ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) -End-
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) -End-  (อ่าน 52130 ครั้ง)

ออฟไลน์ minkey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เอ่า!!! คุณป๋าทำไมแกล้งลูกงี้ล่ะ

เข้าใจไปกันคนละทิศละทางแล้ววววววว

รีบๆเข้าใจกันน้าา
อยากเห็นเจ้านายงุ้งงิ้งใส่น้องภีม :mew2:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เจ้านายเข้าใจผิดว่างั้น!?

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
ทำไมไม่ถามตรงๆ ทำไมไม่พูดไปตามจริง อ๋อ พ่อแง่แม่งอนกันนี่เอง
  รอ รอ รออ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
21/02/59


ภาคเรียนที่หนึ่ง...บทที่เก้า






       "เดี๋ยวตอนไปรับโลเวลฉันจะขึ้นเครื่องกลับบ้านเลยนะ...โทรจองตั๋วไว้แล้ว" ภีมเดินสะพายกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่
ของตัวเองติดตัวลงมาในห้องชั้นล่างของบ้านพักที่พวกเขาเช่าไว้พักระหว่างที่ครอบครัวของเพื่อนสนิททั้ง
สองคนของเขาอยู่ที่นี่ ในขณะที่ทั้งเขา เจนนี่และเจ้าหนูน้อยริกเกอร์กำลังจะขับรถที่เช่าไว้ไปรับโลเวลพ่อแท้ๆ
ของเจ้าหนูน้อยริกเกอร์ที่สนามบิน

       "อ่าว! ทำไมล่ะภีม ฉันนึกว่านายจะอยู่เที่ยวกับพวกเราก่อนซะอีก...นายเป็นอะไรหรือเปล่าภีมสีหน้านาย
ไม่ดีเลยนะ" เจนนี่ถามด้วยความตกใจเพราะก่อนหน้านี้ภีมยังบอกกับเขาว่าจะอยู่เที่ยวตามคำชวนกึ่งบังคับของ
พวกเขาด้วย เพราะคงอีกนานกว่าจะได้เจอกันเพราะเขากับริกเกอร์จะต้องกลับไปอยู่กับโลเวลพ่อของริกเกอร์
ที่อเมริกาเหมือนเดิมเพราะทั้งเขาและโลเวลก็ต่างเคลียร์กับครอบครัวของตนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

       "ไม่..ฉันไม่ได้เป็นไรหรอก เพียงแต่คุณพ่อฉันเรียกตัวกลับบ้านน่ะ" ภีมพูดโกหกคำโตใส่เพื่อน
 เพราะกลัวว่าเพื่อนจะรู้สึกแย่ที่ตนเป็นคนไร้เหตุผลอย่างนี้ ที่แค่ตัวเองรู้สึกแย่แค่นี้กลับกล้าผิดสัญญา
กับเพื่อนที่มีอยู่ไม่กี่คนของตัวเองอย่างนี้

       "อืม...ถ้างั้นก็ไม่เป็นไรหรอก...ฉันเข้าใจ....และแค่เป็นห่วงกลัวว่านายจะเป็นอะไรเพราะสีหน้า
ของนายตอนนี้มันไม่ดีเลยหล่ะภีม" เจนนี่พูดบอกด้วยน้ำเสียติดกังวลเพราะเท่าที่ตนรู้จักและเป็นเพื่อนกับภีมมา
ภีมไม่เคยแสดงความรู้สึกผ่านทางสีหน้ามาอย่างชัดเจนอย่างนี้เลย เธอจึงรู้สึกเป็นห่วง แต่ในเมื่อเพื่อนบอกว่า
ไม่เป็นไรเธอก็ไม่ควรที่จะเซ้าซี้ต่อไป

       "คูณพ่อภีมจะไปไหนหรอฮะ" เจ้าหนูน้อยริกเกอร์ที่นอนหลับอยู่ที่เบาะเด็กกลางห้องนั่งเล่นพอลืมตาตื่น
มาเห็นคุณพ่อภีมของตัวเองมีกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่สะพายอยู่ข้างหลังก็อ้าปากร้องถามทันที

       "ริกเกอร์ครับ คุณพ่อภีมจะกลับไปหาคุณตาภาสกับคุณยายพัสก่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวถ้าคุณพ่อว่าง
คุณพ่อจะบินไปเยี่ยมริกเกอร์ที่โน่นนะครับ...เป็นเด็กดีนะครับคนเก่ง" ภีมบอกพร้อมกับอุ้มเด็กน้อยขึ้นมากอด
ถึงไม่ใช่ลูกแท้ๆของตนแต่ก็ช่วยเลี้ยงช่วยดูแลมาตั้งแต่หัวเท่ากำปั้น ก็อดที่จะรู้สึกใจหายไม่ได้ที่จะต้องจาก
เจ้าหนูจอมแสบนี่ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่การจากกันถาวรก็เถอะ แต่มันก็คงจะอีกนานกว่าจะได้เจอกันอย่างนี้อีก

       "ฮะ...แต่คูณพ่อภีมต้องไปหาริกเกอร์บ่อยๆนะฮะ...แล้วก็ห้ามรักใครมากกว่าริกเกอร์ด้วย! ไม่อย่างนั้น
ริกเกอร์จะงอนคูณพ่อภีมสามวิ(นาที)เลย!!!" เจ้าหนูริกเกอร์รับปากพร้อมกับไม่ลืมที่จะพูดขู่คุณพ่อภีมของตัวเองไว้
เพราะกลัวว่าคุณพ่อจะไปรักเด็กคนอื่นมากกว่าตัวเอง

      "หึๆ ครับๆ" ภีมหลุดหัวเราะขำออกมากับท่าทางที่ดูเหมือนจะน่ากลัวของไอ้เด็กฝรั่งตัวกระเปี๊ยกในอ้อมกอดตัวเอง
และอดไม่ได้ที่จะกอดรัดฟัดตัวนุ่มๆของเจ้าหนูริกเกอร์อีกชุดใหญ่ ก่อนที่จะพากันออกเดินทางเพื่อที่จะไปส่งภีมและ
รับโลเวลพ่อแท้ๆของริกเกอร์เมื่อถึงเวลา
.
.
.
.
.
       "ฉันไปก่อนนะ...ขอโทษที่ไม่ได้อยู่เที่ยวและไม่อยู่ส่งพวกนายกลับอเมริกานะ" ภีมบอกกับเจนนี่และ
โลเวลเมื่อได้ยินพนักงานของสนามบินเรียกแล้ว...คงจะถึงเวลาแล้วสินะ
 
       "ถึงบ้านแล้วโทรมาบอกกับด้วยนะ...เดี๋ยวไอ้ลูกชายของนายมันจะโวยวายเอาที่คุณพ่อภีมสุดที่รักไม่โทรหา"
โลเวลพูดบอกพร้อมกับเดินเข้ามากอดลาภีม หลังจากที่นั่งคุยกันได้พักใหญ่ๆยังไม่ทันหายคิดถึงเพื่อนก็จะไปอีกแล้ว
พลางบุ้ยปากไปที่เจ้าหนูน้อยริกเกอร์ลูกชายของตนที่นอนหลับสบสไลไปด้วยความเพลียอยู่บนตักเจนนี่แม่ของเจ้าตัว

      "อื้ม...แล้วเจอกัน...ฉันไปก่อนะเจนนี่" ภีมกอดลาเพื่อนอีกครั้ง ก่อนที่จะเดินหันหลังเข้าเกทไป
โดยไม่ลืมที่จะบอกลาเจนนี่อีกคน
.
.
.
.
.
      "คุณแม่ครับ"

