ตอนที่ 9
ยอมรับ (ครึ่งหลัง)
“ฉันจะมาทำโทษเธอ” อัคนีตอบ
“ผม?” ชี้ตัวเองอย่างงุนงง
ผิดอะไรอีกล่ะเนี่ย...แค่ไม่เลือกแหวนกับสร้อยให้แค่นี้นี่นะ
“ก็ใช่ไง ในห้องนี้จะมีใครเสียอีก ถ้าไม่ใช่เธอ”
“แล้วคุณสองคนตอบผมได้ไหมครับว่าผมผิดอะไร”
“ไม่บอก...แต่เธอผิดก็แล้วกัน”
“อ้าว? คุณดิน แบบนี้มันไม่ยุติธรรมสำหรับผมเลยนะครับ”
“แล้วที่เธอทำ มันยุติธรรมสำหรับฉันมากหรือไง” อัคนีเถียง
“ผมทำอะไรล่ะครับ”
“ผิดก็คือผิด ไม่ต้องรู้หรอกน่ะ” พูดอย่างหงุดหงิด
“สุดท้ายคุณก็ต้องยัดเยียดความผิดมาให้ผมอยู่ดี”
“ใช่ไง พวกฉันมันก็ไม่เคยดีในสายตาเธออยู่แล้วนี่ จะเข้าใจแบบไหนก็เชิญ” อัคนีว่าอย่างมีน้ำโห
“คุณต้องการอะไรว่ามา ขี้เกียจเถียงด้วยแล้ว” ร่างบางถามปัดๆ
“สั่งสอนเธอไง” ร่างบางขมวดคิ้วแน่น
เออ...ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยจะถูกอะไรอยู่แล้ว
อยากให้ผิด จะผิดให้ก็ได้...
เพราะเถียงต่อไป ก็ไม่ชนะอยู่ดี
“ยังไงครับ จะตบ จะต่อย หรือจะ อื้อ” พูดไม่ทันจบ ก็ถูกมือแกร่งของปฐพีดึงไปชิดกับกายใหญ่ ปากใหญ่กดจูบลงบนริมฝีปากนุ่มทันที ตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อลิ้นร้อนลุกล้ำเข้ามาด้านใน กดจูบรุนแรงตามแรงอารมณ์ สองมือใหญ่บังคับใบหน้าเล็กที่ไม่ให้หันหนี มือที่พยายามทุบอกแกร่งของปฐพีก็เปลี่ยนเป็นกำแน่น
“อื้อ”
อัคนีเห็นว่าปฐพีเริ่มไปก่อนแล้ว ก็เจ็บใจที่โดนนำไป แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะต่อให้ได้เป็นคนที่สอง แต่ก็ยังได้จูบคนตัวเล็กอยู่ดี
ใครอาจจะคิดว่าเขาสองคนเลว ก็ไม่ว่า
เพราะเขายอมรับเลยว่า ยัดเยียดความผิดให้คนตัวเล็กจริงๆ เพราะอยากจะทำโทษก็แค่นั้น
พรึ่บ!
