21/02/59
ภาคเรียนที่หนึ่ง...บทที่เก้า
"เดี๋ยวตอนไปรับโลเวลฉันจะขึ้นเครื่องกลับบ้านเลยนะ...โทรจองตั๋วไว้แล้ว" ภีมเดินสะพายกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่
ของตัวเองติดตัวลงมาในห้องชั้นล่างของบ้านพักที่พวกเขาเช่าไว้พักระหว่างที่ครอบครัวของเพื่อนสนิททั้ง
สองคนของเขาอยู่ที่นี่ ในขณะที่ทั้งเขา เจนนี่และเจ้าหนูน้อยริกเกอร์กำลังจะขับรถที่เช่าไว้ไปรับโลเวลพ่อแท้ๆ
ของเจ้าหนูน้อยริกเกอร์ที่สนามบิน
"อ่าว! ทำไมล่ะภีม ฉันนึกว่านายจะอยู่เที่ยวกับพวกเราก่อนซะอีก...นายเป็นอะไรหรือเปล่าภีมสีหน้านาย
ไม่ดีเลยนะ" เจนนี่ถามด้วยความตกใจเพราะก่อนหน้านี้ภีมยังบอกกับเขาว่าจะอยู่เที่ยวตามคำชวนกึ่งบังคับของ
พวกเขาด้วย เพราะคงอีกนานกว่าจะได้เจอกันเพราะเขากับริกเกอร์จะต้องกลับไปอยู่กับโลเวลพ่อของริกเกอร์
ที่อเมริกาเหมือนเดิมเพราะทั้งเขาและโลเวลก็ต่างเคลียร์กับครอบครัวของตนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"ไม่..ฉันไม่ได้เป็นไรหรอก เพียงแต่คุณพ่อฉันเรียกตัวกลับบ้านน่ะ" ภีมพูดโกหกคำโตใส่เพื่อน
เพราะกลัวว่าเพื่อนจะรู้สึกแย่ที่ตนเป็นคนไร้เหตุผลอย่างนี้ ที่แค่ตัวเองรู้สึกแย่แค่นี้กลับกล้าผิดสัญญา
กับเพื่อนที่มีอยู่ไม่กี่คนของตัวเองอย่างนี้
"อืม...ถ้างั้นก็ไม่เป็นไรหรอก...ฉันเข้าใจ....และแค่เป็นห่วงกลัวว่านายจะเป็นอะไรเพราะสีหน้า
ของนายตอนนี้มันไม่ดีเลยหล่ะภีม" เจนนี่พูดบอกด้วยน้ำเสียติดกังวลเพราะเท่าที่ตนรู้จักและเป็นเพื่อนกับภีมมา
ภีมไม่เคยแสดงความรู้สึกผ่านทางสีหน้ามาอย่างชัดเจนอย่างนี้เลย เธอจึงรู้สึกเป็นห่วง แต่ในเมื่อเพื่อนบอกว่า
ไม่เป็นไรเธอก็ไม่ควรที่จะเซ้าซี้ต่อไป
"คูณพ่อภีมจะไปไหนหรอฮะ" เจ้าหนูน้อยริกเกอร์ที่นอนหลับอยู่ที่เบาะเด็กกลางห้องนั่งเล่นพอลืมตาตื่น
มาเห็นคุณพ่อภีมของตัวเองมีกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่สะพายอยู่ข้างหลังก็อ้าปากร้องถามทันที
"ริกเกอร์ครับ คุณพ่อภีมจะกลับไปหาคุณตาภาสกับคุณยายพัสก่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวถ้าคุณพ่อว่าง
คุณพ่อจะบินไปเยี่ยมริกเกอร์ที่โน่นนะครับ...เป็นเด็กดีนะครับคนเก่ง" ภีมบอกพร้อมกับอุ้มเด็กน้อยขึ้นมากอด
ถึงไม่ใช่ลูกแท้ๆของตนแต่ก็ช่วยเลี้ยงช่วยดูแลมาตั้งแต่หัวเท่ากำปั้น ก็อดที่จะรู้สึกใจหายไม่ได้ที่จะต้องจาก
เจ้าหนูจอมแสบนี่ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่การจากกันถาวรก็เถอะ แต่มันก็คงจะอีกนานกว่าจะได้เจอกันอย่างนี้อีก
"ฮะ...แต่คูณพ่อภีมต้องไปหาริกเกอร์บ่อยๆนะฮะ...แล้วก็ห้ามรักใครมากกว่าริกเกอร์ด้วย! ไม่อย่างนั้น
ริกเกอร์จะงอนคูณพ่อภีมสามวิ(นาที)เลย!!!" เจ้าหนูริกเกอร์รับปากพร้อมกับไม่ลืมที่จะพูดขู่คุณพ่อภีมของตัวเองไว้
เพราะกลัวว่าคุณพ่อจะไปรักเด็กคนอื่นมากกว่าตัวเอง
"หึๆ ครับๆ" ภีมหลุดหัวเราะขำออกมากับท่าทางที่ดูเหมือนจะน่ากลัวของไอ้เด็กฝรั่งตัวกระเปี๊ยกในอ้อมกอดตัวเอง
และอดไม่ได้ที่จะกอดรัดฟัดตัวนุ่มๆของเจ้าหนูริกเกอร์อีกชุดใหญ่ ก่อนที่จะพากันออกเดินทางเพื่อที่จะไปส่งภีมและ
รับโลเวลพ่อแท้ๆของริกเกอร์เมื่อถึงเวลา
.
.
.
.
.
"ฉันไปก่อนนะ...ขอโทษที่ไม่ได้อยู่เที่ยวและไม่อยู่ส่งพวกนายกลับอเมริกานะ" ภีมบอกกับเจนนี่และ
โลเวลเมื่อได้ยินพนักงานของสนามบินเรียกแล้ว...คงจะถึงเวลาแล้วสินะ
"ถึงบ้านแล้วโทรมาบอกกับด้วยนะ...เดี๋ยวไอ้ลูกชายของนายมันจะโวยวายเอาที่คุณพ่อภีมสุดที่รักไม่โทรหา"
โลเวลพูดบอกพร้อมกับเดินเข้ามากอดลาภีม หลังจากที่นั่งคุยกันได้พักใหญ่ๆยังไม่ทันหายคิดถึงเพื่อนก็จะไปอีกแล้ว
พลางบุ้ยปากไปที่เจ้าหนูน้อยริกเกอร์ลูกชายของตนที่นอนหลับสบสไลไปด้วยความเพลียอยู่บนตักเจนนี่แม่ของเจ้าตัว
"อื้ม...แล้วเจอกัน...ฉันไปก่อนะเจนนี่" ภีมกอดลาเพื่อนอีกครั้ง ก่อนที่จะเดินหันหลังเข้าเกทไป
โดยไม่ลืมที่จะบอกลาเจนนี่อีกคน
.
.
.
.
.
"คุณแม่ครับ"
"อ๊ะ!...น้องภีม!...มายังไงครับลูก ทำไมไท่โทรให้แม่ไปรับล่ะครับ" พัสกรสะดุ้งตกใจที่นั่งอ่านหนังสืออยู่
เพลินๆ ก็โดนเจ้าลูกชายคนกลางที่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้มาสวมกอดตนจากทางด้านหลัง
"ภีมไม่อยากรอกเลยมาแท็กซี่ครับ...ภีมอยากมานอนกอดคุณแม่เร็วๆ" ภีมพูดอ้อนพร้อมกับทิ้งตัวลงนอน
หนุนตักพัสกรที่นั่งอยู่บนโซฟายาวพอดี
"หื้ม...มาอ้อนแม่แบบนี้ อยากได้อะไรหรือเปล่าเนี่ยครับลูกชาย" พัสกรพูดพลางลูบหัวลูกชายไปมา
"คุณแม่ครับ" อยู่ดีๆ ภีมก็เรียกพัสกรขึ้นมา
"ครับ...ว่ายังไงครับลูก" พัสกรแสร้งถามทั้งที่พอจะเดาอาการของลูกออก แต่ก็อยากให้ภีมพูดมันออกมาด้วยตัวเองอยู่ดี
"ภีมเหนื่อยจังเลยครับแม่" ภีมบอกพร้อมกับพลิกตะแคงหันหน้าเข้าซุกท้องของพัสกร
"เหนื่อยก็หยุดครับ แต่ถ้าภีมหยุดไม่ได้ก็แค่พัก..พักเก็บแรงให้หายเหนื่อย แล้วก็ลองกลับไปสู้กับสิ่งที่หนูต้อง
เผชิญต่ออีกสักครั้งให้สุดแรงแบบไม่ต้องเก็บไม่ต้องกั๊กเลยนะครับ และถ้าคราวนี้ถ้ามันยังไม่ได้ผลอีกภีม
ก็ควรที่จะยอมแพ้และปล่อยให้มันเป็นไปตามทางของมัน เพราะขืนภีมฝืนไว้หรือยื้อไปมันก็มีแต่ภีมเท่านั้นแหละครับ
ที่จะเจ็บตัวเอง" พัสกรไม่ได้โกรธเจ้านายที่เฉยชากับลูกของตนเพราะรู้ดีว่าเจ้านายก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไร
และก็ไม่ได้เกลียดเจ้าคุณที่ทำแบบนี้กับลูกชายตนเพราะเข้าใจดีว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ย่อมอยากได้สิ่งที่ดีที่สุด
ให้กับลูกของตัวเองโดยเฉพาะคนรักหรือคู่ชีวิตที่จะเป็นคนรับช่วงต่อคอยดูแลลูกต่อจากเราในวันที่เราไม่มีแรง
พอที่จะอยู่ดูเขาต่อแล้ว แต่ในฐานะของคนเป็นแม่อย่างเขาแล้วเขาก็ไม่ชอบที่จะเห็นลูกของตัวเองต้องเจ็บปวด
และทรมาณเหมือนกัน เขาถึงเลือกที่จะพูดกับภีมแบบนี้ ตั้งแต่เด็กจนโตชีวิตของภีมก็มีแต่เจ้านาย ภีมไม่เคยมี
เด็กคนอื่นเป็นเพื่อนแบบภาคหรือภามแฝดพี่และแฝดน้องของตัวเอง จะหายใจเข้าหายใจออกก็มีแต่พี่เจ้านาย
อะไรๆ ก็พี่เจ้านาย จะเล่นกับเพื่อนคนอื่นก็ไม่ได้ เพราะพี่เจ้านายไม่ชอบ...เดี๋ยวพี่เจ้านายโกรธ
เรียกได้ว่าโลกทั้งใบของน้องภีมลูกชายฝาแฝดคนกลางของเขานั้นมีเพียงพี่เจ้านายของตัวเองเท่านั้นที่อาศัยอยู่
...ตัวเขาเองมารู้จากณัฐภาสสามีของเขาในภายหลังว่าลูกชายของเขาคนนี้ ต้องไปเรียนต่อต่างบ้านต่างเมืองอยู่
ห่างไกลกันคนละซีกโลกโดยที่ไม่สามารถกลับมาเที่ยวบ้านได้เลยในคราวที่ถึงวันหยุดปิดเทอม เพราะแค่เหตุผลที่ว่า
'ภีมทำเพื่อเจ้านาย' เหอะ! แล้วไอ้ตอนที่ลูกชายของเขาพูดไอ้คำว่าเพื่อพี่เจ้านายของตัวเองทั้งน้ำตาที่ไหลออกมา
อย่างไม่ขาดสาย มีใครเคยคิดบ้างไหมว่าหัวใจของคนเป็นแม่อย่างเขาที่เลี้ยงดูฟูมฟักลูกรักในอกมาอย่างยุงไม่ให้ไต่
ไรไม่ให้ตอมมากับสองมือตัวเองจะเจ็บปวดเจียนจนจะขาดใจแค่ไหน อยากจะบินไปรับลูกกลับมาบ้านตั้งกี่ครั้งกี่คลา
แต่ก็ทำได้แค่คิดเพราะโดนณัฐภาสสามีของเขาห้ามไว้และบอกว่าอย่าไปทำลายความตั้งใจของลูก เพราะเราอยู่กับลูก
ไปตลอดชีวิตไม่ได้ ให้ลูกได้เผชิญและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองให้ถึงที่สุดเสียก่อน รอให้ลูกร้องเรียกขอความช่วยเหลือก่อน
เราค่อยยื่นมือเข้าไป ซึ่งน้องภีมลูกชายของเขาคนนี้...คนที่ดูเหมือนจะอ่อนแอที่สุดในบรรดาพี่น้องแฝดของตัวเองกลับทำได้
ภีมกลับมาหาเขาพร้อมกับใบปริญญาบัตร อีกทั้งยังได้เกียรตินิยมมาอีกต่างหาก แต่ถ้าสิ่งพวกนี้มันกลับมาพร้อมกับ
ความทุกข์ทรมาณใจของลูกชายเขาอย่างนี้ เขาบอกเลยว่าเขา.....ไม่ต้องการ!!!
"ภีมทำแบบนั้นได้ด้วยหรอครับแม่" ภีมพลิกตัวกลับมาถามพัสกรด้วยน้ำตา
"ได้สิครับลูก...ไม่ว่าใครจะพูดยังไง..ชีวิตของภีมย่อมเป็นของภีม ถ้าภีมต้องการให้มันเป็นทางไหนยังไงก็มีแค่
ตัวภีมเท่านั้นที่เป็นคนกำหนด...ไม่ใช่คนอื่น...สู้นะครับลูก...แม่อยู่ข้างหนูเสมอ" พัสกรบอกพร้อมกับกดจูบหน้าผาก
ลูกชายเบาๆ เป็นการให้กำลังใจและปลอบโยนไปพร้อมๆ กัน และหวังว่าภีมจะจำเอาคำพูดทุกๆ คำของเขาในวันนี้
เก็บเอาไปคิดเอาไปใช้เพื่อเป็นเกาะป้องกันตัวเองบ้างไม่มากก็น้อย...พ่อตามากเล่ห์อย่างนั้นสู้ต่อหน้าตรงๆ
ไม่ไหวหรอกนะครับลูกชาย......แต่ถ้าหนูต้องการลูกชายของเขาจริงๆ แม่คนนี้ก็จะช่วยหนูเองครับลูกรัก!!!
________________________________________________________________________TBC.
วันนี้ว่าจะไม่ลงแล้วนะคะ แต่พอดีไอ้เพื่อนบ้าของมี่มันโทรมาทวงซะก่อน
พอบอกว่าจะไม่ลงมันยังว๊ากใส่มี่จนหูชาเลยค่ะ ก็เลยต้องมาลงให้นาง(?)
หน่อยเดี๋ยวฮอร์โมน(นาย)ของนางจะพุ่งพล่านแล้วจะแว๊นมาเผาบ้านมี่ซะก่อน 555
ปล. ตอนนี้สั้นไปหน่อยนะคะ
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ.....