      "อ๊ะ!...น้องภีม!...มายังไงครับลูก ทำไมไท่โทรให้แม่ไปรับล่ะครับ" พัสกรสะดุ้งตกใจที่นั่งอ่านหนังสืออยู่
เพลินๆ ก็โดนเจ้าลูกชายคนกลางที่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้มาสวมกอดตนจากทางด้านหลัง

       "ภีมไม่อยากรอกเลยมาแท็กซี่ครับ...ภีมอยากมานอนกอดคุณแม่เร็วๆ" ภีมพูดอ้อนพร้อมกับทิ้งตัวลงนอน
หนุนตักพัสกรที่นั่งอยู่บนโซฟายาวพอดี

       "หื้ม...มาอ้อนแม่แบบนี้ อยากได้อะไรหรือเปล่าเนี่ยครับลูกชาย" พัสกรพูดพลางลูบหัวลูกชายไปมา

      "คุณแม่ครับ" อยู่ดีๆ ภีมก็เรียกพัสกรขึ้นมา

       "ครับ...ว่ายังไงครับลูก" พัสกรแสร้งถามทั้งที่พอจะเดาอาการของลูกออก แต่ก็อยากให้ภีมพูดมันออกมาด้วยตัวเองอยู่ดี

       "ภีมเหนื่อยจังเลยครับแม่" ภีมบอกพร้อมกับพลิกตะแคงหันหน้าเข้าซุกท้องของพัสกร

       "เหนื่อยก็หยุดครับ แต่ถ้าภีมหยุดไม่ได้ก็แค่พัก..พักเก็บแรงให้หายเหนื่อย แล้วก็ลองกลับไปสู้กับสิ่งที่หนูต้อง
เผชิญต่ออีกสักครั้งให้สุดแรงแบบไม่ต้องเก็บไม่ต้องกั๊กเลยนะครับ และถ้าคราวนี้ถ้ามันยังไม่ได้ผลอีกภีม
ก็ควรที่จะยอมแพ้และปล่อยให้มันเป็นไปตามทางของมัน เพราะขืนภีมฝืนไว้หรือยื้อไปมันก็มีแต่ภีมเท่านั้นแหละครับ
ที่จะเจ็บตัวเอง" พัสกรไม่ได้โกรธเจ้านายที่เฉยชากับลูกของตนเพราะรู้ดีว่าเจ้านายก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไร
และก็ไม่ได้เกลียดเจ้าคุณที่ทำแบบนี้กับลูกชายตนเพราะเข้าใจดีว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ย่อมอยากได้สิ่งที่ดีที่สุด
ให้กับลูกของตัวเองโดยเฉพาะคนรักหรือคู่ชีวิตที่จะเป็นคนรับช่วงต่อคอยดูแลลูกต่อจากเราในวันที่เราไม่มีแรง
พอที่จะอยู่ดูเขาต่อแล้ว แต่ในฐานะของคนเป็นแม่อย่างเขาแล้วเขาก็ไม่ชอบที่จะเห็นลูกของตัวเองต้องเจ็บปวด
และทรมาณเหมือนกัน เขาถึงเลือกที่จะพูดกับภีมแบบนี้ ตั้งแต่เด็กจนโตชีวิตของภีมก็มีแต่เจ้านาย ภีมไม่เคยมี
เด็กคนอื่นเป็นเพื่อนแบบภาคหรือภามแฝดพี่และแฝดน้องของตัวเอง จะหายใจเข้าหายใจออกก็มีแต่พี่เจ้านาย
อะไรๆ ก็พี่เจ้านาย จะเล่นกับเพื่อนคนอื่นก็ไม่ได้ เพราะพี่เจ้านายไม่ชอบ...เดี๋ยวพี่เจ้านายโกรธ
เรียกได้ว่าโลกทั้งใบของน้องภีมลูกชายฝาแฝดคนกลางของเขานั้นมีเพียงพี่เจ้านายของตัวเองเท่านั้นที่อาศัยอยู่
...ตัวเขาเองมารู้จากณัฐภาสสามีของเขาในภายหลังว่าลูกชายของเขาคนนี้ ต้องไปเรียนต่อต่างบ้านต่างเมืองอยู่
ห่างไกลกันคนละซีกโลกโดยที่ไม่สามารถกลับมาเที่ยวบ้านได้เลยในคราวที่ถึงวันหยุดปิดเทอม เพราะแค่เหตุผลที่ว่า
 'ภีมทำเพื่อเจ้านาย' เหอะ! แล้วไอ้ตอนที่ลูกชายของเขาพูดไอ้คำว่าเพื่อพี่เจ้านายของตัวเองทั้งน้ำตาที่ไหลออกมา
อย่างไม่ขาดสาย มีใครเคยคิดบ้างไหมว่าหัวใจของคนเป็นแม่อย่างเขาที่เลี้ยงดูฟูมฟักลูกรักในอกมาอย่างยุงไม่ให้ไต่
ไรไม่ให้ตอมมากับสองมือตัวเองจะเจ็บปวดเจียนจนจะขาดใจแค่ไหน อยากจะบินไปรับลูกกลับมาบ้านตั้งกี่ครั้งกี่คลา
แต่ก็ทำได้แค่คิดเพราะโดนณัฐภาสสามีของเขาห้ามไว้และบอกว่าอย่าไปทำลายความตั้งใจของลูก เพราะเราอยู่กับลูก
ไปตลอดชีวิตไม่ได้ ให้ลูกได้เผชิญและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองให้ถึงที่สุดเสียก่อน รอให้ลูกร้องเรียกขอความช่วยเหลือก่อน
เราค่อยยื่นมือเข้าไป ซึ่งน้องภีมลูกชายของเขาคนนี้...คนที่ดูเหมือนจะอ่อนแอที่สุดในบรรดาพี่น้องแฝดของตัวเองกลับทำได้
ภีมกลับมาหาเขาพร้อมกับใบปริญญาบัตร อีกทั้งยังได้เกียรตินิยมมาอีกต่างหาก แต่ถ้าสิ่งพวกนี้มันกลับมาพร้อมกับ
ความทุกข์ทรมาณใจของลูกชายเขาอย่างนี้ เขาบอกเลยว่าเขา.....ไม่ต้องการ!!!

     "ภีมทำแบบนั้นได้ด้วยหรอครับแม่" ภีมพลิกตัวกลับมาถามพัสกรด้วยน้ำตา

     "ได้สิครับลูก...ไม่ว่าใครจะพูดยังไง..ชีวิตของภีมย่อมเป็นของภีม ถ้าภีมต้องการให้มันเป็นทางไหนยังไงก็มีแค่
ตัวภีมเท่านั้นที่เป็นคนกำหนด...ไม่ใช่คนอื่น...สู้นะครับลูก...แม่อยู่ข้างหนูเสมอ" พัสกรบอกพร้อมกับกดจูบหน้าผาก
ลูกชายเบาๆ เป็นการให้กำลังใจและปลอบโยนไปพร้อมๆ กัน และหวังว่าภีมจะจำเอาคำพูดทุกๆ คำของเขาในวันนี้
เก็บเอาไปคิดเอาไปใช้เพื่อเป็นเกาะป้องกันตัวเองบ้างไม่มากก็น้อย...พ่อตามากเล่ห์อย่างนั้นสู้ต่อหน้าตรงๆ
ไม่ไหวหรอกนะครับลูกชาย......แต่ถ้าหนูต้องการลูกชายของเขาจริงๆ แม่คนนี้ก็จะช่วยหนูเองครับลูกรัก!!!