ปฐพีผละจูบออกมา ก่อนจะหมุนตัวปลายฝันให้หันไปหาอัคนีที่ยืนมองอยู่ แต่ยังไม่ทันที่ร่างบางจะหายใจได้เท่าไหร่ ริมฝีปากร้อนของอัคนีก็ประกบลงมา พร้อมกับลิ้นที่เข้าไปเกาะเกี่ยวกับลิ้นเล็กที่ด้านใน ร่างกายเล็กเริ่มหมดแรง ทรุดตัวลงกับพื้น ยังดีที่อัคนีคว้าไว้ทัน ผละจูบออก แล้วช้อนคนตัวเล็กขึ้นอุ้ม เดินไปวางปลายฝันบนโซฟาสีแดงสด ก่อนจะกดจูบเข้าไปอีกที
“อย่า...อื้ม”
สองฝาแฝดไม่ยอมให้ปลายฝันมีสติต่อต้านมากนัก คนพี่ผละออก คนน้องก็กดจูบต่อไป เป็นแบบนี้อยู่หลายรอบเลยทีเดียว
ซึ่งตอนนี้ ร่างสูงทั้งสองก็ยืนมองคนตัวเล็ก ผิวขาว หน้าหวานอย่างกับผู้หญิง ในสภาพ เสื้อผ้าและผมยุ่งเหยิงเหมือนผ่านศึกมาอย่างโชกโชน
ที่สำคัญปากบวมเจ่อ อย่างที่ปฐพีกับอัคนีต้องการ
“อึก ค่ะ คนบ้า”
ปลายฝันไม่รู้ว่าจะด่ายังไง เพราะมันคิดอะไรไม่ออกเลย โดนปล้ำจูบจนเหนื่อย คนน้องที คนพี่ที หายใจให้ทันยังยาก
“ปากดี อยากโดนต่อหรือไง แต่บอกไว้ก่อนนะว่า ครั้งต่อไปไม่หยุดแค่จูบ” อัคนีบอกยิ้มๆ ก่อนจะใช้สายตาโลมเลียร่างน้อยตั้งแต่หัวจรดเท้า
ซึ่งปลายฝันก็เขินกับสายตานั้นเหลือเกิน ใบหน้าหวานแดงซ่าน ทั้งจากการจูบหรือสายตาของทั้งคู่ที่มองตน
มันร้อนรุ่มแปลกๆ
“มีใครบอกเธอหรือเปล่าว่าเธอน่ะมันน่า ‘เอา’ มากขนาดไหน” ปฐพีถามตรงๆ จนปลายฝันต้องส่งค้อนให้อย่างโกรธๆ
แต่สำหรับปฐพีกับอัคนี มองยังไงก็น่ารัก
“ไม่มี! ใครจะไปพิสดารแบบพวกคุณล่ะ”
โดนไปขนาดนั้นแล้วยังปากเก่งอยู่อีกนะ...ไม่รู้จักเข็ดจริงๆ เลยปลายฝัน
“เอาอีกรอบไหมล่ะ”
“ย่ะ หยุดเลย” ห้ามเสียงสั่น เมื่ออัคนีทำท่าจะเข้าใส่ตัวเองอีก
“หึ! ไม่แน่จริง” ปฐพีส่งเสียงเยาะเย้ย แล้วทรุดตัวนั่งบนโซฟาข้างซ้ายของปลายฝันทันที พร้อมกับพาดแขนกับพนักพิง ทำให้ดูเหมือนกำลังโอบกอดร่างเล็กอยู่
ปลายฝันนั่งตัวตรง เกร็งอย่างทันที กลัวว่าปฐพีจะเข้ามาทำอะไรตนอีกรอบ
“เมื่อยจริง นั่งแล้วยืน นั่งแล้วยืนเนี่ย” อัคนีบ่นแล้วก็ทรุดตัวนั่งอีกข้างหนึ่งของปลายฝันเช่นกัน ทำให้ร่างบางนั่งคั่นกลางระหว่างปฐพีกับอัคนีอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้...แนบชิดไปหน่อย
“เกร็งเชียว กลัวล่ะสิ บอกแล้วว่าอย่าปากเก่ง จะโดนทำโทษแบบนี้แหละ” อัคนีซ้ำเติม
ไม่กลัวก็แปลกแล้วเถอะ พวกคุณมีสอง แต่ผมมีคนเดียว แค่ร่างกายก็แพ้แล้ว จะเถียงให้ได้อะไรล่ะ
“ไม่ต้องแอบว่าพวกฉันในใจหรอก ฉันรู้” ปฐพีบอกอย่างรู้ทัน ปากสวยเบ้อย่างหมั่นไส้
“ชิ”
“เอาเถอะๆ ยังไงก็เลือกแหวนกับสร้อยซะ!! จะได้สั่งให้คนไปซื้อ เดี๋ยวไม่ทันวันงานอีก” อัคนีสั่งเสียงเข้ม
อ้อ!! ที่ทำโทษเพราะเรื่องนี้น่ะหรือ...
