ตอนที่ 18 :: ยิ้มให้กับตัวเอง , ไอติม , ปรากฎตัวอีกครั้ง
เช้านี้ทุก ๆ อย่างเคลื่อนไหวได้ช้าลง กี่ครั้งแล้วที่หลับทั้งน้ำตา ควรจะเริ่มเข้าใจบ้างแล้วไม่ใช่หรอ สิ่งที่มันผ่านมาก็ผ่านไป
คนที่ผ่านเข้ามาถ้ามันใช่มันก็คงไม่ไปไหน แต่ถ้าไม่ใช่พยายามแค่ไหนก็รั้งไว้ไม่อยู่ ไม่ใช่ไม่เคยมีแฟน มีมากไม่น้อยแล้ว
ก็เจอแต่แบบเดิม ๆ แล้วจะมัวไปใส่ใจทำไม ? ว่าแล้วผมก็ลุกไปยืนอยู่หน้ากระจก ผมยังคุยกับตัวเองอยู่อย่างงั้น
ใครวะ ? ทำไมมันโทรมแบบนี้ รอยยิ้มที่เคยมีบนหน้านี้มันหายไปไหน เสียงหัวเราะบ้าบอที่เคยเป็น ดวงตาที่มักมีแววเจ้าเล่ห์ของเราหล่ะ
แล้วตอนนี้ ใครมายยืนแทนที่มึง ควายที่ไหนที่มายืมซึมกระทืออยู่แทนที่มึง ตาที่มีแต่ความเศร้า ใบหน้าที่เหมือนกับอ่อนล้า ร่างกายที่เหมือนกับ
จะทรงตัวไม่อยู่ มึงให้คนแบบนี้มาแทนที่มึงได้ไง ว่าแล้วผมก็เริ่มยิ้มถึงแม้ไม่กว้างมากนัก แต่ตาผมก็แทบปิด
เวลาในแต่ละวันที่ผมเอาไว้ใช้ในการเอาใจใครสักคนมันหายไป
ทำให้ผมได้เวลาที่ใช้ในการดูแลตัวเองกลับคืนมา ว่าแล้วผมก็ไปอาบน้ำ ขัดผม หมักผม ทำสารพัดสารเพ ไม่ใช่ว่ารักสวยรักงามมาจากไหน
เพียงแค่อยากทำอะไรที่ ทำให้รู้สึกว่าได้ทำเพื่อตัวเองบ้าง วันนี้ทั้งวัน ใช้เวลาในการทำเพื่อตัว ทั้งอยากกินของที่อยากกิน
ซื้อนู่นซื้อนี้ ตามประสา อะไรอยากได้ผมก็ซื้อ หนังสือ อีกบาน ขนมหวานอีกตรึม การ์ตูนอีก เยอะแยะ เสื้อผ้า กางเกง
นาฬิกาข้อมือ ผมซื้อหมด เงินหล่ะจากไหน จากที่ผมเคยเก็บไว้ว่าจะเอาไปเที่ยวกะพี่เอนั่นแหละ วันนี้โดนมองเยอะมาก
อาจจะเพราะผมร่าเริงผิดปกติ รึรอยยิ้มผมอาจจะไป ถูกใจใครเข้าหล่ะมั๊ง (หลงตัวเองนิดนึง มั๊ง 55)
ก็มีเหตุเล็กน้อย ที่ร้านหนังสือ
( อ๊ะ ! ออกตอนไหนเนี่ย ) ผมเดินดูหนังสือปรากฎว่า ไปเจอหนังสือของคนเขียนคนนึงที่ผมชอบพอดี
( เงินจะพอป่าวเนี่ย วันนี้ซื้อไปเยอะแล้วอ่ะ ) ผมเปิดกระเป๋าตัง แล้วคิ้วผมก็ขมวดเข้าหัวกัน พร้อมในมือถือหนังสืออยู่อีกห้าเล่ม
(เอาไงดีหว่า ถ้าเอาหมดเลยก็พอ แต่ถ้าเอาไปทีละนิดหล่ะ )ผมกำลัง ยืนหน้ามุ่ยอยู่กับหนังสือห้าเล่มที่ผมไม่รู้ว่าจะเอาไปทั้งหมด รึ ทะยอยซื้อดี
( เอาวะ ) ว่าแล้วผมก็หยิบไปกองหน้าเคาท์เตอร์ แล้วก็เจอกับพนักงานพาร์ทไทม์คนนึง (น่ารักดีแหะ หึหึ ผมก็แค่คิดไปงั้น ๆ แหละครับ)
" อ่านหมดหรอครับเนี่ย " พนักงานคนนั้น ถามผมขณะที่กำลัง สแกนบาร์โค้ด คิดเงินให้ผม
" . . . " อ่านหมดไม่หมดเกี่ยวรัยด้วยหว่า ? ผมคิดอยู่ในใจ แต่ผมก็ยังเงียบต่อ
" ทั้งหมด 7xx ครับ " พนักงานคนนั้นบอกผม
" ครับ " ว่าแล้วผมก็ยื่นเงินให้เค้า
" น้องมีแฟนยังครับ ? " เค้าไม่ได้มองหน้าผม แต่ก็ถามผมออกมาดื้อ ๆ
" ไม่มีครับพึ่งเลิกไป " ผมตอบไป (แอบสะกิดแผลนิดนึงแต่ผมก็ไม่อะไรแล้วหล่ะ)
" อีกแปปผมจะเลิกงาน จะรังเกียจมั๊ยถ้าผมจะชวนไปทานไอติมด้วยกันสักหน่อย " เค้าก็ถามกลับมาอีก
(เอาไงดีวะกู มันรุกมางี้กูจะเล่นกับมันดีป่ะเนี่ย ) ผมคิดในใจ แล้วผมก็ได้คำตอบของผมแล้ว
" อื้มครับ ได้ วันนี้ผมว่าง ๆ " ผมตอบตกลงพร้อมกับยิ้มจนตาปิดเลยครับ(จริงๆ ปลื้มนิดนึงมีคนมาเรียกว่าน้อง)
"ครับ งั้นรอพี่ 15 นาทีนะครับ อ่ะนี่เงินทอนครับ " พนักงานคนนั้นทอนเงินให้ผม ผมก็รับแล้วก็เดินออกไปยืนรอแถว ๆ นั้นแหละ
" รอนานป่าว ? " เขามาแล้วครับ
" ไม่รู้ครับผมไม่ได้จับเวลา เพราะมัวแต่ดูหนังสือ " ผมพูดพร้อมกับเอามือเกาหัว แกร่ก ๆ แก้เขิน
(ไม่ให้เขินได้ไง น่ารักชิบหาย คนอะไรคิ้วเข้มดีมาก หน้าคม ปากเข้ารูป)
" ป่ะครับ ไปทานไอติมกัน " เขาพูดแล้วก้จับมือผมเดินตรงไป ณ ร้านไอติม ที่น่าจะรู้ว่าร้านอะไรที่มันอยู่ในห้าง แล้วชื่อขึ้นต้นด้วยตัว S
( ผมตอนนี้ก็เอ๋อ ไปแล้วครับ พึ่งเคยเจอคนที่เจอกันครั้งแรกแล้วมาจับมือเราเดินแบบนี้ ) ผมคิดอยู่ในใจ
ถึงร้านแล้ว เขาก็พาผมไปนั่งตรงซอกหลืบของร้าน (มันหลืบจริง ๆ นะ มองจากหน้าร้านแล้วมองไม่เห็นอ่ะ)
" สั่งเลยนะครับผมเป็นเจ้ามือเอง " เขาพูดพร้อมกับยิ้มให้ผม
" ครับ ^^ " ว่าแล้วผมก็สั่งไป อะไรซักอย่าง แต่มันถูกสุดนั่นแหละ
เมื่อสั่งเสร็จแล้ว เขาก็ถามผมใหญ่เลยหล่ะ
" น้องชื่อรัยอ่ะครับ " เข้าถาม
"ฟ๊อกส์ครับ แล้วพี่อ่ะ " ผมถามกลับไป
" คิกครับ " พี่เค้าตอบพร้อมยิ้มกลับมา
" คิกที่แปลว่าเตะหรอครับ ? " ผมถามกลับไป
" ใช่เลย " พี่คิกตอบกลับมา
" แล้วเราเรียนโรงเรียนไหนอ่ะ พี่อ่ะเรียน มข " พี่คิกถามกลับมาอีกแล้วครับ
"ผมก็มข.ครับ พี่คิกปีไหนแล้วอ่ะ ? " ผมตอบพร้อมกับถามกลับไปด้วย
" งั้นเราต้องเรียกนายว่าน้องแล้วหล่ะ 55 " ผมขำ ครับ
" อย่าบอกนะว่านายแก่กว่า " คิกครับทำหน้าตกใจอีกแล้ว
" อืม ครับน้องคิก พี่ปีสามแล้วครับ " ผมตอบพร้อมกับยิ้มให้น้องคิก
" ไม่เชื่ออ่ะ โกหกกันป่าว ? " มันยังทำเหมือนไม่เชื่อผม
" งั้นเอานี่ไปดู " ผมบอกพร้อมยื่นบัตรนักศึกษาให้มัน
" จริงด้วย " มันพูดแล้วก็ยิ้มพร้อมเกาหัว
" ครับ " ผมตอบแค่นั้น ว่าแล้วไอติมที่สั่งก็มาพอดี
" พี่ครับ ขอเบอร์หน่อยได้ป่ะ " น้องคิกพูดขั้นมาทำลายความเงียบ ทำเอาผมนึ่งไปพักนึงเลย
" เอาไปทำอะไรอ่ะครับ ? " ผมก็ถาม แล้วก็กินต่อ
" เอาไว้โทรไปปรึกษารุ่นพี่ไงครับ " มันพูดแล้วก็ยิ้ม
" อืม เอาโทรศัพท์มาดิ " ผมพูดขึ้นมา น้องคิกก็ยื่นโทรศัพท์มาอย่างว่าง่าย
" อ่ะ เมมเอานะ " ผมพูดเสร็จแล้วก็ก้มหน้าก้มตากินต่อไป
น้องคิกชวนผมคุยไปเรื่อย ๆ ผมก็รู้สึกเพลินดีนะ ว่าแล้วก็ถึงเวลาต้องกลับแล้วหล่ะ
" งั้นพี่กลับนะ " ผมว่าแล้วก็กำลังจะลุกขึ้น
" พี่กลับยังไงอ่ะ " มันถามผมครับ
" นั่งรถกลับ พี่ไม่ได้เอารถมาด้วย " ผมก็ตอบไป
" งั้นพี่กลับกะผมนะ ผมเอารถมาพอดี " มันพูดแล้วก็ยิ้มให้ผมอีกแล้ว
" อืม " ผมพูดแล้วก็ ไปยืนรอมันจ่ายตังอยู่หน้าร้าน
และแล้วผมก็กลับมาถึงหอผมแล้ว ก่อนที่ น้องคิกจะกลับก็บอกกับผมว่า
" เดี๋ยวผมโทรหานะครับ "
" อื้ม ๆ วันนี้ขอบใจมากนะ " ผมพุดขอบคุณมัน มันก็ยิ้มครับ ถึงจะเริ่มจำค่ำแล้วแต่ผมก็เห็นหน้ามันได้ชัด หน้ามันแดงพอสมควรเลย
" คร๊าฟ บ๊าย บายครับพี่ " มันพูดกับผม
" อื้ม บายครับ " ผมยิ้มให้มันอีกที ก่อนที่มันจะสตาร์ทรถ ออกไป
ตอนค่ำ เจ้าคิกก็โทรมา คุยอะไรต่อมิอะไรมากมาย จนผมคิดได้ว่า เหมือนไม่ได้คุยกับใครมานานหล่ะมั๊ง คุยซะผมหาช่องว่างที่จะแทรกคำพูดเข้าไปไม่ได้
ซักพักนึงก็มีสายเข้า
" คิกเดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะพี่มีสายเข้า " ผมพูดกับเจ้าคิกแล้วก็มองดูหมายเลขนั้น มันคุ้นตาจัง
" ฮัลโหล สวัสดีครับ " ผมตอบรับ ไป
" นั่นฟ๊อกส์ป่าวครับ ? " เข้าถามกลับมาครับ
" อื้ม ใช่ แล้วนั่นใครอ่ะ " ผมถามกลับไปครับ
" นันท์เอง "คนจากปลายสายตอบกลับมา ....
มาต่อแล้วนะครับ ^^ วันนี้เหนื่อย ๆ เลยมาลงช้า แต่ผมมาลงให้แล้วนะครับ ขอบคุณทุกกำลังใจและัทุกคอมเม้นท์เช่นเคย
มาตอบคำถามด้วย จริง ๆ แล้วผมเป็นพระเอกนะครับ แต่ว่า คงเพราะนิสัยส่วนตัว กับ โดนจีบ เลยทำให้ ภาพลักษณ์ของพระเอกหายไป 55
เรื่องราวใกล้จะจบแล้วนะครับ ไม่ทราบ ว่าจะรออ่านเรื่องต่อไปกันรึเปล่า แต่คงเป็นเรื่องแต่งอ่ะครับ เพราะว่า เรื่องเล่า มันยังไม่มีเนื้อหาเพียงพอที่จะเขียน
ถ้าจะอ่านกันผมจะได้พลีอตเรื่องเอาไว้ อิอิ อยากลองแต่งดูบ้างไม่รู้ว่าจะยากป่าว แต่ก็อยากทราบว่า อยากอ่านแนวไหนกัน ส่งความเห็นมาเยอะ ๆ หน่อยนะคร๊าฟ