________________________________________________________________________TBC.
วันนี้ว่าจะไม่ลงแล้วนะคะ แต่พอดีไอ้เพื่อนบ้าของมี่มันโทรมาทวงซะก่อน
พอบอกว่าจะไม่ลงมันยังว๊ากใส่มี่จนหูชาเลยค่ะ ก็เลยต้องมาลงให้นาง(?)
หน่อยเดี๋ยวฮอร์โมน(นาย)ของนางจะพุ่งพล่านแล้วจะแว๊นมาเผาบ้านมี่ซะก่อน 555
ปล. ตอนนี้สั้นไปหน่อยนะคะ
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ.....

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
โธ่ น้องภีมอดทนหน่อยนะคะ อีกไม่นานพี่เจ้านายต้องรู้ความจริงแน่ๆ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
หัวอกคนเป็นแม่น่ะไม่อยากเห็นลูกเสียใจหรอก  :hao5:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nuwi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ภีมสู้ วางยาจับปล้ำเลย ป๋าคุณนิหวงเจ้านายมาดเลยนะนั้น

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
ยังไงก็ขอให้เข้าใจกันนะครับ เข้าใจผิดกันอยู่อย่างนี้ (คนอ่าน)ปวดใจ

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
22/02/59


ภาคเรียนที่หนึ่ง...บทที่สิบ






       "ทำอะไรกันอยู่ครับสองแม่ลูก" ณัฐภาสที่เพิ่งกลับมาจากข้างนอกเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นสองแม่ลูกพัส ภีม
นอนหนุนตักคุยงุ้งงิ้งกันอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นกันอยู่สองคน

       "พี่ภาสเคยสนใจด้วยหรอฮะ" พัสกรเชิดหน้าพูดค่อนคอดสามีอย่างประชดประชัน

       "โธ่...พัสก็! ทำไมพี่จะไม่สนใจหล่ะครับ.....พูดประชดทำหน้างอใส่พี่นี่ต้องเป็นเรื่องของน้องภีมแน่เลย....
ใช่มั้ยครับลูก" ณัฐภาสถอดสูททิ้งตัวนั่งที่พักแขนโซฟาข้างภรรยา พลางหันไปถามความเห็นของลูกชายด้วยว่า
ตนพูดถูกใช่หรือไม่

       "ประมาณนั้นแหละครับคุณพ่อ" ภีมพยักหน้าตอบณัฐภาสทั้งที่ยังคงนอนหนุนตักพัสกรอยู่

       "ถ้าเป็นเรื่องนั้นมันจะไปยากอะไรครับ ในเมื่อภีมทำตามสัญญาที่ให้กับเจ้าคุณมันไว้แล้ว ที่เหลือก็........."
ณัฐภาสกระซิบบอกข้างหูลูกชายด้วยสีหน้าทะเล้นท่าทางเจ้าเล่ห์จนหน้ากลัว

       "ได้หรอครับ! ถ้าภีมทำอย่างนั้นแล้วเจ้านายจะกลับมารักภีมเหมือนเดิมใช่มั้ยครับคุณพ่อ!!" เมื่อได้ยินสิ่งที่ณัฐภาสผู้เป็นพ่อบอกแล้วภีมถึงกับตาลุกวาว ถามณัฐภาสกลับอย่างมีความหวัง

       "เดี๋ยวๆ สองคนพ่อลูกนี่กระซิบกระซาบอะไรกันครับ ทำไมถึงได้ทำหน้าตาเจ้าเล่ห์กันขนาดนั้น...
ว่าไงครับ พี่ภาส...น้องภีม" พัสกรกดเสียงต่ำถามทั้งสามีและลูกชายเพราะเมื่อสักครู่ตอนที่ณัฐภาสกระซิบบอกอะไรสักอย่างกับภีมมันเบาเสียจนพัสกรไม่ได้ยิน...ถึงแม้ว่าจะอยู่ใกล้กันก็เถอะ

       "ความลับครับ...เน๊าะภีมเน๊าะ" ณัฐภาสบอกพร้อมกับยักคิ้วกวนๆใส่พัสกร

       "ครับ...มันเป็นความลับ" ภีมบอกพลางยิ้มหวานประจบใส่แม่

       "ฮึ่ย! อย่าให้มีปัญหาก็แล้วกัน...แม่ไม่ช่วยหรอกนะ!!" พัสกรพูดบอกอย่างหงุดหงิด...เมื่อกี้ลูกชายยังอ้อน
เขาอยู่เลย แต่พอณัฐภาสสามีของเขามาแค่แปปเดียว...แปปเดียวเท่านั้น!! น้องภีมก็ไปอยู่ข้างโน่นซะแล้ว.....หงุดหงิดที่สุด!!!
.
.
.
.
.
สามเดือนต่อมา

       หลังจากวันที่เจ้านายเข้าโรงพยาบาลวันนั้นแล้ว เจ้านายก็ไม่เคยได้พบเจอกับภีมอีกเลย ถึงแม้ว่าเขา
จะกลับไปบ้านเกิดที่จังหวัดภูเก็ตและแวะเข้าไปไหว้พ่อภาสแม่พัสอย่างทุกทีก็ตาม พอเรียบๆเคียงๆลองถาม
หาดูแม่พัสก็บอกว่าภีมกลับไปทำธุระที่อเมริกาต่ออีกนิดหน่อย หลังจากนั้นก็ไม่มีใครแม้แต่จะเอ่ยปากพูดถึงผู้ชายคนนั้นอีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว

       "ไอ้กล้า...ไอ้กล้า!! ไอ้เหี้ยกล้าโว้ยยยย...เข้ามาหากูหน่อย!!!" เจ้านายตะโกนร้องเรียกลูกน้องคนสนิทที่เปรียบเป็นเสมือนมือขวา เป็นเลขา และอื่นๆ จิปาถะ เพราะว่าไอ้กล้าคนนี้มันช่วย้ขาได้ทุกเรื่องแถมยังไว้ใจได้ เพราะมันจะไม่หักหลังเขาอย่างแน่นอน

       "จ๋าาา...ลูกพี่เรียกกล้าไมอ่ะ" กล้าเดินเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัวของเจ้านายที่อยู่ในตึกออฟฟิตหลักของสนามที่ตั้งอยู่กั้นกลางระหว่างสนามกับบ้านที่เขาอาศัยอยู่พอดี สนามจะอยู่ส่วนหน้า ส่วนตัวบ้านเขาจะอยู่ข้างหลังสุดของพื้นที่ทั้งหมด โดยมีต้นไม้ขนาดใหญ่พลางตาคนไว้อยู่ทำให้ไม่มีใครรู้ว่า
ระยะทางระหว่างบ้านและสนามของเขานั้นมันใกล้กันแค่นิดเดียว

       "วันนี้เป็นไงบ้างวะ" เจ้านายถามถึงความเป็นไปในสนามเหมือนยังทุกวันที่เขาคิดว่าจะไม่เข้าไปในสนาม อย่างในวันนี้ก็เช่นกัน

       "วันนี้สนามเราคนโคตรเยอะอะลูกพี่ ลูกพี่จะไม่เข้าไปดูหน่อยหรอ....ผมว่าก่อนกลับลูกพี่แวะเข้าไปดูหน่อย
ก็ดีนะ พวกลูกค้ามันบ่นคิดถึงพี่กันเป็นแถว" กล้าบอกพลางพูดชักชวนเจ้านายเต็มที่เพราะนานนับเดือนแล้วที่เจ้านายไม่ค่อยได้เข้าไปดูสนาม จะดูความเรียบร้อยผ่านทางกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ทุกซอกทุกมุมของสนามก็เท่านั้น จนพวกลูกค้าประจำของสนามบ่นหากันเป็นแถว

       "เออ...ไปก็ไป" เจ้านายบอกพร้อมกับลุกขึ้นหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวมก่อนที่จะเดินนำกล้าออกจากห้องทำงาน...ไหนๆ กลับบ้านไปก็ไม่รู็จะไปทำอะไรอยู่แล้วเข้าไปนั่งดูรถเล่นในสนามแก้เบื่อก็ดีเหมือนกัน เพราะ
ช่วงนี้เขาไม่รู้เป็นไร ไม่ว่าจะเห็นอะไรมองไปทางไหนมันก็ดูขัดหูขัดตาไปเสียหมด รวมทั้งบรรดากิ๊กใหญ่กิ๊กเล็ก
ทั้งแปดคนที่ยังเหลืออยู่ของเขาอีกที่พากันน่าเบื่อไปหมด จะไปดื่มไปดิ๊งค์กับเพื่อนรักทั้งสองคนอย่างมอสกับเลย์
ก็ไม่ได้ เพราะช่วงที่เขากลับบ้านครั้งล่าสุด(ไม่ได้เจอภีม)ไอ้สองคนมันแอบไปยกพวกตีกับเด็กแว้นกันมาพวกพ่อๆมันสองคนก็เลยสั่งกักบริเวณให้อยู่แต่ในบ้านห้ามออกไปล่อนไปแรดที่ไหนกันอีกสามเดือน....สมน้ำหน้าพวกมัน....เสือกไม่ชวน!!
.
.
.
       "มึงเข้าไปดูหน่อยสิไอ้กล้าว่าไอ้พวกนั้นมันยืนมุงอะไรกันว๊ะ...เกะกะชิบหาย" เจ้านายหันไปพูดบอกกับ
กล้าที่ยืนทำหน้าอึนทำมึนอยู่ข้างๆ กัน หลังจากที่เดินออกจากออฟฟิตมาถึงทางเข้า แต่ยังไม่ทันได้ถึงด้านใน
ของสนามก็เป็นอันต้องหยุดเพราะติดฝูงชนที่พากันยืนมุงดูอะไรกันอยู่ก็ไม่รู้เป็นกลุ่มเป็นก้อนคากันอยู่ปากทางเข้าตัวสนามนี่แหละ

       "เดอะฟาสเฮีย!! เดอะฟาส!!!" กล้าวิ่งฝ่าฝูงคนพูดบอกออกมาอย่างตื่นเต้น หลังจากที่หายเข้าไปกลาง
วงคนมุงตามที่เจ้านายสั่ง

       "อะไรของมึงวะไอ้กล้า!! ไอ้ห่านี่!! หยุดเขย่ากูก่อนเว้ย!! นี่กูคนนะไม่ใช่กระบอกเซียมซี....หอก!!"
เจ้านายพูดบอกพร้อมกับโบกหัวเรียกสติให้ลูกน้องคนสนิทไปหนึ่งทีแบบเต็มๆแรง เพราะหลังจากที่กล้าวิ่ง
โวยวายออกมาแล้วมันก็พูดแต่คำเดิมว่า ฟาสๆ อะไรของมันสักอย่างนี่แหละเขาก็ฟังไม่ถนัดเหมือนกัน เท่านั้นยังไม่พอมันยังมาเขย่าแขนเขาไปมาเหมือนเด็กเจอของเล่นถูกใจอีกต่างหาก แต่ขอโทษเถอะครับ...ก็ไม่ใช่กระบอกเซียมซีนะโว้ยครับไอ้ลูกน้อง!!!

       "ก็ไอ้ที่เขามุงๆกันอยู่อะเฮีย!! รถๆ รถคันนั้นมันเหมือนกับที่อยู่ในหนังเดอะฟาสต์แอนด์เดอะฟิวเรียส
จากภาคไหนก็ไม่รู้ ผมจำไม่ได้...จำได้แต่ว่าไอ้รุ่นนี้คันแบบนี้!! เพียงแต่คันนี้มันเป็นสีขาวแต่ในหนังมันเป็นสีแดง ไอ้ฉากที่ดอมมันพาไบรอันขับรถเหินฟ้าข้ามตึกไงเฮียรุ่นนั้นเลย!!! โคตรสวย!!!" กล้าพูดเล่าพลางทำมือทำไม้ประกอบท่าทางให้ลูกพี่เจ้านายของตัวเองดูอย่างตื่นเต้น จนเจ้านายถึงกับขมวดคิ้วสงสัยเพราะเท่าที่เขาจำได้
รถรุ่นนั้นมันติดอันดับหนึ่งในสามรถที่เร็วที่สุดในโลกช่วงนั้นเลยนี่หว่า ส่วนราคานี่ก็ไม่ต้องพูดถึงเลย และไม่ต้องไปพูดถึงค่าตบค่าแต่งอีกด้วยนะเพราะคนชอบรถ ชอบแข่งรถนี่เป็นไปไม่ได้หรอกที่มันจะขับเดิมๆ โดยที่ไม่แต่งเพิ่มอะ!! หึๆ โคตรพ่อโคตรแม่แพงมหาแพงชิบหายเลยนะงานนี้กูว่า แล้วยิ่งวันเวลาผ่านมาสี่ห้าปีอย่างนี้แล้วด้วย เหอๆ ใครมันจะกล้าเอามาขับเล่นในสนามแข่งเถื่อนๆของเขากันวะ?.....เขาก็เป็นหนึ่งในแฟนคลับของหนังเรื่องนี้ที่ปรารถณาที่จะได้รถรุ่นใดรุ่นหนึ่งในบรรดารถทั้งหมดทั้งเจ็ดภาคเหมือนกันนะเฟ้ย...โดยเฉพาะไอ้รถคันที่ไอ้กล้ามันเพ้อให้ฟังอยู่นี่ไง!!!   

       "เออๆ กูจำได้แล้ว...ไหนกูขอไปดูหน้าเจ้าของมันหน่อยสิวะ...ว่ามันคิดไงถึงเอารถเจ๋งขนาดนี้มาคลุกฝุ่นเล่นในสนามกูได้" เจ้านายพูดบอกพร้อมกับเดินนำกล้าเข้าไปในฝูงชนอีกครั้ง โดยที่มีกล้าเดินตามหลังเข้าไปติดๆ
แต่ครั้งนี้เพราะทุกคนเห็นว่าเป็นเจ้านายที่เป็นเจ้าของสนามที่เดินเข้ามา ก็ต่างพากันแหวกทางให้เจ้านายได้
เดินไปถึงตัวรถหรูคันนั้นได้ในที่สุด
.
.
.


       ก๊อก...ก๊อก

       "เฮ้ย! ออกมาคุยกันหน่อยดิ" เจ้านายหยุดยืนอยู่หน้ารถหรูสีขาวคันงามรุ่นเดียวกันกับที่กล้าบอก
ก่อนที่จะเคาะกระจกหน้าต่างรถพร้อมกับพูดเรียกคนข้างในรถให้ออกมาคุยกันหน่อย ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่หรอก
ว่าไอ้คนข้างในมันจะไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูดหรอก แต่ก็นะ! ขอพี่เจ้านายคนนี้วางท่าเท่ต่อหน้าฝูงชนหน่อยเถอะ!!! กร๊ากกกกก....


       คลิ๊ก....(สมมุติว่ามันคือเสียงเปิดประตูรถเอาโน๊ะ!)



       "นะ...นาย...." ทันทีที่คนข้างในรถเปิดประตูออกมาให้เห็นหน้าตาตัวเอง เจ้านายก็รู้สึกปากคอสั่นตกตะลึง
ถึงกับไม่สามารถพูดออกมาเป็นคำๆ ได้ เพราะไอ้เจ้าของรถหรูในฝันของเขามันคือ ภีม!! ภีมที่เป็นลูกชายฝาแฝดคนกลางของคุณพ่อภาสกับคถณแม่พัสอ่ะ!! ไอ้คนที่อดีตมันเคยเป็นว่าที่เมีย(?)ของเขาไง!! ไม่ว่าจะให้มองกี่ร้อย
กี่พันครั้ง ไอ้หน้าหล่อหัวสีสายไหมใส่เสื้อหนังแก้วลายทหารเท่ๆ ดูแบดๆตรงหน้าเขานี้มันก็คือ ภีม พีรภัทร
อัครจินดากรณ์นั่นแหละ!!!!....โอ๊ย!!...แล้วเขาจะมามัวคิดวกไปวนมาให้มันปวดหัวทำไมว๊ะเนี่ย!!!! โว้ยยยย...

       "สวัสดีครับ... ผมชื่อ ภีม ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครถึงได้มาเคาะกระจกรถเรียกผมอย่างนี้คุณมีธุระอะไร
กับผมหรือเปล่า?" ภีมเลิกคิ้วเอียงคอถามด้วยสีหน้าที่เจ้านายเห็นแล้วไม่คิดว่าไอ้คนตรงหน้านี้มันจะทำท่า
กวนเบื้องล่างเขาได้ขนาดนี้มาก่อนเลยตั้งแต่จำความได้....ให้ตายเถอะ!!!

       "อะไร!! นายกำลังเล่นบ้าอะไรอยู่เนี่ย!!!" เจ้านายโวยใส่คนตรงหน้าอย่างหัวเสียที่มันกวนประสาททำ
เหมือนไม่รู้จักเขาอย่างนี้

       "เล่น? เล่นอะไรหรือครับ...ตอนที่ผมเข้ามาผมก็สมัครสมาชิกจ่ายค่าสนามตามที่กฏกำหนดนี่ครับ
แล้วที่ผมต้องนั่งอยู่ในรถก็เพราะว่าผมกำลังมองหาคนที่น่าสนใจที่ผมอยากจะแข่งด้วยเท่านั้นเอง นี่ผมไปเล่นอะไรกับใครตั้งแต่ตอนไหนกันครับ?" ไอ้หัวสีสายไหม(?)ที่เจ้านายว่ายังคงตีหน้าซื่อถามต่อ

       "แล้วได้รึยังล๊ะ? คู่แข่งที่นายว่าน่ะ...รีบๆ แข่งเข้าสิจะได้รีบๆออกไปจากสนามฉันสักที!!!" เออสิ!! เอ็งมึน
ได้พี่นายคนแมนก็มึนได้เหมือนกันว๊ะ!! จะไล่มันก็ไม่ได้ เดี๋ยวเสียการปกครอง จะทำว่ารู้จะมันต่อก็ไม่ได้
แมร่งก็ทำมึนไม่รู้จักกู.....หน้าแตกสิกู!!!

       "ผมได้ข่าวว่าเจ้าของสนามที่นี่เจ๋ง คุณพอจะรู้จักเขาไหมครับ....ผมอยากท้าแข่งกับเขา" ภีมพูดนิ่งๆ
ด้วยคำพูดสุภาพที่ตนติดปากมาตั้งแต่เด็ก แต่หน้าตาและท่าทางที่กำลังยืนพิงรถสูบบุหรี่ของเจ้าตัวนี่เริ่ม
ไปกระตุกตากระตุกเท้าของใครหลายๆคนเข้าแล้วหล่ะ

       "มันจะมั่นใจมากไปรึเปล่าไอ้น้องเฮียนายเขาไม่แข่งกับพวกเด็กใหม่ปลายแถวอย่างเอ็งหรอก" กล้าที่
ยืนอยู่ข้างเฮียเจ้านายของตัวเองเป็นคนพูดบอกกับภีมแทนเจ้านายที่ตกใจอ้าปากค้างไปแล้ว

       "หืม...จริงหรือครับ? ไม่ใช่ว่าเขาฝีมือ 'ห่วย' จนไม่กล้าลงแข่งกับใครหรือเปล่าครับ" ภีมยังคงพูดยียวน
เพื่อปั่นประสาทของเจ้านายต่อไปอย่างไม่สนสายตาคนรอบข้างตัวเองที่เริ่มจะชักสีหน้าใส่อย่าง
ไม่พอใจที่ภีมไปพูดดูถูกเฮียนายที่เป็นที่เคารพรักของน้องๆนักแข่งทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่ทุกคนในที่นี้

       "เฮ้ย!! มันจะมากไปแล้วนะโว้ย!!!" กล้าพูดตะคอกพร้อมกับพุ่งตัวกระโจนใส่ภีม แต่ก็เป็นอันต้อง
หยุดนิ่งเพราะ

       กริ๊ก!!!

       "เอาสิครับ..." ภีมควักปืนพกสั้นสีดำด้านที่แหน็บอยู่ด้านหลังของตนขึ้นมาจ่อตรงกลางหน้าผากของกล้า
ทันทีที่กล้าพุ่งเข้าหาตัวเอง ทำเอาฝูงชนที่เคยยืนมุงอยู่ต่างก็ฮือฮาพากันแตกกระเจิงเมื่อได้เห็นสิ่งที่อยู่ในมือของภีม.....ถึงน้ำเสียงและคำพูดของภีมจะสุภาพมากสักแค่ไหน แต่แววตาและการกระทำของเจ้าตัวไม่ได้สุภาพอย่าง
ที่พูดออกมาเลย




.......จากนี้ต่อไป...จะไม่มีอีกแล้ว...น้องภีมคนที่น่ารักอ่อนหวานของพี่เจ้านายคนเดิม......






___________________________________________________________________TBC.

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
อูย ... น้องภีมมาภาคโหด แบบนี้พี่เจ้านายจะยังไงดีครับ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
แผนของพ่อกับภีมคืออะไรล่ะ
แค่เข้าไปคุยกันให้รู้เรื่องทุกอย่างก็เรียบร้อยไปแล้วมะ

ออฟไลน์ omyim_jjj

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2

ออฟไลน์ nuwi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
ชวนทะเลาะกันใส่อารมณ์พูดความจริงกันยังจะดีกว่าทำเป็นแง่งอนกันเสียอีกนะ น้องภีม 
   รออ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6
ภีมกับเจ้านายไร้เหตุผลมาก นายไม่เคยจะฟังใครอธิบาย. ภีมไม่คิดจะอธิบาย ต่อให้เป็นคนที่รักกันจริงๆ ในชีวิตจริงมันไปกันไม่รอดหรอก

ถึงจะเปลี้ยนตัวเองแต่ถ้าไร้เหตุผลยังไงก็เลิกปะ?

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
เอาเป็นว่าถ้าคนอ่านที่นี่ไม่ชอบในสิ่งที่มี่แต่งที่มี่เสนอ ในส่วนของตัวละครและการดำเนินเรื่องในนิยายเรื่องนี้
เฉพาะในเล้าเป็นนี้มี่จะตัดจบให้ภีมคุยกับเจ้านายและคืนดีกัน เข้าใจกัน ในตอนหน้าเลยแล้วกันเน๊าะ ดีมั้ยคะ? หรือจะเอายังไง?
มี่จะตามใจคนอ่านที่น่ารักของมี่ทุกคนเลยค่ะ!!!!

      เพราะสิ่งที่มี่เขียนมี่แต่งขึ้นมามันดูงี่เง้าไร้สาระเกินไปจนคนอ่านรับไม่ได้ เขาก็มารวบตึงเขียนบทสรุปให้มันจบไป.
อย่างนี้กันเลยดีกว่าเน๊าะ

       ถ้าใครเป็นแฟนนิยายของมี่มาตั้งแต่คุณเมียภาคบังคับคงจะรู้กันดีเน๊าะว่ามี่เป็นยังไง บางทีมันหมดแรง หมดใจที่จะแต่งต่อ
แล้วหล่ะค่ะ

      ทุกคนย่อมมีเหตุผลและความคิดที่แต่งต่างกัน เช่นเดียวกับนิยายทุกๆตอนทุกๆเรื่องที่มี่แต่งขั้นมา
มันก็มาจากความคิดและจินตนาการของมี่คนเดียวทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นถ้าใครไม่ชอบหรือไม่ถูกใจใครมี่ก็ต้องขอโทษไว้
ณ ที่นี้เลยนะคะ.....มี่มี่

ปล.มี่ยังยืนยันคำเดิมว่ามี่ยังคงแคร์คนอ่านของมี่ทุกคน ใครที่ตามมาจากคุณเมียภาคบังคับหรือใครที่มาใหม่มี่ก็จำได้หมดแหละค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2016 16:28:52 โดย Mimzmie »

ออฟไลน์ minkey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ง่าาาาาา
ใจเย็นๆนะคะคุณมี่
กำลังใจและคนรออ่านต่อมีอีกเยอะค่า
แต่งตามพล็อต ตามที่จินตนาการไว้เหอะน้า
สู้ๆนะงับ

 :mew1: :L1:

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
24/02/59



ภาคเรียนที่หนึ่ง...บทที่สิบเอ็ด






       "ตกลง!! ถ้าจะแข่งกับฉันก็เอาปืนลงจากหัวลูกน้องฉันได้แล้ว.....ส่วนมึงก็เลิกยืนโง่และเข้าไปเอารถ
ที่บ้านมาให้กูหน่อยดิไอ้กล้า!!!" เจ้านายยอมตกปากรับคำท้าของภีมในที่สุด เมื่อมองเห็นถึงแววตา
ที่ไร้ความปราณีของภีมที่ดูแตกต่างจากน้องภีมคนน่ารักคนเดิมของเขาอย่างสิ้นเชิง.....น่ากลัว...คำๆนี้
แล่นวิ่งขึ้นมาในสมองเขาอย่างไม่ทันจะได้รู้ตัว.....ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานี้ดูน่ากลัวจริงๆ

       "ขอบคุณครับ.....ผมรบกวนขอกระดาษสัญญาด้วยนะครับ" ภีมเก็บปืนเข้าไปเหน็บไว้ที่เดิมพร้อมกับ
พูดขอบคุณเจ้านายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ที่เจ้านายคิดว่ามันเป็นเหมือนรอยยิ้มปีศาจดีๆ นี่เอง ส่วนกล้าที่พอ
รอดตายแล้วก็รีบวิ่งไปเอารถคันเก่งที่มีไว้แข่งโดยเฉพาะของเจ้านายตามคำสั่งของลูกพี่ตัวเองทันที โดยไม่
ต้องรอให้เจ้านายพูดซ้ำเลย

       กระดาษสัญญาที่ภีมพูดถึง คือ แผ่นกระดาษที่จะระบุสัญญาจำพวกกฏกติกาและของเดิมพันหรือ
รางวัลในการแข่งขันของผู้เข้าแข่งทั้งสองฝ่าย เพื่อเป็นการป้องกันพวกนักแข่งที่คิดไม่ซื่อชอบผิดคำพูด
อะไรประมาณนั้นซึ่งก็อย่างที่รู้ๆ กันว่า ข้อตกลงในการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นของรางวัลหรือบทลงโทษก็ล้วน
มาจากความเห็นชอบของผู้แข่งทั้งสองฝ่ายเท่านั้น และจะต้องไม่ผิดกฏของสนามแข่งแห่งนี้ด้วย

       "ถ้าฉันชนะฉันของของเดิมพันเป็นรถที่นายเอามาแข่งวันนี้.....แล้วนายล่ะ?" เจ้านายลงรายมือชื่อพร้อม
กับเขียนระบุสิ่งที่ตนต้องการจากภีมลงในใบสัญญาเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเอ่ยถามภีมขึ้นบ้าง

       "เจ้านาย....สิ่งที่ผมต้องการคือเจ้านาย" ภีมพูดบอกพร้อมกับตวัดปากกาเขียนชื่อเล่นชื่อจริงพร้อม
นามสกุลของเจ้านายลงในใบสัญญา และลงลายมือชื่อของตัวเองทับอีกที เรียกเสียงฮือฮาจากคนรอบข้าง
ที่มาเป็นสักขีพยานในครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี ส่วนเจ้านายก็ตกใจตาค้างอ้าปากหวอไปแล้วเพราะไม่ทันได้คิด
ว่าภีมจะมาไม้นี้

       "ไม่มีทาง!!!" เจ้านายพูดโวยขึ้นทันทีเมื่อหายตกตะลึงและพอจะตั้งสติได้บ้างแล้ว

       "มีสิครับ...นี่ไงสัญญา....ผมจะไปรอที่จุดปล่อยตัวนะครับ เลิกป๊อดเมื่อไหร่ก็ตามไปนะครับ" ภีมพูดบอก
พร้อมฉีกยิ้มหวานให้เจ้านายอีกที ก่อนที่จะเก็บใบสัญญาใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง และเข้าไปในรถ
ของตนและสตาร์ทรถเหยียบคันเร่งผ่าฝูงชนคนมุงไปอย่างเร็วโดยที่ไม่กลัวว่าตนนั้นจะพลาดขับรถชนใครบ้าง
เลยหรือเปล่า

       "ป๊อด? เหอะ!!! เดี๋ยวรู้เลย...เดี๋ยวรู้!! ว่าคนอย่างพี่เจ้านายคนนี้ไม่เคยป๊อดเว้ย!!! ไอ้น้อง!!!"
เจ้านายตะโกนโหวกเหวกโวยวายไล่หลังภีมไปอย่างหัวเสียที่โดนภีมปรามาสไว้ ก่อนที่จะกระโดด
พุ่งขึ้นรถคันที่มีไว้ใช้ในการแข่งโดยเฉพาะที่ให้กล้าไปขับออกมาให้จากบ้านเมื่อครู่นี้ที่กล้านำมาจอด
เทียบรอไว้พอดี
.
.
.
.
.
       "ถ้าแพ้แล้วต้องเสียรถขึ้นมาก็อย่ามาร้องไห้ให้พี่เห็นนะไอ้น้อง" เจ้านายลดกระจกหน้าต่างรถของตัวเอง
ลงแล้วตะโกนพูดเย้ยแหย่ภีมที่จอดรถแทบในขณะที่รอให้พนักงานของสนามมาปล่อยรถกันอยู่
หวังจะให้ภีมเต้นตามคำพูดของตัวเองจนไม่เหลือสมาธิในการแข่งขันอีกต่อไป เขาจะได้ชนะแบบสวยๆ
สบายๆ หน่อย แต่อีกฝ่ายกลับนิ่งเงียบแถมยังยิ้มหวาน(ในแบบที่เขาใจสั่น)ส่งให้เขาอย่างไม่รู้สึกรู้สาอีก
กลายเป็นเขาซะเองที่ตอนนี้มันหัวใจเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งจนแทบจะไม่มีสมาธิเหลืออยู่เลย แต่ก็ต้องทำเป็น
เก๊กหน้าโหดหน้านิ่งเข้าไหว เดี๋ยวเขาจะหาว่าพี่นายคนแมนคนนี้อ่อนด๋อย!!.....ไม่ได้ๆ

       "เดี๋ยวก็รู้ครับว่าใครกันแน่ที่จะร้อง" ภีมพูดตอกกลับเจ้านายไปอย่างนิ่มๆ ก่อนที่ะจะปิดกระจกรถของตน
ปล่อยให้เจ้านายอ้าปากพะงาบๆ อยู่อย่างนั้นเอง เพราะกำลังจะพูดด่าภีมกลับ แต่ก็ไม่ทัน
เมื่อพนักงานสาวสวยนุ่งสั้นของสนามเดินลงมาประจำที่ยังจุดที่ปล่อยตัว

       เสียงเชียร์ดังกระหึ่มเมื่อสาวเจ้าทรงโตนุ่งสั้นเดินไปประจำที่ตรงจุดปล่อยตัวเพื่อที่จะทำการปล่อยรถคู่แข่ง
หยุดโลกระหว่างเฮียเจ้านายขาใหญ่ประจำสนามกับหนุ่มหัวสายไหมรุปหล่อทั้งสองคัน

      ธงคู่ลายตารางสีขาวดำในมือสาวสวยเจ้าหน้าที่โบกสะบัดและพัดลงในที่สุด ก่อนที่รถคู่แข่งทั้งสองคน
อย่างเจ้านายและภีมต่างก็ตั้งสมาธิ เร่งเครื่อง จดจ้องอยู่กับธงในมือสาวสวยนางนั้น เพื่อรอให้ถึง
เวลาที่จะเริ่มต้นใหม่ของเราทั้งสองคนสักที.....ไม่ว่าจะสถานะไหนก็ตาม!!!

" 3 "

" 2 "

" 1"

" Go!!!!!!!!!!! "

       เสียงประกาศของเครื่องปล่อยรถอัตโนมัติสิ้นสุดลงพร้อมกับธงลายตารางสีขาวดำในมือทั้ง
สองข้างของหญิงสาวทรงโตผู้ที่มีหน้าที่เป็นคนปล่อยรถทั้งสองคันโบกสะบัดฟาดทิ้งลงพื้นเพื่อเป็น
สัญญาณว่าสิ้นสุดการรอคอยพร้อมๆกับที่รถทั้งสองคันของภีมและเจ้านายเหยียบคันเร่งกระชากตัว
ออกจากจุดปล่อยตัวรถในทันทีด้วยความเร็วที่ไล่เลี่ยกันทำเอาคนดูทั้งที่อยู่ด้านล่างข้างสนามและ
บนอัศจรรย์ทั้งหญิงและชายพากันนั่งไม่ติิดที่ลุกขึ้นยืนตะโกนเชียร์เสียงดังลั่งไปทั้งสนาม

       "คิดจะเทียบชั้นกับพี่ยังเร็วไปร้อยปีนะ....เด็กน้อย" เจ้านายแสยะยิ้ม สับเปลี่ยนเกียร์อย่าง
ได้ใจเพราะรถของตอนนี้ตนกำลังวิ่งนำภีมอยู่ระยะห่างที่ไม่น้อยเลย.....งานนี้กินเขาได้หมูแน่ๆ
น้องน้อยผู้อ่อนหวานในวันหวานของเขาน่ะหรือจะมาชนะสิงห์สนามอย่างเขา โดยเฉพาะสนามแข่ง
แห่งนี้ที่เขาเป็นเจ้าของและเคยเหยียบลองเครื่องรถมาแล้วไม่รู้จักกี่ร้อยกี่พันรอบ.....เสร็จเขาแน่!!

       "อย่าพึ่งได้ใจไปสิครับ...พี่ชาย" ภีมหัวเราะในลำคออย่างนึกสนุกเมื่อเห็นว่ารถเจ้านายที่ตอนนี้
ขึ้นนำเขาเกือบรอบสนามกำลังลดความเร็วลง เหมือนว่ากำลังจะต่อให้เขาอย่างไงอย่างงั้น

       "ผมไมใช่หมูในอวยที่รอโดนเชือดหรอกนะครับ...หึๆ" สิ้นเสียงพูดของตัวเอง ภีมก็สับเปลี่ยนเกียร์
เร่งความเร็วรถไปเกือบจะจ่อท้ายเจ้านายที่กำลังจะถึงโค้งหักศอกสุดท้ายพอดี และเมื่อเห็นช่องว่างที่
เจ้านายเผลอเว้นช่วงเอาไว้เพราะความประมาท เจ้าตัวก็ใช้จังหวะนี้ดริฟเข้าโค้งตรงช่องว่างหักศอก
จนควันพวยพุ่งบังคับรถแซงเจ้านายเข้าเส้นชัยไปแบบที่เจ้านายคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

       "เฮ้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!" เรียกเอาเสียงเฮของผู้ชมคนดูได้ทั้งสนามเลยทีเดียว ไม่เว้น
แม้แต่พวกที่อยู่ข้างเดียวกับเจ้านายและเขม่นภีมเมื่อก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้นเมื่อสักพักที่ผ่านมา

       เอี๊ยดดดดดดด!!!!!

       "แมร่งโว้ยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!" เจ้านายเหยียบเบรคจนตัวโก่งเมื่อเห็นรถภีมวิ่งแซงรถ
ของตนเข้าเส้นชัยไปอย่างตกใจ....ก่อนที่จะตีอกชกหัวระบายอารมณ์กับพวงมาลัยรถของตัวเอง
อย่างควบคุมอารมณ์โมโหไม่อยู่...เป็นไปได้ยังไง!!! เขาแพ้เด็กหัวอ่อนอย่างภีมได้ยังไง!! โว้ยยย!!!

       ก๊อก...ก๊อก....

       "มาทำไม!! จะมาเยาะเย้ยกันหรอ!!!" เจ้านายเปิดประตูรถออกมาแหวใส่ภีมที่มาเคาะกระจก
รถเรียกตนอย่างถือวิสาสะ

       "เปล่าครับ...ผมแค่มาเอาของเดิมพันเท่านั้นเอง" ภีมบอกด้วยเสียงสุภาพ แต่แววตาที่ส่อออกมา
นั้นมันดูเจ้าเล่ห์มากที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาเลย.....น่าโมโหชะมัด!!!

       "เอาสิจะตบจะต่อยหรือจะซ้อมฉันยังไงก็เอาเลย.....ฉันพร้อมแล้ว" เจ้านายพูดบอกพลาง
หลับตาลงเพราะตอนนี้เขารู้สึกว่าไม่อยากจะเห็นหน้าของภีมมากถึงมกาที่สุด เพราะคิดว่าภีม
กำลังจะลงมือทำร้ายตน อย่างที่เคยแข่งกับคนอื่นๆ มาเพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นใครได้เขียน
ระบุลงในใบสัญญาว่าของเดิมพันคือตัวเขาที่ไรถ้าเขาชนะก็ดีไป แต่ถ้าเขาแพ้ก็เป็นอันต้องโดน
ซ้อมจนระบมทุกที.....และภีมเองก็คงจะทำเขาเหมืออย่างไอ้พวกนั้นสินะ!!!.....ช่างทำกันได้!!!

       "ถ้าจะเริ่มตั้งแต่ตอนนี้.....ก็คงจะได้แค่ขั้นแรกเท่านั้นแหละครับ" ทันทีที่จบประโยคคำพูด
แปลกๆของภีม เจ้านายก็ลืมตาขึ้นมาเพราะไม่เข้าใจในคำพูดของภีมพร้อมๆ กับที่ภีมก้มหน้าลง
กดจูบปากแนบปากของเจ้านายทันที ทำให้เจ้านายเบิกตาโพลงและพยายามดิ้นลนเพื่อที่จะผลัก
ภีมให้ออกห่างจากตัวเอง แต่ก็ไม่เป็นผล.....กลับกันเขาเผลอเผยอปากให้ภีมได้ถือโอกาศสอด
ลิ้นร้อนเข้าไปดูดดุนโกยความหอมหวานอย่างแนบชิดดูดดื่มมากกว่าเมื่อครู่นี้ซะอีก.....ทำเอา
ผู้ชมคนดูทั้งสนามเป่าปากโห่แซวกันอย่างสนุกสนาน

       "อื้อ!!!~.....นายทำบ้าอะไรเนี่ย!!!" เจ้านายพลักภีมออกจากตัวเองพร้อมกับตะคอกถามอย่าง
มีน้ำโห แต่ภีมก็ใช่จะสะดุ้งสะเทือนแต่อย่างใด แถมยังกระตุกยิ้มใส่เจ้านายอย่างไม่รู้สึกรู้สาถึง
อารมณ์คลุกรุ่นของอีกคนเลย.....ไอ้หน้ามึนเอ้ย!!!!

       "ก็กำลังเช็คของรางวัลยังไงล่ะครับ" ภีมตอบพลางจับหน้าลูบแก้มเจ้านายอย่างถือสิทธิ์ ไม่สน
หน้าง้ำงอของเจ้านายที่พยายามที่จะปัดมือของตนเลย

       "หมายความว่าไง!!!!" เจ้านายกระชากเสียงถามอย่างไม่เข้าใจ

       "ก็หมายความต่อจากนี้ไป...เจ้านายจะเป็นของผมแค่คนเดียวอย่างถาวรไป.....ชั่วชีวิต" ภีมพูด
บอกพร้อมกับชูแผ่นกระดาษที่เป็นสัญญาข้อตกลงระหว่างการแข่งขันของเขาทั้งสองคน ให้เจ้านาย
ได้เห็นอย่างชัดเจนเต็มๆ กับตาทั้งสองข้างของตนเอง

       "!!!" เจ้านายตกใจตาโตอ้าปากค้างไปแล้ว เมื่อได้เห็นสิ่งที่ภีมได้เขียนไว้เป็นของเดิมพันใน
กระดาษสัญญา.....( ของเดิมพันที่ต้องการ คือ 'เจ้านาย' นายชลธาร ยศวโยธิน เป็นของรางวัล
ระยะเวลาในการเดิมพัน.....'ตลอดชั่วชีวิต')






__________________________________________________________________________TBC.
ถ้าฉากที่แข่งรถมีอะไรผิดพลาดตรงไหนมี่ก็ต้องขอโทษไว้ ณ ที่นี้เลยนะคะ
เพราะมี่ไม่มีความรู้ทางด้านนี้เลยจริงๆค่ะ ถึงแม้ว่าจะชอบดูหนังแนวนี้ก็เถอะค่ะ
แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ!!!
ปล.ตอนนี้สั้นไปหน่อยนะคะ เอาไว้มี่จะชดเชยให้น้าาาา....

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
ง่าาาาาา
ใจเย็นๆนะคะคุณมี่
กำลังใจและคนรออ่านต่อมีอีกเยอะค่า
แต่งตามพล็อต ตามที่จินตนาการไว้เหอะน้า
สู้ๆนะงับ

 :mew1: :L1:

ขอคุณมากๆเลยนะคะสำหรับกำลังใจ มี่สัญญาว่าจะแต่งนิยายออกมาให้ดีเท่าที่มี่จะทำได้เลยนะคะ

ออฟไลน์ nuja

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ

ออฟไลน์ nuwi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะค่ะ

เจ้านายไม่รอดแน่หนูภีมเอาจิง 555
อยากอ่านฉากนั้นแล้ว คิๆๆ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เป็นคนหนึ่งที่แสดงความคิดเห็นว่า ทำไมไม่พูดคุยทำความเข้าใจกัน
ตามปกติเวลาดูละคร หรืออ่านนิยาย จากมุมมองของคนนอก ที่รู้(เกือบ)ทุกอย่าง รู้เรื่องของทั้งสองฝ่าย(จากที่คนเขียนสื่อ) ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความคิดเห็นแบบที่คิดว่าเป็นวิธีที่ดีและเร็วที่สุด
แต่เราลืมนึกไปว่าถ้าเราเป็นตัวละครนั้นๆ เราจะทำอย่างไร ในขอบเขตที่รู้เพียงส่วนของตัวเอง ต้องขอโทษคนเขียนด้วยนะคะ ถ้าสิ่งที่เราพิมพ์ไปก่อนหน้านี้ทำให้เสียความรู้สึก หรือหมดกำลังใจ
เราเพียงแค่ลืมนึกถึงสภาวะของตัวละครน่ะค่ะ ขอโทษอีกครั้งที่เอาความคิดในฐานะคนอ่านไปตัดสินตัวละครของคุณ
ไม่ได้คิดถึงขั้นว่าตัวละครงี่เง่าหรืออะไรหรอกนะคะ แล้วก็ไม่ได้คิดว่าเป็นนิยายที่ใช้ไม่ได้
จริงๆเราก็รอดูอยู่ ว่าคนเขียนต้องการจะดำเนินเรื่องไปในทางไหนต่อไป
สรุปว่า ขอโทษด้วยนะคะ(ที่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนเขียนเสียกำลังใจ) และรอติดตามตอนต่อไปอยู่นะคะ
สำหรับตอนที่สิบเอ็ดนี้ก็รู้สึกว่าทำได้ดี เหมือนว่าปัญหา(ในเรื่อง)จะมีหนทางให้เห็นว่าจะคลี่คลายไปได้
ให้กำลังใจคนเขียนค่ะ

ปล. การที่เราบอกว่าทำไมตัวละครไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ จริงๆแล้วสำหรับเรามันเป็นการแสดงความคิดเห็นที่เกิดจากการอ่านนิยายแล้วอินล้วนๆเลยค่ะ (แต่วันหลังจะระวังในเรื่องนี้ด้วยค่ะ)
ปล2. เรื่องราวของรุ่นลูกน่าติดตามมากค่ะ

ออฟไลน์ RAKDEK_KA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1798
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
ป๋าคุณอยู่ไม่สุขแล้วมั้งป่านนี้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด