่คุณแทนจะพ้นความผิด เสียหน้าไหมที่ให้ฝ่ายหญิงมารอเก้อน่ะ อย่าเดินหนีแม่นะ คุณแทน คุณแทน!”

แทนคุณปวดหัว ไม่สนใจเสียงแหลมของคนด้านหลัง แม้จะทราบดีว่า ไม่ว่าอย่างไรนางก็จะพยายามทำให้แทนคุณทำตามในสิ่งที่นางต้องการ

ชอบนัก ที่จะบงการชีวิตเขา

 

อากาศยามสายของวันนี้ค่อนข้างร้อน แทนคุณลงมาด้านล่างคฤหาสน์สายกว่าทุกวันเพราะมิได้ออกไปทำงาน อีกหนึ่งอย่างคือรอให้ทุกคนออกจากบ้านไปก่อนแล้วจึงค่อยออกมา เพราะไม่อยากตอบคำถาม ไม่อยากคุยกับใคร ที่นี่มีสมาชิกภายในครอบครัวทั้งหมดห้าคน ประกอบไปด้วยแทนคุณ มารดานามว่าคุณภาวิณี นายสุชาติ พ่อเลี้ยงผู้เป็นบิดาของทิวากรและเพทาย ฝาแฝดที่มีศักดิ์เป็นน้องๆ ของเขา

นายสุชาติเป็นผู้บริหารบริษัทคู่ค้าของมารดาเขามาก่อน ก่อนจะได้รู้จักสนิทสนมกัน และแต่งงานใหม่หลังจากบิดาเขาเสียชีวิตตั้งแต่ไม่กี่ขวบ แทนคุณไม่เคยมีปัญหากับพ่อเลี้ยงของตัวเอง สิ่งที่รบกวนใจของเขาคือท่าทีของมารดาทั้งสิ้น

นางตั้งความหวังเขาไว้สูงเกินไป...

แต่คิดว่าทุกคนจะไปหมดแล้ว ชายหนุ่มรู้สึกผิดคาดเมื่อเห็นมารดานั่งอยู่บนโต๊ะอาหาร นางชำเลืองมามองเขาอยู่ครู่หนึ่งราวกับรู้ทางแทนคุณแล้วจนหมดสิ้น

“อย่าเพิ่งไปไหนทั้งนั้นคุณแทน มาคุยกับแม่ก่อน”

นางรอเขา ถึงขั้นไม่ยอมเข้าบริษัท

“ผมไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ ผมตอบคุณไปแล้ว”

“ไม่ได้ นั่นไม่ใช่คำตอบที่แม่กำลังรอฟัง” ชายหนุ่มหันไปสบมองเจ้าของเสียงทรงพลังยอมออกคำสั่งเขา “ที่ผ่านมาคุณแทนก็เห็นนี่ว่าแม่เลือกทางที่ดีให้มาโดยตลอด แต่งงานซะคุณแทน แล้วเลิกเป็นอาจารย์ไร้สาระนั่นสักที มาทำงานที่บริษัทกับแม่...”

“พอได้แล้ว!”

ชายหนุ่มไม่อาจทานไหว เพราะภาพที่ตนเห็นเบื้องหน้านั้นแตกต่างจากที่เคยพบเจอสมัยเด็ก มารดาผู้แสนดีที่เอาใจใส่ลูกยามนี้ไม่มีจริงทั้งสิ้น ทุกอย่างล้วนโกหก เช่นเดียวกับภาพพจน์แสนดีที่เขากำลังทำหลอกลวงผู้อื่นอยู่นี่! “อย่ามาเล่นละครต่อหน้าผม มันไม่เนียน!”

คนฟังชะงัก “คุณแทน...”

“จำได้แล้วหรือ ว่าเคยทำอะไรไว้บ้าง บอกไว้เลยนะว่าผมไม่มีทางลืมมันแน่ ชั่วชีวิตนี้ ไม่ว่าคุณจะพยายามทำดีกับผมแค่ไหนก็ตาม!”

ชายหนุ่มตัวสั่น เมื่อภาพดวงตาดวงหนึ่งสาดส่องเข้าไปในช่องประตูผุพังฉายเข้ามาให้เห็น ในความทรงจำสมัยเด็ก ภายในความมืดของห้อง มีเพียงแสงของดวงตาข้างนั้นที่สาดสะท้อนแสงจันทร์ในความมืดมิดเพียงสิ่งเดียว พร้อมกับหัวใจของชายหนุ่มที่เต้นโครมคราม

เมื่อเห็นหน้ามารดา แทนคุณปัดภาพนั้นออกจากความคิดไม่ได้

เสียงมารดาร้องตามเขาอีกครั้ง หากทว่าชายหนุ่มเลือกที่จะย่ำเท้าตามอารมณ์ตนเองออกมาด้านนอก ก่อนที่จะไม่สามารถระงับอารมณ์ของตนเอง พลั้งพลาดทำอะไรลงไปด้วยความไม่ตั้งใจ บังคับรถยนต์ออกจากด้วยอย่างเร็วรี่โดยที่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน

ที่จริง แทนคุณก็พอรู้ว่าตัวเองจะไปไหน

ก่อนที่จะตัดสินใจอะไรได้ รถยนต์ของเขาก็เคลื่อนไปจอดหน้ารั้วบ้านไม้สีฟ้านี่โดยอัตโนมัติ ไม่ทันจะได้เลือกด้วยซ้ำ ใจของเขากลับพาชายหนุ่มมาที่นี่เสียเอง หลังสงบใจได้สักพัก แทนคุณมองเข้าไปด้านข้างในของบ้านพักหลังนี้อยู่ครู่หนึ่งว่าจะเอาอย่างไรแน่ แต่ครั้นเห็นมาวินออกมาชะโงกดู มือของเขาก็เร่งดับเครื่องยนต์ แล้วออกไปหยุดยืนอยู่หน้ารั้วรอให้อีกฝ่ายเปิดประตู

มาวินเองก็รีบสวมรองเท้า วิ่งออกมาทันทีที่เห็นว่าเป็นรถของใคร “ทำไมไม่โทรมาบอกก่อน...”

คนถามชะงัก หลังเปิดประตูแล้วแทนคุณเลือกที่จะดิ่งเข้ากอดเขาแทนการพูดคุยทักทาย ชายหนุ่มสับสน มือไม้วางไม่ถูกตำแหน่งและไม่รู้จะเก็บไว้ไหน ท้ายที่สุด มาวินเลือกจะวางลงบนแผ่นหลังของอีกฝ่ายอย่างระวังท่าที

เวลาจะแสดงออกก็กล้าเสียน่าตกใจ ผิดวิสัยแทนคุณ หรือหมอนี่กำลังเผชิญเรื่องอะไรกระทบกระทั่งจิตใจมาอีก

ดูเปราะบางกว่าที่มาวินคิดนัก ความรู้สึกของชายตรงหน้า

“ยังไม่ทันได้กินข้าวมาหรือ งั้นฉันไปทำมาให้ก็แล้วกัน แต่มีแค่ข้าวไข่เจียวนะ” มาวินวางแก้วน้ำให้แขกที่นั่งบนอยู่บนโซฟา หลังเห็นท่าว่าแทนคุณกำลังหิว ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับไม่ปริปากบ่น ทำท่ากวาดสายตาหาเอมมิกาไปพลาง

“เอมไปโรงเรียนแล้วน่ะ ก็อย่างที่คุยกันไว้นั่นแหละ”

แทนคุณพยักหน้าเข้าใจ นั่นทำให้เจ้าบ้านพลอยรู้สึกอัดอัดไปด้วยยามอยู่กันเพียงลำพังสองต่อสอง ในตอนแรกที่แทนคุณกำลังทานข้าวก็พอจะเข้าใจว่าไม่จำเป็นต้องคุยกัน แต่หลังจากนั้น มาวินก็เอาแต่เงียบ วางตัวไม่ถูกเมื่ออีกฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะกลับไป ชายหนุ่มลอบมองอีกฝ่ายว่ากำลังมาไม้ไหน แต่ก็เดาไม่ได้สักที

“นี่...”

น่าแปลกใจที่แทนคุณเป็นฝ่ายพูดก่อน มาวินหันไปมองคนนั่งข้างด้วยความใคร่รู้ว่าอีกฝ่ายจะนำเรื่องไหนมาเป็นประเด็น ไม่ให้ภายในบ้านดูเงียบและอึดอัดจนเกินไป “คุณเอาจริงใช่ไหม เรื่องที่ถามผมเมื่อวาน”

เรื่องที่ถาม “เรื่องไหน ฉันจำไม่ได้”

“ก็...” แทนคุณลากเสียง “ตรงหน้าบ้านน่ะ...”

“อ๋อ...” มาวินเกาศีรษะ หมายถึงข้อแลกเปลี่ยนนั่นน่ะหรือ หากเขาสามารถหึงแทนคุณได้ แลกกับการถูกทำให้เจ็บปวดแล้วมาวินคิดว่ามันอาจจะคุ้ม ความรู้สึกของแทนคุณยามนี้มีแต่มาวินเท่านั้นที่รองรับได้ ในช่วงวินาทีหนึ่งก่อนที่มาวินจะถามไปเช่นนั้น ชายหนุ่มเคยคิดว่าอยากจะใช้ความหวังของแทนคุณเอง ชักจูงอีกฝ่ายให้เชื่อฟังเขา ความคิดของมาวินฟังดูสกปรก เขาสามารถหลอกให้แทนคุณหลงรักได้เพราะอีกฝ่ายไม่มีใคร

และมองเขาเป็นความหวังเดียว

ชายหนุ่มกลืนน้ำลายมองอีกฝ่ายขณะสบตา ยามนี้แทนคุณดูเหมือนต้องการที่พึ่งทางจิตใจจริงอย่างที่มาวินคิดไว้ ชายหนุ่มทำได้เพียงพยักหน้ารับ บอกอีกฝ่ายไปว่าเอาจริงอย่างที่เคยพูด แม้จะรู้สึกใจหาย เมื่อเห็นแทนคุณแสดงถึงความเชื่อใจ ดีใจ พร้อมแววตาที่บ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังรู้สึกอุ่นใจเวลาอยู่ด้วยกันกับเขา มาวินชะงัก เมื่อมือหนาของอีกฝ่ายเคลื่อนมากุมคางเขา พร้อมใบหน้าคมคายเบื้องหน้าขยับเข้ามาใกล้

เห็นในระยะนี้ แทนคุณช่างหล่อเหลา ประสมกับความน่ารักในท่าทีสุขุมนั้น ตอนที่งุดดวงตาก้มลงมองที่ริมฝีปากมาวินอย่างใจจดใจจ่อ

“ผมอนุญาต อนุญาตให้หึงเท่าไรก็ได้...”

มาวินรู้สึกประหลาดใจ ยามสบตากัน

“ทำไมยอมง่ายขนาดนั้นกัน ทีเมื่อก่อนทำเป็นเล่นตัว”

คนฟังไม่ได้ขุ่นใจกับถ้อยคำประชดประชัน มีเพียงรอยยิ้มที่เผยออก “ก็คุณดูน่ารัก ไม่เหมือนเมื่อก่อน...”

ทำไมมาวินจะไม่ทราบว่าเหตุใดเขาจึงดูเป็นเช่นนั้นในสายตาของแทนคุณ เพราะเห็นเขาเป็นของเล่นชิ้นใหม่น่ะซี

หากทว่าแทนคุณมอบจูบให้แก่เขา มันกลับไม่รุนแรง ไม่ร้ายกาจ ราวกับตั้งใจที่จะอ่อนโยนเพื่อมิให้มาวินรู้สึกหวาดกลัว นั่นทำให้ชายหนุ่มรู้สึกว่าตนเองช่างแสนเลว ที่คิดอคติต่ออีกฝ่ายมาโดยตลอด ทั้งตั้งใจจะชักจูงคนบริสุทธิ์ใจตรงหน้าให้ซื่อสัตย์ต่อเขา ราวกับสัตว์เลี้ยงที่มาวินเคยคิด

เขาเคยกลัวความร้ายกาจของอีกฝ่าย เคยคิดว่าอยากจะเอาชนะ แต่รู้แล้วว่าตอนนี้ตัวเองคิดผิดไปเสียทุกอย่าง

แทนคุณอย่างไรเสียก็คือแทนคุณ เขาไม่ควรเปลี่ยนมัน...

ไม่รู้อะไรดลใจมิให้มาวินปฏิเสธ เมื่อมือหนาของอีกฝ่ายเคลื่อนกอดยามต่างฝ่ายต่างแลกจูบ แววตาของแทนคุณดูเหมือนกำลังพบเจอเรื่องร้าย ต้องการคำปลอบโยน ร่างของมาวินถูกยกไปนั่งบนตักของอีกฝ่ายโดยง่าย พร้อมกับเจ้าตัวที่เงยขึ้นมาสบตา ภายใต้ความเงียบ นอกเสียจากความหวาดระแวงเพราะกลัวเจ็บตัว มาวินยอมรับว่ามันประสมความรู้สึกดีบางอย่าง

นั่นบอกเขาได้ว่ามันอาจไม่เลว หากเขาใช้ร่างกายตัวเองมอมเมาแทนคุณได้

คิดได้แล้ว ชายหนุ่มจึงตัดสินใจที่จะสานต่อ เป็นฝ่ายเริ่มบริการให้ก่อนอย่างช่ำชองเก่งกาจ ไม่นาน...แทนคุณก็เครื่องติดด้วยน้ำมือคนบนตัก

 “ดะ เดี๋ยว...” มาวินถูกผลักให้ล้มลงนอนบนโซฟา กางเกงถูกกระชากออก

“ไม่ได้แล้ว เป็นใครก็ทนไม่ไหว...”

ข้อเท้ามาวินถูกกระชากให้ร่างไถลเข้าไปใกล้ ชายหนุ่มกัดริมฝีปากแน่นเมื่อแทนคุณผลุนผลันกระทั้นเอวเข้ามา ต้องรองรับการกระทำของอีกฝ่ายอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวถนัดนัก มือเขาทุบบ่าหนาป้องปราม ยามแทนคุณเผลอไผลควบคุมผละกำลังของตัวเองไม่ได้ ใช้กำลังกับร่างกายมาวินรองรับความรู้สึกใคร่อย่างไม่ถนอม

“อย่าสู้ มาวิน...อย่าคิดสู้ มันจะทำให้ผมตื่นเต้น ผมจะบังคับตัวเองไม่ได้” มาวินเกาะมือหนาอีกฝ่ายหอบเหนื่อย มองใบหน้าคนบอกอย่างนึกตกใจ หลังพยายามใช้กำลังปัดป้องตัวเองไม่ให้ถูกทำร้าย เขาเคยคิดว่าเมื่อถึงเวลาแล้วองค์ประกอบทุกอย่างจะทำให้แทนคุณไร้สติ เอาแต่ใจและเห็นแก่ตัว หากทว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนตรงหน้าพยายามทำให้เขาเจ็บน้อยที่สุด แต่ถึงอย่างไรเขาก็กลัวอยู่ดี

เขาไม่ไว้ใจ!

มาวินดิ้นขืน เมื่อมือหนาอีกฝ่ายคลำมาที่ลำคอ ชายหนุ่มกลัวแทนคุณพลั้งมือบีบคอฆ่าเขาเหมือนคราวที่แล้ว หากร่างหนาด้านบนก็กดคอเขาลงแนบกับพื้นโซฟา อีกข้างก็ง้างมือออกแทบจะทันที ราวกับร่างกายเป็นไปอย่างอัตโนมัติ “อย่า! อย่าต่อย อย่าทำที่หน้านะแทน ฉันไม่อยากให้เอมเห็นรอยอะไรทั้งนั้น จะทำร้ายฉันตรงไหนก็ได้...แต่อย่าให้เอมมองเห็น...”

มาวินตัวสั่น ใจหาย...เมื่อเห็นว่าแทนคุณรับฟังและคล้ายจะตกใจอยู่ในที

“มันเป็นไปเอง ผมไม่ได้อยากทำแบบนั้นกับคุณ”

นั่นกระมัง ที่แสดงให้มาวินเห็นว่าแทนคุณกำลังพยายามมีสติยามอยู่กับเขา แม้จะกลัว แม้จะรู้สึกว่าตัวเองขี้ขลาดจำต้องอดทน

แต่อย่างน้อย ดีหน่อยที่คนด้านบนไม่ใช้ถ้อยคำหยาบโลนต่อเขาเหมือนที่แล้วมา ต่อให้เจ็บร่างกายอย่างไรก็ทนไหว หากแทนคุณไม่ทำให้เขารู้สึกเจ็บใจ

ทุกครั้งที่โน้มลงตามแรงอารมณ์ แม้จะทำให้มาวินเจ็บเท่าใด ร่างหนาด้านบนก็ยังไม่ลืมจูบซับบริเวณนั้นและพูดขอโทษ เพราะชอบที่จะทำมันจริงๆ จึงอดมิได้ที่จะทำรุนแรง ชั่วโมงนั้น มาวินไม่รับรู้อะไรนอกเสียจากเก็บกลั้นเสียงของตัวเอง มองสีหน้าของแทนคุณ สบตากันอยู่เช่นนั้น

“อย่าทำหน้าแบบนั้น...อย่าทำ...”

แทนคุณมักบอกมาวินเช่นนี้ มักโน้มลงกระซาบข้างหูยามบดเบียดกายถี่กระชั้น หลังไม่อาจทนเห็นมาวินอดทนสู้ ได้เพิ่มความรู้สึกประสันของชายหนุ่มผู้มองเขาอยู่ตลอดให้มากขึ้นไปอีกเท่าตัว แทนคุณทานไม่ไหว ฝังคมเขี้ยวลงบนบ่าคนด้านใต้จนมิด พร้อมกับความสุขสันต์ที่ถาโถมเข้าร่างไม่ยอมหยุดหย่อน ก่อนจะพากันและกันทะยานสู่จุดหมายอันเวิ้งว้างกว้างไกล

ตัวสูงใหญ่ทรุดกายลงนอนทาบทับสิ้นแรงเสียอย่างนั้น หากทว่ามาวินทราบดี ว่านี่เพียงเพิ่งเริ่มต้น นอกเสียจากไม่อยากให้มาวินรู้สึกกลัว แทนคุณก็หมั่นกระซิบบอกวิธีที่จะทำให้เขาเจ็บน้อยที่สุด ด้วยการหยุดทำหน้าอดทนไปกับความเจ็บปวดนี่เสียที เพราะนั่นจะทำให้แทนคุณตื่นเต้นและท้าทาย แต่ไม่ว่าจะบังคับตัวเองเช่นไร มาวินก็ไม่สามารถทำได้...

เพราะดวงตาของคนที่กำลังมอง กำลังบ่งบอกว่าชอบที่จะเห็นมันจริงๆ

ทั้งวัน แทนคุณง่วนอยู่กับการเติมเต็มความอยากของตัวเองอย่างป่าเถื่อน อาจมีบางครั้ง ยามเห็นสีหน้าและแววตาของมาวินกำลังเจ็บปวดทว่าต้องยินยอมเผชิญ ความรู้สึกผิดได้ก่อเกิดขึ้นมาทดแทนความสุขสมอารมณ์หมายที่เคยมี แทนคุณซุกกายเข้ากอดร่างนั้น ในอ้อมอกคนตัวเล็กกว่าราวขอไออุ่น ครุ่นคิดอยู่ว่าหากเป็นมาวินแล้ว อาการวิปริตที่ตนเองชื่นชอบนั้นอาจหายไปก็เป็นได้...

มาวิน ทำให้แทนคุณรู้สึกอับอายที่จะลงมือทำร้าย

ทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวประหลาด ยามอีกฝ่ายใช่สายตาตื่นกลัวมองมา

ทำให้อยากหันมาทนุถนอม กลับมาอ่อนโยนอีกครั้ง...



------------------------------------------------------

กลับมาแล้วจ้าาาา หลังจากแอบกลับบ้านไปพักผ่อนมาสองวัน

นี่กลับมาอัพให้แล้ว พร้อมกับความสัมพันธ์ของพระนายทั้งสอง

แทนกับมาวินกำลังจะหวาน ไปพร้อมกับปัญหาที่เริ่มจะเกิดขึ้น

มาช่วยลุ้นไปพร้อมกับสองหนุ่มเน้อ ชอบก็แอดเฟบ คอมเม้นเป็นกำลังใจ แชร์ไปให้เพื่อนอ่าน

รักคนอ่านนะคะ เจอกันตอนหน้า จุ๊บ!

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
ระหว่างแทนคุณหายกับมาวินเป็นมาโซแทนนี่ จะเป็นอันไหนนะ  :hao7: :hao3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด