ตอนที่ 7 ไม่ให้จีบ“ต้า มานั่งนี่” เสียงเรียบๆของพี่หมอพูดพร้อมกับมือหนาที่ตบลงบนเตียงนุ่มข้างๆที่ร่างสูงนั่งอยู่ ผมยอมลุกขึ้นไปนั่งดีๆ โดยไม่ต่อต้าน
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน” ผมเอียงคอพลางมองเข้าไปในดวงตาพี่หมอ ตานิ่ง หน้าก็นิ่ง นิ่งเสียจนผมไม่รู้ว่าพี่เขากำลังคิดอะไร ผมขยับตัวยุกยิก เลิกสนใจพี่หมอ
“ไม่คุย ต้าหิว” มือก็ลูบท้องไปด้วยบอกให้พี่หมอรู้ว่าผมหิวจริงๆ
“คุยก่อนครับ แป๊บเดียว”
“ไม่! ต้าหิว! หิว หิว หิว!!” ผมเบะปาก ท้องร้องดังโครกคราก
ได้ยินเสียงพี่หมอถอนหายใจเฮือกใหญ่เลยครับ ผมนึกว่าพี่หมอจะไปทำอะไรให้ผมกิน แต่ก็ไม่ใช่พี่หมอยังนั่งนิ่งเหมือนเดิม
“หิว...” ผมบอกเสียงอ่อย มองพี่หมอตาปริบๆ ตอนนี้ผมไม่กลัวพี่หมอแล้วครับ พี่เขาใจดีเหมือนเดิมแล้ว
“เฮ้ออ หิวนักก็ตามมา ให้ไวด้วย” ร่างสูงพูดพร้อมกับลุกขึ้นเดินดุ่มไปยังห้องครัวทันที ผมมองตาม ฉีกยิ้มกว้างก่อนจะรีบตามไป
“อยากกินอะไร?” พี่เขาถามโดยไม่หันมามองผม มัวแต่มองของในตู้เย็น มือก็หยิบๆจับๆ สารพัดอย่างในนั้น
“พิดซ่า เคเอฟซี ‘ติม ไก่ทอด เฟ้นฟายยย” ผมร่ายยาว ยิ่งพูดยิ่งอยากกิน น้ำลายสอเลย ผมยกมือขึ้นเช็ดน้ำลายที่ไหลออกจากมุมปากโดยไม่รู้ตัว มองแผ่นหลังกว้างๆอย่างมีหวัง
นี่ถ้าพี่หมอตามใจผม ยอมให้ผมกินทั้งหมดที่ผมพูดไป ผมจะรักพี่หมอมากๆเลย
ปั้งงง!!
เสียงตู้เย็นถูกปิดดังปัง พี่หมอหันมามองผมด้วยใบหน้าถมึงทึงเหมือนยักษ์! ยักษ์ตัวโตเหมือนที่วัด...วัดอะไรสักอย่างที่พ่อเคยพาไป ที่นั่นจะมียักษ์สองตัวถือกระบอง หน้าเหี้ยมๆยืนเฝ้าอยู่ เหมือนพี่หมอตอนนี้เปี๊ยบ! ผมกลืนน้ำลายดังเอื้อก กลัวพี่หมอกลายร่าง
“เรื่องมากดีนัก แดกไข่เจียวไปแล้วกันมึง” ผมเบ้หน้ากับเมนูไข่
พูดจบพี่หมอก็หันไปหยิบกระทะมาตั้งไฟ ตอกไข่ใส่ถ้วย ผมมองพี่หมอ หน้าที่เคยเบ้ค่อยๆยิ้มออก
“พี่หมอ!”
“อะไร” ผมรีบไถลตัวเข้าไปยืนข้างๆ มองถ้วยที่ใส่ไข่เอาไว้ตาเป็นประกาย
“ต้าอยากตี”
เสียงทุ้มไม่ได้ตอบอะไรกลับมา แต่มือหนาเลื่อนถ้วยนั้นมาไว้ตรงหน้าผมแทน ผมยิ้มกว้างรีบกำซ้อมแล้วตีๆ ตีไข่ในนั้นจนไข่แดงแตกกระจายรวมกับไข่ขาว
ฮี่ๆ สนุก
“เบาหน่อยๆ อย่าตีแรงแบบนั้น เดี๋ยวห..... ไอ้ต้า!!!” พี่หมอชะงักถ้อยคำที่กำลังพูดแล้วเรียกชื่อผมเสียงดังทันทีที่ผมทำไข่ในถ้วยกระฉอกหกเลอะข้างนอก ซ้ำร้ายถ้วยที่วางบนเคาท์เตอร์อย่างหมิ่นเหม่ยังตกลงพื้นแตกกระจาย!
“ค..ครับ” ผมกำซ้อมในมือก้มหน้างุดไม่กล้าสบตา
“มึงออกไปเลย ออกไปไกลๆก่อนที่จะโดนตี” ผมเดินไหล่ตกหางลู่หูลู่ออกจากห้องครัวเดินไปนั่งรอที่โต๊ะกินข้าวที่เดิมกับที่ผมนั่งกินข้าวมื้อเช้า
ผมไม่ได้ตั้งใจนะ ผมแค่อยากช่วย ผมเคยช่วยแม่ตีไข่ด้วย แม่ยังชมเลยว่าผมเก่ง ก็ผมอยากได้คำชมจากพี่หมอนี่ ใครจะไปคิดว่าจะโดนดุแทน
โครกกก!!
ผมแนบแก้มลงกับแขนสองข้างที่ยกขึ้นมาวางบนโต๊ะ ผมหิวอ่ะ หิวมากๆ!
ผมกวาดสายตามองไปรอบห้อง ก่อนจะสะดุดกับขนมปังในกระจาดที่วางอยู่กลางโต๊ะ มือที่กำลังจะเอื้อมไปหยิบพลันชะงักกลางอากาศ แล้วค่อยๆหดมือกลับมาวางที่เดิม นอนซบแขนมองขนมปังตาละห้อย
ไม่กล้ากิน กลัวพี่จิมดุ!
จมูกเริ่มได้กลิ่นหอมๆลอยมา กินไข่เจียว มันยิ่งยั่วความหิวมากกว่าเดิม อ๋อย.. แสบท้องไปหมดแล้ว
ผมอ้าปากกัดแขนตัวเอง กัดเบาๆ ไม่กัดแรง เดี๋ยวผมเจ็บ ก็ปากมันว่าง ขนมปังก็กินไม่ได้ ข้าวก็ยังไม่เสร็จ งั่มมม
“เล่นอะไรเป็นเด็ก กินๆเข้าไปซะ” ผมเงยหน้าขึ้นจากแขน ยกมือขึ้นลูบหัวเมื่อถูกมือหนาเขกเสียเต็มแรง กำลังจะส่งเสียงร้องโอ้ย แต่ต้องกลืนเสียงลงในลำคอเมื่อกลิ่นหอมๆมันเบนความสนใจไปยังอาหารที่ถูกยกมาวางตรงหน้าแทน
ไข่เจียวสีเหลืองฟูเต็มจานวางโปะบนข้าวจนมองไม่เห็นสีขาวๆของข้าวเลย เห็นแต่สีเหลืองๆฟูๆ น่ากิน.. พี่หมอทำอะไรก็น่าอร่อยไปหมด!
ผมกำช้อนในมือก่อนจะตักไข่ขึ้นมาเป่าๆ แล้วยัดใส่ปากคำโต
“หย่อยย” ยิ้มตาหยีส่งไปให้พี่หมอที่หย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“เคี้ยวให้หมดก่อนค่อยพูด” เสียงเข้มสั่งสำทับ ผมก้มหน้าก้มตากินไม่สนใจเสียงบ่นของคนแก่
พี่หมอดูเด็กกว่าแม่ผมเยอะ แต่ขี้บ่นยิ่งกว่าแม่ผมอีก ใช้ไม่ได้ๆ
“ต้ามาที่นี่ได้ไงครับ” ผมเงยหน้าขึ้นจากจานข้าว มองพี่หมองงๆ ที่อยู่ๆก็ถามคำถามอะไรก็ไม่รู้ ผมเคี้ยวข้าวไปเรื่อยๆไม่ได้ตอบ ก็พี่หมอบอกว่าเคี้ยวให้หมดก่อนค่อยพูด ผมยังเคี้ยวไม่หมด งั้นก็พูดไม่ได้ ผมเข้าใจถูกใช่มั้ยครับ? ฮ่ะๆ
“พี่ชื่ออะไรครับ?” ผมขมวดคิ้ว คำถามแรกยังไม่ได้ตอบ คำถามที่สองมาอีกแล้ว
“พี่หมอ” ผมรีบกลืนข้าวแล้วตอบทันที กลัวคำถามที่สามจะตามมาติดๆ
ผมฉีกยิ้มรอรับคำชมที่ตอบถูก พี่หมอชะงักไปนิดก่อนจะหน้าบึ้งเป็นยักษ์ตัวเขียว
“พี่หมอบ้านป้ามึงดิ กูชื่ออะไร?” เสียงทุ้มห้วนจัด นิ้วเคาะโต๊ะเป็นจังหวะหนักๆ ผมวางช้อนในมือแล้วมองหน้าพี่หมออีกครั้ง
นึกครับ ต้องใช้เวลานึก ชื่อพี่หมอ... เรียกแต่พี่หมอๆจนมันเคยชิน
“พี่....เซม” ผมตอบเสียงเบาด้วยความไม่มั่นใจ
“ดีมาก ครอบครัวต้ามีกี่คนครับ?” ผมยิ้มกว้างกับคำชมพลางยกนิ้วขึ้นมานับจำนวนคนในครอบครัว
“หนึ่ง.. สอง.. สาม.. สี่... สี่คนครับ! มีพ่อ มีแม่ มีเตอร์... เตอร์เป็นพี่ชายต้า ต้าเป็นน้องพี่วิคเตอร์ แต่ต้าไม่เรียกเตอร์ว่าวิค เพราะมีแต่คนเรียกเตอร์ว่าวิค ต้ามีพี่ชายคนเดียว รักมากด้วย พี่หมอถามทำไมครับ?”
ผมเอียงคอมองพี่หมอสายตาขุ่น ผมเริ่มไม่ชอบพี่หมอแล้วนะ
“ทำไมมองพี่แบบนั้น” คิ้วเข้มเลิกสูงมองหน้าผมด้วยความฉงน
“พี่หมอจะจีบเตอร์ใช่มั้ย!? ไม่เอา ต้าไม่ให้หรอกนะ!!” ผมกอดอกตัวเองแน่น มองพี่หมอเขม็ง
“แล้วถ้าพี่จะจีบล่ะ” ผมไม่ชอบรอยยิ้มพี่หมอตอนนี้เลย
“ไม่ให้! ตอนนี้เตอร์เป็นแฟนกับน้องพัดแล้ว พี่หมอห้ามจีบเตอร์ แค่น้องพัดคนเดียวเตอร์ก็ไม่เล่นกับต้าแล้ว ถ้าพี่หมอจีบเตอร์อีกคน เดี๋ยวต้าเป็นหมาหัวเน่า.. ฮึก! ไม่เอา.. ไม่ให้!! ฮือออออ” ผมยกมือขึ้นขยี้ตาแรงๆ อีกมือยื่นไปตรงหน้าพร้อมกับชูนิ้วโป้งให้พี่หมอ
“โป้งแล้ว ฮึก ไม่คุยด้วยแล้ว!” ผมเบะปากร้องไห้สะอื้นจนตัวสั่น แอบมองพี่หมอลอดหว่างนิ้วเห็นมือหนายกขึ้นเกาหัวแกรกๆ สีหน้าเหมือนคนทำอะไรไม่ถูก
“เว้ยย หยุดร้องๆ” ร่างสูงลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะเดินมายืนข้างๆผม มือหนาละล้าละลังคล้ายจะลูบหัวลูบหลังผมแต่ก็ไม่ได้ทำ
“ฮึก.. โป้งแล้ว!!” ผมหันตัวไปหาพี่หมอก่อนใช้เท้าเตะหน้าแข้งพี่หมอแรงๆ
“เฮ้ย! กูเจ็บนะ”
“ฮึก!” ผมสะดุ้งเมื่อมือหนายกเงื้อขึ้น ผมมองตามมือที่ยกสูงด้วยตาสั่นๆ
“ฮืออออออออออออออ!!” ผมระเบิดร้องไห้เสียงดัง พี่หมอจะตีผม จะตีผม!!
ไม่เล่นกับพี่หมอ ไม่ชอบพี่หมอแล้ว!!!
“โว้ย!!!” พี่หมอขยี้หัวตัวเองก่อนจะเดินลงส้นอย่างหัวเสียตรงไปที่ประตู มือหนายื่นออกไปเพื่อบิดลูกบิด ผมชะงักเสียงร้องไปชั่วครู่ก่อนจะเบ้ปากหนักขึ้นแล้วร้องไห้เสียงดังกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าพี่หมอกำลังจะทิ้งผม
“ฮือออออ!!!”
พี่หมอใจร้าย!
ผมไม่อยากอยู่คนเดียว!
ไม่ทันแล้ว.. ไม่ทันแล้ว พี่หมอเปิดประตูแล้ว เขากำลังจะไปแล้ว!
ผมรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ น้ำหูน้ำตาหยุดไหลทันที และวินาทีที่ผมกำลังจะถลาตัวเข้าไปจับแขนพี่หมอรั้งไม่ให้พี่เขาไปนั้น..
“เฮ้ย! ไอ้เหี้ยจิม มึงมาพอดีเลย ไอ้สัส มึงไปโอ๋มันเลย กูไม่เอาแล้ว”
อ อะไร...
ผมเบรกขาตัวเองกะทันหันเมื่อหูได้ยินชื่อแสลงใจ
พี่จิมมา!!
จากที่เคยจะวิ่งไปที่หน้าประตู ขาผมเปลี่ยนทิศทางรีบวิ่งกลับเข้าครัว ผมนั่งขด ซ่อนตัวในซอกแคบๆระหว่างตู้เย็นกับเคาท์เตอร์ล้างจาน กัดปากตัวเองแน่น
ผมเผลอยกมือขึ้นลูบคอ มันไม่เจ็บแล้ว แต่ผม.. ยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้ ตอนที่มือใหญ่ๆของเขาบีบคอผม..
ไม่เอา.. ไม่เอาพี่จิม
“โอ๋เหี้ยไรของมึง แล้วนี่จะไปไหน?” เสียงทุ้มราบเรียบที่ผมจำได้ว่านั่นเป็นเสียงพี่จิมดังอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ผมยิ่งเขยิบตัวแนบกำแพงมากกว่าเดิม
“โอ๋เมียมึงไง ไหนๆมึงก็มาแล้ว กูกลับบ้านกูเลยแล้วกัน” ผมอยากออกไปห้ามพี่หมอ ไม่อยากให้พี่เขากลับ อย่างน้อยถ้าพี่หมออยู่ พี่หมอคงช่วยผมได้
“ไม่ต้องเลย อยู่กับกูก่อน แล้วมันไปไหน?” เสียงพี่จิมเหมือนจะไกลออกไป ผมกอดขาตัวเองแน่นกว่าเดิมที่พี่จิมถามถึงผม
ถ้าผมหูไม่ฝาด ผมได้ยินเหมือนเสียงเปิดประตู ผมเบิกตาโต พี่จิมกำลังจะเข้าห้อง!
ต้องเห็น ..ต้องเห็นแน่ๆ!!
“อ้าว เมื่อกี้มันยังนั่งกินข้าวอยู่เลย หายไปไหนวะ” ผมอยากออกไปหาพี่หมอ แต่ไม่อยากเจอพี่จิม
ผมเริ่มจะไม่ได้ยินบทสนทนาของพวกเขา ทุกอย่างเงียบมาก เงียบจนน่ากลัว
ปั้งง!!
“ไอ้ต้า!!!!!” ผมสะดุ้งเฮือกทันทีที่เสียงเข้มของพี่จิมตะโกนชื่อผมลั่นห้องพร้อมกับเสียงประตูที่ถูกกระชากเปิดจนบานประตูกระแทกกำแพงอย่างแรง!
หัวใจผมเต้นรัว เหงื่อซึมออกมาตามไรผม
“ไอ้ต้า! มึงอยู่ไหน ออกมาเดี๋ยวนี้!!” ผมยิ่งขดตัวในซอกแคบๆมากกว่าเดิม แม้ไม่ได้เห็นสีหน้าของเขาแต่ผมก็รู้ว่าเขาต้องโกรธผมมากแน่ๆ
“ไอ้ต้า มึงออกมาเดี๋ยวนี้!” ผมได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ คล้ายจะเดินตรงมาที่ที่ผมซ่อนอยู่ ผมลอกแล่ก มองซ้ายทีขวาทีอย่างหวาดระแวง ใจผมเต้นกระหน่ำ เผลอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว
“ไอ้สัสจิม อยู่กันแค่นี้มึงจะเสียงดังหาอะไร หนวกหูเว้ย แล้วทำไมมึงกลับเร็ววะ ไหนว่าวันนี้จะกลับตอนห้าโมง” เสียงพี่หมอ ผมจำได้
ถึงผมจะมองไม่เห็นพี่จิม แต่ผมกลับรู้สึกถึงสายตาทิ่มแทงที่อยากจะฆ่าผมให้ตาย ผมรู้สึกหนาวเยือกไปตามไขสันหลัง
“เอ้า กูถามไม่เสือกตอบ”
“มึงเป็นเหี้ยไร ร้อยวันพันปีไม่เห็นเคยอยากรู้เรื่องส่วนตัวกู หรือมึงกำลังจะปกป้องมัน?”
“เปล่า กูมีเรื่องจะบอกมึง เกี่ยวกับเด็กนั่น”
“อะไร?”
ผมไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆที่เดินตรงมานี้แล้ว ผมวางมือลงตรงหน้าอกด้านซ้าย หัวใจผมยังเต้นรัวอยู่เลย
“กูขอมึงอย่างเดียว อย่าทำอะไรมัน”
พี่หมอ.. กำลังช่วยผม
“ติดใจมันหรือไงถึงได้กางปีกปกป้องมันขนาดนั้น วันนี้ตอนที่กูไม่อยู่เอากับมันไปกี่รอบแล้วล่ะ หึ”
ผมค่อยๆชะโงกหน้าออกไปดู เห็นแผ่นหลังพี่หมอและหน้าพี่จิมครึ่งหน้า
“ไอ้สัส คิดเหี้ยไร กูกำลังสงสัยว่าไอ้ต้ามัน..”
Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
เสียงเพลงที่ไม่คุ้นหูดังขึ้น พี่หมอหยิบมือถือขึ้นมา เขากดตัดสายก่อนจะยัดมันลงกางเกงเหมือนเดิม
Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
เพลงๆเดิมดังขึ้นอีกครั้ง พี่หมอทำหน้าเซ็ง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก่อนที่จะกดตัดสายพี่จิมก็พูดขัดเสียงห้วน
“รับซะ เดี๋ยวแม่งก็โทรมาอีก รำคาญ”
เฮือก! ผมเบิกตาโตรีบหดหัวกลับเข้าซอกตามเดิม เมื่อกี้... เมื่อกี้... พี่จิมหันมาพอดี เขาเห็นผม! เขารู้แล้วว่าผมอยู่ตรงนี้!!
“มึงหาเรื่องให้กูอีกแล้วนะไอ้แซม อยู่เฉยๆไม่เป็นมั่งเหรอวะ เออๆๆ เดี๋ยวกูรีบไป สัส! หุบปาก อย่าพูดมาก!” เสียงพี่หมอที่กำลังคุยโทรศัพท์ ผมได้ยินชัดเจนทุกคำ
หมายความว่าไง??
พี่หมอ กำลังจะกลับเหรอ!?
ผมยิ่งลนลานหนักกว่าเก่า มือไม้เย็นเชียบ..
ไม่เอา! ไม่ให้พี่หมอกลับ...
ผมออกจากที่ซ่อนตัวแล้ววิ่งไปหาพี่หมอ สองมือจับแขนพี่หมอแล้วกอดไว้แน่น
“ไม่ให้ไป!” ผมพูดพร้อมกับบีบแขนหนา
“พี่มีธุระ” มือที่กำลังลูบหัวผมไม่ได้ทำให้ผมอุ่นใจขึ้นเลย ผมสะดุ้งเมื่อเผลอหันไปสบตากับพี่จิม ตาเขาดุกว่าที่เคย ผมขยับตัวไปหลบอยู่หลังพี่หมอ ใช้เป็นเกราะกำบังผมจากสายตาคมๆคู่นั้น
“มึงจะไปก็รีบไป” ผมผวาจับแขนพี่หมอแน่นกว่าเดิม ไม่เอา.. ไม่ให้ไป!
“อย่าทำอะไรมัน” เสียงพี่หมอราบเรียบติดเย็นชา
“หึ” พี่จิมตอบรับเพียงแค่นั้น มือหนาโฉบมาคว้ามือผมก่อนกระชากเข้าหาตัว ผมนิ่วหน้า เจ็บแขน..
“ไอ้เหี้ย เบาๆหน่อย มึงไม่เห็นเหรอไงว่าน้องมันเจ็บ” ผมมองพี่หมอน้ำตาคลอ พยายามแกะมือพี่จิมออก ยิ่งผมดิ้นเขาก็ยิ่งบีบแขนผมแรงขึ้น
“เหอะ! ได้กันท่าไหนล่ะ ถึงได้หลงมันขนาดนั้น!” เสียงห้วนดุ ผมนิ่วหน้าเมื่อเล็บเขาจิกลงเนื้อผม ผมกัดปากตัวเองแน่นก่อนจะกัดต้นแขนแกร่งสุดแรง!
“ไอ้สัส!!” เสียงทุ้มตวาดลั่น มือหนากระชากหัวผมก่อนจะเหวี่ยงลงพื้น! คางผมกระแทกพื้นอย่างแรงจนฟันกระทบกัน ผมเจ็บจนปากสั่นรู้สึกได้ถึงรสปร่าของเลือดที่อยู่ในปาก ผมรีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออกเร็วๆ
ยังไม่ทันที่ผมจะดันตัวลุกขึ้น มือหนาก็กระชากหัวผมอย่างแรงจนหน้าเชิดหงาย เล็บเขาจิกครูดกับหนังหัวจนผมแสบไปหมด ฮึก!..
“ไอ้เหี้ยจิม! ปล่อยมันเดี๋ยวนี้!” พี่หมอเข้ามาจับมือพี่จิมกระชากออก หัวผมกระตุกตามแรงดึง! ยิ่งพี่หมอดึงพี่จิมออก ความเจ็บบนหนังหัวยิ่งมากกว่าเดิม!
“ฮึก... ฮืออ ปล่อย... ฮือออ เจ็บ!!! ฮืออออ!” ไม่ไหวแล้ว! ผมระเบิดเสียงร้อง มือข้างหนึ่งจิกบนหลังมือหนาพยายามดึงมือเขาให้หลุด มืออีกข้างกำแน่นก่อนจะทุบแรงๆตรงขาเขาอย่างบ้าคลั่ง เจ็บ.. เจ็บ! ผมเจ็บ!!!
ทำไมต้องโกรธผมขนาดนี้! ฮึก.. ใจร้าย!!! ผม.. ม.. ไม่เคยถูกทำแบบนี้มาก่อน ไม่เคยถูกกระชากหัว ไม่เคยเจ็บขนาดนี้.. ผม อยากกลับบ้าน!!
“ไอ้จิม กูขอ ปล่อยมัน”
พี่จิมยิ่งจิกหัวผมแรงกว่าเดิมแล้วยกตัวผมขึ้นจากพื้นทันทีที่พี่หมอพูดจบราวจะบอกให้รู้ว่าเขาไม่มีวันทำตาม! ผมฝืนกายขึ้นยืนตามแรงดึง รอยยิ้มของพี่จิมทำให้ผมหนาวไปทั้งร่าง
ผมเบิกตากว้างเมื่อเหลือบเห็นมือหนาอีกข้างยกเงื้อสูงจะตบหน้าผม!! รู้ว่าต้องหลบ.. แต่.. ผมกลัว.. กลัวจนไม่กล้าขยับตัว!!
“ไอ้จิม!!! หยุด!!!” เสียงของพี่หมอดังเล็ดเข้ามาในโสตประสาท ตัวผมถูกผลักไปข้างหลัง โดยมีพี่หมอเข้าแทรกยืนบังผมเต็มตัวแล้วสวนหมัดเข้าหน้าพี่จิมเต็มแรง!
ผมเบิกตาค้างมองการกระทำนั้น หน้าพี่จิมสะบัดหันตามแรงกระแทก มือหนายกขึ้นเช็ดเลือดบนมุมปากก่อนจะแสยะยิ้มแล้วตวัดสายตามองมาที่ผมอย่างขุ่นเคือง มือผมกำชายเสื้อพี่หมอแน่นโดยอัตโนมัติแล้วเลื่อนตัวไปยืนหลบอยู่ด้านหลังเขาโดยยึดแผ่นหลังกว้างเป็นเกราะกำบัง
“หายบ้าหรือยัง!? น้องมันไม่ได้ตั้งใจ มันไม่รู้ มึงเข้าใจบ้างสิวะ!!” พี่หมอตวาดเสียงดัง แล้วเลื่อนมือมากุมมือผมที่จับชายเสื้อเขาไว้
ความอบอุ่นแล่นวาบไปทั่วร่าง น้ำร้อนๆรื้นที่ขอบตาก่อนจะไหลลงมาอย่างดีใจ ..ดีใจที่มีคนกำลังปกป้องผม ผมไม่ได้อยู่คนเดียว
“เหอะ! เรื่องของกู มึงจะไปไหนก็รีบไป อย่าเสือก!”
ไม่เอา.. ไม่ให้ไป! มือผมจิกลงบนมืออุ่นข้างนั้นอย่างแรง
Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
ริงโทนเพลงเดิมของโทรศัพท์เครื่องเดิมดังขึ้น พี่หมอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก่อนจะกดรับสาย
“เออ เดี๋ยวกูรีบไป”
ไม่ให้ไป!!!!!!
ตัวผมสั่นทันที สองมือตะครุบแขนเขาไว้ พี่หมอหันมามอง ผมส่ายหน้าทั้งน้ำตา ผมเห็นนัยน์ตาพี่หมอไหววูบ
เขากำลังจะใจอ่อนไม่ไปแล้วใช่มั้ย!?
“ไปกับกู” ผมรีบพยักหน้ารัวทันทีแม้ว่านั่นจะไม่ใช่คำถาม
_______________________________________
TALK :: พี่จิมกลับมามีบทบาทซะที 555
หายค้าง หายสงสัยกันบ้างมั้ย? ฮา
คืนนี้ราตรีสวัสดิ์ ฝันดีน้าาา พบกันใหม่ในตอนหน้าค่ะ