วันนี้เป็นเช้าวันศุกร์ที่แสนรักของผมเพราะเมื่อหมดสิ้นวันนี้ก็จะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ที่แสนพิเศษเพราะเป็นวันครบรอบการคบกันครบร้อยวันของผมกับพี่โต้งและผมจะไปค้างที่ห้องพี่โต้งด้วยหละ ‘เอกับพี่โต้งเลิฟเลิฟ’ นั้นรั้วโรงเรียนของผม รีบเข้าเรียนดีกว่าจะได้หมดวันไปซะเร็วๆ
“เฮ้ นพ เพื่อนเลิฟ มาทำไรแถวนี้ ไม่รีบขึ้นไปเรียนว้า ไปไปกุว่าจะไปตามจารย์มาสอนแล้วจะได้กลับบ้านกันซะที”
“อ้าวเหี้ยเอ แรดตะเช้าเลยนะมึง จานบ้านมึงดิมาสอนตอนนี้ แล้วหุบบ้างก็ได้ยิ้มมึงหนะยิ้มจนหน้ามึงบานไปบังทางคนเค้าจะขึ้นตึกหมดแระ” นพพูดไปก็เอามือดึงแก้มไป ‘แม่งกูเจ็บว้อยอีนี่’
“อีนพ ปล่อยแก้มกูเลย นี่ของพี่โต้งคนเดียวเว้ย” กัดฟันกระซิบกับมันเบาๆ ปัดมือมันออกจากแก้มได้ก็หันไปเปิดล็อกเกอร์
“กรี๊ดดด” อันนี้ไม่ใช่เสียงผมนะครับถึงผมจะสาวแตกในการคิดแต่ภาพลักษณ์ผมแมนเต็มร้อย
“พี่เอ คร้า ในตู้พี่เอมีจดหมายรักด้วยคร่า” หือ จะฆ่าใครวะอีชะนีนี่ ‘อะเดียวจดหมาย ชะนีพูดว่าจดหมายชิมิ’
“อ้าวน้องเจี้ยบ มาแต่เช้าเลยนะครับ” ทักทายเสร็จก็หันไปดูในตู้ ‘ไหนคร้าจดหมายร้าก อ๊ะเจอแล้ว ซองสีชมพู อะไรเนี่ย อีนี่ไม่ลงทุนเลยเว้ย เดี๋ยวนี้เค้ามีร้านขายซองน่ารักออกเต็มบ้านเต็มเมือง ไรงะซองมาตรฐานสีชมพูไม่คริเอทเล้ย’
“พี่เอ คร้า คือพอจะบอกได้มั้ยคร้าว่าใคร ใครส่งอะค่ะคือแบบอยากรู้นิสสนึง” คนถามทำเขินปิดตัวไปมา ‘เรื่องส่วนตัวก็ไม่เว้นนะยะนังชะนี’
“น้องเจี้ยบครับ ไม่เป็นไรหรอกครับยังไงพี่ก็ปฏิเสธอยู่แล้ว ให้คนส่งเค้าได้เศร้าเป็นการส่วนตัวดีกว่านะครับ” แล้วก็หมุนตัวอย่างเท่ห์ขึ้นบันไดไปยังห้องเรียน จดหมายฉบับนั้นก็ยังไม่ได้อ่านเพราะพอไปถึงห้องก็เจอไอ้พวกเพื่อนเวรทั้งหลายดักรอลอกการบ้าน กับพวกรอให้ช่วยสอนในวิชาที่ไม่เข้าใจ ‘อู้ยชิวิตคนหล่อนี่แสนวุ่นวาย’ จนเกือบเย็นนั้นแหละผมถึงนึกถึงจดหมายฉบับนั้นได้ ก่อนเลิกเรียนเลยเอามันมาอ่านซะหน่อย ‘ก็อยากรู้เหมือนกันนี่ คริคริ’ เจี้ยกจดหมายรักบ้านชะนีสิ นี่มันสารท้าตบเอ้ยท้ารบชัดๆ งึม งึม งึม
“นัดที่สวนสาธารณะใกล้ๆนี่เองนี่หว่าแม่งท้ามาซะขนาดนี้ไม่สนองจะหาว่ากูกลัว” พอโรงเรียนเลิกปุ๊บก็ดิ่งไปที่นัดหมายอย่างด่วนจี๋เมื่อไปถึงคนที่เจอกลับเป็น
“ไอ้นพ มาอยู่นี่ได้ไง อย่าบอกนะว่าได้จดหมายนี่เหมือนกัน”
“เปล่า กูไม่ได้ได้จดหมาย” นพปฏิเสธ
“อ้าวแล้ว มาทำไรที่นี่”
“คนที่ให้กูส่งจดหมายเค้าบอกว่าให้กูมารอที่นี่ด้วยถ้ามึงไม่มามันจะจัดการกูกะพี่เต้ยอะ มันเอาพี่เต้ยมาขู่กูนะเอ กูไม่ได้เต็มใจ มึงอย่าโกรธกูนะ”
นี่มันเรื่องอะไรกัน...
“ทำดีมากมึงไปได้แล้วนพผัวมึงรอมึงอยู่ที่ห้อง ทางนี้กูจัดการเองแล้วมึงอย่าปากสว่างไปบอกใคร ไม่งั้นมึงกะไอ้เต้ยได้อยู่ไม่เป็นสุขแน่” มันทำท่าปาดคอประกอบไปด้วย ‘แค่หน้ามันก็เลวพอแระยังมาทำตัวเลวๆอีก’
“มึงมีธุระอะไรกะกู ถึงกับต้องขู่เพื่อนกูด้วย”
“ก็มีนิดหน่อย แค่อยากให้มึงตามไปกะกูดีๆ เท่านั้นจะได้ไม่ต้องใช้กำลังกัน” มันผายมือเหมือนเชิญให้เดินไปทางที่มันต้องการ ‘ชินึกว่ากลัวดิ กูไม่กลัวว้อย’ แต่แค่เดินเข้าไปใกล้มันเท่านั้น มันกลับเล่นสกปรก มันสับมือเข้าที่ก้านคอแล้วจากนั้น..... ‘ก็กูสลบกูจะไปรู้จากนั้นได้ไงว้อย’
###########
มันผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วที่ผมมานอนอยู่บนเตียงหลังนี้ ข้างนอกนั้นจะเป็นยังไงบ้าง ที่ต้องถามคำถามนี่เป็นเพราะตาทั้งสองข้างถูกผูกเอาไว้ด้วยผ้ามองอะไรก็ไม่เห็น มือทั้งสองข้างก็ถูกมัดรวบไว้ด้านหลังอย่างแน่นหนา พี่โต้งจะตามหาเอมั้ย จะมาช่วยเอมั้ย แล้ว...แล้ว...แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นและแล้วอีกสารพัดแล้ว อีกหลายคำถามที่มีตามมาเป็นหางว่าว แล้วจากคำถามก็มาถึง การคร่ำครวญ พี่โต้งมาช่วยเอด้วยนะเอกลัว กลัวมากด้วย... แก๊ก น่าจะเป็นเสียงประตู
“ไง พื้นแล้วหรือวะ” เสียงใครวะไม่ใช่ไอ้คนที่เจอนี่หน่า
“เออพวกมึง มันพื้นแล้ว เอาไงต่อ” มีเสียงหัวเราะดังมาให้ได้ยิน พวกมันมีกันหลายคนยังไงตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้ อยู่เงียบแล้วหาทางกล่อมให้พวกมันแก้มัดก่อนดีที่สุด
“นายจับเรามาทำไม” พูดดีๆ เข้าไว้เอ ดีเข้าไว้ เย็นเข้าไว้ แล้วมันอยู่ทางไหนล่ะนี่ แล้วอยู่ดีๆก็มีมือยื่นมาลูบที่แผ่วที่แก้ม ด้วยความตกใจเลยผงะหนีมือนั้น
“เฮ้ยอะไร รังเกียจพวกกูหรือไงวะ หนอยทำหวงตัวแม่ง เฮ้ยพวกมึงมันเล่นตัวว่ะจับนิดจับหน่อยทำสะดิ้ง สั่งสอนมันหน่อยดีมั้ยวะ” แล้วเหมือนมีคนเข้ามาในห้องอีกมีมือนึงเข้ามากดตัวผมให้นอนลงผมอยากจะดิ้นให้หลุดแต่ก็กลัวว่าจะไปกระตุ้นต่อมหื่นพวกมันเข้าแล้วคนที่ซวยก็คือผมจากนั้นก็มีมือมากมายเข้ามาลูบครำไปตามเนื้อตัว ผมกลัว ขยะแขยง อยากอ้วก แต่ก็ต้องกัดฟันทน ‘กรี๊ดด หยะแหยง เอามือพวกมึงออกไปจากตัวกูนะ’
“พี่โต้ง ช่วยเอด้วย เอกลัว ” เสียงที่ไม่ดังไปกว่ากระซิบดังออกมาเหมือนกำลังสวดมนต์
“เอ้ยพวกมึงอย่าให้มากนักเดี๋ยวก็ซวยกันเป็นแถบ” แล้วมือพวกนั้นก็หายไปจากร่างกายผมแต่ยังมีมืออีกข้างที่ยังคงลูบแก้มผมอยู่อย่างอ่อนโยน
“ทำตัวดีๆ นะมึงอย่าสะดิ้งมากไม่งั้นกูจะให้มึงจำไม่ลืมเลย” แล้วมือนั้นก็หายไป ตอนนี้ผมทำได้เพียงแต่นอนร้องไห้ให้ความซวยของตัวเอง ผมไม่รู้ว่ามันผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วแต่ในความรู้สึกผมมันเหมือนนานเป็นวันได้ แล้วอยู่ๆก็มีมือมาเขย่าตัวผมเบาๆ
“เอ เอ เป็นไงบ้าง เอ มึงตอบกูดิ”
“นพ ไอ้นพ มึงช่วยกูด้วย กูกลัว” ผมผวาลุกเข้าไปในอ้อมแขนมัน จริงๆแล้วผมลุกขึ้นแล้วพุ่งหัวไปชนอกมันเพราะมองไม่เห็นนั้นแหละถ้าพุ่งผิดผมคงโหม่งพื้นเป็นแน่
“กูขอโทษ กูช่วย....”
“เอ้ยมึงเข้ามาทำอะไรในนี้วะ อีนี่เดี๋ยวปั้ด เฮีย มาดูเมียเฮียหน่อยดิ เร็วๆ เลย” แล้วก็มีเสียงคนเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับปิดประตูและน่าจะกดล็อกด้วย
“มึงเข้ามาทำไม อยากมีเรื่องใช่มั้ยบอกกันดีๆก็ฟังกันหน่อย มานี่เลย” เสียงที่ได้ยินเหมือนจะคุ้นแต่ก็ไม่คุ้น หรือมันจะเป็นเสียงไอ้คนแรกที่จับเรามา แล้วนพก็ถูกกระชากออกไป
“นพ” ทั้งที่มองไม่เห็นก็พยายามตะเกียกตะกายไปช่วยเพื่อน
“มึงก็อยู่นิ่งๆเลยถ้าไม่อยากให้เพื่อนมึงโดนหนักไปกว่านี้” มันคว้าตัวไว้ก่อนที่ผมจะลงไปกองกับพื้นได้อย่างเฉียดฉิวแล้วจับกดลงกับที่นอน จากสิ่งที่มันพูดแสดงว่านพต้องโดนพวกมันทำร้ายแน่นอนแล้ว ถ้าเรายังดื้อ นพอาจจะถูกทำร้ายไปมากกว่านี้ได้ มันน่าเจ็บใจตัวเองจริงๆตอนนี้เรากลับเป็นตัวถ่วงเพื่อน ทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง ได้แต่นอนร้องไห้รอให้มีคนมาช่วย
“อย่านะ อย่าทำอย่างงี้ในนี้นะอ๊ะ อืม อย่า เอ” มีเสียงดิ้นรน เสียงเหมือนคนวิ่งแต่ไปได้ไม่ไกลแล้วก็มีเสียงล้มลง เพี๊ยะ เพี๊ยะ
“อ๊ะ เจ็บ อย่าทำอย่างงั้นนะ อ้า ปล่อยนะ ไอ้บ้านี่” เพี๊ยะ
“เจ็บ นพเจ็บ พอแล้ว อือ” เสียงนพร้อง และมันกำลังหัวเราะ
“ดิ้นอีก พี่ชอบ นั้นแหละ อย่างงั้น อือ ใช้ปากให้หน่อยดิ” เพี๊ยะ ดูเหมือนนพจะไม่ยอมทำ มันเลยตีนพอีกพร้อมกับขู่ว่าถ้าไม่ทำมันจะลากผมไปทำให้มัน
“อือ ดี นั้นแหละ โอ้ว อ้าเก่งมา ดี อ๊า” นพคงทำให้มันแล้วเพื่อปกป้องผม เสียงต่ำๆ นั้นสั่งให้นพทำนั้นนี่ ตามแต่ที่มันอยาก นพก็คงต้องทำตามที่มันสั่งส่วนผมก็ได้แต่นอนน้ำตาไหลฟังเพื่อนถูกปู้ยี่ปู้ยำต่อไป
“เจ็บ เบาๆ อ๊า ช้าๆหน่อยครับ อื้ม อือ อย่าจับตรงนั้นนพเจ็บครับ อ๊า” จากนั้นก็มีเสียงเนื้อกระทบกันดังป้าบๆ ๆเป็นจังหวะช้าบ้างเร็วบ้างสลับกับเสียงครวญครางอย่างสุขสมของมัน ดังมาให้ได้ยินอยู่เป็นระยะจากรอบแรกก็ว่าเสียงครางมันดังแล้วนะ รอบสองนี่เสียงครางมันดังยินกว่าครั้งแรกอีกแถมซี๊ดปากอย่างได้ใจมากเลย ผมนอนร้องไห้ กลัวก็กลัว พร้อมกับต้องทนฟังเสียงมันที่กำลังทำเรื่องอัปยศกับเพื่อนผมจนหลับไปกับเสียงร้องครางของเพื่อนที่ดังอยู่เป็นระยะ
“เอ เอครับ เอตื่นครับ”
“พี่โต้ง” ผมโผเข้ากอดรัดพี่โต้งไว้
“พี่โต้งช่วยเอด้วยเอกลัว ใครก็ไม่รู้จับเอมาแล้วมันก็มัดเอไว้ แล้...ว....” ผมดันตัวออกจากอ้อมกอดของพี่โต้งก้มมองมือตัวเอง เอามือจับที่หน้าว่าไอ้ผ้าบ้าที่ปิดตาผมอยู่มันหายไปแล้วจริงๆ แล้วโผเข้าไปกอดพี่โต้งใหม่ผมอยากรัดพี่โต้งแน่นแล้วเริ่มร้องไห้กับอกพี่เค้า พี่โต้งอุ้มผมขึ้นพาเดินจะออกไปจากห้องโดยที่ผมก็ยังซุกหน้าร้องไห้ต่อไป
“พี่โต้งนพล่ะ” ผมถามเสียอู้อี้ ผมเกิดนึกถึงเพื่อนได้เมื่อแน่ใจว่าตัวเองปลอดภัยแน่นอนในอ้อมกอดของพี่โต้ง
“มันรออยู่ข้างนอก” แล้วพี่โต้งก็อุ้มผมออกจากห้อง พอเปิดประตูออก
“เซอร์ไพรส์” เสียงตะโกนดังลั่น มาจาก ความมืดเบี้ยงหน้าแล้วไฟก็สว่างพรึบตอนนี้ผมเห็นคนมากมายยืนเบียดกันอยู่ที่มุมนึงของห้องในห้องมีลูกโป่งมีดอกไม้ประดับไว้ อีกมุมห้องมีโต๊ะที่วางเรียงไปด้วยจานอาหารมีเค้กน่ากินวางเด่นอยู่บนโต๊ะด้วย หน้าผมคงเอ๋อมากแล้วเลยร้องไห้ออกมาอีกรอบจนทุกคนตกใจรีบเข้ามาปลอบเป็นการใหญ่ ‘ ได้ไงวะ เสียลุกคนหล่อหมด แง’ เมื่อทุกคนกลับกันไปแล้ว เราได้มานอนคุยกันบนเตียงที่ผมโดนมัดไว้เมื่อเย็น เวลาที่ผมถูกมัดก็สี่ห้าชั่วโมงแค่นั้นแต่สำหรับผมมันเหมือนผ่านไปเป็นวันเลยที่เดียวและเรื่องนี่ผมต้องคุยกะพี่โต้งหน่อยแล้ว
“พี่โต้งไอ้เรื่องทั้งหมดวันนี้ฝีมือพี่โต้งใช้มั้ย” พี่โต้งยิ้มหวานเป็นคำตออบก่อนที่จะก้มลงมาปิดปากที่กำลังเตรียมต่อว่าด้วยปากพี่โต้งเอง
“ทุกอย่างพี่วางแผนไว้ไอ้คนที่ไปจับเรามาก็เพื่อนๆกัน พี่อยากจัดงานวันเกิดเซอร์ไพรส์ให้เอแล้วแถมพรุ่งนี้ก็เป็นวันครบร้อยวันที่เราคบกันด้วย แต่เรื่องไอ้นพกะไอ้เต้ยเข้าไปแสดงหนังสดในห้องพี่ไม่เกี่ยวนะไอ้พวกนั้น มันจิตชอบโชว์ เอต้องไปจัดการเพื่อนเอเอาเองหละ” พี่โต้งจูบเบาที่หน้าผากแล้วถาม
“แล้วเป็นไงเซอไพรส์มั้ย” ผมยิ้มหวานก่อนตอบ
“เซอร์ไพรส์มากเลยพี่ แต่ผมมีเซอร์ไพรส์กว่าให้พี่ด้วยหละ” มีเครื่องหมายคำถามตัวเป้งขึ้นที่หน้าพี่โต้ง
“พี่โต้ง..คือ....วันนี้ไม่ใช่วันเกิดเอครับ และเอเกลียดการเซอร์ไพรส์...” ‘แต่เค้ารักพี่โต้งนะ’ พี่โต้งหน้าเหวอมาก
“ พะ พี่ขอโทษครับเอ ก็นพ...เอครับพี่ไม่รู้จริงๆ พี่ขอโทษนะครับน้านะ และพี่ขออย่างเดียว พี่ขออย่าให้เซอร์ไพรส์ที่เอว่า เป็นเอจะไม่ยกโทษให้พี่เป็นพอนะครับ รักเอนะคร้าบ จุ๊บจุ๊บ” ไม่ต้องมาอ้อนเค้านะ เอาคืนซะหน่อยดีมั้ยเนี่ยปล่อยให้เค้ากลัวตั้งนาน ชิ
“ก็ได้ เอ ยกโทษให้ก็ได้แต่ แต่นะพี่โต้ง อย่าให้มีอย่างงี้อีกนะครับ รักพี่โต้งเหมือนกันจุบุ จุบุ” ดูดิเลยเสียเวลาเลิฟเลิฟของเราไปตั้งเท่าไหร่เฮ้อ แต่ไอ้นพวันจันทร์แกตาย...
The end