“อย่าเรื่องมาก พวกฉันบอกให้เลือกก็ต้องเลือก ถ้าไม่เลือกก็จูบกันจนกว่าจะเลือก”
“ทำไมคุณกับน้องคุณชอบสั่งผมจังเลยฮะ” ถามปฐพีกลับอย่างโมโห
“ก็ถ้าเธอไม่ดื้อ ฉันก็ไม่สั่งหรอก”
ใครกันแน่ที่ดื้อ...ปลายฝันได้แต่เถียงอยู่ในใจ
“ก็แล้วทำไมพวกคุณถึงต้องอยากให้ผมเลือกด้วยเล่า เลือกเองก็ได้นี่ ก็แค่ชอบแบบไหนก็เอาแบบนั้น ผมมันพวกเด็กบ้านนอกจนๆ เลือกของแพงๆ ไม่เป็นหรอกครับ” ไม่วายแอบประชดประชัน
“เธอก็แค่บอกว่าชอบแบบไหนแค่นั้น มันจะลำบากมากหรือไงเล่า!!” อัคนีหันมาตะคอกใส่หูเล็กด้วยความโมโห
ทำไมเด็กนี่ชอบยั่วอารมณ์โมโหนักนะ
“ก็แล้วทำไมต้องให้ผมเลือกล่ะ”
“โว้ยยย...ก็แค่อยากได้ของที่เธอเลือกให้ก็เท่านั้น!” ตะคอกอย่างเหลืออด
ปลายฝันนิ่งอึ้งไป ตกใจกับสิ่งที่ได้ยินเป็นอย่างมาก แล้วไหนจะหัวใจที่เต้นแรงนี้อีก ความรู้สึกนี้คืออะไรนะ แปลกใจ หวั่นไหว หรือดีใจกัน
ใช่แล้ว ‘ดีใจ’
ส่วนอัคนีที่รู้ตัวว่าหลุดสารภาพความจริงออกไป ก็เงียบ ตีสีหน้าเรียบเฉยอย่างเสียหน้า ปฐพีเห็นแบบนั้นก็แอบขำในใจ
“เอ่อ...คือว่า” หันมาขอความช่วยเหลือจากปฐพี
แต่คำตอบของปฐพีก็ทำให้ใบหน้าหวาน กับหัวใจดวงน้อย สูบฉีดเลือดแรงขึ้นเป็นสองเท่า ใจเต้นแรงราวกับวิ่งมาราธอน มือไม้ไม่รู้จะเอาไปวางไว้ที่ไหน ก็เลยได้แต่ระบายอารมณ์ตัวเองโดยขยำชายเสื้อของตน
“ก็อย่างที่มันพูด” ตอบนิ่งๆ
ปฐพีเห็นปฏิกิริยาจากคนข้างกายแล้ว ก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ รู้จุดที่จะจี้ปลายฝันแล้ว
“ฉันก็แค่อยากได้ของที่เธอเลือกให้” ปฐพีพูดต่อ
ร่างบางตัวสั่น ตาเริ่มพร่ามัว หายใจเริ่มติดขัด ยอมรับเลยว่าเขิน เขินสุดๆ ควบคุมตัวเองไม่ได้อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามา ปลายฝันสามารถฝ่าฟันได้ทั้งหมด
แต่กลับรู้สึกพ่ายแพ้กับคำแค่ไม่กี่คำ
‘ฉันอยากได้ของที่เธอเลือกให้’
“เลือกให้หน่อย” ปฐพีขอดีๆ
หยุดนะ...หยุดพูดได้แล้ว
“ฉันอยากได้จริงๆ”
ก็บอกให้หยุดพูดได้แล้ว ไม่อยากได้ยินอะไรทั้งนั้น
“ฉัน...”
“พอแล้ว!! เดี๋ยวผมเลือกให้ แค่นี้ใช่ไหมที่ต้องการ ถ้างั้นก็ออกไปได้แล้ว” ร่างบางฉุดตัวเองขึ้นแบบทนไม่ไหว หันหลังให้ร่างสูงทั้งสอง พร้อมกับไล่
“หึ! ฉันจะรอแบบนะ” ปฐพีบอก
“ฉันก็เหมือนกัน พูดง่ายๆ แบบนี้ก็สิ้นเรื่อง” อัคนีพูดขึ้น
ทำไมพวกเขา ถึงไม่รู้สึกอะไร เพราใช้คำพูดพวกนี้หลอกสาวมาเยอะล่ะสิ...
มันไม่ยุติธรรมเลยสักนิด...
ทำไมต้องมีเราคนเดียวที่ต้องหวั่นไหวด้วย!!
“น่ารักชิบหาย กูไปมุดหัวอยู่ที่ไหนมาวะ เพิ่งเห็น”
“ทำเป็นพูดไอ้เพลิง ก็เพราะมึงเอาแต่แกล้งไง”
“นั่นมันมึงแล้วไอ้ดิน” ว่ากลับเข้าให้
ที่จริงแล้วเขาสองคนเป็นคนที่ไม่มีความอดทนสักเท่าไหร่ ยิ่งมีของสวยๆ งามๆ อยู่ใกล้ๆ แล้ว ใครมันจะไปทน แต่ทำไมกับปลายฝัน เขาสองคนถึงมารู้สึกว่าน่ารักมากๆ เอาตอนนี้
“ตอนแรกที่เจอก็คิดว่าหน้าตาดีนะ แต่ก็ไม่รู้สึกอะไร” อัคนีว่า
“แล้วตอนนี้?”
“แม่งอยากจับมาฟัดให้หายหมั่นเขี้ยว”
“ไม่ต่างกัน ฮ่าๆ” ปฐพีหัวเราะ
“จะต่างกันได้ไง มึงแม่งเล่นก่อนกูเสมอเลย คราวหน้าขอกูคนแรกบ้างดิ”
“ไม่รู้ ใครดีใครได้” ยักไหล่อย่างไม่หยี่ระ
“เออ! แต่มีกฎนะเว้ย ห้ามทำถึงขั้นนั้นเด็ดขาดเลย เพราะยังไงก็คิดถึงอนาคตหน่อยว่า ถ้าเราสองคนไม่ได้คิดจะจริงจัง ก็ควรที่จะปล่อยเด็กมันไป”
“ก็ได้ๆ”
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังรู้สึกแค่ชอบก็ตาม พวกเขาสองคนจะไม่เอาคำว่าชอบมาทำลายปลายฝันเด็ดขาด เพราะร่างบางเป็นเหมือนกับผู้มีพระคุณของพ่อกับแม่ตน
ถ้าไม่อยากรู้สึกผิดกับพ่อกับแม่ ก็ไม่ควรที่จะทำให้ปลายฝันต้องแตกสลาย
มันก็ดีที่ยังคิดแบบนี้ได้...
100%
อาจจะไม่ตรงกับความต้องการเท่าไหร่ เพราะมันยังไม่ถึงเวลาจะหวานกัน ฮ่าๆ ยูกิเปล่าแกล้งนะ แต่ต้องการให้มันเป็นอย่างนี้ เพราะในครอบครัวของยูกิ รักกันดีนะคะ แต่ไม่คุยกัน เลยทำให้ไม่เข้าใจอีกฝ่ายมากเท่าไหร่ ก็เอาชีวิตตัวเองมาเขียนลงนี่แหละค่ะ อารมณ์พาไป (อีกแล้ว)
ความรู้สึกของพระเอกที่ยังไม่แน่ใจแต่ยอมรับว่าชอบ ก็สัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเกินเลย ยังไงน้องดรีมก็มีพระคุณต่อพ่อกับแม่เนาะ (หวังว่าไม่งงกันนะ)
https://www.facebook.com/sawachiyuki(ยูกิสำรวจผู้ที่อยากได้หนังสือของน้องดรีมอยู่ ใครสนใจเข้าไปไลค์โพสสอบถามได้นะคะ ส่วนใครไม่อยากได้ก็ไม่ต้องไลค์นะ ยูกิจะเอายอด 100 คนก่อน แล้วจะให้พี่นักวาดวาดปกให้ค่ะ เพราะต้องใช้เงินเยอะพอสมควรในการจ้างวาดปก ฉะนั้นแล้ว สนใจเกิน 100 คน จะได้ทำเป็นปกวาด โพสที่ว่ายูกิติดไฮไลต์ เอาไว้นะคะ ไม่ใช่การจองนะคะ แต่สำรวจว่ามีคนเอาแน่ๆ กี่คน)
คลิกด้านล่างเพื่ออ่านตอนต่อไป
ตอนที่ 10.1